LIS1003 การใช้ห้องสมุด s/2560

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2560

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ)

1 ผลการวิเคราะห์ข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์รายวัน มีความหมายตรงกับข้อใด

(1) สารสนเทศ

(2) ข้อมูล

(3) ความรู้

(4) ปัญญา

ตอบ 1 หน้า 3, 5, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 3), (คําบรรยาย) ความหมายของคําว่า“ข้อมูล” และ “สารสนเทศ” มีดังนี้

1 ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจาก หนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบ ข่าวลือ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การโฆษณาสินค้าการหาเสียงของนักการเมือง การกล่าวหาหรือโจมตีคู่แข่งทางการเมือง เป็นต้น

2 สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิด ของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอดและเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เพราะสามารถ นํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้ เช่น ผลการวิเคราะห์ข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นต้น

2 The Code of Hummurabi เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติใด

(1) บาบิโลเนียน

(2) อียิปต์

(3) สุเมเรียน

(4) กรีก

ตอบ 1 หน้า 7 ชาวบาบิโลเนียนเป็นชนชาติที่มีการบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ลงบนแผ่นดินเหนียวเช่น เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้า วรรณกรรม การปกครอง ประวัติศาสตร์ ศาสนา และกฎหมาย โดยกฎหมายที่สําคัญของยุคนี้ก็คือ “ประมวลกฎหมายของพระเจ้าฮัมมูราย” (The Code of Hummurabi) เป็นกฎหมายที่มีลักษณะเข้มงวดแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน และเป็นประมวลกฎหมายฉบับแรกของโลกที่จารึกด้วยอักษรคูนิฟอร์มลงบนแผ่นหินสีดําซึ่งในปัจจุบันได้เก็บเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศส

3 หอพระมณเฑียรธรรม เกี่ยวข้องกับข้อใดมากที่สุด

(1) หอหลวง

(2) หอไตร

(3) หอระฆัง

(4} หอจดหมายเหตุ

ตอบ 2 หน้า 10 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 11) ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอพระมณเฑียรธรรมขึ้นกลางสระน้ำ ตรงมณฑปของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว ในบริเวณพระบรมมหาราชวังเมื่อ พ.ศ. 2326 ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นที่เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎก ดังนั้น จึงนับได้ว่าหอพระมณเฑียรธรรมเป็นหอไตรหรือหอพระไตรปิฎกหรือห้องสมุดวัด ซึ่งทําหน้าที่เป็นหอสมุดพุทธศาสนาของหลวงหลังแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

4 การติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับหัวใจนักปราชญ์ในข้อใด

(1) สุตตะ

(2) จินตะ

(3) ปุจฉา

(4) ลิขิต

ตอบ 1 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุ จิ ปุ ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ) คือ การรับฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือการติดตามข่าวสาร และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ หรือพิจารณากลั่นกรองข้อมูลก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การไต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึกข้อมูล

5 การตรวจสอบความถูกต้องของการสะกดคํา “กัลปาวสาน” จากหนังสือพจนานุกรม จัดเป็นการอ่านรูปแบบใด

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างวิเคราะห์

(3) การอ่านเพื่อเก็บรายละเอียด

(4) การอ่านอย่างเจาะจง

ตอบ 4 หน้า 18 การอ่านอย่างเฉพาะเจาะจง (Scanning) เป็นการอ่านเพื่อค้นหาคําตอบเฉพาะเรื่องซึ่งผู้อ่านไม่จําเป็นต้องเสียเวลาอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย แต่ให้ผู้อ่านกวาดสายตา ไปตลอดหน้ากระดาษเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ โดยการอ่านในลักษณะนี้มักจะนิยมใช้กับการค้นหา ความรู้จากหนังสืออ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น การค้นหาความหมายและการสะกดคําที่ถูกต้อง จากหนังสือพจนานุกรม, การค้นหาคําตอบจากหนังสือสารานุกรม, การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์การและสถาบันต่าง ๆ ในหนังสือนามานุกรม ฯลฯ

6 สถานที่เก็บเอกสารโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม หมายถึงข้อใด

(1) พิพิธภัณฑ์

(2) หอจดหมายเหตุ

(3) ศูนย์สารสนเทศ

(4) ห้องสมุดเฉพาะ

ตอบ 2 หน้า 36 หอจดหมายเหตุ เป็นหน่วยงานสารสนเทศที่เก็บรวบรวมรักษาเอกสารจดหมายเหตุที่สําคัญ ๆ ไว้มากที่สุด เช่น เอกสารทางราชการ จดหมายโต้ตอบ บันทึกส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งเป็น เอกสารโบราณหรือเอกสารเก่าย้อนหลังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศหรือของทาง ราชการ หน่วยงานเอกชนและบุคคล เพื่อรวบรวมเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิง ทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย วิชาการ หรือการค้นคว้าวิจัย และเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป เช่น หอจดหมายเหตุแห่งชาติ สังกัดกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ

7 หน่วยงานใดที่ทําหน้าที่ในการกําหนดเลข ISBN ให้กับหนังสือที่จัดพิมพ์ในประเทศไทย (1) หอสมุดแห่งชาติ

(2) สํานักงานสถิติแห่งชาติ

(3) หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

(4) สํานักราชบัณฑิตยสภา

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 24) หอสมุดแห่งชาติจะมีหน้าที่สําคัญประการหนึ่ง คือ เป็นศูนย์ข้อมูลและกําหนดหมายเลขสากลประจําวารสารแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ISSN) และกําหนดหมายเลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ (ISBN) สําหรับหนังสือที่จัดพิมพ์ ในประเทศไทย

8หน่วยงานใดของสํานักหอสมุดกลาง ม.ร. ที่ให้บริการจุลสาร

(1) ฝ่ายบริการวารสารและเอกสาร

(2) ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(3) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

(4) ฝ่ายบริการผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 40 – 41 ฝ่ายบริการวารสารและเอกสาร จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา พิจารณาคัดเลือกและประเมินคุณค่าวารสาร จัดทําดรรชนีและสาระสังเขปบทความจากวารสารและเอกสาร จัดทําบรรณานุกรมวารสาร รวมทั้งให้บริการวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ จุลสารสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง และเอกสารทั่ว ๆ ไป ตลอดจนจัดทํากฤตภาคไว้ให้บริการ

9 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) วิดีโอคลิปละครบุพเพสันนิวาสออกอากาศแต่ละตอน

(2) วิดีโอคลิปละครบุพเพสันนิวาสจัดเป็นระบบหมวดหมู่

(3) วิดีโอคลิปละครบุพเพสันนิวาสที่เตรียมกําลังออกอากาศ

(4) วิดีโอคลิปละครบุพเพสันนิวาสที่กําลังดําเนินการแสดง

ตอบ 2 หน้า 55, 76, 153 – 134 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด หมายถึง แหล่งสารสนเทศทุก ๆรูปแบบที่ห้องสมุดได้จัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดระบบหมวดหมู่ไว้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งตีพิมพ์บนแผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ (เช่น แถบวีดิทัศน์ วิดีโอคลิปต่าง ๆ ฯลฯ) วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูล ออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภทพร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์ หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

10 บุพเพสันนิวาส จัดเป็นสื่อตีพิมพ์ประเภทใด

(1) บันเทิงคดี

(2) สารคดี

(3) ตํารา

(4) วารสาร

ตอบ 1 หน้า 56 หนังสือบันเทิงคดี (Fiction) หมายถึง หนังสือที่เขียนขึ้นจากจินตนาการหรือประสบการณ์ของผู้แต่ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความเพลิดเพลินและข้อคิดคติชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ ได้แก่ นวนิยาย เรื่องสั้น และกวีนิพนธ์

11 ข้อใดกล่าวถึงบรรณานุกรม

(1) ส่วนที่ช่วยอธิบายข้อความบางตอนที่ปรากฏในเนื้อหา

(2) บัญชีรายชื่อหนังสือที่ปรากฏในท้ายเล่มของหนังสือ

(3) บัญชีคําหรือวลีที่ปรากฏในตอนท้ายของหนังสือ

(4) ส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือคําศัพท์เฉพาะ

ตอบ 2 หน้า 64, 129, 254, 275 บรรณานุกรม (Bibliography) เป็นบัญชีรายชื่อหนังสือ เอกสารและสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องต่าง ๆ ที่ผู้แต่งใช้เป็นหลักฐานประกอบการเขียนหนังสือเล่มนั้น โดยอาจ อยู่ท้ายบทหรือท้ายเล่มก็ได้ หรืออาจจัดทําเป็นตัวเล่มหนังสือที่รวบรวมรายชื่อและรายละเอียด ของทรัพยากรสารสนเทศ เช่น รายชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั้งที่พิมพ์ สํานักพิมพ์หรือโรงพิมพ์ และ ปีที่พิมพ์ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมและให้ความมั่นใจแก่ผู้อ่านว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้นมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ เพราะผู้เขียนได้ค้นคว้าอย่างมีหลักฐาน

12 ข้อใดเป็นส่วนประกอบสําคัญของวารสารที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

(1) รูปภาพและอักษรบนปก

(2) ภาพข่าวและรูปภาพ

(3) ความนําและอักษรบนปก

(4) พาดหัวข่าวและรูปภาพ

ตอบ 1 หน้า 65 ส่วนประกอบของวารสารมี 3 ส่วน คือ

1 ปกวารสาร (Cover) เป็นส่วนประกอบที่สําคัญ ประกอบด้วย ชื่อวารสาร ฉบับที่ ปีที่ เดือนปี และราคา แต่องค์ประกอบที่สําคัญที่สุดก็คือ รูปภาพ (เป็นภาพเขียนหรือภาพถ่ายก็ได้)และอักษรบนปก ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจวารสารแต่ละฉบับเพิ่มมากขึ้น

2 สารบาญหรือสารบัญ (Contents) จะบอกให้ทราบถึงลําดับของเนื้อเรื่องในฉบับโดยมีชื่อเรื่อง ชื่อผู้เขียน เลขหน้า และรายการต่าง ๆ เกี่ยวกับวารสาร

3 คอลัมน์ต่าง ๆ (Columns) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวารสารแต่ละประเภท

12 พลังอนาคตใหม่ได้จัดพิมพ์แผ่นพับเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจการเมือง จัดเป็นทรัพยากร สารสนเทศประเภทใด

(1) กฤตภาค

(2) จุลสาร

(3) วารสาร

(4) ต้นฉบับตัวเขียน

ตอบ 2 หน้า 66 67 จุลสาร (Pamphlets) เป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทันสมัยและอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไปในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความทาง วิชาการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ หรือความรู้ที่หน่วยงานราชการ องค์การ วัดหรือสมาคมต่าง ๆ ต้องการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ อาจพิมพ์ออกเป็นเอกสารเล่มเล็กเดี่ยว ๆ หรือพิมพ์เป็น ตอน ๆ โดยรูปเล่มทั่วไปจะไม่มีการเข้าปกเย็บเล่มถาวร มีจํานวนหน้าไม่เกิน 60 หน้า ทั้งนี้อาจจะมีลักษณะเป็นแผ่นพับหรืออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “อนุสาร” (Brochure) ก็ได้

14 วิดีโอคลิปแถลงการณ์การปรองดองของเกาหลีเหนือ ใต้ จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) โสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) อิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง เทป แถบบันทึกเสียงซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่งแผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ไมโครฟิล์มเหมือนกับไมโครฟิชในลักษณะใด

(1) เป็นวัสดุย่อส่วนที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์

(2) เป็นวัสดุย่อส่วนที่มีขนาดเท่ากับบัตรรายการ

(3) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของบัตรทึบแสง

(4) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของฟิล์มโปร่งแสง

ตอบ 4 หน้า 54, 73 – 74, 77 – 78 วัสดุย่อส่วน (Micrographic or Microforms) หมายถึง วัสดุที่บันทึกสารสนเทศจากสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ วิทยานิพนธ์ จดหมายโต้ตอบ หนังสือหายาก ต้นฉบับตัวเขียน เอกสารที่มีคุณค่าต่าง ๆ โดยวิธีการถ่ายย่อส่วนลงบนแผ่นฟิล์ม ขนาดเล็กเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บและป้องกันการฉีกขาดทําลาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

1 ฟิล์มโปร่งแสง ได้แก่ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิซ และบัตรอเพอเจอร์

2 บัตรทึบแสง ได้แก่ ไมโครการ์ด และไมโครพริ้นท์

16 Floppy Disk มีความหมายตรงกับข้อใด

(1) จานแม่เหล็ก นิดอ่อน

(2) จานแสง

(3) ซีดีรอม

(4) วีดิทัศน์ดิจิตอล

ตอบ 1 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือ แสงเลเซอร์ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กแบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป 2 จานแสง (Optical Disk) เช่น VCD, DVD, CD-ROM บันทึกฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการบันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวก

ในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 ข้อใดกล่าวถึงหนังสืออ้างอิงไม่ถูกต้อง

(1) หนังสืออ้างอิงมีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระบบ โดยจําแนกตามหมวดหมู่หรือจัดเรียงตามลําดับอักษร

(2) เนื้อหาสาระเหมาะสําหรับบุคคลเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะสาขาวิชาเท่านั้น

(3) หนังสืออ้างอิงใช้สําหรับการค้นหาคําตอบของปัญหาที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว (4) หนังสืออ้างอิงนําเสนอข้อเท็จจริงอย่างสั้น ๆ กะทัดรัด จบภายในเล่ม

ตอบ 2 หน้า 83 หนังสืออ้างอิงมีลักษณะดังนี้

1 เรียบเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระบบ เช่น จัดเรียงตามลําดับอักษร จัดเรียงตามหมวดหมู่ของสาขาวิชา ฯลฯ เพื่อช่วยค้นหาคําตอบของปัญหาที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

2 มุ่งให้ผู้อ่านทั่วไปได้รับความรู้และข้อเท็จจริงที่ต้องการอย่างรวดเร็ว จึงมีวิธีการนําเสนอข้อเท็จจริงอย่างสั้น ๆ กะทัดรัด และจบภายในเล่ม

3 เป็นหนังสือที่มีขอบเขตความรู้กว้างขวางในทุกแขนงวิชา ฯลฯ

18 ต้องการค้นหาประวัติของคําว่า “ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data” ควรใช้หนังสืออ้างอิงข้อใด

(1) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

(2) สารานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

(3) พจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์

(4) พจนานุกรมรวมกฎหมายไทย

ตอบ 3 หน้า 89 – 90 พจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์ฉบับปรับปรุงใหม่ จะให้ทั้งคําศัพท์เก่าและคําศัพท์ที่เกิดขึ้นใหม่ทางคอมพิวเตอร์เป็นจํานวนมาก พร้อมกับคําแปลเป็นภาษาไทยและ คําอธิบายความหมาย ประกอบ มีการให้คําเต็ม คําย่อ คําเหมือน คําตรงข้าม ประวัติของคําและภาพประกอบมากมาย โดยจัดเรียงคําศัพท์ตามลําดับอักษร

19 ต้องการข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ “กุมารทอง” ควรใช้หนังสืออ้างอิงข้อใด

(1) สมพัตสร

(2) คู่มือชาวพุทธ

(3) ดรรชนีและสาระสังเขป

(4) สารานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

ตอบ 4 หน้า 92 สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน ถือเป็นสารานุกรมฉบับแรกของประเทศไทยเขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้น ๆ และมีเนื้อหาครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ 18 เรื่อง ได้แก่ บุคคลสําคัญ เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ความเคลื่อนไหวของโลก ประเทศ และภูมิภาค ปรัชญา ศาสนา ลัทธินิกายต่าง ๆ ฯลฯ โดยมีการจัดเรียบเรียงบทความตามลําดับตัวอักษร ซึ่งตอนท้ายของแต่ละบทความจะมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับไว้ และมีดรรชนีค้นเรื่องอยู่ใน ตอนท้ายเล่ม

20 ต้องการรวบรวมชีวประวัติและผลงานของวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของประเทศรัสเซียควรใช้หนังสืออ้างอิงข้อใด

(1) Who’s Who in the World

(2) A Biographical Dictionary of Railway Engineers

(3) A Biographical Dictionary of Scientists

(4) The Biographical Encyclopedia of American Women

ตอบ 1 หน้า 97 – 99 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญโดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิด หรือตาย (ในกรณีที่บุคคล เจ้าของชีวประวัติสิ้นชีวิตไปแล้ว) ที่อยู่ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่า ผู้ที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นได้ทําคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง เช่น Who’s Who in the World จะให้ชีวประวัติบุคคลสําคัญที่ยังมีชีวิตอยู่ในทุกวงการอาชีพประมาณ 25,000 รายชื่อ จาก 150 ประเทศ เป็นต้น

21 ต้องการค้นหา “รายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นหน่วยงานในการฝึกอบรมหลักสูตรหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟในกรุงเทพมหานคร” ควรใช้หนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) สมพัตสร

(2) สารานุกรม

(3) นามานุกรม

(4) สิ่งพิมพ์รัฐบาล

ตอบ 3 หน้า 102 – 103, 105 นามานุกรม (Directory) คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคลองค์การ หรือหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับสถานที่อยู่หรือที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์สําหรับการติดต่อ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

1 นามานุกรมท้องถิ่น เช่น สมุดโทรศัพท์

2 นามานุกรมของรัฐ เช่น นามสงเคราะห์ส่วนราชการไทย

3 นามานุกรมสถาบัน เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้องสมุด ฯลฯ

4 นามานุกรมสาขาอาชีพ เช่น ทําเนียบกระทรวงยุติธรรม พุทธศักราช 2530

5 นามานุกรมการค้าและธุรกิจ เช่น รวมโรงงานอุตสาหกรรม

22 ต้องการค้นหาสถิติการส่งออกทุเรียนของไทยระหว่างปี พ.ศ. 2558 – 2560 ควรใช้หนังสืออ้างอิง ประเภทใด

(1) สมพัตสร

(2) ดรรชนีและสาระสังเขป

(3) คู่มือ

(4) หนังสือรายปี

ตอบ 4 หน้า 109 110 หนังสือรายปี (Yearbooks) เป็นหนังสือที่พิมพ์ออกเป็นรายปี โดยจะให้ข่าวสาร ข้อมูล เหตุการณ์ กิจกรรมความเคลื่อนไหว แนวโน้ม และความก้าวหน้าทางด้าน การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ภายในรอบปีหนึ่ง ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งจะเสนอในรูปของการพรรณนาความอย่างสัน ๆ โดยมีตัวเลข สถิติประกอบด้วย เช่น สมุดสถิติรายปีประเทศไทย จะรวบรวมสถิติตัวเลขทางด้านต่าง ๆ อาทิการศึกษา ประชากร เศรษฐกิจ การค้าขาย การส่งออก เป็นต้น

23 ต้องการทราบประวัติและที่ตั้งของ “เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124” ควรใช้หนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) สารานุกรมวัฒนธรรมไทย

(2) อักขรานุกรมชีวประวัติ

(3) ราชกิจจานุเบกษา

(4) อักขรานุกรมภูมิศาสตร์

ตอบ 4 หน้า 115 อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลอย่างสังเขปเกี่ยวกับชื่อของสถานที่สําคัญทางภูมิศาสตร์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพจนานุกรมที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับชื่อและสถานที่ทางภูมิศาสตร์อย่างสั้น ๆ ให้คําอ่านและรายละเอียดอื่น ๆ ได้อย่างกระชับและน่าเชื่อถือที่สุด เช่น สถานที่ตั้ง ระยะทาง เส้นรุ้ง เส้นแวง ความตื้นลึกของทะเล ความสูงของภูเขา จํานวนผลผลิตทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จํานวนประชากร ตราประจําจังหวัด เป็นต้น

24 ต้องการรวบรวม “เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้” ควรใช้หนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) ดรรชนีท้ายเล่ม

(2) ดรรชนีวารสาร

(3) ดรรชนีหนังสือพิมพ์

(4) ดรรชนีที่ห้องสมุดจัดทําขึ้นเอง

ตอบ 3 หน้า 120 ดรรชนีหนังสือพิมพ์ เป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้อ่านค้นหารายชื่อบทความ ข่าวหรือเหตุการณ์สําคัญ ๆ ที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ประกอบด้วย ชื่อผู้เขียนบทความ ชื่อบทความ หรือข่าว ชื่อหนังสือพิมพ์ วันเดือนปี และเลขหน้าที่มีบทความหรือข่าวนั้น ๆ โดยจัดเรียงแต่ละรายการตามลําดับอักษรภายใต้ชื่อผู้เขียนบทความและภายใต้หัวเรื่อง

25 ต้องการค้นรายชื่อวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ “การบริการสารสนเทศสําหรับผู้สูงวัย”ควรใช้หนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) หนังสือคู่มือ

(2) บรรณานุกรม

(3) ดรรชนีวารสาร

(4) สาระสังเขป

ตอบ 4 หน้า 84, 119 – 120, 127 สาระสังเขป เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แนะแหล่งสารสนเทศ โดยมีลักษณะเป็นการสรุปหรือย่อสาระสําคัญของเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวสําคัญ ๆ ของบทความใน วารสาร หนังสือ และเอกสารประเภทอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบถึงเนื้อหาสาระสําคัญ ก่อนที่จะไปอ่านจากต้นฉบับจริงที่สมบูรณ์ เช่น รวมบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, Dissertation Abstracts International จะรวบรวมรายชื่อวิทยานิพนธ์และบทคัดย่อในระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา ฯลฯ

26 การจัดหมวดหมู่หนังสือ มีวิธีการดําเนินการอย่างไร

(1) กําหนดรหัสประจําหนังสือ โดยพิจารณาจากชื่อเรื่องของหนังสือ

(2) กําหนดเลขประจําหนังสือ โดยพิจารณาจากชื่อผู้แต่ง

(3) กําหนดสัญลักษณ์ให้กับหนังสือ โดยพิจารณาจากเนื้อหาของหนังสือ

(4) กําหนดสัญลักษณ์ให้กับหนังสือ โดยพิจารณาจากสํานักพิมพ์

ตอบ 3 หน้า 150, 157, 191 การจัดหมู่หนังสือ หมายถึง การจัดหนังสือให้เป็นระบบโดยพิจารณาจากเนื้อหาสาระของหนังสือเป็นสําคัญ และมีการกําหนดสัญลักษณ์ให้กับหนังสือ ซึ่งเรียกว่า “เลขเรียกหนังสือ” (Call Number) เพื่อแสดงกลุ่มเนื้อหาของหนังสือในแต่ละประเภท และ ใช้เป็นเครื่องหมายระบุตําแหน่งของหนังสือทุกเล่มในห้องสมุด ซึ่งหนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกัน และ/หรือประพันธ์วิธีเดียวกันจะมีสัญลักษณ์เหมือนกันและวางอยู่ในที่เดียวกัน ส่วนหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันจะมีสัญลักษณ์ใกล้เคียงกันและวางอยู่ในตําแหน่งที่ไม่ไกลกัน

27 ห้องสมุดในข้อใดที่นิยมใช้ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(1) หอสมุดโรงพยาบาลศิริราช

(2) สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง

(3) ห้องสมุด “เฉลิมราชกุมารี”

(4) ศูนย์ข้อมูลพลังงานปรมาณูเพื่อสันติภาพ

ตอบ 3 หน้า 151, 153, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 23) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification : DDC หรือ DC) ถือเป็นระบบที่นิยมใช้กันแพร่หลาย ในห้องสมุดขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มีหนังสือทั่ว ๆ ไปหลายสาขาวิชาในจํานวนที่ไม่มากนัก ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน (เช่น ห้องสมุด “เฉลิมราชกุมารี” ฯลฯ) ห้องสมุดโรงเรียน เป็นต้น ซึ่งการจัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้จะเป็นแบบเชิงกว้าง โดยแบ่งสรรพวิทยาการในโลกออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และจะใช้สัญลักษณ์แสดงเนื้อหาของหนังสือเป็นตัวเลขอารบิก 3 หลัก ตั้งแต่ 100 – 000 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชี้เฉพาะยิ่งขึ้น

28 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือที่เหมาะสําหรับห้องสมุดที่มีจํานวนหนังสือปริมาณมาก

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 1 หน้า 153 – 155, (คําบรรยาย) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification : LCC หรือ LC) เป็นระบบในเชิงปฏิบัติที่ยึดแนววิวัฒนาการ ของมนุษย์เป็นหลัก ท่าให้มีความยืดหยุ่นมากที่สุด สามารถรองรับสรรพวิทยาการใหม่ ๆ และ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างดี ดังนั้นจึงเป็นระบบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีหนังสือเฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือมีหนังสือทั่วไปทุกประเภท เป็นจํานวนมาก เช่น ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ฯลฯ โดยแบ่งเนื้อหาของหนังสือ ออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์ในการจัดหมู่หรือเลขหมู่หนังสือเป็นแบบผสม คือ ใช้ตัวอักษรโรมันตั้งแต่ A – Z (ยกเว้น 1, 0, W, X, Y) เพื่อแสดงเนื้อหาในหมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1 – 9999 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งแบ่งย่อยเรื่องอีกที่หนึ่ง

29 ห้องสมุดโรงพยาบาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้ระบบใดในการจัดหมวดหมู่หนังสือในข้อใด

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 2 หน้า 155 – 156, (คําบรรยาย) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Library Medicine : NLAM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่มักใช้กับ ห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยใช้อักษรโรมัน Q กับ W และเลขอารบิก เป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่แตกต่างในด้าน การจําแนกสรรพวิทยาการออกเป็น 2 หมวดใหญ่ คือ หมวด Q วิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน และหมวด W วิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นระบบนี้จึงนิยมใช้กับห้องสมุด ของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ, ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

30 สัญลักษณ์ที่แสดงเนื้อหาของหนังสือแต่ละประเภทและระบุตําแหน่งของหนังสือ หมายถึงข้อใด

(1) เลขทะเบียนหนังสือ

(2) เลขเรียกหนังสือ

(3) เลขหมู่หนังสือ

(4) เลขประจําหนังสือสากล

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ

31 ข้อใดกล่าวถึงการจัดเรียงหนังสือบนชั้นได้ถูกต้องที่สุด

(1) จัดเรียงตามเลขประจําหนังสือ จากเลขจํานวนน้อยไปหาเลขจํานวนมาก

(2) จัดเรียงตามลําดับอักษรของชื่อเรื่องของหนังสือแบบพจนานุกรม

(3) จัดเรียงตามเลขเรียกหนังสือ จากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก (

4) จัดเรียงตามลําดับหมวดหมู่ของหมวดหมู่ย่อยและหมวดหมูใหญ่

ตอบ 3 หน้า 159 – 160 การจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอี้จะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับไปตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหม่น้อยไปหาเลขหมู่มากแต่ถ้าเลขหมู่ซ้ำกันก็ให้พิจารณาเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ

32 ทรัพยากรสารสนเทศข้อใดที่ห้องสมุดนิยมจัดเก็บไว้ในรูปของวัสดุย่อส่วน

(1) วารสารฉบับย้อนหลัง

(2) หนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง

(3) สิ่งพิมพ์รัฐบาล

(4) วารสารเย็บเล่ม

ตอบ 2 หน้า 169 ห้องสมุดโดยทั่วไปจะเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังไว้ระยะเวลาหนึ่งประมาณ 1 – 2 ปี แล้วคัดทิ้งไป แต่ห้องสมุดบางแห่งนิยมคัดเลือกและจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง ที่สําคัญ ๆ ด้วยการถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนแล้วเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม เพื่อรักษาสภาพและ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ทําการจัดเก็บ หนังสือพิมพ์ 10 ฉบับ ไว้ในรูปไมโครฟิล์ม ได้แก่ สยามรัฐ มติชน ไทยรัฐ ประชาชาติ เดลินิวส์ ข่าวพาณิชย์ มติชนรายสัปดาห์ สยามรัฐรายสัปดาห์ Bangkok Post และ The Nation

33 ทรัพยากรสารสนเทศประเภทใดมีวิธีการจัดเก็บโดยการกําหนดหัวเรื่อง

(1) จุลสาร

(2) หนังสือพิมพ์

(3) วารสาร

(4) ของตัวอย่าง

ตอบ 1 หน้า 163, 170 171 วิธีการจัดเก็บจุลสารและกฤตภาคของห้องสมุดจะใช้วิธีเดียวกันซึ่งนิยมจัดเก็บแยกออกจากวัสดุสารสนเทศอื่น ๆ คือ จัดเก็บโดยกําหนดหัวเรื่องกํากับไว้ที่ มุมบนของปก แล้วนําจุลสารและกฤตภาคที่มีหัวเรื่องเดียวกันเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม ปิดป้าย ชื่อหัวเรื่องที่แฟ้ม และนําแฟ้มไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บเอกสารเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องโดยที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่าแต่ละลิ้นชักมีแฟ้มเริ่มจากอักษรตัวใดถึงตัวใด

34 สัญลักษณ์ MD ใช้สําหรับการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศประเภทใด

(1) หุ่นจําลอง

(2) ภาพโปร่งใส

(3) เทปบันทึกเสียง

(4) ของจริง

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 204) หุ่นจําลอง (Model) จัดเป็นวัสดุ 3 มิติที่ใช้แทนของจริง ซึ่งห้องสมุดจะใช้วิธีการจัดเก็บโดยการกําหนดสัญลักษณ์ให้ คือ MD (Model) ตามด้วยเลขทะเบียนหรือเลขหมู่ ติดป้ายชื่อเรื่อง ชนิดของวัสดุ ขนาด แนวตั้ง แนวนอน ส่วนลึก แล้วจัดเก็บตามลําดับเลขทะเบียน

35 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดที่เอื้อต่อการใช้

(1) มีป้ายติดกล่องม้วน จัดเก็บในลิ้นชักตู้เหล็กตามลําดับเลขทะเบียน

(2) มีป้ายติดกล่องม้วน จัดเก็บในลิ้นชักใกล้เครื่องอ่าน

(3) จัดเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกตามลําดับหัวเรื่อง

(4) จัดเก็บไว้ในกล่องหรือตลับตามลําดับขนาด

ตอบ 1 หน้า 177, 180, 351 วิธีจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้

1 จัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์ โดยห้องสมุดจะจัดเก็บไมโครฟิล์มทั้งที่เป็นชนิดม้วนและตลับด้วยการจัดทําป้าย ซึ่งประกอบด้วย เลขทะเบียน ชื่อเรื่อง ความยาว ความกว้าง ประเภท ของฟิล์ม และสัญลักษณ์ที่กําหนดเป็นเลขหมู่ติดไว้บนกล่องม้วนและตลับ แล้วจึงจัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2 จัดแยกไว้ในตู้ โดยห้องสมุดบางแห่งอาจนํากล่องหรือตลับไมโครฟิล์มที่ปิดป้ายมาแยกเป็นหมวดหมู่ แล้วเรียงตามลําดับเลขทะเบียนไว้ในลิ้นชักตู้เหล็ก หรือเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบบชั้นเก็บหนังสือ

36 ห้องสมุดนิยมจัดเก็บวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ด้วยวิธีใด จึงจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว

(1) จัดเก็บด้วยวิธีกําหนดเลขหมู่ และหัวเรื่อง

(2) จัดเก็บขึ้นชั้นตามเลขหมู่รวมไปกับหนังสือ

(3) จัดเก็บในระบบชั้นปิด

(4) จัดเก็บด้วยการใช้ระบบจัดหมู่ และการกําหนดสัญลักษณ์

ตอบ 3 หน้า 163, 178 ห้องสมุดส่วนใหญ่นิยมจัดเก็บวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน ซีดีรอมหรือซีดี วีซีดีและดีวีดี ในระบบชั้นปิด โดยแยกไว้ต่างหากจากทรัพยากรสารสนเทศอื่น ๆ และจะมีเจ้าหน้าที่คอยหยิบให้เมื่อมีผู้ใช้มาขอรับบริการ

37 ข้อใดกล่าวถึงบัตรรายการได้ถูกต้อง

(1) การรวบรวมรายการผู้จําหน่ายหนังสือ

(2) การรวบรวมรายการทะเบียนวารสารในห้องสมุด

(3) เครื่องมือที่บอกตําแหน่งของหนังสือในห้องสมุด

(4) เครื่องมือรวบรวมรายการทะเบียนทรัพยากรสารสนเทศ

ตอบ 3 หน้า 187, 189 บัตรรายการ หมายถึง เครื่องมือที่บอกให้ทราบถึงตําแหน่งของหนังสือในห้องสมุด ซึ่งประโยชน์ของบัตรรายการมีดังนี้

1 ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบรายชื่อหนังสือและทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดว่ามีอะไรบ้างใครเป็นผู้แต่ง และอยู่ที่ใดในห้องสมุด

2 ให้รายละเอียดทางบรรณานุกรมของหนังสือแต่ละเล่มได้

3 ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาหนังสือที่ต้องการได้แม้ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง หรือชื่อเรื่อง

4 ให้ความสะดวกต่อผู้ใช้ที่เตรียมเขียนรายงาน หรือรวบรวมรายชื่อหนังสือในหัวข้อที่ต้องการ

5 บอกให้ทราบว่าห้องสมุดมีหนังสือในหมวดวิชาใดมากน้อยเพียงใด

38 ข้อใดคือประโยชน์ของบัตรรายการ

(1) เพื่อให้ผู้ใช้ทราบชื่อร้านขายหนังสือ

(2) เพื่อให้บรรณารักษ์ทราบงบประมาณที่จัดซื้อหนังสือ

(3) เพื่อให้ผู้ใช้ทราบรายละเอียดบรรณานุกรมของหนังสือ

(4) เพื่อให้ผู้ใช้ทราบสถิติการยืมหนังสือแต่ละเล่ม

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 37 ประกอบ

39 ข้อมูล “xiv, 146 p. ; 23 cm.” ปรากฏในส่วนใดของบัตรรายการ

(1) ลักษณะวัสดุ

(2) หมายเหตุ

(3) การพิมพ์และการจัดจําหน่าย

(4) เลขเรียกหนังสือ

ตอบ 1 หน้า 191, 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 220) ลักษณะวัสดุ หรือลักษณะรูปร่าง(Physical Description) เป็นรายการหนังสือของห้องสมุดที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะ รูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ได้แก่ จํานวนหน้า (ความหนาของหนังสือ) หรือ จํานวนเล่ม ภาพประกอบ (สีของภาพประกอบ) และส่วนสูงของหนังสือ ซึ่งตัวอย่างลักษณะ วัสดุของหนังสือภาษาไทย เช่น 315 หน้า : ภาพประกอบ ; 19 ซม. ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษ เช่น xiv, 146 p. ; 23 cm.

40 ส่วนใดของบัตรรายการที่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าหนังสือเล่มนั้นมีภาคผนวก

(1) ชื่อชุด

(2) สํานักพิมพ์

(3) หมายเหตุ

(4) การแจ้งความรับผิดชอบ

ตอบ 3 หน้า 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 221) หมายเหตุ (Notes) เป็นส่วนประกอบของบัตรรายการที่ให้ข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือนอกเหนือจากที่บอกไว้ในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบเพิ่มเติมว่าหนังสือเล่มนั้นมีบรรณานุกรม มีดรรชนี มีอภิธานศัพท์ หรือมีภาคผนวกอยู่ท้ายเล่ม ฯลฯ เช่น บรรณานุกรม : หน้า 300 – 320

41 ข้อความในบัตรโยง “หนังสือเรียน ดูที่ ตํารา” มีความหมายอย่างใด

(1) สามารถใช้คําว่า “หนังสือเรียน” เป็นหัวเรื่องได้

(2) สามารถใช้คําว่า “หนังสือเรียน” และ “ตํารา” เป็นหัวเรื่องได้

(3) ไม่สามารถใช้ “หนังสือเรียน” เป็นหัวเรื่อง

(4) ไม่สามารถใช้ทั้งคําว่า “หนังสือเรียน” และ “ตํารา” เป็นหัวเรื่องได้

ตอบ 3 หน้า 199 200 บัตรโยง (Cross References Card) คือ บัตรที่จัดทําขึ้นเพื่อใช้โยงชื่อหรือข้อความ มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

1 บัตรโยง “ดูที่” (see) คือ บัตรโยงหัวเรื่องที่ไม่ได้ใช้ไปยังหัวเรื่องที่ใช้ เช่น “หนังสือเรียนดูที่ ตํารา หมายถึง หนังสือเรียน (ไม่ใช้เป็นหัวเรื่อง) แต่ให้ไปดที่หัวเรื่อง “ตํารา” แทน

2 บัตรโยง “ดูเพิ่มเติมที่” (see also) คือ บัตรโยงที่ใช้โยงหัวเรื่องกว้างกว่าให้ไปดูหัวเรื่องที่แคบกว่าหรือหัวเรื่องเฉพาะวิชาการที่เกี่ยวข้องกัน

42 ข้อใดเรียงชื่อผู้แต่งได้ถูกต้อง

(1) สมบัติ/สมพร/สมัคร/สุพัฒน์

(2) สุพัฒน์/สมพร/สมบัติ/สมัคร

(3) สมพร/สมบัติ/สุพัฒน์ สมัคร

(4) สมบัติ/สุพัฒน์/สมพร/สมัคร

ตอบ 1 หน้า 207 – 210 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาไทย มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร ก – ฮ โดยไม่คํานึงถึงเสียงอ่าน

2 คําที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวเดียวกัน ให้เรียงคําที่มีตัวสะกดไว้ก่อนคําที่มีรูปสระ และเรียงลําดับรูปสระตามแบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

3 ตัว ฤ เรียงไว้หลังตัว ร ส่วนตัว ฦ เรียงไว้หลังตัว ล

4 ผู้แต่งคนเดียวกันแต่งหนังสือหลายเล่ม ให้เรียงตามลําดับอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง ฯลฯ(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ สมบัติ/สมพร/สมัคร/สุพัฒน์)

43 รายการในข้อใดเป็นผู้แต่งที่เป็นนิติบุคคล

(1) รอมแพง

(2) แก้วเก้า

(3) น.ณ ปากน้ำ

(4) กรมวิชาการ

ตอบ 4 หน้า 191 192 ชื่อผู้แต่ง (Author) หรือรายการหลัก (Main Entry) เป็นชื่อผู้ที่เขียนหนังสือเล่มนั้น ถ้าหากเป็นคนไทยให้ลงชื่อตัวก่อนแล้วตามด้วยชื่อสกุล เช่น ประเวศ วะสี แต่ถ้าเป็นชาวต่างประเทศให้ลงชื่อสกุลก่อน และใส่เครื่องหมายจุลภาค ( , ) แล้วตามด้วย ชื่อตัวและขอกลาง (ถ้ามี) เช่น Hunter, David E. นอกจากนี้ผู้แต่งอาจเป็นนิติบุคคล ได้แก่ สถาบัน หน่วยงาน สมาคม เช่น กรมวิชาการ กรมสามัญศึกษา ฯลฯ

44 ข้อใดคือความหมายของหัวเรื่อง

(1) บทคัดย่อของหนังสือ

(2) การสรุปเนื้อหาสําคัญของหนังสือ

(3) คําหรือวลีที่กําหนดใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ

(4) คําต่าง ๆ ที่ปรากฏในหน้าสารบัญของหนังสือ

ตอบ 3 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 251) หัวเรื่อง หมายถึง คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือและสื่ออื่น ๆ โดยบรรณารักษ์ไม่ได้เป็นผู้เลือกขึ้นเอง แต่จะเลือกจากคําหรือวลีที่เป็นศัพท์ควบคุม เพื่อค้นหาหนังสือในห้องสมุดจากบัญชีหัวเรื่อง มาตรฐานที่นิยมใช้ในการจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด ได้แก่

1 Library of Congress Subject Headings (LCSH) จัดทําขึ้นโดยห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันเพื่อใช้เป็นบัญชีหัวเรื่องหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดใหญ่ 2 Sear’s List of Subject Headings (Sear’s List) เป็นบัญชีหัวเรื่องสําหรับหนังสือทั่วไปที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดเล็ก โดยจะใช้คู่กับการจัดหมู่หนังสือในระบบทศนิยมดิวอี้

45 ต้องการหาสารสนเทศเกี่ยวกับการจัดการปกครองของไทยสมัยอยุธยา ควรใช้หัวเรื่องในข้อใด

(1) ไทย–ชีวประวัติ

(2) ไทย–ความเป็นอยู่ประเพณี–กรุงศรีอยุธยา

(3) ไทย–ประวัติศาสตร์–กรุงศรีอยุธยา

(4) ไทย–การเมืองและการปกครอง–กรุงศรีอยุธยา

ตอบ 4 หน้า 224 225 หัวเรื่องย่อย เป็นคําหรือวลีที่ใช้เป็นหัวเรื่องย่อยเพื่อขยายหัวเรื่องใหญ่ให้เห็นชัดเจนหรือจําเพาะเจาะจงขึ้น โดยหัวเรื่องย่อยจะมีขีดสั้น 2 ขีด (–) อยู่ข้างหน้าคํา เพื่อคั่นระหว่างหัวเรื่องใหญ่และหัวเรื่องย่อย แบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้

1 แบ่งตามวิธีเขียน เช่น ภาษาไทย — แบบฝึกหัด, หนังสือหายาก–บรรณานุกรม ฯลฯ

2 บอกลําดับเหตุการณ์ ซึ่งจะแบ่งตามปีคริสต์ศักราช ยุคสมัย หรือชื่อพระเจ้าแผ่นดิน เช่น ไทย–การเมืองและการปกครอง–กรุงศรีอยุธยา ฯลฯ

3 แบ่งตามขอบเขตเฉพาะของเนื้อหา เช่น English Language- Grammar ฯลฯ

4 แบ่งตามสภาพภูมิศาสตร์ เช่น พุทธศาสนา–ไทย– เชียงใหม่, เรือ–ไทย ฯลฯ

46 “ห้องสมุดกับการศึกษา” จัดเป็นหัวเรื่องประเภทใด

(1) คํานามคําเดียวโดด ๆ

(2) กลุ่มคํา

(3) คําผสม

(4) คําคู่

ตอบ 3 หน้า 223 – 224, 228 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

1 คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

  1. คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and”, “กับ”, “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปในทางเดียวกัน เช่น ห้องสมุดกับการศึกษา Libraries and readers ฯลฯ และที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and evil ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ( , ) คันกลางและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายชัดขึ้น เช่น Art, abstract ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

47 อักษรย่อ “NT” ในบัญชีหัวเรื่อง มีความหมายอย่างไร

(1) คําสัมพันธ์ที่กว้างกว่า

(2) คําสัมพันธ์ที่แคบกว่า

(3) คําที่ไม่ใช้เป็นหัวเรื่อง

(4) คําที่เพิ่มเข้ามาใหม่

ตอบ 2 หน้า 225 – 227, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 256) บัญชีหัวเรื่องมาตรฐาน LCSH ฉบับปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้สัญลักษณ์บางตัวเพื่อกําหนดความสัมพันธ์ของคําที่ใช้เป็น หัวเรื่อง ดังนี้

1 BT (Broader Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายกว้างกว่า

2 NT (Narrower Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายแคบกว่า

3 RT (Related Term) คือ หัวเรื่องที่สัมพันธ์กับคําหลักหรือใช้แทนกันได้

4 UF (Use For) คือ หัวเรื่องที่ไม่กําหนดให้ใช้แล้ว

5 USE คือ หัวเรื่องที่กําหนดให้ใช้

6 — คือ หัวเรื่องย่อย

48 ข้อใดไม่ใช่ความหมายของรายงาน

(1) วิเคราะห์แยกแยะความรู้

(2) รวบรวมความรู้และเรียบเรียงใหม่อย่างมีแบบแผน

(3) ทําให้เกิดแนวคิดใหม่ ความรู้ใหม่

(4) ปะติดปะต่อข้อมูลอย่างรวดเร็ว

ตอบ 4 หน้า 236 การทํารายงาน หมายถึง การศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ อาจมีการวิเคราะห์แยกแยะความรู้ข้อมูลที่รวบรวมมา หรือเป็นเพียงการนําความรู้ที่ได้มารวบรวม และเรียบเรียงใหม่อยางมีแบบแผน จนเกิดเป็นแนวคิดใหม่ ความรู้ใหม่ และผลงานใหม่ ซึ่งมี วัตถุประสงค์เพื่อสรุปและรายงานการค้นคว้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ทั้งนี้จะต้องระบุแหล่งที่มาของความรู้และข้อมูลด้วย

49 ข้อใดคือขั้นตอนแรกของการทํารายงาน

(1) การวางโครงเรื่อง

(2) การสํารวจข้อมูล

(3) การกําหนดเรื่อง

(4) การบันทึกข้อมูล

ตอบ 3 หน้า 238 – 263 ขั้นตอนของการทํารายงานหรือภาคนิพนธ์มี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1 การกําหนดชื่อเรื่องหรือเลือกหัวข้อที่จะทํารายงาน

2 การสํารวจข้อมูล

3 การรวบรวมบรรณานุกรม ซึ่งจะมีประโยชน์ในการเขียนรายงานฉบับร่าง

4 การบันทึกข้อมูล หรือทําบัตรบันทึกข้อมูล

5 การวางโครงเรื่อง

6 การเรียบเรียงเนื้อหารายงานฉบับร่าง

50 ข้อใดคือข้อมูลปฐมภูมิที่ใช้ในการทํารายงาน

(1) ตําราวิชา LIS 1001

(2) หนังสือกฎหมาย

(3) นิยายของรอมแพง

(4) การสัมภาษณ์บุคคล

ตอบ 4 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาท ต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวประวัติ บทสัมภาษณ์แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสารข่าวในหนังสือพิมพ์ ดรรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

51 ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการรวบรวมบรรณานุกรมในการทํารายงาน

(1) รวบรวมรายการหนังสือจากห้องสมุด

(2) เพื่อแสดงความสามารถของผู้ทํารายงาน

(3) รวบรวมรายชื่อวัสดุสารสนเทศที่ใช้ทํารายงาน

(4) เพื่อจัดเรียงหนังสือในห้องสมุดได้ถูกต้อง

ตอบ 3 หน้า 247 การรวบรวมบรรณานุกรม คือ การรวบรวมรายชื่อของวัสดุสารสนเทศที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทํารายงาน ซึ่งรายชื่อวัสดุสารสนเทศเหล่านี้ เมื่อจัดเรียบเรียงไปตามลําดับอักษรจะเรียกว่า บรรณานุกรม

52 การบันทึกข้อมูลเฉพาะสิ่งสําคัญ ๆ คือการบันทึกแบบใด

(1) แบบลอกความ

(2) แบบถอดความ

(3) แบบสรุปความ

(4) แบบรวมความ

ตอบ 3 หน้า 257, 261, (คําบรรยาย) การบันทึกข้อมูลแบบสรุปความหรือย่อความ เป็นการสรุปใจความสําคัญหรือบันทึกข้อมูลเฉพาะสิ่งที่สําคัญจริง ๆ ลงบนบัตร โดยใช้คําพูดของตนเอง และงดเว้นการอธิบาย การยกตัวอย่าง ซึ่งจํานวนคําในบัตรควรเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของข้อมูลเดิม เช่น บทสารคดีท่องเที่ยว บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ การย่อข่าวจากสื่อมวลชนต่าง ๆ

53 รายการหรือหัวข้อสําคัญ ๆ ของรายงาน อยู่ส่วนใดของรายงาน

(1) ปกนอก

(2) คํานํา

(3) สารบัญ

(4) หน้าปกใน

ตอบ 3 หน้า 274 หน้าสารบัญหรือสารบาญ คือ บัญชีรายการหรือหัวข้อสําคัญ ๆ ที่ปรากฏในรายงาน เช่น คํานํา สารบาญ เนื้อเรื่องที่แบ่งเป็นหัวข้อใหญ่และหัวข้อย่อย รายการโน้ตบรรณานุกรม ฯลฯ พร้อมระบุเลขหน้าที่รายการนั้น ๆ ปรากฏในรายงาน

54 ข้อใดไม่จัดอยู่ในส่วนเกี่ยวกับภาคผนวก

(1) ส่วนสรุป

(2) อภิธานศัพท์

(3) บรรณานุกรม

(4) ดรรชนี

ตอบ 1 หน้า 64, 274 275 306 ส่วนประกอบของรายงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

1 ส่วนประกอบตอนต้น ได้แก่ ปกนอก หน้าปกใน (หน้าชื่อเรื่อง) หน้าคํานํา หน้าสารบาญหรือสารบัญ และหน้าสารบัญภาพ

2 ส่วนที่เป็นเนื้อหา ได้แก่ บทนํา รายละเอียดของเนื้อหา และส่วนสรุป

3 ส่วนประกอบตอนท้าย ได้แก่ บรรณานุกรม ภาคผนวก อภิธานศัพท์ ดรรชนี และปกหลัง

55 ข้อใดอ้างอิงในวงเล็บได้ถูกต้อง

(1) (Gardner, 2007, p. 78)

(2) (Chili Gardner, 2007, p. 78)

(3) (2007. P. 78)

(4) (Gardner, p. 78)

ตอบ 1 หน้า 264, 276 277, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 298) การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม-ปี (Author-date) คือ รายการอ้างอิงแบบในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) โดยใส่ชื่อผู้เขียนและปีที่พิมพ์พร้อมด้วยเลขหน้าไว้ในวงเล็บหลังข้อความที่ คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่

1 รูปแบบตามคู่มือ Turabian คือ (ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name) ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Gardner 2007, p. 78)

2 รูปแบบตามคู่มือ APA คือ ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง, / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ, 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name)ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Gardner, 2007, p. 78)

56 การกําเนิดอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้นมีความสัมพันธ์ตรงกับข้อใด

(1) อังกฤษ

(2) ฝรั่งเศส

(3) สหรัฐอเมริกา

(4) จีน

ตอบ 3 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 – 43), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งาน ด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของ หน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 ผู้ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เฉพาะที่เรียกว่า

(1) เว็บบราวเซอร์

(2) เว็บมาสเตอร์

(3) เว็บบอร์ด

(4) กูเกิล

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 46, 55), (คําบรรยาย) web browser คือ ซอฟต์แวร์และโปรแกรมเฉพาะที่ใช้แสดงผลข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสําหรับการเข้าสู่บริการเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถใช้บริการเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเว็บบราวเซอร์สามารถใช้เปิดเอกสาร ไฮเปอร์เท็กซ์ หรือเปิดดูสื่อต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยภาพและเสียง รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงการ รับและส่งข่าวสารบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ ตัวอย่างของเว็บบราวเซอร์ เช่น Internet Explorer, Netscape Navigator, Mozila Firefox, Google Chrome เป็นต้น

58 ข้อใดหมายถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

(1) ISP

(2) DNS

(3) URL

(4) @yahoo.com

ตอบ 1 หน้า 310, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 49) ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยใช้บริการผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภาคเอกชน หรือเชิงพาณิชย์ เช่น บริษัท True Corporation

(Asia InfoNet), Samart, TT&T เป็นต้น

2 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภาครัฐ เช่น หน่วยงานราชการ หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คุณภาพของบริการอาจไม่เท่ากับของภาคเอกชน

59 Search Engine หมายถึง

(1) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล YouTube

(2) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล OPAC

(3) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล WebOPAC

(4) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล E-book

ตอบ 1 หน้า 313, (คําบรรยาย) Search Engine คือ เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศออนไลน์จากฐานข้อมูลเว็บไซต์ (Websites) ที่ให้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ Search Engine จะแสดงรายการสารบาญและช่องว่างให้เติมคําที่ต้องการสืบค้น หลังจากนั้นให้ผู้ใช้ป้อนคํา ข้อความ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการค้นหา ก็สามารถหาเว็บไซต์ที่ต้องการหรือรายชื่อเว็บไซต์ที่มี เนื้อหาใกล้เคียงกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เช่น Search Engine ในฐานข้อมูลเว็บไซต์ YouTube เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาเพลง มิวสิกวิดีโอ วิดีโอคลิปต่าง ๆ เป็นต้น

60 ข้อใดหมายถึงซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ

(1) Android

(2) Application

(3) Facebook

(4) Line

ตอบ 1 (คําบรรยาย) ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) ถือเป็นโปรแกรมที่ทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป โดยมีหน้าที่หลัก คือการจัดสรรทรัพยากรภายในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ในเรื่องของ การรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ หรือจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจําตามที่ซอฟต์แวร์ ประยุกต์ร้องขอ ซึ่งระบบปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เช่น Windows NT, Unix, Microsoft Windows XP, Linux ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือ เช่น IOS, Android ฯลฯ

LIS1003 การใช้ห้องสมุด 1/2560

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2560

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ)

1 “โฆษณายาลดความอ้วน” จัดอยู่ในกลุ่มใด

(1) ข้อมูล

(2) ความรู้

(3) ปัญญา

(4) สารสนเทศ

ตอบ 1 หน้า 3, 5, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 3), (คําบรรยาย) ความหมายของคําว่า “ข้อมูล”และ “สารสนเทศ” มีดังนี้

1 ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจากหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบหรือข่าวลือ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การโฆษณาสินค้า การหาเสียงของนักการเมือง หรือการกล่าวหา/โจมตีคู่แข่งทางการเมือง เป็นต้น

2 สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิด ของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสือหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอดและเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เนื่องจากสามารถนํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้

2 การบันทึกข้อมูลด้วย “อักษรคิวนิฟอร์ม” ลงบนแผ่นดินเหนียว เริ่มขึ้นในสมัยใด

(1) อัสสิเรียน

(2) อียิปต์

(3) สุเมเรียน

(4) กรีก

ตอบ 3 หน้า 6 – 7 ชาวสุเมเรียน ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ตามลุ่มน้ำไทกริสและยูเฟรติสของเมโสโปเตเมียเมื่อประมาณ 3,100 B.C. ถือเป็นชนชาติแรกที่รู้จักนําเอาเหตุการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ บันทึกลงบนแผ่นดินเหนียวด้วยอักษรรูปลิ่มหรือที่เรียกว่า “อักษรคิวนิฟอร์ม” (Cuneiform) ต่อมาประมาณ 2,700 B.C. ซาวสุเมเรียนเริ่มจัดตั้งห้องสมุดอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองเทลเลาะห์ ประเทศอิรัก

3 หอหลวงเกี่ยวข้องกับข้อใดมากที่สุด

(1) สร้างขึ้นเพื่อเก็บเอกสารของราชสํานักในสมัยกรุงศรีอยุธยา

(2) สถานที่เก็บพระไตรปิฎกเริ่มครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา

(3) พ่อขุนรามคําแหงสร้างขึ้นเพื่อใช้เผยแผ่พุทธศาสนาในสมัยสุโขทัย

(4) รัชกาลที่ 3 สร้างขึ้นครั้งแรกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

ตอบ 1 หน้า 9 – 10, (คําบรรยาย) ห้องสมุดในประเทศไทยมีพัฒนาการตามลําดับยุคสมัย ดังนี้

1 สมัยสุโขทัย ได้แก่ หอไตรหรือหอพระไตรปิฎกภายในวัด เพื่อเก็บคัมภีร์พระไตรปิฎก

2 สมัยอยุธยา ได้แก่ หอหลวงภายในพระราชวัง เพื่อเก็บรักษาหนังสือ วรรณกรรมทางโลก ตัวบทกฎหมาย และเอกสารทางราชการของราชสํานัก

3 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการสร้างหอสมุดประจํารัชกาลต่าง ๆ ได้แก่ หอพระมณเฑียรธรรม ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อประดิษฐานพระไตรปิฎก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นห้องสมุดประชาชนแห่งแรกของไทย, หอพระสมุดวชิรญาณ หอพุทธสาสนสังคหะ (ตั้งอยู่ในวัดเบญจมบพิตร)และหอพระสมุดวชิรญาณสําหรับพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตามลําดับ

4 “การพิจารณากลั่นกรองข้อมูล” เป็นคุณสมบัติของนักปราชญ์ในข้อใด

(1) สุตตะ

(2) จินตะ

(3) ปุจฉา

(4) ลิขิต

ตอบ 2 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุ จิ ปุ ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ) คือ การรับฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือ และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ หรือพิจารณากลั่นกรองข้อมูลก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การไต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึกข้อมูล

5 การค้นหาความหมายจากหนังสือพจนานุกรม ต้องอาศัยการอ่านในข้อใด

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างวิเคราะห์

(3) การอ่านเพื่อเก็บรายละเอียด

(4) การอ่านอย่างเจาะจง

ตอบ 4 หน้า 18 การอ่านอย่างเฉพาะเจาะจง (Scanning) เป็นการอ่านเพื่อค้นหาคําตอบเฉพาะเรื่องซึ่งผู้อ่านไม่จําเป็นต้องเสียเวลาอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย แต่ให้ผู้อ่านกวาดสายตาไป ตลอดหน้ากระดาษเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ โดยการอ่านในลักษณะนี้มักจะนิยมใช้กับการค้นหาความรู้ จากหนังสืออ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น การค้นหาความหมายของคําจากหนังสือพจนานุกรม การอ่านค้นหาคําตอบจากหนังสือสารานุกรม, การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์การและสถาบันต่าง ๆ ในหนังสือนามานุกรม ฯลฯ

6 แหล่งสารสนเทศในข้อใดไม่จัดอยู่ในกลุ่มห้องสมุดประชาชน

(1) ห้องสมุดสยามสมาคม

(2) ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี

(3) ห้องสมุดสวนลุมพินี

(4) ห้องสมุดนีลสัน เฮย์

ตอบ 1 หน้า 26 – 27, 33 ห้องสมุดประชาชน หมายถึง ห้องสมุดที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการสารสนเทศครบทุกหมวดวิชาแก่ประชาชน โดยไม่จํากัดเพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา และพื้นฐานความรู้ ทั้งนี้เพื่อ ส่งเสริมให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่าน สามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย และเพื่อการศึกษาค้นคว้า ตลอดชีวิต ตัวอย่างของห้องสมุดประชาชน เช่น ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี, ห้องสมุดนีลสัน เฮย์,ห้องสมุดสวนลุมพินี เป็นต้น ส่วนห้องสมุดสยามสมาคม เป็นห้องสมุดเฉพาะสังกัดสมาคม)

7 แหล่งสารสนเทศในข้อใดที่เก็บโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชุมชนและประเทศ

(1) ศูนย์สารสนเทศ

(2) หอจดหมายเหตุ

(3) พิพิธภัณฑ์

(4) ห้องสมุดเฉพาะ

ตอบ 3 หน้า 37, (คําบรรยาย) พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งสารสนเทศที่รวบรวมและจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณวัตถุ ซึ่งเป็นสิ่งของโบราณที่มีคุณค่าหรือมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นสิ่งของที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนและสังคม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ การศึกษาค้นคว้าของบุคคลทั่วไป

8 ฝ่ายใดของสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ที่ให้บริการยืมระหว่างห้องสมุด

(1) ฝ่ายเทคนิค

(2) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) ฝ่ายวารสารและเอกสาร

(4) ฝ่ายบริการช่วยการค้นคว้าและวิจัย

ตอบ 4 หน้า 40 ฝ่ายบริการช่วยการค้นคว้าและวิจัย จะทําหน้าที่ให้บริการตอบคําถามเกี่ยวกับการศึกษาและเรื่องทั่ว ๆ ไปทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ยังบริการช่วยเหลือแนะนําในการศึกษาค้นคว้า การทํารายงานประกอบการศึกษา แนะนําการใช้ห้องสมุด บริการยืม ระหว่างห้องสมุด บริการรวบรวมบรรณานุกรม บริการนําชมห้องสมุด บริการสิ่งพิมพ์รัฐบาลและหนังสือลักษณะพิเศษ

9 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) หนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด

(2) หนังสือทุกเล่มที่มีการจัดหมวดหมู่

(3) หนังสือทุกเล่มที่ห้องสมุดสั่งซื้อ

(4) หนังสือทุกเล่มที่มีการบริจาคให้ห้องสมุด

ตอบ 2 หน้า 55, 76, 133 – 134 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด หมายถึง แหล่งสารสนเทศทุกรูปแบบที่ห้องสมุดได้คัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดระบบหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งตีพิมพ์บนแผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภท พร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

10 หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจต่าง ๆ คล้ายกับส่วนใดของหนังสือมากที่สุด

(1) หน้าปกหนังสือ

(2) หน้าสารบัญ

(3) หน้าลิขสิทธิ์

(4) หน้าคํานํา

ตอบ 2 หน้า 58, 62 63, (คําบรรยาย) โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ ดังนั้นโฮมเพจจึงคล้ายกับส่วนประกอบของหนังสือ ดังนี้

1 ในแง่ของเว็บเพจแรกที่บอกว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาสําคัญอะไรบ้าง โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าปกหนังสือ

2 ในแง่ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้ Link ไปยังเว็บเพจต่าง ๆเพื่ออ่านข้อมูล โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าสารบัญของหนังสือ

11 ข้อใดกล่าวถึงดรรชนีของหนังสือได้ชัดเจนที่สุด

(1) ส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือศัพท์เฉพาะ

(2) ส่วนที่ช่วยอธิบายคําบางตอนที่ปรากฏในเนื้อหา

(3) บัญชีคําที่ปรากฏในตอนท้ายของหนังสือ

(4) บัญชีรายชื่อหนังสือที่ปรากฏในท้ายเล่มของหนังสือ

ตอบ 3 หน้า 64, 84, 119 120 ตรรชนี (Index) เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แนะแหล่งสารสนเทศโดยมีลักษณะเป็นคําหรือบัญชีกลุ่มคําสําคัญของหัวเรื่องใหญ่ หัวเรื่องย่อย ชื่อบุคคล สถานที่ ชื่อเรื่อง หรือชื่อบทความที่ได้จัดเรียบเรียงไว้ตามลําดับอักษรอย่างมีระบบ พร้อมทั้งระบุ เลขหน้าที่คําหรือข้อความนั้นปรากฏอยู่ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้อ่านค้นเรื่องหรือหัวข้อ ในสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปดรรชนีมักอยู่ที่ท้ายเล่มของหนังสือ แต่ถ้าเป็นหนังสือชุด เช่น สารานุกรม ดรรชนี้จะอยู่ในเล่มสุดท้าย

12 ส่วนใดเป็นส่วนประกอบของวารสารที่ดึงดูดผู้อ่านมากที่สุด

(1) รูปภาพและอักษรบนปก

(2) สารบัญและคอลัมน์ต่าง ๆ

(3) ปกวารสารและสารบัญ

(4) ความนําและรูปภาพ

ตอบ 1 หน้า 65 ส่วนประกอบของวารสารมี 3 ส่วน คือ

1 ปกวารสาร (Cover) เป็นส่วนประกอบที่สําคัญ ซึ่งประกอบด้วย ชื่อวารสาร ฉบับที่ ปีที่ เดือน ปีและราคา แต่องค์ประกอบที่สําคัญที่สุดก็คือ รูปภาพ (เป็นภาพเขียนหรือภาพถ่ายก็ได้) และอักษรบนปก ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจวารสารแต่ละฉบับเพิ่มมากขึ้น

2 สารบาญหรือสารบัญ (Contents) บอกให้ทราบถึงลําดับของเนื้อเรื่องในฉบับ โดยมีชื่อเรื่องชื่อผู้เขียน เลขหน้า และรายการต่าง ๆ เกี่ยวกับวารสาร

3 คอลัมน์ต่าง ๆ (Columns) ซึ่งขึ้นอยู่กับวารสารแต่ละประเภท

13 กระทรวงเทคโนโลยีได้แจกแผ่นพับเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับไวรัสเรียกค่าไถ่ จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) กฤตภาค

(2) จุลสาร

(3) วารสาร

(4) ต้นฉบับตัวเขียน

ตอบ 2 หน้า 66 – 67 จุลสาร (Pamphlets) เป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทันสมัยและอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไปในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความทาง วิชาการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ หรือความรู้ที่หน่วยงานราชการ องค์การ วัดหรือสมาคมต่าง ๆ ต้องการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ อาจพิมพ์ออกเป็นเอกสารเล่มเล็กเดียว ๆ หรือพิมพ์เป็น ตอน ๆ โดยรูปเล่มทั่วไปจะไม่มีการเข้าปกเย็บเล่มถาวร มีจํานวนหน้าไม่เกิน 60 หน้า ทั้งนี้อาจจะมีลักษณะเป็นแผ่นพับหรืออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “อนุสาร” (Brochure) ก็ได้

14 นักศึกษาต้องการฟังคลิปวิดีโอคําบรรยายย้อนหลังวิชา LIS 1003 จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) โสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) สื่ออิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง เทป แถบบันทึกเสียงซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่งแผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์ แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ห้องสมุดนิยมอนุรักษ์เนื้อหาสาระที่สําคัญจากหนังสือพิมพ์เก่า ๆ ไว้เพื่อการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบใด

(1) ไมโครฟิล์ม

(2) ไมโครฟิช

(3) Winzipdata

(4) Metadata

ตอบ 1 หน้า 169 ห้องสมุดโดยทั่วไปจะเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังไว้ระยะเวลาหนึ่งประมาณ1 – 2 ปี แล้วคัดทิ้งไป แต่ห้องสมุดบางแห่งนิยมคัดเลือกและจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง ที่สําคัญ ๆ ด้วยการถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนแล้วเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม เพื่อรักษาสภาพและ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ทําการจัดเก็บ หนังสือพิมพ์ 10 ฉบับไว้ในรูปไมโครฟิล์ม ได้แก่ สยามรัฐ มติชน ไทยรัฐ ประชาชาติ เดลินิวส์ ข่าวพาณิชย์ มติชนรายสัปดาห์ สยามรัฐรายสัปดาห์ Bangkok Post และ The Nation

16 บริษัทผลิตฐานข้อมูลนิยมบันทึกสารสนเทศ ตรงกับข้อใดมากที่สุด

(1) จานแม่เหล็กชนิดอ่อน (Floppy Disk)

(2) จานแสง (Optical Disk)

(3) ซีดีรอม (CD-ROM)

(4) วีดิทัศน์ดิจิตอล (DVD)

ตอบ 3 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กแบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป

2 จานแสง (Optical Disk) เช่น VCD, DVD, CD-ROM บันทึกฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการบันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือช่วยค้นหาความรู้ในหนังสืออ้างอิง

(1) คํานํา

(2) คํานําทาง

(3) อักษรนําเล่ม

(4) ดรรชนี

ตอบ 1 หน้า 83 – 84 เครื่องมือช่วยค้นหาความรู้ในหนังสืออ้างอิง ได้แก่

1 คํานําทาง (Guide Word or Running Word)

2 ดรรชนีริมหน้ากระดาษ (Thumb Index)

3 อักษรนําเล่ม (Volume Guide)

4 ส่วนโยง (Cross Reference)

5 ดรรชนี (Index)

18 พจนานุกรมการช่าง จัดเป็นพจนานุกรมประเภทใด

(1) พจนานุกรมภาษาเดียว

(2) พจนานุกรมฉบับย่อ

(3) พจนานุกรมเฉพาะวิชา

(4) พจนานุกรมฉบับสมบูรณ์

ตอบ 3 หน้า 85, 89 – 90, (คําบรรยาย) พจนานุกรมเฉพาะวิชา คือ พจนานุกรมสําหรับค้นหาความหมายของคําที่ใช้ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์การแพทย์, พจนานุกรมรวมคําศัพท์ทางการศึกษา, พจนานุกรมการช่าง เป็นต้น

19 สารานุกรมหมายถึงข้อใดมากที่สุด

(1) รวบรวมความรู้พื้นฐานต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา

(2) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาในทุกสาขาวิชาของโลก

(3) เป็นคู่มือในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

(4) ให้ข้อมูล ความรู้ทั่วไป แต่แสดงผลออกมาในรูปสถิติ ตัวเลข และแผนภูมิ

ตอบ 1 หน้า 91 – 92, 95 สารานุกรม (Encyclopedia) หมายถึง หนังสือที่รวบรวมความรู้พื้นฐานในแขนงวิชาต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูลหรือความรู้ในรูปของบทความโดยมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับไว้ที่ท้ายบทความ และจัดเรียงเนื้อหาตามลําดับตัวอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา ซึ่งอาจมีเล่มเดียวจบหรือ หลายเล่มจบที่เรียกว่า “หนังสือชุด” ส่วนใหญ่สารานุกรมจะมีภาพประกอบ และมีดรรชนี ช่วยค้นเรื่อง (Fact Index) อยู่ตอนท้ายเล่ม หรือถ้าเป็นหนังสือชุดก็จะอยู่เล่มสุดท้าย

20 ต้องการค้นหาประวัติบุคคล สามารถหาได้จากหนังสืออ้างอิงเล่มใด

(1) นามานุกรม

(2) หนังสือคู่มือ

(3) ดรรชนี

(4) อักขรานุกรมชีวประวัติ

ตอบ 4 หน้า 97 – 98 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญโดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิด หรือตาย (ในกรณีที่บุคคลเจ้าของชีวประวัติสิ้นชีวิตไปแล้ว) ที่อยู่ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าผู้ที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นได้ทําคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง

21 หนังสือที่รวบรวมคําแนะนําในการปฏิบัติงานต่าง ๆ เรียกว่าอะไร

(1) นามานุกรม

(2) หนังสือคู่มือ

(3) ดรรชนี

(4) อักขรานุกรมชีวประวัติ

ตอบ 2 หน้า 107 108 หนังสือคู่มือ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

1 หนังสือคู่มือทั่วไป (Handbook) จะให้ความรู้เบ็ดเตล็ดทั่วไปไม่จํากัดสาขาวิชา เช่นแรกมีในสยาม เป็นคู่มือให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่มีและเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเสนอข้อเท็จจริงอย่างสั้น ๆ

2 หนังสือคู่มือเฉพาะวิชา (Manual) รวบรวมความรู้และคําแนะนําในการปฏิบัติงานต่าง ๆเฉพาะสาขา เช่น คู่มือช่างไฟฟ้า แพทย์ในบ้าน เป็นต้น

22 ข้อใดไม่ใช่ประเภทของหนังสือรายปี

(1) หนังสือสรุปผลงานประจําปี

(2) สมุดสถิติรายปี

(3) ปฏิทินเหตุการณ์รายปี

(4) หนังสือรายปีของสารานุกรม

ตอบ 3 หน้า 109 หนังสือรายปี มี 4 ประเภท คือ

1 หนังสือรายปีของสารานุกรม

2 หนังสือสรุปผลงานประจําปี

3 หนังสือรายปีเฉพาะด้าน

4 สมุดสถิติรายปี

23 หนังสืออ้างอิงข้อใดที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศ เมือง จังหวัด สถานที่สําคัญ สภาพภูมิศาสตร์ การเดินทาง สกุลเงินตรา

(1) อักขรานุกรมภูมิศาสตร์

(2) พจนานุกรม

(3) หนังสือแผนที่

(4) หนังสือนําเที่ยว

ตอบ 4 หน้า 114 115 หนังสือนําเที่ยว เป็นหนังสืออ้างอิงทางภูมิศาสตร์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศเมือง จังหวัด และสถานที่สําคัญอย่างละเอียด เพื่อประโยชน์ต่อการค้นคว้าและเพื่อตอบสนอง ความต้องการของนักท่องเที่ยว เช่น ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและที่ตั้งของเมือง ภาษา สภาพภูมิศาสตร์ ระยะทาง การเดินทาง โบราณสถานที่น่าสนใจ ที่ตั้งของโรงแรม ร้านอาหารอัตราแลกเปลี่ยนตามสกุลเงินตราของประเทศนั้น ๆ เป็นต้น

24 ดรรชนีมีประโยชน์ต่อผู้ใช้อย่างไร

(1) เป็นเครื่องมือช่วยค้นเรื่องหรือหัวข้อในสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ

(2) บอกแหล่งที่มาของสารสนเทศได้

(3) ให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาอย่างย่อของสารสนเทศที่ต้องการได้

(4) ผู้ใช้สามารถใช้งานดรรชนีได้โดยไม่ต้องผ่านบรรณารักษ์

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ

25 ข้อใดคือลักษณะของหนังสือบรรณานุกรม

(1) รวบรวมเนื้อหาของทรัพยากรสารสนเทศ

(2) รวบรวมรายชื่อของทรัพยากรสารสนเทศ

(3) แนะนําแนวทางในการค้นหาทรัพยากรสารสนเทศ

(4) แนะนําวิธีการใช้ห้องสมุด

ตอบ 2 หน้า 64, 129, 254, 275 บรรณานุกรม (Bibliography) เป็นบัญชีรายชื่อหนังสือ เอกสารและสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องต่าง ๆ ที่ผู้แต่งใช้เป็นหลักฐานประกอบการเขียนหนังสือเล่มนั้น โดยอาจอยู่ท้ายบทหรือท้ายเล่มก็ได้ หรืออาจจัดทําเป็นตัวเล่มหนังสือที่รวบรวมรายชื่อและรายละเอียด ของทรัพยากรสารสนเทศ เช่น รายชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั้งที่พิมพ์ สํานักพิมพ์หรือโรงพิมพ์ และปีที่พิมพ์ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมและให้ความมั่นใจแก่ผู้อ่านว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้นมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ เพราะผู้เขียนได้ค้นคว้าอย่างมีหลักฐาน

26 ข้อใดอธิบายความหมายของการจัดหมู่ได้ถูกต้องที่สุด

(1) สัญลักษณ์แสดงหนังสือตามประเภทของหนังสือ

(2) สัญลักษณ์แสดงกลุ่มเนื้อหาของหนังสือแต่ละเล่ม

(3) สัญลักษณ์ที่กําหนดให้หนังสือทุกเล่มประกอบด้วยเลขหมู่ เลขผู้แต่ง

(4) รหัสที่กําหนดให้กับหนังสือแต่ละเรื่องเพื่อใช้เป็นเอกลักษณ์ในการเข้าถึงหนังสือ

ตอบ 2 หน้า 150 การจัดหมู่หนังสือ หมายถึง การจัดหนังสือให้เป็นระบบโดยพิจารณาจากเนื้อหาสาระของหนังสือเป็นสําคัญ และมีการกําหนดสัญลักษณ์เพื่อแสดงกลุ่มเนื้อหาของหนังสือใน แต่ละเล่ม เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายระบุตําแหน่งของหนังสือทุกเล่มในห้องสมุด ซึ่งหนังสือที่มี เนื้อหาเดียวกันและ/หรือประพันธ์วิธีเดียวกันจะมีสัญลักษณ์เหมือนกันและวางอยู่ในที่เดียวกัน ส่วนหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันจะมีสัญลักษณ์ใกล้เคียงกันและวางอยู่ในตําแหน่งที่ไม่ไกลกันมากนัก

27 ข้อใดเป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ “ยึดแนววิวัฒนาการของมนุษย์เป็นหลัก”

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบคัตเตอร์

ตอบ 2 หน้า 153 – 155, (คําบรรยาย) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification : LCC หรือ LC) เป็นระบบในเชิงปฏิบัติ (Practical System) ซึ่งยึดแนววิวัฒนาการของมนุษย์เป็นหลัก ทําให้ระบบนี้มีความยืดหยุ่นมากที่สุด และสามารถรองรับสรรพวิทยาการใหม่ ๆ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงเป็นระบบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีหนังสือ เฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือมีหนังสือทั่วไปทุกประเภทเป็นจํานวนมาก เช่น ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยจะแบ่งเนื้อหาของหนังสือออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้ สัญลักษณ์ในการจัดหมู่หรือเลขหมู่หนังสือเป็นแบบผสม คือ ใช้ตัวอักษรโรมันตั้งแต่ A – Z (ยกเว้น I, O, W, X, Y) แสดงเนื้อหาในหมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1 – 9999 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งแบ่งย่อยเรื่องอีกที่หนึ่ง

28 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือที่เหมาะสําหรับห้องสมุดที่มีจํานวนหนังสือมาก

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 27 ประกอบ

29 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือห้องสมุดโรงพยาบาลสงฆ์

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) การจัดหมู่หนังสือระบบซับเจ็ด

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

ตอบ 4 หน้า 155 – 156, (คําบรรยาย) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Library Medicine : NLM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ใช้กับ ห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยจะใช้อักษรโรมัน Q กับ W และเลขอารบิก เป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่แตกต่างในด้าน การจําแนกสรรพวิทยาการออกเป็น 2 หมวดใหญ่ คือ หมวด Q วิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน และหมวด W วิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นระบบนี้จึงนิยมใช้กับห้องสมุด ของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น หอสมุดศิริราช, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ, ห้องสมุดคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ขอนแก่น,ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

30 ข้อใดคือ “สัญลักษณ์ที่ห้องสมุดกําหนดขึ้นให้กับหนังสือทุกเล่มเพื่อสะดวกในการเข้าถึง”

(1) เลขเรียกหนังสือ

(2) เลขหมู่หนังสือ

(3) เลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ

(4) เลขทะเบียนหนังสือ

ตอบ 1 หน้า 157, 159 – 161, (คําบรรยาย) เลขเรียกหนังสือ (Call Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดขึ้นให้กับหนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด ซึ่งประกอบด้วย ส่วนสําคัญ ๆ 3 ส่วน คือ เลขหมู่หนังสือ เลขผู้แต่ง และอักษรชื่อเรื่อง (แต่ตราบางเล่มอาจ ประกอบด้วย เลขหมู่หนังสือ, เลขผู้แต่งและอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง, สัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น ปี พ.ศ. เล่มที่ ฉบับที่ ฯลฯ) ทั้งนี้หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดจะจัดเรียงอยู่บนชั้นตามลําดับของเลขเรียกหนังสือ เพื่อสะดวกในการเข้าถึง

31 จงเรียงหนังสือต่อไปนี้ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์

PL 493

.P292

2002

PL 523

.K55

2005

PL 535

.J651

2006

PE 113

.D82

1978

PL 519

.S36

2005

(1) จ ก ข ค ง

(2) ง ข ข ค ก

(3) ค อ ง ข ก

(4) ง ก จ ข ค

ตอบ 4 หน้า 159 160 วิธีการจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอี้จะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก แต่ถ้าเลขหมู่ซ้ํากันก็ให้พิจารณาจากเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ ง ก จ ข ค)

32 ข้อใดกล่าวถึงการจัดเก็บสิ่งพิมพ์รัฐบาลได้ถูกต้องที่สุด

(1) กําหนดเลขหมู่ และจัดขึ้นชั้นรวมกับหนังสือ

(2) จัดแยกเป็นทรัพยากรสารสนเทศพิเศษ กําหนดสัญลักษณ์และระบุตามประเภทหน่วยงาน

(3) กําหนดหัวเรื่อง และจัดเก็บขึ้นชั้นตามลําดับอักษร

(4) กําหนดอักษรย่อตามประเภทหน่วยงาน จัดเก็บขึ้นชั้นตามลําดับอักษรของหน่วยงาน

ตอบ 1 หน้า 166 167 การจัดเก็บสิ่งพิมพ์รัฐบาลของห้องสมุดโดยทั่วไปมี 2 วิธี คือ

1 จัดรวมกับหนังสือทั่วไปและกําหนดเลขหมู่ให้ตามระบบการจัดหมู่หนังสือของห้องสมุดนั้น ๆ เช่น หอสมุดแห่งชาติจัดสิ่งพิมพ์รัฐบาลรวมกับหนังสือด้วยระบบจัดหมู่แบบทศนิยมดิวอี้

2 จัดแยกออกจากหนังสือและทรัพยากรสารสนเทศอื่น ๆ เป็นทรัพยากรลักษณะพิเศษ (Special Collection) และกําหนดระบบการจัดหมู่สําหรับสิ่งพิมพ์รัฐบาลขึ้นโดยเฉพาะ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ได้กําหนดสัญลักษณ์พิเศษ คือ GP (Government Publication) ให้เป็นสัญลักษณ์สิ่งพิมพ์รัฐบาลกํากับเหนือเลขเรียกหนังสือหลังจากนั้นจึงจัดแยกสิ่งพิมพ์ตามหน่วยงานรัฐบาลในระดับกระทรวง กรม กอง ฯลฯ

33 ข้อใดกล่าวถึงการจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังได้ถูกต้องที่สุด

(1) เย็บรวมเล่มเมื่อได้รับครบ 1 เดือน จัดเรียงเล่มตามลําดับอักษรของหนังสือพิมพ์

(2) เย็บรวมเล่มเมื่อได้รับครบ 1 ปี จัดเรียงเล่มตามลําดับอักษรของหนังสือพิมพ์

(3) คัดเลือกหนังสือพิมพ์ฉบับสําคัญ ๆ จัดเก็บโดยถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนในรูปไมโครฟิล์ม

(4) คัดเลือกหนังสือพิมพ์ฉบับสําคัญ ๆ จัดเก็บไว้ประมาณ 1 – 2 ปี แล้วจําหน่ายออก

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ

34 ข้อใดกล่าวถึงการจัดเก็บจุลสารที่ถูกต้อง

(1) กําหนดเลขหมู่ จัดขึ้นชั้นรวมกับหนังสือ

(2) กําหนดหัวเรื่อง จัดเรียงขึ้นชั้นตามลําดับอักษรหัวเรื่อง

(3) กําหนดหัวเรื่อง จัดเก็บเข้าแฟ้มเอกสารตามหัวเรื่องที่กําหนด

(4) กําหนดเลขหมู่ จัดเก็บขึ้นชั้นตามเลขหมู่

ตอบ 3 หน้า 163, 170 171 วิธีการจัดเก็บจุลสารและกฤตภาคของห้องสมุดจะใช้วิธีเดียวกันซึ่งนิยมจัดเก็บแยกออกจากวัสดุสารสนเทศอื่น ๆ คือ จัดเก็บโดยกําหนดหัวเรื่องกํากับไว้ที่ มุมบนของปก แล้วนําจุลสารและกฤตภาคที่มีหัวเรื่องเดียวกันเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม ปิดป้าย ชื่อหัวเรื่องที่แฟ้ม และนําแฟ้มไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บเอกสารเรียงตามลาดับอักษรของหัวเรื่อง โดยที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่าแต่ละลิ้นชักมีแฟ้มเริ่มจากอักษรตัวใดถึงตัวใด

35 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดที่เอื้อให้ผู้ใช้เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว

(1) จัดเรียงไมโครฟิล์มใส่ตะแกรงพลาสติกตามลําดับหัวเรื่อง

(2) จัดเก็บไมโครฟิล์มไว้ในกล่องเรียงตามเลขทะเบียน

(3) จัดเก็บไมโครฟิล์มไว้ในลิ้นชักตู้เหล็กตามลําดับเลขทะเบียน

(4) จัดเรียงไว้บนชั้นรวมไปกับหนังสือตามเลขหมู่

ตอบ 3 หน้า 177, 180, 351 วิธีจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้

1 จัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์ โดยห้องสมุดจะจัดเก็บไมโครฟิล์มทั้งที่เป็นชนิดม้วนและตลับด้วยการจัดทําป้าย ซึ่งประกอบด้วย เลขทะเบียน ชื่อเรื่อง ความยาว ความกว้าง ประเภท ของฟิล์ม และสัญลักษณ์ที่กําหนดเป็นเลขหมู่ติดไว้บนกล่องม้วนและตลับ แล้วจึงจัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2 จัดแยกไว้ในตู้ โดยห้องสมุดบางแห่งอาจนํากล่องหรือตลับไมโครฟิล์มที่ปิดป้ายมาแยกเป็นหมวดหมู่ แล้วเรียงตามลําดับเลขทะเบียนไว้ในลิ้นชักตู้เหล็ก หรือเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบบชั้นเก็บหนังสือ

36 ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจัดเก็บแผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน

(1) กําหนดหัวเรื่อง เก็บตามลําดับอักษร

(2) กําหนดเลขทะเบียน จัดเก็บในระบบชั้นปิดตามเลขทะเบียน

(3) กําหนดเลขหมู่ตามโปรแกรมคําสั่ง ทําป้ายเพื่อบอกชื่อโปรแกรมติดที่ซอง

(4) กําหนดเลขทะเบียน จัดเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบบชั้นหนังสือ

ตอบ 3 หน้า 178 ห้องสมุดที่มีแผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อนไว้ให้บริการเป็นจํานวนมาก จะนิยมจัดหมู่โปรแกรมคําสั่งด้วยระบบการจัดหมู่เช่นเดียวกันกับหนังสือ แล้วจัดทําป้ายติดไว้บนซองที่เก็บ แผ่นจานแม่เหล็ก หรือติดที่ตัวแผ่นพร้อมทั้งให้รายละเอียดที่สําคัญเพื่อแสดงประเภทของวัสดุ เลขหมู่ และชื่อโปรแกรม จากนั้นจึงเก็บแผ่นไว้ในซองบนที่แขวนหรือจัดเรียงไว้ในกล่อง สําหรับ ห้องสมุดที่มีโปรแกรมคําสั่งจํานวนน้อย จะนิยมจัดเก็บแผ่นจานแม่เหล็กไว้ในกล่อง แล้วเรียง ตามลําดับอักษรของหัวเรื่องอย่างกว้าง ๆ ทั้งนี้ห้องสมุดส่วนใหญ่ยังนิยมให้บริการในระบบชั้นปิดอยู่ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยหยิบให้เมื่อผู้ใช้มาขอรับบริการ

37 ส่วนใดของบัตรรายการที่บอกตําแหน่งของหนังสือในห้องสมุด

(1) ชื่อผู้แต่ง

(2) เลขเรียกหนังสือ

(3) เลข ISBN

(4) ชื่อเรื่อง

ตอบ 2 หน้า 157, 191 เลขเรียกหนังสือ (Call Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดให้กับหนังสือแต่ละเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด โดยเลขเรียกหนังสือที่ปรากฎบนบัตรรายการจะเป็นเครื่องชี้บอกตําแหน่งของหนังสือบนชั้น ซึ่งเป็นที่เก็บหนังสือของห้องสมุด

38 ข้อใดคือรายการชื่อผู้แต่งชาวต่างประเทศที่ถูกต้อง

(1) Hunter, David E.

