LAW3110 กฎหมายล้มละลาย 1/2566

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2566
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 3110 (LAW 3010) กฎหมายล้มละลายและฟื้นฟูกิจการ
คําแนะนํา ข้อสอบกระบวนวิชานี้เป็นข้อสอบอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ

ข้อ 1. นายเมฆทําสัญญากู้ยืมเงินจากนายหมอกจํานวน 5,000,000 บาท หนี้เงินกู้ถึงกําหนดชําระ นายเมฆไม่ชําระหนี้ นายหมอกจึงฟ้องนายเมฆเป็นคดีแพ่งให้ชําระหนี้เงินกู้ 5,000,000 บาทนั้น ต่อมาศาลแพ่งมีคําพิพากษาให้นายเมฆชําระหนี้ตามฟ้อง นายเมฆไม่พอใจคําพิพากษาของศาลแพ่ง จึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคําพิพากษา แต่นายหมอกนําหนี้ตามคําพิพากษา ของศาลแพ่งมาฟ้องนายเมฆให้ล้มละลาย ศาลล้มละลายกลางตรวจคําฟ้องของนายหมอกและมีคําสั่งรับฟ้อง นายเมฆยื่นคําให้การต่อสู้คดีว่า หนี้ที่นายหมอกนํามาฟ้องยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี ของศาลอุทธรณ์ คําพิพากษายังไม่ถึงที่สุด อีกทั้งศาลอุทธรณ์อาจจะมีคําพิพากษาเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือกลับคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้น หนี้นั้นจึงยังไม่เป็นหนี้ที่สามารถกําหนด จํานวนได้โดยแน่นอน คําสั่งรับฟ้องของศาลล้มละลายกลางจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ ข้อต่อสู้ของนายเมฆชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483

มาตรา 9 “เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ
(1) ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
(2) ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจํานวน ไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท…… และ

(3) หนี้นั้นอาจกําหนดจํานวนได้โดยแน่นอนไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกําหนดชําระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายหมอกได้ฟ้องนายเมฆเป็นคดีแพ่งให้ชําระหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้ยืมเงิน จํานวน 5,000,000 บาท และต่อมาศาลแพ่งมีคําพิพากษาให้นายเมฆชําระหนี้ตามฟ้อง นายเมฆไม่พอใจคําพิพากษา ของศาลแพ่ง จึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์นั้น แม้ศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคําพิพากษา แต่หนี้ตามคําพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวถือเป็นหนี้ที่อาจกําหนดจํานวนได้โดยแน่นอนแล้ว เพราะคําพิพากษาของศาลชั้นต้นย่อมมีผล ผูกพันคู่ความจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคําพิพากษาเป็นอย่างอื่น เมื่อศาลอุทธรณ์ยังไม่มีคําพิพากษา คู่ความจึงต้องผูกพันตามคําพิพากษาของศาลชั้นต้น นายหมอกจึงสามารถนําหนี้ตามคําพิพากษาของศาลแพ่งมาฟ้องนายเมฆ ให้ล้มละลายได้ตามมาตรา 9 และการที่ศาลล้มละลายกลางตรวจคําฟ้องของนายหมอกและมีคําสั่งรับฟ้องจึงชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น การที่นายเมฆยื่นคําให้การต่อสู้คดีว่า หนี้ที่นายหมอกนํามาฟ้องยังอยู่ในระหว่างการ พิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ คําพิพากษายังไม่ถึงที่สุด อีกทั้งศาลอุทธรณ์อาจมีคําพิพากษาเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือกลับคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้น หนี้นั้นจึงยังไม่เป็นหนี้ที่สามารถกําหนดจํานวนได้โดยแน่นอน คําสั่งรับฟ้องของศาลล้มละลายกลางจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ข้อต่อสู้ของนายเมฆจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สรุป ข้อต่อสู้ของนายเมฆไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ข้อ 2. นายโอบอ้อม กรรมการบริษัท อบอุ่น จํากัด ได้ทําสัญญาให้บริษัทฯ ยืมรถกระบะส่วนตัว 1 คัน เพื่อนําไปใช้ในการขนส่งสินค้าผ้าห่มของบริษัทฯ ต่อมาบริษัทประสบภาวะขาดทุนและมีหนี้สิน ล้นพ้นตัว จึงถูกนายรวยเจ้าหนี้รายหนึ่งฟ้องล้มละลาย ศาลล้มละลายกลางมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 บริษัทฯ ไม่สามารถจะเข้าไปจัดการทรัพย์สินใด ๆ ของตนเองได้ เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ายึดทรัพย์สินหมดแล้ว นายโอบอ้อมต้องการจะพยุงฐานะของ บริษัทฯ ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 นายโอบอ้อมจึงได้ทําสัญญาให้บริษัทฯ กู้เงินส่วนตัวจํานวน 500,000 บาทโดยสุจริต เพื่อนําไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินกิจการและชําระค่าจ้างพนักงาน ต่อมาในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ศาลล้มละลายกลางมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ได้ดําเนินการโฆษณาคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามกฎหมายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 และประกาศให้เจ้าหนี้ทั้งหลายมายื่นขอรับชําระหนี้ในคดีล้มละลาย

ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่า นายโอบอ้อมจะมีสิทธิเรียกรถกระบะและหนี้เงินกู้คืนจากบริษัท อบอุ่น จํากัด ได้หรือไม่ ด้วยวิธีการใด จงอธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบ

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483

มาตรา 6 “ในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
“พิทักษ์ทรัพย์” หมายความว่า พิทักษ์ทรัพย์สินไม่ว่าเด็ดขาดหรือชั่วคราว”

มาตรา 22 “เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอํานาจดังต่อไปนี้

(1) จัดการและจําหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทําการที่จําเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป”

มาตรา 24 “เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทําการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตน เว้นแต่จะได้กระทําตามคําสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้”

มาตรา 94 “เจ้าหนี้ไม่มีประกันอาจขอรับชําระหนี้ได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกําหนดชําระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม เว้นแต่

(1) หนี้ที่เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี หรือหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้

(2) หนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทําขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ไม่รวมถึงหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้กระทําขึ้นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ดําเนินต่อไปได้”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ นายโอบอ้อมจะมีสิทธิเรียกรถกระบะและหนี้เงินกู้คืนจากบริษัท อบอุ่น จํากัด
ได้หรือไม่ ด้วยวิธีการใด แยกวินิจฉัยได้ดังนี้

1. การเรียกระกระบะคืน
ตามบทบัญญัติมาตรา 22 และมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ได้กําหนดไว้โดยแจ้งชัดว่า เมื่อลูกหนี้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ลูกหนี้ย่อมไม่มีอํานาจต่อสู้คดีใด ๆ หรือประทําการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน ของตน เพราะกฎหมายบัญญัติให้เป็นอํานาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว จําเลย (ลูกหนี้) จึงไม่มีอํานาจ
ดําเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนได้

ตามอุทาหรณ์ การที่นายโอบอ้อม กรรมการบริษัท อบอุ่น จํากัด ได้ทําสัญญาให้บริษัทฯ ยืมรถกระบะส่วนตัว 1 คัน เพื่อนําไปใช้ในการขนส่งสินค้าผ้าห่มของบริษัทฯ และต่อมาบริษัทฯ ถูกศาล ล้มละลายกลางมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ทําให้บริษัทฯ ไม่สามารถจะเข้าไป จัดการทรัพย์สินใด ๆ ของตนเองได้ เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ายึดทรัพย์สินหมดแล้ว ดังนั้น นายโอบอ้อม โดยวิธีการแจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปฏิบัติตามสัญญาโดยคืนรถกระบะย่อมมีสิทธิเรียกรถกระบะคืนได้ ให้ตนได้ตามมาตรา 22 (1)

2. การเรียกหนี้เงินกู้คืน

การที่นายโอบอ้อมได้ทําสัญญาให้บริษัทฯ กู้เงินส่วนตัวจํานวน 500,000 บาท ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 นั้น เมื่อเป็นหนี้ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่ศาลได้มีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว ซึ่งตามมาตรา 24 ได้บัญญัติห้ามมิให้ลูกหนี้กระทําการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตน ดังนั้น การที่นายโอบอ้อมได้ทํา นิติกรรมโดยให้บริษัทฯ กู้เงินส่วนตัวดังกล่าว แม้จะได้กระทําโดยสุจริตเพื่อนําไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินกิจการ และชําระค่าจ้างพนักงานก็ตาม นิติกรรมการให้กู้ยืมเงินก็มีผลเป็นโมฆะ อีกทั้งมูลหนี้ดังกล่าวก็มิได้เกิดขึ้นก่อน วันที่ศาลมีคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 94 (2) ประกอบมาตรา 6 ดังนั้น นายโอบอ้อมจึงไม่มีสิทธินําหนี้เงินกู้มาขอรับชําระหนี้ในคดีล้มละลาย

สรุป นายโอบอ้อมมีสิทธิเรียกรถกระบะคืนจากบริษัท อบอุ่น จํากัด ได้โดยวิธีการแจ้งให้เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ปฏิบัติตามสัญญาคืนรถกระบะให้แก่ตน แต่ไม่มีสิทธินําหนี้เงินกู้มาขอรับชําระหนี้ในคดีล้มละลาย

 

ข้อ 3. บริษัท สยาม จํากัด ลูกหนี้ได้ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลและศาลได้มีคําสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ต่อมาที่ประชุมเจ้าหนี้ได้มีมติยอมรับแผนและศาลได้มีคําสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการแล้วโดยแต่งตั้งให้ บริษัท เชี่ยวชาญ จํากัด เป็นผู้บริหารแผน ในระหว่างการบริหารแผน บริษัท เชี่ยวชาญ จํากัด ผู้บริหารแผนได้ตรวจบัญชีทรัพย์สินของบริษัท สยาม จํากัด พบว่า บริษัท สยาม จํากัด มีโกดังเก่า 1 หลัง ที่ไม่ได้ใช้และรอรื้อถอนขายอยู่ จึงมิได้ลงรายการไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการว่าจะจัดการอย่างไร

ผู้บริหารแผนเห็นว่าหากจะนําไปจําหน่ายขายน่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ จึงได้ทําสัญญาขาย โกดังเก่าดังกล่าวให้กับนาย ก. ไป เพื่อจะได้มีเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ ลูกหนี้ ทราบเรื่องจึงยื่นคําร้องต่อศาลว่า ผู้บริหารแผนไม่มีอํานาจขายโกดังเก่าดังกล่าวเพราะไม่ใช่การดําเนินการที่จําเป็นเพื่อให้การค้าของลูกหนี้ดําเนินต่อไปได้ตามปกติ สัญญาซื้อขายไม่ชอบเป็นโมฆะ

ผู้บริหารแผนยื่นคําคัดค้านว่า ผู้บริหารแผนมีอํานาจในการจัดการทรัพย์สินและกิจการของลูกหนี้ ในการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย ส่วนลูกหนี้ไม่มีสิทธิในการจัดการทรัพย์สินและกิจการแล้ว จึงไม่ต้อง ขอความเห็นชอบจากลูกหนี้ เช่นนี้ สัญญาซื้อขายโกดังเก่าที่ผู้บริหารแผนทํากับนาย ก. ชอบด้วย กฎหมายหรือไม่เพียงใด และคําร้องของลูกหนี้และคําค้านของผู้บริหารแผนรับฟังได้เพียงใด เพราะเหตุใด

ธงคําตอบ

หลักกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483

มาตรา 90/12 วรรคหนึ่งและวรรคสี่ “ภายใต้บังคับของมาตรา 90/13 และมาตรา 90/14 นับแต่ วันที่ศาลมีคําสั่งรับคําร้องขอไว้เพื่อพิจารณาจนถึงวันครบกําหนดระยะเวลาดําเนินการตามแผน หรือวันที่ดําเนินการ

เป็นผลสําเร็จตามแผนหรือวันที่ศาลมีคําสั่งยกคําร้องขอ หรือจําหน่ายคดีหรือยกเลิกคําสั่งให้ฟื้นฟูกิจการหรือ ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการหรือพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดตามความในหมวดนี้

(9) ห้ามมิให้ลูกหนี้จําหน่าย จ่าย โอน ให้เช่า ชําระหนี้ ก่อหนี้ หรือกระทําการใด ๆ ที่ก่อให้เกิด ภาระในทรัพย์สิน นอกจากเป็นการกระทําที่จําเป็นเพื่อให้การดําเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้สามารถดําเนิน ต่อไปได้ เว้นแต่ศาลที่รับคําร้องขอจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น”

การออกคําสั่งของนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท นายทะเบียนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือผู้มี อํานาจหน้าที่เกี่ยวกับนิติบุคคลซึ่งเป็นลูกหนี้ การทํานิติกรรมหรือการชําระหนี้ใด ๆ ที่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติ ในอนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดของวรรคหนึ่ง การนั้นเป็นโมฆะ”

มาตรา 90/25 “ภายใต้บังคับมาตรา 90/42 และมาตรา 90/64 เมื่อศาลมีคําสั่งตั้งผู้ทําแผนแล้ว ให้อํานาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ และบรรดาสิทธิตามกฎหมายของผู้ถือหุ้นของลูกหนี้ ยกเว้นสิทธิที่จะได้รับเงินปันผลตกแก่ผู้ทําแผน และให้นําบทบัญญัติมาตรา 90/12 (9) มาใช้บังคับแก่ผู้ทําแผนโดยอนุโลม”

วินิจฉัย

ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/12 วรรคหนึ่ง (9) ได้กําหนดข้อจํากัดในการ ดําเนินกิจการของลูกหนี้เพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ โดยการห้ามลูกหนี้จําหน่าย จ่าย โอน ให้เช่า ชําระหนี้ ก่อหนี้ หรือกระทําการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดภาระในทรัพย์สิน นอกจากเป็นการกระทําที่จําเป็นเพื่อให้การ ดําเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้สามารถดําเนินต่อไปได้ เว้นแต่ศาลที่รับคําร้องขอจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น และ การทํานิติกรรมใด ๆ ที่ขัดต่อบทบัญญัตินี้ การนั้นเป็นโมฆะตามมาตรา 90/12 วรรคสี่ ซึ่งข้อจํากัดดังกล่าวย่อม ใช้บังคับกับผู้ทําแผนโดยอนุโลมตามมาตรา 90/25

เนื่องจากในการปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารแผนของลูกหนี้นั้น ผู้บริหารแผนต้องดําเนินการให้เป็นไป ตามแผน ในกรณีที่ไม่ได้กําหนดไว้ในแผน ผู้บริหารแผนย่อมถูกจํากัด เมื่อปรากฏว่าบริษัท สยาม จํากัด มีสิ่ง ปลูกสร้างคือโกดังเก่า 1 หลัง ที่ไม่ได้ใช้และรอรื้อถอนขายอยู่นั้น เป็นทรัพย์ที่มีความจําเป็นที่ลูกหนี้จะนํามาพัฒนาและทํากําไรในการฟื้นฟูกิจการ และในแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้กําหนดให้ผู้บริหารแผนสามารถ ขายทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกได้ ดังนั้น การที่ผู้บริหารแผนได้นําสิ่งปลูกสร้างคือโกดังเก่าของลูกหนี้ ไปขายต่อให้กับนาย ก. บุคคลภายนอก จึงมิใช่การกระทําที่จําเป็นเพื่อให้การดําเนินการค้าตามปกติของลูกหนี้ สามารถดําเนินต่อไปได้ตามแผน นิติกรรมคือสัญญาซื้อขายโกดังเก่าที่ผู้บริหารแผนทํากับนาย ก. จึงไม่ชอบด้วย กฎหมายตกเป็นโมฆะตามมาตรา 90/25 ประกอบมาตรา 90/12 วรรคหนึ่ง (9) และวรรคสี่ และคําร้องของลูกหนี้ที่ว่าผู้บริหารแผนไม่มีอํานาจขายโกดังดังกล่าวเพราะไม่ใช่การดําเนินการที่จําเป็นเพื่อให้การค้าของลูกหนี้ ดําเนินต่อไปได้ตามปกติ สัญญาซื้อขายไม่ชอบเป็นโมฆะนั้นจึงรับฟังได้ ส่วนการที่ผู้บริหารแผนยื่นคําคัดค้านว่า ผู้บริหารแผนมีอํานาจในการจัดการทรัพย์สินและกิจการของลูกหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมาย ส่วนลูกหนี้ ไม่มีสิทธิในการจัดการทรัพย์สินและกิจการแล้ว จึงไม่ต้องขอความเห็นชอบจากลูกหนี้นั้น จึงรับฟังไม่ได้ (เทียบเคียงคําพิพากษาฎีกาที่ 19798/2558)

สรุป สัญญาซื้อขายโกดังเก่าที่ผู้บริหารแผนทํากับนาย ก. ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นโมฆะ และ คําร้องของลูกหนี้รับฟังได้ ส่วนคําคัดค้านของผู้บริหารแผนรับฟังไม่ได้

 

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป 1/2566

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2566
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.

1.We____television when the phone rang.
1. are watching
2. have watched
3. were watching
4. will watch
ตอบ 3 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีก เหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense) แบบนี้ให้ตอบทุกเทอม ดูสูตร

1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบที่ 2 ตอบ were watching ranged

2.We____in that shop before we came home.
1. had been shopping
2. have shopped
3. shop
4. are shopping
ตอบ 1 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย before วางไว้ต้นประโยค

1.S+ had V3 before S + V2
2.S+ had V3 when S + V2
3.S + V2 after S + had V3
4.Before + S +V2 S + had V3
5.After + S +had V3, S + V2
6.When + S + V2 , S + had V3

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 1 before ตอบ had V3 (Past Perfect Tense) ไม่มีในตัวเลือกก็ให้ใช้ had been Ving (Past Perfect Continuous Tense) แทนก็ได้นั่นคือตอบ had been shopping คู่กับส่วนหลังให้ มาแล้ว V2 = came เราเห็น came เป็นอดีต อีกช่องข้างหน้าเราก็ต้องตอบเป็นอดีตด้วย ก็ดูตัวเลือกข้อ 1 had been shopping ตัวเลือกเดียวที่อยู่ในอดีต ก็ตอบได้เลย

3.If I____my work early, I will go to the movies.
1. finishes
2. finished
3. had finished
4. finish
ตอบ 4 หน้า 124- 130 ดูสูตรการใช้ If ขึ้นต้นประโยค มี 4 แบบ

1. If S + V1 , S + V1
2. If S + V1 , S + will V1
3. If S + V2 4 If , S + would/could + V1
4. S+ had V3 , S + would have V3

การเชื่อม if ตรงกลางก็สลับท่อนหน้าไปหลัง หลังไปหน้าเท่านั้น

1. S + V1 if/unless S + V1
2. S + will/can V1 if/unless S+ V1
3. S + would V1 if/unless S+ V2
4. S + would have V3 if/unless S + had V3

ตรงกับสูตร 2. โดยวาง If ขึ้นต้นประโยค ให้มาส่วนหลังคือ will go ทําให้เรารู้ว่าตรงกับสูตร 2 ตอบส่วนหน้าเป็นกริยาช่องที่ 1 (V1) ก็คือ finish ประธานเป็น 1 ตอบกริยา finish

4.My mother____when I came back from school.
1. slept
2. would sleep
3. was sleeping
4. is sleeping
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when

S + was/were + Ving + when + S + V2

ตอบ was sleeping ให้มา came

5.The house____by a professional crew.
1. is being painted
2. painted
3. had painted
4. painting
ตอบ 1 เป็นเรื่องการใช้ Passive Construction รูปประธานถูกกระทํา โดยที่เรารู้ได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องนี้ สามารถดูได้จาก by (หมายถึง โดย) และประธานเป็นสิ่งของ ไม่มีชีวิต อย่างเช่นข้อนี้ The house (บ้าน เป็น สิ่งของ) ก็จะต้องถูกทาสี ในรูปถูกกระทํา จดจําไว้ต้องลงท้ายเป็นกริยาช่องที่ 3 เสมอ เช่น was/were + V3 หรือ is being +V3 = is being painted ในรูป Passive ของ Present Continuous ส่วน painted เรียกว่าเป็น V2 และ had V3 เป็น Past Perfect ไม่ใช่รูปถูกกระทํา ถ้าถูกกระทําของ Perfect ต้องเป็น had been V3 ฉะนั้นจากตัวเลือกมีรูปถูกกระทําตัวเลือกเดียวคือข้อ 1

6.We should leave now,____?
1. should we
2. are we
3. shouldn’t we
4. aren’t we
ตอบ 3 หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า
เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม สําหรับกริยาเช่นให้ are ก็ตอบเป็น aren’t, will ก็ตอบ won’t ถ้าเป็นกริยา แท้แสดงอาการกระทํา ให้ใช้ verb to do มาช่วย
-Jane will be here soon, won’t she?
-There was a lot of rain, wasn’t there?
-Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you สําหรับข้อนี้ We should บอกเล่าทําเป็นปฏิเสธรูปย่อคือ shouldn’t we

7.Pat____when she broke her leg.
1. was skiing
2. has skied
3. were skiing
4. will ski

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when มีดังนี้

S + was/were + Ving + when + S + V2

ตอบ was skiing ให้มา broke (มาจาก break broke broken)

8.They___here for years.
1. live
2. lives
3. have lived
4. will live
ตอบ 3 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิด ติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็ว ๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลาคือ for years จึงตอบ have lived

9.I___here since June.
1. work
2. have worked
3. will work
4. would work
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา since…. ก็ตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) = have worked ได้เลย

10. Nick ___will for two days.
1. do
2. is
3. has been
4. will be
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา for two days ก็ตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) = has been ได้เลย

11. He___in Hawaii in 1976.
1. lives
2. has lived
3. has been living
4. lived
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วในอดีต หรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต, in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอก เวลาคือ in + ปีอดีต 1976 จึงตอบกริยาช่องที่ 2 คือ lived

12. The bus___a few minutes ago.
1. will stop
2. stopped
3. stops
4. has stopped
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา ago (ที่ผ่านมา) เป็นอดีต จึงตอบ V2 = stopped

13. If I___you, I would not do that.
1. am
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ เป็นเรื่อง f สูตร 3

3. If S + V2 , S + would/could + V1

ตอบ were ให้มา would not do

หมายเหตุ ในเรื่องการสมมุติ เช่นเรื่อง If, as if/as though, wish สําหรับกริยา was กับ were ต้องตอบ were เสมอ ถึงแม้ประธานจะเป็น I, he, she ก็ตามหมายถึงใช้ were, she were

14. The course___ next Sunday.
1. start
2. starts
3. has started
4. had started
ตอบ 2 หน้า 104 ใช้ Future Simple Tense S + will/shall + V1) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next + ช่วงเวลา เช่น next year, next month, tonight, in a few minutes, in half an hour เป็นต้น นั่นคือตอบ will start

15. They____English in USA.
1. speak
2. will speak
3. would speak
4. spoken
ตอบ 1 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติจริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุก ปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น และโจทย์ที่เป็นจริงเสมอจะไม่มีคําบอกเวลา แต่ออกสอบทุกเทอมต้อง คอยสังเกตว่าเป็นโจทย์แบบไหน ตัวอย่างเช่น
-The sun rises in the east and sets in the west.
-They speak English in USA. (พวกเขาพูดภาษาอังกฤษในสหรัฐฯ) แสดงทําเป็นประจํา

16. Emma always____her purse.
1. forget
2. will forget
3. is forgetting
4. forgets
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา always

17. If you call me, I____you with your homework.
1. help
2. would help
3. will help
4. helped
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ

2. If S + V1 , S+ will V1

ให้มา call ตอบ will help

18. If she____ her car, she will arrive here on time.
1. drive
2. drives
3. will drive
4. drove
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3 หรือข้อ 17. ประกอบ

2. If S + V1 , S + will V1

ตอบ drives ให้มา will arrive

19. Liz____to the supermarket yesterday.
1. will go
2. went
3. goes
4. go
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา yesterday (เมื่อวานนี้) เป็นอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 คือ went

20. George and Nick___ the bus every morning.
1. catches
2. had caught
3. are catching
4. catch
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา every moming (ทุกเช้า) ตอบกริยาช่องที่ 1 และ ประธาน George and Nick สองคนเป็นพหูพจน์ ตอบกริยาพหูพจน์ คือ catch

21. My parents___ to Monaco every summer.
1. going
2. go
3. goes
4. had gone
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา every summer ตอบ V1 = go

22. I____just____my breakfast when Tom knocked on the door.
1. have; finished
2. had; finished
3. -; finished
4. – : finish
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา just (เพิ่งจะ) เราใช้ Present Perfect Tense (has/have +V3) ซึ่งใช้กับประโยคเดียว แต่ถ้าเรามองดูข้อนี้จะเห็นว่ามีสองตอนและเราเห็นกริยาช่องที่ 2 ใน knocked เป็นรูปอดีต (V2) ฉะนั้นส่วนหน้าที่ให้เติมก็ต้องเป็นอดีตคล้อยตามไปด้วยตามหลักของสอง เหตุการณ์ที่อดีตคู่กับอดีต ฉะนั้นจะต้องเปลี่ยนจากการเป็น Present Perfect (have + V3) มาเป็นอดีตคือ
Past Perfect (had +V3) had just finished

23. His mother____German.
1. is
2. were
3. has been
4. had been
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ ใช้ Present Simple Tense S + V1) กับประโยคที่แสดงความ เป็นจริง อย่างข้อนี้กล่าว “แม่ของเขาเป็นชาวเยอรมัน” แสดงความจริง จึงตอบ V1 = is

24. It’s a long way to the airport,___?
1. is it
2. isn’t it
3. does it
4. doesn’t it
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ ส่วนหาง จากประโยคข้างหน้าเป็นบอกเล่า It’s มาจาก It is ทําเป็น ปฏิเสธรูปย่อ เป็น isn’t it

25. George____back last Thursday.
1. come
2. came
3. comes
4. coming
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา last Thursday เป็นอดีต ตอบ Past Simple (S +V2)
คือ came

26. While you____,I was making dinner.
1. slept
2. will sleep
3. would sleep
4. were sleeping
ตอบ 4 หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่ กับอดีต ในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1. S + V2 while S + was/were Ving
as
2.S + was/were Ving while S + was/were Ving
as
3.S+ is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving

4. While S + was/were Ving ,S + was/were Ving

ข้อนี้ตรงกับสูตร 4. were sleeping ให้มา was making เกิดพร้อมกัน

27. They____for the bus when the accident happened.
1. will wait
2. were waiting
3. wait
4. have waited
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when มีดังนี้

S + was/were + Ving + when + S + V2

ตอบ were waiting ให้มา happened

28. God___with you.
1. be
2. is
3. was
4. will be
ตอบ 1 ขึ้นต้นด้วย God หรือ Long ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันเสมอ ถ้าเป็น verb to be กริยาไม่ผัน
คือ be ถ้าเป็นกริยาทั่วไป ก็คือ ไม่เติม s หรือ ed หรือใด ๆ เลย เช่น
-Long live the king and the queen.
-God be with us.

29.It’s essential that you___the law.
1. does not violate
2. not violate
3. have not violate
4. violate not
ตอบ 2 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เติม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be มักออก 1 ข้อ ได้แก่

S + is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent

It is essential that ตอบ violate (V1 ไม่ผัน)
ใส่ not ไว้ข้างหน้า เป็น not + V1 = not violate

30. In the past, I ____in many mistakes.
1. make
2. will make
3. made
4. have made
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา in the past (ในอดีต) ตอบกริยาช่องที่ 2 ก็คือ made

31. I____French when I was a child.
1. studied
2. am studying
3. have studied
4. study
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลาในอดีต คือ When I was = สมัยเมื่อฉันเป็นเด็ก แสดงถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 ก็คือ studied

32. This kitchen___every day.
1. cleans
2. be cleaned
3. had cleaned
4. is not cleaned
ตอบ 4 ประธาน kitchen (ห้องครัว) เป็นสิ่งของตามด้วยกริยารูปถูกกระทําคือ ถูกทําความสะอาด หรือไม่ได้ถูกทําความสะอาด ลงท้ายด้วย V3 นั่นคือ โครงสร้าง verb to be + V3 = is cleaned เป็น ปฏิเสธ is not cleaned มีตัวเลือกเดียวที่เป็นรูปถูกกระทํา

33.Paula had her iPhone ____.
1. steal
2. stole
3. stolen
4. stealing
ตอบ 3 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 1-2 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ get/got ให้ + V3 ดูสูตร

S + has/have/had + สิ่งของ + V3

หรือ S + get/got + สิ่งของ + V3 ได้เลย
ข้อนี้มี had + iPhone (สิ่งของ) + ตอบกริยาช่องที่ 3 ก็คือ stolen (มาจาก steal)

34.I___for you in front of the department store now.
1. waited
2. had waited
3. am waiting
4. would wait
ตอบ 3หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เรามักคําบอกเวลา เช่น now, right now, at the this moment, at present นั่นคือที่โจทย์มีคําบอกเวลาคือ now เราจึงตอบ am waiting

35. If she knew Spanish, she ___to Spain mor often.
1. would travel
2. travels
3. had traveled
4. traveled
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบเป็นเรื่อง If สูตร 3

3. If S + V2, S + would/could + V1

ให้มา knew ตอบ would travel

36.If they had had money, they___a beach house.
1. would buy
2. will buy
3. would have bought
4. bought

ตอบ 3 การใช้ if ตรงกับสูตรที่ 4

4 If S + had V3, S + would have V3

ให้มา had had ตอบ would have bought

37. My mom___at the moment.
1. cooked
2. is cooking
3. cook
4. had cooked
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ มีคําบอกเวลา at the moment ใช้ Present Continuous Tense =
is cooking

38. As Sue____her homework, Mike arrives.
1. is doing
2. did
3. will do
4. done
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 26. ประกอบ เชื่อมด้วย As (ในขณะที่) ตามหลังจะใช้รูป ing เสมอ

3. S V1 + while S + is/am/are Ving

4. While S + is/am/are+ Ving, S+ V1

ข้อนี้ตรงกับสูตร 4. ให้ตอบ is doing ให้มา arrives

39.The final football match____yesterday.
1. cancelled
2. was cancelled
3. had cancelled
4. is being cancelled
ตอบ 2 ประธาน football match (การแข่งขันฟุตบอล) ถูกยกเลิก ใช้รูปถูกกระทําและท้ายโจทย์มีคําบอก เวลาในอดีต yesterday ใช้รูป was/were + V3 = was cancelled ไม่ใช่ is เพราะโจทย์เป็นอดีต

40. I had my hair____at Jim’s salon a week ago.
1. did
2. doing
3. does
4. done
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ had + สิ่งของ + V2 จึงตอบ done (มาจาก do did done)

41. That brand new car____to Pat.
1. belong
2. belongs
3. is belonging
4. was belonging
ตอบ 2 กริยาบางตัวไม่ใช้รูป Ving เวลาตอบให้ตอบกริยารูปธรรมดาคือ V1 และกริยาผันตามประธานด้วย
เช่น 1. กริยาแสดงความรู้สึก เช่น like, love, hate, feel, know
2. กริยาแสดงเจ้าของ เช่น belong to, own, owe (เป็นหนี้)
3. กริยารูปอื่น ๆ เช่น concern, taste, smell เป็นต้น ดูตัวอย่าง
-This book belongs to you. (หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ)

42.What____you___at 10 o’clock last night?
1. are; doing
2. have; done
3. had; done
4. were; doing
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9 p.m. last night ออกทุกเทอม อย่างข้อนี้มีคําบอกเวลา at 10 o’clock last night จึงตอบ were; doing

43.If they____enough money, they will buy a new car.
1. saved
2. had saved
3.saves
4. save
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3 หรือข้อ 17. ประกอบ

2. If S + V1 , S + will V1

ตอบ save ให้มา will buy

44. We____already____lunch.
1. have; had
2. have; have
3. -; had
4. have;
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา already ใช้ Present Perfect Tense (has/have + V3) จึงตอบ have ; had ส่วนหลังเป็น had คือเป็นกริยาช่องที่ 1 มาจาก has/have had had

45. Last year, I____to France.
1. travel
2. have travelled
3. travelled
4. travelling
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา last year เป็นอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 = travelled

46. If he___more free time, he would visit me.
1. will have
2. had
3. has
4. had had
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบเป็นเรื่อง If สูตร 3

3. If S + 2 , S+ would/could + V1

ตอบ had ให้มา would visit

47. He wishes he____a professional tennis player.
1. is
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 หน้า 147 เป็นการใช้ wish
1. S+ wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S+ wished S+ had V3
3. S+ wish/wishes S+ would/could V1
4. S+ wished S+ would/could have V3

ให้มา wishes เป็นกริยาช่องที่ 1 ตรงสูตร 1 ตอบหลังกริยาช่องที่ 2 คือ were

48. I____football for an hour.
1. play
2. plays
3. was playing
4. have been playing
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา for (เป็นเวลา) เมื่อเห็นตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) ถ้าไม่มีในตัวเลือกให้ตอบ Present Perfect Continuous Tense (has/have + been + Ving) = have been playing

49. He___around the world for a month.
1. travel
2. has been travelling
3. traveling’
4. travels
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8. หรือข้อ 48. ประกอบ มีคําบอกเวลา for ตอบ has been travelling

50. Jane told me that George___her this morning.
1. had visited
2. visit
3. visiting
4. is visiting
ตอบ 1 เราเห็นกริยา told เป็นกริยาช่องที่ 2 อดีต แสดงว่าส่วนหลังก็ต้องตอบรูปอดีต ตามด้วย ดูในตัวเลือกมีรูปอดีตตัวเลือกเดียวคือข้อ 1 had visited เป็น Past Perfect Tense

51. The train____just____when I arrived at the station.
1. has; left
2. have; left
3. had; left
4. was; left
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ ใช้หลักเดียวกันคือเห็นอดีต arrived ส่วนหน้าก็ใช้รูปอดีตตามด้วย นั่นคือ had left ในรูป Past Perfect Tense

52.I___with my sister until I find an apartment.
1. lived
2. would live
3. had been living
4. am living
ตอบ 4 ข้อนี้เดาได้โดยดูจากส่วนหลังให้กริยา find เป็นกริยาช่องที่ 1 รูปปัจจุบัน แสดงว่าส่วนหน้าที่ ตอบเป็นรูปปัจจุบันด้วย ดูตัวเลือกแล้วมีปัจจุบันตัวเลือกเดียวคือข้อ 4 am living นอกนั้นเป็นอดีต

53.I___dinner right now.
1. ate
2. am eating
3. eat
4. have eaten
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ มีคําบอกเวลา right now

54. They____football before it started to rain.
1. play
2. had been playing
3. was playing
4. have played
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ เชื่อมด้วย before

1. S + had V3 before S + V2

ตอบ hadV3 ไม่มีก็ตอบ had been Ving แทนได้ตรงกับ had been playing ส่วนหลังให้ V2 =started

55.___does the store close?
1. How far
2. What time
3. Where
4. Who
ตอบ 2 เป็นรูปประโยคคําถาม ในประโยคต้องการถามเป็นเวลาว่า ร้านปิดกี่โมง ใช้ When หรือ
What time

56. The cake___by my grandmother.
1. baked
2. was baked
3. are baked
4. baking
ตอบ 2 เดาได้เห็น by หรือประธานเป็นสิ่งของ ก็ตอบรูป passive ถูกกระทํา และเป็นเหตุการณ์ที่ กระทําผ่านไปแล้ว ประธาน The cake เป็นเอกพจน์ใช้ was เป็น was baked = was + V3

57.____they enjoy the concert?
1. Does
2. Do
3. Are
4. Have
ตอบ 2 เป็นประโยคคําถาม เราเห็นกริยาหลักช่องที่ 1 คือ enjoy แล้ว ต้องหากริยาช่วยที่ตามด้วยกริยา ช่องที่ 1 ได้นั่นคือ verb to do ประธานเป็น they พหูพจน์ จึงใช้ Do ส่วน Are และ Have จะไม่ตามด้วย

58. Bob said, “You should work hard.”
Bob said that I____work hard.
1. might
2. should
3. used to
4. must

ตอบ 2 เป็นเรื่อง indirect speech เอาคําพูดมาเล่าให้คนอื่นฟังอีกที จะมีการเปลี่ยนคําสรรพนามหรือ Tense (กริยา) ไปด้วย จากประโยค direct speech แรก ใช้กริยาช่วย should ทําเป็น indirect ก็ใช้ should ตัวเดิม

59. We____any mail since we were retired.
1. receive
2. haven’t received
3. received
4. will receive
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา since + ช่วงเวลา ให้ตอบ Present Perfect (has/have + V3) ถ้าไม่มีให้ตอบ Present Perfect Continuous Tense (has/have + been + Ving) แทนกันได้ จึงตอบ haven’t received

60. She said, “I have never been to Paris.”
She said that she___to Paris.
1. had never been
2. has never been
3. having been
4. will be
ตอบ 1 เมื่อทําเป็น indirect speech มาเล่าให้ฟังใหม่อีกที การใช้ Tense จะเปลี่ยนจากรูปปัจจุบันไป เป็นอดีต อย่างข้อนี้ให้กริยา have never been เปลี่ยนเป็นอดีต คือ had never been ตรงกับตัวเลือกข้อ 1 ที่เป็นอดีต

61. The report___by the end of next week.
1. will be submitted
2. will submit
3. are submitted
4. submitted
ตอบ 1 ประธาน The report (รายงาน) ถูกส่ง ใช้รูป passive ถูกกระทํา และส่วนท้ายมีคําบอกเวลา by the end of next week เป็นรูปอนาคตใช้โครงสร้าง will + V1 ทําเป็น passive จะเป็นโครงสร้าง will
be + V3 = will be submitted

62. I got___because I forgot my homework.
1. punish
2. had punished
3. punished
4. punishing
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ กริยา got (มาจาก get) + V3 จึงตอบ punished (จําได้เลย กับข้อ 33. รูปแบบเดียวกันคือ ตอบกริยาช่องที่ 3)

63.___he in town last weekend?
1. Does
2. Did
3. Is
4. Was
ตอบ 4 เป็นประโยคคําถาม และเราเห็นคําบอกเวลา last weekend เป็นอดีต แสดงว่ากริยานั้นต้องเป็นอดีต ไปด้วยนั่นคือในตัวเลือกมี Did กับ Was แล้วดูโจทย์จะเห็นว่าหลังประธาน he ไม่มีกริยาหลักใด ๆ อยู่ตาม ด้วย in town ซึ่งเป็นบุพบทวลีเท่านั้น แสดงว่าต้องตอบกริยาหลัก นั่นคือ verb to be ที่ถูกต้องคือ was (ใน ความหมาย เป็น อยู่ คือ) (เขาอยู่ในเมืองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใช่มั้ย?) ถ้าทําเป็นบอกเล่า ก็จะเป็นว่า Yes, he was in town last weekend, ส่วน verb to do (do, does, did) ถ้าเอามาช่วยในประโยคคําถาม จะต้อง
– Did in stay in town last weekend? นั่นคือ ถ้าใช้ verb to do มาช่วยในประโยคคําถามต้องมี กริยาหลักช่องที่ 1 หลังประธานด้วยตามตัวอย่าง

64. He said, “She can speak Spanish.”
He said that she___Spanish.
1. spoke
2. speaks
3. is speaking
4. could speak
ตอบ 4 ทําเป็น indirect speech กริยาจะเปลี่ยนจากรูปปัจจุบันเป็นรูปอดีต ฉะนั้นกริยาเดิม can speak ทํา เป็น indirect speech จะเป็น could speak ตรงกับตัวเลือกข้อ 4

65.____is coming to the party tonight?
1. When
2. Who
3. What
4. Where
ตอบ 2 หน้า 166 เป็นประโยคคําถาม Wh-questions แบบนี้ออกสอบทุกเทอม 2 – 3 ข้อ
1. Who/What Which + (คํานาม) + กริยา เช่น
-Who saw him?
-Which bus goes to town?
-What happened to you last night?

2. Whom/What Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คํานาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
-What did he buy yesterday?
-Which job have you applied for?

3. Whose + คํานาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
-Whose book are you reading?
-Why did he go home?
-When will you do?
– Where do you come from?
-How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับระดับต่าง ๆ เช่น
-How old is she?
จากโจทย์ มีกริยา is มาให้ ใส่ Who + กริยา เช่น
-Who is the prime minister of Thailand now?

66.____did you go on vacation last year?
1. Who
2. What
3. Where
4. How old
ตอบ 3 ตอบ Where (ที่ไหน) เพราะถามว่า ปีที่แล้วคุณไปเที่ยวที่ไหน? โดย Where + กริยาช่วย +
ประธาน + กริยาหลัก + ส่วนขยาย

67. How___the problem?
1. did you solve
2. solve you did
3. you did solve
4. did solve you
ตอบ 1 ดูคําอธิบาย 63. ประกอบ เมื่อทําเป็นประโยคคําถาม เราต้องใช้ verb to do (ก็คือ did) ไว้หน้า ประธาน you และตามด้วยกริยาหลัก solve ก็จะเป็น did you solve หรือเทียบกับตัวอย่างอื่น
– Did you come home last night? (คุณกลับบ้านไหมเมื่อวาน?)
ในประโยคคําถามยก Did ไว้หน้า you และหลัง you ตามด้วยกริยาหลักคือ come

68.____at the party tonight?
1. Won’t she be
2. Won’t she is
3. Won’t is she
4. Will she be not
ตอบ 1 เป็นประโยคคําถามเช่นกัน เราต้องยกกริยาช่วยไว้หน้าประธานก็คือ Won’t ซึ่งย่อมาจาก Will not ตามด้วยกริยาหลักช่องที่ 1 ไว้หลังประธานเหมือนข้อ 67 เทียบตัวอย่าง
-Will she not be at the party tonight? ถ้ารูปเต็มต้องยก not ไว้หลัง she
-Won’t she be at the party tonight? ถ้าเป็นรูปย่อไว้หน้าประธาน she แล้วตามด้วย V1

69.I suggest she____the meeting.
1. attends
2. attended
3. attending
4. attend
ตอบ 4 เป็นกลุ่มกริยายกเว้น ให้ตอบหลังประธานเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันก็คือ ไม่เติมท้ายอะไรเลย

S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน

suggest that ตอบ attend (V1 ไม่ผัน)

70.I demand that you____.
1. will leave
2. leave
3. left
4. leaving
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ กริยายกเว้น demand that ตอบหลังกริยาช่องที่ 1 คือ leave

71. He said, “I will call you later.”
He said that he____.
1. calls you later
2. will call you later
3. calls me later
4. would call me later
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 64. ประกอบ การทําเป็น indirect speech เปลี่ยนกริยาให้เป็นรูปอดีต ให้มา will ก็เปลี่ยนเป็น would ก็ตอบตัวเลือกข้อ 4 ได้เลย เพราะมีตัวเลือก would ข้อเดียว ส่วนสรรพนาม you ก็
เปลี่ยนเป็น me

72. The students said that____were studying for the test.
1. we
2. you
3. they
4. he
ตอบ 3 เป็นเรื่อง indirect speech ที่มาเล่าให้ฟังอีกที จะเป็นประธานคือ The students (นักเรียน นักศึกษาเป็นพหูพจน์) สรรพนามที่ใช้แทนได้คือ they (พวกเขา)

73. I’d rather you____to Susan.
1. apologize
2. be apologized
3. had apologized
4. apologized
ตอบ 4 หน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2

If only
It’s time
It’s about time          S + V2 ก็คือ apologized
It’s high time that
He’d rather
I think it would be a good idea if

74. We should laugh as if we____happy.
1. is
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 หน้า 138 – 139 เป็นเรื่อง as if as though

1. S + V1 as if/as though S + V2
2. S + V2 as if/as though S + hadV3

ตรงสูตร 1 laugh ตอบ were

75. When we arrived, he____a bath.
1. is having
2. having
3. was having
4. has
ตอบ 3 เราเห็นกริยาช่องที่ 2 คือ arrived เป็นอดีต แสดงว่า กริยาที่จะเติมอีกช่องก็ต้องเป็นอดีตตามไปด้วย ดูตัวเลือกแล้วจะมีรูปอดีตข้อ 3 คือ was having จึงตอบได้เลย

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions: Choose the best answer.

76. There is no____between them.
1. reconciliation
2. reflection
3. foundation
4. connection
ถาม ไม่มีการปรองดองระหว่างพวกเขา
ตอบ 1 1. การปรองดอง 2. การสะท้อน 3. การก่อตัว 4. ความเกี่ยวข้อง
บทที่ 9 ถ้าหากจะเดาก็เดาได้โดยดูจากตัวเลือกว่าเรามีเรียนภาคคําศัพท์ในวิชา ENG 1002 ตัวไหนเราก็จะเห็น ศัพท์ที่เราเรียนมาตัวเดียวคือ reconciliation = การปรองดอง สมานฉันท์ มักตามด้วย between (ระหว่าง) ส่วน connection เป็นเพียงศัพท์เหมือนของ relationship

77. Murder is the most____crime.
1. abominable
2. limited
3. general
4. convinced
ถาม การฆาตกรรมเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจมากที่สุด
ตอบ 1 1. น่ารังเกียจ 2. จํากัด 3. ทั่วไป 4. ทําให้เชื่อ
บทที่ 5 มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ในตัวเลือกข้อ 1 และ 4 คําที่เข้ากับประโยคได้คือ abominable =
น่ารังเกียจ น่าชัง ในเชิงลบ

78. I’ve got a job____tomorrow.
1. bystander
2. company
3. figure
4. interview
ถาม พรุ่งนี้ฉันมีสัมภาษณ์งาน
ตอบ 4 1. คนเดินสัญจรไปมา 2. บริษัท 3. บุคคลสําคัญ 4. สัมภาษณ์
บทที่ 6 ถ้าเห็นคําว่า job (งาน) ก็คาดเดา เกี่ยวกับคําศัพท์ interview = สัมภาษณ์

79. Can you____a torch so I can see?
1. level
2. raise
3. lower
4. return
ถาม คุณช่วยยกคบไฟให้ฉันดูได้ไหม?
ตอบ 2 1. ระดับ 2. ยกให้สูงขึ้น 3. ลดต่ำลง 4. กลับคืน
บทที่ 1 คํากริยา raise = ยกขึ้น เป็นกริยามีกรรมมารับ

80. Should promotion be based on merit or___?
1. figure
2. honor
3. center
4. seniority
ถาม การเลื่อนตําแหน่งควรขึ้นอยู่กับคุณวุฒิหรือความอาวุโส?
ตอบ 4 1. บุคคลสําคัญ 2. ให้เกียรติ 3. ศูนย์กลาง 4. ความเป็นอาวุโส
บทที่ 1 คําศัพท์ seniority = ระบบอาวุโส

81. In law, beer is ___as a food product.
1. identified
2. arranged
3. classified
4. maintained
ถาม ตามกฎหมาย เบียร์จัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร
ตอบ 3 1. ชี้ ระบุ 2. จัดเตรียม 3. จัดหมวดหมู่ 4. คงไว้รักษาไว้
บทที่ 11 classify = จัด แบ่งประเภท มักใช้กับการจัดกลุ่ม จัดหมวดหมู่

82. He didn’t____home until 5 p.m.
1. claim
2. capture
3. appear
4. return
ถาม เขาไม่กลับบ้านจนถึง 5 โมงเย็น
ตอบ 4 1. กล่าวอ้าง 2. จับ จับกุม 3. ปรากฏให้เห็น 4. กลับ กลับคืน
บทที่ 1 คํา return = กลับคืน ส่งคืน มักใช้คืนหนังสือ (books) หรือ return home =กลับบ้าน

83. George was a highly____salesman.
1. plentiful
2. successful
3. enlarged
4. continued
ถาม จอร์จเป็นพนักงานขายที่ประสบความสําเร็จอย่างสูง
ตอบ 2 1. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 2. ประสบความสําเร็จ 3. ทําให้ใหญ่ขึ้น 4. ดําเนินต่อไป
บทที่ 2 คํา successful = ประสบความสําเร็จ มักใช้ในเชิงบวก นําหน้าคํานาม

84. The___operation began on Friday afternoon.
1. garnish
2. trigger
3. rescue
4. control
ถาม ปฏิบัติการช่วยเหลือเริ่มขึ้นเมื่อบ่ายวันศุกร์
ตอบ 3 1. ตกแต่ง ประดับ 2. ก่อให้เกิด 3. ช่วยเหลือ 4. ควบคุม
บทที่ 2 rescue = ช่วยเหลือจากอันตราย มักวางไว้หน้าคํานาม เช่น rescue team = ทีมกู้ภัย

85. He___out the window at the snow.
1. gazed
2. interviewed
3. fetched
4. improved
ถาม เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นหิมะ
ตอบ 1 1. จ้องเพ่งมอง 2. สัมภาษณ์ 3. ไปเอามา 4. ปรับปรุงให้ดีขึ้น
บทที่ 8 gazed = จ้อง เพ่งมอง

86. Is reservation____at that restaurant?
1. necessary
2. delicious
3. healthy
4. active
ถาม จําเป็นต้องจองที่ร้านอาหารนั้นหรือไม่?
ตอบ 1 1. จําเป็น 2. อร่อย 3. แข็งแรง 4. กระฉับกระเฉง
บทที่ 11 necessary = essential = จําเป็น

87. We suddenly saw her in the_____.
1. power
2. ancestor
3. distance
4. offspring
ถาม ทันใดนั้นเราก็เห็นเธออยู่ไกลๆ
ตอบ 3 บทที่ 8 1. พลังอํานาจ 2. บรรพบุรุษ 3. ระยะทาง ระยะห่าง 4. ทายาท ลูกหลาน

88. The fact that she was an old friend was such an amazing____.
1. gift
2. evidence
3. direction
4. coincidence
ถาม การที่เธอเป็นเพื่อนเก่าถือเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าทึ่งมาก
ตอบ 4 1. พรสวรรค์ 2. หลักฐาน 3. ทิศทาง 4. เหตุบังเอิญ
บทที่ 8 coincidence = เหตุบังเอิญ

89. Peter has____ to motivate people.
1. facility
2. behavior
3. collection
4. ability
ถาม ปีเตอร์มีความสามารถในการจูงใจผู้คน
ตอบ 4 1. สิ่งอํานวยความสะดวก 2. พฤติกรรม 3. สิ่งสะสม 4. ความสามารถ
บทที่ 10 ability = ความสามารถ

90. He____the rest of his life to scientific investigation.
1. devoted
2. sent
3. refused
4. healed
ถาม เขาอุทิศชีวิตที่เหลือให้กับการสืบสวนทางวิทยาศาสตร์
ตอบ 1 1. อุทิศตน 2. ส่ง 3. ปฏิเสธ 4. รักษา
บทที่ 9 devoted = อุทิศตน

91. If you went to the art____you would study the school of art.
1. system
2. fragment
3. academy
4. teaching
ถาม ถ้าคุณไปสถาบันศิลปะ คุณจะเรียนโรงเรียนศิลปะ
ตอบ 3 1. ระบบ 2. ส่วน ชิ้น 3. สถาบัน 4. การสอน
บทที่ 9 academy = สถาบัน (ที่ให้ความรู้เฉพาะทาง)

92. What is the official____for this position?
1. story
2. title
3. tag
4. foundation
ถาม ชื่อทางการสําหรับตําแหน่งนี้คืออะไร
ตอบ 2 1. เรื่องราว 2. ชื่อ ตําแหน่ง 3. ติดป้าย 4.การก่อตั้ง
บทที่ 9 title = ชื่อเรื่อง ชื่อ ตําแหน่ง

93. Each poster is signed by the____.
1. ancestor
2. artist
3. crowd
4. bystander
ถาม โปสเตอร์แต่ละใบมีลายเซ็นต์ของศิลปิน

ตอบ 3 บทที่ 2 1. บรรพบุรุษ 2. ศิลปิน 3. ฝูงชน 4. คนสัญจรไปมา
บทที่ 2 artist = ศิลปิน, จิตรกร

94. Do not___fresh water supplies.
1. pollinate
2. relate
3. pollute
4. control
ถาม อย่าสร้างมลพิษให้กับแหล่งน้ำจืด
ตอบ 3 1. ผสมเกสรดอกไม้ 2. เกี่ยวข้องกัน 3. ทําให้เกิดมลพิษ 4. ควบคุม
บทที่ 3 pollute = ทําให้เกิดมลพิษ ทําให้สกปรก

95. They____a refund on unsatisfactory goods.
1. demand
2. result
3. experiment
4. connection
ถาม พวกเขาต้องการเงินคืนสําหรับสินค้าที่ไม่น่าพอใจ
ตอบ 1 1. เรียกร้อง ต้องการ 2. ผลลัพธ์ 3. การทดลอง 4 ความเกี่ยวข้อง
บทที่ 3 demand = ask, request = เรียกร้อง ต้องการ

96. I must____ for a new secretary.
1. refine
2. advertise
3. relate
4. connect
ถาม ฉันต้องโฆษณาหาเลขาคนใหม่
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. โฆษณา 3. เกี่ยวข้อง 4. เชื่อมโยง
บทที่ 3 advertise = โฆษณา ประกาศ

97. The museum is open to the____.
1. activity
2. company
3. public
4. behavior
ถาม พิพิธภัณฑ์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
ตอบ 3 1. กิจกรรม 2. บริษัท 3. สาธารณะ ทั่วไป 4. พฤติกรรม
บทที่ 3 public = สาธารณะ ทั่วไป ทําเป็นคํานาม the public = ประชาชนทั่วไป, บุคคลทั่วไป

98. The knife cut the____of his arm.
1. trait
2. factor
3. complex
4. flesh.
ถาม มีดเฉือนเนื้อแขนของเขา
ตอบ 4 1. ลักษณะ 2. ปัจจัย 3. ซับซ้อน 4. เนื้อ (คน หรือสัตว์)
บทที่ 4 flesh = เนื้อ (ของคนหรือสัตว์)

99.Is there any charge for____?
1. intimacy
2. conclusion
3. admission
4. relationship
ถาม มีค่าธรรมเนียมในการเข้าศึกษาหรือไม่?
ตอบ 3 1. ความใกล้ชิด 2. การสรุป 3. การอนุญาตให้เข้า 4. ความสัมพันธ์
คําศัพท์ charge คู่กับ admission = คิดการเข้า…..

100. I can’t____on 40 Baht a week.
1. endure
2. escape
3. attend
4. survive
ถาม เงิน 40 บาทต่อสัปดาห์ฉันอยู่ไม่ได้
ตอบ 4 1. ทนทาน 2. หลบหนี 3. เข้า 4. อยู่รอด
บทที่ 11 survive = รอดชีวิต อยู่ได้

101. I found the____of his book very interesting.
1. intention
2. intimacy
3. conclusion
4. relationship
ถาม ฉันพบว่าบทสรุปของหนังสือของเขาน่าสนใจมาก
ตอบ 3 1. ความตั้งใจ 2. ความใกล้ชิด 3. บทสรุป 4. ความสัมพันธ์
บทที่ 11 conclusion = บทสรุป

102. Nutritionists said that only 33% of our____intake should be from fat.
1. calorie
2. balance
3. existence
4. complexity
ถาม นักโภชนาการกล่าวว่าเพียง 33% ของแคลอรี่ที่เราได้รับควรมาจากไขมัน
ตอบ 1 1. หน่วยที่ใช้คํานวณพลังงาน 2. ความสมดุล 3. การมีชีวิต 4. ความซับซ้อน
บทที่ 11 calorie = หน่วยที่ใช้คํานวณพลังงานจากอาหาร

103. The city has developed into a____ of industry.
1. level
2. center
3. record
4. return
ถาม เมืองได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม
ตอบ 2 1. ระดับ 2. ศูนย์กลาง 3. บันทึก 4. กลับคืน
บทที่ 12 center = ศูนย์กลาง

104. Judy donated money to____a hospital.
1. inter
2. establish
3. display
4. make
ถาม จูดี้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาล
ตอบ 2 1. สรุป 2.ก่อตั้ง เริ่ม 3. แสดงให้เห็น 4. ทํา
บทที่ 10 establish = ก่อตั้ง ตั้งเริ่ม

105. Language games are usually intended to encourage student____.
1.assumption
2. interaction
3. collection
4. expansion
ถาม เกมภาษามักจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของนักเรียน
ตอบ 2 1. สมมติฐาน 2. ปฏิสัมพันธ์ 3. สิ่งสะสม 4. การขยาย
บทที่ 10 interaction = ปฏิสัมพันธ์

106. The____is designed to test the new drug.
1. existence
2. exhibition
3. excellence
4. experiment
ถาม การทดลองนี้ออกแบบมาเพื่อทดสอบยาตัวใหม่
ตอบ 4 1. การมีชีวิตอยู่ 2. การแสดงนิทรรศการ 3. ความยอดเยี่ยม 4. การทดลอง
บทที่ 4 experiment = การทดลอง

107. The good___makes work go smoothly.
1. system
2. way
3. part
4. rank
ถาม ระบบที่ดีทําให้การทํางานเป็นไปอย่างราบรื่น
ตอบ 1 1. ระบบ 2. วิธี ทาง 3. ส่วน 4. ตําแหน่ง
บทที่ 9 system = ระบบ

108. He laughed to____his nervousness.
1. return
2. raise
3. fetch
4. cover
ถาม เขาหัวเราะเพื่อปกปิดความกังวลใจของเขา
ตอบ 4 1. กลับคืน 2. ยกขึ้น 3. ไปรับมา 4. ปกปิด ปกคลุม
บทที่ 5 cover = ปกปิด ปกคลุม

109. They are still in fear of___.
1. analysis
2. reconciliation
3. academy
4. retribution
ถาม พวกเขายังคงกลัวการลงโทษ
ตอบ 4 1. การวิเคราะห์ 2. การปรองดอง 3. สถาบัน 4. การลงโทษ การเอาคืน
บทที่ 9 retribution = punishment = การลงโทษ การเอาคืน

110. The information led to the___of the murderer.
1. convention
2. capture
3. return
4. distance

ถาม ข้อมูลนําไปสู่การจับกุมฆาตกร
ตอบ 2 1. ธรรมเนียม 2. การจับกุม 3. การกลับคืน 4. ระยะทาง
บทที่ 5 capture = การจับ การจับกุม

111. The crash_____is now on a life support machine.
1. title
2. center
3. flesh
4. victim
ถาม ขณะนี้ผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่บนเครื่องช่วยชีวิตแล้ว
ตอบ 4 1.ชื่อ ตําแหน่ง 2. ศูนย์กลาง 3. เนื้อ 4. ผู้เคราะห์ร้าย
บทที่ 6 victim = sufferer = เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

112. Can you show me any___for your statement?
1. vehicle
2. fragment
3. evidence
4. legend
ถาม คุณช่วยแสดงหลักฐานคําแถลงของคุณให้ฉันดูได้ไหม?
ตอบ 3 1. ยานพาหนะ 2. ชิ้นส่วน 3. หลักฐาน 4. ตํานาน
บทที่ 5 evidence = หลักฐาน

113. He speaks English, but his native tongue is German.
1. indigenous
2. effective
3. power
4. equal
ถาม เขาพูดภาษาอังกฤษ แต่ภาษาแม่ของเขาคือภาษาเยอรมัน
ตอบ 1 1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. ประสิทธิภาพ 3. พลัง อํานาจ 4. เท่ากัน
บทที่ 5 native = indigenous เกี่ยวกับพื้นเมือง บ้านเกิด ใช้กับ native tongue = ภาษาแม่

114. These problems are closely related.
1. associated
2. controlled
3. improved
4. overlooked
ถาม ปัญหาเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ตอบ 1 1. สัมพันธ์ เกี่ยวข้อง 2. ควบคุม 3. ปรับปรุงให้ดีขึ้น 4. มองข้าม
บทที่ 6 related = associated = ซึ่งเกี่ยวข้อง

115. The girl who won the scholarship was quite outstanding.
1. shakable
2. pleased
3. nodding
4. remarkable
ถาม หญิงสาวที่ได้รับทุนค่อนข้างโดดเด่น
ตอบ 4 1. สามารถสั่น 2. ยินดี พอใจ 3. พยักหน้า 4. ดี เยี่ยม
บทที่ 12 outstanding = great, notable, remarkable = เด่น สําคัญ

116. Arrogance is a very unattractive personality trait.
1. function
2. belief
3. characteristic
4. intention
ถาม ความเย่อหยิ่งเป็นลักษณะบุคลิกภาพที่ไม่น่าดึงดูดใจ
ตอบ 3
1. หน้าที่ 2. ความเชื่อ 3. ลักษณะเฉพาะ 4. ความตั้งใจ
บทที่ 10 trait = particularity, characteristic = ลักษณะเฉพาะ คุณสมบัติเฉพาะ

117. The crowds cheered as the parade went by.
1. helped
2. honored
3. applauded
4. placed

ถาม ฝูงชนโห่ร้องขณะที่ขบวนพาเหรดผ่านไป
ตอบ 3 1. ช่วยเหลือ 2. ให้เกียรติ 3. โห่ร้อง 4. วาง
บทที่ 12 cheered = applaud = โห่ร้อง ส่งเสียงไชโย

118. We cannot say for sure what will happen.
1. refine
2. occur
3. greet
4. return
ถาม เราไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. เกิดขึ้น 2. ทักทาย 4. คืน กลับคืน

119. I think I’m a reasonably quick learner.
1. severed
2. fast
3. various
4. clever
ถาม ฉันคิดว่าฉันเป็นคนเรียนรู้เร็วพอสมควร
ตอบ 2 1. รุนแรง 2. เร็ว 3. หลากหลาย 4. เฉลียวฉลาด
quick = fast = รวดเร็ว

120. Temperature can be measured precisely?
1. necessarily
2. exactly
3. automatically
4. relatively
ถาม อุณหภูมิสามารถวัดได้อย่างแม่นยํา?
ตอบ 2 บทที่ 1 precisely = accurately, exactly = อย่างถูกต้อง แม่นยํา พอดี

 

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป s/2565

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2565
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.

