MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาค1 ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเข้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1)       การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี  

(2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           

(4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5.ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน โดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21.ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้อง สิทธิหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

2.         ประเทศใดเป็นต้นแบบซองจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์

(1)       อังกฤษ           

(2) ฝรั่งเศส      

(3) สหรัฐอเมริกา         

(4) ญี่ปุ่น

ตอบ 1 หน้า 233, (คำบรรยาย) ประเทศอังกฤษถือเป็นประเทศแม่แบบของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย และเป็นประเทศต้นแบบของจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์ โดยมีคณะกรรมการ รับเรื่องราวร้องทุกข์ของหนังสือพิมพ์ (The Press Complaints Commission) เป็นผู้กำหนด แนวปฏิบัติด้านจริยธรรมสำหรับนักหนังสือพิมพ์ไว้เมื่อ ค.ศ. 1993

3.         ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ           

(1) การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักข้า

4.         การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1)       เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม     (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้องกระทำโดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

5.         ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุวา ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6.         ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) ถูกทุกข้อ

คอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่ามีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

ข้อ 7. – 10.       จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

7.         มีหนังสือพิมพ์ของคนไทยฉบับแรก

ตอบ 2 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ที่ตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

8.         มีนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรก

ตอบ 3 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธ์โกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

9.         พระเจ้าแผ่นดิบเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 108 รัชกาลที่ 6 ทรงเขียนความเห็นลงตีพิมพ์เป็นบทความในหนังสือพิมพ์ของพระองค์เอง และหนังสือพิมพ์อื่น ๆ โดยทรงใช้นามปากกาว่าอัศวพาหุ รามจิตตี และพันแหลม ซึ่งบทความ ที่มีผู้สนใจมาก คือ บทความเรื่อง ยิวแห่งบูรพาทิศ” เป็นเรื่องที่กล่าวถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่อยู่ใต้อิทธิพลของยิวแห่งบูรพาทิศ (ชาวจีน)

10.       มีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันมาก

ตอบ 1 หน้า 99 – 101, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์เริ่มเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 3ซึ่งกิจการการพิมพ์หนังสือในสมัยนี้ล้วนมีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันทั้งสิ้น โดยหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีชื่อว่า บางกอกรีคอร์เดอร์” (Bangkok Recorder) ดำเนินการโดยหมอบรัดเลย์ ซึ่งเป็นหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน

11.  หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน

(1)       ยุค 14 ตุลาคม 2516   

(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

(3) ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ค. 2475  

(4) ยุคสำลักเสรีภาพ

ตอบ 2 หน้า 117, (คำบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 นับได้ว่าเป็นยุคมืดของ วงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคำสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน โดยให้เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปขอใบอนุญาตประกอบการจาก เจ้าพนักงานการพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อควบคุมหนังสือพิมพ์ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเอาไว้

12. ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวนายกรัฐมนตรีไปเยือนต่างประเทศ

(1)       ผู้สื่อข่าวทั่วไป  

(2) ผู้สื่อข่าวประจำ      

(3)       ผู้สื่ข่าวพิเศษ 

(4)ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 1 หน้า 130 ผู้สื่อข่าวทั่วไป (General Assignment Reporter) หมายถึง ผู้สื่อข่าวที่มีความรู้ ความสามารถในการทำข่าวได้ทุกประเภท มักเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีข่าวหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจจะได้รับมอบหมายให้ไปติดตามสื่อข่าว ดังนั้นผู้สื่อข่าวทั่วไป จึงต้องมีความรู้อย่างกว้างขวาง มีทักษะและเทคนิคการหาข่าวพอสมควร ตลอดจนต้องมีความพร้อมและความคล่องตัวในการสื่อข่าวอย่างทันทีทันใด

13.ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1)       บรรณาธิการใหญ่        (2) เจ้าของผู้ลงทุน   

(3)       บรรณาธิการบริหาร     (4)       หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in—Chief) เป็นตำแหนงบริหารสูงสุดขององค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทางของหนังสือพิมพ์และมีอำนาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

14. ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนใดสำคัญที่สุด     

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ       (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุม,กองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอน ที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

15. ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่      

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ

(2)       บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว         (3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวมาจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย  2. ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก

รวบรวม เรียบเรียงข่าว                  3. แปลข่าว   4. ประขุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

5. บรรณาธิการจัดหน้า            6. ฝ่ายผลิต     7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 16. – 20. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       คอลัมน์            (2) สารคดี       (3) บทความ    (4) ข่าว

16.       ข้อใดไม่ควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 2. 3 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็น หน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ชื่อหนังสือพิมพ์ 2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) 3. ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)4. ภาพข่าว   5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา 7. คอลัมน์ประจำ(อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัวของบรรณาธิการ

17.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้น ข้อเขียนที่ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมาย จากผู้อ่านที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

18.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

19.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

20.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ 1. บทบรรณาธิการ 2. ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ๆลๆ 3. จดหมายถึงบรรณาธิการ 4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)        5. องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

21.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า         

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม

(3)       หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง       

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

22.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          

(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3)       การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด          

(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140., (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

23.       ข้อใดไมอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2)       การเรียงพิมพ์  (3)       การถ่ายภาพข่าว         (4)       การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าทีรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

24.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1) โต๊ะข่าวกีฬา           (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3) ห้องภาพ    (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

25.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1) บรรณาธิการบริหาร           (2)       บรรณาธิการข่าว        

(3) บรรณาธิการโต๊ะข่าว         (4)บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

26.       ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของการประชุมกองบรรณาธิการ(1) ทบทวนการทำงาน      (2)เลือกข่าวหน้า 1

(3)เขียนบทบรรณาธิการ         (4)สรุปข่าวในรอบวัน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

27.       ใครเป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าว

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) หัวหน้าข่าว

(3) หัวหน้ากองบรรณาธิการ    (4) หัวหน้าแผนก

ตอบ 3 หน้า 124132 – 133, (คำบรรยาย) โต๊ะข่าว (Copydesk) เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในห้องข่าว โดยจะมีบุคลากรประกอบไปด้วย หัวหน้าข่าวหรือบรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าว และผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ ซึ่งการทำงานของบุคลากรทั้งหมดนี้จะขึ้นตรงต่อหัวหน้ากองบรรณาธิการที่เป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าวอีกทีหนึ่ง

28.       งานใดอยู่ในฝ่ายข่าว

(1) งานห้องสมุดข่าว   (2) การรับข่าวจากภายนอก

(3) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (4) การจัดแฟ้มข้อมูลแหล่งข่าว

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

29.       ผู้ใดมีความเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในข่าวมากที่สุด

(1)       Editor       (2) Copy Reader (3) Proof Reader (4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจขาว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

30.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการมากที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    (2) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           (4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 2 หน้า 4126, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ถือเป็นหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่บุคลากร ในกองบรรณาธิการมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดกลาง หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา ตัวอย่างของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือหนังสือพิมพ์ปริมาณ ซึ่งมีจำนวนพิมพ์และยอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่นไทยรัฐข่าวสด เดลินิวส์ ฯลฯ

31.       หลักการใดนิยมใช้จัดหน้ากลาง

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา 

(2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดียว       

(4) การจัดแบบ Well สองหน้คู่

ตอบ 4 หน้า 166 – 167 การจัดหน้าในแบบ Well สองหน้าคู่ เป็นการนำเอาหน้า 2 หน้ามาพิจารณา เป็นหน่วยเดียวกันโดยจัดโฆษณาเป็นรูปพีระมิดวางไว้ทางริมซ้ายมือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านซ้าย และริมขวามือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านขวา ปล่อยเนื้อที่สวนที่เหลือของ 2 หน้า ควบให้กางออกเต็มที่เป็นรูปอักษรวี จึงนิยมใช้จัดหน้ากลาง หรือหน้าพิมพ์ที่มีเนื้อหาของข่าวยาว และเหมาะสำหรับจัดหน้าหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

32.       หลักการจัดหน้าหนึ่งข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        

(2) ความสมดุล           

(3) ความเด่น   

(4) ความหลากหลาย

ตอบ 1 หน้า 145148 หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ มีความสำคัญในแงของการดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน ความสวยงาม สะดุดตา และเชิญชวนให้ซื้อหนังสือพิมพ์ ดังนั้นหลักการจัดหน้าหนึ่ง ที่ดีควรจะมีคุณลักษณะเชิงศิลปะ คือ มีความสวยงาม (ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด) ดึงดูดสายตา น่าซื้อ และมีคุณสมบัติทางวารสารศาสตร์ ได้แก่ ลำดับข่าวได้ตรงตามความสำคัญของข่าว และ สะท้อนถึงบุคลิกของหนังสือพิมพ์

33.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163 การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการ มากกว่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณา มักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสมสำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็น ต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

34.       Journalism แปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) สารที่ออกตามสาระ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) คำว่า journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารศาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

35.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตามกฎหมาย

(1) ออกจำหน่ายตามวาระ       (2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวและความรู้          (4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกันหรื เหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ไห้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

36.       ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น

(1)       เสนอข่าวได้รวดเร็ว (2) มีจำนวนจำหน่ายสูง (3) เห็นภาพพจน์          (4) เป็นสื่อที่คงทนถาวร

ตอบ 4(คำบรรยาย) คุณสมบัติเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น มีดังนี้

1.         เสนอข่าวได้อย่างวิเคราะห์เจาะลึก      2. มีราคาไม่แพง          3. พกพาสะดวก อ่านได้ทุกที่  4. มีความน่าเชื่อถือ            5. ใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้     6. ใช้อ้างอิงได้ง่าย 7. เป็นสื่อที่คงทนถาวร เก็บไว้ได้นาน  8. สามารถให้บริการแก่ชุมชนได้   9. มีคุณค่าด้านวรรณกรรม

37.       Tabloid คืออะไร 

(1) ข่าวประเภทหนึ่ง

(2)       บทความที่มีผู้เขียนประจำ      (3) หนังสือพิมพ์ประเภทหนึ่ง  (4) วารสารประเภทหนึ่ง

ตอบ 3 หน้า 7-8 หนังสือพิมพ์แบ่งตามรูปแบบหรือขนาดรูปเล่มได้ 2 ประเภท คือ                    1.หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) บางครั้งอาจเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ (Broadsheet Newspapers) หรือขนาดเต็มรูป (Full Size Newspapers) มีขนาดกว้างยาวประมาณ 15 X 22 นิ้ว

2.         หนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid) หรือเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 11 X 15 นิ้ว หรือครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

38.       ข้อใดไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายคาบ        

(1) หนังสือพิมพ์ที่ออกรายวัน

(2)       หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์          (3) หนังสือพิมพ์รายปักษ์        (4) หนังสือพิมพ์รายสะดวก

ตอบ1 หน้า 6, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายคาบ หมายถึง หนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ออกรายวัน(Non-daily Newspaper) ซึ่งแต่ละคาบอาจเป็น 3 วัน7 วัน (รายสัปดาห์)10 วัน15 วัน (รายปักษ์)30 วัน (รายเดือน) หรือรายสะดวกก็ได้ โดยมักไม่เน้นความสดของข่ว แต่จะเน้น เสนอข้อมูลข่าวสาร สารคดี และบทวิเคราะห์ที่ทันสมัย เช่น ฐานเศรษฐกิจ ประชาชาติธุรกิจ ฯลฯ

39.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด   

(1) Digital Newspaper

(2)       Quality Newspaper (3) Popular Newspaper (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 30. ประกอบ

ข้อ 40. – 41. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคนมืออาชีพ     (2) หนังสือพิมพ์ต้องเสนอข่าวจากทุกหนทุกแห่ง

(3)       หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

40.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์นระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

41.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

42.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้จากการลงโฆษณาในอัตราส่วนใด

(1) ร้อยละ 55 จากรายได้ทั้งหมด        

(2) ร้อยละ 65 จากรายได้ทั้งหมด

(3)       ร้อยละ 75 จากรายได้ทั้งหมด 

(4) ร้อยละ 85 จากรายได้ทั้งหมด

ตอบ 3 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายได้จากค่าขาย เนื้อที่ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

43.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีความน่าสนใจ     (2) มีความสำคัญ

(3)       มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ

(4)       มีองค์ประกอบของความสำคัญมากกว่าความน่าสนใจ

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่า องค์ประกอบอย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

44.       ข้อใดไมใช่ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1) ประหยัดกระดาษ (2) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว (3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา (4) ถูกข้อ 2 และ 3 ตอบ 4 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ผ่านจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสอประเภทนี้เกิดจากการ บรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีภาพ-เสียง เทคโนโลยีการพิมพ์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ดิจิทัล จะมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะ เปลี่ยนข่าวได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

ข้อ 45. – 46. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       ให้ข่าวสาร       (2) ให้ข้อเสนอแนะ      (3) ให้ความบันเทิง      (4) เป็นสื่อในการโฆษณา

45.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวการพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ตอบ 1 หน้า 14 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าว สารคดี ประกาศแจ้งความ หรืออื่น ๆ

46.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์การรับสมัครคนเข้าทำงาน

ตอบ 4 หน้า 1546, (คำบรรยาย) หน้าที่เป็นสื่อในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) คือ การเป็นตัวกลางระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าและบริการในด้านของการโฆษณา เช่น การตีพิมพ์ตารางการฉายภาพยนตร์ของโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ การตีพิมพ์การรับสมัครงาน การตีพิมพ์ข้อมูลราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ฯลฯ และเป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณซน เช่น การตีพิมพ์สารคดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว การเสนอโครงการเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ข้อ 47. – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       นายทวารข่าวสาร        (2) ผู้แจ้งข่าวสาร         (3) สุนัขยาม    (4) รับเรื่องราวร้องทุกข์

47.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอุกกาบาตตกที่ประเทศรัสเซีย คนบาดเจ็บนับพัน

ตอบ 2 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นผู้แจ้งข่าวสาร (Informer) คือ หนังสือพิมพ์จะเข้าไป ในชุมชนต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นข่าว บทความ สารคดี ฯลฯ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ ประชาชนได้รับเอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และมากพอ จึงถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ เพราะเนื้อหาหลักที่มีมากที่สุดในหนังสือพิมพ์ก็คือ ข่าว (News) ดังนั้นการที่หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวสารที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และความคิดเท่าทันโลก

48.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวว่าประชาชนอยากให้ดอกกุหลาบนายกรัฐมนตรีในวันวาเลนไทน์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       หนังสือพิมพ์ประชุมกองบรรณาธิการเพื่อเลือกเรื่องตีพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง/ประเมินคุณค่าเนื้อหา ของข่าวสาร และตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึงพื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร (ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ)

50.       กลุ่มใดเป็นกลุ่มผลประโยชน์

(1)       กลุ่มข้าราชการ            (2) กลุ่มเกษตรกร        (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 20 – 22 กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ คือ การรวมกลุ่มของคนในสังคมเพื่อวัตถุประสงค์ร่วมกัน ซึ่งในสังคมจะมีกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นใครก็ได้ที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อให้มีอำนาจต่อรอง และเรียกร้องผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กันกลุ่มของตน เช่น กลุ่มลูกจ้าง กลุ่มผู้บริโภค กลุ่มข้าราชการ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มพ่อค้า ฯลฯ

51.       เหตุใดหนังสือพิมพ์จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง

(1) หนังสือพิมพ์มีผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมาก      

(2) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสาร

(3) หนังสือพิมพ์มีบรรทัดฐานเป็นกลาง           

(4) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอความคิดเห็น

ตอบ2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจในตัวเองประการหนึ่ง คือ อำนาจเชิงจิตวิทยา ได้แก่ การมีความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน เพราะในความรู้สึกของประชาชนนั้น สื่อมวลชนเป็น สถาบันที่มีหน้าที่เสนอข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง ด้วยเหตุนี้หนังสือพิมพ์จึงน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากกว่านักการเมืองและหน่วยงานของรัฐ

52.       ข้อใดเป็น Passive News

(1) โจรใต้ก่อกวน ถูกวิสามัญ 16 ศพ  

(2) รัฐบาลประกาศนโยบายประชานิยม

(3)       มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดพิธีมอบปริญญาบัตรเดือนมีนาคม 2556

(4)       พบสายแร่ทองคำในประเทศไทยมูลค่ามหาศาล

ตอน 3 หน้า 41 ประเภทของข่าวแบ่งตามลักษณะการได้มาออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.         ข่าวที่ต้องสื่อข่าวเอง (Active News) คือ ข่าวที่ผู้สื่อข่าวต้องออกไปสืบเสาะหาข้อมูล ด้วยตนเอง เช่น ข่าวการเมือง อุบัติเหตุ ภัยพิบัติ อาชญากรรม ฯลฯ

2.         ข่าวที่ได้จากเอกสาร (Passive News) คือ ข่าวที่ได้จากเอกสารที่แจกมายังสำนักงาน ใบประกาศ หรือแถลงการณ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถตีพิมพ์ได้ทันที เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานต่าง ๆ

53.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1)       ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ            (2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3) มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น       (4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

54.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์       

(1) ความถนัดของนักข่าว

(2)       นโยบายของหนังสือพิมพ์       (3) กระแสสังคม          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่

1. นโยบายของหนังสือพิมพ์    2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถและความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ  3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5. ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

55.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1)       หมอบรัดเลย์    (2) ร.อ.เจมส์ โลว์         (3) หมอสมิธ    (4) กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดค้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็นจำนวนมาก และรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1)       หน้าบรรณาธิการ         (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1)       ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป      (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำๆ

(3)       ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น       (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       ในการจัดหน้าใน การจัดโฆษณาในข้อใดไม่นิยม

(1)       แบบพีระมิดซีกขวา      (2) แบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) แบบพีระมิดสองซีก           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกค้านขวา (Pyramided to the Right) 2. แบบ Well (หน้าเดียว)  3.แบบ Well สองหน้าคู่            4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6. แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่า เท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางขึ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือก ข้อ 1 – 3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และ บริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)

(2)       การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3)       การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)

(4)       การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าว และใช้ความแตกต่างของขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริงซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นซึ่งมีความสำคัญ น้อยลงมา โดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       การพิมพ์แบบ Movable Type Printing มีลักษณะอย่างไร

(1) แม่พิมพ์เป็นหินหรือไม้        (2) สามารถนำตัวพิมพ์มาเรียงต่อกันได้

(3) ค้นพบครั้งแรกโดยโยอัน กูเต็นเบอร์ก        (4) เป็นต้นแบบของการพิมพ์ Offset

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1) News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ 4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครันโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1) ยุคอำนาจนิยม       (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ (3) ยุคประชานิยม    (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

ตอบ 2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่า

จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้น ในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้นไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาลแต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลของหนังสือพิมพ์ บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูร์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญของ กฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1) คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน      

(2) การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3) การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ขาว) เพื่อแยกคอลัมน์ 

(4) การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน จึงจัดหน้าได้งายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้นๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วยข่าวสั้นรายงานอากาศประกาศข้อความรณรงค์ หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับใดทันสมัยที่สุด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2551           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือพ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของเจ้าของหนังสือพิมพ์

(1) เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับได้       (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติไทย        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ 15 ระบุว่าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณา ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้       1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์2. มีสัญชาติไทย 3. มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 3 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นตั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       ข้อใดแสดงถึงเสรีภาพในพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1)       ผู้บรรลุนิติภาวะทุกคนยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ได้

(2)       ผู้ยื่นความจำนงที่มีคุณสมบัติครบจะได้รับพิจารณา

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ด้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 2 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงเสรีภาพใน พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 คือ การให้สิทธิเสรีภาพ อย่างเต็มที่ต่อผู้ยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ ซึ่งหากผู้ใดมีคุณสมบัติครบและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามกฎหมาย จะได้รับการพิจารณาและออกหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งให้โดยไม่ชักช้า (ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ)

81.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1) บรรณาธิการไม่จบปริญญาตรี       

(2) บรรณาธิการเป็นชาวต่างชาติ

(3) บรรณาธิการลูกตัดสินให้จำคุก     

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ

82.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

83.       ข้อใดไม่ใช่สิ่งพิมพ์ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1) แผ่นซีดีเพลง          (2) e-book (3) วารสารวิชาการ (4) โปสเตอร์โปรโมทหนัง

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด หนังสือ แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนา (ในทีนี้ต้องเป็นสิ่งพิมพ์ที่เผยแพร่ ไปสูมวลชน เช่น บทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ โปสเตอร์ ฯลฯ) นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึง สิ่งพิมพ์ที่บันทึกด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขายหรือให้เปล่า เช่น แผ่นเสียง แผ่นซีดี e-book เป็นต้น (ส่วนมาตรา 5 ระบุว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังนี้ (4) วิทยานิพนธ์ เอกสารคำบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทำนองเดียวกันที่เผยแพร ในสถานศึกษา เช่น วารสารวิชาการ)

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ด้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเป็ดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลลื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโตโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมกรศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7  ปี         (2)บุคคลที่มีอายุเกิน5ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน14 ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน10ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง15ปี       (2)บุคคลที่มีอายุเกิน12ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง18ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน15ปีแต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและ มีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่งกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนดซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธศาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธคาสนา ดังนี้

1. ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)            2. ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)        4. ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)        7. ความมีมารยาท (ใสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

95.       การเสนอข่าวการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน มีต้นกำเนิดมาจาก

(1) News Sheets         (2) News Letters

(3) News Magazine   (4) Official Gazette

ตอบ4 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกขาว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนขั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

96.       ประเทศใดที่หนังสือพิมพ์มีบทบาทมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาส

(1) ประเทศไทย           (2) สหรัฐอเมริกา         (3) อังกฤษ      (4) ญี่ปุ่น

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออกเป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่าง รัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อสงครามจบลง ผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ดังนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาทอย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

97.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

98.       Yellow Journalism เกิดขึ้นในประเทศใด

(1) ประเทศไทย           (2) อังกฤษ      (3) สหรัฐอเมริกา         (4) พม่า

ตอบ 3 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบัน กับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

99.       ข้อใดเป็น Yellow Journalism

(1)       หนังสือพิมพ์ในพม่าเรียกร้องเสรีภาพ

(2)       หนังสือพิมพ์ในอังกฤษต่อสู้เพื่อเสรีภาพ

(3)       หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาตีพิมพ์เรื่องส่วนตัวกันมาก

(4)       หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้สื่อข่าวมีความรับผิดชอบมากขึ้น

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 98. ประกอบ

100.    หนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการเป็นพระมหากษัตริย์

(1) คอร์ทข่าวราชการ   (2) บางกอกรีคอร์เดอร์            (3) ดรุโณวาท  (4) ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         ข้อใดเป็นจุดเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1)       ได้รับความนิยมสูง       

(2) ประหยัดกระดาษ

(3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา           

(4) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว

ตอบ 2 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ฝานจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสื่อประเภทนี้เกิดจากการบรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ เทคโนโลยีการกระจายเสียง-ภาพ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้จุดเด่นที่สำคัญของ หนังสือพิมพ์ดิจิทัลคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะเปลี่ยนข่าว ได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

2.         หนังสือพิมพ์ดิจิทัลเกิดจากการบรรจบกัน (Convergence) ของสิ่งใด

(1)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

(2)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(3)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(4)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         เจมส์ถ่ายภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของตนเอง

(1)       เจมส์เป็นนักข่าวพลเมือง         (2) เจมส์เป็นนักข่าวสมัครเล่น

(3) เจมส์อยู่ในยุคสังคมข้อมูลข่าวสาร            (4) เจมส์อยู่ในยุคสังคมอุดมปัญญา

ตอบ 1 (คำบรรยาย) การพัฒนาของหนังสือพิมพ์ดิจิทัลไต้นำไปสู่ปรากฏการณ์ของนักข่าวภาคประชาชนหรือนักข่าวพลเมือง (Citizen Journalist) คือ บทบาทของผู้รับข่าวสารจากสื่อที่สามารถปรับเปลี่ยน ไปเป็นผู้ส่งสารเสียเอง โดยการถ่ายภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของสังคมยุคใหม่ที่เน้นการมีส่วนร่วม

4.         ผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขึ้นเวทีปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมด้วย

(1) To Inform     (2) To Entertain (3) To Advertise (4) To Give Opinion

ตอบ 4 หน้า 14161 – 162 หน้าที่การให้ความคิดเห็น หรือให้ข้อเสนอแนะ (To Give Opinion) คือ การวิเคราะห์และแปลความออกมาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือให้ความเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการให้คุณค่าของข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอาจเป็นความคิดเห็นของคน ในกองบรรณาธิการหรือคนนอกก็ได้ เช่น ข่าวสัมภาษณ์ความคิดเห็นของบุคคลต่าง ๆ บทบรรณาธิการ บทวิจารณ์ บทความ คอลัมน์จดหมายจากผู้อ่านหรือจดหมายถึงบรรณาธิการ คอลัมน์ตอบปัญหาชีวิต ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการชุมนุมหรือปราศรัยแสดงความคิดเห็น ทางการเมือง

ข้อ 5. – 7. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Informer       (2) Gatekeeper (3) Watchdog    (4) Ombudsman

5.         ประชาชนติดตามเรื่องราวความเป็นไป คดีนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนผิดกรณีรับจำนำข้าว

ตอบ 3 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทำ อันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทำงานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้อง ทำหน้าที่เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อมีเหตุการถ!ผิดปกติ เกิดขึ้น เพื่อทำให้สังคมโปร่งใสและสามารถป้องปรามการคอร์รัปชั่นได้

6.         หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี

ตอบ 4 หน้า 18161169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่

1.         การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไป สืบหาข้อมูล แล้วนำมารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

2.         การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ประชาชน ประหยัดน้ำมันการรณรงค์ให้ช่วยบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยการตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี ฯลฯ

7.         บรรณาธิการตรวจข่าวอย่างเข้มงวด ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง ประเมินคุณค่า และตรวจเนื้อหาของข่าวสาร ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ ตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึง พื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

8.         กลุ่มใดมีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบาย

(1) กลุ่มข้าราชการ      (2) กลุ่มประชาชน       (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 192129 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม จำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานกลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ          2. กลุ่มนักการเมือง 3. กลุ่มข้าราชการประจำ

9.         ผู้ใดใช้คำว่าหนังสือพิมพ์เป็นท่านแรก

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 2 ในสมัยก่อนคนไทยมักจะเรียกหนังสือพิมพ์ว่า หนังสือข่าว” ทั้งนี้เนื่องจากเนื้อหา ในหนังสือพิมพ์มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอหรือบอกข่าวเป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงใช้ คำว่า หนังสือพิมพ์” แทนคำว่าหนังสือข่าวเป็นพระองค์แรก และหลังจากนั้นคำว่าหนังสือพิมพ์ จึงใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

10.       กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ Journalism เป็นภาษาไทยว่า

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) นิตยสาร

ตอบ 3 (คำ-บรรยาย) คำว่า Journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารคาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

11.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550

(1) ออกในระยะเวลาสั้น ๆ      

(2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวสารความรู้           

(4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน หรือเหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลา หรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

12.       โยฮัน กูเต็นเบอร์ก สำคัญอย่างไร

(1)       เสนอข่าวการเมืองเป็นท่านแรก          

(2) ค้นพบวิธีการพิมพ์แบบ Movable Type

(3) เป็นชาวฝรั่งเศสที่รณรงค์เรื่องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดด้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่อง ว่าเป็นบิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็น จำนวนมากและรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

13.       ข้อใดเป็นหนังสือพิมพ์ Tabloid   

(1) หนังสือพิมพ์อาร์ยูนิวส์

(2)       เดลินิวส์          (3) สยามรัฐรายสัปดาห์          (4) เดอะนชั่น

ตอบ 1 หน้า 8, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) จะมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของ หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ คือ ประมาณ 11 X 15 นิ้ว ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายประการ ได้แก่ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก อ่านง่าย จัดหน้าเป็นส่วน ๆ ได้ง่าย มีจำนวนหน้าและ ความหนามากกว่าหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ จึงให้ความรู้สึกว่ามีราคาไม่แพง เช่น หนังสือพิมพ์ อาร์ยูนิวส์ (R.u. News), เอ็กไซต์ไทยโพสต์, Student Weekly และข่าวรามคำแหง ฯลฯ

14.       หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ออกจำหน่ายรายวันเนื่องจาก

(1) เทคโนโลยีการพิมพ์ทันสมัย           (2) ถูกแรงกดดันจากสื่อดิจิทัล

(3)       หนังสือพิมพ์มีการแข่งขันสูง   (4) หนังสือพิมพ์ต้องการเสนอข่าวอย่างทันเหตุการณ์

ตอบ 4 หน้า 5. (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวัน เป็นหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายเป็นประจำทุกวันอายุของหนังสือพิมพ์จึงสั้น ดังนั้นเมื่อหมดวัน หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมจะล้าสมัยลงทันทีและ มีฉบับใหม่ออกมาแทนที่ โดยหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่มักออกจำหน่ายรายวัน เนื่องจาก หนังสือพิมพ์รายวันมีจุดเด่น คือ ความรวดเร็ว และความสดในการเสนอข่าวได้อย่างทันเหตุการณ์

15.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด

(1) General Newspaper    (2) Quality Newspaper

(3) Popular Newspaper     (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 หน้า 4, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือเรียกว่าหนังสือพิมพ์ปริมาณ จะมีเนื้อหาเป็นข่าวเร้าอารมณ์ (Sensational News) ซึ่งมักเป็นข่าวที่ให้ผลตอบสนอง ทางอารมณ์ได้ทันที และเป็นข่าวที่คนทั่วไปสนใจตามปุถุชนวิสัย (Human Interest) ดังนั้น จึงมีจำนวนพิมพ์สูงสุดและมียอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐข่าวสดเดลินิวส์ ฯลฯ

ข้อ 16. – 17. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคบมืออาชีพ           (2) หนังสือพิมพ์ต้องรับใช้สังคม

(3) หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

16.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์ในระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

17.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

18.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้หลักจากสิ่งใด

(1) เงินอุดหนุนของรัฐบาล       (2) เงินค่าสมาชิกจากผู้อ่านประจำ

(3) เงินค่าขายหนังสือพิมพ์จากลูกค้าทั่วไป     (4) เงินรายได้จากการโฆษณา

ตอบ 4 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุดโดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายไต้จากค่าขายเนื้อที่ ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ถือเป็น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

19.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน            (2) มีความสำคัญและน่าสนใจ

(3) มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ (4) ให้ข้อคิดสำหรับผู้อ่าน

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าองค์ประกอบ อย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบ ต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

20.       ข้อใดไมใช่ลักษณะของสารคดี           

(1) เกิดจากจินตนาการ

(2)       ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน       (3) เน้นองค์ประกอบด้านความน่าสนใจ          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 45 มาลี บุญคิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เน้นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ให้ความรู้ และในเวลาเดียวกับก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด

21.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1) ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ       

(2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3)       มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น 

(4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

22.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

(1) ทุน 

(2) นโยบายของหนังสือพิมพ์

(3) ความสนใจของผู้อ่าน         

(4) ลักษณะของการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่ 1. นโยบายของหนังสือพิมพ์ 2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถ และความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ 3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5.ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

23.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1) หมอบรัดเลย์          (2)       ร.อ.เจมส์โลว์    (3)       หมอสมิธ          (4)       กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 12.       ประกอบ

24.       การเสนอข่าวทางการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาจาก

(1) Official Gazette   (2)       News Letter     (3)       Pamphlet (4) News Sheets

ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้ เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อ ประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

25.       การต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ในประเทศใดที่นำไปสู่สงครามกลางเมือง

(1) อังกฤษ      (2)       สหรัฐอเมริกา   (3)       ญี่ปุ่น   (4)       ประเทศไทย

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออก เป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่างรัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อ สงครามจบลงผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ด้งนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาท อย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

26.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

27.       Yellow Journalism หมายถึงอะไร

(1) หนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องเสรีภาพ     (2) หนังสือพิมพ์คุณภาพ

(3) หนังสือพิมพ์แนว Penny Paper      (4) หนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบ

ตอบ 4 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบันกับหนังสือพิมพ์ทีขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

28.       ประเทศใดใช้พระราชบัญญัติอากรแสตมป์กับหนังสือพิมพ์

(1) อังกฤษ      (2) ฝรั่งเศส      (3) อเมริกา      (4) ทั้ง 3 ประเทศ

ตอบ 1 หน้า 59 ในปี ค.ศ. 1721 รัฐบาลประเทศอังกฤษได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. อากรแสตมป์ (Stamp Act) เพื่อเรียกเก็บภาษีกับหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายขณะนั้นในอัตราที่สูงมาก โดยหวังที่จะจำกัดหนังสือพิมพ์ไม่ให้แพร่หลาย ดังนั้นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับภาษีนี้จึงพากัน ตั้งสมญานามเรียก พ.ร.บ. อากรแสตมป์เสียใหม่ว่า พ.ร.บ. ภาษีความรู้

ข้อ 29. – 32. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 4  (2) รัชกาลที่ 5  (3) รัชกาลที่ 6  (4) รัชกาลที่ 7

29.       เทียนวรรณ เขียนบทความเสนอให้เลิกทาส

ตอบ 2 หน้า 104 – 105 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต.ว.ส.วัณณาโภ หรือมีนามปากกาว่า เทียนวรรณได้ออกหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ เป็นหนังสือพิมพ์รายเดือนเมื่อ พ.ศ. 2433 โดยมีเนื้อหา ไม่เน้นความสด แต่จะเน้นบทความแสดงความคิดเห็นและการเสนอแนะ เช่น เสนอแนะให้มี กฎหมายควบคุมการพนัน เสนอกฎหมายกำหนดให้ชายมีภรรยาเพียงคบเดียว เสนอให้มีการเลิกทาส ฯลฯ

30.       สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

31.       มีการเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้

1.         มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)  2. มีการพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าแรก 3. มีการเขียนวรรคนำ (Lead)         4. เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อและการ์ตูน            5. มีการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

32.       กำเนิดหนังสือพิมพ์ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 1 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ทีตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

33.       สำนักข่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุใด

(1) มีข่าวต่างประเทศมากขึ้น  

(2) เป็นธุรกิจที่มีกำไรดี

(3) หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้ง         

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 62 – 63 ในศตวรรษที่ 18 ข่าวที่หามาเสนอได้ยาก แต่เป็นที่สนใจของประชาชน คือ ข่าวต่างประเทศ แต่เนื่องจากหนังสือพิมพ์ไม่กล้ารับภาระส่งผู้สื่อข่าวไปประจำในต่างประเทศ เพื่อสื่อข่าวเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้งธุรกิจสำนักข่าว (News Agencies) ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งข่าวต่างประเทศที่สำคัญของหนังสือพิมพ์ในสมัยนั้น

34.       ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวการต่อสู้คดีเขาพระวิหารที่ศาลโลก

(1) ผู้สื่อข่าวทั่วไป        (2) ผู้สื่อข่าวประจำ      (3) ผู้สื่อข่าวพิเศษ        (4) ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 3 หน้า 131 ผู้สื่อข่าวพิเศษ (Special Assignment Reporter หมายถึง ผู้สื่อข่าวเฉพาะ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความชำนาญสูง และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือมีความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมักจะได้รับมอบหมายให้สื่อข่าวเฉพาะเรื่อง ซึ่งหนังสือพิมพ์เห็นว่ามีความสำคัญที่อาจจะต้องสื่อข่าวประเภทวิเคราะห์เจาะลึก หรือสื่อข่าว ที่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์มาก เช่น ข่าวการเมืองข่าวต่างประเทศข่าวเศรษฐกิจข่าวกีฬาข่าวสังคม สตรี และวัฒนธรรม ฯลา

35.       ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) เจ้าของผู้ลงทุน    (3) บรรณาธิการบริหาร (4) หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทาง ของหนังสือพิมพ์ และมีอำนาจหน้าที่สังการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

36.       ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.         ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2.         บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ 3. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

4.         บรรณาธิการจัดหน้า   5. ฝ่ายผลิต     6. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

37.       ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว

(3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศจะมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย

2.         ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว

3.         แปลข่าว         4. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว         5. บรรณาธิการจัดหน้า

6.         ฝ่ายผลิต         7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังลือพิมพ์

ข้อ 38. – 43. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สารคดี โฆษณา     (2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน

(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น        (4) ภาพข่าว โฆษณา

38.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็นหน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้

1.         ขอหนังสือพิมพ์           2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)

3.         ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)         4. ภาพข่าว 5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา

7.         คอลัมน์ประจำ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัว ของบรรณาธิการ

39.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้     1. บทบรรณาธิการ

2.         ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ

3.         จดหมายถึงบรรณาธิการ        4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)

5.         องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

40.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ควร จัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

41.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน

ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าใน มีดังนี้         

1. โฆษณา 2. ภาพ 3. หัวเรื่อง 4.คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนำ ขำขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

42.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

43.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 39. ประกอบ

44.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า 

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม 

(3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง  

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

45.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          (2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด    (4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

46.       ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2) การเรียงพิมพ์         (3) การพาดหัวข่าว      (4) การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมิหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

47.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1)       โต๊ะข่าวกีฬา    (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3)       ห้องภาพ          (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

48.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1)       บรรณาธิการบริหาร     (2) บรรณาธิการข่าว    (3)       บรรณาธิการโต๊ะขาว   (4)       บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

49.       โต๊ะข่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ

(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ   (2) โต๊ะข่าวการเมือง    (3)       โต๊ะข่าวกีฬา    (4)       โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 หน้า 127134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสำคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ฯลฯ มีข่าวใดที่กำลังได้รับ ความสนใจจากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณา ตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสำคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

50.       งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ

(1) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก

(3) การขอโฆษณา       (4) การออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว

ตอบ 4 หน้า 123 งานที่สำคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่

1.         งานด้านบริหาร-ธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งาบการเงิน-บัญชี งานพัสดุ ฯลฯ

2.         งานด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจำหน่ายและงานโฆษณา (ถือเป็นงานหลักของฝ่ายจัดการ)

รวมทั้งงานการพิมพ์ ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างจาก การพิมพ์หนังลือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ)

51.       ผู้ใดทำหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว

(1) Editor   

(2) Copy Reader

(3) Proof Reader

(4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

52.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    

(2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           

(4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 1 หน้า 126, (ดำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเล็ก รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา เพราะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์มีบุคลากรเพียงแค่ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน) เท่านั้น

53.       หลักการใดไมใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา (2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดี่ยว       (4) การจัดแบบ Well สองหน้าคู่

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (ดำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)         2. แบบ Well หน้าเดี่ยว 3.แบบ Well สองหน้าคู่   4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6.แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

54.       หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        (2) ความสมดุล           (3) ความเด่น   (4) ความหลากหลาย

ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับหลักการ ทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ1. การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance) 2. การลำดับความสำคัญของเรื่อง

55.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163, (ดูดำอธิบายข้อ 50. ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณา ซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการมากกว่าจะเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1) หน้าบรรณาธิการ   (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหนงให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1) ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป            (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำ ๆ

(3) ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       Dead Copy คืออะไร

(1)       แบบของพาดหัวข่าว    (2) ชิ้นข่าวที่เคยใช้แล้ว เก็บไว้ใช้อีก

(3) ข่าวเกี่ยวกับการตายของบุคคลสำคัญ      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ. 2 หน้า 125 Dead Copy คือ ชิ้นข่าวหรือหลักฐานที่เคยใช้แล้ว ซึ่งจะถูกเก็บรวบรวมไว้ใน ห้องสมุด เพื่อเป็นข้อมูลที่สามารถจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกในภายหลังเมื่อมีการอ้างอิงถึง หรือต้องนำมาประกอบการเขียนเป็นภูมิหลังให้กับข่าวหรือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ ….3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชิ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางชิ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอน 4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่โฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือกข้อ 1-3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ มากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และบริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)          

(2) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3) การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)       

(4) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน และใช้ความแตกต่างในเรื่องของ ขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการนำเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริง ซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่นๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นที่มีความสำคัญ น้อยลงมาโดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบนขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       จุดที่สำคัญน้อยที่สุดบนหน้าพิมพ์คู่ คืออะไร

(1)       ส่วนบนด้านขวาของหน้าขวา   (2) ส่วนบนด้านขวาของหน้าซ้าย

(3) กลางหน้ากระดาษหน้าซ้าย           (4) ส่วนล่างสุดของหน้าขวา

ตอบ 4 หน้า 143 – 145 ตำแหน่งที่น่าสนใจที่สุดของการจัดหน้าพิมพ์คู่นั้นได้แก่ มุมขอบบนด้านริมสุดของแต่ละหน้า (มุมบนขวาของหน้าพิมพ์ด้านขวา และมุมบนซ้ายของหน้าพิมพ์ด้านซ้าย) โดยความสนใจนี้จะค่อย ๆ สำคัญน้อยลงไปตามลำดับเมื่อตำแหน่งเลื่อนต่ำลงมาด้านล่างของ แต่ละหน้า และเลื่อนไปตรงรอยพับกลางเล่มของหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นจุดที่เรียกความสนใจได้ น้อยที่สุด

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1)       News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครับโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และ ข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1)       ยุคอำนาจนิยม (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ

(3) ยุคประชานิยม       (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

บ-2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่าจอห์น วอสเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้นในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้น ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาล แต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์ หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลชองหนังสือพิมพ์บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอบดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ .และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะในที่สุด และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดี ตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญ ของกฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1)       คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน

(2)       การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3)       การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ข่าว) เพื่อแยกคอลัมน์

(4)       การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นลัดส่วน จึงจัดหน้าได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบ ประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้น ๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้ จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วย ข่าวสั้น รายงานอากาศ ประกาศ ข้อความ รณรงค์หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ  

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบัน คือฉบับใด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับส่าสุดทีประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดทำให้เป็นบรรณาธิการไม่ได้

(1) เป็นหญิงแต่งงานกับชาวต่างชาติ  (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติต่างประเทศที่มีสนธิสัญญาร่วมกับ        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ระบุว่า บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ 1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

2.         มีสัญชาติไทย หรือสัญชาติแห่งประเทศที่มีสนธิสัญญากับประเทศไทย

3.         มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       เจ้าพนักงานต้องจดแจ้งการพิมพ์ให้ทุกราย

(4)       สามารถมีหุ้นส่วนเป็นชาวต่างชาติได้

ตอบ 4 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของ หนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวของปัจเจกชนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ใน พ.ร.บ. การพิมพ์ กำหนดให้ ปัจเจกชนทำอย่างไร

(1) แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร้องทุกข์และจับกุม        (2) ทำหนังสือขอให้บรรณาธิการแก้ข่าว

(3) ให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 204 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 41 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ใดโฆษณาเรื่องเกี่ยวกับบุคคลใดคลาดเคลื่อนจากความจริงและอาจจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลนั้น บุคคลนั้น อาจแจ้งเป็นหนังสือขอให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์นั้นแก้เอง หรือลงพิมพ์หนังสือซึ่งแก้หรือ ปฏิเสธเรื่องนั้น

81.       การเรียกร้องตามข้อ 80. จะต้องกระทำภายในระยะเวลาเท่าใด

(1) 2 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(2) 4 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

(3) 6 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(4) 8 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

ตอบ 3 หน้า 205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 43 วรรค 4 ระบุว่า สิทธิขอให้แก้หรือลงหนังสือที่แก้หรือปฏิเสธตามมาตรา 41 นั้น เป็นอันระงับลงภายหลัง 6 เดือน นับแต่วันที่ หนังสือพิมพ์นั้นออกโฆษณาหรือลงข่าวคลาดเคลื่อน

82.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1)       เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 วัน

(2)       เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (1 เดือน)

(3)       เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (2 เดือน)

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 6205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 45 ระบุว่า หนังสือพิมพ์รายวันถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 30 วัน หรือหนังสือพิมพ์รายคาบ (ซึ่งก็คือ หนังสือพิมพ์ที่ไมใช่รายวัน แต่ละคาบอาจเป็น 7 วัน (รายสัปดาห์)15 วัน (รายปักษ์) ฯลฯ) ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 4 คราวหรือเกินกว่า 2 ปี การเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และเจ้าของหนังสือพิมพ์นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง

83.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเปิดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร

(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโดโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมการศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7 ปี          (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 5 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน 14 ปี      (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี     (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 12 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี     (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและมีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึ่งขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92.    จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนด ซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติ ซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธคาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ค. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้

1.         ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)

2.         ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)

4.         ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)

7.         ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 หน้า 227, (ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ) ความจริงใจ ได้แก่ ความไม่มีเจตนาบิดเบือน เมื่อผิดพลาดต้องรีบแก้ไข ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนาคือ สัจจะ

95.       การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเช้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี        (2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           (4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5. ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21. ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้องสิทธิหรือ ผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

96.       การไม่ยอมตีพิมพ์ข้อความเพื่อแก้ข่าวที่เคยลงตีพิมพ์ผิดพลาด ผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) โทสาคติ     (2) โมหาคติ     (3) ภยาคติ      (4) สัจจะ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

97.       ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ

(1)       การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักช้า

98.       การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1) เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม           (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้อง กระทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

99.       ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้าน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการ ห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

100.    ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวอาเซียน

ตอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่ง วิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่า มีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 5

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 5

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       เทคโนโลยี 

(2) ความสำคัญของเทคโนโลยี 

(3) สื่อดั้งเดิม 

(4) สื่อใหม่ 

(5) ภาษาระบบตัวเลข

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์และองค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) คำว่า เทคโนโลยี ครอบคลุมความหมาย 2 ประการ 

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2.         องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

2.         เป็นสื่อที่ผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1- หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver” คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร ก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น 

2. เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

3.         สื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Active Seeker” คือ เป็นฝ่ายแสวงหาข้อมูลข่วสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความสงสัยอยากรู้อยากเห็นของตัวเองโดยอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ หรืออินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) โดยคาดหวังว่าสื่อใหม่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้แสวงหาข่าวสารได้มีประสิทธิภพมากกว่าสื่อแบบดั้งเดิม เนื่องจาก สื่อใหม่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของสื่อแบบดั้งเดิม

3.         เป็นสื่อที่มีความซับช้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อ และการเข้าถึงสื่อ ดังนั้นผู้รับสารบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่าจะไมคุ้นเคยกับการเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ และไม่ยอมรับหรือเข้าไมถึงสื่อใหม่

4.         ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประหยัดในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 3), (คำบรรยาย) ความสำคัญของเทคโนโลยี คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ ในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนางานสาขาใดสาขาหนึ่ง รวมทั้งด้านการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดี 3 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ ช่วยให้การทำงาน บรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 2. ประสิทธิผล (Productivity) คือ ช่วยให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มที่หรือมากที่สุด ในเวลารวดเร็ว 3. ประหยัด (Economical) คือ ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน

5.         ผู้รับสรมีลักษณะ “Active Seeker”

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับหรือ อินเตอร์แอคทีฟ (Interactive)

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

7.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver”

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

8.         ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) ในทางเศรษฐศาสตร์ คำว่า เทคโนโลยี คือ ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ รวมถึงความรู้ที่ว่าเราสามารถผลิตอะไร ได้บ้าง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นเมื่อความรู้ทางเทคนิคของเราเพิ่มขึ้น

9.         เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองศตวรรษที่ผ่านมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 5) การพัฒนาของสื่อที่ใช้ในการสื่อสารรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอย่างมากเมื่อประมาณ 2 ศตวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติได้สัมผัสกับภาษาระบบตัวเลข (Digital Language) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารทุกรูปแบบ

10.       ข้อใดต่อไปนี้กลาวไว้ไม่ถูกต้อง

(1)       ภษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์

(2)       ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(3)       ภาษาพูด เป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน

(4)       มนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับภาษาเขียนมานานกว่า 2 ล้านปี

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) กล่าวคือ ภาษามีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change) ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ โดยภาษาพูด (Spoken Language) เป็นสัญญาณทาง การสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน (Written Language) ซึ่งมนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับ ภาษาเขียนมานานร่วม 6 ล้านปี

11.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อ การสื่อสารในข้อใดต่อไปนี้           

(1) ประหยัดเวลาและแรงงาน

(2)       สะดวก รวดเร็ว            

(3) ช่วยให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว

(4) ได้ผลผลิตมากในเวลารวดเร็ว

ตอบ2 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) สื่ออินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร แบบดิจิตอล (Digital) มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อการสื่อสาร คือ ทำให้ การติต่อสื่อสารของมนุษย์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และการรับส่งข้อมูลเป็นไปโดยสะดวกในชั่วพริบตา

12.       ข้อใดต่อไปนี้จัอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)  

(1) หนังสือพิมพ์หัวสี

(2)       หนังสือพิมพ์ออนไลน์   

(3) หนังสือพิมพ์แทบลอยด์     

(4) หนังสือพิมพ์บรอดชีท

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) ซึ่งส่งผล ให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web,

สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

13.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อทีเกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 12. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดอยู่นิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       สื่อใหม่ เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า Interactive หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร .

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รันสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 317), (ค่าบรรยาย), (ดูค่าอธิบายข้อ 3. ประกอบ) Interactive หรือ ปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) จากผู้รับสาร ไปยังผู้ส่งสารอย่างทันทวงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) โดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสารจะเป็นลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ที่แท้จริงหรือนิรนามในขณะที่ดำเนินการสื่อสาร

16.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Passive Receiver มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

(2)       ผู้รับสารที่ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

(3)       ผู้รับสารที่มีลักษณะเหงาหงอย เซื่องซึม         (4) ผู้รับสารที่ขาดทักษะทางด้านการอ่านออกเขียนได้

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

17.       …………….ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของ…………(จงเติมคำในช่องว่างทั้งสองแห่งตามลำดับ)

(1)       สื่อใหม่/สื่อดั้งเดิม        (2) สื่อดั้งเดิม/สื่อใหม่  (3) สื่อมวลชน/สื่อท้องถิ่น (4) สื่อท้องถิ่น/สื่อมวลชน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสื่อพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่าน ในสังคม แม้ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์จะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คน มากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูลข่าวสารซ้ำได้ โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลข้อใดที่ทำให้ คนรุ่นเก่าไม่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใหม่

(1)       เพราะเป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรูในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เพราะเป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data)มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบ หรือจัดระเบียบ และไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูล ที่ผ่านกระบวนการจัดการหรือมีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

21.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่จัดอยู่ในประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Property      

(2) Information Privilege

(3)       Information Accuracy      

(4) Information Privacy

ตอบ 2 (สวนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มี 4 ประเด็น 

1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 

3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)

4.         การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรม ต้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด

(1)       ความถูกต้อง   

(2) ความเป็นส่วนตัว   

(3) ความเป็นเจ้าของ   

(4) การเข้าถึงข้อมูล

ตอบ 2            (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดหรือการกระทำที่ขัดกับประด็นความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) คือ

1.         การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่ แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือข้อใด

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ (4) ข้อ ใ และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรวาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่ไปนี้ที่ไม่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Privacy

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Copyright หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้กอนที่จะตัดสินใจชื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ได้แก่ ซอฟต์แวรในลักษณะ Copyright หรือ Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้, Shareware คือ ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26. การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด

(1)       Information Accuracy      (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

ข้อ 27. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber Crime     (2) Hacker (3) Cracker

(4)       Hacktivist          (5) จริยธรรมผู้จัดทำสื่อ           (6) จริยธรรมผู้ใช้สื่อ

27.       กรณีการใช้โปรแกรมกล้อง Camfrog เพื่อนแสดงภาพลามกอนาจาร

ตอบ 6 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ/ผู้บริโภค คือ มักใช้สื่อในทางที่ไม่ถูกไม่ควร หรือผิดไปจากวัตถุประสงค์ของผู้จัดทำสื่อ เช่น ภารใช้โปรแกรม Camfrog เพื่อโชว์หรือแสดงภาพลามกอนาจาร การใช้เปรแกรมการสื่อสารสองทางผ่านสื่อออนไลน์เพื่อล่อลวงทางเพศ/อาชญากรรม

28.       การตระหนักถึงความเหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 12). (คำบรรยาย) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ คือ การตระหนักถึงความเหมาะสม/ไมเหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์ (เช่น ในเว็บไซต์ เกม หรือ สื่อบันเทิงอื่น ๆ) โดยควรระวังการเผยแพร่เนื้อหาดังนี้ 1. เนื้อหาหรือภาพลามกอนาจาร

2.         เนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท  3. เนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง ปลุกปั่น

ให้เกิดความแตกแยก  4. เนื้อหาที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรุนแรง ก้าวร้าว

29.       การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime หรือ Cyber Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงการก่อกวนโดย

1. กลุ่ม Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอินโดยผ่านการสื่อสาร เครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแกข้อมูล

2.         กลุ่ม Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ ในเชิงธุรกิจ 3. กลุ่ม Hacktivist หรือ Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยัง คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

30.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยผ่านการสื่อสารเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปทำความเสียหายแกข้อมูล

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ3 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

33.       กรณีการใช้โปรแกรมการสื่อสารสองทางผ่านสื่อออนไลน์เพื่อล่อลวงทางเพศ

ตอบ 6 อธิบายข้อ 27. ประกอบ

34.       การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือ CMC มาจากคำว่า

(1)       Computer Mediated Communication    

(2) Computer Mutual Communication

(3) Computer Manual Communication   

(4) Computer Managing Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication : CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทีใดๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัว

4.         เป็นสื่อที่กระจายอำนาจหน้าที่โดยไม่ถูกผูกขาดและควบคุมจากฝ่ายผู้ส่งสาร

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย…

(1) สัญลักษณ์ (2) เสียง          (3) ข้อความ     (4) ภาพ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วย ข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่าย ในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร ได้ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนก

ได้ 4 รูปแบบ ดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พรอมกัน เช่น การสื่อสารด้วย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail หรือ E-mail) 2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับ กลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook ทีผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านได้ทุกคน และมีการเขียนโต้ตอบข้อความนั้น

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสร ในเว็บไซต์ (Web site)

39.       การเขียนข้อความไว้ในเว็บไซต์ hi5 เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน         (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน     (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(3)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(4)       การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       เพราะเหตุใดจึงกล่าไว้ว่า CMC เป็นการสื่อสารที่เลือกที่รัก มักที่ชัง

(1) ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อ และอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความทีต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือ ภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal… หมายความว่า

(1) ความไม่มีตัวตน     

(2) ไมปรากฏตัวตนที่แท้จริง 

(3) ไมมีความเป็นบุคคล 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2  (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1) การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 8 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบในเชิงลบที่เป็นภัยต่อลังคมของการสื่อสาร แบบ CMC มีดังนี้ 1. การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าคาตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         การทุ่มเทเวลาให้กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้ขาดทักษะทางลังคม (Social Skills) และถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills) 3. เป็นช่องทางในการหลอกลวง หรืออำพรางตัวตนที่แห้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร 4. ถูกใช้เพื่อ สะท้อนตัวตน” มากกว่า เพื่อสร้าง ประสบการณ์ทางลังคม” ฯลฯ (การสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy เป็นผลกระทบในเชิงบวกที่เป็นมิตรต่อสังคม)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูดมากกว่า การประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและจังหวะการพูด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ 

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทเป็น ผู้ตามถาวร อีกทั้งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือ แนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม (New Media)          (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

(3) ให้ข้อมูลโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา (4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) สื่อออนไลน์ จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย โดยคุณลักษณะสำคัญของสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง      2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

3.         ให้ข้อมูลในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         น้าเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

6.         เนื้อหาเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1) สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข้าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย          

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยัง ผู้ส่งสารอย่างทันทวงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1) ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว  

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระสานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ…

(1) บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมูเพี่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารแสะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1) เพี่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร

(2)       เพี่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(3)       เพี่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม

(4)       เพี่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1. เพี่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 2. เพี่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพี่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพี่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1) ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ 

1.         ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive)

3.         ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น

4.         รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         เน้นความสำคัญของเนื้อหาข่าวเป็นหลัก ไม่ใช้สื่อประสมหรือลูกเล่นที่หวือหวามากนัก

52.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการน้าเสนอข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ บนสื่อออนไลน์ คือ 1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุ มาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต(Web Casting) 2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของ รายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี 3. มีการเก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดชองข่าวออนไลน์ ได้แก่

1.         การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

2.         ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

3.         ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่มุมผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร       

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอขาวออนไลน์ในแง่ของการไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสาร เพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเองก่อให้เกิดบัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก       

(4) ถูกทุกข้อ

อบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถ นำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1 ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณใน ความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม 2. ผู้นำเสนอข้อมูล ข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไมมีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร 3. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นภรองความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอ ข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1) ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์          (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3) แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประ เทศไทย ได้แก่   1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

2.         ระบบเศรษฐกิจของประเทศ    3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ

และแนวนโยบายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล   4. บุคลากรในการทำงาน

5.         ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของประชากรในประเทศ

6.         พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีลักษณะดังนี้

1. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น            5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น

6.         มีลักษณะความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น   7. สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบฉบับบน

World Wide Web มากขึ้น     8. สร้างความเป็นคลังข้อมูลของข่าวสารมากขึ้น

9. บริการข้อมูลข่าวสารแบบตามคำขอ (On Demand) 10. เป็นเครื่องมือด้านกาวตลาดมากขึ้น

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคต คาดว่า…

(1) แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น          (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3) สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน  (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28 – 29) เกรียงไกร ทวีโชติกิจเจริญ ได้ศึกษาและสรุปประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับแนวโน้มหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตของประเทศไทย ไว้ดังนี้ 1. กลุ่มผู้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีความหลากหลายมากกว่าในปัจจุบัน

2.         แนวโน้มเนื้อหาหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาที่ไม่มีในฉบับเล่ม

3.         แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อดั้งเดิม และลือออนไลน์ 4. ปัจจัยที่มีแนวโน้มเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ในประเทศไทยมากที่สุด คือ รัฐบาล

59.       นักศึกษาคิดว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1) ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการซื้อขายผ่าน E-commerce มากขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นแบบทุนนิยม ซึ่งเอื้อต่อ การเติบโตของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ดังนั้นแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

60.       หากต้องการส่งเสริม ให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1) พัฒนาความรู้เละทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2) ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       จัดหาคอมพิวเตอร์เพี่อให้บริการแก่ประชาชนในสถานที่สาธารณะอย่างครอบคลุม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ

มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึงสื่อ ประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสาร จากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดี ต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 68. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) อินเทอร์เน็ต            

(2) ARPANET      

(3) IP Video Conference

(4)       TCP  

(5) Stand-alone Computer        

(6) NECTEC

(7) World Wide Web          

(8) Cyberspace

61. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยง ถึงกันทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายทีเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่า เป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network)

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อล่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ท (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบนโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 6 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตริ เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 7 (ส่วนที่ 3 หน้า 310) อินเทอร์เน็ตได้พัฒนาเป็นสื่อหลายมิติ มีทั้งภาพ เสียง อักษร และการทำงานด้วยเครือข่ายใยแมงมุม คือ World Wide Web (WWW) ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคมของปี พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้มีการสาธิตการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแหงชาติสิริกิติ์ เพี่อสาธิตระบบ มัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไมปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 8 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space) ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

70.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์ และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.sianrmet.or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคมของปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารกสิกรไทย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแกการบันทึก

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการ รายงานผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิด ใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Express Mail

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 1013), (ดูคำอธิบายข้อ 38. บ่ระกอบ) จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail ซึ่งมาจากคำว่า Electronic mail คือ การส่งข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายจาก คอมพิวเตอร์ของผู้ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้รับ โดยเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหรือบริการ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญและมีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ท่าให้ผู้ใช้งาน หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันไดในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11-12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถท่าให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12 – 13) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่อง นั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ

File Transfer Protocol หรือ FTP บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 แบบ คือ

1.         บริการลักษณะ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วยไมต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         บริการลักษณะ Online ที่ผู้ตัดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่าน ข้อมูลโต้ตอบกันแบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       สื่ออินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเติม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็น…

(1)       สื่อประสม        

(2) สื่อหลากบทบาท    

(3) สื่อสารมวลชน        

(4) สื่อใหม่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นสื่อใหม่และเป็นเครื่องมือใหม่ ในการสื่อสาร ซึ่งมีความสามารถในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา เพราะ

(1)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า อินทอร์เน็ต เป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน        

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

84.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงด้วยเหตุที่

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอม 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่อง พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ “ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมในพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ การรวมตัวกันของผู้คนในสังคมจาก การสร้างเครือข่ายลังคม (Social Network) ในพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       ค่ากล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทังการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

 ตอบ 3            (ส่วนที่ 3 หน้า 19-20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การ สื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่ม คนที่เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน

87.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่

(1)       เพราะป็นแหลงรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามรถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมูหัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพี่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจหลกหลายมากมาย เช่น ข้อมูล ทางวิชาการด้านการบันเทิงด้านการแพทย์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้น ข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       อาการใดต่อไปนี้ไม่เข้าข่าย อาการติดอินเทอร์เน็ต

(ใ) รู้สึกหงุดหงิดเมือวันไหนไมได้ใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ผู้ใช้จัดสรรเวลาเล่นอินเทอร์เน็ตตามแต่จะมีเวลาว่าง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไมได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงบัญหา

4.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทาให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์

5.         ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้

89.       ข้อใดคือประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(2)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(3)       เป็นช่องทางในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพี่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่งครอบครอง ทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไมทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเอง ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

91.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไมรวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า Decentralized Media กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ ทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง         

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจาก สื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของ เครือข่ายที่ตนเองเลือก เป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสารของตนไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตกอให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ

ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย ดังนั้นจึงทำให้อำนาจหรือโอกาส ในการผลิตสื่อหรือการเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป

94.       ข้อไดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่าง สะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการลื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม

(1) Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจา

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือข่าย hi5 มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงทางเพส

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) เทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น

ดาบสองคม” กล่าวคือ การออนไลน์ซึ่งเป็นการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว มีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น 1. การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์ hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ ฯลฯ

96.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแกผู้ผลิตสื่อออนไลน์หรือไม่

(1) ไม่เพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไม่เพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรสร้างเสริมการตระหนักรู้และจริยธรรมให้มากขึ้น

(4)       ไม่เพียงพอ แต่ควรต้องติดอาวุธทางปัญญาแกผู้ใช้สื่อให้มากขึ้นด้วย

ตอบ12 (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตสื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน 1การเฝ้าระวังสื่อออนไลน์นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม มากขึ้น ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์ รวมถึง ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

97.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า Usenet หมายถึง

(ใ) Useful Network (2) User Internet (3) User Network (4) Useful Internet

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว (Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

98.       Files Transferring หมายถึง

(1)       การโยกย้ายแฟ้มข้อมูล           (2) การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล

(3) การเปลี่ยนถ่ายแฟ้มข้อมูล (4) การสลับเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 11), (ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ) Files Transferring หมายถึงการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ซึ่งในการส่งข้อมูลของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) นั้น ผู้ส่งสามารถถ่ายโอนแฟ้มหรือไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้ การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์

99.       ข้อใดคือประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จากัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ4  (ส่วนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการ

2.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งจดหมายถึงดูไปรษณีย์

4.         ผู้รับสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก

5.         ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ (ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ)

100.    ข่าวออนไลน์มีคุณลักษณะ ปฏิสัมพันธ์” หมายถึง

(1)       เปิดโอกาสให้ผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยังผู้ส่งสารในลักษณะการสื่อสารสองทาง

(2)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับสังคม

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 15. และ 47. ประกอบ

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 4

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 4

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) เทคโนโลยี 

(2) ความสำคัญของเทคโนโลยี 

(3) สื่อดั้งเดิม 

(4) สื่อใหม่       

(5) ภาษาระบบตัวเลข

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์และองค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) คำว่า เทคโนโลยี ครอบคลุมความหมาย 2 ประการ 

1. การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2. องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

2.         เป็นสื่อที่ผู้รับสารในลังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver” คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร ก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2. เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่่

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

3.         สื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนผู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Active Seeker” คือ เป็นฝายแสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความสงสัยอยากผู้อยากเห็นของตัวเองโดยอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกันระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ หรืออินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) โดยคาดหวังว่าสื่อใหม่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้แสวงหาข่าวสารได้มีประสิทธิภาพมากกว่าสื่อแบบดั้งเดิม เนื่องจาก สื่อใหม่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของสื่อแบบดั้งเดิม

3.         เป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนผู้การใช้สื่อ และการเข้าถึงสื่อ ดังนั้นผู้รับสารบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่าจะไมคุ้นเคยกับ การเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ และไม่ยอมรับหรือเข้าไมถึงสื่อใหม่

4.         ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประหยัดในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 3), (คำบรรยาย) ความสำคัญของเทคโนโลยี คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ ในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนางานสาขาใดสาขาหนึ่ง รวมทั้งด้านการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดี 3 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ ช่วยให้การทำงาน บรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 2. ประสิทธิผล (Productivity) คือ ช่วย ให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มที่หรือมากที่สุด ในเวลารวดเร็ว 3. ประหยัด (Economical) คือ ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน

5.         ผู้รับสารมีลักษณะ “Active Seeker”

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับหรือ อินเตอร์แอคทีฟ (Interactive)

ตอย 4  ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

7.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver”

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

8.         ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตกัณฑ์ที่ต้องการ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) ในทางเศรษฐศาสตร์ คำว่า เทคโนโลยี คือ ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบัน ในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ รวมถึงความรู้ที่ว่าเราสามารถผลิตอะไร ได้บ้าง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นเมื่อความรู้ทางเทคนิคของเราเพิ่มขึ้น

9.         เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองศตวรรษที่ผ่านมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 5) การพัฒนาของสื่อที่ใช้ในการสื่อสารรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอย่างมากเมื่อประมาณ2 ศตวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติได้สัมผัสกับภาษาระบบตัวเลข (Digital Language) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารทุกรูปแบบ

10.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้อง

(1) ภาษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์

(2)       ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(3)       ภาษาพูด เป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน

(4)       มนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับภาษาเขียนมานานกว่า 2 ล้านปี

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) กล่าวคือ ภาษามีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change)อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ โดยภาษาพูด (Spoken Language) เป็นสัญญาณทาง การสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน (Written Language) ซึ่งมนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับ ภาษาเขียนมานานร่วม 6 ล้านปี

11.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อ การสื่อสารในข้อใดต่อไปนี้

(1)       ประหยัดเวลาและแรงงาน       

(2) สะดวก รวดเร็ว

(3) ช่วยให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 

(4) ได้ผลผลิตมากในเวลารวดเร็ว

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) สื่ออินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร แบบดิจิตอล (Digital) มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อการสื่อสาร คือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของมนุษย์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และการรับส่งข้อมูลเป็นไป โดยสะดวกในชั่วพริบตา

12.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม

(1)       หนังสือพิมพ์ออนไลน์   

(2) คอมพิวเตอร์เกม

(3) ภาพดิจิตอล           

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1. สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้

เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) ซึ่งส่งผล ให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web,สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

13.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1) สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 12. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดนิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลขาวสารด้วยตัวเอง   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       สื่อใหม่ เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า “Interactive” หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารทีมุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 2 หน้า 317), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ) Interactive หรือปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) จากผู้รับสาร ไปยังผู้ส่งสารอย่างทันท่วงที ในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) โดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสารจะเป็นลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ที่แท้จริงหรือนิรนามในขณะที่ดำเนินการสื่อสาร

16.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Passive Receiver มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

(2)       ผู้รับสารที่ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

(3)       ผู้รับสารที่มีลักษณะเหงาหงอย เซื่องซึม

(4)       ผู้รับสารที่ขาดทักษะทางด้านการอ่านออกเขียนได้

ตอบ 1 ดูคำอธิบาย.ข้อ 2. ประกอบ

17.       Document Domain คือสื่อชนิดใด

(1)       สื่อออนไลน์      (2) สื่อสิ่งพิมพ์ (3) สื่อวิทยุกระจายเสียง         (4) สื่อที่มีเอกสารอ้างอิง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 4-5) พัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์

(The Document Domain) เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของภาษาในช่วงที่ 2 (เริ่มประมาณ 6.000 ปีกอน) คือ เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์มีภาษาเขียนใช้ จึงทำให้เกิดรูปแบบการสื่อสาร ในลักษณะบันทึกเป็นเอกสาร (Document Domain) หรือสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้น ซึ่งช่วยร่นระยะเวลา ให้กับการเผยแพร่ และการดำรงรักษาความรู้/วัฒนธรรมของมนุษยชาติได้มาก

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้วาจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์จะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจาก ผู้คนมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูล ข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลข้อใดที่ทำให้คนรุ่นเก่าไมนิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใหม่

(1)       เพราะเป็นสื่อที่มีความซับช้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เพราะเป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไมมีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และ ไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดการ หรือมีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารในเว็บไซต์ต่าง ๆ

21.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Personal      

(2) Information Privilege

(3) Information Productivity     

(4) Information Privacy

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มี 4 ประเด็น

1.         ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) 

2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)

3.         ความเป็นเจ้าของ (Information Property) 

4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรม ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด

(1)       ความถูกต้อง  

(2) ความเป็นส่วนตัว   

(3) ความเป็นเจ้าของ   

(4) การเข้าถึงข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดหรือการกระทำที่ขัดกับประเด็นความเป็นส่วนตัว

(Information Privacy) คือ

1.         การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริกรของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพี่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพี่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่ แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพรทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือข้อใด

(1) ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพี่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1. ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่อไปนี้ที่ไมเข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Privacy

(1)       การเอาฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1. การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Copyright หรือ Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ Shareware คือ ซอฟต์แวร์ ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26.       อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด      

(1) Information Accuracy

(2)       Information Privacy         (3) Data Accessibility         (4) Information Property

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime หรือ Cyber Crime)เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การก่อกวนโดยกลุ่ม Hacker, Cracker, Hacktivist หรือ Cyber Terrorist ฯลฯ เป็นปัญหาที่ขัดกับประเด็นจริยธรรมการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ซึ่งหมายถึง การเข้าใช้งานโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มี การกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลตามระดับของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าไปดำเนินการ ต่าง ๆ กับข้อมูลของผู้ใช้ที่ไมมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นการรักษาความลับของข้อมูล

ข้อ 27. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Hardware         (2) System Software (3) Peopleware          (4) Information

27.       นักวิเคราะห์ระบบ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) นักวิเคราะห์ ระบบ (System Analyst) ฯลฯ

28.       ชุดคำสั่งควบคุมระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมชุดคำสั่งที่เขียนให้

เครื่องคอมพิวเตอร์ปฏิบัติตาม ซึ่งมี 2 ประเภท คือ 1. ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งควบคุม ระบบ (System Software) 2. ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Software)

29.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

30.       ข่าวสารในเว็บไซต์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

ข้อ 31. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Copyright          (2) Hacktivist     (3) Cracker

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย 

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยผ่านการสื่อสารเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแกข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist หรือ Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อควมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 26. และ 31. ประกอบ

33.       Software License

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

34.       การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือ CMC มาจากคำว่า

(1) Computer Mediated Communication         (2) Computer Mutual Communication

(3) Computer Manual Communication   (4) Computer Managing Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication : CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้ 1. เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหาเหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัว

4.         เป็นสื่อที่กระจายอำนาจหน้าที่โดยไม่ถูกผูกขาดและควบคุมจากฝ่ายผู้ส่งสาร

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย…

(1)       สัญลักษณ์      (2) เสียง          (3) ข้อความ     (4) ภาพ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความโดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC)มีดังนี้ 1. ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจาก ผู้ผูกขาดใด ๆ 2. ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ และเสียง 3. การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่าง ผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว 4. การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน         (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน          (4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนก

ได้ 4 รูปแบบ ด้งนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไมพร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail หรือ E-mail) 2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับ กลุ่มบุคคลไมพร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook ที่ผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านได้ทุกคน และมีการเขียนโต้ตอบข้อความนั้น

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์ (Web site)

39.       การเขียนข้อความไว้ในเว็บไซต์ Facebook เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสาวระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน   (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน     (4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(3)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(4)       การสื่อสารแบบไมพร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า CMC เป็นการสื่อสารที่เลือกที่รัก มักที่ชัง

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อ และอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือ ภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal… หมายความว่า

(1)       ความไม่มีตัวตน           

(2) ไมปรากฏตัวตนที่แท้จริง 

(3) ไม่มีความเป็นบุคคล 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฎตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1)       การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 8 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบในเชิงลบที่เป็นภัยต่อสังคมของการสื่อสารแบบ CMC มีดังนี้ 1. การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         การทุ่มเทเวลาให้กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้ขาดทักษะทางสังคม (Social Skills) และถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills) 3. เป็นช่องทางในการหลอกลวง หรืออำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร 4. ถูกใช้เพื่อ สะท้อนตัวตน” มากกว่า เพื่อสร้าง ประสบการณ์ทางสังคม” ฯลฯ (การสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy เป็นผลกระทบในเชิงบวกที่เป็นมิตรต่อสังคม)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฎผ่านสื่อขาดความสมจริง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูดมากกว่า การประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและจังหวะการพูด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไมมีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไมมีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทเป็น ผู้ตามถาวร อีกทั้งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือ แนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

(3) ให้ข้อมูลโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา (4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) สื่อออนไลน์ จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย โดยคุณลักษณะสำคัญของสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง      2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

3.         ให้ข้อมูล ในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         น้าเสนอโดยใครก็ได้ ไมจำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

6.         เนื้อหาเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1)       สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ด้งนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1) ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูค่าอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระดานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ…

(1) บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1) เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร         (2) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(3) เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม .       (4) เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 19-20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร            2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1) ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ 

1.         ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 

2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive)

3.         ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น

4.         รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         เน้นความสำคัญของเนื้อหาข่าวเป็นหลัก ไม่ใช้สื่อประสมหรือลูกเล่นที่หวือหวามากนัก

52.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ บนสื่อออนไลน์ คือ 1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุ มาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting) 2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของ รายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี 3. มีการเก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความนำเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่

1.         การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

2.         ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

3.         ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง .

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร       

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงของการไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสาร เพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอขาวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเองก่อให้เกิดปัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไมอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก       

(4) ถูกทุกข้อ

 ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณใน ความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบตอสังคม 2. ผู้นำเสนอข้อมูล ข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

3.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอ ข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1)       ความแพรหลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์    (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3) แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่   1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

2.         ระบบเศรษฐกิจของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล        4. บุคลากรในการทำงาน

5.         ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของประชากรในประเทศ

6.         พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีลักษณะดังนี้ 1. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น            5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น

6.         มีลักษณะความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น   7. สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบฉบับบน

World Wide Web มากขึ้น     8. สร้างความเป็นคลังข้อมูลของข่าวสารมากขึ้น

9. บริการข้อมูลข่าวสารแบบตามคำขอ (On Demand) 10. เป็นเครื่องมือด้านการตลาดมากขึ้น

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคต คาดว่า…

(1) แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น          (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3) สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน  (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28 – 29) เกรียงไกร ทวีโชติกิจเจริญ ได้ศึกษาและสรุปประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับแนวโน้มหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตของประเทศไทย ไว้ดังนี้ 1. กลุ่มผู้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีความหลากหลายมากกว่าในปัจจุบัน

2.         แนวโน้มเนื้อหาหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาที่ไม่มีในฉบับเล่ม

3.         แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อดั้งเดิม และสื่อออนไลน์ 4. ปัจจัยที่มีแนวโน้มเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ในประเทศไทยมากที่สุด คือ รัฐบาล

 59.       นักศึกษาคิดว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจใหความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการเอขายผ่าน E-commerce กขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นแบบทุนนิยม ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ดังนั้นแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

60.       หากด้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้นภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1) พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       จัดหาคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในสถานที่สาธารณะอย่างครอบคลุม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 68. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) อินเทอร์เน็ต            

(2) ARPANET      

(3) IP Video Conference

(4)       TCP  

(5) Stand-alone Computer

(6) NECTEC

(7) Cyberspace

61.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web หรือ WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่ายARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ท (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 6 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ3  (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคมของปี พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้มีการสาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบ มัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคูสื่อสาร

ตอบ 7 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคูสื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

ตอบ2  (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

70.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์ และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ 2 (สวนที่ 3 หน้า 5) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTER เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.siamnet.or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคมของปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เปิดให้บริการ WWWเป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนือง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแกการบันทึก

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการ รายงานผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจร

ความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Eractive mail

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 1013), (ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ) จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ E-mail ซึ่งมาจากคำว่า Electronic mail คือ การส่งข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายจาก คอมพิวเตอร์ของผู้ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้รับ โดยเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหรือบริการ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญและมีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ช้งาน หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11 – 12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เหมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12 – 13) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่อง นั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ

File Transfer Protocol หรือ FTP บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 แบบ คือ

1.         บริการลักษณะ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วยไม่ต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         บริการลักษณะ Online ที่ผู้ติดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่าน ข้อมูลโต้ตอบกันแบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       สื่ออินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบนตั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็น

(1)       สื่อประสม        

(2) สื่อหลากบทบาท    

(3) สื่อสารมวลชน        

(4) สื่อใหม่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นสื่อใหม่และเป็นเครื่องมือใหม่ ในการสื่อสาร ซึ่งมีความสามารถในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา เพราะ

(1)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1) ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน        

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

84.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงด้วยเหตุที่

(1) สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1) เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมในพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ การรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) ในพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       คำกล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทั้งการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       กรสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3            (ส่วนที่ 3 หน้า ใ9 – 20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึง การสื่อสารบนครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การ สื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่ม คนที่เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน

87.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนหองสมุดขนาดใหญ่

(1)       เพราะเป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลไต้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือขายอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจหลากหลายมากมาย เช่น ข้อมูล ทางวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้น ข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       อาการใดต่อไปนี้เข้าข่าย อาการติดอินเทอร์เน็ต

(1) รู้สึกหงุดหงิดเมื่อวันไหนไม่ไดใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1. มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกเสี่ยงปัญหา

4.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์

5.         ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้

89.       ข้อใดคือประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1) เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(2)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(3)       เป็นช่องทางในการโฆษณา ประซาสัมพันธ์สินค้าและบริการ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ 1. เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำลายข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุโดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

91.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไมรวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไปยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า Decentralized Media กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ ทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง          

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของ เครือข่ายที่ตนเองเลือก เป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสารของตนไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตกอให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย (4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่านที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย ดังนั้นจึงทำให้อำนาจหรือโอกาส ในการผลิตสื่อหรือการเป็นผู้ส่งสารไมถูกจำกัดอีกต่อไป

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่าง สะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม

(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือข่าย hi5 มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงทางเพศ

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) เทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น

ดาบสองคม” กล่าวคือ การออนไลน์ซึ่งเป็นการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว มีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์ hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ ฯลฯ

96.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแก่ผู้ผลิตลื่อออนไลน์หรือไม่

(1)       ไมเพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไมเพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรสร้างเสริมการตระหนักรู้และจริยธรรมให้มากขึ้น

(4)       ข้อ 1 และ 2 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตลื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังลื่อออนไลน์นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม มากขึ้น ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์ รวมถึง ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

97.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า Usenet หมายถึง

(1)       Useful Network (2) User Internet (3) User Network (4) Useful Internet

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว(Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

98.       Files Transferring หมายถึง

(1) การโยกย้ายแฟ้มข้อมูล      (2) การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล

(3) การเปลี่ยนถ่ายแฟ้มข้อมูล (4) การสลับเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 11), (ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ) Files Transferring หมายถึงการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ซึ่งในการส่งข้อมูลของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) นั้น ผู้ส่งสามารถถ่ายโอนแฟ้มหรือไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้ การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์

99.       ข้อไดเป็นพระราชบัญญัติที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน

(1)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างจริยธรรมด้านเทคโนโลยี

การสื่อสาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ได้แก่

1.         พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

100.    ไอซีที มีชื่อเป็นทางการว่าอะไร

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร     (2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) กระทรวงสารสนเทศการสื่อสารและเทคโนโลยี     (4) กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) องค์กรที่ไห้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่      1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอชีที)

2. กระทรวงมหาดไทย 3. กระทรวงกลาโหม    4. กระทรวงยุติธรรม

5.         กรมสอบสวนคดีพิเศษ 6. กรมประชาสัมพันธ์  7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ 9. กองทัพบก      10. กองทัพอากาศ      11. กองทัพเรือ

 

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 3

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 ชุดที่ 3

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       ภาษา   

(2) สื่อใหม่       

(3) เทคโนโลยี  

(4) สื่อดั้งเดิม

1.         เกิดจากพื้นฐานหรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์รองรับ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น กล่าวคือ เทคโนโลยีเกิดจากพื้นฐานหรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์รองรับ หรืออาจกล่าวได้ว่าเทคโนโลยี เป็นการประยุกต์หรือนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ในทาง ปฏิบัติแก่มวลมนุษยชาติ

2.         คือ องค์ประกอบ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 4), (คำบรรยาย) ภาษา (Language) คือ องค์ประกอบ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์ นอกจากนี้ภาษายังถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) และมีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change) ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษยชาติ

3.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7ส่วนที่ 2 หน้า 317) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker คือ ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างอิสรเสรี ซึ่งสามารถหาข้อมูลข่าวสาร จากสื่อใหม่ได้โดยไม่มีขีดจำกัด เช่น เว็บบอร์ด พันทิบดอทคอมหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ

2.         เป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ (Interactive) หรือการปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

3.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย และอาจไม่ยอมรับหรือเข้าไม่ถึงสื่อใหม่ เพราะประเมินว่าตนเอง ไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

4.         คือ สาร ในกระบวนการสื่อสาร

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

5.         หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิงพิมพ์ สื่อวิทยุกระจายเสียง สื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) จนส่งผลให้เกิด สื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web, สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์และนิตยสารออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิก คอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

6.         ตัวทำการเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษยชาติ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

7.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดด้านเวลาและพื้นที่

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร และ จะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในช่วงเข้าของแต่ละวัน (มีข้อจำกัดด้านเวลา) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสาร ที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิงพิมพ์ที่จัดสรรให้ (มีข้อจำกัดด้านพื้นที่) เป็นต้น

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

8.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

9.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

10.       เพราะเหตุใด ‘‘เทคโนโลยี” จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการสื่อสารของมนุษยชาติ

(1)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษย์

(2)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์

(3)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการปรับตัวของมนุษย์

(4)       เพราะการสื่อสารเป็นวิถีในการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากิจการหรืองานด้านต่าง ๆและด้วยเหตุที่การสื่อสาร (Communication) เป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการดำรงอยู่ หรือการอยู่รอด การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และการพัฒนาทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการนำเอา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาด้านการสื่อสารจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของมวลมนุษยชาติ

11.       The Document Domain หมายถึงอะไร

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคล        

(2) การสื่อสารประเภทสื่อสิงพิมพ์

(3)       การสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

(4)       การสื่อสารที่ต้องอ้างอิงเอกสาร          

(5) การสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ฟิดเลอร์ได้ลำดับพัฒนาการของเทคโนโลยีสื่อ 3 สื่อหลักที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ไว้ดังนี้

1.         เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล (The Interpersonal Domain)

2.         เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (The Broadcast Domain)

3.         เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (The Document Domain)

12.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

(5)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบดั้งเดิม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

13.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       นิตยสารออนไลน์         

(2) ภาพดิจิตอล           

(3) คอมพิวเตอร์เกม

(4) ภาพกราฟิก           

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดอยู่นิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น

(4)       ผู้รับสารที่ใฝ่รู้ตลอดเวลา        (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       ผู้รับสารของสื่อในข้อใดต่อไปนี้มีลักษณะเป็น Active Seeker

(1)       รายการวิทยุ ก้าวทันโลก” คลื่น 105.5 MHz (2) คอลัมน์ มุมไอที” หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

(3)       รายการ โลกไอที” สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี (4) เว็บบอร์ด พันทิพ ดอทคอม

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. และ 5. ประกอบ

16.       สื่อใหม่เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า “Interactive” หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ล่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

17.       สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในช่วงเช้าของแต่ละวัน (1) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสารที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิ่งพิมพ์ (2) กล่าวได้ว่า

(1) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และพื้นที่ (2)

(2)       มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ (1) และเวลา (2) (3) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และสถานที่ (2)

(4)       มีข้อจำกัดด้านสถานที่ (1) และเวลา (2)       (5) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และปริมาณข่าวสาร (2)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ยอดนิยมของคนในทุกสังคม

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่าน ในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจาก ผู้คนมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะสื่อหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับ ข้อมูลข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลที่ทำให้คนรุ่นเก่าไม่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์ ด้วยทัศนคติที่ว่า

(1)       เป็นสื่อทีมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย

(4)       เป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าประเมินว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 3. และ 5. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของสารสนเทศ

(4)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมาย แตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดการ หรือมีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารหรือไฟล์ภาพในเว็บไซต์ต่าง ๆ

21.       ข้อใดต่อไปนี้คือประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Privilege       

(2) Information Property

(3)       Information Practice        

(4) Information Priority

(5)       Information Proposal

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มีอยู่ 4 ประเด็น คือ      

1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 

3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)   

4.         การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด         

(1) ความถูกต้อง          

(2) ความเป็นส่วนตัว

(3)       ความเป็นเจ้าของ         

(4) การเข้าถึงข้อมูล     

(5) การสงวนสิทธิแห่งพื้นที่

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) มีดังนี้

1.         การเข้าไปดูหรืออานข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการ ของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์คือข้อใด

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Property

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

(5)       การพยายามเจาะเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้อื่นผ่านโปรแกรมการสื่อสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ตอบ2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่น การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้า ในราคาถูก ซึ่งซอฟต์แวร์มีหลายลักษณะ ได้แก่ Copyright or Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้ Shareware คือ ซอฟต์แวร์ทีให้ทดลองใช้ได้ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้ เป็นต้น

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ทีซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(5)       ซอฟต์แวร์แบ่งปันสาธารณะ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

26.       ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด

(1)       Information Accuracy                (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property

(5)       Data Accessory

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) ปัญหาด้านจริยธรรมที่ขัดกับประเด็นการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime or Cyber Crime) เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการก่อกวนโดยกลุ่ม Hacker, Cracker, Hacktivist or Cyber Terrorist ๆลๆ

ข้อ 27. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       System Software (2) Hardware (3) Peopleware         (4) Information

27.       ชุดคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งควบคุมระบบ (System Software) คือ ชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อกลางระหว่างโปรแกรมประยุกต์กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยในการจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ โปรแกรมควบคุมเครื่อง และระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น DOS, Windows, Os/2, Unix ฯลฯ

28.       นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) และนักวิเคราะห์ ระบบคอมพิวเตอร์ (System Analyst) ฯลฯ

29.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

30.       ไฟล์ภาพในเว็บไซต์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

ข้อ 31. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cracker    (2) Hacktivist     (3) Copyright

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย ได้แก่

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการลื่อสารบนเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแก่ข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist or Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 31. ประกอบ

33.       Software License

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

34.       CMC มาจากคำว่า 

(1) Computer Mediated Communication

(2)       Computer Mutual Communication         (3) Computer Manual Communication

(4)       Computer Managing Communication    (5) Computer Maintenance Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3 – 5), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication ะ CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง

4.         เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

(5)       เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการลื่อสารด้วย    

(1)       สัญลักษณ์ (2) เสียง   (3) ข้อความ     (4) ภาพ           (5) แสง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการลื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.      ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       เป็นสื่อที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้กระทำการสื่อสาร

(5)       ทุกข้อ ยกเว้นข้อ 4

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด  

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน   (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้    

1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail or E-mail)         

2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทั้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านโปรแกรม Messenger (MSN) 4. การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสาร และผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ต่าง ๆ

39.       การเขียนข้อความไว้ใน Facebook เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด  

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไมพร้อมกัน

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน   (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การสนทนาผ่านโปรแกรม Messenger เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   (3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       CMC เป็นการสื่อสารที่ เลือกที่รัก มักที่ชัง” เพราะ         

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อและอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกสื่อสารเฉพาะกับบุคคลที่ตนเองรักใคร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(5)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะปฏิเสธบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal หมายความว่า

(1)       ไม่มีตัวตน        

(2) ไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง    

(3) ไม่มีความเป็นบุคคล

(4) ไม่มีความเป็นมนุษย์          

(5) เสมือนไม่มีตัวตน

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นลือกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1)       การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ลดความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ลง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 9 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบที่เป็นภัยต่อสังคมของ การสื่อสารแบบ CMC มีดังนี้

1.         การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         ทักษะทางสังคม (Social Skills) ถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills)

3.         เป็นช่องทางในการหลอกลวงหรืออำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

4.         ลดทอนความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ลง

(ส่วนตัวเลือกข้อ 3 เป็นผลกระทบทางสังคมในเชิงบวกหรือเชิงสร้างสรรค์)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

(5)       เพราะเป็นการสื่อสารผ่านหน้าจอขนาดเล็ก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูด มากกว่าการประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและ จังหวะในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 2 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวรและไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือแนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางต้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1)       สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       สามารถนำเสนอข่าวสารเสมือนจริง

(5)       สามารถสร้างความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1)       ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       อาศัยช่องทางในการผสมผสานสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว            

(5) ไม่มีข้อใดถูก ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

48.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะท

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา         

(4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

(5)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่และเวลา

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) ลักษณะเฉพาะของสื่อออนไลน์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่

(New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย มีดังนี้       1. ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด            3. นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา     4. นำเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม ฯลฯ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระดานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ         

(1)       บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริกรกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       บริการข่าวสารที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวได้ด้วยตนเอง      (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว’’(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่มีผู้ดูแลควบคุมกระดานข่าว และแบบที่ไม่มีผู้ดูแล

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(2)       เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

(3)       เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร

(4)       เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม

(5)       เพื่อช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการมีปฏิสัมพันธ์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1)       ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร  

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีดังนี้     

1. ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 

2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive) 

3. ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น 

4. รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

52.       ข้อใดไมใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

 ตอบ 3            (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และวิทยุบนสื่อออนไลน์ มีดังนี้  1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting)  2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี     3. เก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         ใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไมใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

(5)       ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่ 1. การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร       2. ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ         3. ลดบทบาทใบการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

4.         ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสารอย่างสิ้นเชิง

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร

(4)       มีบรรณาธิการข่าว แต่ไม่อาจทราบตัวตนที่แท้จริง      (5) ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ของการไม่มีผู้เผ่าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรร ข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่ง ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง ก่อให้เกิดปัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก

(4)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร         

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ        1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณในความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม         

2. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

3.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองหรือไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1)       ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์    (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3)       แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

(5)       พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 2. ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล 4. บุคลากรในการทำงาน 5. ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ของประชากรในประเทศ 6. พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4)       นำเสนอข่าวตามประเด็นข่าวของสื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ  

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น 2. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่าย ต่อการสืบค้นมากขึ้น 3. ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อประสมในการนำเสนอ ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น 4. ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น 5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น ฯลฯ

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทยในอนาคต คาดว่า

(1)       แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น    (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3)       สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน        (4) สภาวะการแข่งขันเหมือนปัจจุบัน

(5)       คาดการณ์ไม่ได้แน่ชัด

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28) แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย ในอนาคต คาดว่าจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อที่มีอยู่ดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ ออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวโดยการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร มัลติมีเดีย ฐานข้อมูล รวมทั้งความน่าเชื่อถือของข่าวสาร

59.       คาดกันว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการซื้อขายผ่าน e-Commerce มากขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ถดถอยลง เพราะคนในสังคมจะหันมาใช้สื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ

(5)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะความต้องการของผู้จัดทำสารและผู้ใช้สื่อเพิ่มสูงขึ้น

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25) แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าว มากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจาก เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างความจงรักภักดีและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หากผู้บริโภค สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์นั้นได้โดยง่าย

60.       หากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้นภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1)       พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ต้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       กำหนดมาตรการลดราคาสื่อคอมพิวเตอร์ให้ถูกลง     (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ

มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 64. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Stand-alone Computer (2) NECTEC (3) Internet (4) ARPANET

61.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก

ตอบ. 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิด จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web : WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ต (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

ข้อ 65 – 68 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber space     (2) IP Video Conference (3) TCP         (4) World Wide Web

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้สาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบมัลติมีเดียและ การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public space.)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตน างร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ2  ส่วนที่ 3 หน้า 51013) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(Electronic mail or E-mail) เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (เดือนมิถุนายน) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

70.       NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สูประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นตันมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกใบประเทศไทย คือ www.siamnet.or.th

อบ2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 เนคเทค (NECTEC) ได้เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแก่การบันทึกดังนี้

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเซิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูง เพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Elective mail

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 38. และ 69. ประกอบ

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคน เข้ามาคุยพร้อมกันได้ในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11-12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol: FTP) บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 ลักษณะ คือ 1. แบบ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วย ไม่ต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         แบบ Online ทีผู้ติดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่านข้อมูลโต้ตอบกัน แบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       ข้อใดคือเหตุผลที่ทำให้สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน

(1)       สามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์

(2)       สามารถเข้าถึงผู้รับสารได้จำนวนมากในสังคม

(3)       เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้รับสารจำนวนมากในสังคม

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารจำนวนมากในสังคมเข้าถึงอย่างเสมอภาค

(5)       เป็นสื่อสาธารณะ

ตอบ 1 (สวนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีความสามารถ ในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่นๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตาเพราะ

(1)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล

(4)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวก ในการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน หรือการสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่อง Public Sphere ของ Habermas เป็นจริง ด้วยเหตุที่

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลรวมกลุ่มกับเป็นชุมชนออนไลน์    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

84.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน

(4)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน

(5)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนต่างเครือข่ายกัน

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมบนพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ไข้อินเทอร์เน็ต

(4)       เป็นการสร้างสังคมบนพื้นที่เสมือน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) บนพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       คำกล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การลื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทั้งการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็บหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การลื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันใช้การลื่อสารแบบออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกัน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 20) โลก Online ดับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การลื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่มคนที่ เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

87.       เหตุที่กล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะ

(1)       เป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       เป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่ที่รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลด้านวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ใช้บริการ สามารถเลือกสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือตามหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       ข้อใดไม่นับเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์        (2) เป็นช่องทางในการฟอกเงิน

(3)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(4)       เป็นช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการ (5) เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์องค์กร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

89.       ข้อใดไม่ใช่ อาการติดอินเทอร์เน็ต

(1)       รู้สึกหงุดหงิดเมื่อวันไหนไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ใช้เป็นช่องทางในการสืบค้นข้อมูลข่าวสารเพิ่มจากเดิม

(5)       หาเหตุผลหลอกลวงผู้อื่นในการใช้อินเทอร์เน็ต

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

4.         หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง

5.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครอง ทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

(5)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลอง ตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ทั้งนี้หนอนอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก

91.       สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ลดบทบาทและอำนาจของผู้ส่งสารให้น้อยลง

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า “Decentralized Media” กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้ง ผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะ      

(1)       ผู้รับสารสามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง

(4)       ผู้รับสารมีความกล้าในการแสดงความคิดเห็นของตนเองมากขึ้น      

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้ 1. ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถ เลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก หรือเป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง     3. ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูล

ข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น 4. ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสาร หรือกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเองไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น ฯลฯ

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร หากแต่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการดำเนินการ

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย จึงทำให้อำนาจในการผลิตสื่อหรือ การเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ดังนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึงเทคโนโลยี

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สาร” มีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกับมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ สาร” เพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สาร” ที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

(5)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือขาย Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้ เป็นช่องทางล่อลวงทางเพศ

(4)       โปรแกรมสนทนาออนไลน์ มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากันแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงกรรโชกทรัพย์

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 12ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี การสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น ดาบสองคม” มีดังนี้

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์เครือข่าย hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ

4.         โปรแกรมสนทนาออนไลน์ (Chat) มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากับแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางล่อลวงกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ

96.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า “Usenet” หมายถึง

(1) Useful Network   (2) User Internet        (3) User Network

(4)       Useful Internet         (5) User Intranet

ตอบ3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว (Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

97.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแก่ผู้ผลิตสื่อออนไลน์หรือไม่

(1)       ไม่เพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไม่เพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรดำเนินการอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น

(4)       เพียงพอแล้ว แต่ควรใช้อำนาจรัฐในการกำกับมากขึ้น

(5)       ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 5  (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้

เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตสื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์นั้นยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีการระดมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยการรณรงค์ไห้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์รวมถึงควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

98.       ข้อใดคือประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จำกัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

(4)       ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็ว       (5) ไม่มีข้อใดผิด

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการโดยไม่จำกัด

2.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

4.         ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันที ลฯ

99.       กฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์และสื่อสารสนเทศที่ประกาศบังคับใช้แล้ว คือ

(1)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

(5)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2554

ตอบ. 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อสารสนเทศ ซึ่งประกาศบังคับใช้แล้วใบปัจจุบัน ได้แก่

1.         พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

100.    กระทรวงไอซีที มีชื่อเป็นทางการว่า                

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ (3) กระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร

(4)       กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเศ (5) กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศการสื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) องค์กรที่ให้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่ 1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 2. กระทรวงมหาดไทย

3.         กระทรวงกลาโหม        4.         กระทรวงยุติธรรม        5. กรมสอบสวนคดีพิเศษ

6.         กรมประชาสัพันธ์      7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ

9. กองทัพบก   10.       กองทัพอากาศ 11. กองทัพเรือ

 

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 2

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 2

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 10.       จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Technology 

(2) wvwv.google.co.th 

(3) Language      

(4) Newspaper

1.         สื่อดั้งเดิม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการ สื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ (เช่น หนังสือพิมพ์ (Newspaper) นิตยสาร (Magazine) ฯลฯ)สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) จนส่งผลให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web (เช่น Youtube www.google.co.th ฯลฯ)สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

2.         ผู้รับสารเป็นผู้กระตือรือร้นเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตนเอง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7ส่วนที่ 2 หน้า 317), (ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ)

คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker คือ ผู้รับสารกระตือรือร้นเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ (Interactive) หรือการปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุงเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร ในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication)