(2) David E. Hunter

(3) Hunter

(4) David

ตอบ 1 หน้า 191 192 ชื่อผู้แต่ง (Author) หรือรายการหลัก (Main Entry) เป็นชื่อผู้ที่เขียนหนังสือเล่มนั้น ซึ่งเป็นได้ทั้งบุคคลและนิติบุคคล โดยถ้าเป็นคนไทยให้ลงชื่อตัวก่อนตามด้วย ชื่อสกุล เช่น ประเวศ วะสี แต่ถ้าเป็นชาวต่างประเทศให้ลงชื่อสกุลก่อน และใส่เครื่องหมาย จุลภาค (,) แล้วตามด้วยชื่อตัวและชื่อกลาง (ถ้ามี) เช่น Hunter, David E.

39 ส่วนใดของรายการที่แสดงให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือเก่าหรือไม่

(1) การพิมพ์และการจัดจําหน่าย

(2) ครั้งที่พิมพ์

(3) แนวสืบค้น

(4) ลักษณะวัสดุ

ตอบ 1 หน้า 192 193 ลักษณะการพิมพ์และการจัดจําหน่าย (Publication Distribution, etc.)หรือพิมพ์ลักษณ์ (Imprint) ประกอบด้วย 3 ส่วนสําคัญ คือ

1 สถานที่พิมพ์ ได้แก่ ชื่อเมือง ชื่อจังหวัด ชื่อรัฐ หรือชื่อประเทศ

2 สํานักพิมพ์ ได้แก่ ร้านค้า บริษัท สมาคม องค์การ หน่วยงานราชการ หรือโรงพิมพ์ที่รับผิดชอบในการพิมพ์หนังสือเล่มนั้น ๆ เช่น ไทยวัฒนาพานิช สภาวิจัยแห่งชาติ เป็นต้น

3 ปีที่พิมพ์ คือ ปีที่หนังสือเล่มนั้น ๆ ได้รับการจัดพิมพ์ โดยปีที่พิมพ์จะทําให้ผู้อ่านทราบว่าเป็นหนังสือเก่าหรือใหม่

40 ส่วนใดของรายการให้รายละเอียดเกี่ยวกับจํานวนหน้าของหนังสือ

(1) การพิมพ์และการจัดจําหน่าย

(2) ครั้งที่พิมพ์

(3) แนวสืบค้น

(4) ลักษณะวัสดุ

ตอบ 4 หน้า 191, 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 220) ลักษณะวัสดุ หรือลักษณะรูปร่าง(Physical Description) เป็นรายการหนังสือของห้องสมุดที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะ รูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ได้แก่ จํานวนหน้า (ความหนาของหนังสือ) หรือ จํานวนเล่ม ภาพประกอบ (สีของภาพประกอบ) และส่วนสูงของหนังสือ เช่น V, 120 p. : it. (some cot.) ; 21 cm. หมายถึง หนังสือเล่มเดียวจบ (v = volume) มีทั้งหมด 120 หน้า (120 p.) มีภาพประกอบ (ill. = illustration) สีบางส่วน (some col. = some color) และมีส่วนสูง 21 เซนติเมตร (21 cm.)

41 ประเภทของวัสดุถูกกําหนดให้ปรากฎอยู่ในรายการประเภทใด

(1) ภาพยนตร์

(2) กฤตภาค

(3) สิ่งพิมพ์รัฐบาล

(4) จุลสาร

ตอบ 1 หน้า 203 ห้องสมุดที่มีทรัพยากรสารสนเทศประเภทวัสดุไม่ตีพิมพ์ เช่น แผนที่ ลูกโลก เกมภาพนิ่ง แผนภูมิ วัสดุโปร่งใส ภาพยนตร์ ฯลฯ มักจัดทําบัตรรายการของวัสดุแต่ละประเภท เพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาตัววัสดุได้อย่างสะดวก โดยมีรายละเอียดสําคัญบนบัตรรายการ ประกอบด้วย ประเภทของวัสดุ สถานที่ผลิตหรือผู้จัดทํา จํานวน ขนาด และรายละเอียดอื่น ๆ ส่วนการให้เลขเรียกหนังสือขึ้นอยู่กับห้องสมุดว่าจะใช้ระบบการจัดหมู่ประเภทใด

42 ข้อใดเรียงลําดับอักษรตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง

(1) มกรา มงคล มนูญ เมตตา

(2) เมตตา มงคล มนูญ มกรา

(3) มกรา มงคล เมตตา มนูญ

(4) มนูญ เมตตา มงคล มกรา

ตอบ 1 หน้า 207 – 210 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาไทย มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร ก-ฮ โดยไม่คํานึงถึงเสียงอ่าน

2 คําที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวเดียวกัน ให้เรียงคําที่มีตัวสะกดไว้ก่อนคําที่มีรูปสระ และเรียงลําดับรูปสระตามแบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

3 ผู้แต่งคนเดียวกันเต่งหนังสือหลายเล่ม ให้เรียงตามลําดับอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง ฯลฯ (จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ มกรา มงคล มนูญ เมตตา)

  1. ข้อใดเรียงลําดับอักษรตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง

(1) Gardner Gaum Ghosh Gabay

(2) Gabay Gardner Gaum Ghosh

(3) Gaum Ghosh Gardner Gabay

(4) Ghosh Gabay Gaum Gardner

ตอบ 2 หน้า 210 – 213 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาอังกฤษ มีย กักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร A – Z โดยเรียงแบบคําต่อคํา ไม่ต้องคํานึงถึงเครื่องหมายใด ๆ

2 ถ้ามีคํานําหน้านาม เช่น a, an, the, de, dela, les ฯลฯ ขึ้นต้นประโยคเวลาเรียงบัตรไม่ต้องคํานึงถึงคําเหล่านี้ แต่ให้เรียงลําดับอักษรของคําที่อยู่ถัดไป ยกเว้นถ้าคํานําหน้านาม เป็นส่วนหนึ่งของประโยค จะต้องเรียงลําดับอักษรของคํานําหน้านามนั้นด้วย

3 คําย่อที่เป็นคํานําหน้าชื่อบุคคลและยศให้เรียงลําดับเหมือนเป็นคําที่สะกดเต็ม เช่น Mr. เรียงตามคําสะกดเต็มคือ Mister ฯลฯ (จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ Gabay Gardner Gaum Ghosh)

44 ข้อใดกล่าวถึง Sear’s List of Subject Headings ไม่ถูกต้อง

(1) บัญชีศัพท์ควบคุม

(2) บัญชีหัวเรื่องภาษาอังกฤษ

(3) บัญชีคําศัพท์ที่ใช้ค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

(4) บัญชีคําศัพท์ที่ใช้ในระบบการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด

ตอบ 3 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 – 251) หัวเรื่อง หมายถึง คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือและสื่ออื่น ๆ โดยบรรณารักษ์ไม่ได้เป็นผู้เลือกขึ้นเอง แต่จะเลือกจากคําหรือวลีที่เป็นศัพท์ควบคุม เพื่อค้นหาหนังสือในห้องสมุดจากบัญชีหัวเรื่อง มาตรฐานที่นิยมใช้ในการจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด ได้แก่

1 Library of Congress Subject Headings (LCSH) จัดทําขึ้นโดยห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันเพื่อใช้เป็นบัญชีหัวเรื่องหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดใหญ่

2 Sear’s List of Subject Headings (Sear’s List) เป็นบัญชีหวเรื่องสําหรับหนังสือทั่วไปที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดเล็ก โดยจะใช้คู่กับการจัดหมู่หนังสือในระบบทศนิยมดิวอี้

45 สัญลักษณ์ในข้อใดที่ใช้คั่นระหว่างหัวเรื่องที่ขึ้นต้นด้วยคํานามและมีคําคุณศัพท์ขยาย

(1) จุลภาค (,)

(2) ขีดกลางสองขีด (-)

(3) อัฒภาค ( 😉

(4) ทวิภาค (:)

ตอบ 1 หน้า 223 – 224, 228 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

1 คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

2 คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and”, “กับ”, “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ไปในทางเดียวกัน เช่น บ้านกับโรงเรียน บิดาและมารดา Libraries and readers ฯลฯและที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and evil ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ( , ) คันกลางและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายชัดขึ้น เช่น Art, abstract ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

46 “บ้านกับโรงเรียน” จัดเป็นหัวเรื่องประเภทใด

(1) คํานามคําเดียวโดด ๆ

(2) วลี

(3) คําผสม

(4) คําคู่

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ

47 ข้อใดหมายถึงสัญลักษณ์หรืออักษรย่อในบัญชีหัวเรื่องที่มีความหมายให้ “ดูเพิ่มเติม

(1) X

(2) XX

(3) see

(4) sa

ตอบ 4 หน้า 199, 225 รายการโยง (Cross Reference) คือ การกําหนดสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้ทราบว่าคําหรือวลีที่ตามมาใช้เป็นหัวเรื่องได้หรือไม่ และมีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับ เนื้อหามากน้อยเพียงใด โดยมีตัวอย่างสัญลักษณ์ดังนี้

1 Sa (see also) หรือ “ดูเพิ่มเติมที่” ใช้โยงไปสู่หัวเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กันแต่มีเนื้อหาแคบกว่า

2 X ใช้หน้าคําหรือวลีที่เลิกใช้เป็นหัวเรื่องแล้ว

3 see หรือ “ดูที่” ใช้โยงหน้าคําหรือวลีที่ไม่ใช้เป็นหัวเรื่องไปยังคําหรือวลีที่ใช้เป็นหัวเรื่อง

4 xx ใช้หน้าคําหรือวลีที่มีความหมายสัมพันธ์กับหัวเรื่องใหญ่ แต่มีเนื้อหากว้างกว่ามาก

48 “รายงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้ง เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง หรือสร้างทฤษฎีใหม่ เป็นไปตามวิธีการและขั้นตอนการวิจัยตามลําดับ” คือความหมายของรายงานในข้อใด

(1) งานวิจัย

(2) รายงานทั่วไป

(3) วิทยานิพนธ์

(4) ภาคนิพนธ์

ตอบ 1 หน้า 236 237 งานวิจัย (Research Paper) เป็นรายงานการศึกษาค้นคว้าวิจัยในเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลึกซึ้ง โดยเป็นการค้นหาข้อเท็จจริง แสวงหาหลักการ หรือสร้างทฤษฎีใหม่ ทั้งนี้จะเป็นไปตามวิธีการและขั้นตอนการวิจัยตามลําดับ ได้แก่ การกําหนดปัญหา การตั้งสมมุติฐาน การรวบรวมข้อมูล การจัดระเบียบข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการหาข้อสรุป

49 ข้อใดไม่ใช่ข้อพิจารณาในการกําหนดเรื่องของรายงาน

(1) กําหนดเรื่องที่สนใจ

(2) กําหนดเรื่องที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

(3) กําหนดเรื่องที่กว้าง ต้องใช้เวลานานในการรวบรวมข้อมูล

(4) กําหนดเรื่องที่มีข้อมูลในแหล่งสารสนเทศต่าง ๆ ให้ค้นคว้า

ตอบ 3 หน้า 238 239 การกําหนดเรื่องหรือหัวข้อของรายงานมีข้อที่ควรพิจารณา ดังนี้

1 เลือกเรื่องที่น่าสนใจหรือชอบมากที่สุด และควรสอดคล้องกับวิชาที่กําลังศึกษาอยู่

2 เลือกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

3 เลือกเรื่องที่ใกล้ตัวเราหรือที่เราเกี่ยวข้องด้วย

4 เลือกเรื่องที่มีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้าได้อย่างเพียงพอหรืออยู่ในวิสัยที่สามารถทําได้

5 เลือกเรื่องที่มีขอบเขตไม่กว้างหรือไม่ยาวจนเกินไป เพื่อให้พอเหมาะกับกําหนดเวลาและขนาดของรายงาน

50 บทสัมภาษณ์ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกําธร เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จัดเป็นแหล่งข้อมูลประเภทใด

(1) แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ

(2) แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ

(3) แหล่งข้อมูลภูมิปัญญา

(4) แหล่งข้อมูลตติยภูมิ

ตอบ 1 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาท ต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวประวัติ บทสัมภาษณ์แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสารข่าวในหนังสือพิมพ์ ดรรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

51 การบันทึกลงบัตรรายการแบบลอกความ มีลักษณะข้อความอย่างไร

(1) ผู้ทํารายงานต้องให้คําอธิบายที่ได้ดีกว่าเนื้อหาเดิม

(2) ผู้ทํารายงานต้องดัดแปลงแนวคิดของผู้แต่งบางส่วน

(3) ผู้ทํารายงานใช้คําพูดของตนเอง งดเว้นการยกตัวอย่างการอธิบาย

(4) ผู้ทํารายงานต้องการใช้คําอธิบายตามเนื้อหาเดิม ไม่ดัดแปลงข้อความ

ตอบ 4 หน้า 257, 260 261 การบันทึกข้อมูลแบบลอกความ (Quotation) จะเหมาะกับข้อความหรือข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้ง เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ความหมายหรือคํานิยามในเชิงวิชาการ พระบรมราโชวาท พระราชบัญญัติ ข้อบังคับหรือคําสั่งของทางราชการ กวีนิพนธ์ และบทละคร ซึ่งมีข้อที่ควรระวัง คือ ต้องคัดลอกทุกอย่างให้เหมือนต้นฉบับ ตอนใดที่คัดลอกมาทั้งหมด ให้คร่อมไว้ด้วยเครื่องหมายอัญประกาศ (“ ”) แต่ถ้าหากคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้ใช้ เครื่องหมายจุด 3 จุด (..) ใส่ไว้ก่อนหรือหลังข้อความนั้น โดยบัตรบันทึกชนิดนี้จะกระทําเมื่อ

1 ผู้ทํารายงานไม่สามารถหาคําพูดได้ดีกว่าเนื้อหาเดิม

2 เนื้อหาเดิมได้วางระเบียบกฏเกณฑ์และวิธีการไว้อย่างดีแล้วจึงไม่ควรดัดแปลง

3 เนื้อหาเดิมบรรยายถึงแนวคิดของผู้แต่งจึงไม่ควรดัดแปลง

52 ข้อใดเป็นข้อมูลที่ไม่ควรอยู่ในการเรียบเรียงรายงาน

(1) ชื่อย่อของหน่วยงานราชการ

(2) ใช้ภาษาที่ถูกต้องอธิบายให้ชัดเจน

(3) จัดเรียงเนื้อหาในแต่ละส่วนให้มีความสัมพันธ์กัน

(4) แจ้งแหล่งที่มาของข้อมูลที่ใช้ประกอบการทํารายงาน

ตอบ 1 หน้า 263 264, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 337) ข้อควรพิจารณาในการเรียบเรียงรายงานฉบับร่าง มีดังนี้ 1 เรียบเรียงเนื้อหาของรายงานแต่ละส่วนให้มีความสัมพันธ์กันตามลําดับของโครงเรื่องและบัตรบันทึก โดยเนื้อหาไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป

2 เตรียมบัตรบรรณานุกรม บัตรบันทึกข้อมูล และพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคํา

3 ใช้ภาษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สั้นกระชับ สุภาพ และอธิบายทุกสิ่งให้ชัดเจน

4 ไม่ใช้อักษรย่อ ชื่อย่อ และคําย่อ

5 เมื่อคัดลอกงานคนอื่นมาให้เขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้องตามรูปแบบของสถาบันที่ส่งรายงาน โดยแสดงไว้หลังข้อความที่อ้าง และเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตลอดรายงาน

6 การใส่ตาราง ภาพประกอบ แผนภูมิ แผนที่ กราฟ ต้องระบุแหล่งที่มา โดยใช้แบบแผนเช่นเดียวกับเชิงอรรถ ฯลฯ

53 ข้อใดคือส่วนประกอบตอนต้นของรายงาน

(1) บรรณานุกรม

(2) คํานํา

(3) ภาคผนวก

(4) อภิธานศัพท์

ตอบ 2 หน้า 274 – 275, 305 ส่วนประกอบของรายงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

1 ส่วนประกอบตอนต้น ได้แก่ ปกนอก หน้าปกใน (หน้าชื่อเรื่อง) หน้าคํานํา หน้าสารบาญหรือสารบัญ และหน้าสารบัญภาพ

2 ส่วนที่เป็นเนื้อหา ได้แก่ บทนํา รายละเอียดของเนื้อหา และส่วนสรุป

3 ส่วนประกอบตอนท้าย ได้แก่ บรรณานุกรม ภาคผนวก อภิธานศัพท์ และปกหลัง 3

ข้อ 54 – 55 จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคําถาม

รุ่งรัตน์ แจ่มจันทร์. “พ้นซ์สมุนไพร” หมอชาวบ้าน 33 (เมษายน 2554) : หน้า 58 – 61.

54 ข้อมูลข้างต้นเป็นรายการบรรณานุกรมของทรัพยากรสารสนเทศประเภทใด

(1) หนังสือผู้แต่งคนเดียว

(2) บทความวารสาร

(3) บทความหนังสือพิมพ์

(4) บทสัมภาษณ์

ตอบ 2 หน้า 256, 276, 285 – 286 ข้อมูลข้างต้นเป็นรายการบรรณานุกรมของทรัพยากรสารสนเทศประเภทบทความวารสารตามคู่มือ Turabian ซึ่งมีแบบแผน คือ ชื่อผู้เขียนบทความ. “ชื่อบทความ” ชื่อวารสาร เล่มที่หรือปีที่, ฉบับที่ (เดือนและปี) : หน้า.

55 ข้อใดคือรูปแบบการเขียนอ้างอิงในเนื้อหาของบรรณานุกรมข้างต้น

(1) (รุ่งรัตน์ 2554, 58)

(2) (หมอชาวบ้าน 2554, 58)

(3) (แจ่มจันทร์ 2554, 58)

(4) (พ้นซ์สมุนไพร 2554, 58)

ตอบ 1 หน้า 264, 276, 286 การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม-ปี (Author-date) คือรายการอ้างอิงแบบในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) โดยใส่ชื่อผู้เขียนและปีที่พิมพ์พร้อมด้วยเลขหน้าไว้ในวงเล็บหลังข้อความที่คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง เช่น จากรายการบรรณานุกรมของบทความวารสารข้างต้น สามารถเขียนรายการอ้างอิงในวงเล็บ ที่แทรกลงไปในเนื้อหาตามคู่มือ Turabian คือ (ชื่อผู้เขียนบทความ ปีที่พิมพ์, เลขหน้า) ได้แก่(รุ่งรัตน์ 2554, 58)

56 ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น

(1) การค้า

(2) การทหาร

(3) การศึกษา

(4) การเกษตร

ตอบ 2 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 – 48), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งาน ด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของ หน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 ตัวอักษรย่อข้อใดที่แสดงถึงมาตรฐานการสื่อสารเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

(1) DNS

(2) FTP

(3) IP

(4) TCP

ตอบ 3, 4 (คําบรรยาย) มาตรฐานการสื่อสารที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะใช้ชุดโปรโตคอล TCP/IP ซึ่งประกอบด้วย

1 โปรโตคอล TCP (Transmission Control Protocol) เป็นมาตรฐานที่ใช้สําหรับควบคุมการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

2 โปรโตคอล IP (Internet Protocol) เป็นมาตรฐานที่ใช้สําหรับระบุตําแหน่งหรือที่อยู่ที่ไม่ซ้ำกันของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยตรวจสอบ แหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ระบบตัวเลข IP ประกอบด้วยตัวเลข 4 กลุ่มถูกคั่นด้วยจุด เช่น 128.56.48.12 เป็นต้น

58 จากอีเมล์แอดเดรส E-mail Address : [email protected] ส่วนใดอ้างถึงชื่อผู้ให้บริการอีเมล์

(1) peemasak

(2) yahoo.com

(3) @yahoo

(4) @yahoo.com

ตอบ 2 หน้า 311, (คําบรรยาย) จากโจทย์เป็นกลุ่มของ E-mail Address ซึ่งเป็นที่อยู่ประจําตัวของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ โดย E-mail Address ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ชื่อผู้ใช้บริการ, เครื่องหมาย @ และชื่อโดเมน (Domain Name) ของเครื่องแม่ข่ายที่เราใช้บริการอยู่ เช่น Thailand คือ ชื่อผู้ใช้ ส่วน yahoo.com คือ ชื่อโดเมนของเครื่องแม่ข่ายของผู้ให้บริการอีเมล์ เป็นต้น

59 ข้อใดหมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Web browser) สําหรับติดต่อสื่อสารระหว่างเว็บเพจและเครือข่ายเวิร์ลด์ไวด์เว็บ

(1) Google Chrome

(2) Windows

(3) Windows Network

(4) Adobe Acrobat

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 55) Web browser คือ โปรแกรมเฉพาะที่ใช้แสดงผลข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสําหรับการเข้าสู่บริการเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการเว็บไซต์ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่ออกมาใหม่ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด จากอินเทอร์เน็ตโดยตรงและไม่เสียค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเว็บบราวเซอร์ที่ใช้กันแพร่หลาย เช่น Internet Explorer, Netscape Navigator, Mozila Firefox, Google Chrome can

60 ข้อใดไม่ใช่เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์

(1) Wikipedia

(2) Facebook

(3) Twitter

(4) Line

ตอบ 1 (คําบรรยาย) เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเด่นหลักก็คือ ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สามารถ สื่อสารได้ในวงกว้างและหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ในปัจจุบัน มีโปรแกรมหรือเว็บไซต์ที่ใช้สําหรับ Social Network เช่น Facebook, Twitter, Linkedin, Line, MySpace, Hi5 ฯลฯ (ส่วนเว็บไซต์ Wikipedia เป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่)

LIS1003 การใช้ห้องสมุด s/2559

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2559

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว

1 ข้อใดไม่จัดอยู่ในประเภทของห้องสมุดประชาชน

(1) ห้องสมุดสวนลุมพินี

(2) ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี

(3) ห้องสมุดสยามสมาคม

(4) ห้องสมุดนีลสัน เฮย์

ตอบ 3 หน้า 26 – 27, 33 ห้องสมุดประชาชน หมายถึง ห้องสมุดที่ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการสารสนเทศครบทุกหมวดวิชาแก่ประชาชน โดยไม่จํากัดเพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา และพื้นฐานความรู้ ทั้งนี้เพื่อ ส่งเสริมให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่าน สามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย และเพื่อการศึกษาค้นคว้า ตลอดชีวิต ตัวอย่างของห้องสมุดประชาชน เช่น ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี, ห้องสมุดนีลสัน เฮย์,ห้องสมุดสวนลุมพินี เป็นต้น ส่วนห้องสมุดสยามสมาคม เป็นห้องสมุดเฉพาะสังกัดสมาคม)

2 แหล่งสารสนเทศในข้อใดที่เก็บรวบรวมเอกสารเก่าโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย และวิชาการ

(1) ศูนย์สารสนเทศ

(2) ห้องสมุดเฉพาะ

(3) พิพิธภัณฑ์

(4) หอจดหมายเหตุ

ตอบ 4 หน้า 36 หอจดหมายเหตุ เป็นหน่วยงานสารสนเทศที่จัดเก็บรวบรวมรักษาเอกสารจดหมายเหตุที่สําคัญ ๆ ไว้มากที่สุด เช่น เอกสารทางราชการ จดหมายโต้ตอบ บันทึกส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งเป็นเอกสารโบราณหรือเอกสารเก่าย้อนหลังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศหรือของทาง ราชการ หน่วยงานเอาชนและบุคคล ทั้งนี้เพื่อรวบรวมเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพื่อเป็นหลักฐาน อ้างอิงทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย วิชาการ หรือการค้นคว้าวิจัย และเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป เช่น หอจดหมายเหตุแห่งชาติ สังกัดกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ

3 ฝ่ายใดของสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหงที่ให้บริการจุลสาร

(1) ฝ่ายเทคนิค

(2) ฝ่ายวารสารและเอกสาร

(3) ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(4) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

ตอบ 2 หน้า 40 – 41 ฝ่ายวารสารและเอกสาร จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา พิจารณาคัดเลือกและประเมินคุณค่าวารสาร จัดทําดรรชนีและสาระสังเขปบทความจากวารสารและเอกสาร จัดทําบรรณานุกรมวารสาร รวมทั้งให้บริการวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ จุลสาร สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง และเอกสารทั่ว ๆ ไป ตลอดจนจัดทํากฤตภาคไว้ให้บริการ

4 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) หนังสือที่มีการจัดระบบหมวดหมู่

(2) หนังสือที่บริษัทบริจาคให้กับห้องสมุด

(3) หนังสือที่บริษัทเสนอขายให้กับห้องสมุด

(4) หนังสือที่บรรณารักษ์กําลังดําเนินการจัดซื้อ

ตอบ 1 หน้า 55, 76, 133 – 34 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด หมายถึง แหล่งสารสนเทศทุกรูปแบบที่ห้องสมุดได้คัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดระบบหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งตีพิมพ์บนแผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ วัสดุย่อส่วน สืออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภท พร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและ ช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

5 ข้อใดหมายถึงส่วนประกอบของหนังสือที่บอกให้ทราบถึงลําดับเนื้อหาของหนังสือในเล่ม

(1) หน้าปกหนังสือ

(2) หน้าสารบัญ

(3) หน้าลิขสิทธิ์

(4) หน้าคํานํา

ตอบ 2 หน้า 62 – 63 สารบาญหรือสารบัญ (Contents) เป็นส่วนประกอบของหนังสือที่ช่วยให้ผู้อ่านทราบถึงลําดับเนื้อหาของหนังสือในเล่ม และทําให้ทราบขอบเขตหรือโครงเรื่องของ หนังสือเล่มนั้นว่าแบ่งเป็นภาค เป็นตอน หรือเป็นบทอย่างไร อยู่หน้าไหน ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการค้นหาเรื่องที่ต้องการอย่างกว้าง ๆ

6 ข้อความที่ได้จากการหาเสียงของนักการเมืองท้องถิ่น จัดอยู่ในกลุ่มใด

(1) ข้อมูล

(2) ความรู้

(3) ปัญญา

(4) สารสนเทศ

ตอบ 1 หน้า 3, 5, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 3), (คําบรรยาย) ความหมายของคําว่า“ข้อมูล” และ “สารสนเทศ” มีดังนี้

1 ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจาก หนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบหรือข่าวลือ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การโฆษณาสินค้าการหาเสียงของนักการเมือง หรือการกล่าวหา/โจมตีคู่แข่งทางการเมือง เป็นต้น

2 สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิด ของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอดและเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เนื่องจากสามารถนํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้

7 ข้อใดกล่าวถึงเหตุการณ์สําคัญในการพัฒนาสื่อและแหล่งสารสนเทศได้ถูกต้อง

(1) สุเมเรียนเป็นชาติแรกที่ใช้อักษรคิวนิฟอร์มในการสื่อสาร

(2) กฎหมายตาต่อตา ฟันต่อฟัน เป็นผลงานของชาวอัสสิเรียน

(3) อียิปต์เป็นชาติที่สร้างห้องสมุดอเล็กซานเดรีย

(4) บาบิโลเนียนเป็นชาติแรกที่ผลิตแท่นพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 6 – 8 เหตุการณ์สําคัญในการพัฒนาสื่อและแหล่งสารสนเทศ มีดังนี้

1 สุเมเรียนเป็นชาติแรกที่คิดค้นอักษรรูปลิม “คิวนิฟอร์ม” บันทึกลงบนแผ่นดินเหนียว

2 บาบิโลเนียนมีกฎหมายเข้มงวด “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ซึ่งตราขึ้นโดยพระเจ้าฮัมมูราบี

3 กรีกได้สร้างห้องสมุดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ ห้องสมุดอเล็กซานเดรียในอียิปต์

4 โยฮัน กูเตนเบิร์ก ชาวเยอรมัน ประดิษฐ์แท่นพิมพ์สําเร็จเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1450 ฯลฯ

8 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการสร้างห้องสมุดและแหล่งสารสนเทศของไทย

(1) หอหลวงสร้างขึ้นเพื่อเก็บเอกสารของราชสํานัก

(2) หอพระมณเฑียรธรรมเป็นหอไตรสําหรับเก็บพระไตรปิฎก

(3) รัชกาลที่ 5 ได้สร้างหอพุทธสาสนสังคหะ

(4) รัชกาลที่ 7 ได้ย้ายหอสมุดแห่งชาติมายังท่าวาสุกรี

ตอบ 4 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 12) ในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ“หอพระสมุดวชิรญาณสําหรับพระนคร” มาเป็น “หอสมุดแห่งชาติ” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 9 ได้ย้ายหอสมุดแห่งชาติมาอยู่ที่ท่าวาสุกรี ถนนสามเสน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509

9 ผู้ที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนนําไปใช้ประโยชน์ แสดงว่ามีคุณสมบัติของนักปราชญ์ในข้อใด

(1) สุตตะ

(2) จินตะ

(3) ปุจฉา

(4) ลิขิต

ตอบ 2 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุ จิ ป ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ) คือ การรับฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือ และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การเต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึกข้อมูล

10 การค้นหาความหมายของคําจากพจนานุกรมต้องใช้วิธีการอ่านแบบใด

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างวิเคราะห์

(3) การอ่านเพื่อเก็บรายละเอียด

(4) การอ่านอย่างเจาะจง

ตอบ 4 หน้า 18 การอ่านอยางเฉพาะเจาะจง (Scanning) เป็นการอ่านเพื่อค้นหาคําตอบเฉพาะเรื่องซึ่งผู้อ่านไม่จําเป็นต้องเสียเวลาอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย แต่ให้ผู้อ่านกวาดสายตาไป ตลอดหน้ากระดาษเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ โดยการอ่านในลักษณะนี้มักจะนิยมใช้กับการค้นหาความรู้ จากหนังสืออ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น การค้นหาความหมายของคําจากหนังสือพจนานุกรม การอ่านค้นหาคําตอบจากหนังสือสารานุกรม, การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์การและสถาบันต่าง ๆในหนังสือนามานุกรม ฯลฯ

11 ข้อใดกล่าวถึงอภิธานศัพท์

(1) ส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือคําศัพท์เฉพาะ

(2) ส่วนที่ช่วยอธิบายข้อความบางตอนที่ปรากฏในเนื้อหา

(3) บัญชีรายชื่อหนังสือที่ปรากฏในท้ายเล่มของหนังสือ

(4) บัญชีคําหรือวลีที่ปรากฏในตอนท้ายของหนังสือ

ตอบ 1 หน้า 64 อภิธานศัพท์ (Glossary) เป็นส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือศัพท์เฉพาะที่ปรากฏในเนื้อเรื่องของหนังสือ มักมีในหนังสือที่ใช้ศัพท์มาก และมีลักษณะคล้ายเป็นพจนานุกรม ของหนังสือเล่มนั้น เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะในหนังสือเล่มนั้น โดยที่ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลาเปิดหาความหมายจากพจนานุกรม

12 ข้อใดเป็นส่วนประกอบสําคัญของวารสารที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

(1) รูปภาพและอักษรบนปก

(2) ภาพข่าวและรูปภาพ

(3) ความนำและอักษรบนปก

(4) พาดหัวข่าวและรูปภาพ

ตอบ 1 หน้า 65 ส่วนประกอบของวารสารมี 3 ส่วน คือ

1 ปกวารสาร (Cover) เป็นส่วนประกอบที่สําคัญ ซึ่งประกอบด้วย ชื่อวารสาร ฉบับที่ ปีที่ เดือน ปีและราคา แต่องค์ประกอบที่สําคัญที่สุดก็คือ รูปภาพ (เป็นภาพเขียนหรือภาพถ่ายก็ได้)และอักษรบนปก ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจวารสารแต่ละฉบับเพิ่มมากขึ้น

2 สารบาญหรือสารบัญ (Contents) บอกให้ทราบถึงลําดับของเนื้อเรื่องในฉบับ โดยมีชื่อเรื่อง ชื่อผู้เขียน เลขหน้า และรายการต่าง ๆ เกี่ยวกับวารสาร

3 คอลัมน์ต่าง ๆ (Columns) ซึ่งขึ้นอยู่กับวารสารแต่ละประเภท

13 วัดธรรมกายได้จัดพิมพ์แผ่นพับเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่สนใจ แผ่นพับจัดเป็นทรัพยากรสารสนเทศประเภทใด

(1) กฤตภาค

(2) จุลสาร

(3) วารสาร

(4) ต้นฉบับตัวเขียน

ตอบ 2 หน้า 66 67 จุลสาร (Pamphlets) เป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทันสมัยและอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไปในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความทาง วิชาการต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ หรือความรู้ที่หน่วยงานราชการ องค์การ วัดหรือสมาคมต่าง ๆ ต้องการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ อาจพิมพ์ออกเป็นเอกสารเล่มเล็กเดี่ยว ๆ หรือพิมพ์ เป็นตอน ๆ โดยรูปเล่มทั่วไปจะไม่มีการเข้าปกเย็บเล่มถาวร มีจํานวนหน้าไม่เกิน 60 หน้า ทั้งนี้อาจจะมีลักษณะเป็นแผ่นพับหรืออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “อนุสาร” (Brochure) ก็ได้

14 วิดีโอคลิปคําบรรยายของอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคําแหง จัดเป็นสือประเภทใด

(1) โสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) อิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง เทป แถบบันทึกเสียง ซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่ง แผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์ แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ไมโครฟิล์มเหมือนกับไมโครฟิชในลักษณะใด

(1) เป็นวัสดุย่อส่วนที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์

(2) เป็นวัสดุย่อส่วนที่มีขนาดเท่ากับบัตรรายการ

(3) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของบัตรทึบแสง

(4) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของฟิล์มโปร่งแสง

ตอบ 4 หน้า 54, 73 – 74, 77 – 78 วัสดุย่อส่วน (Micrographic or Microforms) หมายถึง วัสดุที่บันทึกสารสนเทศจากสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ วิทยานิพนธ์ จดหมายโต้ตอบ หนังสือหายาก ต้นฉบับตัวเขียน หรือเอกสารที่มีคุณค่าต่าง ๆ โดยวิธีการถ่ายย่อส่วนลงบน แผ่นฟิล์มขนาดเล็กเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บและป้องกันการฉีกขาดทําลาย ซึ่งแบ่งออก ได้เป็น 2 ประเภท คือ

1 ฟิล์มโปร่งแสง ได้แก่ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิช และบัตรอเพอเจอร์

2 บัตรทึบแสง ได้แก่ ไมโครการ์ด และไมโครพริ้นท์

16 Flash Drive บันทึกข้อมูลเหมือนกับสื่อประเภทใด

(1) จานแม่เหล็กชนิดอ่อน (Floppy Disk)

(2) จานแสง (Optical Disk)

(3) ซีดีรอม (CD-ROM)

(4) วีดิทัศน์ดิจิตอล (DVD)

ตอบ 1 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กเเบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป

2 จานแสง (Optical Disk) เช่น VCD, DVD, CD-ROM บันทึกฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการบันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ําหนักเบา สะดวก ในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 ข้อใดคือเครื่องมือช่วยค้นหาความรู้ที่พบได้ในพจนานุกรม

(1) คำนำทาง

(2) บรรณานุกรม

(3) สาระสังเขป

(4) ดรรชนี

ตอบ 1 หน้า 83 84 คํานําทาง (Guide Word หรือ Running Word) คือ คําหรืออักษรที่ปรากฏอยู่ตรงกลางหน้ากระดาษหรืออยู่ริมมุมหน้ากระดาษทุกหน้า โดยเฉพาะหนังสือประเภทพจนานุกรม และสารานุกรม เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยค้นหาความรู้ ซึ่งจะบอกให้ทราบว่าในหน้านั้น ๆ ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรตั้งแต่ตัวใดถึงตัวใด

18 ข้อใดจัดอยู่ในประเภทพจนานุกรมเฉพาะวิชา

(1) พจนานุกรมคําย่อภาษาไทย

(2) พจนานุกรมคําคะนอง

(3) พจนานุกรมคํายืมภาษาเขมรในภาษาไทย

(4) พจนานุกรมศัพท์พืชสมุนไพร

ตอบ 4 หน้า 85, 89 – 90, (คําบรรยาย) “พจนานุกรมเฉพาะวิชา คือ พจนานุกรมสําหรับค้นหาความหมายของคําที่ใช้ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์ฉบับปรับปรุงใหม่, พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์การแพทย์, พจนานุกรมศัพท์พืชสมุนไพร และพจนานุกรมรวมคําศัพท์ทางการศึกษา ซึ่งจะเห้ศัพท์ทั้งทางด้านจิตวิทยา สังคมวิทยา และปรัชญา เป็นต้น

19 สารานุกรมทั่วไปมีลักษณะเด่นอย่างไร

(1) ให้สาระความรู้พื้นฐานอย่างกว้าง ๆ

(2) มีรูปเล่มสวยงาม ขนาดใหญ่

(3) ให้เนื้อหาเชิงลึกเหมาะสําหรับการค้นคว้า

(4) มีรูปเล่มเล็ก ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก

ตอบ 1 หน้า 91 – 92, 95 สารานุกรม (Encyclopedia) หมายถึง หนังสือที่รวบรวมสาระความรู้หรือข้อเท็จจริงพื้นฐานในแขนงวิชาต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูลหรือความรู้ในรูปของบทความ โดยมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับไว้ที่ท้าย บทความ และจัดเรียงเนื้อหาตามลําดับตัวอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา ซึ่งอาจมีเล่มเดียวจบ หรือหลายเล่มจบที่เรียกว่า “หนังสือชุด” ส่วนใหญ่สารานุกรมจะมีภาพประกอบ และมีดรรชนีช่วยค้นเรื่อง (Fact Index) อยู่ตอนท้ายเล่ม หรือถ้าเป็นหนังสือชุดก็จะอยู่เล่มสุดท้าย

20 ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับอักขรานุกรมชีวประวัติ

(1) ให้ประวัติบุคคลทั้งผู้สิ้นชีวิตและยังมีชีวิตอยู่

(2) ให้ประวัติของบุคคลชาวต่างประเทศ

(3) ให้ประวัติบุคคลที่สิ้นชีวิตแล้วเท่านั้น

(4) ให้ประวัติบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น

ตอบ 1 หน้า 97 98 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญโดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิด หรือตาย (ในกรณีที่บุคคล เจ้าของชีวประวัติสิ้นชีวิตไปแล้ว) ที่อยู่ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าผู้ที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นได้ทําคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง

21 “รายชื่อโรงงานในประเทศไทย” จัดเป็นหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) สมพัตสร

(2) สารานุกรม

(3) นามานุกรม

(4) หนังสือรายปี

ตอบ 3 หน้า 102 – 103, 105 นามานุกรม (Directory) คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคล องค์การหรือหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับสถานที่อยู่หรือที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์สําหรับการติดต่อ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

1 นามานุกรมท้องถิ่น เช่น สมุดโทรศัพท์

2 นามานุกรมของรัฐ เช่น นามสงเคราะห์ส่วนราชการไทย

3 นามานุกรมสถาบัน เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้องสมุด ฯลฯ

4 นามานุกรมสาขาอาชีพ เช่น ทําเนียบกระทรวงยุติธรรม พุทธศักราช 2530

5 นามานุกรมการค้าและธุรกิจ เช่น รวมโรงงานอุตสาหกรรม

22 ต้องการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการดําเนินงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สามารถค้นได้จากหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) สมพัตสร

(2) สารานุกรม

(3) นามานุกรม

(4) หนังสือรายปี

ตอบ 4 หน้า 109 หนังสือรายปี (Yearbooks) เป็นหนังสือที่พิมพ์ออ เป็นรายปี โดยจะให้ข่าวสารข้อมูล เหตุการณ์ กิจกรรมความเคลื่อนไหว แนวโน้ม และความก้าวหน้าในด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ภายใน รอบปีหนึ่ง ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งจะเสนอในรูปของการพรรณนาความอย่างสั้น ๆ โดยมีตัวเลขสถิติ ประกอบด้วย แบ่งออกเป็น หนังสือรายปีของสารานุกรม หนังสือรายงานผลการดําเนินงานประจําปีของหน่วยงานต่าง ๆ หนังสือรายปีเฉพาะด้าน และสมุดสถิติรายปี

23 ลักษณะสําคัญและประโยชน์ของอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ตรงกับข้อใด

(1) แนะนําการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

(2) รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยว

(3) ให้คําจํากัดความของชื่อทางภูมิศาสตร์

(4) แสดงแผนที่ทางภูมิศาสตร์

ตอบ 3 หน้า 115 อักขรานารมภูมิศาสตร์ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลอย่างสังเขปเกี่ยวกับชื่อของสถานที่สําคัญทางภูมิศาสตร์ มีลักษณะคล้ายพจนานุกรมที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับชื่อและสถานที่ทางภูมิศาสตร์อย่างสั้น ๆ ให้คําอ่านและรายละเอียดอื่น ๆ ได้อย่างกระชับและน่าเชื่อถือที่สุด เช่น สถานที่ตั้ง ระยะทาง เส้นรุ้ง เส้นแวง ความตื้นลึกของทะเล ความสูงของภูเขา จํานวนผลผลิตทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จํานวนประชากร ตราประจําจังหวัด เป็นต้น

24 ต้องการรวบรวมบทความเกี่ยวกับ “ราชวงศ์ไทย” ควรใช้เครื่องมือในข้อใด

(1) ดรรชนีท้ายเล่ม

(2) ดรรชนีวารสาร

(3) ตรรชนีหนังสือพิมพ์

(4) ดรรชนีที่ห้องสมุดจัดทําขึ้นเอง

ตอบ 2 หน้า 120 ดรรชนีวารสาร เป็นเครื่องมือในการค้นหาบทความในวารสารแต่ละรายการโดยจะให้ชื่อผู้แต่ง ชื่อบทความ ชื่อวารสาร ฉบับที่ หน้า เดือน .ละปีที่จัดพิมพ์ ทั้งนี้ ดรรชนีวารสารสามารถแบ่งย่อยเด้อีก 3 ประเภท ได้แก่

1 ดรรชนีวารสารทั่วไป

2 ดรรชนีวารสารเฉพาะวิชา

3 ดรรชนีวารสารเฉพาะชื่อ

25 หนังสือบรรณานุกรมมีลักษณะอย่างไร

(1) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อสิ่งพิมพ์

(2) หนังสือที่รวบรวมบัญชีคําสําหรับสืบค้น

(3) หนังสือที่รวบรวมเนื้อหาสําคัญเฉพาะสาขาวิชา

(4) หนังสือที่รวบรวมบทคัดย่อ

ตอบ 1 หน้า 129 หนังสือบรรณานุกรม (Bibliography) เป็นหนังสืออ้างอิงที่รวบรวมรายชื่อหนังสือสิ่งพิมพ์ หรือทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ทั้งที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมี ทั้งที่จัดทําเป็นตัวเล่มหนังสือ หรืออาจปรากฏที่ท้ายเล่มหรือท้ายบทแต่ละบทเพื่อทําหน้าที่ เป็นเอกสารอ้างอิง โดยบรรณานุกรมจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อผู้แต่ง รายชื่อสิ่งพิมพ์ หรือทรัพยากรสารสนเทศรูปแบบอื่น ๆ รายชื่อผู้ผลิต (สํานักพิมพ์) สถานที่ผลิต ปีที่ผลิตลักษณะรูปเล่ม และราคา บางเล่มอาจมีบรรณนิทัศน์สังเขปและบทวิจารณ์ประกอบอยู่ด้วย

26 ข้อใดคือสัญลักษณ์แสดงกลุ่มเนื้อหาของหนังสือแต่ละเล่ม

(1) เลขหมู่

(2) เลขทะเบียน

(3) เลขเรียกหนังสือ

(4) เลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ

ตอบ 1 หน้า 157 เลขหมู่หนังสือ (Class Number) เป็นสัญลักษณ์ที่กําหนดขึ้นเพื่อแสดงกลุ่มเนื้อหาสาระของหนังสือและ/หรือประพันธ์วิธีของหนังสือแต่ละเล่ม ทั้งนี้อาจแตกต่างกันตามระบบการจัดหมู่หนังสือ

27 ข้อใดเป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่แบ่งสรรพวิทยาการออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้เลขอารบิก เป็นสัญลักษณ์

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(4) ระบบของคัตเตอร์

ตอบ 3 หน้า 151, 153 ระบบการจัดหม หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification :  DDC หรือ DC) เป็นระบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มี หนังสือทั่ว ๆ ไปหลายสาขาวิชาในจํานวนที่ไม่มากนัก เช่น ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดโรงเรียน เป็นต้น ซึ่งการจัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้จะเป็นแบบเชิงกว้าง โดยแบ่งสรรพวิทยาการในโลก ออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์แสดงเนื้อหาของหนังสือเป็นเลขอารบิก 3 หลัก ตั้งแต่ 100 – 000 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชี้เฉพาะยิ่งขึ้น

28 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจําแนกออกเป็นหมวดหมู่

(1) 20 หมวด

(2) 24 หมวด

(3) 26 หมวด

(4) 5 หมวด

ตอบ 1 หน้า 153 – 155 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification : LCC หรือ LC) เป็นระบบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีหนังสือเฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือมีหนังสือทั่วไปทุกประเภทเป็นจํานวนมาก เช่น ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยจะแบ่งเนื้อหาหนังสือออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์ในการจัดหมู่หรือเลขหมู่หนังสือเป็นแบบผสม คือ ใช้ตัวอักษรโรมัน A – Z (ยกเว้น I, 0, W, X, Y) แสดงเนื้อหาในหมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1 – 9999 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งแบ่งย่อยเรื่องอีกที่หนึ่ง

29 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือที่แบ่งสรรพวิทยาการออกเป็น 2 หมวดใหญ่

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 3 หน้า 155 – 156, (คําบรรยาย) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Library Medicine : NLM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ใช้กับ ห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยจะใช้อักษรโรมัน Q กับ W และเลขอารบิก เป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่แตกต่างในด้าน การจําแนกสรรพวิทยาการออกเป็น 2 หมวดใหญ่ คือ หมวด Qวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน และหมวด W วิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นระบบนี้จึงนิยมใช้กับห้องสมุด ของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น หอสมุดศิริราช, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ, ห้องสมุดคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ขอนแก่น, ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

30 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเลขเรียกหนังสือ

(1) เลขเรียกหนังสือประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ เลขหมู่หนังสือ เลขผู้แต่ง และอักษรชื่อเรื่อง

(2) เลขเรียกหนังสือเป็นสัญลักษณ์ที่ห้องสมุดกําหนดขึ้นให้กับหนังสือทุกเล่มในห้องสมุด

(3) การจัดเรียงหนังสือบนชั้นพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือ

(4) เลขเรียกหนังสือไม่สามารถบอกเนื้อหาภายในของหนังสือได้

ตอบ 4 หน้า 157, 159 – 161, (คําบรรยาย) เลขเรียกหนังสือ (Call Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดให้กับหนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด ซึ่งประกอบด้วย ส่วนสําคัญ ๆ 3 ส่วน คือ เลขหมู่หนังสือ เลขผู้แต่ง และอักษรชื่อเรื่อง (แต่ตราบางเล่มอาจ ประกอบด้วย เลขหมู่หนังสือ, เลขผู้แต่งและอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง, สัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น ปี พ.ศ. เล่มที่ ฉบับที่ ฯลฯ) ทั้งนี้หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดจะจัดเรียงอยู่บนชั้นตามลําดับของ เลขเรียกหนังสือ ซึ่งสามารถบอกเนื้อหาสาระภายในของหนังสือได้ โดยดูจากเลขหมู่หนังสือ(ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ)

31 จงเรียงหนังสือต่อไปนี้ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์

PE 507

.F26

1963

 

PE 31

.B73

1969

 

PE 31

.F66

1968

PE 113

.D82

1978

FE 31

.E6

1978

 

(1) จ ก ข คง

(2) ง ข อ ค ก

(3) ก จ ง ข )

(4) ข จ ค ง ก

ตอบ 4 หน้า 159 160 วิธีการจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอี้จะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก แต่ถ้าเลขหมู่ซ้ํากันก็ให้พิจารณาจากเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ ข จ คง ก)

32 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บสิ่งพิมพ์รัฐบาลของสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง

(1) จัดเก็บไว้ที่ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(2) จัดรวมกับสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

(3) จัดแยกเป็น Collection พิเศษ

(4) จัดหมวดหมู่เช่นเดียวกับหนังสือ

ตอบ 3 หน้า 131 132, 141, 166 167 สิ่งพิมพ์รัฐบาล หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่หน่วยงานราชการเป็นผู้รับผิดชอบในการพิมพ์ขึ้น ซึ่งสาระในเล่มอาจเป็นรายงานการปฏิบัติงาน รายงานประจําปี ร่างกฎหมายและมติต่าง ๆ ฯลฯ โดยสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ได้จัดเก็บ สิ่งพิมพ์รัฐบาลด้วยการแยกเป็นทรัพยากรลักษณะพิเศษ (Special Collection) และกําหนด ระบบการจัดหมู่ขึ้นโดยเฉพาะ คือ กําหนดอักษร GP (Government Publication) เพื่อเป็น สัญลักษณ์พิเศษของสิ่งพิมพ์รัฐบาลกํากับเหนือเลขเรียกหนังสือ หลังจากนั้นจึงจัดแยกสิ่งพิมพ์ ตามหน่วยงานรัฐบาลในระดับกระทรวง กรม กอง ฯลฯ

33 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง

(1) จัดเก็บไว้ในรูปไมโครฟิล์ม

(2) นําไปเย็บรวมเป็นเล่มเมื่อได้รับครบปี

(3) คัดเลือกหนังสือพิมพ์ฉบับสําคัญ ๆ ถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วน

(4) จัดเก็บไว้ระยะเวลาหนึ่งประมาณ 1 – 2 ปี แล้วคัดทิ้งไป

ตอบ 2 หน้า 169 ห้องสมุดโดยทั่วไปจะเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังไว้ระยะเวลาหนึ่งประมาณ 1 – 2 ปี แล้วคัดทิ้งไป แต่ห้องสมุดบางแห่งนิยมคัดเลือกและจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง ที่สําคัญ ๆ ด้วยการถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนแล้วเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม เพื่อรักษาสภาพและ ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง จะจัดเก็บ หนังสือพิมพ์ 10 ฉบับ ไว้ในรูปไมโครฟิล์ม ได้แก่ สยามรัฐ มติชน ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวพาณิชย์ มติชนรายสัปดาห์ สยามรัฐรายสัปดาห์ ประชาชาติ Bangkok Post และ The Nation

34 ข้อใดเป็นการจัดเก็บจุลสารที่ถูกต้อง

(1) จัดหมวดหมู่เช่นเดียวกับหนังสือ

(2) จัดเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องจัดเก็บเข้าแฟ้มเอกสาร

(3) จัดเรียงตามลําดับหัวเรื่องไว้บนชั้น

(4) จัดเก็บรวมไว้กับวารสารย้อนหลัง

ตอบ 2 หน้า 163, 170 171 วิธีการจัดเก็บจุลสารและกฤตภาคของห้องสมุดจะใช้วิธีเดียวกันส่วนมากนิยมจัดเก็บแยกออกจากวัสดุสารสนเทศอื่น ๆ คือ จัดเก็บโดยกําหนดหัวเรื่องกํากับไว้ ที่มุมบนของปก แล้วนําจุลสารและกฤตภาคที่มีหัวเรื่องเดียวกันเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม ปิดป้าย ชื่อหัวเรื่องที่แฟ้ม และนําแฟ้มไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บเอกสารเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องโดยที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่าแต่ละลิ้นชักมีแฟ้มเริ่มจากอักษรตัวใดถึงตัวใด

35 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมดที่เอื้อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว

(1) จัดเรียงใสตะแกรงพลาสติกตามลําดับหัวเรื่อง

(2) จัดเก็บไว้ในกล่องหรือตลับตามลําดับขนาด

(3) จัดเก็บในลิ้นชักตู้เหล็กตามลําดับเลขทะเบียน

(4) จัดเรียงไว้บนชั้นรวมไปกับหนังสือตามลําดับเลขหมู่

ตอบ 3 หน้า 177, 180, 351 วิธีจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้

1 จัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์ โดยห้องสมุดจะจัดเก็บไมโครฟิล์มทั้งที่เป็นชนิดม้วนและตลับด้วยการจัดทําป้าย ซึ่งประกอบด้วย เลขทะเบียน ชื่อเรื่อง ความยาว ความกว้าง ประเภท ของฟิล์ม และสัญลักษณ์ที่กําหนดเป็นเลขหมู่ติดไว้บนกล่องม้วนและตลับ แล้วจึงจัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2 จัดแยกไว้ในตู้ โดยห้องสมุดบางแห่งอาจนํากล่องหรือตลับไมโครฟิล์มที่ปิดป้ายมาแยกเป็นหมวดหมู่ แล้วเรียงตามลําดับเลขทะเบียนไว้ในลิ้นชักตู้เหล็ก หรือเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบบชั้นเก็บหนังสือ

36 ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการจัดเก็บซีดีรอม

(1) แยกเก็บไว้ในตู้เก็บตามหัวเรื่อง และจัดเรียงตามตัวอักษร

(2) จัดเก็บในระบบชั้นปิดตามเลขทะเบียน

(3) ให้เลขหมู่ตามโปรแกรมคําสั่งและเรียงบนชั้นแบบหนังสือ

(4) จัดเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบนชั้นหนังสือ

ตอบ 2 หน้า 163, 178, (คําบรรยาย) ห้องสมุดนิยมจัดเก็บซีดีรอม ซึ่งเป็นวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในระบบชั้นปิดตามเลขทะเบียน โดยแยกไว้ต่างหากจากทรัพยากรสารสนเทศอื่น ๆ และจะมีเจ้าหน้าที่ คอยหยิบให้เมื่อมีผู้ใช้มาขอรับบริการ โดยเจ้าหน้าที่จะเตรียมแผ่นซีดีรอมบรรจุเข้าเครื่องอ่านและเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ควบคู่กัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการ

37 เครื่องมือในข้อใดที่ห้องสมุดใช้เป็นเครื่องมือในการค้นหาทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุด

(1) รายการออนไลน์

(2) รายการแบบบัตร

(3) รายการบนวัสดุย่อส่วน

(4) รายการแบบพิมพ์รวมเล่ม

ตอบ 1 หน้า 190, 313, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 219) ในยุคปัจจุบันผู้ใช้ห้องสมุดสามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยใช้บัตรรายการแบบ ออนไลน์ (Online Catalog) คือ การบันทึกข้อมูลของหนังสือหรือทรัพยากรสารสนเทศของ ห้องสมุดไว้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบค้นคืนแบบออนไลน์ที่ใช้ค้นหารายการหนังสือในห้องสมุด เรียกว่า OPAC (Online Public Access Catalog) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้จากจอภาพ โดยเลือกใช้คําสั่งจากเมนูหลักที่กําหนดไว้

38 ข้อใดไม่ใช่ช่องทางในการสืบค้นหาหนังสือของห้องสมุด

(1) ผู้แต่งหนังสือ

(2) ผู้แต่งร่วม

(3) ผู้แปล

(4) ชื่อผู้ทํารายการ

ตอบ 4 หน้า 189, 194 – 200 บัตรรายการ เป็นเครื่องมือสําคัญอย่างหนึ่งที่บรรณารักษ์จัดทําขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการสืบค้นหาหนังสือของห้องสมุด แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ

1 บัตรหลักหรือบัตรยืนพื้น ได้แก่ บัตรผู้แต่ง ซึ่งจะบอกชื่อผู้แต่งหนังสือ หรือรายการหลัก

2 บัตรชื่อเรื่อง

3 บัตรหัวเรื่องหรือบัตรเรื่อง

4 บัตรแจ้งหมู่หรือบัตรทะเบียนหนังสือ นอกจากนี้ห้องสมุดยังมีการทําบัตรเพิ่มชนิดอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สืบค้นหนังสือจากจุดค้นได้หลาย ๆ จุด ได้แก่ บัตรผู้แต่งร่วม บัตรผู้แปล บัตรผู้วาดภาพ บัตรชื่อชุด และบัตรโยง

39 ส่วนใดของรายการที่ช่วยยืนยันความเป็นปัจจุบันของเนื้อหาหนังสือ

(1) ครั้งที่พิมพ์

(2) ปีที่พิมพ์

(3) เมืองที่พิมพ์

(4) สํานักพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 60, 193 ปีที่พิมพ์ (Date of Publication) คือ ปีที่ผลิตสิ่งพิมพ์นั้น หรือปีที่หนังสือแต่ละเล่มได้รับการจัดพิมพ์ เพื่อเสดงความเก่า ความเป็นปัจจุบัน และความทันสมัยของเนื้อหา ในหนังสือ ดังนั้นปีที่พิมพ์จึงมีความสําคัญเพราะจะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าเป็นหนังสือเก่าหรือใหม่ สําหรับหนังสือที่เป็นภาษาต่างประเทศจะนิยมลงรายการด้วยปีลิขสิทธิ์ (Copyright Date)โดยมีตัวอักษร C นําหน้าปี เช่น 1990

40 ส่วนใดของรายการที่ช่วยให้ทราบว่าหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

(1) หัวเรื่องในแนวสืบค้น

(2) สํานักพิมพ์

(3) ผู้แต่งจากรายการแจ้งความรับผิดชอบ

(4) ชื่อผู้แต่งร่วม

ตอบ 1 หน้า 193, 195, 214 แนวสืบค้น (Tracing) เป็นรายการที่บอกให้ทราบว่านอกจากบัตรยืนพื้นหรือบัตรหลักแล้ว ห้องสมุดได้ทําบัตรชนิดใดเพิ่มอีกบ้าง แนวสืบค้นมี 2 ส่วน ได้แก่

1 ส่วนที่เป็นหัวเรื่อง (Subject Headings) ได้แก่ บัตรหัวเรื่องหรือบัตรเรื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือเล่มนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

2 รายการเพิ่มต่าง ๆ เช่น บัตรผู้แต่งร่วม บัตรผู้แปล บัตรผู้วาดภาพประกอบ เป็นต้น

41 ข้อใดที่ไม่ปรากฏอยู่ในรายการหนังสือของห้องสมุด

(1) ความหนาของหนังสือ

(2) ส่วนสูงของหนังสือ

(3) น้ำหนักของหนังสือ

(4) สีของภาพประกอบ

ตอบ 3 หน้า 191, 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 220) ลักษณะวัสดุ หรือลักษณะรูปร่าง (Physical Description) เป็นรายการหนังสือของห้องสมุดที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะ รูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ได้แก่ จํานวนหน้า (ความหนาของหนังสือ) หรือ จํานวนเล่ม ภาพประกอบ (สีของภาพประกอบ) และส่วนสูงของหนังสือ เช่น V, 120 p. : it. (some cot.) ; 21 cm. หมายถึง หนังสือเล่มเดียวจบ (v = volume) มีทั้งหมด 120 หน้า (120 p.) มีภาพประกอบ (it. = illustration) สีบางส่วน (some col. = some color) และมีส่วนสูง 21 เซนติเมตร (21 cm.)

42 “ill.” ข้อความนี้ปรากฏในรายการมีประโยชน์สําหรับผู้ใช้อย่างไร

(1) แจ้งให้ทราบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่อยู่ในห้องสมุด

(2) หนังสือเล่มนี้ดําเนินการส่งซ่อม

(3) แจ้งให้ทราบว่าหนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบ

(4) หนังสือเล่มนี้อยู่ระหว่างดําเนินการสั่งซื้อ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 41 ประกอบ

43 “มีบรรณานุกรมและดรรชนีท้ายเล่ม” ข้อความนี้ปรากฏอยู่ส่วนใดของรายการ

(1) หมายเหตุ

(2) ลักษณะรูปร่าง

(3) การพิมพ์

(4) แนวสืบค้น

ตอบ 1 หน้า 193, (LIS 100: เลขพิมพ์ 57038 หน้า 221) หมายเหตุ (Notes) เป็นส่วนประกอบของบัตรรายการที่ให้ข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือนอกเหนือจากที่บอกไว้ในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบเพิ่มเติมว่าหนังสือเล่มนั้นมีบรรณานุกรมอยู่ท้ายเล่ม หรือมีดรรชนีอภิธานศัพท์ ภาคผนวก ฯลฯ เช่น บรรณานุกรม : หน้า 300 – 320

44 ข้อใดไม่ใช่ข้อที่ควรคํานึงถึงในการกําหนดเรื่องรายงาน

(1) เลือกเรื่องที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

(2) เลือกเรื่องที่มีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้าได้เพียงพอ

(3) เลือกเรื่องที่มีขอบเขตพอเหมาะกับเวลาที่กําหนด

(4) เลือกเรื่องใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีข้อมูลและข้อสรุปที่ชัดเจน

ตอบ 4 หน้า 238 239 การกําหนดเรื่องหรือหัวข้อของรายงานมีข้อที่ควรพิจารณา ดังนี้

1 เลือกเรื่องที่น่าสนใจหรือชอบมากที่สุด และควรสอดคล้องกับวิชาที่กําลังศึกษาอยู่

2 เลือกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

3 เลือกเรื่องที่ใกล้ตัวเราหรือที่เราเกี่ยวข้องด้วย

4 เลือกเรื่องที่มีแหล่งข้อมูลให้ค้นคว้าได้อย่างเพียงพอหรืออยู่ในวิสัยที่สามารถทําได้

5 เลือกเรื่องที่มีขอบเขตไม่กว้างหรือไม่ยาวจนเกินไป เพื่อให้พอเหมาะกับกําหนดเวลาและขนาดของรายงาน

45 การสัมภาษณ์ผู้ค้นพบผีเสื้อสายพันธุ์ใหม่ “ผีเสื้อรัตติสิริน” จัดเป็นแหล่งข้อมูลประเภทใด

(1) แหล่งข้อมูลภูมิปัญญา

(2) แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ

(3) แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ

(4) แหล่งข้อมูลฯ ยภูมิ

ตอบ 2 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาท ต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวปะวัติ บทสัมภาษณ์แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสารข่าวในหนังสือพิมพ์ ดรรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

46 การบันทึกลงบัตรรายการแบบลอกความ ใช้กับการบันทึกข้อมูลในข้อใด

(1) ผู้ทํารายงานต้องการข้อมูลอย่างสั้นจากข้อมูลเดิม

(2) ผู้ทํารายงานต้องการดัดแปลงแนวคิดของผู้แต่งบางส่วน

(3) ผู้ทํารายงานต้องการให้คําอธิบายที่ดีกว่าเนื้อหาเดิม

(4) ผู้ทํารายงานต้องการเนื้อหาเดิมที่ผู้แต่งบรรยายกฎเกณฑ์ไว้อย่างดีแล้ว

ตอบ 4 หน้า 257, 260 261 การบันทึกข้อมูลแบบลอกความ (Quotation) จะเหมาะกับข้อความหรือข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้ง เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ความหมายหรือคํานิยามในเชิงวิชาการ พระบรมราโชวาท พระราชบัญญัติ ข้อบังคับหรือคําสั่งของทางราชการ กวีนิพนธ์ และบทละคร ซึ่งมีข้อควรระวัง คือ ต้องคัดลอกทุกอย่างให้เหมือนต้นฉบับ ตอนใดที่คัดลอกมาทั้งหมด ให้คร่อมไว้ด้วยเครื่องหมายอัญประกาศ (“ ”) แต่ถ้าคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้ใช้ เครื่องหมายจุด 3 จุด (…) ใส่ไว้ก่อนหรือหลังข้อความนั้น โดยบัตรบันทึกชนิดนี้จะกระทําเมื่อ

1 ผู้ทํารายงานไม่สามารถหาคําพูดได้ดีกว่าเนื้อหาเดิม

2 เนื้อหาเดิมได้วางระเบียบกฎเกณฑ์และวิธีการไว้อย่างดีแล้วจึงไม่ควรดัดแปลง

3 เนื้อหาเดิมบรรยายถึงแนวคิดของผู้แต่งจึงไม่ควรดัดแปลง

47 ข้อใดเป็นข้อมูลที่ไม่ควรอยู่ในการเรียบเรียงรายงาน

(1) ชื่อย่อของหน่วยงานราชการ

(2) ใช้ภาษาที่สุภาพ

(3) จัดเรียงข้อมูลตามลําดับโครงเรื่อง

(4) บอกแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้อง

ตอบ 1 หน้า 263 – 264, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 337) ข้อควรพิจารณาในการเรียบเรียงรายงานฉบับร่าง มีดังนี้

1 เรียบเรียงเนื้อหาของรายงานตามลําดับของโครงเรื่องและบัตรบันทึก โดยเนื้อหาไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป

2 เตรียมบัตรบรรณานุกรม บัตรบันทึกข้อมูล และพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคํา

3 ใช้ภาษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สั้นกระชับ สุภาพ และอธิบายทุกสิ่งให้ชัดเจน

4 ไม่ใช้อักษรย่อ ชื่อย่อ และคําย่อ

5 เมื่อคัดลอกงานคนอื่นมาให้เขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้องตามรูปแบบของสถาบันที่ส่งรายงาน โดยแสดงไว้หลังข้อความที่อ้าง และเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตลอดรายงาน

6 การใส่ตาราง ภาพประกอบ แผนภูมิ แผนที่ กราฟ ต้องระบุแหล่งที่มา โดยใช้แบบแผนเช่นเดียวกับเชิงอรรถ ฯลฯ

48 ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบตอนท้ายของรายงาน

(1) บรรณานุกรม

(2) คํานํา

(3) ภาคผนวก

(4) อภิธานศัพท์

ตอบ 2 หน้า 274 275, 306 ส่วนประกอบของรายงาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

1 ส่วนประกอบตอนต้น ได้แก่ ปกนอก หน้าปกใน (หน้าชื่อเรื่อง) หน้าคํานํา หน้าสารบาญหรือสารบัญ และหน้าสารบัญภาพ

2 ส่วนที่เป็นเนื้อหา ได้แก่ บทนํา รายละเอียดของเนื้อหา และส่วนสรุป

3 ส่วนประกอบตอนท้าย ได้แก่ บรรณานุกรม ภาคผนวก อภิธานศัพท์ และปกหลัง

49 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

(1) หัวเรื่อง คือ ศัพท์ควบคุมในระบบสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด

(2) LCSH คือ บัญชีศัพท์หัวเรื่องภาษาอังกฤษ

(3) google ใช้คําศัพท์ควบคุมในการสืบค้นข้อมูล

(4) ห้องสมุดใช้บัญชีศัพท์ควบคุมภาษาไทยกับระบบสืบค้นข้อมูลภาษาไทย

ตอบ 3 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 – 252, 262) ความแตกต่างระหว่างหัวเรื่องกับคําสําคัญ มีดังนี้

1 หัวเรื่อง คือ คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ ซึ่งถือเป็นศัพท์ควบคุมที่ใช้ในระบบการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด เพราะบรรณารักษ์จะเลือกคําหรือวลีจาก บัญชีหัวเรื่องมาตรฐานชื่อใดชื่อหนึ่ง เช่น บัญชีหัวเรื่อง LCSH สําหรับหนังสือภาษาอังกฤษ ในห้องสมุดขนาดใหญ่, บัญชีหัวเรื่องภาษาไทยโดยชมรมบรรณารักษ์ห้องสมุดอุดมศึกษาสําหรับสืบค้นข้อมูลหนังสือและทรัพยากรสารสนเทศอื่น ๆ ที่เป็นภาษาไทย ฯลฯ

2 คําสําคัญ คือ คําศัพท์อิสระที่ผู้ใช้คิดขึ้นเอง เพื่อใช้ในระบบการสืบค้นสารสนเทศออนไลน์ของห้องสมุดและอินเทอร์เน็ต ได้แก่ การใช้ Search Engine เช่น google, yahoo ฯลฯ

50 สัญลักษณ์ในข้อใดที่ใช้คั่นหัวเรื่องประเภทคํานามสลับคําคุณศัพท์

(1) จุลภาค ,

(2) ขีดกลางสองขีด –

(3) อัฒภาค ;

(4) ทวิภาค :

ตอบ 1 หน้า 223 224, 223 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

1 คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

2 คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and”, “กับ”, “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปในทางเดียวกัน เช่น ชุมชนกับโรงเรียน บิดาและมารดา Libraries and readers ฯลฯและที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and evill ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ( , ) คั่นกลางและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายชัดขึ้น เช่น Art, abstract ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

51 “ชีวิตชนบท” จัดเป็นหัวเรื่องประเภทใด

(1) คํานามคําเดียวโดด ๆ

(2) คําผสม

(3) กลุ่มคํา

(4) คําคู่

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 50. ประกอบ

52 อักษรย่อ “UP” ในบัญชีหัวเรื่องมีความหมายอย่างไร

(1) คําที่ไม่ใช้เป็นหัวเรื่อง

(2) คําที่เพิ่มเข้ามาใหม่

(3) คําสัมพันธ์ที่กว้างกว่า

(4) คําสัมพันธ์ที่แคบกว่า

ตอบ 1 หน้า 225 – 227, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 256) บัญชีหัวเรื่องมาตรฐาน LCSH ฉบับปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้สัญลักษณ์บางตัวเพื่อกําหนดความสัมพันธ์ของคําที่ใช้เป็นหัวเรื่อง ดังนี้

1 BT (Broader Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายกว้างกว่า

2 NT (Narrower Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายแคบกว่า

3 RT (Related Term) คือ หัวเรื่องที่สัมพันธ์กับคําหลักหรือใช้แทนกันได้

4 UF (Use For) คือ หัวเรื่องที่ไม่กําหนดให้ใช้แล้ว

5 USE คือ หัวเรื่องที่กําหนดให้ใช้

6 — คือ หัวเรื่องย่อย

53 “รายงานที่เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลการศึกษาวิชานั้น ๆ” คือความหมายของรายงานในข้อใด

(1) ภาคนิพนธ์

(2) วิทยานิพนธ์

(3) รายงานทั่วไป

(4) งานวิจัย

ตอบ 1 หน้า 237 รายงานประจําวิชาหรือภาคนิพนธ์ เป็นการศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริงจากแหล่งทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วนําข้อมูลที่ได้มารวบรวมและเรียบเรียง อย่างมีแบบแผนจนเกิดเป็นผลงานใหม่ ทั้งนี้ได้มีการเสนอแนวคิดของผู้ทํารายงานและแสดง หลักฐานอ้างอิงประกอบด้วย ซึ่งรายงานภาคนิพนธ์นี้นับเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการศึกษาของวิชาใดวิชาหนึ่ง

54 ข้อใดคือรายการบรรณานุกรมของหนังสือผู้แต่ง 2 คน

(1) แบตทีล, จอห์น. “เดอะเสิรซ” อุบัติการณ์แห่งอนาคตของมนุษยชาติ. แปลโดย ไพรัตน์ พงษ์พานิชย์, กรุงเทพฯ : มติชน, 2550.

(2) ธนัญญา สินมหัต. สนุกกับ Facebook. บรรณาธิการ ประภาพร ช่างไม้, นนทบุรี : ไอดีซี, 2552.

(3) วิลาส ลําเลิศวัฒน์ และนฤมล ตั้งตรีรัตน์, TV ออนไลน์ ทําเองได้ง่ายนิดเดียว. กรุงเทพฯ :โปรวิชัน, 2551.

(4) ศรีศักดิ์ จามรมาน และคนอื่น ๆ รอบรู้เรื่องอินเทอร์เน็ตแบบกราฟิกพิเศษ, กรุงเทพฯ :บริษัท ออนไลน์ แอคเวอร์ไทซิง โกลด์ไซท์, 2537.

ตอบ 3 หน้า 254 – 255, 276 – 278 รากตัวเลือกข้างต้น ใช้รูปแบบการเขียนรายการบรรณานุกรมสําหรับหนังสือตามคู่มือ Turabian ซึ่งมีแบบแผนการเขียนรายการอ้างอิงที่ถูกต้อง ดังนี้

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ : สํานักพิมพ์, ปีที่พิมพ์

ในกรณีที่หนังสือมีผู้แต่ง 2 คน ให้ลงชื่อผู้แต่งคนแรก ตามด้วย “และ” (หรือ “and” ถ้าหาก ผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติ) จากนั้นให้ลงชื่อผู้แต่งคนที่ 2 โดยไม่ต้องใส่คํานําหน้าชื่อ ตําแหน่งทาง วิชาการหรือวิชาชีพ เช่น วิลาส ล้ำเลิศวัฒน์ และนฤมล ตั้งตรีรัตน์, TV ออนไลน์ ทําเองได้ง่ายนิดเดียว. กรุงเทพฯ :โปรวิชั่น, 2551

55 ข้อใดคือการเขียนอ้างอิงในวงเล็บของบทความวารสารรายการนี้

สุชาติ ประสิทธิ์รัฐสินธุ์ “ทําวิจัยให้ดี ทําอย่างไร” ช.บ.อ.สาร 18 กันยายน – ธันวาคม 2541) : 31 – 47.

(1) (สุชาติ 2541, 31)

(2) (สุชาติ 18, 31 – 37)

(3) (สุชาติ 2541, 18)

(4) (สุชาติ 2541, 18 ก.ย. – ธ.ค.)