1. I____sure what I wanted to study at first.
1wasn’t
2. won’t
3. hadn’t
4. couldn’t
ตอบ 1 เป็นเรื่องคํากริยาที่สามารถตามด้วย Sure ได้ ซึ่งเป็นคําคุณศัพท์ (adj.) นั่นคือ verb to be (is, am, are, was, were) จึงตอบ was เป็นปฏิเสธรูปย่อคือ wasn’t = was not ตามด้วย adj. ได้ ส่วน will not = won’t ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 และ hadn’t ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 หรือ คํานาม ส่วน couldn’t ตามด้วยกริยาช่องที่ 1

2.Last night the moon____brightly.
1. shining
2. shown
3. shines
4. shone
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วใน อดีตหรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ป๊อดีต, in the past, last + last year, last night, last summer, last Sunday ต้น ซึ่งข้อนี้มี last night จึงตอบ V2 = shown (มาจาก shine shone shone) ส่องแสง

3.Before the movie started, we___at the cinema.
1. arrive
2. had arrived
3. are arriving
4. arrived
ตอบ 2 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย before วางไว้ต้นประโยค

1.S + had V3 before S + V2
2.S + had V3 when S + V2
3.S + V2 after S + had V3
4.Before + S +V2, After + S +had V3
5.after + S + had V3, S + V2
6. When + S + V2, S + had V3

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 4 started ให้มา ตอบ had arrived

4.At the moment, Sean____for a bus to Loei.
1. will look
2. is looking
3. have looked
4. were looking
ตอบ 2 หน้า 33 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เรามักคําบอกเวลาจํานะออกทุกเทอมเช่น now, right now, at the/this moment, at present นั่นคือที่โจทย์มีคําบอกเวลาคือ at the moment เราจึงตอบ is looking

5.The sun___It is getting dark now.
1. is setting
2. had set
3. sets
4. will set
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ now จึงตอบ is setting

6.We____an ENG 1002 exam at the moment.
1. had sat
2. have been sitting
3. are sitting
4. were sitting
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 4 ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ at the moment จึงตอบ are sitting

7.This year, the team____a new way to improve our work system.
1. have created
2. creates
3. had created
4. is creating
ตอบ 4 ดูคําอธิบายในข้อ 4 ประกอบ คําว่า This year (ปีนี้) แสดงว่ายังไม่สิ้นสุด ได้กําลังกระทําหรือ ดําเนินอยู่ในปีนี้ จึงตอบ Present Continuous Tense = is creating

8.The government____a new campaign next month.
1. has launched
2. is launching
3. was launching
4. have been launching
ตอบ 2 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้และ ค่อนข้างแน่นอน คือ แทนอนาคตได้ เราเห็นคําบอกเวลา next month เป็นอนาคต ปกติเราตอบ will launch แต่ตัวเลือกไม่มี เราก็ใช้ปัจจุบันแทนอนาคตได้คือ Present Simple Tense กับ Present Continuous Tense ได้เท่านั้นจึงตอบ is launching ส่วนอดีต (was lauchin) หรือ Perfect Tense (has, have been launching)ใช้แทนไม่ได้

9.Bangkok’s weather___ still terrible this year.
1. is
2. was
3. had
4. will
ตอบ 1 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่ เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้น ในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always,usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุกปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น สําหรับข้อนี้มีคําว่า this year (ปีนี้) แสดงว่าตอนพูดยังไม่สิ้นสุด กําลัง อยู่ในเวลาปีนี้ เราใช้รูปปัจจุบันมีตัวเลือกเดียวคือ V1 = is ส่วน was, had เป็นอดีตจึงผิด และ Will ต้องตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เท่านั้น แต่หลังโจทย์นี้มี คุณศัพท์ terrible ใช้ verb to be ได้

10.The guests____at 3 o’clock last night.
1. are still dancing
2. still danced
3. had still danced
4. were still dancing
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9. p.m. last night ออกทุกเทอม 1- 2 ข้อ อย่างข้อนี้มี คําบอกเวลา at 3o’clock last night จึงตอบ were still dancing

11.While Mary____,her sister____.
1. ironed; cooks
2. was ironing; was cooking
3. irons; cooked
4. ironed; had cooked
ตอบ 2 หน้า 38 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เคาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่กับอดีต ออกทุกเทอมในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1. S + V2 while S + was/were Ving
as
2. S + was/were Ving while S + was/were Ving
as
3.S + is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving

4.While S + was/were Ving,S + was/were Ving

ตรงสูตร 4 was getting was cooking

จําหลัง while/as (ในขณะที่) เป็นรูป Continuous (Ving) เสมอ และคู่กับปัจจุบันด้วยกัน การใช้ Continuous สองข้างแสดงการกระทําที่เกิดพร้อมกัน

12.While my boss___ready to speak, the phone___.
1. have got; ring
2. is getting; ring
3. was getting; was ringing
4. was getting; rang
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ เป็นการเชื่อมด้วย While ติดหลังต้องเป็น continuous tense ก่อนนั่นคือ was getting แน่ ๆ เหลือช้อย 3 และ 4 แล้วมาพิจารณาว่าเกิดพร้อมกันไหม โจทย์นี้ไม่ได้เกิดพร้อมกัน แต่เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดตามหลังมาอีกที “ขณะที่เจ้านายของ ฉันกําลังพร้อมที่จะพูด โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา” นั่นคือ โทรศัพท์ดังขึ้นเกิดทีหลังจึงตอบ rang (มาจาก ring) เราไม่ตอบ was ringing (กําลังดัง)

13.Whenever I visited my mother, she____.
1. slept
2. had slept
3. was sleeping
4. has slept
ตอบ 1 เราเห็น whenever (เมื่อไรก็ตาม) แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจําแต่เป็นอดีตเพราะเราเห็นกริยาช่องที่ 2 คือ visited อีกประโยคก็ตอบเป็น V2 คือ slept แสดงสองเหตุการณ์ใน อดีตที่ทําประจํา

14.At this time last week, my friend____the piano at a concert.
1. had played
2. play
3. was going to play
4. was playing
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบมีคําบอกเวลา at this time last week เป็นอดีตที่เจาะจงเวลาที่
แน่นอน ใช้ Past Continuous Tense = was playing

15.This time last year, I____in Japan.
1. lived
2. had lived
3. was living
4. had been living
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบเช่นกัน มีคําบอกเวลา This time last year

16.The orchestra____when the lights went off.
1. playing
2. would play
3. was playing,
4. being played
ตอบ 3 หน้า 90 ดูสูตรการเชื่อมด้วย when

1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบ 2 ตอบ was playing , went

17.I____you for ages. Where have you been?
1. don’t see
2. haven’t seen
3. won’t see
4. am not see
ตอบ 2 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดง เหตุการณ์ที่เกิดติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็วๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) ข้อนี้มีคําบอกเวลาคือ for ages (เป็นเวลาหลายปี) จึงตอบ haven’t seen

18.____you ever___to England?
1. Are;been
2. Have; been
3. Are; gone
4. Were; going
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลา ever (เคย) ตอบ Have ; been

19.My husband____ on.his report all evening.
1. has been working
2. is working
3. works
4. will be worked
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลา all evening แสดงเหตุการณ์ที่ทําต่อเนื่อง ตอบ
Present Perfect Tense = has been working

20.My father____outside for a long time.
1. hadn’t been
2. couldn’t be
3. wouldn’t be
4. hasn’t been
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ for a long time

21.I____in Bangkok since I was born.
1. have lived
2. live
3. lived
4. was living
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ since + ช่วงเวลา จึงตอบ have lived

22.Tony___that novel for three hours, and he still wants to continuing reading it.
1. has read
2. has been reading
3. will read
4. reads
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ for three hours และยังคงต้องการทําต่อไป ก็คือมีประโยคตามหลังมาว่า เขายังคงต้องการดําเนินการต่อไป ในอนาคต จึงตอบ Present Perfect Continuous Tense = has been reading

23. May___Korean for 2 years.
1. has studied
2. studied
3. studies
4. is studying
ตอบ 1 ดูคําอธิบายในข้อ 17 ประกอบ มีคําบอกเวลา for 2 years ตอบ has studied

24.She__her assignment before she went home.
1. finishing
2. has finished
3. finishes
4. had finished
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3 ประกอบ เชื่อมด้วย before

S + had V3 + before + S + V2

ตอบ had finished went

25.Jane felt sick; she____ in the rain too long.
1. walk
2. had been walking
3. would walk
4. was walked
ตอบ 2 หน้า 86 -90 ใช้ 2 เหตุการณ์ โดยมักจะเห็นกริยาช่องที่ 2 (felt มาจาก feel felt felt) หนึ่ง ประโยคก่อน แล้วอีกประโยคมักควบคู่กับ Past Perfect (S + had V3) หรือ Past Perfect Continuous Tense S + had been Ving) ในกรณีหลังใช้เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์หรือการ กระทําที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันโดยไม่ขาดตอน ณ ช่วงเวลาหนึ่งในอดีต มักใช้กับกริยาเช่น walk (เดิน แสดงเดินต่อเนื่อง) rain (ฝนตก) wait (รอคอย) Swim (ว่ายน้ํา) เป็นต้น จึงตอบรูปการทํา ต่อเนื่องได้ใช้รูป continuous = had been walking

26.We went to the show late, so it____.
1. began
2. had been beginning
3. had already begun
4. would began
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ เราเห็นกริยช่องที่ 2 คือ went และอีกประโยคสามารถตอบ Past Perfect (S+ had V3) เพราะกริยา begin แสดงถึงการเริ่มต้นไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่เริ่มต้น ต่อเนื่องเหมือนโจทย์ข้อ 25 สําหรับข้อ 26 นี้เราใช้ had already begun (had V3) เพราะ เริ่มต้นไปแล้ว

27.There was a big flood in Chiangmai; it____heavily for many days.
1. rains
2. is raining
3. would rain
4. had been raining
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ เช่นกันว่ามีกริยาช่องที่ 2 = was และตอบ had been raining
แสดงถึงฝนตกที่ดําเนินต่อเนื่องได้

28.Jack sold his pick-up; he____it for 10 years.
1. had owned
2. had been owning
3. was owning
4. may own
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ มีกริยาช่องที่ 2 คือ sold และส่วนหลังมี for 10 years แสดงการใช้ Perfect Tense แต่อยู่ในรูปอดีตสําหรับข้อนี้ใช้ had owned เพราะกริยา owned เป็น เจ้าของไม่นิยมใช้รูป ing จึงไม่ตอบช้อย 2 แต่ตอบช้อย 1

29.He___hard all night, and he felt really sleepy.
1. was working
2. works
3. has worked
4. had been working
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ มีคําว่า all night ตลอดคืน แสดงการทํางานต่อเนื่อง ใช้ had been
working

30.Jennie’s birthday is at the end of next month. She____15.
1. will turn
2. tums
3. tumed
4. will have turned
ตอบ 1 หน้า 104 ใช้ Future Simple Tense S + will/shall + V1) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next + ช่วงเวลา เช่น next year, next month, tonight, in a few minutes, in half an hour เป็นต้น สําหรับ ข้อนี้มีคําบอกเวลา at the end of next month (เดือนหน้า) ตอบ Future Tense = will turn

31.You can call me at six. I____ my work by then.
1. will be finishing
2. finish
3. will have finished
4. am finishing
ตอบ 3 หน้า 112 Future Perfect Tense (S + will/shall + have V3) Future Perfect Continuous Tense (S+ will/shall + have been Ving) กับคำบอกเวลาขึ้นต้นด้วยคําว่า “by” (ประมาณ ราว ๆ ) เช่น by next year, by the end of this year, by tomorrow, by that time, by the end of this month, by noon จึงตอบ will have finished

32.Your action____my feeling. I will always love you.
1. will affect not
2. not affect
3. will not affect
4. does not affect
ตอบ 4 ถ้าเราสังเกตว่าประโยคหลังมี will love แสดงอนาคตแล้ว ประโยคแรกก็ไม่น่าจะใช้ will มาอีก เพราะประโยคแรกต้องการแสดงปัจจุบัน ประธานเอกพจน์ และเป็นรูปปฏิเสธ ใช้ does not V1 = does not affect

33.By the end of June, this teacher___ here for a year.
1. will be teaching
2. will teach
3. will been teaching
4. will have been teaching
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 31 ประกอบ มีคําว่า By ตอบ Future Perfect Tense S + will have V3) หรือ Future Perfect Continuous Tense (will have been + Ving) มีถูกช้อยเดียวคือ will have been teaching

34.Pat___us at the train station if she___to the concert.
1. will meet; wants go
2. can meet; wants to go
3. will meet; will want to go
4. can meet; will want to go
ตอบ 2 หน้า 124- 130 เป็นการตัด if ออกไป การใช้ If มี 4 แบบ จําให้ได้ออกสอบทุกเทอม

1. If S + V1 S+ V1, S + V1
2. If S + V1 , S+ will V1
3. If S + V2 , S+ would/could + V1
4 If S+ had V3 , S+ would have V3

การเชื่อม if ตรงกลางข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 3

1. S + V1 if/unless S + V1
2. S + will/cab V1 if/unless S + V1
3. S + would V1 if/unless S + V2
4. S + would have V3 if/unless S + had V3

สูตรที่ 2 can meet ตอบ wants to go
กริยา want กับ go เอามาติดกันต้องมี to คั่น ต้องเป็น want to go

35.The teacher____her pass if she___lazy all semester.
1. might let; had not been
2. might have let; were not
3. might let; had not being
4. might have let; had not been
ตอบ 4 ดูคําอธิบาย 34 ประกอบในสูตร 4 เราใช้ would ไม่มีก็เป็น might ได้ ก็ตามสูตร 4 might have let คู่กับขวาคือ had V3 = had not been

36.Unless I___late, I will join you for lunch tomorrow.
1. wake up
2. do not wake up
3. were to wake up
4. had woken up
ตอบ 1 การเชื่อมด้วย Unless มีความหมายว่า If I do not wake up late ( ถ้าฉันไม่ตื่นสาย) ฉันจะเข้าร่วมทานอาหารกลางวันกับคุณพรุ่งนี้) unless = if ….. not แต่หลัง unless จะไม่มี not อีกแล้ว นั่นคือเท่ากับ Unless I wake up late = If I do not walk up late

37.If Ted understands this, he___it correctly.
1. would have done
2. will do
3. would do
4. will be done
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34 ประกอบ

2. If S+ V1 , S+ will V1

understands ตอบ will do

38.Anna____ to the wrong place if she had not used Google Map.
1. would go
2. will go
3. goes
4. would have gone
ตอบ 4

4. S + would have V3 if/unless S + had V3

ตอบ would have gone had not used

39.Jane would have passed the test last month if she____ harder.
1. would have passed
2. studies
3. had studied
4. would pass
ตอบ 3
4. S + would have V3 if/unless S + had V3

would have passed ตอบ had studied

40.If I___you, I___nicer to people.
1. was; would have been
2. were; would be
3. am; would have been
4. had been; would be
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34 ประกอบ

ดูคําอธิบายข้อ 34 ประกอบ

3. If S + V2 , S + would/could + V1

were would be

41.If I were the writer, the new book.____Live Forever.
1. will be titled
2. would be titled
3. would have been titled
4. would be titling

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 40 ประกอบลักษณะเดียวกัน were คู่กับ would V1 ในที่นี้ตอบ would be V3 = would be titled เป็นรูป passive construction คือถูกกระทําเพราะประธานเป็น สิ่งของ (the new book)

42:It is as though she___something.
1. overlooked
2. overlooks
3. will overlook
4. is overlooking
ตอบ 1 หน้า 138 – 139 เป็นเรื่อง as if/ as though

1. S + V1 as if/as though S + V2
2. S + V2 as if/as though S+ hadV3

ตรงสูตร 1 is ตอบ overlooked

43.It is time you ____your job seriously.
1. takes
2. take
3. will take
4. took
ตอบ 4 ดูหน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2

If only
It’s time เป็นคําถาม Isn’t it time
It’s about time                         S + V2 ก็คือ took
It’s high time that
He’d rather
I think it would be a good idea if

44.It is important that she____here on time.
1. comes
2. came
3. will come
4. come
ตอบ 4 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เติม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be มักออก 1 ข้อ ได้แก่

S + is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent
It is important that ตอบ come (V1)

45.We requested that nobody____our secret.
1. be told
2. was told
3. were told
4. would do
ตอบ 1 หน้า 148 149 เป็นคํากริยายกเว้นที่มี 5 ตัวเห็นแล้วตอบข้างหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ ผัน คือกริยาไม่เติม sled เลย เช่น ask, want ถ้าเป็น Verb to be ต้องเป็น be

S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน

requested that ตอบ be เป็นกริยาไม่ผัน

ใช้ be + V3 – be told (ถูกบอก) รูปถูกกระทํา แต่ตัวแรกตอบ be คือกริยาไม่ผันก่อน

46.It is necessary that Jane____this task by herself.
1. do
2. does
3. will do
4. would do
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 44 ประกอบ ขึ้นต้นด้วย It is necessary that ตอบกริยาไม่มันก็คือ verb to do ก็คือ do เป็นกริยาเดิมไม่ผัน จึงตอบ do ถึงแม้ประธานจะเป็นเอกพจน์ซึ่งปกติใช้ does ก็ ตาม

47.James wishes he____a bigger house.
1. own
2. owned
3. owns
4. will own
ตอบ 2 หน้า 147 เป็นการใช้ wish
1. S + wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S + wished S + had V3
3. S + wish/wishes S+ would/could V1
4. S + wished S + would/could have V3

ให้มา wishes เป็นกริยาช่องที่ 1 ตรงสูตร 1 ตอบหลังกริยาช่องที่ 2 คือ owned

48.Close the door,____ ?
1. do you 2. will you
3. are you
4. aren’t you
ตอบ 2
หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม เราเห็นประโยคให้มีกริยาช่วย will ตอบ tag เป็น won’t รูปย่อ และคํานาม Dan ชื่อเพศชายตอบ tag เป็น he รวมกัน won’t he ตัวอย่างอื่นเช่น
-Jane will be here soon, won’t she?
-There was a lot of rain, wasn’t there?
-Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
-Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
-Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you

49.Let’s have a drink,____ ?
1. did we
2. could we
3. are we
4. shall we
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 48 ประกอบ เป็นกรณียกเว้น ขึ้นต้นด้วย Let’s ตอบ shall we

50.These games are fun,____?
1. aren’t they
2. didn’t they
3. weren’t they
4. won’t they
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 48 ประกอบ มีกริยา are ตอบส่วนหลังเป็น aren’t และประธานเป็นพหูพจน์ จึงตอบ they

51.____sold this house?
1. Where
2. Which
3. Who
4. What
ตอบ 3 เป็นประโยคคําถาม เราเห็นกริยา sold(sell) สามารถตอบคําที่อยู่ข้างหน้าในรูปของประธาน ได้คือ Who + verb = Who sold (ใครขาย…….)

52.____picture is it?
1. Whose
2. Who
3. How
4. When
ตอบ 1 เป็นประโยคคําถาม มีคํานาม picture สามารถใช้ Whose + นาม หลัง whose ต้องมีคํานาม ตามหลังเสมอ ได้ Whose picture = รูปภาพของใคร ถ้า When ถามถึงเวลา How + adj.

53.____each other before?
1. Haven’t we met
2. Haven’t we meet
3. Have we not meet
4. Have not we met me
ตอบ 1 หน้า 168 คําถามปฏิเสธ ลักษณะการตั้งคําถามคือ ย้ายรูปย่อของกริยาช่วยปฏิเสธไปไว้ข้างหน้า
ประธาน เช่น
-Didn’t you hear the bell? I rang it three times.
-Don’t you want to go to the party?
-Haven’t we met each other before?

54.____is your birthday?
1. When
2. Where
3. Whom
4. Whose
ตอบ 1หน้า 167 ถาม When ถามถึงเวลา
-When is your birthday? (วันเกิดของคุณเมื่อไร)
-When will you do? (คุณจะทําเมื่อไร)
-When did the rain stop? (ฝนหยุดตกเมื่อไร)

55.Jessica is not a doctor,____?
1. isn’t she
2. is she
3. wasn’t she
4. was she
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 48 ประกอบ กริยา is not ทําส่วนหลังเป็นบอกเล่าคือ is และ Jessica เป็น คํานามเพศหญิง ใช้สรรพนาม she แทน

56.She had her bag____.
1. stolen
2. steal
3. stealing
4. to steal
ตอบ 1 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 1-2 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ get/got ให้ + V3 ดูสูตร

S + has/have/had + สิ่งของ + V3

หรือ S + getgot + สิ่งของ + V3 ได้เลย
ข้อนี้มี had + her bag (สิ่งของ) + ตอบกริยาช่องที่ 3 ก็คือ stolen (มาจาก steal)

57.Can you get this report____by Monday?
1. do
2. done
3. to do
4. doing
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ กริยา get + สิ่งของ + V3 จึงตอบ done

58.It is____that a respiratory virus has spread from China.
1. report
2. reports
3. reported
4. reporting
ตอบ 3 หน้า 156 เป็นรูป passive reparing verbs ในรูปแบบของกริยาในประโยคดังนี้

ประธาน be said
known to    +V1
reported

It is reported that ten people were killed. (มีรายงานว่าคน 10 คนถูกฆ่าตาย)

59.The Aurora Gold and Jewelry shop____yesterday.
1. is robbed
2. was robbed
3. had been robbed
4. had robbed
ตอบ 2 หน้า 158 เป็นเรื่อง passive construction ในรูปของประธานถูกกระทํา โดยใช้โครงสร้าง verb to be + V3 อาจะสังเกตจากประธานเป็นสิ่งของ หรือส่วนหลังประโยคมีคําว่า by (โดย) สําหรับข้อนี้ประธานคือ shop ร้านถูกปล้น จึงใช้ was robbed ตัวแรกเป็น was เพราะท้าย โจทย์มี yesterday แสดงอดีต ใช้ V2 มาจาก robbed มาเป็น was robbed

60.Jack had his car____.
1. repair
2. repaired
3. repairing
4. repair
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ had + สิ่งของ (car) + v3 = + v3 = repaired

61.Kimberly got her laptop____.
1. fix
2. fixed
3. fixing
4. to fix
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ get/got + สิ่งของ + V3 = fixed

62.Bill’s car needs____.
1. fix
2. fixed
3. fixing
4. to fix
ตอบ 3 กริยา needs ผันตามประธานแสดงถึงเป็นกริยาแท้ ตามด้วย Ving จึงตอบ fixing

63.Jane said to me, “Do you like cats?”
Jane____me if I liked cats.
1. say
2. says
3. ask
4. asked
ตอบ 4 หน้า 197 การทํา Direct Question ให้เป็น Indirect Question เรารู้จากการถาม Do you like….. กริยาหลักต้องเป็นเปลี่ยนเป็นดังนี้

ฉะนั้นจาก said to me เปลี่ยนเป็น asked me

64.Mark said to his girlfriend, “What will you do?”
Mark asked his girlfriend what she____do.
1. will
2. would
3. shall
4. should
ตอบ 2หน้า 191 ประโยคคําถาม said เปลี่ยนเป็น asked และกริยาที่อยู่ในอนุประโยคด้านขวา จาก Present Simple Tense (will) จะต้องเปลี่ยนเป็น Past Simple Tense คือ would

65.Yaya said to me, “When is your birthday?”
Yaya asked me when____birthday was.
1. our
2. ours
3. my
4. mine
ตอบ 3 หน้า 197 เรารู้ว่าจากประโยคแรกว่าคําถาม your birthday ก็คือถาม me ฉะนั้นเมื่อเป็น indirect เราจะเปลี่ยนคําสรรพนามจาก your มาเป็น my เพราะหมายถึงถามฉัน (me)

66.Soundin____ mechanical waves.
1. are traveling
2. traveled
3. travel
4. travels
ตอบ 4 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงข้อความที่เป็นจริงโดยธรรมชาติหรือ โดยทั่ว ๆ ไปรวมทั้งสุภาษิตและคําพังเพย แสดงความเป็นจริงในปัจจุบันรวมทั้งสิ่งที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีเช่น
-The sun rises in the east, and sets in the west.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)
-Sound travels in mechanical waves. (เสียงเดินเป็นคลื่นกล)

67.A male mosquito____on blood.
1. not fed
2. doesn’t feed
3. hasn’t fed
4. won’t feed
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 66 ประกอบ เป็นจริงใช้ V1 ถ้าบอกเล่า feeds ปฏิเสธเป็น = doesn’t feed เป็นความจริงว่า “ยุงตัวผู้ไม่กินเลือด”

68.Our family____our bank account every month.
1. updates
2. updated
3. are updating
4. had updated
ตอบ 1 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่ เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ําเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้น ในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always,usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุกปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น ฉะนั้นมี every month จึงตอบ V1 = updates

69.This area____draughts from March to May.
1. got
2. has got
3. gets
4. would getting
ตอบ 1 หน้า 24 ใช้ Past Simple Tense S + V2) ใช้เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบสิ้นไป แล้วในอดีต อย่างข้อนี้ เป็นการเล่าว่า “พื้นที่นี้แห้งแล้งจากเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม” สามารถ ระบุเวลาได้แสดงถึงเหตุการณ์ได้เกิดผ่านไปแล้ว แล้วเอามาพูดตอบ V2 = got

70.The pen____erasable.
1. does not
2. is not
3. will not
4. has not
ตอบ 2 หน้า 167 การทําเป็นรูปปฏิเสธ เราเห็น erasable เป็นคําคุณศัพท์ (adj.) กริยาที่วางหน้า
คุณศัพท์ได้จะเป็น verb to be จึงตอบ is not + adj. ได้ ส่วน ถ้าเป็น does not, will not จะ ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 และ has not + กริยาช่องที่ 3

71.Time____ when you’re having fun.
1. flies
2. fly
3. flew
4. flown
ตอบ 1 ประธาน Time เอกพจน์ ถ้าใช้กริยาช่องที่ 1 เอกพจน์ต้องเป็น flies ถูกต้องเพราะเป็นการพูด ความจริงว่า “เวลาผ่านไปเร็วเมื่อคุณสนุก”

72.The crowd____to the main stadium last evening.
1. parades
2. parading
3. paraded
4. parade
ตอบ 3 เราเห็นคําบอกเวลา last evening (เมื่อเย็นที่ผ่านมา) เป็นอดีตใช้ V2 = paraded

73.This bread____ bad, so I threw it away.
1. went
2. gone
3. going
4. go
ตอบ 1 เราเห็น threw เป็นกริยาช่องที่ 2 มาจาก throw threw thrown ฉะนั้นอีกส่วนข้างหน้าก็ต้องเป็นอดีตไปด้วยจึงตอบกริยาช่องที่ 2 คือ went ขนานอดีตทั้งคู่เป็นการเล่าเหตุการณ์

74.James____the phone ring, and he left it at our house.
1. haven’t hear
2. hasn’t heard
3. didn’t heard
4. didn’t hear
ตอบ 4 เราเห็น left เป็นกริยาช่องที่ 2 เป็นอดีต เราก็ตอบข้างหน้าเป็นอดีตไปด้วยคือ V2 = didn’t hear ถ้าใช้ did not มาช่วยแล้วตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เสมอ ตอบอดีตทั้งหน้าและหลัง

75.This bridge____the place where I met the President.
1. was
2. were
3. is
4. am
ตอบ 1 เช่นเดียวกัน เราเห็น met เป็น V2 เล่าเหตุการณ์ในอดีต เราก็ตอบส่วนหน้าเป็นอดีตไป
ด้วยคือ was

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)

76.He will____his family fortune.
1. lower
2. continue
3. cheer
4. inherit
ถาม เขาจะ___ทรัพย์มรดกตระกูลของเขา
ตอบ 4 หน้า 29 1. ลดต่ำลง 2. ดําเนินต่อไป 3. รื่นเริง 4. ได้รับมรดก สืบทอด

77.My son is one of the greatest___of his generation.
1. artists
2. fragments
3. directions
4. reconciliation
ถาม ลูกชายของฉันเป็นหนึ่งใน____ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเขา
ตอบ 1 หน้า 30 1. จิตรกร 2. ชิ้นส่วน 3. ทิศทาง 4. การไกล่เกลี่ย

78.Water from factories____this area’s rivers and canals.
1. affects
2. pollutes
3. convinces
4. gazes
ถาม น้ำที่ไหลจากโรงงานทําให้แม่น้ำและคลองในพื้นที่นี้____.
ตอบ 2 หน้า 45 1. มีผลต่อ 2. ทําให้เกิดมลพิษ 3. ทําให้เชื่อ 4. จ้องมอง

79. Put yourself in a good_____.
1. evidence
2. gift
3. essential
4. environment
ถาม ทําให้ตัวเองอยู่ใน____ที่ดี
ตอบ 4 หน้า 46 1. หลักฐาน 2. ของขวัญ 3. สิ่งจําเป็น 4. สิ่งแวดล้อม สภาวะแวดล้อม

80.The most___ study confirms that this illness is curable.
1. recent
2. abominable
3. complex
4. quick
ถาม จากการศึกษา____ที่สุดยืนยันว่าโรคเจ็บป่วยนี้สามารถรักษาได้
ตอบ 1 หน้า 46 1. เร็ว ๆ นี้ ไม่นานมานี้ 2. น่ารังเกียจ 3. สลับซับซ้อน 4. รวดเร็ว

81.It’s a sensitive issue, so please don’t____it.
1. report
2. interview
3. emphasize
4. improve
ถาม มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหว กรุณาอย่า___มัน
ตอบ 3 หน้า 46 1. รายงาน 2. สัมภาษณ์ 3. เน้นย้ำ 4. ปรับปรุงให้ดีขึ้น

82.The___of bacteria makes them difficult to classify.
1. variation
2. consumption
3. mutation
4. generation
ถาม _____ของแบคทีเรียทําให้ยากที่จะจัดหมวดหมู่พวกมัน
ตอบ 3 1. ความหลากหลาย 2. การบริโภค 3. การกลายพันธุ์ 4. รุ่น

83.There are many fruit____in Chantaburi.
1. yards
2. grounds
3. orchards
4. lands
ถาม มี____ผลไม้จํานวนมากมายในจังหวัดจันทบุรี
ตอบ 3 1. สนามหญ้า 2. พื้นดิน 3. สวนผลไม้ 4. ที่ดิน

84.A good____will make the weak get stronger.
1. health
2. diet
3. tablet
4. drug
ถาม____ที่ดีจะทําให้คนที่อ่อนแอแข็งแรงขึ้น
ตอบ 2
1. สุขภาพ 2. อาหาร 3. ยาเม็ด 4. ยา
ถ้าดูจากตัวเลือกในภาคคําศัพท์ที่เราเรียนใน ENG 1002 มีคําเดียวคือ diet = food = อาหาร

85.The____on her dessert makes it look lovely.
1. design
2. style
3. pattern
4. gamish
ถาม____บนของหวานของเธอทําให้ดูแล้วสวยงาม
ตอบ 4 1. การออกแบบ 2. รูปแบบ 3. รูปแบบ 4.สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร
ถ้าดูจากตัวเลือกในภาคคําศัพท์ที่เราเรียนใน ENG 1002 มีคําเดียวคือ gamish

86.The news____ that there was a forest fire in Australia.
1. spoke
2. extended
3. reported
4. believed
ถาม ข่าว____มีไฟไหม้ป่าในประเทศออสเตรเลีย
ตอบ 3 1. พูด 2. ขยายออกไป 3. รายงาน 4. เชื่อ
ก็มีเรียนคําเดียวคือ reported เดาได้เลย

87.The accused had no____to prove that he was innocent.
1. evidence
2. method
3. clip
4. record
ถาม ผู้กล่าวหาไม่มี_____ที่จะพิสูจน์ว่าเขาบริสุทธิ์
ตอบ 1 1. หลักฐาน 2. วิธี 3. คลิปหนีบ 4. บันทึก

88.English is not my___language.
1. level
2. native
3. exhibition
4. enlarged

ถาม ภาษาอังกฤษไม่ใช่เป็นภาษา___ของฉัน
ตอบ 2 1. ระดับ 2. พื้นเมือง 3. การแสดงนิทรรศการ 4. ทําให้ใหญ่ขึ้น

89.He devoted himself to volunteer____.
1. occasions
2. processes
3. relations
4. activities
ถาม เขาอุทิศตัวเองให้กับ____อาสาสมัคร
ตอบ 4 1. โอกาส 2. กระบวนการ 3. ความสัมพันธ์ 4. กิจกรรม

90.They worked hard to aid the____of the flood.
1. capture
2. murder
3. victims
4. passengers
ถาม พวกเขาทํางานหนักเพื่อช่วยเหลือ____ที่โดนน้ำท่วม
ตอบ 3 1. จับกุม 2. การฆาตกรรม 3. ผู้เคราะห์ร้าย เหยื่อ 4. ผู้โดยสาร

91.I could not find the restaurant because she pointed me in the wrong_____.
1. foundation
2. devotion
3. direction
4. fragmentation
ถาม ฉันหาร้านอาหาร ไม่เจอเพราะเธอบอก___ฉันไม่ถูก
ตอบ 3 1. มูลนิธิ 2. การอุทิศตน 3. ทิศทาง 4. การแบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก

92.The villagers are seeking____against the military attack.
1. retribution
2. reflection
3. retributive
4. reflective
ถาม คนในหมู่บ้านกําลังมองหา____ต่อต้านการโจมตีทางทหาร
ตอบ 1 1. การตอบสนอง 2. การสะท้อนตัวเอง 3. ค่าตอบแทน 4. อย่างไตร่ตรอง
มีเรียนตัวเดียวคือ retribution = การตอบแทน การลงโทษกรรมสนอง

93.If you do not move for a while, the light will be turned off_____.
1. scarcely
2. automatically
3. plentifully
4. uselessly
ถาม ถ้าคุณไม่ขยับตัวสักครู่ ไฟก็จะปิด____.
ตอบ 2 1. อย่างหายาก 2. โดยอัตโนมัติ 3. อย่างอุดมสมบูรณ์ 4. อย่างไร้ประโยชน์
คําที่เรียนลงท้ายด้วย -ly มีตัวเดียวคือ automatically

94.Jane has to drive a very long____to work.
1. reflection
2. distance
3. system
4. analysis
ถาม แจนต้องขับรถไปทํางานเป็น____ไกลมาก
ตอบ 2 1. การสะท้อน 2. ระยะทาง 3. ระบบ 4. การวิเคราะห์

95.The company should____a new policy to control the situation.
1. admire
2. happen
3. forgive
4. develop
ถาม บริษัทควรจะ____นโยบายใหม่เพื่อควบคุมสถานการณ์
ตอบ 4 1. ชนชม 2. เกิดขึ้น 3. ยกโทษ ให้อภัย 4. พัฒนา

96.The manager_____to be drunk in the meeting.
1. healed
2. fragment
3. appeared
4. overcome

ถาม ผู้จัดการ____เมาในที่ประชุม
ตอบ 3 1. รักษา 2. ส่วน ชิ้น 3. ปรากฏตัว โผล่ออกมา 4. เอาชนะ

97.He is very_____ He can solve the problem quickly.
1. clever
2. cleverly
3. devote
4. devotedly
ถาม เขาเป็นคน____มาก เขาสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
ตอบ 1 1. เฉลียวฉลาด 2. อย่างเฉลียวฉลาด 3. อุทิศตน 4. อย่างอุทิศตน
คําที่ให้เติม เป็นคํา adj. เพราะตามหลัง verb to be (is) ต้องเป็น adj. ก่อนนั่นคือ clever
ส่วน devote เป็นคํากริยา

98.We need to run a complete system____on our computers.
1. foundation
2. analysis
3. fragment
4. legend
ถาม พวกเราต้องคําเนิน____ระบบในคอมพิวเตอร์ของเราให้สมบูรณ์
ตอบ 2 1. มูลนิธิ 2. การวิเคราะห์ 3. ชิน ส่วน 4. ตํานาน

99.Lisa____her time to help sick animals.
1. devotes
2. understands
3. fetches
4. gazes
ถาม ลิซา____เวลาของเธอช่วยเหลือสัตว์ที่ป่วย
ตอบ 1. 1. อุทิศ 2. เข้าใจ 3. ไปเอามา 4. จ้องมอง

100. You cannot use your car here. You need to park your____outside.
1. legendary
2. system
3. institute
4. vehicle
ถาม คุณจอดรถตรงนี้ไม่ได้ค่ะ คุณต้องไปจอด____ของคุณข้างนอกนะคะ
ตอบ 4 1. ตํานาน 2. ระบบ 3. สถาบัน 4. พาหนะ

101. This color can____light very well.
1. systemize
2. reflect
3. track
4. reconcile
ถาม สีนี้สามารถ____แสงได้ดีมาก
ตอบ 2 1. ระบบ 2. สะท้อนให้เห็น 3. ติดตาม 4.ไกล่เกลี่ย

102. The government has the____to control the price.
1. seriousness
2. power
3. analysis
4. academy
ถาม รัฐบาลมี____ที่จะควบคุมราคา
ตอบ 2 1. ความจริงจัง 2. พลัง อํานาจ 3. การวิเคราะห์ 4. สถานศึกษา

103. I carefully____the folder back in my desk drawer after using it.
1. placed
2. tipped off
3. continued
4. captured
ถาม ฉัน____แฟ้มอย่างระมัดระวังกลับเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะหลังจากใช้เสร็จ
ตอบ 1 1. วาง ใส่ 2. บอกให้ทราบ 3. ดําเนินต่อไป 4. จับกุม

104. We studied the map and planned our_____.
1. center
2. disease
3. route
4. treatment
ถาม พวกเราศึกษาแผนที่และวางแผน____ของพวกเรา
ตอบ 3 1. ศูนย์กลาง 2. โรค เชื้อโรค 3. เส้นทาง 4. การรักษา

105.Please____the weather forecast before starting your trip.
1. claim
2. experiment
3. check
4. propagate
ถาม กรุณา____การพยากรณ์อากาศก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางของคุณ
ตอบ 3 1. กล่าวอ้าง 2. ทําการทดลอง 3. ตรวจสอบ 4. ขยายพันธุ์

106. Mega Bangna is a huge shopping___ on Bangna Trad Road.
1. intimacy
2. existence
3. conclusion
4. center
ถาม เมกะ บางนาเป็น____ช้อปปิ้งที่ใหญ่โตบนถนนบางนาตราด
ตอบ 4 1. ความใกล้ชิดสนิทสนม 2. การมีชีวิตอยู่ 3. การสรุป 4. ศูนย์กลาง

107.At the end of the show, the whole audience stood up, clapping and____.
1. cheering
2. nodding
3. maintaining
4. surviving
ถาม ในตอนท้ายของการแสดง ผู้ชมทั้งหมดลุกขึ้น ปรบมือและ____.
ตอบ 1 1. โห่ร้อง 2. พยักหน้า 3. รักษาไว้ 4. รอดชีวิต

108. Whales are____as mammals.
1. pollinated
2. classified
3. inherited
4. continued
ถาม ปลาวาฬถูก____เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ตอบ 2 1. ทําให้เกิดมลพิษ 2. จัดหมวดหมู่ 3. ได้รับมรดก 4. ดําเนินไป

109.He lost his____and fell off the ladder.
1. vehicle
2. disease
3. expedition
4. balance
ถาม เขาสูญเสีย____ของเขาและตกลงกระได
ตอบ 4 1. ยานพาหนะ 2. โรคเชื้อโรค 3. การเดินทาง 4. ความสมดุล

110. Spaghetti carbonara has about 630_____.
1. victims
2. activities
3. calories
4. companies
ถาม ปาเก็ตตี้คาโบนาร่ามีประมาณ 630_____.
ตอบ 3 1. เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย 2. กิจกรรม 3. แคลลอรี่ (หน่วยที่ใช้คํานวณพลังงานจากอาหาร)
4. บริษัท

111. Psychology is the scientific study of____ and mental processes.
1. behavior
2. beast
3. expedition
4. ancestor
ถาม จิตวิทยาเป็นการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการทางจิตใจและ____.
ตอบ 1 1. พฤติกรรม 2. สัตว์โลก 3. การเดินทาง 4. บรรพบุรุษ

112. Thailand is becoming an elderly society.
1. genetic
2. aged
3. necessary
4. active
ถาม ประเทศไทยกําลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ
ตอบ 2 หน้า 14 1. เกี่ยวกับพันธุกรรม 2. มีอายุ 3. จําเป็น 4. กระตือรือร้น
elderly = aged, old = มีอายุ อายุมากขึ้น

113.Human beings hate snakes or reptiles for various reasons.
1. native
2. impossible
3. renowned
4. several

ถาม มนุษย์เกลียดงูหรือสัตว์เลื้อยคลายด้วยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ
ตอบ 4 หน้า 13 1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. เป็นไปไม่ได้ 3. มีชื่อเสียง 4. มากมาย
various = diverse, many, several, manifold = ต่าง ๆ หลายชนิด มากมาย

114. To be successful in education, one should work hard.
1. accomplished
2. clever
3. limited
4. awesome
ถาม จะประสบผลสําเร็จในการศึกษา เราควรขยันเรียนให้มาก
ตอบ 1 หน้า 29. 1. ประสบผลสําเร็จ 2. เฉลียวฉลาด 3. จํากัด 4. มหัศจรรย์
successful = accomplished = ประสบผลสําเร็จ

115. His forebears came from China.
1. relatives
2. ancestors
3. successors
4. comrades
ถาม บรรพบุรุษของเขามาจากประเทศจีน
ตอบ 2 หน้า 78 1. ญาติ 2. บรรพบุรุษ 3. ผู้สืบทอด 4. สหาย
forebears = ancestors – บรรพบุรุษ

116. The arrested soldier has denied any link to the bomb at the riot.
1. decision
2. intention
3. connection
4. attention
ถาม ทหารที่ถูกจับกุมได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการระเบิดในจลาจล
ตอบ 3 หน้า 93 1. การตัดสินใจ 2. ความตั้งใจ 3. ความเกี่ยวข้อง 4. ความสนใจ
connection = link = ความเกี่ยวข้อง

117. Many business firms cannot raise their wages.
1. shops
2. companies
3. institutions
4. organizations
ถาม บริษัทที่ทําธุรกิจจํานวนมากไม่สามารถขึ้นค่าแรงของพวกเขา
ตอบ 2 หน้า 92 1. ร้านค้า 2. บริษัท 3. สถาบัน 4. องค์กร
company = business fimm = บริษัท

118. It is necessary to have an operation.
1. genetic
2. essential
3. edible
4. famous
ถาม เป็นสิ่งจําเป็นที่จะต้องการมีการดําเนินการ
ตอบ 2 1. เกี่ยวกับพันธุกรรม 2. จําเป็น 3. สามารถรับประทานได้ 4. มีชื่อเสียง
necessary = essential = จําเป็น สําคัญ

119. My grandfather is still very active at eighty-five.
1. famous
2. bereaved
3. energetic
4. popular
ถาม ปู่ของฉันยังคงเป็นคงกระฉับกระเฉงถึงแม้จะอายุ 85
ตอบ 3 หน้า 1. มีชื่อเสียง 2. ที่สูญเสียไป 3. กระฉับกระเฉง 4 เป็นที่แพร่หลาย
active = energetic, lively = แคล่วคล่อง ว่องไว กระตือรือร้น

120. All the exam results will be displayed on the noticeboard.
1. showed
2. interviewed
3. convinced
4. rescued
ถาม ผลการสอบทั้งหมดจะโชว์บนกระดานป้ายติดประกาศ
ตอบ 1 1. แสดงให้เห็น โชว์ 2. สัมภาษณ์ 3. ทําให้เชื่อ 4. ช่วยเหลือจากอันตราย
displayed = showed = แสดง โชว์

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป 1/2565

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2565
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the best answer.

1.Clean the room,____?
1. do you
2. will you
3. are you
4. aren’t you
ตอบ 2 หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า
เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม สําหรับกริยาเช่นให้ are ก็ตอบเป็น aren’t, will ก็ตอบ won’t ถ้าเป็นกริยา แท้แสดงอาการกระทํา ให้ใช้ verb to do มาช่วย
– Jane will be here soon, won’t she?
– There was a lot of rain, wasn’t there?
-Maggi won’t be late, will she?

ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
-Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
-Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you

2.Let’s watch a movie,____?
1. did we
2. could we
3. are we
4. shall we
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ ขึ้นต้นด้วย Let’s ตอบส่วนหลังว่า shall we

3.These books are not interesting,____?
1. are they
2. did they
3. were they
4. will they
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เห็นคํากริยา are not เป็นปฏิเสธ ก็ตอบเป็นบอกเล่าคือ are และประธาน These books ตอบเป็นสรรพนามพหูพจน์คือ they

4.____told you that?
1. Where
2. Which
3. Who
4. What
ตอบ 3 หน้า 166 เป็นประโยคคําถาม Wh-questions แบบนี้ออกสอบทุกเทอม 2 – 3 ข้อ
1. Who What Which + (คํานาม) + กริยา เช่น
– Who saw him?
– Which bus goes to town?
– What happened to you last night?
2. Whom/What /Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คํานาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
-What did he buy yesterday?
-Which job have you applied for?
3. Whose + คํานาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
-Whose book are you reading?
-Why did he go home?
-How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับ ระดับต่าง ๆ เช่น
-When will you do?
-Where do you come from?
-How old is she?
จากโจทย์นี้จะเห็นว่าต่อจากคําที่ให้เติมเป็นกริยา told (มาจาก tell) ซึ่งต้องใช้ Who + กริยาหลัก
เสมอ ถามถึงใคร ทําหน้าที่เป็นประธาน

5.____keys are these?
1. Whose
2. Who
3. How
4. When
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ keys เป็นคํานาม ใช้ Whose + คํานามแสดงความเป็นเจ้าของว่า ของใคร (กุญแจนี้เป็นของใคร?)

6.____any volunteer work before?
1. Haven’t you done
2. Haven’t you do
3. Have you not do
4. Have you not been done
ตอบ 1 ในรูปประโยคคําถาม ถ้าเราใช้ Have ขึ้นหน้า you (ประธาน) กริยา have จะตามด้วยกริยาช่อง ที่ 3 ก่อนนั่นคือ have done และเป็นทําเป็นประโยคคําถามถ้าใช้รูปย่อ ก็เป็น Haven’t + ประธาน + V3 ตรงกับตัวเลือกข้อ 1 ถูกต้อง ถ้าเราใช้คําถามปฏิเสธแบบรูปเต็มก็จะเป็น Have + ประธาน + not + V3 แต่ตัวเลือกที่ 3 เป็น do (V1) จึงผิดและตัวเลือกข้อ 2 ก็ผิดลักษณะเดียวกัน และตัวเลือกที่ 4 ใช้ have been V3 ไม่ถูกต้องเพราะประธาน you แสดงกระทําเอง ไม่ใช่ถูกกระทํา

7.____is the last day to file taxes?
1. When
2. Where
3. Whom
4. Whose
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ ถามถึงเวลาว่าเมื่อไร จึงตอบ When

8.Jessica will go to the party,____?
1. will she
2. won’t she
3. was she
4. wasn’t she
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 1 ประกอบ ส่วนหลัง มีกริยาบอกเล่า will ทําเป็นปฏิเสธรูปย่อคือ won’t และ Jessica เป็นเพศหญิง ใช้สรรพนาม she แทน

9.She got____by sharks.
1. attacked
2. attack
3. attacking
4. to attack
ตอบ 1 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 2-3 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ getgot ให้ + V3 ดูสูตร

S + has/have/had + สิ่งของ + V3
หรือ S + getgot + สิ่งของ + V3 ได้เลย
จากโจทย์มีกริยา got + V3 นั่นคือ attacked

10. Can you get this homework____by Friday?
1. do
2. done
3. to do
4. doing
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ กริยา get (got) + สิ่งของ + V3 จึงตอบ done

11. It is___ that this is a haunted house.
1. say
2. says
3. said
4. saying

ตอบ 3 หน้า 156 เป็นรูป passive reporting verbs ในรูปแบบของกริยารายงานข่าวในประโยคดังนี้

ยังมีกริยาตัวอื่นอีกเช่น suppose, assume, consider, claim, think, believe, report, know, expect, allege, understand เป็นต้น ดูตัวอย่าง
– It is reported that ten people were killed. (มีรายงานว่าคน 10 คนถูกฆ่าตาย)
– It is believed that the thieves got in through the kitchen window.
– It is said that she works 16 hours a day. (กล่าวกันว่าเธอทํางานวันละ 16 ชั่วโมง)

12. Jessica’s house____ last night.
1. is robbed
2. was robbed
3. had been robbed
4. had robbed
ตอบ 2 เป็นเรื่อง Passive Construction การทําให้เป็นรูปถูกกระทํา โดยสังเกตจากประธานมักเป็นสิ่งของ สิ่งไม่มีชีวิต บางประโยคส่วนหลังอาจมีคําบอกใบ้เช่น by (โดย) ด้วย อย่างโจทย์ข้อนี้ประธานเป็นสิ่งของคือ house (บ้าน) ของเจสสิก้า ถูกปล้นเมื่อคืน เราใช้รูปถูกกระทําจะลงท้ายด้วยกริยาช่องที่ 3 เสมอ นั่น verb to be + V3 และข้อนี้มีคําบอกเวลา last night แสดงรูปของ Past Tense (V2) ถูกกระทํา
เป็น was +V3 = was robbed

13. Jack had his car____.
1. wash
2. washed
3. washing
4. to wash
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ มี have (had) + สิ่งของ + V3 จึงตอบ washed

14. Kimberly had her phone____.
1. fix
2. fixed
3. fixing
4. to fix
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ เหมือนกันคือ had + สิ่งของ + V3 จึงตอบ fixed

15. The company____in 1998.
1. builds
2. was built
3. is building
4. had built
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 12. ประกอบ ประธานเป็นสิ่งของ The company (บริษัท) ถูกก่อสร้าง ในปี 1998 เป็นอดีต จึงใช้ was + V3 = was built

16. Mary____thirty next week.
1. was
2. will be
3. has been
4. is
ตอบ 2 หน้า 104 ใช้ Future Simple Tense S + will/shall + V1) แสดงเหตุการณ์ที่จะ =เกิดขึ้นในอนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next + ช่วงเวลา เช่น next year, next month, tonight, in a few minutes, in half an hour เป็นต้น ข้อนี้มีคําบอกเวลา next week จึงตอบ will be

17. I____a computer next month.
1. buy
2. have bought
3. will buy
4. bought

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 16. มีคําบอกเวลาคือ next month (เดือนหน้า) เป็นอนาคตใช้ will + V1 จึงตอบ will buy

18. I____an appointment at noon tomorrow.
1. have had
2. had had
3. had
4. will be having
ตอบ 4 หน้า 107 ใช้ Future Continuous Tense (S+ will/shall + be +Ving) แสดงเหตุการณ์ที่
จะเกิดขึ้นในอนาคตที่มีช่วงเวลาระบุไว้อย่างแน่ชัด เช่น at this time tomorrow, tomorrow evening, at 10 o’clock tomorrow ฉะนั้นจากข้อนี้มีคําบอกเวลาที่ระบุเวลาว่า at noon tomorrow จึงตอบ will
be + Ving = will be having

19. Daniel, my friend,____his assignment by tomorrow.
1. is completing
2. completed
3. will have completed
4. will complete
ตอบ 3 หน้า 112 ใช้ Future Perfect Tense (S+ will/shall + have V3) หรือ Future Perfect Continuous Tense (S+ will/shall + have been Ving) กับคำบอกเวลาที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “by” (ประมาณ ราวๆ ) เช่น by next year, by the end of this year, by tomorrow, by that time, by the end of this month, by noon เป็นต้น ฉะนั้นข้อนี้มีคําบอกเวลา by tomorrow จึงตอบ will have V3 = will have completed

20. By the end of this week, Ida____here for six years.
1. has studied
2. will study
3. studies
4. will have been studying
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 19. ประกอบ มีคําบอกเวลา by the end …. ก็ตอบ will have V3 ถ้าไม่มีก็ต้อง will have been Ving แทนได้เลย จึงตอบ will have been studying

21. We____reading this novel by next month.
1. will finish
2. finish
3. will have finished
4. finished
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 19. ประกอบ มีคําบอกเวลา by next month จึงตอบ will have V3

22. If my boss_____early, we will go to have breakfast together.
1. arrives
2. arrived
3. will arrive
4. have arrived

ตอบ 1 หน้า 124- 130 เป็นการตัด if ออกไป การใช้ If มี 4 แบบ

 

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 2 ส่วนหลังให้มา will go = will V1 ฉะนั้นข้างหน้าตอบ V1 ก็คือ arrives

23. If Barbara____the beauty contest, she would have bought a new house.
1. is.winning
2. wins
3. won
4. had won
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ ตรงกับ If สูตรที่ 4 เพราะให้มาข้างหลัง would have bought = would have V3 ฉะนั้นส่วนหน้าจึงตอบ had V3 = had won

24. If I go to Japan, I ____anything I want.
1. would eat
2. ate
3. will eat
4. would have eaten
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ ตรงกับ if สูตรที่ 2 ให้มาข้างหน้าคือ go = V1 ตอบส่วนหลัง เป็น
will V1 = will eat

25. If you heat water to 100 degrees, it____.
1. would boil
2. boils
3. boiled
4. would have boiled
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 22. ตรงกับ if สูตรที่ 1 เพราะประโยคเป็นข้อเท็จจริง ให้มาส่วนหน้าคือกริยาช่อง ที่ 1 (heat) แสดงว่าส่วนหลังก็จะสามารถตอบ V1 หรือไม่ก็ will V1 ดูตัวเลือกมีแค่ V1 จึงตอบ boils

26. Mark would do laundry if he____up early.
1. get
2. got
3. had gotten
4. are getting
ตอบ : ดูคําอธิบายข้อ 22. ตรงกับ if วางกลางประโยคเรากับใส่กริยาเหมือนเดิมเพียงแต่สลับข้างเท่านั้น ให้มาแล้ว would do = would V1 แสดงว่าอีกส่วนต้องตอบ V2 = got (มาจาก get got got/gotten)

27. If Jackson____me, I would have helped you.
1. is telling
2. tells
3. told
4. had told
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 22. ตรงกับ if สูตรที่ 4 เราเห็นส่วนหลังให้มา would have helped = would have V3 แสดงว่าส่วนหน้าตอบ had V3 จึงตอบ had told

28. I wish I____ a professional car racer.
1. am
2. were
3. have been
4. am being
ตอบ 2 หน้า 147 เป็นการใช้ wish

1. S + wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S + wished S + had V3

ให้กริยา wish เป็นกริยาช่องที่ 1 ตอบหลังเป็นกริยาช่องที่ 2 ก็คือ were ประธานจะเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ ในกลุ่มการสมมติก็คือเรื่อง as if, wish, if สําหรับ verb to be ช่องที่ คือเรื่อง as if, wish, if สําหรับ verb to be ช่องที่ 2 ต้องเป็น were เท่านั้น ไม่ใช้ was

29. God____with us.
1. is
2. be
3. would be
4. will be
ตอบ 2 ขึ้นต้นด้วย God หรือ Long ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันเสมอ ถ้าเป็น verb to be กริยาไม่ผัน ก็
คือ be ถ้าเป็นกริยาทั่วไป ก็คือ ไม่เติม s หรือ ed หรือใด ๆ เลย เช่น
– Long live the king and the queen
– God be with us.