3.         เป็นสื่อที่ไม่มีข้อจำกัดในด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที

4.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย และอาจไม่ยอมเปิดรับหรือเข้าไม่ถึงสื่อใหม่ เพราะประเมินว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

3.         ผู้รับสารได้รับข้อมูลข่าวสารต่อเมื่อผู้ส่งสารนำเสนอสารผ่านช่องทางการสื่อสาร

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ภาษา (Language) หมายถึง สิ่งที่ผู้ส่งสารสร้างขึ้นโดยกำหนดความหมายเพื่อให้ ผู้รับสารรับรู้ความหมายรวมกัน ดังนั้นภาษาจึงเป็นองค์ประกอบของ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งผู้รับสารจะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารนำเสนอสาร (ภาษาหรือถ้อยคำ) ผ่านช่องทางการสื่อสาร

4.        สื่อสารมวลชนสื่อแรกของโลก

ตอบ4 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังลือพิมพ์กระดาษ (Newspaper) จัดเป็นสื่อสารมวลชน สื่อแรกของโลกที่ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังลือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะสื่อหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูลข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

5.         คือ องค์ประกอบ สาร” (Message) ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและพื้นที่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 2. ประกอบ

7.         สิ่งที่ผู้ส่งสารสร้างขึ้นโดยกำหนดความหมายเพื่อให้ผู้รับสารรับรู้ความหมายร่วมกัน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

8.         การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ด้านอุตสาหกรรม หรือพาณิชยกรรม

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) บราวน์ (Brown)ให้ความหมายซอง เทคโนโลยี” (Technology) ไว้ว่าเป็นการนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้บังเกิดผลประโยชน์ ส่วนพจนานุกรมเว็บสเตอร์ (Webster) กล่าวถึงเทคโนโลยีว่าครอบคลุมความหมาย 2 ประการ ดังนี้

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2.         องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

9.         สื่อใหม่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

10.       มีความคงทนสูง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

11.       ข้อใดคือเหตุผลที่กล่าวว่า เทคโนโลยี” มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการสื่อสารของมนุษยชาติ

(1)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษย์

(2)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์

(3)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการปรับตัวของมนุษย์

(4)       การสื่อสารเป็นวิถีในการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม   

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที 1 หน้า 4) เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากิจการหรืองานด้านต่าง ๆ และด้วยเหตุที่การสื่อสาร (Communication) เป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการดำรงอยู่หรือ การอยู่รอด การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และการพัฒนาทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการนำเอาความรู้ทาง วิทยาศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาด้านการสื่อสารจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของมวลมนุษยชาติ

12.       The Broadcast Domain หมายถึงรูปแบบการสื่อสารในข้อใด

(1)       การสื่อสารที่ต้องอ้างอิงเอกสาร           

(2) การสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์

(3)       การสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคล       

(5) การสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

ตอบ 3            (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ฟิดเลอร์ ได้ลำดับพัฒนาการของเทคโนโลยีสื่อ 3 สื่อหลักที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ไว้ดังนี้ 1. เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล (The Interpersonal Domain) 2. เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (The Broadcast Domain) 3. เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (The Document Domain)

13.       ข้อใดต่อไปนี้ที่จัดเป็น New Media     

(1) รายการวิทยุ ไอทีทูเดย์

(2)       คอลัมน์ ก้าวทันยุค 4G” ในนิตยสารแพรว     (3) ละคร ดอกรักริมรั้ว บน Youtube

(4) ภาพซีเปีย  (5) ภาพยนตร์ระบบ Technic Color

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

14.       สื่อใดต่อไปนี้เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะ One-way Communication

(1)       วิทยุอินเทอร์เน็ต          (2) เว็บบอร์ดพันทิพ     (3) ภาพยนตร์ เดอะ ชัตเตอร์” ฉายในโรงภาพยนตร์

(4) ภาพยนตร์ ฮักนะ…สารคาม” บน Youtube (5) โปรแกรม Line บนโทรศัพท์เคลื่อนที่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ)

คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ได้แกj

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร และ จะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในช่วงเช้าของแต่ละวัน (มีข้อจำกัดด้านเวลา) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสาร ที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิ่งพิมพ์ที่จัดสรรให้ (มีข้อจำกัดด้านพื้นที่) เป็นต้น

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

4.         เป็นสื่อที่ไม่เน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสาร ซึ่งเป็นลักษณะการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)

15.       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ตรงกับข้อใด

(1)       สื่อท้องถิ่น       (2) สื่อโบราณ  (3) สื่อดั้งเดิม   (4) สื่อดึกดำบรรพ์       (5) สื่อใหม่

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

16.       ผู้อ่านหนังลือพิมพ์คมชัดลึก มีลักษณะตรงกับข้อใด 

(1) Active Seeker

(2)       Active Receiver (3) Passive Seeker (4) Passive Receiver (5) Negative Receiver

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 14. ประกอบ

17.       สื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า Interactive หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

18.       มีข้อจำกัดด้นเวลาและเนื้อที่ เป็นข้อจำกัดของ         

(1)       สื่อดั้งเดิม         (2) สื่อประเพณี           (3)       สื่อใหม่

(4)       สื่อดึกดำบรรพ์ (5)       สื่อท้องถิ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

19.       มีความน่าเชื่อถือ และเป็นสื่ออ้างอิงได้” คือ เหตุผลที่ทำให้สื่อแบบดั้งเดิมข้อใดต่อไปนี้ยังคงได้รับ ความสนใจจากผู้รับสารในปัจจุบัน          

(1) สื่อวิทยุกระจายเสียง

(2)       สื่อวิทยุโทรทัศน์          (3) สื่อสิ่งพิมพ์ (4) สื่ออินเทอร์เน็ต       (5) สื่อประเพณี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 4. ประกอบ

20.       เป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ” คือ เหตุผลที่ทำให้คบรุ่นเก่าไม่นิยม เปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใดต่อไปนี้

(1)       สื่อดั้งเดิม         (2) สื่อท้องถิ่น  (3)       สื่อเฉพาะกิจ    (4)       สื่อใหม่ (5)       สื่อประเพณี

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

21.       ข้อใดที่ให้คำนิยามเกี่ยวกับคำว่า “Information” และ “Data” ถูกต้อง

(1)       Information คือ Data ที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       Data คือ Information ที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       Information เป็นส่วนหนึ่งของ Data

(4)       ทั้ง Information และ Data มีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และ ไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ต้นฉบับภาพข่าวเพื่อนำลงฐานข้อมูลมติชนออนไลน์ เป็นต้น ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูล (Data) ที่ผ่านกระบวบการจัดการ หรือมีการ จัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารหรือไฟล์ภาพในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นต้น

22.       ข้อใดต่อไปนี้คือประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Proposal     

(2) Information Property 

(3) Information Promotion

(4) Information Priority    

(5) Information Privilege

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

มีอยู่ 4 ประเด็น คือ      1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property) 4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

23.       การรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้สื่อและจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลเพื่อเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อออนไลน์ขัดกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด       

(1) ความถูกต้อง

(2)       ความเป็นส่วนตัว        (3) ความเป็นเจ้าของ   (4) การเข้าถึงข้อมูล (5) การสงวนสิทธิแห่งพื้นที่

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) มีดังนี้

1.         การเข้าไปดูหรืออ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการ

ของพนักงาน 3. การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4. การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ทื่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

24.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 1123) ประเด็นที่พิจารเนาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy) ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการทีสื่อออนไลน์ไม่มีผู้ทำหน้าที่ ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” คือ บุคคลที่ทำหน้าที่ ตรวจสอบ คัดเลือก และตีความสารก่อนที่จะส่งผ่านไปยังผู้รับสาร มีดังนี้

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความจงใจหรือไม่

25.       ข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็นจริยธรรม Information Property

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้ผู้อื่น

(5)       การพยายามเจาะเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้อื่นผ่านโปรแกรมการสื่อสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่น การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้า ในราคาถูก ซึ่งซอฟต์แวร์มีหลายลักษณะ ได้แก่ Copyright or Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้, Shareware คือ ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้ เป็นต้น

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware ตรงกับข้อใด

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้เท่านั้น ห้ามทำซ้ำหรือเผยแพร่ทุกกรณี

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(5) ซอฟต์แวร์แบ่งปันสาธารณะ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

27.       ผลจากการที่สื่อออนไลน์ไม่มีผู้ทำหน้าที่ ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” คือ ประเด็นปัญหาจริยธรรมการสื่อสารผ่านสื่อสารสนเทศในข้อใด     

(1) Information Accuracy (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property (5) Data Accessory

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

ข้อ 28. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber Terrorist         (2) Cracker         (3) Copyright

28.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ด้านการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ได้แก่

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการสื่อสารบนเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแก่ข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist or Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

29.       Software License

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

30.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 28. ประกอบ

ข้อ 31. – 35. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Data          

(2) Application Software  

(3) Hardware

(4)       Information     

(5) Peopleware

31.       โปรแกรม AUTOCAD

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Software) คือ ชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ ได้แก่ โปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Word, Excel, PowerPoint, AUTOCAD ฯลฯ

32.       นักวิเคราะห์ระบบ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) และ นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ (System Analyst) ฯลฯ

33.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

34.       ต้นฉบับภาพข่าวเพื่อนำลงฐานข้อมูลมติชนออนไลน์

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

35.       ไฟล์ภาพในเว็บไซต์ www.pantip.com

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

36.       การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีชื่อย่อว่า CMC ตรงกับข้อใด

(1)       Compute! Medium Communication

(2)       Computer Maintained Communication (3) Computer Mediated Communication

(4) Computer Manual Communication   (5) Computer Mutual Communication

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 3 – 5), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือการสื่อสารผ่านส่อคอมพิวเตอร์ (Computer 

Mediated Communication ะ CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง

4.         เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

37.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมือใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมซองเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

(5)       เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ

38.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย   

(1) เสียง

(2)       สัญลักษณ์      (3) ข้อความ     (4) ภาพ           (5) แสง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

39.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสาร CMC

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       เป็นสื่อที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้กระทำการสื่อสาร

(5)       ทุกข้อ ยกเว้นข้อ 4

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารในลักษณะ CMC มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีภารติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

40.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal ตรงกับคำว่า   

(1)       ไร้ตัวตน           (2) ไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง    (3) ไม่ใช่บุคคล

(4) ไม่ใช่มนุษย์            (5) เสมือนไม่มีตัวตน

ตอน 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

41.       การสื่อสารผ่านโปรแกรม Chat เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วยจดหมายหรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail)

2.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ใน Blog ของเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านโปรแกรม Messenger (MSN)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์ต่าง ๆ

42.       การเขียนข้อความไว้ใน Blog เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

43.       การส่ง E-mail ไปยังบุคคลอื่น เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   (3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) ภารสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

44.       CMC เป็นการสื่อสารที่ เลือกที่รัก มักทีชัง” เพราะ           

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อและอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกสื่อสารเฉพาะกับบุคคลที่ตนเองรักใคร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(5)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะปฏิเสธบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการสื่อสารไปยัง ผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำห้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

45.       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน” เป็นผลกระทบของการสื่อสาร ผ่านสื่อในข้อใด          

(1) สื่อหนังสือพิมพ์

(2)       สื่อวิทยุกระจายเสียง (3) สื่อภาพยนตร์           (4) สื่อคอมพิวเตอร์      (5) สื่อวิทยุโทรทัศน์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง จนก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ทุกคน มีความเท่าเทียมกัน เพราะการสื่อสารในลักษณะ CMC ทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิด การเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือแนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       เพราะเหตุใดการประชุมผ่านสื่อ Teleconference ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่นสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

(5)       เพราะเป็นการสื่อสารผ่านหน้าจอขนาดเล็ก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูด มากกว่าการประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและ จังหวะในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

47.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง    (5) ข้อ 2 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะ Real Time ตรงกับข้อใด

(1)       สามารถนำเสนอข่าวและจัดเก็บข้อมูลข่าวเพื่อให้สืบค้นย้อนหลังได้

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       สามารถนำเสนอข่าวสารเสมือนจริง

(5)       สามารถสร้างความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

 ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

49.       รูปแบบการรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะ Multimedia หมายถึง

(1)       ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       อาศัยช่องทางในการผสมผสานสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว            (5) ไม่มีข้อใดถูก ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 48. ประกอบ

50.       ข้อใดกล่าวไว้ถูกต้องเกี่ยวกับ สื่อออนไลน์” ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม      (2) มีข้อจำกัดด้านระยะทางในการสื่อสาร

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา

(4)       มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด   (5) นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านเวลา แต่จำกัดด้านพื้นที่

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) ลักษณะเฉพาะของสื่อออนไลน์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)ของวงการสื่อสารมวลชนไทย มีดังนี้       

1. ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด           

3. น่าเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         นำเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเน้นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม ฯลฯ

51.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ Bulletin Board Newsgroup มีลักษณะ          

(1)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(2)       บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       บริการข่าวสารที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำหน้าที่เน้นผู้สื่อข่าวได้ด้วยตนเอง

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่มีผู้ดูแลควบคุมกระดานข่าว และแบบที่ไม่มีผู้ดูแล

52.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร     

(2) เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

(3)       เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร   

(4) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้นำประเทศ

(5)       เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการมีปฏิสัมพันธ์

ตอบ 4 

(ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 

2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 

4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

53.       ข้อไดไม่ใช่รูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะ One-way Communication

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์ บนสื่อออนไลน์ มีดังนี้ 1. ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดู ฉบับย้อนหลัง (Archive) 3. ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น 4. รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

54.       ข้อใดไม่ไข่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาซชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ และวิทยุบนสื่อออนไลน์ มีดังนี้           

1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสตฝานทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting)

2.         ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

3.         เก็บบันทึกรายการทีออกอากาศไปแล้วไว้ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4. ใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

5. มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

55.       ข้อใดต่อไปนี้คือข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Real Time

(4) นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Shifted Time

(5) นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Multimedia

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่ 1. การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลตอประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร 2. ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสาร จากกลุ่มข่าวต่าง ๆ 3. ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

4.         ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสารอย่างสิ้นเซิง

56.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ไม่มี Gatekeeper หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร

(4)       มีบรรณาธิการข่าว แต่ไม่อาจทราบตัวตนที่แท้จริง

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ5 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ของ การไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรร ข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่ง ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปลู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

57.       ผลกระทบจากการที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก

(4)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบจากการที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณ ในเรื่องในความสำนึกรับผิตชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม

2.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา ของข้อมูลข่าวสาร 3. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองหรือไม่ตระหนัก ต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

58.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1) ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์          (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3)       แบวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) แนวนโยบายด้านการเมืองของรัฐบาล

(5)       พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 2. ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล 4. บุคลากรในการทำงาน 5. ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ของประชากรในประเทศ 6. พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

59.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4)       นำเสนอข่าวตามประเด็นข่าวของสื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น 5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น ฯลฯ

60.       การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตรงกับคำว่า       

(1) Elective Commerce

(2)       Endless Commerce (3) Electronic Commerce

(4)       Evaluated Commerce      (5) Elected Commerce

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (ส่วนที่ 3 หน้า 5) แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตรงกับคำว่า Electronic Commerce (e-Commerce) ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าว มากขึ้น บอกจากนี้ยังเกิดการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจาก เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างความจงรักภักดีและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หากผู้บริโภค สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์นั้นได้โดยง่าย

61.       แนวโน้มสภพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทยในอนาคต คาดว่า

(1)       แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น       

(2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3)       สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน       

(4) สภาวะการแข่งขันเหมือนปัจจุบัน

(5)       คาดการณไม่ได้

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28) แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย ในอนาคต คาดว่าจะต้องแข่งขันกันทั้งสื่อที่มีอยู่ดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ ออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวโดยการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร มัลติมีเดีย ฐานข้อมูล รวมทั้งความน่าเชื่อถือของข่าวสาร

62.       หากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลขาวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(2)       พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       กำหนดมาตรการลดราคาสื่อคอมพิวเตอร์ไห้ถูกลง    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรสวนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและมีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 63. – 66. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Online Community (2) Online Newswires and Broadcaster

(3)       Internet   (4) ARPANET

63.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกัน ทั่วโลก

ตอบ3 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web : WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

64.       ชุมชนออนไลน์

ตอบ1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) บนพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

65.       องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนารูแบบการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ในลักษณะเครือข่าย

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนารูปแบบการสื่อสารผ่าน สื่อคอมพิวเตอร์ในลักษณะเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ต (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบ โปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

66.       กลุ่มองค์กรข่าวออนไลน์

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 19) กลุ่มองค์กรข่าวออนไลน์ (Online Newswires and Broadcaster)เป็นบริการของหน่วยงานที่ทำธุรกิจทางด้านข่าวสารตาง ๆ เช่น CNN, Reuters และ อ.ส.ม.ท. เป็นต้น

ข้อ 67. – 70. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyberspace      (2) IP Video Conference

(3)       TCP  (4) World Wide Web

67.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

68.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

69.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้สาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบมัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

70.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หนา 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 71. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

71.       บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ค. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่าย กาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการ เทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

72.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลภ

73.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.siamnet-or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคม พ.ค. 2536 เนคเทค (NECTEC) ได้เปิดให้บริการ WWWเป็บครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

74.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณที่ควรแก่การบันทึกดังนี้

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนทีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรกคือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต ต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

75.       ประเทศไทยเปิดใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดู.คำอธิบายข้อ 74. ประกอบ

76.       สื่อออนไลน์เป็นสื่อดั้งเดิมและเป็นสื่อที่มีความคงทนสูง ส่วนสื่อวิทยุกระจายเสียงเป็นสื่อใหม่และเป็นสื่อทีมีความคงทนต่ำ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Electronic Mail

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

78.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวเสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าไข้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

79.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูง เพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

80.       การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. เพื่อติดต่อสื่อสาร 2. เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และ 3. เพื่อดัดแปลงข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

81.       เหตุที่กล่าวว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อสารมวลชนเพราะ   

(1)       เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้รับสารจำนวนมากในสังคม

(2)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารจำนวนมากในสังคมเข้าถึงอย่างเสมอภาค

(3)       เป็นสื่อสาธารณะ

(4)       สามารถตอบสนองการทำงานของทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์

(5)       สามารถเข้าถึงผู้รับสารได้จำนวนมากในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีความสามารถ ในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษ อื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตาเพราะ      

(1)       เป็นสื่อทีมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อทีมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล

(4)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมวลชนที่มีหลกหลาย รูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการ สื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน หรือการสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       แนวคิด Public Sphere ของ Habermas กล่าวไว้ว่า         

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลรวมกลุ่มกันเป็นชุมชนออนไลน์    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่อง พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

84.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2) ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน

(4)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน

(5)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนต่างเครือข่ายกัน

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมบนพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       เป็นการสร้างสังคมบนพื้นที่เสมือน    

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1  ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

86.       คำกล่าวที่ว่าโลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายความว่าอย่างไร

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       การสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าคาตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสารแบบ เห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันใช้การสื่อสารแบบออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกัน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่มคนที่ เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

87.       เหตุที่กล่าวว่า ระบบ(ครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะ 

(1)       เป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       เป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะเป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่ที่รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลด้านวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และด้านอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือตามหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       ข้อใดไม่นับเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(2)       เป็นช่องทางในการเจาะข้อมูลลับทางการเงินขององค์กรอื่น

(3)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(4)       เป็นช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการ

(5)       เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์องค์กร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

89.       คำว่า “Web Aholic” ตรงกับข้อใดต่อไปนี้      

(1) รังเกียจสื่ออินเทอร์เน็ต

(2)       เสพติดสื่ออินเทอร์เน็ต (3) ปฏิเสธสื่ออินเทอร์เน็ต

(4)       คุ้นเคยสื่ออินเทอร์เน็ต (5) หวาดกลัวสื่ออินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 21-22) อาการของโรคเสพติดอินเทอร์เน็ต (Web Aholic) มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดไช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

4.         หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง

5.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต ตรงกับข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูลในเครื่อง คอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครอง ทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

(5)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลอง ตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ทั้งนี้หนอนอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก

91.       Decentralized Media เป็นลักษณะเฉพาะตัวของการสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ตรงกับข้อใด

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ลดบทบาทและอำนาจของผู้ส่งสารให้น้อยลง

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า “Decentralized Media” กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้ง ผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ข้อใดคือบทบาทของ ผู้ส่งสาร” บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสาร คือ คนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4)       ทุกคบมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร หากแต่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการดำเนินการ

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อบทบาทของผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เรา เป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย จึงทำให้อำนาจในการผลิตสื่อหรือ การเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ดังนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึง เทคโนโลยี

93.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       ผู้รับสารสามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง

(4)       ผู้รับสารมีความกล้าในการแสดงความคิดเห็นของตนเองมากขึ้น      

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หนา 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจาก สื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่าย ที่ตนเองเลือก หรือเป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสาร หรือกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเองไปยังบุคคลอื่น มากขึ้น ฯลฯ

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สาร” มีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ สาร” เพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สาร” ที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

(5)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อต่อไปนี้กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม” ยกเว้นข้อใด

(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       โปรแกรมสนทนาออนไลน์ มุ่งให้สนทนาแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางกรรโชกทรัพย์

(4)       เว็บไซต์ Twitter มุ่งเป็นเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม แต่กลับใช้ส่งข้อความสนทนาออนไลน์ระหว่างกัน

(5)       เว็บไซต์เครือข่าย Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็น ช่องทางล่อลวงทางเพศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 12ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี การสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น ดาบสองคม” คือ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ได้แก่

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม เช่น hi5 Twitter และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ

4.         โปรแกรมสนทนาออนไลน์ (Chat) มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากันแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางล่อลวงกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ

96.       การจัดทำภาพหรือเนื้อหาที่มีลักษณะหมิ่นประมาทผ่านเครือขายออนไลน์ ขัดกับจริยธรรมข้อใด

(1) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ          (2) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ     (3) ความเป็นเจ้าของ

(4)       การเข้าถึงข้อมูล          (5) ความถูกต้องของข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ คือ การตระหนักถึงความเหมาะสม และไม่เหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์ (เช่น ในเว็บไซต์ เกม หรือ สื่อบันเทิงอื่น ๆ) โดยควรระวังการเผยแพร่เนื้อหาดังนี้ 1. เนื้อหาหรือภาพลามกอนาจาร 2. เนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท 3. เนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก 4. เนื้อหาที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรุนแรง ก้าวร้าว

97.       ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งสารถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จำกัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งสารถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถอำพรางตัวตนที่แท้จริงของตนเอง

(4)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับสารถึงผู้รับ

(5)       ผู้ส่งสามารถส่งสารจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็ว

ตอบ 3 (สวนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งสารหรือจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการโดยไม่จำกัด

2.         ผู้ส่งสามารถส่งสารหรือจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ผู้สงสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับสารหรือจดหมายถึงผู้รับได้

4.         ผู้ส่งลามารถส่งข้อมูลข่าวสารจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันที ฯลฯ

98.       กฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์และสื่อสารสนเทศที่ประกาศบังคับใช้แล้ว คือ

(1)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

(5)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2554

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อสารสนเทศ ซึ่งประกาศบังคับใช้แล้วในปัจจุบัน ได้แก่

1.         พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

99.       ชื่อเต็มของกระทรวงไอซีที คือข้อใด   

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) กระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร

(4)       กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ

(5) กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศการสื่อสาร

ตอบ 1 (สวนที 1 หน้า 13) องค์กรที่ให้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่

1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)       2. กระทรวงมหาดไทย

3.         กระทรวงกลาโหม       4. กระทรวงยุติธรรม    5. กรมสอบสวนคดีพิเศษ

6.         กรมประชาสัมพันธ์      7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ

9 กองทัพบก   10.กองทัพอากาศ       11.กองทัพเรือ

100.    นักศึกษาคิดว่าในการกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ข้อใดต่อไปนี้ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ต่อประชาชนในสังคมอย่างยั่งยืนที่สุด

(1)       การตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้

(2)       การร่วมมือกันระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง

(3)       การรณรงค์ให้ประชาชนในสังคมเกิดจิตสำนึกที่ดีในการสื่อสารผ่านสื่อดังกล่าว

(4)       ผู้นำประเทศกำหนดนโยบายในการกำกับและควบคุมที่เข้มงวด โดยรณรงค์ผ่านสื่อสารมวลชนต่อเนื่อง

(5)       ใช้ผู้มีชื่อเสียงในสังคมเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักในการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์

ตอบ(ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) มาตรการในการกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่าน

สื่ออินเทอร์เน็ตที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อประชาชนในสังคมอย่างยั่งยืนที่สุด คือ การสร้าง จริยธรรมที่ดีในการใช้อินเทอร์เน็ตต่อผู้ใช้ในสังคม โดยการรณรงค์ให้ประชาชนในสังคมเกิด จิตสำนึกทีดีในการสื่อสารผ่านสื่อดังกล่าว และต้องระดมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่1

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 1

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         องค์ความรู้ที่มีอยู่ในอารยธรรมเพื่อใช้ในการเพิ่มพูน ฝึกหัดด้านศิลปะ และทักษะความชำนาญเพื่อให้ได้มาซึ่งวัสดุ หมายถึง 

(1) วิทยาศาสตร์

(2)       เทคโนโลยี       

(3) วิทยาการ   

(4) กระบวนการ          

(5) ภูมิปัญญา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) พจนานุกรมเว็บสเตอร์ (Webster)ได้ให้ความหมายของคำว่า เทคโนโลยี” (Technology) ไว้ประการหนึ่งว่า หมายถึง องค์ความรู้ที่มีอยู่ในอารยธรรมเพื่อช้ในการเพิ่มพูน ฝึกหัดด้านศิลปะ และทักษะความชำนาญเพื่อให้ได้มาซึ่งวัสดุ

2.         ข้อดต่อไปนี้กล่าวไว้ถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์

(1)       วิทยาศาสตร์เกิดจากพื้นฐานทางเทคโนโลยีรองรับ

(2)       เทคโนโลยีเป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการผลิตของมนุษยชาติ

(3)       วิทยาศาสตร์เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อก่อประโยชน์ต่อมนุษยชาติ

(4)       เทคโนโลยีแท้จริงแล้ว คือ วิทยาศาสตร์

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น กล่าวคือ เทคโนโลยีเกิดจากพื้นฐานหรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์รองรับ หรืออาจกล่าวได้ว่าเทคโนโลยี เป็นการประยุกต์หรือนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการผลิต และก่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติแก่มวลมนุษยชาติ

3.         ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของเทคโนโลยีในกระบวนการทำงาน

(1)       ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพ         

(2) ช่วยให้เกิดประสิทธิผล      

(3) ช่วยให้เกิดความทันสมัย

(4) ช่วยประหยัดเวลา  

(5) ช่วยประหยัดแรงงาน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 3) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน หรือการพัฒนางานสาขาใด สาขาหนึ่ง รวมทั้งด้านการสื่อสารนั้น มีประโยชน์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่

1.         ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพ (Efficiency)     2. ช่วยให้เกิดประสิทธิผล (Productivity)

3. ช่วยให้ประหยัด (Economical) ทั้งเวลาและแรงงาน

4.         ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้อง

(1)       ภาษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์

(2)       ภาษาถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(3)       ภาษาพูดเป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน

(4)       ภาษาเขียนเป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาพูด

(5)       ภาษาพูดจัดเป็นวัจนภาษา

ตอบ4  (ส่วนที่ 1 หน้า 4 – 5), (คำบรรยาย) ภาษาถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(Communication Code) กล่าวคือ ภาษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” (Agents of Change) ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษยชาติ โดยภาษาพูด (Spoken Language) เป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน (Written Language) ซึ่งทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนนี้จัดเป็นวัจนภาษา (Verbal Language) หรือภาษาที่ใช้ถ้อยคำ

5.         สื่อออนไลน์เป็นผลจากการนำ…………….มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีแห่งการสื่อสารของมนุษย์ในสังคมอย่างยิ่งยวด (จงเติมคำในช่องว่าง)          

(1) วิทยาศาสตร์

(2)       วิทยาการ         (3) เทคนิค       (4) เทคโนโลยี  (5) องค์ความรู้

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6), (คำบรรยาย) สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลขหรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร จนก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีแห่งการสื่อสารของมบุษยชาติ ส่งผลให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web (เช่น เว็บบอร์ดพันทิบ)สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นิตยสารออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

6          ……………. เป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย เพราะเห็นว่าเป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยีเกินกว่าจะเช้าถึง       

(1) สื่อพื้นบ้าน

(2)       สื่อเฉพาะกิจ    (3) สื่อดั้งเดิม   (4) สื่อใหม่       (5) สื่อโบราณ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7ส่วนที่ 2 หน้า 317) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker คือ ผู้รับสารกระตือรือร้นเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ (Interactive) หรือการปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร ในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication)

3.         เป็นสื่อที่ไม่มีข้อจำกัดในด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่

4.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย และอาจไม่ยอมเปิดรับหรือเข้าไม่ถึงสื่อใหม่ เพราะประเมินว่า ตนเองไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

7.         สื่อใดต่อไปนี้เป็นสื่อที่ผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน          

(1) สื่อพื้นบ้าน

(2)       สื่อเฉพาะกิจ    (3) สื่อดั้งเดิม   (4) สื่อใหม่       (5) สื่อโบราณ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร และจะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารนำเสนอหรือส่งสารผ่านสื่อหรือช่องทางการสื่อสาร มาสู่ผู้รับสารเท่านั้น

2.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในช่วงเช้าของแต่ละวัน (มีข้อจำกัดด้านเวลา) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสาร ที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิ่งพิมพ์ที่จัดสรรให้ (มีข้อจำกัดด้านพื้นที่) เป็นต้น

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

4.         เป็นสื่อที่ไม่เน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสาร ซึ่งเป็นลักษณะการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)

8.         ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)

(1) หนังสือพิมพ์หัวสี

(2)       หนังสือพิมพ์แทบลอยด์           (3) หนังสือพิมพ์ออนไลน์

(4) หนังสือพิมพ์บรอดชีท         (5) หนังสือพิมพ์รายวัน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

9.         ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอับเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน   (5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6), (คำบรรยาย) สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิงพิมพ์ (เช่น มติชนสุดสัปดาห์ นิตยสารโลกไอที ฯลฯ)สื่อวิทยุกระจายเสียง (เช่น คลื่นวิทยุ สวพ. 91)สื่อภาพยนตร์สื่อวิทยุโทรทัศน์ (เช่น รายการ รู้เท่าทัน 4G” ทางสถานีโทรทัศน์ TNN) เป็นต้น

10.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       คลื่นวิทยุ สวพ. 91       (2)       ผู้จัดการออนไลน์         (3)       มติชนสุดสัปดาห์         (4) นิตยสารโลกไอที

(5)       รายการ รู้เท่ากัน 4G” ทางสถานีโทรทัศน์ TNN

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 5. และ 9. ประกอบ

11.       สื่อประเภทใดที่ผู้รับสารจะได้รับข้อมูลข่าวสาร ก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารส่งสารผ่านช่องทางการสื่อสารมาสู่ผู้รับสารเท่านั้น

(1) สื่อพื้นบ้าน

(2)       สื่อเฉพาะกิจ    

(3)       สื่อดั้งเดิม         

(4)       สื่อใหม่ 

(5) สื่อโบราณ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

12.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายตรงกับข้อใด

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดอยู่นิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(4)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น

(5)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอสารผ่านสื่อเท่านั้น

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

13        สื่อข้อใดต่อไปนี้ที่ผู้รับสารมีลักษณะเป็น Active Seeker

(1)       หอกระจายข่าว            

(2) เว็บบอร์ดพันทิบ     

(3) วิทยุชุมชน

(4) ภาพยนตร์ระบบสามมิติ    

(5) หนังสือพิมพ์รายสามวัน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 5. และ 6. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Passive Receiver มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

(2)       ผู้รับสารที่ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน     (3) ผู้รับสารที่มีลักษณะเหงาหงอย เซื่องซึม

(4) ผู้รับสารที่ขาดทักษะทางด้านการอ่านออกเขียนได้ (5) ผู้รับสารที่มีทัศนคติทางลบต่อเทคโนโลยี

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

15.       สื่อใหม่เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า Interactive หมายถึง(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ทางบวกระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร      (5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

16        ………….ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่ เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของ…………(จงเติมคำในช่องว่างทั้งสองแห่งตามลำดับ)          

(1) สื่อใหม่/สื่อดั้งเดิม  (2) สื่อดั้งเดิม/สื่อใหม่

(3)       สื่อมวลชน/สื่อท้องถิ่น  (4) สื่อท้องถิ่น/สื่อมวลขน        (5) สื่อใหม่/สื่อเฉพาะกิจ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 6. และ 7. ประกอบ

17.       สื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม เพราะ           

(1)       สื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(2)       สื่อหนังสือพิมพ์มีความนำเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(3)       สื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกับได้

(4)       สื่อหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีความคงทนต่ำ       (5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6,16), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษ (Newspaper) จัดเป็นสื่อสารมวลชน สื่อแรกของโลกที่ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะ สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูลข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

18.       เหตุผลข้อใดที่ทำให้คนรุ่นเก่าไม่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใหม่

(1)       เพราะเป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้

(3)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเข้าถึงสื่อ

(4)       เพราะเป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย     (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 6. ประกอบ

19.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กับอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(4)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการคัดกรองและตรวจสอบแล้ว

(5)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคัดกรองและตรวจสอบแล้ว

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) คำว่า สารสนเทศ” (Information) กับ ข้อมูล” (Data)มีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวบการจัดการ หรือมีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน ทำให้สารสนเทศกับข้อมูลมีการใช้สลับกันอยู่บ้าง แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัด คือ ข้อมูล (Data) เป็นกลุ่มของข้อความที่ไม่ได้จัดการรูปแบบ และไม่สามารถนำมาใช้งานได้ จนกว่าจะมีการจัดระเบียบและดึงข้อมูลออกมาใช้ในรูปแบบ ของสารสนเทศ

20.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่จัดอยู่ในประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Property (2) Information Privilege (3) Information Accuracy

(4)       Information Privacy         (5) Data Accessibility

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

มีอยู่ 4 ประเด็น คือ     

1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy)

3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)

4.         การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

21.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรม ด้านเทคโนโลยีการลื่อสารข้อใด    

(1) ความถูกต้อง

(2)       ความเป็นส่วนตัว        

(3) ความเป็นเจ้าของ   

(4) การเข้าถึงข้อมูล     

(5) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) มีดังนี้

1.         การเข้าไปดูหรืออ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

22.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือข้อใด

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3    (5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (ส่วนที่ 2 หน้า 23) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy) ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทาง สื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สื่อออนไลน์ไม่มีผู้ทำหน้าที่ ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” คือ บุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ คัดเลือก และตีความสารก่อนที่จะส่งผ่านไปยังผู้รับสาร มีดังนี้

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความจงใจหรือไม่

23.       ข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็นจริยธรรม Information Property

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

(5)       การพยายามเข้าไปยังฐานข้อมูลของผู้อื่นผ่านโปรแกรมการสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่น การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้า ในราคาถูก ซึ่งซอฟต์แวร์มีหลายลักษณะ ได้แก่ Copyright or Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้, Shareware คือ ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้ เป็นต้น

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

24.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(5)       ซอฟต์แวร์ที่จัดทำขึ้นเพื่อแบ่งปันกันใช้งานอย่างเสรี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

25.       ‘‘ข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำเข้าฐานข้อมูล” เป็นข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับประเด็นจริยธรรมข้อใด         

(1)       Information     Accuracy  (2)       Information     Privacy

(3)       Data Accessibility    (4)       Information     Property  (5)       Information          Society

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ข้อเสนอแนะหรือแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับประเด็นความถูกต้อง

(Information Accuracy) มีดังนี้

1.         ข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำเข้าฐานข้อมูล และควรปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ

2.         ควรให้สิทธิ์แก่บุคคลในการเข้าไปตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลของตนเองได้ เช่น ผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูลของเว็บไซต์

26.       Hacker เป็นกลุ่มผู้กระทำการที่มีพฤติกรรมขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด

(1)       Information Accuracy      (2)       Information     Privacy     (3)       Data Accessibility

(4)       Information Property      (5)       Information     Society

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด จริยธรรมด้านการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ได้แก่

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการสื่อสารบนเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแก่ข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist or Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 27 – 30

(1)       จริยธรรมผู้จัดทำสื่อ (2) จริยธรรมผู้ใช้สื่อ        (3) Cyber Crime (4) Hacker

27.       การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) ปัญหาด้านจริยธรรมที่ขัดกับประเด็นการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime or Cyber Crime) คือ การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือ ความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการก่อกวนโดยกลุ่ม Hacker, Cracker, Hacktivist or Cyber Terrorist ฯลฯ

28.       การตระหนักถึงความเหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ คือ การตระหนักถึงความเหมาะสม และไม่เหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์ (เช่น ในเว็บไซต์ เกม หรือ สื่อบันเทิงอื่น ๆ) โดยควรระวังการเผยแพรเนื้อหา ดังนี้ 1. เนื้อหาหรือภาพลามกอนาจาร

2.         เนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท 3. เนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง ปลุกปั่นให้เกิด ความแตกแยก 4. เนื้อหาที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรุนแรง ก้าวร้าว

29.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการสื่อสารบนเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไป ทำความเสียหายแก่ข้อมูล

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ

30.       ประเด็นปัญหาการใช้โปรแกรมการสื่อสารสองทางออนไลน์เพื่อล่อลวงทางเพศ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ/ผู้บริโภค คือ การใช้สื่อในทางที่ไม่ถูกไม่ควร หรือผิดไปจากวัตถุประสงค์ของผู้จัดทำสื่อ เช่น ปัญหาการใช้โปรแกรม Camfrog เพื่อโชว์หรือ แสดงภาพลามกอนาจาร ปัญหาการใช้โปรแกรมการสื่อสารสองทางออนไลน์เพื่อล่อลวงทาง เพศ/อาชญากรรม เป็นต้น

จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 31. – 33.

(1)       Copyright                

(2) Freeware         

(3) Shareware

31.       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

32.       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

33.       Software License

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

34.       ข้อใดต่อไปนี้คือความหมายของ Computer Mediated Communication (CMC) ที่ถูกต้องที่สุด

(1)       การสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์       

(2) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(3)       การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นจุดศูนย์กลาง 

(4). การสื่อสารด้วยเทคนิคคอมพิวเตอร์

(5)       การสื่อสารด้วยระบบคอมพิวเตอร์

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 3 – 4), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือการสื่อสาร ผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (Computer Mediated Communication : CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือพื้นที่ใดก็ได้ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง

4.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้รับสารมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ส่งสารในลักษณะ Interactive

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

6.         เป็นสื่อที่นำเนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทีมีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องพื้นที่ในการนำเสนอสาร

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

(5)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้รับสารมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ส่งสารในลักษณะ Interactive ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์เป็นการสื่อสารด้วย…………    

(1) สัญลักษณ์

(2)       เสียง    (3) ข้อความ     (4) ภาพ           (5) แสง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์เป็นการสื่อสารด้วยข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของ CMC

(1)       เป็นสื่อที่ผู้กระทำการสื่อสารสามารถปิดบังตัวตนที่แท้จริง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       เป็นสื่อที่นำเสนอข้อมูลผ่านจอสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก

(4)       เป็นสื่อที่ใช้ไฟฟ้า หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาของผู้ส่งสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารในลักษณะ CMC มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

(5)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลพร้อมกับทันทีทันใด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วยจดหมายหรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail)

2.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ใน Blog ของเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านโปรแกรม Messenger (MSN)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์ต่าง ๆ

39.       การเขียนข้อความไว้ในเว็บไซต์ Facebook เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

(5)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลพร้อมกันทันทีทันใด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       คำกล่าวในข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ถูกต้องที่สุด

(1)       ผู้กระทำการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มีบทบาทเป็นผู้รับสารเท่านั้น

(2)       ผู้กระทำการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มีบทบาทเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะจากบนลงล่าง

(4)       การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะจากล่างสู่บน

(5)       ผู้ส่งสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการสร้างและเผยแพร่สารสู่ผู้รับสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 12), (คำบรรยาย) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) ช่วยลดบทบาท การสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง จนก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ทุกคนมีความ เท่าเทียมกัน เพราะการสื่อสารในลักษณะ CMC จะมีทั้งผู้นำและผู้ตาม แต่ไม่มีผู้นำที่มีบทบาท เป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการสื่อสาร ที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือแนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความ เท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสาร ระหว่างบุคคล คือ ทุกคนมีบทบาทเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร ได้อย่างเสมอภาคกัน

41.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า CMC เป็นการสื่อสารที่ ‘’เลือกที่รัก มักที่ชัง

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อและอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(3)       ผู้ลื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะสื่อสารกับบุคคลที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(5)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะสื่อสารกับบุคคลที่รัก หรือเลือกที่จะไม่สื่อสารกับคนที่ชังอย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือ คัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยที่ทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสาร ไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางมีลักษณะ Impersonal คำนี้หมายถึงข้อใด

(1)       ไม่มีตัวตน        

(2) ไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง    

(3) ไม่มีความเป็นบุคคล

(4)       เสมือนไร้ตัวตน            

(5) ไม่มีข้อดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1)       การติดต่อลื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       หากผู้ใช้สื่อหมกมุ่นกับการลื่อสารผ่านสื่อดังกล่าวมากเกินไป อาจนำไปสู่โรคติดอินเทอร์เน็ต

(4)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(5)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 9 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบที่เป็นภัยต่อสังคมของการสื่อสารในลักษณะ CMC มีดังนี้ 1. การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคล ลดน้อยลง    2. ทักษะทางสังคม (Social Skills) ถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี(Technical Skills) 3. เป็นช่องทางในการหลอกลวงหรืออำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสาร กับผู้รับสาร         4. ลดทอนความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ลง

5.         หากผู้ใช้สื่อหมกมุ่นกับการสื่อสาร CMC มากเกินไป อาจนำไปสู่โรคติดอินเทอร์เน็ต (ส่วนตัวเลือกข้อ 4 เป็นผลกระทบทางสังคมในเชิงบวกหรือเชิงสร้างสรรค์)

44.       การประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้งเพราะ

(1)       ความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(2)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(3)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้วัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(4)       ระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(5)       ภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูด มากกว่าการประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและ จังหวะในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำ มีเพียงผู้ตาม

(5)       ข้อ 1 และ 3

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 40. ประกอบ

46.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)

(2)       ไม่มีอุปสรรคต้านระยะทาง

(3)       ให้ข้อมูลโดยไม่จำกัดด้านเวลา แต่จำกัดด้านพื้นที่

(4)       มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

(5)       สามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Real Time

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16 – 17) ลักษณะเฉพาะของสื่อออนไลน์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย มีดังนี้

1.         ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

2.         มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

3.         นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         นำเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         สามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Real Time ฯลฯ

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1)       สามารถเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       สามารถนำเสนอข่าวสารได้ใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(5)       สามารถนำเสนอข่าวสารได้ตรงตามความสนใจของผู้รับสารในช่วงเวลานั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยัง ผู้ส่งสารอย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

48.       การรายงาบข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(2)       ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(3)       ใช้องค์ประกอบด้านการประสมสื่อในการรายงานข่าว

(4)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(5)       อาศัยการประสาบการทำงานของบุคลากรหลายฝ่ายในการรายงานข่าว

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       กระดานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ     

(1)       บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่ เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดี และได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       บริการกระดานข่าวโดยผู้อ่านกลุ่มข่าวที่แตกต่างกัน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่มีผู้ดูแลควบคุมกระดานข่าว และแบบที่ไม่มีผู้ดูแล

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร

(2)       เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(3)       เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม

(4)       เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

(5)       เพื่อใช้ประโยชน์จากช่องทางการสื่อสารแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร    2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด          4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านช่องทางการสื่อสารแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสาร

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์มีลักษณะอย่างไร

(1)       ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       นำเสนอข่าวสารโดยคำนึงถึงความต้องการ/ความสนใจของผู้รับสารเป็นสำคัญ

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์ บนสื่อออนไลน์ มีดังนี้     

1. ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

2.         มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive)

3.         ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น

4.         รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที

6.         นำเสนอข่าวสารโดยคำนึงถึงความต้องการและความสนใจของผู้รับสารเป็นสำคัญ ฯลฯ

52.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีช่องทางในการสื่อสารตอบกลับจากผู้รับสารมายังผู้ส่งสารต้นทาง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ และวิทยุบนสื่อออนไลน์ มีดังนี้            1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting) 2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของ รายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี     3. เก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         ใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์เพื่อสื่อสารตอบกลับจากผู้รับสารมายังผู้ส่งสารต้นทาง ฯลฯ

53.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ไม่มี Gatekeeper หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร

(4)       มีผู้ทำหน้าที่บรรณาธิการ แต่ก็เสมือนไม่มี     

(5) ข้อ 1 และ 3

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ของการไม่มีนายทวารผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่ คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาท เป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

54.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทใบการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางใบการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

(5)       ไม่มีผู้ทำหน้าที่ Gatekeeper

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่

1.         การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

2.         ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

3.         ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

4.         ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารผู้เฝ้าประตูข้อมูลข่าวสาร (Gatekeeper) อย่างสิ้นเชิง

55.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นผลกระทบที่เกิดจากกรณีสื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก

(4)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารสอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว โดยผู้รับสารไม่อาจแยกแยะระหว่าง ข้อเท็จจริงกับความคิดเห็บได้ชัดเจน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบจากการที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณ หรือขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม

2.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

3.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองหรือไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของ ข้อมูลข่าวสาร ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

4.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารสอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว โดยผู้รับสารไม่อาจแยกแยะ ระหว่างข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นได้ชัดเจน ฯลฯ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1)       ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

(2)       ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3)       แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล

(4)       โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

(5)       พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 2. ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล 4. บุคลากรในการทำงาน 5. ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ของประชากรในประเทศ 6. พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย คือข้อใด

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4)       ไม่มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้ส่งสารต้นทาง 

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น 5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น ฯลฯ

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคต คาดว่า           

:(1) แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น         (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3)       สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน        (4) ไม่สามารถคาดการณ์ได้

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ หน้า 28) แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย ในอนาคต คาดว่าจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อที่มีอยู่ดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ ออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวโดยการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร มัลติมีเดีย ฐานข้อมูล รวมทั้งความน่าเชื่อถือของข่าวสาร

59.       แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) น่าจะเป็นอย่างไร  เพราะอะไร

(1)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการซื้อขายผ่าน e-Commerce มากขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ขยายตัวมากขึ้นตามความต้องการทั้งของผู้ประกอบการและผู้บริโภค

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (ส่วนที่ 3 หน้า 5) แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce ะ e-Commerce) ในประเทศไทย จะขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเกิดการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจากเป็นช่องทางหนึ่ง ที่สามารถสร้างความจงรักภักดีและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หากผู้บริโภคสามารถเข้าถึง สื่อออนไลน์นั้นได้โดยง่าย

60.       หากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้นภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอับดับแรก

(1)       พัฒนาความรู้และทักษะของประชาขนเกี่ยวกับการใช้สื่อคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์

(2)       ส่งเสริมให้ประชาขนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       จัดหาคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในสถานที่สาธารณะอย่างครอบคลุม

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่าสื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

61.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่โลกสามารถ ทำการติดต่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

62.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เขื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน  เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web : WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

63.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ. 4            (ส่วนที 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

64.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่ายทางการทหาร ในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ต (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อ เข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

            จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 65. – 68.

(1)       TCP  (2) IP Video Conference

(3)       Cyberspace      (4) World Wide Web

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 62. ประกอบ

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้สาธิตการเชื่อมต่อ

อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบ มัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อลื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่ลื่อสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่น และเริ่มใช้งานที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันพระปกเกล้า

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 51013) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail) เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (เดือนมิถุนายน) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

70.       ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา กระทรวงไอซีทีได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และ เป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาๆ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการ เทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 เนคเทค (NECTEC) ได้เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารกรุงเทพ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแก่การบันทึก ดังนี้

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ

2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่า3ประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศเกาหลีใต้

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน

เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพี่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร        2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Express Mail

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 69. ประกอบ

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคน เข้ามาคุยพร้อมกันได้ในลักณะ Real Time

ตอบ1  (ส่วนที่ 2หน้า 5ส่วนที่ 3หน้า 11 – 12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกับได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol : FTP) บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 ลักษณะ คือ 1. แบบ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วยไม่ต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         แบบ Online ที่ผู้ติดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพี่อส่งผ่านข้อมูลโต้ตอบกัน แบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

80.       Intranet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพี่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

81.       ข้อใดคือเหตุผลที่ทำให้อินเทอร์เน็ตถูกจัดเป็นสื่อสารมวลชน (Mass Media)

(1)       สามารถเข้าถึงผู้รับสารจำนวนมาก

(2)       สามารถตอบสนองการทำงานของสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์

(3)       เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้รับสารจำนวนมากในสังคม

(4)       เป็นสื่อที่มุ่งเป็นช่องทางในการสื่อสารกับมวลชนเป็นสำคัญ 

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน (Mass Media) เพราะมีความสามารถในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ เทคนิคพิเศษอื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตาเพราะ       

(1)       เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2) เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

(3)       เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล

(4)       เป็นช่องทางการสื่อสารมวลชน           

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลาย รูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการ เป็นช่องทางการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน หรือการสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ ด้วยเหตุที่

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(4)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากพื้นที่ส่วนตัวไปสู่พื้นที่สาธารณะ         (5) ไม่มีข้อใดถูก ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

84.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริง ด้วยเหตุที

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นทีที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้สาธารณชนสื่อสารไปยังบุคคลได้          (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่อง พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอินจนเป็นมวลชนได้

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นการสร้างเครือข่ายสังคมในพื้นที่เสมือน ก่อให้เกิด………  

(1)       สังคมออนไลน์ (2) มวลชนออนไลน์     (3) ชุมชนออนไลน์

(4)       กลุ่มชนออนไลน์          (5) ประชาคมออนไลน์

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) บนพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่

(1)       เพราะเป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       เป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่            (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะเป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่ที่รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลด้านวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และด้านอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือตามหัวข้อที่ตนสนใจ

87.       คำกล่าวที่ว่าโลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทั้งการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตา ต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็บหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากับใช้การสื่อสารแบบออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกัน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึงการสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็บหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่มคนที่ เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

88.       ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(2)       เป็นช่องทางในการสร้างเครือข่ายชุมชนออนไลน์

(3)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(4)       เป็นช่องทางในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ

(5)       เป็นช่องทางในการส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของสื่ออินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์

4.         เป็นช่องทางส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ

5.         เป็นช่องทางทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

89.       อาการติดอินเทอร์เน็ต” มีลักษณะ…………. 

