LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน ซ่อม S/2547

การสอบซ่อมภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2547

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายเดชกับนายอุดมตกลงเข้าหุ้นส่วนกันเพื่อซื้อที่ดินมาจัดสรรแบ่งขายเป็นแปลงๆ  นายเดชแต่ผู้เดียวไปทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินจากนายแดงเพื่อนำมาจัดสรรขายตามวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน  แต่เมื่อถึงวันนัดโอนที่ดินนายเดชผิดนัดไม่ไปรับโอนที่ดิน  ดังนี้  นายแดงจะฟ้องนายเดชและนายอุดมร่วมกันให้ชำระราคาที่ดินที่เหลือและรับโอนที่ดินได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

วินิจฉัย

การซื้อที่ดินของนายเดช  เพื่อจะนำมาจัดสรรขายถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตามมาตรา  1050  แม้นายเดชจะเป็นผู้ทำสัญญากับนายแดงแต่เพียงผู้เดียว  นายอุดมซึ่งเป็นหุ้นส่วนก็ต้องร่วมกันรับผิดกับนายเดชด้วย  เพราะหนี้ค่าที่ดินเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการจัดการงานของห้างฯ  นายอุดมจึงต้องร่วมกันรับผิดกับนายเดช  นายแดงจึงฟ้องนายเดชและนายอุดม  ให้ชำระราคาที่ดินที่เหลือและรับโอนที่ดินได้

 

ข้อ  2  นายศรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  แต่นายศรีได้ใช้ชื่อของตนเป็นชื่อห้างฯ  ต่อมานายศรีทราบว่าจะต้องรับผิดในหนี้ทั้งหลายของห้างฯ  เช่นเดียวกับผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  นายศรีจึงโอนหุ้นของตนทั้งหมดให้นายศักดิ์  ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก  โดยนายศักดิ์ก็ทราบเรื่องดังกล่าวดี  แต่ก็ยอมรับการโอน  เพราะเสียค่าตอบแทนเล็กน้อย  และได้ใช้การจดทะเบียนเปลี่ยนตัวผู้เป็นหุ้นส่วนจากเดิมนายศรีเป็นนายศักดิ์  ดังนี้ถามว่า  หนี้สินต่างๆของห้างที่เกิดขึ้นก่อนที่นายศรีจะโอนหุ้นให้นายศักดิ์เจ้าหนี้ของห้างฯ  จะฟ้องนายศักดิ์ให้รับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1082  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น

มาตรา  1095  วรรคแรก  ตราบใดห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  ตราบนั้นเจ้าหนี้ของห้างย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้

วินิจฉัย

เจ้าหนี้จะฟ้องนายศักดิ์ให้รับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนไม่ได้  เพราะนายศักดิเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดและมิได้นำชื่อของตนไปใช้เป็นชื่อห้างแต่ประการใด  ตามมาตรา  1082  แม้นายศักดิ์จะทราบเรื่องของนายศรีดี  แต่หนี้สินของห้างฯ  ที่นายศรีต้องรับผิดก็ไม่ได้โอนมาให้นายศักดิ์ต้องรับผิดโดยไม่จำกัดจำนวน  นายศักดิ์จึงรับผิดในฐานเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดเท่านั้น  แต่เจ้าหนี้ของห้างจะฟ้องนายศักดิ์ให้รับผิดได้ก็ต่อเมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดเลิกกันแล้ว  ตามมาตรา  1095  วรรคแรก

สรุป  หนี้สินต่างๆ  ของห้างที่เกิดขึ้นก่อนที่นายศรีจะโอนหุ้นให้นายศักดิ์  เจ้าหนี้ของห้างฯ  จะฟ้องนายศักดิ์ให้รับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนไม่ได้

 

ข้อ  3  บริษัท  นพคุณ  จำกัด  ได้มีมติพิเศษ  ซึ่งได้มีการประชุมครั้งที่สองเมื่อวันที่  15  สิงหาคม  2548ให้เพิ่มทุนอีก  10  ล้านบาท  ด้วยการออกหุ้นใหม่อีก  100,000  หุ้น  มูลค่าเท่าเดิมคือ  หุ้นละ  100  บาท  โดยจะขายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ได้สั่งจองหุ้นใหม่ภายในวันที่  31 สิงหาคม  2548  ในราคาหุ้นละ  80  บาท  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า  มติดังกล่าว  ขัดต่อกฎหมายในเรื่องการขายหุ้นหรือไม่ 

ธงคำตอบ

มาตรา  1105  วรรคแรก  อันหุ้นนั้น  ท่านห้ามมิให้ออกโดยราคาต่ำไปกว่ามูลค่าของหุ้นที่ตั้งไว้

วินิจฉัย

มติดังกล่าวขัดต่อบทบัญญัติมาตรา  1105  วรรคแรก  เนื่องจากเป็นการขายหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตั้งไว้  ซึ่งทำไม่ได้เลย  ดังนั้นเมื่อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนไว้มีมูลค่าหุ้นละ  100  บาท  บริษัทก็ต้องจำหน่ายเพื่อค่าตอบแทนมีค่าไม่ต่ำกว่าหุ้นละ  100  บาท  (ทั้งนี้บทบัญญัติมาตรา  1105  นี้  เป็นบทบังคับเด็ดขาดไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้  นายทะเบียนที่รับจดทะเบียนก็ไม่มีอำนาจที่จะอนุญาตให้เป็นพิเศษ  เพราะเกี่ยวกับส่วนได้เสียของประชาชนทั้งมวลที่ทำการค้าขายเกี่ยวข้องกับบริษัท)