30. I recommend that you____ more to get an A.
1. study
2. studies
3. studied
4. have studied
ตอบ 1 เป็นกลุ่มกริยายกเว้น ให้ตอบหลังประธานเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ฝันก็คือไม่เติมท้ายอะไรเลย

S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน

recommend that ตอบ study (V1 ไม่ผัน)

31. It’s necessary that you___here in the conference.
1. be
2. are
3. were
4. have been
ตอบ 1 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เดิม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be มักออก 1 ข้อ ได้แก่

S+ is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent

It is necessary that ตอบ be (V1 ไม่ผัน)

32. I think it would be a good idea if we____a pilot study before a research.
1. do
2. did
3. can do
4. are doing
ตอบ 2 หน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2 ออก
ทุกเทอม 1- 2 ข้อ

If only It’s time
It’s about time
It’s high time that S + V2 ก็คือ sent
He’d rather
I think it would be a good idea if

ตรงกับ I think it would be a good idea if + ประธาน + ตอบกริยาช่องที่ 2 คือ did มาจาก do/does did done

33. Jannie said to me,“Do you like papaya salads?”
Jannie____me if I liked papaya salads.
1. say
2. says
3. ask
4. asked
ตอบ 4 เป็นเรื่อง Indirect Speech ก็คือการเอาคําพูดมาเล่าให้ฟังเครื่องหมายคําพูดจะหมายไป เราจะเห็น ประโยคแรกมีเครื่องหมายคําพูดเป็น Direct Speech คําพูดโดยตรงและเป็นประโยคคําถาม เมื่อเราทําเป็น indirect speech เราจะเปลี่ยนกริยาหลักตรง said to ให้เป็น asked (ถาม) เพราะมาจากประโยคคําถามเป็น กริยาช่องที่ 2 อดีต คือ asked

34. Mark said to his mother, “When will you arrive?”
Mark asked his mother when she____arrive.
1. will
2. would
3. shall
4. should
ตอบ 2 เราจะเห็นลักษณะเดียวกับข้อ 33 คือเป็นประโยคคําถามทําเป็น indirect speech กริยาหลักจะเป็น asked แต่ข้อนี้ถามส่วนหลังก็คือจากกริยาทางตรงคือ will จะต้องเปลี่ยนให้เป็น past tense คือ กริยา ช่องที่ 2 นั่นคือตอบ would

35. Marie said to me, “Where is your car?”
Marie asked me where____car was.
1. our
2. ours
3. my
4. mine
ตอบ 3 เป็น indirect speech ที่ถามสรรพนาม ดูจากตัวเลือกก็รู้ เมื่อเราประโยคคําพูด ๆ ว่า มารีพูดกับฉัน ว่า “รถเธออยู่ไหน” นั่นคือ มารีถามฉันว่ารถของฉันอยู่ไหน คําว่า your car ก็คือถาม me ก็คือ my car ใน ประโยคคําพูดที่มาเล่าอีกที จึงตอบ my

36. Jane said “I am playing badminton.”
Jane said that she____playing badminton.
1. is
2. was
3. are
4. were
ตอบ 2 จากประโยคคําพูดทางตรงใช้ am playing เราต้องเปลี่ยนเป็นอดีตคือ Past Continuous
Tense นั่นคือ was playing

37. He said “I can speak Japanese.”
He said that he____speak Japanese.
1. can
2. might
3. could
4. may
ตอบ 3 ลักษณะเดียวกับข้อ 36. นั่นคือ กริยา Can เป็น V1 เราต้องเปลี่ยนเป็น V2 จึงตอบ could

38. Pauline said “I went to Chiang Mai last week.”
Pauline said that she had gone to Chiang Mai_____.
1. the previous week
2. the day before
3. that day
4. the following day
ตอบ 1 หน้า 185-186 เป็น indirect question มีตัวเชื่อม what และกริยา would ให้แล้ว ต่อไป ก็เปลี่ยนคําที่แสดงความใกล้เป็นคําที่แสดงความไกล ดังนี้

คําว่า last week เมื่อเอามาพูดต่อก็เป็นสัปดาห์ก่อนหรือสัปดาห์ก่อนหน้านั้น สามารถตอบ the week before หรือ the previous week ก็ได้ จึงตอบตัวเลือกที่ 1

39. My mother always ____television.
1. watch
2. watches
3. is watching
4. has watched
ตอบ 2 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่ เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา

เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุกปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น และโจทย์ที่เป็นจริงเสมอจะไม่มีคําบอกเวลา แต่ออกสอบทุกเทอมต้อง คอยสังเกตว่าเป็นโจทย์แบบไหน ตัวอย่างเช่น

The sun rises in the east and sets in the west.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)
Most plants need water to survive. (พืชส่วนใหญ่ต้องการน้ำเพื่ออยู่รอด) เป็นจริง สําหรับข้อนี้มีคําบอกเวลาคือ always จึงตอบ V1 เอกพจน์คือ watches

40. Water____at zero degrees.
1. freeze
2. is freezing
3. had frozen
4. freezes
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 39 ประกอบ ประโยคเป็นจริงเสมอ “น้ําแข็งที่ 100 องศาเซลเซียส) จึงตอบ กริยาช่องที่ 1 = freezes

41. . His father____tomorrow morning.
1. arrives
2. arrived
3. was arriving
4. has arrived
ตอบ 1 มักใช้ Present Simple กับการเดินทาง เช่นกริยามาถึง (arrive) ออก (leaves) เป็นต้น หรือดูคําบอกเวลา tomorrow morning ปกติต้องตอบเป็น Future Simple Tense S + will V1) = will arrive แต่ไม่มีในตัวเลือก ฉะนั้นสามารถใช้ Present Simple แทนได้นั่นคือ V1 = arrives เพราะถือว่าเป็นอนาคตอันใกล้

42. Tom___to football practice every Friday.
1. go
2. goes
3. will go
4. has gone
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 39. ประกอบ มีคําบอกเวลา every Friday ทําทุกวัน จึงตอบ Present Simple Tense = V1 ก็คือ goes

43. They____their kids to school every day.
1. drove
2. were driving
3. drive
4. would drive
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 39. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา every day จึงตอบ V1 = drive

44. Here____the bride!
1. come
2. comes
3. coming
4. came
ตอบ 2 หน้า 7 ใช้ Present Simple Tense S + V1) ในประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย เช่น
ดูโครงสร้าง

Here
There            + V1
How + adj.
What + นาม

เช่น – What a beautiful girl she is!
-How beautiful you are!
-Here comes the bus!
-There goes the bus

ข้อนี้เหมือนกันขึ้นต้นด้วย Here ตรงสูตรนี้ ตอบกริยาช่องที่เอกพจน์คือ comes ผันตามคํานาม
the bride

45. The train____a few minutes ago.
1. stops
2. has stopped
3. will stop
4. stopped
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วใน อดีตหรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต, in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอกเวลา a few minutes ago (เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา) จึงตอบ V2 = stopped

46. My parents____a new house last month.
1. will buy
2. would buy
3. bought
4. buy
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ มีคําบอกเวลา last month (เดือนที่แล้ว) เป็นอดีตจึงตอบ V2
bought (2n buy bought bought)

47. I ___French when I was a child.
1. study
2. would study
3. will study
4. studied
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ มีคําบอกเวลา when I was a child (สมันฉันยังเป็นเด็ก) เป็นการเล่า เรื่องในอดีต จึงตอบ V2 = studied

48. People____much more to make cell phone calls in the past.
1. pay
2. paid
3. would pay
4. have paid
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ มีคําบอกเวลา in the past (ในอดีต/สมัยก่อน) จึงตอบ V2
= paid (non pay paid paid)

49. Last night I___my guitar loudly and the neighbors complained.
1. play
2. played
3. would play
4. will pay
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา last night ตอบ V2 = played

50. John____his History professor at the supermarket two days ago.
1. sees
2. would see
3. has seen
4. saw
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ มีคําบอกเวลา two days ago จึงตอบ V2 = saw

51. Suda____on the phone at the moment.
1. talk
2. is talking
3. was talking
4. talked

ตอบ 2 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เรามักคําบอกเวลาจํานะออกทุกเทอมเช่น now, right now, at the/this moment, at present จากโจทย์มีคําบอกเวลา at the moment จึงตอบ is talking

52. Claire____at the conference this evening.
1. speaks
2. would speak
3. is speaking
4. had spoken
ตอบ 3 มีคําบอกเวลา this evening (เย็นนี้) แสดงว่าเหตุการณ์เป็นอนาคต เราสามารถใช้ will speak แต่ ไม่มีในตัวเลือก เราก็สามารถเอาปัจจุบันมาเทนอนาคตได้ แต่อดีตไม่ได้แน่ฉะนั้นข้อ 2 และ 4 จึงผิด ถ้าดูในข้อ 41 เราใช้ Present Simple แทนอนาคตเพราะมักใช้กับการเดินทาง แต่ถ้าทั่วไปแล้วใช้แทนอนาคตได้ดีกว่า คือ Present Continuous Tense S + is, am, are + Ving) จึงตอบ is speaking ถือว่าใกล้เคียง
อนาคต

53. Something smells good. What____you____?
1. were, doing
2. had, done
3. are, be done
4. are, cooking
ตอบ 4 Present Continuous Tense S + is, am, are + Ving) ยังใช้กับประโยคที่พูดในขณะนั้น ก็คือ กําลังพูด กําลังกระทําในเวลาใดเวลาหนึ่ง อย่างข้อนี้ มีเกริ่นก่อนว่า “มีกลิ่นหอม เธอกําลังทําอาหารอะไร อยู่” แสดงขณะที่พูดจึงใช้ Present Continuous = are cooking

54. Sorry, she can’t come to the phone. She____dinner.
1. had
2. is having
3. was having
4. would have
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 53. ประกอบ ลักษณะเดียวกันคือเป็นการพูดต่อเนื่องว่าเธอมารับโทรศัพท์ไม่ได้ เพราะเธอกําลังทานอาหารอยู่ จึงตอบ is having

55. They____in a few minutes.
1. are leaving
2. have left
3. was leaving
4. had left
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 52. ประกอบ มีคําบอกเวลา in a few minutes (ในสองสามนาที) เป็นอนาคต ต้องตอบ will leave ไม่มีในตัวเลือกให้ตอบ Present Continuous Tense แทนได้จึงตอบ are leaving

56. Call me later. I____right now.
1. study
2. am studying
3. will study
4. have studied
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 51. ประกอบ คําบอกเวลา right now ตอบ am studying

57. Mary____when I telephoned her.
1. cooked
2. is cooking
3. will cook
4. was cooking
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense) แบบนี้ให้ตอบทุกเทอม ดูสูตร การเชื่อมด้วย when

1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบที่ 2 ตอบ was cooking telephoned

58. We___ dinner when it started to rain.
1. had
2. has had
3. were having
4. are having
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 57. ประกอบ ให้มาแล้ว V2 = started จึงตอบ were having แสดงอาการกําลัง ทําในขณะนั้น (กําลังทานอาหาร) were having แล้วฝนเริ่มตก

59. What___ you___at 8 p.m. last night?
1. were, doing
2. are, doing
3. have, done
4. would, do
ตอบ 1 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9 p.m. last night สําหรับข้อนี้มีคําบอกเวลา at 8 p.m. last night ระบุเวลาในอดีต จึงตอบ were, doing

60. While you____,I was making dinner.
1. slept
2. will sleep
3. would sleep
4. were sleeping
ตอบ 4 หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เคาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่ กับอดีต ดูสูตร การเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1.S + V2 while S + was/were Ving
as
2.S + was/were Ving While S + was/were Ving
as
3.S + is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving
4.while S + was/were Ving S + was/were Ving

ข้อนี้ตรงกับสูตร 4. were sleeping ให้มา was making เกิดพร้อมกัน

61. I___the room, and suddenly a bird came into my room.
1. am cleaning
2. was cleaning
3. will clean
4. have cleaned
ตอบ 2 ข้อนี้ เราเห็นกริยาช่องที่ 2 คือ came แสดงเหตุการณ์อดีต แสดงว่าข้างหน้า ก็ต้องตอบเป็นอดีตไปด้วย ดูจากตัวเลือกแล้วมีอดีตกาลตัวเลือกที่ 2 อันเดียวจึงตอบ was cleaning (Past Continuous Tense) ส่วนตัวเลือกที่ 1 เป็น ปัจจุบัน ตัวเลือกที่ 3 เป็นอนาคต ตัวเลือกที่ 4 เป็นปัจจุบัน

62. My mother____when I came back from school.
1. slept
2. would sleep
3. was sleeping
4. is sleeping

ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 57. ประกอบ สูตรการเชื่อมด้วย when

2. S + was/were + Ving + when + S + V2
ตอบ was sleeping ให้มา came

63. My father ____ in Australia for a long time.
1. worked
2. has worked
3. is working
4. had worked
ตอบ 2 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense (S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็วๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลาคือ for a long time nou has worked

64. They___many cars since I can remember.
1. have
2. had
3. have had
4. will have
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ มีคําบอกเวลา since + ช่วงเวลา จึงตอบ Present Perfect = have
+ V3 = have had

65. They____married for 25 years.
1. marry
2. have been
3. were marring
4. married
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ มีคําบอกเวลา for จึงตอบ have been

66. I____here since I graduated school.
1. work
2. worked
3. have worked
4. will work
ตอบ 4 คําอธิบายข้อ 63. ประกอบ มีคําบอกเวลา since … จึงตอบ have worked

67. I____to learn the English language for ten years.
1. try
2. will try
3. am trying
4. have been trying
ตอบ 4 ดูคําอธิบาย 63. ประกอบ มีคําบอกเวลา for … ตอบ have V3 แต่ไม่มีก็ตอบ have been +
Ving แทนได้ = have been trying

68. Kim___money for all of his life.
1. saves
2. has been saving
3. is saving
4. was saving
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ

69. I came here after you____.
1. left
2. leave
3. had left
4. would leave
ตอบ 3 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย when วางไว้ต้นประโยค

1. S + had V3 before S + V2
2. S + had V3 when S + V2
3. S + V2 after S+ had V3
4. Before + S +V2 S+ had V3
5. After + S +had V3, S + V2
6. When + S + V2, S + had V3

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 3 ให้มา came ตอบ had left

70. I helped him to do the task after I___my work.
1. finished
2. would finish
3. have finished
4. had finished
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ

3 S + V2 after S+ had V3

ให้มา helped ตอบ had finished

71. I____the songs before the program started.
1. had practiced
2. practiced
3. would practice
4. has practiced
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1 before อยู่กลางประโยค

1.S + had V3 before S + V2

ตอบ had practiced ให้มา started

72. He____around the world before he came to Thailand.
1. travels
2. had traveled
3. traveled
4. is traveling
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1 before อยู่กลางประโยค

1.S + had V3 before S + V2

ตอบ had traveled ให้มา came

73. Mary___at the company for five years before she got the promotion.
1. worked
2. was working
3. will be working
4. had been working
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ

1. S + had V3 before S + V2

ตอบ had worked ไม่มีก็ตอบ had been working ก็ได้ ให้มา got

74. George____in the library before he came to the class.
1. had been studying
2. will study
3. studies
4. studied
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75. We___in the supermarket before we came home.
1. has shopped
2. will have shopped
3. shopped
4. had been shopping
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 73. ประกอบ

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions : Choose the best answer.

76. Please____the folder back after using it.
1. place
2. tip off
3. continue
4. capture
ถาม กรุณาวางแฟ้มเอกสารกลับที่เดิมหลังใช้งาน
ตอบ 2 1. ใส่, วาง 2. บอกให้ทราบ 3. ดําเนินต่อไป 4. จับ, จับกุม
place (v) เมื่อเป็นคํากริยา หมายถึง ใส่ วาง = put

77. We looked at the map and planned our____.
1. center
2. disease
3. route
4. treatment
ถาม เราดูแผนที่และวางแผนเส้นทางของเรา
ตอบ 3 1. ศูนย์กลาง 2. โรค, เชื้อโรค 3. เส้นทาง 4. การรักษา
เดาจากโจทย์มีคําว่า map แผนที่ก็ต้องใช้ศัพท์เกี่ยวกับการเดินทาง เส้นทาง ก็คือ route

78. Don’t forget to____the weather forecast before your trip.
1. claim
2. experiment
3. check
4. propagate
ถาม อย่าลืมตรวจดูพยากรณ์อากาศก่อนออกเดินทางของคุณ
ตอบ 3 1. กล่าวอ้าง 2. ทําการทดลอง 3. ตรวจสอบ 4. ขยายพันธุ์
check (V) หมายถึง ตรวจสอบ เช็ค เช่น เช็คร่างกาย เป็นกริยามีกรรมมารับ

79. Paradise Park is my favorite shopping___on Srinagarind Road.
1. intimacy
2. existence
3. conclusion
4. center
ถาม พาราไดซ์ พาร์ค เป็นศูนย์การค้าที่ฉันชอบที่สุดบนถนนศรีนครินทร์
ตอบ 4 1. ความใกล้ชิด 2. การมีอยู่ 3. การสรุป 4. ศูนย์กลาง

80. At the end of the show, the whole audience stood up clapping and____.
1. cheering
2. nodding
3. maintaining
4. surviving
ถาม เมื่อจบการแสดง ผู้ชมทั้งหมดยืนปรบมือและส่งเสียงโห่ร้อง
ตอบ 1 บทที่ 12 1. โห่ร้อง 2. พยักหน้า 3. คงไว้รักษาไว้ 4. รอดชีวิต

81. Snakes are____as reptiles.
1. pollinated
2. classified
3. inherited
4. continued
ถาม งูถูกจัดเป็นสัตว์เลื้อยคลาน
ตอบ 2 1. ผสมเกสร 2. จัดหมวดหมู่ 3. ได้รับมรดก 4. ดําเนินต่อไป
classified (v) จัดประเภท จัดเป็นหมวดหมู่ เช่น จัดหนังสือ (books) ในห้องสมุด ก็ได้

82. Emma lost her____and fell down on the floor.
1. vehicle
2. disease
3. expedition
4. balance
ถาม เอ็มมาเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้น
ตอบ 4 1. ยานพาหนะ 2. โรค 3. การเดินทาง 4. ความสมดุล

83. A slice of pepperoni pizza has about 450____.
1. victims
2. activities
3. calories
4. companies
ถาม พิซซ่าเปปเปอโรนีชิ้นหนึ่งมีประมาณ 450 แคลอรี่
ตอบ 3 1. เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย 2. กิจกรรม 3. แคลอรี่ 4. บริษัท

84. Psychology is the scientific study of ____and mental processes.
1. behavior
2. beast
3. expedition
4. ancestor
ถาม จิตวิทยาคือการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพฤติกรรมและกระบวนการทางจิต
ตอบ 1 1. พฤติกรรม 2. สัตว์โลก 3. การเดินทาง 4. บรรพบุรุษ

85. The college was___in 1981.
1. gazed
2. understood
3. established
4. captured
ถาม วิทยาลัยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1981
ตอบ 3 1. จ้องมอง 2. เข้าใจ 3. ก่อตั้ง เริ่ม 4. จับ
established (v) = ก่อตั้ง เริ่ม = set up

86. Chemotherapy is often used in the____of cancer.
1. reconciliation
2. academy
3. fragment
4. treatment
ถาม เคมีบําบัดมักใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
ตอบ 4 1. การปรองดอง คืนดีกัน 2. สถาบันการศึกษา 3. ชิ้นส่วน 4. การรักษา

87. If you can’t___your temper, you don’t belong in this line of work.
1. convince
2. control
3. report
4. propagate
ถาม ถ้าคุณควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ คุณไม่ได้อยู่ในสายงานนี้
ตอบ 2 1. ทําให้เชื่อ 2. ควบคุม 3. รายงาน 4. ขยายพันธุ์

88. A few years ago, she developed a serious lung____.
1. disease
2. intimacy
3. route
4. relationship
ถาม เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เธอเป็นโรคปอดขั้นรุนแรง
ตอบ 1 1. โรค, เชื้อโรค 2. ความใกล้ชิดสนิทสนม 3. เส้นทาง 4. ความสัมพันธ์

89. Lisa has a____for rapping and dancing.
1. conclusion
2. seniority
3. gift
4. convention
ถาม ลิซามีพรสวรรค์ในการเต้นรําและการเต้นแร็ป
ตอบ 3 1. การสรุป2. ความเป็นอาวุโส 3. พรสวรรค์ 4. ธรรมเนียมประเพณี

90.Can you give me___to your house?
1. attitude
2. direction
3. container
4. environment
ถาม คุณช่วยบอกทางไปบ้านคุณได้ไหม?
ตอบ 2 1. ทัศนคติ 2. ทาง ทิศทาง 3. สิ่งที่ใช้บรรจุของ 4. สิ่งแวดล้อม

91. Is there anyone here who____Japanese?
1. recycles
2. pollutes
3. pollinates
4. understands

ถาม ในที่นี้มีใครเข้าใจภาษาญี่ปุ่นบ้างไหม?
ตอบ 4 1. ผ่านขบวนการแล้วนํามาใช้ใหม่ได้อีก 2. ทําให้เกิดมลพิษ 3. ผสมเกสร 4. เข้าใจ

92. It took four months for my arm to___properly.
1. heal
2. originate
3. greet
4. inherit
ถาม แขนของฉันใช้เวลาสี่เดือนในการรักษาอย่างถูกต้อง
ตอบ 1 1. รักษา 2. ต้นกําเนิด ริเริ่ม 3. ทักทาย 4. ได้รับมรดก

93. Daniel___his brother for breaking the window.
1. advertised
2. forgave
3. manufactured
4. experimented
ถาม ดาเนียลให้อภัยพี่ชายของเขาที่ทําหน้าต่างแตก
ตอบ 2 1. โฆษณา 2. ยกโทษ ให้อภัย 3. ผลิต 4. ทําการทดลอง
forgive (forgave) = pardon = ยกโทษ ให้อภัย

94. The clerk must have___ your name, because he said you weren’t here.
1. survived
2. overlooked
3. honored
4. developed
ถาม เสมียนคงมองข้ามชื่อคุณไป เพราะเขาบอกว่าคุณไม่อยู่ที่นี่
ตอบ 2 1. รอดชีวิต 2. มองข้าม มองไม่เห็น 3. ให้เกียรติ 4. พัฒนา

95. A limited number of tickets will be on sale from tomorrow.
1. fixed
2. outstanding
3. genetic
4. surprised
ถาม เริ่มจําหน่ายบัตรในจํานวนจํากัดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ตอบ 1 1. จํากัด คงที่ 2. โดดเด่น 3. เกี่ยวกับพันธุกรรม 4. ประหลาดใจ
limited = fixed = จํากัด

96. It is necessary to brush your teeth before going to bed.
1. genetic
2. essential
3. edible
4. famous
ถาม เป็นสิ่งจําเป็นที่จะต้องแปรงฟันก่อนเข้านอน
ตอบ 2 1. เกี่ยวกับพันธุกรรม 2. จําเป็น 3. สามารถทานได้ 4. มีชื่อเสียง
necessary = essential = สําคัญ จําเป็น

97. The results of the final examination will be shown on the noticeboard.
1. displayed
2. interviewed
3. convinced
4. rescued
ถาม ผลการสอบปลายภาคจะแสดงบนกระดานประกาศ
ตอบ 1 1. แสดงให้เห็น 2. สัมภาษณ์ 3. ทําให้เชื่อ 4. ช่วยเหลือจากอันตราย
show = display = แสดงให้เห็น, สาธิต

98. My grandmother is still very active at seventy.
1. famous
2. bereaved
3. energetic
4. popular
ถาม คุณยายของฉันยังกระฉับกระเฉงมากตอนอายุ 70
ตอบ 3 1. มีชื่อเสียง 2. สูญเสียไป 3. กระฉับกระเฉง 4. แพร่หลาย
active = energetic = กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา

99. Gradually____your body into an upright position.
1. level
2. raise
3. lower
4. return
ถาม ค่อย ๆ ยกตัวขึ้นในท่าตั้งตรง
ตอบ 2 1. ระดับ 2. ยกให้สูงขึ้น 3. ลดต่ำลง 4. กลับคืน, ส่งคืน

100. Should promotion be based on merit or____?
1. figure
2. honor
3. center
4. seniority
ถาม การเลื่อนตําแหน่งควรอยู่บนเกณฑ์ของระบบคุณธรรมหรือความเป็นอาวุโส?
ตอบ 4 1. บุคคลสําคัญ 2. ให้เกียรติ 3. ศูนย์กลาง 4. ความเป็นอาวุโส

101. The meeting starts at 2 o’clock precisely.
1. necessarily
2. exactly
3. automatically
4. relatively
ถาม การประชุมเริ่ม 2 โมงตรง
ตอบ 2 1. อย่างจําเป็น 2. อย่างเที่ยงตรง 3. โดยอัตโนมัติ 4. อย่างสัมพันธ์
precisely = exactly, accurately = อย่างเที่ยงตรง พอดี

102. When did she____home from her trip?
1. claim
2. capture
3. appear
4. return
ถาม เธอจะกลับบ้านของเธอจากการเดินทางเมื่อไร
ตอบ 4 1. กล่าวอ้าง 2. จับ 3. ปรากฏให้เห็น 4. กลับคืน

103. He was____in everything he did.
1. plentiful
2. successful
3. enlarged
4. continued
ถาม เขาประสบผลสําเร็จทุกอย่างที่เขาทํา
ตอบ 2 1. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 2. ประสบผลสําเร็จ 3. ทําให้ใหญ่ขึ้น 4. ดําเนินไป

104. A lifeboat came to___the people on the sinking boat.
1. garnish
2. trigger
3. rescue
4. control
ถาม เรือชูชีพมาช่วยผู้คนบนเรือที่กําลังจม
ตอบ 3 1. สิ่งที่ใช้ตกแต่ง 2. ก่อให้เกิด 3. ช่วยเหลือจากอันตราย 4. ควบคุม

105. She wanted a famous____to paint her picture.
1. ancestor
2. artist
3. reporter
4. bystander
ถาม เธอต้องการให้ศิลปินที่มีชื่อเสียงวาดภาพของเธอ
ตอบ 2 1. บรรพบุรุษ 2. ศิลปิน จิตรกร 3. ผู้สื่อข่าว 4. คนสัญจรไปมา

106. Bicycling doesn’t____the air.
1. pollinate
2. relate
3. pollute
4. control
ถาม ปั่นจักรยานไม่ทําให้อากาศเป็นพิษ
ตอบ 3 1. ผสมเกสร 2. เกี่ยวข้อง 3. ทําให้เกิดมลพิษ 4. ควบคุม

107. Cold drinks are in____during the summer.
1. demand
2. result
3. experiment
4. connection

ถาม เครื่องดื่มเย็นเป็นที่ต้องการในฤดูร้อน
ตอบ 1 1. ต้องการ เรียกร้อง 2. เป็นผล 3. ทําการทดลอง 4. ความเกี่ยวพัน

108. The government will allow them to____on radio and television.
1. refine
2. advertise
3. relate
4. connect
ถาม รัฐบาลจะอนุญาตให้โฆษณาทางวิทยุและโทรทัศน์
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. โฆษณา 3. เกี่ยวข้อง 4. เกี่ยวข้อง

109.____opinion can force the government into action.
1. Activity
2. Company
3. Public
4. Behavior
ถาม ความคิดเห็นของประชาชน (การประชาพิจารณ์) สามารถบังคับให้รัฐบาลดําเนินการได้
ตอบ 3 1. กิจกรรม 2. บริษัท 3. ส่วนรวม 4. พฤติกรรม
public แปลว่า ส่วนรวม ทั่วไป เมื่อมารวมกับคําว่า opinion คําว่า public opinion ก็คือ การประชาพิจารณ์ ความคิดเห็นของประชาชนหรือส่วนรวม

110. A fat man has much more____than a thin man.
1. trait
2. factor
3. complex
4. flesh
ถาม คนอ้วนมีเนื้อมากกว่าคนผอม
ตอบ 4 1. ลักษณะนิสัย 2. ปัจจัย 3. ซับซ้อน 4. เนื้อ

111. He gained____into the association.
1. intimacy
2. conclusion
3. admission
4. relationship
ถาม เขาได้รับการเข้าสู่สมาคม
ตอบ 3 1. ความใกล้ชิด 2. การสรุป 3. การอนุญาตให้เข้า 4. ความสัมพันธ์
admission การอนุญาตให้เข้า, การยอมรับ

112. The result of the____was satisfactory.
1. existence
2. exhibition
3. excellence
4. experiment
ถาม ผลของการทดลองเป็นที่น่าพึงพอใจ
ตอบ 4 1. การมีชีวิตอยู่ 2. การแสดงนิทรรศการ 3. ความยอดเยี่ยม 4. การทดลอง

113. The prices for food are subject to____.
1. generation
2. connection
3. variation
4. limitation
ถาม ราคาอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ตอบ 3 1. รุ่น 2. ความเกี่ยวข้อง 3. ความผันแปร ไม่แน่นอน 4. ขีดจํากัด

114.___the pot and bake for an hour.
1. Display
2. Construe
3. Fetch
4. Cover
ถาม ปิดหม้อและอบเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
ตอบ 4 1. แสดงให้เห็น 2. ตีความ 3. ไปเอามา 4. ปกปิด ปกคลุม

115. He speaks English, but his native tongue is German.
1. indigenous
2. effective
3. power
4. equal

ถาม เขาพูดภาษาอังกฤษ แต่ภาษาแม่ของเขาคือภาษาเยอรมัน
ตอบ 1 1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. ประสิทธิภาพ 3. พลัง อํานาจ 4. เท่ากัน
native = เกี่ยวกับพื้นเมือง นํามารวมกับคําว่า tongue เป็น native tongue คือ ภาษาแม่

116. This information let to the____of the murderer.
1. convention
2. capture
3. return
4. distance
ถาม ข้อมูลนี้ช่วยให้จับฆาตกรได้
ตอบ 2 1. ธรรมเนียมประเพณี 2. จับ จับกุม 3. คืน ส่งคืน 4. ระยะทาง

117. The___was knifed in the chests.
1. title
2. center
3. flesh
4. victim
ถาม เหยื่อถูกมีดปาดที่อก
ตอบ 4 1. ยศ ตําแหน่ง 2. ศูนย์กลาง 3. เนื้อ 4. เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย

118. The new___has confirmed the first witness’s story.
1. vehicle
2. fragment
3. evidence
4. legend
ถาม หลักฐานใหม่ยืนยันเรื่องราวของพยานคนแรก
ตอบ 3 1. ยานพาหนะ 2. เศษชิ้นส่วน 3. หลักฐาน 4. ตํานาน

119. A man has been arrested in____with the robbery.
1. reconciliation
2. reflection
3. foundation
4. connection
ถาม ผู้ชายคนนี้ถูกจับกุมในความเกี่ยวพันกับการปล้นชิงทรัพย์
ตอบ 4 1. การปรองดอง 2. การสะท้อนให้เห็น 3. มูลนิธิ 4. ความเกี่ยวพัน

120. These problems are closely related.
1. associated
2. controlled
3. improved
4. overlooked
ถาม ปัญหาเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก
ตอบ 1 1. เกี่ยวข้อง 2. ควบคุม 3. ปรับปรุง 4. มองข้าม
related = associated = เกี่ยวข้องเกี่ยวพัน สัมพันธ์กัน

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป s/2564

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2564
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป

Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.

1.My friend’s uncle___yesterday.
1. die
2. dies
3. is dying
4. died
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วใน อดีตหรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต, in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอกเวลา คือ yesterday (เมื่อวานนี้) เป็นอดีต จึงตอบ V2 = died

2.The phone rang while Ida___ a novel.
1. had read
2. would read
3. was reading
4. read
ตอบ 3 หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่กับอดีต ในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1. S + V2 while S+ was/were Ving
as
2. S + was/were Ving while S + was/were Ving
as
3. S + is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving

4. While S + was/were Ving, S + was/were Ving

3.These apartments___to Thomas.
1. would belong
2. belongs
3. are belongings
4. belong
ตอบ 4 หน้า 39. กริยาต่อไปนี้ไม่นิยมใช้รูป Ving ถ้ามีให้ตอบกริยาช่องที่ 1 ได้แก่
1. กริยาที่แสดงการรับรู้ เช่น feel, hear, notice, recognize, see, smell, taste, observe และ กริยา like (ชอบ) dislike (ไม่ชอบ) love (รัก) hate (เกลียด) know (รู้) เป็นต้น
2. กริยาเกี่ยวกับจิตใจ เช่น agree, appreciate, assume, believe, expect, feel, forget perceive, realize, recall, recognize, see
3. กริยาที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น belong to, owe (เป็นหนี้), own (เป็นเจ้าของ), possess ดูตัวอย่าง
-That brand new car belongs to John.
กริยา belong (เป็นของ) ไม่ใช้รูป -ing และประธาน apartments เป็นพหูพจน์จึงตอบกริยาพหูพจน์คือ
belong

4.Many plants___water to survive.
1. is needing
2. need
3. needs
4. needed
ตอบ 2 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่ เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา
เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุกปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น และโจทย์ที่เป็นจริงเสมอจะไม่มีคําบอกเวลา แต่ออกสอบทุกเทอมต้อง คอยสังเกตว่าเป็นโจทย์แบบไหน ตัวอย่างเช่น
– The sun rises in the east and sets in the west.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)
– Most plants need water to survive. (พืชส่วนใหญ่ต้องการน้ําเพื่ออยู่รอด) เป็นจริง

5.I always___the dishes after meal.
1. washes
2. wash
3. am washing
4. have washed
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ มีคําบอกเวลา always ทําเป็นประจํา จึงใช้ Present Simple Tense (S+ V1) = wash

6.Alice and her mother____to Sweden next month.
1. are moving
2. have moved
3. move
4. moved
ตอบ 1. หน้า 38 Future Simple Tense S + will/shall + V1) แสดงอนาคตมีคําบอกเวลาเช่น tomorrow, next + ช่วงเวลา, soon (ในไม่ช้า), in + ช่วงเวลา เช่น in five minutes (ใน 5 นาที) in half an hour (ในครึ่งชั่วโมง) เป็นต้น จากโจทย์ข้อนี้มีคําว่า next month (เดือนหน้า) จึงตอบ will + V1 = will move ไม่มีในตัวเลือก ให้ใช้ Present Continuous Tense S + is, am, are Ving) แสดงอนาคตอันใกล้กับอนาคตมากที่สุด จึงตอบตัวเลือกข้อ 1 = are moving

7.Isaac Newton___the theory of color.
1. will develop
2. develops
3. is developing
4. developed
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เป็นการเล่าเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว จะเป็นบุคคลสําคัญในอดีต เป็นการเล่า จึงตอบ V2 = developed เช่น Columbus discovered America. (โคลัมบัส ค้นพบอเมริกา)

8.Emma___the dentist next week.
1. has seen
2. sees
3. is seeing
4. saw
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ เป็นคําบอกเวลาอนาคตคือ next week เราตอบ will see ไม่มีก็ตอบ รูป Present Continuous แทนได้คือ is seeing

9.William___at the moment.
1. studies
2. studied
3. is studying
4. has studied
ตอบ 3 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เช่น now, right now, at the this moment, at present จากโจทย์มีคําบอกเวลา

at the moment จึงตอบ is studying

10. The last bus____ at Pak Nam bus station at 10 o’clock.
1. terminates
2. is going to terminate
3. could terminate
4. terminate
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4. เหตุการณ์ที่ทําเป็นประจําใช้ Present Simple Tense S + V1) มักใช้ เกี่ยวกับการเดินทาง เช่นอย่างโจทย์ข้อนี้ว่า “รถเที่ยวสุดท้ายสิ้นสุดที่สถานีขนส่งปากน้ำเวลา 10 นาฬิกา” แสดงว่าเป็นประจํา ตอบ terminates

11. Sophia and I often___our teeth.
1. have brushed
2. brush
3. will brush
4. are brushing
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ มีคําบอกเวลา often ใช้ Present Simple Tense S + V1) ก็คือ
brush

12. Mary and Linda___coffee when their friends showed up.
1. would drink
2. had drunk
3. drink
4. were drinking
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense)

1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบที่ 2 ตอบ were drinking

13. James____his girlfriend tomorrow.
1. meets
2. has met
3. is meeting
4. met
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ มีคําบอกเวลา tomorrow (พรุ่งนี้) เป็น Future Simple Tense (S + willshall V1) = will meet แต่ตัวเลือกไม่มี สามารถใช้แทนอนาคตได้ คือ
1. Present Continuous Tense
2. Present Simple Tense
3. be going to + V1 เลือกหมายเลข 1 ก่อนคือ Present Continuous (S + is, am, are + Ving) นั่นคือ is meeting

14. Monkeypox____ a viral infection typically found in central and western Africa.
1. is
2. was
3. are
4. were
ตอบ : ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ โจทย์ที่เป็นจริงหรือปัจจุบันยังเป็นอยู่ใช้ Present Simple Tense (S + V1) ฝีดาษลิงเป็นโรคคิดเชื้อไวรัสที่มักพบในแอฟริกากลางและตะวันตก เป็นจริงใน ปัจจุบันจึงตอบ is

15. Justin___me a bouquet of flowers three days ago.
1. gives
2. has given
3. gave
4. will give
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา three days ago (เมื่อสามวันก่อน) เป็นอดีต สิ้นสุดลงแล้วใช้ Past Simple Tense S +V2) จากกริยา give gave given จึงตอบ gave

16. While Jane was sleeping last night, Bob___her.
1. called
2. call
3. have called
4. are calling
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ การเชื่อมด้วย While ต้นประโยค

While S + was/were Ving, S+ V2

ให้มา was sleeping ตอบ called

17.Oliver____homework when Anna came home.
1. would do
2. does
3. was doing
4. had done
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 12. ประกอบ สูตรการเชื่อมด้วย when

2. S + was/were + Ving + when + S V2

ตอบ was doing ให้มา came

18.____you____the floor yesterday?
1. Do; clean
2. Did; clean
3. Have; cleaned
4. Are; cleaning
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ มีคําบอกเวลา yesterday (เมื่อวานนี้) เป็นอดีต ทําเป็นคําถามใช้ กริยา Verb to do รูปอดีตคือ did ไว้หน้าประธาน และตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เพราะเราใช้ Did มาช่วยแล้ว จึง ตอบเป็น Did you clean….?

19. Jenny____to her friend right now.
1. had talked
2. is talking
3. talks
4. talked
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ มีคําบอกเวลา right now ตอบ Present Continuous Tense
(S+ is/am/are + Ving) จึงตอบ is talking

20. Jacob___me 5,000 baht.
1. owe
2. owes
3. was owed
4. is owed
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ กริยาที่ไม่ใช้รูป ing คือ owe (เป็นหนี้) และประธานเอกพจน์ ตอบ กริยาเอกพจน์ด้วยคือ owes

21. Bob____to the market twice a week.
1. is going
2. goes
3. went
4. go
ตอบ 2 มีคําบอกเวลาคือ twice a week (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง) แสดงว่าทําเป็นประจํา ใช้ Present Simple Tense = goes กริยาเอกพจน์

22. Matthew___to Taiwan last year.
1. goes
2. is going
3. has gone
4. went
ตอบ 4 มีคําบอกเวลาอดีตคือ last year (ปีที่แล้ว) ตอบ Past Simple Tense = went

23. Logan and Oliver___Mexican food.
1. like
2. are liking
3. likes
4. have liked
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ กริยา like ไม่นิยมใช้รูป ing และประธานมีสองคนเป็นพหูพจน์ ตอบ กริยาพหูพจน์คือ like

24.Daniel____ a new car in 2019.
1. bought
2. buys
3. has bought
4. will buy
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ ในปี 2019 เป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบัน 2022 ฉะนั้นตอบเป็น Past
Simple Tense = V2 = bought

25. While Elizabeth____a picture, I arrived.
1. would draw
2. was drawing
3. had drawn
4. has drawn
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ การเชื่อมด้วย While ต้นประโยค

While S + was/were Ving, S+ V2

ตอบ was drawing ให้มา arrived

26. Jayden____a novel for three hours before he gave it to his friend.
1. would read
2. was reading
3. had been reading
4. read
ตอบ 3 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย before วางไว้ต้นประโยค

1. S+ had V3 before S + V2
2. S+ had V3 when S + V2
3. S + V2 After + S +had V3
4. Before +S+V2 S+ had V3
5. After + S +had V3, S + V2
6. When +S+ V2 S + had V3

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 1 ตอบ had been reading ให้มา gave

ปกติเราตอบ Past Perfect Tense = had read แต่ถ้าไม่มีก็ตอบ Past Perfect Continuous Tense แทนก็ได้ = had been reading

27. If Jackson____a job, his girlfriend will be happy.
1. gets
2. is getting
3. got
4. had got
ตอบ 1 หน้า 124- 130 เป็นการตัด if ออกไป ดูสูตรการใช้ 1 มี 4 แบบ

ตรงกับ If ขึ้นต้นประโยคสูตรที่ 2 โดยสังเกตจากให้มาส่วนหลังเป็น will be แสดงว่าส่วนหน้าตอบ
V1 ก็คือ gets

28. Ethan____ his homework before he played games.
1. did
2. had done
3. does
4. would do

ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1 before อยู่กลางประโยค

1. S + had V3 before S + V2

ตอบ had gone ให้มา played

30.Mark____golf for five hours when it started to rain.
1. is playing
2. would play
3. had been playing
4. plays
ตอบ 3 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย when วางไว้ต้นประโยค

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 2 ตอบ had been playing started

หรือดูได้อีกแบบหนึ่งว่าเราเห็นกริยาส่วนหนึ่งคือ started เป็น V2 อดีต แสดงว่าข้างหน้าก็ตอบ เป็นอดีต และเราเห็นคําบอกเวลา for five hours ถ้ามีแค่ท่อนเดียวคือประโยคหน้า เราตอบ Present Perfect Tense ทันทีแต่ข้อนี้มีสองตอนเชื่อมด้วย when และเป็นอดีต เราก็เปลี่ยนรูปให้เป็นอดีตไปด้วยนั่นคือตอบ Past Perfect Tense ถ้าไม่มีก็ตอบ Past Perfect Continuous Tense = had been playing แทนได้เลย

31. Emily and Ethan for three hours.
1. have been waiting
2. wait
3. waits
4. are waiting
ตอบ 1 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิด ติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็วๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long. all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลาคือ for three hours จึงตอบ have been waiting

32. John and I ___a meeting at nine o’clock tomorrow.
1. had
2. have had
3. will be having
4. have
ตอบ 3 หน้า 107 ใช้ Future Continuous Tense S + will/shall + be +Ving) แสดงเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นในอนาคตที่มีช่วงเวลาระบุไว้อย่างแน่ชัด เช่น at this time tomorrow, tomorrow evening, at 10 o’clock tomorrow ฉะนั้นมีคําบอกเวลาที่ระบุเวลา at nine o’clock tomorrow จึงตอบ will be having

33. Maria___her studies by next year.
1. will have completed
2. completed
3. is completing
4. will complete
ตอบ 1 หน้า 112 ใช้ Future Perfect Tense S + will/shall + have V3) หรือ Future Perfect Continuous Tense S + willshall + have been Ving) กับคําบอกเวลาที่ขึ้นต้นด้วยคําว่า “by (ประมาณ ราว ๆ ) เช่น by next year, by the end of this year, by tomorrow, by that time, by the end of this month, by noon เป็นต้น ฉะนั้นเราเห็น by next year จึงตอบ will have finished

34. I___in Phuket since I was born.
1. will live
2. have lived
3. live
4. am living
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ มีคําบอกเวลา since…ตอบข้างหน้าเป็น Present Perfect
Tense = have lived

35. If she____the lottery, she would have got a new sports car.
1. wins
2. won
3. had won
4. is winning
ตอบ 3 เป็นเรื่อง f สูตรที่ 4

4 If S + had V3, S+ would have V3

ตอบ had won ให้มา would have got

36.After I____a pizza, I went to bed.
1. had eaten
2. am eating
3. had been eating
4. eat
ตอบ 1. ดูสูตรในข้อ 30. ประกอบ การเชื่อมด้วย After ต้นประโยค

After + S +had V3, S + V2

ตอบ had eaten went

37.I____a new mobile phone next week.
1. buy
2. bought
3. will buy
4. have bought
ตอบ 3 หน้า 104 Future Simple Tense (S+ will/shall + V1) шanagısaíños เกิดขึ้นในอนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next + ช่วงเวลา เช่น next year, next month, tonight, in a few minutes, in half an hour เป็นต้น ข้อนี้มีคําบอกเวลา next week ตอบ will buy

38.I wish I____his telephone number.
1. have known
2. know
3. am knowing
4. knew
ตอบ 4 หน้า 147 เป็นการใช้ wish ดูสูตร

1. S + wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S+ wished S + had V3

ให้กริยา wish เป็นกริยาช่องที่ 1 ตอบหลังเป็นกริยาช่องที่ 2 ก็คือ knew (มาจาก know knew known)

39. My mother____TV for three hours.
1. has watched
2. watch
3. will be watched
4. is watched
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา for + ช่วงเวลาตอบ Present Perfect Tense
= has watched

40. Noah___the project by Friday.
1. will finish
2. finished
3. finishes
4. will have finished
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ เห็น by ตอบ Future Perfect Tense = will have finished

41. Evan____for four hours.
1. would be driven
2. is driving
3. drives
4. has been driving
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา for + ช่วงเวลาตอบ Present Perfect Tense ถ้าไม่มี ในตัวเลือกให้ตอบ Present Perfect Continuous Tense = has been driving

42. My friend___ thirty tomorrow.
1. is
2. was
3. will be
4. has been
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 37. ประกอบ มีคําบอกเวลา tomorrow ตอบอนาคตคือ will be

43.___you ever___to Australia?
1. Did; been
2. Will; be
3. Do; be
4. Have; been
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา ever (เคย) ตอบ Present Perfect Tense

44.If I____money, I would buy a new notebook.
1. am having
2. had had
3. have
4. had
ตอบ 4 เป็นเรื่อง If ต้นประโยค ตรงกับสูตรที่ 3

3. If S+ V2, S+ would/could + V1

ตอบ had ให้มา would buy

45. If you mix orange and green, you____brown.
1. would get
2. get
3. would have got
4. got
ตอบ 2 เป็นเรื่อง f ต้นประโยค ตรงกับสูตรที่ 1

1. If/Unless S + V1, S + V1

ให้มา mix ตอบ get

46.Emma____ the windows before she left.
1. cleans
2. had cleaned
3. is cleaning
4. has been cleaning
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1 before อยู่กลางประโยค

1.S + had V3 before S + V2

ตอบ had cleaned ให้มา left

47. By the end of this month, my colleague___here for 5 years.
1. has worked
2. works
3. will have been working
4. will work
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ มีคําบอกเวลา by และลงท้าย for ด้วย ตอบ Future Perfect
Tense ไม่มีก็ตอบ Future Perfect Continuous Tense = will have been working

48. While my friends and I were playing football, it____to snow.
1. would start
2. starts
3. had started
4. started
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ การเชื่อมด้วย While ต้นประโยค

While S + was/were Ving, S+ V2
ให้มา were playing ตอบ started

49. Clara and I____each other since 1988.
1. know
2. are knowing
3. have known
4. knew
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 31. ประกอบ เห็นคําบอกเวลา since… ตอบข้างหน้า Present Perfect Tense

50.If it___we will stay home.
1. will rain
2. rains
3. rained
4. have rained
ตอบ 2 สูตรการใช้ 1 แบบที่ 2

3. If/Unless S + V1, S + will + V1

เราสังเกตว่าส่วนหลังให้มา will stay = will V1 ฉะนั้นส่วนหน้าตอบ V1 คือ rains

51.Jane would catch the first bus if she___up early.
1. get
2. are getting
3. got
4. had gotten
ตอบ 3 เรื่อง if วางไว้กลางประโยค ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 3

3. s + would V1 if/unless S + V2

ให้มา would catch ตอบ got (มาจาก get got got/ gotten)

52.____is coming to the party tonight?
1. When
2. Who
3. Where
4. Which
ตอบ 2 หน้า 166 เป็นประโยคคําถาม Wh-questions
1. Who What Which + (คํานาม) + กริยา เช่น
– Who saw him?
-What happened to you last night?
-Which bus goes to town?

2. Whom/What Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คํานาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
– What did he buy yesterday?
-Which job have you applied for?

3. Whose + คํานาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
– Whose book are you reading?
-Why did he go home?
-How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับระดับต่าง ๆ เช่น
-When will you do?
-Where do you come from?
-How old is she?

ข้อนี้จะเห็นว่าต่อจากคําที่ให้เติม มีกริยาตามคือ is นั่นแสดงเป็นการถาม Who เพราะ Who +
กริยา Who is coming (ใครจะมา……)

53.___did you sleep last night?
1. How
2. Where
3. When
4. All are correct
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 52. ประกอบ เป็นการถาม How (อย่างไร) Where (ที่ไหน) When (เมื่อไร) “เมื่อคืนคุณนอนหลับเป็นอย่างไรบ้าง? “เมื่อคืนคุณนอนที่ไหน?” “เมื่อคืนคุณนอนเมื่อไร?” ใช้ได้ทุกข้อ

54. My sunglasses____yesterday.
1. have stolen
2. had stolen
3. are stolen
4. were stolen
ตอบ 4 เป็นเรื่อง Passive Construction การทําให้เป็นรูปถูกกระทํา โดยสังเกตจากประธานมักเป็นสิ่งของ สิ่งไม่มีชีวิต บางประโยคส่วนหลังอาจมีคําบอกใบ้เช่น by (โดย) ด้วย อย่างโจทย์ข้อนี้ประธานเป็นสิ่งของ (Sunglasses แว่นตา) ถูกขโมย ใช้โครงสร้าง verb to be + V3 = were stolen เราใช้ were รูป อดีตด้วยเพราะท้ายโจทย์มี yesterday เป็นอดีต จึงต้องใช้ were ส่วน have stolen/had stolen เป็น โครงสร้าง Perfect Tense (S+ has/have/had + V3) ไม่ใช่รูปถูกกระทํา เป็น Tense

55. Jackson said, “I met John last night.”
Jackson said that he____John the night before.
1. had met
2. met
3. have met
4. have been meeting
ตอบ 1 หน้า 197 เป็นเรื่องการทํา Direct Speech (ประโยคคําพูด) ให้กลายเป็น Indirect Speech (ประโยครายงานหรือนํามาพูดเล่าอีกที) เราต้องดูว่าเดิมเป็นประโยคประเภทไหน จากประโยคที่มี เครื่องหมายคําพูด (ประโยคแรก) เป็นประโยคบอกเล่าจึงเชื่อมด้วย that ข้อนี้ให้ตอบกริยา เราจะเปลี่ยนกาล Tense ดังนี้ ถ้าให้ Present Simple ใน indirect เปลี่ยนเป็น Past Simple Tense แต่ถ้าให้ Past Simple Tense S + V2) อย่างโจทย์ข้อนี้ให้มา met (= V2) ทําเป็น indirect เปลี่ยนเป็น Past Perfect Tense = had met

56. Anthony said to me, “Where will you live?”
Anthony asked me where I____live.
1. will
2. should
3. shall
4. would
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 55. ประกอบ คําที่ให้เติมก็เป็นคํากริยาช่วย ถ้าให้ will (= V1) ทําเป็น indirect ต้องเปลี่ยนเป็น would (= V1) คือเป็นรูปอดีต ถ้าเป็นกริยาช่วยตัวอื่นเช่น can ก็เป็น could, shall ก็เป็น should, may ก็เป็น might เป็นต้น

57.Daniel insists that he____to the office.
1. goes
2. has gone
3. is going
4. go
ตอบ 4 เป็นกลุ่มกริยายกเว้น ให้ตอบหลังประธานเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันก็คือไม่เติมท้ายอะไรเลย

S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน

58. Jacob said to me, “I fancy you”. Jacob told me that he fancied
1. her
2. them
3. me
4. you
ตอบ 3 เป็นเรื่อง indirect speech ที่นําคําพูดมาเล่าอีกครั้ง ก็จะเรียงเป็นประโยคธรรมดา จากช่องว่างที่ ให้เติมคือคําสรรพนาม เราดูจากประโยคคําพูดว่า “I fancy you” ! ก็คือ Jacob เป็นเพศชาย ใช้ he (ดูจาก ประโยค indirect และ you ก็คือ me ฉะนั้นเมื่อเป็น indirect ก็ตอบ me

59. It is____that the boy is her son.
1. believing
2. to believe
3. believe
4. believed

ตอบ 4 หน้า 156 เป็นรูป passive reporting verbs ในรูปแบบของภริยารายงานข่าวในประโยคดังนี้

ยังมีกริยาตัวอื่นอีกเช่น suppose, assume, consider, claim, think, believe, report, know, expect, allege, understand เป็นต้น ดูตัวอย่าง
– It is reported that ten people were killed. (มีรายงานว่าคน 10 คนถูกฆ่าตาย)
-It is believed that the thieves got in through the kitchen window.
It is said that she works 16 hours a day. (กล่าวกันว่าเธอทํางานวันละ 16 ชั่วโมง)

60. Chloe said to me, “Do you like Indian food?”
Chloe____me if I liked Indian food.
1. ask
2. says
3. asked
4. say
ตอบ 3 คําที่ให้เติมคือกริยาที่เป็นอนุประโยคหลักข้างหน้า เรารู้ว่าจะประโยคคําพูดว่าเป็นคําถาม Do you like เราจะเปลี่ยนกริยา said to เป็น asked (ถาม)

61.___car was stolen last night?
1. Who
2. Whose
3. How
4. When
ตอบ 2 เป็นประโยคคําถาม ตอบ Whose เพราะ Whose + คํานามเสมอ (car) แสดงความเป็นเจ้าของ
ว่ารถของใคร

62. Lord____with us.
1. will be
2. would be
3. is
4. be
ตอบ 4 ขึ้นต้นด้วย God หรือ Long ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ฝันเสมอ ถ้าเป็น verb to be กริยาไม่ผัน ก็ คือ be ถ้าเป็นกริยาทั่วไป ก็คือ ไม่เติม s หรือ ed หรือใด ๆ เลย เช่น
– Long live the king and the queen
-God be with us.

63. Laura had her hair____.
1. cut
2. cuts
3. to cut
4. cutting
ตอบ 1 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 2-3 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ getgot ให้ + V3 สูตร

S + has/have/had + สิ่งของ + V3

หรือ S + getgot + สิ่งของ + V3 ได้เลย

จากโจทย์มี had + สิ่งของคือ hair (ผม) จึงตอบตามด้วยกริยาช่องที่ 3 คือ cut สําหรับกริยาตัวนี้ กริยา 3 ช่อง cut cut cut รูปเดิมทั้งสามช่อง แต่ที่เราตอบนั้น เป็นกริยาช่องที่ 3 คือ cut

64. Jane will get her house____.
1. cleaning
2. cleaned
3. clean
4. to clean
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ กริยา get + สิ่งของ house (บ้าน) ตอบกริยาช่องที่ 3 คือ cleaned

65. I get my midterm paper____.
1. check
2. to check
3. checking
4. checked
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ get + สิ่งของ (paper) + กริยาช่องที่ 3 คือ checked

66. Those are your books,____?
1. weren’t they
2. didn’t they
3. won’t they
4. aren’t they
ตอบ 4 หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม เราเห็นประโยคให้มีกริยาช่วย will ตอบ tag เป็น won’t รูปย่อ และคํานาม Dan ชื่อเพศชายตอบ tag เป็น he รวมกัน won’t he ตัวอย่างอื่นเช่น
– Jane will be here soon, won’t she?
– There was a lot of rain, wasn’t there?
– Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
– Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
– Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you
สําหรับข้อนี้มีกริยา are ทําส่วนหาง เป็นปฏิเสธรูปย่อคือ aren’t และคําว่า Those เปลี่ยนเป็น สรรพนามพหูพจน์ คือ they

67.____often do you have Japanese food?
1. How
2. Whose
3. Who
4. When
ตอบ 1 ดูคําอธิบาย 52 ประกอบ เป็นประโยคคําถาม มีคําว่า often อยู่ที่โจทย์ สามารถคู่กับ How often (บ่อยแค่ไหน) เป็นการถามความถี่ หรือ How + adj. เช่น How old (อายุเท่าไร) How large (ใหญ่แค่ไหน)

68. It is____that twenty people have been shot.
1. reported
2. report
3. reporting
4. to report
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 59. ประกอบ กริยาประเภทรายงาน ต้องใช้ตอบกริยาช่องที่ 3 คือ reported

69.Linda said to her boyfriend, “What is your favorite food?”
Linda asked her boyfriend what___favorite food was.
1. their
2. my
3. his
4. our
ตอบ 3 คําที่ให้เติมนั้นเป็นคําสรรพนาม จากประโยคคําพูดที่เป็นคําถามว่า What is your favorite food? เมื่อทําเป็น indirect ก็เรียงเป็นประโยคบอกเล่าคือ ประธาน + กริยา เราดูจากประโยคหลักว่า ลินดาพูดกับ เพื่อนชายว่า “อาหารโปรดของคุณคืออะไร?” คําว่า ของคุณ (your) ก็คือถาม boyfriend (เพื่อนชาย) ฉะนั้น เมื่อเป็น indirect ก็ต้องเปลี่ยนเป็นสรรพนามเพศชาย คือ his

70. Open the door,____?
1. are you
2. aren’t you
3. will you
4. do you
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 66. ประกอบ ขึ้นต้นประโยคด้วย Open เป็นกริยาช่องที่ 1 ซึ่งเป็นคําสั่ง ขอร้อง ก็ได้ ตอบส่วนหางคงที่คือ will you

71.Let’s go to the beach,____?
1. are we
2. did we
3. could we
4. shall we
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 66. ประกอบ ขึ้นต้นประโยคด้วย Let’s เป็นการชักชวน ตอบส่วนหางคงที่ว่า shall we แบบข้อ 70 และ 71 คําตอบ will you กับ shall we ในแบบยกเว้น

72.I think it would be a good idea if we____the documents via email.
1. are sending
2. sent
3. send
4. can send
ตอบ 2 หน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2 ออก
ทุกเทอม 1-2 ข้อ

If only
It’s time
It’s about timeS         + V2 ก็คือ sent
It’s high time that
He’d rather
I think it would be a good idea if

ตรงกับ I think it would be a good idea if + ประธาน + ตอบกริยาช่องที่ 2 คือ sent มาจาก
(send sent sent)

73. Mary had her car____.
1. wash
2. to wash
3. washed
4. washing
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ กริยา had + สิ่งของ (car) + กริยาช่องที่ 3 คือ washed

74. It’s important that you not___late.
1. are
2. have been
3. be
4. were
ตอบ 3 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เดิม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be มักออก 1 ข้อ ได้แก่

S + is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent

It is necessary that ตอบ be (V1 ไม่ผัน)

75.He said, “I can drive.”
He said that he___drive.
1. might
2. could
3. should
4. may
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 56. ประกอบ กริยาช่วย can เปลี่ยนเป็น could

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions: Choose the best answer.