ตอบ 1 หน้า 256, 264, 276 286 การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม-ปี (Author-date) คือ รายการอ้างอิงแบบในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) โดยใส่ชื่อผู้เขียนและ ปีที่พิมพ์พร้อมด้วยเลขหน้าไว้ในวงเล็บหลังข้อความที่คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง เช่น จากรายการบรรณานุกรมของบทความวารสารตามคู่มือ Turabian ข้างต้น ซึ่งมีแบบแผน คือ ชื่อผู้เขียนบทความ. “ชื่อบทความ” ชื่อวารสาร เล่มที่หรือปีที่, ฉบับที่ (เดือนและปี) : หน้า สามารถเขียนรายการอ้างอิงในวงเล็บของบทความวารสารรายการนี้ตามคู่มือ Turabian คือ (ชื่อผู้เขียนบทความ ปีที่พิมพ์, เลขหน้า) ได้แก่ สุชาติ 2541, 31)

56 การกําเนิดอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้นมีความสัมพันธ์ตรงกับข้อใด

(1) อังกฤษ

(2) ฝรั่งเศส

(3) สหรัฐอเมริกา

(4) จีน

ตอบ 3 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 – 48), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหม ของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งาน ด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของ หน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 บริการรับ-ส่งข่าวสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เฉพาะที่เรียกว่า

(1) เว็บบราวเซอร์

(2) เว็บมาสเตอร์

(3) เว็บบอร์ด

(4) กูเกิล

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 46, 55), (คําบรรยาย) web browser คือ ซอฟต์แวร์และโปรแกรมเฉพาะที่ใช้เสดงผลข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสําหรับการเข้าสู่บริการเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถใช้บริการเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเว็บบราวเซอร์สามารถใช้เปิดเอกสาร ไฮเปอร์เท็กซ์ หรือเปิดดูสื่อต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยภาพและเสียง รวมทั้งสามารถเชื่อมโยง การรับ-ส่งข่าวสารบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ ตัวอย่างของเว็บบราวเซอร์ เช่น Internet Explorer, Netscape Navigator, Mozila Firefox และ Google Chrome เป็นต้น

58 ข้อใดหมายถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งส่วนรัฐบาลและเอกชน

(1) URL

(2) DNS

(3) ISP

(4) @yahoo.com

ตอบ 3 หน้า 310, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 49) ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยใช้บริการผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภาคเอกชน หรือเชิงพาณิชย์ เช่น บริษัท True Corporation  (Asia InfoNet), Samart, TT&T เป็นต้น

2 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภาครัฐ เช่น หน่วยงานราชการ หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่คุณภาพของบริการอาจไม่เท่ากับของภาคเอกชน

59 Search Engine หมายถึง

(1) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล WebOPAC

(2) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศออนไลน์

(3) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล OPAC

(4) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศฐานข้อมูล E-book

ตอบ 2 หน้า 313, (คําบรรยาย) Search Engine คือ เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศออนไลน์จากฐานข้อมูลเว็บไซต์ (Websites) ที่ให้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ Search Engine จะแสดงรายการสารบาญและช่องว่างให้เติมคําที่ต้องการสืบค้น จากนั้นให้ผู้ใช้ป้อนคํา ข้อความ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการค้นหา ก็สามารถหาเว็บไซต์ที่ต้องการหรือรายชื่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา ใกล้เคียงกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่ง Search Engine ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ www.google.com, www.attavista.com, www.metacrawler.com เป็นต้น

60 ข้อใดหมายถึงเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์

(1) Wikipedia

(2) Line

(3) E-mail

(4) Google

ตอบ 2 (คําบรรยาย) เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเด่นหลักคือ ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารได้ ในวงกว้างและหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ในปัจจุบันมีโปรแกรม หรือเว็บไซต์ที่ใช้สําหรับ Social Network เช่น Facebook, Twitter, Linkedin, Line, MySpace, Hi5 ฯลฯ

LIS1003 การใช้ห้องสมุด 1/2559

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2559

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว

1 ข้อใดกล่าวถึงการใช้ข้อมูลและสารสนเทศได้ถูกต้องที่สุด

(1) แดงเลิกกับแฟนเพราะเชื่อหมอดู

(2) มนัสใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตามคําแนะนําของเจ้าหน้าที่เกษตรอําเภอ

(3) สมศรีชอบซื้อของตามโฆษณาผ่านไลน์

(4) รัฐบาลทําพิธีเสริมดวงตามคําแนะนําของโหรชื่อดัง

ตอบ 2 หน้า 3, 5, (คําบรรยาย) คําว่า “สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอด และเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เนื่องจาก สามารถนํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้ ส่วนคําว่า “ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจากหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบ ข่าวลือ การโฆษณาสินค้า ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การกล่าวหา/โจมตีคู่แข่งทางการเมือง เป็นต้น

2 อักษรคูนิฟอร์มเริ่มใช้งานในสมัยใด

(1) สุเมเรียน

(2) อียิปต์

(3) กรีก

(4) อัสสิเรียน

ตอบ 1 หน้า 6 – 7 ชาวสุเมเรียน ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ตามลุ่มน้ําไทกริสและยูเฟรติสของเมโสโปเตเมียเมื่อประมาณ 3,100 B.C. ถือเป็นชนชาติแรกที่รู้จักนําเอาเหตุการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ บันทึกลงบนแผ่นดินเหนียวด้วยอักษรรูปลิ่มหรือที่เรียกว่า “อักษรคูนิฟอร์ม” (Cuneiform) ต่อมาประมาณ 2,700 B.C. ชาวสุเมเรียนเริ่มจัดตั้งห้องสมุดอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมืองเทลเลาะห์ (Telloh) ประเทศอิรัก

3 หอพระมณเฑียรธรรมเกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) วัดเบญจมบพิตร

(2) วัดมหาธาตุ

(3) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

(4) วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ตอบ 4 หน้า 10 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้สร้างหอพระมณเฑียรธรรมขึ้นกลางสระน้ำ ตรงมณฑปของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2326 เพื่อใช้เป็นที่เก็บคัมภีร์พระไตรปิฎก ดังนั้นจึงนับได้ว่าหอพระมณเฑียรธรรมทําหน้าที่เป็นหอสมุดแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์

4 “แดงติดตามข่าวผ่านไลน์อย่างต่อเนื่อง” แสดงว่าแดงมีคุณสมบัติของนักปราชญ์ในข้อใด

(1) สุตตะ

(2) จินตะ

(3) ปุจฉา

(4) ลิขิต

ตอบ 1 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุ จิ ปุ ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ) คือ การรับฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือ และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การไต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึกข้อมูล

5 ข้อใดคือการอ่านที่ใช้สําหรับการค้นหาคําตอบจากหนังสือพจนานุกรม

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างเจาะจง

(3) การอ่านเพื่อศึกษารายละเอียด

(4) การอ่านอย่างวิเคราะห์

ตอบ 2 หน้า 18 การอ่านอย่างเฉพาะเจาะจง (Scanning) เป็นการอ่านเพื่อค้นหาคําตอบเฉพาะเรื่องซึ่งผู้อ่านไม่จําเป็นต้องเสียเวลาอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย แต่ให้ผู้อ่านกวาดสายตา ไปตลอดหน้ากระดาษเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ โดยการอ่านในลักษณะนี้มักจะนิยมใช้กับการค้นหา ความรู้จากหนังสืออ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น การค้นหาความหมายของคําจากหนังสือพจนานุกรม การอ่านค้นหาคําตอบจากหนังสือสารานุกรม, การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์การและสถาบันต่าง ๆในหนังสือนามานุกรม ฯลฯ

6 ห้องสมุดในข้อใดที่ไม่อนุญาตให้ยืมหนังสือออกนอกห้องสมุด

(1) ห้องสมุดโรงเรียน

(2) ห้องสมุดมหาวิทยาลัย

(3) หอสมุดแห่งชาติ

(4) ห้องสมุดเฉพาะ

ตอบ 3 หน้า 27 หอสมุดแห่งชาติ เป็นแหล่งค้นคว้าที่สําคัญระดับชาติ โดยให้บริการความรู้แก่ประชาชนทั่วไปไม่จํากัดเพศวัย เชื้อชาติ ศาสนา และพื้นฐานความรู้ ซึ่งจะให้บริการเช่นเดียวกับ ห้องสมุดประชาชน แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ยืมหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ และโสตทัศนวัสดุออกนอกห้องสมุด

7 ข้อใดกล่าวถึงหอจดหมายได้ถูกต้องที่สุด

(1) แหล่งรวบรวมเอกสารเก่าที่มีคุณค่า

(2) สถานที่รวบรวมสิ่งของโบราณ

(3) แหล่งสารสนเทศที่จัดตั้งขึ้นในพระราชวัง

(4) สถานที่จัดแสดงงานศิลปะชั้นเลิศ

ตอบ 1 หน้า 36 หอจดหมายเหตุ เป็นหน่วยงานสารสนเทศที่จัดเก็บรวบรวมรักษาเอกสารจดหมายเหตุที่สําคัญ ๆ ไว้มากที่สุด เช่น เอกสารทางราชการ จดหมายโต้ตอบ บันทึกส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งเป็น เอกสารโบราณหรือเอกสารเก่าย้อนหลังที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศหรือของทาง ราชการ หน่วยงานเอาชนและบุคคล ทั้งนี้เพื่อรวบรวมเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพื่อเป็นหลักฐาน อ้างอิงทางประวัติศาสตร์ กฎหมาย วิชาการ หรือการค้นคว้าวิจัย และเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป เช่น หอจดหมายเหตุแห่งชาติ สังกัดกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ

8 ฝ่ายใดของสํานักหอสมุดกลาง ม.ร. ที่ให้บริการหนังสือพิมพ์ฉบับสมบูรณ์ย้อนหลังกว่า 10 ปี

(1) ฝ่ายวารสารและเอกสาร

(2) ฝ่ายบริการสารสนเทศ

(3) ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(4) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

ตอบ 3 หน้า 41, 169 ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์ มีหน้าที่พิจารณาคัดเลือกเอกสารสิ่งพิมพ์ที่มีคุณค่าและหายากเพื่อถ่ายไมโครฟิล์ม เช่น หนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังที่จัดเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม ฯลฯ นอกจากนี้ยังให้บริการตอบคําถามและช่วยการศึกษาค้นคว้าจากไมโครฟอร์ม แนะนําวิธีใช้ ไมโครฟอร์มและโสตทัศนวัสดุต่าง ๆ บริการให้ยืมโสตทัศนวัสดุทุกประเภท เช่น แถบวีดิทัศน์บริการฉายสไลด์ ฟิล์มสตริปและภาพยนตร์ รวมทั้งจัดทําบรรณานุกรมวัสดุไม่ตีพิมพ์ต่าง ๆ

9 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ตัวแทนจําหน่ายขายกับห้องสมุด

(2) ฐานข้อมูลออนไลน์ที่บริษัทให้ทดลองใช้ฟรีกับห้องสมุด

(3) ฐานข้อมูลออนไลน์ที่บริษัทสาธิตและอบรมกับบรรณารักษ์

(4) ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดเป็นสมาชิกและพร้อมให้บริการ

ตอบ 4 หน้า 55, 76, 133 – 134 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด หมายถึง แหล่งสารสนเทศทุกรูปแบบที่ห้องสมุดได้คัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดเก็บรวบรวมอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งตีพิมพ์บนแผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภท พร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

10 หน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจเข้าด้วยกันเพื่อเข้าถึงสารสนเทศที่ต้องการคล้ายกับส่วนใดของหนังสือมากที่สุด

(1) หน้าปกหนังสือ

(2) หน้าสารบัญ

(3) หน้าลิขสิทธิ์

(4) หน้าคํานํา

ตอบ 2 หน้า 58, 62 – 63, (คําบรรยาย) โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ ดังนั้นโฮมเพจจึงคล้ายกับส่วนประกอบของหนังสือ ดังนี้

1 ในแง่ของเว็บเพจแรกที่บอกว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาสําคัญอะไรบ้าง โฮมเพจ จะคล้ายกับหน้าปกหนังสือ

2 ในแง่ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้ Link ไปยังเว็บเพจต่าง ๆ เพื่ออ่านข้อมูล โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าสารบัญของหนังสือ

11 ข้อใดกล่าวถึงอภิธานศัพท์ของหนังสือได้ชัดเจนที่สุด

(1) ส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือคําศัพท์เฉพาะของหนังสือเล่มนั้น

(2) ส่วนที่ช่วยอธิบายคําหรือข้อความบางตอนที่ปรากฏในเนื้อหา

(3) บัญชีรายชื่อหนังสือที่ปรากฏในท้ายเล่มของหนังสือ

(4) บัญชีคําหรือวลีที่ปรากฏในตอนท้ายของหนังสือ

ตอบ 1 หน้า 64 อภิธานศัพท์ (Glossary) เป็นส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือศัพท์เฉพาะที่ปรากฏในเนื้อเรื่องของหนังสือ มักมีในหนังสือที่ใช้ศัพท์มาก และมีลักษณะคล้ายเป็นพจนานุกรม ของหนังสือเล่มนั้น เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะในหนังสือเล่มนั้น โดยที่ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลาเปิดหาความหมายจากพจนานุกรม

12 ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบสําคัญในหน้าปกของหนังสือพิมพ์ที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

(1) สารบัญข่าว

(2) ภาพข่าว

(3) ความนํา

(4) พาดหัวข่าว

ตอบ 1 หน้า 65 – 66 ส่วนประกอบหลักที่สําคัญของหนังสือพิมพ์มี 3 ส่วน ได้แก่

1 พาดหัวข่าว (Heacline) เป็นอักษรตัวดําหนาขนาดใหญ่เรียงอยู่ส่วนบนสุดของหน้ากระดาษซึ่งจะเป็นข้อความสั้น ๆ ที่สรุปสาระสําคัญที่มีอยู่ในเนื้อข่าว ถือเป็นส่วนที่สะดุดตาผู้อ่านและจูงใจให้อยากรู้รายละเอียดของข่าวสารมากที่สุด

2 ความนํา (Lead) หรือวรรคนําหรือโปรยข่าว เป็นย่อหน้าแรกของข่าวแต่ละข่าว ซึ่งจะเป็นประโยคสั้น ๆ ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านให้ติดตามอ่านข่าวตลอดทั้งเรื่อง

3 ภาพข่าวหรือภาพถ่าย (Photographs) เป็นส่วนประกอบที่น่าสนใจมากที่สุด เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังช่วยจัดหน้าหนังสือพิมพ์ให้น่าอ่านอีกด้วย

13 ข้อใดคือทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดที่ให้สาระเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้คนในช่วงเวลานั้น ๆ

(1) กฤตภาค

(2) จุลสาร

(3) วารสาร

(4) ต้นฉบับตัวเขียน

ตอบ 2 หน้า 66 – 67 จุลสาร (Pamphlets) เป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทันสมัยและอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไปในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความทางวิชาการ ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ หรือความรู้ที่หน่วยงานราชการ องค์การ หรือสมาคมต่าง ๆ ต้องการเผยแพร่ ให้ประชาชนทราบ อาจพิมพ์ออกเป็นเอกสารเล่มเล็กเดี่ยว ๆ หรี พิมพ์เป็นตอน ๆ โดยรูปเล่ม ทั่วไปจะไม่มีการเข้าปกเย็บเล่มถาวร มีจํานวนหน้าไม่เกิน 60 หน้า ทั้งนี้อาจจะมีลักษณะเป็นแผ่นพับหรืออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “อนุสาร” (Brochure) ก็ได้

14 นักศึกษาต้องการเรียนด้วยตัวเองตามอัธยาศัยโดยศึกษาจากวิดีโอย้อนหลัง จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) โสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) อิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง แถบบันทึกเสียง เทปซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่งแผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ห้องสมุดนิยมอนุรักษ์เนื้อหาสาระจากหนังสือพิมพ์เก่าไว้เพื่อการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบใด

(1) ไมโครฟิล์ม

(2) ไมโครฟิช

(3) Winzipdata

(4) Metadata

ตอบ 1 หน้า 169 ห้องสมุดโดยทั่วไปนิยมคัดเลือกและจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังที่สําคัญ ๆด้วยการถ่ายเป็นวัสดุยอส่วนแล้วเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม เพื่อรักษาสภาพเป็นการสงวนรักษา หนังสือพิมพ์และประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง จะจัดเก็บหนังสือพิมพ์ 10 ฉบับไว้ในรูปไมโครฟิล์ม ได้แก่ สยามรัฐ มติชน ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวพาณิชย์ มติชนรายสัปดาห์ สยามรัฐรายสัปดาห์ ประชาชาติ Bangkok Post และ The Nation

16 สื่อ USB Flash Drive ใช้วิธีการบันทึกข้อมูลเช่นเดียวกับสื่อในข้อใด

(1) จานแม่เหล็กชนิดอ่อน (Floppy Disk)

(2) จานแสง (Optical Disk)

(3) ซีดีรอม (CD-ROM)

(4) วีดิทัศน์ดิจิตอล (DVD)

ตอบ 1 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กแบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป

2 จานแสง (Optical Disk) เช่น VCD, DVD, CD-ROM บันทึกฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่นฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการ – บันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 ส่วนใดของหนังสืออ้างอิงที่ระบุเลขหน้าของเนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการ

(1) ส่วนโยง

(2) ดรรชนี

(3) ดรรชนีริมหน้ากระดาษ

(4) อักษรนําเล่ม

ตอบ 2 หน้า 84 ดรรชนี (Index) คือ การลําดับคําหรือข้อความเรียงไว้ตามลําดับตัวอักษรพร้อมทั้งมีเลขหน้ากํากับไว้ เพื่อแสดงว่าคําหรือข้อความนั้นมีรายละเอียดปรากฏอยู่ในหน้าใดบ้างของ หนังสือเล่มนั้น ส่วนใหญ่ดรรชนีจะอยู่ตอนท้ายของหนังสือแต่ละเล่ม แต่ถ้าเป็นหนังสือชุด เช่น สารานุกรม ดรรชนี้จะอยู่ในเล่มสุดท้าย

18 ข้อใดให้ความหมายคําศัพท์ทางจิตวิทยาได้ชัดเจนและครอบคลุมที่สุด

(1) พจนานุกรมภาษาเดียว

(2) พจนานุกรมหลายภาษา

(3) พจนานุกรมเฉพาะวิชา

(4) พจนานุกรมฉบับสมบูรณ์

ตอบ 3 หน้า 85, 89 – 90, (คําบรรยาย) พจนานุกรมเฉพาะวิชา คือ พจนานุกรมสําหรับค้นหาความหมายของคําที่ใช้ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พจนานุกรมรวมคําศัพท์ทางการศึกษา ซึ่งจะให้ศัพท์ทั้งทางด้านจิตวิทยา สังคมวิทยา และปรัชญา เป็นต้น

19 ข้อใดกล่าวถึงประโยชน์ที่ได้รับจากสารานุกรมได้ชัดเจนที่สุด

(1) ความหมายและประวัติของคํา “พลังงาน”

(2) ความหมาย ประเภท ประโยชน์ และรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ “พลังงาน”

(3) รายชื่อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ “พลังงาน”

(4) รายชื่อและที่มาของบทความเกี่ยวกับ “พลังงาน”

ตอบ 2 หน้า 91 – 92, 95 สารานุกรม (Encyclopedia) หมายถึง หนังสือที่รวบรวมความรู้หรือข้อเท็จจริงพื้นฐานในแขนงวิชาต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญ ในแต่ละสาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูลหรือความรู้ในรูปของบทความ โดยมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับ ไว้ที่ท้ายบทความ และจัดเรียงเนื้อหาตามลําดับตัวอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา ซึ่งอาจมี เล่มเดียวจบหรือหลายเล่มจบที่เรียกว่า “หนังสือชุด” ส่วนใหญ่สารานุกรมจะมีภาพประกอบและมีดรรชนีช่วยค้นเรื่อง (Fact Index) อยู่ตอนท้ายเล่ม หรือถ้าเป็นหนังสือชุดก็จะอยู่เล่มสุดท้าย

20 ต้องการประวัติการศึกษาและผลงานของหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ค้นได้จากหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) อักขรานุกรมชีวประวัติ

(2) พจนานุกรม

(3) สารานุกรม

(4) สมพัตสร

ตอบ 1 หน้า 97 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญ โดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิดหรือตาย ที่อยู่ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าผู้ที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นได้ทําคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง

21 นามานุกรมให้สารสนเทศด้านใด

(1) ให้ข่าวสาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจําวัน

(2) ให้ความรู้ ข่าวสารอย่างคร่าว ๆ

(3) รวบรวมรายชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลสําหรับการติดต่อ

(4) รวบรวมผลงานของบุคคลที่มีชื่อเสียง

ตอบ 3 หน้า 102 – 103, 105 นามานุกรม (Directory) คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคล องค์การหรือหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับสถานที่อยู่หรือที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์สําหรับการติดต่อ แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

1 นามานุกรมท้องถิ่น เช่น สมุดโทรศัพท์

2 นามานุกรมของรัฐ เช่น นามสงเคราะห์ส่วนราชการไทย

3 นามานุกรมสถาบัน เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้องสมุด ฯลฯ

4 นามานุกรมสาขาอาชีพ เช่น ทําเนียบกระทรวงยุติธรรม พุทธศักราช 2530

5 นามานุกรมการค้าและธุรกิจ เช่น รวมโรงงานอุตสาหกรรม

22 หนังสืออ้างอิงในข้อใดที่ใช้ค้นหาเหตุการณ์สําคัญที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

(1) พจนานุกรม

(2) สารานุกรม

(3) สมพัตสร

(4) บรรณานุกรม

ตอบ 3 หน้า 112 ปฏิทินเหตุการณ์รายปีหรือสมพัตสร (Almanac) คือ หนังสือที่รวบรวมความรู้เบ็ดเตล็ดหลายด้านและสถิติทั่วไปในรอบหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาจนถึงปีปัจจุบันของทุกประเทศในโลก โดยจะให้ข้อมูลอย่างสังเขปที่ครอบคลุมเรื่องราวต่าง ๆ เช่น ปฏิทินลําดับเหตุการณ์ สําคัญ ข้อมูลทางดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ วันสําคัญทางศาสนา สถิติเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและทรัพยากรของโลก เป็นต้น

23 หนังสือที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับสถานที่ทางภูมิศาสตร์ คือข้อใด

(1) อักขรานุกรมภูมิศาสตร์

(2) พจนานุกรม

(3) หนังสือแผนที่

(4) หนังสือนําเที่ยว

ตอบ 1 หน้า 115 อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลอย่างสังเขปเกี่ยวกับชื่อของสถานที่สําคัญทางภูมิศาสตร์ มีลักษณะคล้ายพจนานุกรมที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับชื่อและสถานที่ ทางภูมิศาสตร์อย่างสั้น ๆ ให้คําอ่านและรายละเอียดอื่น ๆ ได้อย่างกระชับและน่าเชื่อถือที่สุด เช่น สถานที่ตั้ง ระยะทาง เส้นรุ้ง เส้นแวง ความตื้นลึกของทะเล ความสูงของภูเขา จํานวนผลผลิตทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จํานวนประชากร ตราประจําจังหวัด เป็นต้น

24 หนังสืออ้างอิงข้อใดที่ให้แหล่งที่มาและเนื้อหาที่สําคัญของบทความ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนไปอ่านจากต้นฉบับจริง

(1) บรรณานุกรม

(2) ดรรชนี

(3) สาระสังเขป

(4) นามานุกรม

ตอบ 3 หน้า 84, 119 120 สาระสังเขป เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แนะแหล่งสารสนเทศ โดยมีลักษณะเป็นการสรุปหรือย่อสาระสําคัญของเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวสําคัญ ๆ ของบทความในวารสาร หนังสือ และเอกสารประเภทอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบถึงเนื้อหาสาระสําคัญก่อนที่จะไปอ่านจากต้นฉบับจริงที่สมบูรณ์

25 ข้อใดคือหนังสือบรรณานุกรมที่จัดทําโดยหอสมุดแห่งชาติ

(1) บรรณานุกรมสากล

(2) บรรณานุกรมเฉพาะวิชา

(3) บรรณานุกรมแห่งชาติ

(4) บรรณานุกรมร้านค้า

ตอบ 3 หน้า 29, 129 บรรณานุกรมแห่งชาติ เป็นหนังสือที่จัดทําขึ้นโดยหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ของไทยโดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสําคัญและเป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้า

26 ข้อใดเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ

(1) เลขเรียกหนังสือ

(2) เลขผู้แต่ง

(3) เลขมาตรฐานสากลประจําหนังสือ

(4) เลขหมู่หนังสือ

ตอบ 4 หน้า 157 เลขหมู่หนังสือ (Class Number) เป็นสัญลักษณ์ที่กําหนดขึ้นเพื่อแสดงกลุ่มเนื้อหาสาระของหนังสือและ/หรือประพันธ์วิธีของหนังสือแต่ละเล่ม ทั้งนี้อาจแตกต่างกันตามระบบการจัดหมู่หนังสือ

27 ระบบการจัดหมู่หนังสือข้อใดที่แบ่งสรรพวิทยาการในโลกออกเป็น 10 หมวดใหญ่

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 2 หน้า 151, 153 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification

: DDC หรือ DC) เป็นระบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ที่มีหนังสือทั่ว ๆ ไปหลายสาขาวิชาในจํานวนที่ไม่มากนัก เช่น ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุด โรงเรียน เป็นต้น ซึ่งการจัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้จะเป็นแบบเชิงกว้าง โดยแบ่งสรรพวิทยาการ ในโลกออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์แสดงเนื้อหาของหนังสือเป็นเลขอารบิก 3 หลัก ตั้งแต่ 100 – 000 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชี้เฉพาะยิ่งขึ้น

28 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือของสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบเศนียมสากล

ตอบ 1 หน้า 153 – 155 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification : LCC หรือ LC) เป็นระบบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีหนังสือเฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือมีหนังสือทั่วไปทุกประเภทเป็นจํานวนมาก เช่น ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยจะแบ่งเนื้อหาหนังสือออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์ในการจัดหมู่หรือเลขหมู่หนังสือเป็นแบบผสม คือ ใช้ตัวอักษรโรมัน A – Z (ยกเว้น I, 0, W, X, Y) แสดงเนื้อหาในหมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1 – 9999 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งแบ่งย่อยเรื่องอีกที่หนึ่ง

29 ระบบการจัดหมู่หนังสือในข้อใดที่เหมาะสมสําหรับห้องสมุดโรงพยาบาล

(1) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้

(2) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(3) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

(4) ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล

ตอบ 3 หน้า 155 – 156 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(National Library Medicine : NLAM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ใช้กับห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยจะใช้อักษรโรมัน W และเลขอารบิกเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับ การจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในด้านการจําแนก ซึ่งระบบนี้จะนิยมใช้กับห้องสมุดของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น หอสมุดศิริราช, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ,ห้องสมุดคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ขอนแก่น, ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

30 ข้อใดมีส่วนประกอบของเลขเรียกหนังสือครบถ้วน

(1) 895.911 ม

(2) 895.911 ม334ส

(3) 895.911 ม334

(4) 895.911

ตอบ 2 หน้า 157 – 159, (คําบรรยาย) ส่วนประกอบสําคัญของเลขเรียกหนังสือมี 3 ส่วน คือ

1 เลขหมู่หนังสือ ซึ่งอาจแตกต่างกันตามระบบการจัดหมู่หนังสือ

2 เลขผู้แต่ง (ประกอบด้วยตัวอักษรกับตัวเลข) และอักษรตัวแรกของชื่อเรื่องหรือชื่อหนังสือ

3 สัญลักษณ์อื่น ๆ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น ปี พ.ศ. เล่มที่ ฉบับที่ ฯลฯ

ดังตัวอย่างเลขเรียกหนังสือดังนี้

895.911 – เลขหมู่หนังสือระบบทศนิยมดิวอี้

ม334ส – เลขผู้แต่ง (ม334) และอักษรชื่อเรื่อง (ส)

 

30

PL

340

.K231L

 

PN

3405

.A799T

 

PE

255.4

.P735

2010

 

PR

1132

.M36K

ข้อใดเป็นการจัดเรียงหนังสือบนชั้นได้ถูกต้อง

(1) ง ค ก ข

(2) ข ก ง ค

(3) ง ก ค ง

(4) ค ก ข ง

ตอบ 4 หน้า 159 160 วิธีการจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอี้จะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก แต่ถ้าเลขหมู่ซ้ํากันก็ให้พิจารณาจากเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ (จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ ค ก ข ง)

32 ข้อใดเป็นวิธีการจัดเก็บวารสารฉบับย้อนหลังของห้องสมุด

(1) ถ่ายเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม

(2) จัดรวมไว้กับหนังสือพิมพ์ย้อนหลัง

(3) เย็บรวมเป็นเล่มเมื่อได้รับครบปี

(4) จัดเรียงไว้บนชั้นเอียงลาด

ตอบ 3 หน้า 168 วิธีจัดเก็บวารสารของห้องสมุด มีดังนี้

1 วารสารฉบับใหม่ คือ วารสารฉบับล่าสุด ห้องสมุดจะจัดเรียงไว้บนชั้นเอียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสารจากซ้ายไปขวา และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ที่ชั้นตรงกับตําแหน่งของวารสาร

2 วารสารฉบับย้อนหลัง คือ วารสารที่ไม่ใช่ฉบับล่าสุด ซึ่งห้องสมุดจะนําไปเย็บรวมเป็นเล่ม เมื่อได้รับครบปีแล้วจัดเก็บไว้บนชั้น โดยเรียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสาร และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ตรงตามตําแหน่งของวารสารนั้น ๆ

33 ตัวย่อภาษาอังกฤษ JUV หรือ J  มักใช้เป็นตัวย่อสําหรับหนังสือประเภทใด

(1) หนังสือรวมเรื่องสั้น

(2) หนังสือสําหรับเด็กและเยาวชน

(3) หนังสือนวนิยายสําหรับวัยรุ่น

(4) หนังสือตําราเรียนขั้นพื้นฐาน

ตอบ 2 หน้า 156 157 ห้องสมุดหลายแห่งไม่นิยมกําหนดเลขหมู่ให้กับหนังสือบางประเภทเพราะพิจารณาว่าหนังสือเหล่านี้ผู้ใช้จะอ่านเพื่อความเพลิดเพลินมากกว่าเพื่อประโยชน์ทางวิชาการ ดังนั้นห้องสมุดจึงมักให้สัญลักษณ์ง่าย ๆ โดยใช้อักษรย่อเพื่อบอกประเภทของหนังสือนั้น ๆ แทนการกําหนดเลขหมู่หนังสือ เช่น หนังสือนวนิยาย (น/นว หรือ FIC), หนังสือรวมเรื่องสั้น (รส หรือ SC), หนังสือสําหรับเด็กและเยาวชน (ย หรือ JUV/J) เป็นต้น

34 ห้องสมุดมีวิธีจัดเก็บแผ่นเสียงอย่างไร

(1) จัดแยกไว้ต่างหาก โดยกําหนดสัญลักษณ์ SR

(2) จัดเก็บไว้ในกล่อง โดยกําหนดสัญลักษณ์ CD

(3) จัดเก็บเป็นหมวด โดยกําหนดสัญลักษณ์ TD

(4) จัดเรียงตามเลขทะเบียน โดยกําหนดสัญลักษณ์ VR

ตอบ 1 หน้า 171 แผ่นเสียง (Phonodisc) เป็นวัสดุบันทึกเสียงประเภทหนึ่งที่มักจัดเก็บด้วยการบรรจุซอง 2 ชั้น แล้วจัดแยกเอาไว้ต่างหาก โดยมีการกําหนดสัญลักษณ์ SR (Sound Recording) ตามด้วยเลขทะเบียนหรือเลขหมู่ แล้วติดป้ายชื่อเรื่องบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง และนําไปจัดเรียงไว้ในตู้หรือชั้นเก็บแผ่นเสียง

35 ข้อใดเป็นวิธีการจัดเก็บกฤตภาค

(1) กําหนดเลขประจําเอกสาร

(2) กําหนดรหัสสื่อสิ่งพิมพ์

(3) กําหนดเลขหมู่

(4) กําหนดหัวเรื่อง

ตอบ 4 หน้า 163, 170 171 วิธีการจัดเก็บจุลสารและกฤตภาคของห้องสมุดจะใช้วิธีเดียวกันส่วนมากนิยมจัดเก็บแยกออกจากวัสดุสารสนเทศอื่น ๆ คือ จัดเก็บโดยกําหนดหัวเรื่องกํากับไว้ ที่มุมบนของปก แล้วนําจุลสารและกฤตภาคที่มีหัวเรื่องเดียวกันเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม ปิดป้าย ชื่อหัวเรื่องที่แฟ้ม และนําแฟ้มไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บเอกสารเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องโดยที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่าแต่ละลิ้นชักมีแฟ้มเริ่มจากอักษรตัวใดถึงตัวใด

36 การจัดเก็บหนังสือพิมพ์รูปแบบใดเป็นการสงวนรักษาหนังสือพิมพ์

(1) บันทึกภาพลงในแถบวีดิทัศน์

(2) ถ่ายลงฟิล์มเป็นภาพนิ่ง

(3) ถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนในไมโครฟิล์ม

(4) ถ่ายลงแผ่นโปร่งใส

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 15 ประกอบ

37 ส่วนใดของบัตรรายการที่ช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงตําแหน่งของหนังสือในห้องสมุด

(1) เลขเรียกหนังสือ

(2) เลขทะเบียนหนังสือ

(3) เลขผู้แต่ง

(4) เลขหมู่หนังสือ

ตอบ 1 หน้า 157, 191 เลขเรียกหนังสือ (Cat Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดให้กับหนังสือแต่ละเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด โดยเลขเรียกหนังสือที่ปรากฏบนบัตรรายการจะเป็นเครื่องชี้บอกตําแหน่งของหนังสือบนชั้น ซึ่งเป็นที่เก็บหนังสือของห้องสมุด

38 ส่วนใดของบัตรรายการที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนหน้าของหนังสือ

(1) รายการหลัก

(2) การพิมพ์และการจําหน่าย

(3) ลักษณะรูปร่าง

(4) หมายเหตุ

ตอบ 3 หน้า 191, 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 220) ลักษณะวัสดุ หรือลักษณะรูปร่าง(Physical Description) เป็นรายการที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะรูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ประกอบด้วย จํานวนหน้าหรือจํานวนเล่ม ภาพประกอบ และส่วนสูง ของหนังสือ เช่น V, 120 p. : it. (some cot.) ; 21 cm. หมายถึง หนังสือเล่มเดียวจบ (v = volume) มีทั้งหมด 120 หน้า (120 p.) มีภาพประกอบ (11. = illustration) สีบางส่วน (some col. = some color) และมีส่วนสูง 21 เซ็นติเมตร (21 cm.)

39 ส่วนใดของบัตรรายการที่ช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

(1) หัวเรื่องในส่วนของแนวสืบค้น

(2) ชื่อผู้แปลจากการแจ้งความรับผิดชอบ

(3) ชื่อเรื่องจากแนวสืบค้น

(4) ชื่อผู้แต่งที่ปรากฏบนรายการหลัก

ตอบ 1 หน้า 193, 195, 214 แนวสืบค้น (Tracing) เป็นรายการที่บอกให้ทราบว่านอกจากบัตรยืนพื้นหรือบัตรหลักแล้ว ห้องสมุดได้ทําบัตรชนิดใดเพิ่มอีกบ้าง แนวสืบค้นมี 2 ส่วน ได้แก่

1 ส่วนที่เป็นหัวเรื่อง (Subject Headings) ได้แก่ บัตรหัวเรื่องหรือบัตรเรื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือเล่มนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

2 รายการเพิ่มต่าง ๆ เช่น บัตรผู้แต่งร่วม บัตรผู้แปล บัตรผู้วาดภาพประกอบ เป็นต้น

40 รายละเอียดของหนังสือในข้อใดที่ไม่ปรากฏในบัตรรายการ

(1) บรรณานุกรม

(2) ผู้ทําบัตรรายการ

(3) ดรรชนี

(4) เลขเรียกหนังสือ

ตอบ 2 หน้า 190 – 193 รายละเอียดของหนังสือที่บันทึกในบัตรรายการ ได้แก่

1 เลขเรียกหนังสือ

2 ชื่อผู้แต่งหรือรายการหลัก

3 ชื่อเรื่องและการแจ้งความรับผิดชอบ

4 ครั้งที่พิมพ์หรือฉบับพิมพ์

5 การพิมพ์และการจัดจําหน่าย ประกอบด้วย สถานที่พิมพ์ สํานักพิมพ์ และปีที่พิมพ์

6 ลักษณะวัสดุหรือลักษณะรูปร่าง

7 ชื่อชุด

8 หมายเหตุ ประกอบด้วย บรรณานุกรม ดรรชนี อภิธานศัพท์ ภาคผนวก เป็นต้น

9 เลขมาตรฐานสากล

10 แนวสืบค้น

41 ข้อใดคือรายการโยงที่ใช้โยงไปยังหัวเรื่องที่เกี่ยวข้อง

(1) “ดูเพิ่มที่”

(2) “ไปที่”

(3) “ดูเพิ่มเติมที่”

(4) “ดูที่”

ตอบ 3 หน้า 199, 225 รายการโยง (Cross Reference) คือ การกําหนดสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้ทราบว่าคําหรือวลีที่ตามมาใช้เป็นหัวเรื่องได้หรือไม่ และมีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับ เนื้อหามากน้อยเพียงใด โดยมีตัวอย่างสัญลักษณ์ดังนี้

1 sa (see also) หรือ “ดูเพิ่มเติมที่” ใช้โยงไปสู่หัวเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กัน แต่มีเนื้อหาแคบกว่า

2 x ใช้หน้าคําหรือวลีที่เลิกใช้เป็นหัวเรื่องแล้ว

3 see หรือ “ดูที่” ใช้โยงหน้าคําหรือวลีที่ไม่ใช้เป็นหัวเรื่องไปยังทาหรือวลีที่ใช้เป็นหัวเรื่อง

4 ใช้หน้าคําหรือวลีที่มีความหมายสัมพันธ์กับหัวเรื่องใหญ่ แต่มีเนื้อหากว้างกว่ามาก

42 ก. สิทธิมนุษยชน ข. สถิติพื้นฐาน ค. สนุกกับภาษา ง. สํามะโนการเกษตร จ. สกุลกา

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดเรียงบัตรรายการตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง

(1) จ ง ค ก ข

(2) ง ค น ข ก

(3) จ ข ค ง ก

(4) ก จ ค ง ข

ตอบ 3 หน้า 207 – 210 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาไทย มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร ก-ฮ โดยไม่คํานึงถึงเสียงอ่าน

2 คําที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวเดียวกัน ให้เรียงคําที่มีตัวสะกดไว้ก่อนคําที่มีรูปสระ และเรียงลําดับรูปสระตามแบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

3 ผู้แต่งคนเดียวกันแต่งหนังสือหลายเล่ม ให้เรียงตามลําดับอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง

(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ จ ข ค ง ก)

43 ก Language death

ข Laws

ค Language in Society

ง Las Vegas

จ Language for daily use

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดเรียงบัตรรายการตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง

(1) ง ค น ข ก

(2) จ ข ก ง ค

(3) จ ข ค ง ก

(4) ก จ ค ง ข

ตอบ 4 หน้า 210 – 213 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาอังกฤษ มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร A – Z โดยเรียงแบบคําต่อคํา ไม่ต้องคํานึงถึงเครื่องหมายใด ๆ

2 ถ้ามีคํานําหน้านาม เช่น a, an, the, de, dela, les ฯลฯ ขึ้นต้นประโยค เวลาเรียงบัตรไม่ต้องคํานึงถึงคําเหล่านี้ แต่ให้เรียงลําดับอักษรของคําที่อยู่ถัดไป ยกเว้นถ้าคํานําหน้านามเป็นส่วนหนึ่งของประโยค จะต้องเรียงลําดับอักษรของคํานําหน้านามนั้นด้วย

3 คําย่อที่เป็นคํานําหน้าชื่อบุคคลและยศให้เรียงลําดับเหมือนเป็นคําที่สะกดเต็ม เช่น Mr. เรียงตามคําสะกดเต็มคือ Mister เป็นต้น (จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ กจ คงข)

44 “LCSH” หมายถึงอะไร

(1) บัญชีหัวเรื่องภาษาอังกฤษ

(2) บัญชีคําศัพท์สําคัญ

(3) บัญชีหัวเรื่องศัพท์แพทย์

(4) บัญชีหัวเรื่องศัพท์อิสระ

ตอบ 1 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 – 251) หัวเรื่อง หมายถึง คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือและสื่ออื่น ๆ โดยบรรณารักษ์ไม่ได้เป็นผู้เลือกขึ้นเอง แต่จะเลือกจากคําหรือวลีที่เป็นศัพท์ควบคุม เพื่อค้นหาหนังสือในห้องสมุดจากบัญชีหัวเรื่อง มาตรฐานที่นิยมใช้ในการจัดเก็บและสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด ได้แก่

1 Library of Congress Subject Headings (LCSH) จัดทําขึ้นโดยห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันเพื่อใช้เป็นบัญชีหัวเรื่องหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดใหญ่

2 Sear’s List of Subject Headings (Sear’s List) เป็นบัญชีหัวเรื่องสําหรับหนังสือทั่วไปที่เป็นภาษาอังกฤษสําหรับห้องสมุดขนาดเล็ก โดยจะใช้คู่กับการจัดหมู่หนังสือในระบบทศนิยมดิวอี้

45 “Libraries and readers” เกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) หัวเรื่องคํานามคําโดด

(2) หัวเรื่องคําผสมที่สัมพันธ์กัน

(3) หัวเรื่องคําผสมที่ค้านกัน

(4) หัวเรื่องกลุ่มคํา

ตอบ 2 หน้า 223 – 224, 223 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

  1. คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

2 คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and”, “กับ”, “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ไปในทางเดียวกัน เช่น ชุมชนกับโรงเรียน บิดาและมารดา Libraries and readers ฯลฯและที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and evil ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาค ( , ) คันกลางและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายชัดขึ้น เช่น Art, abstract ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

46 สัญลักษณ์ในข้อใดที่ใช้คั่นกลางคําคุณศัพท์เพื่อขยายคําแรกให้มีความหมายชัดขึ้น

(1) ขีดสองขีด (-)

(2) จุลภาค (,)

(3) อัฒภาค ( 😉

(4) ทวิภาค ( 🙂

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ

47 สัญลักษณ์ “NT” ที่ปรากฏหน้าคําในบัญชีหัวเรื่องมีความหมายอย่างไร

(1) คําไม่ได้ใช้เป็นหัวเรื่องแล้ว

(2) คําที่มีความหมายกว้างกว่า

(3) คําที่มีความหมายแคบกว่า

(4) คําที่มีความสัมพันธ์กัน

ตอบ 3 หน้า 225 – 227, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 256) บัญชีหัวเรื่องมาตรฐาน LCSH ฉบับปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้สัญลักษณ์บางตัวเพื่อกําหนดความสัมพันธ์ของคําที่ใช้เป็น หัวเรื่อง ดังนี้

1 BT (Broader Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายกว้างกว่า

2 NT (Narrower Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่มีความหมายแคบกว่า

3 RT (Related Term) คือ หัวเรื่องที่สัมพันธ์กับคําหลักหรือใช้แทนกันได้

4 UF (Use For) คือ หัวเรื่องที่ไม่กําหนดให้ใช้แล้ว

5 USE คือ หัวเรื่องที่กําหนดให้ใช้

6 — คือ หัวเรื่องย่อย

48 “Dissertation” เกี่ยวข้องกับข้อใดมากที่สุด

(1) ผลงานวิชาการของผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก

(2) ผลงานวิชาการของผู้สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท

(3) ผลงานวิชาการของผู้สําเร็จการศึกษาระดับหลังปริญญาเอก

(4) ผลงานของอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย

ตอบ 1 หน้า 237 วิทยานิพนธ์ (Thesis) เป็นรายงานการวิจัย ผลงานวิชาการ หรือการค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ใช้เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะทางวิชาการให้สูงขึ้น โดยวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท (บัณฑิตศึกษา) จะเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า“ปริญญานิพนธ์” (Thesis) ระดับปริญญาเอกเรียกว่า “ดุษฎีนิพนธ์” (Dissertation)

49 ในการทํารายงาน ขั้นตอนใดที่ทําต่อจากการเลือกหัวข้อการทํารายงาน

(1) การรวบรวมบรรณานุกรม

(2) การบันทึกข้อมูล

(3) การสํารวจข้อมูล

(4) การเรียบเรียงรายงาน

ตอบ 3 หน้า 238 – 263 ขั้นตอนของการทํารายงานหรือภาคนิพนธ์มี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1 การกําหนดชื่อเรื่องหรือเลือกหัวข้อที่จะทํารายงาน

2 การสํารวจข้อมูล

3 การรวบรวมบรรณานุกรม ซึ่งจะมีประโยชน์ในการเขียนรายงานฉบับร่าง

4 การบันทึกข้อมูล หรือทําบัตรบันทึกข้อมูล

5 การวางโครงเรื่อง

6 การเรียบเรียงเนื้อหารายงานฉบับร่าง

50 “ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ” จัดเป็นแหล่งข้อมูลประเภทใด

(1) ปฐมภูมิ

(2) ทุติยภูมิ

(3) ตติยภูมิ

(4) เบญจภูมิ

ตอบ 1 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาท ต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวประวัติ บทสัมภาษณ์แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสาร ข่าวในหนังสือพิมพ์ ครรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

51 “พ.ร.บ. การจดแจ้งการพิมพ์” เพื่อเรียบเรียงรายงาน ควรบันทึกข้อมูลแบบใด

(1) แบบลอกความ

(2) แบบสรุปความ

(3) แบบย่อความ

(4) แบบย่อคํา

ตอบ 1 หน้า 257, 260 261 การบันทึกข้อมูลแบบลอกความ (Quotation) จะเหมาะกับข้อความหรือข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้ง เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ความหมายหรือคํานิยามในเชิงวิชาการ พระบรมราโชวาท พระราชบัญญัติ ข้อบังคับหรือคําสั่งของทางราชการ กวีนิพนธ์ และบทละคร ซึ่งมีข้อควรระวัง คือ ต้องคัดลอกทุกอย่างให้เหมือนต้นฉบับ ตอนใดที่คัดลอกมาทั้งหมดให้ คร่อมไว้ด้วยเครื่องหมายอัญประกาศ (4 ) แต่ถ้าคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้ใช้เครื่องหมาย จุด 3 จุด (….) ใส่ไว้ก่อนหรือหลังข้อความนั้น โดยบัตรบันทึกชนิดนี้จะกระทําเมื่อ

1 ผู้ทํารายงานไม่สามารถหาคําพูดได้ดีกว่าเนื้อหาเดิม

2 เนื้อหาเดิมได้วางระเบียบกฎเกณฑ์และวิธีการไว้อย่างดีแล้วจึงไม่ควรดัดแปลง

3 เนื้อหาเดิมบรรยายถึงแนวคิดของผู้แต่งจึงไม่ควรดัดแปลง

52 ข้อใดกล่าวถึงการเรียบเรียงรายงานได้อย่างถูกต้องที่สุด

(1) ควรใช้คําย่อเพื่อประหยัดเวลาผู้อ่าน

(2) การคิดรูปแบบอ้างอิงขึ้นใหม่เพื่อแสดงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

(3) การเขียนรายงานควรใช้ภาษาสั้นกระชับถูกต้องตามหลักวิชาการ

(4) การคัดลอกงานคนอื่นให้แตกต่างจากเดิมเพื่อไม่ให้เจ้าของเดิมฟ้องร้อง

ตอบ 3 หน้า 263 264, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 337) ข้อควรพิจารณาในการเรียบเรียงรายงานฉบับร่าง มีดังนี้

1 เรียบเรียงเนื้อหาของรายงานตามลําดับของโครงเรื่องและบัตรบันทึก โดยเนื้อหาไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป

2 เตรียมบัตรบรรณานุกรม บัตรบันทึกข้อมูล และพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคํา

3 ใช้ภาษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ สั้นกระชับ สุภาพ และอธิบายทุกสิ่งให้ชัดเจน

4 ไม่ใช้อักษรย่อและคําย่อ

5 เมื่อคัดลอกงานคนอื่นมาให้เขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้องตามรูปแบบของสถาบันที่ส่งรายงาน โดยแสดงไว้หลังข้อความที่อ้าง และเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตลอดรายงาน

6 การใส่ตาราง ภาพประกอบ แผนภูมิ แผนที่ กราฟ ต้องระบุแหล่งที่มา โดยใช้แบบแผนเช่นเดียวกับเชิงอรรถ ฯลฯ

53 แหล่งข้อมูลที่ใช้ประกอบการทํารายงานควรใส่ไว้ที่ส่วนใดของรายงาน

(1) ภาคผนวก

(2) บรรณานุกรม

(3) บทนํา

(4) อภิธานศัพท์

ตอบ 2 หน้า 64, 129, 254, 275 บรรณานุกรม (Bibliography) เป็นบัญชีรายชื่อหนังสือ เอกสารสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ผู้แต่งใช้เป็นหลักฐานประกอบการเขียนหนังสือหรือ ทํารายงาน โดยอาจอยู่ท้ายบทหรือท้ายเล่มก็ได้ หรืออาจจัดทําเป็นตัวเล่มหนังสือที่รวบรวม รายชื่อและรายละเอียดของทรัพยากรสารสนเทศ เช่น รายชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั้งที่พิมพ์ สํานักพิมพ์หรือโรงพิมพ์ และปีที่พิมพ์ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมและให้ความมั่นใจแก่ผู้อ่านว่า เนื้อหาของหนังสือหรือรายงานเล่มนั้นมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ เพราะผู้เขียนได้ค้นคว้า อย่างมีหลักฐาน

54 ข้อใดเขียนบรรณานุกรมได้ถูกต้อง

(1) ศาสตราจารย์ ดร.สุภางค์ จันทวานิช. ทฤษฎีสังคมวิทยา, พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์แห่ง

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558.

(2) ศาสตราจารย์ สุภางค์ จันทวานิช. ทฤษฎีสังคมวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558.

(3) ดร.สุภางค์ จันทวานิช. ทฤษฎีสังคมวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 4. สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,

2558.

(4) สุภางค์ จันทวานิช. ทฤษฎีสังคมวิทยา, พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558

ตอบ 4 หน้า 254 – 255, 276 277 จากตัวเลือกข้างต้น ใช้รูปแบบการเขียนรายการบรรณานุกรมสําหรับหนังสือตามคู่มือ Turabian ซึ่งมีแบบแผนการเขียนรายการอ้างอิงที่ถูกต้อง ดังนี้

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์, สถานที่พิมพ์ : สํานักพิมพ์, ปีที่พิมพ์

ในกรณีที่ผู้แต่งเป็นคนไทย ไม่ต้องใส่คํานําหน้าชื่อ ตําแหน่งทางวิชาการหรือวิชาชีพ เช่น สุภางค์ จันทวานิช. ทฤษฎีสังคมวิทยา, พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2558.

55 ข้อใดเขียนอ้างอิงในเนื้อหาได้ถูกต้อง

(1) (John Tonner Williams, 1992, 5)

(2) (Williams, John Tonner, 1992, 5)

(3) (Williams, J.T., 1992, 5)

(4) (Williams, 1992, 5)

ตอบ 4 หน้า 264, 276 277, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 298) การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม-ปี (Author-date) คือ รายการอ้างอิงแบบในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) โดยใส่ชื่อผู้เขียนและปีที่พิมพ์พร้อมด้วยเลขหน้าไว้ในวงเล็บหลังข้อความ ที่คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่

1 รูปแบบตามคู่มือ Turabian คือ ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name)ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Williams 1992, 5)

2 รูปแบบตามคู่มือ APA คือ ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง, / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ, 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name) ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Williams, 1992, 5)

56 ข้อใดไม่มีความสัมพันธ์กันเกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น

(1) การค้า

(2) การทหาร

(3) สหรัฐอเมริกา

(4) อาร์พาเน็ต

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 – 48), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนา เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งานด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนํา อินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 ข้อใดเป็นการระบุตําแหน่งเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต

(1) DNS

(2) FTP

(3) IP

(4) TCP

ตอบ 3 (คําบรรยาย) โปรโตคอล IP (Internet Protocol) เป็นมาตรฐานที่ใช้สําหรับระบุตําแหน่งหรือที่อยู่ที่ไม่ซ้ำกันของเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยตรวจสอบ หรืออ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ระบบตัวเลข IP ประกอบด้วยตัวเลข 4 กลุ่มถูกคั่นด้วยจุด เช่น 128.56.48.12 เป็นต้น

58 ส่วนใดของอีเมล์แอดเดรส ([email protected]) คือผู้ให้บริการอีเมล์

(1) peemasak

(2) yahoo.com

(3) @yahoo

(4) @yahoo.com

ตอบ 2 หน้า 311, (คําบรรยาย) จากโจทย์เป็นกลุ่มของ E-mail Address ซึ่งเป็นที่อยู่ประจําตัวของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ โดย E-mail Address ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ชื่อผู้ใช้บริการ, เครื่องหมาย @ และชื่อโดเมน (Domain Name) ของเครื่องแม่ข่ายที่เราใช้บริการอยู่ เช่น Ramkhamhaeng คือ ชื่อผู้ใช้ ส่วน yahoo.com คือ ชื่อโดเมนของเครื่องแม่ข่ายของผู้ให้บริการอีเมล์ เป็นต้น

59 ข้อใดไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Web browser) บนอินเทอร์เน็ต

(1) Google Chrome

(2) Internet Explorer

(3) Mozila Firefox

(4) Adobe Acrobat

ตอบ 4 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 55) Web browser คือ โปรแกรมเฉพาะที่ใช้แสดงผลข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสําหรับการเข้าสู่บริการเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการเว็บไซต์ได้ ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่ออกมาใหม่ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด จากอินเทอร์เน็ตโดยตรงและไม่เสียค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเว็บบราวเซอร์ที่ใช้กันแพร่หลาย เช่น Internet Explorer, Netscape Navigator, Mozila Firefox, Google Chrome ฯลฯ  (ส่วนโปรแกรม Adobe Acrobat เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการไฟล์ประเภท PDF)

60 ข้อใดไม่ใช่เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์

(1) Wikipedia

(2) Facebook

(3) Twitter

(4) Line

ตอบ 1 (คําบรรยาย) เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเด่นหลักคือ ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สามารถ สื่อสารได้ในวงกว้างและหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ ในปัจจุบันมี โปรแกรมหรือเว็บไซต์ที่ใช้สําหรับ Social Network เช่น Facebook, Twitter, Linkedin, Line, MySpace, Hi5 ฯลฯ (ส่วนเว็บไซต์ Wikipedia เป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่)

LIS1003 การใช้ห้องสมุด s/2558

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2558

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว

1 ข้อใดกล่าวถึงการใช้สารสนเทศได้ถูกต้องที่สุด

(1) คุณมนต์ทะเลาะกับสามีประจําเพราะหูเบา

(2) คุณนโมตระเวนไหว้พระเพราะเชื่อหมอดูทักว่าจะมีเคราะห์

(3) คุณโมเมซื้อหวยตามอายุของคุณยายทวดที่มาเข้าฝัน

(4) ป้าดาราทําลายภาชนะที่มีน้ำขังเพื่อป้องกันยุงตามคําแนะนําของเจ้าหน้าที่ อสม.

ตอบ 4 หน้า 3, 5, (คําบรรยาย) คําว่า “สารสนเทศ(Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอด และเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เนื่องจาก สามารถนํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้ ส่วนคําว่า “ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจากหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบ หรือข่าวลือ การโฆษณาสินค้า ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การกล่าวหา/โจมตีคู่แข่งทางการเมืองเป็นต้น

2 ข้อใดกล่าวถึงเหตุการณ์สําคัญเกี่ยวกับห้องสมุดและการสื่อสารได้ถูกต้อง

(1) ชาวอียิปต์เป็นชาติแรกที่บันทึกข้อมูลลงบนปาไปรัส

(2) ชาวกรีกเกี่ยวข้องกับกฎหมายตาต่อตา ฟันต่อฟัน

(3) ชาวอัสสีเรียนเป็นผู้สร้างห้องสมุดอเล็กซานเดรีย

(4) ชาวบาบิโลเนียนเป็นผู้ริเริ่มผลิตแท่นพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 7, (คําบรรยาย) ชาวอียิปต์ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ตามลุ่มแม่น้ำไนล์ ถือเป็นชนชาติแรกที่รู้จักบันทึกเหตุการณ์และข่าวสารความรู้ต่าง ๆ ลงบนแผ่นกระดาษปาไปรัส (Papyrus) ด้วยตัวอักษรภาพที่เรียกว่า “ไฮโรกลิฟิก” (Hieroglyphic) โดยห้องสมุดปาไปรัสที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ ได้แก่ ห้องสมุดแห่งชาติเมืองกิเซห์ สร้างเมื่อราว 2,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช

3 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

(1) สมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีการสร้างหอหลวงขึ้นในวัด

(2) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามทําหน้าที่ห้องสมุดประชาชน

(3) สมัยกรุงสุโขทัยสร้างหอไตรเพื่อเก็บพระไตรปิฎก

(4) หอพระมณเฑียรธรรมสร้างขึ้นในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ตอบ 1 หน้า 9 – 10, (คําบรรยาย) ห้องสมุดในประเทศไทยมีพัฒนาการตามลําดับยุคสมัย ดังนี้

1 สมัยสุโขทัย ได้แก่ หอไตรหรือหอพระไตรปิฎกภายในวัด เพื่อเก็บคัมภีร์พระไตรปิฎก

2 สมัยอยุธยา ได้แก่ หอหลวงภายในพระราชวัง เพื่อเก็บรักษาหนังสือ วรรณกรรมทางโลกตัวบทกฎหมาย และเอกสารทางราชการ

3 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการสร้างหอสมุดประจํารัชกาลต่าง ๆ ได้แก่ หอพระมณเฑียรธรรมภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อประดิษฐานพระไตรปิฎก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นห้องสมุดประชาชน แห่งแรกของไทย, หอพระสมุดวชิรญาณ หอพุทธสาสนสังคหะ (ตั้งอยู่ในวัดเบญจมบพิตร)และหอพระสมุดวชิรญาณสําหรับพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตามลําดับ

4 ข้อใดไม่ใช่คุณลักษณะของนักปราชญ์

(1) การบันทึกข้อมูลเพื่อเตือนความจํา

(2) การอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้

(3) การพูดลับหลังเพื่อไม่ให้มีการทะเลาะกับบุคคลที่กล่าวถึง

(4) การรับฟังและวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ

ตอบ 3 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุจิ ปุ ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ คือ การรับฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือ และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การไต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึกข้อมูล

5 การตรวจสอบคุณสมบัติของคนเขียนหนังสือจากใบหุ้มปกหนังสือ เป็นการอ่านในข้อใด

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างวิเคราะห์

(3) การอ่านเพื่อเก็บรายละเอียด

(4) การอ่านอย่างเจาะจง

ตอบ 1 หน้า 17 – 18, 58, (คําบรรยาย) การอ่านอย่างคร่าว ๆ เป็นการอ่านแบบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ต้องการรายละเอียดแต่ต้องการความรู้ความเข้าใจตามสมควร โดยให้เปิดดูสารบัญของหนังสือว่ามีเรื่องอะไรบ้าง จากนั้นให้พลิกดูแต่ละบท ดูชื่อเรื่อง ดูหัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย แล้วกวาดสายตาเพื่อหาคําหรือข้อความสําคัญ จนตอบคําถาม ได้ว่าเรื่องที่อ่านเกี่ยวกับใคร อะไร ที่ไหน และอย่างไร ได้แก่ การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เขียนหนังสือจากใบหุ้มปกหนังสือ เช่น ชื่อผู้เขียน คําวิจารณ์ และผลงานอื่น ๆ เป็นต้น

6 ข้อใดกล่าวถึงบทบาทสําคัญของห้องสมุดได้ถูกต้องที่สุด

(1) ห้องสมุดสวนลุมพินี้จัดเป็นห้องสมุดเฉพาะของกรุงเทพมหานคร (2) ห้องสมุดมหาวิทยาลัยให้บริการวิชาการเท่านั้น

(3) ห้องสมุดโรงเรียนทําหน้าที่ปลูกฝังและส่งเสริมการอ่าน

(4) ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จัดเป็นห้องสมุดเฉพาะ

ตอบ 3 หน้า 29, 32, (คําบรรยาย) บทบาทและหน้าที่ของห้องสมุดโรงเรียนมี 3 ประการ คือ

1 เป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนของครูและนักเรียน เพื่อปลูกฝังนิสัยการเรียนรู้ด้วยตนเอง และเพื่อการศึกษาตลอดชีวิต

2 เป็นสถานที่ปลูกตั้งและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านมากที่สุด

3 เป็นศูนย์กลางอุปกรณ์การเรียนการสอนของครูและนักเรียน

7 แหล่งสารสนเทศประเภทใดที่เน้นการรวบรวมวัตถุและสิ่งของที่บอกเล่าเรื่องราวของชุมชนและสังคม

(1) ศูนย์สารสนเทศ

(2) หอจดหมายเหตุ

(3) พิพิธภัณฑ์

(4) ห้องสมุดเฉพาะ

ตอบ 3 หน้า 37, (คําบรรยาย) พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งสารสนเทศที่รวบรวมและจัดแสดงศิลปวัตถุโบราณวัตถุ ซึ่งเป็นสิ่งของโบราณที่มีคุณค่าหรือมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นสิ่งของที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนและสังคม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าของบุคคลทั่วไป

8 ฝ่ายใดของสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหงที่ให้บริการหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลัง

(1) ฝ่ายเทคนิค

(2) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(4) ฝ่ายวารสารและเอกสาร

ตอบ 3 หน้า 41, 169 ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์ มีหน้าที่พิจารณาคัดเลือกเอกสารสิ่งพิมพ์ที่มีคุณค่าและหายากเพื่อถ่ายไมโครฟิล์ม เช่น หนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังที่จัดเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม ฯลฯ นอกจากนี้ยังให้บริการตอบคําถามและช่วยการศึกษาค้นคว้าจากไมโครฟอร์ม แนะนําวิธีใช้ ไมโครฟอร์มและโสตทัศนวัสดุต่าง ๆ บริการให้ยืมโสตทัศนวัสดุทุกประเภท เช่น แถบวีดิทัศน์บริการฉายสไลด์ ฟิล์มสตริปและภาพยนตร์ รวมทั้งจัดทําบรรณานุกรมวัสดุไม่ตีพิมพ์ต่าง ๆ

9 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) หนังสือทุกเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด

(2) หนังสือทุกเล่มที่มีเลขเรียกหนังสือ

(3) หนังสือทุกเล่มที่มีศิษย์เก่าจัดซื้อให้ห้องสมุด

(4) หนังสือทุกเล่มที่ศิษย์เก่าบริจาคให้ห้องสมุด

ตอบ 2 หน้า 55, 76, 133 134, (คําบรรยาย) ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด มีความหมายรวมถึงแหล่งสารสนเทศทุกรูปแบบที่ห้องสมุดได้คัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดเก็บรวบรวมอย่าง เป็นระเบียบตามระบบการจัดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือทุกเล่มที่มีเลขเรียกหนังสือ สิ่งตีพิมพ์บน แผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ วัสดุย่อส่วน สืออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภทพร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

10 การเชื่อมโยงหรือลิงค์ของเว็บไซต์ มีความคล้ายคลึงกับส่วนใดของหนังสือมากที่สุด

(1) หน้าปกหนังสือ

(2) หน้าสารบัญ

(3) หน้าลิขสิทธิ์

(4) หน้าคํานํา

ตอบ 2 หน้า 58, 62 – 63, (คําบรรยาย) โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ ดังนั้นโฮมเพจจึงคล้ายกับส่วนประกอบ ของหนังสือ ดังนี้

1 ในแง่ของเว็บเพจแรกที่บอกว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาสําคัญอะไรบ้าง โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าปกหนังสือ

2 ในแง่ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้ Link ไปยังเว็บเพจต่าง ๆเพื่ออ่านข้อมูล โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าสารบัญของหนังสือ

11 ข้อใดกล่าวถึงบรรณานุกรมของหนังสือได้ชัดเจนที่สุด

(1) ส่วนที่ช่วยอธิบายคําหรือข้อความบางตอนที่ปรากฏในเนื้อหา

(2) บัญชีรายชื่อหนังสือหรือเอกสารอื่นที่ปรากฏในท้ายเล่มของหนังสือ

(3) ส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือคําศัพท์เฉพาะของหนังสือเล่มนั้น (4) บัญชีคําหรือวลีที่ปรากฏในตอนท้ายของหนังสือเล่มนั้น

ตอบ 2 หน้า 64, 129, 254, 275 บรรณานุกรม (Bibliography) เป็นบัญชีรายชื่อหนังสือ เอกสาร

และสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องต่าง ๆ ที่ผู้แต่งใช้เป็นหลักฐานประกอบการเขียนหนังสือเล่มนั้น โดยอาจอยู่ท้ายบทหรือท้ายเล่มก็ได้ หรืออาจจัดทําเป็นตัวเล่มหนังสือที่รวบรวมรายชื่อและรายละเอียด ของทรัพยากรสารสนเทศ เช่น รายชื่อผู้แต่ง ชื่อเรื่อง ครั้งที่พิมพ์ สํานักพิมพ์หรือโรงพิมพ์ และ ปีที่พิมพ์ เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมและให้ความมั่นใจแก่ผู้อ่านว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้นมีความถูกต้องและเชื่อถือได้ เพราะผู้เขียนได้ค้นคว้าอย่างมีหลักฐาน

12 ข้อใดเป็นส่วนประกอบสําคัญของวารสารที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน

(1) รูปภาพและอักษรบนปก

(2) ภาพข่าวและรูปภาพ

(3) ความนําและอักษรบนปก

(4) พาดหัวข่าวและรูปภาพ

ตอบ 1 หน้า 65 ส่วนประกอบของวารสารมี 3 ส่วน คือ

1 ปกวารสาร (Cover) เป็นส่วนประกอบที่สําคัญ ซึ่งประกอบด้วย ชื่อวารสาร ฉบับที่ ปีที่ เดือน ปีและราคา แต่องค์ประกอบที่สําคัญที่สุดก็คือ รูปภาพ (เป็นภาพเขียนหรือภาพถ่ายก็ได้)และอักษรบนปก ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจวารสารแต่ละฉบับเพิ่มมากขึ้น

2 สารบาญหรือสารบัญ (Contents) บอกให้ทราบถึงลําดับของเนื้อเรื่องในฉบับ โดยมีชื่อเรื่องชื่อผู้เขียน เลขหน้า และรายการต่าง ๆ เกี่ยวกับวารสาร

3 คอลัมน์ต่าง ๆ (Columns) ซึ่งขึ้นอยู่กับวารสารแต่ละประเภท

13 ต้นฉบับตัวเขียนเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่บันทึกด้วยมือ จัดเป็นสารสนเทศประเภทใด

(1) ปฐมภูมิ

(2) ทุติยภูมิ

(3) ตติยภูมิ

(4) กฤตภาค

ตอบ 1 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาทต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวประวัติ บทสัมภาษณ์ แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสารข่าวในหนังสือพิมพ์ ตรรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

14 วิดีโอคลิปคําบรรยายย้อนหลังวิชา LIS 1003 จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) โสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) อิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง เทป แถบบันทึกเสียงซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่งแผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ไมโครฟิล์มเหมือนกับไมโครฟิชในลักษณะใด

(1) เป็นวัสดุย่อส่วนที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์

(2) เป็นวัสดุย่อส่วนที่มีขนาดเท่ากับบัตรรายการ

(3) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของบัตรทึบแสง

(4) เป็นวัสดุย่อส่วนในรูปของฟิล์มโปร่งแสง

ตอบ 4 หน้า 54, 73 – 74, 77 – 78 วัสดุย่อส่วน(Micrographic or Microforms) หมายถึง วัสดุที่บันทึกสารสนเทศจากสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ วิทยานิพนธ์ จดหมายโต้ตอบ หนังสือหายาก ต้นฉบับตัวเขียน หรือเอกสารที่มีคุณค่าต่าง ๆ โดยวิธีการ ถ่ายย่อส่วนลงบนแผ่นฟิล์มขนาดเล็กเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บและป้องกันการฉีกขาด ทําลาย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

1 ฟิล์มโปร่งแสง ได้แก่ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิช และบัตรอเพอเจอร์

2 บัตรทึบแสง ได้แก่ ไมโครการ์ด และไมโครพริ้นท์

16 สื่อประเภทใดที่บริษัทผลิตฐานข้อมูลนิยมใช้สําหรับการบันทึกฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

(1) จานแม่เหล็กชนิดอ่อน (Floppy Disk)

(2) จานแสง (Optical Disk)

(3) ซีดีรอม (CD-ROM)

(4) วีดิทัศน์ดิจิตอล (DVD)

ตอบ 3 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กแบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป

2 จานแสง (Optical Disk) ได้แก่ VCD, DVD และ CD-ROM ที่นิยมใช้บันทึกฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการบันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 อักษรนําเล่ม คืออะไร

(1) ตัวอักษรที่มุมบนขวาในเนื้อหา

(2) ตัวอักษรที่มุมบนซ้ายในเนื้อหา

(3) ตัวอักษรหรือตัวเลขที่หน้าปกหนังสือ

(4) ตัวอักษรหรือตัวเลขที่สันหนังสือ

ตอบ 4 หน้า 84 อักษรนําเล่ม (Volume Guide) หมายถึง ตัวอักษรหรือตัวเลขที่สันหนังสือส่วนมากจะปรากฏอยู่ในหนังสืออ้างอิงที่มีหลายเล่มจบหรือที่เรียกว่าหนังสือชุด เช่น สารานุกรมจะมีตัวอักษรหรือตัวเลขพิมพ์ไว้ที่สันหนังสือ เพื่อบอกให้ทราบว่าหนังสือเล่มนั้นมีเนื้อหาเริ่มต้นตั้งแต่ตัวอักษรใด

18 พจนานุกรมประเภทใดเหมาะกับการให้ความหมายคําศัพท์ทางด้านการทหาร

(1) พจนานุกรมภาษาเดียว

(2) พจนานุกรมหลายภาษา

(3) พจนานุกรมเฉพาะวิชา

(4) พจนานุกรมฉบับสมบูรณ์

ตอบ 3 หน้า 85, 89 – 90, (คําบรรยาย) พจนานุกรมเฉพาะวิชา คือ พจนานุกรมสําหรับค้นหาความหมายของคําที่ใช้ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พจนานุกรมรวมคําศัพท์ทางการศึกษา พจนานุกรมคําศัพท์ทางด้านการทหาร พจนานุกรมรวมคําศัพท์กฎหมายไทย พจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

19 สารานุกรมให้เนื้อหาทางด้านใด

(1) ข้อเท็จจริงพื้นฐาน

(2) บทสรุปของเนื้อหาวิชา

(3) สาระสําคัญ

(4) เรื่องเล่าในตํานาน

ตอบ 1 หน้า 91 – 92, 95 สารานุกรม (Encyclopedia) หมายถึง หนังสือที่รวบรวมความรู้หรือข้อเท็จจริงพื้นฐานในแขนงวิชาต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญใน แต่ละสาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูลหรือความรู้ในรูปของบทความ โดยมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับ ไว้ที่ท้ายบทความ และจัดเรียงเนื้อหาตามลําดับตัวอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา ซึ่งอาจมีเล่มเดียวจบหรือหลายเล่มจบที่เรียกว่าหนังสือชุด ส่วนใหญ่สารานุกรมจะมีภาพประกอบ และมีดรรชนีช่วยค้นเรื่อง (Fact Index) อยู่ตอนท้ายเล่ม หรือถ้าเป็นหนังสือชุดก็จะอยู่เล่มสุดท้าย

20 ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับอักขรานุกรมชีวประวัติ

(1) ให้ลําดับเหตุการณ์ชีวิตของบุคคล

(2) ให้ผลงานของบุคคลที่มีชื่อเสียง

(3) ให้รายชื่อบุคคลที่สิ้นชีวิตแล้วเท่านั้น

(4) ให้วันเดือนปีเกิดของบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่

ตอบ 1 หน้า 97 – 100 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญและมีชื่อเสียง โดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิด หรือตาย (ถ้าบุคคลเจ้าของชีวประวัติสิ้นชีวิตแล้ว) ที่อยู่ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว ได้แก่ อักขรานุกรม ชีวประวัติของบุคคลทั่วไป จะมีขอบเขตครอบคลุมเฉพาะประวัติของบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ เท่านั้น หรือรายชื่อบุคคลที่สิ้นชีวิตไปแล้วเท่านั้น หรือที่ให้อักขรานุกรมชีวประวัติรวมทั้งผู้ที่สิ้นชีวิต และที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น Current Biography เป็นต้น

21 หนังสือรวมรายชื่อโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศ จัดเป็นหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) พจนานุกรม

(2) สารานุกรม

(3) นามานุกรม

(4) อักขรานุกรม

ตอบ 3 หน้า 102 – 103, 105 นามานุกรม (Directory) คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคลองค์การ หรือหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับสถานที่อยู่หรือที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์สําหรับ การติดต่อ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

1 นามานุกรมท้องถิ่น เช่น สมุดโทรศัพท์

2 นามานุกรมของรัฐ เช่น นามสงเคราะห์ส่วนราชการไทย

3 นามานุกรมสถาบัน เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย โรงเรียน ห้องสมุด ฯลฯ

4 นามานุกรมสาขาอาชีพ เช่น ทําเนียบกระทรวงยุติธรรม พุทธศักราช 2530

5 นามานุกรมการค้าและธุรกิจ เช่น รวมโรงงานอุตสาหกรรม

22 สยามออลมาแนค จัดเป็นหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) หนังสือคู่มือ

(2) หนังสือรายปี

(3) ปฏิทินเหตุการณ์รายปี

(4) สิ่งพิมพ์รัฐบาล

ตอบ 3 หน้า 112 สยามออลมาแนค เป็นหนังสือปฏิทินเหตุการณ์รายปีเล่มแรกของประเทศไทยที่รวบรวมเหตุการณ์สําคัญที่เกิดขึ้นในรอบปีของไทยทั้งในด้านการเมือง การปกครอง การทหาร การศึกษา การแรงงาน เศรษฐกิจ ศาสนา ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ธุรกิจการพาณิชย์ เกษตรกรรม กีฬา การท่องเที่ยว รวมทั้งสถิติในรูปของตาราง เช่น อัตราการเกิดและการตายของประชากร จํานวนประชากร เป็นต้น

23 หนังสือที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับสถานที่ทางภูมิศาสตร์ คือข้อใด (1) อักขรานุกรมภูมิศาสตร์

(2) พจนานุกรม

(3) หนังสือแผนที่

(4) หนังสือนําเที่ยว

ตอบ 1 หน้า 115 อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลอย่างสังเขปเกี่ยวกับชื่อของสถานที่สําคัญทางภูมิศาสตร์ มีลักษณะคล้ายพจนานุกรมที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับชื่อและสถานที่ ทางภูมิศาสตร์อย่างสั้น ๆ ให้คําอ่านและรายละเอียดอื่น ๆ ได้อย่างกระชับและน่าเชื่อถือที่สุด เช่น สถานที่ตั้ง ระยะทาง เส้นรุ้ง เส้นแวง ความตื้นลึกของทะเล ความสูงของภูเขา จํานวนผลผลิตทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จํานวนประชากร ตราประจําจังหวัด เป็นต้น

24 ข้อใดเป็นดรรชนีที่ใช้ค้นเนื้อเรื่องในหนังสือ

(1) ดรรชนีท้ายเล่ม

(2) ดรรชนีวารสาร

(3) ดรรชนีหนังสือพิมพ์

(4) ดรรชนีที่ห้องสมุดจัดทําขึ้นเอง

ตอบ 1 หน้า 120 ดรรชนีท้ายเล่ม เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้อ่านได้ค้นเรื่อง หัวข้อ ชื่อต่าง ๆ คํากลุ่มคําหรือวลีที่สําคัญ ซึ่งเก็บมาจากเนื้อเรื่องในหนังสือว่ามีรายละเอียดอธิบายไว้ในหน้าใด

ของหนังสือ โดยดรรชนีท้ายเล่มของหนังสือหรือสิ่งพิมพ์จะอยู่ท้ายเล่มของหนังสือ

25 หนังสือบรรณานุกรม หมายถึงข้อใด

(1) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อหนังสือ

(2) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อบุคคล

(3) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อหน่วยงาน

(4) หนังสือที่รวบรวมรายชื่อสถานที่

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ

26 ข้อใดกล่าวถึงประโยชน์ของการจัดหมู่หนังสือถูกต้องที่สุด

(1) ทําให้หนังสือที่มีเนื้อหาเหมือนกันจัดไว้ในที่เดียวกัน

(2) ทําให้หนังสือที่มีวิธีการจัดพิมพ์เหมือนกันจัดอยู่ในที่เดียวกัน

(3) ทําให้สามารถกําหนดตําแหน่งการจัดวางหนังสือที่มีขนาดเดียวกัน (4) ทําให้หนังสือทุกเล่มมีสัญลักษณ์ เกิดความรวดเร็วต่อการค้นหา

ตอบ 4 หน้า 150 ประโยชน์ของการจัดหมู่หนังสือของห้องสมุด มีดังนี้

1 ทําให้หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดมีสัญลักษณ์และมีตําแหน่งการจัดวางที่แน่นอนซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหนังสือที่ต้องการได้โดยง่าย หรือสามารถเข้าถึงหนังสือ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น ถือเป็นประโยชน์ที่มีความสําคัญที่สุด)

2 ทําให้หนังสือที่มีเนื้อหาเดียวกันและ/หรือประพันธ์วิธีเดียวกันรวมอยู่ในที่เดียวกัน

3 ทําให้หนังสือที่มีเนื้อเรื่องสัมพันธ์กันอยู่ใกล้กัน

4 ช่วยให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุดจัดเก็บหนังสือคืนที่ได้ง่ายขึ้น

5 ช่วยให้ทราบว่าห้องสมุดมีหนังสือในแต่ละสาขาวิชามากน้อยเพียงใด

27 ข้อใดคือระบบการจัดหมู่หนังสือที่เหมาะสมสําหรับห้องสมุดที่มีจํานวนหนังสือน้อย

(1) ระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(2) ระบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน

(3) ระบบทศนิยมสากล

(4) ระบบทศนิยมดิวอี้

ตอบ 4 หน้า 151, 153 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification: DDC หรือ DC) เป็นระบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ที่มีหนังสือทั่ว ๆ ไปหลายสาขาวิชาในจํานวนที่ไม่มากนัก เช่น ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุด โรงเรียน เป็นต้น ซึ่งการจัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้จะเป็นแบบเชิงกว้าง โดยแบ่งสรรพวิทยาการ ในโลกออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์แสดงเนื้อหาของหนังสือเป็นเลขอารบิก 3 หลัก ตั้งแต่ 100 – 000 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชี้เฉพาะยิ่งขึ้น

28 ข้อใดคือระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือที่สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหงใช้

(1) ระบบทศนิยมสากล

(2) ระบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(4) ระบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน

ตอบ 3 หน้า 153 – 155 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน (Library of Congress Classification : LCC หรือ LC) เป็นระบบที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่มีหนังสือเฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือมีหนังสือทั่วไปทุกประเภทเป็นจํานวนมาก เช่น ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยจะแบ่งเนื้อหาหนังสือออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์ในการจัดหมู่หรือเลขหมู่หนังสือเป็นแบบผสม คือ ใช้ตัวอักษรโรมัน A – Z (ยกเว้น I, O, W, X, Y) แสดงเนื้อหาในหมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิกตั้งแต่ 1 – 9999กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งแบ่งย่อยเรื่องอีกที่หนึ่ง

29 ข้อใดคือระบบการจัดหมวดหมู่หนังสือที่นิยมใช้สําหรับหนังสือทางการแพทย์

(1) ระบบทศนิยมสากล

(2) ระบบทศนิยมดิวอี้

(3) ระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

(4) ระบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน

ตอบ 4 หน้า 155 – 156 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(National Library Medicine : NLM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ใช้กับห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยจะใช้อักษรโรมัน W และเลขอารบิกเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับ การจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในด้านการจําแนก ซึ่งระบบนี้จะนิยมใช้กับห้องสมุดของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น หอสมุดศิริราช, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯห้องสมุดคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ขอนแก่น, ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

30 ข้อใดคือสัญลักษณ์ของหนังสือที่จะช่วยให้ค้นหาหนังสือในห้องสมุดได้รวดเร็ว

(1) เลขประจําหนังสือ

(2) รหัสของเอกสาร

(3) เลขหมู่หนังสือ

(4) เลขเรียกหนังสือ

ตอบ 4 หน้า 157, 191, (คําบรรยาย) เลขเรียกหนังสือ (Cat Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดให้กับหนังสือแต่ละเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด โดยเลขเรียก หนังสือที่ปรากฏบนบัตรรายการจะเป็นเครื่องชี้บอกตําแหน่งของหนังสือบนชั้น ซึ่งเป็นที่เก็บ หนังสือของห้องสมุด เพื่อช่วยให้ค้นหาหนังสือในห้องสมุดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เลขเรียก หนังสือประกอบด้วยส่วนสําคัญ 3 ส่วน คือ

1 เลขหมู่หนังสือ

2 เลขผู้แต่งและอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง

3 สัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น ปี พ.ศ. เล่มที่ ฉบับที่ ฯลฯ

31 การเรียงหนังสือบนชั้นหนังสือมีหลักการอย่างไร

(1) จัดเรียงตามลําดับความสนใจของผู้ใช้

(2) จัดเรียงตามกระแสความสนใจของผู้ใช้ส่วนใหญ่

(3) จัดเรียงตามเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา

(4) เลขหมู่แบบทศนิยมดิวอี้มากอนแบบรัฐสภาอเมริกัน

ตอบ 3 หน้า 159 – 160 วิธีการจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอีจะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก แต่ถ้าเลขหมู่ซ้ำกันก็ให้พิจารณาจากเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ

32 รายงานประจําปี กระทรวงมหาดไทย ควรใช้สัญลักษณ์สําหรับการจัดระบบทรัพยากรสารสนเทศอย่างไร

(1) GP

(2) VID

(3) TR

(4) GB

ตอบ 1 หน้า 131 132, 141, 166 167 สิ่งพิมพ์รัฐบาล หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่หน่วยงานราชการเป็นผู้รับผิดชอบในการพิมพ์ขึ้น ซึ่งสาระในเล่มอาจเป็นรายงานการปฏิบัติงาน รายงานประจําปี ร่างกฎหมายและมติต่าง ๆ ฯลฯ โดยสํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง ได้จัดเก็บ สิ่งพิมพ์รัฐบาลด้วยการแยกเป็นทรัพยากรลักษณะพิเศษ (Special Collection) และกําหนด ระบบการจัดหมู่ขึ้นโดยเฉพาะ คือ กําหนดอักษร GP (Government Publication) เพื่อเป็น สัญลักษณ์พิเศษของสิ่งพิมพ์รัฐบาลกํากับเหนือเลขเรียกหนังสือ หลังจากนั้นจึงจัดแยกสิ่งพิมพ์ตามหน่วยงานรัฐบาลในระดับกระทรวง กรม กอง ฯลฯ

33 ข้อใดเป็นวิธีการจัดเก็บวารสารฉบับย้อนหลังที่นิยมใช้กันมากที่สุด

(1) จัดเก็บเข้าแฟ้มแยกตามชื่อของชื่อเรื่อง

(2) จัดเก็บใส่กล่องแล้วจัดเรียงบนชั้นหนังสือ

(3) เย็บรวมเล่มเมื่อครบปี และจัดเรียงตามลําดับอักษร

(4) จัดเก็บในตู้เก็บเอกสารตามลําดับอักษรชื่อเรื่อง

ตอบ 3 หน้า 168 วิธีจัดเก็บวารสารของห้องสมุด มีดังนี้

1 วารสารฉบับใหม่ คือ วารสารฉบับล่าสุด ห้องสมุดจะจัดเรียงไว้บนชั้นเอียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสารจากซ้ายไปขวา และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ที่ชั้นตรงกับตําแหน่งของวารสาร

2 วารสารฉบับย้อนหลัง คือ วารสารที่ไม่ใช่ฉบับล่าสุด ซึ่งห้องสมุดจะนําไปเย็บรวมเป็นเล่ม เมื่อได้รับครบปีแล้วจัดเก็บไว้บนชั้น โดยเรียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสาร และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ตรงตามตําแหน่งของวารสารนั้น ๆ

34 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังที่เหมาะสมที่สุด (1) รวบรวมข้อมูลลงในฐานข้อมูล

(2) เย็บรวมกันแยกเป็นแต่ละเดือน

(3) จัดวางบนชั้นปิดแยกตามชื่อ

(4) ถ่ายเป็นวัสดุย่อย คนเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม

ตอบ 4 หน้า 169 ห้องสมุดโดยทั่วไปนิยมคัดเลือกและจัดเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับย้อนหลังที่สําคัญ ๆด้วยการถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนแล้วเก็บไว้ในรูปของไมโครฟิล์ม เพื่อรักษาสภาพและประหยัดเนื้อที่ ในการจัดเก็บ เช่น สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหง จะจัดเก็บหนังสือพิมพ์ 10 ฉบับ ไว้ในรูปไมโครฟิล์ม ได้แก่ สยามรัฐ มติชน ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวพาณิชย์ มติชนรายสัปดาห์สยามรัฐรายสัปดาห์ ประชาชาติ Bangkok Post และ The Nation

35 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บจุลสารที่เหมาะสมที่สุด

(1) กําหนดหัวเรื่องและเก็บใส่แฟ้ม

(2) จัดหมวดหมู่และเรียงรวมกับหนังสือ

(3) เย็บเล่มเมื่อครบปีและเรียงตามปี พ.ศ.