(1)       รู้สึกหงุดหงิดเมื่อวันไหนไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       หาเหตุผลหลอกคนอื่นเกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต     (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการของโรคเสพติดอินเทอร์เน็ต (Web Aholic) มีลักษณะ ดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

4.         หาเหตุผลหลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง

5.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครอง ทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

(5)       โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อครอบครองระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลอง

ตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ทั้งนี้หนอนอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก

91.       Decentralized Media เป็นคุณสมบัติของสื่ออินเทอร์เน็ต หมายถึง

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารและผู้ส่งสารต่างเป็นจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า “Decentralized Media” กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้ง ผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       สื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสาร คือ คนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร หากแต่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการดำเนินการ

(5)       ข้อ 1 และ 3

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อบทบาทของผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เรา เป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย จึงทำให้อำนาจในการผลิตสื่อหรือ การเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ดังนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึง เทคโนโลยี

93.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง

(4)       ผู้รับสารมีช่องทางในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้น และเป็นช่องทางที่เอื้อประโยชน์ต่อการตัดสินใจ

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะ ดังนี้ 1. ผู้รับสารสามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่าย ที่ตนเองเลือก หรือเป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน 2. ผู้รับสารมีความเป็นอิสระ และพึ่งพาตนเองได้   3. ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจ

ของตนเอง       4. ผู้รับสารกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเองไปยังบุคคลอื่นได้มากขึ้น

5.         ผู้รับสารมีช่องทางในการส่งผ่านและเปิดรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้น ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อ การตัดสินใจได้ ฯลฯ

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

(5)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อับเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า “Usenet” หมายถึง           

(1) Useful Network          (2)  User Internet (3) User Network

(4) Useful Internet (5) Useless Network

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) คำว่า “Usenet” มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว (Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถ นำข่าวสารหรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยน ข้อมูลในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

96.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม

(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับมีการนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับมีการเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือข่าย Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้ เป็นช่องทางล่อลวงทางเพศ

(4)       โปรแกรมสนทนาออนไลน์ มุ่งให้คู่สนทนาสื่อสารกันในลักษณะ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงกันเอง

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 12ส่วนที่ 3 หน้า 23 24), (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น 

ดาบสองคม” คือ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ได้แก่

1.         การเล่นเกมออนลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์ลามกอนาจาร

3.         เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม เช่น hi5, Twitter และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ

4.         โปรแกรมสนทนาออนไลน์ (Chat) มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากันแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวง หรือกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ

97.       ข่าวออนไลน์มีคุณลักษณะ ปฏิสัมพันธ์” หมายถึง

(1)       เปิดโอกาสให้ผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยังผู้สงสารในลักษณะการสื่อสารสองทาง

(2)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับสังคม

(4)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธภาพระหว่างผู้ส่งสารกับสาธารณชน

(5)       ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

98.       Files Transferring หมายถึง 

(1) การโยกย้ายแฟ้มข้อมูล

(2) การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล      (3) การเปลี่ยนถ่ายแฟ้มข้อมูล

(4)       การสลับเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล      (5) การตัดโอนแฟ้มข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 11), (ดูคำอธิบายข้อ 79. ประกอบ) Files Transferring หมายถึง การถ่ายโอน แฟ้มข้อมูล ซึ่งในการส่งข้อมูลของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) นั้น ผู้ส่งสามารถ ถ่ายโอนแฟ้มหรือไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้การแลกเปลี่ยนข่าวสาร เป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์

99.       ปัจจุบันมีการประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทย คือ

(1)       พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

(2)       พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2552

(3)       พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2553

(4)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

(5)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2554

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทย ซึ่งประกาศบังคับใช้แล้วในปัจจุบัน ได้แก่

1.         พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

100.    นักศึกษาคิดว่าการดำเนินการในข้อใดที่สามารถกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ได้ผลดีที่สุด

(1)       ร่างกฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อบังคับใช้อย่างจริงจัง

(2)       จัดตั้งสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อกำหนดกรอบจริยธรรมที่เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

(3)       ร่างกรอบจริยธรรมและจรรยาบรรณที่มีความเป็นสากล บังคับใช้ร่วมกันทั่วโลก

(4)       รณรงค์สร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้จัดทำสื่อและผู้ใช้สื่อ

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) มาตรการในการกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ตที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อประชาชนในสังคมอย่างยั่งยืนที่สุด คือ การสร้างจริยธรรม ที่ดีในการใช้อินเทอร์เน็ตต่อผู้ใช้ในสังคม โดยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกที่ดีแก่ผู้จัดทำสื่อและ ผู้ใช้สื่อ และต้องระดมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น

 

MCS2106 (MCS2160) ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2553

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2553

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS2106 (MCS2160) ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1. ที่กล่าวว่า ภาษาเป็นเครื่องมือของกาวสื่อสาร” หมายความว่าอย่างไร

(1) ภาษาเป็นสื่อ

(2)       ภาษาเป็นช่องทางการสื่อสาร  

(3) ภาษาเป็นสิ่งที่ใช้แทนความหมาย 

(4) ภาษาเป็นเทคโนโลยีการสื่อสาร

ตอบ 3 หน้า 113 ภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้แทนความหมาย ทำให้มนุษย์สามารถสื่อสารหรือส่งความหมาย ที่อยู่ในความคิดของตนไปยังอีกฝ่ายหนึ่งได้ โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้และเข้าใจความหมายร่วมกัน ดังนั้นการศึกษาเรื่องภาษากับการสื่อสารจึงเป็นการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจถึงความสำคัญ ในแง่ที่ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร และทำหน้าที่ในการสื่อความหมายเป็นหลัก

2.         การชี้แจงของรัฐบาลเกี่ยวกับกรณี 7 คนไทยในกัมพูชา เป็นการสื่อสารภายใต้บริบทใด

(1) จิตวิทยาสังคม 

(2) กายภาพ          

(3) วัฒนธรรม  

(4) เวลา

ตอบ 1 หน้า 10, (คำบรรยาย) บริบทของการสื่อสารในมิติทางจิตวิทยาสังคม หมายถึง ความสัมพันธ์ทางสถานภาพหรือฐานะชนชั้นของผู้ร่วมสื่อสาร บทบาท ตำแหน่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ กฎกติกา ระเบียบวินัย และเกมที่ทั้ง 2 ฝ่ายเล่น เช่น การสื่อสารหรือให้สัมภาษณ์ระหว่าง นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งบางครั้งเป็นไปตามสถานภาพของแต่ละฝ่าย และเกมทางการเมือง เป็นต้น

3.         เกมการเมือง” เป็นบริบทของการสื่อสารในมิติใด

(1) จิตวิทยาสังคม       

(2) กายภาพ    

(3) วัฒนธรรม  

(4) เวลา

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

4.         การปราศรัยของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการชุมนุมที่สะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นการสื่อสารประเภทใด  

(1) การสื่อสารสาธารณะ

(2) การสื่อสารมวลชน (3) การสื่อสารในองค์การ        (4) การสื่อสารระหว่างสถาบัน

ตอบ 1 หน้า 12, (คำบรรยาย) การสื่อสารสาธารณะ (Public Communication) เป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้รับพังจำนวนมากเพื่อให้ข่าวสาร โน้มน้าวใจ และให้ความบันเทิง โดยผู้ส่งสารและ ผู้รับสารสามารถเห็นหน้าซึ่งกันและกันได้ แต่ไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกันได้โดยตรง ในทันทีทันใด เช่น การพูดในที่ประชุมขนาดใหญ่การแสดงคอนเสิร์ตการพูดในที่ชุมชนการปราศรัยหาเสียงทางการเมืองการจัด

อภิปรายหรือสัมมนา ฯลฯ

5.         การติดป้ายประชาสัมพันธ์การบรรยายธรรม “Format ชีวิต Delete อารมณ์” ที่หน้าลิฟต์ตึก VPB เป็นการสื่อสารประเภทใด

(1) การสื่อสารกลุ่มเล็ก

(2) การสื่อสารสาธารณะ         (3) การสื่อสารในองค์กร          (4) การสื่อสารระหว่างบุคคล

ตอบ 3 หน้า 12, (คำบรรยาย) การสื่อสารในองค์กร (Organization Communication) คือการสื่อสารกันภายในกลุ่มที่เป็นทางการเพื่อเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมจริยธรรม ให้ข้อมูลข่าวสาร และโน้มน้าวใจ ฯลฯ หรือเป็นการสื่อสารระหว่างผู้ที่เป็นสมาชิกขององค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่การอบรมข้าราชการใหม่การติดป้ายประชาสัมพันธ์ หรือประกาศในมหาวิทยาลัย ฯลฯ

6.         การที่ผู้ส่งสารและผู้รับสารจะทำความเข้าใจความหมายที่สื่อสารกันได้ถูกต้องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอะไร

(1)       ผู้ส่งสาร/ผู้รับสาร         (2) ช่องทางการสื่อสาร

(3)       การเข้ารหัส/การถอดรหัส        (4) สิ่งรบกวน/การสื่อสารกลับ

บ 3 หน้า 4-5, (คำบรรยาย) การเข้ารหัส ( Encoding) คือ การที่แหล่งสารหรือผู้ส่งสารทำให้ ความหมายอยู่ในรูปของสัญญาณ/สัญลักษณ์ที่ผู้รับสารสามารถรับรู้ได้ทางประสาทสัมผัส ส่วนการถอดรหัส (Decoding) คือ การที่ผู้รับสารแปลหรือตีความสัญญาณ/สัญลักษณ์ให้ เป็นความหมายตามการรับรู้ของผู้รับสาร ดังนั้นการที่ผู้สงสารแสะผู้รับสารจะทำความเข้าใจ ความหมายที่สื่อสารกันได้ถูกต้อง จึงขึ้นอยู่กับการเข้ารหัสและการถอดรหัส

7.         การขาดทักษะทางภาษา เป็นอุปสรรคการสื่อสารข้อใด

(1)       Mechanical Noise   (2) Environmental Noise

(3) Semantic Noise   (4) Physical Noise

ตอบ 3 หน้า 6 อุปสรรคด้านภาษา (Semantic Noise) หมายถึง อุปสรรคการสื่อสารที่เกิดจากการแปล ความหมายของคำและประโยคซึ่งต้องผ่านการตีความหมาย แต่บางครั้งการใช้คำหรือประโยค ไม่ถูกต้องทำให้การเข้าใจความหมายผิดพลาดหรือบิดเบือนไปจากสิ่งที่ต้องการจะสื่อ โดยมัก จะเกิดขึ้นเมื่อประชาชนต่างกลุ่ม ต่างท้องถิ่น ขาดทักษะทางภาษา จึงให้ความหมายต่อคำ วลี หรือประโยคใดประโยคหนึ่งแตกต่างกัน

8.         ข้อใดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร

(1)       ความรวดเร็วและทันสมัยของสื่อ         (2) รูปแบบการสื่อสาร

(3) วิธีการนำเสนอ       (4) ความเข้าใจของผู้รับสาร

ตอบ 4 หน้า 30 – 31, (คำบรรยาย) ความสำคัญของการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร คือ จะใช้ภาษาอย่างไร ให้สื่อความหมายได้ตรงกับเจตนาของผู้ส่งสาร ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งสารที่ นอกจากจะเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายและเรื่องราวที่จะสื่อสารแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ ต้องใช้ภาษาให้เหมาะกับความพร้อมและความสามารถในกรเข้าใจความหมายของผู้รับสาร พื่อให้สารที่ส่งไปนั้นเกิดความหมายได้ตรงกับสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการ

9.         พริตตี้สาวสวยที่ยืนอยู่ข้างรถยนต์ที่นำมาแสดงในงานมอเตอร์โชว์ เป็นบริบทการสื่อสารข้อใด

(1)       วัฒนธรรม        (2) กายภาพ    (3) จิตวิทยาสังคม       (4) เวลา

ตอบ 2 หน้า 10, (คำบรรยาย) บริบทของการสื่อสารในมิติทางกายภาพ (The Physical Context) เป็นสภาวะแวดล้อม แสง สี เสียง ที่มองเห็นได้นขณะที่การสื่อสารเกิดขึ้น เช่น สภาพแวดล้อม ในห้องเรียน หอประชุม หรือในงานมอเตอร์โชว์ ฯลฯ ซึ่งจะมีอิทธิพลบางอย่างต่อเนื้อหาและ รูปแบบของเรื่องที่สื่อสาร

10.       การที่นักศึกษาพูดคุยกันระหว่างที่อาจารย์บรรยาย เป็นการทำให้เกิดอุปสรรคการสื่อสารข้อใด

(1)       Semantic Noise        (2) Mechanical Noise

(3) Environmental Noise  (4) Ambiguous Noise

ตอบ 3 หน้า 6 อุปสรรคทางด้านสภาพแวดล้อม (Environmental Noise) หมายถึง แหล่งที่มาของเสียง ที่เกิดขึ้นนอกกระบวนการสื่อสาร แต่เข้ามาแทรกทำให้กระบวนการสื่อสารนั้นขัดข้อง ไม่ชัดเจน หรืออาจเป็นสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ที่ทำให้การสื่อสารไม่ราบรื่น เช่น การสนทนาในสถานที่ ที่มีเสียงอึกทึกการรายงานข่าวเหตุการณ์จากสถานที่เกิดเหตุที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายการฟังการบรรยายในห้องเรียนที่มีอากาศร้อนจัดและมีเสียงดัง เป็นต้น

11.       ข้อใดไมใช่องค์ประกอบของการสื่อสารในกระบวนการสื่อสารมวลชน

(1)       บริบทของการสื่อสาร 

(2) การสื่อสารกลับ       

(3) การเข้ารหัส            

(4) ผู้ส่งสาร

ตอบ 3 หน้า 25 – 26, (คำบรรยาย) ลักษณะของการสื่อสารมวลชนพิจารณาได้จากองค์ประกอบของการสื่อสารดังนี้            

1. ผู้ส่งสาร (Sender) มีลักษณะเป็นสถาบัน

2.         สาร (Message) ต้องเป็นเรื่องสาธารณะ (Public)

3.         ช่องทางการสื่อสาร (Channel) ต้องเป็นสื่อมวลชน (Mass Media)

4.         ผู้รับสาร (Receiver) เป็นมวลชน (Masses) หรือผู้รับชมรับฟัง (Audience)

5.         การสื่อสารกลับ (Feedback) ไม่เกิดขึ้นทันทีในขณะที่สื่อสาร (No Feedback) จึงมีลักษณะเป็นการสื่อสารทางเดียว (One Way Process)

6.         บริบท (Context) ของการสื่อสาร โดยเฉพาะบริบททางสังคมมีอิทธิพลต่อการสื่อสา

12.       ใครเป็นคนแรกที่คิดค้นระบบการพิมพ์แบบถอดเปลี่ยนได้

(1)       มาร์โคนี           

(2) เฮิรตซ์        

(3) กูเต็นเบิร์ก 

(4) หมอบรัดเลย์

ตอบ 3 หน้า 22, (คำบรรยาย) โยฮัน กูเต็นเบิร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมนี เป็นผู้คิดค้น และพัฒนาระบบการพิมพ์แบบกด (Printing Press) หรือระบบเล็ตเตอร์เพรส (Letter Press) ที่ใช้ แม่พิมพ์ทำด้วยโลหะแบบถอดเปลี่ยนได้ (Movable Type) นอกจากนี้เขายังได้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิล เมื่อปี ค.ศ. 1453 หลังจากนั้นระบบการพิมพ์แบบใหม่นี้ก็แพรหลายไปทั่วยุโรปอย่างรวดเร็ว

13.       ข้อใดไมใช่ลักษณะของการสื่อสารมวลชน

(1)       ผู้ส่งสารเป็นปัจเจกชน 

(2) ช่องทางการสื่อสารต้องเป็นสื่อมวลชน

(3) สารต้องเป็นเรื่องสาธารณะ           

(4) ต้องคำนึงถึงบริบท

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

14. การที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่ใส่ราษฎรไทย เป็นการทำหน้าที่ข้อใด

(1)       การตีความ     (2) สอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม

(3) ส่งผ่านค่านิยม       (4) ประสานส่วนต่าง ๆ ในสังคม

ตอบ 2 หน้า 27, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการสอดส่องดูแลความเป็นไป

ในสังคม (Surveillance) คือ การแจ้งข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบถึงความเป็นไปในสังคม รวมถึงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหรือฝ่ายปกครองที่คาดว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นสื่อมวลชนจึงเป็นเสมือนผู้ส่งสัญญาณเตือนภัยหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบ ในทางที่เป็นอันตรายต่อสังคม

15.       ผู้ส่งสารที่ดีต้องคำนึงถึงข้อใดมากที่สุด         

(1)       เทคโนโลยีการสื่อสาร

(2)       ความสามารถของผู้ส่งสาร          (3)   ความสามารถของผู้รับสาร      (4)       สภาวะแวดล้อมทางสังคม

ตอบ 3 หน้า 29 – 30 ลักษณะของผู้ส่งสารที่ดี มีดังนี้  1. ต้องมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์

ที่ชัดเจนในการสื่อสาร 2. ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่จะสื่อส

3. ต้องเข้าใจหรือคำนึงถึงความสามารถและความต้องการของผู้รับสาร

16.       กายภาษา หมายถึงข้อใด       (1) การเคลื่อนไหวร่างกาย

(2)       ภาษากาย        (3)       เสื้อผ้า หน้า ผม            (4)       ภาษาที่ใช้ถ้อยคำ

ตอบ 3 หน้า 15, (คำบรรยาย) ลักษณะทางกายภาพ (กายภาษา) หมายถึง อวัจนภาษาที่เกิดจากลักษณะ หรือรูปลักษณ์ภายนอกของบุคคล ได้แก่ รูปร่าง การแต่งกาย เครื่องประดับ หรือเสื้อผ้า หน้า ผม ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและค่านิยมได้

17.       Communicative Competence หมายถึงอะไร

(1)       ปฏิกิริยาที่มีต่อการสื่อสาร       (2) บริบทของการสื่อสาร

(3)       องค์ประกอบของการสื่อสาร   (4) ความรู้ที่มีต่อมิติทางสังคมของการสื่อสาร

ตอบ 4 หน้า 7 Communicative Competence หมายถึง ความรู้ที่บุคคลนั้นมีต่อมิติทางสังคมของ การสื่อสาร ซึ่งเป็นความเข้าใจถึงความสำคัญและอิทธิพลของบริบทที่มีต่อเนื้อหาและรูปแบบของสาร

18.       ประสิทธิผลของการสื่อสารขึ้นอยู่กับอะไร

(1)       สภาพสังคม     (2) เทคโนโลยีการสื่อสาร

(3)       ลักษณะทางวัฒนธรรม           (4) ความรวดเร็วของการสื่อสาร

ตอบ 3 หน้า 38, (คำบรรยาย) ประสิทธิผลของการสื่อสาร คือ การที่ผู้รับสารเข้าใจความหมายตรงกับสิ่งที่ ผู้ส่งสารต้องการ ซึ่งนอกจากจะขึ้นอยู่กับขอบเขตแห่งประสบการณ์ของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ยังขึ้นอยู่กับ ลักษณะทางวัฒนธรรมของแต่ละวัฒนธรรมด้วย เพราะสิ่งที่แสดงถึงประสิทธิผลของการสื่อสาร ในวัฒนธรรมหนึ่งอาจแสดงถึงความไร้ประสิทธิผลของการสื่อสารในอีกวัฒนธรรมหนึ่งก็เป็นได้

19.       ชนชาติใดที่พัฒนาภาษาเขียนซึ่งใช้อักษรเป็นสัญลักษณ์แทนเสียง

(1)       ชาวจีน (2) ชาวอียิปต์  (3) ชาวฟีนีเชียน          (4) ชาวสุเมเรียน

ตอบ 3 หน้า 19 ชาวฟีนีเชียน (The Phoenicians) เป็นนักค้าขายทางทะเล ถือเป็นชนชาติแรกที่ พัฒนาระบบภาษาเขียนที่มีพื้นฐานมาจากเสียง ซึ่งจะใช้กลุ่มของตัวอักษรที่เรียกว่า พยัญชนะ (Alphabet) เป็นสัญลักษณ์แทนเสียงและนำเสียงมารวมกันขึ้นเป็นคำ โดยภาษาที่พวกเขา ประดิษฐ์ขึ้นได้แพร่หลายอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนมาถึงประเทศกรีซ ที่ซึ่งมีการ พัฒนาพยัญชนะพื้นฐาน 24 ตัวอักษรขึ้น

20.       ชนชาติใดที่พัฒนากระดาษขึ้นใช้เป็นชาติแรก

(1)       ชาวจีน (2)       ชาวอียิปต์        (3)       ชาวฟีนีเชียน    (4) ชาวสุเมเรียน

ตอบ 1 หน้า 1921 – 22 จีนเป็นชนชาติแรกที่คิดประดิษฐ์กระดาษขึ้นใช้เมื่อราว ค.ศ. 100และเป็นผู้พัฒนาการพิมพ์แบบบล็อกขึ้นเป็นชาติแรก ซึ่งงานพิมพ์แบบบล็อกที่เก่าแกที่สุด และยังมีหลักฐานอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ คือ หนังสือที่พิมพ์ขึ้นเมื่อประมาณ ค.ศ. 868 นอกจากนี้จีนยังได้คิดค้นระบบการพิมพ์ที่ใช้ตัวพิมพ์แบบถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ ที่ทำจากดินเผาและไม้สำหรับตัวอักษรแต่ละตัวอีกด้วย

21.       ชนชาติใดที่พัฒนาการพิมพ์แบบบล็อกขึ้นเป็นชาติแรก

(1)       ชาวจีน 

(2)       ชาวอียิปต์        

(3)       ชาวเกาหลี       

(4) ชาวเยอรมัน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

22.       หนังสือพิมพ์ที่เกิดจากระบบการพิมพ์เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงใด

(1) ต้นศตวรรษที่ 15    

(2) ต้นศตวรรษที่ 16    

(3) ต้นศตวรรษที่ 17    

(4) ต้นศตวรรษที่ 18

ตอบ 3 หน้า 24 หนังสือพิมพ์ที่เกิดจากระบบการพิมพ์เกิดขึ้นครั้งแรกในยุโรป ประมาณช่วงต้น ศตวรรษที่ 17 ซึ่งหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นเน้นสาระเกี่ยวกับข่าวต่างประเทศ แต่ไมนานก็หันมา เน้นข่าวสารภายในประเทศ โดยบางครั้งมีการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นการตรวจสอบการทำงาน ของรัฐบาลหรือผู้ปกครอง ดังนั้นฝ่ายการเมืองและรัฐบาลจึงพยายามที่จะควบคุมและตรวจสอบ การทำงานของหนังสือพิมพ์ จนทำให้เกิดการประกาศปฏิญญาว่าด้วยความเป็นอิสระของ สื่อมวลชนจากการควบคุมโดยรัฐบาล

23.       เหตุการณ์ใดทำให้เกิดการประกาศปฏิญญาว่าด้วยความอิสระของสื่อมวลชนจากการควบคุมโดยรัฐบาล

(1)       การตีพิมพ์หนังสือในศตวรรษที่ 16

(2)       การที่หนังสือพิมพ์ในยุโรปตรวจสอบการทำงานของฝ่ายปกครอง

(3)       การที่หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกานำสนอข่าวการประกาศอิสรภาพ

(4)       การที่หนังสือพิมพ์เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์ในสมัยรัชกาลที่ 6

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

24.       ผู้ผลิตรายการในยุคปัจจุบัน มองผู้รับสารในฐานะอะไร

(1)       เจ้านาย            (2) มวลชน       (3) ตลาด         (4) ปัจเจกชน

ตอบ 3 หน้า 25 – 26 ธีโอดอร์ อดอร์โน (Theodor Adorno) กล่าวไว้ว่า ยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ วัฒนธรรมถูกทำให้เป็นสินค้า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพลงหรืองานวรรณกรรมก็เริ่มถูกนำเสนอ ด้วกระบวนการทางการตลาดมากขึ้น ทำให้แนวโน้มที่รายการต่าง ๆ จะเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ให้แคบลงกว่ามวลชนคนรับสารทั่วไปก็มีมากขึ้น เพราะผู้ผลิตหรือเจ้าของรายการทางสื่อมวลชน มองผู้รับสารในฐานะตลาด (Market)

25.       หน้าที่ในการส่งผ่านค่านิยม เรียกอีกอย่างว่าอะไร

(1)       Transformation        (2) Globalization       (3) Socialization        (4) Transmission

ตอบ 3 หน้า 28, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการส่งผ่านค่านิยม (Transmission of Values) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กระบวนการสังคมประกิต (Socialization) หมายถึง วิถีทางที่นำปัจเจกชนมาสู่การยอมรับพฤติกรรมและค่านิยมของกลุ่ม โดยสื่อมวลชนจะนำเสนอ ค่านิยมต่าง ๆ ของคนบางกลุ่ม และจากการที่ประชาชนได้ดู ฟัง และอ่านก็ทำให้ได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการปฏิบัติตนและสิ่งที่สังคมให้ความสำคัญจากการซึมซับเนื้อหาทางสื่อมวลชน เช่น ละครโทรทัศน์เรื่อง มงกุฎดอกส้ม ที่นำเสนอเนื้อหาภายใต้ค่านิยมที่ว่าผู้ชายเป็นใหญ่ หรือค่า

นิยมอันตรายที่ว่า โกงก็ไม่เป็นไรขอให้มีผลงาน ฯลฯ

26.       ใหม่ สูตรดีที่สุดของซันซิล” ข้อความพาดหัวนี้ใช้วิธีการเขียนแบบใด

(1) เน้นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ   (2) พาดหัวข่าว

(3) เป็นคำสั่ง   (4) เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 2 หน้า 47 การพาดหัวข่าว (News) เป็นข้อความพาดหัวโฆษณาที่ใช้วิธีการเขียนแบบพาดหัวข่าว กล่าวคือ เป็นการสรุปสาระสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจมากที่สุดในข้อความโฆษณา เช่น เน้นเรื่องความใหม่ ความแปลก ความสวยงาม ฯลฯ

27.       ใช้ซิตร้าทั่วเรือนร่าง เพื่อผิวดูกระจ่างใสทุกมุมมอง” ข้อความพาดหัวนี้ใช้วิธีการเขียนแบบใด

(1) เน้นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ   (2) พาดหัวข่าว

(3) เป็นคำสั่ง   (4) เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 1 หน้า 47 การกล่าวเน้นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ (Product Claim) เป็นการพาดหัวโฆษณา ที่แสดงถึงข้อยืนยันเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการใช้สินค้า ซึ่งการพาดหัวโฆษณาวิธีนี้ จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ดี เพราะเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่อยู่ใน

ความสนใจ ของผู้บริโภค และสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการเขียนพาดหัวโฆษณาแบบนี้คือ ข้อเสนอนั้น ควรเป็นข้อเสนอที่เด่นชัดจริง ๆ และเชื่อถือได้

28.       อยากสดใส อยากดูดี… นี่แหละผู้หญิง” ข้อความพาดหัวนี้ใช้วิธีการเขียนแบบใด

(1)       เน้นประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ        (2) พาดหัวข่าว

(3) เป็นคำสั่ง   (4) เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 4 หน้า 47 การเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Prospect Selection) เป็นการพาดหัวโฆษณาโดยสื่อความหมายให้ผู้รับสารเข้าใจว่าข้อความนั้นเจาะจงไปที่คนกลุ่มใด จึงมีการใช้ถ้อยคำที่ทำให้ กลุ่มเป้าหมายทราบได้ทันทีว่าข้อความนั้นเจาะจงที่จะสื่อสารกับตนเองโดยตรง ไม่ใช่การสื่อสารกับ ผู้อ่านทั่ว ๆ ไป เช่น แอร์โร่สัญลักษณ์ของเอกบุรุษอยากสดใส อยากดูดี… นี่แหละผู้หญิง ฯลฯ

29.       การวิเคราะห์วาทกรรมมีประโยชน์อย่างไร     

(1) ทำให้ผู้รับสารเข้าใจกิจกรรมการพูด

(2)       ทำให้ผู้ส่งสารเลือกกำหนดกิจกรรมการสื่อสารต่าง ๆ ได้หลากหลาย

(3)       ทำให้ผู้ส่งสารสามารถเลือกสื่อได้อย่างเหมาะสม      (4) ทำให้ผู้รับสารเข้าถึงความหมายที่แท้จริง

ตอบ 4 หน้า 14 การวิเคราะห์วาทกรรม (Discourse Analysis) หมายถึง การที่ผู้รับสารสามารถมองเข้าไปที่สารและวิเคราะห์ได้ว่าสารนั้นถูกผลิตขึ้น ถูกใช้ และผู้ผลิตสารพยายามทำให้ ผู้รับสารเข้าใจอย่างไร ซึ่งจะมีประโยชน์ในการทำให้ผู้รับสารสามารถทราบถึงวิธีการที่จะ เข้าถึงความหมายที่แท้จริงผ่านสารที่ปรากฏออกมาได้

30.       ข้อใดเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการตีความหมาย    

(1) รายการเล่าข่าว

(2)       การถ่ายทอดสดการชุมนุม       (3) การถ่ายทอดสด ณ สถานที่เกิดเหตุ           (4) รายการเกมโชว์

ตอบ 1 หน้า 27, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการตีความหมาย (Interpretation)คือ การนำเสนอเรื่องราวที่ผ่านการตีความหมายโดยผู้สื่อข่าว ผู้เขียนข่าว และกองบรรณาธิการ ของสื่อมวลชน ซึ่งไม่ได้นำเสนอเฉพาะข้อเท็จจริงและข้อมูลเท่านั้น แต่เป็นการรายงานข่าว ในลักษณะของการเล่าเรื่องที่ผ่านการกลั่นกรองจากมุมมองของสื่อมวลชน เพื่อให้ประชาชน ได้รับทราบข้อมูลจากมุมมองที่หลากหลายและสามารถประเมินข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ เช่น รายการเล่าข่าวทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ฯลฯ

31.       ละครโทรทัศน์เรื่อง มงกุฎดอกส้ม ส่งผ่านค่านิยมลักษณะใด

(1)       อุดมการณ์ชาตินิยม    

(2) บริโภคนิยม            

(3) สังคมนิยม 

(4) ผู้ชายเป็นใหญ่

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

32.       ข้อใดต่อไปนี้ที่สื่อมวลชนเรียกว่า ค่านิยมอันตราย”         

(1) วัยรุ่นชอบเสี่ยง

(2)       โกงก็ไม่เป็นไรขอให้มีผลงาน  

(3) รักร่วมเพศ 

(4) งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

33.       ข้อใดเป็นตัวอย่างของการที่สื่อมวลชนทำหน้าที่ประสานส่วนต่าง ๆ ในสังคม

(1) รายการคันปาก

(2)       รายการร่วมด้วยช่วยกัน           

(3) รายการก่อนบ่ายคลายเครียด       

(4) ละครเป็นต่อ

ตอบ 2 หน้า 28 บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการเชื่อมประสานส่วนต่าง ๆ ของสังคม คือการเชื่อมส่วนต่าง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงให้เข้ามาเกี่ยวข้องกันได้โดยผ่าน เวทีสาธารณะ (สื่อมวลชน) เช่น เชื่อมระหว่างประชาชนผู้ยากไร้ที่ขาดคนเหลียวแลกับผู้ใจบุญ ที่ประสงค์จะช่วยเหลือผู้อื่น ฯลฯ นอกจากนี้สื่อมวลชนยังทำหน้าที่เชื่อมประสานกลุ่มคนที่มี ความสนใจอย่างเดียวกัน ซึ่งนักวิชาการบางท่านเรียกบทบาทหน้าที่ด้านนี้ว่า เป็นบทบาทหน้าที่ ของการสร้างกลุ่มสาธารณชน เช่น กลุ่มสมาชิกร่วมด้วยช่วยกัน ฯลฯ

34.       ความจริงทางสังคมเกิดขึ้นจากอะไร

(1) ความจริงทางกายภาพ      (2) การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

(3)       การกล่อมเกลาของสถาบันทางสังคม (4) การลงมติของสมาชิกในสังคม

ตอน 3 หน้า 33 โลกทางสังคม (Social World) หรือความเป็นจริงทางสังคม (Social Reality)เป็นโลกที่เกิดจากการกล่อมเกลาของสถาบันทางสังคม หรือโลกที่เกิดจากการรับรู้ของแต่ละคน เกี่ยวกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งแม้ว่าคน 2 คนจะอยู่ในโลกกายภาพเดียวกัน แต่การรับรู้ หรือเข้าใจความจริงต่อโลกนั้นอาจมีลักษณะแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการได้รับการกลอมเกลา ทางสังคมของแต่ละคนนั่นเอง

35.       การโฆษณามีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร

(1) การโน้มน้าวใจ       (2) แจ้งข่าวสาร           (3) การสร้างความเข้าใจ         (4) ให้ควมบันเทิง

ตอบ 1 หน้า 38 การโฆษณาเป็นการสื่อสารที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการโน้มน้าวใจ โดยมุ่งสร้างผลกระทบ ในด้านความรู้ความเข้าใจ (Cognition) ทัศนคติ (Attitude) และพฤติกรรม (Behavior)ที่ผู้รับสารมีต่อสินค้า บริการ หรือความคิด อันจะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัทที่โฆษณา

36.       กระบวนการสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้ามีลำดับขั้นตอนอย่างไร

(1)       การเขียนข้อความโฆษณา การกำหนดสื่อ การลงโฆษณา การวัดปฏิกิริยาตอบสนอง

(2)       การกำหนดตัวผู้โฆษณา การเขียนข้อความ การส่งสารผ่านสื่อ การประเมินผล

(3)       การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย กำหนดแนวคิดหลัก การสร้างสารโฆษณา และนำเสนอ

(4)       การวิเคราะห์จุดเด่นของสินค้า การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า

ตอบ 3 หน้า 40 กระบวนการสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้าต้องอาศัยการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ ซึ่งมีลำดับขั้นตอนเริ่มจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การวิเคราะห์ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย การกำหนดแนวคิดหลัก การสร้างสารโฆษณาหรือสร้างสรรค์ข้อควมโฆษณา และนำเสนอ แนวคิดดังกล่าวไปยังผู้บริโภคอย่างได้ผล

37.       ข้อใดหมายถึงข้อความสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ผู้โฆษณานำเสนออย่างสร้างสรรค์เพื่อ ตรึงความสนใจของผู้บริโภค

(1) Brand Name         (2) Caption        (3) Advertising Concept (4) Jingle

ตอบ 3 หน้า 4150, (คำบรรยาย) แนวคิดหลักเกี่ยวกับการโฆษณา (Advertising Concept) หมายถึง ข้อความสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ผู้โฆษณานำเสนออย่างสร้างสรรค์เพื่อตรึงความสนใจ ของผู้บริโภค โดยจะช่วยให้การสื่อสารมีความคมชัด ตรงประเด็น และสร้างมโนทัศน์ เกี่ยวกับ สินค้าให้เกิดขึ้นในจิตใต้สำนึกของผู้บริโภค ซึ่งแนวคิดหลักของการโฆษณาจะปรากฏอยู่ที่ คำขวัญโฆษณา ข้อความพาดหัว และเนื้อหา

38.       “Advertising Concept” จะปรากฏอยู่ที่ใด

(1) คำบรรยายใต้ภาพ (2) คำขวัญโฆษณา

(3)       ดนตรีประกอบโฆษณา            (4) เพลงโฆษณาที่มีเนื้อร้อง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

39.       การพูดอภิปราย เป็นการพูดที่มีวัตถุประสงค์อะไร

(1) เพื่อความบันเทิง    (2) เพื่อโต้แย้งแสดงเหตุผล

(3)       เพื่อป้องกันและแก้ไขความเข้าใจผิด   (4) เพื่อแจ้งข่าวสาร

ตอบ 3 หน้า 59 – 6066 – 67, (คำบรรยาย) การพูดอภิปราย (Discussion) เป็นการพูดที่มีวัตถุปรค์เพื่อป้องกันและแก้ไขความเข้าใจผิด ซึ่งมีทั้งการอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) ที่จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้และเสนอทัศนะความคิดเห็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแก่ผู้ฟัง และการอกิปราย ถามตอบปัญหา (Question-Answer Discussion) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ฟังถามปัญหาที่สงสัย หรือไม่เข้าใจทำให้เกิดความเข้าใจดียิ่งขึ้น

40.       หากเปิดให้ประชาชนมาเยี่ยมชมกิจการขององค์กรหรือสถาบัน ต้องใช้การพูดประเภทใด

(1)       ประชุมชี้แจงอย่างเป็นทางการ           (2) บรรยายสรุป (3) ประชุมโต๊ะกลม  (4) อภิปราย

ตอบ 2 หน้า 67 – 68 การประชุมบรรยายสรุป (Brief Session) เป็นการสื่อสารด้วยวาจ

ในรูปแบบของการประชุม เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจในสาระสำคัญของเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ กว้างขวางซับซ้อนให้แกผู้ฟังภายในเวลาอันจำกัด ดังนั้นจึงมักนิยมใช้เมื่อหน่วยงานจัดให้ ประชาชนเข้าเยี่ยมชมกิจการ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจแก่ผู้เยี่ยมชม เช่น การบรยายสรุป ของโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฯลฯ

41.       การบรรยายประกอบการสาธิต ควรใช้ในโอกาสใด  

(1) แถลงข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

(2)       ประชุมพนักงาน         

(3) การอภิปราย          

(4) การจัดประชุมโต๊ะกลม

ตอบ 1 หน้า 67, (คำบรรยาย) การพูดแบบสาธิต (Demonstration) เป็นการบรรยายประกอบการสาธิตซึ่งมักนิยมกระทำต่อเนื่องกันหลังจากเสร็จสิ้นการชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะใช้ในโอกาส การจัดนิทรรศการ การเปิดให้เยี่ยมชมกิจการ การแถลงข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เป็นต้น

42.       ลีลาการนำเสนอโฆษณาโดยใช้บุคคลที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้า หรือผู้ที่เคยใช้สินค้มากล่าวยืนยันเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า ได้แก่ข้อใด

(1) Vignette       

(2) Presenter     

(3) Personality Symbol 

(4) Testimonial

ตอบ 4 หน้า 44 ลีลาการอ้างพยาน (Testimonial) เป็นลีลาการนำเสนอโฆษณาโดยใช้บุคคลที่มี ประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้า หรือผู้ที่เคยใช้สินค้ามากล่าวยืนยันเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า เช่น การโฆษณาชองธนาคารไทยพาณิชย์ที่นำเอาลูกค้าที่มาใช้บริการของธนาคารมากล่าวยืนยัน ถึงประสบการณ์และความประทับใจที่ได้รับ เป็นต้น

43.       ข้อความโฆษณาที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

(1) ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ    

(2) แปลก ตลก ใช้ภาษาเฉพาะกลุ่ม

(3)       สั้น เรียบง่าย ไม่ต้องคิดมาก   

(4) การใช้เหตุผล

ตอบ 1 หน้า 48 ข้อความโฆษณาที่ดีควรชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการใช้สินค้า และเขียนขึ้นจากความเข้าใจถึงความต้องการและแรงจูงใจของผู้บริโภค โดยคำนึงถึงปัจจัย ทางค้านจิตวิทยาสังคมที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ

44.       การนำเสนอสารโฆษณาแบบตรงไปตรงมา ม่งสู่การขายสินค้าอย่างไม่อ้อมค้อม ได้แก่ข้อใด

(1) Soft Sell        (2) Hard Sell      (3) Slice of Life  (4) Lifestyle

ตอบ 2 หน้า 45 น้ำเสียงที่ใช้ในการนำเสนอสารโฆษณา มี 2 ลักษณะคือ 1. น้ำเสียงที่มุ่งขยสินค้า อย่างชัดเจน (Hard Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาแบบตรงไปตรงมา มุ่งสู่การขยสินค้า อย่างไม่อ้อมค้อม 2. น้ำเสียงที่มุ่งขายสินค้าทางอ้อม (Soft Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาที่ เน้นการสร้างอารมณ์ความรู้สึกและทัศนคติในเชิงบวกต่อสินค้าโดยไม่ได้กล่าวถึงตัวสินค้าโดยตรง อีกทั้งเน้นการโน้มน้าวใจโดยใช้อารมณ์มากกว่าการกล่าวถึงเหตุผลเกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้า

45.       การสร้างความรู้สึกว่าองค์กรที่ทำประชาสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นองค์กรที่ทำประโยชน์ต่อสาธารณะ เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ หรือเป็นองค์กรที่เคารพกฎหมาย เป็นการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ ที่มีวัตถุประสงค์ข้อใด

(1)       เพื่อบอกกล่าวเผยแพร่            (2) เพื่อให้ประชาชนยอมรับ

(3)       เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด          (4) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการตลาด

ตอบ 2 หน้า 59 การดำเนินงานประชาสัมพันธ์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนยอมรับ คือการสร้างความรู้สึกว่าองค์กรที่ทำประชาสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นองค์กรที่ทำประโยชน์ ต่อสาธารณะ เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ หรือเป็นองค์กรที่เคารพกฎหมาย ซึ่งประชาชนจะยอมรับ ชื่อเสียงขององค์กรในทิศทางใดย่อมขึ้นอยู่กับข่าวสารและประสบการณที่ประชาชนได้รับจาก องค์กรหรือสถาบันนั้น

46.       การประชาสัมพันธ์เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจนโยบายและเป้าหมายขององค์กร รู้สึกผูกพัน และมีจิตสำนึก แห่งการเป็นเจ้าขององค์กร/สถาบัน เป็นการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใด

(1)       ผู้นำความคิดเห็น         (2) ผู้ถือหุ้น      (3) ลูกค้า         (4) พนักงานภายในองค์กร

ตอบ 4 หน้า 60 – 61 กลุ่มเป้าหมายภายใน (Internal Public) หมายถึง พนักงาน ลูกจ้าง และ บุคลากรทุกระดับภายในองค์กร/สถาบัน ซึ่งการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพนั้น ต้องเริ่มจากการทำให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้เข้าใจนโยบายและเป้าหมายขององค์กร/สถาบัน รู้สึกผูกพัน และมีจิตสำนึกแห่งการเป็นเจ้าขององค์กร/สถาบัน

47.       ข้อพิจารณาในการเลือกผู้พูดที่จะเป็นตัวแทนขององค์กร/สถาบันในการใช้การพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ พิจารณาจากอะไร

(1) รูปร่าง หน้าตา        (2) เป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับเรื่องที่พูด

(3)       สนุกสนานร่าเริงไม่น่าเบื่อ        (4) บุคลิกดี มั่นใจในตนเอง

ตอบ 2 หน้า 62 – 63 การเลือกผู้พูดที่จะเป็นตัวแทนขององค์กร/สถาบันในการใช้การพูด เพื่อการประชาสัมพันธ์ พิจารณาได้จาก           1. เป็นบุคคลสำคัญในองค์การ   2.     เป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับเรื่องที่พูด  3. เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในการตัดสินระดับความลับของเรื่องที่พูด      4. เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่พูด        5.      เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพน่าเชื่อถือ มีกิริยาท่าทางเป็นธรรมชาติ        6.       เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร

48.       การพิจารณาเนื้อหาก่อนส่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ต้องใช้หลักอะไรเป็นเกณฑ์การพิจารณา

(1) Source, Message, Channel, Receiver (2) Cognitive, Affective, Behavior

(3) Credibility, Context, Content, Clarity, Continuity & Consistency, Channels,

Capability of Audience   (4) Attention, Interest, Desire, Action

ตอบ 3 หน้า 74 – 75, (คำบรรยาย) เกณฑ์การพิจารณาเนื้อหาและตรวจสอบการใช้ภาษาก่อน ส่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ต้องใช้หลัก 7ของการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย

1.         ความน่าเชื่อถือ (Credibility)     2. บริบท (Context)

3.         เนื้อหาสาระ (Content)    4. ความชัดเจน (Clarity)

5.         ความต่อเนื่องและความแน่นอน (Continuity & Consistency)

6.         ช่องทางการสื่อสาร (Channels)

7.         ความสามารถของผู้รับสาร (Capability of Audience)

49.       การเขียนบทความที่ดีต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง

(1) ความเด่น ความแปลก สำนวนโวหารที่เร้าใจ         (2) ข้อมูล ข่าวสาร และความคิดเห็น

(3) ตัวผู้เขียน เรื่องที่เขียน ความน่าสนใจ        (4) มีเอกภาพ สัมพันธภาพ สารัตถภาพ

ตอบ 4 หน้า 89 การเขียนบทความหรือบทบรรณาธิการที่ดีต้องมีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ

1.         มีเอกภาพ คือ มุ่งสู่ประเด็นหลักของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เขียนออกนอกเรื่อง

2.         มีสัมพันธภาพ คือ ในแต่ละประเด็นย่อยมีการเชื่อมร้อยเข้าด้วยกัน เพื่อโยงเข้าสู่แกนกลางของเรื่องได้อย่างสอดคล้องกัน   3. มีสารัตถภาพ คือ เน้นประเด็นสำคัญให้เห็นอย่งเด่นชัดเพื่อให้ผู้รับสารเห็นไปในทิศทางที่ผู้เขียนต้องการ

50.       สืบเนื่องจากกรณีนายสุทิน นพเกตุ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อเดือน เม.ย. 2550 ให้เพิกถอน กสม. 8 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้ระบบพวกพ้อง และละเมิดสิทธิมนุษยชน” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Background Lead (2) Colorful Lead (3) Punch Lead      (4) Contrast Lead

ตอบ 1 หน้า 84 ความนำแบบให้ภูมิหลัง (Background Lead) คือ การเขียนความนำข่าวที่เหมาะสำหรับ เหตุการณ์ที่เป็นความคืบหน้าของเหตุการณ์ที่เคยเป็นข่าวไปแล้ว เพื่อให้ผู้อ่านที่มิได้ติดตามข่าว ก่อนหน้านั้นได้ทราบภูมิหลังของข่าวก่อนที่จะรายงานความคืบหน้าต่อไป

51.       ข้องใจปมดับเดวิด ฆ่าปิดปากฝีมือองค์กรใต้ดิน” พาดหัวข่าวนี้มีลักษณะการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ใช้ภาษาต่างประเทศในการพาดหัวข่าว     

(2) ใช้คำชวนสงสัย

(3) ละประธานของประโยค    

(4) ใช้คำ Slang

ตรม 3 หน้า 81 – 82 การละประธานของประโยค บางครั้งการเขียนพาดหัวข่าวอาจขึ้นต้นด้วยคำกริยา เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น หักดิบไทยลีก ส.บอลจัดเอง,ข้องใจปมดับเดวิด ฆ่าปิดปากฝีมือองค์กรใต้ดิน ฯลฯ

52.       เฒ่า 62 รักคุดบ้าเลือด ฉุดสาว 16 ปาดคอแล้วฆ่าตัว” พาดหัวข่าวนี้มีลักษณะการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ใช้ตัวเลขในการพาดหัวข่าว           

(2) ใช้คำ Vivid

(3) ละประธานของประโยค    

(4) ใช้คำ Slang

ตอบ 4 หน้า 82, (คำบรรยาย) การใช้คำสแลง (Slang) หรือคำภาษาตลาดในการเขียนพาดหัวข่าว ซึ่งมักเป็นถ้อยคำและสำนวนที่ใช้เข้าใจกันเฉพาะกลุ่มหรือชั่วระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ภษาที่ ยอมรับกันว่าถูกต้อง เช่น  กิ๊ก เฒ่าหัวงู รักคุด สวยเริ่ด แอ๊บแบ๊ว ฯลฯ

53.       นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ ก่อนประชุม ครม. ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าอาจมีการทำปฏิวัติ” ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) The Who Lead (2) The What Lead (3) The Why Lead (4) The How Lead

ตอบ 1 หน้า 83 ความนำแบบสรุป (Summary Lead) แบ่งออกเป็น 6 ประเภทดังนี้

1.         The Who Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยบุคคล องค์กร หรือสถาบันที่เป็นข่าว

2.         The What Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยเหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น