76. The government insists that the dam will not harm the____.
1. calorie
2. route
3. environment
4. legend
ถาม รัฐบาลยืนยันว่าเขื่อนจะไม่ทําร้ายสิ่งแวดล้อม
ตอบ 3 1. แคลอรี่ 2. เส้นทาง 3. สิ่งแวดล้อม 4. ตํานาน

77. The United States’ first apple___ was planned in 1625 near Boston’s Beacon Hill.
1. neighbor
2. crime
3. expedition
4. orchard
ถาม สวนแอปเปิลแห่งแรกของสหรัฐที่วางแผนไว้ในปี 1625 อยู่ใกล้กับ Beacon Hill ของเมืองบอสตัน
ตอบ 4 1. เพื่อนบ้าน 2. อาชญากรรม 3. การเดินทาง 4. สวนผลไม้

78.She____to live in the same house after the death of her husband.
1. placed
2. continued
3. classified
4. interviewed
ถาม เธอยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิต
ตอบ 2 1. ใส่ วาง 2. ยังคงดําเนินต่อไป 3. จัดหมวดหมู่ 4. สัมภาษณ์

79.These berries are edible, but those are poisonous.
1. elderly
2. recent
3. eatable
4. related
ถาม เบอรี่เหล่านี้กินได้ แต่ถ้ากองนั้นมีพิษ
ตอบ 3 1. สูงอายุ แก่ 2. เร็วๆ นี้ ไม่นานมานี้ 3. สามารถรับประทานได้ 4. เกี่ยวข้อง

80. The teacher____each student with a friendly “Hello!”
1. pollinated
2. propagated
3. greeted
4. experimented
ถาม ครูทักทายนักเรียนแต่ละคนด้วยความเป็นมิตร “สวัสดี”
ตอบ 3 1. ผสมเกสรดอกไม้ 2. ขยายพันธุ์ 3. ทักทาย 4. ทําการทดลอง

81.Evan accepted an award for outstanding achievement in baseball.
1. great
2. quick
3. abundant
4. elderly
ถาม อีวานคว้ารางวัลความสําเร็จที่โดดเด่นในวางการเบสบอล
ตอบ 1 1. โดดเด่น ยอดเยี่ยม 2. รวดเร็ว 3. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 4. แก่สูงอายุ
outstanding = great = ยอดเยี่ยม โดดเด่น

82.Fuel prices have been___in recent weeks.
1. lowered

2. inherited
3. recycled
4. rescued
ถาม ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตอบ 1 1. ลดต่ำลง 2. ได้รับมรดก 3. ผ่านกรรมวิธีแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ 4. ช่วยเหลือ

83.Barbara started as a news____on Channel 4.
1. balance
2. relationship
3. center
4. reporter
ถาม บาร์บาร่าเริ่มเป็นผู้สื่อข่าวของช่อง 4
ตอบ 4 1. ความสมดุล 2. ความสัมพันธ์ 3. ศูนย์กลาง 4. ผู้สื่อข่าว

84.The lifeboat rescued the sailors from the sinking boat.
1. refined
2. raised
3. inherited
4. saved
ถาม เรือชูชีพช่วยชีวิตลูกเรือจากเรือที่กําลังจม
ตอบ 4 1. ขัดเกลา 2. ยกขึ้น 3. ได้รับมรดก 4. ช่วยเหลือจากอันตราย
rescued = saved = ช่วยเหลือจากอันตราย

85.All the latest cars are on___at the Motor Show.
1. distance
2. offspring
3. coincidence
4. exhibition

ถาม รถยนต์ล่าสุดทั้งหมดจัดแสดงสินค้าที่งานมอเตอร์โชว์
ตอบ 4 1. ระยะห่าง 2. ทายาท 3. เหตุบังเอิญ 4. การแสดงนิทรรศการ

86. The potato is the most___ vegetable in Britain.
1. physical
2. mental
3. active
4. popular
ถาม มันฝรั่งเป็นผักที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหราชอาณาจักร
ตอบ 4 1. เกี่ยวกับทางกาย 2. ทางจิตใจ 3. กระฉับกระเฉง 4. เป็นที่แพร่หลาย

87. Bob works for a company that___cars.
1. manufactures
2. reflects
3. heals
4. interviews
ถาม บ๊อบทํางานให้กับบริษัทที่ผลิตรถยนต์
ตอบ 1 1. ผลิต 2. สะท้อนให้เห็น 3. รักษา 4. สัมภาษณ์

88.Fiona is very clever at physics.
1. notorious
2. smart
3. popular
4. various
ถาม ฟีโอน่าเก่งฟิสิกส์มาก
ตอบ2 1. มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี 2. เฉลียวฉลาด 3. เป็นที่แพร่หลาย 4. มากมาย หลากหลาย

89.Daniel inserted the CD and____the ‘play’ button.
1. polluted
2. demanded
3. pressed
4. emphasized
ถาม แดเนียล ใส่ซีดีแล้วกดปุ่ม “เล่น”
ตอบ 3 1. ทําให้เกิดมลพิษ 2. ต้องการเรียกร้อง 3. กด บีบ 4. เน้นย้ำ

90. People use drugs to speed up the healing____.
1. reconciliation
2. process
3. intimacy
4. existence
ถาม ผู้คนใช้ยาเพื่อเร่งกระบวนการบําบัด
ตอบ : 1. การไกล่เกลี่ย ปรองดอง 2. กระบวนการ 3. ความใกล้ชิด 4. การมีชีวิตอยู่

91. The house was badly___in the fire.
1. convinced
2. captured
3. reported
4. damaged
ถาม บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟไหม้
ตอบ 4 1. ทําให้เชื่อ 2. จับ (ภาพ) 3. รายงาน 4. ทําให้เสียหาย

92. Thanksgiving is a really big____ in the States.
1. attitude
2. ancestor
3. treatment
4. occasion
ถาม วันขอบคุณพระเจ้าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ในสหรัฐอเมริกา
ตอบ 4 1. ทัศนคติ 2. บรรพบุรุษ 3. การรักษา 4. โอกาส

93. Fresh fruit and vegetables are an essential component of a healthy____.
1. filesh
2. concern
3. container
4. diet
ถาม ผักและผลไม้สดเป็นส่วนประกอบสําคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ
ตอบ 4 1. เนื้อ (สัตว์) 2. ความวิตกกังวล 3. สิ่งที่ใช้บรรจุของ 4. อาหาร

94. Peter applied for a visa three times and in the end he was____.
1. successful
2. native
3. limited
4. abominable
ถาม ปีเตอร์ยื่นวีซ่า 3 ครั้ง ในที่สุดก็สําเร็จ
ตอบ 1 1. ประสบผลสําเร็จ 2. เกี่ยวกับพื้นเมือง 3. จํากัด 4. น่ารังเกียจ

95. The orange or lemon peel is used as a___.
1. boon
2. beast
3. garnish
4. filesh
ถาม ใช้เปลือกส้มหรือมะนาวเป็นสิ่งตกแต่ง
ตอบ 3 1. ประโยชน์ ข้อดี 2. สัตว์โลก 3.สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร 4. เนื้อ (สัตว์)

96.Some universities____on television.
1. forgive
2. advertise
3. overlook
4. devote
ถาม มหาวิทยาลัยบางแห่งโฆษณาทางโทรทัศน์
ตอบ 2 1. ยกโทษ ให้อภัย 2. โฆษณา 3. มองข้าม มองไม่เห็น 4. อุทิศตน

97. We enjoy eating in____types of restaurants.
1. recent
2. various
3. public
4. genetic
ถาม เราเพลิดเพลินกับการทานอาหารในร้านอาหารหลากหลายประเภท
ตอบ 2 1. เร็วๆนี้ ไม่นานมานี้ 2. หลากหลาย 3. ส่วนรวม สาธารณะ 4. เกี่ยวกับพันธุกรรม

98. There is clear____that smoking causes heart disease.
1. evidence
2. beast
3. appliance
4. vehicle
ถาม มีหลักฐานชัดเจนว่าการสูบบุหรี่ทําให้เกิดโรคหัวใจ
ตอบ 1 1. หลักฐาน 2. สัตว์โลก 3. เครื่องใช้ไฟฟ้า 4. ยานพาหนะ

99. The concert was really awesome.
1. quick
2. native
3. scarce
4. amazing
ถาม คอนเสิร์ตสุดยอดมาก
ตอบ 4 1. รวดเร็ว 2. เกี่ยวกับพื้นเมือง 3. หายาก ขาดแคลน 4. ยอดเยี่ยม
awesome = amazing, astonishing, impressive = ดีเยี่ยม

100. Many dolphins are accidentally____in the nets of tuna fishermen.
1. nodded
2. inherited
3. recycled
4. captured
ถาม ปลาโลมาจํานวนมากถูกจับโดยบังเอิญในอวนของชาวประมงทูน่า
ตอบ 4 1. พยักหน้า 2. ได้รับมรดก 3. ผ่านขบวนการกลับมาใช้ใหม่ได้อีก 4. จับ

101. The___is concentrating on developing new products.
1. company
2. conclusion
3. bystander
4. existence
ถาม บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
ตอบ 1 1. บริษัท 2. การสรุป 3. คนสัญจรไปมา 4. การดํารงอยู่

102. A heavy fall of snow had disrupted the city’s transport____.
1. artist
2. collection
3. seniority
4. system
ถาม หิมะตกหนักทําให้ระบบขนส่งของเมืองหยุดชะงัก
ตอบ 4 1. ศิลปิน 2. ของสะสม 3. ความเป็นอาวุโส 4. ระบบ

103. Is this medicine____for children?
1. clever
2. limited
3. abundant
4. safe
ถาม ยานี้ปลอดภัยสําหรับเด็กหรือไม่
ตอบ 4 1. เฉลียวฉลาด 2. จํากัด 3. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 4. ปลอดภัย

104. Children are the innocent____of war.
1. reconciliations
2. fragments
3. victims
4. legends
ถาม เด็กคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ของสงคราม
ตอบ 3 1. การไกล่เกลี่ยคืนดีกัน 2. เศษชิ้นส่วน 3. เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย 4. ตํานาน

105. Jessica___at Mark with admiration.
1. overlooked
2. happened
3. gazed
4. construed
ถาม เจสซิก้าจ้องมองมาร์คด้วยความชื่นชม
ตอบ 3 1. มองข้าม มองไม่เห็น 2. เกิดขึ้น 3. จ้อง เพ่ง 4. ตีความ

106. In Britain, half of all violent____is perpetrated by people who have been drinking
alcohol.
1. neighbor
2. crime
3. reporter
4. beast
ถาม ในสหราชอาณาจักร ครึ่งหนึ่งของอาชญากรรมรุนแรงทั้งหมดกระทําโดยผู้ที่ดื่มสุรา
ตอบ 2 1. เพื่อนบ้าน 2. อาชญากรรม 3. ผู้สื่อข่าว 4. สัตว์โลก

107. I cannot predict what will___next year.
1. honor
2. check
3. happen
4. overlook
ถาม ฉันไม่สามารถทํานายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
ตอบ 3 1. ให้เกียรติ 2. ตรวจสอบ 3. เกิดขึ้น 4. มองข้าม

108. My grandmother wouldn’t____another operation.
1. survive
2. enlarge
3. propagate
4. pollinate
ถาม ยายของฉันจะไม่รอดจากการผ่าตัดอีก
ตอบ 1 1. รอดชีวิต 2. ทําให้ใหญ่ขึ้น 3. ขยายพันธุ์ 4. ผสมเกสร

109. Try to keep a/an___between work and play.
1. gift
2. offspring
3. power
4. balance
ถาม พยายามรักษาความสมดุลระหว่างการทํางานและการเล่น
ตอบ 4 1. พรสวรรค์ 2. ทายาท 3. พลัง อํานาจ 4. ความสมดุล

110. Over half of the people in my____have parents who are divorced.
1. beast
2. distance
3. generation
4. evidence
ถาม คนรุ่นผมเกินครึ่งมีพ่อแม่ที่หย่าร้างกันแล้ว
ตอบ 3 1. สัตว์โลก 2. ระยะทาง 3. รุ่น 4. หลักฐาน

111. Customs stopped us and___ our bags for alcohol and cigarettes.
1. overlooked
2. checked
3. happened
4. reflected
ถาม ศุลกากรหยุดเราและตรวจสอบกระเป๋าของเราสําหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
ตอบ 2 1. มองข้าม มองไม่เห็น 2. ตรวจสอบ 3. เกิดขึ้น 4. สะท้อน

112. Our____ to think and speak makes us different from other animals.
1. ability
2. garnish
3. flesh
4. mutation
ถาม ความสามารถในการคิดและพูดทําให้เราแตกต่างไปจากสัตว์อื่น ๆ
ตอบ 1 1. ความสามารถ 2. สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร 3. เนื้อ 4. การกลายพันธุ์

113. His grades have____greatly this semester.
1. survived
2. improved
3. honored
4. classified
ถาม คะแนนของเขาดีขึ้นมากในภาคเรียนนี้
ตอบ 2 1. รอดชีวิต 2. ปรับปรุง ทําให้ดีขึ้น 3. ให้เกียรติ 4. จัดเป็นระเบียบ

114. Meeting you here in New York is a remarkable____.
1. coincidence
2. vehicle
3. exhibition
4. convention
ถาม การพบคุณที่นี่ในนิวยอร์กเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าทึ่ง
ตอบ 1 1. เหตุบังเอิญ 2. ยานพาหนะ 3. การแสดงนิทรรศการ 4. ธรรมเนียม

115. Oil spills pose a____threat to marine life.
1. genetic
2. edible
3. serious
4. floating
ถาม การรั่วไหลของน้ํามันเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล
ตอบ 3 1. เกี่ยวกับพันธุกรรม 2. สามารถรับประทานได้ 3. ร้ายแรง 4. ลอย

116. The river provides a____supply of clean water to nearby villages.
1. elderly
2. active
3. mental
4. plentiful
ถาม แม่น้ำเป็นแหล่งน้ำสะอาดที่อุดมสมบูรณ์ให้กับหมู่บ้านใกล้เคียง
ตอบ 4 1. สูงอายุ แก่ 2. กระฉับกระเฉง 3. เกี่ยวกับจิตใจ 4. อุดมสมบูรณ์ มากมาย

117. Jane explained it as simply as she could, but the class still didn’t____.
1. understand
2. press
3. return
4. result
ถาม เจนอธิบายง่าย ๆ เท่าที่จะทําได้ แต่ชั้นเรียนก็ยังไม่เข้าใจ
ตอบ 1 1. เข้าใจ 2. กด บีบ 3. กลับคืน 4. ผลลัพธ์

118. My grandfather____ the family business in 1988.
1. established
2. severed
3. rescued
4. greeted
ถาม ปู่ของฉันก่อตั้งธุรกิจครอบครัวในปี 2531
ตอบ 1 1. จัดตั้ง เริ่ม 2. รุนแรง 3. ช่วยเหลือจากอันตราย 4. ทักทาย

119. Food was getting____during the drought.
1. elderly
2. scarce
3. popular
4. various
ถาม อาหารจะขาดแคลนในช่วงภัยแล้ง
ตอบ 2 1. สูงอายุ แก่ 2. หายาก ขาดแคลน 3. เป็นที่แพร่หลาย 4. มากมาย

120. If____,we can always change the dates of our trip.
1. necessary
2. famous
3. popular
4. various
ถาม หากจําเป็น เราสามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้เสมอ
ตอบ 1 1. สําคัญ จําเป็น 2, มีชื่อเสียง 3. เป็นที่แพร่หลาย 4. มากมาย

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป 2/2564

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2564
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.

1.Sue____a cake when the storm started.
1. is baking
2. was being baked
3. was baking
4. has been baked
ตอบ 3 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีก เหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense)

1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2 ·

ตรงแบบที่ 2 ตอบ was baking

2.Nida____on the phone at the moment.
1. has talked
2. is talking
3. was talking
4. talked
ตอบ 2 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด หรือมักคําบอกเวลาจํานะออกทุกเทอมเช่น now, right now, at the/this moment, at present ข้อนี้มีท้ายประโยคคําบอกเวลา at the moment จึงตอบ is talking

3.I was disappointed with the new Korean series; I ___it to be much better.
1. am expecting
2. expect
3. expected
4. would expect
ตอบ 3 เราจะเห็นประโยคแรกมีรูปอดีตคือ was ซึ่งเป็นกริยาช่องที่ 2 อดีต ฉะนั้นอีกประโยคก็จะต้อง รูปอดีตไปด้วยเพราะเป็นการเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเราใช้ Past Simple Tense (S + V2) = expected

4.We usually____the news on TV at 7:00.
1. have watched
2. watch
3. watches
4. are watching
ตอบ 2 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่ เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุกปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น สําหรับข้อนี้มีคําบอกเวลาคือ usually ทําเป็นปกติ จึงตอบ V1 = watch กริยาพหูพจน์เพราะประธาน We พหูพจน์

5.He____pizza when his mother called.
1. is eating
2. was eating
3. was eaten
4. is eaten
ตอบ 2 ลักษณะเดียวกันกับข้อ 1 ดูคําอธิบายประกอบได้ เชื่อมด้วย when 2 เหตุการณ์

2. S + was/were + Ving when +  s +v2

6.Kate____to lose weight now.
1. has been trying
2. has tried
3. is trying
4. tried
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ เราเห็นคําบอกเวลา now จึงตอบ Present Continuous Tense
= is trying

7.Shopping online___is popularity nowadays.
1. was going
2. is growing
3. grew
4. had grown
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ มีคําบอกเวลา nowadays (ทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้) ใช้ Present Simple Tense = V1 ถ้าไม่มีก็ตอบ Present Continuous Tense S + is/am/are + Ving) ขอให้เป็นรูป ปัจจุบัน เดาจากตัวเลือกมีอันเดียวคือตัวเลือกที่ 2 = is growing นอกนั้นเป็นรูปอดีต

8.He____tea when I asked him to stand up.
1. will have taken
2. taken
3. takes
4. was taking
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when และเราสังเกตจากกริยา asked เป็นกริยาช่องที่ 2 รูป อดีต ฉะนั้นเราก็ตอบเป็นอดีต ที่มีรูปโครงสร้างถูก Tense ก็คือ was taking นอกนั้นตัวเลือก I will เป็น อนาคต ไม่ถูกต้อง ตัวเลือกที่ 2 taken เป็นกริยาช่องที่ 3 ไว้หลังประธานไม่ถูกต้อง และตัวเลือกที่ 3 takes เป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่เข้ากับประโยค เราตอบอดีตคู่กับอดีต

9.Cats____water.
1. hates
2. hate
3. are hating
4. had hated
ตอบ 2 Present Simple Tense S + V1) ใช้กับเหตุการณ์ที่ทําทุกวัน เป็นประจํา แล้วยังใช้กับ ประโยคที่เป็นจริงตามธรรมชาติ จริงตามหลักวิทยาศาสตร์ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิตด้วย โดยที่โจทย์ จะไม่มีคําบอกเวลาให้มา เราต้องสังเกตเอา ซึ่งมักจะเป็นโจทย์เช่น พระอาทิตย์ส่องแสงกลางวัน, เสือเป็น สัตว์สี่เท้า เป็นต้น
-Bangkok is the capital of Thailand. (กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย)
-The sun rises in the east, and sets in the west.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก) ใช้ V1
-Cats hate water. (แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบน้ํา) เป็นจริงจึงตอบ V1 กริยาพหูพจน์

10. From 1995 to 2000, Tom___for a large multinational company.
1. would be working
2. worked
3. would work
4. works
ตอบ 2 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วในอดีตหรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต, in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอกเวลา จากปี 1995 ถึงปี 2000 เป็นอดีต เพราะปัจจุบันปี 2022 ฉะนั้นก็ตอบเป็นอดีตคือ V2 = worked

11. She___her finger and___to hospital.
1. cut; went
2. will cut; will go
3. cut; goes
4. cut; will go
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 10. ประกอบ ประโยคเป็นลักษณะของการเล่าเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาว่า เธอทํามีดบาดนิ้วของเธอและไปโรงพยาบาล เป็นเหตุการณ์อันหนึ่งในอดีต ตอบแบบ V2 คู่กับ V2 ก็คือกริยา
cut cut cut กริยา 3 ช่องรูปเดิม และ go went gone จึงตอบ cut, went

12. Please be quiet. The children____.
1. will be sleeping
2. were sleeping
3. are sleeping
4. have been slept
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับ เหตุการณ์หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด โดยโจทย์ขึ้นต้นเป็นการขอร้องให้เงียบ ๆ เพราะเด็ก ๆ กําลังนอนหลับ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้น ณ ขณะที่พูดจึงตอบ are sleeping

13. I___dinner when she arrived.
1. have been eating
2. eat
3. will eat
4. was eating
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when กริยาข้างหลังเป็น arrived คือ V2 รูปอดีต ฉะนั้น ข้างหน้าก็เป็นอดีตด้วย มีตัวเลือกเดียวที่เป็นอดีตคือ was eating

14. He___chips while watching television.
1. would eat
2. eat
3. ate
4. is eating
ตอบ 4 เมื่อเราเห็นคําว่า while (ในขณะที่) กําลังดูโทรทัศน์ แสดงว่าเกิดขึ้นในขณะที่พูด ก็ตอบ Present
Continuous Tense = is eating

15. What a nice man he___!
1. is
2. is being
3. has been eating
4. be
ตอบ 1 หน้า 7 ใช้ Present Simple Tense S + V1) ในประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย เช่น

Here
There
How + adj.         + V1
What + นาม

เช่น
·What a beautiful girl she is!
·How beautiful you are!
-Here comes the bus!
-There goes the bus
ฉะนั้นข้อนี้ ประธาน he ก็ตอบ V1 คือ is

16. It___a lot in winter in Russia.
1. snow
2. is snowing
3.snows
4. will be snowing
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ ประโยคเป็นจริง เช่น It is hot in summer. (ซัมเมอร์ร้อน เป็นจริง ประโยคนี้ก็เช่นกัน มีหิมะเยอะในหน้าหนาวของรัสเซีย ก็เป็นจริงตอบ V1 ก็คือ snows กริยาเอกพจน์

17. We___ married twenty years ago.
1. get
2. got
3. was getting
4. would be getting
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 10. ประกอบ เราเห็นคําบอกเวลา ago (ที่ผ่านมา) ให้ตอบ Past Simple Tense
(S+ V2) = got (get got gotten)

18. I wish I____ Tom’s telephone number.
1. know
2. would know
3. knew
4. have known
ตอบ 3 หน้า 147 เป็นการใช้ wish
1. S + wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S + wished S+ had V3

ให้กริยา wish เป็นกริยาช่องที่ 1 ตอบหลังเป็นกริยาช่องที่ 2 หรือ were จากตัวเลือกตอบกริยา ช่องที่ 2 มาจากกริยา know knew known จึงตอบ knew (V2)

19. The course____ next Sunday.
1. had started
2. has started
3. starts
4. start
ตอบ 3 เมื่อเราเห็นคําบอกเวลาว่า next Sunday เป็นรูปอนาคตปกติเราตอบโครงสร้าง will + V1 = will start แต่ตัวเลือกไม่มี ให้นึกสิ่งที่สามารถตอบแทนอนาคตได้คือปัจจุบันก่อน เช่น
1. Present Simple (V+ V1)
2. Present Continuous Tense S + is/am/are + Ving) และ
3 be (is, am, are) going to + V1 แทนอนาคตได้ ดูจากตัวเลือกมี starts (V1) เอกพจน์ที่ถูกต้อง

20. I____Jim since high school.
1. was knowing
2. know
3. would know
4. have known
ตอบ 4 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิด ติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต ออกสอบทุก เทอม จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็ว ๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลา since (ตั้งแต่) จึงตอบ have known

21. As she___the book, Daniel came.
1. will be reading
2. should read
3. was reading
4. had read
ตอบ 3 หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่กับอดีต ในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1.S + V2 while S + was/were Ving
as
2.S+ was/were Ving while S + was/were Ving
as
3. S + is/am/are +Ving while S + Is/am/are Ving
4.While/As S + was/were Ving, S+ was/were Ving
5.While/AS S + was/were Ving, S + V2

ข้อนี้ตรงกับแบบ 5. was reading

22. In the past, I___a lot of mistakes.
1. will make
2. am making
3. made
4. make
ตอบ 3 มีคําบอกเวลา in the past (ในสมัยก่อน อดีต) จึงตอบ Past Simple Tense = V2 ก็คือ
make made made จึงตอบ made

23. This time last year, I___ in Korea.
1. would have lived
2. have been lived
3. was living
4. will be living
ตอบ 3 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9 p.m. last night ออกทุกเทอม 1-2 ข้อ สําหรับข้อนี้มีคํา บอกเวลา This time last year จึงตอบ was living

24. I___a meeting right now.
1. have been attending
2. attended
3. am attending
4. have attended
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ มีคําบอกเวลา right now ใช้ Present Continuous Tense จึง
ตอบ am attending

25. lit___me fifteen minutes to get to the university.
1. take
2. taking
3. had taken
4. takes
ตอบ 4 ดูตัวเลือกที่ 1 ไม่ถูกเพราะประธานเอกพจน์ถ้าใช้กริยาเอกพจน์ต้องเป็น takes
ตัวเลือกที่ 2 ไม่ ถูกเพราะหลังประธาน ถ้าใช้ Ving = taking ต้องมี verb to be นําหน้าก่อน
ตัวเลือกที่ 3 had taken เป็น Past Perfect Tense จะนิยมใช้กับ 2 เหตุการณ์เท่านั้น
ตัวเลือกที่ 4 ถูกต้องตามรูปประธานเอกพจน์ กริยา takes เอกพจน์

26. If you___to the book store, please____me aw cartoon book.
1. went; buy
2. had gone; would buy
3. go; buy
4. had gone; bought
ตอบ 3 หน้า 124- 130 เป็นการตัด if ออกไป

ดูสูตรการใช้ If มี 4 แบบ
1. If S + V1 , S + V1
2. If S + V1 , S + will V1
3. If S + V2 , S + would/could + V1
4 If S+ had V3 + had V3 , S+ would have V3

การเชื่อม if ตรงกลางก็สลับท่อนหน้าไปหลัง หลังไปหน้าเท่านั้น
1. S + V1 if/unless S + V1.
2. S + will/can V1 if/unless S + V1
3. S + would V1 if/unless S + V2
4. S + would have V3 if/unless S + had V3

ในการจับคู่เรื่อง If ถ้า V1 คู่กับ V1 = go, buy และหลัง please + V1 เสมอ ตัวเลือกที่ 3 จึง ถูกต้อง ถ้าตัวเลือกที่ 1 went ต้องคู่กับ would buy ตัวเลือกที่ 2 และ 4 ถ้า had gone ต้องคู่ กับ would have bought

27. They____to open the door for five minutes when Sarah found her key.
1. are trying
2. would be trying
3. will be trying
4. had been trying
ตอบ 4 สามารถดูได้หลายจุด อันดับแรกแบบง่าย ๆ คือเราเห็นกริยา found (มาจาก find found found) เป็นรูปอดีต แสดงว่าข้างหน้าก็ต้องตอบอดีต และโดยปกติถ้าเราเห็นคําบอกเวลา for (เป็นเวลา) ถ้าเป็นประโยคเดียวเราตอบ Present Perfect Tense S + has/have + V3) แต่ เรามีส่วนหลังเป็นอดีต ข้างหน้าก็ตอบเป็นอดีต เราก็ปรับรูปปัจจุบันให้เป็นอดีต คือ เราตอบ Past Perfect Tense (S+ hadV3) หรือ Past Perfect Continuous Tense (S+ had been +Ving) คู่กับ V2 ข้างหลังได้เลย จึงตอบ had been trying

28. If you mix red and blue, you___purple.
1. get
2. had gotten
3. got
4. would have gotten
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ การเชื่อมด้วย If ให้กริยา mix เป็นกริยาช่องที่ 1 อีกท่อนก็ตอบกริยา ช่องที่ 1 ก็คือ get เราจะไปตอบคู่กับอดีตในตัวเลือก 2, 3 และ 4 ไม่ถูกต้อง

29. Jessica and I___our close friends at this time tomorrow.
1. have visited
2. visited
3. will be visiting
4. visit
ตอบ 3 หน้า 107 ใช้ Future Continuous Tense (S+ will/shall + be +Ving) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่มีช่วงเวลาระบุไว้อย่างแน่ชัด เช่น at this time tomorrow, tomorrow evening, at 10 o’clock tomorrow ฉะนั้นมีคําบอกเวลาที่ระบุเวลา at this time tomorrow จึงตอบ will be visiting

30. They began to run after they___the dog.
1. would see
2. had seen
3. are seeing
4. see
ตอบ 2 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย before วางไว้ต้นประโยค

1.S + had V3 before S + V2
2.S+ had V3 when S + V2
3.S + V2 after S + had V3
4. Before + S +V2 ,S+ had V3
5. After + S +had V3, S + V2
6. When +S+ V2, S + had V3

ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 3

31. Mary _____three miles a day before she broke her leg.
1. had been walking
2. would walk
3. walks
4. is walking
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1 before อยู่กลางประโยค
1. S+ had V3 before S + V2
ตอบ had been walking แทนได้ คู่กับ broke (break broke broken)

32. He___around the world for a month.
1. has been traveling
2. was traveled
3. is being traveled
4. would travel
ตอบ 1 เห็นคําบอกเวลา for a month ตอบ Present Perfect หรือ Present Perfect Continuous Tense (S+ has/have been + Ving) = has been traveling

33. They___with us until they find an apartment.
1. will being stayed
2. had stayed
3. are staying
4. would have stayed
ตอบ 3 หน้า 7 ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นโดยเป็นเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ดูทีละตัวเลือก
ตัวเลือกที่ 1 will + V1 เช่น will be, will stay แต่ will being ตามด้วย Ving ไม่ถูกต้อง
ตัวเลือกที่ 1 และ 4 เป็นรูปอดีต เข้ากับโจทย์ไม่ได้ เพราะเราเห็นกริยา find เป็น V1 ปัจจุบัน ส่วนหน้าก็ต้อง ตอบเป็นปัจจุบันหรือไม่ก็อนาคตได้ ฉะนั้นตัวเลือกที่ 3 are staying เป็น Present Continuous Tense
จึงตอบแทนได้

34. Barbara___her report by noon.
1. will finish
2. will have finished
3. finishes
4. is going to be finish
ตอบ 2 หน้า 112 Future Perfect Tense (S+ will/shall + have V3) Future Perfect Continuous Tense (S+ will/shall + have been Ving) กับคำบอกเวลาที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า”by” (ประมาณราวๆ) เช่น by next year, by the end of this year, by tomorrow, by that time, by the end of this month, by noon เป็นต้น ฉะนั้นเราเห็น by noon จึงตอบ will have finished

35. They___here for years.
1. would live
2. have lived
3. have being lived
4. was lived
ตอบ 2 เราเห็นคำบอกเวลา for years ตอบ Present Perfect (S + has/have + V3) = have lived หรือไม่ก็ตอบ Present Perfect Continuous Tense = have been living แต่ตัวเลือกที่ 3 หลัง have
มี being เป็น Ving เลยไม่ถูกต้อง

36. You will be safe if you___carefully.
1. drive
2. will drive
3. would have driven
4. had driven
ตอบ 1 if อยู่กลางประโยค

2. S + will V1 if/unless S + V1

ให้มา will be ตอบ drive

37. He___a meal when she came to his house.
1. will have cooked
2. cooks
3. had been cooking
4. has cooked
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เป็นการเชื่อมด้วย when 2 เหตุการณ์ ให้มาส่วนหลังกริยาช่องที่ 2 = came และเป็นอดีต ฉะนั้นเราเดาว่าส่วนหน้าก็ต้องตอบรูปอดีต จะเห็นตัวเลือกมีอดีตอันเดียวคือ had been cooking เป็น Past Continuous Tense

1.S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบที่ 3 ตอบ had been cooking

38. Something smells good. What___you___?
1. are; cooking
2. had; cooked
3. will; cook
4. were; cooking
ตอบ 1 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are + Ving) กับประโยคที่เกิดขึ้นในขณะที่พูด โดยเราสังเกตว่ามีกริยาช่องที่ 1 คือ smells ที่โจทย์ ฉะนั้นส่วนหลังก็ต้องเป็นปัจจุบันไปด้วย ตัวเลือกที่ 1 เป็น ปัจจุบัน จึงถูกต้อง ตัวเลือกที่ 2 และ 4 เป็นอดีต ผิดไปตัวเลือกที่ 3 เป็นอนาคตก็ผิดไป

39. Paula___by 9 o’clock.
1. arrived
2. arrives
3. will have arrived
4. will arrive
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ เห็น by 9 o’clock ตอบ Future Perfect ทันที = will have
arrived

40. My mom___for three hours.
1. has been cooking
2. cooks
3. will be cooking
4. cooked
ตอบ 1 เห็นคําบอกเวลา for ….. ตอบ Present Perfect หรือ Present Perfect Continuous Tense (S+ has/have been + Ving) = has been cooking

41. Alice____a nurse soon.
1. will be
2. has been
3. is
4. was
ตอบ 1 ใช้ Future Simple Tense S + will/shall + V1) กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น next + เวลา เช่น next month, next Sunday, tomorrow (พรุ่งนี้), soon (ในไม่ช้า), in + ช่วงเวลา เช่น in five minutes (ใน 5 นาที) เป็นต้น ฉะนั้นข้อนี้มี Soon จึงตอบ will be

42. Unless it ____,we will have a picnic.
1. rained
2. had rained
3. will rain
4. rains
ตอบ 4 ข้อนี้ขึ้นต้นด้วย Unless การใช้กริยาเหมือนกับการใช้ If แต่ความหมายไม่เหมือน Unless มี
ความหมายเท่ากับ If ….. not ดูสูตร
1. If/Unless S + V1, S + V1
2. If/Unless S + V1, S+ will V1
3. If/Unless S+ V2, S + would/could + V1
4 If/Unless S+ had V3, S+ would have V3

ตรงกับสูตรที่ 2 ให้มาแล้วคือ will have ฉะนั้นข้างหน้าตอบกริยาช่องที่ 1 คือ rains

43. She____ in Bangkok since she left school.
1. was lived
2. had being lived
3. has been living
4. will be lived
ตอบ 3 มีคําบอกเวลาคือ since ….. หลัง since ใช้รูปอดีตเพราะมีความหมายว่าตั้งแต่….. ส่วนหน้า ยังคงตอบเหมือนกับ for จําให้ดี ๆ คําบอกเวลา for / since ออกทุกเทอม ข้างหน้าให้ตอบ Present Perfect Tense S + has/have +V3) หรือ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been +Ving) ตัวเลือกที่ถูกโครงสร้างก็คือ has been living

44. By the end of this week, Bob ___in Bangkok for 10 years.
1. is living
2. will live
3. lives
4. will have been living
ตอบ 4 เห็นคําว่า by ….. เหมือนข้อ 34 หรือข้อ 39 ตอบ Future Perfect Tense S + will/shali have V3) ไม่มีให้ตอบ Future Perfect Continuous Tense S + will/shall have been Ving) ตรง กับตัวเลือกที่ 4 = will have been living

45. George isn’t at school. I think he___to the theater.
1. will go
2. went
3. has gone
4. will have gone
ตอบ 1 ประโยคส่วนหน้าให้มาเป็นปัจจุบันกริยาช่องที่ 1 คือ isn’t ส่วนหลังก็ต้องตอบเป็นปัจจุบันหรือไม่ก็ อนาคต เราเห็นคําว่า think (คิด) แสดงความตั้งใจว่า คิดว่าจะ… จึงตอบอนาคต will go ในตัวเลือกที่ 2 เป็น อดีต ผิดไปตัวเลือกที่ 3 เป็น Present Perfect มักใช้กับโจทย์ที่มี for, since เป็นต้น และตัวเลือกที่ 4 มัก ใช้กับโจทย์ที่มี by

47. My friend___next Friday.
1. retired
2. will retire
3. has retired
4. retires
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 41. ประกอบ มีคําบอกเวลา next Friday จึงตอบ Future Simple Tense
= will retire

48. Jane and I___at the library tomorrow afternoon.
1. have studied
2. will be studying
3. studied
4. study
ตอบ ดูคําอธิบายข้อ 29. ประกอบ มีคําบอกเวลา tomorrow afternoon จึงตอบ Future
Continuous Tense = will be studying

49. The policeman said he___through a red light.
1. had driven
2. drive
3. drives
4. would be driving
ตอบ 1 หน้า 86 ใช้ Past Perfect Tense ในประโยค Reported Speech ก็คือประโยคที่มีคําว่า said หรือ thought ก็ได้ เพื่อแสดงว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก่อนเวลาที่พูดหรือรายงาน เทียบตัวอย่างนะ
-She said she had posted the letter on Monday.
(เธอพูดว่า เธอส่งจดหมายไปแล้วเมื่อวันจันทร์)
– I thought I had bought a new film, but I couldn’t find it.
(ฉันคิดว่าฉันซื้อหนังสือเรื่องใหม่มา แต่ฉันหาไม่พบ)
ข้อนี้เช่นกันคือมี said ตอบหลัง had V3 = had driven

50. If I___you, I would go to see a doctor.
1. was
2. will be
3. were
4. had been
ตอบ 3 สูตรการใช้ if แบบที่ 3
3. If/Unless S+ V2, S+ would/could + V1
นั่นคือ ส่วนหลังให้มาแล้วคือ would go ส่วนหน้าตอบกริยา V2 ในที่นี้ต้องเป็น were เพราะ If (ถ้าหากว่า) เป็นการสมมติ ไม่ใช้ was ต้องเป็น were ในกลุ่มสมมติเช่น if, as iftlas though และ wish ที่นิยมออก

51. My car___two weeks ago.
1. was painted
2. paints
3. had been painted
4. painted
ตอบ 4 เราเห็นคําบอกเวลาอดีต คําว่า two weeks ago (2 สัปดาห์ที่แล้ว) ใช้ Past Simple Tense (S+ V2) = painted

52. It is___that ten people were killed in the shooting at the bar.
1. reported
2. reporting
3. to report
4. reports
ตอบ 1 หน้า 156 เป็นรูป passive reporting verbs ในรูปแบบของกริยารายงานข่าวในประโยคดังนี้

ยังมีกริยาตัวอื่นอีกเช่น suppose, assume, consider, claim, think, believe, report, know, expect, allege, understand เป็นต้น ดูตัวอย่าง
– It is reported that ten people were killed. (มีรายงานว่าคน 10 คนถูกฆ่าตาย)
– It is believed that the thieves got in through the kitchen window.
– It is said that she works 16 hours a day. (กล่าวกันว่าเธอทำงานวันละ 16 ชั่วโมง)

53. It is necessary that you___ out this form before the interview.
1. is filling
2. fill
3. filled
4. had filled
ตอบ 2 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เติม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be

S + is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent
It is necessary that ตอบ fill (V1)

54. When will Jack have this project____?
1. be completing
2. completed
3. to complete
4. completes

ตอบ 2 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 2-3 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ getgot ให้ + V3 ดูสูตร

S + has/have/had + สิ่งของ + V3
หรือ S + get/got + สิ่งของ + V3 ได้เลย

จากโจทย์ have + this project (โครงการ) เป็นสิ่งของ จึงตอบตามด้วยกริยาช่องที่ 3 =completed

55. Let’s dance,____?
1. are we
2. could we
3. shall we
4. did we
ตอบ 3 หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม เราเห็นประโยคให้มีกริยาช่วย will ตอบ tag เป็น won’t รูปย่อ และคํานาม Dan ชื่อเพศชายตอบ tag เป็น he รวมกัน won’t he ตัวอย่างอื่นเช่น
-Jane will be here soon, won’t she?
-There was a lot of rain, wasn’t there?
-Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
-Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
-Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you
สําหรับข้อนี้ขึ้นต้นด้วย Let’s จึงตอบส่วนหางว่า shall we

56. Olive has had her bedroom____.
1. to decorate
2. decorate
3. be decorating
4. decorated
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 54. ประกอบ กริยา had + สิ่งของ (her bedroom) ตอบตามด้วยกริยาช่องที่ 3
นั่นคือ decorated

57. I suggest you____some alcohol gel with you.
1. are taking
2. will take
3. have taken
4. take
ตอบ 4 เป็นกลุ่มกริยายกเว้น ให้ตอบหลังประธานเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันก็คือไม่เดิมท้ายอะไรเลย

S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน

58. John said to me, “Are you busy?”
John asked me____.
1. why you were busy
2. that I was busy
3. if you were busy
4. if I was busy
ตอบ 4 หน้า 197 เป็นเรื่องการทํา Direct Speech (ประโยคคําพูด) ให้กลายเป็น Indirect Speech (ประโยครายงานหรือนํามาพูดเล่าอีกที) เราต้องดูว่าเดิมเป็นประโยคประเภทไหน จะเห็นว่าเดิมมาจาก ประโยคคําถาม เรามีหลักคือเปลี่ยนกริยา said ให้เป็น asked (ถาม) โจทย์ให้มาแล้ว และเชื่อมต่อโดยดูว่าเป็นประโยคคําถามประเภท Are you… เรียกว่า Yes/No Question จะต้องเปลี่ยนให้ใช้ if หรือ whether (หรือไม่) ฉะนั้น if ถูกต้องเหลือตัวเลือก 3 และ 4 ประโยคคําถามถาม You ก็คือ me เราก็เปลี่ยนเป็นรูปประธานคือ 1 และกริยาต้องเปลี่ยน Tense เป็นกริยาช่องที่ 2 เพราะผ่านไปแล้ว จึงตอบ I was

59. I recommend that she____to the mail on a weekday.
1. go
2. had gone
3. are going
4. have gone
ตอบ 1 ดูคําอธิบาข้อ 57. ประกอบ กริยายกเว้น recommend that ก็ตอบหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน
นั่นคือ go

60. If Alex___time, he would hand out with friends.
1. has
2. had had
3. will have
4. had
ตอบ 4 สูตรการใช้ If แบบที่ 3

3. If S + V2, S + would/could + V1

61. Long___the King.
1. will live
2. lived
3. live
4. would live
ตอบ 3 ขึ้นต้นด้วย God หรือ Long ตอบกริยาช่องที่1 ไม่ผันก็คือ live

62.___are you late?
1. Whose
2. Who
3. Which
4. Why
ตอบ 4 หน้า 166 เป็นประโยคคําถาม Wh-questions แบบนี้ออกสอบทุกเทอม 2 – 3 ข้อ
1. Who/ What/ Which + (คํานาม) + กริยา เช่น
-Who saw him?
-Which bus goes to town?
-What happened to you last night?

2. Whom/What Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คํานาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
-What did he buy yesterday?
-Which job have you applied for?

3. Whose + คํานาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
-Whose book are you reading?
-Why did he go home?
-When will you do?
-Where do you come from?
How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับระดับต่าง ๆ เช่น -How old is she?
ข้อนี้ ใช้ Why are you late? (ทําไมมาสาย?)

63. Due to the storm the tennis matches___last night.
1. were canceled
2. canceled
3. had been canceled
4. will cancel
ตอบ 1 เป็นเรื่อง Passive Construction การทําให้เป็นรูปถูกกระทํา โดยสังเกตจากประธานมักเป็น สิ่งของ สิ่งไม่มีชีวิต บางประโยคส่วนหลังอาจมีคําบอกใบ้เช่น by (โดย) ด้วย อย่างข้อนี้ประธานคือ the tennis matches (การแข่งขันเทนนิส) ถูกยกเลิก และเห็น last night นั่นคือมาจาก V2 แต่ทําโครงสร้างเป็นถูกกระทําต้องใช้ verb to be + V3 นั่นคือ were canceled

64. I wish I____a professional football player.
1. have been
2. were
3. was
4. is
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 18. ประกอบ เรื่อง wish เป็นกริยาช่องที่ 1 ตอบหลังกริยาช่องที่ 2 และ wish (ปรารถนา) ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเป็นการสมมติเหมือนที่อธิบายข้อ 50. ต้องใช้ were (V2) เสมอ

65. Alice said to me, “Why do you say that?”
Alice asked me____.
1. why I said that
2. where I said that
3. if I said that
4. that I said that
ตอบ : ดูคําอธิบายข้อ 58. ประกอบ เป็นเรื่อง indirect speech เป็นประโยคคําถามประเภท Wh-question นั่นคือมี why ก็เอาคํานี้มาต่อเลย และกริยากับสรรพนามเปลี่ยนจาก you เป็น และกริยาช่องที่ 1 เปลี่ยนเป็นอดีตกริยาช่องที่ 2 คือ said

66. Evan’s car got____.
1. to have stolen
2. steal
3. stolen
4. be stolen
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 54. ประกอบ กริยา got/get + V3 ออกทุกเทอม จึงตอบ stolen (มาจาก
steal stole stolen)

67.____is your favorite cartoon book?
1. Who
2. When
3. What
4. Where
ตอบ 3 ดูคําอธิบาย 62. ประกอบ คําถามตอบ What ถามถึงสิ่งของว่าอะไร
– What is your favorite cartoon book? (หนังสือการ์ตูนที่โปรดคืออะไร?)

68. Bambam said, “I can stay here with you.”
Bambam said that he____stay there with me.
1. may
2. could
3. must
4. will
ตอบ 2 เป็นเรื่อง indirect speech ที่มาจากประโยคบอกเล่า เราเชื่อมด้วย that และสรรพนามเปลี่ยน มาเป็น he เพราะแทน Bambam เพศชาย ส่วนกริยาให้เราตอบ เราก็ดูว่าให้มาเป็น can เราตอบเป็นกริยา ช่องที่ 2 นั่นคือตอบ could

69. It is important that Jenny___the seminar.
1. attend
2. attends
3. will attend
4. attended
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 53. ประกอบ It is important that ตอบหลังกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน = attend

70. She smiles as if she___happy.
1. was being
2. were
3. is being
4. will be
ตอบ 2 หน้า 138 – 139 เป็นเรื่อง as if/ as though

1. S + V1 as if/as though S + V2
2. S + V2 as if/as though S + hadV3

71. Turn the light off, ___?
1. aren’t you
2. don’t you
3. are you
4. will you
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 55. ประกอบ เรื่องส่วนหาง (tag) ให้ขึ้นมาเป็นกริยาช่องที่ 1 (Turn off = ปิค) ตอบส่วนหางคงที่คือ will you

72. If Angela had saved enough money, she ____a new phone.
1. would have bought
2. will buy
3. buys
4. would buy
ตอบ 1 If อยู่ต้นประโยค ตรงกับสูตรที่ 4

4 If S+ had V3, S + would have V3

73. You are Emmie,____?
1. are you
2. aren’t you
3. are they
4. aren’t they
ตอบ 2 เรื่องส่วนหาง (tag) ให้มา You are ต้องทําเป็นปฏิเสธรูปย่อคือ aren’t และสรรพนามให้ You ตอบสรรพนาม you เดิม รวมกันตอบตัวเลือกที่ 2 aren’t you

74. Susan said, “I’m driving.”
Susan said that she____.
1. had been driving
2. had driven
3. drove
4. was driving
กอบ 4 เป็นเรื่อง indirect speech มาจากประโยคบอกเล่า เชื่อมด้วย that และ ก็คือ Susan เป็นคนพูดเป็นเพศหญิงจึงใช้ she ให้เราตอบกริยา am driving ก็เปลี่ยนมาเป็นช่องที่ 2 อดีตคือ was driving ไป

75. Daniel said to me, “What will you do next month?”
Daniel asked me what I would do____.
1. the following week
2. previously
3. the following month
4. the previous month
ตอบ 3 หน้า 185-186 เป็น indirect question มีตัวเชื่อม what และกริยา would ให้แล้ว ต่อไป ก็เปลี่ยนคําที่แสดงความใกล้เป็นคําที่แสดงความไกล ดังนี้

คําว่า next month (เดือนหน้า) เปลี่ยนเป็น the following month (เดือนต่อไป ถัดไป)

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions : Choose the best answer.

76. I____my hand to ask a question.
1. originated
2. raised
3. lowered
4. respected
ถาม ฉันยกมือขึ้นเพื่อถามคําถาม
ตอบ 2 บทที่ 1 1. ก่อเกิด 2. ยกให้สูงขึ้น 3. ทําให้ต่ำ 4. เป็นที่เคารพนับถือ

77. Mary____him every morning as he enters the school building.
1. collects
2. concerns
3. greets
4. emphasizes
ถาม แมรี่ทักทายเขาทุกเช้าในขณะที่เขาเข้าไปในอาคารเรียน
ตอบ 3 บทที่ 1 1. เก็บสะสม 2. เกี่ยวข้อง 3. ทักทาย 4. เน้นย้ำ

78.____for imported cars is increasing because of lower prices.
1. Recycle
2. Provide
3. Propagate
4. Demand
ถาม ความต้องการรถนําเข้ากําลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาถูกลง
ตอบ 4 บทที่ 3 1. ผ่านกรรมวิธีเพื่อกลับมาใช้ใหม่ 2. จัดหาให้ 3. ขยายพันธุ์ 4. ความต้องการ

79. French is her____language.
1. native
2. inherited
3. severed
4. damage
ถาม ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาพื้นเมืองของเธอ
ตอบ 1 บทที 5. 1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. ได้รับมรดก 3. ขาดกระเด็น 4. ทําให้เสียหาย

80. He was arrested and charged with ____.
1. result
2. level
3. murder
4. press
ถาม เขาถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม
ตอบ 3 บทที่ 5 1. ผลที่ตามมา 2. ระดับ 3. การฆาตกรรม 4. กด บีบ

81. The flowers of some plants are edible.
1. traditional
2. bereaved
3. eatable
4. related
ถาม ดอกของพืชบางชนิดสามารถรับประทานได้
ตอบ 3 บทที่ 4
1. ธรรมเนียม ประเพณี 2. ทําให้สูญเสียไป 3. รับประทานได้ 4. เกี่ยวข้อง edible = eatable = รับประทานได้

82. Camels are very useful____for transporting goods across the desert.
1. process
2. attitude
3. filesh
4. beasts
ถาม อูฐเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์มากในการขนส่งสินค้าข้ามทะเลทราย
ตอบ 4 บทที่ 5 1. ขบวนการ 2. ทัศนคติ 3. เนื้อ (สัตว์) 4. สัตว์โลก

83. Our school has a____library.
1. boon
2. variation
3. huge
4. genetic
ถาม โรงเรียนของเรามีห้องสมุดที่ใหญ่
ตอบ 3 บทที่ 5 1. ข้อดี 2. ความหลากหลาย 3. ใหญ่โต ขนาดใหญ่ 4. เกี่ยวกับพันธุกรรม

84. She feeds her dog a meat-free
1. claim
2. evidence
3. diet
4. capture
ถาม เธอให้อาหารสุนัขแบบไม่มีเนื้อสัตว์
ตอบ 3 บทที่ 4 1. กล่าวอ้าง 2. หลักฐาน 3. อาหาร 4. จับ

85. The company is notorious for paying its bills late.
1. impossible
2. public
3. serious
4. infamous
ถาม บริษัทมีชื่อเสียงในด้านไม่ดีกับการชําระค่าใช้จ่ายล่าช้า
ตอบ 4 บทที่ 2 1. เป็นไปไม่ได้ 2. สาธารณะ ส่วนรวม 3. ร้ายแรง 4. มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี
notorious = infamous · = มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี

86. There is an apple___behind the house.
1. orchard
2. ancestor
3. association
4. experiment
ถาม มีสวนผลไม้แอปเปิ้ลอยู่หลังบ้าน
ตอบ 1 บทที่ 4 1. สวนผลไม้ 2. บรรพบุรุษ 3. สมาคม 4. ทดลอง

87. New dresses were____in the store window.
1. gazed
2. displayed
3. enlarged
4. begun
ถาม ชุดใหม่ถูกแสดงโชว์ในตู้กระจกร้าน
ตอบ 2 บทที่ 10 1. จ้องมอง 2. แสดงให้เห็น โชว์ 3. ทําให้ใหญ่ขึ้น 4. เริ่ม

88.____your drink with a lemon or orange peel.
1. Continue
2. Tip off
3. Connect
4. Garnish
ถาม ตกแต่งเครื่องดื่มด้วยมะนาวหรือเปลือกส้ม
ตอบ 4. บทที่ 4 1. ดําเนินต่อไป 2. บอกให้ทราบ 3. เชื่อมต่อ
4. สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร

89. Are we doing enough to protect the____?
1. pollinating
2. environment
3. mutation
4. nutrition
ถาม เรากําลังทําเพียงพอที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมกันแล้วหรือยัง
ตอบ 2 บทที่ 3 1. ผสมเกสรดอกไม้ 2. สิ่งแวดล้อม 3. การกลายพันธุ์ 4. สารอาหาร

90. He became one of the most___leaders in the world.
1. immediate
2. plentiful
3. popular
4. model
ถาม เขากลายเป็นหนึ่งในผู้นําที่โด่งดังมากที่สุดในโลก
ตอบ 3 บทที่ 2 1. ทันทีทันใด 2. มากมาย 3. แพร่หลาย 4. นายแบบ/นางแบบ

91. She has been a/an___on Entertainment Tonight.
1. exhibition
2. equal
3. figure
4. reporter
ถาม เขากลายมาเป็นบุคคลสําคัญคนหนึ่งในรายการ Entertainment Tonight.
ตอบ 3 บทที่ 2 1. การแสดงสินค้า 2. เท่ากัน 3. บุคคลสําคัญ 4. ผู้สื่อข่าว

92. People wear ____to prevent getting a disease.
1. masks
2. treatment
3. control
4. appliance

ถาม ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการได้รับเชื้อ
ตอบ 1 บทที่ 2 1. หน้ากาก 2. การรักษา 3. ควบคุม 4. เครื่องมือเครื่องใช้

93. In general, ___prefer quantity to quality.
1. ancestors
2. expeditions
3. consumers
4. vehicles
ถาม โดยทั่วไป ผู้บริโภคชอบปริมาณมากกว่าคุณภาพ
ตอบ 3 บทที่ 3 1. บรรพบุรุษ 2. การเดินทาง 3. ผู้บริโภค 4. ยานพาหนะ

94. You must___your manners.
1. press
2. touch
3. refine
4. return
ถาม คุณต้องขัดเกลากิริยามารยาทของคุณ
ตอบ 3 บทที 1 1. กด บีบ 2. แตะ 3. ทําให้สละสลวย ขัดเกลา 4. คืน กลับคืน

95. A black cloud seemed to___the earth.
1. advertise
2. cover
3. concern
4. recycle
ถาม เมฆดำดูเหมือนจะปกคลุมโลก
ตอบ 2 บทที่ 5 1. โฆษณา 2. ปกคลุม 3. เกี่ยวข้อง 4. ผ่านกรรมวิธีกลับมาใช้ใหม่ได้

96. One plus two____three.
1. contains
2. satisfies
3. specifies
4. equals
ถาม หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม
ตอบ 4 บทที่ 1 1. ประกอบด้วย มี 2. ทําให้พอใจ 3. เจาะจง 4. เท่ากับ

97. This factory___automobile parts.
1. manufactures
2. appears
3. celebrates
4. donates
ถาม โรงงานนี้ผลิตอะไหล่เครื่องยนต์
ตอบ 1 บทที่ 3 1. ผลิต ทํา 2. ปรากฏออกมา 3. ฉลอง 4. อุทิศ

98. The child was rescued from a burning house.
1. saved
2. automatic
3. scarce
4. affected
ถาม เด็กได้รับการช่วยเหลือจากบ้านที่ไฟไหม้
ตอบ 1 บทที่ 2 1. ช่วยเหลือจากอันตราย 2. อัตโนมัติ 3. หายาก 4. มีผลต่อ
rescued = saved = ช่วยเหลือจากอันตราย

99. Tom had a job___this morning.
1. Convention
2. seniority
3. check
4. interview
ถาม ทอมมีสัมภาษณ์งานเช้านี้
ตอบ 4 บทที่ 9 1. ธรรมเนียม 2. ความเป็นอาวุโส 3. ตรวจสอบ 4. สัมภาษณ์

100. How long do scars take to____?
1. devoted
2. fetch
3. heal
4. enlarge
ถาม รอยแผลเป็นใช้เวลารักษานานแค่ไหน
ตอบ 3 บทที่ 9 1. อุทิศ 2. รับ ไปเอามา 3. รักษา เยียวยา 4. ทําให้ใหญ่ขึ้น

101. Stress can affect both your physical and___health.
1. edible
2. pleased
3. quick
4. mental
ถาม ความเครียดสามารถมีผลต่อทั้งสุขภาพทางกายและทางจิตใจ
ตอบ 4 บทที่ 11 1. สามารถรับประทานได้ 2. ทําให้พอใจ 3. รวดเร็ว 4. เกี่ยวกับจิตใจ

102. Many plants can___ in cold conditions.
1. forgive
2. survive
3. emphasize
4. check
ถาม พืชหลายชนิดสามารถอยู่รอดได้ในสภาพอากาศหนาวเย็น
ตอบ 2 บทที่ 11 1. ยกโทษ ให้อภัย 2. รอดชีวิต 3. เน้นย้ำ 4. ตรวจสอบ

103. The main symptom of the___is a high temperature.
1. gift
2. disease
3. container
4. collection
ถาม อาการหลักของโรคคืออุณหภูมิสูง
ตอบ 2 บทที่ 7 1. พรสวรรค์ 2. เชื้อ เชื้อโรค 3. สิ่งที่ใช้บรรจุของ 4. ของสะสม

104. Please___your belongings before leaving.
1. check
2. fetch
3. reflect
4. pollinates
ถาม กรุณาตรวจสอบสิ่งของ ๆ ท่านก่อนลุกจากที่นั่ง
ตอบ 1 บทที่ 12 1. ตรวจสอบ 2. รับ 3. สะท้อน 4. ผสมเกสรดอกไม้

105. Did you see which___they went?
1. Intimacy
2. treatment
3. fragment
4. direction
ถาม คุณเห็นไหมว่าพวกเขาไปทางไหน
ตอบ 4 บทที่ 8 1. ความใกล้ชิด 2. การรักษา 3. ชิ้นส่วน 4. ทิศทาง

106. My son was the school’s most___student in 2021.
1. plentiful
2. impossible
3. outstanding
4. genetic
ถาม ลูกชายของฉันเป็นนักเรียนที่โดดเด่นมากที่สุดของโรงเรียนในปี 2564
ตอบ 3 บทที่ 12 1. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 2. เป็นไปไม่ได้ 3. เด่น สําคัญ 4. เกี่ยวกับพันธุกรรม

107. It’s a disease that___mainly young people.
1. affects
2. appears
3. advertises
4. uses
ถาม มันเป็นโรคที่มีผลต่อคนหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่
ตอบ 1 บทที่ 7 7 1. มีผลต่อ 2. ปรากฏให้เห็น 3. โฆษณา 4. ใช้ประโยชน์

108. After the tornado, all of my friends were ___but some of them lost their house.
1. impossible
2. popular
3. successful
4. safe
ถาม หลังจากพายุทอร์นาโด เพื่อน ๆ ของฉันทุกคนปลอดภัย แต่บางคนก็สูญเสียบ้านไป
ตอบ 4 บทที่ 7 1. เป็นไปไม่ได้ 2. แพร่หลาย 3. ประสบความสําเร็จ 4. ปลอดภัย

109. Daniel____his energies to writing films.
1. devoted
2. construed
3. classified
4. polluted
ถาม แดเนียลทุ่มเทพลังให้กับการเขียนภาพยนตร์
ตอบ 1 บทที่ 9 1. อุทิศตน 2. อธิบาย ตีความ 3. จัดหมวดหมู่ 4. ทําให้เกิดมลพิษ

110. I’m really____ with your research this semester.
1. pleased
2. useful
3. clever
4. outstanding
ถาม ฉันรู้สึกพอใจกับงานวิจัยของคุณในภาคการศึกษานี้
ตอบ 1 บทที่ 12 1. รู้สึกพอใจ ถูกใจ 2. เป็นประโยชน์ 3. ฉลาด 4. เด่น สําคัญ

111. The film’s plot was so___ that I couldn’t follow it.
1. impossible
2. necessary
3. complex
4. various
ถาม การดําเนินเรื่องของภาพยนตร์นี้เป็นที่ซับซ้อนมากจนกระทั่งฉันตามไม่ทัน
ตอบ 3 บทที่ 11 1. เป็นไปไม่ได้ 2. จําเป็น 3. ซับซ้อน 4. หลากหลาย ต่าง ๆ นาๆ

112. It is difficult to predict what will___ next week.
1. shake
2. report
3. happen
4. classify
ถาม มันยากที่จะทํานายสิ่งที่จะเกิดขึ้นสัปดาห์หน้า
ตอบ 3 บทที่ 8 1. สั่น เขย่า 2. รายงาน 3. เกิดขึ้น 4. จัดหมวดหมู่

113. Suicides among young people continue to be a___problem.
1. excellent
2. serious
3. native
4. appropriate
ถาม การฆ่าตัวตายของคนหนุ่มสาวยังคงเป็นปัญหาร้ายแรง
ตอบ 2 บทที่ 9 1. ยอดเยี่ยม 2. จริงจัง ร้ายแรง 3. เกี่ยวกับพื้นเมือง 4. เหมาะสม

114. I have a very good____ with my friends.
1. ancestor
2. victim
3. relationship
4. interview
ถาม ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับเพื่อนของฉัน
ตอบ 3 บทที่ 11 1. บรรพบุรุษ 2. เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย 3. ความสัมพันธ์ 4. สัมภาษณ์

115. This video clip demonstrates the software very____.
1. effectively
2. actually
3. nutritionally
4. automatically
ถาม คลิปวีดีโอสาธิตซอฟต์แวร์อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ตอบ 1 บทที่ 3 1. อย่างมีประสิทธิภาพ 2. อย่างแท้จริง 3. อย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ 4. อย่างอัตโนมัติ

116. The weather could be a crucial___in tomorrow’s game.
1. factor
2. consumer
3. vehicle
4. artist
ถาม สภาพอากาศอาจเป็นปัจจัยสําคัญในเกมวันพรุ่งนี้
ตอบ 1 บทที่ 10 1. ปัจจัย 2. ผู้บริโภค 3. ยานพาหนะ 4. จิตรกร ศิลปิน

117. Face masks were___last year.
1. abominable
2. scarce
3. quick
4. native
ถาม หน้ากากอนามัยหายากเมื่อปีที่แล้ว
ตอบ 2 บทที่ 7 1. น่ารังเกียจ 2. หายาก ขาดแคลน 3. รวดเร็ว 4. เกี่ยวกับพื้นเมือง

118. The foundation was___in 1988.
1. gazed
2. pollinated
3. nodded
4. established

ถาม มูลนิธิก่อตั้งขึ้นในปี 1988
ตอบ 4 บทที่ 10 1. จ้องมอง 2. ผสมเกสรดอกไม้ 3. พยักหน้า 4. ก่อตั้ง เริ่ม

119. Do you know how to___ this mobile phone?
1. overlook
2. forgive
3. use
4. reflect
ถาม คุณรู้วิธีการใช้โทรศัพท์มือถือนี้หรือไม่
ตอบ 3 1. มองข้าม มองไม่เห็น 2. ยกโทษ ให้อภัย 3. ใช้ 4. สะท้อนให้เห็น

120. People want to pass on their money to the next___ when they die.
1. appliance
2. interview
3. generation
4. bystander
ถาม ผู้คนต้องการส่งต่อเงินของพวกเขาให้กับคนรุ่นต่อไปเมื่อพวกเขาตาย
ตอบ 3 บทที่ 10 1. เครื่องมือเครื่องใช้ 2. สัมภาษณ์ 3. รุ่น 4. คนเดินผ่านไปมา

ENG1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป 1/2564

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2564
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.