(4) เก็บตามชื่อหน่วยงาน

ตอบ 1 หน้า 163, 170 171 วิธีการจัดเก็บจุลสารและกฤตภาคของห้องสมุดจะใช้วิธีเดียวกันส่วนมากนิยมจัดเก็บแยกออกจากวัสดุสารสนเทศอื่น ๆ คือ จัดเก็บโดยกําหนดหัวเรื่องกํากับไว้ที่มุมบนของปก แล้วนําจุลสารและกฤตภาคที่มีหัวเรื่องเดียวกันเก็บรวบรวมไว้ในแฟ้ม ปิดป้าย ชื่อหัวเรื่องที่แฟ้ม และนําแฟ้มไปจัดเก็บไว้ในตู้เก็บเอกสารเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องโดยที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่าแต่ละลิ้นชักมีแฟ้มเริ่มจากอักษรตัวใดถึงตัวใด

36 ข้อใดเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้สําหรับการจัดระบบทรัพยากรสารสนเทศประเภทวีดิทัศน์

(1) DVD

(2) CVD

(3) RV

(4) VR

ตอบ 4 หน้า 175 วีดิทัศน์ (Videorecording) มีวิธีจัดเก็บ 2 แบบ คือ

1 จัดเลขหมู่ให้ โดยมีป้ายติดเลขหมู่ที่ตลับเทป แล้วจัดเรียงรวมกับหนังสือ

2 จัดแยกจากหนังสือ โดยกําหนดสัญลักษณ์ คือ VR (Videorecording) ตามด้วยเลขทะเบียนหรือเลขหมู่ ติดป้ายชื่อเรื่อง ความยาว แล้วนําไปจัดเรียงไว้บนชั้นหรือใส่ในลิ้นชักตู้เหล็ก

37 ข้อใดคือเครื่องมือที่ใช้ค้นหาทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดในยุคปัจจุบัน

(1) รายการแบบบัตร

(2) รายการบนซีดีรอม

(3) รายการออนไลน์

(4) รายการบนวัสดุย่อส่วน

ตอบ 3 หน้า 190, 313, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 219) ในยุคปัจจุบันผู้ใช้ห้องสมุดสามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยใช้บัตรรายการแบบ ออนไลน์ (Online Catalog) คือ การบันทึกข้อมูลของหนังสือหรือทรัพยากรสารสนเทศของ ห้องสมุดไว้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบค้นคืนแบบออนไลน์ที่ใช้ค้นหารายการหนังสือในห้องสมุดนี้ เรียกว่า OPAC (Online Public Access Catalog) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้จากจอภาพ โดยเลือกใช้คําสั่งจากเมนูหลักที่กําหนดไว้

38 ส่วนใดของบัตรรายการที่แสดงขนาดของหนังสือ

(1) ชื่อชุด

(2) การพิมพ์และการเผยแพร่

(3) แนวสืบค้น

(4) ลักษณะรูปร่าง

ตอบ 4 หน้า 191, 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 220) ลักษณะวัสดุ หรือลักษณะรูปร่าง(Physical Description) เป็นรายการที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะรูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ประกอบด้วยจํานวนหน้าหรือจํานวนเล่ม ภาพประกอบ และส่วนสูง ของหนังสือ เช่น V, 120 p. : it. (Some cot.) ; 21 cm. หมายถึง หนังสือเล่มเดียวจบ (v = Volume) มีทั้งหมด 120 หน้า (120 p.) มีภาพประกอบ (it. = illustration)สีบางส่วน (some cot. = some color) และมีส่วนสูง 21 เซนติเมตร (21 cm.)

39 ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับรายการหลัก

(1) หมายถึง เลขเรียกหนังสือ

(2) สามารถใช้สืบค้นได้

(3) คือ รายการชื่อผู้แต่ง

(4) มักอยู่บรรทัดแรกของรายการ

ตอบ 1 หน้า 191 192, 194 รายการชื่อผู้แต่ง (Author) หรือรายการหลัก (Main Entry)มักปรากฏอยู่บนบรรทัดแรกของบัตรหลัก (Main Card) หรือบัตรยืนพื้น หรือบัตรผู้แต่ง ซึ่งบรรณารักษ์จะจัดทําขึ้นเป็นครั้งแรก และใช้เป็นบัตรหลักในการจัดทําบัตรเพิ่มเติมอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สืบค้นหนังสือจากจุดค้นได้หลาย ๆ จุด แต่ในกรณีที่ไม่สามารถลงชื่อผู้แต่ง เป็นรายการหลักได้ ให้ลงชื่อเรื่องเป็นรายการหลักแทน นอกจากนี้ในบัตรหลักยังมีแนวสืบค้นอยู่ด้านล่างเพื่อให้ทราบว่าห้องสมุดทําบัตรเพิ่มชนิดใดบ้าง

40 ข้อใดมักจะแสดงไว้ที่รายการส่วนหมายเหตุ

(1) มีบรรณานุกรมอยู่ท้ายเล่ม

(2) คําคม/พ.บางพลี

(3) สํานักพิมพ์ดอกหญ้า, 2556

(4) แสงโสม, บรรณาธิการ

ตอบ 1 หน้า 193, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 221) หมายเหตุ (Notes) เป็นส่วนประกอบของบัตรรายการที่ให้ข้อมูลอื่นเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือนอกเหนือจากที่บอกไว้ในส่วนอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบเพิ่มเติมว่าหนังสือเล่มนั้นมีบรรณานุกรมอยู่ท้ายเล่ม หรือมีดรรชนี อภิธานศัพท์ ภาคผนวก ฯลฯ เช่น บรรณานุกรม : หน้า 300 – 320

41 แนวสืบค้น หมายถึงข้อใด

(1) หัวเรื่อง

(2) คําสําคัญ

(3) ISBN

(4) เลขหมู่

ตอบ 1 หน้า 193 แนวสืบค้น (Tracing) เป็นส่วนประกอบของบัตรรายการที่บอกให้ทราบว่านอกจากบัตรยืนพื้นหรือบัตรหลักแล้ว ห้องสมุดทําบัตรชนิดใดเพิ่มอีกบ้าง ซึ่งรายการของแนวสืบค้น จะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นหัวเรื่อง และรายการเพิ่มต่าง ๆ เช่น รายการชื่อผู้แต่งร่วม ชื่อผู้แปลชื่อผู้วาดภาพประกอบ เป็นต้น

42 รายการใดไม่ปรากฏบนรายการแบบบัตร

(1) สถานภาพของหนังสือ

(2) สถานที่พิมพ์

(3) ชื่อผู้แปล

(4) ฉบับพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 190 – 193 ส่วนประกอบที่สําคัญของรายการแบบบัตร (Catalog Card) หรือบัตรรายการ ได้แก่

1 เลขเรียกหนังสือ

2 ชื่อผู้แต่งหรือรายการหลัก

3 ชื่อเรื่องและการแจ้งความรับผิดชอบ

4 ครั้งที่พิมพ์หรือฉบับพิมพ์

5 การพิมพ์และการจัดจําหน่าย ประกอบด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่พิมพ์ สํานักพิมพ์ และปีที่พิมพ์

6 ลักษณะวัสดุหรือลักษณะรูปร่าง

7 ชื่อชุด

8 หมายเหตุ

9 เลขมาตรฐานสากล

10 แนวสืบค้น (ดูคําอธิบายข้อ 41. ประกอบ)

43 ส่วนใดของบัตรรายการแสดงถึงความทันสมัยของเนื้อหา

(1) สถานภาพของหนังสือ

(2) สถานที่พิมพ์

(3) ชื่อผู้แปล

(4) ปีที่พิมพ์

ตอบ 4 หน้า 60, 193 ปีที่พิมพ์ (Date of Publication) คือ ปีที่ผลิตสิ่งพิมพ์นั้น หรือปีที่หนังสือแต่ละเล่มได้รับการจัดพิมพ์ เพื่อแสดงความเก่าหรือความทันสมัยของเนื้อหาในหนังสือ ดังนั้น ปีที่พิมพ์จึงมีความสําคัญเพราะจะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าเป็นหนังสือเก่าหรือใหม่ สําหรับหนังสือ ที่เป็นภาษาต่างประเทศจะนิยมลงรายการด้วยปีลิขสิทธิ์ (Copyright Date) โดยมีตัวอักษร C นําหน้าปี เช่น C1990

44 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องที่สุด

(1) คําสําคัญใช้ในระบบสืบค้นออนไลน์ของห้องสมุดและอินเทอร์เน็ต (2) หัวเรื่อง คือ ศัพท์ควบคุมในระบบสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

(3) Search Engine ใช้ศัพท์ควบคุมในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

(4) LCSH เป็นบัญชีศัพท์อิสระที่ใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ตอบ 1 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 251, 262) ความแตกต่างระหว่างหัวเรื่องกับคําสําคัญ มีดังนี้

1 หัวเรื่อง คือ คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ ซึ่งถือเป็นศัพท์ควบคุมที่ใช้ในระบบการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด เพราะบรรณารักษ์จะเลือกคําหรือวลีจาก บัญชีหัวเรื่องมาตรฐานชื่อใดชื่อหนึ่ง เช่น บัญชีหัวเรื่อง LCSH สําหรับหนังสือภาษาอังกฤษ ในห้องสมุดขนาดใหญ่, บัญชีหัวเรื่อง Sear’s List สําหรับหนังสือภาษาอังกฤษในห้องสมุดขนาดเล็ก ฯลฯ

2 คําสําคัญ คือ คําศัพท์อิสระที่ผู้ใช้คิดขึ้นเอง เพื่อใช้ในระบบการสืบค้นสารสนเทศออนไลน์ของห้องสมุดและอินเทอร์เน็ต

45 ข้อใดเลือกใช้คําค้นได้ถูกต้อง

(1) Abstract art

(2) Art–abstract

(3) Art, abstract

(4) Art: abstract

ตอบ 3 หน้า 223 224, 228 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

1 คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

2 คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and” “กับ” “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ไปในทางเดียวกัน เช่น ชุมชนกับโรงเรียน บิดาและมารดา ฯลฯ และที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and Evil ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาคและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายดีขึ้น เช่น เคมี, วัตถุ ดอกไม้, การจัด Education, higher Art, abstract ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

46 ข้อใดใช้หัวเรื่องย่อยเพื่อให้การสืบค้นข้อมูลได้เนื้อหาเฉพาะเจาะจง

(1) ไทย, ประวัติศาสตร์

(2) ประวัติศาสตร์ ไทย

(3) ไทย : ประวัติศาสตร์

(4) ไทย- -ประวัติศาสตร์

ตอบ 4 หน้า 224 225 หัวเรื่องย่อย เป็นคําหรือวลีที่ใช้เป็นหัวเรื่องย่อยเพื่อขยายหัวเรื่องใหญ่ให้เห็นชัดเจนหรือจําเพาะเจาะจงขึ้น โดยหัวเรื่องย่อยจะมีขีดสั้น 2 ขีด (-) อยู่ข้างหน้าคํา เพื่อคั่นระหว่างหัวเรื่องใหญ่และหัวเรื่องย่อย แบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้

1 แบ่งตามวิธีเขียน เช่น ภาษาไทย- แบบฝึกหัด, หนังสือหายาก– บรรณานุกรม ฯลฯ

2 บอกลําดับเหตุการณ์ ซึ่งจะแบ่งตามปีคริสต์ศักราช ยุคสมัย หรือชื่อพระเจ้าแผ่นดิน เช่น ไทย– ประวัติศาสตร์–กรุงสุโขทัย, 1800 – 1900 ฯลฯ

3 แบ่งตามขอบเขตเฉพาะของเนื้อหา เช่น English Language–Grammar,เกษตรกรรม- แสังคม ฯลฯ

4 แบ่งตามสภาพภูมิศาสตร์ เช่น พุทธศาสนา–ไทย–เชียงใหม่, เรือ- ไทย ฯลฯ

47 อักษรย่อ “NT” ในบัญชีหัวเรื่อง มีความหมายอย่างไร

(1) คําที่เลิกใช้แล้ว

(2) คําที่เพิ่มเข้ามาใหม่

(3) คําสัมพันธ์ที่กว้างกว่า

(4) คําสัมพันธ์ที่แคบกว่า

ตอบ 4 หน้า 225 – 227, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 256) บัญชีหัวเรื่องมาตรฐาน LCSH ฉบับปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้สัญลักษณ์บางตัวเพื่อกําหนดความสัมพันธ์ของคํา ที่ใช้เป็นหัวเรื่อง ดังนี้

1 BT (Broader Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่กว้างกว่า

2 NT (Narrower Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่แคบกว่า

3 RT (Related Term) คือ หัวเรื่องที่สัมพันธ์กับคําหลักหรือใช้แทนกันได้

4 UF (Use For) คือ หัวเรื่องที่ไม่กําหนดให้ใช้แล้ว

5 USE คือ หัวเรื่องที่กําหนดให้ใช้

6 — คือ หัวเรื่องย่อย

48 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

(1) วิทยานิพนธ์เป็นงานวิจัยของนักศึกษาระดับปริญญาตรีและโท (2) ปริญญานิพนธ์ คือ งานค้นคว้าของนักศึกษาระดับปริญญาตรีและโท

(3) ดุษฎีนิพนธ์ คือ งานค้นคว้าของอาจารย์มหาวิทยาลัย

(4) ภาคนิพนธ์ คือ งานค้นคว้าของรายวิชาใดวิชาหนึ่ง

ตอบ 3 หน้า 237 วิทยานิพนธ์ (Thesis) เป็นรายงานการวิจัยหรือการค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ใช้เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะทางวิชาการให้สูงขึ้น โดยวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท (บัณฑิตศึกษา) จะเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า “ปริญญานิพนธ์” (Thesis) ระดับปริญญาเอกเรียกว่า “ดุษฎีนิพนธ์” (Dissertation)ส่วนรายงานประจําวิชาหรือภาคนิพนธ์ เป็นงานค้นคว้าของรายวิชาใดวิชาหนึ่ง

49 ข้อใดกล่าวถึงการเลือกหัวข้อการทํารายงานได้ถูกต้องที่สุด

(1) การเลือกหัวข้อรายงานต่อจากการรวบรวมข้อมูล

(2) หัวข้อที่รุ่นพี่เคยทําไว้แล้ว

(3) หัวข้อที่น่าสนใจและน่าศึกษาเพิ่มเติม

(4) หัวข้อที่ทําได้ง่ายและไม่ต้องลงทุนมาก

ตอบ 3 หน้า 238 239 การกําหนดเรื่องหรือหัวข้อของรายงานมีข้อที่ควรพิจารณา ดังนี้

1 เลือกเรื่องที่น่าสนใจหรือชอบมากที่สุด และควรสอดคล้องกับวิชาที่กําลังศึกษาอยู่

2 เลือกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

3 เลือกเรื่องที่ใกล้ตัวเราหรือที่เราเกี่ยวข้องด้วย

4 เลือกเรื่องที่มีข้อมูลให้ค้นคว้าอย่างเพียงพอหรืออยู่ในวิสัยที่สามารถทําได้

5 เลือกเรื่องที่มีขอบเขตไม่กว้างหรือไม่ยาวจนเกินไป เพื่อให้ทันกับกําหนดเวลาและขนาดของรายงาน

50 ข้อใดไม่ใช่แหล่งข้อมูลปฐมภูมิที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า

(1) การจดบันทึกผลการทดลองในแต่ละวัน

(2) การเก็บข้อมูลภาคสนามของนักวิจัย

(3) การอ่านอักษรโบราณจากสมุดไทยของโบราณคดี

(4) การอ่านตําราวิชากฎหมายมหาชนของอาจารย์ผู้สอน

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 13 ประกอบ

51 ข้อมูลในข้อใดไม่ควรบันทึกข้อมูลแบบสรุปความ

(1) การฟังรายการ “เล่าข่าวยามเช้า” ทางโทรทัศน์

(2) บทคัดย่อวิทยานิพนธ์สาขากฎหมาย

(3) คําสั่งลงโทษข้าราชการทําผิดวินัย

(4) ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐออนไลน์

ตอบ 3 หน้า 257, 260 261, (คําบรรยาย) การบันทึกข้อมูลแบบสรุปความหรือย่อความ เป็นการสรุปใจความสําคัญหรือบันทึกเฉพาะสิ่งที่สําคัญจริง ๆ ลงบนบัตร โดยใช้คําพูดของตนเอง และงดเว้นการอธิบาย การยกตัวอย่าง ซึ่งจํานวนคําในบัตรควรเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของข้อมูลเดิม เช่น บทสารคดีท่องเที่ยว บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ หรือการย่อข่าวจากสื่อมวลชนต่าง ๆ ฯลฯ (ส่วนตัวเลือกข้อ 3 เป็นการบันทึกข้อมูลแบบลอกความ ซึ่งจะเหมาะกับข้อความหรือข้อเท็จจริง ที่ชัดแจ้ง เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ความหมายหรือคํานิยามในเชิงวิชาการ พระราชกฤษฎีกา พระบรมราโชวาท ข้อบังคับหรือคําสั่งของทางราชการ พระราชบัญญัติ สุนทรพจน์ ฯลฯ)

52 ข้อใดกล่าวถึงการเรียบเรียงรายงานไม่ถูกต้อง

(1) การใช้คํากระชับและถูกต้องตามหลักวิชาการ

(2) การใช้ภาษาอังกฤษให้มากเพื่อเพิ่มคุณค่าของเนื้อหา

(3) การตรวจสอบความถูกต้องของคําโดยใช้พจนานุกรม

(4) การเรียบเรียงเนื้อหาตามโครงเรื่องและบัตรบันทึก

ตอบ 2 หน้า 263, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 337) ข้อควรพิจารณาในการเรียบเรียงรายงานฉบับร่าง มีดังนี้

1 เรียบเรียงเนื้อหาของรายงานตามลําดับของโครงเรื่องและบัตรบันทึก โดยเนื้อหาไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป

2 เตรียมบัตรบรรณานุกรม บัตรบันทึกข้อมูล และพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคํา

3 ใช้ภาษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ กระชับ สุภาพ และอธิบายทุกสิ่งให้ชัดเจน

4 ไม่ใช้อักษรย่อและคําย่อ

5 เขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้องตามรูปแบบของสถาบันที่ส่งรายงาน โดยแสดุงไว้หลังข้อความที่อ้าง และเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตลอดรายงาน

6 การใส่ตาราง ภาพประกอบ แผนภูมิ แผนที่ กราฟ ต้องระบุแหล่งที่มา โดยใช้แบบแผนเช่นเดียวกับเชิงอรรถ ฯลฯ

53 ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับรายการภาคผนวกของรายงาน

(1) ตารางเปรียบเทียบสถิติประชากร

(2) แบบสอบถาม

(3) ตารางลําดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

(4) อภิธานศัพท์

ตอบ 4 หน้า 64, 275 ภาคผนวก (Appendix) เป็นส่วนท้ายของรายงานที่นําเสนอข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากส่วนที่เป็นเนื้อเรื่อง เนื่องจากรายการนั้นไม่เหมาะที่จะเสนอแทรกไว้ในส่วน ของเนื้อหา แต่มีความสัมพันธ์และช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดียิ่งขึ้น เช่น แบบสอบถาม ตัวเลขสถิติ ตารางเปรียบเทียบสถิติประชากร ตารางลําดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ภาพประกอบเนื้อเรื่อง เป็นต้น

54 การลงรายการอ้างอิงในข้อใดถูกต้อง

(1) วัญญา ภัทรสุข. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552.

(2) รศ.ดร.วัญญา ภัทรสุข. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : :โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552. (3) ดร.วัญญา ภัทรสุข. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์ 2552. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

(4) รศ.ดร.วัญญา ภัทรสุข. 2552. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตอบ 1 หน้า 254 – 255, 276 277 จากตัวเลือกข้างต้น ใช้รูปแบบการเขียนรายการบรรณานุกรมสําหรับหนังสือตามคู่มือ Turabian ซึ่งมีแบบแผนการเขียนรายการอ้างอิงที่ถูกต้อง ดังนี้

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์, สถานที่พิมพ์ : สํานักพิมพ์, ปีที่พิมพ์

ในกรณีที่ผู้แต่งเป็นคนไทย ไม่ต้องใส่คํานําหน้าชื่อ ตําแหน่งทางวิชาการหรือวิชาชีพ เช่น วัญญา ภัทรสุข. ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552.

55 ข้อใดเขียนรายการอ้างอิงได้ถูกต้อง

(1) (Thomas D. Wilson, 1989, 40)

(2) (T.D. Wilson, 1989, p. 40)

(3) (Wilson 1989, 40)

(4) (Wilson, Thomas D., 1989, pp. 40)

ตอบ 3 หน้า 264, 276 277, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 298) การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม – ปี (Author-date) คือ รายการอ้างอิงแบบในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) โดยใส่ชื่อผู้เขียนและปีที่พิมพ์พร้อมด้วยเลขหน้าไว้ในวงเล็บหลังข้อความ ที่คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง ซึ่งมี 2 รูปแบบ ได้แก่

1 รูปแบบตามคู่มือ urabian คือ ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name) ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Wilson 1989, 40) มม.1999 40)

2 รูปแบบตามคู่มือ APA คือ (ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง, / ปีที่พิมพ์, / หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ, 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name) ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Wilson, 1989, 40)

56 การพัฒนาอินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้นมีวัตถุประสงค์ตรงกับข้อใด (1) การค้า

(2) การสื่อสาร

(3) สหรัฐอเมริกา

(4) อาร์พาเน็ต

ตอบ 2 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 48), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนา เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งานด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์ของหน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 บริการรับ-ส่งข่าวสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เฉพาะที่เรียกว่าอะไร

(1) เว็บบราวเซอร์

(2) เว็บมาสเตอร์

(3) เว็บบอร์ด

(4) กูเกิล

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 46, 55), (คําบรรยาย) Web browser คือ ซอฟต์แวร์และโปรแกรมเฉพาะที่ใช้แสดงผลข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสําหรับการเข้าสู่บริการเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการเว็บไซต์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเว็บบราวเซอร์สามารถ ใช้เปิดเอกสารไฮเปอร์เท็กซ์ หรือเปิดดูสื่อต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยภาพและเสียง รวมทั้ง สามารถเชื่อมโยงการรับ-ส่งข่าวสารบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตได้ ตัวอย่างของ เว็บบราวเซอร์ เช่น Internet Explorer, Netscape Navigator, Mozila Firefox และ Google Chrome เป็นต้น

58 www.ru.ac.th หมายถึงอะไร

(1) URL

(2) DNS

(3) FTP

(4) TCP

ตอบ 1 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 45, 56) การเข้าถึงสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผู้ใช้สามารถเข้าถึงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเซิร์ฟเวอร์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยระบุที่อยู่ของเว็บไซต์หรือตําแหน่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า “URL Address (Uniform Resource Location) เช่น http://www.ru.ac.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของ มหาวิทยาลัยรามคําแหง ทั้งนี้สารสนเทศที่ปรากฏบนหน้าจอแรกของเว็บจะเรียกว่า“โฮมเพจ” (Home Page) ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกรายการที่ต้องการค้นคว้าข้อมูลต่อไปได้

59 Search Engine หมายถึงอะไร

(1) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศออนไลน์ google.com

(2) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศจากฐานข้อมูล OPAC

(3) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศจากฐานข้อมูล Web OPAC (4) เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศจากฐานข้อมูล E-book

ตอบ 1 หน้า 313, (คําบรรยาย) Search Engine คือ เครื่องมือช่วยค้นหาสารสนเทศออนไลน์จากฐานข้อมูลเว็บไซต์ (Websites) ที่ให้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ Search Engine จะแสดงรายการสารบาญและช่องว่างให้เติมคําที่ต้องการสืบค้น จากนั้นให้ผู้ใช้ป้อนคํา ข้อความ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการค้นหา ก็สามารถหาเว็บไซต์ที่ต้องการหรือรายชื่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา ใกล้เคียงกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่ง Search Engine ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันได้แก่ www.google.com, www.altavista.com, www.metacrawler.com เป็นต้น

60 ข้อใดเกี่ยวข้องกับการแสดงความคิดเห็นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์

(1) เว็บบราวเซอร์

(2) เว็บมาสเตอร์

(3) ไลน์

(4) กูเกิล

ตอบ 3 (คําบรรยาย) เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเด่นหลักคือ ช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารหรือ แสดงความคิดเห็นได้ในวงกว้างและหลากหลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ โดยเว็บไซต์ที่ใช้สําหรับ Social Network เช่น Facebook, Twitter, Linkedin, YouTube Line, MySpace, Hi5 ฯลฯ

LIS1003 การใช้ห้องสมุด 1/2558

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2558

ข้อสอบกระบวนวิชา LIS 1003 การใช้ห้องสมุด

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 60 ข้อ)

1 ข้อใดกล่าวถึงการใช้ข้อมูลและสารสนเทศได้ถูกต้องที่สุด

(1) เอ็มเลิกคบเพื่อนสนิทเพียงเพราะคํายุยงของแฟน

(2) แอ็ดซื้อหวย 500 บาท ตามคุณย่าที่มาเข้าฝันก่อนวันหวยออก

(3) โอมขับรถถูกต้องตามกฎจราจรเพื่อไม่ให้รถติด

(4) รัฐมนตรีสั่งให้ชาวนาเลิกปลูกข้าวนาปรังตามคําทํานายของหมอดู ตอบ 3 หน้า 3, 5, (คําบรรยาย) คําว่า “สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข่าวสารความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกิดจากข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ และประมวลผลแล้ว ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ซึ่งบันทึกลงในสื่อหรือวัสดุประเภทต่าง ๆ ที่สามารถถ่ายทอด และเผยแพร่ได้ ดังนั้นสารสนเทศจึงมีความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าข้อมูล เนื่องจาก สามารถนํามาช่วยแก้ไขปัญหาและประกอบการตัดสินใจได้ ส่วนคําว่า “ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อมูลดิบหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง หรือยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และประเมินผลอย่างเป็นระบบ เช่น ข่าวจากหนังสือพิมพ์หรือโทรทัศน์ ข่าวซุบซิบหรือข่าวลือ การโฆษณาสินค้า ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การกล่าวหา/โจมตีคู่แข่งทางการเมือง เป็นต้น

2 ข้อใดไม่สัมพันธ์กัน

(1) สุเมเรียนกับอักษรคิวนิฟอร์ม

(2) อียิปต์และไฮโรกลิฟิก

(3) กรีกและโคเด็กซ์

(4) อียิปต์และคิวนิฟอร์ม

ตอบ 4 หน้า 6 – 8, (คําบรรยาย) พัฒนาการของห้องสมุดและวัสดุที่ใช้บันทึกความรู้ มีดังนี้

1 ชาวสุเมเรียนคิดค้นอักษรรูปลิม “คิวนิฟอร์ม บันทึกลงบนแผ่นดินเหนียว

2 ชาวบาบิโลเนียนมี “ประมวลกฎหมายของพระเจ้าฮัมมูราบี” จารึกบนแผ่นหินสีดํา

3 ชาวอียิปต์มีตัวอักษรภาพ “ไฮโรกลิฟิก” บันทึกลงบนกระดาษปาไปรัส

4 ชาวกรีกมีแผ่นหนังสัตว์ฟอกที่เย็บรวมเป็นเล่มที่เรียกว่า “โคเด็กซ์” ฯลฯ

3 ข้อใดกล่าวได้ถูกต้องที่สุด

(1) หอไตรได้สร้างครั้งแรกสมัยกรุงศรีอยุธยา

(2) หอหลวงสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยกรุงสุโขทัย

(3) หอพุทธสาสนสังคหะสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5

(4) หอพระมณเฑียรธรรมสร้างขึ้นในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ตอบ 3 หน้า 9 – 10, (คําบรรยาย) ห้องสมุดในประเทศไทยมีพัฒนาการตามลําดับยุคสมัย ดังนี้

1 สมัยสุโขทัย ได้แก่ หอไตรหรือหอพระไตรปิฎกภายในวัดวาอารามต่าง ๆ

2 สมัยอยุธยา ได้แก่ หอหลวงภายในพระราชวัง เพื่อเก็บรักษาหนังสือ วรรณกรรมทางโลก ตัวบทกฎหมาย และเอกสารทางราชการ

3 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการสร้างหอสมุดประจํารัชกาลต่าง ๆ ได้แก่ หอพระมณเฑียรธรรมภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อประดิษฐานพระไตรปิฎก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นห้องสมุดประชาชน แห่งแรกของไทย, หอพระสมุดวชิรญาณ หอพุทธสาสนสังคหะ (ตั้งอยู่ในวัดเบญจมบพิตร) และหอพระสมุดวชิรญาณสําหรับพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตามลําดับ

4 ข้อใดเกี่ยวข้องกับ “จิ” ในหัวใจนักปราชญ์โดยตรง

(1) ลุงมาวิเคราะห์ข่าวที่รับฟังจากวิทยุชุมชน

(2) ป้าแดงตัดสินใจเลิกปลูกข้าวตามเพื่อนบ้าน

(3) แดงอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ทุกเช้า

(4) เมย์ชอบถามวิทยากรในงานประชุมวิชาการ

ตอบ 1 หน้า 20, (คําบรรยาย) หลักของหัวใจนักปราชญ์ ได้แก่ “สุจิ ปุ ลิ” มีดังนี้

1 สุ (สุต หรือสุตตะ) คือ การฟังหรือการรับสารทั้งปวง รวมทั้งการอ่านหนังสือ และการค้นคว้าหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ

2 จิ (จินตนะ หรือจินตะ) คือ การคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจทําสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

3 ปุ (ปุจฉา) คือ การไต่ถามหรือเสวนาหาคําตอบจากผู้รู้

4 ลิ (ลิขิต) คือ การเขียนหรือการจดบันทึก

5 ข้อใดคือการอ่านของนักวิชาการเพื่อเตรียมเขียนตําราหรืองานสร้างสรรค์

(1) การอ่านคร่าว ๆ

(2) การอ่านอย่างเจาะจง

(3) การอ่านเพื่อศึกษารายละเอียด

(4) การอ่านอย่างวิเคราะห์

ตอบ 4 หน้า 18, (คําบรรยาย) การอ่านอย่างวิเคราะห์ (Critical Reading) เป็นทักษะการอ่านในระดับสูงสุด ถือว่าเป็นสุดยอดของกระบวนการอ่านเอาความ ซึ่งผู้อ่านมักเป็นนักวิจัยหรือนักวิชาการ ที่ต้องมีความรู้ในเรื่องที่จะอ่านมาก่อน เพราะเป็นการอ่านที่ต้องใช้วิจารณญาณอย่างมาก สามารถแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งประเมินค่าหรือวิจารณ์สิ่งที่อ่านได้อย่างมีเหตุผลและ มีหลักเกณฑ์ เช่น การอ่านเพื่อรวบรวมข้อมูลมาประกอบการทํารายงาน ทําวิจัย การอ่านเพื่อเตรียมเขียนตําราหรืองานสร้างสรรค์ เป็นต้น

6 ห้องสมุดในข้อใดที่ไม่อนุญาตให้ยืมหนังสือกลับไปอ่านข้างนอก

(1) ห้องสมุดโรงเรียน

(2) ห้องสมุดคณะมนุษยศาสตร์

(3) หอสมุดแห่งชาติ

(4) ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี

ตอบ 3 หน้า 27 หอสมุดแห่งชาติ เป็นแหล่งค้นคว้าที่สําคัญระดับชาติ โดยให้บริการความรู้แก่ประชาชนทั่วไปไม่จํากัดเพศ วัย เชื้อชาติ ศาสนา และพื้นฐานความรู้ ซึ่งจะให้บริการเช่นเดียวกับ ห้องสมุดประชาชน แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ยืมหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ และโสตทัศนวัสดุออกนอกห้องสมุด

7 ข้อใดกล่าวถึงแหล่งสารสนเทศได้ถูกต้องที่สุด

(1) หอจดหมายเหตุรวบรวมศิลปะโบราณที่มีราคาแพง

(2) พิพิธภัณฑ์รวบรวมสิ่งของโบราณที่มีความสําคัญทางประวัติศาสตร์

(3) ศูนย์สารสนเทศดําเนินการโดยภาคเอกชน

(4) ห้องสมุดเฉพาะดําเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐ

ตอบ 2 หน้า 37 พิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งสารสนเทศที่รวบรวมและจัดแสดงศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ ซึ่งเป็นสิ่งของโบราณที่มีคุณค่าหรือมีความสําคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อเป็นประโยชน์

ต่อการศึกษาค้นคว้าของบุคคลทั่วไป

8 ฝ่ายใดของสํานักหอสมุดกลาง มร. ที่ให้บริการจุลสาร “ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร”

(1) ฝ่ายวารสารและเอกสาร

(2) ฝ่ายบริการสารสนเทศ

(3) ฝ่ายวัสดุไม่ตีพิมพ์

(4) ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ

ตอบ 1 หน้า 40 – 41 ฝ่ายวารสารและเอกสาร จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดหา พิจารณาคัดเลือกและประเมินคุณค่าวารสาร จัดทําดรรชนีและสาระสังเขปบทความจากวารสารและเอกสาร จัดทําบรรณานุกรมวารสาร รวมทั้งให้บริการวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ จุลสารสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง และเอกสารทั่ว ๆ ไป ตลอดจนจัดทํากฤตภาค ให้บริการ

9 ข้อใดหมายถึงทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด

(1) ฐานข้อมูลออนไลน์ซึ่งบรรณารักษ์สืบค้นสารสนเทศฟรี

(2) ฐานข้อมูลออนไลน์ซึ่งบรรณารักษ์กําลังดําเนินการสั่งซื้อ

(3) ฐานข้อมูลออนไลน์ซึ่งบรรณารักษ์ทดลองใช้สืบค้นสารสนเทศฟรี (4) ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภทพร้อมให้บริการ

ตอบ 4 หน้า 55, 76, 133 134 ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุด หมายถึง แหล่งสารสนเทศทุกรูปแบบที่ห้องสมุดได้คัดเลือก จัดหา วิเคราะห์ และจัดเก็บรวบรวมอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งตีพิมพ์บนแผ่นกระดาษ สิ่งบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยมือ สื่อโสตทัศน์ วัสดุย่อส่วน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดบอกรับเป็นสมาชิกและจัดประเภทพร้อมให้บริการ รวมทั้งบรรณารักษ์หรือบุคลากรบริการสารสนเทศที่ทําหน้าที่ให้บริการและช่วยผู้ใช้ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

10 โฮมเพจของเว็บไซต์มีความคล้ายกับส่วนใดของหนังสือมากที่สุดในแง่ของเว็บเพจแรก

(1) หน้าปกหนังสือ

(2) หน้าสารบัญ

(3) หน้าลิขสิทธิ์

(4) หน้าคํานํา

ตอบ 1 หน้า 58, 62 – 63, (คําบรรยาย) โฮมเพจ (Home Page) คือ หน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเว็บไซต์ ดังนั้นโฮมเพจจึงคล้ายกับส่วนประกอบของหนังสือ ดังนี้

1 ในแง่ของเว็บเพจแรกที่บอกว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาสําคัญอะไรบ้าง โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าปกหนังสือ

2 ในแง่ที่แสดงรายการเชื่อมโยงหน้าเว็บเพจเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้ Link ไปยังเว็บเพจต่าง ๆ เพื่ออ่านข้อมูล โฮมเพจจะคล้ายกับหน้าสารบัญของหนังสือ

11 ข้อใดคือความหมายของอภิธานศัพท์

(1) เปรียบเสมือนพจนานุกรมของหนังสือเล่มนั้น

(2) เปรียบเสมือนพจนานุกรมทั่ว ๆ ไป

(3) เปรียบเสมือนพจนานุกรมหลายภาษา

(4) เปรียบเสมือนพจนานุกรมสองภาษา

ตอบ 1 หน้า 64 อภิธานศัพท์ (Glossary) เป็นส่วนที่ให้คําอธิบายคํายากหรือศัพท์เฉพาะที่ปรากฏในเนื้อเรื่องของหนังสือ มักมีในหนังสือที่ใช้ศัพท์มาก และมีลักษณะคล้ายเป็นพจนานุกรม ของหนังสือเล่มนั้น เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะในหนังสือเล่มนั้น โดยที่ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลาเปิดหาความหมายจากพจนานุกรม

12 พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับรายวันมีความคล้ายกับส่วนใดของหนังสือพิมพ์ออนไลน์มากที่สุด

(1) พาดหัวข่าว

(2) เนื้อหา

(3) ภาพถ่าย

(4) โฮมเพจ

ตอบ 4 หน้า 65 – 66, (คําบรรยาย) พาดหัวข่าว (Headline) ของหนังสือพิมพ์ฉบับรายวันเป็นอักษรตัวดําหนาขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นข้อความสั้น ๆ ที่สรุปสาระสําคัญที่มีอยู่ในเนื้อข่าว จึงถือเป็นส่วนที่สะดุดตาผู้อ่านและจูงใจให้อยากรู้รายละเอียดของข่าวสารมากที่สุด โดยพาดหัวข่าวมักอยู่ในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์กระดาษ ซึ่งคล้ายกับโฮมเพจหรือหน้าแรก ของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ที่จะประกอบไปด้วยหัวข่าวที่สําคัญในวันนั้น ๆ

13 รัฐบาลตีพิมพ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับซิงเกิลเกตเวย์ (Single Gateway) เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และอยู่ในความสนใจของสังคมออนไลน์ จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) กฤตภาค

(2) จุลสาร

(3) วารสาร

(4) ต้นฉบับตัวเขียน

ตอบ 2 หน้า 66 – 67 จุลสาร (Pamphlets) เป็นสิ่งพิมพ์ที่ให้สารสนเทศเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ทันสมัยและอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไปในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นบทความทางวิชาการ ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ หรือความรู้ที่หน่วยงานราชการ องค์การ หรือสมาคมต่าง ๆ ต้องการเผยแพร่ ให้ประชาชนทราบ อาจพิมพ์ออกเป็นเอกสารเล่มเล็กเดี่ยว ๆ หรือพิมพ์เป็นตอน ๆ โดยรูปเล่ม ทั่วไปจะไม่มีการเข้าปกเย็บเล่มถาวร มีจํานวนหน้าไม่เกิน 60 หน้า ทั้งนี้อาจจะมีลักษณะเป็นแผ่นพับหรืออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “อนุสาร” (Brochure) ก็ได้

14 วิดีโอคําบรรยายย้อนหลังกระบวนวิชา LIS 1003 จัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) สื่อโสตทัศน์

(2) โสตวัสดุ

(3) ทัศนวัสดุ

(4) อิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 1 หน้า 67 – 73, 77 สื่อโสตทัศน์ (โสตทัศนวัสดุ หรือวัสดุไม่ตีพิมพ์) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1 โสตวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการฟัง เช่น แผ่นเสียงหรือจานเสียง เทป แถบบันทึกเสียง ซีดีออดิโอ แผ่นเอ็มพี 3 ฯลฯ

2 ทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารโดยการเห็น เช่น วัสดุกราฟิก รูปภาพ แผนที่ ลูกโลก ภาพนิ่ง แผ่นโปร่งใส หุ่นจําลอง ของตัวอย่าง ฯลฯ

3 สื่อโสตทัศน์ หรือโสตทัศนวัสดุ เป็นวัสดุที่สื่อสารทั้งโดยการฟังและการเห็น เช่น ภาพยนตร์ แถบวีดิทัศน์หรือวิดีโอ วีซีดี ดีวีดี วิดีโอคลิป ฯลฯ

15 ไมโครฟิล์มเป็นสื่อการบันทึกสารสนเทศเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการเก็บและอนุรักษ์คุณค่าของสารสนเทศจัดเป็นสื่อประเภทใด

(1) วัสดุตีพิมพ์

(2) วัสดุย่อส่วน

(3) วัสดุไม่ตีพิมพ์

(4) วัสดุอิเล็กทรอนิกส์

ตอบ 2 หน้า 54, 73 – 74, 77 78 วัสดุย่อส่วน (Micrographic or Microforms) หมายถึง วัสดุที่บันทึกสารสนเทศจากสิ่งพิมพ์ที่เป็นหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ วิทยานิพนธ์ จดหมายโต้ตอบ หนังสือหายาก ต้นฉบับตัวเขียน หรือเอกสารที่มีคุณค่าต่าง ๆ โดยวิธีการถ่ายย่อส่วนลงบน แผ่นฟิล์มขนาดเล็กเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บและป้องกันการฉีกขาดทําลาย แบ่งออก ได้เป็น 2 ประเภท คือ

1 ฟิล์มโปร่งแสง ได้แก่ ไมโครฟิล์ม ไมโครฟิช และบัตรอเพอเจอร์

2 บัตรทึบแสง ได้แก่ ไมโครการ์ด และไมโครพริ้นท์

16 บริษัทผู้ผลิตฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์นิยมบันทึกสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ลงบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทใด

(1) Hard Disk

(2) CD-ROM

(3) Floppy Disk

(4) USB Flash Drive

ตอบ 2 หน้า 75 – 76, 78, (คําบรรยาย) สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอักขระแบบดิจิตอล ซึ่งต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือแสงเลเซอร์ ในการบันทึกและอ่านข้อมูล แบ่งออกเป็น

1 แผ่นจานแม่เหล็กแบบอ่อน (Diskette หรือ Floppy Disk) บันทึกโปรแกรมสําเร็จรูป

2 จานแสง (Optical Disk) เช่น VCD, DVD, CD-ROM บันทึกฐานข้อมูลเชิงพาณิชย์ ฐานข้อมูลด้านการศึกษา ฐานข้อมูลเชิงบรรณานุกรม ฯลฯ

3 USB Flash Drive เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ โดยมีวิธีการบันทึกข้อมูลเหมือน Hard Disk หรือ Floppy Disk มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวก ในการพกพาติดตัว และสามารถเก็บข้อมูลได้จํานวนมากตั้งแต่ 128 MB – 8 GB

17 ส่วนใดของหนังสืออ้างอิงที่ระบุเลขหน้าของเนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการ

(1) ส่วนโยง

(2) ดรรชนี

(3) ดรรชนีริมหน้ากระดาษ

(4) อักษรนําเล่ม

ตอบ 2 หน้า 84 ดรรชนี (Index) คือ การลําดับคําหรือข้อความเรียงไว้ตามลําดับตัวอักษรพร้อมทั้งมีเลขหน้ากํากับไว้ เพื่อแสดงว่าคําหรือข้อความนั้นมีรายละเอียด ปรากฏอยู่ในหน้าใดบ้างของ หนังสือเล่มนั้น ส่วนใหญ่ดรรชนี้จะอยู่ตอนท้ายของหนังสือแต่ละเล่ม แต่ถ้าเป็นหนังสือชุด เช่น สารานุกรม ดรรชนีจะอยู่ในเล่มสุดท้าย

18 พจนานุกรมในข้อใดให้ความหมายคําศัพท์ทางจิตวิทยาได้ชัดเจนและครอบคลุมที่สุด

(1) พจนานุกรมภาษาเดียว

(2) พจนานุกรมหลายภาษา

(3) พจนานุกรมเฉพาะวิชา

(4) พจนานุกรมฉบับสมบูรณ์

ตอบ 3 หน้า 85, 89 – 90, (คําบรรยาย) พจนานุกรมเฉพาะวิชา คือ พจนานุกรมสําหรับค้นหาความหมายของคําที่ใช้ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง เช่น พจนานุกรมศัพท์วิทยาศาสตร์การแพทย์ พจนานุกรมรวมคําศัพท์ทางการศึกษา ซึ่งจะให้ศัพท์ทั้งทางด้านจิตวิทยา สังคมวิทยา และปรัชญา เป็นต้น

19 ข้อใดกล่าวถึงประโยชน์ที่ได้จากสารานุกรมได้ชัดเจนที่สุด

(1) ความหมายและประวัติของคํา “พลังงาน”

(2) ความหมาย ประเภท ประโยชน์ และรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ “พลังงาน”

(3) รายชื่อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับ “พลังงาน”

(4) รายชื่อและที่มาของบทความเกี่ยวกับ “พลังงาน”

ตอบ 2 หน้า 91 – 92, 95 สารานุกรม (Encyclopedia) หมายถึง หนังสือที่รวบรวมความรู้หรือข้อเท็จจริงพื้นฐานในแขนงวิชาต่าง ๆ อย่างกว้าง ๆ เขียนโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูลหรือความรู้ในรูปของบทความโดยมีอักษรย่อของผู้เขียนกํากับ ไว้ที่ท้ายบทความ และจัดเรียงเนื้อหาตามลําดับตัวอักษรหรือแบ่งเป็นหมวดหมู่วิชา ซึ่งอาจมี เล่มเดียวจบหรือหลายเล่มจบที่เรียกว่า “หนังสือชุด” ส่วนใหญ่สารานุกรมจะมีภาพประกอบและมีดรรชนีช่วยค้นเรื่อง (Fact Index) อยู่ตอนท้ายเล่ม หรือถ้าเป็นหนังสือชุดก็จะอยู่เล่มสุดท้าย

20 ต้องการประวัติการศึกษาและผลงานของหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ค้นได้จากหนังสืออ้างอิงประเภทใด

(1) อักขรานุกรมชีวประวัติ

(2) สารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน

(3) สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย

(4) สมพัตสร

ตอบ 1 หน้า 97 อักขรานุกรมชีวประวัติ คือ หนังสือที่รวบรวมประวัติชีวิตของบุคคลสําคัญ โดยจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเชื้อชาติ สถานที่เกิด วันเดือนปีเกิดหรือตาย ที่อยู่ ระดับการศึกษา ตําแหน่งหน้าที่การงาน ประสบการณ์ในการทํางาน ผลงานดีเด่น และสถานภาพทางครอบครัว ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าผู้ที่มีชื่อเสียงในอดีตนั้นได้ทําคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมืองอย่างไรบ้าง

21 นามานุกรมให้สารสนเทศด้านใด

(1) ให้ข่าวสาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจําวัน

(2) ให้ความรู้ ข่าวสารอย่างคร่าว ๆ

(3) รวบรวมรายชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลสําหรับการติดต่อ

(4) รวบรวมผลงานของบุคคลที่มีชื่อเสียง

ตอบ 3 หน้า 102 103 นามานุกรม (Directory) คือ หนังสือที่รวบรวมรายชื่อของบุคคล องค์กร หรือหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมกับสถานที่อยู่หรือที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์สําหรับการติดต่อ แบ่งออก ได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่

1 นามานุกรมท้องถิ่น เช่น สมุดโทรศัพท์

2 นามานุกรมของรัฐ เช่น นามสงเคราะห์ส่วนราชการไทย

3 นามานุกรมสถาบัน เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย โรงเรียนห้องสมุด ฯลฯ

4 นามานุกรมสาขาอาชีพ

5 นามานุกรมการค้าและธุรกิจ

22 หนังสืออ้างอิงในข้อใดที่ใช้ค้นหาเหตุการณ์สําคัญที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

(1) พจนานุกรม

(2) สารานุกรม

(3) สมพัตสร

(4) บรรณานุกรม

ตอบ 3 หน้า 112 ปฏิทินเหตุการณ์รายปีหรือสมพัตสร (Almanac) คือ หนังสือที่รวบรวมความรู้เบ็ดเตล็ดหลายด้านและสถิติทั่วไปในรอบหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาจนถึงปีปัจจุบันของทุกประเทศ ในโลก โดยจะให้ข้อมูลอย่างสังเขปที่ครอบคลุมเรื่องราวต่าง ๆ เช่น ปฏิทินลําดับเหตุการณ์ สําคัญ ข้อมูลทางดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ วันสําคัญทางศาสนา สถิติเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและทรัพยากรของโลก เป็นต้น

23 หนังสือที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับสถานที่ทางภูมิศาสตร์ คือข้อใด

(1) อักขรานุกรมภูมิศาสตร์

(2) พจนานุกรม

(3) หนังสือแผนที่

(4) หนังสือนําเที่ยว

ตอบ 1 หน้า 115 อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ เป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลอย่างสังเขปเกี่ยวกับชื่อของสถานที่สําคัญทางภูมิศาสตร์ มีลักษณะคล้ายพจนานุกรมที่ให้คําจํากัดความเกี่ยวกับชื่อและสถานที่ ทางภูมิศาสตร์อย่างสั้น ๆ ให้คําอ่านและรายละเอียดอื่น ๆ ได้อย่างกระชับและน่าเชื่อถือที่สุด เช่น สถานที่ตั้ง ระยะทาง เส้นรุ้ง เส้นแวง ความตื้นลึกของทะเล ความสูงของภูเขา จํานวนผลผลิตทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม จํานวนประชากร ตราประจําจังหวัด เป็นต้น

24 หนังสืออ้างอิงข้อใดที่ให้แหล่งที่มาและเนื้อหาที่สําคัญของบทความ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนไปอ่านจากต้นฉบับจริง

(1) บรรณานุกรม

(2) ดรรชนี

(3) สาระสังเขป

(4) นามานุกรม

ตอบ 3 หน้า 84, 119 120 สาระสังเขป เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แนะแหล่งสารสนเทศ โดยมีลักษณะเป็นการสรุปหรือย่อสาระสําคัญของเนื้อเรื่องหรือเรื่องราวสําคัญ ๆ ของบทความในวารสาร หนังสือ และเอกสารประเภทอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้ทราบถึงเนื้อหาสาระสําคัญก่อนที่จะไปอ่านจากต้นฉบับจริงที่สมบูรณ์

25 ข้อใดคือหนังสือบรรณานุกรมที่จัดทําโดยหอสมุดแห่งชาติ

(1) บรรณานุกรมสากล

(2) บรรณานุกรมเฉพาะวิชา

(3) บรรณานุกรมแห่งชาติ

(4) บรรณานุกรมร้านค้า

ตอบ 3 หน้า 29, 129 บรรณานุกรมแห่งชาติ เป็นหนังสือที่จัดทําขึ้นโดยหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ของไทยโดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นหลักฐานสําคัญและเป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้า

26 ข้อใดกล่าวถึง “เลขหมู่หนังสือ” ถูกต้องที่สุด

(1) สัญลักษณ์แสดงกลุ่มเนื้อหาของหนังสือแต่ละเล่ม

(2) สัญลักษณ์ที่บอกลําดับที่ของหนังสือแต่ละเล่ม

(3) สัญลักษณ์ของหนังสือที่ประกอบด้วย เลขหมู่ เลขผู้แต่ง และสัญลักษณ์อื่น ๆ

(4) รหัสประจําหนังสือเพื่อการจัดหมวดหมู่หนังสือ

ตอบ 1 หน้า 157 เลขหมู่หนังสือ (Class Number) เป็นสัญลักษณ์ที่กําหนดขึ้นเพื่อแสดงกลุ่มเนื้อหาสาระของหนังสือและ/หรือประพันธ์วิธีของหนังสือแต่ละเล่ม ทั้งนี้อาจแตกต่างกัน ตามระบบการจัดหมู่หนังสือ

27 ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด

(1) ระบบทศนิยมดิวอี้แบ่งความรู้ออกเป็น 10 หมวดใหญ่ ใช้เลขอารบิก 3 หลักเป็นสัญลักษณ์ เหมาะสําหรับห้องสมุดขนาดกลางและขนาดเล็ก

(2) ระบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกันแบ่งความรู้ออกเป็น 20 หมวดใหญ่ และใช้อักษรโรมันเป็นสัญลักษณ์

(3) ระบบทศนิยมสากลใช้เลขอารบิก 1 หลักเป็นสัญลักษณ์ และแบ่งความรู้ออกเป็น 10 หมวดใหญ่

(4) ระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันแบ่งความรู้ออกเป็น 20 หมวดใหญ่ โดยใช้อักษรโรมันและเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์

ตอบ 1 หน้า 151, 153 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมดิวอี้ (Dewey Decimal Classification : DDC หรือ DC) เป็นระบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในห้องสมุดขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่มี หนังสือทั่ว ๆ ไปหลายสาขาวิชาในจํานวนที่ไม่มากนัก เช่น ห้องสมุดโรงเรียน ห้องสมุดประชาชน เป็นต้น ซึ่งการจัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้จะเป็นแบบเชิงกว้าง โดยแบ่งสรรพวิทยาการในโลก ออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้สัญลักษณ์แสดงเนื้อหาของหนังสือเป็นเลขอารบิก 3 หลัก ตั้งแต่ 100 – 000 กับทศนิยมอีกไม่จํากัดตําแหน่งเพื่อแบ่งเนื้อหาให้ชี้เฉพาะยิ่งขึ้น

28 ข้อใดคือ “สัญลักษณ์ของหนังสือที่ประกอบด้วย เลขหมู่ เลขผู้แต่ง และสัญลักษณ์อื่น ๆ”

(1) เลขหมู่หนังสือ

(2) เลขประจําหนังสือสากล

(3) เลขเรียกหนังสือ

(4) รหัสประจําหนังสือ

ตอบ 3 หน้า 157, 191, (คําบรรยาย) เลขเรียกหนังสือ (Call Number) เป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเฉพาะที่ห้องสมุดกําหนดให้กับหนังสือแต่ละเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุด โดยเลขเรียกหนังสือ ที่ปรากฏบนบัตรรายการจะเป็นเครื่องชี้บอกตําแหน่งของหนังสือบนชั้น ซึ่งเป็นที่เก็บหนังสือ ของห้องสมุด ทั้งนี้เลขเรียกหนังสือประกอบด้วยส่วนสําคัญ 3 ส่วน คือ

1 เลขหมู่หนังสือ

2 เลขผู้แต่งและอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง

3 สัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น ปี พ.ศ. เล่มที่ ฉบับที่ ฯลฯ

29 ระบบการจัดหมู่หนังสือข้อใดใช้สัญลักษณ์ที่เป็นตัวเลขอารบิก และเครื่องหมายวรรคตอนในการจัดหมู่หนังสือ

(1) ระบบทศนิยมดิวอี้

(2) ระบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน

(3) ระบบทศนิยมสากล

(4) ระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน

ตอบ 3 หน้า 156 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบทศนิยมสากล (Universal Decimal Classification : UDC) เป็นระบบที่นิยมใช้ในทวีปยุโรป โดยจะแบ่งวิทยาการออกเป็น 10 หมวดใหญ่ และใช้ตัวเลขอารบิก เป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับระบบทศนิยมดิวอี้ แต่ต่างกันตรงที่ระบบทศนิยมสากลจะใช้ ตัวเลขอารบิกเพียงหลักเดียว และใช้เครื่องหมายวรรคตอนประกอบเป็นสัญลักษณ์แสดงเนื้อหา ซึ่งห้องสมุดไทยที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบนี้ เช่น ห้องสมุดสํานักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ห้องสมุดและศูนย์เอกสารบริษัทปูนซีเมนต์ไทย เป็นต้น

30 ข้อใดคือระบบที่ใช้ในการจัดหมู่หนังสือที่ห้องสมุดของโรงพยาบาล (1) DC

(2) NLM

(3) UDC

(4) LC

ตอบ 2 หน้า 155 156 ระบบการจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดแพทย์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(National Library Medicine : NLM) เป็นระบบการจัดหมู่หนังสือที่ใช้กับห้องสมุดทางการแพทย์ สาธารณสุข และพยาบาล โดยจะใช้อักษรโรมัน W และเลขอารบิกเป็นสัญลักษณ์เช่นเดียวกับ การจัดหมู่หนังสือแบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกัน แต่จะมีความแตกต่างกันในด้านการจําแนก ซึ่งระบบนี้จะนิยมใช้กับห้องสมุดของคณะแพทยศาสตร์ในทุกสถาบัน เช่น หอสมุดศิริราช, ห้องสมุดคณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่, ห้องสมุดวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพฯ,ห้องสมุดคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ขอนแก่น, ห้องสมุดของโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นต้น

31 การจัดเรียงหนังสือของห้องสมุดที่ถูกต้องตรงกับข้อใด

428.003

P453

293.593

D543F

006.120

K453F

390.593

T364

006.963

T543D

 

(1) จ ก ข ค ง

(2) จ ค ฆ ง ก

(3) ค จ ข ง ก

(4) ง ก ข ค จ

ตอบ 3 หน้า 159 – 160 วิธีการจัดเรียงหนังสือบนชั้นในห้องสมุด จะพิจารณาจากเลขเรียกหนังสือจากซ้ายไปขวา จากชั้นบนลงชั้นล่าง และจะพิจารณาจัดลําดับจากเลขหมู่หนังสือก่อน ทั้งนี้ ห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบทศนิยมดิวอี้จะเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก ส่วนห้องสมุดที่จัดหมู่หนังสือด้วยระบบห้องสมุดรัฐสภาอเมริกันจะพิจารณาเรียงลําดับตาม ตัวอักษร A – Z ก่อน ต่อเมื่อตัวอักษรซ้ํากันจึงค่อยเรียงลําดับจากเลขหมู่น้อยไปหาเลขหมู่มาก แต่ถ้าเลขหมู่ซ้ํากันก็ให้พิจารณาจากเลขผู้แต่งหรือเลขประจําหนังสือ และอักษรชื่อเรื่องตามลําดับ

(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ ค จ ข ง ก)

32 ข้อใดไม่ใช่วิธีที่ห้องสมุดนิยมใช้ในการจัดเก็บสิ่งพิมพ์รัฐบาล

(1) จัดรวมไว้กับหนังสือ กําหนดเลขหมู่ตามระบบการจัดหมู่หนังสือ (2) จัดแยกไว้เป็นชั้นปิด เพราะสิ่งพิมพ์รัฐบาลเป็นเอกสารหายาก

(3) จัดแยกจากหนังสือทั่วไปออกเป็นทรัพยากรลักษณะพิเศษ

(4) กําหนดอักษร GP เป็นสัญลักษณ์สิ่งพิมพ์รัฐบาลกํากับเหนือเลขเรียกหนังสือ

ตอบ 2 หน้า 166 167 การจัดเก็บสิ่งพิมพ์รัฐบาลของห้องสมุดโดยทั่วไปมี 2 วิธี คือ

1 จัดรวมกับหนังสือทั่วไปและกําหนดเลขหมู่ให้ตามระบบการจัดหมู่หนังสือของห้องสมุดนั้น ๆ

2 จัดแยกออกจากหนังสือและทรัพยากรสารสนเทศอื่น ๆ เป็นทรัพยากรลักษณะพิเศษ (Special Collection) และกําหนดระบบการจัดหมู่สําหรับสิ่งพิมพ์รัฐบาลขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งห้องสมุดบางแห่งอาจกําหนดสัญลักษณ์พิเศษ คือ GP (Government Publication) ให้เป็นสัญลักษณ์สิ่งพิมพ์รัฐบาลกํากับเหนือเลขเรียกหนังสือ

33 ข้อใดคือสัญลักษณ์ที่ห้องสมุดกําหนดให้กับพจนานุกรมศัพท์แพทย์และเภสัชกรรมแผนไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน

(1) Ref

(2) FIC

(3) JUV

(4) GP

ตอบ 1 หน้า 81, 83 84 หนังสืออ้างอิง เป็นหนังสือที่จัดทําขึ้นเป็นพิเศษเพื่อใช้ค้นคว้าหาสารสนเทศหรือข้อเท็จจริงบางประการ หรือหาคําตอบเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากกว่าที่จะใช้อ่านตลอด ทั้งเล่ม และเป็นหนังสือที่ไม่สามารถยืมออกนอกห้องสมุดได้ เช่น พจนานุกรม สารานุกรม อักขรานุกรมชีวประวัติ ฯลฯ โดยห้องสมุดจะจัดแยกหนังสืออ้างอิงเอาไว้ต่างหากไม่รวมกับ หนังสือทั่วไป และมีการกําหนดสัญลักษณ์พิเศษเป็น “ตัวอักษร อ, R หรือ Ref” กํากับเอาไว้ที่สันของหนังสือ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการศึกษาค้นคว้าและเพื่อให้แตกต่างจากหนังสือทั่วไป

34 ข้อใดกล่าวถึงการจัดเก็บวารสารฉบับย้อนหลัง สํานักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคําแหงได้ถูกต้องที่สุด

(1) เย็บเล่มเมื่อครบปีแล้วจัดเก็บขึ้นชั้นเรียงตามหน่วยงานผู้ผลิต

(2) เย็บเล่มเมื่อครบปีแล้วจัดเก็บขึ้นชั้น โดยเรียงตามลําดับอักษรชื่อวารสาร

(3) ตัดเก็บเฉพาะข่าวสารที่สําคัญ ๆ โดยให้หัวเรื่องและจัดเก็บไว้ในแฟ้มเอกสาร

(4) คัดเลือกฉบับสําคัญ ๆ แล้วถ่ายเป็นวัสดุย่อส่วนเก็บไว้ในไมโครฟิล์ม

ตอบ 2 หน้า 168 วิธีจัดเก็บวารสารของห้องสมุด มีดังนี้

1 วารสารฉบับใหม่ คือ วารสารฉบับล่าสุด ห้องสมุดจะจัดเรียงไว้บนชั้นเอียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสารจากซ้ายไปขวา และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ที่ชั้นตรงกับตําแหน่งของวารสาร

2 วารสารฉบับย้อนหลัง คือ วารสารที่ไม่ใช่ฉบับล่าสุด ซึ่งห้องสมุดจะนําไปเย็บรวมเป็นเล่ม เมื่อได้รับครบปีแล้วจัดเก็บไว้บนชั้น โดยเรียงตามลําดับอักษรของชื่อวารสาร และมีป้ายชื่อวารสารกํากับไว้ตรงตามตําแหน่งของวารสารนั้น ๆ

35 สื่อในข้อใดที่มีวิธีการจัดเก็บเหมือนกัน

(1) แผ่นเสียง-ไมโครฟิล์ม

(2) กฤตภาค-รูปภาพ

(3) จุลสาร หนังสือพิมพ์

(4) หุ่นจําลอง-แผ่นเสียง

ตอบ 2 หน้า 173 ห้องสมุดจัดเก็บวัสดุกราฟิกและรูปภาพคล้ายกับกฤตภาค โดยนําภาพผนึกติดกับแผ่นกระดาษแข็ง ให้หัวเรื่องกํากับแล้วเก็บเข้าแฟ้ม จัดเรียงตามลําดับอักษรของหัวเรื่องไว้ในตู้เก็บเอกสาร และที่หน้าลิ้นชักจะมีอักษรกํากับไว้ให้ทราบว่ารูปภาพที่ต้องการอยู่ในลิ้นชักใด

36 ข้อใดคือวิธีการจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดที่เอื้อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว

(1) จัดเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกตามลําดับหัวเรื่อง

(2) จัดเก็บไว้ในกล่องหรือตลับตามลําดับขนาด

(3) จัดเก็บในลิ้นชักตู้เหล็กตามลําดับเลขทะเบียน

(4) จัดเรียงไว้บนชั้นรวมไปกับหนังสือตามลําดับเลขหมู่

ตอบ 3 หน้า 177, 180, 351 วิธีจัดเก็บไมโครฟิล์มของห้องสมุดมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้

1 จัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์ โดยห้องสมุดจะจัดเก็บไมโครฟิล์มทั้งที่เป็นชนิดม้วนและตลับด้วยการจัดทําป้าย ซึ่งประกอบด้วย เลขทะเบียน ชื่อเรื่อง ความยาว ความกว้าง ประเภท ของฟิล์ม และสัญลักษณ์ที่กําหนดเป็นเลขหมู่ติดไว้บนกล่องม้วนและตลับ แล้วจึงจัดเรียงขึ้นชั้นรวมไว้กับสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2 จัดแยกไว้ในตู้ โดยห้องสมุดบางแห่งอาจนํากล่องหรือตลับไมโครฟิล์มที่ปิดป้ายมาแยกเป็นหมวดหมู่ แล้วเรียงตามลําดับเลขทะเบียนไว้ในลิ้นชักตู้เหล็ก หรือเรียงใส่ตะแกรงพลาสติกไว้บนชั้นแบบชั้นเก็บหนังสือ

37 ส่วนใดของบัตรรายการที่ช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงตําแหน่งของหนังสือในห้องสมุด

(1) เลขเรียกหนังสือ

(2) เลขหมู่หนังสือ

(3) เลขผู้แต่ง

(4) เลขทะเบียนหนังสือ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 28 ประกอบ

38 จากรายละเอียดต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง

v, 120 p. : ill. (some cot.) ; 21 cm.

(1) หนังสือมีทั้งหมด 120 หน้า

(2) หนังสือมีทั้งหมด 5 เล่ม

(3) หนังสือมีภาพประกอบสีบางส่วน

(4) หนังสือมีน้ำหนัก 21 กรัม

ตอบ 1, 3 หน้า 191, 193 ลักษณะวัสดุ (Physical Description) เป็นรายการที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ

ลักษณะรูปร่าง ส่วนประกอบ และขนาดของหนังสือ ประกอบด้วย จํานวนหน้าหรือจํานวนเล่ม ภาพประกอบ และส่วนสูงของหนังสือ เช่น V, 120 p. : ill. (Some col.) ; 21 cm. หมายถึง หนังสือเล่มเดียวจบ (y = volume), มี 120 หน้า (120 p.), มีภาพประกอบ (ill. = illustration) สีบางส่วน (some col. = some color) และมีส่วนสูง 21 เซนติเมตร (21 cm.)

39 ส่วนใดของบัตรรายการที่ช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

(1) หัวเรื่องในส่วนของแนวสืบค้น

(2) ชื่อผู้แปลจากการแจ้งความรับผิดชอบ

(3) ชื่อเรื่องจากแนวสืบค้น

(4) ชื่อผู้แต่งที่ปรากฏบนรายการหลัก

ตอบ 1 หน้า 193, 195, 214 แนวสืบค้น (Tracing) เป็นรายการที่บอกให้ทราบว่านอกจากบัตรยืนพื้นหรือบัตรหลักแล้ว ห้องสมุดได้ทําบัตรชนิดใดเพิ่มอีกบ้าง แนวสืบค้นมี 2 ส่วน ได้แก่

1 ส่วนที่เป็นหัวเรื่อง (Subject Headings) ได้แก่ บัตรหัวเรื่องหรือบัตรเรื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านทราบว่าหนังสือเล่มนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร

2 รายการเพิ่มต่าง ๆ เช่น บัตรผู้แต่งร่วม บัตรผู้แปล บัตรผู้วาดภาพประกอบ เป็นต้น

40 รายละเอียดของหนังสือในข้อใดที่ไม่ปรากฏในบัตรรายการช่วยค้น

(1) บรรณานุกรม

(2) ผู้ทําบัตรรายการ

(3) ดรรชนี

(4) เลขเรียกหนังสือ

ตอบ 2 หน้า 191 – 193 รายละเอียดของหนังสือที่บันทึกในบัตรรายการช่วยค้น ได้แก่

1 เลขเรียกหนังสือ

2 ชื่อผู้แต่งหรือรายการหลัก

3 ชื่อเรื่องและการแจ้งความรับผิดชอบ

4 ครั้งที่พิมพ์หรือฉบับพิมพ์

5 การพิมพ์และการจัดจําหน่าย ประกอบด้วย สถานที่พิมพ์ สํานักพิมพ์ และปีที่พิมพ์

6 ลักษณะวัสดุหรือลักษณะรูปร่าง

7 ชื่อชุด

8 หมายเหตุ ประกอบด้วย บรรณานุกรม ดรรชนี อภิธานศัพท์ ภาคผนวก เป็นต้น

9 เลขมาตรฐานสากล

10 แนวสืบค้น

41 ข้อใดคือรายการโยงที่ใช้โยงไปยังหัวเรื่องที่เกี่ยวข้อง

(1) “ดูเพิ่มที่”

(2) “ไปที่”

(3) “ดูเพิ่มเติมที่”

(4) “ดูที่”

ตอบ 3 หน้า 199, 225 รายการโยง (Cross Reference) คือ การกําหนดสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้ทราบว่าคําหรือวลีที่ตามมาใช้เป็นหัวเรื่องได้หรือไม่ และมีความเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับ เนื้อหามากน้อยเพียงใด โดยมีตัวอย่างสัญลักษณ์ ดังนี้

1 sa (see also) หรือ “ดูเพิ่มเติมที่” ใช้โยงไปสู่หัวเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กันแต่มีเนื้อหาแคบกว่า

2 X ใช้หน้าคําหรือวลีที่เลิกใช้เป็นหัวเรื่องแล้ว

3 See หรือ “ดูที่” ใช้โยงหน้าคําหรือวลีที่ไม่ใช้เป็นหัวเรื่องไปยังคําที่ใช้เป็นหัวเรื่อง

4 XX ใช้หน้าคําหรือวลีที่มีความหมายสัมพันธ์กับหัวเรื่องใหญ่ แต่มีเนื้อหากว้างกว่ามาก

42 ก. สิทธิมนุษยชน ข. สถิติพื้นฐาน ค. สนุกกับภาษา ง. สํามะโนการเกษตร จ. สกุลกา

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดเรียงรายการตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง (1) จ ง ค ก ข

(2) ง ค จ ข ก

(3) จ ข ค ง ก

(4) ก จ ค ง ข

ตอบ 3 หน้า 207 – 210 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาไทย มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร ก-ฮ โดยไม่คํานึงถึงเสียงอ่าน

2 คําที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวเดียวกัน ให้เรียงคําที่มีตัวสะกดไว้ก่อนคําที่มีรูปสระ และเรียงลําดับรูปสระตามแบบพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

3 ผู้แต่งคนเดียวกันแต่งหนังสือหลายเล่ม ให้เรียงตามลําดับอักษรตัวแรกของชื่อเรื่อง

(จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ จ ข คง ก)

43 ก Language death

ข Laws

ค Language in society

ง Las Vegas

จ Language for daily use

จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดเรียงรายการตามแบบพจนานุกรมได้ถูกต้อง (1) ง ค ข ก

(2) จ ข กง ค

(3) จ ข ค ง ก

(4) ก จ ค ง ข

ตอบ 4 หน้า 210 – 213 การเรียงบัตรรายการหนังสือภาษาอังกฤษ มีหลักเกณฑ์ดังนี้

1 ให้เรียงตามลําดับอักษร A – Z โดยเรียงแบบคําต่อคําโดยไม่คํานึงถึงเครื่องหมายใด ๆ

2 ถ้ามีคํานําหน้านาม เช่น a, an, the, de, dela, les ฯลฯ ขึ้นต้นประโยค เวลาเรียงบัตรไม่ต้องคํานึงถึงคําเหล่านี้ แต่ให้เรียงลําดับอักษรของคําที่อยู่ถัดไป ยกเว้นถ้าคํานําหน้านามเป็นส่วนหนึ่งของประโยค จะต้องเรียงลําดับอักษรของคํานําหน้านามนั้นด้วย

3 คําย่อที่เป็นคํานําหน้าชื่อบุคคลและยศให้เรียงลําดับเหมือนเป็นคําที่สะกดเต็ม เช่น Mr. เรียงตามคําสะกดเต็มคือ Mister เป็นต้น (จากโจทย์ เรียงลําดับที่ถูกต้องได้ดังนี้ ก จ ค ง ข)

44 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

(1) LCSH คือ บัญชีคําที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

(2) หัวเรื่อง คือ ศัพท์ควบคุมที่ใช้ในระบบการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด

(3) LCSH คือ บัญชีหัวเรื่องภาษาอังกฤษ

(4) คําสําคัญ คือ คําศัพท์อิสระที่นํามาใช้ในระบบการสืบค้นออนไลน์ ตอบ 1 หน้า 221, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 250 – 251, 262) ความแตกต่างระหว่างหัวเรื่องกับคําสําคัญ มีดังนี้

1 หัวเรื่อง คือ คําหรือวลีหรือชื่อเฉพาะต่าง ๆ ที่ใช้แทนเนื้อหาของหนังสือ ซึ่งถือเป็นศัพท์ควบคุมที่ใช้ในระบบการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุด เพราะบรรณารักษ์จะเลือกคําหรือวลีจากบัญชี หัวเรื่องมาตรฐานชื่อใดชื่อหนึ่ง เช่น บัญชีหัวเรื่อง LCSH สําหรับหนังสือภาษาอังกฤษในห้องสมุดขนาดใหญ่, บัญชีหัวเรื่อง Sear’s List สําหรับหนังสือภาษาอังกฤษในห้องสมุดขนาดเล็ก ฯลฯ

2 คําสําคัญ คือ คําศัพท์อิสระที่ผู้ใช้คิดขึ้นเอง เพื่อใช้ในระบบการสืบค้นสารสนเทศออนไลน์

45 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประเภทของหัวเรื่อง

(1) หัวเรื่องคํานามคําโดด

(2) หัวเรื่องคําผสมที่สัมพันธ์กัน

(3) หัวเรื่องคําผสมที่ค้านกัน

(4) หัวเรื่องประโยคสมบูรณ์

ตอบ 4 หน้า 223 224, 228 การกําหนดคําที่ใช้เป็นหัวเรื่องใหญ่ มีลักษณะดังนี้

1 คํานามคําเดียวโดด ๆ เช่น กบ ไกด์ นก ฯลฯ

2 คําผสมที่เป็นคํานาม 2 คํา เชื่อมด้วย “and”, “กับ”, “และ” ทั้งที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์ไปในทางเดียวกัน เช่น ชุมชนกับโรงเรียน บิดาและมารดา ฯลฯ และที่มีเนื้อหาค้านกัน เช่น ศาสนากับวิทยาศาสตร์ Good and Evil ฯลฯ

3 คํานามที่ตามด้วยเครื่องหมายจุลภาคและมีคําคุณศัพท์ที่ขยายคําแรกให้สื่อความหมายดีขึ้น เช่น เคมี, วัตถุ ดอกไม้, การจัด Education, higher ฯลฯ

4 กลุ่มคําหรือวลี เช่น บริการแปล ชีวิตชนบท ฯลฯ

5 ชื่อเฉพาะที่เป็นคําวิสามานยนาม เช่น ชื่อบุคคล ชื่อสัตว์ ชื่อสถานที่ ชื่อพระหรือเทพเจ้า ฯลฯ

46 สัญลักษณ์ขีดสองขีด (-) มีความหมายหรือเกี่ยวข้องกับหัวเรื่องอย่างไร

(1) การแบ่งหัวเรื่องย่อย

(2) การแยกหัวเรื่องคําโดด

(3) การแยกหัวเรื่องคําผสม

(4) การแยกหัวเรื่องวลีหรือกลุ่มคํา

ตอบ 1 หน้า 225 – 227, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 256) บัญชีหัวเรื่องมาตรฐาน LCSH ฉบับปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้สัญลักษณ์บางตัวเพื่อกําหนดความสัมพันธ์ของคําที่ใช้เป็น หัวเรื่อง ดังนี้

1 BT (Broader Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่กว้างกว่า

2 NT (Narrower Term) คือ หัวเรื่องสัมพันธ์ที่แคบกว่า

3 RT (Related Term) คือ หัวเรื่องที่สัมพันธ์กับคําหลักหรือใช้แทนกันได้

4 UF (Use For) คือ หัวเรื่องที่ไม่กําหนดให้ใช้แล้ว

5 USE คือ หัวเรื่องที่กําหนดให้ใช้

6 — คือ หัวเรื่องย่อย

47 สัญลักษณ์ “x” ที่ปรากฎหน้าคําในบัญชีหัวเรื่องมีความหมายอย่างไร

(1) คําไม่ได้ใช้เป็นหัวเรื่องแล้ว

(2) คําที่มีความหมายกว้างกว่า

(3) คําที่มีความหมายแคบกว่า

(4) คําที่มีความสัมพันธ์กัน

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 41 ประกอบ

48 งานสร้างสรรค์ในข้อใดเป็นผลงานของนักศึกษาในระดับปริญญาเอก

(1) ดุษฎีนิพนธ์

(2) วิทยานิพนธ์

(3) ปริญญานิพนธ์

(4) การศึกษาอิสระ

ตอบ 1 หน้า 237 วิทยานิพนธ์ (Thesis) เป็นรายงานการวิจัยหรือการค้นคว้าอย่างลึกซึ้งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ใช้เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะทางวิชาการให้สูงขึ้น โดยวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท (บัณฑิตศึกษา) จะเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า “ปริญญานิพนธ์” (Thesis) ระดับปริญญาเอกเรียกว่า “ดุษฎีนิพนธ์” (Dissertation) ส่วนสารนิพนธ์ (Thematic Paper) จะเป็นการศึกษาค้นคว้าอิสระที่กําหนดสําหรับผู้ที่ศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาโทแผน ข

49 ในการทํารายงาน ขั้นตอนใดที่ทําต่อจากการเลือกเรื่องหรือหัวข้อรายงาน

(1) การรวบรวมบรรณานุกรม

(2) การบันทึกข้อมูล

(3) การสํารวจข้อมูล

(4) การเรียบเรียงรายงาน

ตอบ 3 หน้า 238 – 263 ขั้นตอนของการทํารายงานหรือภาคนิพนธ์มี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1 การกําหนดชื่อเรื่องหรือเลือกหัวข้อที่จะทํารายงาน

2 การสํารวจข้อมูล

3 การรวบรวมบรรณานุกรม ซึ่งจะมีประโยชน์ในการเขียนรายงานฉบับร่าง

4 การบันทึกข้อมูล หรือทําบัตรบันทึกข้อมูล

5 การวางโครงเรื่อง

6 การเรียบเรียงเนื้อหารายงานฉบับร่าง

50 “พระบรมราโชวาท” จัดเป็นแหล่งข้อมูลประเภทใด

(1) ปฐมภูมิ

(2) ทุติยภูมิ

(3) ตติยภูมิ

(4) เบญจภูมิ

ตอบ 1 หน้า 67, 240 แหล่งข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1 แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Sources) เป็นหลักฐานเบื้องต้นหรือข้อมูลอันดับแรกที่ได้รับจากบุคคลโดยตรง เช่น ประสบการณ์ของตนเอง บันทึกส่วนตัว จดหมายโต้ตอบ พระบรมราโชวาทต้นฉบับตัวเขียน (Manuscript) อัตชีวประวัติ บทสัมภาษณ์ แบบสอบถาม สุนทรพจน์ ฯลฯ

2 แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Sources) หรือข้อมูลอันดับรอง ได้แก่ หนังสือหรือตําราและวัสดุที่เป็นผลผลิตของการค้นคว้าจากหลักฐานเบื้องต้น เช่น บทความจากวารสารข่าวในหนังสือพิมพ์ ดรรชนี สารานุกรม กฤตภาค ฯลฯ

51 การเตรียมข้อมูลเพื่อทํารายงานในข้อใดควรบันทึกข้อมูลแบบลอกความ

(1) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์

(2) รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

(3) บทความวิจัย

(4) บทวิจารณ์หนังสือ

ตอบ 1 หน้า 257, 260 261 การบันทึกข้อมูลแบบลอกความ (Quotation) จะเหมาะกับข้อความหรือข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้ง เช่น สูตรทางคณิตศาสตร์ ความหมายหรือคํานิยามในเชิงวิชาการ พระบรมราโชวาท พระราชบัญญัติ ข้อบังคับหรือคําสั่งของทางราชการ กวีนิพนธ์ และบทละคร ซึ่งมีข้อควรระวัง คือ ต้องคัดลอกทุกอย่างให้เหมือนต้นฉบับ ตอนใดที่คัดลอกมาทั้งหมดให้ คร่อมไว้ด้วยเครื่องหมายอัญประกาศ ( “_ _ _” ) แต่ถ้าคัดลอกมาเพียงบางส่วนให้ใช้เครื่องหมาย จุด 3 จุด (…) ใส่ไว้ก่อนหรือหลังข้อความนั้น โดยบัตรบันทึกชนิดนี้จะกระทําเมื่อ

1 ผู้ทํารายงานไม่สามารถหาคําพูดได้ดีกว่าเนื้อหาเดิม

2 เนื้อหาเดิมได้วางระเบียบกฎเกณฑ์และวิธีการไว้อย่างดีแล้วจึงไม่ควรดัดแปลง

3 เนื้อหาเดิมบรรยายถึงแนวคิดของผู้แต่งจึงไม่ควรดัดแปลง

52 ข้อใดกล่าวถึงการเรียบเรียงรายงานได้อย่างถูกต้องที่สุด

(1) การใช้คําย่อหรืออักษรย่อให้มากที่สุดเพื่อให้เนื้อหาสั้นกระชับ

(2) การเขียนอ้างอิงให้ถูกต้องตามรูปแบบของสถาบันที่ส่งรายงาน (3) การเขียนรายงานวิชาการควรใช้ภาษาพรรณนาความ

(4) การดัดแปลงเนื้อหาให้แตกต่างจากต้นฉบับมากที่สุด

ตอบ 2 หน้า 263, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 337) ข้อควรพิจารณาในการเรียบเรียงรายงานฉบับร่าง มีดังนี้

1 เรียบเรียงเนื้อหาของรายงานตามลําดับของโครงเรื่องที่วางไว้ โดยเนื้อหา ไม่ควรสั้นหรือยาวเกินไป

2 ใช้ภาษาที่ถูกต้อง กะทัดรัด สุภาพ และอธิบายทุกสิ่งให้ชัดเจน

3 ไม่ใช้อักษรย่อและคําย่อ

4 เขียนอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ถูกต้องตามรูปแบบของ สถาบันที่ส่งรายงาน โดยแสดงไว้หลังข้อความที่อ้าง และเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่งตลอดรายงาน

5 การใส่ตาราง ภาพประกอบ แผนภูมิ แผนที่ กราฟ ฯลฯ ต้องระบุแหล่งที่มา โดยใช้แบบแผนเช่นเดียวกับเชิงอรรถ ฯลฯ

53 ตัวอย่างแบบสอบถามที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ควรใส่ไว้ในส่วนใดของรายงาน

(1) ภาคผนวก

(2) เชิงอรรถอ้างอิง

(3) บทนํา

(4) อภิธานศัพท์

ตอบ 1 หน้า 64, 275 ภาคผนวก (Appendix) เป็นส่วนท้ายของรายงานที่นําเสนอข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากส่วนที่เป็นเนื้อเรื่อง เนื่องจากรายการนั้นไม่เหมาะที่จะเสนอแทรกไว้ในส่วน ของเนื้อหา แต่มีความสัมพันธ์และช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดียิ่งขึ้น เช่น แบบสอบถาม ตัวเลขสถิติ ตารางลําดับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ภาพประกอบเนื้อเรื่อง เป็นต้น

54 ข้อใดเขียนบรรณานุกรมได้ถูกต้อง

(1) ศาสตราจารย์ ดร.ศรีเรือนแก้ว แก้วกังวาล จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ :สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.