3.         The Where Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยสถานที่ที่เกิดเหตุ

4.         The When Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยวันเวลาที่เกิดเหตุ

5.         The Why Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยสาเหตุหรือเหตุผลของเรื่องนั้น ๆ

6.         The How Lead ได้แก่ ความนำที่ขึ้นต้นด้วยการอธิบายความถึงวิธีการแห่งเหตุการณ์ ที่เป็นข่าว

54.       เยาวชนบ้านกรุณาแย่งยาเส้นสูบ ยกพวกตะลุมบอนกันโกลาหลกลายเป็นจลาจลย่อม ๆ บาดเจ็บ หัวร้างข้างแตกกว่า 100 คน ลำเลียงส่งรักษาหลายโรงพยาบาล ชนวนเหตุลูกพี่ใหญ่ของ 2 ก๊ก ไม่พอใจเรื่องการแบ่งยาเส้นไมลงตัว ฉวยโอกาสหลังกินข้าวปาถาดหลุมเข้าใส่กันอุตลุดจนเกิดเหลุ อลเวง ต้องระดมกำลังตำรวจกว่า 200 นาย เข้าระงับเหตุ” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Background Lead (2) Colorful Lead (3) Summary Lead (4) Contrast Lead

ตอบ 2 หน้า 83, (คำบรรยาย) ความนำแบบสร้างภาพพจน์ (Picture or Colorful Lead) คือการเขียนความนำด้วยการแสวงหาถ้อยคำมาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพี่อทำให้ผู้อ่านมองเห็น ภาพเหตุการณ์นั้น ๆ เสมือนว่าได้เห็นมาด้วยตนเอง โดยภาษาที่ใช้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสีสัน มีความเคลื่อนไหว จึงมักใช้เขียนข่าวประเภท Human Interest ข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ฯลฯ

55.       การเขียนบทสำหรับรายการข่าวทางวิทยุกระจายเสียงมีแนวทางการใช้ภาษาอย่างไร

(1)       เขียนประโยคสั้น ๆ      (2) เร้าอารมณ์ผู้ฟัง

(3) ขึงขัง หนักแน่น เป็นทางการ          (4) เหมือนการพูดตัวต่อตัว

ตอบ 1 หน้า 103, (คำบรรยาย) เทคนิคการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงประเภทรายการข่าว มีดังนี้

1.         เขียนประโยคสั้น ๆ แต่ละประโยคมีแนวคิดเดียว        2. ไมเขียนคำย่อ

3.         การยกคำพูดผู้อื่นมากล่าวอ้างต้องเรียบเรียงขึ้นใหม่ โดยอ้างถึงคำพูดของแหล่งข่าว

แต่เปลี่ยนคำสรรพนามเป็นบุรุษที่ 3    4. ศัพท์เฉพาะหรือคำอ่านยากต้องวงเล็บคำอ่านไว้

5. กรณีที่เป็นตัวเลขจำนวนมากต้องเขียนด้วยตัวหนังสือ

56.       บริบทของการพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ต้องมีลักษณะอย่างไร

(1)       ภูมิฐาน โอ่อ่า   (2) ส่งเสริมเนื้อหาที่นำเสนอ

(3) สร้างบรรยากาศเป็นกันเอง           (4) สบาย ๆ ไม่เป็นทางการ

ตอบ 2 หน้า 74 บริบท (Context) หมายถึง สภาพแวดส้อมในการสื่อสาร ซึ่งบริบทของการสื่อสาร- ประชาสัมพันธ์ต้องเป็นบริบทที่ส่งเสริมและไมขัดแย้งกับเนื้อหาที่นำเสนอ เพราะการสื่อสาร- ประชาสัมพันธ์จะสัมฤทธิผลเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดส้อมทางสังคมที่สนับสนุนด้วย

57.       ปัจจัยอะไรบ้างที่เที่ยวข้องกับความสามารถของผู้รับสาร

(1)       ความสนใจ ความพึงพอใจ ความต้องการ ทักษะการสื่อสาร

(2)       การรับรู้ การเรียนรู้ ความต้องการ ความพึงพอใจ

(3)       ความสะดวกในการรับ นิสัยการรับสื่อ ความสามารถในการอ่าน ความรู้

(4)       ถิ่นที่อยู่ เชื้อชาติ อายุ ระดับการศึกษา

ตอบ 3 หน้า 75 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของผู้รับสาร มีดังนี้

1.         ความสะดวกในการรับ (Availability)    2. นิสัยการรับสื่อ (Habits)

3. ความสามารถในการอ่าน (Reading Ability) 4. ระดับความรู้ของผู้รับสาร (Knowledge)

58.       ข้อใดเป็นหลักการพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์

(1)       ให้ความสำคัญกับตัวผู้พูดเป็นหลัก

(2)       ความสำเร็จของการพูดขึ้นอยู่กับวาทศิลป์ของผู้พูด

(3)       สามารถปรับวัตถุประสงค์ได้ตามความต้องการของผู้ฟัง

(4)       มุ่งเน้นที่ผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก

ตอบ 3 หน้า 64 – 65, (คำบรรยาย) หลักการพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ประการหนึ่ง คือ ผู้พูดต้อง ปรบวัตถุประสงค์ของเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้พัง และสถานการณ์ที่ เกี่ยวข้อง โดยนักประชาสัมพันธ์ควรรู้ว่าจะพูดเรื่องใดในโอกาสใด อีกทั้งต้องเข้าใจความรู้สึก และความพร้อมของผู้ฟังด้วย

59.       ผู้ส่งสารจะรักษาความแน่นอนของเนื้อหาได้อย่างไร

(1)       การใช้ภาษาหลากหลาย         (2) เสนอเนื้อหาหลาย ๆ ประเด็น

(3) เสนอเรื่องราวที่ซับซ้อน      (4) ไม่เบี่ยงเบนไปจากแนวทางที่กำหนดไว้

ตอบ 4 หน้า 74 การสื่อสารประชาสัมพันธ์เป็นกระบวนการที่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง (Continuity) ซึ่งบางครั้งต้องมีการเน้นย้ำเพื่อให้ผู้รับสารได้รับทั้งข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงและความคิดเห็น นอกจากนี้ผู้ส่งสารยังจำเป็นต้องรักษาความแน่นอน (Consistency) ของเนื้อหาไม่ให้เบี่ยงเบน ไปจากแนวทางที่กำหนดไว้

60.       Variety หมายถึงรายการประเภทใด

(1) ข่าว            (2) สารคดี       (3) เกมโชว์      (4) บันเทิง

ตอบ 4 หน้า 98 รายการปกิณกะ (Variety) คือ รายการที่มุ่งเน้นความบันเทิงหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ รูปแบบ ในทำนองเรื่องเบ็ดเตล็ด เบาสมอง ฟังแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก เกิดความสบายใจ ซึ่งบางคนเรียกรายการลักษณะนี้ว่าปกิณกะบันเทิง

61.       บทวิทยุกระจายเสียงมีประโยชน์อย่างไร

(1) ทำให้รายการน่าเชื่อถือ      

(2) ทำให้รายการมีการใช้ภาษาอย่างเป็นทางการ

(3) ช่วยให้ผู้พูดพูดในประเด็น 

(4) ทำให้รายการนั้นนำเสนอแต่ข้อเท็จจริง

ตอบ 3 หน้า 105 ประโยชน์ของบทวิทยุกระจายเสียง คือ ช่วยให้ผู้พูดพูดในประเด็นที่ต้องการ ไมพูดจาสับสนวกวน ดังนั้นแม้ว่าผู้ดำเนินรายการจะเป็นผู้มีความชำนาญเพียงใดก็ควรมี การเตรียมบทพูดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจเป็นบทคร่าว ๆ (Run-down Sheet) บทกึ่งสมบูรณ์ (Semi Script) หรือบทสมบูรณ์ (Complete Script) ก็ได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของรายการ

62.       ข้อใดเป็นแนวทางปฏิบัติในการบรรยายสดทางโทรทัศน์

(1) อธิบายสิ่งที่ผู้ชมเห็นและเข้าใจได้จากภาพ           

(2) อ่านตามบทที่เตรียมไว้โดยใช้ลีลาภาษาพูด

(3) บรรยายให้เกิดภาพพจน์    

(4) บรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับภาพที่ปรากฏ

ตอบ 4 หน้า 107, (คำบรรยาย) การบรรยายสด (Live) ในขณะที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ ผู้บรรยายจะไมอ่านจากบทที่เตรียมไว้ แต่จะบรรยายตามเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพ หรือบรรยายข้อมูล และเรื่องราวให้สัมพันธ์กับภาพที่ปรากฏ ซึ่งผู้บรรยายจะต้องเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ที่ถ่ายทอดสด โดยรู้กำหนดการหรือขั้นตอนของเหตุการณ์นั้น รวมทั้งใช้ปฏิภาณไหวพริบในการ แก้สถานการณ์หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นในขณะที่ทำการถ่ายทอด เช่น รายการถ่ายทอดสด พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฯลฯ

63.       Fill Light หมายถึงอะไร

(1) แสงไฟหลัก            (2) แสงไฟที่เติมเข้าไปในฉากเพื่อเพิ่มความสว่าง

(3) แสงไฟที่ใช้ลบเงา  (4) แสงไฟที่ใช้ส่องฉากหลัง

ตอบ3 หน้า 115 แสงประดิษฐ์ที่ใช้ในการผลิตรายการโทรทัศน์ จะต้องประกอบด้วยไฟมาตรฐาน อย่างน้อย 3 ดวง ได้แก่   1. แสงไฟหลัก (Key Light)

2.         แสงไฟลบเงา (Fill Light)  3. แสงไฟส่องที่ฉากหลัง (Back Light)

64.      ฉากจบของละครโทรทัศน์แต่ละตอนมักใช้เทคนิคใด

(1) Freeze Frame (2) Superimpose    (3) Split Screen (4) Fast Motion

ตอบ 1 หน้า 114, (คำบรรยาย) ฟรีซเฟรม (Freeze Frame) คือ เทคนิคการหยุดภาพหรือแช่ภาพไว้ ให้ผู้ชมได้เห็นภาพนั้นนิ่ง ๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง ส่วนมากจะใช้ในฉากจบของละครโทรทัศน์แต่ละตอน ก่อนที่ไตเติ้ลตอนจบจะขึ้น

65.       ในรายการโทรทัศน์ อวัจนภาษาข้อใดที่บ่งบอกถึงความสงบ การฉุกคิด

(1) เสียงดนตรี (2)       เสียงประกอบ  (3)       แสง     (4) ความเงียบ

ตอบ 4 หน้า 116 – 117 ในบางครั้งรายการโทรทัศน์จะใช้ความเงียบ (Silence) ซึ่งเป็นอวัจนภาษา เพื่อสะกดอารมณ์หรือปลุกเร้าความสนใจของผู้ชมให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ปรากฏบนจอภาพ โดยมักนิยมใช้กับเรื่องราวที่ต้องการให้ผู้ชมช่วยลุ้น และเรื่องราวที่ต้องการบ่งบอกถึงความสงบ หรือการฉุกคิด

66.       ข้อใดหมายถึงผู้จัดรายการ

(1) Producer      (2)       Director   (3)       Host (4)       Announcer

ตอบ 3 หน้า 96, (คำบรรยาย) Host หมายถึง ผู้จัดรายการ หรือผู้ดำเนินรายการสนทนา

(ส่วนคำว่า “Producer” หมายถึง ผู้ผลิตรายการ, “Director” หมายถึง ผู้กำกับรายการ, “Announcer” หมายถึง ผู้ประกาศ)

67.       หากต้องการนำเสนอภาพมุมต่ำ ควรใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องข้อใด

(1) แพน           (2)       ดอลลี่  (3)       ทิลท์     (4) ทรัค

ตอบ 3 หน้า 112 ทิลท์ (Tilt) คือ เทคนิคการเคลื่อนไหวกด้องโดยการเงยหรือก้มกล้องในลักษณะ แนวตั้ง เพื่อให้ผู้ชมเห็นภาพมุมสูงและภาพมุมต่ำได้มากขึ้น

68.       การถ่ายทำสารคดีท่องเที่ยวหากถ่ายภาพภูเขา ควรใช้ภาพลักษณะใด

(1)       Extreme Close Up    (2) Close up Shot

(3) Medium Shot       (4) Extreme Long Shot

ตอบ 4 หน้า 109, (คำบรรยาย) ภาพระยะไกลมาก (Extreme Long Shot : ELS) เป็นการถ่ายภาพ ในระยะไกลมาก ได้แก่ ภาพวิว หรือภาพทิวทัศน์ที่แสดงทัศนียภาพขององค์ประกอบทั้งหมด เช่น การถ่ายทำรายการสารคดีทองเที่ยว เป็นต้น

69.       ภาพ Knees Shot เรียกอีกอย่างว่าอะไร

(1) Close Up

(2)       Medium Shot (3) Medium Long Shot      (4) Long Shot

ตอบ 3 หน้า 109 ภาพระยะปานกลางค่อนข้างไกล (Medium Long Shot : MLS) เป็นภาพถ่ายในระยะที่เห็นรายละเอียดของจุดเด่นในภาพไม่มากนัก แต่จะเห็นองค์ประกอบอื่น ๆ ในภาพมากขึ้น ซึ่งหากเป็นการถ่ายภาพบุคคลก็จะเห็นในระดับหัวเข่า ดังนั้นบางครั้งจึงเรียกภาพระยะนี้ว่า Knees Shot

70.       ไล่กันสนั่นเมืองมหาชัยเหมือนในหนังฮอลลีวูด หนุ่มมีประวัติพร้อมพวกนัดคู่กรณีมาเจรจาปัญหา

ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำประเภทใด   

(1) Background Lead

(2)       Colorful Lead   (3) Summary Lead    (4) Contrast Lead

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 54. ประกอบ

71.       บทความต่อไปนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นระดับใด

ถ้ารัฐบาลปัจจุบันไม่สามารถฟื้นฟูหรือสร้างคุณภาพชีวิตให้ประชาชนรอดพ้นจากสารพิษหรือความเสื่อม อย่าหวังว่านักการเมืองและนายทุนธุรกิจจะมีใจช่วยเหลือเอื้ออาทรในบรรยากาศทุนนิยมได้

(1) ให้ข้อมูล     

(2) อธิบายความ          

(3) วิพากษ์วิจารณ์       

(4) เสนอแนวทางการแก้ปัญหา

ตอบ 2 หน้า 88 – 89, (คำบรรยาย) วัตตุประสงค์ของการแสดงความคิดเห็นในบทความ บทวิเคราะห์ และบทบรรณาธิการ อาจแบ่งตามระดับจากง่ายไปยากที่สุดได้ดังนี้

1.         ระดับอธิบายความ คือ ผู้เขียนตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะตามมา

2.         ระดับวิพากษ์วิจารณ์ คือ ผู้เขียนประเมินค่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าดีหรือไม่ดี เห็นด้วย หรือไมเห็นด้วย ใครถูกใครผิด ฯลฯ โดยแจกแจงให้เห็นข้อดีข้อด้อยในเรื่องนั้น ๆ

3.         ระดับเสนอทางแก้ปัญหา คือ ผู้เขียนให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาแก่ผู้รับผิดชอบ จึงเป็นการเขียนเชิงวิเคราะห์ที่กล่าวถึงสาเหตุและเสนอทางออกไปพร้อมกัน

72.       ในระหว่างนี้กระทรวงศึกษาธิการควรจะมีคำอธิบายให้กับผู้ที่สอบรอบแรกไม่ได้ว่าจะต้องทำอย่างไร และที่สำคัญก็คือ การสร้างความรับรู้กับนักเรียนที่สอบไม่ติดว่าความสำเร็จในชีวิตไมได้ขึ้นกับการเอ็นทรานซ์ติดสถาบันดัง ๆ” เป็นส่วนลงท้ายของบทบรรณาธิการประเภทใด

(1) ให้ข่าวสาร  

(2) อธิบายความ          

(3)       สนับสนุน         

(4)       ให้ข้อเสนอแนะ

ตอบ 4 หน้า 91 – 93, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการประเภทให้ข้อเสนอแนะ (Suggest) เป็น บทบรรณาธิการที่ผู้เขียนได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเป็นข่าวและต้องการให้มีการแก้ปัญหาในทางที่ถูก ซึ่งเป้าหมายของบทบรรณาธิการประเภทนี้อาจจะไม่รุนแรงถึงกับ เรียกร้องให้มีการตอบสนองข้อเสนอแนะนั้น แต่เป็นเพียงการชี้แนวทางที่เป็นไปได้ให้แกผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้องได้พิจารณาเลือกปฏิบัติ (วิธีดูว่าบทบรรณาธิการเป็นประเภทไหน ดูได้จากส่วนลงท้ายหรือส่วนสรุปของบทบรรณาธิการนั้น ๆ)

73.       หากต้องการสื่อความหมายถึงความเป็นการเป็นงานควรใช้สีใดเป็นหลัก

(1) สีดำ           

(2) สีน้ำเงิน      

(3)       สีเขียว  

(4)       สีน้ำตาล

ตอบ 2 หน้า 53 สี (Color) สามารถสร้างผลกระทบทางด้านอารมณ์ได้ดังนี้

1.         สีน้ำเงิน หมายถึง ความเศร้า ความเยือกเย็น ความจริง ความบริสุทธิ์ ความเป็นการเป็นงาน

2.         สีเหลือง หมายถึง ความร่าเริง ฤดูใบไม้ผลิ ความไม่ซื่อสัตย์ แสงสว่าง ความเบิกบาน สดใส

3.         สีดำ หมายถึง ความลึกลับ ความตาย ความหนัก ความหรูหรา .

4.         สีเขียว หมายถึง ความสงบ ชุ่มชื้น ฤดูใบไม้ผลิ วัยหนุ่มสาว ธรรมชาติ

5.         สีแดง หมายถึง ความโกรธ ความรัก ความร้อนแรงทันสมัย ความตื่นเต้น

6.         สีขาว หมายถึง ความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความไม่มีมลทิน ความมีคุณธรรม ความดี ฯลฯ

74.       ชุดราตรีสีดำ สื่อความหมายถึงอะไร

(1) ความเศร้า  (2) อารมณ์หดหู่           (3) ความหรูหรา           (4) ความเคร่งขรึม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       เรื่องที่กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หยิบยกขึ้นมาเขียนบทบรรณาธิการ ได้แก่เรื่องราวประเภทใด

(1) เรื่องที่กองบรรณาธิการต้องการชี้นำสังคม            (2) เรื่องที่ผู้สนับสนุนโฆษณาเสนอแนะ

(3)       เรื่องที่อยู่ในกระแสข่าว            (4) เรื่องที่กองบรรณาธิการต้องการกระตุ้นให้ผู้อ่านสนใจ

ตอบ 3 หน้า 92 หัวข้อเรื่องที่กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์หยิบยกขึ้นมาเขียนเป็นบทบรรณาธิการ ได้แก่ 1. เรื่องราวที่ทันสมัยและทันเหตุการณ์       2. เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับกระแสขาวในช่วงนั้น

76.       การเขียนบทความในหนังสือพิมพ์มีแนวทางการใช้ภาษาอย่างไร      

(1) เป็นกันเอง

(2)       ภาษาปาก       (3) กึ่งทางการ (4) มีแบบแผนเป็นทางการ

ตอบ 4 หน้า 88 การเขียนบทความและบทวิเคราะห์ในหนังสือพิมพ์มีแนวทางการใช้ภาษาดังนี้

1.         เขียนอย่างมีแบบแผนเป็นทางการ เพื่อให้ความคิดเห็นนั้น ๆ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ

2.         เขียนแบบมีลีลาเฉพาะตัว ดังเช่นนักเขียนคอลัมน์หรือที่เรียกกันว่าคอลัมนิสต์ ซึ่งมีการใช้สำนวนภาษาคมคาย            3. เขียนในลักษณะทีเล่นทีจริง เพื่อมิให้การวิพากษ์วิจารณ์แรงเกินไป

77.       การเขียนบทความระดับใดที่เขียนยากที่สุด  

(1) อธิบายความ

(2)       วิพากษ์วิจารณ์            (3) แสดงความคิดเห็น (4) เสนอทางแก้ปัญหา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 71. ประกอบ

78.       ผู้เขียนควรยึดหลักการเขียนอย่างไรเพื่อให้ข้อเขียนนั้นมีสัมพันธภาพ

(1)       มุ่งประเด็นหลักของเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ

(2)       มีการเชื่อมร้อยแต่ละประเด็นย่อยเข้าด้วยกัน

(3)       มีการเน้นประเด็นสำคัญให้เห็นเด่นชัดในแต่ละย่อหน้า

(4)       ไม่เขียนออกนอกเรื่อง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 49. ประกอบ

79.       การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงสำหรับรายการสัมภาษณ์ ควรเขียนแบบใด  

(1) วางโครงร่างคร่าว ๆ

(2)       ประเภทกึ่งสมบูรณ์     (3) ประเภทสมบูรณ์    (4) ประเภทแสดงเค้าโครง

ตอบ 2 หน้า 105, (คำบรรยาย) การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1.         บทที่วางโครงร่างคร่าว ๆ (Run-down Sheet) คือ บทที่ร่างลำดับเนื้อหาหรือ ลำดับการทำงานไว้สำหรับผู้ร่วมงาน ซึ่งมักใช้กับรายการเพลง

2.         บทกึ่งสมบูรณ์ (Semi Script) คือ บทที่มีรายละเอียดสมบูรณ์ในบางส่วนและละไว้บางส่วน มักใช้กับรายการสัมภาษณ์ สนทนา ฯลฯ

3.         บทสมบูรณ์ (Complete Script) คือ บทที่มีรายละเอียดทุกอย่างกำหนดไว้ชัดเจน มักใช้ กับรายการละครวิทยุ ข่าว บทความ สปอตโฆษณา ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ)

80.       Ad-lib หมายถึงอะไร         

(1) การพูดตามบท

(2)       การพูดโดยไม่มีบท     (3) การอ่านออกเสียง  (4) การประกาศ

ตอบ 2 หน้า 9699, (คำบรรยาย) Ad-lib หมายถึง การพูดโดยไม่มีบท หรือการพูดสดออกอากาศ โดยไม่มีสคริปต์ เป็นการพูดปากเปล่าโดยที่ผู้พูดไมมีการตระเตรียมมาก่อน เพียงแต่กำหนด ประเด็นที่จะพูดไว้ในแต่ละครั้งเท่านั้น ซึ่งมีข้อดีคือ ให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าการอ่านแต่บท เพียงอย่างเดียว ส่วนใหญ่มักใช้ในรายการเพลงและรายการสนทนา

81.       ข้อใดคือแนวทางการใช้ภาษาทางวิทยุกระจายเสียง

(1) ใช้ภาษาเขียนที่เป็นทางการ           

(2) ใช้ภาษาพูดที่เป็นทางการ

(3)       ใช้ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ           

(4) ใช้ภาษาสำหรับผู้ฟังเฉพาะกลุ่ม

ตอบ 3 หน้า 104 – 105 หลักการใช้ภาษาพูดทางวิทยุกระจายเสียง มีดังนี้    1. ใช้ประโยคสั้น ๆง่าย ๆ พูดแล้วไม่ต้องให้คิดนาน        2. การพูดทุกตอนต้องแสดงความหมายในแง่เดียว3.  ใช้ภาษาสุภาพ ให้เกียรติผู้ฟัง อย่าใช้ภาษาที่แสดงภูมิอวดผู้ฟัง เช่น ใช้คำยาก คำแปลก ๆ 4.         ใช้น้ำเสียงเป็นกันเองกับผู้ฟัง 5. ไม่นำเรื่องส่วนตัวของผู้ดำเนินรายการ หรือญาติมิตรมาพูดคุยในรายการ      6. ไม่ใช้คำคะนองที่ใช้กันเฉพาะกลุ่ม ไมพูดคำหยาบ และคำผวน ฯลฯ

82.       ข้อใดเป็นข้อควรปฏิบัติในการอ่านข่าวโทรทัศน์

(1) อ่านด้วยลีลาการพูด          

(2) เพ่งความสนใจไปที่คำอ่านเท่านั้น

(3)       นั่งตัวตรงในขณะที่อ่านข่าว    

(4) ไม่ควรทำตนให้เป็นกันเองกับผู้ชม

ตอบ 1 หน้า 107, (คำบรรยาย) ผู้อ่านหรือผู้ประกาศ (Announcer) ทางโทรทัศน์ควรยึดหลักปฏิบัติ ดังนี้       1. หากเกิดความไม่แน่ใจต่อคำอ่านว่าออกเสียงอย่างไร ก็ควรเปิดพจนานุกรมดู 2. ระลึกอยู่เสมอว่าผู้อ่านกำลัง พูด” มิใช่ อ่านโดยควรอ่านด้วยลีลาการพูด ซึ่งจะช่วยให้คำอ่านเป็นธรรมชาติ  3. ทำใจให้เป็นกลาง ไม่อคติกับบุคคลในข่าว   4.            ทำตนให้เป็นกันเองกับผู้ชม รวมทั้งพยายามสบตาผู้ชมทางบ้าน (ผ่านทางกล้อง) ด้วย ไมใช่เพ่งความสนใจไปที่คำอ่านตามบทเท่านั้น

83.       ข้อใดเป็นภาษาหลักของรายการโทรทัศน์

(1) คำสนทนา  

(2) คำบรรยาย 

(3) คำอ่าน       

(4) ภาพ

ตอบ 4 หน้า 106108117 ภาพ (Image) ถือเป็น (อวัจน) ภาษาหลักที่สำคัญในการสื่อความหมาย ของรายการทางวิทยุโทรทัศน์ ส่วนคำบรรยายเป็น (วัจน) ภาษารองที่ช่วยเสริมความเข้าใจให้ผู้ชม เมื่อดูภาพอย่างเดียวแล้วไม่สามารถเข้าใจได้ รวมถึงอวัจนภาษาประเภทดนตรี แสง สี เสียง ขนาด มุมกล้องก็เป็นเพียงตัวช่วยเสริมเพื่อสื่อเรื่องราวในภาพให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

84.       Cut เป็นศัพท์เทคนิคที่ใช้เกี่ยวกับขั้นตอนใด

(1)       การถ่ายภาพ   (2)       การลำดับภาพ (3)       การบันทึกเสียง           (4)       กำกับการแสดง

ตอบ 2 หน้า 114 การคัต (Cut) คือ การตัดภาพจากกล้องหนึ่งไปยังอีกกล้องหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอน การลำดับภาพที่รวดเร็วและง่ายที่สุด

85.       ข้อใดเป็นหลักการพูดทางวิทยุกระจายเสียง 

(1) การพูดทุกตอนต้องแสดงความหมายแง่เดียว

(2)       เลือกใช้คำแปลก ๆ      (3) ไม่ควรพูดตามบทเพราะไม่เป็นธรรมชาติ

(4)       ควรสร้างความเป็นกันเองด้วยการพูดเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผู้พูด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 81. ประกอบ

86.       หากต้องการถ่ายภาพทิวทัศน์ควรใช้ภาพขนาดใด

(1) MLS      (2)       LS     (3)       ELS   (4)       SLS

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 68. ประกอบ

87.       คำสนทนาที่มีผู้พูดเพียงคนเดียวเรียกว่าอะไร

(1) Narration     (2)       Announcement        (3) Monologue (4)       Dialogue

ตอบ 3 หน้า 106, (คำบรรยาย) คำสนทนาแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ 1. Monologue คือ คำสนทนาที่ป็นบทพูดของผู้พูดเพียงคนเดียว ในลักษณะที่เป็นการสื่อสารกับผู้ชมรายการ โดยตรง       2. Dialogue คือ คำสนทนาที่เป็นบทพูดโต้ตอบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปซึ่งมักพบในรายการสัมภาษณ์ ละคร ฯลฯ

ตั้งแต่ข้อ 88. – 90. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Interviewer  (2) Interviewee (3) Announcer  (4) Producer

88.       ข้อใดหมายถึงผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์

ตอบ 1 หน้า 96 รายการสัมภาษณ์ (Interview Programme) คือ รายการที่มีบุคคล 2 ฝ่ายโดยฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ซักถามหรือผู้ดำเนินรายการสัมภาษณ์ (Interviewer) และอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ (Interviewee) ซึ่งเรื่องที่สัมภาษณ์หรือซักถามมักเป็นปัญหาที่อยู่ใน ความสนใจของคนในสังคม

89.       ข้อใดหมายถึงผู้ประกาศ

ตอบ 3 ดูดำอธิบายข้อ 82. ประกอบ

90.       ข้อใดหมายถึงผู้ผลิตรายการ

ตอบ 4 ดูดำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

91.       หากใช้เทคนิคโครมาคีย์ ห้ามผู้แสดงแต่งกายสีอะไร

(1)       เหลือง  

(2) เขียว          

(3) แดง            

(4) ฟ้า

ตอบ 4 หน้า 114, (ดำบรรยาย) โครมาคีย์ (Chroma Key) คือ เทคนิคการซ้อนภาพกับฉากหลัง โดยใช้กล้อง 2 กล้อง กล้องหนึ่งจับภาพบุคคลหรือวัตถุที่อยู่หน้าฉากหลังที่เป็นสีฟ้า (แต่บุคคล หรือวัตถุห้ามเป็นสีฟ้า) ส่วนอีกกล้องหนึ่งจับภาพฉากหลังอีกฉากหนึ่ง (ภาพกราฟิก) จากนั้น ลบฉากหลังสีฟ้าของภาพบุคคลหรือวัตถุออก แล้วผสมภาพซ้อนกับฉากหลังที่เป็นภาพกราฟิก ซึ่งภาพที่ปรากฏจะมีความคมชัดและแนบเนียน เช่น การอ่านข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์ ฯลฯ

92.       การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงรายการบันเทิง มีแนวทางการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ใช้ประโยคสั้น ๆ

(2)       ใช้ศัพท์วิชาการ ศัพท์เทคนิค   

(3) ใช้ภาษาให้เกิดภาพพจน์   

(4) เร้าอารมณ์ สร้างความรู้สึก

ตอบ 4 หน้า 103 – 104, (คำบรรยาย) เทคนิคการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงประเภทรายการบันเทิง มีดังนี้

1.         ใช้ภาษาให้เหมือนกับการพูดคุยตามธรรมชาติ โดยจินตนาการว่ากำลังพูดกับผู้ฟังตัวต่อตัว

2.         เลือกใช้คำให้เหมาะสม เพื่อช่วยสร้างบุคลิกผู้แสดงด้วยคำพูด

3.         บทที่ต้องการแสดงอารมณ์ ต้องวงเล็บอารมณ์เหล่านั้นกำกับไว้ด้วย

4.         บทจะต้องเร้าอารมณ์ผู้ฟัง สร้างภาพ สร้างความรู้สึก ด้วยการใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม

5.         ไม่ใช้คำศัพท์ที่ยาก หรือศัพท์วิชาการ

6.         ใช้เสียงดนตรีและเสียงประกอบช่วยเพื่อสร้างอารมณ์ตามเนื้อเรื่อง

93.       ลักษณะภาษาพูดทางวิทยุกระจายเสียงเป็นอย่างไร 

(1) ภาษาทางการ

(2) ภาษาพรรณนาโวหาร         

(3) สุภาพ ให้เกียรติผู้ฟัง         

(4) แสดงถึงภูมิความรู้ของผู้พูด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 81. ประกอบ

94.       บทวิทยุกระจายเสียงมีประโยชน์อย่างไร

(1)       ทำให้รายการนั้นมีน้ำเสียงเป็นทางการมากขึ้น

(2)       ทำให้รู้ว่ามีฝ่ายใดเกี่ยวข้องกับการผลิตรายการบ้าง

(3)       เป็นแผนงานการผลิตรายการที่ต้องใช้ประกอบการติดต่อเช่าเวลาจากทางสถานี

(4)       ช่วยให้ผู้พูดพูดในประเด็นที่ต้องการ ไม่สับสนวกวน

ตอบ 4 ดูดำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

95.      รายการเพลงมักใช้บทวิทยุกระจายเสียงแบบใด

(1) Run-down Sheet (2) Semi Script (3) Fully Script   (4) Complete Script

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 79. ประกอบ

96. การพูดกับผู้รับสารที่เป็นกลุ่มคนวัยชรา ควรเน้นเรื่องได

(1) ความรัก     (2) การเน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

(3)       เรื่องแปลกชวนพิศวง   (4) เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัย

ตอบ 4 หน้า 84 ผู้รับสารที่เป็นกลุ่มคนวัยชราจะมีประสบการณ์สูง มีความคิดอนุรักษนิยม มีความระมัดระวังสูง ยึดถือการปฏิบัติ และยึดติดกับความเชื่อเดิม ๆ ทำให้โอกาสที่จะ ถูกชักจูงใจมีน้อย ดังนั้นการพูดกับคนวัยนี้จึงควรพูดเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน การรักษาพยาบาล สวัสดิภาพของครอบครัว และเรื่องเกี่ยวกับจิตใจ

97.       คำย่อ SFX หมายถึงอะไร

(1) เสียงดนตรี (2) เสียงประกอบ        (3) ผู้ประกาศ  (4) ความเงียบ

ตอบ 2 หน้า 116, (คำบรรยาย) เสียงประกอบ (Sound Effect/SFX) ในรายการโทรทัศน์ ได้แก่ เสียงที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงสัตว์ร้อง เสียงน้ำตก เสียงฟ้าร้อง ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ช่วยสื่อเรื่องราวให้ภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ผลิตรายการจึงควรพิถีพิถันในการบันทึกเสียง ประกอบด้วย เพื่อให้ได้เสียงประกอบที่สมบูรณ์และในระดับความดังที่พอเหมาะ โดยมิให้ ดังกลบเสียงสนทนาหรือเสียงบรรยาย

98.       ข้อใดเป็นแนวทางปฏิบัติในการสัมภาษณ์สดทางโทรทัศน์

(1) ผู้สัมภาษณ์ควรจดจ่ออยู่กับคำถามข้อต่อไป         (2) ผู้สัมภาษณ์ควรเตรียมคำถามทุกคำถามไว้ล่วงหน้า

(3)       ผู้สัมภาษณ์ควศึกษาข้อมูลก่อนการสัมภาษณ์          (4) ผู้สัมภาษณ์ควรปล่อยให้ผู้ให้สัมภาษณ์พูดฝ่ายเดียว

ตอบ 3 (คำบรรยาย) แนวทางปฏิบัติในการสัมภาษณ์สดทางโทรทัศน์ประการหนึ่ง คือ ผู้สัมภาษณ์ ควรศึกษาข้อมูลก่อนการสัมภาษณ์ โดยควรศึกษาภูมิหลังของบุคคลที่จะไปสัมภาษณ์ล่วงหน้า ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควรศึกษาภูมิหลังรายละเอียดของเรื่องราวที่ตั้งใจจะไปสัมภาษณ์ ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน

99.       คำอ่าน (Announcement) ปรากฏในรายการประเภทใด

(1) ข่าว            (2)       เกมโชว์            (3) สารคดี       (4)       วาไรตี้

ตอบ 1 หน้า 107, (คำบรรยาย) คำอ่าน (Announcement) หมายถึง ข้อเขียนที่มีผู้ทำหน้าที่อ่าน หรือประกาศด้วยลีลาภาษาพูด ซึ่งผู้อ่านหรือผู้ประาศต้องเข้าใจในข้อความที่เขียน รวมถึง สามารถตีความและอ่านเว้นจังหวะวรรคตอนได้ถูกต้อง จึงจะทำให้ข่าวสารที่อ่านถ่ายทอด ไปยังผู้ชมมีประสิทธิภาพ เช่น รายการข่าว พยากรณ์อากาศ ประกาศต่าง ๆ ฯลฯ

100.    การอ่านข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์ใช้เทคนิคอะไร

(1) ซุปเปอร์อิมโพส      (2)       สปลิตสกรีน     (3) โครมาคีย์   (4)       ดิสโซล์ฟ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

MCS2106 ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2106 (MCS 2160) ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1. อะไรคือสื่อกลางในการแสดงออกเชิงความคิดของมนุษย์

(1)       หัวใจ    

(2) ร่างกาย      

(3) สายตา       

(4) ภาษา

ตอบ 4 หน้า 1 การสื่อสารของมนุษย์จำเป็นต้องใช้ภาษา เพราะภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้แทนความหมาย เป็นสื่อกลางในการแสดงออกทางความคิดของมนุษย์ จึงทำให้มนุษย์สามารถส่งความหมายที่อยู่ในความคิดของตนไปยังอีกฝ่ายหนึ่งให้รับรู้และเข้าใจความหมายร่วมกัน

2.         ข้อใดถูกต้องที่สุด

(1)       การสื่อสารทำให้มนุษย์มาอยู่รวมกัน   

(2) ภาษาเป็นวิธีการสื่อสารของมนุษย์

(3) ภาษาเป็นสิ่งที่ใช้แทนความหมาย  

(4) ภาษาและความหมายเป็นสิ่งเดียวกัน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         องค์ประกอบของการสื่อสารข้อใดที่หมายถึงการแปรความหมายให้อยู่ในรูปของสาร

(1)       ช่องทางการสื่อสาร      

(2) ผู้ส่งสาร     

(3) การถอดรหัส          

(4) การเข้ารหัส

ตอบ 4 หน้า 4 การเข้ารหัสสาร (Encoding) หมายถึง การที่แหล่งสารแปรความคิดของตนหรือแปรความหมายให้อยู่ในรูปของสารที่อีกฝ่ายหนึ่งสามารถรับได้ โดยอาศัยประสาทสัมผัส (Senses) เป็นช่องทางการสื่อสารเพื่อนำสารมาสู่ผู้รับสาร เช่น เมื่อแหล่งสารต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง สมองของเขาจะทำงานร่วมกับอวัยวะในการเปล่งเสียง เพื่อคิดคำพูดและเปล่งเสียงออกมาเป็น คำพูด ประโยค และบทสนทนา ฯลฯ

4.         เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ทำหน้าที่ใดในกระบวนการสื่อสาร

(1)       ผู้ส่งสาร           (2) ผู้เข้ารหัส    (3) ผู้รับสาร     (4) ผู้ถอดรหัส

ตอบ 4 หน้า 4-5 การถอดรหัสสาร (Decoding) ประกอบด้วยกิจกรรมของการแปลหรือตีความสาร ที่ปรากฏออกมาทางกายภาพให้อยู่ในรูปที่มีความหมายสำหรับผู้รับสาร ซึ่งไมว่าจะเป็นมนุษย์ หรือเครื่องยนต์กลไกก็ล้วนเป็นผู้ถอดรหัสได้ เช่น เครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ ทำหน้าที่เป็น ผู้ถอดรหัสจากสัญญาณคลื่นวิทยุหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าให้เป็นสัญญาณเสียงเพื่อส่งเข้ามา ทางโสตประสาทที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ ฯลฯ

5.         การสื่อสารประเภทใดที่ผู้ส่งสารกับผู้รับสารอยู่คนละสถานที่และคนละเวลา

(1) การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม        (2) การสื่อสารองค์การ

(3) การสื่อสารสาธารณะ         (4) การสื่อสารมวลชน

ตอบ 4 หน้า 5, (คำบรรยาย) ในบางสถานการณ์ผู้ส่งสารกับผู้รับสารอาจอยู่ในสถานการณ์หรือปรากฏอยู่ในที่เดียวกัน เช่น การสื่อสารแบบเผชิญหน้าที่ผู้ส่งสารและผู้รับสารอยู่ในสถานที่ และเวลาเดียวกัน ฯลฯ แต่บางสถานการณ์ผู้ส่งสารกับผู้รับสารอาจถูกแยกจากกันด้วยปัจจัย เรื่องของสถานที่ (Space) และเวลา (Time) เช่น การสื่อสารมวลชน (หนังสือพิมพ์ นิตยสาร) ที่ผู้ส่งสารกับผู้รับสารอยู่คนละสถานที่และคนละเวลา ฯลฯ

6.         ข้อใดหมายถึง สภาวะแวดล้อมที่มีอิทธิพลกำกับความหมายและพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์

(1)       Environmental Noise       (2) Communication Context

(3) Communicative Competence      (4) Communication Content

ตอบ 2 หน้า 710 บริบทของการสื่อสาร (Communication Context) หมายถึง สภาวะแวดล้อมที่มีอิทธิพลกำกับความหมายและพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์ ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่

1.         มิติทางกายภาพ 2. มิติทางวัฒนธรรม 3. มิติทางจิตวิทยาสังคม 4. มิติทางด้านเวลา

7.         ข้อใดถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสาร

(1)       การจูงใจ          (2)ทัศนคติ       (3)ค่านิยม       (4) การรับรู้

ตอบ4  หน้า 11 การรับรู้ เป็นกระบวนการที่ผู้รับสารตระหนักรู้ต่อสิ่งเร้าที่เข้ามาทางประสาทสัมผัสมีอิทธิพลต่อสิ่งเร้าหรือสารที่ผู้รับสารได้รับ และต่อการที่ผู้รับสารให้ความหมายต่อสิ่งเร้าหรือ สารนั้น ดังนั้นการรับรู้จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสาร เพราะความหมายของการกระทำ ระหว่างกันจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการรับรู้ของผู้ที่ได้รับสิ่งเร้านั้น

8.         การเรียนการสอนวิชาภาษาเพี่อการสื่อสารมวลชนในกลุ่มผู้เรียนไม่เกิน 10 คน ผู้สอนใช้ภาษาระดับลีลาใด

(1) Frozen Style          (2) Formal Style         (3) Consultative Style (4) Intimate Style

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ลีลาปรึกษาหารือ (Consultative Style) เป็นลีลาภาษาที่ใช้โดยมีจุดมุ่งหมายห้ผู้รับสารมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งมีลักษณะที่ค่อนข้างเป็นทางการ ได้แก่ รูปแบบของภาษาที่ใช้ ในการประชุม วิพากษ์วิจารณ์ การสัมมนา และการสื่อสารกลุ่มเล็ก ฯลฯ

9.         รูปร่างหน้าตาการแต่งกาย เป็นอวัจนภาษาข้อใด

(1) วัตถุภาษา  (2)       อาการภาษา    (3) ปริภาษา    (4) ทายภาษา

ตอบ 4 หน้า 15, (คำบรรยาย) ลักษณะทางกายภาพ (กายภาษา) หมายถึง อวัจนภาษาที่เกิดจาก ลักษณะหรือรูปลักษณ์ภายนอกของบุคคล ได้แก่ รูปร่างหน้าตา การแต่งกาย เครื่องประดับ หรือเสื้อผ้า หน้า ผม ฯลฯ ซึ่งสามารถบงบอกถึงรสนิยมและค่านิยมได้

10.       สถานที่ ช่องว่าง ระยะห่าง เป็นอวัจนภาษาข้อใด

(1) กายภาษา  (2)       วัตถุภาษา        (3) ปริภาษา    (4) เทศภาษา

ตอบ 4 หน้า 16 ช่องว่างหรือระยะห่าง (เทศภาษา) หมายถึง อวัจนภาษาเรื่องช่องว่างและระยะห่างของคู่สนทนา เช่น ระยะห่างระหว่างหญิงกับหญิงและหญิงกับชายย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้รวมถึงเทศภาษาที่เกิดจากความเคารพในสถานที่แต่ละแห่งด้วย เช่น วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ที่บุคคลให้ความสำคัญมากกว่าสถานที่ธรรมดา

11.       ก่อนยุคการพิมพ์ ภาษาทางการที่ใช้ในภาคพื้นยุโรป เป็นภาษาใด

(1) อังกฤษ      

(2)       ฝรั่งเศส            

(3) เยอรมัน      

(4) ละติน

ตอบ 4 หน้า 22 ก่อนยุคการพิมพ์นั้นในภาคพื้นยุโรปมีการคัดลอกหนังสือด้วยการใช้ภาษาทางการคือ ภาษาละติน ซึ่งเป็นภาษาของโบสถ์คาทอลิก แต่เมื่อมีระบบการพิมพ์เกิดขึ้น ผู้พิมพ์ยุดเริ่มแรก ตระหนักว่าตลาดของหนังสือมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความรู้สึกผูกพันกับบ้านมากกว่าโบสถ์ จึงพิมพ์หนังสือเป็นภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ และภาษาท้องถิ่นมากกว่าที่จะใช้ภาษา ของคริสตจักร

12. ข้อใดเป็นลักษณะผู้ส่งสารของการสื่อสารมวลชน

(1)       เป็นบุคคลสำคัญ         

(2) เป็นสถาบัน            

(3) เป็นคนเก่ง 

(4) เป็นใครก็ได้

ตอบ 2 หน้า 25 – 26 ลักษณะของการสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         แหล่งสารหรือผู้ส่งสารมีลักษณะเป็นสถาบัน

2.         สารที่ปรากฏทางสื่อมวลชนมีลักษณะเป็นสาธารณะ (Public)

3.         ผู้รับสารเป็นมวลชนหรือผู้รับชมรับฟังจำนวนมากที่เป็นใครก็ได้

4.         กระบวนการสื่อสารมวลชนมีลักษณะเป็นการสื่อสารทางเดียว

5.         ได้รับอิทธิพลจากบริบททางสังคม      6. ใช้สื่อมวลชนเป็นช่องทางการสื่อสาร

13.       เนื้อหาทางสื่อมวลชนไม่เหมาะสำหรับผู้รับสารข้อใด

(1) คนทั่วไป     (2) ผู้บริโภค     (3) สาธารณชน           (4) ปัจเจกชน

ตอบ 4 หน้า 25 เนื่องจากสื่อมวลชนมีผู้รับสารจำนวนมากซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครและอยู่ที่ไหนบ้างทำให้เนื้อหาที่ปรากฏทางสื่อมวลชนมีลักษณะที่เหมาะสำหรับผู้รับสารกลุ่มใดก็ได้หรือสำหรับ ผู้รับสารที่มีลักษณะตามเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป ดังนั้นปัจเจกชนที่มีลักษณะเป็นปัจเจกสูงมากหรือมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนมาตรฐานทั่วไปของคนในสังคมจึงไม่ใช่ผู้รับสารของสื่อมวลชน

14.       การที่สื่อมวลชนรายงานข่าวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการทำหน้าที่ข้อใด

(1) สอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม            (2) ตีความหมาย

(3) ประสานส่วนต่าง ๆ ในสังคม         (4) ส่งผ่านค่านิยม

ตอบ 1 หน้า 27, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการสอดส่องดูแลความเป็นไปในลังคม (Surveillance) คือ การแจ้งข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบถึงความเป็นไปในสังคม รวมถึงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหรือฝายปกครองที่คาดว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นสื่อมวลชนจึงเป็นเสมือนผู้ส่งสัญญาณเตือนภัยหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบในทางที่เป็นอันตรายต่อสังคม

15.       การที่หนังสือพิมพ์รายวันนำเสนอบทบรรณาธิการหรือบทนำ เป็นการทำหน้าที่ข้อใด

(1) สอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม            (2) ตีความหมาย

(3) ประสานส่วนต่าง ๆ ในสังคม         (4) ส่งผ่านค่านิยม

ครบ 2 หน้า 27, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการตีความหมาย (Interpretation) คือ การนำเสนอเรืองราวที่ผ่านการตีความหมายโดยผู้สื่อข่าว ผู้เขียนข่าว และกองบรรณาธิการ ของสื่อมวลชน ซึ่งไม่ได้นำเสนอเฉพาะข้อเท็จจริงและข้อมูลเท่านั้น แต่เป็นการรายงานข่าว ในลักษณะของการเล่าเรื่องที่ผ่านการกลั่นกรองจากมุมมองของสื่อมวลชน เพื่อให้ประชาชน ได้รับทราบข้อมูลจากมุมมองที่หลากหลายและสามารถประเมินข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ เช่น รายการเล่าข่าวทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ การนำเสนอบทบรรณาธิการหรือบทนำ ของหนังสือพิมพ์ ฯลฯ

16.       การที่ครอบครัวข่าว 3 นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เป็นการทำหน้าที่ตามบทบาท สื่อมวลชนข้อใด

(1) สอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม            (2) ตีความหมาย

(3) ประสานส่วนต่าง ๆ ในสังคม         (4) ผิดทุกข้อเพราะทำเกินหน้าที่

ตอบ 3 หน้า 28 บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนในการเชื่อมประสานส่วนต่าง ๆ ของสังคม คือการเชื่อมส่วนต่าง ๆ ที่ไมมีความเกี่ยวข้องกันโดยตรงให้เข้ามาเกี่ยวข้องกันได้โดยผ่าน เวทีสาธารณะ (สื่อมวลชน) เช่น เชื่อมระหว่างประชาชนผู้ยากไร้ที่ขาดคนเหลียวแลกับผู้ใจบุญ ที่ประสงค์จะช่วยเหลือผู้อื่น ฯลฯ นอกจากนี้สื่อมวลชนยังทำหน้าที่เชื่อมประสานกลุ่มคนที่มี ความสนใจอย่างเดียวกัน ซึ่งนักวิชาการบางท่านเรียกบทบาทหน้าที่ด้านนี้ว่า เป็นบทบาทหน้าที่ ของการสร้างกลุ่มสาธารณชน เช่น กลุ่มสมาชิกร่วมด้วยช่วยกัน ฯลฯ

17.       บทบาทหน้าที่ในการส่งผ่านค่านิยม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร

(1)       Social Relations (2) Socialization (3) Integration      (4) Modernization