1.She____to her friend, but she wasn’t looking at her.
1. had waved
2. wave
3. waved
4. was waved
ตอบ 3 หน้า 24-25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบสิ้นไป แล้วในอดีต เป็นการเล่าอดีต หรือเราเดาได้จากกริยา was ว่าเป็นกริยาช่องที่ 2 อดีต แสดงว่าส่วนหน้าก็ตอบเป็นอดีตด้วยนั่นคือ V2 = waved

2.The teenagers____until 2 o’clock last night.
1. have danced
2. danced
3. were dancing
4. are dancing
ตอบ 2 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วใน อดีตหรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต,
in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอกเวลาว่า until 2 o’clock last night (จนกระทั่งที่ 2 เมื่อคืนนี้ เป็นการเล่าอดีต จึงตอบ V2 = danced

3.The situation will be better if the two parties____ talking.
1. started
2. have started
3. start
4. will start
ตอบ 3 หน้า 124- 130 เป็นการตัด if ออกไป การใช้ f มี 4 แบบ

1. If S + V1, S + V1
2. If S + V1, S + will V1
3. If S + V2, S + would/could + V1
4 If S + had V3, S + would have V3

การเชื่อม if ตรงกลางก็สลับท่อนหน้าไปหลัง หลังไปหน้าเท่านั้น

1 2 3
1. S + V1 if/unless S + V1
2. S + will/can V1 if/unless S + V1
3. S + would V1 if/unless S + V2
4. S + would have V3 if/unless S + had V3
ตรงกับสูตร 2. โดยวาง if ไว้กลางประโยค เราเห็นส่วนหน้ามี will be จึงตอบส่วนหนัง start

4.This time last week, she____in Hong Kong.
1. shops
2. was shopping
3. shopped
4. had shopped
ตอบ 2 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น มักมีคําบอกเวลา (at) this time last year, at 9 p.m. last night

ข้อนี้มีคําบอกเวลา This time last week (เวลานี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว) จึงตอบ was
shopping

5.She____ready to go to school when her teacher called to cancel the class.
1. get
2. got
3. has got
4. was getting
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense) แบบนี้ให้ตอบทุกเทอม ดูสูตร

1. S + V2+ when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2

ตรงแบบที่ 2 ตอบ was getting called

6.The orchestra____when the lights went off.
1. would play
2. was playing
3. playing
4. being played
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 5. ประกอบ ลักษณะเดียวกันคือ เราเห็น went เป็น V2 (Past Simple Tense) ข้างหน้าตอบ Past Continuous Tense = was playing เป็น 2 เหตุการณ์

7.I have lived in Bangkok since I____ born.
1. be
2. were
3. is
4. was
ตอบ 4 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิด ติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต บอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็วๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลา since (ตั้งแต่) ส่วนหน้ามี have lived แล้ว สําหรับ since หมายถึง ตั้งแต่นับจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน จึงตามด้วยอดีตคือ V2 = was คือ since I was born ตั้งแต่ฉันเกิด นั่นคือ Present Perfect Tense + since + S + V2

8.What___you___at 10 o’clock last night?
1. were; doing
2. is; doing
3. will; do
4. would; done
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ เรามีคําบอกเวลาคือ at 10 o’clock last night ระบุเวลาที่แน่ชัดใน อดีต จึงตอบ Past Continuous Tense = were you doing ในรูปประโยคคําถาม

9.I____while my sister was washing the dishes.
1. was cooking
2. am cooking
3. have cooked
4. will cook
ตอบ หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่
กับอดีต

1. S + V2 while S + was/were Ving
as
2. S + was/were Ving while S+ was/were Ving
as

3. S + is/am/are +Ving. While S + was/were Ving

4. while S + is/am/are Ving, S + was/were Ving

ข้อนี้ตรงกับ 2. was cooking
was washing แสดง 2 เหตุการณ์
ที่เกิดพร้อมกันฉันทําอาหารขณะที่พี่สาวล้างจาน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน

10. Look out of the window. The sun____to shine pretty soon.
1. have
2. would be
3. is going
4. will be
ตอบ 3 หน้า 39. ใช้ Present Continuous Tense S + is, am, are + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่ กําลังเกิดขึ้นขณะที่พูด ซึ่งมักจะขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่ 1 เป็นการพูดในขณะนั้น เช่นข้อนี้ ดูนอก หน้าต่าง พระอาทิตย์….. (กําลังจะส่องแสงในไม่ช้า) แสดงเหตุการณ์กําลังเกิดขึ้นจึงใช้ is going

11. When I had finished my term paper, I____ it in to my professor.
1. had handed
2. handed
3. hand
4. was handing
ตอบ 2 เป็น 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์ที่เกิดก่อนใช้ Past Perfect Tense S + had V3) และมีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดตามมาทีหลังใช้ Past Simple Tense S + V2) ดังเช่นข้อนี้ที่ โจทย์ให้มาแล้วคือ had finished = Past Perfect Tense จะเกิดคู่กับ V2 = handed = Past Simple Tense เสมอ

12. Mary said that she____ to be a singer.
1. wanting
2. be wanted
3. wanted
4. wants
ตอบ 3 เราเห็นกริยา said เป็น V2 รูปอดีต ให้จําตอบข้างหลังเป็นอดีตไปด้วยนั่นคือจะตอบเป็น Past Simple Tense S + V2) หรือ Past Perfect Tense S + had V3) สําหรับข้อนี้ตอบ V2 = wanted

13. Adam____this beautiful house at present.
1. owned
2. own
3. owns
4. is owning
ตอบ 3 หน้า 39. กริยาต่อไปนี้ไม่นิยมใช้รูป Ving ถ้ามีให้ตอบกริยาช่องที่ 1 ผันตามประธานเอกพจน์
หรือพหูพจน์ด้วย ได้แก่
1. กริยาที่แสดงการรับรู้ เช่น feel, hear, notice, recognize, see, smell, taste, observe
2. กริยาเกี่ยวกับจิตใจ เช่น agree, appreciate, assume, believe, expect, feel, forget perceive, realize, recall, recognize, see
3. กริยาที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น belong to, owe (เป็นหนี้), own (เป็นเจ้าของ), possess ดูตัวอย่าง

That brand new car belongs to John.
He owns a number of condominiums.

เทียบตัวอย่างได้ ประธานเป็นเอกพจน์ก็ต้องกริยาช่องที่ 1 เอกพจน์ = owns

14. His son was born when he____ in Italy.
1. would live
2. live
3. had lived
4. was living
ตอบ 4 เป็นการเล่าเหตุการณ์ในอดีตเพราะเราเห็น was born เป็นอดีตแล้วอีกข้างก็ต้องตอบเป็นอดีต คงเหลือตัวเลือกที่ 3 และ 4 จากโจทย์เป็นการแสดงการเล่าที่เจาะจงเหตุการณ์ว่า …เมื่อกําลังอยู่ใน
อิตาลี จึงตอบ was living

15. A: What are you doing?
B: I___the plants.
1. will water
2. water
3. was watering
4. am watering
ตอบ 4 เป็นประโยคการถามในขณะที่พูด กําลังเกิดขึ้นเพราะ are doing เป็น Present Continuous Tense ที่แสดงเหตุการณ์ที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด (คุณกําลังทําอะไร?) คนที่ตอบคือ B ก็ต้อง ตอบเป็นปัจจุบันในขณะนั้นไปด้วย จึงตอบ am watering (ว่ากําลังรถน้ำต้นไม้)

16. You’ve been here for a long time.___ you___for someone?
1. Had; waited
2. Were; waiting
3. Have: waited
4. Are; waiting
ตอบ 4 ประโยคนํามาเป็น Present Perfect Tense (have been) เป็นปัจจุบันที่แสดงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและทําเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน (คุณได้อยู่ที่นี่เป็นเวลานาน) ประโยคตามเป็นคําถามที่ จะถามว่า คุณกําลังคอยใครอยู่หรือเปล่า จะใช้ Present Continuous Tense = are waiting

17. She’s busy at the moment. She____ her housework.
1. has done
2. was doing
3. have done
4. is doing
ตอบ 4 หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เรามักคําบอกเวลาจํานะออกทุกเทอมเช่น now, right now, at the/this moment, at present จากโจทย์มีคําบอกเวลา at the moment nou is oing

18. The office was very quiet when the police____.
1. arrive
2. arrived
3. was arriving
4. have arrived
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เป็นการเล่าเหตุการณ์ในอดีตเห็น was = V1 อีกส่วนก็ตอบอดีต เป็น V2 = arrived เพราะเป็นการเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วในอดีต

19. Some people still ___that there are dragons.
1. believe
2. believed
3. believing
4. have believed
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 13. ประกอบ กริยา believe (เชื่อ) เป็นกริยาไม่นิยมใช้รูป Ving มักจะตอบเป็น กริยา V1 / V2 ข้อนี้ตอบเป็น V1 = believe เพราะโจทย์เป็นปัจจุบัน (are) เราก็ตอบปัจจุบัน ตาม

20. I____ you for ages. Where have you been?
1. won’t see
2. haven’t seen
3. am not see
4. don’t see

ตอบ 2 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบPresent Perfect Continuous Tense (S+ has/have been + Ving) แทนก็ได้ แสดงเหตุการณ์ที่เกิดติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต บอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็วๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (nnonɔ̃u), all evening (ตลอดเย็น) ข้อนี้มีค่าบอกเวลา for ages จึงตอบ haven’t seen

21. Here____the bride!
1. comes
2. is coming
3. has come
4. came
ตอบ 1 หน้า 7 ใช้ Present Simple Tense S + V1) ในประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย เช่น

Here
There
How + adj
What + นาม + V1

เช่น
·What a beautiful girl she is!
-How beautiful you are!
-Here comes the bus!
-There goes the bus.

22. Women in the past usually___at home.
1. were working
2. have worked
3. works
4. worked
ตอบ 4 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่เกิดขึ้นเป็น ประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติ จริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ýɔɔuýu every day (înïù) every week, every month, every year (nn) at present (luïquu) Ďuяu uяdınšušođí คําว่า in the past (ในอดีต) ที่ทําเป็นปกติ (usually) ใช้ Past Simple Tense S + V2) =worked

23.I____my lesson. I can’t go out now.
1. was reviewing
2. am reviewing
3. review
4. reviewed
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 17. ประกอบ มีคําบอกเวลาคือ now จึงตอบ Present Continuous Tense (S + is/am/are + Ving) = am reviewing

24. After dinner, Tom and Kate always____a long conversation about their day.
1. will have
2. has
3. have
4. had
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ มีคําบอกเวลา always ตอบ Present Simple Tense S +V1) – have (ประธานพหูพจน์ Tom and Kate)

25. He___the police tomorrow.
1. was seeing
2. has seen
3. is seeing
4. saw
ตอบ 3 หน้า 38 Future Simple Tense (S+ will/shall + V1) แสดงอนาคตมีคำบอกเวลา เช่น tomorrow, next + ช่วงเวลา, soon (ในไม่ช้า), in + ช่วงเวลา เช่น in five minutes (ใน 5 นาที) in half an hour (ในครึ่งชั่วโมง) นั่นคืออนาคตเราตอบ will see แต่ตัวเลือกไม่มี ก็หาที่ ใช้แทนอนาคต ได้ก็จะต้องเป็นปัจจุบันที่แทนอนาคต แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอัน ใกล้และค่อนข้างแน่นอน ก็สามารถใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are + Ving) แทนอนาคตได้ จึงตอบ is seeing

26. By the end of this year, Paul ___here for eight years.
1. will have been teaching
2. teaches
3. will teach
4. has taught
ตอบ 1 หน้า 112 ใช้ Future Perfect Tense S + will/shall + have V3) หรือ Future Perfect
Continuous Tense S + will/shall + have been Ving) กับคําบอกเวลาที่ขึ้นต้นด้วย คําว่า “by” (ประมาณ ราวๆ ) เช่น by next year, by the end of this year, by tomorrow, by that time, by the end of this month, by noon เป็นต้น ฉะนั้นข้อนี้ขึ้นต้นด้วย By… ตอบ will have been teaching

27. Her friend___for her for half an hour!
1. waits
2. is waiting
3. has been waiting
4. be waiting
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 20. ประกอบ มีคําบอกเวลา for ….จึงตอบ has been waiting

28. She____at this university since 1977.
1. is working
2. has worked
3. worked
4. works
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 20 ประกอบ มีคําบอกเวลา since…. จึงตอบ has worked

29. No liquid water ____on Mars.
1. discovered
2. discovers
3. has discovered
4. has been discovered
ตอบ 2 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงข้อความที่เป็นจริงโดยธรรมชาติหรือ เป็นจริงเสมอ หรือเป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์แล้ว และสุภาษิตและคําพังเพย ออกสอบ แบบนี้ทุกเทอมโดยโจทย์จะไม่มีคําบอกเวลา เราต้องเดาเอาหรือตีความว่าเป็นโจทย์ชนิดนี้ว่าเป็นจริงเสมอ ก็ตอบ V1 เช่น

Plants need oxygen to survive. (พืชต้องการออกซิเจนเพื่ออยู่รอด)
The sun rises in the east and sets in the west.
(พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตก)
No liquid water discovers on Mars.
(ไม่พบน้ำของเหลวบนดาวอังคาร)

30. I____for 40 years when I finally retired.
1. is working
2. has worked
3. worked
4. had been working
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 20. ประกอบ ปกติเราเห็นคําบอกเวลา for เราตอบ Present Perfect Tense (S + has/have +V3) ในประโยคเดี่ยว แต่สําหรับข้อนี้เราเห็น retired เป็น V2 อดีต เราก็ปรับจาก ปัจจุบันให้เป็นอดีตคู่กับนั่นคือ เราก็ตอบ Past Perfect Tense (S+ hadV3) หรือ Past Perfect Continuous Tense S + had been +Ving) = had been working

31. lt___all day and the weather was very cold.
1. had been snowing
2. has snowed
3. was being snowed
4. will snow
ตอบ : ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ ลักษณะเดียวกันคือ มีคําบอกเวลา all day และมี was เป็น V2 อดีต ก็ตอบเป็นอดีตคือ Past Perfect Continuous Tense = had been snowing

32. When I got to the office,I ___that I____my cell phone.
1. was realizing; had forgotten
2. realize; forget
3. realized; had forgotten
4. realized; forgot
ตอบ 3 เราเห็นกริยาช่องที่ 3 คือ got เราก็ตอบส่วนหลังเป็นอดีตคือ กริยาช่องที่ 2 คือ realized และเกิด ตามมาทีหลังใช้ had forgotten

33. Unless it____heavily, there will not be a flood.
1. rain
2. will rain
3. has rained
4. reins
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 2

2. If/Unless S+ V1, S + will V1

ตอบ rains ให้มา will be

34. Next month, I ____Japanese.
1. will study
2. has studied
3. has been studying
4. studied
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 25 ประกอบ มีคําบอกเวลา next month (เดือนหน้า) จึงตอบ will study

35. If we don’t hurry up, we___the bus.
1. missed
2. have missed
3. will miss
4. miss
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 2

2. If/Unless S + V1, S + will V1
ให้มา don’t hurry ตอบ will miss

36. Jenny would repair her apartment if she___money.
1. had
2. would have had
3. has
4. would have
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบโดย if อยู่กลางประโยค

3. S + would V1 if/unless S + V2 ·

ให้มา would repair ตอบ had

37. The boy___his work and he is ready to go home
1. was finishing
2. would finish
3. are going to finish
4. has finished
ตอบ 4 เราเห็น is แสดงว่ากริยาเป็นปัจจุบัน เราก็ตอบเป็นปัจจุบันไปด้วย คงเหลือตัวเลือก 3 และ 4
แล้วดูประธาน The boy เป็นเอกพจน์ กริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ จึงตอบ has ส่วน are เป็นพหูพจน์ ไม่ถูกต้อง

38. My father___outside for a long time.
1. couldn’t be
2. wouldn’t be
3. hasn’t been
4. hadn’t been
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 20. ประกอบ มีคําบอกเวลา for ใช้ Present Perfect = hasn’t been

39. My husband___on his report all evening.
1. will be worked
2. has been working
3. is working
4. works
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 20 ประกอบ มีคําบอกเวลา all evening (ตลอดเย็น) ทําต่อเนื่องใช้ Present
Perfect Continuous Tense = has been working

40. By next Sunday, he___here for ten weeks.
1. will have been
2. is
3. will be
4. has been
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 26. ประกอบ เห็น By…. ตอบ Future Perfect Tense

41. If she___your schedule, she___for you.
1. knew; will wait
2. knows; would have waited
3. knows; would want
4. knew; would wait
ตอบ 4 สูตรที่ 3 ของ If

3. If S + V2,S+ would/could + V1
ตอบ knew (V2) would wait

42.____you ever____to England?
1. Are; been
2. Were; going
3. Are; gone
4. Have; been
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 20. ประกอบ มีคําบอกเวลา ever ใช้ Present Perfect Tense

43. My father ___me at this time next week.
1. saw
2. will be seeing
3. will have seen
4.sees
ตอบ 2 หน้า 53 1 Past Continuous Tense (S+ was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9 p.m. last night บอกเวลา at his time next week จึงตอบ will be seeing

44. In 2022 my mother and I____to France for a visit.
1. has gone
2. will go
3. went
4. go
ตอบ 2 ในปี 2022 ของข้อสอบที่ออกขณะที่สอบยังไม่ถึงปี 2022 จึงถือว่าเป็นปีอนาคต จึงตอบ will go

45. I___John if I had met him sooner.
1. would marry
2. will marry
3. will be married to
4. would have married
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3 ประกอบลักษณะเดียวกับข้อ 4. สูตรการใช้ if วางกลางประโยค

4. S + would have V3 if/unless S + had met

ตอบ would have married ให้มา had met

46. When I reached the airport, a crowd of people____at the arrival hall.
1. gathered
2. was gathering
3. is gathering
4. had gathered
ตอบ 2 เป็นการใช้ 2 เหตุการณ์ เชื่อมด้วย When

When S+ V2, S + was/were +Ving

ให้มา reached ตอบ was gathering

47. I don’t know that lady. I ____her before.
1. do not meet
2. had never met
3. have never been met
4. would not met
ตอบ 3 ประโยคหน้าให้มาเป็นปัจจุบันคือมี don’t know (V1) แสดงว่าส่วนหลังเราก็ตอบเป็น ปัจจุบันไปด้วย คงเหลือตัวเลือกที่ 1 และ 3 เราตอบ Present Perfect Tense (S +has/have V3) กับคําบอกเวลาที่มีคําว่า never แสดงถึงว่าฉันไม่เคยได้พบเห็นเธอมาก่อน

48. How old____your son___next week?
1. would; be
2. has; been
3. will; be
4. had; been
ตอบ 3 มีคําบอกเวลา next week (สัปดาห์หน้า) เป็นอนาคต จึงตอบ will be

49. He wished he____his cousin yesterday.
1. had visited
2. has visited
3. visited
4. would visit
ตอบ 1 หน้า 147 เป็นการใช้ wish

1. S + wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S + wished S + had V3

ให้มา wished เป็นกริยาช่องที่ 2 ตอบหลัง had V3 = had visited

50. If I____a bird, I____everywhere.
1. am; would fly
2. were; will fly
3. were; would fly
4. was; will fly
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ

3. If S + V2, S + would/could + V1
were, would fly

51. If you quit smoking, your wife____glad.
1. is
2. was
3. would have been
4. will be
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ

2. If S + V1, S + will V1

quit ตอบ will be

52. If Mary had been here, she ___Linda.
1. will meet
2. met
3. meets
4. would have met
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ

If อยู่ต้นประโยค ตรงกับสูตรที่ 4

4 If S + had V3, S + would have V3

ตอบ had won would have bought

53. Have you had your car___M
1. fixing
2. fixed
3. to fix
4. fix
ตอบ 2 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get เมื่อเห็น have/has/ had หรือ getgot ให้ + V3

S + has/have/had + สิ่งของ + V3

หรือ S + get/got + สิ่งของ + V3 ได้เลย
ข้อนี้มี had + your car (สิ่งของ) + ตอบกริยาช่องที่ 3 ก็คือ fixed

54. May God____ us!
1. will save
2. save
3. saved
4. would save
ตอบ 2 หน้า 149 ขึ้นต้นประโยคด้วย God/The Lord ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน ซึ่งในตัวเลือกก็คือ be หรือขึ้นต้นด้วย Long ดูตัวอย่างพิ่มเติม
-God be with you. ตอบ be ไม่ฝัน
– Long live the King. (ทรงพระเจริญ) ก็ตอบ live (V1) ไม่ผัน

55. It is necessary that we___an appointment.
1. have scheduled
2. scheduled
3. will schedule
4. schedule
ตอบ 4 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เติม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be

56. Bob said, “I like you.”
Bob said he____me.
1. will like
2. has liked
3. likes
4. liked
ตอบ 4 หน้า 187 หลักการเปลี่ยน Tense เมื่อทําเป็น Indirect Speech ถ้า Present Simple Tense ทําเป็น indirect speech เปลี่ยนเป็น Past Simple Tense (V2) นั่นคือ เปลี่ยนจาก like เป็น liked

57. It is___that many people were injured in the fire.
1. report
2. to report
3. reporting
4. reported
ตอบ 4 หน้า 156 เป็นรูป passive reporting verbs ในรูปแบบของกริยารายงานข่าวในประโยคดังนี้

ยังมีกริยาตัวอื่นอีกเช่น suppose, assume, consider, claim, think, believe, report, know, expect, allege, understand เป็นต้น ดูตัวอย่าง
– It is reported that ten people were killed. (มีรายงานว่าคน 10 คนถูกฆ่าตาย)
– It is believed that the thieves got in through the kitchen window.
– It is said that she works 16 hours a day. (กล่าวกันว่าเธอทํางานวันละ 16 ชั่วโมง)
ที่ตอบนั้นคือ กริยารูปช่องที่3 ตอบ reported, said, known, claimed, expected เคยออกสอบ

58. Jennifer said, “I’m going to New York.”
Jennifer said she___ to New York.
1. was going
2. had been going
3. is going
4. will have been going
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 56. ประกอบ กริยาในเครื่องหมายคําพูดเปลี่ยนเป็นอดีตคือ was going

59.are you doing tomorrow?
1. Why
2. Whose
3. What
4. How
ตอบ 3 ถามว่า คุณจะทําอะไรพรุ่งนี้ ถามถึงอะไร ใช้ What

60. The supervisor insists that marketing employees____to the exhibition.
1. had gone
2. goes
3. go
4. will go
ตอบ 3 หน้า 148 149 เป็นคํากริยายกเว้นที่มี 5 ตัวเห็นแล้วตอบข้างหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่
ผัน คือกริยาไม่เติม sled เลย เช่น ask, want ถ้าเป็น Verb to be ต้องเป็น be

61. I’d rather you____patient.
1. will be
2. are
3. were
4. have been
ตอบ 3 หน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2 ออกทุกเทอม 1-2 ข้อ จําไปได้เลย

If only
It’s time
It’s about time                            S + V2 ก็คือ were
It’s high time that
He’d rather
I think it would be a good idea if

62. Regulations require that the students____at least 90% of the lectures.
1. attended
2. will attend
3. have attended
4. attend
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 60. ประกอบ กริยายกเว้น require that ตอบข้างหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน
นั่นคือตอบ attend

63. Her car got____last night.
1. steals
2. stolen
3. stealing
4. stole
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 53. ประกอบ กริยา getgot + V3 จึงตอบ stolen (มาจาก steal stole stolen)

64. The concert____yesterday.
1. had cancelled
2. was cancelled
3. cancelled
4. are cancelling
ตอบ2 หน้า 154. เป็นเรื่อง Passive Construction ในรูปประธานถูกกระทําซึ่งประธานมักเป็นสิ่งของ อย่างข้อนี้ The concert (คอนเสริท) ถูกยกเลิก ใช้โครงสร้าง Verb to be + V3 = was cancelled

65. It’s important that we____the procedure to the patient.
1. will explain
2. explain
3. explained
4. had explained
ตอบ 2 คําอธิบายข้อ 55 ประกอบ ขึ้นต้นด้วย It is important that S + V1 ตอบ explain

66. These carpets were made in Italy,____?
1. weren’t they
2. weren’t these
3. were these
4. were they
ตอบ 1 หน้า 174 – 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับเรื่องคําสรรพนาม เราเห็นประโยคให้มีกริยาช่วย will ตอบ tag เป็น won’t รูปย่อ และคํานาม Dan ชื่อเพศชายตอบ tag เป็น he รวมกัน won’t he ตัวอย่างอื่นเช่น
Jane will be here soon, won’t she?
There was a lot of rain, wasn’t there?
Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
– Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
-Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you
สําหรับข้อนี้กริยา were ทําส่วนหลังเป็นรูปปฏิเสธย่อคือ weren’t และประธาน These carpets เป็นพหูพจน์ ใช้คําสรรพนาม they

67. Henry and Bob said, “We’re going to Pattaya tomorrow.”
Henry and Bob said that they were going to Pattaya _____.
1. the next day
2. the day before
3. that day
4. two days before
ตอบ 1 หน้า 185 – 186 ในการทําคําบอกเวลา tomorrow เป็น indirect speech ต้องเปลี่ยนแปลง the next day หรือ the following day (วันถัดไป)

68. Daniel looked very anxious as if he____something wrong.
1. had done
2. did
3. has done
4. does
ตอบ 1 หน้า 138 – 139 เป็นเรื่อง as if /as though

69. A: Excuse me.____is calling?
B: It’s Barbara.
1. Who
2. When
3. Where
4. Why
ตอบ 1 เป็นประโยคคําถาม เราสังเกตจากที่ B ตอบเป็นคนว่า บาร์บาร่า แสดงว่า A ต้องถามว่า ใคร
นั่นคือถาม Who

70. John said, “They’ve been vaccinated.”
John said that they____vaccinated.
1. are going to be
2. had been
3. have been
4. will be
ตอบ 2 จาก Present Perfect (have been) ทำเป็น indirect speech เป็น Past Perfect (had V3)= had been

71. A:____languages can you speak?
B: Four languages.
1. Why
2. Where
3. How many
4. When
ตอบ 3 เป็นประโยคคําถาม เรารู้จาก B ตอบว่า สี่ภาษา แสดงว่าต้องถามว่า พูดภาษา ได้มากแค่ไหนใช้ How many

72.____I a millionaire, I____in Beverly Hills.
1. Had been; lived
2. Were; will live
3. Were; would live
4. Had been; would live
ตอบ 3 เป็นการตัด if ออกใน สูตรที่ 3 โดยสังเกตจากส่วนหลังมี

73. Turn off the light,____?
1. are you
2. do we
3. will you
4. shall we
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 66. ประกอบขึ้นต้นประโยคด้วยกริยาช่องที่ 1 Tum ตอบ tag คงที่ will you

74. I think it would be a good idea if we ____hard.
1. will study
2. study
3. have studied
4. studied
ตอบ 4 ค่าอธิบายข้อ 61. ประกอบ

75. Jessica said, “I can do it.”
Jessica said that___could do it.
1. they
2. she
3. I
4. it
ตอบ 2 จากที่เจสซิก้าเป็นคนพูด สรรพนาม 1 ก็คือ เจสซิก้า ซึ่งเป็นเพศหญิง เมื่อเอาคําพูดมาเล่าอีกที ก็ใช้ ว่า เจสซิก้าพูดว่าเธอสามารถทําได้ จึงเป็นสรรพนาม she

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions: Choose the best answer.

76. The jewelry shop has displayed many____.
1. collections
2. demonstrations
3. relationships
4. ‘collections’ and ‘relationships’ are correct
ถาม ร้านเจลเวรี่ได้แสดงของสะสมจํานวนมาก
ตอบ 1 1. ของสะสม 2. การสาธิต 3. ความสัมพันธ์ 4. 1 และ 3 ถูกต้อง

77. The___members in our family are taken care of very well.
1. oldest ถาม
2. elderly
3. elder
4. old
ตอบ 2 ผู้สูงอายุในครอบครัวของเราได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี
1. แก่ที่สุด 2. มีอายุ สูงอายุ แก่ 3. แก่กว่า 4. แก่
ถ้าดูตัวเลือกข้อนี้ไม่ยุ่งยากนัก ก็คือเดาว่าเรามีเรียนภาคศัพท์ใน ENG 1002 ตัวไหนก็ตอบตัวนั้น อย่างข้อนี้เรามีเรียนตัวเลือกเดียวคือ elderly จึงตอบได้เลย

78. He is so stubborn that nobody can___him.
1. deceive
2. convince
3. obey
4. believe
ถาม เขาดื้อรั้นมากจนไม่มีใครสามารถโน้มน้าวเขาได้
ตอบ 2 1. หลอกลวง 2. โน้มน้าว ทําให้เชื่อ 3. เชื่อฟัง 4. เชื่อ
ข้อนี้ก็เช่นกัน เราเดาได้คือมีเรียนภาคศัพท์ตัวเดียวคือ convince

79. The smoke___the sky and made it gloomy.
1. shut
2. covered
3. revealed
4. found
ถาม ควันปกคลุมท้องฟ้าและทําให้มืดมน
ตอบ 2 1. ปิต 2. ปกปิด ปกคลุม 3. เปิดเผย 4. ค้นพบ
ข้อนี้ก็เดาได้เช่นกันมีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ Covered

80. Some alcoholics____liver disease.
1. refine
2. develop
3. rescue
4. inherit
ถาม ผู้ติดสุราบางคนทําให้เป็นโรคตับ
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. พัฒนา ทําให้ก้าวหน้า 3. ช่วยเหลือจากอันตราย 4. ได้รับมรดก

81. My mother always treats her employees as a/an____.
1. victim
2. equal
3. older
4. enemy
ถาม แม่ของฉันปฏิบัติต่อพนักงานของเธออย่างเท่าเทียมกัน
ตอบ 2 1. เหยื่อ 2. เท่าเทียมกัน 3. แก่กว่า 4. ศัตรู

82. She’s a good driver and____the car very well.
1. returns
2. results
3. controls
4. raises
ถาม เธอเป็นคนขับรถที่ดีและควบคุมรถได้ดีมาก
ตอบ 3 1. ส่งคืน กลับคืน 2. ผลที่ตามมา 3. ควบคุม 4. ยกขึ้น

83. The president____everybody in the hall.
1. said
2. talked
3. smiled
4. greeted
ตอบ 4 1. พูด กล่าว 2.พูดคุย3 . ยิ้ม 4. ทักทาย
ถาม ประธานกล่าวทักทายทุกคนในห้องโถง
ข้อนี้ก็ได้เดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ greeted

84. During the summer, tomatoes are____and cheap.
1. plentiful
2. genetic
3. scarce
4 serious
ถาม ในช่วงฤดูร้อน มะเขือเทศจะอุดมสมบูรณ์และราคาถูก
ตอบ 1 1. อุดมสมบูรณ์ มากมาย 2. เกี่ยวกับพันธุกรรม 3. หายาก ขาดแคลน 4. ร้ายแรง จริงจัง

85. I can___her wanting to live alone and be independent.
1. damage
2. pollute
3. understand
4. lower
ถาม ฉันเข้าใจเธอที่ต้องการอยู่คนเดียวและเป็นอิสระ
ตอบ 3 1. ทําให้เสียหาย 2. ทําให้เกิดมลพิษ 3. เข้าใจ 4. ลดต่ำลง

86. Thai people love their___land.
1. foreign
2. faraway
3. native
4. strange
ถาม คนไทยรักแผ่นดินเกิด
ตอบ 3 1. ต่างประเทศ 2. ห่างไกล 3.เกี่ยวกับพื้นเมืองบ้านเกิด 4. แปลก

87. Waste water from hotels has____the Chao Phraya River.
1. clarified
2. consumed
3. produced
4. polluted
ถาม น้ำเสียจากโรงแรมก่อให้เกิดมลพิษแม่น้ำเจ้าพระยา
ตอบ 4 1. ทําให้กระจ่าง 2. บริโภค กินใช้ 3. ผลิต ก่อให้เกิด 4.ทําให้เกิดมลพิษ

88. My friend ____lots of land from her grandparents.
1. delivered
2. inherited
3. submitted
4. lent
ถาม เพื่อนของฉันได้รับมรดกที่ดินจํานวนมากจากปู่ยาตายายของเธอ
ตอบ 2 1. ส่ง 2. ได้รับมรดก 3. ยื่น ส่งมอบ 4. ให้ยืม

89. Big cities should have enough___parks for people to enjoy their free time and
relax.
1. personal
2. private
3. publish
4. public

ถาม เมืองใหญ่ควรมีสวนสาธารณะเพียงพอให้ผู้คนได้ใช้เวลาว่างและผ่อนคลาย
ตอบ 4 1. ส่วนตัว 2. ส่วนตัว เอกชน 3. ตีพิมพ์ เผยแพร่ 4. สาธารณะ ส่วนรวม

90. Knowing Japanese is a great___ for people who want this job.
1. style
2. boon
3. request
4. craft
ถาม การรู้ภาษาญี่ปุ่นเป็นข้อดีอย่างมากสําหรับคนที่ต้องการงานนี้
ตอบ 2 1. รูปแบบ 2. ข้อดี ประโยชน์ 3. ขอร้อง 4. งานฝีมือ

91. The____proved that he was not guilty.
1. report
2. example
3. track
4. evidence
ถาม หลักฐานพิสูจน์ว่าเขาไม่มีความผิด
ตอบ 4 1. รายงาน 2. ตัวอย่าง 3. ติดตาม 4. หลักฐาน

92. The company spent a lot of money to ____their products.
1. intensify
2. advertise
3. show
4. mention
ตอบ 2 บริษัทใช้จ่ายเงินจํานวนมากเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ของตน
1. ทําให้เข้มข้น 2. โฆษณา 3. แสดงให้เห็น 4. พูด กล่าวถึง

93. Heavy rain____farmers’ produce.
1. picks
2. saves
3. creates
4. damages
ถาม ฝนตกหนักทําให้ผลผลิตของชาวนาเสียหาย
ตอบ 4 1. เก็บขึ้นมา 2. ประหยัด ทําให้ปลอดภัย 3. ก่อให้เกิด 4. ทําให้เสียหาย
ข้อนี้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ damages

94. If you want to vote,____your hand.
1. push
2. rise
3. pick
4. raise
ถาม ถ้าคุณต้องการลงคะแนนเสียง ยกมือขึ้น
ตอบ 4 1. ผลัก ดัน 2. ขึ้น 3. เก็บขึ้นมา 4. ยกขึ้น (กริยามีกรรม)
เรามีคําศัพท์ตัวเดียวคือ raise (ยกขึ้น) ตามด้วยกรรมข้อนี้คือ ยกมือ

95. The turtles lay their eggs in the damp sand where they are____from predators.
1. recent
2. various
3. successful
4. safe
ถาม เต่าวางไข่ในทรายที่ชื่นซึ่งปลอดภัยจากสัตว์ล่าเหยื่อ
ตอบ 4 1. เร็ว ๆ นี้ ไม่นานมานี้ 2. มากมาย 3. ประสบผลสําเร็จ 4. ปลอดภัย

96.____are informed about the use of chemicals in many kinds of food.
1. Conductors
2. Products
3. Designers
4. Consumers
ถาม ผู้บริโภคได้รับแจ้งเกี่ยวกับการใช้สารเคมีในอาหารหลายชนิด
ตอบ 4 1. ผู้ควบคุม 2. ผลิตภัณฑ์ 3. นักออกแบบ 4. ผู้บริโภค

97. When patients are in hospitals, it’s better for them to wear____.
1. berets
2. mascots
3. masks
4. helmets

ถาม เมื่อผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ให้ใส่หน้ากากอนามัยดีกว่า
ตอบ 3 1. หมวกเบเร่ต์ 2. เครื่องราง 3. หน้ากากอนามัย 4. หมวกกันน็อค

98. Drugs are the main cause of____in slum areas.
1. cases
2. crimes
3. connections
4. accidents
ถาม ยาเสพติดเป็นสาเหตุหลักของการก่ออาชญากรรมในพื้นที่สลัม
ตอบ 2 1. กรณีศึกษา 2. อาชญากรรม 3. ความสัมพันธ์ 4. อุบัติเหตุ

99. His family members are closely____.
1. related
2. divided
3. cracked
4. split
ถาม สมาชิกในครอบครัวของเขามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ตอบ 1 1. สัมพันธ์กัน 2. แบ่ง หาร 3. ทําให้แตกร้าว 4. แยกออก

100. Reporters from many news agencies wanted to____the winner.
1. request
2. interview
3. announce
4. ask
ถาม นักข่าวจากสํานักงานข่าวหลายแห่งต้องการที่จะสัมภาษณ์ผู้ชนะ
ตอบ 2 1. ขอร้อง 2. สัมภาษณ์ 3. ประกาศ 4. ขอร้อง

101. She intends to___the next ten years to her charitable work.
1. devote
2. emphasize
3. experiment
4. pollinate
ถาม เธอตั้งใจที่จะอุทิศสิบปีข้างหน้าเพื่องานการกุศลของเธอ
ตอบ 1 1. อุทิศ เสียสละ 2. เน้นย้ำ 3. ทําการทดลอง 4. ทําให้เกิดมลพิษ

102. Make sure you bring the___documents with you.
1. familiar
2. necessary
3. surprised .
4. complex
ถาม อย่าลืมนําเอกสารที่จําเป็นติดตัวไปด้วย
ตอบ 2 1. คุ้นเคย 2. จําเป็น สําคัญ 3. รู้สึกประหลาดใจ 4. สลับซับซ้อน

103. A person who has a poor diet needs a vitamin supplement.
1. eating
2. nutrition
3. meal
4. food
ถาม ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ดีต้องการวิตามินเสริม
ตอบ 4 1. การกิน 2. สารอาหารที่จําเป็น 3.มื้ออาหาร 4. อาหาร
diet = food = อาหาร

104. It is important to____a constant temperature inside the greenhouse.
1. maintain
2. report
3. enlarge
4. claim
ถาม การรักษาอุณหภูมิให้คงที่ในเรือนกระจําเป็นสิ่งสําคัญ
ตอบ 1 1. คงที่ คงไว้รักษาไว้ 2. รายงาน 3. ทําให้ใหญ่ขึ้น 4. กล่าวอ้าง

105. Mrs. Johnson tends to___any small faults the girls may have.
1. trigger
2. overlook
3. propagate
4. recycle
ถาม คุณนายจอห์นสัน มักจะมองข้ามข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อยที่สาว ๆ อาจมี
ตอบ 2 1. ก่อให้เกิด 2. มองข้าม มองไม่เห็น 3. ขยายพันธุ์ 4. ผ่านกระบวนการแล้วนํากลับมาใช้ใหม่อีก

106. Learning happens through____with the environment rather than being
preprogrammed.
1. neighbor
2. treatment
3. garnish
4. interaction
ถาม การเรียนรู้เกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า
ตอบ 4 1. เพื่อนบ้าน 2. การรักษา 3. สิ่งที่ใช้ตกแต่งอาหาร 4. ปฏิสัมพันธ์

107. You mustn’t go there alone at night. Anything might____.
1. manufacture
2. demand
3. advertise
4. happen
ถาม คุณต้องไม่ไปที่นั่นตามลําพังคนเดียวในตอนกลางคืน อะไรก็เกิดขึ้นได้
ตอบ 4 1. ผลิต 2. ต้องการ เรียกร้อง 3. โฆษณา 4. เกิดขึ้น

108. The chairman has the___of veto on all decisions.
1. power
2. factor
3. intimacy
4. relationship
ถาม ประธานมีอํานาจยับยั้งการตัดสินใจทั้งหมด
ตอบ 1 1. อํานาจ พลัง 2. ปัจจัย 3. ความใกล้ชิด 4. ความสัมพันธ์

109. Medical____are now kept on computers.
1. records
2. orchards
3. gifts
4. fragments
ถาม เวชระเบียน (การบันทึกทางการแพทย์) ถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์
ตอบ 1 1. การบันทึก 2. สวนผลไม้ 3. ของขวัญ 4. เศษชิ้นส่วน

110. The vaccination program has been a major____in the improvement of health
standards.
1. company
2. appliance
3. victim
4. factor
ถาม โปรแกรมการฉีดวัคซีนเป็นปัจจัยสําคัญในการปรับปรุงมาตรฐานสุขภาพ
ตอบ 4 1. บริษัท 2. เครื่องมือเครื่องใช้ 3. เหยื่อ 4. ปัจจัย

111. A large group of demonstrators stayed up all night praying for____between the
two countries.
1. level
2. convention
3. route
4. reconciliation
ถาม ผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่เฝ้าดูตลอดทั้งคืนเพื่ออธิษฐานขอความสมานฉันท์ระหว่างสองประเทศ
ตอบ 4 1. ระดับ 2. ธรรมเนียม 3. เส้นทาง 4. การไกล่เกลี่ย สมานฉันท์

112. According to a local____,the tree was planted by a wizard.
1. artist
2. figure
3. legend
4. mold
ถาม ตามตํานานท้องถิ่น ต้นไม้นี้ถูกโดยพ่อมดปลูกไว้
ตอบ 3 1. จิตรกร 2. บุคคลสําคัญ 3. ตํานาน 4. แม่แบบ

113.____that all the doors are locked securely.
1. Check
2. Improve
3. Interview
4. Place
ถาม ตรวจสอบว่าประตูทุกบานถูกล็อกอย่างแน่นหนา
ตอบ 1 1. ตรวจสอบ 2. ทําให้ดีขึ้น 3. สัมภาษณ์ 4. ใส่ วาง

114. Was your mom____ when she saw your grade report?
1. physical
2. entire
3. pleased
4. famous
ตาม คุณแม่พอใจไหม เมื่อเห็นรายงานเกรดของคุณ
ตอบ 4 1. ทางกาย 2. ทั้งหมด 3. พอใจ 4. มีชื่อเสียง

115. I got an awful____ when I realized how much money I owed.
1. beast
2. fright
3. mold
4. container
ถาม ฉันตกใจกลัวมากเมื่อรู้ว่าฉันเป็นหนี้เงินเท่าไหร่
ตอบ 2 1. สัตว์โลก 2. ตกใจกลัว 3. แม่แบบ 4. สิ่งที่ใช้บรรจุของ

116. Don’t be surprised that some flowers are eatable.
1. eaten
2. delicious
3. edible
4. allergic
ถาม อย่าแปลกใจที่ดอกไม้บางชนิดสามารถกินได้
ตอบ 3 1. ถูกกิน 2. อร่อย 3. สามารถรับประทานได้ 4. ภูมิแพ้

117. There is a/an____number of appointments available; please book early.
1. edible
2. limited
3. public
4. abominable
ถาม มีจํากัดจํานวนการนัดหมาย กรุณาจองล่วงหน้า
ตอบ 2 1. สามารถรับประทานได้ 2. จํากัด 3. สาธารณะ ทั่วไป 4. น่ารังเกียจ

118. I eventually came to the____that I wanted to study law.
1. ancestor
2. mutation
3. conclusion
4. flesh
ถาม ในที่สุดฉันได้ข้อสรุปว่าฉันต้องการเรียนกฎหมาย
ตอบ 3 1. บรรพบุรุษ 2. การกลายพันธุ์ 3. บทสรุป 4.เนื้อ

119. The center provides help for people suffering from___illness.
1. floating
2. healthy
3. native
4. mental
ถาม ศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิต
ตอบ 4 1. ลอย 2. แข็งแรง สมบูรณ์ 3. เกี่ยวกับพื้นเมือง 4. ทางจิตใจ

120. Hi, Bob. What a___we were just talking about you.
1. trait
2. behavior
3. coincidence
4. generation
ถาม สวัสดีบ๊อบ เป็นเรื่องบังเอิญ เราเพิ่งจะพูดถึงคุณ
คอบ 3 1.ลักษณะนิสัย 2. พฤติกรรม 3. บังเอิญ 4. รุ่น

ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน 1/2566

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2566
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน
Choose the best answer.
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)

1.I’m learning to speak____because I plan to visit___next year.
1. China; Chinese
2. Greece: Greek
3. Japanese; Japan
4. Germany: German
ตอบ 3 บทที่ 1 หน้า 5 – 8 คํานามเฉพาะ เป็นชื่อเรียกเฉพาะของ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ชื่อประเทศ เป็นคํานามที่ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรใหญ่ และมีการเปลี่ยนคํานามให้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง ประชาชนหรือภาษา
เช่น Italy – Italian, China – Chinese, Indonesia – Indonesian, Japan – Japanese,Argentina – Argentine, Denmark – Dane, Danish, India – Indian, Greece – Greek, Belgium – Belgian, France – French, Germany – German เป็นต้น

จากโจทย์ช่องแรกมีคําว่า speak (พูด) แสดงว่าตอบเป็นภาษา มีในตัวเลือกคือ Japanese (ภาษาญี่ปุ่นตัว เดียวที่เป็นภาษาที่ถูกต้อง ก็สามารถตอบตัวเลือกข้อ 3 ได้เลยทันที ส่วนช่องที่ 2 ที่ให้เติมใส่คํานามที่เป็นชื่อ ประเทศเพราะตามหลังกริยา (visit) ซึ่งมี Japan (ประเทศญี่ปุ่น), Greece (ประเทศกรีซ)

2.Derak often fancies____new hiking trails for his friends and family.
1. explore
2. exploring
3. to explore
4. explored
ตอบ 2 หน้า 274 กริยาเหล่านี้ตามด้วย Ving ได้แก่

fancy (fancies) + Ving จึงตอบ exploring

3.A___of cattle graced peacefully in the meadow.
1. flock
2. feet
3. herd
4. swarm
ตอบ 3 หน้า 9 สมุหนาม (Collective Noun) หมายถึง คํานามที่มีความหมายแสดงกลุ่ม หมู่ พวก ที่เป็น กลุ่มของคน สัตว์ สิ่งของ ใช้คําต่างกัน
an army of soldiers = ทหารกองหนึ่ง
a basket of fruit = ผลไม้ตระกร้าหนึ่ง
a band of singers, musicians, outlaws = นักร้อง นักแสดงวงหนึ่ง ผู้ร้ายกลุ่มหนึ่ง
a bunch of keys, grapes, flowers = กุญแจพวงหนึ่ง องุ่นพวงหนึ่ง ดอกไม้ช่อหนึ่ง
a flock of sheep, birds, geese = แกะ นก ห่าน ฝูงหนึ่ง
a herd of cattle, cows, pigs = โค วัว หมู ฝูงหนึ่ง

a school of fish, whales = ปลาฝูงหนึ่ง ปลาวาฬฝูงหนึ่ง
a swarm of bees = ผึ้งฝูงหนึ่ง
a troop of soldiers = ทหารกองหนึ่ง

4.Emma would pretend____books past her bedtime.
1. to read
2. reading
3. to be read
4. having read
ตอบ 1 หน้า 280 คํากริยาที่ตาม infinite with to คือ to + Verb 1 2

กริยา pretend ตามด้วย to V1 = to read

5.Theare flying south for the winter.
1. goose
2. gooses
3. geese
4. geeses
ตอบ.3หน้า 41 – 42 คํานามบางกลุ่มจะเปลี่ยนรูปจากคํานามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ ด้วยการเปลี่ยน
เสียงสระภายในคํา เช่น
foot – feet (เท้า)
goose – geese (ห่าน)
louse – lice (เหา หมัด)
man – men (ผู้ชาย)
mouse – mice (หนู)
woman – women(ผู้หญิง)

ที่โจทย์มีกริยา are เป็นกริยาพหูพจน์ แสดงว่าคํานามก็ต้องตอบเป็นคํานามพหูพจน์ก็คือ geese

6.Nora’s dedication and hard work inspire____to strive for excellence.
1. (blank)
2. to colleagues
3. her colleagues
4. due
ตอบ 3 หน้า 280 281 กริยาต่อไปนี้จะตามด้วย กรรมตรง + to + V1

A boss with good vision can inspire people to work for him.
กริยา inspire+ กรรม (people) + to V1 = to work
ปกติจะให้ตอบว่า inspire เป็นกริยามีกรรมและตามด้วย to + V1 คือ to strive แต่ข้อนี้มีให้มาแล้ว ต้องการให้ตอบกรรม (กรรมก็คือคํานามหรือคําสรรพนาม) นั่นคือ her colleagues

7.Many organizations work tirelessly to support___with food and shelter.
1. the poorness
2. the poor
3. the poorly
4. poor
ตอบ 2 หน้า 345 คํานามบางตัวมีรูปเป็นเอกพจน์แต่มีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น people, public,
police, clergy, cattle, military รวมทั้งรูป the + adj. เป็นคํานามเช่น the rich (คนรวย), the poor (คนจน), the blind (คนตาบอด), the injured (คนบาดเจ็บ), the dead (คนตาย), the old (คนแก่), the young (คนหนุ่มสาว) เช่น
The police are marching up and down the street.
The injured were carried to the hospital; while the dead were left at the scene.

8.I look forward to____you at your earliest convenience
1. meet
2. meeting
3. a meeting
4. have a meeting with
ตอบ 2 หน้า 276 กริยาต่อไปนี้จะมีบุพบทตามและให้ตอบ Ving เช่น

approve of (พอใจ)
apologize for (ขอโทษ)
feel like (รู้สึกชอบ)
disapprove (ไม่พอใจ)
get/be used to (เคยชิน)
look forward to (รอคอย)

look forward to + Ving จึงตอบ meeting

9.Which of the underlined words is a noun?
1. Physics explains how the world works.
2. Kylie had a great time at the museum yesterday.
3. He smiled brightly at the unexpected compliment.
4. The red roses in the garden are blooming beautifully.
ตอบ 1 คํานามทําหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมของกริยาหรือกรรมของบุพบทก็ได้
ตัวเลือกข้อ 1 Physics เป็นคํานามเพราะเป็นชื่อวิชาหรือสังเกตจากการขึ้นต้นประโยคและตามด้วย
กริยา explains แสดงว่า Physics เป็นคํานามทําหน้าที่เป็นประธาน
ตัวเลือกข้อ 2 great เป็นคําคุณศัพท์ (adjective) ทําหน้าที่ขยายคํานาม วางไว้หน้าคํานาม time
ตัวเลือกข้อ 3 brightly เป็นคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ทําหน้าที่ขยายคํากริยา smiled
ตัวเลือกข้อ 4 blooming เป็นคํากริยาแท้ รูป Ving

10.Chad was anxious____his take-home exam before the deadline.
1. about complete
2. to complete
3. for complete
4. completing
ตอบ 2 หน้า 285 ใช้ to + V1 หลังคําคุณศัพท์ (adj.) เหล่านี้

– Somsak was anxious to play the violin in a concert.

ถ้าไม่จํา เราดูว่าถ้ามีคําศัพท์อยู่หลัง verb to be (is, am, are, was, were) แสดงว่าเป็น คุณศัพท์ และดูตัวเลือกมีให้ตอบ to + V1 มั้ยถ้ามีตอบได้เลย เพราะออกทุกเทอม 1 ข้อ

11.At the market, the vendor displayed a_____of ripe strawberries.
1. basket
2. school
3. troop
4. bed
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ ใช้ a basket of ripe strawberries- สตรอเบอรี่สุกหนึ่งตระกร้า

12.The noise from your neighbors was too loud_____stay focused on your study.
1. for
2. if
3. when
4. to
ตอบ 4 หน้า 287 ใช้ to + V1 หลัง too และ enough
-He was too proud to ask for help. (too….. to + V1 จึงตอบ to stay)
-His idea was clear enough to understand.

13.I have____apples left in the fruit bowl.
1. much
2. a few
3. a little
4. a bit of
ตอบ 2 หน้า 99 – 101 คํานําหน้าคํานาม มีดังนี้
much, a little, a bit of, a great deal of + คํานามนับไม่ได้ ส่วน a few, ตัวเลขบอกจํานวนเช่น two, three + คํานามพหูพจน์
เช่น two apples, a few apples ตรงกับตัวเลือกข้อ 2

14.Martha wanted to apologize, since she didn’t intend____anyone with her comments.
1. to be offended
2. to have been offending
3. having been offended
4. to offend
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ กริยา intend ตามด้วย to + V1 จึงตอบ to offend

15.Jane wants to buy_____new car, but she can’t decide on____make or model.
1. the, (blank)
2. (blank), (blank)
3. the; a
4. a; the
ตอบ 4 ใช้ alan นําหน้าคํานามนับได้เอกพจน์ แสดงความหมายเป็นสิ่งหนึ่งโดยทั่ว ๆ ไป ไม่เจาะจง
เช่น- I want to buy a necktie. (ฉันต้องการซื้อเนคไทยสักเส้นหนึ่ง)
จากโจทย์ก็เช่นกัน buy a new car (ซื้อรถสักคัน) ช่องแรกตอบ 2 ก็เลือกตัวเลือกข้อ 4 ได้เลย ไม่ต้องดูหลัง

16.Despite his best efforts,
1. Jim could lift the heavy box barely.
2. barely, Jim could lift the heavy box.
3. Jim could barely lift the heavy box
4. barely could Jim lift the box heavy.
ตอบ 3 หน้า 301 -302 barely หมายถึง แทบจะไม่ ไม่ใคร่จะวางไว้หน้าคํากริยาแท้นั่นคือ วาง barely ไว้หน้ากริยา lift (ยก) จึงเป็น could barely lift (แทบจะไม่สามารถยกได้)

17.Jane wants to find_____new hobby for her son.
1. a
2. (blank)
3. the
4. some
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ ใช้ 2 แสดง สิ่งหนึ่ง จํานวนหนึ่ง โดยทั่ว ๆ ไป

18.Anna and Becky made the cake for their mother’s birthday ……..
1. herself
2. herselves
3. theirselves
4. themselves
ตอบ 4 หน้า 122 คําสรรพนามที่สะท้อนถึงตัวเอง เช่น myself, herself, himself, itself, themselves, ourselves โดยดูว่าประธานเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ จากโจทย์ประธาน Anna and Becky สองคนเป็น พหูพจน์ใช้ themselves เทียบตัวอย่างอื่น
Tom and Ann blamed themselves for the accident.
(ทอมและแอนโทษตัวเองเรื่องอุบัติเหตุ)

19.Liz walked____to the front row.
1. with straight
2. straight
3. by straight
4. too straight
ตอบ 2 หน้า 302 คํากริยาวิเศษณ์บางคํามีรูปคําเหมือนคุณศัพท์ ได้แก่

direct (directly)
late
right
fast
loud
tight
straight
hard
quick (quickly)
solo
wrong

Liz walked straight to the front row. (ลิซเดินตรงไปแถวหน้า)
straight เป็น adv. ทําหน้าที่ขยายกริยา walked ได้เลย

20.A: Which car is_____?
B:____car is black, and the white one is____.
1. your; Your; her
2. yours; My, hers
3. yours; Mine, hers
4. your; Yours, her
ตอบ 2 หน้า 117 – 118 บุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun)

ช่องแรกที่ให้เติมไม่มีคํานามตามหลัง ใช้ yours ส่วนช่องที่ 2 มีคํานาม car อยู่หลังใช้สรรพนาม
my car และช่องที่ 3 ไม่มีคํานามตามหลัง จึงตอบ hers ได้เลย ตรงตัวเลือกข้อ 2

21.Since the competition was fierce, the athletes trained_____for months.
1. intense
2. by intensely
3. intensely
4. too intense
ตอบ 3 เราดูตัวเลือกก่อนว่ามีความเป็นไปได้ในการตอบตัวเลือกไหนบ้าง จะเห็นว่าน่าจะคงเหลือตัวเลือก
ข้อ 1 และ 3 intense เป็น adj. และ intensely เป็น adv. แล้วหันมาหาคํากริยาว่าเป็นประเภทไหน ในข้อนี้ ให้กริยา trained มาเป็นกริยาทั่วไป ก็ตอบ adv. เพราะ adv. ทําหน้าที่ขยายกริยาทั่วไป

S + Verb ทั่วไป + adv.