(2) ดร.ศรีเรือนแก้ว แก้วกังวาล, จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย, พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ :สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.

(3) ศาสตราจารย์ศรีเรือนแก้ว แก้วกังวาล, จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย, พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ :สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.

(4) ศรีเรือนแก้ว แก้วกังวาล, จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย, พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ :สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2545.

ตอบ 4 หน้า 254 – 255, 276 277 จากตัวเลือกข้างต้น ใช้รูปแบบการเขียนรายการบรรณานุกรมสําหรับหนังสือตามคู่มือ Turabian ซึ่งมีแบบแผนการเขียนรายการอ้างอิงที่ถูกต้อง ดังนี้

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. ครั้งที่พิมพ์, สถานที่พิมพ์ : สํานักพิมพ์, ปีที่พิมพ์ ในกรณีที่ผู้แต่งเป็นคนไทย ไม่ต้องใส่คํานําหน้าชื่อ ตําแหน่งทางวิชาการหรือวิชาชีพ เช่น ศรีเรือนแก้ว แก้วกังวาล, จิตวิทยาพัฒนาการทุกช่วงวัย. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ :สํานักพิมพ์มหาวิทยาสัยธรรมศาสตร์, 2545.

55 ข้อใดเขียนอ้างอิงในเนื้อหาได้ถูกต้อง

(1) (Sallnow, John, 1982, 5)

(2) J. Sallnow, 1982, 5)

(3) (John Seallnow, 1982, 5)

(4) (SallnoW, 1982, 5)

ตอบ 4 หน้า 264, 276 277, (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 298) การแสดงที่มาของข้อมูลเฉพาะที่แบบนาม-ปี (Author-date) คือ รายการอ้างอิงในวงเล็บที่แทรกลงไปในเนื้อหา (Cite-in-Text) หลังข้อความที่คัดลอกมาหรือที่ต้องการอ้างอิง ซึ่งจากตัวเลือกข้างต้น ใช้รูปแบบ การอ้างอิงในเนื้อหาตามคู่มือ APA คือ (ชื่อ นามสกุลผู้แต่ง, ปีที่พิมพ์, หน้าที่อ้างอิง) เช่น (อุดมพร มานะ, 2556, หน้า 5) หากผู้แต่งเป็นชาวต่างชาติให้ลงเฉพาะชื่อสกุล (Last Name)

ปีที่พิมพ์ และเลขหน้า เช่น (Sallnow, 1982, 5)

56 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในสมัยแรก ๆ มีวัตถุประสงค์ทางด้านใด

(1) ด้านการเรียนการสอนออนไลน์

(2) ด้านการสื่อสารทางการทหาร

(3) ด้านการค้าขายทางออนไลน์

(4) ด้านบริการงานห้องสมุด

ตอบ 2 (LIS 1001 เลขพิมพ์ 57038 หน้า 47 – 48), (คําบรรยาย) การพัฒนาอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนา เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งเริ่มแรกนั้นได้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาร์พาเน็ต (ARPAnet) ขึ้น เพื่อเน้นใช้งานด้านการทหารและการสื่อสารในช่วงสงครามเย็นมากที่สุด และเพื่อเชื่อมโยง คอมพิวเตอร์ของหน่วยงานในมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สําหรับงานวิจัย จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2526 จึงพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และในปัจจุบันได้มีการนําอินเทอร์เน็ตมาใช้งานในเชิงพาณิชย์มากขึ้น

57 ข้อใดหมายถึงมาตรฐานการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างเว็บบราวเซอร์และเซิร์ฟเวอร์

(1) Hyper Text Transfer Protocol (HTTP)

(2) Hyper Text Markup Language (HTML)

(3) Uniform Resource Locator (URL)

(4) World Wide Web Consortium (W3C)

ตอบ 1 (คําบรรยาย) Hyper Text Transfer Protocol (HTTP) คือ โปรโตคอลแบบไคลเอ็นต์/เซิร์ฟเวอร์ที่เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างเว็บบราวเซอร์เเละเว็บเซิร์ฟเวอร์ จึงเป็นโปรโตคอล ในระดับชั้นโปรแกรมประยุกต์เพื่อการแจกจ่ายและการทํางานร่วมกันกับสารสนเทศของสื่อผสม โดยจะใช้สําหรับการรับทรัพยากรที่เชื่อมโยงกับภายนอก ซึ่งนําไปสู่การจัดตั้ง World Wide Web (WWW)

58 ข้อใดหมายถึงการทําสําเนา E-mail Address ของผู้รับในการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

(1) การใช้ BC

(2) การใช้ CCC

(3) การใช้ CC

(4) การใช้ BBB

ตอบ 3 หน้า 311, (คําบรรยาย) รายละเอียดทั่วไปที่ใช้กรอกเพื่อรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Mail : E-mail) มีดังนี้

1 To คือ ชื่อ E-mail Address สําหรับผู้รับ

2 FROM คือ ชื่อ E-mail Address สําหรับผู้ส่ง

3 SUBJECT คือ หัวข้อเนื้อหาของจดหมาย

4 CC คือ การทําสําเนา E-mail Address ของผู้รับไปให้อีกบุคคลหนึ่ง

5 BCC คือ การทําสําเนา E-mail Address ของผู้รับไปให้อีกบุคคลหนึ่ง แต่ผู้รับจะไม่รู้ว่าเราทําสําเนาให้ใครบ้าง

6 ATTACHMENT คือ การส่งไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับ E-mail

59 Search Engine มีความสัมพันธ์กับข้อใด

(1) การค้นสารสนเทศจากกูเกิล

(2) เครื่องเซิร์ฟเวอร์

(3) เครื่องมือช่วยค้นฐานข้อมูล

(4) เว็บมาสเตอร์

ตอบ 3 หน้า 313, (คําบรรยาย) Search Engine คือ เครื่องมือช่วยค้นที่ทําให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศจากฐานข้อมูลเว็บไซต์ (Websites) ที่ให้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ Search Engine จะแสดงรายการสารบาญและซ่องว่างให้เติมคําที่ต้องการสืบค้น จากนั้น ให้ผู้ใช้ป้อนคํา ข้อความ หรือชื่อเรื่องที่ต้องการค้นหา ก็สามารถหาเว็บไซต์ที่ต้องการหรือ รายชื่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่ง Search Engine ที่ได้รับ ความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ www.google.com, www.yahoo.com, www.altavista.com,www.metacrawler.com เป็นต้น

60 ข้อใดไม่ใช่โปรแกรมระบบปฏิบัติการ

(1) Android

(2) Windows XP

(3) Mozilla Firefox

(4) Windows NT

ตอบ 3 (คําบรรยาย) โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) จะทําหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป ซึ่งมีหน้าที่หลัก คือ การจัดสรรทรัพยากร ในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ในเรื่องการรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับ ฮาร์ดแวร์ หรือจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจําตามที่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ร้องขอ โดยระบบปฏิบัติการ ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ได้แก่ Microsoft Windows XP, Windows NT, Unix, Linux ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือ เช่น IOS, Android ฯลฯ (ส่วนเว็บบราวเซอร์ Mozila Firefox เป็นโปรแกรมประยุกต์)

 

 

PHI1001 วัฒนธรรมและศาสนา s/2560

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2560

ข้อสอบกระบวนวิชา PHI 1001 วัฒนธรรมและศาสนา

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1 ปลาที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น ได้แก่

(1) ปลานิล

(2) ปลาทับทิม

(3) ปลาคาร์พ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) ปลาที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น ได้แก่

1 ปลานิล เป็นปลาที่ญี่ปุ่นส่งพันธุ์มาให้ไทยนําไปเพาะเลี้ยง

2 ปลาทับทิม เป็นปลาที่ได้จากการผสมพันธุ์ของปลานิลญี่ปุ่น

3 ปลาคาร์พ เป็นปลาสวยงาม มีราคาแพง นิยมเลี้ยงไว้ที่สวนและสระน้ำ โดยจะไม่นํามารับประทาน

2 ศาสนาชินโตมีอิทธิพลต่อชาวญี่ปุ่น ทําให้

(1) รักธรรมชาติ

(2) เชื่อพลังศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ

(3) ภักดีต่อจักรพรรดิ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 50, 233 – 237 ศาสนาชินโต เป็นศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของชนชาติญี่ปุ่น ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างของชาวญี่ปุ่น ทําให้ชาวญี่ปุ่นมีเอกภาพและเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ได้แก่

1 นับถือบูชาธรรมชาติ และมีจิตใจรักธรรมชาติ

2 เชื่อพลังศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ แม่น้ำ และ

3 จงรักภักดีต่อสมเด็จพระจักรพรรดิ

4 มีความเชื่อและนับถือดวงอาทิตย์ เป็นต้น

3 ศาสนาชินโตสอนว่า “บาปทุกอย่างอาจให้อภัยได้ ยกเว้น ”

(1) การโกหก

(2) ขี้ขลาด

(3) ขี้โกง

(4) ขี้เหนียว

ตอบ 2 หน้า 239 – 240 หลักจริยธรรมของศาสนาชินโต มีดังนี้

1 ศาสนาชินโตยกย่องความกล้าหาญในทุกรูปแบบ แต่ติเตียนความขลาดว่าเป็นบาปดังคํากล่าวที่ว่า “บาปทุกอย่างทั้งใหญ่และเล็กอาจจะได้รับอภัยด้วยการสํานึกผิด ยกเว้นความขลาดและการลักขโมย”

2 ศาสนาชินโตเคร่งครัดในเรื่องความสะอาดมาก โดยถือว่าการเป็นคนไม่สะอาดเป็นบาป ซึ่งจากความเชื่อนี้ทําให้ชาวญี่ปุ่นนิยมอาบน้ำก่อนรับประทานอาหารเย็นและก่อนทําพิธีกรรมใด ๆ เป็นต้น

4 ศาสนาชินโตสอนให้….ก่อนทําพิธีกรรม

(1) สวดมนต์

(2) ไหว้เจ้า

(3) อาบน้ำ

(4) ดื่มชา

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3 ประกอบ

5 ประเทศจีนเป็นประเทศที่

(1) มีพื้นที่มากที่สุดในโลก

(2) มีประชากรมากที่สุดในโลก

(3) ชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 37, (คําบรรยาย) ประเทศจีน เป็นประเทศที่มีความสําคัญดังนี้

1 มีพื้นที่มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง

2 มีประชากรมากที่สุดในโลก

3 ชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

4 มีการผลิตสินค้าจําหน่ายทั่วโลกมาก เป็นต้น

6 วัฒนธรรมจีนเผยแพร่อยู่ในวัฒนธรรมของชาติใด

(1) ญี่ปุ่น

(2) เกาหลี

(3) เวียดนาม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 37, 51, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมจีนเผยแพร่ไปยังดินแดนใกล้ไกลต่าง ๆ โดยการติดต่อค้าขาย และการอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในดินแดนเหล่านั้น ซึ่งวัฒนธรรมจีนเผยแพร่อยู่ในวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม เป็นต้น

7 วัฒนธรรมทางวัตถุของจีนแสดงถึงความเจริญและเป็นภูมิปัญญา ได้แก่

(1) ทอผ้า

(2) ยาสมุนไพร

(3) เครื่องกระเบื้อง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 37 – 38, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมทางวัตถุของจีนที่แสดงถึงความเจริญและเป็นภูมิปัญญาซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีน ได้แก่

1 การเลี้ยงไหมเพื่อใช้ทอผ้า และการใช้ฝ่ายทอผ้า

2 การรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร

3 การทําเครื่องกระเบื้องเคลือบถ้วยชาม

4.การคิดอักษรจีนขึ้นใช้เป็นภาษาเขียนประจําชาติ ซึ่งเรียกว่า “ภาษาจีน”

5 ฮวงจุ้ย ซึ่งมีความสําคัญต่อทําเลที่ตั้งของสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ประกอบอาชีพ และสถานที่ฝังศพ เป็นต้น

8 วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีน ได้แก่

(1) ภาษา

(2) อักษร

(3) ฮวงจุ้ย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 7 ประกอบ

9 วัฒนธรรมวัตถุจีนที่มีราคาสูงมากในปัจจุบัน ได้แก่

(1) เครื่องกระเบื้องลายคราม

(2) ผ้าไหม

(3) ภาพวาด

(4) หน้ากากจิ๋ว

ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) วัฒนธรรมวัตถุจีนที่มีราคาสูงมากในปัจจุบัน ได้แก่ ภาพวาด ซึ่งชุดภาพวาดจิตรกรรมของ “ฉี ไปสือ” ศิลปินชื่อดังชาวจีน ถูกประมูลไปด้วยราคา 931.5 ล้านหยวน

หรือประมาณ 4,612 ล้านบาท ทําลายสถิติของภาพวาดจีนทั้งหมดในการประมูลที่กรุงปักกิ่ง

10 วัฒนธรรมความเชื่อของจีน “มังกร” สัมพันธ์กับ

(1) ฮ่องเต้

(2) พระโพธิสัตว์กวนอิม

(3) แม่น้ำฮวงโห

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 40 ชาวจีนนับถือและเคารพต่อมังกร ซึ่งเชื่อว่ามังกรเป็นเทพเจ้า เป็นพาหนะของพระโพธิสัตว์กวนอิม และยังเชื่อว่าการที่น้ำในแม่น้ำฮวงโหไหลบ่าท่วมท้นเป็นเพราะมังกรพิโรธ นอกจากนี้ชาวจีนยังนํามังกรมาเป็นสัญลักษณ์แห่งฮ่องเต้ เช่น ประเพณีสําคัญที่ฮ่องเต้ต้อง สวมเสื้อคลุมปักเป็นรูปมังกร เรียกว่า “เสื้อลายมังกร” ในวันที่ทําพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์และประทับนั่งบนบัลลังก์มังกรด้วย

11 ข้อใดไม่เป็นวัฒนธรรม

(1) เสือดํา

(2) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้ามล่าสัตว์

(3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรได้เป็นมรดกโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 8 – 10, (คําบรรยาย) วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ที่อยู่รวมกันในรูปขององค์กรทางสังคมสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ดํารงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ หรือหมายถึง วิถีชีวิตความ เจริญงอกงาม มรดกแห่งสังคม หรือการกระทําใด ๆ ของมนุษย์ในส่วนรวม ถ่ายทอดกันได้ เอาอย่างกันได้ เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การปล่อยโคมลอย การผลิตยารักษาโรค อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ฯลฯ แต่วัฒนธรรมจะไม่รวมถึงสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี รวมทั้งพฤติกรรมที่เกิดจากสัญชาตญาณหรือพฤติกรรมตามธรรมชาติ (สัตว์และพืช) หรือสิ่ง ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น คนตาย ข้าวเปลือก อินทผลัม เสือดํา อฐ วัว ควาย คลื่นยักษ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ เกาะ ทะเลทราย แม่น้ำ ถ้ำ ฯลฯ

12 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมเนติธรรม

(1) เสือดํา

(2) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้ามล่าสัตว์

(3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรได้เป็นมรดกโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 106 – 109, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมทางเนติธรรม เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับกฎหมายกฎมณเฑียรบาล สิทธิหน้าที่ของพลเมืองตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญ จารีตประเพณี ข้อห้ามทางศาสนา และหมายความรวมถึงพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงโทษ กระบวนการลงโทษและกระบวนการพิจารณาความลงโทษด้วย เช่น วัฒนธรรมเนติธรรมของไทย ได้แก่ เมาไม่ขับ ถ้าเมาแล้วขับจะถูกยึดใบขับขี่ จับปรับและคุมประพฤติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้ามล่าสัตว์ เป็นต้น

13 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมสหธรรม

(1) เสือดํา

(2) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้ามล่าสัตว์

(3) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรได้เป็นมรดกโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 125, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมสหธรรม เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับสังคมส่วนรวม ครอบครัวสาธารณชนและประเทศชาติ ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นท้องถิ่น การแข่งขันกีฬา และจรรยามารยาทหรือกิริยามารยาทต่าง ๆ ในสังคม เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้เป็นมรดกโลก, การลุกให้เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์นั่งในรถเมล์, การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เทศกาลสงกรานต์, วันสตรีสากล, เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (การ Countdownการจุดพลุ) เป็นต้น

14 ประชาชนร่วมกันบริจาคเงินในโครงการ (วิ่ง) ก้าวคนละก้าวของตูนบอดี้สแลมเพื่อช่วยโรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าเป็นการทําบุญได้กุศลแรง นับเป็นวัฒนธรรม

(1) เนติธรรม

(2) คติธรรม

(3) สหธรรม

(4) วัตถุธรรม

ตอบ 2 หน้า 99 – 102, 104, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมคติธรรม เป็นวัฒนธรรมทางจิตใจเกี่ยวกับศีลธรรมและจรรยาบรรณ อันเป็นหลักหรือแนวทางดําเนินชีวิตที่ดีที่ควรยึดถือและควรปฏิบัติ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอิทธิพลของความเชื่อและคตินิยมทางศาสนา เช่น ประชาชนร่วมกันบริจาค เงินในโครงการ (วิ่ง) ก้าวคนละก้าวของตูนบอดี้สแลมเพื่อช่วยโรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าเป็น การทําบุญได้กุศลแรง คนไทยรักในหลวง, พุทธสุภาษิต (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนดีผีคุ้ม), สุภาษิตคติเตือนใจเกี่ยวกับการงาน (หนักเอาเบาสู้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง), สุภาษิตคติเตือนใจ ในการคบมิตร (เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก), สุภาษิตคติเตือนใจในการประพฤติ (น้ําร้อนปลาเป็น-น้ำเย็นปลาตาย บวชก่อนเบียด) และคติธรรมสอนหญิง (รักนวลสงวนตัว)

15 เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่บนเกาะที่ใหญ่ที่สุด คือ

(1) ฮอกไกโด

(2) ฮอนชู

(3) ชิโกกุ

(4) คิวชู

ตอบ 2 หน้า 48 ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะพื้นที่เป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมายนับพันเกาะ โดยมีเกาะที่ใหญ่ที่สุดและสําคัญที่สุดอยู่ 4 เกาะ คือ เกาะฮอนชู (เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ตั้งของ เมืองหลวงซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น) เกาะฮอกไกโด เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู โดยประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

16 ข้อใดถูก…..ประเทศญี่ปุ่น

(1) มีผู้สูงอายุมาก

(2) มีพื้นที่เพาะปลูกน้อย

(3) เจริญทางเทคโนโลยี

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 48, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะสําคัญดังนี้

1 มีพื้นที่เพาะปลูกน้อยเพียงประมาณ 17% ของพื้นที่ทั้งหมด

2 มีความเจริญทางเทคโนโลยีหุ่นยนต์สูงมากในโลก

3 มีประชากรผู้สูงอายุสูงมาก ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะมีอายุขัยเฉลี่ยถึง 82 ปี ถือว่ามีอายุยืนยาวมากที่สุดในโลก

17 ลัทธิบูชิโดไม่เกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) ฮาราคีรี

(2) ซามูไร

(3) ยากูซ่า

(4) ชาตินิยม

ตอบ 4 หน้า 51, (คําบรรยาย) อิทธิพลของลัทธิบูชิโดที่มีต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้แก่

1 วิถีทางแห่งนักรบซามูไร คือ “ยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ”

2 พิธีกรรมฆ่าตัวตายที่เรียกว่า “ฮาราคีรี”

3 การสละชีวิตตนเองของนักบินโดยการขับเครื่องบินพุ่งชนฝ่ายตรงข้ามให้ระเบิดไปพร้อมกันที่เรียกว่า “กามิกาเซ่”

4 ซามูไรไร้สังกัดหรือโรนิน ได้พัฒนาการมาเป็น “ยากูซ่า” ในปัจจุบัน เป็นต้น

18 วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีน ได้แก่

(1) สถาปัตยกรรม

(2) อาหารเส้น

(3) ตะเกียบ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 51 – 52 วัฒนธรรมจีนได้แพร่ขยายเข้ามาในดินแดนญี่ปุ่นมาช้านานและมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นหลายอย่าง ได้แก่ การรับเอาตัวหนังสือภาพของจีนและดัดแปลงให้เข้ากับลักษณะ ภาษาดั้งเดิมของญี่ปุ่น จนกลายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในปัจจุบัน, การรับเอาพุทธศาสนานิกาย มหายาน ศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม การปกครองแบบอย่างของจีนมาผสมผสาน กับของดั้งเดิมจนกลายเป็นศิลปวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น เช่น การสร้างศิลปสถาน การสร้างวัด การสร้างพระราชวังของจักรพรรดิ เครื่องถ้วยชาม การใช้ตะเกียบ การกินบะหมี่ เป็นต้น

19 วัฒนธรรมทางวัตถุญี่ปุ่นเป็นเลิศเรื่องการทําหุ่นยนต์ ได้แก่ หุ่นยนต์ (1) สุนัขหุ่นยนต์

(2) แฟนสาวหุ่นยนต์

(3) คนรับใช้หุ่นยนต์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ความรู้ทั่วไป) วัฒนธรรมทางวัตถุญี่ปุ่นเป็นเลิศเรื่องการทําหุ่นยนต์ ได้แก่

1 สุนัขหุ่นยนต์ชื่อ “ไอโบะ” (Aibo)

2 แฟนสาวหุ่นยนต์ชื่อ “EMA”

3 คนรับใช้หุ่นยนต์

4 บาริสต้าหุ่นยนต์ เป็นต้น

20 วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและรู้จักทั่วโลก ได้แก่

(1) ซูชิ

(2) ข้าวปั้น (Onigiri)

(3) ชาเขียว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 55, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและรู้จักทั่วโลก ได้แก่ ซูชิ ซาชิมิ เนื้อดิบ ปลาดิบ ไข่ดิบ ข้าวปั้น (Onigiri) ชาเขียว เป็นต้น

21 ชาวจีนเมื่อตั้งบ้านเรือนเป็นชุมชนได้แล้วจะสร้างเป็นอันดับแรก

(1) ศาลเจ้า

(2) สุสาน

(3) โรงเจ

(4) โรงงิ้ว

ตอบ 1 หน้า 41, (คําบรรยาย) ชาวจีนเมื่อตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนเป็นชุมชนได้แล้ว ชาวจีนไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนใดในโลก สิ่งแรกที่ชาวจีนจะสร้าง คือ ศาลเจ้า เพื่อทําพิธีตามความเชื่อหลักของวัฒนธรรมของชนชาติจีน นอกจากนี้แล้วก็จะมีสุสานแห่งบรรพบุรุษ โรงเจ (โรงทาน) โรงรับจํานํา โรงงิ้ว และโรงน้ำชา เป็นต้น

22 วันปีใหม่ ในเทศกาลตรุษจีน ชาวอื่นจะไม่ทําข้อใด

(1) ใส่ชุดแดง

(2) แจกเงินลูกหลาน-ลูกจ้าง

(3) ทําความสะอาดบ้าน

(4) ออกไปเที่ยว

ตอบ 3 หน้า 44 – 45, (คําบรรยาย) เทศกาลตรุษจีน เป็นประเพณีของชาวจีนมาแต่ครั้งโบราณกว่า 3,000 ปี ซึ่งเทศกาลตรุษจีนจะมีพิธีอยู่ 2 อย่าง คือ

1 การส่งท้ายปีเก่า คือ การเซ่นไหว้บรรพบุรุษเป็นครั้งสุดท้ายของปีเก่า เซ่นไหว้ผีวิญญาณต่าง ๆ เจ้าที่ ผีเร่ร่อน

2 การต้อนรับปีใหม่ คือ การปล่อยตัวเองและลูกจ้างได้หยุดงานออกไปเที่ยว ใส่ชุดแดง ทําอาหารดี ๆ เลี้ยง และแจกเงินลูกหลานและลูกจ้าง เรียกว่า “แต๊ะเอีย”

23 ผลไม้ที่ชาวจีนใช้เซ่นไหว้เพราะเชื่อว่าส่งเสริมให้อายุยืน ได้แก่

(1) ท้อ

(2) พลับ

(3) เก๊กฮวย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 45 – 46, (คําบรรยาย) ผลไม้ ดอกไม้ และขนมที่ชาวจีนมักนิยมนํามาเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นมงคลและมีความหมายดี เช่น

1 ผลท้อ เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน และขจัดภูตผีปีศาจได้

2 ผลทับทิม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงาม มีบุตรหลานบริวารมาก และช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ดังนั้นชาวจีนจึงนิยมนําต้นทับทิมมาปลูกไว้หน้าบ้านเสมอ

3 ผลพลับ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมีอายุยืน มีความสุขสงบถาวร

4 ผลส้ม (ส้มสีทอง) เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทําให้มีโชคลาภ

5 ดอกเก๊กฮวย เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน อายุยืน สดชื่นในชีวิต เ6 ขนมเข่ง เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองมากขึ้นทุกปี

24 แนวปฏิบัติในการดํารงชีวิตเรื่องจริยธรรมของชาวจีนได้รับอิทธิพลจาก

(1) เล่าจื้อ

(2) ขงจื้อ

(3) ขงเบ้ง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 245 ขงจื้อ เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตจิตใจของชาวจีนทั้งหลายในฐานะครูผู้สั่งสอน กล่อมเกลาจิตใจ คุณธรรม และแนวปฏิบัติในการดํารงชีวิตเรื่องจริยธรรมของชาวจีน ทุกชนชั้น ลัทธิขงจื้อยังถือเป็นต้นตํารับของขนบธรรมเนียมประเพณี กฎหมาย ตลอดจนพิธีการต่าง ๆ ซึ่งทางราชการยกย่องและถือปฏิบัติ

25 เล่าจื๊อสอบจอหงวนได้แล้วรับราชการเป็น

(1) อาจารย์ในราชสํานัก

(2) บรรณารักษ์ของหอสมุดในราชสํานัก

(3) ที่ปรึกษาของขุนนาง

(4) รวบรวมตํารายกให้ราชสํานัก

ตอบ 2 หน้า 251 – 252 เล่าจื้อ (Lao-Tze) เกิดในปีก่อนคริสต์ศักราช 604 ในตอนแรกเล่าจื้อ สอบจอหงวนได้รับราชการแล้วเป็นบรรณารักษ์ของหอสมุดในราชสํานักของราชวงศ์จิว ต่อมา เมื่ออายุครบ 90 ปี เกิดความเบื่อหน่ายในสังคมการเมืองการปกครองที่ไม่ยุติธรรม จึงลาออก จากราชการ ปลีกตัวออกจากสังคมเดินทางท่องเที่ยวไป และได้เขียนบันทึกคําสั่งสอนหลักจริยธรรมเป็นโคลงสั้น ๆ 81 โคลง เรียกว่า “เต๋าเต็กกิง” (TAO TEH KING)

26 ขงจื้อสอบจอหงวนได้รับราชการแล้วลาออกมาทําอาชีพ

(1) ครู

(2) ค้าขาย

(3) วาดภาพขาย

(4) เขียนโคลง-กลอน ขาย

ตอบ 1 หน้า 242 243 ขงจื้อ (King Tzu) เกิดเมื่อ 551 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อมีอายุได้ 20 ปี ขงจื้อสอบจอหงวนได้เข้ารับราชการที่รัฐ ต่อมาได้ลาออกจากราชการ และหาเลี้ยงชีพโดยการเป็นครูอบรมสั่งสอนวิชาความรู้ให้แก่คนทั่วไปที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียนในสํานักของเขาซึ่งคําสั่งสอนของขงจื้อนั้นเป็นที่นับถือและยึดเป็นแนวทางของชาวจีนทั่วไปในสมัยนั้นด้วย

27 ข้อใดมีความหมายไม่ตรงกับ “หยิน-หยาง”

(1) ดวงอาทิตย์-ดวงจันทร์

(2) หญิง-ชาย

(3) มืด-สว่าง

(4) อ่อน-แข็ง

ตอบ 1 หน้า 241, (คําบรรยาย) ในสมัยโบราณชาวจีนมีความเชื่ออันเป็นความภาคภูมิของประเทศคือเชื่อว่า ประเทศจีนอยู่ใจกลางของโลก จึงทําให้เกิดความเชื่อว่าโลกมีวิญญาณสถิตอยู่ มีเพศเป็นหญิง เรียกว่า “หยิน” ซึ่งเป็นวิญญาณแห่งดิน ความมืด กลางคืน ดวงจันทร์ ฯลฯ และเนื่องจากการที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลก ชาวจีนจึงยกย่อง “หยิน” ว่ามีอํานาจเหนือกว่า “หยาง” ซึ่งเป็นเพศชายอันเป็นวิญญาณแห่งฟ้า ความสว่าง กลางวัน ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ดังนั้นจึงกล่าว ได้ว่า “หยิน-หยาง” หมายถึง หญิง-ชาย, ดิน-ฟ้า, ความมืด-ความสว่าง, กลางคืน-กลางวัน,ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์, อ่อน-แข็ง, ดํา-ขาว ฯลฯ

28 ข้อใดไม่ใช่ความสามารถของนักบวชเต๋า

(1) เวทมนตร์คาถา

(2) ไสยศาสตร์

(3) เทศนาสั่งสอน

(4) ทํายาอายุวัฒนะ

ตอบ 3 หน้า 257 – 258, (คําบรรยาย) ศาสนาเต๋ในระยะหลัง ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไสยศาสตร์มากขึ้น ทําให้นักบวชในศาสนาเต๋ากลายเป็นผู้มีความชํานาญพิเศษในการประกอบพิธีกรรม เกี่ยวกับไสยศาสตร์ สามารถทํานายดวงชะตาและเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ มีญาณติดต่อเทพเจ้า และดวงวิญญาณของผู้ตายได้ มีพลังจิตสะกดวิญญาณและปราบผีปีศาจได้ ทําคุณไสย ทําหลุมศพ ทํากงเต็ก เวทมนตร์คาถา และมีความสามารถในการทํายาอายุวัฒนะ

29 ประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก คือ

(1) อิหร่าน

(2) อียิปต์

(3) อินโดนีเซีย

(4) ซาอุดิอาระเบีย

ตอบ 3 หน้า 391, (คําบรรยาย) ศาสนาอิสลามเกิดในดินแดนทะเลทรายในทวีปเอเชีย หรือที่เรียกว่าตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นดินแดนถิ่นฐานของชาวอาหรับ และปัจจุบันเป็นศาสนาที่มีจํานวนผู้นับถือมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากศาสนาคริสต์ โดยประเทศที่มีประชากรนับถือ ศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก คือ อินโดนีเซีย

30 จังหวัดใดไม่ใช่ 4 จังหวัดภาคใต้ที่ใช้กฎหมายอิสลาม

(1) ยะลา

(2) กระบี่

(3) ปัตตานี

(4) สตูล

ตอบ 2 หน้า 391 ประเทศไทยมีชาวมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่ทั่วทุกจังหวัด และมีมากที่สุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล โดยรัฐบาลไทยได้อนุญาตให้ใช้กฎหมายอิสลามใน 4 จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวนี้

31 การทําพิธีฮัจญ์เกี่ยวข้องกับ

(1) หินกาบะห์

(2) นครเมกกะ

(3) ประเทศซาอุดิอาระเบีย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 403 การทําพิธีฮัจญ์ คือ การเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อทํานมัสการบูชาหินกาบะห์ ณ วิหาร โดยถือเป็นภารกิจที่ชาวมุสลิมผู้บรรลุนิติภาวะ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีความสามารถและฐานะพร้อมที่จะทําได้ ควรกระทําอย่างยิ่ง ยกเว้นแต่จะอยู่ในสภาพหรือฐานะที่ไม่สามารถไปได้จริง ๆ เช่น ยากจน มีอาชีพต้องหาเลี้ยงครอบครัวทุกวันตลอดปี เป็นต้น

32 ภาษาอาหรับเปล่งออกมาจาก…จึงมีพลังในเสียงมาก

(1) คอ

(2) อก

(3) ท้อง (พุง)

(4) ท้องน้อย

ตอบ 2 หน้า 392 ภาษาอาหรับนับเป็นภาษาที่เป็นที่ยอมรับในบรรดานักภาษาศาสตร์ว่าเป็นภาษาที่ไม่มีภาษาของชนชาติใดจะเทียบได้ในด้านความลึกซึ้งและละเอียดอ่อนแห่งภาษา มีจังหวะเร้าใจ มีความหมายลึกซึ้ง ร่ำรวยคําซึ่งถือเป็นภาษาที่เอื้อต่อการประพันธ์ และสําเนียงเสียงจังหวะของภาษาที่เปล่งออกมาจากอก มีพลังอํานาจต่อผู้ได้ยินได้ฟังอย่างมาก

33 “มุสลิม” แปลว่า

(1) ผู้แสวงสันติ

(2) ผู้เคารพพระเจ้า

(3) ผู้รักภักดีพระเจ้า

(4) ผู้เชื่อฟังพระเจ้า

ตอบ 1 หน้า 391 คําว่า “อิสลาม” เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า สันติ (ศานติ) การยอมรับ การนอบน้อม อส่วนผู้นับถือศาสนาอิสลาม เรียกว่า “มุสลิม” แปลว่า ผู้นอบน้อมตน ผู้แสวงสันติ

34 ผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด แต่ต้องมาถือชดเชยภายหลัง ได้แก่ (1) หญิงตั้งครรภ์

(2) ผู้ป่วย

(3) ผู้ต้องโทษ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 402, (คําบรรยาย) การถือศีลอดจะถือเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม (30 วัน) และจะเริ่มทําในวันแรกของเดือนที่ 9 แห่งปฏิทินอิสลาม ซึ่งเรียกว่า เดือนรอมาดอนหรือรอมดอน (Ramadan) โดยผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด ได้แก่ ผู้ป่วย หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้เดินทาง ผู้ที่ยัง ไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้วิกลจริตหรือมีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ (สําหรับผู้ป่วยและผู้เดินทางจะต้องมาถือศีลอดชดเชยในภายหลังเมื่อพ้นภาวะนั้นแล้ว)

35 ข้อใดเป็นฮาลาล กระเป๋าหนัง

(1) จระเข้

(2) อูฐ

(3) ตะกวด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (คําบรรยาย) ผลิตภัณฑ์และอาหารฮาลาล (HALAL) หมายถึง ผลิตภัณฑ์และอาหารทุกชนิดที่ไม่มีองค์ประกอบของสิ่งที่ต้องห้ามในศาสนาอิสลาม ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสัตว์นั้นผ่าน การเชือดที่ถูกต้องตามแนวทางอิสลาม ดังนี้

1 ผู้เชือดเป็นมุสลิมที่เข้าใจและรู้วิธีการเชือดแบบอิสลามอย่างแท้จริง

2 สัตว์ที่จะนํามาเชือดจะต้องไม่เป็นสัตว์ที่ต้องห้าม (ฮารอมหรือหะรอม) เช่น หมู สุนัข เสือดํา เหยี่ยว นกอินทรี งู จระเข้ ตะกวด ฯลฯ ส่วนสัตว์ที่สามารถนํามาเชือดได้ เช่น แพะ แกะ วัว กวาง กระต่าย อฐ ฯลฯ

3 สัตว์ยังมีชีวิตขณะทําการเชือด

4 สัตว์ต้องตายสนิทก่อนที่จะแล่เนื้อ หรือดําเนินการใด ๆ ต่อไป

36 ข้อใดเป็นฮารอม เนื้อ

(1) จระเข้

(2) เสือดํา

(3) หมู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 35 ประกอบ

37 ศาสดาผู้สอนเน้น “ไม่ให้เป็นชู้ทางใจ” คือ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) นบีมูฮัมหมัด

ตอบ 3 (คําบรรยาย) ตามคําสอนของพระเยซูเรื่องการดํารงชีวิตคู่นั้น การแต่งงานต้องเป็นชายหนึ่งหญิงเดียวที่ถือว่าต่างเสมอกันและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เมื่อแต่งงานแล้วจะหย่าร้างกันไม่ได้ เป็นอันขาดจนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะตายไป การหย่าร้างเป็นความผิดหนัก หรือถ้าคู่ครองตายก็ไม่ควรแต่งงานใหม่ ห้ามมีชู้ หรือแม้แต่จะเป็นชู้ทางใจก็ไม่ได้

38 ตําแหน่งจุฬาราชมนตรี มีขึ้นครั้งแรกในสมัย

(1) สุโขทัย

(2) อยุธยา

(3) ธนบุรี

(4) รัตนโกสินทร์

ตอบ 2 หน้า 408 จุฬาราชมนตรีเป็นตําแหน่งผู้นําฝ่ายศาสนาอิสลามในประเทศไทยที่ฝ่ายบ้านเมืองสถาปนาขึ้นให้มีหน้าที่เป็นหัวหน้าบริหารศาสนาอิสลาม ซึ่งตําแหน่งนี้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพ่อค้าชาวเปอร์เซียชื่อ “เฉกอะหมัด” เป็นจุฬาราชมนตรีคนแรกของประเทศไทย

39 ผู้ดํารงตําแหน่ง “ดาโต๊ะยุติธรรม” ทําหน้าที่พิจารณาเรื่องใดไม่ได้

(1) คดีแพ่ง

(2) คดีครอบครัว

(3) คดีอาญา

(4) คดีมรดก

ตอบ 3 หน้า 410 ดาโต๊ะยุติธรรม คือ ข้าราชการฝ่ายตุลาการซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอํานาจและหน้าที่ในการวินิจฉัยและชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามในคดีแพ่งที่เกี่ยวด้วยเรื่องคดีครอบครัวและ คดีมรดก (เช่น สามีฟ้องหย่าภรรยา สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องแบ่งมรดก สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องสิทธิดูแลลูก) ของศาลชั้นต้นใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล

40 ศาสนายิว (ยูดาห์) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นมารดาของศาสนาคริสต์ เพราะ

(1) ศาสดาของศาสนาคริสต์เป็นชาวยิว

(2) ศาสดาของศาสนาคริสต์นับถือศาสนายิว

(3) ศาสนาคริสต์ยอมรับคัมภีร์ของศาสนายิว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 359, 372 ศาสนายิว (ยูดาห์) มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเสมือนเป็นมารดาของศาสนาคริสต์เพราะ

1 ศาสดาของศาสนาคริสต์เป็นชาวยิวและนับถือศาสนายิวมาก่อน

2 ศาสดาของศาสนาคริสต์เป็นผู้มีความรู้แตกฉานในหลักธรรมคําสอนและคัมภีร์ของศาสนายิวอย่างลึกซึ้ง

3 ศาสนาคริสต์ยอมรับนับถือและรับรองคัมภีร์ของศาสนายิว

41 ข้อใดไม่ใช่นิสัยทั่วไปของชาวยิว

(1) เป็นนักสู้-นักรบ

(2) ขยันขันแข็ง

(3) มานะอดทน

(4) อดออม

ตอบ 1 หน้า 360 นิสัยทั่วไปของชาวยิว คือ ขยันขันแข็ง มานะอดทน และอดออม หาได้มากใช้แต่น้อยจึงทําให้มีฐานะดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีพลเมืองเพิ่มรวดเร็วมาก

42 “โมเสส” แปลว่า

(1) ผู้รอดตายจากน้ำ

(2) ผู้ว่ายน้ำเก่งเหมือนปลา

(3) ผู้เกิดในน้ำ

(4) ผู้รักษาน้ำ

ตอบ 1 หน้า 362 โมเสสถือกําเนิดจากหญิงชาวยิวที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลนักบวชของศาสนายิวเมื่อคลอดนางเกรงว่าลูกจะถูกฆ่าจึงแอบซ่อนบุตรชายไว้ในตะกร้าสานด้วยหวาย แล้วลอยตะกร้า ไปในแม่น้ำไนล์ ต่อมาพระธิดาของฟาโรห์แห่งอียิปต์พบตะกร้าและได้นําทารกชายนั้นมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและให้ชื่อว่า “โมเสส” ซึ่งแปลว่า ผู้รอดตายจากน้ำ

43 ผู้นําบัญญัติ 10 ประการโองการพระเจ้ามาสู่มนุษย์ คือ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) เทวทูต

ตอบ 2 หน้า 364 365 โมเสสมีบทบาทสําคัญต่อประชาชนชาวยิว คือ

1 ช่วยให้ชาวยิวพ้นจากความเป็นทาสของอียิปต์

2 เป็นผู้รับโองการจากพระเจ้าเรียกว่า “บัญญัติ 10 ประการ” แล้วนํามาประกาศแก่ชาวยิว โดยโมเสสได้สลักลงในแผ่นศิลา 2 แผ่น ให้ชาวยิวถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้วจะพบดินแดนแห่งสัญญา แต่ถ้าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามแล้วพระเจ้าก็จะลงโทษ

44 ในวันแซบบาธ (Sabbath) คือวันพระของศาสนายิว ชาวยิวจะไม่ทําข้อใด

(1) ทําอาหารเลี้ยงสังสรรค์

(2) ไป Shopping

(3) ไปเที่ยวพักผ่อน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 364, 367, (คําบรรยาย) วันแซบบาธ (Sabbath) หรือวันซะบาโต (Sabbatho) คือ วันพระของศาสนายิวคือวันเสาร์ เป็นวันที่พระเจ้าทรงสร้างโลกและจักรวาลเสร็จ และทรงหยุดพักผ่อนในวันที่ 7 โดยวันแซบบาธเป็นวันที่ชาวยิวทั้งหลายจะหยุดทํางาน และหยุดการทํากิจการต่าง ๆ ทุกชนิด (เช่น ทําอาหารเลี้ยงสังสรรค์ ไป Shopping ไปเที่ยวพักผ่อน) แม้แต่การก่อไฟในเตาก็งดเว้น เพื่อบูชาพระเจ้าตามที่ปรากฏในบัญญัติ 10 ประการ

45 เทศกาลยมคัปปูร์ (Yom-Kippur) คือ เทศกาล

(1) ทําบุญ-บริจาคทาน

(2) สะเดาะเคราะห์-ล้างบาป

(3) ถือศีล

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 367 368 เทศกาลยมคัปปูร์ (Yom-Kippur) เป็นเทศกาลที่ชาวยิวทําพิธีสํานึกบาปหรือเรียกว่า 10 วันแห่งการล้างบาป โดยชาวยิวจะปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดทําการอดอาหาร ในตอนกลางวัน ทําจิตใจให้สงบระงับ ไม่ทําบาปใดเลย และในการทําพิธีสํานึกบาปนี้ ชาวยิว จะทําพิธีสะเดาะเคราะห์เป็นว่าได้ยกบาปไปไว้ที่แพะ (ตัวผู้) ให้แพะรับบาปแล้วไล่แพะเข้าป่าพาเอาบาปของชาวยิวไปเสีย

46 อับราฮัมกําหนดให้ชาวยิวไม่กินอาหารต้องห้าม เช่น จะไม่กินส่วนใดของไก่

(1) เลือด

(2) ตีน

(3) เครื่องใน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 370, (คําบรรยาย) ศาสนายูดาห์ มีข้อห้ามในเรื่องการรับประทานอาหาร คืออาหารที่รับประทานได้ประเภทเนื้อสัตว์ต้องเป็นสัตว์ประเภทเคี้ยวอาหาร เคี้ยวเอื้อง ถ้าเป็นปลาต้อง เป็นปลาที่มีครีบและหาง (เช่น ปลาแซลมอน ปลาช่อน) ถ้าเป็นสัตว์ปีก (เช่น ไก่) ต้องฆ่าตาม วิธีที่กําหนดไว้ และเนื้อสัตว์ที่ฆ่าต้องเอาเลือดออกให้หมด นอกจากนี้อับราฮัมยังห้ามชาวยิว ไม่ให้กินตีนไก่ เครื่องในไก่ เนื้อหมู เนื้อหมา ปลาหมึก ปลาไหล และกุ้ง เพราะเป็นสัตว์ที่กิน ของสกปรก

47 เมื่อพระเยซูประสูติเหล่าโหราจารย์และปุโรหิตทํานายว่าได้บังเกิดแล้ว

(1) บุตรพระเจ้า

(2) กษัตริย์แห่งชนชาติผิว

(3) ผู้ไถ่บาปให้ชาวยิว

(4) ผู้นําโลก

ตอบ หน้า 374 ในคืนวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 543 (วันคริสต์มาส) พระนางมาเรียได้คลอดบุตรชายและให้ชื่อว่า “เยซู” ซึ่งขณะที่พระเยซูประสูติในโรงนานั้นมีแสงสว่างโชติช่วงเป็นอัศจรรย์ และโหราจารย์ได้ทํานายว่า “กษัตริย์แห่งชนชาติผิวได้บังเกิดแล้ว”

48 Pope องค์ปัจจุบันชื่อ

(1) John

(2) David

(3) Francis

(4) Franklin

ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) พระสันตะปาปา (Pope) องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส(Francis) เป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 266 มีพระนามเดิมว่า คอร์เค มาเรียว เบร์โกเกลียว ซึ่งนับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาและคณะเยสุอิต

49 ศาสนาศริสต์นิกายใดไม่มีนักบวช

(1) คาทอลิก

(2) ออร์ทอดอกซ์

(3) โปรเตสแตนต์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (คําบรรยาย) ศาสนาที่ไม่มีนักบวช ได้แก่

1 ศาสนาอิสลาม

2 ศาสนาซิกข์

3 ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์

50 ต้นไม้ที่มีความสัมพันธ์กับชื่อประเทศอินเดียนามว่า ชมพูทวีป คือ (1) ต้นก้ามปู (จามจุรี) มีดอกสีชมพู

(2) ต้นหว้ามีผลเนื้อในสีชมพู

(3) ต้นพวงชมพูขึ้นอยู่ทั่วไป

(4) ต้นชมพูมีดอกสีชมพู

ตอบ 2 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศอินเดียแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า “ชมพูทวีป” ซึ่งแปลว่า ประเทศแห่งต้นหว้า หรือภารตวรรษ หรือดินแดนภารตะ ซึ่งคําว่า “ชมพู” นั้นได้มาจากเนื้อในของลูกหว้าที่มีสีชมพู โดยชาวอินเดียมักถูกเรียกว่า “ชาวฮินดูหรือชาวภารตะ” แต่คนไทยมักจะเรียกชาวอินเดียว่า “แขก”

51 ข้อใดไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชมพูทวีป

(1) เนปาล

(2) ศรีลังกา

(3) ปากีสถาน

(4) ทิเบต

ตอบ 4 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศที่แบ่งแยกดินแดนมาจากชมพูทวีปหรือประเทศอินเดียได้แก่ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล เป็นต้น

52 ประเทศอินเดียมีมาก

(1) เผ่าพันธุ์

(2) ภาษา

(3) ความเชื่อ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศอินเดียมีชาวอินเดียที่ประกอบด้วยชนหลายเผ่าพันธุ์หลายความเชื่อ และมีภาษาหลายร้อยภาษา ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีภาษามากที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้จึงทําให้วัฒนธรรมอินเดียมีความหลากหลายมาก และมีวัฒนธรรมแยกย่อยไปตามกลุ่มชน เผ่า ภาษา และความเชื่อต่าง ๆ มากมาย

53 ประเทศใดได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดียมานานและยังคงอยู่ (1) มาเลเซีย

(2) จีน

(3) ไทย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 23, 51, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอินเดียมีอิทธิพลครอบคลุมและเป็นแม่แบบวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า มอญ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย (เกาะบาหลี) มาเลเซีย จีน ทิเบต ญี่ปุ่น เป็นต้น

54 วัฒนธรรมอินเดียมีวรรณะจัณฑาลต่ำสุด ซึ่งถูกจํากัดเรื่องใด

(1) อาชีพ

(2) การแต่งงาน

(3) สถานะทางสังคม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 24 – 25, 267, (คําบรรยาย) คนในวรรณะจัณฑาลในสังคมและวัฒนธรรมอินเดียมีสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ทุกข์ยาก ลําบาก ทํางานหนัก รายได้น้อย โดยวรรณะจัณฑาล ถูกจํากัดโดยศาสนาในหลายเรื่อง เช่น อาชีพการงาน มักเป็นอาชีพที่ต่ำ ลําบาก และคนทั่วไป ไม่อยากจะทํากัน ได้แก่ กวาดถนน เก็บขยะ ล้างส้วม สัปเหร่อ ฯลฯ, การแต่งงาน, สถานะทาง สังคมต่ำสุด และรัฐบาลก็พยายามแยกคนพวกนี้ออกจากสิทธิเสรีภาพอันพึงมีทางกฎหมายไม่ให้ทัดเทียมกับคนวรรณะอื่น ๆ ในสังคม

55 วัฒนธรรมอินเดียเชื่อว่าอาบน้ำล้างบาปที่ท่าน้ำเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สุด (1) พาราณสี

(2) โอริสสา

(3) สาวัตถี

(4) กุสินารา

ตอบ 1 หน้า 26, (คําบรรยาย) ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองพาราณสีเป็นเมืองแห่งพระเจ้า เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ประชาชนจึงนิยมเลื่อมใสไปอาบน้ำล้างบาปที่ท่าอาบน้ำเมืองพาราณสีกันมากมาย ซึ่งชาวฮินดู มีความเชื่ออย่างแนบแน่นว่า การอาบน้ำล้างบาปในแม่น้ำคงคาจะล้างบาปที่ทํามาได้ โดยเฉพาะถ้าอาบในวันสุริยคราส จันทรคราส และศิวาราตรี จะถือเป็นวันที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

56 ในอดีตสตรีอินเดียถูกจํากัดสิทธิ แต่ปัจจุบันสตรีอินเดียดํารงตําแหน่งได้

(1) นายกรัฐมนตรี

(2) หัวหน้าพรรคการเมือง

(3) นางงามโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 28, (คําบรรยาย) ในปัจจุบันสังคมอินเดียได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้นตามลําดับโดยสตรีได้รับการศึกษาและมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมบุรุษหลายประการตามกฎหมาย ทําให้สตรีมีสิทธิได้เป็นผู้นําทางการเมือง ธุรกิจ และสังคมต่าง ๆ ได้ดํารงตําแหน่งสําคัญหลายตําแหน่ง เช่น นางอินทิรา คานรี เป็นสตรีฮินดูที่เคยดํารงตําแหน่งสูงสุดเป็นนายกรัฐมนตรีของอินเดีย,เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เป็นนางงามโลก เป็นต้น

57 ในอดีตเมื่อสามีตายภรรยาหม้ายจะต้อง

(1) โกนศีรษะโล้น

(2) แต่งดําไว้ทุกข์ 1 ปี

(3) ถูกเผาทั้งเป็น

(4) ออกบวช

ตอบ 3 หน้า 30, (คําบรรยาย) ประเพณีโบราณของศาสนาฮินดูในอินเดีย เมื่อสามีตายภรรยาหม้าย รายการที่จะต้องถูกเผาทั้งเป็น โดยต้องกระโดดเข้ากองไฟที่เผาศพสามีตายตามสามีไปด้วย เพื่อแสดงถึงความซื่อสัตย์ภักดีต่อสามี ซึ่งประเพณีนี้ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อสมัยที่ประเทศอังกฤษปกครองอินเดียเพราะผู้ปกครองชาวอังกฤษสั่งให้เลิกเด็ดขาดด้วยเห็นว่าเป็นการโหดร้ายแก่ภรรยามากเกินไป

58 การทําศพด้วยการทิ้งถ่วงน้ำใช้กับศพที่ตาย คือ

(1) ถูกฆ่าตาย

(2) เป็นโรคระบาดตาย

(3) ศพเด็ก

(4) ฆ่าตัวตาย

ตอบ 3 หน้า 31 วัฒนธรรมการทําศพเด็กของชาวฮินดูนั้น พ่อแม่จะไม่นิยมเผา แต่จะนําผ้าขาวมาพัน มานา หรือห่อศพแล้วใส่เรือไปทิ้งกลางแม่น้ำ โดยใช้หินถ่วงศพให้จมลงสู่ก้นแม่น้ำคงคา ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะใช้กับศพที่เป็นเด็กอายุน้อยแล้วยังใช้กับศพที่ยากจนไม่มีเงินพอที่จะซื้อถ่านหรือฟื้น ที่มีราคาแพงมาเผาศพได้

59 วัฒนธรรมฮินดูคนวรรณะพราหมณ์ทําอาชีพใดได้

(1) ขอทาน

(2) อาจารย์

(3) นักการเมือง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 24 – 25, 267, (คําบรรยาย) คนในวรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ แพทย์ และศูทร ไม่มีข้อห้ามในการประกอบอาชีพ โดยสามารถทําอาชีพต่าง ๆ ได้หากต้องการที่จะทํา เช่น ขอทาน อาจารย์ นักการเมือง กระเป๋ารถเมล์ คนเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น แต่คนในวรรณะจัณฑาลซึ่งเป็น พวกที่เกิดจากการแต่งงานกันของคนวรรณะสูงกับคนวรรณะต่ำ จะเป็นพวกที่ถูกจํากัดเรื่องอาชีพการงาน (ดูคําอธิบายข้อ 54 ประกอบ)

60 วัฒนธรรมอินเดียเป็นเลิศเรื่องการทอผ้า แคว้นที่มีชื่อเรื่องทอผ้ามานาน คือ

(1) แคว้นกาสี

(2) แคว้นแคชเมียร์

(3) แคว้นปัญจาบ

(4) แคว้นโอริสสา

ตอบ 1 หน้า 32 ชาวอินเดียรู้จักทอผ้าเลี้ยงไหม ทําผ้าแพร ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน และผ้าอื่น ๆ อีกมากโดยผ้าที่มีชื่อเสียงได้รับยกย่องว่าสวยงามราวกับมิใช้ฝีมือมนุษย์ และเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมาก ส่งออกไปขายยังต่างประเทศจนขึ้นชื่อในโลก คือ ผ้าแห่งแคว้นกาสี ซึ่งในปัจจุบันอินเดียก็ยังได้รับการยกย่องว่าผลิตผ้าได้มากและมีคุณภาพติดอันดับต้น ๆ ของโลก

61 วัฒนธรรมเรื่องอาหารของชาวอินเดีย ได้แก่

(1) เคี้ยวหมากพลู

(2) ดื่มนมวัวประจํา

(3) คนจํานวนมากยังใช้มือกินอาหาร

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 33 – 35 วัฒนธรรมเรื่องอาหารของชาวอินเดีย ได้แก่

1 มีอาหารว่างที่มีชื่อเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในโลก คือ การเคี้ยวหมากพลู

2 นิยมดื่มนมวัวเป็นประจํา และมีศิลปะในการนํานมมาดัดแปลงเปลี่ยนรูป เช่น เนยแข็ง – เนยข้น นมเปรี้ยว ฯลฯ

3 คนจํานวนมากยังใช้มือกินอาหาร

4 รับประทานอาหารพร้อมกันทั้งครอบครัว และเมื่อรับประทานเสร็จก็ล้างมือ แล้วมักจะเคี้ยวหมากล้างปาก เป็นต้น

62 สตรีฮินดูจะประดับร่างกายด้วยเครื่องประดับตรงอวัยวะใดบ้าง

(1) จมูก

(2) นิ้วเท้า

(3) สะดือ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 35, (คําบรรยาย) ในเวลาเทศกาลรื่นเริง ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ชาวอินเดียจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงาม มีสีฉูดฉาดเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะสตรีอินเดียมีเครื่องประดับตกแต่งมากมายกว่าสตรีชาติใดในโลก กล่าวคือ มีเครื่องประดับตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เจาะสะดือใส่แหวนนิ้วเท้า แม้กระทั่งจมูกก็นิยมใส่เครื่องประดับ แต่ทั้งนี้จะไม่เจาะมุมริมฝีปาก

63 “คัมภีร์พระเวท” มีความหมายว่า “คัมภีร์แห่ง ”

(1) ความรัก

(2) ความรู้

(3) ความสําเร็จ

(4) ความสงบจิต

ตอบ 2 หน้า 260, 266 คัมภีร์ของศาสนาฮินดู คือ “คัมภีร์พระเวท” ซึ่งมีความหมายว่า “คัมภีร์แห่งความรู้” มีเนื้อหาสาระสําคัญเกี่ยวกับวิถีแห่งการดํารงชีวิตของชาวฮินดูตั้งแต่เกิดจนตาย และการจัดระเบียบสังคมและชนชั้นต่าง ๆ ในสังคม ตลอดจนหน้าที่ของแต่ละชนชั้นนั้น ๆ อันเป็นจุดกําเนิดของความเชื่อทางศาสนาในเรื่องระบบชนชั้นวรรณะ ซึ่งมีปรากฏเป็นคําสอนและให้ ถือปฏิบัติสืบต่อมาหลายพันปี โดยเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

64 เทพองค์ใดไม่ได้อยู่ใน “โอม”

(1) พระพิฆเนศ

(2) พระศิวะ

(3) พระพรหม

(4) พระนารายณ์

ตอบ 1 หน้า 265, 273, (คําบรรยาย) “โอม” เกิดจากการเรียกพระนามของเทพเจ้าสูงสุดของ ศาสนาฮินดู 3 องค์ ซึ่งรวมเรียกว่า “ตรีมูรติ” ได้แก่

1 พระพรหม ผู้สร้างทุกสิ่งในจักรวาล

2 พระนารายณ์ (พระวิษณุ) ผู้รักษาทุกสิ่งในจักรวาล

3 พระศิวะ (พระอิศวร) ผู้ทําลายทุกสิ่งในจักรวาล

65 “บทเพลงอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงขับแล้ว” หมายถึงคัมภีร์

(1) พระเวท

(2) อุปนิษัท

(3) ภควัทคีตา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 271, (คําบรรยาย) “ภควัทคีตา” แปลตามตัวได้ว่า “บทเพลงอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงขับแล้ว” ซึ่งสาเหตุที่มีชื่อเช่นนี้ก็เพราะว่าเนื้อหาสารัตถะของคัมภีร์นี้เป็นคําพูดของ พระกฤษณะ และเมื่อพระกฤษณะเป็นอวตารปางหนึ่งของพระวิษณุบรมเทพ (พระนารายณ์) คัมภีร์นี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นคัมภีร์ที่บรรจุคําสอนที่บรมเทพเป็นผู้ประทาน เป็นเทววจนะและย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของมันเอง

66 ข้อใดไม่ได้อยู่ในนารายณ์ 10 ปาง

(1) เต่า

(2) หมูป่า

(3) งู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 278 – 280, (คําบรรยาย) ชาวฮินดูผู้นับถือนิกายไวษณวะ มีความเชื่อว่า พระนารายณ์(พระวิษณุ) ลงมาจุติยังโลก เพื่อปราบอธรรมและช่วยเหลือมนุษย์ 10 ครั้ง เรียกว่า พระนารายณ์อวตาร 10 ปาง ได้แก่

1 ปางมัตสยา (ปลา)

2 ปางกูรมะ (เต่า)

3 ปางวราหะ (หมูป่า)

4 ปางนรสิงห์ (ครึ่งคนครึ่งสิงโต)

5 ปางวามนะ (คนค่อม) 6. ปางภาราสูราม (พราหมณ์)

7 ปางทศราชาราม (พระราม)

8 ปางกฤษณะ (พระกฤษณะ)

9 ปางพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า/เจ้าชายสิทธัตถะ)

10 ปางกัลกี (พระกัล/พระศรีอริยเมตไตรย)

67 ประเทศอินเดียให้วัน…เป็นวันหยุดราชการ

(1) เจ้าแม่กาลี

(2) เจ้าแม่อุมาเทวี

(3) เจ้าแม่ทุรคา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (คําบรรยาย) เจ้าแม่ทุรคา เป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวี ซึ่งเป็นที่นับถือของคนอินเดียมากจนให้วันบูชาเจ้าแม่ทุรคาเป็นวันหยุดราชการเพื่อทําพิธีเฉลิมฉลองให้เจ้าแม่ทุรคา เรียกว่า เทศกาลนวราตรีคุเซราห์ ส่วนในประเทศไทยงานฉลองนี้จะมีขึ้นประจําทุกปีที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี(วัดแขกสีลม) โดยมีการแห่ไปตามท้องถนนในเวลากลางคืนด้วยดอกดาวเรืองและสิ่งบูชาต่าง ๆ

68 มหายัญไม่บูชายัญสัตว์ใด

(1) ช้าง

(2) ม้า

(3) ควาย

(4) โค

ตอบ 3 หน้า 283 “มหายัญ” คือ การบูชายัญเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู โดยมีการบูชายัญด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ

1 อัศวเมธะ คือ การฆ่าม้าบูชายัญ

2 โคเมธะ คือ การฆ่าโคบูชายัญ

3 ราชสูยะ คือ การฆ่าช้างบูชายัญ

4 นรเมธะ คือ การฆ่าคนบูชายัญ

69 ข้อใดไม่ได้อยู่ในนิกายศักติ

(1) พระพาย

(2) พระเพลิง

(3) พระอินทร์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 281 นิกายศักติ คือ นิกายที่นับถือเทพี (เทพเจ้าที่เป็นหญิง) ซึ่งมีลักษณะ 2 แบบ คือ

1 เป็นเทพมารดา (ภาคฝ่ายดี) ให้ความรัก เมตตา อบอุ่น ฯลฯ เช่น พระสุรัสวดี(เทพีแห่งความงาม ความเจริญ ศิลปะและปัญญา), พระลักษมี (เทพีแห่งความสุขในชีวิตสมรส ความเจริญร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์พูนสุข และความงาม), พระอุมาเทวี (เทพีแห่งมารดาแห่งการให้ การช่วยเหลือ) รวมทั้งพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ฯลฯ

2 เป็นเทพแห่งการลงโทษผู้ที่ทําชั่ว (ภาคฝ่ายร้าย) ได้แก่ พระแม่ทุรคา และพระแม่กาลี

70 พุทธศาสนาเป็นศาสนา

(1) อเทวนิยม

(2) ไม่นับถือเทพเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด

(3) ไม่ปฏิเสธความมีอยู่ของผี-เทวดา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 290, 294, 310 – 313 ศาสนาพุทธเป็นศาสนาอเทวนิยม มีลักษณะสําคัญ ดังนี้

1 ไม่นับถือบูชาผีสางเทวดา หรือเทพเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด (แต่ก็มิได้ปฏิเสธความมีอยู่ของผีสาง-เทวดาหรือเทพเจ้า เพียงแต่สอนว่าไม่ใช่ทางนําไปสู่การหลุดพ้น)

2 เชื่อเรื่องกรรมลิขิต โดยพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธเรื่อง “พรหมลิขิต” ของศาสนาฮินดู

3 เชื่อว่ามนุษย์จะเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏตลอดไปจนกว่าจะหลุดพ้นกิเลสและอวิชชาโดยการเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนี้ ชาวพุทธจึงเชื่อเรื่องอดีตชาติและชาติหน้า เป็นต้น

71 ข้อใดไม่ใช่เทวทูต 4

(1) ทารก

(2) คนแก่

(3) คนตาย

(4) นักบวช

ตอบ 1 หน้า 292 293 เจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อพระชนมายุได้ 29 ชันษา พระองค์ทรงพบเห็น“เทวทูตทั้ง 4” คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช ซึ่งทําให้เจ้าชายทรงเห็นสัจธรรม แห่งชีวิตของมนุษย์ว่าไม่พ้นความแก่ ความเจ็บ และความตายไปได้ และหนทางที่จะค้นพบวิธี พ้นทุกข์ตลอดกาลนั้น ก็คือ การสละชีวิตทางโลก ออกบําเพ็ญพรตเป็นนักบวชเพื่อค้นหาวิธี พ้นทุกข์นั้น โดยในคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงบรรลุพระสัมมา สัมโพธิญาณ ตรัสรู้สําเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 35 ปี รวมเวลาบําเพ็ญเพียรปฏิบัติค้นหาทางพ้นทุกข์ 6 ปี

72 เจ้าชายสิทธัตถะทรงบําเพ็ญเพียร…ปี จึงสําเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

(1) 5

(2) 6

(3) 7

(4) 9

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 71 ประกอบ

73 ข้อใดไม่เกี่ยวกับ “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร”

(1) ปฐมเทศนา

(2) ปัญจวัคคีย์

(3) มาฆบูชา

(4) อาสาฬหบูชา

ตอบ 3 หน้า 293 294 พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาสําคัญแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ซึ่งเรียกชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” อันได้แก่ อริยสัจ 4 ประการ โดยทรงแสดงปฐมเทศนานี้ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี หลังจบพระธรรมเทศนาแล้วท่านโกณฑัญญะก็ได้ ดวงตาเห็นธรรมเป็นคนแรก และขอบวชเป็นพระสงฆ์สาวกเป็นท่านแรกในพระพุทธศาสนา ทําให้เกิดพระรัตนตรัยครบทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นวันสําคัญทางพุทธศาสนา เรียกว่า วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8

74 พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ…

(1) กรรมลิขิต

(2) พรหมลิขิต

(3) อดีตชาติ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 70 ประกอบ

75 พระธรรมเจ็ดคัมภีร์ไม่เกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) พระอภิธรรม

(2) สร้างถวายวัดแทนคุณมารดา

(3) เทศน์โปรดพญามาร

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 298 ชาวพุทธเชื่อว่าพระอภิธรรมเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสในเวลาขึ้นไปเทศน์โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นชาวพุทธจึงถือกันเป็นประเพณีมาจนกระทั่งบัดนี้ ด้วยการสร้างหนังสือเทศนาย่อว่าด้วยพระอภิธรรมถวายวัดเพื่อแทนคุณมารดา ซึ่งเรียกกันว่า“พระธรรมเจ็ดคัมภีร์”

76 ธรรมยุตินิกาย มีนับถือในชนชาติมาก

(1) ทิเบต

(2) มอญ

(3) ศรีลังกา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 304, 306 นิกายหินยานหรือเถรวาท มีแตกออกเป็น 2 นิกายสําคัญ ได้แก่

1 ธรรมยุตินิกาย มีนับถือในชนชาติมอญมาก และแพร่หลายเข้ามาสู่เมืองไทยโดยพระเถระฝ่ายมอญที่อพยพมาอยู่เมืองไทยเพราะถูกพม่ารุกรานบ้านเมือง

2 นิกายลังกาวงศ์ มีนับถือในประเทศศรีลังกา และแพร่หลายเข้ามาสู่เมืองไทยในสมัยอาณาจักรสุโขทัย และมีอิทธิพลต่อพุทธศาสนาในประเทศไทยมาโดยตลอด

77 พระโพธิธรรมา (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ) เป็นผู้คิดวิทยายุทธ คือ

(1) หมัดเมา

(2) ไท้เก็ก

(3) กังฟู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 308 พระโพธิธรรมา (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ) ได้นําวิธีการฝึกสมาธิจิตไปดัดแปลงเป็นการฝึกวิทยายุทธกําลังภายในของจีน ซึ่งเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า เรียกว่า “กังฟู” โดยเชื่อว่า การฝึกกังฟูจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงสมบูรณ์ มีพละกําลังเข้มแข็งเกินกว่าธรรมดา

และด้วยเหตุนี้เองที่ทําให้พระมหายานในจีนนิยมฝึกวิทยายุทธกําลังภายในสืบต่อมา

78 พระพุทธเจ้าทรงแสดงผลกรรมไว้ว่าผู้มีรูปร่างขี้เหร่ ผิวพรรณทราม เพราะ

(1) ขี้โกรธ

(2) เคียดแค้น

(3) พยาบาท

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 313 314 พระพุทธเจ้าทรงแสดงผลกรรมไว้ว่า ผู้ที่มีรูปร่างขี้เหร่ มีผิวพรรณทรามเพราะเป็นคนขี้โกรธ เคียดแค้น พยาบาท ส่วนผู้ที่มีความงาม มีผิวพรรณดี เพราะเป็นคนไม่โกรธ ไม่เคียดแค้น ไม่พยาบาท

79 พระสังฆราชองค์ปัจจุบันอยู่ในนิกายใด

(1) มหานิกาย

(2) ธรรมยุตินิกาย

(3) มหายาน

(4) ลังกาวงศ์

ตอบ 2 (คําบรรยาย) พระสังฆราชองค์ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทรงเริ่ม ดํารงตําแหน่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 และทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ สังกัด พุทธศาสนาธรรมยุตินิกาย

80 แนวปฏิบัติของศาสดาและนักบวชของศาสนาเชน คือ

(1) อัตตกิลมถานุโยค

(2) ทรมานตนสุดโต่ง

(3) อหิงสา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 329, 335 แนวปฏิบัติของศาสดาและนักบวชของศาสนาเชน คือ

1 มีแนวปฏิบัติที่เน้นหนักเคร่งครัดแบบอัตตกิลมถานุโยคหรือการปฏิบัติทรมานตนอย่างสุดโต่งเพื่อให้สามารถบรรลุธรรมได้

2 แกนกลางและศูนย์กลางแห่งความเชื่อและคําสั่งสอน คือ “อหิงสา” ซึ่งหมายถึง“การไม่ทําร้าย” แต่หมายถึงความเคารพต่อชีวิตและผู้มีชีวิต เป็นต้น

81 ผู้นับถือศาสนาเชน มีแนวปฏิบัติที่เคร่ง คือ

(1) ไม่ฆ่าสัตว์

(2) ไม่ทําร้ายเบียดเบียนสัตว์

(3) ไม่กินนมสัตว์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 337 จากการที่ผู้นับถือศาสนาเชน (รวมทั้งศาสดาและนักบวช) ต้องรักษาศีลข้อแรก(ไม่ฆ่าและไม่ทําร้ายสิ่งมีชีวิตใด ๆ ด้วยคําพูด ความคิด หรือการกระทํา แม้ในการป้องกันตนเอง) และมีความเชื่อในอหิงสาอย่างแนบแน่นอยู่ในจิตใจนั้น จึงทําให้ชาวเชนสมถะพอเพียงและกลายเป็นนักมังสวิรัติ (ไม่กินเนื้อสัตว์และไม่ดื่มนมจากสัตว์) ตลอดชีวิต และไม่สามารถเป็นคนแล่เนื้อขาย อีกทั้งยังไม่สามารถเป็นกสิกร (ชาวไร่ชาวนา) ชาวประมง ขายผ้าไหม ขายเครื่องหนัง ขายนมสด หรืออาชีพอื่น ๆ ที่มีการทําลายชีวิตได้ ดังนั้นอาชีพที่เลือกทําส่วนใหญ่จึงมักจะเป็น พระ ครูอาจารย์ ศิลปิน พ่อค้า นักธุรกิจ นักบัญชี นายธนาคาร พยาบาล และแพทย์ ฯลฯ

82 ศาสดาศาสนาเชนได้รับยกย่องว่า “มหาวีระ” เพราะปราบได้

(1) ช้างเมามัน

(2) ม้าพยศ

(3) วัวกระทิงดุ

(4) งูจงอาง

ตอบ 1 หน้า 330, (คําบรรยาย) มหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชนมีพระนามเดิมว่าเจ้าชายวรรธมานะหรือวัธมานะ เกิดในวรรณะกษัตริย์ พระนาม “มหาวีระ” แปลว่า มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่กล้าหาญ ซึ่งเหตุที่ได้รับขนานนามว่า พระมหาวีระผู้กล้าหาญมาก เพราะในขณะเมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น พระองค์เคยปราบช้างพลายเมามันที่วิ่งพลัดเข้ามาในอุทยาน โดยสามารถขึ้นขี่ช้างพลายนั้นและบังคับไปสู่โรงช้างได้อย่างเรียบร้อย โดยมิได้แสดงพระอาการเกรงกลัวแต่อย่างใด

83 ชื่อใดหมายถึงศาสดาศาสนาเชน

(1) ตีรถังกร

(2) เดียรถีย์

(3) มหาวีระ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 330 ในคัมภีร์พุทธศาสนากล่าวถึงศาสดาองค์ก่อน ๆ และนักบวชของศาสนาเชนซึ่งชาวเชนเรียกว่า “ตรถังกร” ซึ่งแปลว่า ผู้มีสํานักอยู่ริมฝั่ง เป็นผู้ปราศจากเครื่องนึ่งรัด คือกิเลส เป็นผู้หลุดพ้น และมีวิญญาณอมตะ แต่ชาวพุทธในสมัยพุทธกาลนั้นจะเรียกศาสดา

ของศาสนาเชน (มหาวีระ) ว่า “เดียรถีย์” ซึ่งหมายถึง เจ้าลัทธิ

84 “มานะ” ของศาสนาเชน หมายถึง

(1) ความอดทน

(2) ความพยายาม

(3) ความถือตัว

(4) ความขยัน

ตอบ 3 หน้า 333 กิเลสในศาสนาเชน เรียกว่า กษายะ ซึ่งมีอยู่ 4 อย่าง คือ

1 โลภะ คือ ความโลาหรือความอยากได้

2 โกรธะ คือ ความโกรธ

3 มานะ คือ ความถือตัว

4 มายา คือ ความหลง

85 ศาสนาเชนเชื่อว่า “ความตายที่บริสุทธิ์” ได้แก่

(1) อดอาหารจนตาย

(2) เผาตัวตาย

(3) โดดน้ำตาย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 338, (คําบรรยาย) ศาสนาเชนเชื่อว่า “ความตายที่บริสุทธิ์” ได้แก่ ความตายโดยการทรมานร่างกายด้วยการอดอาหารจนตาย และถือเป็นการบําเพ็ญเพียรเพื่อตัดกิเลสและสะสมบุญ

86 ชายผู้นับถือศาสนาซิกข์ผู้มีแนวปฏิบัติตามกําหนดของศาสนาจะ (1) สวมกําไลเหล็ก

(2) โพกศีรษะ

(3) ไม่ใช้เสื้อผ้าสีแดง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 348 349, (คําบรรยาย) คุรุโควินทสิงห์ เป็นศาสดาของศาสนาซิกข์ที่ให้ศีล 21 ข้อ ซึ่งเป็นศีลประจําชีวิตที่ชายผู้นับถือศาสนาซิกข์ทุกคนถือปฏิบัติ เช่น

1 มี “ก 5 ประการ” ไว้กับตน คือ เกศ (ไว้ผมยาว) กังฆา (หวี) กฉา (กางเกงขาสั้น) กรา (สวมกําไลเหล็ก) และกฤปาน (ดาบ)

2 ห้ามใช้สีแดง เพราะเป็นสีที่หมายถึงความรัก ความเมตตา ซึ่งขัดต่อนิสัยนักรบ

3 ให้ใช้คําว่า “สิงห์” ต่อท้ายตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

4 ให้โพกศีรษะ ห้ามเปลือยศีรษะ นอกจากเวลาอาบน้ำ

5 ห้ามตัดหรือโกนผม หนวด และเครา ฯลฯ

87 ข้อใดไม่ใช่แนวปฏิบัติที่ศาสนาซิกข์กําหนด

(1) เลิกคลุมศีรษะและปิดหน้าของสตรี

(2) สตรีไม่ต้องจ่ายสินสอดให้ชาย

(3) ชายมีภรรยาได้ไม่เกิน 2 คน

(4) เลิกชั้นวรรณะ

ตอบ 3 หน้า 340, 345, 353, (คําบรรยาย) แนวปฏิบัติหรือหลักการดํารงชีวิตของศาสนาซิกข์ ได้แก่