ตอบ 2 หน้า 28 บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลซนในการส่งผ่านค่านิยม (Transmission of Values) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กระบวนการสังคมประทิต (Socialization) หมายถึง วิถีทางที่ นำปัจเจกชนมาสู่การยอมรับพฤติกรรมและค่านิยมของกลุ่ม โดยสื่อมวลชนจะนำเสนอ ค่านิยมต่าง ๆ ของคนบางกลุ่ม และจากการที่ประชาชนได้ดู ฟัง และอ่านก็ท่าให้ได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการปฏิบัติตนและสิ่งที่สังคมให้ความสำคัญจากการซึมซับเนื้อหาทางสื่อมวลชน

18.       ใครเป็นผู้คิดค้นระบบการพิมพ์ที่ใช้ตัวพิมพ์แบบถอดเปลี่ยนได้

(1)       ลาสเวลล์         (2) เจมส์ โลว์   (3) กูเต็นเบิร์ก (4) หมอบรัดเลย์

ตอบ 3 หน้า 22, (คำบรรยาย) โยฮัน กูเต็นเบิร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน เป็นผู้คิดค้น และพัฒนาระบบการพิมพ์แบบกด (Printing Press) หรือระบบเล็ตเตอร์เพรส (Letter Press) ที่ใช้ตัวพิมพ์ทำด้วยโลหะแบบถอดเปลี่ยนได้ (Movable Type) และต่อมาเขาก็ได้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิล ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1453 หลังจากนั้นระบบการพิมพ์แบบใหม่นี้ก็แพร่หลายไปทั่วยุโรปอย่างรวดเร็ว

19.       หากจะเขียนบทสารคดี ควรมีความรู้ระดับใดเป็นอย่างน้อย

(1) ระดับที่ 2   (2) ระดับที่ 3   (3) ระดับที่ 4   (4) ระดับที่ 5

ตอบ 2 หน้า 30 นักสื่อสารมวลชนต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าความรู้ที่ตนมีอยู่นั้นเพียงพอสำหรับ เรื่องราวที่จะสื่อสารหรือไม่ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ดังนี้

1.         หากต้องการเขียนข่าวรายงานเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ควรมีความรู้ (อย่างน้อย)ในระดับที่ 2 ก็เพียงพอ เนื่องจากการรายงานข่าวต้องรายงานตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไมมีการเพิ่มเติมข้อคิดเห็นของผู้เขียน

2.         หากจะเขียนสารคดีเชิงข่าวเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภูมิหลังหรือข้อมูลเจาะลึกของเรื่องนั้น ผู้เขียนต้องมีความรู้อย่างน้อยในระดับที่ 3

3.         หากจะเขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับความเป็นมา สาเหตุ และพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ ที่จะตามมาเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผู้เขียนควรมีความรู้อย่างน้อยในระดับที่ 4

4.         หากจะเขียนบทวิจารณ์ว่าการกระท่าเกี่ยวกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นถูกต้องหรือ ไม่ถูกต้อง ดีหรือไม่ดี ผู้เขียนควรมีความรู้ในระดับที่ 5

20.       เหตุใดนักสื่อสารมวลชนจึงต้องวิเคราะห์ผู้รับสาร

(1)       เพื่อเข้าใจลักษณะเฉพาะตัวของผู้รับสารแต่ละคนซึ่งแตกต่างกัน

(2)       เพื่อเข้าใจว่าผู้รับสารเป็นใครอยู่ที่ไหนบ้าง

(3)       เพื่อเข้าใจกำลังซื้อของผู้รับสารซึ่งแตกต่างกันตามฐานะทางสังคม

(4)       เพื่อเข้าใจลักษณะร่วมบางประการที่กำหนดความพร้อมของผู้รับสาร

 ตอบ 4 หน้า 30 นักสื่อสารมวลชนจะต้องวิเคราะห์ผู้รับสารเพื่อทำความเข้ๆใจลักษณะร่วม

บางประการที่เป็นสิ่งกำหนดความสามารถและความพร้อมของผู้รับสาร เพื่อที่จะสามารถ ออกแบบสารได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับผู้รับสารมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

21.       เนื้อหาที่ปรากฏทางสื่อมวลชนโทรทัศน์มีลักษณะเป็นอย่างไร

(1)       เป็นเรื่องทั่วไปที่เหมาะสำหรับทุกคน

(2)       เป็นสิ่งสะท้อนความเป็นจริงในสังคม โลกความจริงเป็นเช่นไรในสื่อก็เป็นเช่นนั้น

(3)       ไม่เป็นแบบฉบับตายตัว ไม่มีสไตล์เฉพาะตัว

(4)       ผ่านเลือกสรรมาเพียงบางส่วน เป็นภาพแบบฉบับตายตัว

ตอบ 4 หน้า 32 ผลจากการวิจัยของเกิร์บเนอร์ได้ให้ข้อสรุปว่า ลักษณะทางวัฒนธรรมที่ปรากฏ ในเนื้อหาข่าวสารของโทรทัศน์ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างวัฒนธรรมร่วม (Common Culture) ของสมาชิกในสังคม โดยเนื้อหาที่นำเสนอทางโทรทัศน์ได้ผ่านการเลือกสรรมาเพียงบางส่วนเสี้ยว ของโลก มีลักษณะเป็นภาพแบบฉบับตายตัว (Stereotyped) และเป็นภาพที่บิดเบี้ยวไปจาก โลกที่เป็นจริง โดยเฉพาะเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อผู้คนอย่างมากในรายการประเภทละครโทรทัศน์

22.       โลกทางสังคม เกิดจากอะไร   

(1) สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ

(2)       โลกที่อยู่รอบตัว           

(3) การขัดเกลาทางสังคม       

(4) ความเป็นจริงที่แท้จริง

ตอบ 3 หน้า 33 โลกทางสังคม (Social World) หรือความเป็นจริงทางสังคม (Social Reality)เป็นโลกที่เกิดจากการกล่อมเกลาของสถาบันทางลังคม ดังนั้นโลกทางสังคมของมนุษย์แต่ละคน จึงเป็นโลกที่เกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมเชิงสัญลักษณ์ที่แวดล้อมบุคคลเหล่านั้น หรือเป็นโลกที่เกิดจาก การรับรู้ เพราะการที่แต่ละคนมีโลกทางสังคมแตกต่างกันก็เนื่องจากมีระบบการรับรู้ที่ต่างกัน

23.       ภาพยนตร์โฆษณา “Silence of Love” มีวัตถุประสงค์ข้อใด

(1)       Awareness        (2) Knowledge  (3) Preference   (4) Conviction

ตอบ 3 หน้า 39 ความพึงพอใจ (Preference) หมายถึง การที่ผู้บริโภครู้สึกชอบสินค้าหรือบริการยี่ห้อที่โฆษณามากกว่าของคู่แข่ง และหากจะตัดสินใจซื้อก็พึงพอใจที่จะเลือกสินค้าหรือบริการ ของยี่ห้อที่โฆษณามากกว่ายี่ห้ออื่น (แม้ว่ายี่ห้อที่โฆษณาจะแพงกว่าก็ตาม)

24.       ภาพสินค้าในโฆษณาทางโทรทัศน์ควรมีลักษณะอย่างไร      

(1) เป็นภาพมุมสูง

(2)       เป็นภาพเคลื่อนไหว    (3) เป็นภาพระยะใกล้ (4) เป็นภาพระยะปานกลาง

ตอบ2 หน้า 51107, (คำบรรยาย) ภาพสินค้าในโฆษณาทางโทรทัศน์ จะทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ และตรึงผู้รับสารให้ใส่ใจต่อชิ้นงานโฆษณา โดยภาพที่นำเสนอส่วนใหญ่จะเป็นภาพเคลื่อนไหว ที่มีเสียงและตัวอักษรประกอบ จึงทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสินค้าได้ง่าย และยังมีอิทธิพลในการ ชักจูงใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น

25.       การใช้ภาษาในการโฆษณาต้องคำนึงถึงข้อใดเป็นหลัก

(1) กระแสสังคม          (2) ความต้องการของผู้ส่งสาร

(3)       ความต้องการของสื่อ  (4) ผู้รับสารที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

ตอบ 4 หน้า 41 การใช้ภาษา ในการโฆษณาจะต้องคำนึงถึงผู้รับสารที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยผู้เขียน ข้อความโฆษณาไมควรยึดติดกับตัวตน รสนิยม และความชอบของตน แต่ต้องเลือกใช้ภาษา ของกลุ่มเป้าหมายหรือภาษาที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น ภาษาที่ใช้ต้องสะท้อนถึงภูมิปัญญาและรสนิยมของวัยรุ่น ฯลฯ

26.       Advertising Concept หมายถึงอะไร         

(1) แนวคิดหลักที่ใช้ในการโฆษณา

(2)       ข้อความที่ใช้พาดหัวโฆษณา  (3) คำขวัญโฆษณา     (4) ความหมายของการโฆษณา

ตอบ 1 หน้า 4150, (คำบรรยาย) แนวคิดหลักที่ใช้ในการโฆษณา (Advertising Concept)หมายถึง ข้อความสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่ผู้โฆษณานำเสนออย่างสร้างสรรค์ เพี่อตรึงความสนใจของผู้บริโภค โดยจะช่วยให้การสื่อสารมีความคมชัด ตรงประเด็น และสร้างมโนทัศน์เกี่ยวกับสินค้าให้เกิดขึ้นในจิตใต้สำนึกของผู้บริโภค ซึ่งแนวคิดหลัก ของการโฆษณาจะปรากฏอยู่ที่คำขวัญโฆษณา ข้อความพาดหัว และเนื้อหา

27.       โทรทัศน์มีบทบาทด้านวัฒนธรรมอย่างไร

(1)       สร้างลักษณะวัฒนธรรมการเรียนรู้      (2) สร้างวัฒนธรรมเน้นปัญญา

(3)       สร้างวัฒนธรรมร่วมที่เป็นแบบฉบับตายตัว    (4) อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

28.       อ้างประชานิยมเจ๋ง ไม่ผลาญชาติ” จากพาดหัวข่าวนี้ ข้อความที่ขีดเส้นใต้หมายความว่าอย่างไร

(1)       นโยบายที่ใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อเอื้อประโยชน์แก่คนจน

(2)       นโยบายที่ได้รับความนิยมจากประชาชน       (3) นโยบายที่เอาใจประชาชนส่วนใหญ่

(4)       นโยบายที่กำหนดขึ้นตามความต้องการของประชาชน

ตอบ 1 (คำบรรยาย) คำว่า ประชานิยม” (Populist) หมายถึง นโยบายการบริหารงานทางด้านการเมืองที่สนองความต้องการของประชาชนทั่วไปหรือชนชั้นลาง หรือเป็นนโยบายที่สนับสนุนประชาชน คนยากจนเป็นหลัก โดยจะใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อเอื้อประโยชน์แก่คนจน ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังความนิยมทางการเมืองโดยไมจำเป็นต้องมีความสมเหตุสมผล หรือมีเป้าหมายทาง เศรษฐศาสตร์มหภาคมารองรับ

29.       การโฆษณาเนสกาแฟ 3 in 1 เรื่องล่าสุดใช้ลีลาใด

(1) Slice—of—life      (2) Life Style      (3) Fantasy         (4) Testimonial

ตอบ2  หน้า 43 – 44 ลีลารูปแบบการดำเนินชีวิต (Life Style) เป็นการนำเสนอภาพและคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง เป็นนักกีฬา เป็นวัยรุ่นที่ชอบสรวลเสเฮฮา เป็นคนทำงานที่ชอบดื่มกาแฟ ฯลฯ

30.       การโฆษณาที่มุ่งเสนอขายสินค้าอย่างตรงไปตรงมา เป็นการใช้น้ำเสียงในการโฆษณาแบบใด

(1) Hard Sell       (2) Soft Sell        (3) Emotional   (4) Logical

ตอบ 1 หน้า 45 น้ำเสียง (Tone) ที่ใช้ในการนำเสนอสารโฆษณา มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         น้ำเสียงที่มุ่งขายสินค้าอย่างชัดเจน (Hard Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาแบบ ตรงไปตรงมา มุ่งสู่การขายสินค้าอย่างไม่อ้อมค้อม

2.         น้ำเสียงที่มุ่งขายสินค้าทางอ้อม (Soft Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาที่เน้นการสร้าง อารมณ์ความรู้สึกและทัศนคติในเชิงบวกต่อสินค้า โดยไม่ได้กล่าวถึงตัวสินค้าโดยตรง อีกทั้งเน้นการโน้มน้าวใจโดยใช้อารมณ์มากกว่าการกล่าวถึงเหตุผลเกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้า

31.       การโฆษณา 7 Amazing ของการทองเทียวแห่งประเทศไทย เป็นการโฆษณาลีลาใด

(1) Slice—of—life      

(2) Life Style      

(3) Fantasy         

(4) Testimonial

ตอบ 3 หน้า 44 ลีลาจินตนาการ (Fantasy) เป็นการนำเสนอภาพที่เกิดจากจินตนาการ เช่น ใช้ภาพที่เกิดจากเทคนิคสร้างสรรค์ เพี่อแสดงถึงความคิด อุดมการณ์ ความมุ่งหวัง ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการหรือแนวความคิดที่ผู้โฆษณาต้องการนำเสนอ

32.       จิบไว้…สลายพุง” เป็นข้อความพาดหัวโฆษณาแบบใด

(1) พาดหัวข่าว            

(2) เป็นคำสั่ง

(3)       บอกประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ        

(4) ชวนให้สนใจใครรู้

ตอบ 3 หน้า 47 การกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ (Product Claim) เป็นการพาดหัว ที่แสดงถึงข้อยืนยันเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการใช้สินค้า ซึ่งการพาดหัววิธีนี้ จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ดี เพราะเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่อยู่ในความสนใจ ของผู้บริโภค และสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงคือ ข้อเสนอนั้นควรเป็นข้อเสนอที่เด่นชัดจริง ๆ และเชื่อถือได้ โดยข้อความโฆษณาส่วนอื่น ๆ ต้องเป็นการให้ข้อมูลหลักฐานเพื่อพิสูจน์ หรือสนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว

33.       การโฆษณาผู้ใหญ่ลีของธนาคารกรุงไทย เป็นการโฆษณาที่ใช้อะไรเป็นสิ่งดึงดูดใจ

(1) อารมณ์ขัน (2) ความกลัว  (3) ความอยากรู้อยากเห็น       (4) ความกล้าหาญ

ตอบ 1 หน้า 49 การใช้อารมณ์ขัน (Humor) เป็นวิธีการเขียนข้อความโฆษณาโดยสอดแทรกความบันเทิง ไปพร้อมกับการนำเสนอสิ่งดึงดูดใจ (Appeal) เพื่อขายสินค้า และข้อควรคำนึงสำหรับ การเขียนข้อความโฆษณาแบบนี้คือ จุดมุ่งหมายของการโฆษณามิใช่เพื่อมุ่งความบันเทิงเท่านั้น แด่ต้องสามารถสื่อสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อการขายสินค้า

34.       ข้อใดไม่ใช่หลักการของการเขียนข้อความพาดหัวโฆษณา

(1)       ข้อความที่เสนอขายสินค้า ควรเขียนไว้ที่ส่วนท้ายของข้อความโฆษณา

(2)       สอดแทรกข้อมูลใหม่ ๆ

(3)       ระบุชื่อสินค้าในข้อความพาดหัว         (4) มุ่งขายสินค้ามากกว่าการใช้สำนวนโวหาร ตอบ 1 หน้า 48 ข้อความพาดหัวโฆษณาที่ดีควรมีลักษณะดังนี้

1.         ควรขายสินค้าได้ 2. ดึงดูดใจผู้อ่านด้วยการชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ

3.         สอดแทรกข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับสินค้า            4. ควรระบุชื่อสินค้าไว้ในข้อความพาดหัว

5.         ควรเชิญชวนให้อ่านข้อความในส่วนอื่น ๆ ชองสิ่งโฆษณา

6.         ควรให้ความสำคัญกับการขายสินค้ามากกว่าการเล่นคำ ฯลฯ

35.       ข้อใดคือหน้าที่สำคัญของข้อความพาดหัวโฆษณา

(1) ทำให้รู้จักชื่อสินค้า (2) แสดงถึงเอกลักษณ์ของสินค้า

(3)       ดึงดูดความสนใจและขายสินค้า         (4) ช่วยสร้างความหมาย ให้ภาพประกอบ

ตอบ 3 หน้า 47 ข้อความพาดหัวโฆษณา (Headline) คือ ข้อความส่วนที่ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจ ผู้รับสารด้วยการกล่าวถึงข้อเสนอเพื่อการขายสินค้า ดังนั้นจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ของข้อความโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ เพราะหากข้อความพาดหัวไม่มีพลังพอก็ไม่อาจจะทำให้ผู้รับสาร สนใจอ่านข้อความโฆษณาส่วนอื่น ๆ ได้

36.       ผิวของคุณมีจุดด่างดำซ่อนอยูรึเปล่า” เป็นการเขียนพาดหัวแบบใด

(1) พาดหัวข่าว            (2) เป็นคำสั่ง

(3) บอกประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ  (4) ชวนให้สนใจใคร่รู้

ตอบ 4 หน้า 47 การชวนให้สนใจใคร่รู้ (Curiosity) เป็นการพาดหัวโฆษณาด้วยการทำให้ผู้รับสาร เกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น เพื่อดึงดูดใจให้ติดตามหาคำตอบหรือแก้ข้อสงสัยนั้นด้วยการ อ่านข้อความโฆษณาในส่วนที่เหลือ

37.       ผบ.ทบ. ข้องใจนิติเรดกำลังจะทำอะไร ฮึ่มทั้ง 2 ฝ่ายหยุดทำให้เกิดความขัดแย้ง ปู” กำหนดทาทียุส่ง แก้ ม.112 อ้างเสรีภาพทางวิชาการ” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1)       Punch Lead      (2) Background Lead         (3) Colorful Lead       (4) Contrast Lead

ตอบ 4 หน้า 83, (คำบรรยาย) ความนำแบบเปรียบเทียบ (Contrast Lead) คือ การเขียนความนำ ที่รายงานเหตุการณ์ในลักษณะเชื่อมเนื้อหา 2 ประเด็นซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกัน นำมาสรุป เข้าด้วยกันในการเขียนความนำ

38.       ศึกชักฟอกนโยบายรัฐบาลยังคึก ฝ่ายค้าน ส.ว. ถล่มยับนโยบายแก้บน ซัดกันเดือดหลังสาทิตย์ อัด พท.-เสื้อแดงบาป” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1)       Punch Lead     (2) Background Lead         (3) Colorful Lead       (4) Contrast Lead

ตอบ 1 หน้า 83 ความนำแบบกระแทกอารมณ์ (Punch Lead) คือ การเขียนความนำในการรายงานข่าวที่เป็นเหตุการณ์รุนแรง ดังนั้นภาษาที่ใช้จึงมีลักษณะ ขึงขัง มีพลัง และผู้เขียนมักใช้คำที่มี ลักษณะเป็น Strong Words

39.       ในการจัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด ใครควรเป็นผู้พูด 

(1) นักประชาสัมพันธ์

(2)       โฆษก (3) ผู้บริหารสูงสุดหรือผู้รับผิดชอบโดยตรง     (4) ผู้มีวาทศิลป์

ตอบ 3 หน้า 62, (คำบรรยาย) สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ คือการพิจารณาว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนขององค์กรในการพูด โดยจะต้องพิจารณาถึง โอกาสและเนื้อหาของการพูด เช่น ในการจัดประชุมแถลงนโยบายขององค์กร หรือจัดแถลงข่าว เพื่อชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด ผู้พูดควรเป็นผู้บริหารสูงสุดหรือบุคคลสำคัญที่รับผิดชอบ โดยตรง แต่ถ้าเป็นการกล่าวต้อนรับและการบรรยายสรุปให้นักศึกษาที่เข้าเยี่ยมชมกิจการฟัง ผู้พูดควรเป็นนักประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

40.       ข้อใดเป็นข้อพิจารณาในการกำหนดเรื่องที่พูดเพื่อการประชาสัมพันธ์

(1)       เป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

(2)       เป็นเรื่องที่อยู่ในกระแส

(3)       เป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์ โอกาส และความสามารถของผู้พูด

(4)       เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อน

ตอบ 3 หน้า 63 ผู้พูดควรกำหนดเรื่องที่จะพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับโอกาสสถานการณ์ที่ไปพูด และความรู้ความสามารถของตน โดยมีหลักสำคัญคือ การเตรียมเรื่อง ที่จะพูดให้พร้อม ซึ่งได้แก่ 1. ศึกษาหัวข้อเรื่องที่พูด            2. กำหนดโครงเรื่อง

3. ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม       4. คาดการณ์เรื่องที่ผู้พังจะซักถามและเตรียมคำตอบล่วงหน้า

5. เตรียมอุปกรณ์ประกอบการพูด

41.       Appeal หมายถึงอะไร

(1) ข้อเสนอเพื่อขายสินค้า       

(2) ลีลาการโฆษณา

(3)       น้ำเสียงหรือแนวทางการนำเสนอสาร  

(4) สิ่งที่ใช้เรียกร้องความสนใจ

ตอบ 4 หน้า 45 สิ่งดึงดูดใจ (Appeal) หมายถึง สิ่งที่ทำให้สินค้าในงานโฆษณานั้น ๆ น่าสนใจ ต่อผู้บริโภค หรือหมายถึง แนวทางที่ใช้ในการเรียกร้องความสนใจของผู้บริโภค และ/หรือ มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นต่อสินค้าหรือบริการ จึงเปรียบเสมือนสิ่งผลักดัน ผู้บริโภคหรือสิ่งที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภค

42.       การจัดแถลงข่าว เป็นการใช้การพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ในข้อใด

(1) การชี้แจงอย่างเป็นทางการ           

(2) การประชุมโต๊ะกลม

(3) การอภิปรายกลุ่ม   

(4) การบรรยายสรุป

ตอบ 1 หน้า 66, (คำบรรยาย) การพูดชี้แจงอย่างเป็นทางการ เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลดีในการสร้าง ความประทับใจและเผยแพร่กระจายข่าวสารไปสู่กลุ่มผู้ฟังได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำได้ใน รูปของการอธิบายถึงนโยบาย จุดมุ่งหมายของการดำเนินงาน ชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด และ ให้คำแนะน้าแก่บรรดาพนักงานของบริษัท โดยมักใช้ในการจัดแถลงข่าว การจัดประชุมผู้สื่อข่าว การกล่าวเปิดและปิดงาน ฯลฯ

43.       การจัดทำข่าวแจกส่งให้สื่อมวลชนเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีวัตถุประสงค์ข้อใด

(1) บอกกล่าวเผยแพร่ (2) สร้างความสัมพันธ์ที่ดี        (3) สร้างกระแสประชามติ       (4) โน้มน้าวใจ

ตอบ 1 หน้า 5971, (คำบรรยาย) ข่าวประชาสัมพันธ์ (News Release) หรือข่าวแจก (Press Release) หมายถึง ข่าวที่หน่วยงานประชาสัมพันธ์ผลิตและแจกจ่ายไปยังสื่อมวลชน เพื่อให้บรรณาธิการ ขององค์กรสื่อมวลชนพิจารณาลงเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งวัตถุประสงค์ของข่าวประชาสัมพันธ์ คือ เพื่อบอกกล่าวเผยแพร่ โดยจะเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับความก้าวหน้า นโยบาย หรือผลงานของ สถาบันในด้านบวกเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อสถาบัน และใช้ภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ

44.       เคล็ดลับผิวเนียนด้วยผงหอมศรีจันทร์ของเอ๊ะ เพียงใช้ผงหอมศรีจันทร์ผสมกับน้ำสะอาด พอกผิวหน้า ทิ้งไว้ทั้งคืน เพียงเท่านี้ผุดผื่น สิวที่ไม่ต้องการก็หายไป” ข้อความนี้ใช้วิธีการเขียนแบบใด

(1) Monologue (2) Dialogue      (3) Narrative     (4) Direct-selling

ตอบ 1 หน้า 49 วิธีการเขียนข้อความโฆษณาในลักษณะเป็นบทพูดของคนคนเดียว (Monologue) เป็นการพูดถึงความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้สินค้าหรือบริการ ซึ่งวิธีนี้จะใช้ กลยุทธ์การสร้างสรรค์แบบการอ้างพยาน (Testimonial) โดยการใช้บุคคลที่เคยใช้สินค้า หรือบริการมากล่าวยืนยันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ

45.       หากชินงานโฆษณาต้องการสื่อถึงความสะอาด ไร้มลภาวะ ควรใช้สีใด

(1) สีน้ำเงิน      (2) สีเขียว        (3) สีเหลือง     (4) สีขาว

ตอบ4  หน้า 53 สี (Color) สามารถสร้างผลกระทบทางด้านอารมณ์ได้ดังนี้

1.         สีน้ำเงิน หมายถึง ความเศร้า ความเยือกเย็น ความจริง ความบริสุทธิ์ ความเป็นการเป็นงาน

2.         สีเหลือง หมายถึง ความร่าเริง ฤดูใบไม้ผลิ ความไม่ซื่อสัตย์ แสงสว่าง ความเบิกบาน สดใส

3.         สีดำ หมายถึง ความลึกลับ ความโศกเศร้า ความตาย ความหนัก ความหรูหรา

4.         สีเขียว หมายถึง ความสงบ ชุ่มชื้น ฤดูใบไม้ผลิ วัยหนุ่มสาว ธรรมชาติ

5.         สีแดง หมายถึง ความโกรธ ความรัก ความร้อนแรงทันสมัย ความตื่นเต้น ไฟ อันตราย

6.         สีขาว หมายถึง ความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความไมมีมลทิน ความมีคุณธรรม ความดี ฯลฯ

46.       ข้อความโฆษณาส่วนใดมีหน้าที่สร้างความใส่ใจ

(1) พาดหัว       (2) คำขวัญ      (3) ชื่อสินค้า    (4) เนื้อเรื่อง

ตอบ 1 หน้า 55 โครงสร้างของชิ้นงานโฆษณา ประกอบด้วย

1.         ข้อความพาดหัว มีหน้าที่สร้างความใส่ใจ (Attention)

2.         ข้อความโฆษณา (เนื้อเรื่อง) มีหน้าที่สร้างความสนใจ (Interest)

3.         ข้อความส่วนท้าย มีหน้าที่กระตุ้นความต้องการหรือความปรารถนา (Desire)

4.         คำขวัญและชื่อสินค้า มีหน้าที่เน้นให้เกิดการกระทำ (Action)

47.       ข้อความโฆษณาส่วนใดที่เน้นให้เกิดการกระทำ

(1) พาดหัว       (2) พาดหัวรอง (3) ชื่อสินค้า    (4) เนื้อเรื่อง

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

48.       หนังสือพิมพ์เชิงปริมาณมีลักษณะการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ใช้ภาษาทางการและภาษาปาก    (2) ใช้ภาษาทางการและกึ่งทางการ

(3) ใช้ภาษาปาก          (4) ใช้ภาษากึ่งทางการและภาษาปาก

ตอบ 4 หน้า 7779 หนังสือพิมพ์เชิงปริมาณ (Popular Newspaper) หมายถึง หนังสือพิมพ์ ที่เสนอข่าวสารที่เน้นเรื่องราวที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่าน โดยข่าวที่นำเสนอ จะมีลักษณะการใช้ภาษาเป็นภาษาระดับกึ่งทางการและภาษาปาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเบา (Soft 

News) คือ ข่าวที่ผู้อ่านไม่ต้องใช้ความรู้ความคิดในการวิเคราะห์ก็สามารถเข้าใจ เรื่องราวได้ เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวชีวิตส่วนตัวของคนดัง เป็นต้น

49.       การเขียนบทความและบทบรรณาธิการใช้รูปแบบการเขียนแบบใด

(1) Inverted Pyramid (2) Upright Pyramid (3) Combination (4) Feature

ตอบ 2 หน้า 80, (คำบรรยาย) รูปแบบการเขียนข่าวหนังสือพิมพ์ มีดังนี้

1. แบบพีระมิดหัวกลับ (Inverted Pyramid) คือ การเสนอประเด็นสำคัญของข่าวก่อน รายละเอียด ถือเป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากกว่าร้อยละ 85 – 90 ในการเขียนข่าวหนังสือพิมพ์

2.         แบบพีระมิดหัวตั้ง (Upright Pyramid) คือ การเสนอรายละเอียดของข่าวก่อน ประเด็นสำคัญ นิยมใช้ในการเขียนบทความ บทบรรณาธิการ สารคดีเชิงข่าว ฯลฯ

3.         แบบผสม (Combination) คือ การเสนอประเด็นสำคัญทั้งในตอนต้นและตอนท้าย มักใช้ในการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์

50.       อปลาวาฬครวญลูกรอดปาฏิหาริย์ ลงดาบผับจับ 6 โจ๋โหด” ข้อความพาดหัวข่าวนี้มีการใช้ภาษาอย่างไร

(1)       ละประธานของประโยค         (2) ตัดคำสั้น    (3) ใช้คำย่อ     (4) ใช้คำที่ชวนสงสัย

ตอบ 2 หน้า 81 การตัดคำให้สั้นลง เนื่องจากเนื้อที่มีจำกัด ทั้งนี้ผู้เขียนต้องเขียนพาดหัวข่าวลงในเนื้อที่ที่บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้ากำหนดให้ ซึ่งนอกจากต้องเขียนให้ได้ใจความสำคัญแล้ว ยังต้องคำนึงถึงจำนวนตัวอักษรที่ใช้ไมให้เกินกว่าเนื้อที่ที่มีอยู่ ทำให้ในบางครั้งจึงจำเป็นต้อง ตัดคำให้สั้นลง แต่ต้องไม่ตัดจนเสียความหมายไป เช่น ครวญ (โอดครวญ)รอด (รอดตาย)จับ (จับกุม)โหด (โหดเหี้ยม) ฯลฯ

ข้อ 51. – 53. จงใช้บทความต่อไปนี้ตอบคำถาม

ประชาชนมีสิทธิขอแก้ไขแม้แต่กฎหมายสูงสุด คือรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยซึ่งคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไม่เอาด้วย ไม่มีทางสำเร็จ เว้นแต่พรรคเพื่อไทยจะปากว่าตาขยิบ แต่ปัญหาที่บรรดา ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาธิปไตยจะต้องคิดให้จงหนักก็คือ สังคมไทยกำลังแตกแยกหนัก ไฟคุกรุ่นอยู่ ควรหรือไม่ที่จะเอาน้ำมันราดใส่กองเพลิง?” (ที่มา  ไทยรัฐ 7 กุมภาพันธ์ 2555)

51.       บทความนี้แสดงความคิดเห็นในระดับใด      

(1) เสนอแนะ

(2)       อธิบายความ  

(3) วิพากษ์วิจารณ์       

(4) เสนอแนวทางการแก้ปัญหา

ตอบ 2 หน้า 88 – 89, (คำบรรยาย)     การแสดงความคิดเห็นในบทความ บทวิเคราะห์และบทบรรณาธิการ อาจแบ่งตามระดับจากง่ายไปยากที่สุดได้ดังนี้

1.         ระดับอธิบายความ คือ ผู้เขียนตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะตามมา

2.         ระดับวิพากษ์วิจารณ์ คือ ผู้เขียนประเมินค่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าดีหรือไม่ดี เห็นด้วยหรือ ไม่เห็นด้วย ใครถูกใครผิด ฯลฯ โดยแจกแจงให้เห็นข้อดีข้อด้อยในเรื่องนั้น ๆ

3.         ระดับเสนอทางแก้ปัญหา คือ ผู้เขียนให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาแกผู้รับผิดชอบ จึงจัดเป็นการเขียนในเชิงวิเคราะห์ที่กล่าวถึงสาเหตุและเสนอทางออกไปพร้อมกัน

52.       บทความนี้ใช้ภาษาระดับลีลาใด

(1)       ลีลาเยือกเย็น  

(2) ลีลาทางการ           

(3) ลีลาปรึกษาหารือ   

(4) ลีลากันเอง

ตอบ 2 หน้า 8892, (คำบรรยาย)     ภาษาระดับลีลาทางการ (Formal Style) จะมีลักษณะภาษาที่เป็นพิธีการน้อยกว่าลีลาเยือกเย็น แตก็ยังมีลักษณะเป็นแบบแผน จึงเป็นลีลาของภาษา ที่มุ่งสื่อสารไปยังกลุ่มคนที่ไมเฉพาะเจาะจงว่าเป็นบุคคลใด เช่น ภาษาที่ใช้ในการเขียนข่าว บทบรรณาธิการ บทความทางวิชาการ การปาฐกถา การบรรยาย ฯลฯ

53.       ข้อความที่ยกมาน่าจะเป็นส่วนใดของบทความ

(1)       คำนำ   

(2) ย่อหน้าที่ 2             

(3) ส่วนเชื่อม   

(4) ย่อหน้าสุดท้าย

ตอบ 4 หน้า 92 – 93, (คำบรรยาย)     โครงสร้างของการเขียนบทความ บทวิเคราะห์ และ

บทบรรณาธิการ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันดังนี้

1.         ชื่อเรื่อง คือ ชื่อที่เขียนขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

2.         ความนำ คือ ส่วนแรกของเนื้อหา ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำนำหรืออารัมภบท

3.         เนื้อเรื่อง คือ ส่วนที่ดำเนินเรื่องราว

4.         สรุป คือ ส่วนสุดท้ายหรือย่อหน้าสุดท้าย อาจเป็นข้อเสนอแนะ หรือข้อความที่ย้ำถึงจุดยืน เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่กล่าวถึง

ข้อ 54. – 55. จงใช้บทความต่อไปนี้ตอบคำถาม

ไม่ว่าจะเป็นกรงไก หรือกรงเสือ มันจะไม่มีวันแข็งแรงพอที่จะควบคุมบรรดาขาใหญ่ที่พร้อมจะใช้กฎหมู่ ต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มักจะโอนอ่อนหรือเลือกจะโอนอ่อนผ่อนตาม ทั้งที่กฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์นั้น ชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ไมต่างจากเรื่องอื่น ๆ ที่กฎหมาย หรือกฎระเบียบมีอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือ ผู้ปฏิบัติ จะทำให้กฎเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ เป็นธรรม หรืออยุติธรรม (ที่มา  คมชัดลึก 7 กุมภาพันธ์ 2555)

54.       ข้อความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทบรรณาธิการประเภทใด

(1)       ให้ข่าวสาร       (2) อธิบายความ          (3) แนะนำ       (4) เรียกร้องให้กระทำ

ตอบ 1 หน้า 91 บทบรรณาธิการประเภทให้ข่าวสารและคำอธิบาย (Inform and Interpret)เป็นบทบรรณาธิการที่ผู้เขียนต้องการให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านในเรื่องที่เป็นข่าว หรือเป็น เรื่องที่สัมพันธ์กับข่าวซึ่งมีแง่มุมซับซ้อนเข้าใจยาก โดยจะมุ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับอธิบายลำดับและชี้ประเด็นสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจในเหตุการณ์เท่านั้น แต่ไมได้ มีเป้าหมายที่จะให้ผู้อ่านเกิดปฏิกิริยาหรือกระตุ้นความคิดแต่อย่างใด

55.       เป็นการแสดงความคิดเห็นในระดับใด

(1) อธิบายความ          (2) วิพากษ์วิจารณ์       (3) วิเคราะห์    (4) ให้คำแนะนำ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 51. ประกอบ

56.       ยอดรถกระบะคุณภาพอันดับ 1 ของคนไทย ไฮลักซ์ วีโก้” เป็นข้อความพาดหัวประเภทใด

(1)พาดหัวข่าว (2)กล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ         (3)ให้คำแนะนำ (4)ชวนให้สนใจใคร่รู้

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 32. ประกอบ

57.       ขนาดของโฆษณามีความสัมพันธ์กับอะไร

(1) พื้นที่ว่าง (2) ผลกระทบที่มีต่อผู้รับสาร      (3) จำนวนผู้รับสาร      (4) แบบตัวอักษร

ตอบ 2 หน้า 54 ขนาดของโฆษณา (Size) จะมีความสัมพันธ์กับผลกระทบที่มีต่อผู้รับสาร (Impact) เพราะโดยทั่วไปแล้วโฆษณาขนาดใหญ่มักได้รับความสนใจมากกว่าโฆษณาขนาดเล็ก ในขณะเดียวกันโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ที่มีความยาว 60 วินาที ก็มักได้รับความสนใจ และเป็นที่จดจำได้ดีกว่าโฆษณาที่มีความยาว 15 วินาที

58.       อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนในสังคมเข้าใจความหมายของเรื่องราวต่าง ๆ แตกต่างกัน

(1)       เพราะมีสื่อให้เลือกหลายประเภท      (2) เพราะมีข้อมูลข่าวสารมากมายให้เลือกรับ

(3)       การเข้ารหัสความหมายแตกต่างกัน    (4) การถอดรหัสความหมายแตกต่างกัน

ตอบ 4 หน้า 3-5, (คำบรรยาย) การถอดรหัสสาร (Decoding) คือ กระบวนการที่ผู้รับสารแปลหรือตีความสารให้เกิดเป็นความหมายขึ้นในใจ หรือทำความเข้าใจความหมายของภาษาที่ใช้สื่อสาร โดยผู้รับสารแต่ละคนจะถอดรหัสความหมายในเรื่องหนึ่ง ๆ แตกต่างกันไปตามขอบเขตแห่ง ประสบการณ์ของตน ดังนั้นการถอดรหัสความหมายที่แตกต่างกันของคนในสังคม จึงทำให้การเข้าใจความหมายของเรื่องราวต่าง ๆ ที่สื่อสารแตกต่างกันไปด้วย

59.       การที่สัญญาณโทรศัพท์ขัดข้อง เป็นอุปสรรคการสื่อสารข้อใด          

(1) Semantic Noise

(2)       Mechanical Noise  (3) Environmental Noise  (4) Ambiguous Noise

ตอบ2  หน้า 6, (คำบรรยาย) อุปสรรคทางด้านเครื่องมือ (Mechanical Noise) เกิดขึ้นเมื่อเกิดปัญหากับอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการสื่อสาร เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ที่ตั้งสัญญาณรับภาพไม่ถูกต้อง หรือหันเสาอากาศไม่ถูกทิศทาง ทำให้ได้รับสัญญาณภาพและเสียงขัดข้องไม่ชัดเจนวิทยุที่มี เสียงคลื่นแทรกไมโครโฟนไม่ดังหรือมีการดูดเสียงไฟฟ้าดับหรือลัดวงจร เป็นต้น

60.       การที่นักการเมืองอภิปรายในสภา เป็นการสื่อสารในมิติใด  

(1) มิติทางกายภาพ

(2)       มิติทางวัฒนธรรม       (3) มิติทางจิตวิทยาสังคม        (4) มิติทางสังคม

ตอบ 3 หน้า 10, (คำบรรยาย) บริบทของการสื่อสารในมิติทางจิตวิทยาสังคม (The Social-psychological Context) หมายถึง ความสัมพันธ์

ทางสถานภาพหรือฐานะชนชั้นของผู้ร่วมสื่อสาร บทบาท ตำแหน่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ กฎกติกา ระเบียบวินัย และเกมที่ทั้ง 2 ฝ่ายเล่น เช่น การที่นักการเมืองอภิปรายในสภา ซึ่งบางครั้งก็เป็นไปตามสถานภาพของแต่ละฝ่ายและ เกมทางการเมือง เป็นต้น

61.       ข้อใดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด

(1) มีหลักฐานข้อมูลน่าเชื่อถือ 

(2) ลีลาของผู้พูด

(3)       บุคลิกภาพของผู้พูด   

(4) สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ

ตอบ 1 หน้า 60, (คำบรรยาย) ในการดำเนินงานขององค์การหรือสถาบัน บางครั้งก็อาจมีกระแสข่าวลือ หรือข่าวสารที่ผิดพลาด ทำให้องค์การต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือประชาชนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้ องค์การจะต้องใช้การประชาสัมพันธ์เพื่อชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงเละเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดในการชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด คือ ต้องมีหลักฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

62.       หลักการสำคัญของการเลือกช่องทางการสื่อสารคืออะไร

(1) เลือกที่ผู้ส่งสารสะดวกที่สุด           

(2) เลือกสื่อที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

(3)       เลือกสื่อที่ราคาถูก       

(4) เลือกสื่อที่ผู้รับสารเปิดรับ

ตอบ 4 หน้า 75 การเลือกช่องทางการสื่อสาร (Channels) ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาหรือการประชาสัมพันธ์ก็ดี มีหลักการที่สำคัญ คือ เลือกช่องทางการสื่อสารที่ผู้รับสารกลุ่มเป้าหมาย นิยมเปิดรับและเชื่อถือ เพราะช่องทางแต่ละช่องทางมีกระบวนการแพร่กระจายข่าวสาร แตกต่างกัน ทำให้ผลของการสื่อสารแตกต่างกันไปด้วย นักประชาสัมพันธ์จึงต้องอาศัย การสื่อสารผ่านหลายช่องทางหรือใช้สื่อหลายสื่อ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม โดยพึงตระหนักว่าความนิยมของประชาชนที่มีต่อช่องทางการสื่อสารแต่ละช่องทางจะ แตกต่างกันไป (ตามเพศ วัย การศึกษา สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม)

63.       ข้อใดไมใช่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการรับสาร

(1) ความสะดวก          (2) นิสัย           (3) ระดับความรู้          (4) ช่องทางการสื่อสาร

ตอบ 4 หน้า 75 ปัจจัยที่เที่ยวข้องกับความสามารถของผู้รับสาร มีดังนี้

1. ความสะดวกในการรับ (Availability)          2. นิสัยการรับสื่อ (Habits)

3. ความสามารถในการอ่าน (Reading Ability) 4. ระดับความรู้ของผู้รับสาร (Knowledge)

64.       เนื้อหาสาระของงานประชาสัมพันธ์ควรมีลักษณะอย่างไร

(1) เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การ           (2) เรื่องที่อยู่ในใจของผู้ส่งสาร

(3) เรื่องที่มีความหมายสำหรับผู้รับสาร           (4) เรื่องราวทั่วไปตามความสนใจของทุกคน

ตอบ 3 หน้า 74 เนื้อหาสาระ (Content) ของงานประซาสัมพันธ์ จะต้องเพียบพร้อมด้วยเรื่องราวที่ มีความหมายสำหรับผู้รับสารและสอดคล้องกับระบบค่านิยม ตลอดจนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ของผู้รับสาร โดยคนทั่วไปจะเลือกรับข่าวสารที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจและเกิดประโยชน์ต่อตนเอง

65.       ข้อใดคือหลักการเลือกช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์

(1) เลือกเฉพาะสื่อที่คุ้มค่าใช้จ่าย        (2) เลือกสื่อที่เข้าถึงผู้รับสารได้ดีที่สุดเพียงสื่อเดียว

(3) เลือกใช้สื่ออย่างเจาะจง    (4) เลือกใช้สื่อหลาย ๆ สื่อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 62. ประกอบ

66.       ข้อใดเป็นปัจจัยกำหนดการใช้ภาษาของหนังสือพิมพ์

(1) ผู้อ่าน โฆษณา เจ้าของ      (2) ประเภทเนื้อหา กำหนดออก การแข่งขัน

(3) นโยบายของฝ่ายการเมือง การเป็นเจ้าของ โฆษณา (4) รสนิยมของกองบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 78 – 79 ลักษณะการใช้ภาษาของหนังลือพิมพ์แต่ละฉบับอาจมีลักษณะแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ กำหนดระยะเวลาการออกเผยแพร่ และ การแข่งขันกันดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

67.       ข้อใดเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนข่าว

(1) พาดหัวข่าว            (2) ส่วนนำ       (3) เนื้อเรื่อง     (4) ส่วนสรุป

ตอบ 1 หน้า 81 การเขียนพาดหัวข่าวถือเป็นหัวใจสำคัญของการเขียนข่าว เพราะพาดหัวข่าวจะ เป็นส่วนแรกที่ผู้อ่านได้เห็น ดังนั้นหากพาดหัวข่าวบอกประเด็นสำคัญของข่าวอย่างชัดเจน และใช้ถ้อยคำที่ดึงดูดใจก็จะทำให้ผู้อ่านสนใจอ่านข่าวส่วนที่เหลือต่อไป ดังนั้นพาดหัวข่าว จึงมีส่วนดึงดูดใจให้ผู้อ่านซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นได้

68.       ขาพาดประตูห้องน้ำ สวมเสือยืดแขนสั้นคอกลมสีม่วง กางเกงผ้ายืดสีดำขายาว ลำคอมีเข็มขัดผ้าสีดำ รัดจนแน่น ลิ้นจุกปาก ใบหน้ามีร่องรอยถูกของแข็งทุบ ” เป็นวิธีการเขียนแบบใด

(1) Straight News (2) Human Interest (3) Feature Story (4) Punch Lead

ตอบ2 หน้า 84 การเขียนข่าวแบบสนองปุถุชนวิสัย (Human Interest) เป็นการเขียนเนื้อข่าวที่ใช้ การบรรยายหรือพรรณนาให้ผู้อ่านเกิดภาพ

พจน์เสมือนอยู่ในเหตุการณ์ ภาษาที่ใช้มักเขียนเพื่อ สร้างภาพพจน์เชิงวารสารศาสตร์ด้วยการอธิบายความ ให้รายละเอียด และบรรยายภาพเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น จึงมักใช้เขียนข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ประชานิยม (เชิงปริมาณ) ข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวบุคคลที่คนทั่วไปสนใจ ฯลฯ

69.       รายการสารคดี เป็นรายการประเภทใด

(1) ข่าวสาร      (2)       ความรู้ (3)       ความบันเทิง    (4)       โน้มน้าวใจ

ตอบ 2 หน้า 95, (คำบรรยาย) รายการประเภทความรู้ หมายถึง รายการที่มุ่งให้ความรู้หรือการศึกษา ที่จัดขึ้นเพี่อส่งเสริมวิชาการ อาชีพ วัฒนธรรม และแนวทางการดำเนินชีวิตที่ดีของประชาชน เช่น รายการสารคดี รายการธรรมะ รายการศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ

70.       การเขียนบทสำหรับรายการบทความทางวิทยุ เป็นบทประเภทใด

(1) ร่างคร่าว ๆ (2)       กึ่งสมบูรณ์      (3)       สมบูรณ์           (4)       บทอ่าน

ตอบ 3 หน้า 105, (คำบรรยาย) การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1.         บทที่วางโครงร่างคร่าว ๆ (Run-down Sheet) คือ บทที่ร่างลำดับเนื้อหาหรือ ลำดับการทำงานไว้สำหรับผู้ร่วมงาน ซึ่งมักใช้กับรายการเพลง

2.         บทกึ่งสมบูรณ์ (Semi Script) คือ บทที่มีรายละเอียดสมบูรณ์ในบางส่วนและละไว้บางส่วน มักใช้กับรายการสัมภาษณ์ สนทนา ฯลฯ

3.         บทสมบูรณ์ (Complete Script) คือ บทที่มีรายละเอียดทุกอย่างกำหนดไว้ชัดเจน มักใช้กับรายการละครวิทยุ ข่าว บทความ สปอตโฆษณา ฯลฯ

71.       ปชป. ป่วนวอล์กเอาต์” คำทีขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร

(1) ไม่เห็นด้วย 

(2) ประท้วงด้วยการเดินออกจากห้องประชุม

(3) ประห้วงด้วยการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง     

(4) เดินหนีไปในขณะที่กำลังคุยกัน

ตอบ 2 (คำบรรยาย) คำว่า วอล์กเอาต์” (Walk Out) หมายถึง การประห้วงด้วยการเดินออกจากที่ประชุมหรือห้องประชุม เพี่อแสดงการคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

72.       การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงสำหรับรายการเพลง เป็นบทประเภทใด

(1) วางโครงร่างคร่าว ๆ           

(2) ประเภทกึ่งสมบูรณ์

(3) ประเภทสมบูรณ์    

(4) ประเภทแสดงเค้าโครง

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 70. ประกอบ

73.       สภาล่มกลางดึก แถลงนโยบายสะดุด หลังเพื่อไทย ปชป. เปิดศึกซัดนัวเนียปมดึงฟ้าต่ำ ขุนค้อนพลาด องค์ประชุมขาดฉิวเฉียด ขณะที่เหลิมหนุนปูเทียบชั้นป๋าเปรม พร้อมลุ้นวัดรอยเท้านายกฯ 8 ปีครึ่ง

ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Colorful Lead 

(2) Summary Lead 

(3) Punch Lead  

(4) Contrast Lead

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ

74.       ‘‘ชำแหละนโยบายวันที่สอง สุนัขรับใช้เห่าลั่นสภา ไม่พอใจฝ่ายค้านตีแสกหน้านายใหญ่

ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1)       Colorful Lead (2) Summary Lead (3) Punch Lead (4) Contrast Lead

ตอบ 1 หน้า 82 – 83, (คำบรรยาย) ความนำแบบสร้างภาพพจน์ (Picture or Colorful Lead) คือ การเขียนความนำด้วยการแสวงหาถ้อยคำมาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้ผู้อ่านมองเห็น ภาพเหตุการณ์นั้น ๆ เสมือนว่าได้เห็นมาด้วยตนเอง โดยภาษาที่ใช้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีความเคลื่อนไหว มีสีสัน ซึ่งบางครั้งก็เป็นคำที่สร้างสีสันเกินจริง เช่น ชำแหละสุนัขรับใช้เห่า ลั่นสภาตีแสกหน้า ฯลฯ

75.       Host หมายถึงใคร

(1) ผู้จัดรายการสนทนา           (2) ผู้เขียนบท

(3) ผู้ผลิตรายการ        (4) ผู้ดำเนินรายการและควบคุมเสียง

ตอบ 1 หน้า 96 รายการสนทนา (Conversational Programme) เป็นรายการพูดคุยหรือสนทนาระหว่าง ผู้ดำเนินรายการหรือผู้จัดรายการสนทนา (Host) กับผู้ร่วมรายการหรือแขกรับเชิญ (Guest) เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ผู้ฟังทางบ้านฟัง ซึ่งผู้ร่วมสนทนาอาจมี 2 คน (ผู้ดำเนินรายการ กับผู้ร่วมรายการ) หรือ 3 คนก็ได้