เช่น Tom trained intensely for months. (ทอมฝึกอย่างจริงจังเป็นเวลาหลายเดือน)

22.I prefer____house, but my husband likes____one we saw yesterday.
1. this; that
2. these; those
3. that; this
4. (blank); this
ตอบ 1 คํานําหน้าคํานาม โดยหลักมีดังนี้
this / that + คํานามเอกพจน์
this = นี้ ใช้เมื่อคํานามอยู่ใกล้ผู้พูด
that = นั้น ใช้เมื่อคํานามอยู่ไกลจากผู้พูด
these/those + คํานามพหูพจน์

ช่องแรกที่ให้เติมมีคํานาม house เป็นเอกพจน์ตอบ this/that ไว้ก่อน ก็คือ this house
ส่วนช่องที่ 2 มีคําสรรพนาม one แทนคํานาม house (อันที่เราเห็นเมื่อวาน) แสดงกล่าวถึงอันหรือสิ่งที่อยู่ ไกลคืออันที่เราเห็นเมื่อวาน จึงตอบ that ตรงกับตัวเลือกข้อ 1

23.Which is correct?
1. Mom occasionally bakes.
2. His poem touched me deep.
3. Leena handed glassware careful.
4. (None is correct)
ตอบ 4 ถามว่าข้อไหนถูกต้อง ดูจากตัวเลือกจะเห็นมี occasionally, deep, careful แสดงถึงคําคุณศัพท์ และกริยาวิเศษณ์ และกริยาเป็นประเภทไหน ว่าให้มาถูกต้องมั้ย ก็ต้องดูสูตรง่าย ๆ ก่อน ดังนี้
1. S + Verb to be/ Vilk + adj.
2. S + Verb ทั่วไป + adv.
ตัวเลือกข้อ 1 มีกริยา bakes (ปิ้ง อบ) เป็นกริยาที่มีกรรมมารับ ฉะนั้นหลังประโยคไม่มีกรรมมารับจึงไม่ถูก ถ้าเป็น Mom occasionally bakes the bread.
ตัวเลือกข้อ 2 กริยา touched เป็นกริยาทั่วไป ตามด้วยกรรม (me) คั่นและหลังกรรมต้องเป็น adv. คือ deeply จึงจะถูกต้องเพราะทําหน้าที่ขยายกริยา touched
ตัวเลือกข้อ 3 ลักษณะเดียวกับตัวเลือกข้อ 2 คือมีกริยา handed เป็นกริยาทั่วไป มีกรรมมารับ หลังกรรมต้อง เป็น carefully จึงจะถูกต้อง ฉะนั้นใน 3 ตัวเลือกไม่มีข้อใดถูก จึงตอบตัวเลือกข้อ 4

24.Can you buy_____bread? We don’t have_____ left.
1. much; some
2. much; many
3. some; any
4. any; many
ตอบ 3 คํานําหน้าคํานาม much / many แสดงจํานวนมาก นิยมใช้ในประโยคคําถามหรือปฏิเสธ แต่ในประโยคคําถามแรกต้องการบอกให้ซื้อบ้างหรือส่วนหนึ่ง ใช้ some หรือ any ก็ได้ ในประโยคแรก ต้องการสื่อให้ซื้อขนมปังมีบ้าง) ใช้ some และประโยคที่ 2 เป็นประโยคปฏิเสธ นิยมใช้ any ถ้าประโยคบอก เล่านิยมใช้ some ฉะนั้นดูจากช่องที่ 2 ที่ให้เติมเป็นประโยคปฏิเสธ จึงตอบ any (โจทย์ต้องการสื่อว่า เรา เราไม่มีขนมเหลือเลย)

25.After a wonderful meal, every guest_____.
1. happy left
2. left happiness
3. happily leave
4. left happily
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 21 หรือ 23 กริยา left (leave) เป็นกริยาทั่วไป ต้องการคํากริยาวิเศษณ์ (adv.)
คือ happily มาขยายกริยา จึงตอบตัวเลือกข้อ 4

26.Can you spare____time? I have____questions to ask.
1. a little; a few
2. a few; a little
3. few; little
4. many; a few
ตอบ 1 คํานําหน้าคํานาม a little + คํานามนับไม่ได้ ในช่องแรก time เป็นคํานามนับไม่ได้จึงตอบ a little ส่วนตัวเลือกอื่น a few, few, many + คํานามพหูพจน์จึงไม่ถูกต้อง

27.It snows____during the winter time.
1. to continue
2. continually
3. continuity
4. with continually
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 21 หรือ 23 ประกอบ กริยา snows ต้องการคํากริยาวิเศษณ์ (adv) คือ continually มาขยาย

28.Tim is____firefighter, and he enjoys playing____basketball after work.
1. (blank); (blank)
2. a; (blank)
3. a; a
4. the; a
ตอบ 2 ใช้ a/an นําหน้าคํานามที่บอกอาชีพ เช่น a teacher, a doctor, an engineer, a
housewife, a firefighter (นักดับเพลิง อาจเดาลงท้ายด้วย -er or -ist มักเป็นอาชีพก็ได้) ส่วนหลังเกมกีฬา ไม่มี article นําหน้า เช่น football, basketball, hockey, volleyball, soccer เป็นต้น จึงตอบ blank

29.Tanya is always in_____.
1. activities political related
2. related politically activities
3. political activity related
4. politically related activities
ตอบ 4 เป็นเรื่องของคําที่มาทําหน้าที่ขยายคํานาม (activities) ซึ่งคําคุณศัพท์ (adj.) ทําหน้าที่นําหน้า
คํานามขยายคํานาม ก็คือ related เป็น adj ไว้ใกล้คํานาม และคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) politically มาขยาย adj. อีกที จึงเรียงตามลําดับดังนี้
adv. + adj. + คํานาม = politically related activities

30.____are going to the beach, and we want to invite____to join____.
1. We, you, us
2. We, yours, us
3. Us, you, we
4. Us, yours, we
ตอบ 1 ดูโครงสร้างข้อ 20 ประกอบ ช่องแรกขึ้นต้นประโยคให้ตอบในรูปประธานก็คือ We are
ช่องที่ 2 ให้ตอบหลังกริยา invite เป็นกริยามีกรรมตาม จึงตอบ you รูปกรรม และช่องที่ 3 ก็ตามหลังกริยา join ต้องการรูปกรรมเช่นกัน จึงตอบ us

31.Which is correct?
1. No one like to fall at university.
2. They enjoys a student-centered approach.
3. Neither the teacher nor the students want to go to school.
4. Some of the research conducted at the institute.

ตอบ 3 ถามว่าข้อไหนถูกต้อง
1. ผิดเพราะ No one ตามด้วยกริยาเอกพจน์ ต้องเป็น No one likes
2. ผิดเพราะประธาน They เป็นพหูพจน์ กริยาต้องพหูพจน์คือ enjoy
3. ถูกต้องเพราะ Neither….nor…. กริยาผันตามคํานามที่อยู่ใกล้คือ students เป็นพหูพจน์ ตามด้วยกริยา พหูพจน์ want จึงถูก
4. ผิด ตรง Some of + คํานามนับไม่ได้หรือคํานามนับได้พหูพจน์ จากโจทย์ the research เป็นคํานาม นับได้ จะต้องเป็น Some of the researches

32.Jane introduced___ to ____friends at the party.
1. me; her
2. I: hers
3. me; hers
4. l; her
ตอบ 1 หลังคํากริยา introduced ต้องการกรรม จึงตอบ me และช่องที่ 2 มีคํานาม friends อยู่หลัง จะใช้สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของที่มีคํานามตามหลังก็คือ her จึงตอบตัวเลือก 1

33.____of the marbles___on the table.
1. Some; is
2. Some; are
3. One; are
4. All; is
ตอบ 2 หน้า 333 ถ้าขึ้นต้นด้วยเหล่านี้ ตามด้วยคํานามพหูพจน์ กริยาที่ตอบก็เป็นพหูพจน์ด้วย เช่น

All, Both, Few, Many + คํานามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
Some, Several

นั่นคือ Some of + the marbles นามพหูพจน์ จึงตอบกริยาพหูพจน์คือ are

34.The game was____but we were rather____with the result.
1. excited; disappointing
2. excited; disappointed
3. exciting; disappointed
4. exciting; disappointing
ตอบ 3 หน้า 177 คุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย -ed, -ing ถ้าใช้กับคน หรือสิ่งมีชีวิต แสดงความรู้สึกใช้รูป – ed เช่น interested, surprised, bored (รู้สึกเบื่อ), disappointed (รู้สึกผิดหวัง) เป็นต้น ถ้าใช้กับสิ่งของหรือสิ่งไม่มีชีวิต ใช้รูป -Ving เช่น interesting (น่าสนใจ), boring (น่าเบื่อ) exciting (น่าตื่นเต้น) เราดูโจทย์ช่องแรกประธานเป็น The game (เกม) เป็นสิ่งของจึงตอบ exciting น่าตื่นเต้น และช่องที่ 2 ประธานเป็น we คน แสดงความรู้สึก จึงตอบ disappointed

35.The jury____custody to the uncle.
1. has awarded
2. is awarded
3. are awarded
4. awarding
ตอบ 1 ประธาน The jury (คณะลูกขุน) สามารถตีเป็นคํานามเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ขึ้นอยู่กับโจทย์ สําหรับข้อนี้ ต้องการสื่อ “คณะลูกขุนได้มอบสิทธิในการดูแลลุง” เราใช้กริยา has + V3 แสดงประธานเป็น ผู้แสดงอาการกระทําคือ has awarded ได้มอบสิทธิ ส่วนตัวเลือก 2 -3 ใช้ verb to be + V3 ประธานถูก กระทําไม่ถูกต้อง และข้อ 4 ใช้ Ving มาเลยก็ไม่ถูกต้อง

36.The traffic in the morning is___than in the afternoon.
1. the more busy
2. more busy
3. more busier
4. busier

ตอบ 4 ออกมาบ่อยมาก เมื่อเห็น than ให้ตอบขั้นกว่า แล้วดูตัวเลือกว่าให้คุณศัพท์ประเภทไหนมา ข้อนี้ คือ busy เมื่อทําเป็นขั้นกว่าต้องเปลี่ยน y เป็น 1 แล้วใส่ er อีกที จึงเป็น busier ถูกต้อง

37.The pair of scissors ____on the shelf near the window.
1. are
2. is
3. has
4. have
ตอบ 2 หน้า 350 คํานามที่มีความหมายเป็นคู่ เช่น jeans, trousers, pants, eyeglasses, gloves, scissors (กรรไกร), spectacles เป็นคํานามพหูพจน์ ตามด้วยกริยาพหูพจน์ แต่ถ้าใส่ The pair ไว้ ข้างหน้าจะตอบกริยาเอกพจน์ทันที ดูตัวอย่าง
The jeans are very comfortable to wear. (กางเกงยีนส์สวมใส่สบาย) กริยาพหูพจน์ are
This pair of scissors is very sharp. (กรรไกรคู่นี้คมมาก) กริยาเอกพจน์ is
ข้อนี้เช่นกันเมื่อใส่ The pair ข้างหน้าตอบกริยาเอกพจน์คือ is (ในความหมาย เป็น, อยู่ คือ) ไม่ใช้ has

38.The restaurant is____ than the ones in the city center. I think we’d better find
somewhere____for lunch.
1. more expensive; cheaper than
2. more expensive; cheaper
3. the more expensive, cheaper
4. expensive; cheaper than
ตอบ 2 เมื่อเห็น than ตอบขั้นกว่าข้างหน้าคือ more expensive ส่วนช่องที่ 2 ก็แสดงขั้นกว่าตามด้วย เพราะต้องการบอกถึงหาที่ราคาถูกกว่า ก็คือ cheaper ไม่ต้องมี than เพราะไม่ได้ตามหลังสิ่งของในการเปรียบเทียบ

39.Rita____one of those students who____to read history books.
1. is; like
2. is; likes
3. has; likes
4. have; like
ตอบ 2 หน้า 351 เมื่อมีคําว่า one of หมายถึง คนเดียว หรือสิ่งเดียว คํากริยาต้องเป็นเอกพจน์
เช่น
John is the only one of the athletes who has won the race.
จากโจทย์ประธาน Rita คนเดียวเอกพจน์ตอบ is และส่วนหลัง one of ก็ตอบกริยาเอกพจน์คือ likes

40.Which of the underlined word is an adjective?
1. A foolish girl cried easily.
2. That water bottle is very dirty.
3. A sharp knife is better than a blunt one.
4. Only a rich man can buy an expensive car.
ตอบ 2 คําที่ขีดเส้นใต้คําไหนเป็นคุณศัพท์ (adj.)?
1. easily ดูง่ายลงท้ายด้วย -ly มักเป็นคํากริยาวิเศษณ์ (adv.)
2. dirty เป็นคําคุณศัพท์ (adj.) ดูจากตามหลัง verb to be (is) และมี very เป็น adv. มาขยาย adj. อีกที
3. knife (มีด) เป็นคํานามดูจาก a + adj. + นาม = a sharp knife
4. buy เป็นคํากริยา ตามหลัง can + V1 = can buy

41.Many a child____about becoming a superstar one day.
1. have a dream
2. dream
3. dreams
4. dreaming

ตอบ 3 หน้า 333 เมื่อประธานเป็นคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาเอกพจน์

 

เช่น Nobody knows where the books are.
Many a boy studies very hard.
Each of the students hands in homework.
นั้นข้อนี้ใช้ Many a child ตอบกริยาเอกพจน์คือ dreams

42.The farmer has just sold____horse.
1. strong riding black a
2. a black strong riding
3. a strong black riding
4. riding a strong black
ตอบ 3 หน้า 188 เป็นการเรียงคุณศัพท์ที่มีคุณศัพท์มาขยายคํานามหลายตัว โดยวางไว้หน้าคํานาม คือ คํานามหลักจะอยู่ขวามือของเรา ส่วนหน้าคํานามจะเป็นคุณศัพท์เรียงลําดับ ดังนี้ ตามสูตร

คํานําหน้าคํานามขึ้นก่อนคือ a มาก่อน และตามด้วยบอกคุณภาพลักษณะคือ strong ตามด้วย black สี และนามขยายกับนามหลักคือ riding horse

43.The number of passengers walking Krabi____every year.
1. have increased
2. increases
3. increase
4. will be increased
ตอบ 2 หน้า 346 ขึ้นต้นด้วย The number of

A number of + นามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
The number of + นามพหูพจน์ + กริยาเอกพจน์

The number of + นามพหูพจน์ ตอบกริยาเอกพจน์คือ increases

44.We need____frames for our wedding photos.
1. white nice picture wooden
2. wooden picture white nice
3. picture wooden nice white
4. nice white wooden picture
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 42. ประกอบ
nice = adj. บอกลักษณะ ตามด้วยสีคือ white และ wooden เป็นนามขยาย picture

frames = กรอบรูป เป็นนามประชุม

45._____the first prize at the English linguistics contest this year.
1. Neither Ray won
2. For Ray won
3. Because Ray won
4. Ray won
ตอบ 4 ข้อนี้เป็นประโยคเดี่ยวที่ให้สังเกตว่าโจทย์ที่ให้มานั้นยังขาดประธานและคํากริยา ส่วนหลังเป็น
กรรมและส่วนขยาย ฉะนั้นต้องมีประธานคือ Ray และกริยาคือ won ได้เลย ถ้าใช้คําเชื่อม Neither, For, Because ประโยคจะมีสองตอนที่มีเครื่องหมายคั่นตรงกลางด้วย แต่โจทย์นี้ไม่มีแสดงว่าเป็นประโยคเดียว

46.Which of the following contains a transitive verb?
1. She looks nicer than last week.
2. her income has increased by 20%.
3. This apartment is a lot cheaper.
4. Diana runs a company.
ตอบ 4 ข้อไหนต่อไปนี้ที่มีกริยามีกรรม?
1. กริยา looks เป็นประเภท linking verb ซึ่งได้แก่ verb to be, feel, seem, keep, look, appear become, taste, smell เป็นต้นและตามด้วยคําคุณศัพท์ (adj.) nice หรือ nicer ขั้นกว่า
2. กริยา increased ตามด้วย by เป็นบุพบท เป็นกริยาไม่มีกรรม
3. กริยา is เป็น verb to be เป็นประเภท linking verb ตามด้วยส่วนขยายที่เป็นคํานาม
4. กริยา runs เป็นกริยามีกรรมเพราะมีคํานามตามคือ a company ถือว่าเป็นกรรม จึงตอบตัวเลือกข้อ 4

47.Which is correct?
1. You ever hear about digital currency.
2. To you ever hear about digital currency.
3. Are you ever heard digital currency?
4. Have you ever heard about digital currency?
ตอบ 4 การถามว่าคุณเคยได้ยินไหม เป็นการถามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีคําว่า ever (เคย) นั้นใช้ Present Perfect (has/have + V3) ตรงกับตัวเลือกข้อ 4 Have you ever heard ….?

48.”Ben lent me his car” The underlined word is a/an
1. indirect object
3. transitive verb
2. direct object
4. intransitive verb
ตอบ 1 จากประโยคที่ให้มา คําที่ขีดเส้นใต้เป็นคําอะไร
หน้า 215 กริยาบางตัวเป็นกริยาที่มีกรรม 2 ตัวมารับได้ (double transitive verb หรือ ditransitive) คือกรรมตรงและกรรมรอง โดยกรรมตรง (direct object) มักเป็นสิ่งของ และตามด้วยบุรพบท “tolfor” แล้วตามด้วยกรรมรอง ซึ่งเป็นมักเป็นคน (indirect object) ให้เรียง ตามลําดับคือ

S + กริยา + กรรมตรง (สิ่งของ) + to/for + กรรมรอง(คน)
หรือ S + กริยา + กรรมรอง (คน) + กรรมตรง (สิ่งของ)

Ben lent me his car.
lent เป็นกริยามีกรรมตามมา 2 ตัวคือ me (ฉัน เป็นคนถือว่าเป็นกรรมรอง (indirect object)
ส่วน his car (เป็นสิ่งของ) ถือว่าเป็นกรรมตรง (direct object)

49.Eita’s boyfriend bought_____.
1. her for a bouquet of tulips
2. a bouquet of tulips for her
3. a bouquet for tulips for me
4. a bouquet for her of tulips
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 48. ประกอบ

 

 

50.”My mom’s cooking always tastes amazing.” The underlined word is a/an_____.
1. transitive verb
2. linking verb
3. intransitive verb
4. direct object
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 46. ประกอบ กริยา tastes เป็น linking verb ตามด้วย adj. amazing

51.Which is correct?
1. The sun shines bright.
2. We enjoy play video games.
3. The Johnsons went park.
4. (None is correct.)
ตอบ 4 ข้อไหนถูกต้อง
1. ต้องเป็น The sun shines brightly. เพราะ brightly เป็น adv. ทําหน้าที่ขยายกริยา shines
2. ต้องเป็น We enjoy playing video games. เพราะ enjoy + Ving = enjoy playing
3. ต้องเป็น The Johnsons went to the park. กริยา went มี to ตาม แล้วจึงจะตามด้วยสถานที่

52.”They showed the kids a magic trick.” The underlined word is a/an____.
1. linking verb
2. indirect object
3. ditransitive verb
4. intransitive verb
ตอบ 3 คําที่ขีดเส้นใต้เป็นคําอะไร? ดูคําอธิบายข้อ 48. ประกอบ
กริยา showed ตามด้วย the kids (เด็ก ๆ เป็นคน) เป็นกรรมรอง และ a magic trick (เคล็ดลับมายากล) เป็นสิ่งของ เป็นกรรมตรง รวมกัน showed เป็นกริยาทวิกรรม (ditransitive verb) มีกรรม 2 ตัว

53.Which is a simple sentence?
1. The wedding party where I met Lucy was big.
2. Swimming is a kind of exercise that Mike likes.
3. Joan left before the sun rose.
4. Edward and Richard played soccer at the park.
ตอบ 4 ประโยคไหนเป็นประโยคใจความเดียว?
ถ้าเราเห็นประโยคที่มีคําเชื่อมความเช่น so, and, but, yet, nor เป็นสองประโยคเชื่อมต่อกันเรียกว่า compound sentence (ประโยคใจความรวม) แต่ถ้าเห็นมีคําเชื่อม who, whom, which, that, where, because, however, before, after เป็นต้นจะเป็น complex sentence (ประโยคใจความซ้อน) ถ้าเราเห็นประโยคที่มีกริยาประธานตัวเดียว กริยาตัวเดียว ก็คือ Simple Sentence
1. มี where บอกสถานที่เป็นประโยคความซ้อน (Complex sentence)
2. มี that …เป็นอนุประโยคขยายเป็นประโยคความซ้อน (Complex sentence)
3. มี before เป็นคําเชื่อมสองประโยค ถือเป็นประโยคความซ้อน (Complex sentence)
4. ประธานคือ Edward and Richard ใช้ and แบบหน้าคํานามหลังคํานาม รวมสองคนถือเป็นประธาน เดียว และมีกริยา played คําเดียว เป็นประโยคเดียวคือ simple sentence

54.Which of the underlined words is a direct object?
1. We told our neighbors a funny jokes.
2. She gave him a book.
3. He sent her a gift.
4. She bought a new phone.
ตอบ 2 คําที่ขีดเส้นใต้คําไหนเป็นกรรมตรง?
1. neighbors เป็นคน (เพื่อนบ้าน) ถือเป็นกรรมรอง (indirect object)
2. a book เป็นสิ่งของ เป็นกรรมตรง (direct object) มี him เป็นกรรมรอง
3. He เป็นคําสรรพนาม ขึ้นต้นประโยคทําหน้าที่เป็นประธาน
4. bought มาจาก buy เป็นคํากริยา (verb) และเป็นกริยามีกรรมเพราะตามด้วยคํานาม (a new phone)

55.Jane____to school every day.
1. walks
2. walking
3. walk
4. is walk
ตอบ 1 ประธาน Jane คนเดียวเป็นเอกพจน์ ตามด้วยกริยาเอกพจน์คือ walks เป็นกริยาแสดงอาการ
กระทํา เราไม่ใช้ is walk ไม่ถูกต้องใช้กริยา walks เอกพจน์ได้เลย

56.Mike and Joe were talking
1. in the basement yesterday quietly
2. quietly in the basement yesterday
3. yesterday in the basement quietly
4. quietly yesterday in the basement
ตอบ 4 หน้า 315 ตําแหน่งการวางคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ที่มาขยายคํากริยาสําหรับข้อนี้คือ ขยายกริยา was discussing ดูสูตร บอกอาการ บอกสถานที่ บอกเวลา
เรียง S + กริยา + (กรรม) + adv. อาการ + adv. สถานที่ + adv. บอกเวลา

Mike and Joe were talking quietly in the basement yesterday
adv บอกอาการ เช่นประเภทลงท้าย -ly = quietly, sweetly, happily เป็นต้น
adv บอกสถานที่ มักมี in + สถานที่หรือ at + สถานที่

adv บอกเวลา เช่น yesterday, tomorrow, every week เป็นต้น

57.Anna_____.
1. Jeffy appointed her new assistant
2. her new assistant Jeff appointed
3. appointed Jeffy her new assistant
4. appointed her new assistant Jeffy
ตอบ 3 หน้า 221 – 222 ถามว่าประโยคไหนมีส่วนขยายกรรม
วิธีดูถ้ามีส่วนขยายกรรม แสดงว่าข้างหน้าต้องมีกรรม แล้วตามด้วยส่วนขยายกรรม และกริยา พวกนี้มักจะเป็นประเภท appoint (แต่งตั้ง), elect (เลือกตั้ง), declare, proclaim (ประกาศ), prove (พิสูจน์) จะเรียงลําดับเป็นดังนี้

58″His new jacket feels soft and comfortable.” The underlined word is a/an ____.
1. direct object
2. intransitive verb
3. indirect object
4. linking verb
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 46. ประกอบ กริยา feel เป็น linking verb

59.Ronnie studied harder last semester,____he managed to get many A’s.
1. but
2. or
3. for
4. so
ตอบ 4 ข้อนี้ให้ตอบคําเชื่อมความ เราต้องรู้ความหมายของแต่ละคําเชื่อมว่าใช้ในกรณีไหน เช่น
ดูตาราง

“รอนนี่เรียนหนักขึ้นในภาคเรียนที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงสอบได้เกรด เอ หลายหลายวิชา
คําเชื่อมที่เข้ากับประโยคคือ SO = ดังนั้น

60.Which of the following contains an intransitive verb?
1. He bought a new car.
2. She painted the living room.
3. The chef prepared a special dish.
4. Gina runs in the park every evening.
ตอบ 4 ข้อไหนต่อไปนี้มีกริยาไม่มีกรรม?
1. กริยา bought มาจาก buy (ซื้อ) ตามด้วย a new car คํานาม ถือว่าเป็นกริยามีกรรม

2. painted ตามด้วยคํานาม the living room แสดงว่าเป็นกริยามีกรรม
3. prepared ตามด้วยคํานาม a special dish ถือว่าเป็นกริยามีกรรม
4. run ตามด้วยบุพบท in ไม่ได้ติดกับคํานาม ถือว่าเป็นกริยาไม่มีกรรม (intransitive verb)

61.My daughter wants to lose weight,____she always asks me to buy her dessert.
1. (blank)
2. yet
3. for
4. and
ตอบ 2 “ลูกสาวของฉันต้องการลดน้ําหนัก แต่เธอมักจะขอให้ฉันซื้อขนมหวานให้เธอประจํา” คําเชื่อมที่แสดงความขัดแย้งหรือแตกต่างก็คือ yet (แต่กระนั้น, แต่)

62.They____to consider the consequences before making decisions.
1. should
2. must
3. ought
4. may
ตอบ 3 กริยาช่วย should, must, may ตามด้วย V1 ไม่มี to ตาม
แต่ ought ต้องมี to + V1 ตามเสมอ เราจะเห็นในโจทย์หลังคําที่ให้เติมมี to consider แสดงว่าตอบ ought เพราะต้องมี to ตาม

63.Alan must turn in his paper today;____he’ll receive an F.
1. instead
2. therefore
3. otherwise
4. moreover
ตอบ 3 “วันนี้อลันต้องส่งรายงานของเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะได้ F
คําเชื่อม instead = แทนที่
therefore = ดังนั้น
therefore = ไม่เช่นนั้น, มิฉะนั้น
moreover = มากไปกว่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น

64.Jane____her work early if she wants some free time in the evening.
1. shoulds finish
2. should finishes
3. should finish
4. should finishing
ตอบ 3 กริยาช่วย should ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่มี to นั่นคือ should finish กริยา should รูปเพิ่ม ไม่มีลงท้าย s และ + V1 คือ finish ไม่ต้องมี s หรือ ing

65.Molly loves dancing;______, she’s saving money for dancing classes.
1. accordingly
2. nevertheless
3. although
4. similarly
ตอบ 1 “มอลลี่ชอบเต้นรํา ดังนั้นเธอจึงออมเงินสําหรับการเรียนเต้นรํา”
คําเชื่อม accordingly = ดังนั้น
nevertheless = แต่กระนั้นก็ตาม
although = ถึงแม้ว่า
similarly = ในทํานองเดียวกัน

66.I____visit Paris someday.
1. would like
2. would like to
3. would to
4. would to like
ตอบ 2 กริยา would like ตามด้วย to + V1 = would like to visit

67.The sun was setting,____the sky turned shades of gray and orange.
1. and
2. or
3. yet
4. for
ตอบ 1 “พระอาทิตย์กําลังลับขอบฟ้า และท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทาและสีส้ม”
คําเชื่อม and = และ เป็นการเพิ่มเติมข้อมูล
or = หรือ มิฉะนั้น เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
yet = แต่กระนั้น
for = เพราะว่า

68.Students____their phones during the exam.
1. must use not
2. must not use
3. must not using
4. not must using
ตอบ 2 กริยาช่วย must ทําเป็นปฏิเสธ ใส่ not หลัง must และตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่มี to จึงเป็น
must not + V1 = must not use

69._____it rains tomorrow, we’ll have to cancel our hiking trip.
1. How
2. If
3. Despite
4. Moreover
ตอบ 2 “ถ้าพรุ่งนี้ฝนตก เราจะต้องยกเลิกทริปเดินป่าของเรา”
how = อย่างไร
If = ถ้า ถ้าหากว่า
despite =ถึงแม้ว่า ทั้ง ๆ ที่
moreover = ยิ่งไปกว่านั้น มากไปกว่านั้น

70.Martin believed only____.
1. he saw what himself
2. what he saw himself
3. he saw whether himself
4. what he saw that himself
ตอบ 2 เมื่อมีคําอนุประโยคที่ให้เราเลือก what whether นั่น คําที่เข้ากับประโยคคือ what…. เป็นอนุ ประโยคที่ตามหลังคํากริยา believe ก็คือกรรม แต่ต่อด้วยกลุ่มคําเราเรียกว่า noun clause ที่ทําหน้าที่เป็น กรรม ตามหลังกริยา เริ่มด้วย what S+ กริยา ได้เลย ไม่ต้องมี that มาซ้อนอีกนะ นั่นคือ what he saw himself (มาร์ตินเชื่อสิ่งที่เขาเห็นด้วยตัวเขาเองเท่านั้น) ตรงกับตัวเลือกข้อ 2

71.We___: the event didn’t start on time.
1. need have rushed
2. need rushed
3. don’t need have rushing
4. needn’t have rushed
ตอบ 4 หน้า 256 กริยาช่วย need ถ้าเป็นปัจจุบันจะ need + V1 ถ้าเป็นรูปอดีตจะใช้ need have V3 รูปปฏิเสธ เป็น needn’t have + V3 สําหรับข้อนี้เพราะประโยคส่วนหลังมีอดีต โดยดูจากกริยา didn’t แสดง ว่าตอบรูปอดีตและปฏิเสธ เพราะประโยคกล่าวว่า “เราไม่จําเป็นต้องรีบ เพราะการแสดงไม่ได้เริ่มตรงเวลา จึงใช้ needn’t have rushed

72.____Dan finished reading, he went to the canteen for dinner.
1. Although
2. Before
3. While
4. That
ตอบ 2 ให้เติมคําเชื่อม เราต้องตีความในประโยคให้ออกว่า ประโยคเป็นเหตุเป็นผลหรือแสดงความแย้ง หรือบอกลําดับเหตุการณ์ เป็นต้น จากประโยค “ก่อนแดนจะอ่านหนังสือจบ เขาก็ไปทานอาหารเย็นที่โรง อาหาร” แสดงเหตุการณ์ทําก่อนหลัง จึงตอบ Before = ก่อน ส่วน Although = ถึงแม้ว่า แสดงความแย้ง While = ในขณะที่ และ That = ที่ซึ่ง ที่ซึ่ง…บอกอนุประโยค

73.I promise I____you.
1. won’t disturb
2. not will disturb
3. won’t disturbing
4. not will disturbing
ตอบ 2 หน้า 257 กริยาช่วย will และ shall ซึ่ง will + V1 รูปปฏิเสธ will not รูปย่อเป็น won’t + V1 โดย will ใช้แสดงถึงการให้สัญญา แต่ไม่ต้องดูความหมายก็ได้นะ ใช้โครงสร้าง will not + V1 รูปย่อเป็น won’t + V1 = won’t disturb ตรงกับตัวเลือกข้อ 1

74.Ross arrived at the hotel-later than expected____ the traffic was terrible.
1. unless
2. so that
3. while
4. because
ตอบ 4 “รอสมาถึงโรงแรมช้ากว่าที่คาดเพราะการจราจรติดขัด”
คําเชื่อม unless = นอกเสียจาก
so that = เพื่อว่า
while = ในขณะที่
because = เพราะ

75.He____a tie to the casual meeting.
1. not does have to wear
2. doesn’t have to wear
3. has to not wear
4. to not have wear
ตอบ 2 หน้า 253 เป็นเรื่องกริยาช่วย must กับ have to ตัวเลือกเป็น have to ถ้าเป็นปฏิเสธ ต้องใช้
verb to do มาช่วยนั่นคือใช้ does not have to + V1 = doesn’t have to wear ตรงกับตัวเลือกข้อ 2

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Choose the best answer.

76.In a movie, actors take on different____ to tell a story.
1. records
2. ropes
3. recipes
4. roles
ถาม ในภาพยนตร์ นักแสดงจะมีบทบาทที่แตกต่างกันในการบอกเล่าเรื่องราว
ตอบ 4 1. บันทึก 2. เชือก 3. สูตรอาหาร 4. บทบาท
มาจากบทที่ 1 ถ้าไม่แปลข้อนี้เลย เราก็สามารถคาดเดาจากตัวเลือกว่าคําศัพท์ที่เรามีเรียน ในตํารา ENG 1001 มีตัวเดียวคือ role = บทบาท ซึ่งมักใช้กับโจทย์การแสดง the play)

77.Business____often requires that applicants send a thank-you note after a job interview to express appreciation for the opportunity.
1. members
2. time
3. etiquette
4. activity
ถาม มารยาททางธุรกิจมักกําหนดให้ผู้สมัครส่งข้อความขอบคุณหลังเลิกงานสัมภาษณ์เพื่อแสดงความ
ขอบคุณสําหรับโอกาสนี้
ตอบ 3 1. สมาชิก 2. เวลา 3. มารยาท/ธรรมเนียมปฏิบัติ 4. กิจกรรม
บทที่ 7 etiquette = มารยาทธรรมเนียมปฏิบัติที่ควรทํา

78.There was a brief____in his voice before he answered the question.
1. hesitation
2. assassination
3. demolition
4. premonition
ถาม น้ำเสียงของเขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบคําถาม
ตอบ 1 1. ความลังเล 2. การลอบสังหาร 3.การรื้อถอน 4. ลางสังหรณ์
บทที่ 1 hesitation = ความลังเล รีรอ

79.Effective communication involves not only words but also nonverbal _____.
1. suggestions
2. expressions
3. professions
4. footsteps
ถาม การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับคําพูดเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการแสดงออก
ทางอวัจนภาษาด้วย
ตอบ 2 1. การแนะนํา 2. การแสดงออก 3. อาชีพ 4. การเจริญรอยตาม

บทที่ 7 expressions = การแสดงออก สิ่งที่เราพูดหรือเขียนเพื่อแสดงว่าเราคิดและรู้สึกอย่างไร

80. The new smartphone model is much better than its_____.
1. decorator
2. predecessor
3. ambassador
4. governor
ถาม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นั้นดีกว่ารุ่นก่อนมาก
ตอบ 2 1. มัณฑนากร 2. ผู้ที่อยู่มาก่อน 3. ทูต 4. ผู้ปกครอง
บทที่ 1 ถ้าไม่แปลเลยดูตัวเลือกจะมีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ตัวเดียวคือ predecessor = ผู้ที่อยู่มา
ก่อน สิ่งที่อยู่ก่อน หรือบรรพบุรุษ

81.If we can teach children____from a young age, they can learn to develop valuable life skills.
1. independence
2. delivery
3. beliefs
4. restaurant
ถาม หากเราสามารถสอนความเชื่อให้เด็กๆ ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาจะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาอย่างมี
คุณค่าทักษะชีวิต
ตอบ 3 1. เสรีภาพ 2. การจัดส่ง 3. ความเชื่อ 4. ภัตตาคาร
บทที่ 7 beliefs = ความเชื่อความศรัทธา

82.The government’s goal is to promote____for all citizens.
1. severity
2. prosperity
3. gravity
4. identity
ถาม เป้าหมายของรัฐบาลคือการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้กับประชาชนทุกคน
ตอบ 2 1. ความรุนแรง 2. ความเจริญรุ่งเรือง 3. แรงโน้มถ่วง 4. เอกลักษณ์
บทที่ 1 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ prosperity = ความเจริญรุ่งเรือง

83.Everyone here is entitled to express their____freely
1. principles
2. opinion
3. delivery
4. baby-sitting
ถาม ทุกคนที่นี่มีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
ตอบ 2 1. หลักการ/ทฤษฎี 2. การแสดงความคิดเห็น 3. การจัดส่ง 4. การเลี้ยงเด็ก
บทที่ 7 opinion = ความคิดเห็น

84.She is very ____and wants to become a successful doctor.
1. delicious
2. anonymous
3. spontaneous
4. ambitious
ถาม เธอมีความทะเยอทะยานมากและอยากเป็นแพทย์ที่ประสบความสําเร็จ
ตอบ 4 1. อร่อย 2. ความหมายตรงกันข้าม 3. โดยธรรมชาติ 4. ความทะเยอทะยาน
บทที่ 2 ดูจากตัวเลือกมีเรียนคําศัพท์วิชานี้ตัวเดียวคือ ambitious = ความทะเยอทะยาน

85.The HR manager will evaluate all the applicants’ qualifications to_____ the most
suitable candidates for the job.
1. continue
2. boost
3. determine
4. improve
ถาม ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลจะประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครทั้งหมดเพื่อพิจารณาให้ได้มากที่สุด
ผู้สมัครที่เหมาะสมสําหรับงาน

ตอบ 3 1. ดําเนินต่อไป 2. สนับสนุน 3. ประเมิน ตัดสิน 4. ปรับปรุงให้ดีขึ้น
บทที่ 8 determine = ประเมิน ตัดสิน

86.The fans caused a____after their team lost the championship match.
1. rainbow
2. reality
3. riot
4. radar
ถาม แฟนบอลก่อจลาจลหลังทีมพ่ายแชมป์
ตอบ 3 1. รุ้งกินน้ำ 2. ความแท้จริง 3. การจลาจล 4. เรดาร์
บทที่ 2 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ riot = การก่อการจลาจล

87.Adam has proposed new security measures to____protection against cyberattacks.
1. strengthen
2. brake
3. compose
4. experience
ถาม อดัมได้เสนอมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่เพื่อเสริมสร้างการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
ตอบ 1 1. ทําให้แข็งแรงขึ้น 2. แตกหัก หยุด 3. ประกอบด้วย 4. ประสบการณ์
บทที่ 8 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ strengthen = เสริมสร้าง ทําให้แข็งแรงขึ้น

88.The company hired several____for the summer to help with projects.
1. interns
2. insects
3. incidents
4. interviews
ถาม บริษัทได้จ้างนักศึกษาฝึกงานจํานวนมากในภาคฤดูร้อนเพื่อช่วยในโครงการต่าง ๆ
ตอบ 1 1. นักศึกษาฝึกงาน 2. แมลง 3. เหตุการณ์ 4. สัมภาษณ์
บทที่ 2 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ interns = นักศึกษาฝึกงาน

89.The elderly couple walked____to catch the train, which was about to depart.
1. compelling
2. specially
3. formally
4. briskly
ถาม สามีภรรยาสูงอายุเดินเร็วเพื่อขึ้นรถไฟที่กําลังจะออกเดินทาง
ตอบ 4 1. เป็นที่น่าเชื่อถือ 2. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3. เป็นทางการ 4. อย่างเร็ว
บทที่ 8 มีเรียนตัวเลือกข้อ 1 และ 4 แต่ถ้าคู่กับคําว่าเดิน walked briskly ก็ตอบตัวนี้

90.We need to____our daughter in a new school when we move.
1. enroll
2. engrave
3. enrage
4. endure
ถาม เราจําเป็นต้องลงทะเบียนเรียนลูกสาวของเราในโรงเรียนใหม่เมื่อเราย้าย
ตอบ 1 1. ลงทะเบียน 2. แกะสลัก 3. โกรธเคือง 4. ทนทาน
บทที่ 2 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ enroll = ลงทะเบียน

91.Because of the severe flooding, at the outdoor events will be____until next weekend.
1. postponed
2. benefited
3. boosted
4. prevented
ถาม เนื่องจากน้ำท่วมหนักทําให้งานกลางแจ้งกถูกเลื่อนออกไปเป็นสุดสัปดาห์หน้า
ตอบ 1 1. เลื่อนออกไป 2. ข้อดี ประโยชน์ 3. ส่งเสริม 4. ป้องกัน
บทที่ 8 ถ้าโจทย์เกี่ยวน้ำท่วม รถติด เที่ยวบิน ก็คาดเดาคําว่า postpone = เลื่อน

92.Doctors are____ for their dedication to helping others.
1. repulsive
2. reckless
3. redundant
4. respected
ถาม แพทย์ได้รับความเคารพในการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ตอบ 4 1. น่ารังเกียจ 2. ประมาท 3. ซ้ำซ้อน 4. เป็นที่เคารพ รักใคร่
บทที่ 2 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ respected = สําคัญและเป็นที่เคารพ

93.If the country’s monetary policy is___it will have impacts on the economy.
1. tightening
2. pointing
3. meaning
4. compelling
ถาม หากนโยบายการเงินของประเทศมีความเข้มงวดก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ตอบ 1 1. จํากัด 2. ชี้ประเด็น 3. ความหมาย 4. เป็นที่น่าเชื่อถือ
บทที่ 8 มีเรียนตัวเลือกข้อ 1 และ 4 ถ้ากล่าวถึงเศรษฐกิจ เช่น เศรษฐกิจรัดตัว เข้มงวด ก็ใช้ tightening = จํากัด เข้มงวด แต่ถ้ากล่าวถึงโครงการ (project) ก็น่าเชื่อถือ

94.In a group project, everyone has a ____to do their part.
1. community
2. responsibility
3. nationality
4. fertility
ถาม ในโครงการกลุ่ม ทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของตน
ตอบ 2 1. ชุมชน 2. ความรับผิดชอบ 3. เชื้อชาติ 4. ความอุดมสมบูรณ์
บทที่ 7 มีเรียนตัวเลือกข้อ 2 และ 4 แต่กล่าวถึง project ก็คู่กับความรับผิดชอบ แต่ถ้ากล่าวถึงดินหรือที่ดิน (land) ก็มักคู่กับ fertility

95. Bob knew that he had to answer the questions with____.
1. dislike
2. position
3. failure
4. honesty
ถาม บ๊อบรู้ว่าเขาต้องตอบคําถามด้วยความซื่อสัตย์
ตอบ 4 1. ไม่ชอบ 2.ตําแหน่ง 3. ความล้มเหลว 4.ความซื่อสัตย์
บทที่ 9 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ honesty = ความซื่อสัตย์ จริงใจ

96.If you don’t want your clothes to____it’s best to wash them in cold water.
1. shrink
2. skip
3. sparkle
4. sway
ถาม หากคุณไม่อยากให้เสื้อผ้าหดตัว ทางที่ดีควรซักในน้ำเย็น
ตอบ 1 1. หด 2. ข้าม 3. ประกายไฟ 4. แกว่งไปมา
บทที่ 3 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ shrink = หด ถอยห่าง 3

97.Some of my friends have a___about female leadership.
1. stereotype
2. terrible
3. learning
4. involvement
ถาม เพื่อนของฉันบางคนมีทัศนคติแบบเก่าเกี่ยวกับการเป็นผู้นําของผู้หญิง
ตอบ 1 1. กรอบประเพณีเก่า ๆ 2. น่ากลัว 3. เรียนรู้ 4. ความเกี่ยวพัน
บทที่ 9 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ stereotype= กรอบประเพณีเก่า ๆ ที่ไม่เปลี่ยน

98.The sunsets at the beach make the sky____with beautiful colors.
1. grant
2. glow
3. grip
4. give

ถาม พระอาทิตย์ตกที่ชายหาดทําให้ท้องฟ้ามีสีสันสวยงาม
ตอบ 2 1. อนุญาต 2. สว่างไสว 3. จับ ด้ามจับ 4. ให้

99.I told my cousins to see me at the____on my graduation day.
1. landscape
2. campus
3. construction
4. place
ถาม ฉันบอกลูกพี่ลูกน้องให้มาพบฉันที่มหาวิทยาลัยในวันรับปริญญา
ตอบ 2 1. ทิวทัศน์ 2. บริเวณมหาวิทยาลัย 3. การก่อสร้าง 4. สถานที่
บทที่ 9 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ campus = วิทยาเขต มหาวิทยาลัย

100. She was willing to____her time to help a friend in need.
1. scream
2. speak
3. sacrifice
4.savor
ถาม เธอเต็มใจสละเวลาเพื่อช่วยเพื่อนที่ขัดสน
ตอบ 3 1. กรีดเสียงร้อง 2. พูด 3. เสียสละ 4. สมรส
บทที่ 3 คาดเดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ sacrifice = ความเสียสละ

101. Maintaining students’____in a large classroom is a challenging task for teachers.
1. motivation
2. consideration
3. consumption
4. misconception
ถาม การรักษาแรงจูงใจของนักเรียนในห้องเรียนขนาดใหญ่ถือเป็นงานที่ท้าทายสําหรับครู
ตอบ 1 1. แรงจูงใจ 2. การพิจารณา 3. การบริโภค 4. การเข้าใจผิด
บทที่ 10 มีเรียนตัวเลือกข้อ 1 และ 4 motivation = การกระตุ้น ปลุกเร้า แรงจูงใจ

102.In the countryside, you can find an___ of fresh fruits and vegetables.
1. announcement
2. argument
3. ambulance
4. abundance
ถาม ในชนบทคุณจะพบผักและผลไม้สดมากมาย
ตอบ 4 1. การประกาศ 2. การโต้เถียง 3. รถพยาบาล 4. อุดมสมบูรณ์ มากมาย
บทที่ 4 เดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวในวิชานี้ คือ abundance = อุดมสมบูรณ์ มากมาย

103. We think it’s_____buying gold bars for an investment.
1. conscious
2. meaningful
3. eternal
4. worth
ถาม เราคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะซื้อทองคําแท่งเพื่อการลงทุน
ตอบ 4 1. มีสติ 2. มีความหมาย 3. นิรันดร ไม่เปลี่ยนแปลง 4. คุ้มค่า มีมูลค่า
บทที่ 10 worth = value = คุ้มค่า

104. The fishermen dock their boats at the____every evening.
1. hike
2. hammer
3. hotel
4. harbor
ถาม ชาวประมงจะจอดเรือที่ท่าเรือทุกเย็น
ตอบ 4 1. เดินป่า 2. ค้อน 3. โรงแรม 4. ท่าเรือ

105.Matt wants to____ professional advice to help him overcome his hallucinations.
1. achieve
2. attack
3. affect
4. seek

ถาม แมตต์ต้องการขอคําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้เขาเอาชนะอาการประสาทหลอนได้
ตอบ 4 1. บรรลุผล 2. โจมตี 3. มีผลต่อ 4. ขอ เสาะหา
บทที่ 10 มีเรียนตัวเลือกข้อ 3 และ 4 แต่ตอบ seek คู่ advice = เสาะหา ค้นหา ขอ

106. My ____vacation is relaxing on a sunny beach.
1. ideal
2. ironic
3. icy
4. innocent
ถาม วันหยุดพักผ่อนในอุดมคติของฉันคือการพักผ่อนบนชายหาดที่มีแสงแดดสดใส
ตอบ 1 1. อุดมคติ 2. เยาะเย้ย 3.น้ำแข็ง 4. ใสซื่อ บริสุทธิ์
บทที่ 4 มีเรียนตัวเลือกที่ 1 และ 2 แต่คําศัพท์ idea = ดีเลิศ อุดมคติ

107.The footage showed a bear cub____ a human to ask for food.
1. walking
2. approaching
3. believing
4. admiring
ถาม ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นลูกหมีเข้าใกล้มนุษย์เพื่อขออาหาร
ตอบ 2 1. เดิน 2. เข้าใกล้ 3. เชื่อ 4.ชื่นชม
บทที่ 10 เดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ approach = come closer = เข้าใกล้

108.The school project will____working with a team of classmates.
1. inflate
2. inherit
3. involve
4. inspect
ถาม โครงการโรงเรียนจะเกี่ยวข้องกับการทํางานร่วมกับทีมเพื่อนร่วมชั้น
ตอบ 3 1. พอง 2. ได้รับมรดก 3. เกี่ยวพัน 4. ตรวจสอบ
บทที่ 10 เดาได้มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวคือ involve = เกี่ยวข้อง พัวพัน

109.It is widely accepted that corruption in any form should be____.
1. inventive
2. eradicated
3. preferred
4. interpreted
ถาม เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางต่อการทุจริตทุกรูปแบบควรได้รับการกําจัดให้สิ้นซาก
ตอบ 2 1. ประดิษฐ์ 2. กําจัดให้สิ้นซาก 3. ที่ต้องการ 4. แปลความ
บทที่ 11 มีเรียนตัวเลือกข้อ 2 และ 4 ตอบคําศัพท์ eradicated = กําจัดให้สิ้นซาก

110.She didn’t____a single word during the entire meeting.
1. upset
2. utter
3. unload
4. urinate
ถาม เธอไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คําเดียวตลอดการประชุม
ตอบ 2 1. หงุดหงิด 2. พูด เปล่งเสียง 3. ยกเลิกการโหลด 4. ปัสสาวะ
บทที่ 4 มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวในวิชานี้คือ utter = speak = พูด เปล่งเสียง

111.The police have____about the suspect’s motive.
1. fulfilled
2. accommodated
3. reflected
4. speculated
ถาม ตํารวจได้คาดเดาเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ต้องสงสัย
ตอบ 4 1. ทําให้สําเร็จ 2. ที่พัก 3. สะท้อนให้เห็น 4. คาดเดา
บทที่ 11 speculated = ครุ่นคิด ไตร่ตรอง คาดการณ์

112. The library is a great____of information for students.
1. smile
2. source
3. station
4. signature
ถาม ห้องสมุดเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีเยี่ยมสําหรับนักศึกษา
ตอบ 1. ยิ้ม 2. แหล่ง 3. สถานี ที่ตั้ง 4. ลายเซ็น
บทที่ 5 มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวในวิชานี้คือ Source = แหล่งที่มา

113.Can you help me____the statistical results I found in my research?
1. interpret
2. guess
3. anticipate
4. succeed
ถาม คุณช่วยตีความผลลัพธ์ทางสถิติที่พบในงานวิจัยของฉันได้ไหม
ตอบ 1 1. ตีความ 2. เดา 3. คาดการณ์ 4. ประสบผลสําเร็จ
บทที่ 11 มีเรียนตัวเดียวคือ interpret = translate = แปลความ ตีความ

114.The possibilities in life are____if you believe in yourself.
1. lazy
2. loud
3. limitless
4. laughable
ถาม ความเป็นไปได้ในชีวิตนั้นไร้ขีดจํากัดหากคุณเชื่อมั่นในตัวเอง
ตอบ 3 1. ขี้เกียจ 2. เสียงดัง 3. ไร้ขีดจํากัด 4. สามารถหัวเราะ
บทที่ 5 มีเรียนตัวเดียวคือ limitless = ไม่มีขีดจํากัด

115.The roof of my newly renovated house___during the snow storm last night.
1. constructed
2. controlled
3. comprehended
4. collapsed
ถาม หลังคาบ้านที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ของฉันพังทลายลงมาในช่วงพายุหิมะเมื่อคืนนี้
ตอบ 4 1. ก่อสร้าง2. ควบคุม 3. เป็นที่เข้าใจ 4. พัง ทรุด
บทที่ 12 มีเรียนคําศัพท์ตัวเลือกข้อ 3 -4 ตอบข้อ 4 collapse = ทรุดลง พังทลาย

116. TV commercials can be____in making people want to buy products.
1. insignificant
2. influential
3. incompetent
4. insensitive
ถาม โฆษณาทางทีวีสามารถมีอิทธิพลในการทําให้ผู้คนต้องการซื้อสินค้า
ตอบ 2 1. ไม่มีนัยสําคัญ 2. มีอิทธิพล 3. ไร้ความสามารถ 4. ไม่หวั่นไหว
บทที่ 5 มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ตัวเดียวคือ influential = มีอิทธิพล

117. The country’s political ____certainly impacted its economic and social stability.
1. convention
2. advancement
3. occasion
4. upheaval
ถาม การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
อย่างแน่นอน
ตอบ 4 1. ธรรมเนียมปฏิบัติ 2. ความก้าวหน้า 3. โอกาส 4. การเปลี่ยนแปลง
บทที่ 12 upheaval = การเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน

118.When you buy a house, you become the owner of the____.
1. property
2. potential
3. protest
4. pollution

ถาม เมื่อคุณซื้อบ้าน คุณจะกลายเป็นเจ้าของทรัพย์สิน
ตอบ 1 1. ทรัพย์สิน 2. ศักยภาพ 3. ประท้วง 4. มลพิษ ทรัพย์สิน
บทที่ 5 เดาได้มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ตัวเดียวคือ property

119. His____led him to explore the mysterious cave in the woods.
1. carry on
2. corporation
3. currency
4. curiosity
ถาม ความอยากรู้อยากเห็นของเขาทําให้เขาได้สํารวจถ้ำลึกลับในป่า
ตอบ 4 1. ดําเนินไป 2. ความร่วมมือ 3. กระแสเงินตรา 4. ความอยากรู้อยากเห็น
บทที่ 5 เดาได้มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ตัวเดียวคือ curiosity = ความอยากรู้อยากเห็น

120.According to the recent____record, it shows the evidence that the earth’s temperature
is rising.
1. successional
2. geological
3. fertile
4. distressing
ถาม ตามบันทึกทางธรณีวิทยาล่าสุด แสดงให้เห็นหลักฐานว่าอุณหภูมิโลกกําลังเพิ่มสูงขึ้น
ตอบ 2 1. ความต่อเนื่อง 2. เกี่ยวกับธรณีวิทยา 3. อุดมสมบูรณ์ 4. น่าวิตก
บทที่ 12 มีเรียนคําศัพท์ตัวเลือกที่ 2 และ 3 แต่ถ้ากล่าวถึง earth (โลก) ก็เข้ากับคําว่า geological = ทางธรณีวิทยา

ENG1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน s/2565

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2565
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน
Choose the correct answer.
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)

1.I love____and___.
1. potato; tomato
2. potatos; tomatos
3. potatoes; tomato
4. potatoes; tomatoes
ตอบ 4 หน้า 38 คํานามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย -0 และหน้า-0 เป็นพยัญชนะ ให้เติม -es เมื่อเป็นพหูพจน์ เช่นคํานาม hero – heroes, mango-mangoes, potato – potatoes, tomato – tomatoes เป็นต้น จากประโยคว่าชอบมันฝรั่งและมะเขือเทศ ก็ต้องเป็นคํานามพหูพจน์หลาย ๆ

2.He plans to be____teacher in the future.
1. a
2. (blank)
3. the
4. an
ตอบ 1 หน้า 59 ใช้ “a” หรือ “an” หน้าคํานามที่แสดงอาชีพเสมอ และมักอยู่หลัง verb to be (be, is, am, are, was, were) เช่น
– I am a nurse. (ฉันเป็นนางพยาบาล)
– He plans to be a teacher in the future. (เขาวางแผนที่จะเป็นครูในอนาคต)

3.I go to school on____foot.
1. (blank)
2. a
3. the
4. an
ตอบ 1 หน้า 70 สํานวนต่าง ๆ ที่มีโครงสร้าง บุพบท + นาม ซึ่งมักเป็นการเดินทาง เช่น by airplane (โดยเครื่องบิน), by bus (โดยรถยนต์), by train (โดยรถไฟ),by plane (ทางเครื่องบิน), by express mail (ทางเมล์ด่วน), by post (ทางไปรษณีย์) ส่วนข้อนี้
They went on foot. (เดินไป) ใช้ on foot ไม่ต้องมี article ใด ๆ มาแทรกจึงตอบ blank

4.She enjoys traveling by____plane.
1. a
2. (blank)
3. the
4. an
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3 ประกอบ

5.____sun yesterday was very hot;____moon however was very large.
1. The; (blank)
2. (blank); the
3. The; the
4. (blank); a
ตอบ 3 หน้า 65 คํานามที่มีอยู่สิ่งเดียว อันเดียว และผู้คนต้องเกี่ยวข้องด้วยกัน ใช้ “the” นําหน้านาม เช่น the sun, the moon, the stars, the earth, the universe หรือทิศต่าง ๆ เช่น the north, the south, the east, the west เป็นต้น

6.George enjoys playing____piano.
1. a
2. (blank)
3. an
4. the
ตอบ 4 หน้า 68 ใช้ “the” นําหน้านามที่เป็นชื่ออุปกรณ์ดนตรีชนิดต่าง ๆ เช่น the guitar, the piano, the violin, the flute (ขลุ่ย), the saxophone, the xylophone (ระนาด) เป็นต้น

7.I usually have____lunch at 2 p.m. and skip____dinner.
1. a; a
2. (blank); (blank)
3. a; the
4. the; the
ตอบ 2 ชื่อมื้ออาหาร 3 มื้อ ไม่มี article นําหน้า เช่น breakfast, lunch, dinner

8.My aunt has____flu.
1. the
2. (blank)
3. a
4. an
ตอบ 1 หน้า 60 โรคต่าง ๆ (ที่ไม่ใช่ความเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ) จะไม่มี article นําหน้า เช่น AIDS, heart disease (โรคหัวใจ), allergies (โรคภูมิแพ้), flu หรือ influenza (โรคไข้หวัดใหญ่), malaria (โรคไข้มาเลเรีย), measles (โรคหัด), cancer (โรคมะเร็ง), mumps (โรคคางทูม) แต่ถ้าเป็นโรคไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นหวัด จะมี “a” นําหน้า เช่น a rash (เป็นผื่น คัน), a cold (เป็นหวัด), a cough (ไอ), a headache (ปวดศีรษะ), a stomachache (ปวด ท้อง), a sore throat (เจ็บคอ)

9.The movie was____and the environment was_____.
1. good; wonderful
2. good; wonderfully
3. well; wonderful
4. well; wonderfully
ตอบ 1 หน้า 165 คําคุณศัพท์ (adj.) จะตามหลัง verb to be และหลัง linking verb ซึ่งได้แก่ (be, is, am, are, was, were, feel, look, seem, keep, taste, smell, become, appear, remain, stay ) ดูสูตร
1. S + verb to be + adj.
2. S + verb to be + adv. + adj.
ข้อนี้มีverb to be (was) เป็น linking verb ตอบ adj. ทั้งสองช่องนั่นคือ good (adj.) และ
wonderful aɔ well, wonderfully adv.