1 เป็นผู้กล้าหาญและผู้เสียสละ

2 ชายมีภรรยาได้แค่คนเดียว

3 สตรีไม่ต้องคลุมศีรษะและปิดหน้าเมื่อออกนอกบ้าน

4 ไม่มีชั้นวรรณะ

5 สามีภรรยามีสิทธิเท่าเทียมกัน

6 สตรีไม่ต้องจ่ายค่าสินสอดสู่ขอชาย ฯลฯ

88 ผู้นับถือศาสนาซิกข์อาศัยอยู่ในแคว้นมากที่สุดในประเทศอินเดีย

(1) แคชเมียร์

(2) โอริสสา

(3) ปัญจาบ

(4) อัสสัม

ตอบ 3 หน้า 341 ในปัจจุบันผู้นับถือศาสนาซิกข์มีอยู่กระจัดกระจายทั่วโลก ในประเทศอินเดียมีผู้นับถือศาสนาซิกข์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคว้นปัญจาบมากที่สุด ทั้งนี้เพราะแคว้นปัญจาบเป็น แหล่งที่เกิดของศาสนา และที่สําคัญก็คืออักษรและภาษาของแคว้นปัญจาบที่เป็นภาษาประจําถิ่น ก็มาจากศาสนาซิกข์ นอกจากนี้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาซิกข์ที่สําคัญส่วนใหญ่สร้างขึ้นในแคว้นปัญจาบแทบทั้งสิ้น

89 คัมภีร์ที่ถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากที่สุดคือคัมภีร์

(1) พระเวท

(2) โทรา

(3) ไบเบิล

(4) อัล-กุรอาน

ตอบ 3 หน้า 382 คัมภีร์ไบเบิลถูกแปลออกเป็นหลายร้อยภาษาและครอบคลุมภาษาหลัก ๆ ที่นิยมใช้กันทั่วโลก ชาวคริสต์เกือบทุกคนจะรู้เรื่องราวและข้อธรรมต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิล และถือว่า เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

90 “หากชนะใจตัวเองได้ก็จะชนะทุกสิ่ง” เป็นคําสอนของ

(1) มหาวีระ

(2) คุรุนานัก

(3) โมเสส

(4) ขงจื้อ

ตอบ 1 หน้า 335, 338 คําสอนของมหาวีระศาสดาของศาสนาเชน ได้แก่

1 ทรงสอนเน้นเรื่องการเอาชนะ อันหมายถึงการเอาชนะใจตนเอง โดยกล่าวว่า “มันเป็นการยากที่จะเอาชนะใจตนเอง แต่เมื่อใดเอาชนะได้แล้วทุกอย่างก็ถูกเอาชนะด้วย”

2 ทรงสอน “ให้ใช้ชีวิตอย่างคนป่วย” โดยกล่าวว่า “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบายเท่ากับความเจ็บป่วย”

3 ทรงสอนว่า “สตรีเพศเป็นเหตุแห่งบาป” และปฏิเสธการปฏิบัติธรรมของสตรี เป็นต้น

 

91 “ให้ใช้ชีวิตอย่างคนป่วย” เป็นคําสอนของ

(1) มหาวีระ

(2) คุรุนานัก

(3) โมเสส

(4) ขงจื้อ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 90 ประกอบ

92 “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เป็นคําสอนของ

(1) มหาวีระ

(2) คุรุนานัก

(3) โมเสส

(4) ขงจื้อ

ตอบ 3 หน้า 376 377 คําสอนของโมเสสศาสดาของศาสนายูดาห์ ได้แก่

1 “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

2 “เจ้าจะไม่ประพฤติผิดประเวณี”

3 “เจ้าจงรักเพื่อนบ้านและเกลียดศัตรูของเจ้า” เป็นต้น

 

93 “บูชาเซ่นไหว้ผีสางเทวดาตามเทศกาลประเพณีได้แต่ให้อยู่ห่าง ๆ” เป็นคําสอนของ

(1) มหาวีระ

(2) คุรุนานัก

(3) โมเสส

(4) ขงจื้อ

ตอบ 4 หน้า 248 249, (คําบรรยาย) คําสอนของขงจื้อศาสดาของศาสนาขงจื้อ ได้แก่

1 สอนให้ประชาชนทําพิธีเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และให้ถือว่าการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษเป็นหน้าที่ของลูกหลานผู้สืบสกุล ต้องทําเป็นประจําทุกปี และทุกเทศกาล

2 สอนให้ชาวจีนทําพิธีบวงสรวงเทพเจ้าตามจารีตประเพณีของชาวจีนในสมัยโบราณแต่สอนว่า “จงเคารพบูชาผีและเทพเจ้า แต่ควรอยู่ให้ห่าง ๆ” (ไม่งมงาย) เป็นต้น

94 ศาสนาที่ถูกตําหนิว่าเป็น “นกมีหู-หนูมีปีก” คือศาสนา

(1) เชน

(2) ซิกข์

(3) ยูดาห์

(4) คริสต์

ตอบ 2 หน้า 341, 344, (คําบรรยาย) คุรุนานัก (ศาสดาองค์ที่ 1 ของศาสนาซิกข์) เดิมนั้นนับถือศาสนาฮินดู แต่ท่านได้หาวิธีที่จะทําให้ชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลาม มีความสมัครสมานสามัคคีเป็นพวกเดียวกัน เลิกรบราฆ่าฟันและเป็นศัตรูกัน โดยได้ก่อตั้ง ศาสนาซิกข์ขึ้นมา ซึ่งท่านนําหลักการของทั้งฮินดูและอิสลามมาประยุกต์ปรับปรุงให้เข้ากัน แล้วเพิ่มหลักธรรมของท่านลงไป ซึ่งทําให้จักรพรรดิโอรังเซป กษัตริย์มุสลิมทรงประณาม ศาสนาซิกข์ว่าเป็นเหมือนค้างคาว หรือพวก “นกมีหู หนูมีปีก” คือ เป็นฮินดูก็ไม่ใช่เป็นอิสลามก็ไม่ใช่

95 “สตรีเป็นเหตุแห่งบาป” เป็นคําสอนของศาสนา

(1) ฮินดู

(2) ซิกข์

(3) เชน

(4) ชินโต

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 90 ประกอบ

96 “แขนคือดาบ” เป็นคํายกย่องชายผู้นับถือศาสนา

(1) ฮินดู

(2) ซิกข์

(3) เชน

(4) ชินโต

ตอบ 2 หน้า 340 341 ศาสนาซิกข์เป็นศาสนาที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาศาสนาทั้งหลายในประเทศอินเดีย เป็นศาสนาที่เกิดจากการถูกบีบบังคับทางการเมืองและถูกคนในศาสนาอื่น บังคับขู่เข็ญ อีกทั้งยังเป็นศาสนาที่ผู้นับถือชายเกือบทุกคนเป็นนักรบในสมัยที่ตั้งศาสนา ตอนแรก ๆ จึงกลายเป็นศาสนาของผู้กล้าหาญ ผู้เสียสละ และเป็นศาสนาของทหารหรือนักรบ โดยทหารซิกข์นับเป็นทหารชั้นหนึ่งของอินเดียจนกระทั่งได้รับสมญาว่า “แขนคือดาบ”

97 “สามีภรรยาเท่าเทียมกัน” เป็นแนวปฏิบัติของศาสนา

(1) พุทธ

(2) ซิกข์

(3) ยูดาห์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 87 ประกอบ

98 “สุวรรณวิหาร” เป็นศาสนสถานที่สําคัญของศาสนา

(1) ฮินดู

(2) ซิกข์

(3) เชน

(4) พุทธ

ตอบ 2 หน้า 346 คุรุอรชุน (ศาสดาองค์ที่ 5 ของศาสนาซิกข์) เป็นผู้สร้าง “สุวรรณวิหาร” หรือ“หริมณเฑียร” ขึ้นกลางสระอมฤต ซึ่งเป็นวิหารหรือวัดที่สวยงามมาก มีประตูสี่ด้าน ไม่มี รูปเคารพใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นสีทองอร่ามไปทั่วทั้งวิหารทั้งภายนอกและภายใน ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และถือเป็นศาสนสถานที่สําคัญที่สุดของศาสนาซิกข์

99 ศาสนาเชนข้อใดไม่เปลือย

(1) ศาสดา

(2) นักบวช

(3) ผู้นับถือ

(4) รูปเคารพ

ตอบ 3 หน้า 340, (คําบรรยาย) ศาสนาเชน มีนิกายที่สําคัญอยู่ 2 นิกายใหญ่ ๆ คือ นิกายเศวตัมพร(นิกายนุ่งขาวห่มขาว) และนิกายทิคัมพร (นิกายนุ่งลมห่มฟ้าหรือนักบวชแบบชีเปลือย) โดยมีรูปเคารพในศาสนาเชนเป็นรูปองค์ศาสดามหาวีระเปลือยกาย เป็นสัญลักษณ์

100 ผู้ประกาศให้มนุษย์นับถือพระเจ้าองค์เดียวคนแรก คือ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) นบีมูฮัมหมัด

ตอบ 1 หน้า 361, 368 369, (คําบรรยาย) อับราฮัม ศาสดาของศาสนายูดาห์เป็นคนแรกที่ประกาศให้ชาวยิวทําดังนี้

1 ให้ชาวยิวทั้งปวงศรัทธานับถือในพระเจ้าองค์เดียว

2 ให้ชายยิวทุกคนต้องทําการขริบปลายอวัยวะเพศ โดยอับราฮัมถือเป็นผู้ที่ขริบปลายอวัยวะเพศคนแรก

3 ให้ชาวยิวถือศีลอด โดยให้ถือศีลอดเป็นเวลา 10 วัน

PHI1001 วัฒนธรรมและศาสนา s/2559

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2559

ข้อสอบกระบวนวิชา PHI 1001 วัฒนธรรมและศาสนา

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1 รัฐบาลประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวัน

(1) วันพ่อแห่งชาติ

(2) วันชาติของไทย

(3) วันหยุดราชการ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) ตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรี ได้กําหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ และเป็นวันสําคัญของชาติ คือ เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ 9 เป็นวันชาติของไทย และเป็นวันพ่อแห่งชาติ

2 พระสังฆราชองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่

(1) 19

(2) 20

(3) 21

(4) 22

ตอบ 2 (คําบรรยาย) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยทรงเริ่มดํารงตําแหน่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 และทรงเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ สังกัดพุทธศาสนาธรรมยุตินิกาย

3 พระสังฆราชองค์ปัจจุบันอยู่ในนิกาย

(1) มหายาน

(2) มหานิกาย

(3) ธรรมยุติ

(4) ลังกาวงศ์

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 2 ประกอบ

4 ช่วงเวลาถวายบังคมพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ที่สนามหลวงมีประชาชนจํานวนมากมีจิตอาสาเก็บคัดแยกขยะ นับเป็นวัฒนธรรม

(1) คติธรรม

(2) สหธรรม

(3) เนติธรรม

(4) วัตถุธรรม

ตอบ 2 หน้า 125, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมสหธรรม เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับสังคมส่วนรวม ครอบครัวสาธารณชนและประเทศชาติ ได้แก่ ขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นท้องถิ่น การแข่งขันกีฬา และจรรยามารยาทหรือกิริยามารยาทต่าง ๆ ในสังคม เช่น การที่ประชาชนจํานวนมาก มีจิตอาสาเก็บคัดแยกขยะในช่วงเวลาถวายบังคมพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ที่สนามหลวง, ประชาชนพร้อมใจกันแต่งชุดดําไว้ทุกข์ถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9, การลุกให้เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์นั่งในรถเมล์

5 การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไปที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) ฯลฯ สภาพของสนามหลวงโดยทั่วไป ข้อใดเป็นวัฒนธรรม

(1) มีนกพิราบมาหาอาหารจํานวนมาก

(2) มีคนจรจัดมานอนกลางคืนจํานวนมาก

(3) มีเสาไฟฟ้าริมทางโดยรอบจํานวนมาก

(4) ถูกทุกข้อ ตอบ 3 หน้า 8 – 10, (คําบรรยาย) วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ที่อยู่รวมกันในรูปขององค์กรทางสังคมสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ดํารงชีวิตอยู่ร่วมกันได้ หรือหมายถึง วิถีชีวิตความ เจริญงอกงาม มรดกเห่งสังคม หรือการกระทําใด ๆ ของมนุษย์ในส่วนรวม ถ่ายทอดกันได้ เอาอย่างกันได้ เช่น การที่ฝูงชนมาช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากภัยธรรมชาติ การนับถอยหลัง หรือเคาท์ดาวน์ (Countdown) การสวดมนต์ข้ามปี การปล่อยโคมลอย การผลิตยารักษาโรค (เช่น ชาวเขากินผนแก้ปวดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ, แพทย์ปัจจุบันใช้มอร์ฟีนระงับอาการปวดของ คนไข้) อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย เสาไฟฟ้าริมทาง ฯลฯ ซึ่งในวัฒนธรรมทุกชนชาตินั้น ย่อมแสดงถึงสัญลักษณ์ ความเจริญ เอกลักษณ์และภูมิปัญญาของคนในชาตินั้น แต่วัฒนธรรม จะไม่รวมถึงสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี (เช่น นักวิทยาศาสตร์ผลิตยาบ้าเรืองแสง ได้, การเล่นหวย) รวมทั้งพฤติกรรมที่เกิดจากสัญชาตญาณหรือพฤติกรรมตามธรรมชาติ (สัตว์และ พืช) หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น นกพิราบ คน อูฐ วัว ควาย ข้าวเปลือก อินทผลัม คลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ เกาะ ทะเลทราย แม่น้ำ ถ้ำ ฯลฯ

6 สนามหลวงเป็นสถานที่จัดงานที่จัดเป็นวัฒนธรรมราษฏร์ ได้แก่

(1) งานพระเมรุถวายพระเพลิง

(2) พิธีแรกนาขวัญ

(3) ทําบุญตักบาตรวันสงกรานต์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 61 – 62, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมราษฎร์หรือวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมพื้นบ้านแต่ละภาค มีดังนี้

1 ภาคเหนือ เช่น การแอ่วสาว การไหว้ผี การผูกข้อมือ การจุดโคมลอย การฟ้อนเล็บ สะล้อ ซอ ซึง เปิงมาง ฯลฯ

2 ภาคกลาง เช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงอีแซว เพลงลูกทุ่ง เพลงรําวง นิทานพื้นบ้าน ลิเก ลําตัด รํากลองยาว การรําถวาย การทําบุญตักบาตรวันสงกรานต์ที่สนามหลวง ฯลฯ

3 ภาคอีสาน เช่น การผิดผี การไหว้ผีปู่ย่า การรําผีฟ้า การไล่ผีปอบ การแห่ผีตาโขน การแห่บั้งไฟ ซึ่ง การตีโปงลาง การเป่าแคน การเซ็ง ฯลฯ

4 ภาคใต้ เช่น ประเพณีเพลงบอก การสวดโอ้เอ้วิหารราย หนังตะลุง ลิเกป่า ลิเกตันหยง รํามโนราห์ ฯลฯ

7 ประชาชนพร้อมใจกันแต่งชุดดําไว้ทุกข์ถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 จัดเป็นวัฒนธรรม

(1) คติธรรม

(2) วัตถุธรรม

(3) สหธรรม

(4) เนติธรรม

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ

8 ประชาชนจํานวนมากตั้งใจ “จะทําความดีตามรอยพระบรมราโชวาทรัชกาลที่ 9” จัดเป็นวัฒนธรรม

(1) คติธรรม

(2) วัตถุธรรม

(3) สหธรรม

(4) เนติธรรม

ตอบ 1 หน้า 99 – 102, 104, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมคติธรรม เป็นวัฒนธรรมทางจิตใจเกี่ยวกับศีลธรรมและจรรยาบรรณ อันเป็นหลักหรือแนวทางดําเนินชีวิตที่ดีที่ควรยึดถือและควรปฏิบัติ ซึ่งพุทธศาสนาได้เข้ามามีอิทธิพลต่อคนไทยมากที่สุด ทั้งในด้านความเชื่อและคตินิยมทางศาสนา เช่น ประชาชนจํานวนมากตั้งใจว่า “จะทําความดีตามรอยพระบรมราโชวาทรัชกาลที่ 9” และ “ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป” ของรัชกาลที่ 9, พุทธสุภาษิต (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนดีผีคุ้ม คนดีตกน้ําไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้), สุภาษิตคติเตือนใจเกี่ยวกับการงาน (หนักเอาเบาสู้ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง), สุภาษิตคติเตือนใจในการคบมิตร (เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก), สุภาษิตคติเตือนใจในการประพฤติ (ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว บวชก่อนเบียด โตไปไม่โกง) และคติธรรมสอนหญิง (รักนวลสงวนตัว)

9 ประชาชนจํานวนมากตั้งจิตว่า “ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป” ของรัชกาลที่ 9 จัดเป็นวัฒนธรรม

(1) คติธรรม

(2) วัตถุธรรม

(3) สหธรรม

(4) เนติธรรม

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ

10 ข้อใดเป็นโครงการในพระราชดําริของรัชกาลที่ 9

(1) แก้มลิง

(2) แกล้งดิน

(3) ชั่งหัวมัน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) โครงการในพระราชดําริของรัชกาลที่ 9 ได้แก่ แก้มลิง แกล้งดิน ชั่งหัวมัน ฝนหลวง ฝายชะลอนํา หญ้าแฝก ฯลฯ

11 รัชกาลที่ 9 ครองราชย์นาน…ปี และมีพระชนมายุชันษา

(1) 70/89

(2) 60/89

(3) 70/90

(4) 60/90

ตอบ 1 (คําบรรยาย) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และนับเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก คือ 70 ปี โดยเสด็จขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่มีพระชนมายุ 89 ชันษา

12 รัชกาลที่ 10 ทรงครองราชย์เมื่อวันที่….. ธันวาคม พ.ศ. 2559

(1) 1

(2) 9

(3) 10

(4) 19

ตอบ 1 (คําบรรยาย) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (วันเฉลิมพระชนมพรรษาตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบันโดยรัฐบาลได้ประกาศให้ “ดอกรวงผึ้ง” เป็นดอกไม้ประจํารัชกาลที่ 10

13 วันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ 10 ตรงกับวันที่……….พ.ศ. 2495

(1) 8 กรกฎาคม

(2) 18 กรกฎาคม

(3) 28 กรกฎาคม

(4) 29 กรกฎาคม

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 12 ประกอบ

14 รัฐบาลประกาศให้เป็นดอกไม้ประจํารัชกาลที่ 10

(1) ดอกรวงผึ้ง

(2) ดอกกรองทอง

(3) ดอกสร้อยทอง

(4) ราชาวดี

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 12 ประกอบ

15 รัชกาลที่ 9 ทรงนิพนธ์เพลงจํานวนมาก ข้อใดไม่ใช่เพลงพระราชนิพนธ์

(1) ชะตาชีวิต

(2) ชะตาฟ้า

(3) แสงเทียน

(4) ใกล้รุ่ง

ตอบ 2 (คําบรรยาย) บทเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 9 ได้แก่ ชะตาชีวิต แสงเทียน ใกล้รุ่ง อาทิตย์อับแสง ยามเย็น ยามค่ำ สายฝน สายลม ลมหนาว ฝัน รัก แผ่นดินของเรา เราสู้ พรปีใหม่ ฯลฯ

16 เอกลักษณ์ไทยที่รู้กันทั่วไป ได้แก่

(1) รักในหลวง

(2) ยิ้มสยาม

(3) มวยไทย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 63 – 64, 67 – 68, (คําบรรยาย) เอกลักษณ์ไทยที่รู้กันทั่วไป ได้แก่ มวยไทย เคารพสถาบัน พระมหากษัตริย์ รักในหลวง สุภาพอ่อนน้อม ยิ้มง่าย (ยิ้มสยาม) ยิ้มสู้-ยิ้มได้เมื่อภัยมา มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจบุญ เมตตากรุณา โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก สนุกสนาน ลืมง่าย มักให้อภัยเสมอ โกรธไม่นาน ซึ่งคนไทยให้อภัยจนชอบพูดติดปากเสมอว่า “ไม่เป็นไร”

17 ภูมิปัญญาไทย ได้แก่

(1) กังหันน้ำชัยพัฒนา

(2) ต้มยํากุ้ง

(3) ใช้พืชย้อมผ้า

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) ภูมิปัญญาไทย คือ การใช้สติปัญญาสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งเป็นแนวความคิดทางสังคม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นชาติ ความเป็นสังคม อันมีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เป็นเครื่องชี้ถึงความเจริญรุ่งเรืองของสังคม และทําให้ได้รู้หรือเข้าใจความเป็นมาของ ชนชาติไทยในอดีตมากขึ้น โดยภูมิปัญญาไทยนั้นจะมีอยู่ในทุกวัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมท้องถิ่น วัฒนธรรมหลวง และเอกลักษณ์ เช่น เรือนไทย วัดไทย ผ้าไทย (การใช้พืชย้อมผ้า ผ้าขาวม้า ผ้าไหม) คําไทย (พ่อ แม่ พี่ น้อง) อาหารไทย (ต้มยํากุ้ง) ยาไทย (ยาหอมแก้ลม) ดนตรีไทย กังหันน้ำชัยพัฒนา รถตุ๊ก ๆ ฯลฯ

18 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมภาคเหนือ

(1) โปงลาง

(2) สะล้อ

(3) กลองยาว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 6 ประกอบ

19 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมภาคอีสาน

(1) โปงลาง

(2) เปิงมาง

(3) กลองยาว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 6 ประกอบ

20 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมภาคกลาง

(1) โปงลาง

(2) เปิงมาง

(3) กลองยาว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 6 ประกอบ

21 ข้อใดเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรม

(1) บะหมี่เกี้ยว

(2) พิซซ่าหน้าปูอัด

(3) แซนวิชปลาทูน่า

(4) ต้มยํากุ้ง

ตอบ 2 หน้า 22, (คําบรรยาย) การผสมผสานทางวัฒนธรรมเป็นวิธีการที่รับเอาวัฒนธรรมของสังคมอื่น มาปฏิบัติจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมที่กระทํากันตามปกติสืบต่อกันมา เช่น เพลงไทยสากล, การใส่สายข้อมือ wristband, ดื่มกาแฟกับซาลาเปา, ดื่มกาแฟกับขนมครก, ดื่มกาแฟกับปาท่องโก, ดื่มชากับขนมเปี๊ยะ, ดื่มชากับขนมเค้ก, ดื่มน้ำเต้าหูกับขนมครก, ดื่มโค้กกับแฮมเบอร์เกอร์, บะหมี่ต้มยํา, สปาเกตตี้ราดซอส, พิซซ่าหน้าปูอัด, สปาเกตตี้ผัดขี้เมา,ส้มตําปูอัด, ส้มตําแครอท ฯลฯ

22 ข้อใดไม่ใช่วัฒนธรรมที่ตายไปแล้ว

(1) มัดเท้าผู้หญิงให้เท้าเล็ก

(2) แม่สื่อหาคู่

(3) ขายทาส

(4) ทํามัมมี่ศพ

ตอบ 2 หน้า 16, 30, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมที่ตายไปแล้ว คือ วัฒนธรรมที่มนุษย์เลิกร้างและไม่มีการสืบสานนานแล้ว ทั้งนี้วัฒนธรรมอาจพบจุดจบหรือกลายเป็นวัฒนธรรมที่ตายไปแล้วได้ เช่น การมัดหรือรัดเท้าของเด็กหญิงชาวจีน การเผาแม่หม้ายทั้งเป็นเมื่อสามีตายของชาวฮินดู ในอินเดีย การทํามัมมีรักษาศพของชาวอียิปต์โบราณ การเปลือยอกของหญิงบาหลี การห้ามผู้หญิงมีตําแหน่งบริหารราชการในอัฟกานิสถาน การห้ามผู้หญิงขับรถในซาอุดิอาระเบีย รวมถึงอาณาจักรโบราณต่าง ๆ ที่ล่มสลายไปแล้ว ฯลฯ (ส่วนวัฒนธรรมการใช้แม่สื่อหาคู่

แต่งงานของชาวจีนนั้น เป็นวัฒนธรรมที่ยังคงมีอยู่)

23 ข้อใดไม่ใช่อารยธรรม

(1) โทรศัพท์มือถือ

(2) รถยนต์

(3) รถตุ๊ก ๆ

(4) เครื่องบิน

ตอบ 3 หน้า 14, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมกับอารยธรรมมีความสัมพันธ์กัน กล่าวคือ วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วขยายตัวขึ้นหรือเจริญแพร่หลายไปเป็นอารยธรรม หรืออารยธรรม เป็นความเจริญงอกงามที่เกิดจากการรวมตัวของวัฒนธรรม ดังนั้นอารยธรรมจึงมีลักษณะของ ความเป็นสากล หรือเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายไปทั่วโลก เป็นที่ยอมรับนําไปใช้จนเป็นสากล เช่น การปกครองระบอบประชาธิปไตย, กีฬาโอลิมปิก, กีตาร์, เปียโน, ไวโอลิน, โทรศัพท์มือถือ, รถยนต์, เครื่องบิน, การประกวดนางงามจักรวาล, การแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลโลก, เครื่องหมาย กาชาดสีแดง, 1 มกราคมเป็นวันปีใหม่, วันวาเลนไทน์, วันแรงงาน, เพลง Happy Birthday,

เสื้อครุยปริญญา, ชุดสูท, การจัดงาน World Expo ฯลฯ

24 พุทธศาสนามีอิทธิพลต่อชาวไทยมากที่สุด ในวัฒนธรรม

(1) คติธรรม

(2) สหธรรม

(3) เนติธรรม

(4) วัตถุธรรม

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ

25 พุทธศาสนามีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวไทย ข้อใดไม่ใช่

(1) กฎแห่งกรรม

(2) การเวียนว่ายตายเกิด

(3) พรหมลิขิต

(4) กรรมลิขิต

ตอบ 3 หน้า 294, 310 – 313, (คําบรรยาย) อิทธิพลของพุทธศาสนาที่มีต่อความเชื่อของชาวไทย คือ

1 เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิด และการไม่จองเวร

2 เชื่อเรื่องกรรมลิขิต โดยปฏิเสธเรื่อง “พรหมลิขิต” ของศาสนาฮินดู

3 เชื่อเรื่องบุญ-บาป โดยปฏิเสธเรื่อง “การล้างบาป” ของศาสนาฮินดู

4 เชื่อว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน โดยปฏิเสธเรื่องการแบ่ง “ชั้นวรรณะ” ของศาสนาฮินดู เป็นต้น

26 ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทย ได้แก่

(1) พิธีกรรม

(2) เทพเจ้า

(3) ประเพณีเทศกาล

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 59, 163, (คําบรรยาย) อิทธิพลวัฒนธรรมอินเดียและความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่มีต่อวัฒนธรรมไทย ได้แก่ ภาษา วรรณกรรม อาหาร ที่อยู่อาศัย ความเชื่อ พิธีกรรม เทพเจ้า ศิลปะ ประเพณีเทศกาลต่าง ๆ เป็นต้น

27 วัฒนธรรมอินเดียมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทย ได้แก่

(1) ภาษา

(2) วรรณกรรม

(3) อาหาร

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ

28 ข้อใดไม่ใช่วัฒนธรรมอินเดียที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทย

(1) พ่อ-แม่

(2) ต้มยํากุ้ง

(3) ผ้าขาวม้า

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ

29 วัฒนธรรมจีนที่ปรากฏในวิถีชีวิตไทย ได้แก่

(1) เทศกาลตรุษจีน

(2) เทศกาลกินเจ

(3) ก๋วยเตี๋ยว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) วัฒนธรรมจีนที่ปรากฏในวิถีชีวิตไทย ได้แก่ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลกินเจ การกินข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว การใช้ตะเกียบ การใช้ถ้วยชามกระเบื้อง เป็นต้น

30 วัฒนธรรมตะวันตกที่ปรากฏในวิถีชีวิตไทย ข้อใดไม่ใช่

(1) กาแฟ

(2) ชาไข่มุก

(3) ขนมปัง

(4) Coke-Pepsi

ตอบ 2 หน้า 21 – 22, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมตะวันตกที่ปรากฏในวิถีชีวิตไทย ได้แก่ เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลปีใหม่ การดื่มเบียร์ การดื่ม Coke-Pepsi การกินขนมปัง การใส่สูท การใช้น้ำหอม การเล่นกีฬา (ฟุตบอล บาสเกตบอล กอล์ฟ) การเล่นดนตรี ฯลฯ

31 ความหมายของประเทศอินเดีย ข้อใดไม่ใช่

(1) ประเทศแห่งต้นโพ

(2) ประเทศแห่งต้นหว้า

(3) ภารตวรรษ

(4) ดินแดนภารตะ

ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศอินเดียแต่เดิมมีชื่อเรียกว่า “ชมพูทวีป” ซึ่งแปลว่า ประเทศแห่งต้นหว้า หรือภารตวรรษ หรือดินแดนภารตะ ซึ่งคําว่า “ชมพู” นั้นได้มาจากเนื้อในของลูกหว้าที่มีสีชมพู โดยชาวอินเดียมักถูกเรียกว่า “ชาวฮินดูหรือชาวภารตะ” แต่คนไทยมักจะเรียกชาวอินเดียว่า “แขก”

32 ข้อใดมิได้เป็นดินแดนเดิมของประเทศอินเดีย

(1) ทิเบต

(2) บังกลาเทศ

(3) เนปาล

(4) ศรีลังกา

ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย) ประเทศที่แบ่งแยกดินแดนมาจากดินแดนเดิมของประเทศอินเดียได้แก่ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล เป็นต้น

33 วัฒนธรรมอินเดียมีความหลากหลายมาก เพราะ

(1) มีชนหลายเผ่าพันธุ์

(2) มีภาษามากหลาย

(3) มีความเชื่อหลากหลาย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 23, (คําบรรยาย) ชาวอินเดียประกอบด้วยชนหลายเผ่าพันธุ์ หลายความเชื่อ และมีภาษาหลายร้อยภาษา อีกทั้งยังนับเป็นประเทศที่มีภาษามากที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้จึงทําให้วัฒนธรรมอินเดียมีความหลากหลายมาก และมีวัฒนธรรมแยกย่อยไปตามกลุ่มชน เผ่า ภาษาและความเชื่อต่าง ๆ มากมาย

34 วัฒนธรรมอินเดียมีอิทธิพลต่อข้อใด

(1) อินโดนีเซีย

(2) บาหลี

(3) มาเลเซีย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 23, 51, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอินเดียมีอิทธิพลครอบคลุมและเป็นแม่แบบวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า มอญ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย (เกาะบาหลี) มาเลเซีย จีน ทิเบต ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยวัฒนธรรมอินเดียนั้นจะเข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมชาติต่าง ๆ โดยผ่านทางศาสนามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ พิธีกรรม การบูชาเทพเจ้า และอื่น ๆ

35 วัฒนธรรมอินเดียแบ่งชนชั้นเป็นวรรณะซึ่งถูกกําหนดโดย

(1) สังคม

(2) ฐานะอาชีพ

(3) ชาติกําเนิด

(4) นักบวช

ตอบ 3 หน้า 24, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอินเดียเชื่อว่าพระพรหมเป็นผู้สร้างมนุษย์ให้เกิดมาต่างกันในชาติกําเนิด โดยพระพรหมเป็นผู้แบ่งชั้นวรรณะของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนต้องยอมรับต่อฐานะ แห่งชาติกําเนิดของตนที่พระพรหมกําหนดให้ โดยปฏิบัติตนดํารงชีวิตไปตามฐานะวรรณะ ของตนในสังคม เช่น คนในวรรณะสูงก็จะแบ่งแยกไม่คบหาสมาคม มั่วสุมกับคนวรรณะต่ำ อาชีพการงานก็ต้องทําจํากัดเฉพาะที่คนวรรณะต่ำควรทํา เป็นต้น

36 วัฒนธรรมอินเดียเชื่อว่าการอาบน้ำในแม่น้ำคงคาจะล้างบาปหมดสิ้นถ้าทําในวันใด

(1) วันเกิดตัวเอง

(2) วันสงกรานต์

(3) วันที่เกิดสุริยคราส

(4) วันเพ็ญลอยกระทง

ตอบ 3 หน้า 26, 284, (คําบรรยาย) ชาวอินเดียมีความเชื่ออย่างแนบแน่นว่า การอาบน้ำในแม่น้ำคงคาจะล้างบาปที่ทํามาได้ โดยเฉพาะถ้าได้อาบในวันสุริยคราส วันจันทรคราส และวันศิวาราตรี (ซึ่งตรงกับวันสําคัญทางพุทธศาสนาคือ วันมาฆบูชา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) โดยเชื่อว่าบาปกรรมต่าง ๆ ที่ทํามาในอดีตจะหมดสิ้นไป จิตและกายจะบริสุทธิ์ เมื่อตายแล้วจะไปสู่สวรรค์

37 มารดาของมหาตมะ คานธี สอนว่าหากมือถูกจัณฑาลให้เอามือนั้นไปเช็ดที่…..จะหมดมลทิน

(1) แม่วัว

(2) คนวรรณะพราหมณ์

(3) คนนอกศาสนา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 26, (คําบรรยาย) ท่านมหาตมะ คานธี ในวัยเด็กมักจะไปถูกต้องตัวเด็กวรรณะจัณฑาลอยู่บ่อย ๆ ขณะไปโรงเรียน มารดาของท่านจึงสอนวิธีชําระล้างมลทินแบบย่อโดยให้ท่านเอามือ ไปเช็ดคนนอกศาสนาหรือคนนับถือศาสนาอื่น ๆ เช่น พวกมุสลิม ฯลฯ ก็จะถือว่าทําให้มลทินหมดไปจากตัวแล้ว

38 อาชีพที่คนจัณฑาลทําไม่ได้ ได้แก่

(1) คนรับใช้

(2) กระเป๋ารถเมล์

(3) คนขับรถเมล์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 24, 267, (คําบรรยาย) อาชีพของคนวรรณะจัณฑาลมักเป็นอาชีพที่ต่ำ ลําบาก และคนทั่วไปไม่อยากจะทํากัน เช่น กวาดถนน เก็บขยะ ล้างส้วม สัปเหร่อ ดูแลป่าช้า เก็บศพ แบกศพ ขุดหลุมศพ ฝังศพ เผาศพ เก็บเถ้ากระดูก ขอทาน ฯลฯ ส่วนคนวรรณะอื่นไม่มีข้อห้ามในการประกอบอาชีพ เช่น คนวรรณะศูทรมีอาชีพเป็นกรรมกร คนรับใช้ ผู้ใช้แรงงาน ลูกจ้าง กระเป๋ารถเมล์ คนขับรถเมล์ คนเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันคนวรรณะแพศย์ วรรณะกษัตริย์ หรือแม้แต่วรรณะพราหมณ์ก็สามารถทําอาชีพที่กล่าวมาข้างต้นได้เช่นกันหากต้องการจะทํา

39 วัฒนธรรมอินเดียลูกสาวจะไม่ได้มรดกจากพ่อแม่หรือได้น้อย เพราะ

(1) พ่อแม่ต้องจ่ายค่าสินสอดและค่าจัดงานแต่งงานให้ลูกสาว

(2) ลูกสาวแต่งงานไปแล้วจึงเป็นคนของสกุลสามี

(3) ลูกสาวไม่ได้สืบสกุลของพ่อแม่ตน

(4) ลูกสาวแต่งงานแล้ว ไม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ตน

ตอบ 1 หน้า 29, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมอินเดียในเรื่องการให้มรดกของตระกูลแก่ลูกสาวนั้น พบว่าลูกสาวจะไม่ได้มรดกจากพ่อแม่ หรือได้น้อยเพียง 1 ใน 4 ของลูกชาย ทั้งนี้เพราะพ่อแม่ต้อง เก็บสมบัติส่วนหนึ่งเพื่อไว้จ่ายค่าสินสอดและค่าจัดงานแต่งงานให้ลูกสาว ซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ถ้าไม่มีถือเป็นเรื่องเสียหายและน่าอายมากในสังคมอินเดีย

40 วัฒนธรรมอินเดีย ผู้ทําหน้าที่เผาศพ ถูกถือว่าเป็น

(1) ผู้ไม่บริสุทธิ์

(2) ผู้รับใช้พระเจ้า

(3) ผู้ได้รับพลังจากพระเพลิง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 31 วัฒนธรรมประเพณีในการทําศพของชาวอินเดียนั้น ส่วนใหญ่นิยมเผาศพและไม่เก็บศพไว้นาน เนื่องจากคนส่วนใหญ่มีความกลัวศพ ดังนั้นผู้ทําหน้าที่เกี่ยวข้องอยู่กับศพจึงถูกถือว่าเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ และจะต้องเก็บตัวจากโลกภายนอก

41 คนวรรณะพราหมณ์ทําอาชีพใดได้

(1) ขอทาน

(2) กวาดถนน

(3) เสิร์ฟอาหาร

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 38 ประกอบ

42 ศาสนาฮินดูเชื่อว่าคนวรรณะพราหมณ์เกิดจาก….ของพระพรหม

(1) ปาก

(2) หัวใจ

(3) แขน

ตอบ 1 หน้า 266 267 ระบบชนชั้นวรรณะของศาสนาฮินดู แบ่งคนออกเป็น 4 วรรณะ คือ

1 วรรณะพราหมณ์ เป็นวรรณะสูงที่เกิดจากปากหรือศีรษะของพระพรหม

2 วรรณะกษัตริย์ เป็นวรรณะสูงที่เกิดจากอกและแขนของพระพรหม

3 วรรณะแพศย์ เป็นวรรณะกลางที่เกิดจากตะโพกและขาของพระพรหม

4 วรรณะศูทร เป็นวรรณะตําที่เกิดจากเท้าของพระพรหม

43 ข้อใดเป็นอวตารของพระนารายณ์

(1) พระราม

2) พระกฤษณะ

(3) เจ้าชายสิทธัตถะ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 278 – 280, (คําบรรยาย) ชาวฮินดูผู้นับถือนิกายไวษณวะ มีความเชื่อว่า พระนารายณ์(พระวิษณุ) ลงมาจุติยังโลก เพื่อปราบอธรรมและช่วยเหลือมนุษย์ 10 ครั้ง เรียกว่า พระนารายณ์อวตาร 10 ปาง ได้แก่

1 ปางมัตสยา (ปลา)

2 ปางกูรมะ (เต่า)

3 ปางวราหะ (หมูป่า)

4 ปางนรสิงห์ (ครึ่งคนครึ่งสิงโต)

5 ปางวามนะ (คนค่อม)

6 ปางภาราสูราม (พราหมณ์)

7 ปางทศราชาราม (พระราม)

8 ปางกฤษณะ (พระกฤษณะ)

9 ปางพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า/เจ้าชายสิทธัตถะ)

10 ปางกัลกี (พระกล/พระศรีอริยเมตไตรย)

44 ข้อใดไม่อยู่ในนิกายศักติ

(1) พระอุมาเทวี

(2) พระลักษมี

(3) พระพิฆเนศ

(4) พระแม่ธรณี

ตอบ 3 หน้า 281 นิกายศักติ คือ นิกายที่นับถือเทพี (เทพเจ้าที่เป็นหญิง) ซึ่งมีลักษณะ 2 แบบ คือ

1 เป็นเทพมารดา (ภาคฝ่ายดี) ให้ความรัก เมตตา อบอุ่น ฯลฯ เช่น พระสุรัสวดี : (เทพีแห่งความงาม ความเจริญ ศิลปะและปัญญา), พระลักษมี (เทพีแห่งความสุขในชีวิตสมรส ความเจริญร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์พูนสุข และความงาม), พระอุมาเทวี (เทพีแห่งมารดาแห่งการให้ การช่วยเหลือ) รวมทั้งพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ฯลฯ

2 เป็นเทพแห่งการลงโทษผู้ที่ทําชั่ว (ภาคฝ่ายร้าย) ได้แก่ พระแม่ทุรคา และพระแม่กาลี

45 ข้อใดเกี่ยวข้องกับพระศิวะ

(1) เจ้าแม่ทุรคา

(2) เจ้าแม่กาลี

(3) อุมาเทวี

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 24, 273 – 275 ชาวอินเดียมีวัฒนธรรมความเชื่อว่าเทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดูมี 3 องค์ รวมเรียกว่า “ตรีมูรติ” ได้แก่

1 พระพรหม ผู้สร้างทุกสิ่งในจักรวาล พระพรหมมี 4 หน้า (4 พักตร์) โดยมีพระสุรัสวดี เป็นพระมเหสี

2 พระวิษณุ (พระนารายณ์) ผู้รักษาทุกสิ่งในจักรวาล พระวิษณุมี 4 มือ (4 กร)โดยมีพระลักษมีเป็นพระมเหสี

3 พระอิศวร (พระศิวะ) ผู้ทําลายทุกสิ่งในจักรวาล พระอิศวรมี 3 ตา (3 เนตร) ซึ่งตาที่สามอยู่ที่หน้าผาก โดยมีพระอุมาเทวี (เจ้าแม่ทุรคา เจ้าแม่กาลี) เป็นพระมเหสี และมีพระโอรส 2 พระองค์ คือ พระพิฆเนศ และพระขันทกุมาร

46 วันศิวาราตรี ตรงกับวันสําคัญของพุทธศาสนา คือ

(1) วิสาขบูชา

(2) มาฆบูชา

(3) อาสาฬหบูชา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 36 ประกอบ

47 นารายณ์ 10 ปาง พระนารายณ์อวตารเป็น

(1) ปลา

(2) เต่า

(3) หมูป่า

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 43 ประกอบ

48 วัฒนธรรมอินเดียมีความเชื่อเกี่ยวกับวัว

(1) วัวและพราหมณ์ถูกสร้างขึ้นในวันเดียวกันโดยพระพรหม

(2) การฆ่าวัวจะบาปเท่ากับฆ่าพราหมณ์

(3) การกินเนื้อวัวเป็นสิ่งชั่วร้ายยิ่งกว่ากินเนื้อมนุษย์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 288 ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าวัวและพราหมณ์ถูกสร้างขึ้นโดยพระพรหมในวันเดียวกันจึงมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน ดังนั้นการฆ่าวัวจึงบาปเท่า ๆ กับการฆ่าพราหมณ์ และการรับประทาน เนื้อวัวนั้นชาวฮินดูถือว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายยิ่งกว่าการรับประทานเนื้อมนุษย์ วัวจึงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวฮินดู และทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากวัวล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

49 พาหนะของพระอินทร์ คือ

(1) ช้าง 3 เศียร

(2) ช้างเผือก

(3) ม้าขาว

(4) หงส์

ตอบ 1 หน้า 288 289, (คําบรรยาย) สัตว์ที่เป็นพาหนะของเทพเจ้าของศาสนาฮินดู ได้แก่ วัว เป็นพาหนะของพระศิวะ, พญาครุฑและพญานาคเป็นพาหนะของพระวิษณุ, หงส์เป็นพาหนะ ของพระพรหม, นกยูงเป็นพาหนะของพระสุรัสวดี, หนูเป็นพาหนะของพระพิฆเนศ, สิงโต เป็นพาหนะของพระแม่ทุรคาและพระแม่กาลี, ควายเป็นพาหนะของพญายม (พญามัจจุราช) และช้างเอราวัณ (ช้าง 3 เศียร) เป็นพาหนะของพระอินทร์ ซึ่งสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู

50 พาหนะของพญายม คือ

(1) ควาย

(2) โค

(3) เสือโคร่ง

(4) เสือดํา

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 49 ประกอบ

51 วัฒนธรรมอินเดียในงานเลี้ยงอาหารจะเสิร์ฟ “หมาก” ตอนใด

(1) เริ่มเสิร์ฟก่อนอาหาร

(2) เสิร์ฟก่อนของหวาน

(3) เสิร์ฟเมื่อเสร็จงานเลี้ยง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 34 – 35 ธรรมเนียมในการรับประทานอาหารในครอบครัวอินเดีย จะรับประทานพร้อมกันทั้งครอบครัว เมื่อรับประทานเสร็จล้างมือแล้วมักจะเคี้ยวหมากล้างปาก ซึ่งในการเลี้ยงอาหาร ต่าง ๆ ของอินเดีย เมื่อมีการนําถาดใส่หมากพลูมาเสิร์ฟ ก็แสดงว่าการรับประทานอาหารหรืองานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว

52 วัฒนธรรมอินเดีย สตรีอินเดียจะประดับร่างกายอย่างไร

(1) ประดับตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

(2) จะประดับร่างกายเฉพาะส่วนบนตั้งแต่เอว

(3) หญิงที่ยังไม่แต่งงานจะไม่ประดับนิ้วด้วยแหวน

(4) หญิงหม้ายจะไม่ใส่สร้อยคอ

ตอบ 1 หน้า 35, (คําบรรยาย) ในเวลาเทศกาลรื่นเริง ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ ชาวอินเดียจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงาม มีสีฉูดฉาดเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะสตรีอินเดียมีเครื่องประดับตกแต่งใส่แหวนนิ้วเท้า แม้กระทั่งจมูกก็นิยมใส่เครื่องประดับ แต่ทั้งนี้จะไม่เจาะมุมริมฝีปาก

53 ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วย 4 เกาะใหญ่ เมืองหลวงตั้งอยู่ที่เกาะ

(1) ฮอนชู

(2) คิวชู

(3) ชิโกกุ

(4) ฮอกไกโด

ตอบ 1 หน้า 48 ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะพื้นที่เป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมายนับพันเกาะ โดยมีเกาะที่ใหญ่ที่สุดและสําคัญที่สุดอยู่ 4 เกาะ คือ เกาะฮอนชู (เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น) เกาะฮอกไกโด เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู โดยประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

54 ประเทศญี่ปุ่นมีภัยธรรมชาติร้ายแรงบ่อย ได้แก่

(1) แผ่นดินไหว

(2) พายุไต้ฝุ่น

(3) ภูเขาไฟระเบิด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 48, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นจะสอดคล้องและปรับตัวไปตามภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศบ่อย ๆ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วม ลมพายุ ไต้ฝุ่น ฯลฯ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวนั้นเกิดขึ้นบ่อยมากจนต้องมีการฝึกสอนวิธีการหลบภัย หรือหนีภัยแผ่นดินไหวแก่เด็กญี่ปุ่นตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น

55 ชาวญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียนให้รู้วิธีหลบภัยธรรมชาติข้อใด

(1) แผ่นดินไหว

(2) พายุไต้ฝุ่น

(3) ภูเขาไฟระเบิด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 54 ประกอบ

56 ชาวญี่ปุ่นมีคตินิยมเป็นเอกลักษณ์ ข้อใดไม่ใช่

(1) ชาตินิยม

(2) ภักดีจักรพรรดิ

(3) รักธรรมชาติ

(4) อนุรักษ์ไม่กินปลาใหญ่

ตอบ 4 หน้า 48, 237, (คําบรรยาย) คตินิยมและลักษณะนิสัยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น ได้แก่ ชาตินิยม ภักดีจักรพรรดิ รักธรรมชาติ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา รักความสะอาด กล้าหาญทรหดอดทน ต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ อย่างจริงจัง

57 ชาวญี่ปุ่นมีนิสัยพฤติกรรมเป็นเอกลักษณ์รับรู้ทั่วไป ได้แก่

(1) มีระเบียบวินัย

(2) ตรงต่อเวลา

(3) รักความสะอาด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ

58 ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจักรพรรดิองค์แรกเป็นหลานของ

(1) สุริยเทพ

(2) สุริยเทพี

(3) จันทรเทพ

(4) จันทรเทพ

ตอบ 2 หน้า 49, 235 ชาวญี่ปุ่นมีตํานานเชื่อว่าจักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่น ก็คือ สมเด็จพระจักรพรรดิยิมมูหรือยิมมูเทนโน ซึ่งเป็นหลานของสุริยเทพอะมะเตระสุ โดยจุติที่เกาะคิวชูพร้อมกับเพชร 1 เม็ด (หรือดวงแก้ว) ดาบ และกระจก เป็นของวิเศษสําคัญประจําตัวติดตัวมาจากสวรรค์ด้วย

59 ศาสนาชินโตเกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) กามิ

(2) โทริ

(3) ศาลเจ้า

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 50, 240 241. (คําบรรยาย) ตามศาสนสถานของศาสนาชินโตนั้น ก่อนจะถึงบริเวณของศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ทางเข้าจะมีการสร้างประตูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ เรียกว่า “โทริ” (TORI) อันถือว่าเป็นประตูวิญญาณ ซึ่งเกิดจากศรัทธาความเชื่อในเรื่องเทพเจ้า ผีสาง เทวดา และ วิญญาณทั้งหลายสิงสถิตอยู่ในธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ แม่น้ําลําธาร วีรบุรุษ บรรพบุรุษ และสัตว์ โดยเรียกวิญญาณเหล่านี้ว่า “กามิ” (KAMI)

60 ลัทธิบูชิโดเกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) ซามูไร

(2) ฮาราคีรี

(3) กามิกาเซ่

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 51, (คําบรรยาย) อิทธิพลของลัทธิบูชิโดที่มีต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่น ได้แก่

1 วิถีทางแห่งนักรบซามูไร คือ “ยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ”

2 พิธีกรรมฆ่าตัวตายที่เรียกว่า “ฮาราคีรี”

3 การสละชีวิตตนเองของนักบินโดยการ ขับเครื่องบินพุ่งชนฝ่ายตรงข้ามให้ระเบิดไปพร้อมกันที่เรียกว่า “กามิกาเซ่”

4 ซามูไรไร้สังกัดหรือโรนิน ได้พัฒนาการมาเป็น “ยากูซ่า” ในปัจจุบัน เป็นต้น

61 งานศิลปะของญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องทั่วโลก ได้แก่

(1) ดาบซามูไร

(2) สวนญี่ปุ่น

(3) จัดดอกไม้

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 53 – 55, (คําบรรยาย) ศิลปะของญี่ปุ่นที่ได้รับยกย่องและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ได้แก่ การแกะสลักไม้ การทําหุ่นยนต์ (Robot) การทําดาบซามูไร การจัดสวนญี่ปุ่น การจัดดอกไม้ การชงน้ำชา การแสดงละครสวมหน้ากาก “โน” ฯลฯ

62 วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ข้อใดไม่ใช่

(1) กินปลาดิบ

(2) กินเนื้อดิบ

(3) กินเลือดดิบ

(4) กินไข่ดิบ

ตอบ 3 หน้า 55, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมในการบริโภคนั้น ชาวญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการดํารงชีวิตแบบเรียบง่าย กินอาหารตามสภาพธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อย นิยมกินผักดิบ เนื้อดิบ ปลาดิบ ไข่ดิบ กินข้าวปั้นก้อน ๆ ใช้จานไม้และไม้ไผ่ และบริโภคอาหารด้วยมือ

63 ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นดินแดน 3 คําสอน (ศาสนา) ข้อใดไม่ใช่ 3 ศาสนานั้น

(1) ขงจื้อ

(2) เล่าจื้อ

(3) ชินโต

(4) พุทธศาสนา

ตอบ 2 หน้า 233 ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่ง 3 คําสอน หรือ 3 ลัทธิศาสนา คือ ขงจื้อ พุทธ และชินโต โดยญี่ปุ่นได้รับศาสนาขงจื้อมาจากจีน และรับพุทธศาสนามาจากอินเดีย โดยผ่านมาทางจีน ส่วนศาสนาชินโตนั้นเป็นศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของชนชาติญี่ปุ่น

64 ศาสนาชินโตถือว่าเป็นเทพเจ้าในศาสนาชินโต

(1) พระพุทธเจ้า

(2) พระอรหันต์

(3) พระโพธิสัตว์

(4) เซียน

ตอบ 3 หน้า 52 วัฒนธรรมอินเดียเข้ามามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยทางอ้อม โดยผ่านทางพุทธศาสนามหายานที่จีนและเกาหลีเผยแผ่มาสู่ชาวญี่ปุ่น ด้วยเหตุที่พุทธศาสนามีลักษณะไม่บังคับ และยังปรับตัวให้เข้ากับลัทธิความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น พระในพุทธศาสนาก็ไปร่วมพิธีทางลัทธิชินโต จนต่อมาชาวญี่ปุ่นจํานวนมากนับถือว่าพระโพธิสัตว์เป็นเทพเจ้าในศาสนาชินโต

65 ชาวญี่ปุ่นถือหลักว่า “บาปทุกอย่างอาจให้อภัยได้หากสํานึกผิด ยกเว้น”

(1) ขี้ขโมย

(2) ขี้โกหก

(3) ขี้เหนียว

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 239 240 ตามหลักจริยธรรมของศาสนาชินโตนั้น ชาวญี่ปุ่นยกย่องความกล้าหาญในทุกรูปแบบ แต่ติเตียนว่าความขลาดเป็นบาป ดังคํากล่าวที่ว่า “บาปทุกอย่างทั้งใหญ่และเล็ก อาจจะได้รับอภัยด้วยการสํานึกผิด ยกเว้นความขลาดและการลักขโมย” อีกทั้งยังเคร่งครัด ในเรื่องความสะอาด โดยสอนว่าการเป็นคนไม่สะอาดนั้นเป็นบาป เพราะความไม่สะอาด เป็นความผิดต่อเทพเจ้า

66 ศาสนาชินโตสอนว่าเป็นบาป

(1) ไม่สะอาด

(2) ไม่ตรงต่อเวลา

(3) ไม่สุภาพอ่อนน้อม

(4) ไม่ขยัน

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 65 ประกอบ

67 ชาวจีนสมัยก่อนมีคตินิยมเรื่องการมีลูก ข้อใดไม่ใช่

(1) มีลูกมากจะยากจน

(2) มีลูกชายไว้สืบสกุล

(3) มีลูกเพื่อช่วยทํามาหากิน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 37, (คําบรรยาย) ประเทศจีนตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย เป็นประเทศที่มีพื้นที่ทั้งหมดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและแคนาดา) และมีประชากรมากที่สุดในโลก ทั้งนี้เพราะชาวจีนสมัยก่อนมีคตินิยมในการมีลูกหลานมาก ๆ เพื่อมีลูกชายไว้สืบสกุล และช่วยทํามาหากิน

68 ชนชาติใดที่สามารถยกทัพมาตีรวมอาณาจักรจีนและปกครองอาณาจักรจีนได้นานที่สุด

(1) มองโกล

(2) เติร์ก

(3) แมนจู

(4) ทิเบต

ตอบ 3 หน้า 37, (คําบรรยาย) ชนชาติมองโกลได้พยายามรวบรวมดินแดนและชนเผ่าต่าง ๆ ของชนชาติจีนไว้เป็นอาณาจักรเดียว แต่ยังยึดครองได้ไม่หมด ต่อมาชนชาติแมนจูเรืองอํานาจก็ได้ยกทัพมาตีและรวบรวมอาณาจักรจีนเป็นอาณาจักรเดียวในพื้นแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ จวบจน เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าแมนจูเป็นชนชาติ ที่เคยปกครองอาณาจักรจีนยาวนานที่สุด อีกทั้งยังรับวัฒนธรรมจีนมากกว่าที่ชาวจีนได้รับวัฒนธรรมแมนจูอีกด้วย

69 ภูมิปัญญาจีนที่รู้จักและยกย่องไปทั่วโลก ข้อใดไม่ใช่

(1) เครื่องเคลือบถ้วยชาม

(2) เครื่องยาจีน

(3) เครื่องเทศ

(4) เครื่องมือฝังเข็ม

ตอบ 3 หน้า 37 – 38, 46 เอกลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวจีนที่แพร่หลายเป็นที่รู้จักและยกย่องไปทั่วโลก ได้แก่ อักษรจีน การเลี้ยงไหมและการใช้ฝ่ายทอผ้า การทําเครื่องเคลือบถ้วยชาม การรักษาโรคด้วยสมุนไพร (เครื่องยาจีน) และเครื่องมือฝังเข็ม การใช้ตะเกียบ การกินน้ำร้อน(ดื่มน้ำชา) การใช้เกี้ยะ เป็นต้น

70 เอกลักษณ์จีน ได้แก่

(1) ใช้ตะเกียบ

(2) อักษร

(3) ดื่มน้ำชา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 69 ประกอบ

71 วัฒนธรรมจีนมีเชิดสิงโตในเทศกาล เพราะเชื่อว่า สิงโตเป็นสัตว์กายสิทธิ์นํา……มาให้

(1) สุขภาพแข็งแรง-อายุยืน

(2) อุดมสมบูรณ์

(3) ชัยชนะ

(4) สิ่งที่ปรารถนา

ตอบ 2 หน้า 40 – 41 ชาวจีนมีความเชื่อว่า สิงโตเป็นสัตว์กายสิทธิ์ที่มาจากสวรรค์ และนําความสุขสงบมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์มาสู่บ้านเมือง จนถือเป็นประเพณีการเชิดสิงโตในงานฉลองรื่นเริงมงคลต่าง ๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน สารทจีน งานวันเกิด งานเปิดร้านค้ากิจการใหม่ เป็นต้น

72 ชาวจีนเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เทพเจ้าทั้งหลายด้วย “ส้มสีทอง” เพราะเชื่อว่าจะนํา…..มาให้

(1) โชคลาภ

(2) ชื่อเสียง

(3) ตําแหน่งอันมีเกียรติ

(4) มีลูกหลานมาก

ตอบ 1 หน้า 45 – 46, (คําบรรยาย) ผลไม้ ดอกไม้ และขนมที่ชาวจีนมักนิยมนํามาเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นมงคลและมีความหมายดี เช่น

1 ผลท้อ เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน และขจัดภูตผีปีศาจได้

2 ผลทับทิม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงาม มีบุตรหลานบริวารมาก และช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ดังนั้นชาวจีนจึงนิยมนําต้นทับทิมมาปลูกไว้หน้าบ้านเสมอ

3 ผลพลับ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมีอายุยืน มีความสุขสงบถาวร

4 ผลส้ม ส้มสีทอง) เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทําให้มีโชคลาภ

5 ดอกเก๊กฮวย เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน อายุยืน สดชื่นในชีวิต

6 ขนมเข่ง เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองมากขึ้นทุกปี

73 ข้อใดไม่ตรงกับความหมาย “หยิน-หยาง”

(1) ดิน-ฟ้า

(2) มีด-สว่าง

(3) ชาย-หญิง

(4) อ่อน-แข็ง

ตอบ 3 หน้า 241, (คําบรรยาย) ในสมัยโบราณชาวจีนมีความเชื่ออันเป็นความภาคภูมิของประเทศคือเชื่อว่า ประเทศจีนอยู่ใจกลางของโลก จึงทําให้เกิดความเชื่อว่าโลกมีวิญญาณสถิตอยู่ มีเพศเป็นหญิง เรียกว่า “หยิน” ซึ่งเป็นวิญญาณแห่งดิน ความมืด กลางคืน ดวงจันทร์ ฯลฯ และเนื่องจากการที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลก ชาวจีนจึงยกย่อง “หยิน” ว่ามีอํานาจเหนือกว่า “หยาง” ซึ่งเป็นเพศชายอันเป็นวิญญาณแห่งฟ้า ความสว่าง กลางวัน ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ดังนั้นจึงกล่าว ได้ว่า “หยิน-หยาง” หมายถึง หญิง-ชาย, ดิน-ฟ้า, ความมืด-ความสว่าง, กลางคืน-กลางวัน,ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์, อ่อน-แข็ง, ดํา-ขาว ฯลฯ

  1. “…” สอนว่าเคารพบูชาเซ่นไหว้ผี-เทวดาได้ แต่ให้อยู่ห่าง ๆ (ไม่งมงาย)

(1) ขงจื้อ

(2) เล่าจื้อ

(3) เม่งจื้อ

(4) จวงจื้อ

ตอบ 1 หน้า 248 249, (คําบรรยาย) ปรัชญาและหลักคําสอนที่สําคัญของขงจื้อ ได้แก่

1 สอนให้ประชาชนทําพิธีเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และให้ถือว่าการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษเป็นหน้าที่ของลูกหลานผู้สืบสกุล ต้องทําเป็นประจําทุกปี และทุกเทศกาล

2 สอนให้ชาวจีนทําพิธีบวงสรวงเทพเจ้าตามจารีตประเพณีของชาวจีนในสมัยโบราณแต่สอนว่า “จงเคารพบูชาผีและเทพเจ้า แต่ควรอยู่ให้ห่าง ๆ” (ไม่งมงาย)

3 สอนหลักการปกครอง โดยมีความเห็นว่า การปกครองโดยนิติธรรมเนียม ควรนํามาใช้มากกว่าการปกครองแบบอํานาจและอาชญา เป็นต้น

75 ประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบันชื่อ

(1) หลี ซื่อหมิง

(2) เติ้ง เสี่ยวผิง

(3) สี จิ้นผิง

(4) สี จิ้นหมิง

ตอบ 3 (คําบรรยาย) ประธานาธิบดีของจีนคนปัจจุบัน คือ นายสี จิ้นผิง ซึ่งปัจจุบันเขายังดํารงตําแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน, ประธานคณะกรรมาธิการกลางการทหาร, อธิการบดีโรงเรียนพรรคกลาง และดํารงตําแหน่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดของสํานักงานเลขาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน

76 ผู้นับถือศาสนาซิกข์คนแรกคือ….ของศาสดาซิกข์

(1) มารดา

(2) พี่สาว

(3) น้องสาว

(4) ลูกสาว

ตอบ 2 หน้า 342 คุรุนานัก ผู้ก่อตั้งศาสนาซิกข์ (ศาสดาองค์ที่ 1 ของศาสนาซิกข์) มีพี่สาวคนหนึ่งชื่อ นานกี (แปลว่า หลานตา) ซึ่งรักท่านครูนานักมากจึงได้เอาชื่อของตนไปตั้งชื่อให้แก่น้องชายว่า “นานัก” และคงเป็นเพราะว่ารักน้องชายมากนี้เอง ต่อมานางนานกีจึงได้สมัครเป็นชาวซิกข์ คนแรกด้วย

77 ศาสนาซิกข์นําข้อดีของศาสนาอิสลามและฮินดูมาบูรณาการเป็นหลักดํารงชีวิต คือ

(1) ไม่มีชั้นวรรณะ

(2) หญิงไม่ต้องคลุมหน้า

(3) หญิงไม่ต้องจ่ายสินสอด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 340, 345, 353, (คําบรรยาย) หลักการดํารงชีวิตของชาวซิกข์ ได้แก่

1 เป็นผู้กล้าหาญและผู้เสียสละ

2 ชายมีภรรยาได้แค่คนเดียว

3 หญิงไม่ต้องคลุมหน้าเมื่อออกนอกบ้าน

4 ไม่มีชั้นวรรณะ

5 สามีภรรยามีสิทธิเท่าเทียมกัน

6 หญิงไม่ต้องจ่ายค่าสินสอดสู่ขอชาย ฯลฯ

78 พระโพธิธรรมา (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ) เป็นผู้สอนวิชา…..ให้ชาวจีน

(1) ไท้เก็ก

(2) หมัดเมา

(3) กังฟู

(4) ตัวเบา

ตอบ 3 หน้า 308 พระโพธิธรรมา (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ) ได้นําวิธีการฝึกสมาธิจิตไปดัดแปลงเป็นการฝึกวิทยายุทธกําลังภายในของจีน ซึ่งเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า เรียกว่า “กังฟู” โดยเชื่อว่า การฝึกกังฟูจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงสมบูรณ์ มีพละกําลังเข้มแข็งเกินกว่าธรรมดาและด้วยเหตุนี้เองที่ทําให้พระมหายานในจีนนิยมฝึกวิทยายุทธกําลังภายในสืบต่อมา

79 พุทธศาสนาปฏิรูปความเชื่อของศาสนาฮินดู ข้อใดไม่ใช่

(1) ชั้นวรรณะ

(2) พรหมลิขิต

(3) เวียนว่ายตายเกิด

(4) ล้างบาปในแม่น้ำคงคา

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ

80 พุทธศาสนาสอนว่า ผู้มีผิวพรรณงามดีเพราะทําดี ข้อใดไม่ใช่

(1) ไม่พยาบาท

(2) ไม่โกรธ

(3) ไม่แค้น

(4) พยาบาท

ตอบ 4 หน้า 314 พุทธศาสนาสอนว่า ผู้ที่มีรูปร่างขี้เหร่ มีผิวพรรณทราม เพราะเป็นคนขี้โกรธ เคียดแค้นพยาบาท ส่วนผู้ที่มีความงาม มีผิวพรรณดี เพราะเป็นคนไม่โกรธ ไม่เคียดแค้น ไม่พยาบาท

81 มหาตมะ คานธี นําหลักธรรมของศาสนาใดมาใช้ต่อต้านอังกฤษเพื่อกู้เอกราช

(1) พุทธ

(2) เชน

(3) ฮินดู

(4) อิสลาม

ตอบ 2 หน้า 335 336, (คําบรรยาย) หลักธรรมคําสอนสูงสุดที่ถือว่าเป็นมงกุฎของศาสนาเชน คือ “อหิงสา” ซึ่งหมายถึง การไม่ทําร้าย การให้ความเคารพต่อชีวิตและผู้มีชีวิต ซึ่งในสมัยของ มหาตมะ คานธี ก็ได้ใช้อหิงสาเอาชนะอํานาจกดขี่และความโหดเหี้ยม จนสามารถกู้เอกราชให้อินเดียจากประเทศอังกฤษได้

82 ชาวเชนเชื่อว่าการตายที่บริสุทธิ์ คือ

(1) โดดน้ำตาย

(2) เผาตัวตาย

(3) อดอาหารตาย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 338, (คําบรรยาย) ชาวเชนเชื่อว่าความตายโดยการอดอาหารเป็นความตายที่บริสุทธิ์และถือเป็นการบําเพ็ญเพียรเพื่อตัดกิเลสและสะสมบุญ

83 ข้อใดที่ไม่ได้กําหนดว่ามุสลิมทุกคนต้องทํา

(1) ละหมาด

(2) ถือศีลอด

(3) พิธีฮัจญ์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 403 การทําพิธีฮัจญ์ คือ การเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียเพื่อทํานมัสการบูชาหินกาบะห์ ณ วิหาร โดยถือเป็นภารกิจที่ชาวมุสลิมผู้บรรลุนิติภาวะ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีความสามารถและฐานะพร้อมที่จะทําได้ ควรกระทําอย่างยิ่ง ยกเว้นแต่จะอยู่ในสภาพหรือฐานะที่ไม่สามารถไปได้จริง ๆ เช่น ยากจน มีอาชีพต้องหาเลี้ยง ครอบครัวทุกวันตลอดปี เป็นต้น

84 คนแรกที่ประกาศให้ชายผู้นับถือพระเจ้าองค์เดียวขริบปลายอวัยวะเพศ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) นบีมูฮัมหมัด

ตอบ 1 หน้า 361, 368 369, (คําบรรยาย) อับราฮัม ศาสดาของศาสนายูดาห์เป็นคนแรกที่ประกาศให้ชาวอิสราเอลทําดังนี้

1 ให้ชาวอิสราเอลทั้งปวงศรัทธานับถือในพระเจ้าองค์เดียว

2 ให้ชายอิสราเอลทุกคนต้องทําการขริบปลายอวัยวะเพศ โดยอับราฮัมถือเป็นผู้ที่ขริบปลายอวัยวะเพศคนแรก

3 ให้ชาวอิสราเอลถือศีลอด โดยให้ถือศีลอดเป็นเวลา 10 วัน

85 ข้อใดเป็นฮาลาล (HALAL) กระเป๋าหนัง

(1) จระเข้

(2) อูฐ

(3) งู

(4) ตะกวด

ตอบ 2 (คําบรรยาย) ผลิตภัณฑ์และอาหารฮาลาล (HALAL) หมายถึง ผลิตภัณฑ์และอาหารทุกชนิดที่ไม่มีองค์ประกอบของสิ่งที่ต้องห้ามในศาสนาอิสลาม ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสัตว์นั้นผ่าน การเชือดที่ถูกต้องตามแนวทางอิสลาม ดังนี้

1 ผู้เชือดเป็นมุสลิมที่เข้าใจและรู้วิธีการเชือดแบบอิสลามอย่างแท้จริง

2 สัตว์ที่จะนํามาเชือดจะต้องไม่เป็นสัตว์ที่ต้องห้าม เช่น หมู สุนัข เสือ เหยี่ยว นกอินทรี งู จระเข้ ตะกวด ฯลฯ ส่วนสัตว์ที่สามารถนํามาเชือดได้ เช่น แพะ แกะ วัว กวาง กระต่าย อูฐ ฯลฯ

3 สัตว์ยังมีชีวิตขณะทําการเชือด

4 สัตว์ต้องตายสนิทก่อนที่จะแล่เนื้อ หรือดําเนินการใด ๆ ต่อไป

86 ตําแหน่งจุฬาราชมนตรีมีขึ้นในสมัย

(1) สุโขทัย

(2) อยุธยา

(3) ธนบุรี

(4) รัตนโกสินทร์

ตอบ 2 หน้า 408 จุฬาราชมนตรีเป็นตําแหน่งผู้นําฝ่ายศาสนาอิสลามในประเทศไทยที่ฝ่ายบ้านเมืองสถาปนาขึ้นให้มีหน้าที่เป็นหัวหน้าบริหารศาสนาอิสลาม ซึ่งตําแหน่งนี้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก ในแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพ่อค้าชาวเปอร์เซียชื่อ “เฉกอะหมัด” เป็นจุฬาราชมนตรีคนแรกของประเทศไทย

87 สุวรรณวิหารเป็นศาสนสถานที่สําคัญของศาสนาในอินเดีย

(1) เชน

(2) ซิกข์

(3) ฮินดู

(4) อิสลาม

ตอบ 2 หน้า 346 คุรุอรชุน เป็นผู้สร้าง “สุวรรณวิหาร” หรือหริมณเฑียรขึ้นกลางสระอมฤต ซึ่งเป็นวิหารหรือวัดที่สวยงามมาก มีประตูสี่ด้าน ไม่มีรูปเคารพใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นสีทองอร่ามไปทั่วทั้ง วิหารทั้งภายนอกและภายใน ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และถือเป็นศาสนสถานที่สําคัญของศาสนาซิกข์ในอินเดีย

88 “แขนคือดาบ” เป็นฉายาที่ยกย่องความกล้าหาญของชายผู้นับถือศาสนา….

(1) เชน

(2) ซิกข์

(3) ฮินดู

(4) อิสลาม

ตอบ 2 หน้า 340 341 ศาสนาซิกข์เป็นศาสนาที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาศาสนาทั้งหลายในประเทศอินเดีย เป็นศาสนาที่เกิดจากการถูกบีบบังคับทางการเมืองและถูกคนในศาสนาอื่น บังคับขู่เข็ญ อีกทั้งยังเป็นศาสนาที่ผู้นับถือชายเกือบทุกคนเป็นนักรบในสมัยที่ตั้งศาสนา ตอนแรก ๆ จึงกลายเป็นศาสนาของผู้กล้าหาญ ผู้เสียสละ และเป็นศาสนาของทหารหรือ นักรบ โดยทหารซิกข์นับเป็นทหารชั้นหนึ่งของอินเดียจนกระทั่งได้รับสมญาว่า “แขนคือดาบ”

89 สามีภรรยาเท่าเทียมกัน คือผู้นับถือศาสนา…..