76.       เสียงพูดทางวิทยุกระจายเสียง ควรมีลักษณะอย่างไร

(1)ไพเราะนุ่มนวลต้องบีบเสียง เค้นเสียงเป็นบางช่วง

(2)       แสดงความมั่นใจ ไม่ตะกุกตะกัก

(3)       พลิ้วไหว เปลี่ยนแปลงได้หลายแบบ

(4)       น้ำเสียงมั่นคง ราบเรียบ

ตอบ 2 หน้า 99 – 100 หลักการพูดหรืออ่านทางวิทยุกระจายเสียงประการหนึ่ง คือ ต้องมีการ เปลงเสียงที่เป็นธรรมชาติ ได้แก่   1. เป็นเสียงพูดที่แสดงความมั่นใจ ไม่ตะกุกตะกัก

2.         เป็นเสียงที่ฟังรื่นหู ไม่แข็งกระด้างหรือเน้นเสียงจนเกินไป       3. เป็นเสียงแท้ของ

ผู้อ่าน ไม่ควรดัดเสียง หรือบีบเค้นเสียง แต่ควรมีน้ำหนักเสียงสูง-ต่ำตามธรรมชาติ

4.         ในกรณีที่เป็นการอ่านบท ผู้อ่านต้องเข้าใจและตีบทให้แตกก่อนอ่าน

77.       ข้อเขียนที่ใช้ในการผลิตรายการวิทยุกระจายเสียง ได้แก่ข้อใด

(1) ผังรายการ (2) เอกสารคู่มือรายการ

(3) บทวิทยุกระจายเสียง         (4) บัญชีรายการกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องทำ

ตอบ 3 หน้า 102, (คำบรรยาย) บทวิทยุกระจายเสียง หมายถึง ข้อเขียนที่ใช้ในการผลิตรายการ วิทยุกระจายเสียง โดยจะมีหน้าที่บอกลำดับความเป็นไปของรายการนับตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่ง จบรายการ เพื่อให้รายการดำเนินไปได้อย่างมีทิศทางตามขอบเขตเนื้อหาและรูปแบบของ รายการที่วางไว้

78.       การเขียนบทสำหรับรายการสารคดีทางวิทยุกระจายเสียง มีแนวทางการใช้ภาษาอย่างไร

(1) เขียนประโยคสั้น ๆ            (2) เร้าอารมณ์ผู้ฟัง

(3) ขึงขัง หนักแน่น เป็นทางการ          (4) เหมือนการพูดตัวต่อตัว

 ตอบ 4 หน้า 103 เทคนิคการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงประเภทรายการการศึกษา เช่น รายการสารคดี รายการธรรมะ ฯลฯ มีดังนี้       1. เขียนให้เหมือนการพูดแบบตัวต่อตัว           2. ใช้ภาษาที่ทำให้เกิดภาพพจน์          3. อธิบายหรือบรรยายให้เห็นภาพ     4. เขียนให้สัมพันธ์กับประเด็นของเรื่องและเนื้อหาต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและช่วงเวลาที่นำเสนอรายการ

79.       ส่วนปิดท้ายของบทวิทยุกระจายเสียง ประกอบด้วยอะไรบ้าง

(1) ชื่อรายการ และชื่อเรื่อง      (2) ชื่อสถานีวิทยุ และวันเวลาที่ออกอากาศ

(3)       ชื่อผู้แสดงและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรายการ           (4) สรุปและประกาศขอบคุณผู้ร่วมรายการทุกคน

ตอบ 4 หน้า 102 – 103 ส่วนประกอบของบทวิทยุกระจายเสียงมี 4 ส่วน ดังนี้

1.         ส่วนหัว ได้แก่ ชื่อรายการชื่อเรื่องที่จะเสนอชื่อสถานี ขนาดคลื่น ความถี่วันเวลาที่ ออกอากาศ และความยาวของรายการ

2.         ส่วนที่บอกหน้าที่ของผู้ร่วมงาน และสิ่งจำเป็นที่ใช้ในรายการ ได้แก่ ชื่อผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ รายการชื่อผู้แสดงเสียงประกอบ และดนตรีหรือเพลงที่ต้องการใช้

3.         ส่วนเนื้อหาหรือส่วนที่เป็นตัวบทวิทยุ เป็นส่วนที่บอกผู้เกี่ยวข้องและสิ่งที่กำหนดให้ทำ ได้แก่ ใครพูด พูดอะไร ฯลฯ

4.         ส่วนปิดท้าย เป็นส่วนสรุปและประกาศขอบคุณผู้ร่วมรายการทุกคน

80.       ข้อใดคือหลักการใช้ภาษาทางวิทยุกระจายเสียง

(1)       มีข้อความที่แสดงความคิดเห็นหลากหลายในรายการเดียวกัน

(2)       ใช้ภาษาปาก  (3) เลือกใช้คำแปลก ๆ เพื่อดึงดูดใจ

(4)       ใช้ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ ผู้พังไม่ต้องคิดนาน

ตอบ 4 หน้า 104 – 105 หลักการใช้ภาษาพูดทางวิทยุกระจายเสียง มีดังนี้

1.         ใช้ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ พูดแล้วไมต้องให้คิดนาน

2.         การพูดทุกตอนต้องแสดงความหมายในแงเดียว ไม่มีการขัดแย้งกันเอง

3.         ใช้ภาษาสุภาพ ให้เกียรติผู้ฟัง 4. ใช้น้ำเสียงเป็นกันเองกับผู้ฟัง

5.         ควรระวังและหลีกเลี่ยงการนำเรื่องส่วนตัวของผู้ดำเนินรายการ หรือญาติมิตร

มาพูดคุยในรายการ     6. ใช้ภาษาที่มีความหมายชัดเจน ฯลฯ

81.       ข้อใดเป็นข้อควรระวังในการใช้ภาษาทางวิทยุกระจายเสียง

(1) ไม่ควรใช้ภาษาปาก           

(2) ไม่ควรใช้ภาษาง่ายเกินไป

(3)       ไมควรนำเรื่องส่วนตัวมาพูดในรายการ           

(4) ไม่ควรใช้น้ำเสียงเป็นกันเองกับผู้ฟัง

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ

82.       ส่วนใดของบทวิทยุกระจายเสียงที่เป็นส่วนเนื้อหา

(1) ส่วนที่ 1      

(2) ส่วนที่ 2      

(3) ส่วนที่ 3      

(4) ส่วนที่ 4

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 79. ประกอบ

83.       เสียงดนตรีมีบทบาทอย่างไรในรายการโทรทัศน์

(1)       เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในรายการโทรทัศน์

(2)       เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้สอดคล้องกับคำพูด

(3)       เป็นสิ่งสำคัญรองจากภาพและคำพูด ช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึก

(4)       เป็นสิ่งที่เสริมเข้ามาเพื่อไมให้เกิดความเงียบ

ตอบ 3 หน้า 116, (คำบรรยาย)         เสียงดนตรีประกอบในรยการโทรทัศน์ถือเป็นสิ่งสำคัญรองจากภาพและคำพูด ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญดังนี้  1. ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาหลักของเรื่องหรือรายการ     2. ใช้เพี่อสร้างหรือเสริมจังหวะการเคลื่อนไหวของภาพ 3.        ใช้เพื่อเน้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้แสดง  4. ช่วยสร้างความรู้สึกแก่สถานการณ์ของเรื่องราว         5. ใช้เป็นดนตรีประจำรายการเมื่อเริ่มและจบรายการ

84.       ส่วนประกอบใดในรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นวัจนภาษาที่ผู้ชมคุ้นหูมากที่สุด

(1) คำสนทนา  . (2) คำบรรยาย           (3) คำอ่าน       (4) เสียงประกอบ

ตอบ 1 หน้า 106 คำสนทนา (Dialogue) เป็นรูปแบบหนึ่งของวัจนภาษาซึ่งผู้ชมคุ้นหูมากที่สุดในบรรดาเสียงที่ปรากฏทางรายการโทรทัศน์ โดยมักใช้เพื่อให้ความหมายแก่ภาพใน 4 ลักษณะ คือ

1.         เพื่อให้ข้อมูลรายละเสียด       2. เพื่อบอกบุคลิกลักษณะของผู้แสดง

3. เพื่อดำเนินเรื่องหรือเชื่อมฉาก 2 ฉากเข้าด้วยกัน     4. เพื่อแสดงอารมณ์ให้สอดคล้องกับภาพ

85.       Fill Light หมายถึงอะไร

(1) แสงไฟหลัก            (2) แสงไฟเพิ่มความสว่าง       (3) แสงไฟที่ใช้ลบเงา  (4) แสงไฟที่ใช้ส่องฉากหลัง

ตอบ 3 หน้า 115 แสงประดิษฐ์ที่ใช้ในการผลิตรายการโทรทัศน์ จะต้องประกอบด้วยไฟมาตรฐาน อย่างน้อย 3 ดวง ได้แก่   1. แสงไฟหลัก (Key Light)

2.         แสงไฟลบเงา (Fill Light)  3. แสงไฟส่องที่ฉากหลัง (Back Light)

86.       หากต้องการให้มีคำบรรยายภาพปรากฏในรายการโทรทัศน์ ต้องใช้เทคนิคใด

(1) Freeze Frame (2) Superimpose (3) Split Screen    (4) Fast Motion

ตอบ 2 หน้า 106 – 107114, (คำบรรยาย) ซูเปอร์อิมโพส (Superimpose) คือ เทคนิคการใช้ตัวหนังสือ หรือภาพ ๆ หนึ่งซ้อนทับลงบนอีกภาพหนึ่ง ซึ่งมักใช้ในการทำคำบรรยายที่เป็นตัวอักษรซ้อน ลงบนภาพที่อยู่นิ่งหรือเคลื่อนไหว เช่น การทำไตเติ้ลรายการ และ Sub-title เป็นต้น

87.       หากต้องการเน้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้แสดง ควรใช้ภาพลักษณะใด

(1) ECU       (2)       CU    (3)       MCU         (4) MS

ตอบ หน้า 109, (คำบรรยาย) ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close Up : ECU) เป็นการถ่ายภาพในระยะใกล้มาก เพื่อต้องการเน้นรายละเอียดเฉพาะส่วน หรือต้องการเน้นอารมณ์ความรู้สึก ของผู้แสดง เช่น การเน้นถ่ายเฉพาะดวงตาขณะผู้แสดงกำลังร้องไห้ การถ่ายอวัยวะเฉพาะส่วน ของแมลง หรือหากเป็นการถ่ายภาพบุคคลก็จะเห็นเฉพาะส่วนใบหน้า เป็นต้น

88.       หากต้องการนำเสนอภาพทิวทัศน์โดยให้ผู้ชมได้ชื่นชมทิวทัศน์ในมุมกว้างโดยการหันกล้องจากซ้ายไปขวา หรือขวามาซ้าย เป็นการใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องข้อใด

(1) แพน           (2)       ดอลลี่  (3)       ซูม       (4) ทรัค

ตอบ1 หน้า 112 แพน (Pan) คือ เทคนิคการเคลื่อนกล้องในลักษณะแนวนอนจากขวามาซ้าย หรือ ซ้ายมาขวา เพี่อให้ผู้ชมเห็นภาพทางกว้างได้มากขึ้น

89.       ข้อใดเป็นเทคนิคการหยุดภาพไว้ให้ผู้ชมได้เห็นเป็นภาพนิ่ง

(1) Cut        (2)       Wipe         (3)       Freeze      Frame       (4) Split Screen

ตอบ 3 หน้า 114, (คำบรรยาย) ฟรีซเฟรม (Freeze Frame) คือ เทคนิคการหยุดภาพหรือแช่ภาพไว้ ให้ผู้ชมได้เห็นภาพนันนิ่ง ๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง ส่วนมากจะใช้ในฉากจบของละครโทรทัศน์แต่ละตอน ก่อนที่ไตเติ้ลตอนจบจะขึ้น

90.       ข้อใดเป็นวิธีการลำดับภาพที่รวดเร็วและง่ายที่สุด

(1) Cut        (2) Wipe    (3) Freeze Frame (4) Split Screen

ตอบ 1 หน้า 114 การคต (Cut) คือ การตัดภาพจากกล้องหนึ่งไปยังอีกกล้องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการ ลำดับภาพที่รวดเร็วและง่ายที่สุด

91.       ดนตรีประกอบในรายการโทรทัศน์มีหน้าที่อะไร

(1) บอกเล่าเรื่องราว    

(2) ถ่ายทอดเนื้อหา

(3) เน้นอารมณ์ของผู้แสดง      

(4) เชื่อมระหว่างฉากต่อฉาก

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 83. ประกอบ

92.       คำย่อ SFX หมายถึงอะไร

(1) เสียงดนตรี 

(2) เสียงประกอบ        

(3)       ผู้ประกาศ        

(4)       ความเงียบ

ตอบ2  หน้า 116, (คำบรรยาย) เสียงประกอบ (Sound Effect : SFX) ในรายการโทรทัศน์ ได้แก่เสียงที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงสัตว์ร้อง เสียงน้ำตก เสียงฟ้าร้อง ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ช่วยสื่อเรื่องราวให้ภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ผลิตรายการจึงควรพิถีพิถันในการบันทึกเสียง ประกอบด้วย เพื่อให้ได้เสียงประกอบที่สมบูรณ์และในระดับความดังที่พอเหมาะ โดยมิให้ ดังกลบเสียงสนทนาหรือเสียงบรรยาย

93.       หากต้องการสร้างบรรยากาศที่วังเวงน่ากลัว ควรใช้แสงสีอะไร

(1) เหลือง        (2) ฟ้า  (3)       ชมพู     (4)       น้ำเงิน

ตอบ 4 หน้า 115 – 116, (คำบรรยาย) การใช้สีเพื่อประกอบการให้แสงจะมีอิทธิพลต่อจิตใจและความรู้สึกนึกคิดของผู้ชม เช่น สีเหลืองจะให้บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นแสงยามเช้า จึงมักใช้ใน รายการประเภทครอบครัว หรือรายการแม่บ้านสีน้ำเงินจะให้บรรยากาศลึกลับ วังเวง น่ากลัว จึงมักใช้ในรายการประเภทละครผี เป็นต้น

94.       หากต้องการนำเสนอภาพมุมสูง ควรใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องข้อใด

(1) แพน           (2)       ดอลลี่  (3)       ทิลท์     (4)       ทรัค

ตอบ 3 หน้า 112 ทิลท์ (Tilt) คือ เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องโดยการเงยหรือก้มกล้องในลักษณะ แนวตั้ง เพื่อให้ผู้ชมเห็นภาพมุมสูงและภาพมุมต่ำได้มากขึ้น

95.       ข้อใดเป็นเทคนิคที่นำมาใช้เมื่อต้องการเสนอภาพหลาย ๆ ภาพบนหน้าจอ

(1) Cut        (2)       Wipe         (3)       Freeze Frame  (4)       Split Screen

ตอบ 4 หน้า 114 สปลิตสกรีน (Split Screen) คือ เทคนิคการแบ่งกรอบภาพ (Frame)

ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อนำเสนอภาพหลาย ๆ ภาพลงในกรอบเดียวก้น

96.       ภาพแต่ละภาพที่ปรากฏในรายการโทรทัศน์ เรียกว่าอะไร

(1) Illustration   (2)       Shot (3)       Screen      (4)       Frame

ตอบ 2 หน้า 108 ภาพที่ปรากฏทางจอโทรทัศน์นั้น เกิดจากภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพเรียงลำดับ ต่อเนื่องกันจนกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งภาพแต่ละภาพนี้จะเรียกว่า ชอต (Shot)

โดยเมื่อเรานำภาพแต่ละชอตนี้มาลำดับให้ถูกช่วงถูกตอนตามที่ควรจะเป็นก็จะได้ลำดับ เรื่องราวตามต้องการ

 ข้อ 97. – 99. จงใช้ตัวเสือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Dolly    (2) Truck   (3) Pedestal       (4) Boom

97.       ข้อใดหมายถึงเทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้องแบบปั้นจั่น

ตอบ 4 หน้า 112 บูม (Boom) คือ เทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้องแบบปั้นจั่น ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการเปลี่ยนมุมกล้องให้สูงหรือต่ำ

98.       ข้อใดหมายถึงเทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้อง

ตอบ 3 หน้า 112 พีเดสตอล (Pedestal) คือ เทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้อง แบบ Studio Pedestal โดยใช้คันบังคับ

99.       ข้อใดหมายถึงการเคลื่อนกล้องเข้าหาหรือถอยห่างจากวัตถุที่ถ่าย

ตอบ 1 หน้า 113 ดอลลี่ (Dolly) คือ. เทคนิคการเปลี่ยนระยะของภาพโดยเคลื่อนกล้องเข้าหาวัตถุ ที่ถ่ายซึ่งอยู่กับที่เพื่อให้ได้ภาพโตขึ้น (Dolly in) หรือถอยห่างจากวัตถุที่ถ่ายเพื่อให้ได้ภาพ เล็กลง (Dolly out)

100.    ในรายการโทรทัศน์ อวัจนภาษาข้อใดที่บ่งบอกถึงความสงบ การฉุกคิด

(1) เสียงดนตรี (2) เสียงประกอบ        (3) แสง            (4) ความเงียบ

ตอบ 4 หน้า 116 – 117 ในบางครั้งรายการโทรทัศน์จะใช้ความเงียบ (Silence) ซึ่งเป็นอวัจนภาษา เพี่อสะกดอารมณ์หรือปลุกเร้าความสนใจของผู้ชมให้จดจออยูกับสิ่งที่ปรากฏบนจอภาพ โดยมักนิยมใช้กับเรื่องราวที่ต้องการให้ผู้ชมช่วยลุ้น และเรื่องราวที่ต้องการบ่งบอกถึงความสงบ หรือการฉุกคิด

MCS2106 (MCS2160) ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิขา MCS 2106 (MC 216) ภาษาเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การเลือกใช้ภาษาในการสื่อความหมายต้องคำนึงถึงอะไรเป็นหลัก

(1)       ภาพลักษณ์ของผู้ส่งสาร         

(2) สถานภาพของผู้ส่งสาร

(3) สติปัญญาของผู้ส่งสาร     

(4) ความเข้าใจของผู้รับสาร

ตอบ 4 หน้า 30 – 31, (คำบรรยาย) ความสำคัญของการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร คือ จะใช้ภาษาอย่างไร ให้สื่อความหมายได้ตรงกับเจตนาของผู้ส่งสาร ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งสารที่ บอกจากจะเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับจุดมุ่งหมายและเรื่องราวที่จะสื่อสารแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ ต้องเลือกใช้ภาษาให้เหมาะกับความพร้อมและความสามารถในการเข้าใจความหมาย ของผู้รับสาร เพื่อให้สารที่ส่งไปนั้นเกิดความหมายได้ตรงกับสิ่งที่ผู้ส่งสารต้องการ

2.         ความหมายของคำตามที่ปรากฏในพจนานุกรม เป็นความหมายในลักษณะใด

(1) Denotation  

(2) Connotation        

(3) Instrumental        

(4) Discourse

ตอบ 1 หน้า 13, (คำบรรยาย) ภาษาประกอบด้วยความหมายใน 2 ลักษณะ คือ

1.         ความหมายโดยตรง (Denotation) หมายถึง ความหมายจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัด ความหมายทีเชื่อมโยงกับสัตภาพ หรือความหมายที่เจ้าของภาษารู้และใช้กันโดยทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นความหมายของคำตามที่ปรากฏในพจนานุกรม

2.         ความหมายโดยนัย (Connotation) หมายถึง การให้ความหมายเพิ่มเติมหรือความหมายรอง นอกเหนือจากความหมายโดยตรง ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับวัตถุน้อยกว่าความหมายโดยตรง

3.         มนุษย์ต้องอาศัยสิ่งใดในการแสดงออกเชิงความคิด

(1) สมอง         (2) จิตใจ          (3) ภาษา         (4) จินตนาการ

ตอบ 3 หน้า 1 การสื่อสารของมนุษย์จำเป็นต้องใช้ภาษา เพราะภาษาเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้แทนความหมาย เป็นสื่อกลางในการแสดงออกเชิงความคิดของมนุษย์ จึงทำให้มนุษย์สามารถส่งความหมายที่ อยู่ในความคิดของตนไปยังอีกฝ่ายหนึ่งให้รับรู้และเข้าใจความหมายร่วมกัน

4.         ผู้ส่งสารต้องอาศัยสิ่งใดในการเข้ารหัสสาร

(1) ผู้รับสาร     (2) สาร

(3) ของทางการสื่อสาร            (4) สนามแห่งประสบการณ์

ตอบ 3 หน้า 4 กระบวนการเข้ารหัส (Encoding) หมายถึง การที่แหล่งสารแปลความคิดของตนให้อยู่ ในรูปที่อีกฝ่ายหนึ่งสามารถรับได้ โดย

อาศัยประสาทสัมผัส (Senses) เป็นช่องทางการสื่อสาร เพื่อนำสารมาสู้ผู้รับสาร เช่น เมื่อแหล่งสารต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง สมองของเขาจะทำงาน ร่วมกับอวัยวะในการเปล่งเสียง เพื่อคิดคำพูดและเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูด ประโยค และ บทสนทนา เป็นต้น

5.         ความหมายของสารขึ้นอยู่กับอะไร

(1)       บุคลิกภาพ      (2) รูปแบบการดำเนินชีวิต

(3) การรับรู้ของผู้รับสาร          (4) โลกทางกายภาพ

ตอบ 3 หน้า 11-12 การรับรู้มีอิทธิพลต่อสารหรือสิ่งเร้าที่ผู้รับสารได้รับ และต่อการที่ผู้รับสารให้ ความหมายต่อสารหรือสิ่งเร้านั้น โดยมนุษย์จะเข้าใจความหมายของสารหรือสิ่งตาง ๆ รอบตัว อย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับการรับรู้ต่อสิ่งนั้น ทั้งนี้กระบวนการรับรู้ของมนุษย์จะประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ที่ต่อเนื่องกัน ได้แก่    1. สิ่งเร้ากระทบกับประสาทสัมผัส      2. การจัดการหรือจัดหมวดหมู่   3.           การตีความและประเมินค่า

6.         การสื่อสารสองทางหมายถึงอะไร

(1)       การใช้วิธีการสื่อสารสองวิธี     (2) การใช้สื่อสองประเภท

(3) มีการสื่อสารกลับ   (4) การใช้ประสาทสัมผัสทางตาและหูพร้อมกัน

ตอบ 3 หน้า 358 เมื่อกระบวนการสื่อสารเกิดขึ้น และสารผ่านกระบวนการถอดรหัสของผู้รับสารแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง (Response) ขึ้นที่ผู้รับสาร ซึ่งหากผู้รับสารต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูล กับผู้ส่งสารก็จะสื่อสารกลับ (Feedback) ไปยังผู้ส่งสาร ทำให้มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนกันไปมา ระหว่าง 2 ฝ่าย หรือที่เรียกว่า การสื่อสารแบบสองทาง (Two Way Communication)

7.         บริบทของการสื่อสารหมายถึงอะไร

(1)       เนื้อหาเรื่องราวที่สื่อสาร           (2) สภาวะแวดล้อมการสื่อสาร

(3) ความหมายที่เกิดจากการสื่อสาร   (4) ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร

ตอบ 2 หน้า 710 บริบทของการสื่อสาร (Communication Context) หมายถึง สภาวะแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร ซึ่งล้วนมีอิทธิพลกำกับความหมายและพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์ ประกอบด้วย 4 มิติ ได้แก่   1. มิติทางกายภาพ      2. มิติทางวัฒนธรรม   3.          มิติทางจิตวิทยาสังคม 4. มิติทางด้านเวลา

8.         Communicative Competence หมายถึงอะไร

(1)       การผลิตและตีความสาร          (2) องค์ประกอบของการสื่อสาร

(3) พฤติกรรมการสื่อสาร         (4) ความสามารถในการสื่อสาร

ตอบ 4 หน้า 7 ความสามารถในการสื่อสาร (Communicative Competence) หมายถึง ความรู้ที่บุคคลนั้นมีต่อมิติทางสังคมของการสื่อสาร ซึ่งเป็นความเข้าใจถึงความสำคัญและอิทธิพลของ บริบทที่มีต่อเนื้อหาและรูปแบบของสาร

9.         เกมการเมือง เป็นบริบทของการสื่อสารในมิติใด

(1)       กายภาพ          (2)วัฒนธรรม   (3)สังคมจิตวิทยา        (4)จิตวิทยาสังคม

ตอบ 4 หน้า 10, (คำบรรยาย) บริบทของการสื่อสารในมิติทางจิตวิทยาสังคม (The Social-psychological Context) หมายถึง ความสัมพันธ์ทางสถานภาพหรือฐานะชนชั้นของผู้ร่วมสื่อสาร บทบาท ตำแหน่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ กฎกติกา ระเบียบวินัย และเกมที่ทั้ง 2 ฝ่ายเล่น เช่น การที่นักการเมืองอภิปรายในสภา ซึ่งบางครั้งก็เป็นไปตามสถานภาพของแต่ละฝ่ายและ เกมทางการเมือง เป็นต้น

10.       กายภาษา หมายถึงอะไร

(1)       กิริยาท่าทาง    (2) การเคลื่อนไหวร่างกาย

(3) ลักษณะทางกายภาพของบุคคล   (4) การสัมผัส

ตอบ 3 หน้า 15, (คำบรรยาย) ลักษณะทางกายภาพ (กายภาษา) หมายถึง อวัจนภาษาที่เกิดจากลักษณะ หรือรูปลักษณ์ภายนอกของบุคคล ได้แก่ รูปราง การแต่งกาย เครื่องประดับ หรือเสื้อผ้า หน้า ผม ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมและค่านิยมได้

11.       ป้ายประกาศข่าวสารในคณะมนุษยศาสตร์ เป็นการสื่อสารประเภทใด

(1)       การสื่อสารกลุ่มเล็ก     

(2) การสื่อสารสาธารณะ

(3) การสื่อสารในองค์กร          

(4) การสื่อสารมวลชน

ตอบ3 หน้า 12, (คำบรรยาย) การสื่อสารในองค์กร (Organization Communication) คือการสื่อสารกันภายไนกลุ่มที่เป็นทางการเพื่อเพิ่มผลผลิต ส่งเสริมจริยธรรม ให้ข้อมูลข่าวสาร และโน้มน้าวใจ ฯลฯ หรือเป็นการสื่อสารระหว่างผู้ที่เป็นสมาชิกขององค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น การประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่การอบรมข้าราชการใหม่การติดป้ายประชาสัมพันธ์ ติดป้ายประกาศ หรือเสียงตามสายในมหาวิทยาลัย ฯล

12.       สีอะไรให้ความรู้สึกหรูหรา

(1)       สีแดง   

(2) สีขาว          

(3) สีดำ           

(4) สีเขียว

ตอบ 3 หน้า 53 สี (Color) สามารถสร้างผลกระทบทางด้านอารมณ์ได้ดังนี้

1.         สีน้ำเงิน หมายถึง ความเศร้า ความเยือกเย็น ความจริง ความบริสุทธิ์ ความเป็นการเป็นงาน

2.         สีเหลือง หมายถึง ความร่าเริง ฤดูใบไม้ผลิ ความไม่ซื่อสัตย์ แสงสว่าง ความเบิกบาน สดใส

3.         สีดำ หมายถึง ความลึกลับ ความโศกเศร้า ความตาย ความหนัก ความหรูหรา

4.         สีเขียว หมายถึง ความสงบ ชุ่มชื้น ฤดูใบไม้ผลิ วัยหนุ่มสาว ธรรมชาติ

5.         สีแดง หมายถึง ความโกรธ ความรัก ความร้อนแรงทันสมัย ความตื่นเต้น ไฟ อันตราย

6.         สีขาว หมายถึง ความสะอาด ความบริสุทธิ์ ความไม่มีมลทิน ความมีคุณธรรม ความดี ฯลฯ

13.       ชนชาติแรกที่พัฒนาภาษาที่ใช้พยัญชนะเป็นสัญลักษณ์แทนเสียง ได้แก่ชนชาติใด

(1)       อียิปต์  (2) สุเมเรียบ    (3) ฟีนีเชียน     (4) กริก

ตอบ 3 หน้า 19 ชาวฟีนีเชียน (The Phoenicians) เป็นนักค้าขายทางทะเล ถือเป็นชนชาติแรกที่ พัฒนาระบบภาษาเขียนที่มีพื้นฐานมาจาก

เสียง ซึ่งจะใช้กลุ่มของตัวอักษรที่เรียกว่า พยัญชนะ (Alphabet) เป็นสัญลักษณ์แทนเสียงและนำเสียงมารวมกันขึ้นเป็นคำ โดยภาษาที่พวกเขา ประดิษฐ์ขึ้นได้แพร่หลายอยู่ใบแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนมาถึงประเทศกรีซ ที่ซึ่งมีการพัฒนา พยัญชนะพื้นฐาน 24 ตัวอักษรขึ้น

14.       ยุโรปได้แนวคิดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจากที่ใด

(1)       อเมริกา            (2) ออสเตรเลีย            (3) สุวรรณภูมิ (4) อินเดียและแอฟริกา

ตอบ 4 หน้า 21 เมื่อการค้าเติบโตขึ้นในช่วงยุคกลางของยุโรป ความต้องการข้อมูลข่าวสารมีมากขึ้น ทำให้แนวคิดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยจากอินเดียและแอฟริกาตอนเหนือแผ่ขยายเข้ามาสู่ยุโรป ส่งผลให้เกิดมหาวิทยาลัยขึ้น เช่น มหาวิทยาลัยแห่งกรุงปารีสในฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ในอังกฤษ เป็นต้น

15.       กูเต็นเบิร์ก ได้พัฒนาระบบการพิมพ์แบบกดขึ้น และพิมพ์อะไรเป็นสิ่งแรก

(1) แผ่นปลิว    (2) หนังสือเรียน           (3) ผลงานวิจัย            (4) คัมภีร์ไบเบิล

ตอบ4  หน้า 22, (คำบรรยาย) โยอัน กูเต็นเบิร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาระบบการพิมพ์แบบกด (Printing Press) หรือระบบเล็ตเตอร์เพรส (Letter Press) ที่ใช้ตัวพิมพ์ทำด้วยโลหะแบบถอดเปลี่ยนได้ (Movable Type) และต่อมาเขาก็ได้พิมพ์คัมภีร์ไบเบิล ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1453 หลังจากนั้นระบบการพิมพ์แบบใหม่นี้ก็แพร่หลายไปทั่วยุโรปอย่างรวดเร็ว

16.       กฎหรือปทัสถานทางสังคม เป็นบริบทของการสื่อสารในมิติใด

(1) กายภาพ    (2) วัฒนธรรม  (3) จิตวิทยาลังคม       (4) เวลา

ตอบ 2 หน้า 10 บริบทของการสื่อสารในมิติทางวัฒนธรรม (The Cultural Context) หมายถึง กฎหรือปทัสถานทางสังคมของทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสาร อันประกอบด้วย ความเชื่อ ค่านิยม และทัศนคติที่ถูกส่งผ่านจากคนรุ่นหนึ่งมาสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง เช่น ในบางวัฒนธรรมอาจมองว่า เป็นการสุภาพที่ต้องพูดกับคนแปลกหน้า ในขณะที่อีกวัฒนธรรมหนึ่งอาจเห็นว่าการพูดกับ คนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยง เป็นต้น

17.       เมื่อประมาณ 311 ปีก่อนคริสตกาล มีการก่อตั้งหอสมุดแห่งอเล็กซานเดรียขึ้นในอาณาจักรใด

(1) สุเมเรียน    (2) กรีซโบราณ            (3)โรมัน           (4) เปอร์เซีย

ตอบ     2 หน้า 20 ในอาณาจักรกรีซโบราณ ได้มีการก่อตั้งหอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (The Greet Library at Alexandria) เมื่อประมาณ 311 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งในหอสมุดได้เก็บรวบรวม ม้วนเอกสารกว่าครึ่งล้านม้วน ทำให้นักวิชาการจากทั่วโลกในยุคนั้นหลั่งไหลมาที่หอสมุดแห่งนี้ เพื่อการค้นคว้า สร้างสรรค์ผลงาน และเก็บรวบรวมความรู้ของตนไว้ที่นี่เพิ่มขึ้น

18.       ใครที่กล่าวว่ายุคปัจจุบันเป็นยุคที่วัฒนธรรมถูกทำให้เป็นสินค้า

(1) ลาสเวลส์   (2) เจมส์ โลว์   (3) ธีโอดอร์ อดอร์โน    (4) ซูซาน ลางเกอร์

ตอบ 3 หน้า 25 – 26 ธีโอดอร์ อดอร์โน (Theodor Adorno) กล่าวไว้ว่า ยุคปัจจุบันเป็นยุคที่วัฒนธรรม ถูกทำให้เป็นสินค้า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเพลงหรืองานวรรณกรรมก็เริ่มถูกนำเสนอด้วยกระบวนการ ทางการตลาดมากขึ้น ทำให้แนวโน้มที่รายการต่าง ๆ จะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายให้แคบลงกว่า มวลชนคนรับสารทั่วไปก็มีมากขึ้น เพราะผู้ผลิตหรือเจ้าของรายการทางสื่อมวลชนมองผู้รับสาร ในฐานะตลาด (Market)

19.       การคิดค้นระบบการพิมพ์ทำให้เกิดสิ่งใด

(1) ทำให้เกิดการพัฒนาข่าว    (2) ทำให้เกิดการแบ่งแยกชนชั้น

(3) ทำให้ชนชั้นสูงมีความสำคัญยิ่งขึ้น            (4) ทำให้เกิดการพัฒนาวิทยุและโทรทัศน์

ตอบ 1 หน้า 22 – 24 การคิดค้นระบบการพิมพ์ทำให้เกิดผลต่าง ๆ ตามมา ดังนี้

1.         ทำให้มีการพัฒนาภาษาอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ในภาคพื้นยุโรป

2.         มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงศาสนาที่เกิดขึ้นในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16

3.         ช่วยเผยแพร่รายงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้แพร่หลาย

4.         ช่วยเผยแพร่ผลงานการสำรวจพบสิ่งใหม่ ๆ

5.         ทำให้การศึกษาความรู้เจริญก้าวหน้าและเข้าถึงคนมากขึ้น

6.         ทำให้เกิดการพัฒนาข่าวและการรายงานข่าวในการสื่อสารมวลชน

20.       ความหมายของอวัจนภาษาขึ้นอยู่กับอะไร

(1)       ผู้ส่งสาร           (2) เวลา           (3) สังคม/วัฒนธรรม   (4) ช่องทางกาสื่อสาร

ตอบ 3 หน้า 15 อวัจนภาษา (Nonverbal Language) เป็นภาษาที่ไม่ใช้คำพูดหรือตัวอักษรแต่สามารถสื่อความเข้าใจกันได้ ซึ่งการทำความเข้าใจความหมายของอวัจนภาษาจะขึ้นอยู่กับ ปทัสถานของสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละแห่ง ดังนั้นอวัจนภาษาที่ใช้ในวัฒนธรรมหนึ่งอาจมี ความหมายอย่างหนึ่ง แต่เมื่อนำไปใช้ในอีกวัฒนธรรมอาจมีความหมายเป็นอีกอย่างหนึ่งก็เป็นได้

21.       ภาษาโฆษณาทำหน้าที่อะไร

(1)       เป็นช่องทางการสื่อสาร           

(2) แทนความหมายสิ่งที่มีอยู่

(3) สร้างความหมาย/สร้างแบรนด์       

(4) แทนความจริงทางกายภาพ

ตอบ3 หน้า 4346, (คำบรรยาย) ภาษาโฆษณามิได้ทำหน้าที่เพียงแทนความหมายเท่านั้น แต่ยัง เป็นเครื่องมือสำคัญที่นักโฆษณานำมาใช้ในการสร้างความหมายหรือสร้างแบรนด์(Brand) ของสินค้าให้เกิดขึ้นในจินตนาการของผู้รับสารด้วย ทั้งนี้ภาษาโฆษณาที่นำมาใช้จะประกอบด้วย ส่วนที่ใช้คำพูด (วัจนภาษา) และส่วนที่ไม่ใช้คำพูด (อวัจนภาษา)

22.       องค์ประกอบของข้อความโฆษณาส่วนใดที่ทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการกระทำ

(1)พาดหัว        

(2)เนื้อเรื่อง      

(3)คำบรรยายภาพ      

(4)ส่วนลงท้าย

ตอบ 4 หน้า 5055 ข้อความโฆษณาในส่วนลงท้าย จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรม บางอย่างเพื่อตอบสนองความปรารถนาของตน หรือกระตุ้นให้เกิดการกระทำ (Action) ซึ่งได้แก่ คำขวัญและชื่อสินค้า หรืออาจลงท้ายด้วยข้อความที่นำไปสู่การปฏิบัติ เช่น หาซื้อได้ตาม ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เป็นต้น

23.       ข้อความเนื้อเรื่องในชิ้นงานโฆษณา ทำหน้าที่อะไร

(1)       ย้ำเตือนความจำเกี่ยวกับตัวสินค้า

(2)       ให้รายละเอียด ชักจูงใจให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและต้องการสินค้า

(3)       ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ

(4)       ช่วยขยายความหมายของภาพโฆษณาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ตอบ 2 หน้า 48, (คำบรรยาย) ข้อความเนื้อเรื่องในชิ้นงานโฆษณา เป็นส่วนที่อยู่ต่อจากข้อความพาดหัว ทำหน้าที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เพื่อชักจูงใจให้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เกิดความสนใจและต้องการซื้อสินค้า

24.       ภาพสินค้าในโฆษณาทางโทรทัศน์ควรมีลักษณะอย่างไร

(1) เป็นภาพมุมสูง       (2) เป็นภาพเคลื่อนไหว

(3) เป็นภาพระยะใกล้ (4) เป็นภาพระยะปานกลาง

ตอบ 2 หน้า 51107 – 108, (คำบรรยาย) ภาพสินค้าในโฆษณาทางโทรทัศน์ จะทำหน้าที่ดึงดูด ความสนใจและตรึงผู้รับสารให้ใส่ใจต่อขึ้นงานโฆษณา โดยภาพที่นำเสนอส่วนใหญ่จะเป็น ภาพเคลื่อนไหวที่มีเสียงและตัวอักษรประกอบ จึงทำให้ผู้บริโภคเข้าใจสินค้าได้ง่าย และยังมี อิทธิพลในการชักจูงใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าสื่อมวลชนประเภทอื่น

25.       สื่อมวลชนโทรทัศน์ทำหน้าที่ส่งผ่านค่านิยมแบบใด

(1) ค่านิยมที่พึงประสงค์         (2) ค่านิยมตามจารีตประเพณี

(3) อนุรักษนิยม           (4) บริโภคนิยม

ตอบ4 หน้า 28, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ในการส่งผ่านค่านิยม หรือเรียกว่ากระบวนการสังคมประกิต หมายถึง วิถีทางที่นำปัจเจกชนมาสู่การยอมรับพฤติกรรมและค่านิยมของกลุ่มจากการที่ประชาชน ได้เรียนรู้และซึมซับเนื้อหาทางสื่อมวลชน เช่น สื่อมวลชนวิทยุโทรทัศน์ใน

ปัจจุบันได้ทำหน้าที่ ส่งผ่านค่านิยมแบบบริโภคนิยม ซึ่งจะเห็นได้จากการเน้นนำเสนอเนื้อหาที่ให้ความสำคัญกับชีวิต ที่สะดวกสบาย หรูหรา มากกว่าการให้คุณค่ากับคนที่ทำความดี

26.       โลกทางสังคมของมนุษย์แต่ละคน เกิดขึ้นจากอะไร

(1) ตัวของผู้นั้นเอง      (2) การสร้างสรรค์ของนักสื่อสาร

(3) สิ่งแวดล้อมเชิงสัญลักษณ์ (4) โลกทางกายภาพ

ตอบ3 หน้า 33 โลกทางสังคม (Social World) หรือความเป็นจริงทางสังคม (Social Reality) เป็นโลกที่เกิดจากการกล่อมเกลาของสถาบันทางสังคม ดังนั้นโลกทางสังคมของมนุษย์แต่ละคน จึงเป็นโลกที่เกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมเชิงสัญลักษณ์ที่แวดล้อมบุคคลเหล่านั้น หรือเป็นโลกที่เกิดจากการรับรู้ เพราะการที่แต่ละคนมีโลกทางสังคมแตกต่างกันก็เนื่องจากมีระบบการรับรู้ที่ต่างกัน

27.       โทรทัศน์มีบทบาทด้านวัฒนธรรมอย่างไร

(1) สร้างลักษณะวัฒนธรรมการเรียนรู้            (2) สร้างวัฒนธรรมเน้นปัญญา

(3) สร้างวัฒนธรรมร่วมที่เป็นแบบฉบับตายตัว           (4) อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิม

ตอบ 3 หน้า 32 ผลจากการวิจัยของเกิร์บเนอร์(Gerbner) ได้ให้ข้อสรุปว่า ลักษณะทางวัฒนธรรมที่ปรากฏในเนื้อหาข่าวสารของโทรทัศน์ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างวัฒนธรรมร่วม (Common Culture) ของสมาชิกในสังคม ทั้งนี้เนื้อหาที่นำเสนอทางโทรทัศน์นั้นได้เลือกเพียงบางส่วนเสี้ยวของโลก มานำเสนอ มีลักษณะเป็นภาพแบบฉบับตายตัว (Stereotyped) และเป็นภาพที่บิดเบี้ยวไปจาก โลกที่เป็นจริง โดยเฉพาะเนื้อหาที่มี

อิทธิพลต่อผู้คนอย่างมากในรายการประเภทละครโทรทัศน์

28.       หากจะเขียนสารคดีเชิงข่าว ผู้เขียนควรมีความรู้ระดับใด

(1)       ระดับที่ 2        (2) ระดับที่ 3   (3) ระดับที่ 4   (4) ระดับที่ 5

ตอบ 2 หน้า 30 นักสื่อสารมวลชนต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าความรู้ที่ตนมีอยู่นั้นเพียงพอสำหรับ เรื่องราวที่จะสื่อสารหรือไม่ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ดังนี้

1.         หากต้องการเขียนข่าวรายงานเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ควรมีความรู้ (อย่างน้อย)ในระดับที่ 2 ก็เพียงพอ เนื่องจากการรายงานข่าวต้องรายงานตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีการเพิ่มเติมข้อคิดเห็นของผู้เขียน

2.         หากจะเขียนสารคดีเชิงข่าวเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภูมิหลังหรือข้อมูลเจาะลึกของเรื่องนั้น ผู้เขียนต้องมีความรู้อย่างน้อยในระดับที่ 3

3.         หากจะเขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับความเป็นมา สาเหตุ และพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ ที่จะตามมาเกี่ยวกับเรื่องนั้น ผู้เขียนควรมีความรู้อย่างน้อยในระดับที่ 4

4.         หากจะเขียนบทวิจารณ์ว่าการกระทำเกี่ยวกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นถูกต้องหรือ ไม่ถูกต้อง ดีหรือไม่ดี ผู้เขียนควรมีความรู้ในระดับที่ 5

29.       การที่ผู้รับสารเห็นโฆษณาทางสื่อมวลชนแล้วเกิดความต้องการสินค้า แสดงว่าการโฆษณานั้นสามารถสร้างการตอบสนองสารในระดับใด      

(1) Cognitive Stage

(2)       Knowledge Stage     (3) Affective Stage    (4) Behavioral stage

ตอบ 3 หน้า 40 ขั้นความรู้สึก (The Affective stage) หมายถึง ระดับของการที่ข่าวสารโฆษณานั้น กระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภค เช่น รู้สึกชอบหรือไม่ชอบยี่ห้อของสินค้าที่โฆษณา นอกจากนี้ ยังรวมถึงความปรารถนาหรือความต้องการ ความพึงพอใจ และความมั่นใจในสินค้าด้วย

30.       การโฆษณาที่ไม่ได้มุ่งเสนอขายสินค้าโดยตรง เป็นการใช้น้ำเสียงในการโฆษณาแบบใด

(1) Hard Sell       (2) Soft Sell        (3) Rational       (4) Logical

ตอบ2 หน้า 45 น้ำเสียงที่ใช้นำเสนอสารโฆษณา มี 2 ลักษณะคือ 1. น้ำเสียงที่มุ่งขายสินค้าอย่างชัดเจน (Hard Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาแบบตรงไปตรงมา มุ่งสู่การขายสินค้าอย่างไม่อ้อมค้อม

2.         น้ำเสียงที่มุ่งขายสินค้าทางอ้อม (Soft Sell) คือ การนำเสนอสารโฆษณาที่เน้นการสร้างอารมณ์ ความรู้สึกและทัศนคติในเชิงบวกต่อสินค้า โดยไม่ได้กล่าวถึงหรือมุ่งเสนอขายตัวสินค้าโดยตรง แต่เน้นการโน้มน้าวใจโดยใช้อารมณ์มากกว่าการกล่าวถึงเหตุผลเกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้า

31.       ผู้ส่งสารที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

(1)       มีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกับผู้รับสาร

(2)       สื่อสารตามความสามารถและความพร้อมของตนเอง

(3)       เข้าใจความสามารถและความพร้อมของผู้รับสาร

(4)       มีความฉลาดหลักแหลมและคล่องแคล่วกว่าผู้รับสารมาก

ตอบ3 หน้า 29 – 30 ลักษณะของผู้ส่งสารที่ดี มีดังนี้ 1. ต้องมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ ที่ชัดเจนในการสื่อสาร   2. ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่จะสื่อสาร    3. ต้องเข้าใจความสามารถ ความพร้อม และความต้องการของผู้รับสาร

32.       ไม่เห็นตราเนเจอร์กิฟ อย่าเสี่ยง อย่าซื้อ” เป็นข้อความพาดหัวโฆษณาแบบใด

(1)พาดหัวข่าว     

(2)เป็นคำสั่ง            

(3) ให้การศึกษา          

(4)ชวนให้สนใจใคร่รู้

ตอบ 2 (คำบรรยาย) การพาดหัวในลักษณะเป็นคำสั่ง เป็นข้อความพาดหัวโฆษณาที่เน้นให้เห็นถึง สถานการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์เมื่อปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นข้อแนะนำในข้อความโฆษณานั้น โดยมักจะเขียนในรูปของคำสั่งและอาจมีคำว่า อย่า/ห้าม/จง/ต้อง” เพื่อแสดงการสั่ง ไม่ให้ทำหรือสั่งให้ทำ

33.       การโฆษณาโดยกล่าวถึงลักษณะเด่น คุณภาพ คุณสมบัติของสินค้า เป็นการโฆษณาที่ใช้อะไรเป็นสิ่งดึงดูดใจ

(1) อารมณ์      (2) ความรู้สึก   (3) ความอยากรู้อยากเห็น       (4) เหตุผล

ตอบ 4 หน้า 45 – 46 สิ่งดึงดูดใจที่ปรากฏในสารโฆษณาแบ่งเป็น2ลักษณะคือ

1.         ด้านเหตุผล เป็นการใช้คุณสมบัติทางกายภาพของสินค้ามาเป็นสิ่งดึงดูดใจ โดยจะกล่าวถึง ลักษณะเด่น คุณสมบัติ คุณภาพของสินค้า ราคาสินค้า ฯลฯ

2.         ด้านอารมณ์หรือลักษณะทางจิตวิทยา เป็นการใช้ความต้องการหรือแรงจูงใจของผู้บริโภค มาดึงดูดใจให้ซื้อสินค้า โดยจะกล่าวถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการใช้สินค้านั้น ๆ เช่น ความพึงพอใจ ความเท่ ฯลฯ

34.       ข้อใดไม่ใช่หลักการของการเขียนข้อความพาดหัวโฆษณา

(1)       ข้อความที่เสนอขายสินค้า ควรเขียนไว้ที่ส่วนท้ายของข้อความโฆษณา

(2)       สอดแทรกข้อมูลใหม่ ๆ

(3)       ระบุชื่อสินค้าในข้อความพาดหัว

(4)       มุ่งขายสินค้ามากกว่าการใช้สำนวนโวหาร

ตอบ1  หน้า 48 ข้อความพาดหัวโฆษณาที่ดีควรมีลักษณะดังนี้          1. ควรขายสินค้าได้  2.ดึงดูดใจผู้อ่านด้วยการชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ 3. สอดแทรกข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับสินค้า 4. ควรระบุชื่อสินค้าไว้ในข้อความพาดหัว 5. ควรเชิญชวนให้อ่านข้อความ ในส่วนอื่น ๆ ของสิ่งโฆษณา 6. ควรให้ความสำคัญกับการขายสินค้ามากกว่าการเล่นคำ ฯลฯ

35.       ข้อใดคือหน้าที่สำคัญของข้อความพาดหัวโฆษณา

(1) ทำให้รู้จักชื่อสินค้า (2) แสดงถึงเอกลักษณ์ของสินค้า

(3)       ดึงดูดความสนใจและขายสินค้า         (4) ช่วยสร้างความหมาย ให้ภาพประกอบ

ตอบ3  หน้า 47 ข้อความพาดหัวโฆษณา (Headline) คือ ข้อความส่วนที่ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจผู้รับสารด้วยการกล่าวถึงข้อเสนอเพื่อการขายสินค้า ดังนั้นจึงถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ของข้อความโฆษณาทางสิ่งพิมพ์ เพราะหากข้อความพาดหัวไม่มีพลังพอก็ไม่อาจจะทำให้ผู้รับสารสนใจอ่านข้อความโฆษณาส่วนอื่น ๆ ได้