10.This is a____ language.
1. alive
2. living
3. live
4. lively
ตอบ 2 หน้า 171 คุณศัพท์ (adj.) ที่ขึ้นต้นด้วย “a” เช่น alive, alone, ashame, asleep, awake มักวางไว้หลัง verb to be แต่ถ้าวางไว้หน้าคํานามจะเปลี่ยนรูป เช่น
– The dog is alive. (สุนัขตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่) alive วางไว้หลัง is Dutch is a living language. (ภาษาดัชเป็นภาษาที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน) (living วางไว้หน้าคํานาม language)

11.Jim’s scores are_____than his friend’s.
1. worse
2. bad
3. more bad
4. worst
ตอบ 1 หน้า 175 คําคุณศัพท์เมื่อทําเป็นขั้นกว่า ขั้นสุดจะเปลี่ยนรูปไป เช่น

จากโจทย์มี than ด้านขวามือ จํานะคะออกแทบทุกเทอม ให้ตอบขั้นกว่า ฉะนั้นจึงตอบ worse

12.Jane is____ among the three.
1. beautiful
2. more beautiful
3. beautifullest
4. the most beautiful
ตอบ 4 หน้า 173 การเปรียบเทียบของสองอย่างใช้ขั้นกว่า แต่ถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่ 3 หรือมากกว่า 3 อย่าง ขึ้นไปตอบขั้นสุด อย่างเช่นมีคําว่า among the three หรือ of the three หรือ in + สถานที่ แสดงว่าตอบขั้นสุด ดูช้อยคุณศัพท์คําว่า beautiful ทําเป็นขั้นสุดใส่ most ข้างหน้า จึงเป็น the most beautiful

13.Nelly was____to see that terrifying movie.
1. shocked
2. shock
3. shocking
4. shocks
ตอบ 1 หน้า 177 คุณศัพท์ (adj.) ที่มีลงท้ายด้วย -ed หรือ -ing เราดูระดับง่าย ๆ ว่าประธานเป็นคน ก็ จะแสดงความรู้สึกใช้ลงท้าย -ed เช่น interested (รู้สึกสนใจ), disappointed (รู้สึกผิดหวัง), shocked (รู้สึกตกใจ) แต่ถ้าประธานเป็นสิ่งของมักใช้ลงท้ายด้วย -ing เช่น interesting (น่าสนใจ) จากข้อนี้ประธาน Nelly ชื่อคนรู้สึกตกใจ จึงตอบ shocked

14.They are afraid____his being sick.
1. with
2.of
3. by
4. on
ตอบ 2 หน้า 180 คําคุณศัพท์ + คําบุพบท of เพื่อบอกความรู้สึกต่าง ๆ เช่น
afraid of (กลัว)
jealous of (อิจฉา)
aware of (รู้ ตระหนัก)
proud of (ภูมิใจ)
convinced of (เชื่อมั่น มั่นใจ)
scared of (กลัว)
envious of (อิจฉา)
tired of (เหนื่อย)
guilty of สํานึกผิด

15.____we study;____we understand.
1. The most; the best
2. The more; the best
3. The more; the better
4. The most; the better
ตอบ 3 หน้า 67 ใช้ “the” ขนานทั้งสองช่อง ในสํานวนที่มีการเปรียบเทียบ “ยิ่ง……ก็ยิ่ง…….
-The more we study, the more we learn>
(ยิ่งเรียนมากก็ยิ่งรู้มาก)
ข้อนี้ใช้ The more, the better (ยิ่งเรียนมากก็ยิ่งเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น)

16.It is going to rain. You____take an umbrella with you.
1. will
2. must
3. should
4. should not
ตอบ 3 หน้า 243 กริยาช่วย will แสดงอนาคต must แสดงความจําเป็น “ต้อง” หรือบังคับ should “ควรจะ” เป็นการแนะนํา จากประโยคให้มาว่า ฝนกําลังจะตก คุณควรเอาร่มไปด้วยนะ ตอบ should ควรจะ เป็นการแนะนํา

17.Jane promised she____come on time.
1. has
2. will
3. would
4. can
ตอบ 3 หน้า 249 เราเห็น promised เป็นการให้คํามั่นสัญญาแต่เป็นรูปอดีต เราก็จะใช้อดีตไปด้วยคือ
would

18.____she be able to attend our party tonight?
1. Will
2. Is
3. Has
4. Ought
ตอบ 1 หน้า 235 เป็นประโยคคําถาม เราเห็นหลังประธานมีคําว่า be able to คําที่จะอยู่หน้า be ได้ก็คือ will เพราะ will ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันคือ be ได้ ส่วนช้อยอื่นเช่น is ก็คือ verb to be แล้วจะชนกับ be ไม่ถูกต้อง และ has ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 หรือมี to ตามเท่านั้น และ ought ตามด้วย to + V1 เป็นต้น

19.The woman____I saw was a designer.
1. which
2. whom
3. what
4. whose
ตอบ 2 หน้า 401 – 410 ให้เต็มประพันธ์สรรพนาม โดยให้สังเกตจากข้างหน้าคําที่ให้เติมช่องว่างว่า เป็นคนหรือสิ่งของหรือสถานที่ เราดูคํานามข้างหน้าก่อนว่าเป็นอะไร ถ้าเป็น

คน who + verb (คํากริยา) ในที่นี้คือ is
คน whose + คํานาม + V
คน whom + S + Verb คําว่า S มักเป็นคําสรรพนามเช่น I saw, you met
สิ่งของ which + Verb หรือ which + S + V.
สถานที่ where + S + V. เช่น where I live
เวลา when + S + V
the reason why + S + V
the woman เป็นคน และส่วนหลังเป็น I saw เป็นรูปประธาน I เป็นคําสรรพนาม สามารถตอบ whom ได้เลย ส่วน whose + คํานามเสมอ และ which, what ใช้กับสิ่งของ

20.The apartment ____he lives is luxurious.
1. what
2. when
3. where
4. who
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 19 ประกอบ เพราะ apartment เป็นสถานที่จึงตอบ where

21.Tim____marry Jane because he did not have a job.
1. should be
2. were to
3. was
4. wasn’t able to
ตอบ 4 หน้า 235 เราดูได้หลายจุด อาจดูว่า marry เป็นกริยาช่องที่ 1 ข้างหน้าสามารถเป็นอะไรได้ นั่นคือ wasn’t (was not) able to + V1 ได้ ว่า ไม่สามารถแต่งงานกับแจน จะใช้ was ตามด้วยกริยา ช่องที่ 1 ไม่ถูกต้อง ส่วน were to ผิดเพราะประธานเป็นเอกพจน์ และ should be ตามด้วยกริยา ช่องที่ 1 ก็ไม่ถูกต้อง

22.Linda denied____my pen without asking me.
1. taking
2. take
3. took
4. to take
ตอบ 1 หน้า 274 กริยาเหล่านี้ตามด้วย Ving ได้แก่

กริยา denied มาจาก deny + Ving จึงตอบ taking

23.Take care of ____,Jane.
1. you
2. your
3. yourself
4. yourselves
ตอบ 3 หน้า 123 เป็นเรื่องคําสรรพนาม ใช้โครงสร้าง กริยา + บุพบท + สรรพนามสะท้อนตัวเอง เช่น
– He spoke to himself. (เขาพูดกับตัวเอง)
– Did she pay for herself? (เธอจ่ายเงินเพื่อตัวเธอเองใช่ไหม)
Take care of yourself. (ดูแลตัวเองนะ)

24.____book is here;____is over there.
1. I; you
2. me; your
3. mine; yourself
4. my; yours
ตอบ 4 หน้า 117 – 121 บุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun)

ช่องแรกมีคํานาม book จึงตอบคําสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของในแถวที่ 3 คือ my
ช่องที่ 2 ขึ้นต้นประโยค เราเห็นกริยา is แสดงว่าต้นประโยคนี้ต้องเป็นรูปประธานแต่ไม่มีคํานาม ด้วยขวา ตอบแถวที่ 4 คือ yours ซึ่งละมาจาก your book แต่ไม่ต้องมี book เขียนซ้ำอีก จึงละคํานามเป็น yours

25.A: Is that Natthawut’s car?
B: Yes, it’s____.
1. himself
2. his
3. him
4. he
ตอบ 2 เรารู้จากเอถามว่ารถของ Natthawut’s car ปีตอบใช่ รถของ Natthawut’s car แต่เราไม่ต้อง ใช้ชื่อมา เราใช้คําสรรพนามแทนว่าของเขา (เพศชาย) ก็คือ his รูปเจ้าของ

26.Everyone has____own ideas.
1. their
2. your
3. his
4. my
ตอบ 3 หน้า 133 – 134 การใช้คําสรรพนามแทนคํานามที่ไม่เฉพาะเจาะจงเช่น everyone,
somebody, someone, anybody เราสามารถตอบเพศชายหรือเพศหญิงได้ก็คือ his her เช่น
– Everyone has his or her own ideas. ฉะนั้น จึงตอบ his

27.A: Who’s that?
B:_____is Martha, sir.
1. it
2. One
3. That
4. Each
ตอบ 1 หน้า 125 ใช้ it ในการตอบคําถามในความหมาย “เป็นคนนั้นคนนี้ สิ่งนั้นสิ่งนี้” เช่น
Who’s that? (ใครน่ะ)
It is me, Martha. (ฉันเอง มาร์ธา ยังไงล่ะ)

28.It was Sue’s fault, not____.
1. they
2. them
3. their
4. theirs
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 24 – 25 ช่องหลังไม่มีคํานามตามเลย เราเลือกคําสรรพนามในแถวที่ 4 ที่ได้กล่าวมา ในข้อ 24 ก็คือ theirs (ซึ่งละมาจาก their fault)

29.This hat is____; the other one is____.
1. mine; yours
2. mine; your
3. my; you
4. my; yours
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 24 – 25 ไม่มีคํานามตามมาขวามือทั้งสองช่อง จึงตอบสรรพนามที่อยู่ในแถวที่ 4 คือ
mine, yours

30.Milin____speak a few words when she was one year old.
1. could
2. would
3. may
4. has to
ตอบ 1 หน้า 234 เราเห็นคําว่า when she was one year old (สมัยเรื่องเธออายุ 1 ขวบ) เป็นอดีต เราใช้ can (สามารถ) เป็น could + V1 = could speak สามารถพูดได้

31.Will you____ go to the meeting tomorrow?
1. can
2. could
3. be able to
4. ought to
ตอบ 3 เราเห็นกริยาช่วย Will แล้ว จะต้องตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เสมอนั่นคือ be เหมือนที่ได้อธิบายไป ในข้อ 18 will be able to + V1 ได้ ส่วนช้อยอื่นมี can, could, ought to มาซ้อนกับ will ไม่ได้

32.A : _____you please give me some more tea?
B:Yes, madam.
1. Shall
2. Would
3. May
4. Must
ตอบ 2 หน้า 248 เราเห็น please แสดงการขอร้อง สามารถใช้ will หรือ would แสดงการขอร้องได้ Would you please open the door for me? (คุณช่วยกรุณาเปิดประตูให้ฉันด้วย)

33._____God bless you!
1. Can
2. Might
3. Could
4. May
ตอบ 4 หน้า 239 ใช้ may เมื่อผู้พูดต้องการอวยพร
May God bless you. (ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ)

34.A : Let’s go to Iceland,____we?
B : Yes, let’s.
1. shall
2. will
3. are
4. do
ตอบ 1 ใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Let’s เป็นการชักชวน เราตอบส่วนหลังเป็น shall we ไพเราะกว่าที่จะ
ใช้ will แต่ถ้าใช้ will มักคู่กับ will you

35._____students to pay respect to teachers?
1. Have
2. Ought
3. Are
4. Should
ตอบ 2 หน้า 243 – 246 เราเห็นประโยคหลังประธานมี to pay นั่นแสดงว่าหากริยาช่วยที่สามารถมี to ตามได้นั่นคือ ought ซึ่งต้องมี to ตามเสมอ ส่วน should ไม่มี to ตาม และ have, are จะมี to ตามใช้คนละความหมายกับโจทย์นี้

36.You____consult your teacher if you have any questions, Peera.
1. would
2. need
3. shall
4. has to

ตอบ 2 หน้า 255 กริยาช่วยที่แสดงว่า “ต้อง” “จําเป็น” ปรึกษาครูถ้าคุณมีคําถามที่สงสัย เราสามารถใช้ You have to ได้ เพราะประธาน you ใช้ have to ฉะ ใช้ have to ฉะนั้นก็ต้องหันมาตอบ need แสดง จําเป็นต้อง ส่วน would, shall หมายถึง จะ ใช้ไม่ได้

37.Peter admitted____too fast yesterday.
1. to drive
2. drive
3. driving
4. drove
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22 กริยา admitted ก็ตามด้วย Ving จึงตอบ driving

38.The man apologized for____late.
1. comes
2. coming
3. come
4. to come
ตอบ 2 หน้า 276 กริยาต่อไปนี้จะมีบุพบทตามและให้ตอบ Ving เช่น
approve of (พอใจ)
apologize for (ขอโทษ)
feel like (รู้สึกชอบ)
disapprove (ไม่พอใจ)
get/be used to (เคยชิน)
look forward to (รอคอย)
กริยา apologized for + Ving = coming

39.Would you mind____out this letter for me, Linda?
1. mailing
2. to mail
3. mail
4. mails
ตอบ 1 หน้า 276 กลุ่มวลีบางตัว เช่น
Would you mind
Do you mind
have/has trouble + Ving
have/has difficulty
Would you mind + Ving nou mailing

40.Please let Jim_____overnight at his friend’s apartment, mom.
1. stays
2. staying
3. stay
4. to stay
ตอบ 3 หน้า 279 กริยา make/made หรือ let สองตัวนี้เป็นที่นิยมออกสอบออกมาให้ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ต้องมี to ตาม เช่น
The sad movie always makes me cry.
Let us go shopping.
นั่นคือ let + กรรม + V1 จึงตอบ stay

41.The manager chose you____with international clients.
1. dealing
2. to deal
3. deal
4. dealt
ตอบ 2 หน้า 280 281 กริยาต่อไปนี้จะตามด้วย กรรมตรง + to + V1

 

กริยา choose ช่องที่ 2 เป็น chose ตามด้วย กรรม มีก็ได้ไม่มีกรรมก็ได้ + to V1 = to deal

42.Dan is nice_____ with.
1. works
2. work
3. to work
4. working
ตอบ 3 หน้า 285 ใช้ to + V1 ตามหลังคําคุณศัพท์ (adj.) ต่อไปนี้

คุณศัพท์ nice ตามด้วย to + V1 = to work เราไม่จําเป็นต้องท่องให้ปวดหัวก็ได้ เราดูว่าถ้า
ข้างหน้ามี verb to be แสดงว่า nice เป็น adj. ตามด้วย to +V1 ได้เลย

43.We had difficulty____James yesterday.
1. reach
2. reaching
3. to reach
4. reached
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 39 ประกอบ difficulty + Ving จึงตอบ reaching

44.It’s____hot in this room.
1. awful
2. awe
3. awfully
4. awesome
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 9 ประกอบ หรือหน้า 302 คําคุณศัพท์ (adj.) ทําหน้าที่ ตามหลัง verb to be หรือหลัง linking verb (ได้แก่ is, am, are, was, were, feel, look, seem, keep, taste, smell, become, get, appear, remain, stay เป็นต้น ส่วน คํากริยาวิเศษณ์ (Adv.) ทําหน้าที่ขยายคํากริยาทั่วไป คําคุณศัพท์ และคํากริยา
1. S + Verb to bel Vilk + adj.
2. S + Verb to be/Vlk + adv.+adj.
It is hot. (hot เป็น adj. อยู่หลัง verb to be (is) แล้วสามารถเอา adv มาขยาย adj hot
It is awfully hot. โดย awfully เป็น adv. ขยาย hot ว่าร้อนอย่างมาก

45.The girl is standing____in the long line.
1. patiently
2. very
3. overhead
4. always
ตอบ 1 หน้า 302 เราเห็นกริยา stand เป็นกริยาหลักทั่วไป ต้องใช้ adv. ทําหน้าที่ขยายกริยาทั่วไปว่า standing patiently ส่วน adv. always นิยมไว้หลัง verb to be และ very ทําหน้าที่ขยาย adj./adv เช่น very beautiful, very well เป็นต้น ส่วน overhead (เหนือศีรษะ) เป็น adv. บอกสถานที่นิยมไว้ท้ายประโยคและใช้ไม่เข้ากับประโยคที่ให้มา

46.I haven’t seen Joe____.
1. usually
2. lately
3. never
4. at weekends
ตอบ 2 หน้า 310 adv. ที่ใช้กับประโยคที่ให้มาได้คือ lately (หมู่นี้) เป็นการบอกความถี่ว่า “ฉันไม่ เห็นโจหมู่นี้เลย) โดยเข้ากันกับการใช้ Present Perfect Tense (has/have + V3) ด้วย ส่วน usually, never จะนิยมวางไว้ข้างหน้ากริยา และat weekends บอกความถี่ทุกเสาร์ อาทิตย์ใช้ไม่เข้ากับประโยค

47.Suda works____.
1. today in her happily office
2. in her today office happily
3. today in her happily office
4. happily in her office today
ตอบ 4 หน้า 315 ตําแหน่งการวางคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ที่มาขยายคํากริยาสําหรับข้อนี้คือ ขยาย กริยา walks ดูสูตรค่ะ บอกอาการ บอกสถานที่ บอกเวลา เรียง
S + กริยา + (กรรม) + adv. manner + adv. place + adv. of time
We were watching happily in the bedroom last night.
My sisters walks slowly to school every day.

48.After a month in New Zealand, Jaruwan can speak English far____ than before.
1. good
2. eel
3. better
4. best
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ เห็น than ตอบขั้นกว่านั่นคือ better (มาจาก good better best)

49.Utility bills can____be paid at all counter services.
1. convenient
2. convenience
3. more convenient
4. most conveniently
ตอบ 4 หน้า 319 ตัวอย่างที่ 6 เราสามารถใช้ adv. เพราะทําหน้าที่ขยายกริยา paid ว่า conveniently ซึ่ง adv. วางไว้หน้ากริยาก็ได้ แล้วใช้ most นําหน้าอีกทีเพื่อแสดงว่าสะดวกสบายที่สุด สามารถ จ่ายค่าไฟฟ้าได้ทุกเคาน์เตอร์เซอร์วิส

50.A : How often do you go camping this summer, Dave?
B:_________.
1. Lately
2. Very much
3. Once a month
4. Carefully
ตอบ 3 หน้า 310 เป็นกริยาวิเศษณ์ (adv.) ที่แสดงความถี่ของกริยาเพราะดูจากคําถามว่า How often บ่อยแค่ไหน เราสามารถตอบความถี่จากมากไปหาน้อย เช่น always, all the time, usually, normally, often, sometimes, once a week (สัปดาห์ละครั้ง) เหมือนข้อนี้เรา ตอบ once a month (เดือนละครั้ง) หรือ Occasionally, seldom, not much, never

51.I know the woman_____ car was burnt in the riots.
1. while
2. when
3. that
4. whose
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 19 ว่า the woman เป็นคน และมี car เป็นคํานาม สามารถตอบ whose เพราะ ตามด้วยคํานาม แสดงความเป็นเจ้าของ

52.Dave has never dreamt of being a doctor;_____he can’t stand seeing people bleeding.
1. therefore
2. furthermore
3. finally
4. still
ตอบ 2 หน้า 386 เป็นการเติมคําเชื่อมความ ซึ่งเราต้องวิเคราะห์ประโยคที่ให้มาพร้อมกับแปลความหมาย ของคําเชื่อมให้ได้ว่า แสดงถึงแบบไหน
therefore = ดังนั้น furthermore = ยิ่งไปกว่านั้น แสดงการเพิ่มเติมข้อมูล
finally = ในที่สุด เป็นการสรุป still = ถึงกระนั้น แสดงความแย้ง
“เดฟไม่เคยฝันที่จะเป็นหมอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถทนดูการไหลของเลือดได้”

53.Ronnie and Lily_____.
1. painted gray their fence
2. their fence painted gray
3. painted their fence gray
4. fence their gray painted
ตอบ 3 หน้า 221 กริยาบางตัวตามด้วยกรรมตรงและส่วนขยายกรรม เป็นโครงสร้างดังนี้
กริยา + กรรมตรง + ส่วนขยายกรรม เช่นกริยา to paint something green นั่นคือ = painted + สิ่งของ (their fence รั้ว) + ส่วนขยายกรรมที่เป็นคุณศัพท์คือสีเทา gray ดูตัวอย่างอื่น
-Tom painted his house yellow. (ทอมทาสีบ้านเป็นสีเขียว)

54.Which is correct?
1. Either ! go or she go.
2. Neither of the books is mine.
3. Few journalists is allowed to pass the gate.
4. Everybody seem happy with the new manager.
ตอบ 2 ข้อไหนถูกต้อง?
1. สูตร Either….ประธาน…..or….ประธาน + กริยาผันตามประธานที่ใกล้คือ she ฉะนั้นต้อง แก้เป็น goes กริยาเอกพจน์จึงจะถูกต้อง
2. Neither of + นามพหูพจน์ + กริยาเอกพจน์คือ is ถูกต้อง
3. Few + คํานามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์ ต้องเป็น are allowed
4. Everybody ตามด้วยกริยาเอกพจน์ ต้องเป็น seems

55. I think throwing away food can contaminate _____.
1. ours soil
2. (blank)
3. soil
4. our soil
ตอบ 4 กริยา Contaminate ต้องการกรรมมารับ นั่นคือตามด้วยกรรม ในช้อยกรรมที่ถูกคือ our +
คํานาม – our soil

56.Which is incorrect?
1. The cabin crew loves shopping at flea markets.
2. My deepest fear is history repeating itself.
3. Hong Kong protester shot by the police yesterday.
4. There is a pair of gloves in the box I gave you.
ตอบ 3 ข้อไหนไม่ถูกต้อง?
1. ประธาน The cabin crew ตามด้วยกริยาเอกพจน์ ถูกต้อง
2. ประธาน my deepest fear ตามด้วยกริยาเอกพจน์ ถูกต้อง
3. ประธาน Hong Kong protester (นักประท้วง) ถูกยิงตายโดย…. เป็นรูปประธานถูกกระทํา ต้องใช้รูป verb to be + V3 = was shot
4. There is กริยาเอกพจน์ผันตามนามขวามือคือ a pair ถูกต้อง ฉะนั้นช้อยที่ไม่ถูกต้องคือ ช้อย 3

57.Nowadays, endangered reptiles____being traded on Facebook.
1. is
2. has
3. are
4. have
ตอบ 3 หน้า 330 เป็นเรื่องกริยาสอดคล้องกับประธาน ซึ่งประธานคือ endangered reptiles เป็น คํานามพหูพจน์ ตอบกริยาพหูพจน์ are ซึ่ง verb to be สามารถตามด้วย Ving (being) +V3 เป็นรูปถูกกระทําว่ากําลังถูกขายกันบนเฟซบุ๊ค

58.Smoking can cause cancer and heart disease,____many people refuse to quit.
1. and
2. thus
3. for
4. yet

ตอบ 4 หน้า 384 – 386 เป็นเรื่องการตอบคําเชื่อมเมื่อไร ก็ต้องรู้จักความหมายของแต่ละคําเชื่อมและ ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าต้องการคําเชื่อมไหนที่เข้ากับโจทย์ (ต้องรู้ความหมาย) มีเรื่องนี้เท่านั้นที่เราต้องแปลความหมาย

“การสูบบุหรี่สามารถทําให้เกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ แต่กระนั้นก็ตาม ผู้คนจํานวนมากก็ยังปฏิเสธที่จะเลิกสูบ” สองประโยคแสดงความขัดแย้งกัน จึงตอบ yet (แต่กระนั้น) ถ้าเราใช้ and จะเป็นการเพิ่มเติมข้อมูลในทิศทางเดียวกัน

59. Marie always_____.
1. makes som tom her kids
2. make som tom to her kids
3. som tom make for her kids
4. makes som tom for her kids
ตอบ 4 หน้า 215 กริยาที่มีกรรมมารับสองตัวใช้กับบุพบท for เช่น
book = จองให้
design = ออกแบบให้
buy = ซื้อให้
fetch = ไปนํามาให้
keep = เก็บรักษา
cash = ขึ้นเงินสดให้

choose = เลือกให้
fix = แก้ไขให้
paint = ทาสีให้
build = สร้าง
catch = จับให้
cook = ทําอาหารให้
cut = ตัดให้
get = ได้มา
make = ทําให้
prepare = เตรียมให้
reserve = จองให้
save = เก็บไว้ให้
แมรี่มักจะทําส้มตําให้ลูก ๆ ประธาน Marie เอกพจน์ก็ตอบกริยาเอกพจน์คือ makes

60.Which is a simple sentence?
1. Climate change is frightening when you see it with your own eyes.
2. My nephew went to the beach and got a really bad sunburn.
3. Jogging is known to be good for your health, and so is running.
4. People need to be educated on how they can live sustainably every day.
ตอบ 2 หน้า 386-387 ข้อไหนเป็นประโยคใจความเดียว? ประโยคใจความเดียวอาจมีประธานสองประธานเพราะเป็นพหูพจน์ และมีกริยาสองคําแต่พวงในประธานกลุ่มเดียวกัน เช่น

Jim and John collected stamps and know a lot about them.
ประโยคนี้เป็น Simple Sentence เพราะมีประธานสองประธาน Jim and John และมีกริยากระทําร่วมกันสองตัวคือ collect และ know

ถ้าเป็นประโยค compound คือ ประโยคใจความรวมโดยนําประโยค simple แต่ละประโยคจะ มีประธานและคํากริยาอย่างน้อยอย่างละหนึ่งคํา โดยแยกเป็น simple sentence + simple sentence มีคําเชื่อมเช่น

Melinda has a Toyota, and Elizabeth has a BMW. (เมลินดามีรถโตโยต้าและอลิซาเบธมีรถบีเอ็มดับเบิลยู) แยกกริยาของใครของมันมีสองประโยค
1. เป็น compound มีสองประโยค Climate change is กับ you see it
2. เป็น Simple เพราะมีประธาน My nephew ตัวเดียวทํากริยาสองอย่างคือ went และ got
3. เป็น compound เพราะมีสองประธานคือ Jogging is และ Running is…… คล้อยตาม
4. เป็น complex เพราะมี People need, they can และใช้ how

61.Physics and mathematics_____.
1. is my favorite subjects
2. is my subject favorite
3. are my subject favorite
4. are my favorite subjects
ตอบ 4 หน้า 345 ตัวอย่างที่ 9 ประธานมีสองวิชาก็ตอบกริยาพหูพจน์คือ are และ favorite เป็น
คําคุณศัพท์ (adj.) ทําหน้าที่วางไว้หน้าคํานาม (Subjects)

62.Each Christmas tree____.
1. are beautifully decorated
2. are decorate beautifully
3. is decorate beautifully
4. is beautifully decorated
ตอบ 4 หน้า 333 ขึ้นต้นประธานด้วย Each, every, either, neither, many a ตอบกริยาเอกพจน์คือ is และตามด้วยกริยาช่องที่ 3 decorated ในรูปถูกประดับตกแต่ง และมี beautifully เป็น adv. ทําหน้าที่ขยายกริยา decorated

63.Which is a complete sentence?
1. In the dark night hear the sigh.
2. Ethan made his best effort to reach the finish line.
3. It known Mahatma Gandhi for human rights.
4. The exam difficult to pass this semester.
ตอบ 2 ข้อไหนเป็นประโยคที่สมบูรณ์
1. ประโยคขาดประธาน มีแต่กริยา hear แต่ไม่มีประธาน
2. มีประธานคือ Ethan มีกริยา made ถือว่าประโยคสมบูรณ์
3. ประธาน It ตามด้วยกริยา known ช่องที่ 3 (มาจาก know knew known) เลยไม่ได้ ควรเป็น ว่า It is known …… …….
4. ประธานขาดกริยา ต้องแก้เป็น The exam is difficult……

64.Most people believe____ they must work hard in order to be rich.
1. who
2. when
3. that
4. where
ตอบ 3 หน้า 415 Noun Clause เป็นอนุประโยคย่อยที่ทําหน้าที่เป็นประธานของประโยคหรือเป็นกรรมของคํากริยา หรือกรรมของบุพบท ในข้อนี้เป็นกรรมของกริยา เพราะวางไว้หลังกริยา believe ซึ่ง

นิยมใช้ believe that……….เชื่อกันว่า…………..ส่วนน้อยอื่นผิดเพราะไม่ได้กล่าวถึงบุคคล เวลาหรือ สถานที่

65.Saori got a map of the fair,…….she couldn’t find the food stall.
1. for
2. or
3. but
4. so
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 58 ประกอบ “ Saori ได้รับแผนที่ของงานนิทรรศการแต่เธอหาร้านอาหารไม่เจอ”
แสดงความแย้ง ก็คือ but (แต่)

66.The hostages could…..during the gun fire.
1. remains calm
2. remain calm
3. remain calrnly
4. remains calmly
ตอบ 2 หน้า 219 could + V1 ก็คือ remain และกริยา remain เป็น Linking verbs ซึ่งคือกริยาที่มี ส่วนขยายที่เป็นคําคุณศัพท์ (adj.) กริยา Linking verbs ได้แก่ appear, feel, keep,
remain, stay, be, get, look, seem, taste, become, go, pass, smell, tum, come, grow, prove, sound ฉะนั้นจึงตามด้วย calm (adj.)

67.The new tenant is the man……in the elevator.
1. whom we talked to
2. who talked to we
3. we talked to whom
4. whom we to talked
ตอบ 1 the man เป็นคน และส่วนหลังมีประธานคือ We และกริยา talked to ฉะนั้นต้องเป็น whom ซึ่งทําหน้าที่เป็นกรรม whom + S + verb ส่วน who + verb ฉะนั้นต้องเป็น whom we talked to ลงท้าย to เพราะเวลาเราตอบก็จะเป็นกรรมที่ตามหลัง to เราเรียกว่ากรรมของบุพบท

68.Which is correct?
1. I am very tired today because I want to go to bed early.
2. Anna plays guitar very well, so she started playing at young age.
3. Jenny is happy with her grades, yet she is going out to celebrate.
4. Ken washed the dishes, and his wife dried them.
ตอบ 4 ข้อไหนถูกต้อง
1. ประโยคแสดงเหตุและผล ต้องแก้เป็น I am very tired today, so I want to go to bed early. (ฉันเหนื่อยมากวันนี้ดังนั้นฉันต้องการเข้านอนเร็ว)
2. ควรเป็น Anna plays the guitar very well because she started playing at young age. (แอนนาเล่นกีตาร์ มากเพราะเธอเริ่มเล่นตั้งแต่อายุยังน้อย)
3. ควรแก้เป็น Jenny is happy with her grades therefore, she is going out to celebrate. (เจนนี่ดีใจกับเกรดของเธอ ดังนั้นเธอจะ ออกไปฉลองกัน)
4. ถูกต้องในการใช้ and เป็นการบอกเพิ่มเติมข้อมูล “เคนล้างจานและภรรยา ของเขาเช็คจานให้แห้ง”

69.Many a good politician_____destroyed by greed.
1. have been
2. has been
3. does
4. are
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 62 ประกอบ ว่า many a + กริยาเอกพจน์ คือ has been + V3 (destroyed) ในโจทย์ได้เลย เป็นประธานถูกกระทําว่า นักการเมืองที่ดีได้ถูกทําลายจากความละโมบ ส่วน does จะไม่สามารถตามด้วย destroyed จะตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เท่านั้น

70.Tim doesn’t like playing the piano,____does he want to practice it.
1. or
2. nor
3. for
4. and
ตอบ 2 ประโยคข้างหน้าเป็นปฏิเสธมี not like และส่วนหลังยก does กริยาช่วยไว้หน้าประธาน กริยาหลักอยู่หลัง มีคําเชื่อมที่ทําแบบนี้ได้คือ nor (และไม่) แสดงปฏิเสธส่วนหลังด้วยคล้อยตาม “ทิมไม่ชอบเล่นเปียโน และเขาก็ไม่ต้องการฝึกมันด้วย”

71._____you need to use a plastic bag, you must reuse it many times.
1. Before
2. Unless
3. If
4. Whether
ตอบ 3“ถ้าคุณจําเป็นต้องใช้ถุงพลาสติก คุณต้องนํามันกลับมาใช้ใหม่หลาย ๆ ครั้ง” If = ถ้า

72.Sam passed the exam easily____ he always reviewed his lectures after class.
1. as soon as
2. because
3. while
4. for
ตอบ 2“แซมสอบผ่านได้อย่างง่ายดายเพราะเขามักจะทบทวนการบรรยายหลังเลิกเรียนเป็นประจํา”
because = เพราะ

73._____I knew I won the lottery, I didn’t say anything to anyone.
1. That.
2. Although
3. When
4. As long as
ตอบ 2“ถึงแม้ฉันรู้ว่าฉันถูกลอตเตอรี่ แต่ฉันจะไม่บอกอะไรไม่ว่ากับใครก็ตาม”
Although = ถึงแม้ว่า

74.Miwa never wanted to take an umbrella with her;_____,she always ended up getting soaked.
1. moreover
2. meanwhile
3. nevertheless
4. consequently
ตอบ 4 “มิวะไม่เคยต้องการที่จะเอาร่มไปกับเธอด้วย ดังนั้นเธอมักจะลงเอยด้วยการเปียกโชกเป็นประจํา consequently – ดังนั้น ผลที่ตามมา

75.Which is correct?
1. Fine dust pollution dropped to safe levels in areas around Bangkok.
2. None of the book are returned to the library.
3. In the English-speaking classes, most teachers be English native speakers.
4. It believed that long-term smartphone use can make us dumber.
ตอบ 1 ข้อไหนถูกต้อง
1. ประธานคือ Fine dust pollution และมีกริยาคือ dropped เป็นโครงสร้างที่ถูกต้อง
2. ควรเป็น None of the book is returned…. กริยาผันตาม the book เอกพจน์
3. ประธาน most teachers ต้องตามด้วยกริยาที่ผันตามประธานคือ are ไม่ใช่ be
4. ควรเป็น It is believed that…………เชื่อกันว่า

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)

76.With hesitation, they dropped out of the program.
1. affection
2. delay
3. prosperity
4. certainty
ถาม
ด้วยความลังเล พวกเขาตัดออกจากโครงการไป
ตอบ 2 หน้า 1 1. ความรัก 2. ความรู้รอ ลังเล 3. ความมั่งคั่ง 4. ความแน่นอน
hesitation – pausing in speech, delaying momentarily = ความรีรอ ลังเล

77.His predecessors came from China.
1. ancestors
2. descendants
3. audience
4. viewers
ถาม บรรพบุรุษของเขามาจากประเทศจีน
ตอบ 1 หน้า 3 1. บรรพบุรุษ 2. ผู้สืบทอด 3. ผู้ฟัง4. ผู้ชม
predecessors – ones that precede, ancestors = ผู้มาก่อน บรรพบุรุษ

78.We wish you happiness and_____in the New Year.
1. fantasy
2. economy
3. rememberance
4. prosperity
ถาม พวกเราปรารถนาให้คุณมีความสุขและ……ในปีใหม่นี้
ตอบ 4 หน้า 4. 1. การจินตนาการ 2. ประหยัด 3. ความทรงจํา 4. ความมั่งคั่ง
prosperity = ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง

79.Both of them have affection for each other.
1. hatred
2. laziness
3. fondness
4. sleepiness
ถาม พวกเขาทั้งคู่มีความรักใคร่ซึ่งกันและกัน
ตอบ 3 หน้า 4 1. ความเกลียดชัง 2. ความขี้เกียจ 3. ความรักใคร่ 4. การนอนหลับ
affection = fondness = ความนิยมชมชอบ ความรักใคร่

80.The company has a good location.
1. residence
2. plaza
3. distance
4. site
ถาม บริษัทมีสถานที่ตั้งที่ดี
ตอบ 4 หน้า 55 1. อาศัยอยู่ 2. พลาซ่า 3. ระยะทาง 4. สถานที่ตั้ง
location = site, the place where something is situated = ที่ตั้ง สถานที่ตั้ง

81.The chairperson was highly respected.
1. admired
2. blamed
3. attached
4. complained
ถาม ประธานเป็นที่นิยมชมชอบอย่างมาก
ตอบ 1 หน้า 55 1. ชื่นชม 2. ตําหนิ 3. ติด แนบ 4. บ่น
respected = admired and important = สําคัญและน่าสนใจ เป็นที่นิยมชมชอบ

82.The assassination of important people caused trouble.
1. admiration
2. secrecy
3. murder
4. retrieval
ถาม การลอบสังหารบุคคลสําคัญทําให้เกิดปัญหา
ตอบ 3 หน้า 56 1. การชื่นชม 2. ความลับ 3. การฆาตกรรม 4. การเอากลับคืนมา
assassination = murder by sudden or secret attack = การลอบสังหาร

83.He earned a lot in his career.
1. deceived
2. received
3. planned
4. prepared
ถาม เขามีรายได้จํานวนมากในอาชีพของเขา
ตอบ 2 หน้า 56 1. หลอกลวง 2. ได้รับ 3. วางแผน 4. เตรียมการ
earned = received = received = ได้รับ

84.People have their faith in democracy.
1. belief
2. devotion
3. strength
4. responsibility

ถาม ผู้คนมีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย
ตอบ 1 หน้า 113 1. ความเชื่อ 2. การอุทิศตน 3. ความกล้าหาญ 4. ความรับผิดชอบ
faith (n) = belief and trust = ความเลื่อมใส ความศรัทธา

85.Roger became a Thai____after having lived here for over 15 years.
1. benefit
2. citizen
3. energy
4. value
ถาม โรเจอร์เป็น____ไทยหลังจากได้อยู่ที่เมืองไทยเป็นเวลามากกว่า 15 ปี
ตอบ 2 หน้า 114 1. ประโยชน์ ผลดี 2. พลเมือง 3. พลังงาน 4. คุณค่า
ถ้าใช้กับเชื้อชาติ ก็ต้องเดาเกี่ยวกับความเป็นพลเมือง ประชากร

86.To save sea animals is our group’s latest endeavor.
1. connection
2. promise
3. hesitation
4. attempt
ถาม การปกป้องสัตว์ทะเลเป็นความพยายามในปัจจุบันของกลุ่มเรา
ตอบ 4 หน้า 114 1. ความเกี่ยวข้อง 2. คํามั่นสัญญา 3. ความลังเล 4. ความพยายาม
endeavor = attempt = ความพยายาม

87.That command____that taxes should be collected.
1. enrolled
2. involved
3. went forth
4. shrank
ถาม คําสั่งนั้น____ว่าภาษีควรถูกเก็บมา
ตอบ 3 หน้า115 1. ลงทะเบียน 2. เกี่ยวข้อง 3. ก้าวไปข้างหน้า 4. ถดถอย

88.The school is situated in the city center.
1. located
2. lied
3. stood
4. prepared
ถาม โรงเรียนตั้งอยู่ในใจกลางเมืองใหญ่
ตอบ 1 หน้า 167 1. ตั้งอยู่ 2. พูดโกหก 3. ยืน 4. เตรียมการ
situated = located = ตั้งอยู่ที่

89.The____of four rivers creates great currents.
1. port
2. confluence
3. pack
4. stream
ถาม _____ของแม่น้ำ 4 สายทําให้เกิดเป็นกระแสน้ำสายใหญ่
ตอบ 2 หน้า 167 1. ท่าเรือ 2. จุดที่แม่น้ำไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ 3. หีบห่อ 4. ลําธาร
confluence = จุดที่แม่น้ำไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ ดูจากร้อยที่ให้มา เราอาจเดาตรงที่ เรามีเรียนภาคศัพท์ในเล่ม ENG 1001 ตัวเดียวคือ confluence

90.The____in the Netherlands are beautiful.
1. road
2. park
3. waterways
4. volcano
ถาม_____ในประเทศเนเธอร์แลนด์สวยงาม
ตอบ 3 หน้า 168 1. ถนน 2. สวนสาธารณะ 3. ทางน้ํา 4. ภูเขาไฟ
ดูจากร้อยที่ให้มา เราอาจเดาตรงที่เรามีเรียนภาคศัพท์ในเล่ม ENG 1001 ตัวเดียวคือ
waterways

91.China has an abundance of fruits.
1. miscellaneous
2. scarcity
3. channel
4. large quantity

ถาม ประเทศจีนมีผลไม้ต่างๆนาๆ ที่อุดมสมบูรณ์
ตอบ 4 หน้า 168 1. เบ็ดเตล็ด 2. ขาดแคลน 3. ช่อง 4. ปริมาณมาก
abundance = large quantity, wealth = อุดมสมบูรณ์ มากมาย

92.During the World Cup 2002, news was primarily concerned with football matches.
1. mainly
2. hardly
3. scarcely
4. timely
ถาม ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 ข่าวส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอล
ตอบ 1 หน้า 200 1. ส่วนใหญ่ 2. แทบจะไม่ 3. หายาก 4. ถูกกาลเทศะ
primarily = mainly = ส่วนใหญ่

93.Mother has a limitless supply of love for her children.
1. cordless
2. childless
3. without limit or end
4. hopeless
ถาม แม่มีความรักที่ไม่มีขีดจํากัดให้กับลูก
ตอบ 3 หน้า 200 1. ไม่จําเป็นต้องใช้สายไฟ 2. ไม่มีลูก 3. ไม่มีขีดจํากัด 4. หมดหวัง
limitless = without limit or end = ไม่มีขีดจํากัด

94.I____that John’s coming back to Thailand again.
1. believe
2. boost
3. portray
4. motivate
ถาม ฉัน____ว่าจอห์นจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง
ตอบ 1 1. เชื่อ 2. ส่งเสริม สนับสนุน 3. พรรณนา 4. กระตุ้น

95.We cannot help admiring his____to go out to help flood victims.
1. victory
2. specialist
3. courage
4. reward
ถาม เราอดไม่ได้ที่จะชื่นชม____ของเขาที่ได้ออกไปช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากน้ำท่วม
ตอบ 3. หน้า 231 1. ชัยชนะ 2. ผู้เชี่ยวชาญ 3. ความกล้าหาญ 4. รางวัล

96.That singer has got nice voice and____.
1. comments
2. talents
3. disappointments
4. properties
ถาม นักร้องคนนั้นมีเสียงที่ไพเราะและ_____.
ตอบ 2 หน้า 230 1. คําวิจารณ์ 2. พรสวรรค์ 3. ความผิดหวัง 4. ทรัพย์สมบัติ

97.Don’t feel bad about that, for it’s not your fault.
1. duty
2. efficiency
3. pleasure
4. mistake
ถาม อย่าไปรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งนั้นเลย เพราะมันไม่ใช่ความผิดของคุณ
ตอบ 4 1. หน้าที่ 2. ความมีประสิทธิภาพ 3. ความพอใจ ยินดี 4. ความผิดพลาด

98.Children first learn about their custom at home.
1. decision
2. expression
3. tariff
4. tradition
ถาม เด็ก ๆ แรกเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีของพวกเขาที่บ้าน
ตอบ 4 หน้า 263 1. การตัดสินใจ 2. การแสดงออก 3. พิกัดอัตราภาษีศุลกากร 4. ธรรมเนียม
custom = traditional activity = ขนบธรรมเนียมประเพณี

99.When dinning out, we have to know table____Mary.
1. etiquette
2. member
3. belief
4. suggestion
ถาม เมื่อไปทานอาหารนอกบ้าน เราต้องรู้____บนโต๊ะนะ แมรี่

ตอบ 1 หน้า 263 1. มารยาทหรือธรรมเนียมปฏิบัติ 2. สมาชิก 3. ความเชื่อ 4. การแนะนํา

100. Tom gains his independence by staying by himself in an apartment.
1. courage
2. freedom
3. devotion
4. culture
ถาม ทอมได้รับความเป็นอิสระด้วยการพักอยู่ในอพาร์ทเมนต์ด้วยตัวเขาเองได้
ตอบ 2 หน้า 264 1. ความกล้าหาญ 2. ความมีอิสระ 3. การอุทิศตน 4. วัฒนธรรม
independence – freedom ความเป็นตัวของตัวเองและมีความเป็นอิสระ

101. Tell us, Kim, what your____ about the project is.
1. career
2. reward
3. opinion
4. profession
ถาม บอกพวกเราหน่อย คิม____ของคุณเกี่ยวกับโครงการนี้เป็นอย่างไร
ตอบ 3 หน้า 264 1. การงาน 2. รางวัล 3. ความคิดเห็น 4. อาชีพ

102.If failing this course more than once, go to see your professor at once!
1. costly
2. immediately
3. later
4. soon
ถาม ถ้าคุณสอบตกวิชานี้มากกว่าหนึ่งครั้ง ให้ไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาทันที
ตอบ 2 หน้า 295 1. แพง 2. ทันทีทันใด 3. ต่อมา 4. ในไม่ช้า
at once = immediately = ทันทีทันใด

103.____care and health promotion for all people is necessary.
1. Compelling
2. Entire
3. Iconic
4. Preventive
ถาม การดูแลเอาใจใส่____และการส่งเสริมสุขภาพสําหรับทุกคนเป็นสิ่งจําเป็น
ตอบ 4 หน้า 293 1. เป็นที่น่าเชื่อถือ 2. ทั้งหมด 3. โดดเด่นอ 4. ป้องกัน

104. This has visual impairment as a(n)____.
1. benefit
2. energy
3. side effect
4. honestly
ถาม สิ่งนี้มีความบกพร่องทางสายตาเป็น_____.
ตอบ 3 หน้า 293 1. ข้อดี 2. พลัง 3. ผลข้างเคียง 4. ความซื่อสัตย์

105. It’s important to____ your physical and mental health with exercise.
1. strengthen
2. shrink
3. light
4. fulfil
ถาม เป็นสิ่งที่สําคัญที่จะทําให้สุขภาพทางจิตและทางกายของคุณ___ด้วยการออกกําลังกาย
ตอบ 1 หน้า 296 1. ทําให้แข็งแรงขึ้น 2. ถอยห่าง 3. ทําให้สว่าง 4. ทําให้สําเร็จ

106. Manee just posted a picture she took of the____from the mountains’ summit on
her Facebook page.
1. origin
2. compression
3. crust
4. landscape
ถาม มานี้เพิ่งจะโพสต์ภาพที่เธอถ่ายของ____จากยอดสุดของภูเขาลงในเพจเฟสบุ๊คของเธอ
ตอบ 4 หน้า 296 1. ต้นกําเนิด 2. การอัดแน่น 3. เปลือกโลก 4. ทิวทัศน์

107. Ron intended to make his proposal____and easily understandable.
1. immediate
2. courageous
3. plain
4. expensive
ถาม รอนตั้งใจที่จะทําโครงการของเขาแบบ____และสามารถเข้าใจได้ง่าย
ตอบ 3 หน้า 381 1. ทันทีทันใด 2. กล้าหาญ 3. ง่าย ไม่ซับซ้อน 4. แพง

108. Receiving the Best Employee of the Year award is a remarkable_____.
1. representation
2. gesture
3. achievement
4. succession
ถาม การได้รับรางวัลพนักงานดีเด่นแห่งปีเป็น____ที่ยอดเยี่ยม
ตอบ 3 หน้า 367 1. การแสดงออก 2. อากัปกิริยา ท่าทาง 3. ความสําเร็จ 4. ความต่อเนื่อง

109. Maya should be praised for her____.
1. delusion
2. aspect
3. majority
4. honesty
ถาม มายาควรได้รับการยกย่องกับ____ของเธอ
ตอบ 4 หน้า 327 1. ความคิดเพ้อเจ้อ 2. แง่มุม ด้าน 3. คนส่วนใหญ่ 4. ความซื่อสัตย์

110. When the police found Tom, he was fully____.
1. conscious
2. fertile
3. sophisticated
4. extensive
ถาม ตอนที่ตํารวจเจอทอมนั้น เขา____อย่างเต็มที่
ตอบ 1 หน้า 382 1. มีสติ มีจิตสํานึก 2. อุดมสมบูรณ์ 3. ซับซ้อน 4. กว้างขวาง

111. The author____the miserable life of John Doe vividly.
1. sought
2. portrayed
3. folded
4. pondered
ถาม ผู้เขียน___ชีวิตที่น่าสงสารของจอห์น โดได้อย่างชัดเจน
ตอบ 2 หน้า 366 1. เสาะหา 2. พรรณนา 3. พับ งอ 4. ไตร่ตรอง

112. Though Reiko hasn’t eaten anything for a few days, she can stand the hunger____.
1. pangs
2. researches
3. misconceptions
4. changes
ถาม ถึงแม้เรอิโกะยังไม่ได้กินอะไรเป็นเวลาสองสามวัน แต่เธอสามารถทน____ความหิวได้
ตอบ 1 หน้า 396 1. ความทุกข์ทรมาน 2. การวิจัย 3. การเข้าใจผิด 4. การเปลี่ยนแปลง

113. Sam wants to apply only to a/an_____university.
1. prestigious
2. terrible
3. tightening
4. involved
ถาม แซมต้องการสมัครเรียนในมหาวิทยาลัย____.
ตอบ 1 หน้า 328 1. มีเกียรติ เป็นที่เคารพนับถือ 2. ร้ายแรง 3. หายากมีน้อย 4. เกี่ยวข้อง

114. What is the____of this noun in the sentence?
1. springboard
2. perspective
3. skill
4. function
ถาม อะไรเป็น____ของคํานามนี้ในประโยค
ตอบ 2 หน้า 329 1. จุดเริ่มต้น 2. ทัศนะ การมอง 3. ทักษะ4. หน้าที่

115. The____of the riots has had a considerable impact on the city’s economy.
1. continuance
2. stereotype
3. excellence
4. viewpoint
ถาม _____ของการจลาจลได้มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของเมือง
ตอบ 1 1. ความต่อเนื่อง 2. กรอบประเพณีที่ปฏิบัติกันมาไม่เปลี่ยน 3. ความยอดเยี่ยม 4. ความคิดเห็น

116. The Thompsons were deeply_____by the passing of Robert.
1. viewed
2. affected
3. motivated
4. increased
ถาม ครอบครัวทอมสันได้รับ_____อย่างมากจากการเสียชีวิตของโรเบิร์ต
ตอบ 2 หน้า 383 1. พิจารณา 2. ผลกระทบ 3. กระตุ้น 4. เพิ่มขึ้น

117. Romeo can understand this_____of grammar easily.
1. succession
2. concept
3. ground
4. eternity
ถาม โรมีโอสามารถเข้าใจ_____ของหลักไวยากรณ์นี้ได้อย่างง่ายดาย
ตอบ 2 1. ความต่อเนื่อง 2. ความคิด 3.พื้นดิน 4. นิรันดร

118. Rico____his new bag onto his shoulder and walked away.
1. rattled
2. competed
3. eliminated
4. heaved
ถาม ริโก้____กระเป๋าใบใหม่ของเขา____ไว้บนไหล่ของเขาแล้วเดินออกไป
ตอบ 4 หน้า 396 1. พูดไม่หยุด 2. แข่งขัน 3. กําจัด 4. ยกขึ้น

119. The movie was so____that Dario had to leave the theater.
1. conscious
2. scary
3. comprehend
4. meaningful
ถาม ภาพยนตร์นี้____มากจนกระทั่ง เดริโอต้องออกจากโรงภาพยนตร์
ตอบ 2 หน้า 366 1. มีสติ มีจิตสํานึก 2. น่ากลัว ตื่นตระหนก 3. เข้าใจ 4. มีความหมาย

120._____land enable farmers to reap more produce.
1. Surface
2. Fertile
3. Collapse
4. Landscape
ถาม ดินแดนที่____ ช่วยให้ชาวนาเก็บเกี่ยวผลิตผลได้มาก
ตอบ 2 หน้า 396 1. ผิว 2. อุดมสมบูรณ์ 3. ทรุด 4. ทิวทัศน์

ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน 2/2565

การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2565
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1001 ประโยคพื้นฐานและศัพท์ที่จําเป็นในชีวิตประจําวัน
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the best answer.

1.When Marie left, George immediately regretted____for her Line ID.
1. not asking
2. being not ask
3. having to asked
4. to be asked
ตอบ 1 หน้า 274 กริยาเหล่านี้ตามด้วย Ving ได้แก่

 

กริยา regretted + Ving จึงตอบ asking และมีรูปปฏิเสธ not ก็ให้วางหน้า Ving แสดงความหมายว่า เสียดายไม่ได้ขอไลน์ไอดีเธอ ดูตัวอย่างอื่นเพิ่มเติม
– The lorry driver admitted driving too fast.
– Did you regret going to Sri Lanka?

2.A____of musicians is playing beautiful music in the auditorium.
1. herd
2. band
3. flock
4. swarm
ตอบ 2 หน้า 9 สมุหนาม (Collective Noun) หมายถึง คํานามที่มีความหมายแสดงกลุ่ม หมู่ พวก ที่ เป็นกลุ่มของคน สัตว์ สิ่งของ ใช้คําต่างกัน ออกสอบประมาณ 1- 2 ข้อทุกเทอม

an army of soldiers = ทหารกองหนึ่ง
a band of singers, musicians, outlaws = นักร้อง นักแสดงวงหนึ่ง ผู้ร้ายกลุ่มหนึ่ง
a bunch of keys, bananas, flowers = กุญแจพวงหนึ่ง กล้วยหวีหนึ่ง ดอกไม้ช่อหนึ่ง
a flock of sheep, birds, geese = แกะ นก ห่าน ฝูงหนึ่ง
a herd of cattle, cows, pigs = โค วัว หมู ฝูงหนึ่ง
a school of fish, whales = ปลาฝูงหนึ่ง ปลาวาฬฝูงหนึ่ง
a swarm of bees = ผึ้งฝูงหนึ่ง
a bundle of hay, cash, sticks = หญ้าแห้งกําหนึ่ง เงินมัดหนึ่ง กิ่งไม้มัดหนึ่ง
a brood of chickens, birds = ลูกไก่ ลูกนก คลอกหนึ่ง

3.The teacher____the way her students were behaving.
1. disapprove
2. were disapproved
3. disapproved of
4. is disapproved of
ตอบ 3 กริยาแท้ที่มีบุพบทตามหลัง มีดังนี้

approve of (พอใจ)
disapprove (ไม่พอใจ)
apologize for (ขอโทษ)
get/be used to (เคยชิน)
feel like (รู้สึกชอบ)
look forward to (รอคอย)

He apologized for coming late. (เขาขอโทษที่มาสาย)
He gets used to staying up late. (เขาชินต่อการอยู่ดึก)

4.I need a new pair of shorts.____one is too small for me.
1. That
2. This
3. These
4. Those
ตอบ 2 หน้า 86 คํานําหน้าคํานาม โดย This / That + นามเอกพจน์ ส่วน These / Those + นามพหูพจน์ เราดูที่โจทย์มี one is แสดงว่าเป็นเอกพจน์ และ That แสดงถึงสิ่งนั้นอยู่ไกล This แสดง สิ่งนี้อยู่ใกล้ ในประโยค “ฉันต้องการกางเกงขาสั้นตัวใหม่ อันนี้เล็กเกินไปสําหรับฉัน” แสดงสิ่งนั้นอยู่ใกล้ ผู้พูดจึงตอบ This

5.My daughter was____ get home to open her birthday present.
1. anxious
2. anxious with
3. anxious to
4. anxiously
ตอบ 3 หน้า 285 ใช้ กริยา + adj. ที่มี to ตาม ดังนี้

 

 

John was disappointed not to receive any bonus. (จอห์นผิดหวังที่ไม่ได้โบนัส)
Somsak was anxious to play the violin in a concert.
(สมศักดิ์กระตือรือร้นที่จะเล่นไวโอลินสําหรับคอนเสริต) กริยา anxious มี to +V1 = to get

6.I need to buy____new car because____old one broke down.
1. the; the
2. an; the
3. a; the
4. the; (blank)
ตอบ 3 หน้า 57 เรื่อง article โดยใช้ “a” เป็นคํานําหน้าคํานามที่ใช้แสดงความหมายคํานามว่าเป็นสิ่ง หนึ่งโดยทั่วไป ก็คือ ซื้อรถใหม่คันหนึ่ง ใช้ a new car และส่วนหลัง ใช้ “the” เป็นการชี้เฉพาะว่ารถคัน เก่า จึงตอบ the นําหน้าส่วนหลัง

7.Vivienne Westwood was____designer.
1. a
2. an
3. the
4. (blank)
ตอบ 2 หน้า 59 ใช้ “alan” นําหน้าคํานามที่แสดงอาชีพ และมักตามหลัง verb to be เช่น a student (เป็นนักศึกษา) a nurse (นางพยาบาล) a lecturer (อาจารย์) a psychiatrist (นักจิตแพทย์) a doctor (แพทย์) a housewife (แม่บ้าน) an actor (นักแสดงชาย) an actress (นักแสดงหญิง) an engineer (วิศวกร) a designer (นักออกแบบ) เป็นต้น

8. Ron____put the baby back in its crib.
1. gentle
2. gently
3. with gentle
4. for gentle
ตอบ 2 หน้า168 – 169, 218 – 219 คําคุณศัพท์ (adj.) ทําหน้าที่ ตามหลัง verb to be หรือหลัง
linking verb (ได้แก่ is, am, are, was, were, feel, look, seem, keep, taste, smell,

become, get, appear, remain, stay เป็นต้น ส่วน คํากริยาวิเศษณ์ (Adv.) ทําหน้าที่ขยาย คํากริยาทั่วไป คําคุณศัพท์ และคํากริยาวิเศษณ์ ข้อนี้เป็น การทําหน้าที่อันแรกของ adv. คือขยายกริยา ทั่วไป สามารถวางไว้หน้ากริยาหรือหลังกริยาก็ได้
1. S + Verb to be/ Vlk + adj.
2. S + Verb ทั่วไป + adv. หรือ
S + adv. + Verb ทั่วไป
It rains continually in England during the winter time. (adv. อยู่หลังกริยา)
I purposely avoid travelling by plane because I am afraid of height.
(purposely เป็น adv. ขยายกริยา avoid) ข้อนี้ก็เช่นกัน put เป็นกริยา มี adv. คือ gently ทําหน้าที่ขยายกริยา put ซึ่งจะใช้ gently put หรือ put gently ก็ได้

9.I have___friends, but I have close friends in this city.
1. many; few
2. few; much
3. much; little
4. little; many
ตอบ 1 เป็นคํานําหน้านาม ให้เราดูที่โจทย์ว่าให้นามประเภทไหนมา อย่างช่องแรกให้ friends เป็นคํานาม พหูพจน์ สามารถใช้ many, few ได้เท่านั้นก็คือ + นามพหูพจน์ ในส่วนหลังให้ มี close friends (เพื่อน สนิท) ที่เป็นนามพหูพจน์นับได้ก็ใช้ few นําหน้า จึงตอบตัวเลือกข้อ 1 (โจทย์ต้องการบอกจํานวนว่ามีเพื่อน จํานวนมาก แต่มีเพื่อนสนิทน้อย) สรุป many, few + นามพหูพจน์ ส่วน much, little + นามนับไม่ได้

10. The engineer inspects these machines twice
1. day
2. hour
3. daily
4. in daily
ตอบ 3 หน้า 300 คําบางคําที่ลงท้ายด้วย -ly เป็นได้ทั้ง adj. และ adv. เช่น
daily = รายวัน ทุกวัน
quarterly = รายปักษ์ ทุกสามเดือน
yearly = รายปี ทุกปี
hourly = รายชั่วโมง ทุกชั่วโมง
monthly = รายเดือน ทุกเดือน
weekly = รายสัปดาห์ ทุกสัปดาห์
ฉะนั้น เราเดาได้ว่าเรามีเรียนตัวไหนก็ตอบตัวนั้นก็ได้นะ อันนี้เรามีเรียน daily ก็ตอบได้เลย

11. The woman____is standing behind your sister is my mother.
1. which
2. who
3. whom
4. whose
ตอบ 2 หน้า 117 – 118 บุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun)

The woman เป็นคน และตามด้วยกริยา is แสดงว่าทําหน้าที่เป็นประธานตอบ who เพราะ who + กริยา เสมอ

12. I think it’s_____normal to feel anxious before a game.
1. perfect
2. perfection
3. perfectly
4. perfected
ตอบ 3 หน้า 312 คํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ทําหน้าที่ 3 อย่างคือ 1. ขยายกริยา 2. ขยาย adj. 3. ขยาย adv.