(1) ชาวพุทธ

(2) ชาวซิกข์

(3) ชาวอิสราเอล

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 77 ประกอบ

90 การทําศพของชาวโซโรอัสเตอร์ คือ

(1) ทิ้งให้เสือกินในป่า

(2) ทิ้งให้หมาป่ากินในถ้ำ

(3) ทิ้งให้แร้งกิน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 421, 425 426 คติความเชื่อของศาสนาโซโรอัสเตอร์ ได้แก่ 1 การบูชาไฟ และเซ่นสังเวยพระเจ้าด้วยเหล้าศักดิ์สิทธิ์

2 การทําพิธีศพโดยนําศพไปวางทิ้งบนหอสูง เรียกว่า “หอคอยแห่งความสงบ” แล้วปล่อยให้นกแร้งมาจิกกินเป็นอาหาร

3 การมี “สะพานแห่งการแก้แค้น” เพื่อนําวิญญาณที่ดีไปสู่สวรรค์ และนําวิญญาณเลวลงนรก เป็นต้น

91 ข้อใดเกี่ยวข้องกับศาสนาโซโรอัสเตอร์

(1) ไฟ

(2) หอคอยแห่งความสงบ

(3) สะพานแห่งความแก้แค้น

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 90 ประกอบ

92 ผู้นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์เดิมอยู่อาณาจักรเปอร์เซีย ซึ่งปัจจุบันคือประเทศ

(1) อิหร่าน

(2) อิรัก

(3) อียิปต์

(4) อิสราเอล

ตอบ 1 หน้า 419, 428 429 ในสมัยโบราณศาสนาโซโรอัสเตอร์เดิมเป็นศาสนาประจําชาติของชาวเปอร์เซีย แต่ปัจจุบันอาณาจักรเปอร์เซียกลายเป็นประเทศอิหร่านและนับถือศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาประจําชาติ ทําให้ชาวเปอร์เซียที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาอยู่ในประเทศของตนไม่ได้ ต้องอพยพลี้ภัยไปอยู่ในดินแดนต่าง ๆ ที่ใกล้เคียง และส่วนใหญ่อพยพไปตั้งถิ่นฐานรวมกลุ่มกัน อยู่มากเป็นชนกลุ่มน้อยและเรียกตัวเองว่า ชาวปาร์ซี (Parsee หรือ Parsi) ซึ่งในปัจจุบันศาสนิกชนของศาสนาโซโรอัสเตอร์ส่วนใหญ่นั้นตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในนครบอมเบย์ ประเทศอินเดีย

93 ศาสดาศาสนาใดสอนว่า “สตรีเป็นเหตุแห่งบาป”

(1) เชน

(2) ฮินดู

(3) อิสลาม

(4) ซิกข์

ตอบ 1 หน้า 337 338, 340, (คําบรรยาย) พระมหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชนไม่ให้มีนักบวชหญิงและปฏิเสธการปฏิบัติธรรมของสตรี โดยเห็นว่า “สตรีเพศเป็นเหตุแห่งบาป” และเป็นที่ตั้งแห่งกิเลสทั้งหลาย ซึ่งนิกายทิคัมพรในศาสนาเชนนั้นเชื่อว่าสตรีไม่สามารถบรรลุธรรมสูงสุดได้ อีกทั้งนักบวชในนิกายนี้ต้องเปลือยกาย ดังนั้นหากสตรีเพศต้องเปลือยกายอาจจะทําให้นักบวชชายเกิดกิเลสได้ ส่วนการกินมังสวิรัตินั้นผู้ที่นับถือศาสนาเชนทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงสามารถทําได้

94 ศาสดาศาสนาใดสอนว่า “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบายเท่ากับความเจ็บป่วย”

(1) เชน

(2) ฮินดู

(3) อิสลาม

(4) ซิกข์

ตอบ 1 หน้า 338, (คําบรรยาย) พระมหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชน กล่าวว่า “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบายเท่ากับความเจ็บป่วย” นั่นคือ ทรงสอนให้ใช้ชีวิตแบบคนป่วย หรือให้สมถะพอเพียง

ไม่อยากได้สิ่งที่ไม่จําเป็น คนไม่ว่าจะร่ำรวยเพียงใดก็ตามต้องไม่หมกมุ่นกับตัณหาของตน

95 อับราฮัมเป็นศาสดาของศาสนาใด

(1) ยูดาห์

(2) คริสต์

(3) อิสลาม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 84 ประกอบ

96 วันพระของศาสนายูดาห์ คือวัน

(1) ศุกร์

(2) เสาร์

(3) อาทิตย์

(4) เสาร์-อาทิตย์

ตอบ 2 หน้า 364, 367, (คําบรรยาย) วันเสาร์ถือเป็นวันพระของศาสนายูดาห์ เรียกว่า วันแซบบาธหรือวันซะบาโต คือวันที่พระเจ้าทรงสร้างโลกและจักรวาลเสร็จ และทรงหยุดพักผ่อนในวันที่ 7 โดยวันแซบบาธเป็นวันที่ชาวอิสราเอลทั้งหลายจะหยุดทํางาน และการทํากิจการต่าง ๆ ทุกชนิด แม้แต่การก่อไฟในเตาก็งดเว้น เพื่อบูชาพระเจ้าตามที่ปรากฏในบัญญัติ 10 ประการ คือ ห้ามทําการสิ่งใดในวันที่ 7 และให้ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ด้วย

97 สัญลักษณ์ของศาสนายูดาห์ คือ

(1) เชิงเทียน 3 เล่ม

(2) เชิงเทียน 5 เล่ม

(3) เชิงเทียน 7 เล่ม

(4) คบไฟ

ตอบ 3 หน้า 371 สัญลักษณ์ของศาสนายูดาห์ คือ เชิงเทียน ซึ่งมีที่ตั้งเทียน 7 เล่ม เรียงกัน

98 “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เป็นคําสอนของ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 377 พระเยซู ได้รับการยกย่องและศรัทธาจากผู้ฟังมากในการเทศนาบนภูเขาซึ่งพระองค์ได้ทรงแก้ไขบทธรรมคําสอนและหลักการดํารงชีวิตของโมเสสที่ได้สอนชาวยิว ไว้ตอนหนึ่งว่า “ตาแทนตา-ฟันแทนฟัน” โดยทรงแก้ไขว่า “อย่ายอมตามความชั่ว ถ้าผู้ใดตบท่านที่แก้มขวา ก็ให้หันแก้มซ้ายให้เขาอีก และใครก็ตามที่บังคับให้ท่านเดินไป 1 ไมล์ก็จงเดินไปพร้อมกับเขา 2 ไมล์”

99 ดาโต๊ะยุติธรรม ต้องมีอายุตั้งแต่…..ปี

(1) 25

(2) 30)

(3) 35

(4) 40

ตอบ 1 หน้า 410 411, (คําบรรยาย) ตําแหน่งดาโต๊ะยุติธรรมนั้น คัดเลือกจากอิสลามศาสนิกชนผู้มีคุณสมบัติดังนี้

1 มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป

2 มีภูมิรู้ในศาสนาอิสลามพอที่จะ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามเกี่ยวกับครอบครัวและมรดก

3 มีความรู้ภาษาไทยอ่านออกเขียนได้

100 ประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก คือ

(1) ซาอุดิอาระเบีย

(2) อียิปต์

(3) อินโดนีเซีย

(4) อิหร่าน

ตอบ 3 หน้า 391, (คําบรรยาย) ศาสนาอิสลามเกิดในดินแดนทะเลทรายในทวีปเอเชีย หรือที่เรียกว่าตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นดินแดนถิ่นฐานของชาวอาหรับ และปัจจุบันเป็นศาสนาที่มีจํานวน ผู้นับถือมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากศาสนาคริสต์ โดยประเทศที่มีประชากรนับถือ ศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก คือ อินโดนีเซีย

PHI1001 วัฒนธรรมและศาสนา s/2558

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2558

ข้อสอบกระบวนวิชา PHI 1001 วัฒนธรรมและศาสนา

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1 วัฒนธรรมไทยได้รับวัฒนธรรมอินเดียมา ได้แก่

(1) สงกรานต์

(2) ลอยกระทง

(3) แรกนาขวัญ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 163, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดียในหลาย ๆ ด้าน เช่น

1 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ และศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

2 ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ได้แก่ พิธีแรกนาขวัญ พิธีรดน้ำสังข์ พิธีโล้ชิงช้า วันลอยกระทง และวันสงกรานต์

3 วรรณกรรม ได้แก่ รามเกียรติ อิเหนา ศกุนตลา เป็นต้น

2 อิทธิพลความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูที่มีอยู่ในเมืองไทย ได้แก่ (1) ปราสาทหินพนมรุ้ง

(2) ตราครุฑของราชการ

(3) ถนนพระราม 9

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 59, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดียในด้านความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช่น การสร้างปราสาทหินต่าง ๆ (ปราสาทหินพนมรุ้ง) เสาชิงช้า พิธีโกนจุก การตั้งศาลพระพรหมเอราวัณ สัญลักษณ์ราชวงศ์จักรี สัญลักษณ์ตราครุฑของราชการชื่อถนนต่าง ๆ (ถนนพระราม 9) เป็นต้น

3 อาณาจักรล้านนา “หริภุญชัย” ปัจจุบันคือจังหวัด

(1) ลําพูน

(2) ลําปาง

(3) แพร่

(4) น่าน

ตอบ 1 หน้า 74, (คําบรรยาย) ในสมัยอาณาจักรล้านนา ในทางตอนเหนือของประเทศไทยในยุคนั้นระหว่างสุโขทัยกับพะเยา มีอาณาจักรเล็ก ๆ แต่เจริญรุ่งเรืองมาก ชื่อ “หริภุญชัย” ปกครองโดย พระนางจามเทวี ซึ่งพระนางได้ทํานุบํารุงและก่อสร้างบ้านเมืองทําให้เมืองหริภุญชัย (ปัจจุบัน คือ จ.ลําพูน) เป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งในสมัยนั้น ต่อมาพระนางได้สร้างเขลางค์นคร (ปัจจุบันคือ จ.ลําปาง) ขึ้นอีกเมืองหนึ่งให้เป็นเมืองสําคัญ

4 วัฒนธรรมภาคอีสาน ข้อใดไม่ใช่

(1) ผีกระสือ

(2) ผีตาโขน

(3) ผีฟ้า

(4) ผีปอบ

ตอบ 1 หน้า 61 – 62, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมพื้นบ้านแต่ละภาค มีดังนี้

1 ภาคเหนือ เช่น การแอ่วสาว การไหว้ผี การผูกข้อมือ การจุดโคมลอย การประดับตุง เรือนกาแล ฯลฯ

2 ภาคกลาง เช่น เพลงกล่อมเด็ก เพลงอีแซว เพลงรําวง นิทานพื้นบ้าน ลิเก ลําตัด รํากลองยาว ฯลฯ

3 ภาคอีสาน เช่น การผิดผี การไหว้ผีปู่ตา การรําผีฟ้า การไล่ผีปอบ การแห่ผีตาโขน การแห่บั้งไฟ รําซิ่ง ผ้าไหมแพรวา ฯลฯ

4 ภาคใต้ เช่น ประเพณีเพลงบอก การสวดโอ้เอ้วิหารราย หนังตะลุง ลิเกป่า ลิเกตันหยง รํามโนราห์ ฯลฯ

5 อาหารไทยแท้แต่เดิม ข้อใดไม่ใช่

(1) แกงส้ม

(2) แกงเลียง

(3) แกงเขียวหวาน

(4) แกงไตปลา

ตอบ 3 หน้า 63, (คําบรรยาย) อาหารไทยแท้ตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยนั้น ถ้าเป็นแกงจะต้องไม่ใส่กะทิ เช่น แกงป่า แกงไตปลา แกงอ่อม แกงส้ม แกงเลียง ต้มยํา (น้ำใส) แกงเหลือง ฯลฯ ส่วนแกงที่ใส่กะทิและเครื่องเทศนั้นจะเป็นแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจากแขกและอาหรับ เช่นแกงเขียวหวาน แกงกะหรี่ ฯลฯ

6 วัฒนธรรมไทยให้ความเคารพนับถือครูผู้ให้วิชา ข้อใดไม่ใช่

(1) ครูพักลักจํา

(2) ขึ้นครู

(3) ครอบครู

(4) ไหว้ครู

ตอบ 1 หน้า 200 201 วัฒนธรรมไทยให้ความเคารพนับถือครูผู้ให้วิชา โดยเฉพาะในศิลปะไทยแขนงต่าง ๆ ที่ช่างศิลปะไทยจะเคร่งครัดในการปฏิบัติกันทุกแขนงวิชา คือ “พิธีไหว้ครู” “การขึ้นครู” และ “การครอบครู” ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ต้องถือปฏิบัติสืบต่อมาจะขาดเสียมิได้ (ส่วน “ครูพักลักจํา” เป็นการเรียนรู้แบบจํามาหรือเลียนแบบมาด้วยตนเอง)

7 ชาวไทยเริ่มใส่รองเท้าและใช้ช้อนส้อมในสมัยใด

(1) รัชกาลที่ 3

(2) รัชกาลที่ 5

(3) รัชกาลที่ 6

(4) รัชกาลที่ 7

ตอบ 2 หน้า 92 – 93 ในสมัยรัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ชาวไทยเริ่มใช้ช้อนส้อมในการรับประทานอาหาร เริ่มใส่รองเท้าและสวมเสื้อออกนอกบ้าน หญิงไทยเริ่มใส่ เสื้อแทนการห่มสไบ และนิยมสวมถุงน่องสีขาวและรองเท้าหุ้มส้น ส่วนชายไทยเริ่มนิยมสวมกางเกงคาดเข็มขัด ถือไม้เท้าและสวมรองเท้าหนังมากขึ้น

8 เอกลักษณ์ของไทย ได้แก่

(1) ยิ้มง่าย

(2) รักในหลวง

(3) มีน้ำใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 63 – 64, 67 – 58, (คําบรรยาย) ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ได้แก่ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ รักพระเจ้าอยู่หัว สุภาพอ่อนน้อม ยิ้มง่าย ยิ้มแย้มเป็นมิตร ยิ้มสู้-ยิ้มได้เมื่อภัยมา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีน้ำใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่นการสนุกสนาน ลืมง่าย มักให้อภัยเสมอ โกรธไม่นาน ฯลฯ

9 วัฒนธรรมจีน ข้อใดไม่ใช่

(1) ประเทศจีนมีพื้นที่ใหญ่ที่สุด

(2) ประเทศจีนมีประชากรมากที่สุด

(3) ประเทศจีนผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขายทั่วโลก

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) ปัจจุบันประเทศจีนผลิตสินค้าจําหน่ายทั่วโลกมาก จนถือเป็นวัฒนธรรมจีนแต่ทั้งนี้วัฒนธรรมจีนจะไม่รวมถึงการผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ขายทั่วโลก รวมทั้งการที่ ประเทศจีนมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุด เพราะวัฒนธรรมจะไม่รวมถึงสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดี หรือพฤติกรรมตามธรรมชาติหรือสิ่งที่เกิดเองตามธรรมชาติ

10 ข้อใดแสดงถึงความกตัญญของชาวจีน

(1) เชงเม้ง

(2) ทิ้งกระจาด

(3) ล้างป่าช้า

(4) ฮวงจุ้ย

ตอบ 1 หน้า 41, 44, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมทางจิตใจของชาวจีนที่แสดงถึงความกตัญญู ได้แก่

1 สร้างฮวงซุ้ย (สุสาน) ฝังศพอย่างดี โดยชาวจีนเชื่อว่าหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ เป็นที่สถิตแห่งดวงวิญญาณ นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวงศ์ตระกูล

2 เทศกาลเชงเม้ง คือ ไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้ย เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ

3 เซ่นไหว้วันตรุษจีน โดยชาวจีนจะเตรียมอาหารอย่างดีไว้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ และเทพเจ้าต่าง ๆ

4 ทําพิธีกงเต๊กงานศพ ซึ่งเป็นการทําบุญให้แก่ผู้ตายหรือบรรพบุรุษ โดยมีการสวดและเผากระดาษที่ทําเป็นรูปต่าง ๆ มีบ้านเรือน มีคนรับใช้ เป็นต้น

11 ข้อใดเป็นวัฒนธรรมความเชื่อของจีนเรื่องวิญญาณนิยม

(1) เชงเม้ง

(2) ล้างป่าช้า

(3) ศาลเจ้าพ่อกวนอู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 38 – 40, (คําบรรยาย) ชาวจีนมีความเชื่อแบบวิญญาณนิยม นับถือวิญญาณวีรชนหรือวีรบุรุษ เช่น ศาลเจ้าพ่อกวนอู ศาลเจ้าพ่อเสือ ฯลฯ และนับถือวิญญาณบรรพบุรุษ เทพเจ้าและผีทั่ว ๆ ไป เช่น การเซ่นไหว้วันตรุษจีน เทศกาลเชงเม้ง วันสารทจีน พิธีล้างป่าช้า ฯลฯ

1 วัฒนธรรมความเชื่อจีนเรื่องสัตว์กายสิทธิ์ ข้อใดไม่ใช่

(1) เสือ

(2) สิงโต

(3) มังกร

(4) พญานาค

ตอบ 4 หน้า 40 41 การนับถือวิญญาณสัตว์ของชาวจีน เนื่องจากมีความเชื่อ ดังนี้

1 เสือเป็นสัตว์กายสิทธิ์ ซึ่งบรรดาทหารเอกขุนศึกแม่ทัพในอดีตล้วนเป็นดาวเสื้อ

2 มังกรเป็นเทพเจ้า เป็นพาหนะของเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์ และยังถือเป็นสัญลักษณ์ของฮ่องเต้

3 สิงโตเป็นสัตว์กายสิทธิ์มาจากสวรรค์และนําความสุขสงบมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์มาสู่บ้านเมือง

13 วรรณกรรมจีนเรื่องใดที่มีความสัมพันธ์กับศาสนาพุทธมากที่สุด

(1) สามก๊ก

(2) ไซอิ๋ว

(3) อี้จิง

(4) ซุนวู

ตอบ 2 หน้า 39 เมื่อพุทธศาสนานิกายมหายานเผยแผ่เข้ามาในประเทศจีน ความเชื่อในเรื่องพระโพธิสัตว์ก็เข้ามามีอิทธิพลต่อความเชื่อดั้งเดิมของชาวจีน เกิดการผสมผสานจนกลายเป็นความเชื่อเรื่อง ปีศาจ ผีสาง เทวดา เซียนเพิ่มขึ้นมา ทําให้เกิดตํานานเทพนิยาย และนิทานพื้นเมืองเกี่ยวกับความเชื่อดังกล่าวมากมายซึ่งที่รู้จักกันทั่วไปได้แก่ ตํานานเรื่อง “ไซอิ๋ว”

14 การเชิดสิงโต ชาวจีนจะไม่ทําในข้อใด

(1) เทศกาลตรุษจีน

(2) พิธีกงเต็ก

(3) งานวันแซยิด

(4) พิธีเปิดกิจการใหม่

ตอบ 2 หน้า 40 – 41, (คําบรรยาย) ชาวจีนมีประเพณีการเชิดสิงโตในงานฉลองรื่นเริงมงคลต่าง ๆเช่น เทศกาลตรุษจีน สารทจีน งานวันเกิด งานวันแซยิด งานพิธีเปิดร้านค้าเปิดกิจการใหม่ เป็นต้น (ส่วนเทศกาลเชงเม้ง พิธีล้างป่าช้า พิธีกงเต็ก และงานทิ้งกระจาด จะไม่มีการเชิดสิงโต)

15 การเซ่นไหว้เทศกาลตรุษจีน ชาวจีนเชื่อว่าผลไม้ใดเป็นสิ่งมงคลแทนโชคลาภ

(1) ส้ม

(2) กล้วย

(3) พลับ

(4) ท้อ

ตอบ 1 หน้า 45 – 46, (คําบรรยาย) ผลไม้ ดอกไม้ และขนมที่ชาวจีนมักนิยมนํามาเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นมงคลและมีความหมายดี เช่น

1 ผลท้อ เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน และขจัดภูตผีปีศาจได้

2 ผลทับทิม เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงาม มีบุตรหลานบริวารมาก และช่วยขจัดสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ดังนั้นชาวจีนจึงนิยมนําต้นทับทิมมาปลูกไว้หน้าบ้านเสมอ

3 ผลพลับ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมีอายุยืน มีความสุขสงบถาวร

4 ผลส้ม เป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทําให้มีโชคลาภ

5 ดอกเก๊กฮวย เป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน อายุยืน สดชื่นในชีวิต

6 ขนมเข่ง เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญก้าวหน้า รุ่งเรืองมากขึ้นทุกปี

16 วัฒนธรรมจีนได้รับยกย่องว่าเป็นเลิศเรื่อง

(1) เครื่องประดับ

(2) อาหาร

(3) การจัดสวน

(4) การแต่งกาย

ตอบ 2 หน้า 46, (คําบรรยาย) อาหารจีน ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมจีนที่นิยมแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วโลก โดยชาวจีนได้รับการยกย่องว่ามีวัฒนธรรมในการประกอบอาหารเป็นเลิศ มีอาหารมากมายหลายชนิด ทั้งอาหารเนื้อสัตว์และอาหารเจ มีศิลปะในการปรุงให้มีรสเลิศ และมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม

17 ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษจีน ได้แก่

(1) ทอผ้าไหม

(2) ภาษาจีน

(3) ปฏิทินจีน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 37 – 38 บรรพบุรุษจีนมีวัฒนธรรมทางวัตถุดั้งเดิมที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศมาแต่ครั้งโบราณ อันแสดงถึงภูมิปัญญา สัญลักษณ์ และความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติ ได้แก่ การคิดอักษรจีนและใช้ภาษาจีนเป็นภาษาเขียนประจําชาติ รู้จักทําปฏิทินจีน รู้จักการเลี้ยงไหม และทอผ้าไหม ทําเครื่องเคลือบถ้วยชาม มีความรู้วิชาการแพทย์ การรักษาโรคด้วยสมุนไพรและการฝังเข็ม เป็นต้น

18 ประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบันคือท่าน……

(1) หลี ผิง

(2) สี จิ้นผิง

(3) เติ้ง เสี่ยวผิง

(4) หู จิ่นเทา

ตอบ 2 (คําบรรยาย) ประธานาธิบดีของจีนคนปัจจุบัน คือ นายสี จิ้นผิง ซึ่งปัจจุบันเขายังดํารงตําแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน, ประธานคณะกรรมาธิการกลางการทหาร, อธิการบดีโรงเรียนพรรคกลาง และดํารงตําแหน่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดของสํานักงานเลขาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน

19 ข้อใดมีความหมายตรงกับ “หยิน-หยาง”

(1) ดิน-ฟ้า

(2) ชาย-หญิง

(3) ดวงอาทิตย์-ดวงจันทร์

(4) สว่าง-มืด

ตอบ 1 หน้า 241, (คําบรรยาย) ในสมัยโบราณชาวจีนมีความเชื่ออันเป็นความภาคภูมิของประเทศคือเชื่อว่า ประเทศจีนอยู่ใจกลางของโลก จึงทําให้เกิดความเชื่อว่าโลกมีวิญญาณสถิตอยู่ มีเพศเป็นหญิง เรียกว่า “หยิน” ซึ่งเป็นวิญญาณแห่งดิน ความมืด กลางคืน ดวงจันทร์ ฯลฯ และเนื่องจากการที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลก ชาวจีนจึงยกย่อง “หยิน” ว่ามีอํานาจเหนือกว่า “หยาง” ซึ่งเป็นเพศชายอันเป็นวิญญาณแห่งฟ้า ความสว่าง กลางวัน ดวงอาทิตย์ ฯลฯ ดังนั้นจึงกล่าว ได้ว่า “หยิน-หยาง” หมายถึง หญิง-ชาย, ดิน-ฟ้า, ความมืด-ความสว่าง, กลางคืน-กลางวัน,ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์, ดํา-ขาว, อ่อน-แข็ง ฯลฯ

20 ขงจื้อเปรียบเล่าจื๊อเทียบกับ

(1) เสือ

(2) สิงโต

(3) มังกร

(4) หงส์

ตอบ 3 หน้า 243 244 ขงจื้อได้ส่งคําขอร้องถึงเล่าจื๊อขอเข้าพบ โดยขงจื๊อเล่าใจความของการไปพบกับเล่าจื้อแก่สาวกทั้งหลายของเขาว่า “ฉันรู้เหตุที่นกบินได้ ปลาว่ายน้ำได้ และสัตว์วิ่งได้ แต่สัตว์ ซึ่งวิ่งได้ก็อาจติดบ่วง ปลาอาจติดเบ็ด และนกอาจถูกยิงตกด้วยลูกศร แต่มีมังกร ฉันไม่สามารถ บอกว่ามังกรขี่ลมและโผล่ขึ้นเหนือเมฆได้อย่างไร ฉันได้เห็นและได้พูดกับเล่าจื้อ และฉันสามารถเพียงเปรียบเทียบเขากับมังกร”

 

21 ก่อนยุคคอมมิวนิสต์ จีนสอบคัดเลือกเข้ารับราชการโดยใช้ตํารา…เป็นหลัก

(1) เล่าจื้อ

(2) ขงจื้อ

(3) ขงเบ้ง

(4) เปาบุ้นจิ้น

ตอบ 2 หน้า 245 คําสอนของขงจื้อได้กลายเป็นคัมภีร์ทางการเมือง การปกครอง ที่นักปกครองทั้งหลายตั้งแต่ฮ่องเต้ ขุนนาง รวมทั้งข้าราชการทั้งหลายต้องศึกษาเล่าเรียน โดยในสมัยราชวงศ์ฮั่น พระเจ้าฮันหวูตี่ฮ่องเต้ (140-87 ปีก่อน ค.ศ.) ทรงจัดให้มีวิทยาลัยขึ้นในราชสํานัก และ ดําเนินการทดสอบผู้สมัครเข้ารับราชการตามตําราขงจื้อ (ตํารา 5 กิง) และได้มีการยึดถือปฏิบัติ ต่อมากว่า 2 พันปี ซึ่งลัทธิขงจื้อได้รับสถาปนาเป็นลัทธิประจําชาติของจีน และให้อบรมสั่งสอนประชาชนด้วยคําสอนของขงจื้อตลอดมา

22 ขงจื๊อสอนเรื่องการปฏิบัติต่อผีและเทพเจ้าว่า “จงเคารพบูชาผีและเทพเจ้า ”

(1) แต่ควรอยู่ให้ห่าง ๆ

(2) แต่ควรระวังจะถูกลงโทษหากไม่พอใจ

(3) แต่ควรเซ่นไหว้ให้สม่ำเสมอ

(4) แต่ควรขอความช่วยเหลือเฉพาะเรื่องจําเป็น

ตอบ 1 หน้า 248 249, (คําบรรยาย) ปรัชญาและหลักคําสอนที่สําคัญของขงจื้อ ได้แก่

1 สอนให้ประชาชนทําพิธีเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และให้ถือว่าการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ เป็นหน้าที่ของลูกหลานผู้สืบสกุล ต้องทําเป็นประจําทุกปี และทุกเทศกาล

2 สอนให้ชาวจีน ทําพิธีบวงสรวงเทพเจ้าตามจารีตประเพณีของชาวจีนในสมัยโบราณ แต่สอนว่า “จงเคารพบูชาผี และเทพเจ้า แต่ควรอยู่ให้ห่าง ๆ”

3 สอนหลักการปกครอง โดยมีความเห็นว่า การปกครองโดยนิติธรรมเนียม ควรนํามาใช้มากกว่าการปกครองแบบอํานาจและอาชญา เป็นต้น

23 เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นอยู่บนเกาะ

(1) ฮอนชู

(2) ฮอกไกโด

(3) ชิโกกุ

(4) คิวชู

ตอบ 1 หน้า 48 ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะพื้นที่เป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมายนับพันเกาะ โดยมีเกาะที่ใหญ่ที่สุดและสําคัญที่สุดอยู่ 4 เกาะ คือ เกาะฮอนชู (เกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น) เกาะฮอกไกโด เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู โดยประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง

24 วัฒนธรรมความเชื่อญี่ปุ่นเชื่อว่า จักรพรรดิองค์แรกจุติมาเกิดที่เกาะ…

(1) ฮอนชู

(2) ฮอกไกโด

(3) ชิโกกุ

(4) คิวชู

ตอบ 4 หน้า 49, 235 วัฒนธรรมความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นก็คือสมเด็จพระจักรพรรดิยมมูหรือยิมมูเทนโน ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากสุริยเทพอะมะเตระสุ โดยจุติที่ เกาะคิวชูพร้อมกับเพชร 1 เม็ด (หรือดวงแก้ว) ดาบ และกระจก เป็นของวิเศษสําคัญประจําตัวติดตัวมาจากสวรรค์ด้วย

25 ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณของญี่ปุ่นเกี่ยวข้องกับข้อใด

(1) ศาลเจ้า

(2) โทริ

(3) กามิ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 50, 240 241, (คําบรรยาย) ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณของญี่ปุ่นนั้น ตามศาสนสถานของศาสนาชินโต ก่อนจะถึงบริเวณของศาลเจ้าชิ้นโตที่ทางเข้าจะมีการสร้างประตูขึ้นเป็น สัญลักษณ์ เรียกว่า “โทริ” (TORI) อันถือว่าเป็นประตูวิญญาณ ซึ่งเกิดจากศรัทธาความเชื่อ ในเรื่องเทพเจ้า ผีสาง เทวดา และวิญญาณทั้งหลายสิงสถิตอยู่ในธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ แม่น้ำลําธาร วีรบุรุษ บรรพบุรุษ และสัตว์ โดยเรียกวิญญาณเหล่านี้ว่า “กามิ” (KAMI)

26 “ฮาราคีรี” เป็นการฆ่าตัวตายอย่างมีเกียรติ ข้อใดทําได้

(1) ซามูไร

(2) ทหารญี่ปุ่น

(3) ชายญี่ปุ่นทุกคน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 51 ลัทธิ “บูชิโด” หรือวิถีทางแห่งนักรบซามูไร คือ “ยอมตายอย่างมีเกียรติดีกว่าอยู่อย่างไร้เกียรติ” โดยมีการทําพิธีกรรมการฆ่าตัวตายแบบมีเกียรติเรียกว่า “ฮาราคีรี” ของนักรบซามูไร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศญี่ปุ่นแพ้สงคราม ทหารญี่ปุ่น และชายญี่ปุ่นฆ่าตัวตายแบบ “ฮาราคีรี” กันนับหมื่นคน จนเป็นเรื่องที่ทั่วโลกเลื่องลือทั้งนี้ก็เพราะความเชื่อในลัทธิบูชิโด

27 ชาวญี่ปุ่นนับถือว่าเป็นเทพองค์หนึ่งของศาสนาชินโต

(1) เซียน

(2) พระโพธิสัตว์

(3) ขงจื้อ

(4) เล่าจื้อ

ตอบ 2 หน้า 235 เมื่อศาสนาพุทธมหายานเข้ามาเผยแผ่จนเป็นที่นับถือแพร่หลายทั่วไปในเมืองญี่ปุ่น แต่ชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาพุทธก็มิได้ละทิ้งความเชื่อดั้งเดิมในศาสนาชินโต และศาสนาพุทธ ก็มิได้บังคับหรือทําลายความเชื่อดั้งเดิมอื่น ๆ ดังนั้นนักบวชในศาสนาชินโตจึงยอมรับศาสนาพุทธ มหายาน และปรับศาสนาชินโตให้เข้ากับศาสนาพุทธมหายาน โดยการทําศาสนาชินโตให้มี 2 แง่ สร้างความเชื่อถือเดิมต่อเติมขึ้นว่า เทพเจ้าต่าง ๆ ในศาสนาชินโตก็ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิด

28 ชาวญี่ปุ่นไม่กิน….ดิบ

(1) เนื้อหมาดิบ

(2) ปลาดิบ

(3) ไข่ดิบ

(4) เนื้อวาฬดิบ

ตอบ 1 หน้า 55, (คําบรรยาย) วัฒนธรรมในการบริโภคนั้น ชาวญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการดํารงชีวิตแบบเรียบง่าย กินอาหารตามสภาพธรรมชาติ ปรุงแต่งน้อย และนิยมกินปลาดิบ เนื้อดิบ เช่น เนื้อวัวดิบ เนื้อวาฬดิบ เนื้อหมึกยักษ์ดิบ เนื้อปลาปักเป้าดิบ ไข่ดิบ เป็นต้น

29 ชาวญี่ปุ่นถือว่า…ถูกติเตียนว่าเป็นบาปมากสําหรับชาย

(1) ความขี้โกง

(2) ความขี้ขลาด

(3) ความขี้โกหก

(4) ความโลภ

ตอบ 2 หน้า 239 240 ตามหลักจริยธรรมของศาสนาชินโตนั้น ชาวญี่ปุ่นถือว่า ความขี้ขลาด ถูกติเตียนว่าเป็นบาปมากสําหรับผู้ชาย นอกจากนี้การลักขโมย และความไม่สะอาด ยังถือว่าเป็นบาป และยกย่องความกล้าหาญในทุกรูปแบบ

30 ชาวญี่ปุ่นจะทําศพที่วัดของศาสนา

(1) ชินโต

(2) เต๋า

(3) พุทธ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 238 239 ศาสนาชินโต มีความเชื่อว่าศพทั้งหลายเป็นสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ และห้ามการทําพิธีศพในวัดของชินโต ดังนั้นเมื่อชาวญี่ปุ่นตายจึงต้องไปประกอบพิธีศพในวัดของศาสนาพุทธ

31 ศาสนาเชนมีแนวปฏิบัติเคร่งครัดตัดกิเลส เรียกว่า

(1) กามสุขัลลิกานุโยค

(2) อัตตกิลมถานุโยค

(3) มัชฌิมาปฏิปทา

(4) สัจจะวิถี

ตอบ 2 หน้า 329 ศาสนาเชนของศาสดามหาวีระเกิดในประเทศอินเดียร่วมยุคสมัยเดียวกับพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า และทั้งสองศาสนาก็มีความคล้ายกันหลายประการ เช่น เป็นศาสนาแห่งเหตุผล สั่งสอนไม่ให้คนหลงงมงาย ชาติกําเนิดและชีวประวัติของศาสดา (มีชื่อพระชายา ยโสธราเหมือนกัน) รวมทั้งหลักธรรมคําสอนก็คล้ายคลึงกันมากจนมีนักวิชาการหลายท่านคิดว่าเป็นศาสนาเดียวกัน แต่ที่ต่างกันมาก คือ แนวทางปฏิบัติ เพราะศาสนาพุทธถือทางสายกลางแบบมัชฌิมาปฏิปทา ทั้งพระสงฆ์และศาสนิกชน ส่วนศาสนาเชนจะเน้นหนักเคร่งครัดตัดกิเลสอย่างสุดโต่งแบบ อัตตกิลมถานุโยคทั้งนักบวชและศาสนิกชน

32 “เชน” มีความหมายเดียวกับ

(1) ชิ้น

(2) ชินะ

3) ชนะ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 329, (คําบรรยาย) “เชน” มาจากคําว่า ชิน หรือชินะ หรือชนะ ซึ่งเป็นคําที่มีความหมายเดียวกัน โดยคําว่า “เชน” เป็นชื่อที่ศาสดามหาวีระเรียกศาสนาของพระองค์ ซึ่งแปลว่า ศาสนา ของผู้ชนะ โดยผู้ชนะในความหมายศาสนาเชนนี้ คือ ชนะตัวเอง (ชนะใจ) ชนะกิเลส ตัณหา และอวิชชาที่มีอยู่ในตัวเอง เมื่อเอาชนะตัวเองและกิเลสของตัวเองได้ก็จะสามารถไปสู่สภาวะหลุดพ้นแห่งโมกษะ อันเป็นจุดหมายสูงสุดของศาสนาได้

33 “มหาวีระ” เป็นฉายาของศาสดาของศาสนาเชน ได้รับการยกย่องว่ากล้าหาญมากเพราะ

(1) ฆ่าเสือดุ

(2) จับจระเข้ได้

(3) ปราบช้างตกมัน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 330, (คําบรรยาย) พระมหาวีระ ศาสดาของศาสนาเชนมีพระนามเดิมว่าเจ้าชายวรรธมานะหรือวัธมานะ เกิดในวรรณะกษัตริย์ พระนาม “มหาวีระ” แปลว่า มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่กล้าหาญ ซึ่งเหตุที่ได้รับขนานนามว่า พระมหาวีระผู้กล้าหาญมาก เพราะในขณะเมื่อยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น พระองค์เคยปราบช้างตกมันที่วิ่งพลัดเข้ามาในอุทยาน โดยสามารถขึ้นขี่ช้างพลายนั้นและบังคับไปสู่โรงช้างได้อย่างเรียบร้อย โดยมิได้แสดงพระอาการเกรงกลัวแต่อย่างใด

34 หลักธรรมของศาสนาเชน “มานะ” มีความหมายว่า……….

(1) อดทน

(2) พยายาม

(3) ถือตัวทิฐิ

(4) มุ่งมั่น

ตอบ 3 หน้า 333 กิเลสในศาสนาเชน เรียกว่า กษายะ ซึ่งมีอยู่ 4 อย่าง คือ

1 โลภะ คือ ความโลาหรือความอยากได้

2 โกรธะ คือ ความโกรธ

3 มานะ คือ ความถือตัวทิฐิ

4 มายา คือ ความหลง

35 “อหิงสา” คือแนวปฏิบัติของศาสนาเชน ได้แก่

(1) ไม่ฆ่า

(2) ไม่ทําร้ายเบียดเบียน

(3) เคารพต่อชีวิตของคนและสัตว์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 335 – 336, (คําบรรยาย) หลักธรรมคําสอนสูงสุดที่เป็นแนวปฏิบัติของศาสนาเชน คือ “อหิงสา” ซึ่งหมายถึง การไม่ฆ่า การไม่ทําร้ายเบียดเบียน และการให้ความเคารพต่อชีวิตของคนและสัตว์และผู้มีชีวิต

36 ผู้นับถือศาสนาเชนมีหลักการดํารงชีวิตเคร่งครัด ได้แก่

(1) ไม่กินเนื้อสัตว์

(2) ไม่ดื่มนมสัตว์

(3) สมถะพอเพียง

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 337 จากการที่ผู้นับถือศาสนาเชน (รวมทั้งศาสดาและนักบวช) ต้องรักษาศีลข้อแรก(ไม่ฆ่าและไม่ทําร้ายสิ่งมีชีวิตใด ๆ ด้วยคําพูด ความคิด หรือการกระทํา แม้ในการป้องกันตนเอง) และมีความเชื่อในอหิงสาอย่างแนบแน่นอยู่ในจิตใจนั้น จึงทําให้ชาวเชนสมถะพอเพียงและ กลายเป็นนักมังสวิรัติ (ไม่กินเนื้อสัตว์และไม่ดื่มนมจากสัตว์) ตลอดชีวิต และไม่สามารถเป็นคนแล่เนื้อขาย อีกทั้งยังไม่สามารถเป็นกสิกร (ชาวไร่ชาวนา) ชาวประมง ขายผ้าไหม ขายเครื่องหนัง ขายนมสด หรืออาชีพอื่น ๆ ที่มีการทําลายชีวิตได้ ดังนั้นอาชีพที่เลือกทําส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นพระ ครูอาจารย์ ศิลปิน พ่อค้า นักธุรกิจ นักบัญชี นายธนาคาร พยาบาล และแพทย์ ฯลฯ

37 ศาสนาเชนสอนว่า “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบายเท่ากับ…”

(1) ความเจ็บป่วย

(2) ความทุกข์

(3) ความสุข

(4) ความมั่งคั่งสมบูรณ์

ตอบ 1 หน้า 338 หลักธรรมคําสอนของศาสนาเชนที่สําคัญถัดจากอหิงสาก็คือ ความเชื่อแบบเชนในการห้ามตน ซึ่งพวกเชนเป็นนักพรต คนอาจจะร่ำรวยไม่ว่าเพียงไรก็ตาม เขาจะต้องไม่หมกมุ่นกับตัณหาของตน เพราะถือวินัยควบคุมตนเองเป็นสําคัญ “คนมีคุณธรรมย่อมถือความสบาย เท่ากับความเจ็บป่วย” โดยสูตร-กฤต-อันคะ บอกไว้ว่า “คนใจบุญรับประทานน้อย ดื่มน้อย หลับน้อย” สิ่งเหล่านี้ถือเป็นวินัยในการห้ามตนเอง

38 ข้อใดไม่ใช่หลักการดํารงชีวิตที่ศาสนาเชนสอนว่า “คนใจบุญ ควร…”

(1) มีเพศสัมพันธ์น้อย

(2) กินน้อย

(3) ดื่มน้อย

(4) หลับน้อย

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 37 ประกอบ

39 ชาวเชนมีความเชื่อว่า “การตายที่บริสุทธิ์คือ”

(1) เผาตัวตาย

(2) โดดน้ำตาย

(3) อดอาหารตาย

(4) กลั้นลมหายใจตาย

ตอบ 3 หน้า 338, (คําบรรยาย) ชาวเชนมีความเชื่อว่า ความตายที่บริสุทธิ์คือการอดอาหารตายและถือเป็นการบําเพ็ญเพียรเพื่อตัดกิเลสและสะสมบุญ

40 พระพุทธเจ้า และมหาวีระ มีข้อใดไม่เหมือนกัน

(1) แนวปฏิบัติ

(2) ชาติกําเนิด

(3) ชื่อพระชายา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 31 ประกอบ

 

41 ศาสนสถานที่สําคัญของศาสนาอิสลามอยู่ที่เมือง

(1) เยรูซาเลม

(2) เมกกะ

(3) มาดีนะห์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 412, (คําบรรยาย) ศาสนสถานที่สําคัญของศาสนาอิสลาม ได้แก่

1 นครเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล เป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอ

2 นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นที่ตั้งของวิหารหินกาบะห์ มัสยิดบัยตุลเลาะห์

3 เมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นที่ตั้งของมัสยิดมาดีนะห์ มัสยิดอัลนะบะวีย์

42 คดีใดไม่อยู่ในอํานาจหน้าที่การพิจารณาตัดสินของดาโต๊ะยุติธรรม (1) สามีฟ้องหย่าภรรยา

(2) สามีฆ่าภรรยา

(3) สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องแบ่งมรดก

(4) สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องสิทธิเลี้ยงดูลูก

ตอบ 2 หน้า 410 ดาโต๊ะยุติธรรม คือ ข้าราชการฝ่ายตุลาการซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้มีอํานาจและหน้าที่ในการวินิจฉัยและชี้ขาดข้อกฎหมายอิสลามในคดีแพ่งที่เกี่ยวด้วยเรื่องครอบครัวและมรดก (เช่น สามีฟ้องหย่าภรรยา สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องแบ่งมรดก สามีถูกภรรยาฟ้องเรื่องสิทธิดูแลลูก)ของศาลชั้นต้นใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล

43 หลักปฏิบัติที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติ ข้อใดไม่ใช่

(1) ละหมาด

(2) ถือศีลอด

(3) พิธีฮัจญ์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 403 การทําพิธีฮัจญ์ คือ การเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อทํานมัสการบูชาหินกาบะห์ ณ วิหาร โดยถือเป็นภารกิจที่ชาวมุสลิมผู้บรรลุนิติภาวะ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีความสามารถและฐานะพร้อมที่จะทําได้ ควรกระทําอย่างยิ่ง ยกเว้นแต่จะอยู่ในสภาพหรือฐานะที่ไม่สามารถไปได้จริง ๆ เช่น ยากจน มีอาชีพต้องหาเลี้ยง ครอบครัวทุกวันตลอดปี เป็นต้น

44 ผู้ใดไม่ได้ถูกยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด

(1) คนชรามาก

(2) คนป่วย

(3) นักโทษ

(4) สตรีท้องใกล้คลอด

ตอบ 3 หน้า 402, (คําบรรยาย) การถือศีลอดจะถือเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม (30 วัน) และจะเริ่มทําในวันแรกของเดือนที่ 9 แห่งปฏิทินอิสลาม ซึ่งเรียกว่า เดือนรอมาดอนหรือรอมดอน (Ramadan) โดยผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องถือศีลอด ได้แก่ ผู้ป่วย หญิงมีครรภ์ คนชรา ผู้เดินทาง ผู้ที่ยัง ไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้วิกลจริตหรือมีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ (สําหรับผู้ป่วยและผู้เดินทางจะต้องมาถือศีลอดชดเชยในภายหลังเมื่อพ้นภาวะนั้นแล้ว)

45 วันละหมาดสําคัญของชาวมุสลิมที่ควรต้องละหมาดในมัสยิดคือ

(1) วันศุกร์

(2) วันเสาร์

(3) วันอาทิตย์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 401, 412 วันละหมาดสําคัญของชาวมุสลิมที่ควรต้องละหมาดในมัสยิด คือ วันศุกร์ ซึ่งถือเป็นวันพระของชาวมุสลิม โดยการทําละหมาดนี้เป็นหน้าที่ที่ชาวมุสลิมทั้งหญิงชายที่มีอายุ เข้าข่ายที่มีความรู้จักผิดชอบชั่วดี และมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์พึงกระทํา ยกเว้นในขณะที่กําลังมึนเมา มีประจําเดือน เจ็บป่วย หลังคลอดบุตรใหม่ ๆ ไม่ต้องทําละหมาด

46 ผู้นับถือศาสนาอิสลามคนแรกคือของท่านนบีมูฮัมหมัด

(1) มารดา

(2) พี่สาว

(3) ภรรยา

(4) ลูกสาว

ตอบ 3 (คําบรรยาย) มุสลิม (ผู้นับถือศาสนาอิสลาม) คนแรกของโลก คือ นางคาดียะฮ์ (Khadijah)ซึ่งเป็นภรรยาคนแรกของท่านนบีมูฮัมหมัด โดยท่านนบีรักและเคารพภรรยาผู้นี้มาก และ ได้กล่าวถึงว่า “เมื่อข้าพเจ้ายากจน เธอทําให้ข้าพเจ้าร่ำรวยขึ้น เมื่อคนอื่นกล่าวหาว่าข้าพเจ้าพูดเท็จ เธอเท่านั้นที่เชื่อในข้าพเจ้า”

47 การแสวงบุญพิธีฮัจญ์มีข้อห้ามคือ ห้าม…

(1) ต่อสู้ทําร้ายกัน

(2) มีเพศสัมพันธ์

(3) มีจิตคิดร้าย

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 403 การแสวงบุญทําพิธีฮัจญ์นั้น ผู้เข้าพิธีต้องแต่งกายด้วยชุดสีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสะอาด เป็นการแสดงถึงความเสมอภาค ความสามัคคี และความศรัทธาต่อพระเจ้า ของชาวมุสลิมทั่วโลก โดยในระหว่างแสวงบุญนี้ห้ามประพฤติผิดต่าง ๆ ทั้งกาย วาจา ใจ ห้ามมีจิตคิดร้าย ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ห้ามตกแต่งประดับร่างกาย ห้ามต่อสู้ทําร้ายกัน ห้ามมิให้ชาวอาหรับทุกเผ่าสู้รบกัน ฯลฯ

48 เอกลักษณ์ที่รู้จักทั่วไปจนเป็นสัญลักษณ์ของชาวอาหรับ ข้อใดเป็นวัฒนธรรม

(1) อูฐ

(2) พรม

(3) อินทผลัม

(4) ทะเลทราย

ตอบ 2 หน้า 392 393, (คําบรรยาย) เอกลักษณ์ของชาวอาหรับที่รู้จักทั่วไปจนเป็นสัญลักษณ์และเป็นวัฒนธรรมก็คือ “พรม” โดยพรมของชาวอาหรับนั้นมักจะทํามาจากขนสัตว์และเป็นงานที่ทําขึ้นจากมือ ทําให้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมาหลายพันปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวทะเลทราย

49 ผู้นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ

(1) อินเดีย

(2) อิหร่าน

(3) อียิปต์

(4) อิสราเอล

ตอบ 1 หน้า 419, 428 429 ในสมัยโบราณศาสนาโซโรอัสเตอร์เป็นศาสนาประจําชาติของชาวเปอร์เซีย แต่ปัจจุบันประเทศเปอร์เซียกลายเป็นประเทศอิหร่านและนับถือศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาประจําชาติ ทําให้ชาวเปอร์เซียที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาอยู่ในประเทศของตนไม่ได้ต้องอพยพลี้ภัยไปอยู่ในดินแดนต่าง ๆ ที่ใกล้เคียง และส่วนใหญ่อพยพไปตั้งถิ่นฐานรวมกลุ่มกัน อยู่มากเป็นชนกลุ่มน้อยและเรียกตัวเองว่า ชาวปาร์ซี (Parsee หรือ Parsi) ซึ่งในปัจจุบันศาสนิกชนของศาสนาโซโรอัสเตอร์ส่วนใหญ่นั้นตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ในนครบอมเบย์ ประเทศอินเดีย

50 ผู้นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์มีความสัมพันธ์กับ…

(1) นกแร้ง

(2) นกอินทรี

(3) นกเหยี่ยว

(4) นกพิราบ

ตอบ 1 หน้า 425 คติความเชื่อเกี่ยวกับความตายของศาสนาโซโรอัสเตอร์ คือ การห้ามไม่ให้เผาศพห้ามนําศพไปทิ้งน้ำ ห้ามนําศพไปฝังดิน เพราะเชื่อว่าศพนั้นเป็นสิ่งสกปรกซึ่งจะทําให้ไฟ น้ำ และดินที่พวกเขานับถือต้องสกปรก แต่ให้ทําพิธีศพโดยการนําศพไปวางทิ้งไว้บนหอสูง เรียกว่า“หอคอยแห่งความสงบสุข” แล้วปล่อยให้นกแร้งมาจิกกินเป็นอาหาร

51 ศาสนาฮินดูจัดเป็นศาสนาประเภท…

(1) พหุเทวนิยม

(2) เอกเทวนิยม

(3) อเทวนิยม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 260, (คําบรรยาย) ศาสนาฮินดูเป็นศาสนาพหุเทวนิยม คือ นับถือพระเจ้าหลายองค์รวมทั้งนับถือผีสางเทวดามากมาย เชื่อว่ามีเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่มีพลังอํานาจมาก และมีความเชื่อว่า ธรรมชาติต่าง ๆ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจิตวิญญาณที่มีพลังอํานาจแฝงเร้นอยู่ จึงยกย่องให้เป็นเทพเทพีมากมาย

52 ศาสนาพุทธจัดเป็นศาสนาประเภท………..

(1) พหุเทวนิยม

(2) เอกเทวนิยม

(3) อเทวนิยม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 290, (คําบรรยาย) ศาสนาพุทธเป็นศาสนาอเทวนิยม คือ ไม่นับถือบูชาเทพเจ้าเป็นสิ่งสูงสุด(แต่ก็มิได้ปฏิเสธในเรื่องเทพเจ้า เพียงแต่สอนว่าไม่ใช่ทางนําไปสู่การหลุดพ้น) เป็นศาสนาแห่ง การคิดหาเหตุผล มีเหตุปัจจัยปรุงแต่งแล้วจึงเกิดผล ไม่สอนให้ศรัทธาเลื่อมใสอย่างงมงายในเรื่องใด และหลักธรรมคําสอนก็ไม่มีกฏข้อบังคับให้ต้องปฏิบัติ แต่ให้ผู้นับถือเต็มใจปฏิบัติเองโดยอิสรเสรี

53 ศาสนาฮินดูมีเทพเจ้าสูงสุดที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละองค์ ข้อใดไม่ใช่

(1) 3 เนตร

(2) 3 เศียร

(3) 4 พักตร์

(4) 4 กร

ตอบ 2 หน้า 24, 273 – 275 ชาวอินเดียมีวัฒนธรรมความเชื่อว่าเทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดูมี 3 องค์รวมเรียกว่า “ตรีมูรติ” ได้แก่

1 พระพรหม ผู้สร้างทุกสิ่งในจักรวาล พระพรหมมี 4 หน้า (4 พักตร์) โดยมีพระสุรัสวดีเป็นพระมเหสี

2 พระวิษณุ (พระนารายณ์) ผู้รักษาทุกสิ่งในจักรวาล พระวิษณุมี 4 มือ (4 กร) โดยมีพระลักษมีเป็นพระมเหสี

3 พระอิศวร (พระศิวะ) ผู้ทําลายทุกสิ่ง ในจักรวาล พระอิศวรมี 3 ตา (3 เนตร) ซึ่งตาที่สามอยู่ที่หน้าผาก โดยมีพระอุมาเป็นพระมเหสีและมีพระโอรส 2 พระองค์ คือ พระพิฆเนศ และพระขันทกุมาร

54 “โขน” มีความสัมพันธ์กับมหากาพย์…

(1) มหาภารตะยุทธ

(2) อุปนิษัท

(3) รามายณะ

(4) เวทานตะ

ตอบ 3 หน้า 268, (คําบรรยาย) มหากาพย์รามายณะ เป็นเรื่องราวอมตะของวีรบุรุษที่เชื่อว่าเป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์อวตารมาปราบมาร มีความยาวมาก และเป็นวรรณกรรมที่มีอิทธิพล ในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียส่วนใหญ่ ซึ่งได้แปลเป็นภาษาของชาติตนและประพันธ์เป็นวรรณคดี ระดับสูง เช่น ประเทศไทยได้รับเอามหากาพย์รามายณะมาแต่งเป็นคํากลอนเรื่องรามเกียรติ์ และนํามาเล่นเป็นโขน ละคร หนัง หุ่นกระบอก ฯลฯ

55 คัมภีร์ของศาสนาฮินดูที่มีความยาวที่สุดในโลกคือคัมภีร์

(1) พระเวท

(2) มหาภารตะ

(3) อุปนิษัท

(4) เวทานตะ

ตอบ 2 หน้า 269, (คําบรรยาย) คัมภีร์มหาภารตะ (มหาภารตะยุทธ) เป็นคัมภีร์มหากาพย์ (Epic Poetry) ที่ยาวที่สุดของอินเดียและมีความยาวที่สุดในโลก (ประมาณ 1 แสนโศลก) โดยคัมภีร์มหาภารตะนี้มีคัมภีร์ภควัทคีตาแทรกอยู่เป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ด้วย

56 นารายณ์ 10 ปาง ข้อใดไม่ใช่ปางที่พระนารายณ์อวตาร

(1) เสือ

(2) หมูป่า

(3) เต่า

(4) ปลา

ตอบ 1 หน้า 278 – 280, (คําบรรยาย) ชาวฮินดูผู้นับถือนิกายไวษณวะ มีความเชื่อว่า พระนารายณ์(พระวิษณุ) ลงมาจุติยังโลก เพื่อปราบอธรรมและช่วยเหลือมนุษย์ 10 ครั้ง เรียกว่า พระนารายณ์อวตาร 10 ปาง ได้แก่

1 ปางมัตสยา (ปลา)

2 ปางกูรมะ (เต่า)

3 ปางวราหะ (หมูป่า)

4 ปางนรสิงห์ (ครึ่งคนครึ่งสิงโต)

5 ปางวามนะ (คนค่อม)

6 ปางภาราสูราม (พราหมณ์)

7 ปางทศราชาราม (พระราม)

8 ปางกฤษณะ (พระกฤษณะ)

9 ปางพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้า)

10 ปางกัลกี (พระกัลกี หรือพระศรีอริยเมตไตรย)

57 ปาง “นรสิงห์” คือ ครึ่งและครึ่ง

(1) นาค-สิงโต

(2) นก-สิงโต

(3) คน-สิงโต

(4) วานร-สิงโต

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ

58 ข้อใดไม่อยู่ในนิกายศักติ

(1) พระพิฆเนศ

(2) พระอุมาเทวี

(3) พระลักษมีเทพี

(4) พระแม่คงคา

ตอบ 1 หน้า 281 นิกายศักติ คือ นิกายที่นับถือเทพี (เทพเจ้าที่เป็นหญิง) ซึ่งมีลักษณะ 2 แบบ คือ

1 เป็นเทพมารดา (ภาคฝ่ายดี) ให้ความรัก เมตตา อบอุ่น ฯลฯ เช่น พระสุรัสวดี (เทพแห่งความงาม ความเจริญ ศิลปะและปัญญา), พระลักษมี (เทพีแห่งความสุขในชีวิตสมรส ความเจริญร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์พูนสุข และความงาม), พระอุมาเทวี (เทพีแห่งมารดาแห่งการให้การช่วยเหลือ) รวมทั้งพระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ฯลฯ

2 เป็นเทพแห่งการลงโทษผู้ที่ทําชั่ว (ภาคฝ่ายร้าย) ได้แก่ พระแม่ทุรคา และพระแม่กาลี

59 ข้อใดไม่อยู่ในมหายัญของศาสนาฮินดู

(1) ควาย

(2) โค

(3) คน

(4) ช้าง

ตอบ 1 หน้า 283 “มหายัญ” คือ การบูชายัญเทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู โดยมีการบูชายัญด้วยองค์ประกอบ 4 อย่าง คือ

1 อัศวเมธะ คือ การฆ่าม้าบูชายัญ

2 โคเมธะ คือ การฆ่าโคบูชายัญ

3 ราชสูยะ คือ การฆ่าช้างบูชายัญ

4 นรเมธะ คือ การฆ่าคนบูชายัญ

60 ผู้แสวงบุญในวันศิวาราตรีจะปฏิบัติ ได้แก่

(1) อาบน้ำคงคาล้างบาป

(2) กินมังสวิรัติ

(3) สวดมนต์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 26, 284 วันศิวาราตรี เป็นวันที่ชาวฮินดูทําพิธีบวงสรวงบูชาและทําพลีกรรมแก่พระศิวะโดยก่อนจะถึงวันทําพิธีชาวฮินดูจะเริ่มถือศีลกินมังสวิรัติล่วงหน้าก่อน 2 – 3 วัน ทั้งนี้เมื่อถึง คืนบูชาพระศิวะ ชาวฮินดูจะพากันมาที่วิหารเทวาลัยของพระศิวะและนําข้าวตอกดอกไม้ต่าง ๆที่เตรียมมาวางตรงรูปเคารพของพระศิวะและศิวลึงค์ แล้วเริ่มต้นร้องเพลงของศาสนาที่มี เนื้อความสรรเสริญพระศิวะ สวดมนต์ และอ่านคัมภีร์ นอกจากนี้ชาวฮินดูยังไปอาบน้ำล้างบาปในแม่น้ำคงคา โดยมีความเชื่อว่าจะศักดิ์สิทธิ์ที่สุดถ้าหากได้อาบในวันศิวาราตรีนี้ ไม่มี

 

61 “ปัสสาวะของ…” ทําให้วิญญาณบริสุทธิ์ตามความเชื่อของชาวฮินดู

(1) ช้าง

(2) ม้า

(3) วัว

(4) ควาย

ตอบ 3 หน้า 288 ชาวฮินดูเชื่อว่า วัว (โค) เป็นตัวแทนของเทพเจ้าทั้งปวง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากวัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปัสสาวะของวัวทําให้วิญญาณและร่างกายมีความบริสุทธิ์ ตามถนนและในเมือง ต่าง ๆ ชาวฮินดูวรรณะต่ําจะเดินตามวัวเพื่อเอาอุจจาระของวัวด้วยความเคารพ และจะเก็บไปผสมดินฉาบฝาผนังบ้าน นอกจากนี้ยังถือว่าการให้อาหารวัวเป็นคุณธรรมสูง

62 “ฆ่า ” บาปเท่ากับฆ่าพราหมณ์ตามความเชื่อของชาวฮินดู

(1) ช้าง

(2) ม้า

(3) วัว

(4) ควาย

ตอบ 3 หน้า 288 ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าพระพรหมสร้างวัวและพราหมณ์ในวันเดียวกันจึงมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน ดังนั้นการฆ่าวัวจึงบาปเท่า ๆ กับการฆ่าพราหมณ์ และการรับประทานเนื้อวัวนั้น ชาวฮินดูถือว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายยิ่งกว่าการรับประทานเนื้อมนุษย์ วัวจึงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวฮินดู และทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากวัวล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

63 เทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดูคือ

(1) ตรีมูรติ

(2) พระพรหม

(3) พระศิวะ

(4) พระนารายณ์

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 53 ประกอบ

64 พาหนะของพระพรหมคือ

(1) หงส์

(2) นกยูง

(3) มังกร

(4) ไก่ฟ้า

ตอบ 1 หน้า 288 289 สัตว์ที่เป็นพาหนะของเทพเจ้าของศาสนาฮินดู ได้แก่ วัว ชื่อนนทิเป็นพาหนะของพระศิวะ, พญาครุฑและพญานาคเป็นพาหนะของพระวิษณุ (พระนารายณ์), หงส์เป็นพาหนะของพระพรหม, นกยูงเป็นพาหนะของพระสุรัสวดี, หนูเป็นพาหนะของ พระพิฆเนศ, สิงโตเป็นพาหนะของพระแม่ทุรคาและพระแม่กาลี, ควาย (กระบือ) เป็นพาหนะ ของพญายม (พญามัจจุราช) และช้างเป็นพาหนะของพระอินทร์ ซึ่งสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู

65 พาหนะของพระศิวะคือ

(1) ช้าง

(2) ม้า

(3) วัว

(4) ควาย

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 64 ประกอบ

66 พาหนะของพญามัจจุราชคือ

(1) ช้าง

(2) ม้า

(3) วัว

(4) ควาย

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 64 ประกอบ

67 พาหนะของพระนารายณ์ ข้อใดไม่ใช่

(1) พญาครุฑ

(2) พญานาค

(3) พญาวานร

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 64 ประกอบ

68 พุทธกิจ พระพุทธเจ้าทรงเทศนาโปรดเหล่าเทวดา เวลา…..

(1) เย็น (พระอาทิตย์จะตกดิน)

(2) หัวค่ำ (ก่อนเที่ยงคืน)

(3) ตึก (หลังเที่ยงคืน)

(4) เช้ามืด (ใกล้สว่าง)

ตอบ 3 หน้า 294 295, (คําบรรยาย) พุทธกิจประจําวัน 5 เวลาของพระพุทธเจ้า มีดังนี้

1 เวลาเช้า แสดงธรรมโปรดสรรพสัตว์ซึ่งได้กําหนดรู้ด้วยพระญาณ (เช่น ทรงแสดงธรรมโปรด องคุลีมาล)

2 เวลาเย็น แสดงธรรมโปรดประชาชน

3 เวลาค่ำ (ก่อนเที่ยงคืน) แสดงธรรมโปรดเหล่าภิกษุ

4 เวลาดึก (หลังเที่ยงคืน) แสดงธรรมและตอบปัญหาธรรมโปรดเหล่าเทวดา

5 เวลาจวนสว่าง (ใกล้รุ่ง) ตรวจดูว่าควรเสด็จไปโปรดสรรพสัตว์ใด

69 หัวใจของพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญา เรียกว่า

(1) ไตรสิกขา

(2) ไตรลักษณ์

(3) ไตรสรณคมณ์

(4) ไตรภูมิ

ตอบ 1 หน้า 300 – 302 อริยมรรค 8 ประการหรือองค์ประกอบทั้ง 8 ของมรรคเมื่อย่อลงแล้วเรียกว่า “ไตรสิกขา” คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ดังนี้ 1 สัมมาทิฐิ และสัมมาสังกัปปะ คือ ปัญญา

2 สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ คือ ศีล

3 สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ คือ สมาธิ

70 “กวนอิม” แปลว่า ผู้….. ของสรรพสัตว์

(1) เห็นความทุกข์ยาก

(2) ได้ยินเสียงอ้อนวอน

(3) อวยพรแก่จิตวิญญาณ

(4) เป็นมิ่งขวัญศรัทธา

ตอบ 2 หน้า 307 พุทธศาสนานิกายมหายานในจีนจะนับถือศรัทธาพระโพธิสัตว์เด่นกว่าพระพุทธเจ้าโดยเรียกชื่อพระโพธิสัตว์ว่า “พระอวโลกิเตศวร” ซึ่งมี 6 ปาง โดยปางสําคัญที่ชาวพุทธมหายาน นับถือมากที่สุด คือ ปางที่เป็นพระกวนอิม ซึ่ง “กวนอิม” แปลว่า “ผู้ได้ยินเสียง” อันหมายถึง ผู้ได้ยินเสียงสวดอ้อนวอนจากสัตว์โลก

71 พระสงฆ์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยอยู่ในนิกาย

(1) มหานิกาย

(2) ธรรมยุตินิกาย

(3) มหายาน

(4) ลังกาวงศ์

ตอบ 1 หน้า 304 305, (คําบรรยาย) พระพุทธศาสนาแบ่งออกเป็น 2 นิกายที่สําคัญ คือ

1 นิกายหินยาน (เถรวาท) ยึดมั่นแน่นแฟ้นในหลักคําสอนของพระพุทธเจ้าและพระวินัย โดยแบ่งเป็นนิกายย่อย ๆ เช่น มหานิกาย (เป็นนิกายของวัดและพระสงฆ์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย) ธรรมยุตินิกาย นิกายลังกาวงศ์ ฯลฯ นับถือกันในศรีลังกา ไทย มอญ พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น

2 นิกายมหายาน (อาจริยวาทหรืออุตรนิกาย) มีการปรับปรุงคําสอนและพระวินัยให้เหมาะกับบุคคลและสภาพแวดล้อม โดยแบ่งเป็นนิกายย่อย ๆ เช่น นิกายเซน นิกายสุขาวดี ฯลฯ

72 สมเด็จพระสังฆราชของไทยองค์ต่อไปเป็นองค์ที่

(1) 20

(2) 22

(3) 9

(4) 19

ตอบ 1 (ความรู้ทั่วไป) สมเด็จพระสังฆราชของไทยองค์ต่อไปเป็นองค์ที่ 20 ซึ่งในปัจจุบันสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) ดํารงตําแหน่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมโดยสมณศักดิ์ และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) สังกัดพุทธศาสนามหานิกาย

73 ศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกอยู่ที่ประเทศ

(1) ศรีลังกา

(2) ไทย

(3) พม่า

(4) อินเดีย

ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) ปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนารวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยได้มีการจัดตั้งสํานักงานองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2508 นอกจากนี้ยังมีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจังทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย

74 ชนชาติที่พระเจ้าเลือกให้รู้จักนับถือพระเจ้าเป็นชาติแรกคือ

(1) ชาวอิสราเอล

(2) ชาวยิว

(3) ชาวฮิบรู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 368 369, (คําบรรยาย) อับราฮัมได้ให้คํามั่นสัญญากับพระเจ้าว่า ลูกชายชาวอิสราเอล(ชาวยิวหรือชาวฮิบรู) ทุกคนต้องทําการขริบปลายอวัยวะเพศ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่ยืนยันว่า ชนชาติอิสราเอลเป็นชนชาติแรกที่พระเจ้าทรงเลือก (The Chosen People) และยังถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญากับพระเจ้า

75 ศาสนายูดาห์มีอายุยาวนานกว่า 4,000 ปี และมีผู้นับถือจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกับ….

(1) อียิปต์โบราณ

(2) กรีกโบราณ

(3) พราหมณ์-ฮินดู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 359 ศาสนายูดาห์ เป็นศาสนาประจําชาติของชนชาติอิสราเอล และถือเป็นศาสนาที่สําคัญศาสนาหนึ่งของโลก เพราะเป็นศาสนาที่มีอายุยืนยาวนานกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีอายุใกล้เคียงกับ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และยังมีผู้นับถือสืบต่อมาอย่างไม่ขาดสายจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกับศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (ส่วนศาสนาอียิปต์โบราณและกรีกโบราณเป็นศาสนาที่ตายแล้ว)

76 พระเจ้าประทานพรให้ชาวอิสราเอล ว่า…..

(1) ให้มีมานะอดทนดุจมดในทะเลทราย

(2) ให้มีลูกหลานมากมายดุจเม็ดทรายในทะเลทราย

(3) ให้พบขุมทรัพย์มากมายในทะเลทราย

(4) ให้กล้าหาญ

ตอบ 2 หน้า 361 พระเจ้าประทานพรให้แก่อับราฮัมและลูกหลานชนชาติอิสราเอลทั้งปวงว่าชาวอิสราเอลทั้งหลายจะอยู่ทั่วไปในโลกดุจดวงดาวบนท้องฟ้า ลูกหลานอิสราเอลจะมีมากมาย ดุจเม็ดทรายในทะเลทราย ชาวอิสราเอลจะมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดที่สุด และที่สําคัญจะประทาน “ดินแดนแห่งสัญญา” (The Promised Land) ให้ชาวอิสราเอลได้อยู่อาศัยสร้างบ้านเมืองที่ถาวรและอุดมสมบูรณ์

77 “โมเสส” แปลว่า ผู้รอดตายจาก……

(1) แผ่นดินดูด

(2) แม่น้ำ

(3) ไฟไหม้ป่า

(4) ลมพายุ

ตอบ 2 หน้า 362 โมเสสถือกําเนิดจากหญิงชาวยิวที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลนักบวชของศาสนายูดาห์เมื่อคลอดนางเกรงว่าลูกจะถูกฆ่าจึงแอบซ่อนบุตรชายไว้ในตะกร้าสานด้วยหวาย แล้วลอยตะกร้า ไปในแม่น้ําไนล์ ต่อมาพระธิดาของฟาโรห์แห่งอียิปต์พบเข้าจึงได้นําทารกชายนั้นมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมและให้ชื่อว่า “โมเสส” ซึ่งแปลว่า ผู้รอดตายจากน้ำ

78 บัญญัติ 10 ประการ วันที่ 7 พระเจ้าให้ …..

(1) หยุดทํางาน

(2) เที่ยวนอกบ้านหย่อนใจ

(3) ซ่อมและทําความสะอาดบ้าน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 364, 367, (คําบรรยาย) วันเสาร์ถือเป็นวันพระของศาสนายูดาห์ เรียกว่า วันแซบบาธ – หรือวันซะบาโต คือวันที่พระเจ้าทรงสร้างโลกและจักรวาลเสร็จ และทรงหยุดพักผ่อนในวันที่ 7 โดยวันแซบบาธเป็นวันที่ชาวอิสราเอลทั้งหลายจะหยุดทํางาน และการทํากิจการต่าง ๆ ทุกชนิด แม้แต่การก่อไฟในเตาก็งดเว้น เพื่อบูชาพระเจ้าตามที่ปรากฏในบัญญัติ 10 ประการ คือ ห้ามทําการสิ่งใดในวันที่ 7 และให้ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ด้วย

79 “วันที่ 7” ในบัญญัติ 10 ประการ คือวัน

(1) ศุกร์

(2) เสาร์

(3) อาทิตย์

(4) วันที่ 7 ของเดือน

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 78 ประกอบ

80 ชาวอิสราเอลที่เคร่งจะไม่กิน

(1) หมูหัน-หมูย่างทั้งตัว

(2) ต้มยํากุ้งมังกร

(3) ต้มเครื่องในหมูและเลือด

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 370, (คําบรรยาย) ศาสนายูดาห์ มีข้อห้ามในเรื่องการรับประทานอาหาร คืออาหารที่รับประทานได้ประเภทเนื้อสัตว์ต้องเป็นสัตว์ประเภทเคี้ยวอาหาร เคี้ยวเอื้อง ถ้าเป็นปลาต้องเป็น ปลาที่มีครีบและหาง (เช่น ปลาแซลมอน ปลาช่อน) ถ้าเป็นสัตว์ปีกต้องฆ่าตามวิธีที่กําหนดไว้ และเนื้อสัตว์ที่ฆ่าต้องเอาเลือดออกให้หมด นอกจากนี้อับราฮัมยังห้ามชาวอิสราเอลไม่ให้กิน เนื้อหมู เนื้อหมา ปลาหมึก ปลาไหล และกุ้ง เพราะเป็นสัตว์ที่กินของสกปรก

81 สัญลักษณ์ของศาสนายูดาห์ คือ เชิงเทียน ……

(1) 2 ก้าน

(2) 3 ก้าน

(3) 5 ก้าน

(4) 7 ก้าน

ตอบ 4 หน้า 371 สัญลักษณ์ของศาสนายูดาห์ คือ เชิงเทียน ซึ่งมีที่ตั้งเทียน 7 ก้าน (เล่ม) เรียงกัน

82 ศาสนาใดยอมรับศรัทธาบัญญัติ 10 ประการ

(1) ยูดาห์

(2) คริสต์

(3) อิสลาม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 364, 366, (คําบรรยาย) บัญญัติ 10 ประการ เป็นหลักธรรมคําสอนสูงสุดที่ชาวอิสราเอลทั้งหมดถือปฏิบัติ ซึ่งปรากฏอยู่ในคัมภีร์โทราห์ของศาสนายูดาห์ นอกจากนี้ยังปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ และคัมภีร์อัล-กุรอาน ของศาสนาอิสลามด้วย

83 ศาสนายูดาห์มีอิทธิพลต่อการดํารงชีวิตของชาวอิสราเอล เรื่อง ….

(1) อาหารการกิน

(2) ชีวิตคู่-เพศสัมพันธ์

(3) การก่อตั้งประเทศ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 364, 370, (คําบรรยาย) ศาสนายูดาห์มีอิทธิพลต่อการดํารงชีวิตของชาวอิสราเอล ได้แก่

1 เรื่องอาหารการกิน ซึ่งเป็นข้อห้ามทางศาสนาที่มีความสําคัญต่อชาวอิสราเอลมาก

2 เรื่องชีวิตคู่-เพศสัมพันธ์ เช่น การห้ามประพฤติผิดประเวณี ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักธรรมคําสอนสูงสุดในบัญญัติ 10 ประการที่พระเจ้าพระทานพรแก่ชาวอิสราเอล

3 เรื่องการก่อตั้งประเทศ ซึ่งชาวอิสราเอลสามารถดํารงรักษาวัฒนธรรมของชนชาติตนไว้ได้จนสามารถก่อตั้งเป็นประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน 84 พระเยซูกล่าวว่าเป็น….จึงถูกโรมันลงโทษตรึงกางเขน

(1) Son of God

(2) King of the Kings

(3) Messiah

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 372, 375 – 379, 385 พระเยซูทรงประกาศว่า พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้า (Son of God) เป็นผู้มาไถ่บาปช่วยเหลือชาวยิวและมวลมนุษย์หรือพระคริสต์ (Christ) หรือพระเมสสิอาห์ (Messiah หรือพระผู้ช่วยให้รอด) และพระองค์คือกษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งปวงในโลก (King of the Kings) ซึ่งคําประกาศดังกล่าวไม่ตรงกับที่ชาวยิวหวังไว้ เพราะพระองค์เป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ใช่กษัตริย์จริง ๆ ไม่มีกองทัพอันเกรียงไกรแล้วจะปลดปล่อยช่วยเหลือชาวยิวได้อย่างไร ทําให้ชาวยิวบางส่วนไม่เชื่อและไม่พอใจในพระองค์ จึงได้วางแผนใส่ร้ายและยุยงให้ผู้สําเร็จราชการโรมันจับพระองค์มาลงโทษด้วยการตรึงกางเขน

85 พระเยซูกล่าวว่า “คนสบายไม่ต้องการหมอ แต่หมอจําเป็นสําหรับคนป่วย พระเยซูมาเพื่อ…”

(1) คนป่วย

(2) คนสบาย

(3) คนบาป

(4) คนบุญ

ตอบ 3 หน้า 376 พระเยซูเสด็จไปในท่ามกลางคนจนและคนต่ำต้อย โดยรักษาคนเจ็บป่วย ปลอบโยนผู้โศกเศร้า และนําความหวังมาสู่จิตใจของคนผู้สํานึกผิด และเมื่อพระเยซูถูกต่อว่าที่มาคลุกคลี กับคนบาป พระเยซูกล่าวว่า “บุคคลผู้สบายดีก็ไม่ต้องการหมอ แต่หมอจําเป็นสําหรับผู้เจ็บป่วย ข้าพเจ้ามาไม่ใช่เพื่อคนบุญ แต่มาเพื่อคนบาป เพื่อจะได้สํานึกผิด”

86 พระเยซูกล่าวว่า “จงทําดีกับคนที่……….

(1) รักเรา

(2) ช่วยเหลือเรา

(3) เกลียดเรา

(4) ไม่รู้จักเรา

ตอบ 3 หน้า 377 เทศนาของพระเยซู มีข้อความตอนหนึ่งว่า “ จงรักศัตรูของท่าน จงทําดีแก่คนที่เกลียดท่าน จงอวยพรแก่ผู้ที่ด่าท่าน และขอพรให้ผู้ที่ประทุษร้ายท่าน…”

87 พระเยซูกล่าวว่า “จง…….แก่คนที่ด่าท่าน”

(1) อวยพร

(2) ประณาม

(3) ไม่โต้ตอบ

(4) นิ่งเฉย

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 86 ประกอบ

88 ชาวคริสต์จะให้ “ไข่ทาสีแดง” แก่กันในวัน

(1) คริสต์มาส

(2) อีสเตอร์

(3) รับศีลล้างบาป

(4) วันปีใหม่

ตอบ 2 หน้า 379 – 381, (คําบรรยาย) พระเยซูทรงสั่งว่าพระองค์จะสิ้นชีวิตในวันศุกร์ และจะฟื้นคืนชีพในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่สามนับจากวันสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้ชาวคริสต์จะมีศาสนพิธี ที่ฉลองกันอย่างใหญ่โต เพื่อระลึกถึงวันที่พระเยซูฟื้นคืนชีพนี้ เรียกว่า วันอีสเตอร์ (Easter)โดยจะมีของขวัญที่นิยมมอบให้กันในวันนี้ คือ ไข่ทาสีแดง อันถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการเกิด

89 สันตะปาปา (Pope) คนปัจจุบันคือ

(1) จอห์น

(2) เจสัน

(3) ฟรานซิส

(4) แฟรงค์

ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) พระสันตะปาปา (Pope) องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส(Francis) เป็นพระสันตะปาปาองค์ที่ 266 มีพระนามเดิมว่า คอร์เค มาเรียว เบร์โกเกลียว ซึ่งนับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาและคณะเยสุอิต

90 พระเยซูนับถือศาสนา…

(1) ยูดาห์

(2) คริสต์

(3) โซโรอัสเตอร์

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 หน้า 372 ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่สืบเนื่องมาจากศาสนายูดาห์ โดยศาสดาผู้ก่อตั้งศาสนาคริสต์ คือ พระเยซู ก็เป็นชาวอิสราเอลและนับถือศาสนายูดาห์มาก่อน

91 ศาสดาของศาสนาใดไม่ใช่นักบวช

(1) ซิกข์

(2) คริสต์

(3) อิสลาม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (คําบรรยาย) ศาสดาที่ไม่ใช่นักบวช ได้แก่

1 คุรุนานัก แห่งศาสนาซิกข์

2 พระเยซู แห่งศาสนาคริสต์

3 นบีมูฮัมหมัด แห่งศาสนาอิสลาม

4 อับราฮัม แห่งศาสนายูดาห์

92 ศาสนาที่ไม่ปรากฏผู้ก่อตั้งได้แก่ศาสนา

(1) ฮินดู

(2) อียิปต์โบราณ

(3) กรีกโบราณ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 227, 260, (คําบรรยาย) ศาสนาฮินดู อียิปต์โบราณ กรีกโบราณ อินคา และชินโต เป็นศาสนาที่มีอายุเก่าแก่มาก ไม่สามารถสืบค้นหาหลักฐานได้ว่าใครเป็นผู้ก่อตั้ง จึงไม่ปรากฏว่า มีศาสดา คงมีแต่องค์ประกอบอื่น ๆ ทางศาสนา เช่น ลัทธิความเชื่อ หลักปฏิบัติ กฎเกณฑ์ พิธีกรรม คําสวด จารีตประเพณีทางศาสนา และสถานสําคัญทางศาสนาที่ใช้ประกอบพิธีเท่านั้น

93 ศาสนาใดกําหนดว่ามนุษย์เกิดมาไม่เท่าเทียมกัน

(1) ฮินดู

(2) พุทธ

(3) คริสต์

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 273 274 ศาสนาฮินดู เป็นศาสนาที่กําหนดว่ามนุษย์เกิดมาไม่เท่าเทียมกัน กล่าวคือ ศาสนาฮินดูมีความเชื่อเรื่องพระพรหมว่าเป็นผู้สร้างจักรวาลและโลก และทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ทรงสร้างมนุษย์จากส่วนต่าง ๆ ทําให้มนุษย์มีชั้นวรรณะ รวมทั้งยังเป็นผู้ลิขิตชะตาชีวิตของมนุษย์ ให้เกิดมามีฐานะรูปร่างหน้าตาต่างกันไป

94 ศาสนาใดนับถือพระเจ้าองค์เดียวซึ่งสร้างโลกและมนุษย์

(1) ศาสนายูดาห์

(2) ศาสนาคริสต์

(3) ศาสนาอิสลาม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 359 360 ศาสนายูดาห์เป็นรากฐานของศาสนาคริสต์และอิสลาม กล่าวคือ ทั้งศาสนาคริสต์และอิสลามยอมรับนับถือและรับรองคัมภีร์ของศาสนายูดาห์ นอกจากนี้ ศาสนาอิสลามยังนับถือว่า “อับราฮัม” บรรพบุรุษของชาวอิสราเอลผู้นับถือพระเจ้าอย่างเคร่งครัด เป็นศาสดาพยากรณ์ของศาสนาอิสลามด้วย ซึ่งทั้งศาสนายูดาห์ คริสต์ และอิสลาม ต่างก็นับถือ พระเจ้าองค์เดียวกันที่เป็นผู้สร้างโลก สร้างมนุษย์ และทุกสิ่งทุกอย่างทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในโลก

95 “แพะรับบาป” เป็นวัฒนธรรมความเชื่อของชาว

(1) ชาวกรีก

(2) ชาวอิสราเอล

(3) ชาวโรมัน

(4) ชาวอียิปต์

ตอบ 2 หน้า 367 – 368 เทศกาลยมคัปปูร์ (Yom-Kippur) เป็นเทศกาลที่ชาวอิสราเอลทําพิธีสํานึกบาปหรือเรียกว่า 10 วันแห่งการล้างบาป โดยชาวอิสราเอลจะปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดทําการอดอาหาร ในตอนกลางวัน ทําจิตใจให้สงบระงับ ไม่ทําบาปใดเลย และในการทําพิธีสํานึกบาปนี้ ชาวอิสราเอล จะทําพิธีเป็นว่าได้ยกบาปไปไว้ที่แพะ (ตัวผู้) ให้แพะรับบาปแล้วไล่แพะเข้าป่าพาเอาบาปของชาวอิสราเอลไปเสีย

96 คนแรกที่บอกว่าพระเจ้าให้ชายผู้นับถือพระเจ้าขริบปลายอวัยวะเพศคือ

(1) อับราฮัม

(2) โมเสส

(3) เยซู

(4) นบีมูฮัมหมัด

ตอบ 1 หน้า 361, 368 369, (คําบรรยาย) อับราฮัมบรรพบุรุษของชาวอิสราเอลเป็นคนแรกที่ประกาศให้ชาวอิสราเอลทําดังนี้

1 ให้ชาวอิสราเอลทั้งปวงศรัทธานับถือในพระเจ้าองค์เดียว

2 ให้ชายอิสราเอลทุกคนต้องทําการขริบปลายอวัยวะเพศ โดยอับราฮัมถือเป็นผู้ที่ขริบปลายอวัยวะเพศคนแรก

3 ให้ชาวอิสราเอลถือศีลอด โดยให้ถือศีลอดเป็นเวลา 10 วัน

97 ศาสนาใดที่สามารถบรรลุธรรมสูงสุดได้ทุกเพศทุกวัย

(1) ฮินดู

(2) พุทเธ

(3) เชน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 312 313, (คําบรรยาย) พุทธศาสนา เป็นศาสนาแรกที่เชื่อว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันจะต่างกันก็ตรงกรรมที่สั่งสมมา ดังนั้นจึงปฏิเสธเรื่องการแบ่งชั้นวรรณะของมนุษย์ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสมมุติทั้งสิ้น คุณภาพของคนอยู่ที่ความดี มนุษย์ทุกคนไม่ว่าเพศใดอายุเท่าใด เกิดในชาติตระกูลใด มีฐานะยากดีมีจนต่างกันอย่างไร ก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงสุดได้

98 รัฐบาลประกาศให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติ

(1) มาฆบูชา

(2) อาสาฬหบูชา

(3) วิสาขบูชา

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ความรู้ทั่วไป) ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชาเป็น “วันกตัญญูแห่งชาติ” ทั้งนี้ในปัจจุบันวันมาฆบูชาได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย โดยพุทธศาสนิกชนทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์ และประชาชนประกอบพิธีต่าง ๆ เช่นการตักบาตร การฟังธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น

99 ผู้นับถือศาสนาใดไม่กินเนื้อหมู

(1) ยูดาห์

(2) อิสลาม

(3) เชน

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 404 405 ข้อห้ามในศาสนาอิสลามที่ชาวมุสลิมต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ได้แก่

1 ห้ามกินสัตว์ที่ตายเอง สัตว์ที่มีโรค ห้ามกินหมู และห้ามกินสัตว์ที่ถูกนําไปเซ่นไหว้ สัตว์ที่ถูกรัดคอให้ตายโดยที่มิได้เชือดให้เลือดไหล

2 ห้ามฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด รวมทั้งตัวเองและลูกในท้อง

3 ห้ามบริโภคอาหารที่หามาได้โดยไม่ชอบธรรม ฯลฯ

(ดูคําอธิบายข้อ 36 และข้อ 80 ประกอบ)

100 โทรศัพท์มือถือที่ถูกที่สุดในโลกราคา 130 บาท ประเทศใดผลิตขาย

(1) อิสราเอล

(2) อินเดีย

(3) จีน

(4) เกาหลีเหนือ

ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 อินเดียได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก คือ “ฟรีดอม 251” ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ริงกิง เบลล์ ถูกตั้งราคาจําหน่าย เอาไว้เพียง 251 รูปี หรือ 130 บาท

 

PHI1003 ปรัชญาเบื้องต้น 1/2561

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2561

ข้อสอบกระบวนวิชา PHI 1003 ปรัชญาเบื้องต้น

คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1 คําตอบจากข้อ 10 สัมพันธ์กับข้อใด

(1) ปรัชญากรีกโบราณ

(2) ปรัชญาตะวันตกสมัยกลาง

(3) ปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่

(4) ปรัชญาตะวันตกร่วมสมัย

ตอบ 1 หน้า 12 – 13, (คําบรรยาย) ทฤษฎีทวินิยมของปรัชญากรีกโบราณ เชื่อว่า สสารและจิต มีอยู่จริง โดยทฤษฎีนี้เห็นว่าสารเบื้องต้นที่มีลักษณะเป็นสสาร (Material) และสารเบื้องต้นที่มี ลักษณะเป็นจิต (Spiritual) นั้นเป็นความเป็นจริงและซ่อนอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ทั้งหลายของโลก และยังเป็นสารเบื้องต้นที่คู่กันมาตั้งแต่เริ่มแรก

2 แนวคิดใดตอบคําถามเรื่องความเป็นจริงของโลกและมนุษย์

(1) สสารนิยม, จิตนิยม, ธรรมชาตินิยม

(2) จิตนิยม, มนุษยนิยม, ธรรมชาตินิยม

(3) จิตนิยม, สสารนิยม, มนุษยนิยม

(4) สสารนิยม, จิตนิยม, เหตุผลนิยม

ตอบ 1 หน้า 25, (คําบรรยาย) แนวคิดที่ตอบคําถามเรื่องความเป็นจริงของโลกและมนุษย์ มีอยู่ 3 ทัศนะคือ สสารนิยม จิตนิยม และธรรมชาตินิยม

3 แนวคิดที่อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธรรมชาตินั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงคล้ายการทํางานของเครื่องจักรเรียกว่าเป็นแนวคิดของ

(1) จักรกลนิยม / ธรรมชาตินิยม

(2) จักรกลนิยม / สสารนิยม

(3) นวนิยม / ธรรมชาตินิยม

(4) นวนิยม / สสารนิยม

ตอบ 2 หน้า 32, (คําบรรยาย) แนวคิดของสสารนิยม เห็นว่า จักรวาลอยู่ในระบบจักรกล โดยเชื่อว่าการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในธรรมชาตินั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงคล้ายการทํางานของเครื่องจักร หรืออาจเรียกว่า “จักรกลนิยม”

4 ใครน่าจะมีแนวคิดแบบสสารนิยม

(1) แจ๋วเชื่อว่าทําดีย่อมได้ดี เพราะเป็นสัจธรรม

(2) เจ๋งอุทิศตนเพื่อความดี เพราะเป็นการสร้างบารมีให้กับตัวเอง

(3) จืดไม่เชื่อเรื่องการทําบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 25, (คําบรรยาย) สสารนิยม เชื่อว่า สสารหรือวัตถุเท่านั้นที่เป็นจริง โดยมนุษย์จะแสวงหาความสุขทางกายเท่านั้น และปฏิเสธชีวิตหลังการตาย หรืออาจกล่าวได้ว่าการตายก็คือการสิ้นสุดของมนุษย์นั้นเอง

5 ทฤษฎีทอนลง หมายถึง ซึ่งเป็นแนวคิดของลัทธิ

(1) วัตถุไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสิ่งสมมติ / สสารนิยม

(2) คุณค่าไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสิ่งสมมติ / สสารนิยม

(3) วัตถุสามารถแยกย่อยเป็นหน่วยย่อยสุดท้าย / ธรรมชาตินิยม

(4) วัตถุสามารถแยกย่อยเป็นหน่วยย่อยสุดท้าย / สสารนิยม

ตอบ 4 หน้า 32, (คําบรรยาย) “ทฤษฎีทอนลง” ของลัทธิสสารนิยม หมายถึง วัตถุหรือสิ่ง ๆ หนึ่งสามารถแยกได้เป็นหน่วยย่อยสุดท้ายที่เล็กที่สุด นั่นคือ การทอนสิ่ง ๆ หนึ่งลงเป็นเพียงที่รวมหน่วยย่อย เช่น คน ๆ หนึ่ง (หน่วยรวม) คือกลุ่มของเซลล์ (หน่วยย่อย) เซลล์หนึ่ง ๆ (หน่วยรวม) ก็คือกลุ่มของโมเลกุล หลายอัน (หน่วยย่อย) โมเลกุลหนึ่ง ๆ (หน่วยรวม) คือกลุ่มของอะตอมหลายอะตอม (หน่วยย่อย)อะตอมหนึ่ง ๆ (หน่วยรวม) ก็คือกลุ่มของอิเล็กตรอน โปรตอน และนิวตรอน เป็นต้น