36.       ศาลอุทธรณ์พลิกยกฟ้องพจมาน-เลขาฯ เลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ 546 ล้าน แต่บรรณพจน์ไม่รอดเจอโทษจำคุก 2 ปี ฐานให้การเท็จ ให้รอลงอาญา 1 ปี ขณะที่อภิรักษ์-โภคิน-ประชา-วัฒนา-อดีต ผอ.ปภ.กทม.-บ.สไตเออร์ หนาวแน่ศาลฎีกาอาญานักการเมืองรับฟ้องคดีทุจริต” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Punch Lead  (2)       Background     Lead          (3) Colorful Lead       (4) Contrast Lead

ตอบ 4 หน้า 83, (คำบรรยาย) ความนำแบบเปรียบเทียบ (Contrast Lead) คือ การเขียนความนำ ที่รายงานเหตุการณ์ในลักษณะเชื่อมเนื้อหา 2 ประเด็นที่ขัดแย้กัน นำมาสรุปเข้าด้วยกัน ในการเขียนความนำ

37.       นายกปูยันรัฐบาลไม่ได้พลิ้วนโยบายค่าแรง 300 บาท ระบุรัฐบาลตั้งใจทำทุกนโยบาย เฉลิมคุยโอ่รัฐบาลปู อยู่ยาว8ปีเทียบชั้นปาเปรม” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Punch Lead  (2)       Background     Lead          (3) Colorful Lead       (4) Contrast Lead

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ

38.       ศึกซักฟอกนโยบายรัฐบาลยังคึก ฝ่ายค้าน ส.ว. ถล่มยับนโยบายแก้บน ซัดกันเดือดหลังสาทิตย์อัด พท.-เสื้อแดงบาป” เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Punch Lead  (2)       Background     Lead          (3) Colorful Lead       (4) Contrast Lead

ตอบ 1 หน้า 83 ความนำแบบกระแทกอารมณ์ (Punch Lead) คือ การเขียนความนำในการรายงานข่าว ที่เป็นเหตุการณ์รุนแรง ดังนั้นภาษาที่ใช้จึงมีลักษณะขึงขัง มีพลัง และผู้เขียนมักใช้คำที่มีลักษณะ เป็น Strong Words เช่น กระหน่ำ ซัด อัด กราด พรุน ฯลฯ

39.       ในการจัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด ใครควรเป็นผู้พูด

(1)นักประชาสัมพันธ์   (2)โฆษก

(3) ผู้บริหารสูงสุดหรือผู้รับผิดชอบโดยตรง     (4) ผู้มีวาทศิลป์

ตอบ 3 หน้า 62, (คำบรรยาย) สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ คือ

การพิจารณาว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนขององค์กรในการพูด โดยจะต้องพิจารณาถึง โอกาสและเนื้อหาของการพูด เช่น ในการจัดประชุมแถลงนโยบายขององค์กร หรือจัดแถลงข่าว เพื่อชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด ผู้พูดควรเป็นผู้บริหารสูงสุดหรือบุคคลสำคัญทีรับผิดชอบโดยตรง แต่ถ้าเป็นการกล่าวต้อนรับและการบรรยายสรุปให้นักศึกษาที่เข้าเยี่ยมชมกิจการฟัง ผู้พูดควรเป็นนักประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

40.       ข้อใดเป็นข้อพิจารณาในการกำหนดเรื่องที่พูดเพื่อการประชาสัมพันธ์

(1)       เป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ

(2)       เป็นเรื่องที่อยู่ในกระแส

(3)       เป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์ โอกาส และความสามารถของผู้พูด

(4)       เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึงมาก่อน

ตอบ 3 หน้า 63 ผู้พูดควรกำหนดเรื่องที่จะพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้เหมาะสมกับโอกาสสถานการณ์ที่ไปพูด และความรู้ความสามารถของตน โดยมีหลักสำคัญคือ การเตรียมเรื่องที่จะพูดให้พร้อม ซึ่งได้แก่  1. ศึกษาหัวข้อเรื่องที่พูด            2. กำหนดโครงเรื่อง   3. ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม         4. คาดการณ์เรื่องที่ผู้ฟังจะซักถามและเตรียมคำตอบล่วงหน้า

5.         เตรียมอุปกรณ์ประกอบการพูด

41.       การโฆษณาหาเสียงกับกลุ่มประชาชนที่มีการศึกษาน้อย มักเน้นเรื่องใด

(1) อุดมการณ์ของพรรคการเมือง        

(2) ความโปร่งใส

(3) เรื่องเกี่ยวกับปากท้องที่เป็นรูปธรรม          

(4) โครงการพัฒนาระยะยาว

ตอบ 3 หน้า 64 ผู้ฟังที่มีระดับการศึกษาต่างกัน ย่อมมีความสนใจแตกต่างกัน น ผู้ฟังที่มีระดับการศึกษาสูง จะชอบฟังเรื่องที่เป็นวิชาการ เรื่องที่เพิ่มพูนความรู้และยกระดับสติปัญญา ส่วนผู้ที่มีการศึกษาน้อย จะชอบฟังเรื่องที่สนุกสนานให้ความเพลิดเพลิน เรื่องเกี่ยวกับปากท้อง และการดำรงชีวิตที่เป็นรูปธรรม หรือเรื่องที่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

42.       การจัดแถลงข่าว เป็นการใช้การพูดเพื่อการประชาสัมพันธ์ในข้อใด

(1) การชี้แจงอย่างเป็นทางการ           

(2) การประชุมโต๊ะกลม

(3) การอภิปรายกลุ่ม   

(4) การบรรยายสรุป

ตอบ1 หน้า 66, (คำบรรยาย) การพูดชี้แจงอย่างเป็นทางการ เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลดีในการสร้าง ความประทับใจและเผยแพร่กระจายข่าวสารไปสู่กลุ่มผู้ฟังได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำได้ใน รูปของการอธิบายถึงนโยบาย จุดมุ่งหมายของการดำเนินงาน ชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิด และ ให้คำแนะนำแก่บรรดาพนักงานของบริษัท โดยมักใช้ในการจัดแถลงข่าว การจัดประชุมผู้สื่อข่าว การกล่าวเปิดและปิดงาน ฯลฯ

43.       การใช้การสนทนาอย่างไม่เป็นทางการในการประชาสัมพันธ์จะได้ผลดีในกรณีใด

(1) มีการวางแผนที่ดี   (2) พนักงานภักดีต่อองค์การ

(3) นักประชาสัมพันธ์มีวาทศิลป์         (4) มีการแบ่งความรับผิดชอบอย่างชัดเจน

ตอบ 2 หน้า 67, (คำบรรยาย) การสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ คือ การพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ระหว่างเจ้าหน้าที่พนักงานในองค์การ หรือการทักทายกับประชาชนที่มาติดต่อ ซึ่งถือเป็น วิธีสื่อสารที่ได้ผลดีที่สุด และจะได้ผลดียิ่งขึ้นในกรณีที่พนักงานมีความภักดีและเชื่อมันศรัทธา ในองค์การ เพราะจะทำให้พนักงานกล้าแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การอย่างอิสระ ซึ่งก็จะส่งผลให้ประชาชนที่มาติดต่อเกิดความรู้สึกที่ดีต่อองค์การในที่สุด

44.       ข้อใดเป็นหลักการเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์

(1) ใช้สำนวนโวหาร     (2) ใช้วลีที่ดึงดูดใจ

(3) ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ให้ความรู้สึกจริงใจ   (4) ใช้คำหรูหราฟังไพเราะ

ตอบ 3 หน้า 72 – 73 หลักการพื้นฐานสำหรับการเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์ มีดังนี้

1.         ใช้ภาษาให้ถูกต้อง       2. ใช้รูปแบบการเขียนที่เหมาะสม

3.         เรียงคำในประโยคอย่างเหมาะสม 4. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เน้นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกจริงใจ 5. เขียนด้วยประโยคสั้น ๆ เพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจง่าย          6. ใช้ภาษาที่สื่อความหมาย

7.         เขียนด้วยความจริงใจและซื่อสัตย์       8. ใช้ภาษาที่ปราศจากอคติ

45.       หนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพเสนอข่าวประเภทใด

(1) ข่าวที่ประชาชนสนใจ         (2) ข่าวหนัก     (3) ข่าวเบา      (4) ข่าวที่มีคุณภาพ

ตอบ 2 หน้า 76 – 7779 หนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพ (Quality Newspaper) หมายถึง หนังสือพิมพ์ ที่นำเสนอข่าวสารข้อมูลที่มีสาระ ซึ่งผู้อ่านต้องใช้ความรู้ความคิดติดตามเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านั้น จึงจะเข้าใจ โดยข่าวที่นำเสนอจะมีลักษณะการใช้ภาษาเป็นภาษาระดับทางการและกึ่งทางการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าวหนัก (Hard News) เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการศึกษา ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น

46.       บทบรรณาธิการเป็นความเรียงประเภทใด

(1) ร้อยแก้ว     (2) ร้อยกรอง   (3) ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง   (4) สารคดี

ตอบ 1 หน้า 77 – 7889 บทบรรณาธิการหรือบทนำ (Editorial) คือ ความเรียงประเภทร้อยแก้ว โดยมีจุดมุ่งหมายหลักของการเขียนเพื่อแสดง

ถึงทัศนะหรือความคิดเห็นของกองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ซึ่งมีต่อสถานการณ์ที่กำลังอยู่ในความสนใจของสาธารณชน ดังนั้น บทบรรณาธิการจึงมีความสำคัญในการเป็นข้อเขียนที่แสดงถึงจุดยืนหรือทิศทางของหนังสือพิมพ์ ทั้งฉบับที่มีต่อสถานการณ์ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสสังคม

47.       บทบรรณาธิการมีความสำคัญอย่างไร

(1)       เป็นข้อเขียนประเภทแสดงความคิดเห็น

(2)       เป็นการนำเสนอข้อมูลใหม่ ๆ

(3)       แสดงถึงจุดยืนของหนังสือพิมพ์ต่อสถานการณ์ที่อยู่ในกระแสสังคม

(4)       แสดงความคิดเห็นของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องทั่วไป

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

48.       หนังสือพิมพ์เชิงปริมาณมีลักษณะการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ใช้ภาษาทางการและภาษาปาก    (2) ใช้ภาษาทางการและกึ่งทางการ

(3) ใช้ภาษาปาก          (4) ใช้ภาษากึ่งทางการและภาษาปาก

ตอบ 4 หน้า 7779 หนังสือพิมพ์เชิงปริมาณ (Popular Newspaper) หมายถึง หนังสือพิมพ์ ที่เสนอข่าวสารที่เน้นเรื่องราวที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกซองผู้อ่าน โดยข่าวที่นำเสนอ จะมีลักษณะการใช้ภาษาเป็นภาษาระดับกึ่งทางการและภาษาปาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่ผู้อ่านไม่ต้องใช้ความรู้ความคิดในการวิเคราะห์ก็สามารถเข้าใจ เรื่องราวได้ เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวชีวิตส่วนตัวของคนดัง เป็นต้น

49.       การเขียนข่าวหนังสือพิมพ์นิยมใช้รูปแบบการเขียนแบบใด

(1) Inverted Pyramid          (2) Upright Pyramid

(3) Combination        (4) Article

ตอบ 1 หน้า 80, (คำบรรยาย) รูปแบบการเขียนข่าวหนังสือพิมพ์ มีดังนี้

1.         แบบพีระมิดหัวกลับ (inverted Pyramid) คือ การเสนอประเด็นสำคัญของข่าวก่อนรายละเอียด ถือเป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากกว่าร้อยละ 85 – 90 ในการเขียนข่าวหนังสือพิมพ์

2.         แบบพีระมิดหัวตั้ง (Upright Pyramid) คือ การเสนอรายละเอียดของข่าวก่อน ประเด็นสำคัญ นิยมใช้ในการเขียนบทความ บทบรรณาธิการ สารคดีเชิงข่าว ฯลฯ

3.         แบบผสม (Combination) คือ การเสนอประเด็นสำคัญทั้งในตอนต้นและตอนท้าย มักใช้ในการเขียนข่าวประชาสัมพันธ์

50.       พลิกคดีโกงภาษี ศาลอุทธรณ์ชี้อ้อไม่มีเจตนาปกปิดซื้อขายหุ้น” ข้อความพาดหัวข่าวนี้มีการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ละประธานของประโยค    (2) ตัดคำสั้น    (3) ใช้คำย่อ     (4)ใช้คำที่ชวนสงสัย

ตอบ 1 หน้า 81 – 82 การละประธานของประโยค บางครั้งการเขียนพาดหัวข่าวอาจขึ้นต้นด้วยคำกริยา เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น

50.       พลิกคดีโกงภาษี ศาลอุทธรณ์ชี้อ้อไม่มีเจตนาปกปิดซื้อขายหุ้น” ข้อความพาดหัวข่าวนี้มีการใช้ภาษาอย่างไร

(1) ละประธานของประโยค    

(2) ตัดคำสั้น    

(3) ใช้คำย่อ     

(4)ใช้คำที่ชวนสงสัย

ตอบ 1 หน้า 81 – 82 การละประธานของประโยค บางครั้งการเขียนพาดหัวข่าวอาจขึ้นต้นด้วยคำกริยา เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น

ข้อ 51. – 53. จงใช้บทความต่อไปนี้ตอบคำถาม

“’ด้วยความเคารพในคำพิพากษาของศาลทั้งสอง และด้วยบรรยากาศการประชุมเพื่อแถลง นโยบายรัฐบาลตลอดระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา ได้พาดพิงถึงสถาบันศาล และทำให้เข้าใจไปว่าศาลตัดสิน สองมาตรฐาน ซึ่งความเป็นจริงศาลจะตัดสินอย่างไร กำหนดโทษสถานใดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ที่ปรากฏระหว่างการพิจารณา ไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกอย่างใดทั้งสิ้น ถ้าพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าศาลมี สองมาตรฐาน โดยเฉพาะมาตรฐานที่ใช้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือญาติบริวารจริง คำตัดสินของทั้งสองศาลวันนี้จะใช้คำอธิบายอย่างไร 

51.       บทความนี้แสดงความคิดเห็นในระดับใด

(1) เสนอแนะ   

(2) อธิบายความ

(3) วิพากษ์วิจารณ์       

(4) เสนอแนวทางการแก้ปัญหา

ตอบ 2 หน้า 88 – 89, (คำบรรยาย) การแสดงความคิดเห็นในบทความ บทวิเคราะห์ และบทบรรณาธิการ อาจแบ่งตามระดับจากง่ายไปยากที่สุดได้ดังนี้

1.         ระดับอธิบายความ คือ ผู้เขียนตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบ ที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะตามมา

2.         ระดับวิพากษ์วิจารณ์ คือ ผู้เขียนประเมินค่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าดีหรือไม่ดี เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ใครถูกใครผิด ฯลฯ โดยแจกแจงให้เห็นข้อดีข้อด้อยในเรื่องนั้น ๆ

3.         ระดับเสนอทางแก้ปัญหา คือ ผู้เขียนให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาแก่ผู้รับผิดชอบ จึงจัดเป็นการเขียนในเชิงวิเคราะห์ที่กล่าวถึงสาเหตุและเสนอทางออกไปพร้อมกัน

52.       บทความนี้ใช้ภาษาระดับลีลาใด

(1) ลีลาเยือกเย็น         

(2) ลีลาทางการ           

(3) ลีลาปรึกษาหารือ   

(4) ลีลากันเอง

ตอบ 2 หน้า 8892, (คำบรรยาย) ภาษาระดับลีลาทางการ (Formal Style) จะมีลักษณะภาษาที่เป็น พิธีการน้อยกว่าลีลาเยือกเย็น แต่ก็ยังมีลักษณะเป็นแบบแผน จึงเป็นลีลาของภาษาที่มุ่งสื่อสาร ไปยังกลุ่มคนที่ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นบุคคลใด เช่น ภาษาที่ใช้ในการเขียนข่าว บท

บรรณาธิการ บทความทางวิชาการ การปาฐกถา การบรรยาย ฯลฯ

53.       ข้อความที่ยกมาน่าจะเป็นส่วนใดของบทความ

(1) คำนำ         (2) ย่อหน้าที่ 2   (3) สวนเชื่อม (4) ย่อหน้าสุดท้าย

ตอบ 4 หน้า 92 – 93, (คำบรรยาย) โครงสร้างของการเขียนบทความ บทวิเคราะห์ และบทบรรณาธิการ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันดังนี้        1. ชื่อเรื่อง คือ ชื่อที่เขียนขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน 2. ความนำ คือ ส่วนแรกของเนื้อหา ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำนำหรืออารัมภบท 3. เนื้อเรื่อง คือ ส่วนที่ดำเนินเรื่องราว  4. สรุป คือ ส่วนสุดท้ายหรือย่อหน้าสุดท้ายอาจเป็นข้อเสนอแนะ หรือข้อความที่ย้ำถึงจุดยืนเกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่กล่าวถึง

ข้อ 54. – 55. จงใช้บทความต่อไปนี้ตอบคำถาม

แต่ถึงจะทำได้หรือทำไม่ได้ก็ตาม นักการเมืองหรือพรรคการเมืองจะต้องรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้ ต่อประชาชนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อสร้างศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตย ระบบของรัฐสภา และนักการเมือง ตามคำเรียกร้องของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ควรจะยอมรับความจริง ต่อประชาชนย่อมจะได้รับความเห็นใจดีกว่าให้สัญญาแบบลม ๆ แล้ง ๆ

54.       ข้อความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทบรรณาธิการประเภทใด

(1) ให้ข่าวสาร  (2) อธิบายความ          (3) แนะนำ       (4) เรียกร้องให้กระทำ

ตอบ 1 หน้า 91 บทบรรณาธิการประเภทให้ข่าวสารและคำอธิบาย (Inform and Interpret)เป็นบทบรรณาธิการที่ผู้เขียนต้องการให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านในเรื่องที่เป็นข่าว หรือเป็น เรื่องที่สัมพันธ์กับข่าวซึ่งมีแง่มุมซับซ้อนเข้าใจยาก โดยจะมุ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับอธิบายลำดับและชี้ประเด็นสำคัญเพื่อสร้างความเข้าใจในเหตุการณ์เท่านั้น แต่ไม่ได้ มีเป้าหมายที่จะให้ผู้อ่านเกิดปฏิกิริยาหรือกระตุ้นความคิดแต่อย่างใด

55.       บทความข้างต้นแสดงความคิดเห็นในระดับใด

(1)อธิบายความ           (2)วิพากษ์วิจารณ์        (3)วิเคราะห์     (4) ให้คำแนะนำ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 51. ประกอบ

56.       ยอดรถกระบะคุณภาพอันดับ 1 ของคนไทย ไฮลักซ์ วีโก้” เป็นข้อความพาดหัวประเภทใด

(1)       พาดหัวข่าว     (2) กล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ

(3) ให้คำแนะนำ          (4)ชวนให้สนใจใคร่รู้

ตอบ 2 หน้า 47 การกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ (Product Claim) เป็นการพาดหัวโฆษณา ที่แสดงถึงข้อยืนยันเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการใช้สินค้า ซึ่งการพาดหัวโฆษณาวิธีนี้ จะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ดี เพราะเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่อยู่ในความสนใจของ ผู้บริโภค และสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการเขียนข้อความพาดหัวโฆษณาแบบนี้คือ ข้อเสนอนั้น ควรเป็นข้อเสนอที่เด่นชัดจริง ๆ และเชื่อถือได้

57.       ขนาดของโฆษณามีความสัมพันธ์กับอะไร    

(1)พื้นที่ว่าง

(2)       ผลกระทบที่มีต่อผู้รับสาร       (3) จำนวนผู้รับสาร      (4) แบบตัวอักษร

ตอบ 2 หน้า 54 ขนาดของโฆษณา (Size) จะมีความสัมพันธ์กับผลกระทบที่มีต่อผู้รับสาร (Impact)เพราะโดยทั่วไปแล้วโฆษณาขนาดใหญ่มักได้รับความสนใจมากกว่าโฆษณาขนาดเล็ก ในขณะเดียวกัน โฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ที่มีความยาว 60 วินาที ก็มักได้รับความสนใจและเป็นที่จดจำได้ดีกว่า โฆษณาที่มีความยาว 15 วินาที

58.       อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนในสังคมเข้าใจความหมายของเรื่องราวต่าง ๆ แตกต่างกัน

(1) เพราะมีสื่อให้เลือกหลายประเภท  (2) เพราะมีข้อมูลข่าวสารมากมายให้เลือกรับ

(3)       การเข้ารหัสความหมายแตกต่างกัน    (4) การถอดรหัสความหมายแตกต่างกัน

ตอบ 4 หน้า 3-5, (คำบรรยาย) การถอดรหัสสาร (Decoding) คือ กระบวนการที่ผู้รับสารแปล หรือตีความสารให้เกิดเป็นความหมายขึ้นในใจ หรือทำความเข้าใจความหมายของภาษาที่ใช้สื่อสาร โดยผู้รับสารแต่ละคนจะถอดรหัสความหมายในเรื่องหนึ่ง ๆ แตกต่างกันไปตามขอบเขตแห่ง ประสบการณ์ของตน ดังนั้นการถอดรหัสความหมายที่แตกต่างกันของคนในสังคม จึงทำให้ การเข้าใจความหมายของเรื่องราวต่าง ๆ ที่สื่อสารแตกต่างกันออกไปด้วย

59.       การที่สัญญาณขัดข้อง เป็นอุปสรรคการสื่อสารข้อใด

(1) Semantic Noise   (2) Mechanical Noise

(3) Environmental Noise  (4) Ambiguous Noise

ตอบ2  หน้า 6, (คำบรรยาย) อุปสรรคทางด้านเครื่องมือ (Mechanical Noise) เกิดขึ้นเมื่อเกิดปัญหากับอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการสื่อสาร เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ที่ตั้งสัญญาณรับภาพไม่ถูกต้อง หรือหับเสาอากาศไม่ถูกทิศทาง ทำให้ได้รับสัญญาณภาพและเสียงขัดข้องไม่ชัดเจนวิทยุที่มี เสียงคลื่นแทรกไมโครโฟนไม่ดังหรือมีการดูดเสียงไฟฟ้าดับหรือลัดวงจร เป็นต้น

60.       การที่นักการเมืองอภิปรายในสภา เป็นการสื่อสารในมิติใด

(1) มิติทางกายภาพ    (2) มิติทางวัฒนธรรม  (3) มิติทางจิตวิทยาสังคม        (4) มิติทางสังคม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 9. ประกอบ

61.       Connotation หมายถึงความหมายในลักษณะใด

(1) ความหมายจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัด          

(2) ความหมายที่เชื่อมโยงกับสัตภาพ

(3) ความหมายที่ใช้กันโดยทั่วไป         

(4) ความหมายเพิ่มเติมหรือความหมายรอง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

62.       ข้อใดไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชน

(1)       การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหรือฝ่ายปกครอง

(2)       การชี้แจงแก้ไขความเข้าใจผิดแทนรัฐบาลเพื่อสร้างความปรองดอง

(3)       การส่งสัญญาณเตือนภัยหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคม

(4)       การตีความหมาย

ตอบ 2 หน้า 27 – 28, (คำบรรยาย) บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชน มีดังนี้

1.         การสอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม รวมถึงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลหรือ ฝ่ายปกครองที่คาดว่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงเป็นเสมือนผู้ส่งสัญญาณเตือนภัย หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคม

2.         การตีความหมาย        

3. การเชื่อมประสานส่วนต่าง ๆ ของสังคม

4.         การส่งผ่านค่านิยม      

5. การให้ความบันเทิง

63.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการสื่อสารมวลชน

(1) ได้รับอิทธิพลจากบริบททางสังคม 

(2) เป็นการสื่อสารทางเดียว

(3) ผู้ส่งสารเป็นใครก็ได้          

(4) ผู้รับสารเป็นใครก็ได้

ตอบ 3 หน้า 25 – 26 ลักษณะของการสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         แหล่งสารหรือผู้ส่งสารมีลักษณะเป็นสถาบัน

2.         สารที่ปรากฏทางสื่อมวลชนมีลักษณะเป็นสาธารณะ (Public)

3.         ผู้รับสารเป็นมวลชน หรือผู้รับชมรับฟังจำนวนมากที่เป็นใครก็ได้

4.         กระบวนการสื่อสารมวลชนมีลักษณะเป็นการสื่อสารทางเดียว

5.         ได้รับอิทธิพลจากบริบททางสังคม      6. ใช้สื่อมวลชนเป็นช่องทางการสื่อสาร

64.       Rating หมายถึงอะไร

(1) การคิดอัตราค่าโฆษณา     (2) การจัดอันดับคุณภาพของรายการ

(3) ความนิยมรายการ (4) การกำหนดเนื้อหาของสื่อ

ตอบ 3 หน้า 26, (คำบรรยาย) เรตติ้ง (Rating) หมายถึง ค่าแสดงความนิยมรายการของผู้ขมที่มีต่อรายการโทรทัศน์หนึ่ง ๆ

65.       ข้อใดแสดงถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการสอดส่องดูแลความเป็นไปในสังคม

(1)       การนำเสนอบทละครโทรทัศน์

(2)       การนำเสนอข่าวเด็กหญิงกตัญญูดูแลพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาต

(3)       การนำเสนอข่าวเชิงสืบสวนเกี่ยวกับการทุจริตของนักการเมือง

(4)       การนำเสนอภาพแอบถ่ายของดารานักร้อง

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 62. ประกอบ

66.       สด ๆร้อน ๆใหม่ ฮานามิสะใจแบบเม็กซิกัน” เป็นการเขียนข้อความพาดหัววิธีใด

(1) พาดหัวข่าว            (2) บอกประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ

(3) เป็นคำสั่ง   (4) ชวนให้อยากรู้อยากเห็น

ตอบ 1 หน้า 47 การพาดหัวข่าว (News) เป็นข้อความพาดหัวโฆษณาที่ใช้วิธีการเขียนแบบพาดหัวข่าว กล่าวคือ เป็นการสรุปสาระสำคัญ ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจมากที่สุดในข้อความโฆษณา เช่น เน้นเรื่องความใหม่ ความแปลก ความสวยงาม ฯลฯ

67.       Social World หมายถึงอะไร

(1)โลกตามความเป็นจริง        (2)โลกทางกายภาพ

(3) โลกที่แท้จริง           (4) โลกที่เกิดจากการรับรู้

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ

68.       Stereotyped หมายถึงอะไร

(1) ชนิดของเครื่องเสียง           (2) เครื่องมือการสื่อสาร

(3) ลักษณะที่เป็นแบบฉบับตายตัว    (4) ความจริงที่ปรากฏ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 27. ประกอบ

69.       รายการสารคดี เป็นรายการประเภทใด

(1)ข่าวสาร       (2)ความรู้         (3)ความบันเทิง           (4)โน้มน้าวใจ

ตอบ 2 หน้า 95, (คำบรรยาย) รายการประเภทความรู้ หมายถึง รายการที่มุ่งให้ความรู้หรือการศึกษา ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมวิชาการ อาชีพ วัฒนธรรม และแนวทางการดำเนินชีวิตที่ดีของประชาชน เช่น รายการสารคดี รายการธรรมะ รายการศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ

70.       การเขียนบทสำหรับรายการละครวิทยุ เป็นบทประเภทใด

(1) ร่างคร่าว ๆ (2) กึ่งสมบูรณ์ (3) สมบูรณ์     (4) บทอ่าน

ตอบ 3 หน้า 105, (คำบรรยาย) การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1.         บทที่วางโครงร่างคร่าว ๆ (Run-down Sheet) คือ บทที่ร่างลำดับเนื้อหาหรือ ลำดับการทำงานไว้สำหรับผู้ร่วมงาน ซึ่งมักใช้กับรายการเพลง

2.         บทกึ่งสมบูรณ์ (Semi Script) คือ บทที่มีรายละเอียดสมบูรณ์ในบางส่วนและละไว้บางส่วน มักใช้กับรายการสัมภาษณ์ สนทนา ฯลฯ

3.         บทสมบูรณ์ (Complete Script) คือ บทที่มีรายละเอียดทุกอย่างกำหนดไว้ชัดเจน มักใช้ กับรายการละครวิทยุ ข่าว บทความ สปอตโฆษณา ฯลฯ

71.       ปชป. ป่วนวอล์กเอาต์” คำทีขีดเส้นใต้หมายถึงอะไร

(1) ไม่เห็นด้วย 

(2)ประท้วงด้วยการเดินออกจากห้องประชุม

(3) ประท้วงด้วยการไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง     

(4) เดินหนีไปในขณะที่กำลังคุยกัน

ตอบ 2 (คำบรรยาย) คำว่า วอล์กเอาต์” (Walk Out) หมายถึง การประท้วงด้วยการเดินออกจาก ที่ประชุมหรือห้องประชุม เพื่อแสดงการคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

72.       การเขียนบทวิทยุกระจายเสียงสำหรับรายการสัมภาษณ์ ควรเขียนบทประเภทใด

(1) วางโครงร่างคร่าว ๆ           

(2) ประเภทกึ่งสมบูรณ์

(3) ประเภทสมบูรณ์    

(4) ประเภทแสดงเค้าโครง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 70. ประกอบ

73.       สภาล่มกลางดึก แถลงนโยบายสะดุด หลังเพื่อไทย ปชป. เปิดศึกซัดนัวเนียปมดึงฟ้าต่ำ ขุนค้อนพลาด องค์ประชุมขาดฉิวเฉียด ขณะที่เหลิมหนุนปูเทียบชั้นป๋าเปรม พร้อมลุ้นวัดรอยเท้านายกฯ 8 ปีครึ่ง

ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Colorful Lead        

(2) Summary Lead

(3) Punch Lead  

(4) Contrast Lead

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ

74.       ชำแหละนโยบายวันที่สอง สุนัขรับใช้เห่าลั่นสภา ไม่พอใจฝ่ายค้านตีแสกหน้านายใหญ่

ข้อความนี้เป็นการเขียนความนำแบบใด

(1) Colorful Lead        (2) Summary Lead

(3) Punch Lead  (4) Contrast Lead

ตอบ 1 หน้า 82 – 83, (คำบรรยาย) ความนำแบบสร้างภาพพจน์ (Picture or Colorful Lead) คือ การเขียนความนำด้วยการแสวงหาถ้อยคำมาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อทำให้ผู้อ่าน มองเห็นภาพเหตุการณ์นั้น ๆ เสมือนกับว่าได้เห็นมาด้วยตาตนเอง โดยภาษาที่ใช้จะเต็มไปด้วย ความมีชีวิตชีวา มีความเคลื่อนไหว มีสีสัน ซึ่งบางครั้งก็เป็นคำทีสร้างสีสันเกินจริง

75.       Host หมายถึงคร

(1) ผู้จัดรายการสนทนา           (2) ผู้เขียนบท

(3) ผู้ผลิตรายการ        (4) ผู้ดำเนินรายการและควบคุมเสียง

ตอบ 1 หน้า 96 รายการสนทนา (Conversational Programme) เป็นรายการพูดคุยหรือสนทนาระหว่าง ผู้ดำเนินรายการหรือผู้จัดรายการสนทนา (Host) กับผู้ร่วมรายการหรือแขกรับเชิญ (Guest) เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ผู้ฟังทางบ้านฟัง ซึ่งผู้ร่วมสนทนาอาจมี 2 คน (ผู้ดำเนินรายการ กับผู้ร่วมรายการ) หรือ 3 คนก็ได้

76.       เสียงพูดทางวิทยุกระจายเสียง ควรมีลักษณะอย่างไร

(1)       ไพเราะ นุ่มนวล ต้องบีบเสียง เค้นเสียงเป็นบางช่วง

(2)       แสดงความมั่นใจ ไม่ตะกุกตะกัก

(3)       พลิ้วไหว เปลี่ยนแปลงได้หลายแบบ

(4)       น้ำเสียงมั่นคง ราบเรียบ

ตอบ 2 หน้า 99 – 100 หลักการพูดหรืออ่านทางวิทยุกระจายเสียงประการหนึ่ง คือ ต้องมี การเปล่งเสียงที่เป็นธรรมชาติ ได้แก่

1.         เป็นเสียงพูดที่แสดงความมั่นใจ ไม่ตะกุกตะกัก

2.         เป็นเสียงที่ฟังรื่นหู ไม่แข็งกระด้างหรือเน้นเสียงจนเกินไป

3.         เป็นเสียงแท้ของผู้อ่าน ไม่ควรดัดเสียง หรือบีบเค้นเสียง แต่ควรมีน้ำหนักเสียงสูง-ต่ำ ตามธรรมชาติ

4.         ในกรณีที่เป็นการอ่านบท ผู้อานต้องเข้าใจและตีบทให้แตกก่อนอ่าน

77.       ข้อเขียนที่ใช้ในการผลิตรายการวิทยุกระจายเสียง ได้แก่ข้อใด

(1) ผังรายการ (2) เอกสารคู่มือรายการ

(3) บทวิทยุกระจายเสียง         (4) บัญชีรายการกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องทำ

ตอบ 3 หน้า 102, (คำบรรยาย) บทวิทยุกระจายเสียง หมายถึง ข้อเขียนที่ใช้ในการผลิตรายการ วิทยุกระจายเสียง โดยจะมีหน้าที่บอกลำดับความเป็นไปของรายการนับตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่ง จบรายการ เพื่อให้รายการดำเนินไปได้อย่างมีทิศทางตามขอบเขตเนื้อหาและรูปแบบของรายการที่วางไว้

78.       การเขียนบทสำหรับรายการสารคดีทางวิทยุกระจายเสียง มีแนวทางการใช้ภาษาอย่างไร

(1) เขียนประโยคสั้น ๆ            (2) เร้าอารมณ์ผู้ฟัง

(3) ขึงขัง หนักแน่น เป็นทางการ          (4) เหมือนการพูดตัวต่อตัว

ตอบ 4 หน้า 103 เทคนิคการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงประเภทรายการการศึกษา เช่น รายการสารคดี รายการธรรมะ ฯลฯ มีดังนี้ 1. เขียนให้เหมือนการพูดแบบตัวต่อตัว 2. ใช้ภาษาที่ทำให้ เกิดภาพพจน์            3. อธิบายหรือบรรยายให้เห็นภาพ 4. เขียนให้สัมพันธ์กับประเด็นของเรื่องและเนื้อหาต้องเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและช่วงเวลาที่นำเสนอรายการ

79.       ส่วนปิดท้ายของบทวิทยุกระจายเสียง ประกอบด้วยอะไรบ้าง

(1) ชื่อรายการ และชื่อเรื่อง      (2) ชื่อสถานีวิทยุ และวันเวลาที่ออกอากาศ

(3) ชื่อผู้แสดงและผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับรายการ       (4) สรุปและประกาศขอบคุณผู้ร่วมรายการทุกคน

ตอบ 4 หน้า 102 – 103 ส่วนประกอบของบทวิทยุกระจายเสียงมี 4 ส่วน ดังนี้

1.         ส่วนหัว ได้แก่ ชื่อรายการชื่อเรื่องที่จะเนอชื่อสถานี ขนาดคลื่น ความถี่วันเวลาที่ ออกอากาศ และความยาวของรายการ

2.         ส่วนที่บอกหน้าที่ของผู้ร่วมงาน และสิ่งจำเป็นที่ใช้ในรายการ ได้แก่ ชื่อผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ รายการชื่อผู้แสดง หรือผู้ประกาศเสียงประกอบ และดนตรีหรือเพลงที่ต้องการใช้

3.         ส่วนเนื้อหาหรือส่วนที่เป็นตัวบทวิทยุกระจายเสียง เป็นส่วนที่บอกผู้เกี่ยวข้องและสิ่งที่ กำหนดให้ทำ ได้แก่ ใครพูด พูดอะไร ฯลฯ

4.         ส่วนปิดท้าย เป็นส่วนสรุปและประกาศขอบคุณผู้รวมรายการทุกคน

80.       ข้อใดคือหลักการใช้ภาษาทางวิทยุกระจายเสียง

(1)       มีข้อความที่แสดงความคิดเห็นหลากหลายในรายการเดียวกัน

(2)       ใช้ภาษาปาก  (3) เลือกใช้คำแปลก ๆ เพื่อดึงดูดใจ

(4)       ใช้ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ ผู้ฟังไม่ต้องคิดนาน

ตอบ 4 หน้า 104 – 105 หลักการใช้ภาษาพูดทางวิทยุกระจายเสียง มีดังนี้

1.         ใช้ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ พูดแล้วไม่ต้องให้คิดนาน

2.         การพูดทุกตอนต้องแสดงความหมายในแง่เดียว ไม่มีการขัดแย้งกันเอง

3.         ใช้ภาษาสุภาพ ให้เกียรติผู้ฟัง 4. ใช้น้ำเสียงเป็นกันเองกับผู้ฟัง

5.         ควรระวังและหลีกเลี่ยงการนำเรื่องส่วนตัวของผู้ดำเนินรายการ หรือญาติมิตร

มาพูดคุยในรายการ     6. ใช้ภาษาที่มีความหมายชัดเจน ฯลฯ

81.       ข้อใดเป็นข้อควรระวังในการใช้ภาษาทางวิทยุกระจายเสียง

(1) ไม่ควรใช้ภาษาปาก           

(2) ไม่ควรใช้ภาษาง่ายเกินไป

(3)       ไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวมาพูดในรายการ           

(4) ไม่ควรใช้น้ำเสียงเป็นกันเองกับผู้ฟัง 

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ

82.       ส่วนใดของบทวิทยุกระจายเสียงที่เป็นส่วนเนื้อหา

(1) ส่วนที่ 1      

(2) ส่วนที่ 2      

(3) ส่วนที่ 3      

(4) ส่วนที่ 4

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 79. ประกอบ

83.       เสียงดนตรีมีบทบาทอย่างไรในรายการโทรทัศน์

(1)       เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในรายการโทรทัศน์

(2)       เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้สอดคล้องกับคำพูด

(3)       เป็นสิ่งสำคัญรองจากภาพและคำพูด ช่วยสร้างอารมณ์ความรู้สึก

(4)       เป็นสิ่งที่เสริมเข้ามาเพื่อไม่ให้เกิดความเงียบ

ตอบ 3 หน้า 116, (คำบรรยาย) เสียงดนตรีประกอบในรายการโทรทัศน์ ถือเป็นสิ่งสำคัญ รองจากภาพและคำพูด ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญดังนี้

1.         ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาหลักของเรื่องหรือรายการ

2.         ใช้เพื่อสร้างหรือเสริมจังหวะการเคลื่อนไหวของภาพ

3.         ใช้เพื่อเน้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้แสดง

4.         ช่วยสร้างความรู้สึกแก่สถานการณ์ของเรื่องราว

5.         ใช้เป็นดนตรีประจำรายการเมื่อเริ่มและจบรายการ

84.       ส่วนประกอบใดในรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นวัจนภาษาที่ผู้ชมคุ้นหูมากที่สุด

(1) คำสนทนา  (2) คำบรรยาย (3) คำอ่าน       (4) เสียงประกอบ

ตอน1   หน้า 106 คำสนทนา (Dialogue) เป็นรูปแบบหนึ่งของวัจนภาษาซึ่งผู้ชมคุ้นหูมากที่สุดในบรรดาเสียงที่ปรากฏทางรายการโทรทัศน์ โดยมักใช้เพื่อให้ความหมายแก่ภาพใน 4 ลักษณะ คือ  1. เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียด    2. เพื่อบอกบุคลิกลักษณะของผู้แสดง  3. เพื่อดำเนินเรื่องหรือเชื่อมฉาก 2 ฉากเข้าด้วยกัน 4. เพื่อแสดงอารมณ์ให้สอดคล้องกับภาพ

85.       Fill Light หมายถึงอะไร

(1) แสงไฟหลัก            (2) แสงไฟเพิ่มความสว่าง

(3) แสงไฟที่ใช้ลบเงา  (4) แสงไฟที่ใช้ส่องฉากหลัง

ตอบ 3 หน้า 115 แสงประดิษฐ์ที่ใช้ในการผลิตรายการโทรทัศน์ จะต้องประกอบด้วยไฟมาตรฐาน อย่างน้อย 3 ดวง ได้แก่   1. แสงไฟหลัก (Key Light)

2. แสงไฟลบเงา (Fill Light)        3. แสงไฟส่องที่ฉากหลัง (Back Light)

86.       หากต้องการให้มีคำบรรยายภาพปรากฏในรายการโทรทัศน์ ต้องใช้เทคนิคใด

(1) Freeze Frame (2) Superimpose (3) Split Screen    (4) Fast Motion

ตอบ2 หน้า 106 – 107114, (คำบรรยาย) ซูเปอร์อิมโพส (Superimpose) คือ เทคนิคการใช้ตัวหนังสือ หรือภาพ ๆ หนึ่งซ้อนทับลงบนอีกภาพหนึ่ง ซึ่งมักใช้ในการทำคำบรรยายที่เป็นตัวอักษรซ้อน ลงบนภาพทื่อยู่นิ่งฺหรือเคลื่อนไหว เช่น การทำไตเติ้ลรายการ และ Sub-title เป็นต้น

87.       ภาพในลักษณะ Extreme Close up จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

(1)       เป็นภาพระยะใกล้มาก หากเป็นภาพคนจะเห็นเพียงระดับไหล่

(2)       ภาพในระยะใกล้ หากเป็นภาพคนจะเห็นใบหน้าและไหล่

(3)       ภาพระยะใกล้มาก หากเป็นภาพคนจะเห็นเฉพาะส่วนใบหน้า

(4)       ภาพระยะใกล้ หากเป็นภาพคนจะเห็นในระดับเอว

ตอบ 3 หน้า 109, (คำบรรยาย) ภาพระยะใกล้มาก (Extreme Close Up : ECU) เป็นการถ่ายภาพ ในระยะใกล้มาก เพื่อต้องการเน้นรายละเอียดเฉพาะส่วน หรือต้องการเน้นอารมณ์ความรู้สึก ของผู้แสดง เช่น การเน้นถ่ายเฉพาะดวงตาขณะผู้แสดงกำลังร้องไห้การถ่ายอวัยวะเฉพาะส่วน ของแมลง หรือหากเป็นการถ่ายภาพบุคคลก็จะเห็นเฉพาะส่วนใบหน้า เป็นต้น

88.       หากต้องการนำเสนอภาพทิวทัศน์โดยให้ผู้ชมได้ชื่นชมทิวทัศน์ในมุมกว้างโดยการหันกล้องจากซ้ายไปขวา หรือขวามาซ้าย เป็นการใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องข้อใด

(1) แพน           (2) ดอลลี่         (3) ซูม  (4) ทรัค

ตอบ 1 หน้า 112 แพน (Pan) คือ เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องในลักษณะแนวนอนจากขวามาซ้าย หรือซ้ายมาขวา เพื่อให้ผู้ชมเห็นภาพทางกว้างได้มากขึ้น

89.       ข้อใดเป็นเทคนิคการหยุดภาพไว้ให้ผู้ชมได้เห็นเป็นภาพนิ่ง

(1) Cut        (2) Wipe    (3) Freeze Frame       (4) Split Screen

ตอบ 3 หน้า 114, (คำบรรยาย) ฟรีซเฟรม (Freeze Frame) คือ เทคนิคการหยุดภาพหรือแช่ภาพไว้ ให้ผู้ชมได้เห็นภาพนั้นนิ่ง ๆ อยู่ชั่วขณะหนึ่ง ส่วนมากจะใช้ในฉากจบของละครโทรทัศน์แต่ละตอน ก่อนที่ไตเติ้ลตอนจบจะขึ้น

90ข้อใดเป็นวิธีการลำดับภาพที่รวดเร็วและง่ายที่สุด

(1) Cut        (2) Wipe    (3) Freeze Frame (4) Split Screen

ตอบ 1 หน้า 114 การคัต (Cut) คือ การตัดภาพจากกล้องหนึ่งไปยังอีกกล้องหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการ ลำดับภาพที่รวดเร็วและง่ายที่สุด

91.       ดนตรีประกอบในรายการโทรทัศน์มีหน้าที่อะไร

(1) บอกเล่าเรื่องราว    

(2) ถ่ายทอดเนื้อหา

(3) เน้นอารมณ์ของผู้แสดง      

(4) เชื่อมระหว่างฉากต่อฉาก

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 83. ประกอบ

92.       คำยอ SFX หมายถึงอะไร

(1) เสียงดนตรี 

(2) เสียงประกอบ        

(3) ผู้ประกาศ  

(4) ความเงียบ

ตอบ 2 หน้า 116, (คำบรรยาย) เสียงประกอบ (Sound Effect/SFX) ในรายการโทรทัศน์ได้แก่ เสียงที่เลียนเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงสัตว์ร้อง เลียงน้ำตก เลียงฟ้าร้อง ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ช่วยสื่อเรื่องราวให้ภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ผลิตรายการจึงควรพิถีพิถันในการบันทึกเสียงประกอบด้วย เพื่อให้ได้เสียงประกอบที่สมบูรณ์และในระดับความดังที่พอเหมาะ โดยมิให้ ดังกลบเสียงสนทนาหรือเสียงบรรยาย

93.       หากต้องการสร้างบรรยากาศที่วังเวงน่ากลัว ควรใช้แสงสีอะไร

(1) เหลือง        (2) ฟ้า  (3) ชมพู           (4) น้ำเงิน

ตอบ 4 หน้า 115- 116,(คำบรรยาย) การใช้สีเพื่อประกอบการให้แสงจะมีอิทธิพลต่อจิตใจและ ความรู้สึกนึกคิดของผู้ชม เช่น สีเหลืองจะให้บรรยากาศที่อบอุ่น เป็นแสงยามเช้า จึงมักใช้ ในรายการประเภทครอบครัว หรือรายการแม่บ้านสีน้ำเงินจะให้บรรยากาศลึกลับ วังเวง น่ากลัว จึงมักใช้ในรายการประเภทละครผี เป็นต้น

94.       หากต้องการนำเสนอภาพมุมสูง ควรใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องข้อใด

(1) แพน           (2)       ดอลลี่  (3) ทิลท์           (4) ทรัค

ตอบ3 หน้า 112 ทิลท์ (Tilt) คือ เทคนิคการเคลื่อนไหวกล้องโดยการเงยหรือก้มกล้องในลักษณะ แนวตั้ง เพื่อให้ผู้ชมเห็นภาพมุมสูงและภาพมุมต่ำได้มากขึ้น

95.       ข้อใดเป็นเทคนิคที่นำมาใช้เมื่อต้องการเสนอภาพหลาย ๆ ภาพบนหน้าจอ

(1) Cut        (2)       Wipe         (3) Freeze Frame       (4) split Screen

ตอบ 4 หน้า 114 สปลิตสกรีน (Split Screen) คือ เทคนิคการแบ่งกรอบภาพ (Frame)

ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อนำเสนอภาพหลาย ๆ ภาพลงในกรอบเดียวกัน

96.       ภาพแต่ละภาพที่ปรากฏในรายการโทรทัศน์ เรียกว่าอะไร

(1) Illustration   (2)       Shot (3) Screen (4) Frame

ตอบ 2 หน้า 108 ภาพที่ปรากฏทางจอโทรทัศน์นั้น เกิดจากภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพเรียงลำดับต่อเนื่องกัน จนกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งภาพแต่ละภาพนี้จะเรียกว่า ชอต (Shot) โดยเมื่อรานำภาพ แต่ละชอตนี้มาลำดับให้ถูกช่วงถูกตอนตามที่ควรจะเป็นก็จะได้ลำดับเรื่องราวตามต้องการ

ข้อ 97. – 99. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม .

(1) Dolly    (2) Truck   (3) Pedestal       (4) Boom

97.       ข้อใดหมายถึงเทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้องแบบปั้นจั่น

ตอบ 4 หน้า 112 บูม (Boom) คือ เทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้องแบบปั้นจัน ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการเปลี่ยนมุมกล้องให้สูงหรือต่ำ

98.       ข้อใดหมายถึงเทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้อง

ตอบ 3 หน้า 112 พีเดสตอล (Pedestal) คือ เทคนิคการเคลื่อนกล้องขึ้น-ลงบนฐานกล้อง แบบ Studio Pedestal โดยใช้คันบังคับ

99.       ข้อใดหมายถึงการเคลื่อนกล้องเข้าหาหรือถอยห่างจากวัตถุที่ถ่าย

ต-อม    1 หน้า 113 ดอลลี่ (Dolly) คือ เทคนิคการเปลี่ยนระยะของภาพโดยเคลื่อนกล้องเข้าหาวัตถุที่ถ่ายซึ่งอยู่กับที่เพื่อให้ได้ภาพโตขึ้น (Dolly in) หรือถอยห่างจากวัตถุที่ถ่ายเพื่อให้ได้ภาพเล็กลง (Dolly out)

100.    ในรายการโทรทัศน์ อวัจนภาษาข้อใดที่บ่งบอกถึงควาสงบ การฉุกคิด

(1) เสียงดนตรี (2) เสียงประกอบ        (3) แสง            (4) ความเงียบ

ตอบ 4 หน้า 116-117 ในบางครั้งรายการโทรทัศน์จะใช้ความเงียบ (Silence) ซึ่งเป็นอวัจนภาษา เพื่อสะกดอารมณ์หรือปลุกเร้าความสนใจของผู้ชมให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ปรากฏบนจอภาพ โดยมักนิยมใช้กับเรื่องราวที่ต้องการให้ผู้ชมช่วยลุ้น และเรื่องราวที่ต้องการบ่งบอกถึงความสงบ หรือการฉุกคิด

WordPress Ads
error: Content is protected !!