1. S + Verb to be/ Vlk + adj.
2. S + Verb to be/Vlk + adv.+ adj.

Einstein was exceptionally intelligent. (S + verb to be + adv. + adj.)
Basketball players normally become terribly tired after a game.

ฉะนั้น it’s ย่อมาจาก it is และมี normal เป็น adj. แล้ว คําที่จะมาทําหน้าที่ขยาย adj. ได้ ก็ต้องเป็น adv. จึงตอบ perfectly

13. Do you prefer coffee____tea?
1. and
2. nor
3. yet
4. or
ตอบ 4 ข้อนี้ให้ตอบคําเชื่อมความ เราต้องรู้ความหมายของแต่ละคําเชื่อมว่าใช้ในกรณีไหน เช่น

จากโจทย์ต้องการให้เลือกกาแฟหรือชา จึงตอบ or (หรือ) ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

14. A: How did the rehearsal go?
B:_________.
1. Smooth
2. Smoothly
3. More smooth
4. Most smooth
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ โจทย์เป็นประโยคคําถามลงท้ายด้วยถามกริยา go ว่าไปอย่างไร? เมื่อ B ตอบก็ต้องการคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ทําหน้าที่ขยายกริยาทั่วไปคือ go อย่างไร ตอบ smoothly เป็น adv. ว่าไปอย่างราบรื่น

15. Don’t worry. The doctor said measles normally____for two to three weeks?
1. last
2. is last
3. lasts
4. has last

ตอบ 3 หน้า 343 ประธานที่เป็นชื่อวิชา ชื่อโรค ชื่อเกม แม้จะมีรูปเป็นพหูพจน์ แต่จัดว่าเป็นคํานาม เอกพจน์เสมอ ให้ตอบกริยาเอกพจน์ เช่น

physics (วิชาฟิสิกส์) mathematics (วิชาคณิตศาสตร์) mumps (โรคคางทูม)
measles (โรคหัด) Billiards (บิลเลียด) เกม news (ข่าว)
ฉะนั้นจากโจทย์ให้คํานาม measles จึงตอบกริยาเอกพจน์คือ lasts ดูตัวอย่างอื่น เช่น
Economics is a subject I do not understand.
German measles is dangerous for pregnant women.
New spreads as quickly as a forest fire.

16. “She made him a sandwich for lunch.” Which word is an indirect object?
1. She
2. him
3. sandwich
4. lunch
ตอบ 2 หน้า 215 กริยาบางตัวเป็นกริยาที่มีกรรม 2 ตัวมารับได้ (double transitive verb หรือ di- transitive) คือกรรมตรงและกรรมรอง โดยกรรมตรง (direct object) มักเป็นสิ่งของ และตามด้วย บุรพบท “to/for” แล้วตามด้วยกรรมรอง ซึ่งเป็นมักเป็นคน (indirect object) ดูสูตร

S + กริยา + กรรมตรง(สิ่งของ) + to/for + กรรมรอง(คน)
หรือ S + กริยา+ กรรมรอง(คน) + กรรมตรง (สิ่งของ)

 

จากโจทย์ กริยา made มีกรรมรองคือ him (คน) และ a sandwich กรรมตรง เป็นสิ่งของ

17. These species of deer____under the law.
1. was protected
2. protected
3. have been protected
4. are protect
ตอบ 3 หน้า 350 เมื่อมีคํานามที่มีรูปเดียวกันทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เช่น deer, sheep, fish, craft, species, series เป็นประธานของประโยค ให้ดูที่ความหมายของคํากริยาต้องสอดคล้องกับความหมายของ คําถามนั้น เช่น

A goldfish is swimming in the bowl. (เดาจาก A แสดงว่าปลาทองตัวเดียวเป็นเอกพจน์) จึงตอบ is

These species of birds are rare. (เดาจาก These ซึ่งมีเป็นพหูพจน์เสมอจึงตอบ are)

ฉะนั้นข้อนี้ก็เช่นกัน มี These นําหน้า แสดงถึงพหูพจน์ และเป็นสายพันธุ์กวางที่ได้รับการปกป้อง (ถูก ปกป้อง) ใช้รูป passive ถูกกระทําลงท้ายด้วย V3 ฉะนั้นจะมี was protected แต่ผิดตรง was ใช้รูปอดีต เพราะจากประโยคเป็นปัจจุบันที่ยังได้รับการปกป้องอยู่ จึงใช้ have been protected คือ have been + V3 ถูกต้อง ส่วนตัวเลือกที่ 4 ถ้าให้ถูกต้องเป็น are protected (ต้อง V3)

18._____I go to the bathroom, please?
1. Can
2. Ought to
3. Will
4. Have to
ตอบ 3 หน้า 258 เราเห็น please แสดงการขอร้อง จะต้องใช้คู่กันได้คือ Will หรือ Would เท่านั้น Will you please say it again? I can’t hear you. (ช่วยกรุณาพูดอีกครั้งค่ะ ดิฉันไม่ได้ยิน)

19. The last person____to turn off the light before leaving.
1. can
2. has
3. may
4. would
ตอบ 2 ข้อนี้ไม่ยาก ดูที่โจทย์มี to แสดงว่าต้องหาคําที่อยู่ข้างหน้ามี to ตามได้ เมื่อดูตัวเลือกจะมีภริยา ช่วย can, may, would ล้วนสามตัวนี้ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ไม่มี to ตาม ฉะนั้นจึงตอบ has to ได้

20. Ryan and Paul don’t need help from others. They want to do it_____
1. they
2. them
3. theirs
4. themselves
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ เป็นคําสรรพนามที่สะท้อนตัวเองว่าประธานเป็น They สรรพนาม สะท้อนตัวเองก็เป็น themselves เทียบดูตัวอย่างอื่น
– I cut myself. (ฉันทํามีดบาดตัวเอง)
– They did the dishes by themselves. (พวกเขาล้างจานกันเอง ไม่มีใครช่วยพวกเขา)

21. The President, together with the First Lady,____the people standing in front of the church.
1. greet
2. greets
3. has been greeted
4. would be great
ตอบ 3 หน้า 340 ถ้าเจอประโยคที่มีเครื่องหมายคอมม่า (,) คั่น กริยาจะผันตามประธานข้างหน้า
ดูสูตร

S, not, with, together with, + กริยาผันตาม S ข้างหน้า
no less that, as well as…

กริยาผันตามประธานตัวหน้าคือ The President เป็นเอกพจน์คงเหลือตัวเลือก 2 และ 3 และกริยาใช้รูปถูก กระทําคือประธานาธิบดีได้รับการต้อนรับ (ถูกต้อนรับ) ใช้รูป passive นั่นคือตัวเลือก 3 has been
greeted

22. Yesterday, I saw a_____of sheep grazing in the field.
1. school
2. basket
3. group
4. flock
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ ใช้ a flock of sheep, birds, geese- แกะ นก ห่าน ฝูงหนึ่ง

23. The house looks old and dirty because nobody____there.
1. live
2. lives
3. was living
4. have living
ตอบ 12 หน้า 98 คําที่ขึ้นต้นด้วยต่อไปนี้ให้ตอบกริยาเอกพจน์ เสมอ เช่น

Everyone, everybody, everything,
Someone, somebody, something + กริยาเอกพจน์ในข้อนี้ lives
No one, Nobody, Anybody, Nothing
Every, Each, Either, Neither

ประธาน nobody ตอบกริยาเอกพจน์ ก็คือ lives ใช้รูปปัจจุบันตามเพราะเราเห็นข้างหน้าก็ใช้รูป ปัจจุบันคือ looks เราก็ตอบปัจจุบันตามด้วยคือ lives (V1)

24. Which is correct?
1. Rhonda is eager to graduate this year.
2. Becky’s face turn ready.
3. Jason hired me to work him.
4. Under the tree there humble bees.
ตอบ 1 ข้อไหนถูกต้อง?
1. ถูกต้องเพราะมีกริยา is ตามด้วยคุณศัพท์ eager to
2. ผิดตรงกริยา ต้องเป็น Becky’s face turns red. face เป็นเอกพจน์กริยาก็ต้องเอกพจน์และตามด้วย adj.
3. ผิดต้องเป็น Jason hired me to work for him.
4. ผิดต้องเป็น Under the tree there are humble bees.

25._____are my favorite shoes. That’s why I’m wearing them on this trip.
1. This
2. These
3. That
4. Those
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 4. ประกอบ These / Those + นามพหูพจน์ หรือ กริยาพหูพจน์ และ These (เหล่านี้) แสดงสิ่งนั้นอยู่ใกล้ผู้พูด ส่วน Those แสดงสิ่งของนั้นอยู่ไกลจากผู้พูด จากโจทย์สิ่งของอยู่ใกล้ผู้ พูดเพราะผู้พูดบอกว่า “นี่คือรองเท้าคู่โปรดของฉัน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันใส่มันในทริปนี้” แสดงว่าอยู่ใกล้จึง
ตอบ These

26. Exercising every day_____.
1. healthy keeps Warren
2. keeps healthy Warren
3. keeps Warren healthy
4. Warren keeps healthy
ตอบ 3 keeps เป็นกริยาที่มีกรรมมารับ กรรมก็คือ Warren (ชื่อคนวอร์เรน) แล้วตามด้วยคําคุณศัพท์ ที่มาขยายคือ healthy จึงเรียงเป็น keeps Warren healthy

27. My sister was excited when she saw_____elephant at the zoo yesterday.
1. an
2. the
3. (blank)
4. a
ตอบ 1 หน้า 57 ใช้ 3 และ an กับคํานามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ (a, e, i, o, u) เช่น an egg, an elephant, an animal, an umbrella, an interest เป็นต้น

28. Demi was exhausted: _____,she wanted to finish her take-home exam.
1. however
2. as a consequence
3. moreover
4. indeed
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 13. ประกอบ ให้เติมคําเชื่อมความ
“เดมี่หมดแรง แต่อย่างไรก็ตามเธอต้องการทําข้อสอบที่นํากลับมาทําที่บ้านให้เสร็จ” เป็นการแสดงความ แย้งจึงตอบ however (อย่างไรก็ตาม)

29. While being transferred to the nearby hospital, the boy and his dog remained_____.
1. consciously
2. conscious
3. consciousness
4. have consciousness
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบสูตร S + Verb to bel Vlk + adj. เนื่องจากกริยา linking verbs ซึ่งได้แก่ feel, seem, keep, look, appear, remain, get, smell, taste, turn จะตามด้วย adj. เราก็ดูตัวเลือกที่ 1 และ2 ที่มี -ly และไม่มี -ly แสดงคงเหลือให้มีตอบสองตัวเลือกนี้เพราะเรามีเรียน และมีให้ตอบทุกเทอม แล้วดูว่าให้กริยาประเภทไหนมา ถ้า linking verb หรือ verb to be ตอบ adj. ถ้า เป็นกริยาทั่วไปที่ไม่ชนกริยา linking verb ก็ตอบ adv. ไป

30.My brother and_____went to see a movie before we had dinner.
1. me
2. I
3. her
4. they
ตอบ 2 เราเห็นกริยา went แสดงว่าส่วนหน้าคือประธานซึ่งรวมกันมี น้องชายของฉันและฉัน รวมสองคน เป็นประธาน จึงตอบ ! เป็นคําสรรพนามในรูปประธาน

31. Betty can speak three languages:_____,she was offered a job at the embassy.
1. as
2. moreover
3. however
4. nevertheless moreover
ตอบ 2 คําเชื่อมความ as = เป็น / เหมือน
moreover = ยิ่งไปกว่านั้น เป็นการบอกข้อมูลเพิ่ม
however/nevertheless = อย่างไรก็ตาม ถึงกระนั้น แสดงความแย้ง
“เบ็ตตี้สามารถพูดได้สามภาษา นอกจากนี้ เธอยังได้งานที่สถานทูตอีกด้วย” เป็นการบอกข้อมูลเพิ่มเติม จึงตอบ

32. Salone must finish her assignment by noon;_____she will get an F.
1. thus
2. in addition
3. otherwise
4. furthermore
ตอบ 3 “ซาโลนต้องทํางานบ้านให้เสร็จภายในเที่ยงวัน มิฉะนั้นเธอจะได้ F
thus = ดังนั้น
in addition = นอกจากนี้ บอกเพิ่มเติม
otherwise = มิฉะนั้น
furthermore = มากไปกว่านั้น บอกเพิ่มเติม เหมือน in addition

33._____forgot to bring their umbrella, so____got wet in the rain.
1. I, them
2. You, her
3. They, they
4. She, she
ตอบ 3 ส่วนแรกให้เติมรูปประธาน และมีคําสรรพนาม their แสดงความเป็นเจ้าของ แสดงว่าประธานหน้า จะต้องเป็น They และส่วนหลังก็เพิ่มรูปประธานเดิมที่แสดงการกระทําต่อเนื่องจึงตอบ They ทั้งสองส่วน

34.David moved in with Pam is not my business.
1. Before
2. Since
3. That
4. (blank)
ตอบ 2 หน้า 420 Noun Clause ที่ขึ้นต้นด้วย That ทําหน้าที่เป็นประธาน โดยสังเกตว่า Noun Clause ทําหน้าที่เป็นประธานจะขึ้นต้นประโยคทําหน้าที่เหมือนคํานามธรรมดาเพียงแต่จะเป็นกลุ่มอนุประโยคสําหรับ ข้อนี้ขึ้นต้นด้วย That David moved in with Pam เป็นอนุประโยค ดูตัวอย่างอื่น
What he told us was unbelievable. (สิ่งที่เขาบอกเราไม่น่าเชื่อ)
That David moved in with Pam is not my business.
(สิ่งที่เดวิดย้ายไปอยู่กับแพมไม่ใช่ธุระของฉัน)

35. Aaron is on a diet;____he has lost a lot of weight.
1. otherwise
2. still
3. consequently
4. likewise

ตอบ 3 “แอรอนกําลังไดเอท ดังนั้นจึงสูญเสียน้ําหนักไปมาก”
otherwise = มิฉะนั้น
still = ถึงกระนั้น
consequently = ดังนั้น ผลตามมา
likewise = ทํานองเดียวกัน เช่นกัน

36. This printer,____Diane bought last week, needs repairing.
1. when
2. whose
3. which
4. whether
ตอบ 3 หน้า 158 หรือหน้า 415 ให้เติมประพันธ์สรรพนาม โดยให้สังเกตจากข้างหน้าคําที่ให้เติม ช่องว่างว่าเป็นคนหรือสิ่งของหรือสถานที่ เราดูคํานามข้างหน้าก่อนว่าเป็นอะไร ถ้าเป็น
คน who + verb (คํากริยา) ในที่นี้คือ is
คน whose + คํานาม + V
คน whom + S + Verb คําว่า S มักเป็นคําสรรพนามเช่น I saw, you met
สิ่งของ which + Verb หรือ which + S + V.
สถานที่ where + S + V. เช่น where I live
เวลา when +S+V
the reason why + S + V
what ใช้แทน สิ่งของ
that ใช้แทนได้ทั้งคน สัตว์และสิ่งของ
คํานาม the printer (เครื่องปรินเตอร์) เป็นสิ่งของใช้ which แทนสิ่งของได้

37. Jane was____by the delicious smell of the cookies, so she made more for herself.
1. tempts
2. tempting
3. tempted
4. tempt
ตอบ 3 เมื่อเราเห็นส่วนหลังมี by (โดย) แสดงถึงประธานถูกกระทําใช้โครงสร้าง Verb to be + V3 จึง ตอบ tempted เป็นกริยาช่องที่ 3

38. Sam left home_____she finished cooking and cleaning her kitchen.,
1. after
2. whether
3. if
4. as
ตอบ 1 “แซมออกจากบ้านหลังจากที่เธอทําอาหารและทําความสะอาดครัวเสร็จ”
คําเชื่อม after = หลังจาก
whether = หรือไม่
If = ถ้าหากว่า
as = เป็น เหมือน

39. The book shop____I started my first part-time job is on the corner of the street.
1. which
2. when
3. why
4. where
ตอบ 4 The book shop (ร้านหนังสือ) เป็นสถานที่ที่ฉันเริ่มทํางานนอกเวลา… เป็นการบอกสถานที่ ใช้ where

40. A: It’s Rachael’s birthday on Monday.
B:_____to buy her some flowers.
1. Don’t remember
2. Don’t forget
3. Remember not
4. Forget not
ตอบ 2 ในประโยคคําสั่งหรือขอร้อง จะขึ้นต้นด้วยกริยาช่องที่ 1 เช่น Stop do it. เป็นต้น ถ้าเป็นรูปจะใช้ขึ้นด้วยคําว่า Don’t มาจากตัวเต็มว่า Do not + V1 ตรงกับตัวเลือกข้อ 2 ว่า Don’t forget (อย่าลืมนะ) เข้ากับประโยคว่า อย่าลืมชื่อดอกไม้ให้เธอนะ จะไม่ใช้คําว่า Don’t remember (อย่าจํา)

41. The car,____I bought last month, has been very reliable.
1. where
2. when
3. which
4. whom
ตอบ 3 The car เป็นสิ่งของใช้ which แทนได้

42. The teacher____students to learn another foreign language at school.
1. were encouraged
2. has encouraged
3. has been encouraged
4. does encouraging
ตอบ 2 กริยาที่ถูกต้องโครงสร้างคือ ใช้ has + V3 ประธานเป็นผู้กระทําเอง คือ has encouraged (ได้ ส่งเสริม) นอกนั้นตัวเลือกข้อ 1/3 เป็นรูปถูกกระทําที่ไม่ถูกต้องและตัวเลือก ก็ไม่ถูกเพราะ does จะไม่ตาม
ด้วย Ving

43. We don’t want to waste a drop of gasoline,___it’s very expensive these days.
1. but
2. so
3. nor
4. for
ตอบ 4 “เราไม่ต้องการสิ้นเปลืองน้ํามันแม้แต่หยดเดียวเพราะทุกวันนี้น้ำมันมีราคาแพงมาก”
but= แต่ แสดงความแย้ง ไม่
SO = ดังนั้น
nor = ไม่
for = because = เพราะ

44. Sandy speaks German____better than before.
1. much
2. far
3. (blank)
4. All are correct
ตอบ 4 หน้า 319 คําที่สามารถนําหน้าขั้นกว่าได้คือ a bit, a little, much, a lot, far, even ฉะนั้น harder เป็นขั้นกว่าแล้วสามารถตอบ much นําหน้าได้ เทียบตัวอย่างอื่น
She works much harder than last semester.
She can speak English far better than before.
Could you speak a little (a bit) more slowly, please?
หรือไม่ต้องใส่ much, far นําหน้าขั้นกว่าก็ได้ ก็คือเป็นขั้นกว่าปกติไป ไม่ต้องใส่ก็ได้ จึงตอบถูกทุกข้อ

45. “I bought a new car for my sister yesterday.” Which word is a direct object?
1. I
2. bought
3. sister
4. car
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 16 ประกอบ กริยา bought มีกรรม a new car (รถ) เป็นสิ่งของคือกรรมาตรง (direct object) ส่วน my sister เป็นกรรมรอง (คน)

46. Which is correct?
1. Several luggages have kept in the inspector’s room.
2. Many students are complaining about our services.
3. Everybody is working on yours own assignments.
4. It is Ronnie told you about the incident.
ตอบ 2 ข้อไหนถูกต้อง
1. ผิดตรงคํานาม luggage มีรูปเป็นพหูพจน์คงสภาพเดิมเพราะเป็นนามนับไม่ได้ ไม่ต้องมี S
2. ถูกต้อง มีกริยา are complaining about ครบทุกส่วนประโยค
3. ผิดตรง yours ถ้ามีคํานามตามหลังต้องเป็น your เป็นเพาะ your + คํานาม
4. ผิด ต้อเป็น It is Ronnie who told you about the incident.

47. “Mark looks tired after working all day. The underlined verb is a(n)___verb.
1. di-transitive
2. linking
3. transitive
4. intransitive

ตอบ 2 looks เป็นกริยาประเภท linking verbs ซึ่งได้แก่ verb to be, look, feel, seem, keep, taste, smell, get, turn, appear, remain, turn ตามด้วยคําคุณศัพท์ (adj.)

48.Twelve dollars____the price of a movie in big cities these days.
1. is
2. are
3. was
4. were
ตอบ 1 หน้า 342 เมื่อประธานเป็นชื่อหนังสือ ชื่อร้านอาหาร หรือชื่อเฉพาะอื่น ๆ จํานวนเงิน ระยะทาง ระยะเวลา ผลบวก ผลคูณ แม้จะมีรูปเป็นพหูพจน์ แต่จัดเป็นเอกพจน์ กริยาก็จะเป็นเอกพจน์ เช่น
-The Complete Works of Shakespeare is thick and heavy.
-A hundred US. dollars is too much for these shoes.
-Three weeks is too short to understand the whole course.

49. “John swam in the ocean for an hour.”
The underlined verb is a (n)____verb.
1. di-transitive
2. linking
3. transitive
4. intransitive
ตอบ 4 กริยา swam (Swim) ตามด้วยบุพบท in แสดงว่าเป็นกริยาไม่มีกรรม (intransitive verb)

50. Ed likes to ask Emma___his homework for him.
1. to do
2. doing
3. do
4. done
ตอบ 1 กริยา ask + to + verb หมายถึง “ขอ” ขอให้ใครทําอะไรให้ จากโจทย์มีกริยา ask + กรรม (Emma) + to do ดูตัวอย่างอื่น เช่น
-He asked me to speed up. (เขาขอให้ฉันช่วยเร่งมือหน่อย)

51. I bought a bunch of flowers____my friend on her birthday.
1. in
2. for
3. to
4. with
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 16. ประกอบ

52. Which is a simple sentence?
1. This scene was filled with beauty, and I loved it.
2. Thousands of voters who registered will cast their votes today.
3. Everyone whom I’ve met was happy about the result of the election.
4. I waited for 30 minutes to cast my vote.
ตอบ 4 ประโยคไหนเป็นประโยคใจความเดียว?
ถ้าเราเห็นประโยคที่มีคําเชื่อมความเช่น so, and, but, yet, nor เป็นสองประโยคเชื่อมต่อกันเรียกว่า compound sentence (ประโยคใจความรวม) แต่ถ้าเห็นมีคําเชื่อม who, whom, which, that, where, because, however, before, after เป็นต้นจะเป็น complex sentence (ประโยคใจความ ซ้อน) ถ้าเราเห็นประโยคที่มีกริยาประธานตัวเดียว กริยาตัวเดียว ก็คือ Simple Sentence
ตัวเลือก 1 มี and เป็น compound sentence
ตัวเลือกที่ 2 มี who เป็น complex sentence
ตัวเลือก 3 มี whom เป็น complex sentence
ตัวเลือกที่ 4 มีประธาน และ กริยา waited ตัวเดียว เป็น simple sentence

53. At the festival, we met____girls.
1. young beautiful some French
2. beautiful some French young
3. some beautiful young French
4. young French beautiful some
ตอบ 3 หน้า 188 เป็นการเรียงคุณศัพท์ที่มีคุณศัพท์มาขยายคํานามหลายตัว โดยวางไว้หน้าคํานาม คือ คํานามหลักจะอยู่ขวามือของเรา ส่วนหน้าคํานามจะเป็นคุณศัพท์เรียงลําดับ ดังนี้

ถ้าเรารู้ว่าคําบอกปริมาณขึ้นก่อนเช่น a, an, the, some, many เราก็เอาตัวเลือกข้อ 3 ถูกได้เลย

54. Tim has won a lucky draw;_____he was appointed as a manager.
1. similarly
2. furthermore
3. as a result
4. accordingly.
ตอบ 2 “ทิมถูกหวย นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการ”
คําเชื่อม similarly = ในทํานองเดียวกัน เช่นกัน
furthermore = นอกจากนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เป็นการบอกข้อมูลเพิ่มเติม เข้ากับความหมายในประโยคและมี เครื่องหมาย ;____ ใส่คําเชื่อมนี้ได้ ส่วน as a result = ผลที่ตามมา ต้องมีคําว่า of ด้วยจึงจะสมบูรณ์ แต่ยังไงคําเชื่อมนี้ไม่สามารถเข้ากับ ความหมายของโจทย์ได้ และ accordingly = ดังนั้น ก็ไม่เข้ากับประโยค
เช่นกัน

55. We were very_____to see our high school friends again last night.
1. pleased
2. please
3. pleasing
4. to please
ตอบ 1 หน้า 177 คุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย -ed, -ing ถ้าใช้กับคน หรือสิ่งมีชีวิต แสดงความรู้สึกใช้รูป – ed เช่น interested, surprised, bored (รู้สึกเบื่อ), disappointed (รู้สึกผิดหวัง), pleased (รู้สึกดี ใจ) เป็นต้น ถ้าใช้กับสิ่งของหรือสิ่งไม่มีชีวิต ใช้รูป – Ving เช่น interesting (น่าสนใจ), boring (น่าเบื่อ) exciting (น่าตื่นเต้น) เป็นต้น ฉะนั้นดูที่โจทย์ประธานคือ We เป็นคน ก็ตอบ pleased ได้เลย

56.______the tom yum kung was quite spicy, Tammy ate it all.
1. While
2. Although
3. When
4. If
ตอบ 2 “ถึงแม้ต้มยํากุ้งจะค่อนข้างเผ็ด แต่แทมมี่ก็กินจนหมด”
While = ขณะที่
Although = ถึงแม้ว่า แสดงความแย้ง
When = เมื่อ
If = ถ้าหากว่า

57. Ken is____son in the family.
1. an old
2. the elderly
3. an olderly
4. the eldest
ตอบ 2 หน้า 191 ใช้คําคุณศัพท์ให้เป็นคํานามได้โดยใช้รูป the + adj. จะมีความหมายถึงกลุ่มคนที่มี
คุณลักษณะนั้น ๆ และเป็นคํานามพหูพจน์ถ้าหมายถึงคนหรือจําพวก เช่น the old (คนแก่), the elderly

(ผู้มีอาวุโส) the young, the poor (คนจน), the rich (คนรวย), the sick (คนป่วย), the blind (คนตา บอด), the homeless (พวกที่ไม่มีที่พักอาศัย), the Chinese (ชาวจีน) เป็นต้น

58. Grilled.pork and sticky rice are very popular here,___they are cheap and easy
to find.
1. as soon as
2. whenever
3. while
4. since
ตอบ 4 “หมูย่างและข้าวเหนียวเป็นที่นิยมมากที่นี่ เนื่องจากราคาถูกและหาง่าย”
as soon as – ทันทีทันใด
whenever – เมื่อไรก็ตาม
while – ในขณะที่
since- เพราะว่า เนื่องจาก = because

59. Which sentence has an intransitive verb?
1. She ate the pizza.
2. The sun rose early today.
3. He wrote a letter to his friend.
4. They played soccer in the park
ตอบ 2 ประโยคไหนเป็นกริยาไม่มีกรรม? วิธีดูถ้าหากเป็นกริยามีกรรม แสดงว่าหลังกริยาจะตามด้วย คํานามหรือคําสรรพนาม ส่วนกริยาไม่มีกรรม หลังกริยาอาจเป็น adv. หรือมีบุพบทตาม ก็ไม่มีกรรม
1. กริยา ate (eat) ตามด้วย pizza (ฟิซซ่า) เป็นคํานาม แสดงว่ากริยา ate เป็นกริยามีกรรม
2. กริยา rose (rise) ตามด้วย early เป็นคําวิเศษณ์ (adv.) แสดงว่ากริยา rose เป็นกริยาไม่มีกรรม
3. กริยา wrote (write) มีกรรมตรงคือ a letter และมีกรรมรองคือ his friend
4. กริยา played ตามด้วยคํานาม (Soccer) ฟุตบอล แสดงว่ากริยา played เป็นกริยามีกรรม

60. Joe____talked to his son when they were on vacation.
1. barely
2. bare
3. hardly bare
4. never barely
ตอบ 1 หน้า 301 คุณศัพท์ bare (ว่างเปล่า) เมื่อใส่ -ly เป็น barely ทําให้ความหมายเปลี่ยนหมายถึง ไม่ค่อย จะ เป็น adv. ทําหน้าที่ขยายกริยา talked วางหน้ากริยาได้

61.____car is that?
1. Who
2. What
3. Whose
4. How
ตอบ 3 เป็นประโยคคําถาม Who + กริยาเสมอ ถามถึงคนว่าใคร ส่วน What + กริยาถามถึงอะไร Whose + คํานาม ในที่นี้โจทย์ car เป็นคํานาม แสดงความเป็นเจ้าของว่า Whose car (รถของใคร) ส่วน How + adj. เช่น How far (ไกลแค่ไหน) How old …… เป็นต้น

62. You, like all my friends,____Erin’s novel.
1. hate
2. would have hate
3. hates
4. will be hating
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 18. ประกอบ กริยาจะผันตามประธาน You ได้ก็คือ hate นอกนั้น would, will ไม่ ถูกต้องเพราะไม่ได้เป็นอนาคต และกริยา hates เอกพจน์ใช้กับประธานเอกพจน์เช่น He, she เป็นต้น

63. This book belongs to me. It’s___book. That one is___.
1. mine; you
2. me; yours
3. my; yours
4. I’s; you
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ เป็นเรื่องคําสรรพนาม จะเห็นช่องแรกที่ให้เติมมีคํานามคือ book ฉะนั้นจะตอบสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเช่น my, his, her, your ได้จึงตอบตัวเลือกข้อ 3 ได้ทันที ส่วนช่องที่ 2 ให้เติมไม่มีคํานามหรืออะไรตามหลังก็ตอบคําสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของเช่น mine, yours, theirs เป็นต้น

64. Tanya____a wedding gift to her best friend.
1. packed
2. mailed
3. kept
4. wrapped
ตอบ 2 หน้า 214 กริยามีกรรม และใช้กับบุพบท to ได้ เช่น
advance (ให้)
hand (ส่ง)
owe (เป็นหนี้)
lend (ให้ยืม)
pass (ส่งผ่าน)
show (ชี้ให้เห็น)
pay (จ่าย)
read (อ่าน)
mail (ส่งทาง)
teach (สอน)
post (ส่งทางปณ.)
throw (โยน)
ฉะนั้นจึงตอบกริยา mail (ส่ง) มีกรรมตามคือ a wedding gift และตามด้วย to

65. You____to brush your teeth before going to bed.
1. ought
2. may
3. can
4. will
ตอบ 1 เห็น to ที่โจทย์ก็ตอบ ought ได้เลย เพราะกริยาช่วย ought ต้องมี to ตามเสมอ ส่วนตัวอื่น may, can, will + กริยาช่องที่ 1 ไม่มี to ตาม

66. A: Did you get any dresses from the flea market yesterday?
B: I bought some, but not____.
1. much
2. many
3. little
4. (blank)
ตอบ 2 ดูจากตัวเลือกจะรู้ว่าให้คําบอกปริมาณหรือจํานวนว่ามากหรือน้อย จากโจทย์การสนทนาของ B บอกเกริ่นมาแล้วว่าซื้อชุด (dresses ที่ให้มาเป็นนามพหูพจน์) มาบ้างคือ Some แล้วเชื่อมด้วยคําว่า but ซึ่ง แสดงความแย้ง นั่นคือซื้อมาบ้างแต่ไม่มาก คําที่เติมนั้นแทน dresses นามนับได้พหูพจน์ ก็คือ not many (ไม่มาก) ส่วน much, little ใช้กับนามนับไม่ได้ และblank ไม่ตอบอะไร ไม่ถูกต้องเพราะทิ้งหลัง not ก็จะ ไม่รู้ว่าอะไร จึงไม่ถูก

67. There is a special school for____near my house.
1. blind
2. a blinder
3. the blind
4. blinds
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 57. ประกอบ ตอบ the + adj. ก็คือ the blind (คนตาบอด)

68. That mansion,____the Johnsons live, is decorated beautifully.
1. to where
2. in which
3. of that
4. with which
ตอบ 2 หน้า 408 ประพันธ์สรรพนามที่เติมนั้นจะแทนสถานที่เพราะ That mansion (แมนชั่น) เป็น สถานที่ ซึ่งปกติใช้ where โดยไม่ต้องมี to ดังนั้นตัวเลือกข้อ 1 จึงผิด เราสามารถใช้คําที่แทน where ได้คือ in which ดูตัวอย่างอื่นประกอบ
-The building where he lives is a skyscraper. (The building (อาคารเป็นสถานที่) ใช้ where
-The building in which he lives is a skyscraper. ใช้ in which แทน where ได้

69. Paul always puts on____.
1. a shirt clean nice
2. nice clean a shirt
3. clean a shirt nice
4. a nice clean shirt
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 53 ประกอบ เรียงคุณศัพท์ที่มีหลายตัวมาขยายคํานามโดยคํานามอยู่หลังขวามือสุด และคุณศัพท์อยู่หน้าคํานามก็คืออยู่ซ้ายมือ เราเดาบางคําได้เลยนั่นคือคําบอกปริมาณจํานวนขึ้นก่อนคือ 2 คงเหลือตัวเลือกข้อ 1 และ 4 แล้วดูคํานามคือ shirt จะต้องวางอยู่ขวาสุดก็ตอบตัวเลือกข้อ 4 ได้เลย โดยไม่ต้อง ไปคิด nice กับ clean ให้ปวดหัว

70. Lilly or her cousins_____received the invitation.
1. hasn’t
2. haven’t
3. of that
4. with which
ตอบ 2 หน้า 337 ประโยคที่มีคําเชื่อมเหล่านี้กริยาจะผันตามประธานที่อยู่ใกล้ที่สุด
ประธาน + or + ประธาน
Either …..ประธาน…..or…ประธาน…
Neither….ประธาน….nor…..+ กริยาผันตามประธานตัวที่อยู่ใกล้
Not only……but………….
-John or his friends have promised to come. (nŝununu his friends)
จากโจทย์ กริยาก็ผันตาม her cousins จึงตอบกริยาพหูพจน์คือ haven’t

71. Jimmy looks____ than Richard does.
1. old
2. older
3. oldest
4. very old
ตอบ 2 ถ้าเราเห็น than แสดงว่าให้ตอบขั้นกว่าได้เลย จากคุณศัพท์ old ก็เติม -er เป็น older ถูก

72. Maya was discussing the problem with her classmates______.
1. seriously in the living room yesterday.
2. in the living room seriously yesterday
3. seriously yesterday in the living room
4. yesterday in the living room seriously
ตอบ 1 หน้า 315 ตําแหน่งการวางคํากริยาวิเศษณ์ (adv.) ที่มาขยายคํากริยาสําหรับข้อนี้คือ ขยาย กริยา was discussing บอกอาการ บอกสถานที่ บอกเวลา เรียง
S + กริยา + (กรรม) + adv. อาการ + adv. สถานที่ + adv. บอกเวลา
-We were watching happily in the bedroom last night.
กริยา watch บอกอาการ (ly) บอกสถานที่ (in…) บอกเวลา (last….)

เทียบกับข้อนี้โจทย์ยาวเพราะกริยามีกรรมมาตามหลัง เราก็ต่อด้วย adv. ที่บอกอาการก็คือประเภทลงท้าย – ly เช่นข้อนี้คือ seriously แล้วตามด้วย adv. บอกสถานที่ก็คือ in + สถานที่ = in the living room และ ตามด้วยบอกเวลาก็คือ yesterday ตรงกับตัวเลือกข้อ 1

73. George has____to Berlin with his father.
1. gone
2. sent
3. found
4. seemed
ตอบ 1 กริยาที่เข้าได้กับประโยคคือ กริยา gone to ไป + สถานที่ โดย go เป็นกริยาไม่มีกรรม เพราะ
ตามด้วย to ส่วนกริยาตัวอื่นเช่น sent, found เป็นกริยามีกรรมมารับตามหลัง และกริยา seemed เป็น linking verb จะตามด้วย adj.

74. Serena has been unsuccessfully_____with the world title.
1. attempting to
2. attempted to
3. attempted for
4. attempting for
ตอบ 4 ประธานเป็นคน แสดงเป็นผู้กระทํา มีกริยา has been + Ving คือ attempting for = พยายาม สําหรับ……….จากความหมาย “เซเรนาพยายามไม่สําเร็จกับตําแหน่งแชมป์โลก”

75. “Emma baked a cake for her sister’s birthday.”
The underlined verb is a(n)___verb.
1. di-transitive
2. linking
3. transitive
4. intransitive
ตอบ : ดูคําอธิบายข้อ 16. ประกอบ กริยา baked มีกรรมคือ a cake (เค้กเป็นสิ่งของเป็นกรรมตรง)แล้ว ตามด้วย for มี her sister’s birthday เป็นกรรมรอง นั่นคือภริยามีกรรมสองตัวเรียกว่า di-transitive

Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Choose the best answer.

76. Nina had lunch with her____engineers to discuss the upcoming project.
1. fellow
2. alien
3. mythical
4. automated
ถาม นี่น่ารับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนวิศวกรเพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการที่กําลังจะเกิดขึ้น
ตอบ 1 บทที่ 5 1. เพื่อนร่วมงาน 2. คนต่างด้าว 3. เป็นตํานาน 4. อัตโนมัติ
ดูจากตัวเลือกเราจะสามารถเดาได้โดยไม่ต้องแปลโจทย์นั่นก็คือ เราต้องรู้ว่า ENG 1001 เรียนภาค
คําศัพท์ตัวไหนบ้าง ก็เดาคําศัพท์ที่เรียน มีตัวเดียวที่เรียนก็คือ fellow ในบทที่ 5

77. He was concerned about his clothes____in the dryer, so he set it to a lower
temperature.
1. shrinking
2. returning
3. compressing
4. flying
ถาม เขากังวลเรื่องเสื้อผ้าหดตัวในเครื่องอบผ้า ดังนั้นเขาจึงตั้งอุณหภูมิในเครื่องให้ต่ำลง
ตอบ : จากที่อธิบายในข้อ 76 เดาว่าเรามีเรียนคําศัพท์เหลือ 2 ตัวคือ shrinking (หดตัว) และ compressing (บีบอัด) ในโจทย์กล่าวเรื่องเสื้อผ้าที่น่าจะเข้ากับศัพท์ก็คือ shrinking

78. Anna needs a____so that she can have enough money to pay the tuition fees.
1. decision
2. money,
3. delivery
4. part-time job
ถาม แอนนาต้องการงานนอกเวลาเพื่อที่เธอจะได้มีเงินเพียงพอสําหรับจ่ายค่าเล่าเรียน
ตอบ 4 บทที่ 7 1. การตัดสินใจ 2. เงิน 3. การจัดส่ง 4. งานนอกเวลา
เรามีเรียนคําศัพท์คือ deliver (ส่ง) คํานี้ถ้าจะตอบอาจเป็นโจทย์ว่าทํางานส่งอาหาร เป็นต้น และมีเรียน part-
time job งานที่ทํางานเป็นผลัด ก็ตอบได้เลย

79. If you live in a big city, you will____traffic congestion.
1. go out
2. get used to
3. accompanied by
4. pay respect to
ถาม ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ คุณจะชินกับการจราจรที่ติดขัด
ตอบ 2 บทที่ 7 1. ออกนอกบ้าน 2. เคยชิน คุ้นเคย 3. ติดตาม 4. ให้ความเคารพ
เดาได้ก็คือ มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ บทที่ 7 คือ get used to

80. My doctor mentioned that a number of medical conditions are linked to being____.
1. ability
2. overweight
3. healthy
4. sleepy
ถาม หมอของฉันกล่าวว่าความเจ็บป่วยทางการแพทย์จํานวนหนึ่งเชื่อมโยงกับการมีน้ําหนักมากเกินไป
ตอบ 2 1. ความสามารถ 2. น้ำหนักมากเกินไป 3. อุดมสมบูรณ์ 4. ง่วงนอน
มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียว คือ overweight = น้ำหนักมากเกินไป

81. In her new film, Emma got a____role, which she’s looking forward to.
1. compelling
2. chronic
3. brisk
4. careful
ถาม ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ เอ็มมาได้รับบทบาทที่น่าสนใจซึ่งเธอตั้งตารอ
ตอบ 1 1. น่าสนใจ น่าเชื่อถือ 2. เรื้อรัง เป็นประจํา 3. เร็ว 4. ระมัดระวัง

82. The incidents of police brutality____protest in many cities.
1. happened
2. accepted
3. broke
4. triggered
ถาม เหตุการณ์ความโหดร้ายของตํารวจทําให้เกิดการประท้วงในหลายเมือง
ตอบ 4 1. เกิดขึ้น 2. ยอมรับ 3. แตก หัก 4. ก่อให้เกิด
เราสามารถเดาได้จากตัวเลือกว่ามีเรียนตัวเดียว คือ triggered บทที่ 8

83. Dad’s encouraging words really helped____my confidence in the next game.
1. benefit ถาม
2. boost
3. broaden
4. control
คําพูดที่ให้กําลังใจของพ่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในเกมต่อไปให้ฉันได้จริงๆ
ตอบ 2 1. ประโยชน์ 2. เพิ่ม สนับสนุน 3. ทําให้กว้าง 4. ควบคุม
ดูจากตัวเลือกคําศัพท์มีเรียนบทที่ 8 คือ boost (เพิ่ม สนับสนุน ส่งเสริม)

84. Reese and Jen were friends throughout their childhood and ____.
1. adolescence
2. adult
3. aspect
4. success
ถาม รีสและเจนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเด็กและวัยรุ่น
ตอบ 1 1. วัยหนุ่มสาว 2. ผู้ใหญ่ 3. แง่มุม ลักษณะ 4. ความสําเร็จ
มีเรียน adolescence และ aspect จากบทที่ 9 adolescence วัยรุ่น วัยหนุ่มสาวเข้ากับโจทย์

85. Ray has been planning a surprise____party for his girlfriend.
1. campus
2. meaningful
3. graduation
4. concept
ถาม เรย์กําลังวางแผนจัดงานปาร์ตี้สุดเซอร์ไพรส์สําหรับแฟนสาวของเขา
ตอบ 2 1. วิทยาเขต 2. เต็มไปด้วยความหมาย 3. สําเร็จการศึกษา 4. ความคิด
มีเรียนสองตัวคือ meaningful graduation เข้ากับโจทย์คือ meaningful party ปารตี้ที่มีความหมาย

86. As we are a team with the same mission, I do expect____from all of you.
1. good
2. perspective
3. commencement
4. honesty
ถาม ในฐานะที่เราเป็นทีมที่มีภารกิจเดียวกัน ฉันคาดหวังความจริงใจจากพวกคุณทุกคน
ตอบ 4 1. ดี 2. ทรรศนะ มุมมอง 3. การเริ่มต้น 4. ความจริงใจ

87. After reading James’s novel, I better understand common____ about the
French in the 1900s.
1. stereotypes
2. strategies
3. skills
4. individuals
ถาม หลังจากอ่านนิยายของเจมส์ ฉันเข้าใจกรอบประเพณีร่วมกันเกี่ยวกับชาวฝรั่งเศสในทศวรรษที่ 1990
ได้ดีขึ้น
ตอบ 1 บทที่ 9 1. กรอบประเพณีเก่าๆ, รูปแบบที่ทํากันมาแล้วไม่เปลี่ยน 2. กลยุทธ์ 3. ทักษะ 4. บุคคล เดาได้เลยมีเรียนตัวเลือกข้อ 1 ตัวเดียว

88. The company is looking for an____to help with their marketing efforts.
1. investor
2. interpreter
3. interlocutor
4. intern

ถาม บริษัทกําลังมองหาล่ามเพื่อช่วยในการทําการตลาด
ตอบ 2 1. นักลงทุน 2. นักแปล, ล่าม 3. คู่สนทนา 4. เด็กฝึกหัด
มีเรียนคําศัพท์ interpreter/intern ถ้า intern มักเป็นโจทย์ว่าเป็นนักศึกษาปี 4 ฝึกหัดในบริษัท ทํานองนั้น โจทย์นี้ใช้มองหานักแปล

89. If you get lost, try a Google map. It helps you____alternative routes.
1. depict
2. seek
3. result
4. cause
ถาม ถ้าคุณหลงทาง ลองใช้กูเกิ้ลแมพ ช่วยให้คุณค้นหาเส้นทางอื่นได้หลากหลาย
ตอบ 2 1. บรรยาย พรรณนา 2. ค้นหา เสาะหา 3. ผลลัพธ์ 4. ก่อให้เกิด
seek = มองหา ค้นหา เช่น มองหางานทํา (job)

90. The speaker was nervous and showed some____before starting his presentation.
1. hate
2. haze
3. hatefulness
4. hesitation
ถาม ผู้พูดรู้สึกกังวลและแสดงอาการลังเลก่อนที่จะเริ่มการนําเสนอ
ตอบ 4 1. เกลียด 2. หมอกควัน 3. ความเกลียดชัง 4. ความลังเล รีรอ
ดูจากตัวเลือกมีเรียนศัพท์ตัวเดียวคือ hesitation = ความลังเล จากบทที่ 1

91. The thoughts from everyone have given me a/an____for our new exhibition project.
1. myth
2. excuse
3. springboard
4. alarm
ถาม ความคิดจากทุกคนทําให้ฉันมีตํานานสําหรับโครงการนิทรรศการใหม่ของเรา
ตอบ 1 1. เทพนิยาย, เรื่องจินตนาการ 2. ข้อแก้ตัว 3. จุดเริ่มต้น 4. ตกใจ
มีเรียนตัวเลือกที่ 1/3 เท่านั้น แต่ศัพท์ myth เข้ากับโจทย์ ใช้ความหมาย เรื่องจินตนาการ ตํานาน

92.He has always been____in pursuing his goals and dreams.
1. ambient
2. ambitious
3. ambidextrous
4. ample
ถาม เขามีความทะเยอทะยานเสมอในการไล่ตามเป้าหมายและความฝัน
ตอบ 2 จากตัวเลือกมีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 2 คือ ambitious = มีความทะเยอทะยาน กระตือรือร้น

93. Emily’s poem_____her belief in life after death.
1. ponders
2. reflects
3. functions
4. moves
ถาม บทกวีของอีมิลี่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของเธอในชีวิตหลังความตาย
ตอบ 2 จากตัวเลือกมีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 11 คือ reflect = สะท้อน, แสดงให้เห็น

94. The detective was assigned to investigate the____of the wealthy businessman.
1. application
2. allocation
3. association
4. assassination
ถาม นักสืบได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดีลอบสังหารนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง
ตอบ 4 จากตัวเลือกมีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 2 คือ assassination = การลอบสังหาร

95. It is a/an_____that the country’s economic growth will rise to 4.2% for 2023.
1. misconception
2. structure
3. expression
4. influence
ถาม เป็นความเข้าใจผิดที่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.2% ในปี 2566
ตอบ 1 1. ความเข้าใจผิด 2. โครงสร้าง 3. การแสดงออก 4. มีอิทธิพล

มีเรียนตัวเลือก 1/3 เข้าโจทย์ได้คือ misconception = ความเข้าใจผิด จากบทที่ 11

96. As a parent, it’s your ____to take care of your children’s needs.
1. responsibility
2. enemy
3. hierarchy
4. anatomy
ถาม ในฐานะผู้ปกครอง เป็นความรับผิดชอบของคุณในการดูแลความต้องการของบุตรหลาน
ตอบ 1 1. ความรับผิดชอบ 2. ศัตรู 3. สายการบังคับบัญชา 4. กายวิภาคศาสตร์
จากตัวเลือกมีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 7 คือ responsible (adj.) รับผิดชอบ

97. can you help me find a picture of the cracks appearing on the____ of the earth?
1. shape
2. movement
3. surface
4. pang
ถาม คุณช่วยฉันหาภาพรอยแยกที่ปรากฏบนพื้นผิวโลกได้ไหม?
ตอบ 3 มีเรียนสองตัวคือ surface/pang ตอบ Surface = พื้นผิว ผิว บทที่ 12

98. She showed unwavering____ to her job and worked long hours to get everything done.
1. commission
2. devotion
3. attachment
4. obligation
ถาม เธอแสดงความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ต่องานของเธอและทํางานหลายชั่วโมงเพื่อทําทุกอย่างให้สําเร็จ
ลุล่วง
ตอบ 2 มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 3 คือ devotion = การอุทิศตน เสียสละ

99. This kind of plant will grow well in____land.
1. geological
2. eternal
3. fertile
4. successive
ถาม พืชชนิดนี้จะขึ้นได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์
ตอบ 3 1. เกี่ยวกับธรณีวิทยา 2. ไม่เปลี่ยนแปลง 3. อุดมสมบูรณ์ 4.ต่อเนื่อง

100. Some people are willing to make____ to achieve their goals, while others are not.
1. sacrifices
2. adjustments
3. tradeoffs
4. consequences
ถาม บางคนเต็มใจเสียสละเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในขณะที่บางคนไม่
ตอบ 1 1. เสียสละ 2. การปรับตัว 3. การแลกเปลี่ยน 4.ผลที่ตามมา

101. I got____after listening to Taylor’s commencement speech at NYU.
1. continuous
2. extended
3. inspected
4. motivated
ถาม ฉันได้รับแรงจูงใจหลังจากฟังสุนทรพจน์รับปริญญาของเทย์เลอร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
ตอบ 4 ต่อเนื่อง 1. 2. ขยาย ยืด 3. ตรวจสอบ 4. กระตุ้น จูงใจ

102. The garden was filled with a(n)____of colorful flowers.
1. abundance
2. abnormality
3. waterway
4. willingness
ถาม สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันมากมาย
ตอบ 1 1. อุดมสมบูรณ์ มากมาย 2. ความผิดปกติ 3. ทางน้ำ 4. ความเต็มใจ

103. The research team____several ways to reduce water contamination.
1. represented
2. translated
3. eradicated
4. devised
ถาม ทีมวิจัยได้คิดค้นวิธีการต่าง ๆ เพื่อลดการปนเปื้อนของน้ำ
ตอบ 4 1. แทน 2. แปล 3. กําจัดให้สิ้นซาก 4. คิดค้น ประดิษฐ์

104. The hotel is conveniently_____near the airport.
1. trimmed
2. situated
3. fascinated
4. deviated
ถาม โรงแรมตั้งอยู่ใกล้สนามบินเดินทางสะดวก
ตอบ 2 1. ตัดแต่ง 2. ตั้งอยู่ 3. มีเสน่ห์ 4. เบี่ยงเบน

105. The suicide bombing yesterday has caused enormous political____.
1. eternity
2. raise
3. upheaval
4. crust
ถาม เหตุระเบิดฆ่าตัวตายเมื่อวานนี้ทําให้เกิดกลียุคทางการเมืองอย่างใหญ่หลวง
ตอบ 3 บทที่ 12 1. นิรันดร 2. ยกขึ้น 3. การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ 4. เปลือกโลก
ใช้กับศัพท์ political upheaval = การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขนานใหญ่

106. The____of the two rivers creates a beautiful natural landmark.
1. conjunction
2. concern
3. confluence
4. conjoining
ถาม จุดที่แม่น้ำทั้งสองมาบรรจบกันทําให้เกิดแลนด์มาร์กทางธรรมชาติที่สวยงาม
ตอบ 3 1. คําสันธาน 2. ความห่วงใย 3. จุดที่แม่น้ำไหลมารวมกัน 4. ติดกัน
มีเรียนคําศัพท์เดียวในบทที่ 4 คือ confluence จุดที่แม่น้ำไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่

107. Bangkok and its vicinity have been greatly____by PM2.5 since last month.
1. refined
2. completed
3. enabled
4. affected
ถาม กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้รับผลกระทบจาก PM2.5 อย่างมากตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ตอบ 4 1. ทําให้สละสลวย 2. ทําให้สมบูรณ์ 3. สามารถทําให้ 4. ผลกระทบ
มีเรียนตัวเดียวในบทที่ 11 คือ affected = influenced = ส่งผลกระทบ

108. The cliff____out over the ocean, providing a breathtaking view.
1. juts
2. extrudes
3. executes
4. juggles
ถาม หน้าผาที่ยื่นออกไปเหนือมหาสมุทร ทําให้เกิดทัศนียภาพอันน่าทึ่ง
ตอบ 1 มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียวจากบทที่ 4 คือ juts out = ยื่นออก, โผล่ออก

109. We are proud of Joan. She was given an award for her____in leadership.
1. involvements
2. achievements
3. productions
4. businesses
ถาม เราภูมิใจในตัวโจน เธอได้รับรางวัลจากความสําเร็จในการเป็นผู้นํา
ตอบ 2 1. ความเกี่ยวข้อง 2. ความสําเร็จ 3. การผลิต 4. ธุรกิจ

110. She felt a deep____ for her childhood home and the memories it held
1. like
2. affection
3. emptiness
4. blur
ถาม เธอรู้สึกรักบ้านในวัยเด็กของเธอและความทรงจําที่บ้าน
ตอบ 2 บทที่ 1 มีเรียนคําศัพท์ตัวเดียว affection = ความรัก

111. All of you here will have a chance to voice your____about this issue.
1. beliefs
2. independence
4. etiquette
3. opinions
ถาม ทุกท่านที่นี่จะมีโอกาสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหานี้
ตอบ 3 1. ความเชื่อ 2. ความเป็นอิสระ 3. ความคิดเห็น 4. กฎกติกามารยาท

112. The weatherman can____when it will rain by looking at the forecast.
1. annihilate
2. predict
3. harvest
4. imitate
ถาม นักพยากรณ์อากาศสามารถทํานายได้ว่าฝนจะตกเมื่อใดโดยดูจากพยากรณ์อากาศ
ตอบ 2 1. ทําลาย 2. ทํานาย 3. เก็บเกี่ยว 4. เลียนแบบ

113. The fishermen unloaded their catch at the____.
1. harbor
2. park
3. coast
4. blank
ถาม ชาวประมงขนของที่จับได้ที่ท่าเรือ
ตอบ 1 1. ท่าเรือ 2. ที่จอดรถ 3. ชายฝั่งทะเล 4. เว้นว่าง

114. As a citizen, it is your___to vote in elections.
1. obligation
2. task
3. duty
4. chore
ถาม ในฐานะพลเมือง คุณมีหน้าที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ตอบ 3 1. ความผูกมัด 2. งาน ภาระ 3. หน้าที่ 4. งานบ้าน

115. Tommy fell into a deep___after losing his job.
1. joyfulness
2. misery
3. concern
4. delight
ถาม ทอมมี่ตกอยู่ในความทุกข์ยากหลังจากตกงาน
ตอบ 2 1. ความสุข 2. ความทุกข์ 3. ความห่วงใย 4. ความดีใจ

116. He took___in reading a good book on a lazy afternoon.
1. pleasure
2. assumption
3. proudness
4. auspice
ถาม เขามีความสุขกับการอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่มในช่วงบ่ายที่ขี้เกียจ
ตอบ 1 1. ความสุข 2. สันนิษฐาน 3. ความภูมิใจ 4. ฤกษ์
จากตัวเลือกมีคําศัพท์ที่เราเรียนตัวเดียวคือ pleasure = ความสุข ความพึงพอใจ

117. Honesty is a(n) ____that is valued in many cultures.
1. value
2. virtue
3. asset
4. attitude
ถาม ความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมที่มีคุณค่าในหลายวัฒนธรรม
ตอบ 2 1. คุณค่า ค่านิยม 2. คุณธรรม ความดี 3. สินทรัพย์ 4. ทัศนคติ
มีเรียนสองตัวคือ value /virtue

118. Anna has a strong____to explore new places and try new things.
1. curiosity
2. interest
3. mystery
4. appearance
ถาม แอนนามีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากในการสํารวจสถานที่ใหม่และลองทําสิ่งใหม่ ๆ
ตอบ 1 1. ความอยากรู้อยากเห็น 2. ความสนใจ 3. ความลึกลับ 4. การปรากฏให้เห็น
มีเรียนสองตัว คือ curiosity / mysterious

119. The new equipment increased____in the factory, allowing production to speed up.
1. incompetence
2. incapability
3. efficiency
4. effect
ถาม อุปกรณ์ใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานช่วยให้การผลิตเร็วขึ้น
ตอบ 3 บทที่ 6 มีเรียนคําศัพท์คําเดียวคือ efficiency = ความมีประสิทธิภาพ

120. The firefighter acted with great____when he rushed into the burning building.
1. fabric
2. cowardice
3. fear
4. courage
ถาม นักผจญเพลิงแสดงความกล้าหาญอย่างมากเมื่อเขารีบเข้าไปในอาคารที่กําลังไฟไหม้
ตอบ 4 บทที่ 6 มีเรียนคําศัพท์คําเดียวคือ courage = ความกล้าหาญ

WordPress Ads
error: Content is protected !!