6 นักสสารนิยมมีทัศนะเรื่องการดับของจิตอย่างไร

(1) จิตดับเมื่อร่างกายตาย

(2) ไม่มีจิต มีแต่ผลจากการทํางานอันซับซ้อนของสมองเท่านั้น

(3) จิตไม่ดับแม้ร่างกายตาย

(4) จิตดับเมื่อหมดกิเลส

ตอบ 2 หน้า 35, (คําบรรยาย) สสารนิยม เชื่อว่า ไม่มีจิตวิญญาณ มีแต่ผลจากการทํางานอันซับซ้อนของสมองเท่านั้น ซึ่งสมองนั้นเป็นสสาร คือ เมื่อวิเคราะห์ออกมาแล้วก็จะออกมาเป็นโมเลกุล และเมื่อแยกต่อไปก็จะเป็นอะตอม อิเล็กตรอน โปรตอน และอื่น ๆ ต่อไป ในโลกนี้ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับจะมีก็แต่การรวมตัวและการแยกตัวของสิ่งอันเป็นหน่วยเดิมเท่านั้น

7 ข้อใดกล่าวถูกต้อง ตามทัศนะสสารนิยม

(1) การตายคือ การสิ้นสุดของมนุษย์

(2) การมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าคือ แสวงหาสัจธรรม

(3) มนุษย์อยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราว ยังมีดินแดนอันนิรันดร์รอมนุษย์อยู่

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ

8 ข้อใดที่แนวคิดจิตนิยมยอมรับว่าเป็นจริงแท้อย่างที่สุด

(1) สสาร

(2) โลก

(4) อสสาร

ตอบ 4 หน้า 25, (คําบรรยาย) จิตนิยม ยอมรับว่าอสสาร (Immaterial) หรือจิตเท่านั้นที่เป็นจริงแท้ที่สุดโดยมนุษย์จะแสวงหาความสุขทางใจเท่านั้น และไม่ปฏิเสธชีวิตหลังการตาย

9 โลกมีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงนี้จะทําให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเป็นแนวคิดของ

(1) อันตนิยม / จิตนิยม

(2) อันตนิยม / ธรรมชาตินิยม

(3) นวนิยม / ธรรมชาตินิยม

(4) นวนิยม / จิตนิยม

ตอบ 3 หน้า 33 – 34, (คําบรรยาย) ลัทธินวนิยมเป็นแนวคิดของธรรมชาตินิยม ซึ่งมีลักษณะที่สําคัญคือ มีความเชื่อในความเป็น “พหุนิยม” หรือความมากมายหลายหลาก ในจักรวาลมีสิ่งที่เป็นจริง มากมายหลายสิ่ง และในกระบวนการวิวัฒนาการของจักรวาลนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่ ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นนี้จะมีคุณสมบัติใหม่ และคุณภาพใหม่ นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด และการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทําให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา

10 ข้อใดสัมพันธ์อยู่กับแนวคิดแบบทวินิยม

(1) เชื่อว่าสสารและจิต มีอยู่จริง

(2) เชื่อว่าวัตถุและสสาร มีอยู่จริง

(3) เชื่อว่าอสสารและจิต มีอยู่จริง

(4) เชื่อว่าโลกและสสาร มีอยู่จริง

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 1 ประกอบ

11 ข้อใดกล่าวถูกต้อง

(1) “ปรัชญา” มีความหมายตามศัพท์ตรงกับคําว่า Philosophy

(2) คําตอบในเนื้อหาของวิชาปรัชญายังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนตายตัว

(3) การสงสัยและพยายามหาคําตอบไม่ใช่ลักษณะของ Philosophy

(4) ในวิชาปรัชญาเบื้องต้นเนื้อหาของวิชาเน้นในเรื่อง “ความรู้อันประเสริฐ

ตอบ 1 หน้า 1 คําว่า “ปรัชญา” เป็นศัพท์บัญญัติของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ซึ่งมีความหมายตามศัพท์ตรงกับคําว่า Philosophy ในภาษาอังกฤษ อันหมายถึง ผู้รักความปราดเปรื่อง หรือผู้ปรารถนาจะเป็นปราชญ์ หรือผู้ปรารถนาจะฉลาด หรือผู้ที่ยังไม่รู้และปรารถนาจะรู้มากขึ้นหรือความรักในความรู้ อันเป็นความปรารถนาจะรู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้หรือมีความสงสัย

12 ข้อใดกําลังกล่าวถึง “ปรัชญา” ในความหมายตามวิชา PHI 1003

(1) ความรู้อันประเสริฐที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตได้

(2) คติสอนใจ คําคม และแง่คิดที่ให้ความหมายและคุณค่าของชีวิต

(3) แนวคิดโดยทั่วไปของมนุษย์ เป็นการตอกย้ำว่ามนุษย์ คือ สิ่งที่รู้คิด

(4) เป็นสาขาวิชาหนึ่งที่มีระเบียบวิธีในการศึกษาเป็นของตัวเอง

ตอบ 3 หน้า 1, (คําบรรยาย) “ปรัชญา” ในความหมายตามวิชา PHI 1003 นั้นเป็นเรื่องของผู้ใช้ปัญญาผู้ที่ไม่ยอมรับสิ่งใดโดยง่ายดาย และเป็นผู้ที่ใคร่รู้ตลอดเวลา ดังนั้นแนวคิดโดยทั่วไปของมนุษย์จึงเป็นการตอกย้ำว่ามนุษย์ คือ สิ่งที่รู้คิด

13 คําตอบของนักปรัชญาต่อปัญหาต่าง ๆ มีลักษณะอย่างไร

(1) ปัญหาเดียวกันมีได้หลายคําตอบ

(2) สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์

(3) คําตอบมีความแน่นอนตายตัว

(4) ความจริงสูงสุด

ตอบ 1 หน้า 1, 9, (คําบรรยาย) ปรัชญาเกิดขึ้นพร้อมกับมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นผู้มีปัญญา ซึ่งลักษณะสําคัญประการหนึ่งของปรัชญาก็คือ แม้แต่คําตอบต่อปัญหาอันเดียวกันนั้น ก็อาจมีคําตอบที่เป็น ไปได้หลายคําตอบ โดยยังไม่มีการกําหนดหรือยอมรับกันลงไปว่าคําตอบใดเป็นคําตอบที่ถูกต้อง ที่สุด วิชาปรัชญาถือว่าคําตอบทุกคําตอบเป็นไปได้ทั้งสิ้น ดังนั้นปรัชญาจึงช่วยแก้ปัญหาให้แก่มนุษย์ด้วยการใช้ปัญญาแสวงหาคําตอบที่เป็นไปได้

14 ข้อใดแสดงให้เห็นว่าเมื่อมนุษย์สงสัยก็มักจะพยายามหาคําตอบ ซึ่งลักษณะนี้มีมาตั้งแต่ยุคดึกดําบรรพ์แล้ว

(1) ปรากฏการณ์ในธรรมชาติน่าจะมีผู้มีอํานาจมากบันดาลให้เป็นไป

(2) ความเป็นไปในธรรมชาติน่าจะเกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ที่ควบคุมธรรมชาติได้

(3) การไม่ทําให้ผู้ควบคุมธรรมชาติโกรธน่าจะทําให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 2, (คําบรรยาย) ปรัชญาของมนุษย์ในยุคดึกดําบรรพ์ มีปัญหาร่วมกันอย่างหนึ่งคือ ปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ ว่ามาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร โดยมนุษย์ยุคนี้เชื่อว่าปรากฏการณ์ ธรรมชาติน่าจะเกิดจากเทพผู้มีอํานาจมากบันดาลให้เป็นไป ดังนั้นความเป็นไปในธรรมชาติน่าจะ เกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ที่ควบคุมธรรมชาติได้ และการไม่ทําให้ผู้ควบคุมธรรมชาติโกรธน่าจะทําให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น หรือมนุษย์จะรอดพ้นจากภัยธรรมชาติได้ก็ต้องเอาใจเทพ คือทําให้เทพ พึงพอใจด้วยการถวายของบูชา

15 ความเป็นปรัชญาเริ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากแนวคิดของทาเลส เนื่องจากเหตุผลใด

(1) ใช้เหตุผลมาอธิบายธรรมชาติ โดยไม่อ้างสิ่งเหนือธรรมชาติ

(2) ผสานแนวความคิดของตัวเองเข้ากับศาสนากรีกโบราณ

(3) สามารถอธิบายเหตุผลของเทพเจ้าในการควบคุมธรรมชาติได้

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 7, 22, (คําบรรยาย) ทาเลส (Thales) ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของชาวตะวันตกและเป็นผู้ริเริ่มปรัชญากรีกโบราณไว้ โดยเชื่อว่ามนุษย์สามารถใช้เหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติโดยไม่ต้อง อ้างสิ่งเหนือธรรมชาติหรือเทพเจ้า เพราะเอกภพมีกฎเกณฑ์ตายตัวของมันเอง ถ้ามนุษย์สามารถเรียนรู้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติแล้ว มนุษย์ก็จะสามารถควบคุมธรรมชาติได้เช่นเดียวกัน

16 การถกเถียงกันเรื่องปฐมธาตุ แสดงให้เห็นว่านักปรัชญาสนใจในปรัชญาสาขาใด

(1) อภิปรัชญา

(2) ญาณวิทยา

(3) สุนทรียศาสตร์

(4) จริยศาสตร์

ตอบ 1 หน้า 28 – 29, 47 – 43 นักปรัชญาสสารนิยม มีความสนใจในอภิปรัชญาว่าด้วยเอกภพ และได้มีการโต้เถียงกันเรื่องปฐมธาตุ โดยทาเลสบอกว่าน้ําคือปฐมธาตุของโลก แต่เอ็มพลิโดเคลส กลับเห็นว่า ทาเลสและกลุ่มของเขา อธิบายไว้ไม่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงได้เสนอทฤษฎีปฐมธาตุว่า มิใช่มีเพียงหนึ่งหากมีอยู่ถึง 4 อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ

17 “เราไม่เคยมีข้อมูลทางประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า ดังนั้นพระเจ้าไม่มีจริง” เป็นข้อสรุปของนักปรัชญาคนใด

(1) เพลโต

(2) เดส์การ์ตส์

(3) ล็อค

(4) ฮุม

ตอบ 4 หน้า 125, (คําบรรยาย) ซูม (Hume) นักประจักษนิยม เชื่อว่า ตัวคนเราเป็นเพียงการมารวมกันของผัสสะและความคิด ไม่มีจิต ไม่มีวิญญาณ และเมื่อคนเราไม่เคยมีข้อมูลทางประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า ดังนั้นพระเจ้าจึงไม่มีอยู่จริง

18 นักสุขนิยมมีความคิดทางอภิปรัชญาแบบใด

(1) สสารนิยม

(2) จิตนิยม

(3) ธรรมชาตินิยม

(4) เทวนิยม

ตอบ 1 หน้า 155 นักสุขนิยม (Hedonism) มีความคิดทางอภิปรัชญาแบบสสารนิยม เช่น ลัทธิเอพิคิวรัส เป็นนักสุขนิยมที่มีทัศนะว่า ชีวิตเป็นเพียงสสาร เมื่อตายไปก็ไม่มีอะไรเหลือ ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ดังนั้นถ้าเรายังมีชีวิตอยู่เราต้องแสวงหาความสุขและความพึงพอใจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

19 ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของปรัชญาตะวันตกสมัยกลาง

(1) นักบวชในศาสนาคริสต์ศึกษาปรัชญาจนได้ชื่อว่าเป็นนักปรัชญา

(2) ศาสนาคริสต์ใช้วิธีการทางปรัชญาเพื่ออธิบายความเชื่อของตัวเอง

(3) ถูกทั้งข้อ 1 และ 2

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 หน้า 8, 249, (คําบรรยาย) ปรัชญาตะวันตกสมัยกลาง เป็นช่วงสมัยที่ศาสนาคริสต์ได้รับการยอมรับนับถือกันทั่วไป และทําให้ศาสนาคริสต์ใช้วิธีการทางปรัชญาเพื่ออธิบายความเชื่อของตนเอง ดังนั้น ปรัชญาตะวันตกยุคกลางจึงได้รับฉายาว่าสาวใช้ของศาสนา เนื่องจากปรัชญาถูกดึงไปเป็นเครื่องมือ สําหรับอธิบายและส่งเสริมคําสอนของศาสนาคริสต์ให้ดูมีเหตุมีผลยิ่งขึ้น โดยนักบวชในศาสนาคริสต์ ส่วนใหญ่ศึกษาปรัชญาดังกล่าวจนได้ชื่อว่าเป็นนักปรัชญา เช่น เซนต์ ออกัสติน (St. Augustine) เซนต์ โทมัส อควินัส (St. Thomas Aquinas) เป็นต้น

20 ปรัชญาตะวันตกยุคใดที่ได้ชื่อว่า ได้รับอิทธิพลของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

(1) ยุคดึกดําบรรพ์

(2) ยุคโบราณ

(3) ยุคกลาง

(4) ยุคใหม่

ตอบ 4 หน้า 8, 251 – 255, (คําบรรยาย) ปรัชญาตะวันตกยุคใหม่ หมายถึง ปรัชญาตะวันตกที่นับตั้งแต่ปรัชญาตะวันตกสมัยกลางสิ้นสุดลง (ประมาณศตวรรษที่ 15 เป็นต้นมา) ซึ่งปรัชญาในยุคนี้จะได้รับ อิทธิพลจากวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยมีนักปรัชญาที่สําคัญ ได้แก่ เดส์การ์ตส์ (Descartes), สปิโนซา (Spin0Za), ไลบ์นิตซ์ (Leibnitz), จอห์น ล็อค (John Locke), เดวิด ฮูม(David Hume), โธมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) เป็นต้น

21 นักจิตนิยมมีทัศนะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจิต-กาย อย่างไร

(1) จิตคือกาย

(2) จิตสําคัญคู่กาย

(3) จิตสําคัญกว่ากาย

(4) จิตมีอยู่ตราบเท่าที่มีกาย

ตอบ 3 หน้า 35, (คําบรรยาย) จิตนิยม เชื่อว่า มนุษย์มีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ จิตกับร่างกายโดยจิตหรือวิญญาณสําคัญกว่าร่างกาย เพราะเป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ และมีสภาพ เป็นอมตะ เมื่อตายไปแล้วก็จะกลับมาเกิดใหม่ ดังนั้นการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จึงต้องกระทําความดี เพื่อเป็นสะพานที่จะมุ่งไปสู่ความจริงในโลกหน้า

22 นักจิตนิยมมีทัศนะต่อโลกมนุษย์อย่างไร

(1) มนุษย์ต้องเรียนรู้ให้มากเพื่อใช้ชีวิตในโลกอย่างมีความสุขสบาย

(2) มนุษย์ต้องใช้ชีวิตในโลกอย่างสุขสบาย ก่อนไปใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริง

(3) โลกมนุษย์มีความเป็นจริงของมันเอง

(4) การมีชีวิตในโลกเป็นเพียงสะพานไปสู่ความจริง

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 21 ประกอบ

23 สิ่งที่มีขึ้นและดับลง ในทัศนะของธรรมชาตินิยม

(1) สสาร

(2) อสสาร

(3) จิต

(4) สิงธรรมชาติ

ตอบ 4 หน้า 33 – 39, (คําบรรยาย) ธรรมชาตินิยม เชื่อว่า สิ่งธรรมชาติ (สสาร) คือ สิ่งที่มีขึ้นและดับลงตามปฏิบัติการของสาเหตุธรรมชาติ โดยสิ่งธรรมชาติเป็นสิ่งที่อยู่ในระบบของอวกาศ-เวลาอย่างหนึ่งและไม่สามารถใช้อธิบายความเป็นจริงของโลกนี้ได้อย่างสมบูรณ์

24 ข้อใดคือแนวคิดที่สัมพันธ์อยู่กับแนวคิดของธรรมชาตินิยม

(1) พหุนิยม, นวนิยม

(2) อวนิยม, นวนิยม

(3) ทวินิยม, อันตนิยม

(4) พหุนิยม, อันตนิยม

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 9 ประกอบ

25 “สสารเป็นสิ่งที่อยู่ในระบบของอวกาศ-เวลาอย่างหนึ่ง และไม่สามารถใช้อธิบายความเป็นจริงของโลกนี้ได้อย่างสมบูรณ์” เป็นแนวคิดของนักปรัชญาลัทธิใด

(1) ธรรมชาตินิยม

(2) จักรกลนิยม

(3) สสารนิยม

(4) จิตนิยม

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 23 ประกอบ

26 ข้อใดคือความหมายของทฤษฎีวิวัฒนาการตามหลักแนวคิดธรรมชาตินิยม

(1) การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว

(2) การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ คุณสมบัติใหม่

(3) การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่เกิดมาในยุคดึกดําบรรพ์

(4) การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 9 ประกอบ

27 ตามทัศนะของไวเศษกะ วิญญาณของมนุษย์คืออะไร

(1) ปรมาณูธรรมดา

(2) ปรมาณูพิเศษ

(3) ชีวาตมัน

(4) มนุษย์ไม่มีวิญญาณ

ตอบ 3 หน้า 58 ปรัชญากรีก ถือว่า วิญญาณของสิ่งมีชีวิตเกิดจากการรวมตัวของปรมาณู แต่เป็นปรมาณูหรืออะตอมพิเศษ ส่วนปรัชญาไวเศษกะ ถือว่า วิญญาณหรืออาตมันหรือชีวาตมันนั้น เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นพิเศษต่างหากจากปรมาณู ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของปรมาณูของธาตุใด ๆแต่เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้นิรันดรควบคู่ไปกับปรมาณู และมีลักษณะพิเศษของตนเองโดยเฉพาะ

28 ลัทธิไวเศษกะ มีความเชื่อเกี่ยวกับความแตกต่างของปรมาณูอย่างไร

(1) ปรมาณูแตกต่างกัน เฉพาะด้านปริมาณ

(2) ปรมาณูแตกต่างกัน เฉพาะด้านคุณภาพ

(3) ปรมาณูแตกต่างกัน ทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ

(4) ปรมาณไม่แตกต่างกัน

ตอบ 3 หน้า 57 ลัทธิไวเศษกะ เชื่อว่า ปรมาณูของธาตุต่าง ๆ มีความแตกต่างกัน ทั้งทางด้านปริมาณและคุณภาพ ส่วนปรัชญากรีกนั้นเชื่อว่า ปรมาณูของธาตุต่าง ๆ มีความแตกต่างกันเฉพาะด้านจํานวนหรือปริมาณเท่านั้น แต่ในด้านคุณภาพมีลักษณะเหมือนกัน

29 ลัทธิไวเศษกะ มีความเชื่อเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของปรมาณอย่างไร (1) ปรมาณูเคลื่อนไหวตลอดเวลา

(2) ปรมาณไม่เคลื่อนไหวเลย

(3) ปรมาณเคลื่อนไหวตามกฎเกณฑ์

(4) ปรมาณูเคลื่อนไหวตามการขึ้นําของพระเจ้า

ตอบ 4 หน้า 57 – 58, (คําบรรยาย) คุณสมบัติของปรมาณในทัศนะของลัทธิไวเศษกะ คือ ปรมาณูแต่ละปรมาณูเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้เช่นเดียวกัน โดยธรรมชาติของปรมาณูเป็นสิ่งไร้กัมมันตภาพและไร้จลนภาพ เคลื่อนไหวไม่ได้ด้วยตัวเอง จึงอยู่ในภาวะที่หยุดนิ่ง แต่จะเคลื่อนไหวตามการชี้นําหรือตามเจตจํานง ของพระเจ้าในการรวมตัวกันเป็นโลกและสิ่งต่าง ๆ ในโลกส่วนปรัชญากรีกหรือแนวคิดแบบสสารนิยม ของตะวันตกนั้นเชื่อว่า ปรมาณูมีทั้งกัมมันตภาพและจลนภาพอยู่ในตัวโดยธรรมชาติ แต่ละปรมาณู จะไม่มีการหยุดนิ่ง มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และมีการรวมตัวกันหนาแน่นกลายเป็นโลกและสิ่งต่าง ๆ ในโลก

30 ถ้าลัทธิไวเศษกะเป็นแนวคิดแบบสสารนิยมของตะวันตกจริง ไวเศษกะไม่ควรมีแนวคิดเรื่องใด

(1) โลกเกิดจากปรมาณู

(2) ปรมาณสามารถเคลื่อนไหวรวมตัวกัน

(3) พระเจ้ากําหนดการเคลื่อนไหวของปรมาณู

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 29 ประกอบ

31 ลัทธิไวเศษกะเชื่อว่าการรวมตัวกันของปรมาณูจํานวนเท่าใด จึงจะสามารถทําให้มนุษย์สัมผัสได้

(1) 2 ปรมาณู

(2) 3 ปรมาณู

(3) 4 ปรมาณู

(4) 5 ปรมาณู

ตอบ 2 หน้า 59 ปรัชญาไวเศษกะ เชื่อว่า สิ่งที่มนุษย์พอจะรู้ด้วยประสาทสัมผัส จะต้องเกิดจากการรวมตัวของปรมาณตั้งแต่ 3 ปรมาณูขึ้นไป ส่วนปรมาณูเพียงปรมาณูเดียว หรือ 2 ปรมาณูนั้นเล็กเกินไปที่จะรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส

32 สิ่งใดที่คนฉลาดควรกลัวมากที่สุดคือความทุกข์จากสิ่งใด

(1) ทุกข์จากการเกิด

(2) ทุกข์จากการแก่

(3) ทุกข์จากการตาย

(4) ทุกข์จากความเศร้าใจ

ตอบ 1 หน้า 83 ตามคําสอนของอริยสัจ 4 นั้น ถือว่าความเกิดเป็นประตูแห่งความทุกข์ทั้งปวง เพราะความเกิดนั้นเป็นเหตุให้ต้องตาย ถ้าไม่เกิดเสียอย่างเดียวก็ไม่ต้องตาย และไม่ต้องลําบากจนกว่า ตัวเองจะแก่ตาย ดังนั้นคนฉลาดจึงควรกลัวความเกิด ไม่ใช่กลัวความตาย

33 ข้อใดจัดเป็นสภาวทุกข์

(1) ความแก่

(2) ความไม่สบายกายเพราะความแก่

(3) ความคับแค้นใจเพราะความแก่

(4) ความพลัดพรากจากของรักเพราะความแก่

ตอบ 1 หน้า 82 “สภาวทุกข์” หมายถึง ทุกข์โดยสภาพหรือทุกข์ประจํา เช่น ความเกิด ความแก่และความตาย ส่วน “ทุกข์จร” หมายถึง ทุกข์ที่เกิดขึ้นเพียงบางครั้งบางคราว เช่น ความเศร้าใจความระทมใจ ความไม่สบายใจ ความไม่สบายกาย ความคับแค้นใจ ความพลัดพราก เป็นต้น

34 “ฉันไม่อยากตัวดําอย่างนี้เลย” จัดเป็นตัณหาแบบไหน

(1) กามตัณหา

(2) ภวตัณหา

(3) วิภวตัณหา

(4) ไม่จัดว่าเป็นตัณหา

ตอบ 3 หน้า 84 85 ตัณหามีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่

1 กามตัณหา คือ ความอยากเห็น อยากฟัง อยากสูดกลิ่น อยากลิ้มรส อยากสัมผัสสิ่งที่ดีงามถูกอกถูกใจ

2 ภวตัณหา คือ ความอยากเป็นเจ้าของ ความอยากมีหรืออยากเป็นสิ่งอื่น ๆ เช่น กรณีนักศึกษาติดอยู่ในภาวะของการเป็นนิสิตนักศึกษา จนไม่อยากจบการศึกษา หรือการติดอยู่ในการดํารงตําแหน่งการงานใด ๆ เป็นต้น

3 วิภวตัณหา คือ ความอยากไม่ให้สิ่งที่ตนมีอยู่หรือเป็นอยู่เสื่อมสิ้นไป ความอยากไม่มีดังที่ตนมีอยู่หรือไม่อยากเป็นดังที่ตนเป็นอยู่ เช่น กรณีของผู้ที่กล่าวว่า “ฉันไม่อยากตัวดําอย่างนี้เลย” เป็นต้น

35 ข้อปฏิบัติที่จัดว่าเป็นการอบรมกายกับวาจา เรียกว่าอะไร

(1) ศีล

(2) สมาธิ

(3) ปัญญา

(4) ทิฐิ

ตอบ 1 หน้า 86 – 89, (คําบรรยาย) มรรค 8 คือ ทางสายกลางซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้คือ

1 ส่วนที่อบรมกายกับวาจา เรียกว่า “ศีล” ประกอบด้วย สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ

2 ส่วนที่อบรมจิต เรียกว่า “สมาธิ” ประกอบด้วย สัมมาวายามะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ

3 ส่วนที่อบรมทิฐิและความเห็น เรียกว่า “ปัญญา”ประกอบด้วย สัมมาทิฐิ และสัมมาสังกัปปะ

36 ญาณวิทยาศึกษาปัญหาใดของมนุษย์

(1) ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์

(2) ชีวิตหลังการตายของมนุษย์

(3) การปฏิบัติตนของมนุษย์

(4) การมีความรู้ของมนุษย์

ตอบ 4 หน้า 11 – 18 ปรัชญาบริสุทธิ์ มีการศึกษาถึงปัญหาสําคัญ 3 ปัญหา คือ

1 ปัญหาทางอภิปรัชญา ซึ่งจะศึกษาเรื่องความเป็นจริง เช่น ความเป็นจริงคืออะไร สารเบื้องต้นของจักรวาลคืออะไร ฯลฯ

2 ปัญหาทางญาณวิทยา ซึ่งจะศึกษาเรื่องความรู้ เช่น เรารู้จักความจริงได้โดยทางใด การมีความรู้ของมนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างไร ฯลฯ

3 ปัญหาทางจริยศาสตร์ ซึ่งจะศึกษาเรื่องความดี เช่น เราควรปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะสอดคล้องกับความเป็นจริง ฯลฯ

37 จริยศาสตร์ศึกษาปัญหาใดของมนุษย์

(1) ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์

(2) ชีวิตหลังการตายของมนุษย์

(3) การปฏิบัติตนของมนุษย์

(4) การมีความรู้ของมนุษย์

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 36 ประกอบ

38 เหตุผลนิยมให้ความสําคัญกับความรู้สาขาใด

(1) วิทยาศาสตร์

(2) เทคโนโลยี

(3) จิตวิทยา

(4) คณิตศาสตร์

ตอบ 4 หน้า 105 – 106 เหตุผลนิยมจะยอมรับวิธีการคิดหาเหตุผลแบบนิรนัย (Deduction) คือ การพิสูจน์ความเชื่อถือใด ๆ โดยอาศัยความจริงพื้นฐานที่มีอยู่ก่อนหรือที่ยอมรับกันโดยทั่วไป เป็นหลัก แล้วก็ใช้ความคิดสืบสาวจากความรู้นั้นไปเพื่อที่จะรู้ในสิ่งอื่น โดยที่ข้อสรุปต้องได้มาจาก ข้ออ้าง ถ้าหากข้ออ้างเป็นจริง ข้อสรุปก็ต้องเป็นจริงด้วย ซึ่งวิชาคณิตศาสตร์ เรขาคณิต และพีชคณิต ก็ใช้วิธีการคิดหาเหตุผลแบบนิรนัยนี้ในการแสวงหาความจริงโดยไม่อาศัยการพิสูจน์หรือยืนยันจาก ประสบการณ์ แต่อาศัยการใช้ความคิดหรือปัญญา ตัวอย่างการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีนิรนัย เช่น คนมีความฝันคือคนมีเป้าหมายของชีวิต แดงเป็นคนช่างฝัน ดังนั้นแดงเป็นคนมีเป้าหมายของชีวิต เป็นต้น

39 ข้อใดเป็นทัศนะของนักเหตุผลนิยม

(1) ความรู้เกิดจากประสบการณ์

(2) ความรู้เกิดจากการท่องเที่ยว

(3) ความรู้เกิดจากการศึกษาเล่าเรียน

(4) ความรู้เกิดจากการคิด

ตอบ 4 หน้า 106 107 พวกเหตุผลนิยม เห็นว่า ความรู้ที่แท้จริงแน่นอนจะไม่ได้มาจากการใช้ประสาทสัมผัส แต่จะต้องได้มาจากความคิดหรือการใช้เหตุผลไตร่ตรอง โดยยอมรับว่าประสบการณ์ทางผัสสะเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้หรือเป็นสิ่งที่มาจุดประกายให้สติปัญญาเริ่มทํางานเท่านั้น

40 ข้อใดเป็นการแสวงหาความรู้ด้วยวิธีนิรนัย

(1) คนคือสิ่งมีชีวิต

(2) ฉันเป็นคน

(3) คนเราต้องอยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน

(4) คนมีความฝันคือคนมีเป้าหมายของชีวิต แดงเป็นคนช่างฝัน ดังนั้นแดงเป็นคนมีเป้าหมายของชีวิต

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 38 ประกอบ

41 นักปรัชญาคนใดเชื่อความรู้จําต้องเป็น (Necessary Truth)

(1) เดส์การ์ตส์

(2) ซูม

(3) เบอร์คเลย์

(4) ล็อค

ตอบ 1 หน้า 104 – 105, 11.5 – 116 นักปรัชญาเหตุผลนิยมที่สําคัญ เช่น เดส์การ์ตส์ (Descartes) สปิโนชา (Spinoza) และไลบ์นิตซ์ (Leibnitz) เชื่อว่า ความรู้ก่อนประสบการณ์เป็นความจริงที่ จําต้องเป็น (Necessary Truth) คือ ต้องจริงในทุกที่และทุกเวลา โดยไม่ต้องมีสิ่งใดมายืนยัน และจิตของมนุษย์ก็สามารถรู้ความจริงชนิดนี้ได้โดยอัชญัตติกญาณ คือการหยั่งรู้ด้วยจิตใจหรือ แสงสว่างด้วยปัญญาทันทีทันใด ความรู้ที่ได้จากอัชญัตติกญาณแบบเหตุผลนิยม เช่น ข้อความที่ว่า“เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ต้องมีสาเหตุ” หรือ “อืม..ฉันรู้แล้ว ! เส้นขนานไม่มีวันพบกัน” ฯลฯ

42 วิธีสงสัยสากลของเดส์การ์ตส์ มีลักษณะอย่างไร

(1) สงสัยทุกเรื่องจนหาข้อสรุปไม่ได้

(2) สงสัยเพราะความอยากรู้อยากเห็น

(3) สงสัยเพราะขาดความเข้าใจ

(4) สงสัยเพื่อให้ได้รับความรู้ที่ชัดเจน

ตอบ 4 หน้า 108 เดส์การ์ตส์ (Descartes) เป็นนักปรัชญาแนวเหตุผลนิยมที่เริ่มต้นด้วยการสงสัยในทุก ๆ สิ่ง กล่าวคือ ไม่เชื่อในสิ่งใด เพราะบางสิ่งที่เราเชื่อว่าจริงก็อาจจะไม่จริงก็ได้ บ่อยครั้ง ที่ประสบการณ์หลอกเราทําให้เราเข้าใจผิด ดังนั้นเราจึงควรสงสัยในทุกสิ่งก่อนว่ามันไม่จริง จนกว่าจะพบจุดที่เราไม่อาจสงสัยได้อีก หรือได้รับความรู้ที่ชัดเจน ดังข้อความที่ว่า “ฉันคิด ดังนั้นฉันจึงมีอยู่” ซึ่งเป็นการยืนยันว่ามีจิตหรือสิ่งแท้จริงที่รู้คิดได้ (Thinking Substance)

43 ในทัศนะของล็อค ส่วนใดของวัตถุที่มนุษย์รับรู้โดยผ่านประสาทสัมผัส และตรงกับที่วัตถุเป็น

(1) สาร

(2) คุณสมบัติปฐมภูมิ

(3) คุณสมบัติทุติยภูมิ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 118 119, (คําบรรยาย) ล็อค แบ่งผัสสะทั้งหลายของมนุษย์ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1 คุณสมบัติปฐมภูมิมีอยู่จริงในตัววัตถุ และสามารถรับรู้ได้โดยผ่านประสาทสัมผัส และตรงกับที่วัตถุเป็น เช่น รูปร่าง (มะนาวผลนี้กลม และเบี้ยวเล็กน้อย) ขนาด น้ำหนัก การเคลื่อนที่ ฯลฯ

2 คุณสมบัติทุติยภูมิไม่ได้มีอยู่จริง แต่มนุษย์รับรู้ได้ด้วยจิต และไม่ตรงกับวัตถุที่เป็น ซึ่งคุณสมบัติประเภทนี้จะถูกสร้างขึ้นจากคุณสมบัติปฐมภูมิของวัตถุ เช่น กลิ่น รส สี เสียง อุณหภูมิ ฯลฯ

44 ในทัศนะของล็อค ส่วนใดของวัตถุที่มนุษย์รับรู้ได้ด้วยจิต และไม่ตรงกับวัตถุที่เป็น

(1) สาร

(2) คุณสมบัติปฐมภูมิ

(3) คุณสมบัติทุติยภูมิ

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 43 ประกอบ

45 นักปรัชญาคนใดได้ชื่อว่า เป็นนักประสบการณ์นิยม

(1) ล็อค

(2) เบอร์คเลย์

(3) อูม

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 8, 112 – 113, 130 ลัทธิประสบการณ์นิยมหรือประจักษนิยม เป็นลัทธิที่จัดอยู่ในกลุ่มปรัชญาตะวันตกยุคใหม่ ซึ่งเชื่อว่า วิธีคิดที่ถูกต้องที่สุดคือการยึดมั่นในประสบการณ์ และการใช้ความรู้ที่ผ่านประสาทสัมผัส โดยแนวคิดนี้จะมีลักษณะคล้ายกับการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ตัวอย่างของนักปรัชญากลุ่มนี้ ได้แก่ ล็อค (Locke) ฮูม (Hume) และ เบอร์คเลย์ (Berkeley)

46 ในทัศนะของล็อค จิตของมนุษย์ตอนแรกเกิดมีลักษณะอย่างไร

(1) ว่างเปล่าจากความรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น

(2) มีความรู้เกี่ยวกับหลักการทั่วไปติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด

(3) มีความรู้เกี่ยวกับจริยธรรมติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด

(4) มนุษย์ไม่มีจิตวิญญาณแต่อย่างใด

ตอบ 1 หน้า 117 ล็อค เห็นว่า สภาพจิตของมนุษย์ในตอนเริ่มแรกนั้นจะมีแต่ความว่างเปล่าเหมือนกระดาษขาวบริสุทธิ์ ปราศจากความคิดและความรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น ต่อมาเมื่อจิตของมนุษย์ได้รับประสบการณ์ก็จะกลายเป็นที่บรรจุวัตถุของความรู้และการคิดหาเหตุผลอย่างมากมาย

47 ลัทธิประสบการณ์นิยมเกิดขึ้นในปรัชญาตะวันตกยุคใด

(1) ยุคโบราณ

(2) ยุคกลาง

(3) ยุคใหม่

(4) ยุคปัจจุบัน

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ

48 ประสบการณ์นิยมให้ความสําคัญกับความรู้ประเภทใด

(1) ความรู้ก่อนมีประสบการณ์

(2) ความรู้หลังมีประสบการณ์

(3) ความรู้ที่เป็นจริงตลอดกาล

(4) ความรู้ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด

ตอบ 2 หน้า 105, 111 – 112, 115 ลัทธิประสบการณ์นิยมหรือประจักษนิยม ยึดถือการแสวงหาความรู้แบบอุปนัย โดยจะอาศัยข้อมูลที่ได้มาจากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสอันเป็นเรื่อง ของกรณีเฉพาะแล้วจึงสรุปจากข้อเท็จจริงย่อย ๆ ขึ้นเป็นความจริงทั่วไป นอกจากนี้ยังเน้นถึง ความสําคัญของประสบการณ์ว่าเป็นบ่อเกิดหรือที่มาของความรู้ (A Posteriori Knowledge) จนอาจกล่าวได้ว่า “ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด”

  1. “อุ้ย ! นั่นรางรถไฟ มันไม่บรรจบกันด้วยละ” จัดว่าเป็นความรู้ที่เกิดจากบ่อเกิดความรู้ใด

(1) ความสว่างด้วยปัญญาทันทีทันใด

(2) การเข้าถึงความรู้ทันที ซึ่งเกิดขึ้นขณะกําลังมีประสบการณ์

(3) การสรุปจากความจริงพื้นฐานด้วยการเชื่อมโยงความคิด

(4) การสรุปความรู้โดยอาศัยประสบการณ์เป็นข้อมูล

ตอบ 2 หน้า 116 ความรู้ที่ได้จากอัชฌัตติกญาณในแบบประสบการณ์นิยม (ประจักษนิยม) หมายถึง การมีความรู้และความเข้าใจโดยตรงในความจริงที่ง่าย ๆ ธรรมดา ๆ ที่สุดของประสบการณ์ ทางประสาทสัมผัส หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นทันทีขณะกําลังมีประสบการณ์อยู่ เช่น ข้อความที่ว่า “อ๊ย ! นันรางรถไฟ มันไม่บรรจบกันด้วยละ” หรือ “สิ่งที่ฉันมองเห็นในขณะนี้มีสีแดง” เป็นต้น

50 จากข้อ 49 บ่อเกิดความรู้ดังกล่าวเรียกว่าบ่อเกิดความรู้ใด

(1) อัชญัตติกญาณแบบเหตุผลนียม

(2) อัชฌัตติกญาณแบบประสบการณ์นิยม

(3) วิธีนิรนัย

(4) วิธีอุปนัย

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 49 ประกอบ

51 “อืมฉันรู้แล้ว ! เส้นขนานไม่มีวันพบกัน” จัดว่าเป็นความรู้ที่เกิดจากบ่อเกิดความรู้ใด

(1) ความสว่างด้วยปัญญาทันทีทันใด

(2) การเข้าถึงความรู้ทันที ซึ่งเกิดขึ้นขณะกําลังมีประสบการณ์

(3) การสรุปจากความจริงพื้นฐานด้วยการเชื่อมโยงความคิด

(4) การสรุปความรู้โดยอาศัยประสบการณ์เป็นข้อมูล

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 41 ประกอบ

52 จากข้อ 51 บ่อเกิดความรู้ดังกล่าวเรียกว่าบ่อเกิดความรู้ใด

(1) อัชญัตติกญาณแบบเหตุผลนิยม

(2) อัชญัตติกญาณแบบประสบการณ์นิยม

(3) วิธีนิรนัย

(4) วิธีอุปนัย

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 41 ประกอบ

53 ในทัศนะของล็อค ความรู้ข้อใดที่เขาเห็นว่าตรงกับความเป็นจริงของวัตถุ

(1) มะนาวผลนี้กลม และเบี้ยวเล็กน้อย

(2) มะนาวผลนี้มีสีเขียวอมเหลือง

(3) มะนาวผลนี้มีรสเปรี้ยวมาก

(4) มะนาวผลนี้มีกลิ่นหอม

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 43 ประกอบ

54 ข้อใดไม่เคยเป็นประสบการณ์ของมนุษย์ในทัศนะของล็อค

(1) คุณสมบัติของวัตถุ

(2) สาร

(3) คุณสมบัติปฐมภูมิ

(4) สสาร

ตอบ 2 หน้า 119 ในทัศนะของล็อค ถือว่า “สาร” ที่รองรับคุณสมบัติของวัตถุเป็นสิ่งแท้จริงที่อยู่ภายในตัววัตถุ ซึ่งคนเราไม่อาจจะรับรู้หรือรู้จักสารนั้นได้โดยผ่านทางประสบการณ์เลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งต้องมีสารเป็นพื้นฐานที่รองรับคุณสมบัติปฐมภูมิของวัตถุซึ่งก่อให้เกิดความคิดเชิงเดี่ยว

55 การมีอยู่ คือ การถูกรับรู้เป็นแนวคิดของ….. เรียกแนวคิดของเขาว่า …..

(1) เบอร์คเลย์ / สัจนิยมโดยอ้อม

(2) ซูม / สัจนิยมแบบตัวแทน

(3) ล็อค / สัจนิยมโดยตรง

(4) เบอร์คเลย์ / จิตนิยมแบบอัตนัย

ตอบ 4 หน้า 131, 133, (คําบรรยาย) จิตนิยมแบบอัตนัยของเบอร์คเลย์ (Berkeley) ถือว่า “การมีอยู่”ของวัตถุก็คือ “การถูกรับรู้” อันได้แก่วัตถุและสิ่งทั้งหลายภายในโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีแก่นแท้คือการถูกรับรู้ด้วยจิตมนุษย์ ดังนั้นการมีอยู่ของมันจึงเป็นอิสระจากจิตไม่ได้

56 มนุษย์รู้จักสิ่งต่าง ๆ ด้วยการรับรู้ผ่านคุณสมบัติของสิ่งนั้น ๆ เป็นแนวคิดของ

(1) ล็อค

(2) เบอร์คเลย์

(3) เดส์การ์ตส์

(4) ซูม

ตอบ 1 หน้า 138 139 ล็อค ยืนยันว่าการรู้จักสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์เป็นการรับรู้โดยผ่านความคิดที่เป็นผัสสะ ซึ่งเป็นเพียงตัวแทนของคุณสมบัติแท้จริงที่มีแต่คุณสมบัติปฐมภูมิเท่านั้น โดยจะเรียกแนวคิดนี้ว่า “สัจนิยมแบบตัวแทน”

57 จากข้อ 56 เรียกแนวคิดของเขาว่า

(1) สัจนิยมใหม่

(2) สัจนิยมแบบผิวเผิน

(3) สัจนิยมแบบวิจารณ์

(4) สัจนิยมแบบตัวแทน

ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ

58 เหตุใดฮมจึงกล่าวว่า ความรู้เป็นจินตนาการ

(1) มนุษย์สรุปความรู้เกินจากกรอบประสบการณ์ของตนเอง

(2) มนุษย์สรุปความรู้โดยการคิดแบบไม่ต้องอาศัยประสบการณ์

(3) มนุษย์ไม่เคยสรุปความรู้ได้อย่างถูกต้องเลย

(4) มนุษย์ชอบสรุปความรู้จากประสบการณ์ ทั้ง ๆ ที่ประสบการณ์ให้ความรู้ที่ไม่แน่นอนตายตัว

ตอบ 4 หน้า 122 – 123, (คําบรรยาย) ซูม เห็นว่า ความรู้ทั้งหลายของมนุษย์แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนคือ “ความประทับใจ” ซึ่งเป็นการรับรู้ในผัสสะ กับ “ความคิด” ซึ่งเป็นการรับรู้ในสิ่งที่เกิดจาก จินตนาการ (Imagination) หรือความจํา โดยความรู้ที่เป็นจินตนาการนั้น เรามักนําความคิดที่ได้ จากสิ่งสองสิ่งมาเชื่อมโยงกันเองว่ามันเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่จินตนาการถูกสร้างขึ้นมาเอง ไม่ได้มีจริงดังนั้นมนุษย์จึงขอบสรุปความรู้จากประสบการณ์ ทั้ง ๆ ที่ประสบการณ์ให้ความรู้ที่ไม่แน่นอนตายตัว

59 ข้อใดสัมพันธ์กับแนวคิดของฮูม

(1) วิมัตินิยม

(2) อันตนิยม

(3) เหตุผลนิยม

(4) นวนิยม

ตอบ 1 หน้า 123 124 1 เป็นนักปรัชญาแบบวิมัตินิยมอย่างแท้จริง โดยเขาเชื่อว่าความรู้ทุกอย่างของมนุษย์ถ้าไม่ผ่านประสาทสัมผัสแล้วย่อมไม่จริง ดังนั้นความสัมพันธ์ในเรื่องความเป็นเหตุ เป็นผลกันของแต่ละเหตุการณ์จึงไม่มีอยู่จริง แต่เป็นเพียงสิ่งที่จิตมนุษย์นํามาเชื่อมโยงเข้าหากันเท่านั้น

60 เบอร์คเลย์ ยอมรับความคิดใด

(1) ความรู้ของมนุษย์ เป็นการรู้จักตัววัตถุโดยตรง

(2) ความรู้ของมนุษย์ เป็นเพียงตัวแทนของวัตถุ

(3) ความรู้ของมนุษย์ เป็นความคิดของจิตมนุษย์

(4) ความรู้ของมนุษย์ เป็นความรู้ที่ผ่านตัวกลาง

ตอบ 3 หน้า 128, 131 เบอร์คเลย์ ยอมรับว่าความรู้ของมนุษย์เป็นเพียงความคิดของจิตมนุษย์เท่านั้นเนื่องจากวัตถุทั้งหลายพร้อมทั้งคุณสมบัติทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปฐมภูมิและทุติยภูมิล้วนขึ้นอยู่กับการรับรู้ของจิตทั้งสิ้น ดังนั้นวัตถุจึงไม่ได้มีความเป็นจริงในตัวเอง

  1. “Summum Bonum” มีความหมายอย่างไร

(1) จุดหมายสูงสุดที่มนุษย์ควรแสวงหา

(2) วิธีดีที่สุดที่นําไปสู่จุดหมายสูงสุด

(3) ความจริงสูงสุดที่มนุษย์ควรแสวงหา

(4) วิธีถูกต้องที่สุดที่นําไปสู่ความจริงสูงสุด

ตอบ 1 หน้า 147, 155, (คําบรรยาย) Summum Bonum หมายถึง ความดีสูงสุดหรือความมีคุณธรรมอันเป็นจุดหมายสูงสุดของชีวิตที่มนุษย์ควรแสวงหา ซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับอุดมการณ์หรืออุดมคติของชีวิต หรือสิ่งที่ดีสูงสุดของชีวิตมนุษย์

62 “มนุษย์คือนักบุญ” ควรจะเป็นความเห็นของลัทธิทางอภิปรัชญาใด

(1) สสารนิยม

(2) จิตนิยม

(3) ธรรมชาตินิยม

(4) สัจนิยม

ตอบ 4 (คําบรรยาย) คําว่า “มนุษย์คือนักบุญ” สอดคล้องกับความเห็นของอภิปรัชญาแบบลัทธิสัจนิยมหรือทฤษฎีนิยมสายกลาง ซึ่งเชื่อว่า การรู้จักตัวเองเป็นความดีสูงสุด โดยการรู้จักตัวเองนี้ก็คือ การแสวงหาความสุขทั้งทางกายและทางใจให้แก่ตัวเองอย่างพอเหมาะ รวมทั้งจะต้องเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อผู้อื่นด้วย

63 “มนุษย์คือนักบุญ” มีความหมายอย่างไร

(1) มนุษย์ควรแสวงหาความสุขทางกาย

(2) มนุษย์ควรแสวงหาความสุขทางใจ

(3) มนุษย์ควรแสวงหาทั้งความสุขทางกายและทางใจ

(4) มนุษย์ควรแสวงหาความจริงเกี่ยวกับวัตถุ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 62 ประกอบ

64 “มนุษย์คือมนุษย์” ควรจะเป็นความเห็นของลัทธิใด

(1) สสารนิยม

(2) จิตนิยม

(3) ธรรมชาตินิยม

(4) สัจนิยม

ตอบ 1 (คําบรรยาย) ลัทธิสสารนิยม เห็นว่า มนุษย์คือมนุษย์ มนุษย์ไม่มีตัวตนของจิต สิ่งที่เรียกว่าพฤติกรรมของจิตคือ อารมณ์หรือความคิดต่าง ๆ ที่มีพื้นฐานมาจากสสารส่วนที่เป็นก้อนสมอง เท่านั้น ถ้าก้อนสมองตายสภาพทางจิตก็จะหายไปด้วย ความคิดดังกล่าวทําให้พวกสสารนิยมต้องการแสวงหาความสุขทางกาย

65 “มนุษย์คือมนุษย์” มีความหมายอย่างไร

(1) มนุษย์ควรแสวงหาความสุขทางกาย

(2) มนุษย์ควรแสวงหาความสุขทางใจ

(3) มนุษย์ควรแสวงหาทั้งความสุขทางกายและทางใจ

(4) มนุษย์ควรแสวงหาความจริงเกี่ยวกับวัตถุ

ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 64 ประกอบ

66 “การทําแท้งเป็นสิ่งที่สังคมไทยรับไม่ได้ ถือว่าเป็นการกระทําที่ผิด” คําพูดนี้แสดงให้เห็นความคิดเกี่ยวกับความดีอย่างไร

(1) ความดี เป็นคุณค่าที่แน่นอนตายตัว

(2) ความดี ขึ้นกับความเห็นของสังคม

(3) ความดี เป็นคุณค่าที่เปลี่ยนแปลงได้

(4) ถูกข้อ 2 และ 3

ตอบ 4 (คําบรรยาย) การตัดสินคุณค่าตามจารีตประเพณี ถือว่าการตัดสินคุณค่าของการกระทําใด ๆของแต่ละสังคมจะขึ้นอยู่กับจารีตประเพณี วัฒนธรรม และค่านิยมที่สั่งสมมาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งคุณค่าความดีของสังคมหนึ่งอาจไม่ใช่คุณค่าความดีของอีกสังคมหนึ่งก็ได้ ดังนั้นคุณค่าตาม ความเห็นของสังคมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสังคมและกาลเวลา เช่น คําพูดที่ว่า “การทํา แท้งเป็นสิ่งที่สังคมไทยรับไม่ได้ ถือว่าเป็นการกระทําที่ผิด” เป็นต้น

6 “การทําแท้งคือการฆ่า จึงเป็นการกระทําที่ผิดเสมอไม่ว่าจะเป็นคนในสังคมใด” คําพูดนี้แสดงให้เห็นความคิดเกี่ยวกับความดีอย่างไร

(1) ความดี เป็นคุณค่าที่แน่นอนตายตัว

(2) ความดี ขึ้นกับความเห็นของสังคม

(3) ความดี เป็นคุณค่าที่เปลี่ยนแปลงได้

(4) ถูกข้อ 2 และ 3

ตอบ 1 (คําบรรยาย) การตัดสินคุณค่าตามแนวคิดของพวกจิตนิยม ถือว่าถ้าการกระทําใด ๆ ถูกตัดสินว่ามีคุณค่าที่ดีแล้ว การกระทํานั้นไม่ว่าจะส่งผลอย่างไรก็ถือว่าเป็นการกระทําที่ดี แต่ถ้าการกระทํา ใด ๆ ถูกตัดสินว่ามีคุณค่าที่ไม่ดีแล้ว การกระทํานั้นไม่ว่าจะส่งผลอย่างไรก็ถือว่าเป็นการกระทําที่ผิด เช่น คําพูดที่ว่า “การทําแท้งคือการฆ่า จึงเป็นการกระทําที่ผิดเสมอไม่ว่าจะเป็นคนในสังคมใด”เป็นต้น

68 ข้อใดหมายถึงแนวคิดของพวก อสุขนิยม

(1) ธรรมชาติของจิต คือ การใช้ปัญญาแสวงหาสัจธรรม

(2) ธรรมชาติของจิต คือ ความสงบ

(3) ข้อ 1 และ 2 ถูก

(4) ปฏิเสธการมีอยู่ของจิต

ตอบ 3 หน้า 157 – 160 อสุขนิยม มีทัศนะว่า สิ่งที่มนุษย์ควรแสวงหามากที่สุดคือการทําใจให้สงบพึงพอใจกับสิ่งจําเป็นในชีวิต สิ่งใดที่ไม่จําเป็นกับชีวิตก็ให้ละเว้นเสีย โดยแนวความคิดนี้เห็นว่าธรรมชาติของจิต คือ การใช้ปัญญาแสวงหาสัจธรรม (ปัญญานิยม) และความสงบสุข (วิมุตินิยม)

69 ความรู้สูงสุด คือ การเข้าใจความดี เป็นแนวคิดของ ซึ่งการมีความรู้แบบนี้ต้องใช้วิธี

(1) โซเครติส / เรียนรู้จากอาจารย์

(2) โซฟิสต์ / ถกเถียงด้วยเหตุผล

(3) โซฟิสต์ / เรียนรู้จากอาจารย์

(4) โซเครติส / ถกเถียงด้วยเหตุผล

ตอบ 4 หน้า 150, (คําบรรยาย) โซเครติส (Socrates) เห็นว่า “ความรู้สูงสุด” คือ “การเข้าใจความดี”เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์นั้นแสวงหาความดี แต่มักจะไม่รู้ว่าความดีคืออะไร ดังนั้นมนุษย์ จึงมีหน้าที่ที่สําคัญอย่างหนึ่งคือพยายามค้นหาให้รู้ว่าอะไรคือความดี ซึ่งการมีความรู้แบบนี้ต้องใช้วิธีการสนทนาถกเถียงด้วยเหตุผลเท่านั้น

70 ขับรถผ่าไฟแดงจนเกิดอุบัติเหตุเฉียวชนกับรถคันอื่นแต่ไม่ร้ายแรงมากนัก สาเหตุที่รีบเพราะลืมปิดสวิตช์เครื่องจักรที่โรงงาน หากไปถึงโรงงานช้าเกินไปอาจทําให้เกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูง และกิจการของครอบครัว อาจต้องปิดตัวลง การกระทําของที่เป็นเช่นใด

(1) ถูกต้องในทัศนะของมิลล์ เพราะเป็นการป้องกันความเสียหายที่มูลค่าสูง (2) ผิดในทัศนะของคานท์ เพราะขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร

(3) ถูกต้องในทัศนะของคานท์ เพราะเป็นการป้องกันความเสียหายที่มูลค่าสูง

(4) ถูกข้อ 1 และ 2

ตอบ 4 หน้า 165, 169, (คําบรรยาย) มิลล์ (Mill) เป็นนักปรัชญาประโยชน์นิยมที่มีทัศนะว่า สิ่งที่มนุษย์ควรแสวงหาคือความสุขสูงสุด เพราะความสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย์ การกระทําใดก็ตามที่ก่อให้ เกิดประโยชน์สุขแก่คนจํานวนมากที่สุดเป็นการกระทําที่ดี นั่นคือ การคํานึงถึงผลที่จะได้รับเท่านั้น ส่วนคานท์ (Kant) เป็นนักปรัชญาหน้าที่นิยมที่มีทัศนะว่า ศีลธรรมต้องเป็นเรื่องแน่นอนตายตัว โดยปราศจากข้อแม้ สิ่งใดดีย่อมเป็นลักษณะประจําของสิ่งนั้นเสมอ จากข้อความที่โจทย์ให้มา จะเห็นว่าการกระทําของคู่นั้น ถูกต้องในทัศนะของมิลล์ เพราะเป็นการป้องกันความเสียหายที่ มูลค่าสูง แต่ผิดในทัศนะของคานท์ เพราะขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร

71 “สภาวะธรรมชาติ” (State of Nature) หมายถึงสิ่งใด

(1) สภาพการดําเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อยู่ภายใต้อํานาจรัฐของมนุษย์ (2) สภาพที่มนุษย์ต้องมีชีวิตในรัฐโดยธรรมชาติ

(3) รัฐที่มีอํานาจโดยธรรมชาติ

(4) สภาวะของรัฐท่ามกลางธรรมชาติ

ตอบ 1 หน้า 254 – 255, (คําบรรยาย) “สภาวะธรรมชาติ” (State of Nature) ของล็อค หมายถึง สภาพการดําเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อยู่ภายใต้อํานาจรัฐของมนุษย์ ทั้งนี้เนื่องจากโดยธรรมชาติ มนุษย์มีสิทธิกําหนดการกระทําของตนเองโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับคํายินยอมของใครทั้งสิ้น และรัฐก็ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติสําหรับมนุษย์ แต่รัฐเป็นสิ่งที่มนุษย์จัดตั้งขึ้นด้วยความจําเป็นเพื่อทําหน้าที่ป้องกันสิทธิและเสรีภาพที่มีตามธรรมชาติแทนมนุษย์ทุกคน

72 “รัฐเป็นสิ่งธรรมชาติ” มีความหมายอย่างไร

(1) สภาพการดําเนินชีวิตตามธรรมชาติไม่อยู่ภายใต้อํานาจรัฐของมนุษย์ (2) สภาพที่มนุษย์ต้องมีชีวิตในรัฐโดยธรรมชาติ

(3) รัฐที่มีอํานาจโดยธรรมชาติ

(4) สภาวะของรัฐท่ามกลางธรรมชาติ

ตอบ 2 หน้า 247, (คําบรรยาย) รัฐเป็นสิ่งธรรมชาติ หมายถึง สภาพที่มนุษย์ต้องมีชีวิตอยู่ในรัฐโดยธรรมชาติ ทั้งนี้เพลโตและอริสโตเติล เห็นว่ารัฐและสังคมเป็นธรรมชาติของมนุษย์ กล่าวคือ มนุษย์จําเป็นต้องอยู่ในสังคมและอยู่ภายใต้รัฐ เนื่องจากสังคมและรัฐจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ดีที่สุด

73 นักปรัชญาคนใดเชื่อว่า “สภาวะธรรมชาติ” มีจริง

(1) โธมัส ฮอบส์ และ จอห์น ล็อค

(2) โธมัส ฮอบส์ และ เพลโต

(3) เพลโต และ อริสโตเติล

(4) จอห์น ล็อค และ อริสโตเติล

ตอบ 1 หน้า 252 – 255 ฮอบส์ ล็อค และรุสโซ เป็นนักปรัชญาการเมืองตะวันตกสมัยใหม่ที่เชื่อว่าสภาวะธรรมชาติของมนุษย์มีจริง กล่าวคือ มนุษย์โดยธรรมชาติแล้วไม่ใช่สัตว์สังคม แต่ที่ต้องรวมตัวกันเป็นรัฐก็เพราะผลประโยชน์หรือความจําเป็นบีบบังคับ

74 นักปรัชญาคนใดเชื่อว่า “รัฐเป็นสิ่งธรรมชาติ”

(1) โธมัส ฮอบส์ และ จอห์น ล็อค

(2) โธมัส ฮอบส์ และ เพลโต

(3) เพลโต และ อริสโตเติล

(4) จอห์น ล็อค และ อริสโตเติล

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 72 ประกอบ

75 ข้อใดเป็นทัศนะของรุสโซ เรื่องบ่อเกิดของรัฐ

(1) รัฐโดยทั่วไปไม่ดี รัฐที่ดีเกิดจากคนที่นับถือพระเจ้า

(2) รัฐเกิดจากการตกลงยินยอมของบุคคล

(3) รัฐเกิดจากการแบ่งแยกชนชั้น

(4) รัฐเกิดจากตัณหาของชนชั้นผู้มีน้ำใจ

ตอบ 2 หน้า 255 – 257, (คําบรรยาย) รุสโซ (Rousseau) เห็นว่า รัฐที่ถูกต้องเป็นผลจากการรวมตัวอย่างอิสระของมนุษย์ หรือเป็นสังคมที่ปัจเจกบุคคลได้ตกลงยินยอมจัดตั้งด้วยความปรารถนาและการเลือกที่เป็นอิสระ เมื่อสังคมและรัฐเกิดจากเสรีภาพ สังคมและรัฐที่ดีก็ต้องเคารพในเสรีภาพด้วย ดังนั้นรัฐที่ดีจึงควรปกครองโดยคนที่มีเจตจํานงร่วม (General Will) หรือคนที่มีแรงปรารถนา เพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นเจตจํานงที่มุ่งสู่ความดีเพื่อทุกคนทั้งสังคมหรือเพื่อคนทั้งชาติ

76 ข้อใดเป็นทัศนะของมาร์กซ์ เรื่องบ่อเกิดของรัฐ

(1) รัฐเกิดจากพระเจ้า

(2) รัฐเกิดจากการตกลงยินยอมของบุคคล

(3) รัฐเกิดจากการแบ่งแยกชนชั้นจากการผลิต

(4) รัฐเกิดจากตัณหาของชนชั้นผู้มีน้ำใจ

ตอบ 3 หน้า 259, 262 มาร์กซ์ (Max) เห็นว่า รัฐเป็นสิ่งไม่จําเป็นสําหรับสังคมมนุษย์ เนื่องจากรัฐกําเนิดขึ้นจากการแบ่งแยกชนชั้นจากการผลิต อันเป็นผลมาจากโครงสร้างการผลิตที่เปิดโอกาสให้ผู้เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตสร้างอํานาจขึ้นมากดขี่ขูดรีด และรักษาสถานภาพของตนไว้ ดังนั้นถ้าเป็นสังคมที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตแล้วความแตกต่างทางชนชั้นและรัฐก็จะหายไป

77 ข้อใดเป็นทัศนะของเพลโต

(1) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การศึกษา

(2) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ วิธีผลิต

(3) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การกลับใจ

(4) มาตรการกําหนดชนชันของคน คือ การใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล

ตอบ 1 หน้า 269 – 271 เพลโต (Plato) เห็นว่า รัฐต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ศึกษาเล่าเรียนและพัฒนาตามจิตของตน โดยใช้ระบบการศึกษาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนได้แสดงออกหรือตระหนักได้ว่าเขาเป็น บุคคลที่มีจิตภาคใดเด่นที่สุด เพื่อที่จะสามารถบรรจุเขาเข้าสู่ชนชั้นทางสังคมได้ถูกต้องเหมาะสม กับความสามารถ และทําให้เขามีโอกาสที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้เหมาะสมกับเขาที่สุด ซึ่งเมื่อนั้นความยุติธรรมก็จะปรากฏขึ้นแก่สังคม

78 ข้อใดเป็นทัศนะของมาร์กซ์

(1) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การศึกษา

(2) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ วิธีผลิต

(3) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การกลับใจ

(4) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 76 ประกอบ

79 ข้อใดเป็นทัศนะของอริสโตเติส

(1) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การศึกษา

(2) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ วิธีผลิต

(3) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การกลับใจ

(4) มาตรการกําหนดชนชั้นของคน คือ การใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผล

ตอบ 4 หน้า 248 249, (คําบรรยาย) อริสโตเติล (Aristotle) เห็นว่า รัฐและสังคมที่ดีคือ รัฐและสังคมที่สามารถทําให้มนุษย์มีชีวิตที่ดี ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ

1 ช่วยพัฒนาชีวิตให้มีเหตุผล คือชีวิตที่สามารถประพฤติประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมมีคุณธรรมทางศีลธรรม

2 ช่วยพัฒนาให้ใช้ชีวิตที่ตรองถึงสัจจะได้ คือการใช้ชีวิตเพื่อแสวงหาสัจจะหรือที่เรียกว่าคุณธรรมทางปัญญา

80 สิ่งที่มนุษย์ควรได้รับจากรัฐคืออะไร ในทัศนะของล็อค

(1) ความสุข

(2) การปกป้องสิทธิ

(3) การพัฒนาตน

(4) การรักษาเสถียรภาพ

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 71 ประกอบ

81 สิ่งที่มนุษย์ควรได้รับจากรัฐคืออะไร ในทัศนะของมิลล์

(1) ความสุข

(2) การปกป้องสิทธิ

(3) การพัฒนาตน

(4) การรักษาเสถียรภาพ

ตอบ 1 หน้า 258 259 มิลล์ (Mill) เห็นว่า รัฐสามารถเข้าไปควบคุมการกระทําที่มีผลต่อบุคคลอื่น ๆ ได้เพื่อเป็นไปตามหลักประโยชน์นิยม คือ หยุดยั้งการกระทําที่อาจนําไปสู่ความทุกข์แก่คนส่วนใหญ่ และส่งเสริมการกระทําที่สามารถนําไปสู่ความสุขของคนส่วนใหญ่ได้

82 สิ่งที่มนุษย์ควรได้รับจากรัฐคืออะไร ในทัศนะของอริสโตเติล

(1) ความสุข

(2) การปกป้องสิทธิ

(3) การพัฒนาตน

(4) การรักษาเสถียรภาพ

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 79 ประกอบ

83 สิ่งที่มนุษย์ควรได้รับจากรัฐคืออะไร ในทัศนะของฮอบส์

(1) ความปลอดภัย

(2) การปกป้องสิทธิ

(3) การพัฒนาตน

(4) การรักษาความยุติธรรม

ตอบ 1 หน้า 252 – 254 ฮอบส์ (Hobbes) เห็นว่า โดยสภาพธรรมชาติมนุษย์ไม่มีสังคม ไม่มีรัฐ แต่เมื่อเผชิญกับการต่อสู้และความกลัวกับสภาพที่เลวร้าย จึงต้องตกลงกันระหว่างมนุษย์เพื่อจัดตั้งรัฐ และสังคมขึ้นเพื่อผลประโยชน์ คือ เสถียรภาพและขจัดความหวาดกลัวของมนุษย์อย่างได้ผล ดังนั้นรัฐที่ดีต้องสามารถให้ความปลอดภัยและเสถียรภาพแก่คนในรัฐ

84 รัฐที่ดีควรปกครองโดยใครในทัศนะของรุสโซ

(1) คนมีความรู้ดี

(2) คนมีศรัทธาในพระเจ้า

(3) คนมีแรงปรารถนาเพื่อส่วนรวม

(4) คนไม่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 75 ประกอบ

85 รัฐที่ดีควรปกครองโดยใครในทัศนะของเซนต์ ออกัสติน

(1) คนมีความรู้ดี

(2) คนมีศรัทธาในพระเจ้า

(3) คนมีแรงปรารถนาเพื่อส่วนรวม

(4) คนไม่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต

ตอบ 2 หน้า 250 เซนต์ ออกัสติน เห็นว่า รัฐมีความสําคัญน้อยกว่าศาสนจักร ทั้งนี้เพราะศาสนจักรเป็นนครแห่งพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกรัฐนอกศาสนาหรือรัฐที่ไม่นับถือศาสนาคริสต์เป็นรัฐที่ ไม่สามารถทําให้เกิดความยุติธรรมในสังคมได้เลย เพราะรัฐที่ดีและมีความยุติธรรมจะเกิดเฉพาะในรัฐและสังคมที่คนศรัทธาและเคารพบูชาในพระเจ้าเท่านั้น

86 ข้อใดคือปัญหาที่ปรัชญาการศึกษาสนใจ

(1) เป้าหมายของการศึกษา

(2) การบริหารการศึกษา

(3) การสร้างหลักสูตร

(4) สิ่งแวดล้อมของแหล่งศึกษา

ตอบ 1 หน้า 266 ปรัชญาการศึกษา คือ ปรัชญาในส่วนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาเป้าหมายของการศึกษาของสังคม โดยพยายามตอบปัญหาที่ว่า เป้าหมายหรือผลที่พึงประสงค์ที่จะก่อให้เกิดกับผู้เรียนนั้นควรจะเป็นอย่างไร และเป้าหมายดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่

87 วิธีการศึกษาในระดับเริ่มแรกของเซนต์ ออกัสติน คือวิธีการใด

(1) อ่านเรื่องการผจญภัยของโรบินสัน ครูโซ

(2) อ่านคัมภีร์ไบเบิล

(3) เรียนพลศึกษา

(4) เรียนอภิปรัชญา

ตอบ 2 หน้า 273 เซนต์ ออกัสติน ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระดับ คือ

1 ระดับเริ่มแรก เป็นการศึกษาวิชาศิลปศาสตร์ ซึ่งเป็นการศึกษาแบบเข้มงวดและบังคับให้เชื่อโดยยังไม่ใช้เหตุผล เช่น การอ่านคัมภีร์ไบเบิลเป็นหลัก

2 ระดับก้าวหน้า เป็นการศึกษา 2 วิชาสําคัญ คือ เทววิทยาและปรัชญา ซึ่งเป็นการศึกษาแบบใช้ เหตุผลและการพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วยตนเองว่าทําไมความเชื่อและศรัทธาในขั้นเริ่มแรกจึงถูกต้อง ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการศึกษาในขั้นสุดท้ายก็คือ ความสามารถในการใช้เหตุผล/พิสูจน์ ความศรัทธา

88 วิธีการศึกษาในระดับเริ่มแรกของรุสโซ คือวิธีการใด

(1) เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ไม่จําเป็นต้องอ่านหนังสือ

(2) อ่านคัมภีร์ไบเบิล

(3) เรียนพลศึกษา

(4) เรียนอภิปรัชญา

ตอบ 1 หน้า 275 276 รุสโซ เห็นว่า การศึกษาที่ถูกต้องควรเน้นให้เด็กเติบโตอย่างเป็นอิสระ ดังนั้นการศึกษาในขั้นเริ่มแรกสําหรับเด็กก็คือ การเปิดโอกาสให้เด็กมีประสบการณ์หรือได้เรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรงของตนเอง มิใช่การเรียนรู้โดยการอ่านหนังสือ ทั้งนี้เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการศึกษาขั้นสูงสุด คือ การมุ่งสู่ความดีของคนทั้งสังคม หรือความปรารถนาดีต่อคนอื่น ๆ นั่นเอง 89 วิธีการศึกษาในระดับเริ่มแรกของเพลโต คือวิธีการใด

(1) อ่านเรื่องการผจญภัยของโรบินสัน ครูโซ

(2) อ่านคัมภีร์ไบเบิล

(3) เรียนพลศึกษา

(4) เรียนอภิปรัชญา

ตอบ 3 หน้า 270, (คําบรรยาย) เพลโต เห็นว่า รูปแบบการศึกษาจะต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนพลศึกษาโดยคัดเลือกเด็กที่มีร่างกายสมบูรณ์มาฝึกกีฬา ต่อมาจึงเรียนการอ่านเขียนและเรียนคณิตศาสตร์ พออายุประมาณ 20 ปี ผู้ที่เหมาะสมจะได้เรียนคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ และจวบจนอายุ 30 ปี ผู้ที่เหมาะสมจะได้เรียนอภิปรัชญา ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่จะเป็นราชาปราชญ์

90 ข้อใดคือแนวคิดของมิลล์ ในเรื่องเสรีภาพ

(1) เสรีภาพไม่ควรมีขอบเขต

(2) ไม่ควรมีเสรีภาพแต่อย่างใด

(3) ไม่ควรจํากัดเสรีภาพกิจกรรมส่วนตน ที่ไม่มีผลกระทบคนอื่น ๆ

(4) ควรจํากัดเสรีภาพกิจกรรมส่วนตน เช่น ความประพฤติทางเพศด้วย

ตอบ 3 หน้า 319 – 321 มิลล์ สนับสนุนการใช้เสรีภาพของบุคคลอย่างเต็มที่ และไม่ควรจํากัดเสรีภาพส่วนตนที่กระทําในสิ่งที่ไม่มีผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทั้งนี้เนื่องจากเสรีภาพมีบทบาทสําคัญสําหรับการพัฒนาปัญญาและบุคลิกภาพของบุคคล

91 ข้อใดคือแนวคิดของอนาธิปไตย ในเรื่องเสรีภาพ

(1) เสรีภาพไม่ควรมีขอบเขต

(2) ไม่ควรมีเสรีภาพแต่อย่างใด

(3) ไม่ควรจํากัดเสรีภาพกิจกรรมส่วนตน ที่ไม่มีผลกระทบคนอื่น ๆ

(4) ควรจํากัดเสรีภาพกิจกรรมส่วนตน เช่น ความประพฤติทางเพศด้วย

ตอบ 1 หน้า 320 ลัทธิอนาธิปไตย (Anarchism) สนับสนุนการใช้เสรีภาพอย่างไม่ถูกจํากัดของบุคคลในสังคม โดยลัทธินี้เห็นว่า รัฐควรมอบเสรีภาพที่สมบูรณ์แก่พลเมืองของตน และไม่ควรเข้าไปยุ่งหรือบังคับให้พลเมืองกระทําสิ่งใด ๆ ที่ขัดต่อเสรีภาพที่มีอยู่

92 กฎหมายจํากัดความเร็วของรถ เป็นไปตามหลักการใดมากที่สุด

(1) หลักการป้องกันทางศีลธรรม

(2) หลักการป้องกันเหตุร้าย

(3) หลักการป้องกันผลกระทบต่อบุคคลอื่น ๆ

(4) หลักการบังคับให้คนสนับสนุนโครงการสาธารณประโยชน์

ตอบ 2 หน้า 325 326 หลักการควบคุมการใช้เสรีภาพของบุคคลเพื่อป้องกันเหตุร้ายต่อตัวเอง เห็นว่ารัฐมีหน้าที่ต้องเข้าไปควบคุมเสรีภาพของบุคคล เพื่อป้องกันมิให้บุคคลกระทําในสิ่งที่อาจเกิดผลร้าย ต่อตนเอง เช่น การออกฎหมายกําจัดความเร็วของรถยนต์ การออกกฎหมายควบคุมการซื้อและจําหน่ายยา การออกกฎหมายปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น

93 “ห้ามรถยนต์ใช้ความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ในเขตมหาวิทยาลัยรามคําแหง ยกเว้นรถอธิการบดี”เป็นกฎที่บังคับใช้อย่างเข้มงวดกันทุกคน มีความยุติธรรมอย่างไร

(1) เนื้อหาของกฎหมายไม่ยุติธรรม แต่บังคับใช้อย่างยุติธรรม

(2) เนื้อหาของกฎหมายไม่ยุติธรรม และบังคับใช้อย่างไม่ยุติธรรม

(3) เนื้อหาของกฎหมายยุติธรรม และบังคับใช้อย่างยุติธรรม

(4) เนื้อหาของกฎหมายยุติธรรม แต่บังคับใช้อย่างไม่ยุติธรรม

ตอบ 2 หน้า 330 331 ความไม่ยุติธรรมในเนื้อหาหรือจุดประสงค์ของกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรมนั้น เกิดจากการกําหนดข้อยกเว้นที่ไม่ถูกต้องและมีการบังคับใช้อย่าง ไม่เป็นธรรม เช่น “ห้ามรถยนต์ใช้ความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ในเขตมหาวิทยาลัยรามคําแหง ยกเว้นรถอธิการบดี” ซึ่งการยกเว้นในการใช้ความเร็วแก่รถของอธิการบดี ถือว่าเป็นข้อยกเว้น ที่ไม่ยุติธรรมและมีการบังคับใช้ที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้นการบังคับใช้กฏดังกล่าวนี้จึงพบว่า เนื้อหาของกฎหมายไม่ยุติธรรม และบังคับใช้อย่างไม่ยุติธรรมด้วย

94 “ห้ามรถยนต์ใช้ความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ในเขตมหาวิทยาลัยรามคําแหง ยกเว้นรถพยาบาล”เป็นกฎที่บังคับใช้อย่างเข้มงวดกันทุกคน มีความยุติธรรมอย่างไร

(1) เนื้อหาของกฎหมายไม่ยุติธรรม แต่บังคับใช้อย่างยุติธรรม

(2) เนื้อหาของกฎหมายไม่ยุติธรรม และบังคับใช้อย่างไม่ยุติธรรม

(3) เนื้อหาของกฎหมายยุติธรรม และบังคับใช้อย่างยุติธรรม

(4) เนื้อหาของกฎหมายยุติธรรม แต่บังคับใช้อย่างไม่ยุติธรรม

ตอบ 3 หน้า 330 331 โดยทั่วไปกฎหมายต้องมีข้อความที่ระบุถึงกลุ่มคนที่กฎหมายนั้นต้องใช้บังคับและระบุถึงกลุ่มคนที่ได้รับข้อยกเว้นจากกฎหมายนั้น เช่น “กฎหมายห้ามรถยนต์ใช้ความเร็ว เกิน 30 กม./ชม. ในเขตมหาวิทยาลัย ยกเว้นรถพยาบาล” ซึ่งการยกเว้นดังกล่าวถือว่ามีความ ยุติธรรม ทั้งนี้เพราะรถพยาบาลขณะปฏิบัติหน้าที่ จะมีความแตกต่างจากรถธรรมดาโดยทั่วไป เนื่องจากจําเป็นต้องเร่งรีบนําคนป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ดังนั้นการบังคับใช้กฎดังกล่าวนี้จึงพบว่า เนื้อหาของกฎหมายยุติธรรม และบังคับใช้อย่างยุติธรรมแล้ว

95 ผลประโยชน์ใดควรถูกนํามาแบ่งปันให้เท่า ๆ กันสําหรับสมาชิก ตามหลักการแบ่งปันเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์

(1) เฉพาะปัจจัยพื้นฐานของการดํารงชีวิต

(2) เฉพาะความร่ำรวยที่คนขยันผลิตขึ้น

(3) เฉพาะสิ่งที่ขาดแคลน

(4) ผลประโยชน์ทุกชนิด

ตอบ 1 หน้า 333 หลักการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์ เห็นว่า มนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิที่จะได้รับการแบ่งปันปัจจัยการดํารงชีพขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกัน คือ อาหารยารักษาโรค เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย

96 คนอ่อนแอและคนพิการจะไม่ได้รับความยุติธรรม ถ้าใช้หลักการแบ่งปันผลประโยชน์หลักการใด

(1) หลักการแบ่งปันเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์

(2) หลักการแบ่งปันตามความเหมาะสม

(3) หลักการแบ่งปันตามส่วนของแรงงาน

(4) หลักการแบ่งปันตามความมานะพยายาม

ตอบ 4 หน้า 337 338 หลักการแบ่งปันผลประโยชน์ตามความมานะพยายาม เห็นว่า การแบ่งปันผลประโยชน์จะมากหรือน้อยต้องขึ้นอยู่กับความมานะพยายาม โดยผู้ที่มีความขยันขันแข็งในการทํางานจะต้องได้รับการแบ่งปันผลประโยชน์มากกว่าคนขี้เกียจ ซึ่งข้อบกพร่องของหลักการนี้ ก็คือ ไม่ยุติธรรมกับคนที่อ่อนแอและพิการ

97 หลักการแบ่งปันผลประโยชน์หลักการใด มีความเห็นแตกต่างจากหลักการอื่น ๆ ในเรื่องมนุษย์

(1) หลักการแบ่งปันเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์

(2) หลักการแบ่งปันตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากความสามารถ (3) หลักการแบ่งปันตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากคุณธรรม

(4) หลักการแบ่งปันตามความมานะพยายาม

ตอบ 1 หน้า 332, (คําบรรยาย) หลักการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์ แตกต่างจากหลักการอื่น ๆ คือ การแบ่งปันผลประโยชน์ประเภทนี้จะแบ่งให้กับมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถ อายุ เพศ ความมานะพยายาม หรือความเหมาะสมใด ๆ ทั้งสิ้น

98 โอกาสที่แตกต่างกันของการพัฒนาคน คือ ปัญหาของหลักการแบ่งปันผลประโยชน์หลักการใด

(1) หลักการแบ่งปันเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์

(2) หลักการแบ่งปันตามความเหมาะสม

(3) หลักการแบ่งปันตามส่วนของแรงงาน

(4) หลักการแบ่งปันตามความมานะพยายาม

ตอบ 2 หน้า 334 – 335 หลักการแบ่งปันผลประโยชน์ตามความเหมาะสม เห็นว่า บุคคลมีความสามารถที่แตกต่างกัน ดังนั้นบุคคลจึงควรได้รับการแบ่งปันผลประโยชน์ตามความสามารถของแต่ละคนซึ่งปัญหาสําคัญที่เป็นจุดอ่อนของหลักการนี้ก็คือ โอกาสที่แตกต่างกันของการพัฒนาคนนั่นเอง

99 นักปรัชญาคนใดพยายามใช้การศึกษาเพื่อดึงคนห่างจากรัฐ

(1) เพลโต

(2) เซนต์ ออกัสติน

(3) จอห์น ล็อค

(4) อัตถิภาวนิยม

ตอบ 2 หน้า 273 จุดมุ่งหมายของการศึกษาในทัศนะของเซนต์ ออกัสติน คือ การห่างออกจากสังคมและรัฐ โดยมีจุดมุ่งหมายสู่สวรรค์หรืออาณาจักรของพระเจ้า แต่นักปรัชญาตะวันตกสมัยใหม่ เชื่อว่า จุดหมายของการศึกษาต้องเป็นจุดหมายเพื่อสังคมและรัฐ มิใช่ดึงคนให้ห่างออกจากสังคมและรัฐ

100 แนวคิดใดมีเป้าหมายอยากให้ผู้เรียนเป็นตัวของตัวเอง รู้จักตัวเอง

(1) เพลโต

(2) เซนต์ ออกัสติน

(3) จอห์น ล็อค

(4) อัตถิภาวนิยม

ตอบ 4 หน้า 279, 284, (คําบรรยาย) อัตถิภาวนิยม เป็นแนวคิดที่เชื่อในความสําคัญของปัจเจกบุคคล(Individual) โดยมีเป้าหมายของการศึกษา คือ อยากให้ผู้เรียนเป็นตัวของตัวเอง รู้จักตัวเอง มีความ เป็นอิสระ และประสบการณ์ที่แท้จริง

WordPress Ads
error: Content is protected !!