สรุป  มติดังกล่าวขัดต่อกฎหมายในเรื่องการขายหุ้น

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน S/2547

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2547

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  เอก  โท  และตรีตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  โดยจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล  มีวัตถุประสงค์ค้าขายน้ำมันเชื้อเพลิง  โดยเปิดเป็นสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ทุกชนิด  มีสัญลักษณ์ตราเชลล์บริการ

โดยเปิดบริการที่อำเภอวังน้อย  จังหวัดอยุธยา  ทั้งหมดตกลงให้นายเอกเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ต่อมาเอกไปกู้ยืมเงินจากธนาคารกรุงเทพ  สาขาวังน้อย  เพื่อนำมาปรับปรุงลานจอดรถ  ห้องน้ำ  และห้องสุขา  ตลอดจนร้านจำหน่ายของในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งนี้  เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาเติมน้ำมัน  โดยที่โทและตรีได้เคยคัดค้านแล้ว  แต่เอกไม่เชื่อฟัง

ต่อมาเมื่อหนี้เงินกู้ถึงกำหนดชำระ  ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไม่มีเงินชำระหนี้  ธนาคารกรุงเทพ  จึงเรียกร้องให้  เอก  โท  และตรีชำระหนี้แทน  แต่โทและตรี  อ้างว่าการกู้ยืมเงินครั้งนี้อยู่นอกวัตถุประสงค์ของห้างที่มีวัตถุประสงค์จำหน่ายน้ำมันโทและตรีจึงไม่ต้องรับผิด  อีกทั้งก็ได้เคยคัดค้านไว้แล้ว  ซึ่งธนาคารกรุงเทพ  ผู้เป็นเจ้าหนี้ก็ทราบดี  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่า  ข้ออ้างของโทและตรีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

วินิจฉัย

การที่เอกไปกู้ยืมเงินมาเพื่อนำมาปรับปรุงลานจอดรถ  ห้องน้ำ  และห้องสุขา  ตลอดจนปรับปรุงร้านจำหน่ายสินค้าในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งนี้  แม้การกระทำในเรื่องดังกล่าวจะมิใช่วัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลแห่งนี้  แต่ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องอยู่ในวิสัยปกติธรรมดาของการค้าขายจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพราะต้องมีลานจอดรถที่เพียงพอกับลูกค้ามีห้องน้ำ  ห้องสุขา  ตลอดจนต้องมีร้านสะดวกซื้อในบริเวณปั๊มน้ำมันเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้มาเติมน้ำมัน  จึงอาจกล่าวได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่หุ้นส่วนผู้จัดการได้จัดทำไปในทางธรรมดาของการจำหน่ายน้ำมัน  ซึ่งหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้เงินกู้นี้  ตามมาตรา  1050  ข้ออ้างของโทและตรีที่ว่าการกู้ยืมเงินอยู่นอกวัตถุประสงค์ของห้างฯ  จึงย่อมฟังไม่ขึ้น  ส่วนประเด็นที่อ้างว่าได้คัดค้านไว้แล้วก็มิอาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เจ้าหนี้ได้  เนื่องจากเป็นเรื่องภายในระหว่างหุ้นส่วนทั้งหลายที่จะต้องไปว่ากล่าวกันเอง

สรุป  ข้ออ้างของโทและตรีฟังไม่ขึ้น

 

ข้อ  2  อาทิตย์  จันทร์  และอังคาร  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  โดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  มีอาทิตย์เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ส่วนจันทร์และอังคารเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ทั้งหมดลงหุ้นกันคนละ  2  ล้านบาท  และได้ส่งเงินลงหุ้นมาแล้วคนละ  1  ล้านบาท  ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้จดทะเบียนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เปิดดำเนินการจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ตามวัตถุประสงค์ของห้างมาได้สองปีแล้ว  ปรากฏว่าขาดทุนทุกปี  นายจันทร์และนายอังคารเห็นว่า  หากปล่อยให้อาทิตย์จัดการห้างต่อไป  ก็คงต้องขาดทุนอีก  เพราะนายอาทิตย์ขาดประสบการณ์ในเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์  เวลาอธิบายขายเครื่องลูกค้าไม่ค่อยเข้าใจ  หากปล่อยไปเช่นนี้  ก็คงต้องควักทุนอีกคนละ  1  ล้านบาทแน่นอน  จึงปรึกษากันว่าควรจ้างคนนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการค้าขายเครื่องคอมพิวเตอร์มาเป็นผู้จัดการห้างแทนนายอาทิตย์  ซึ่งนายอาทิตย์ก็ไม่ขัดข้อง  จันทร์และอังคารจึงตกลงจ้างนายพุธมาเป็นผู้จัดการห้าง  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่าการที่นายจันทร์และอังคารจ้างนายพุธมาเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด  เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  และบุคคลทั้งสองต้องรับผิดอย่างใดในการกระทำของนายพุธ

ธงคำตอบ

มาตรา  1088  วรรคแรก  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน

แต่การออกความเห็นและแนะนำก็ดี  ออกเสียงเป็นคะแนนนับในการตั้งและถอดถอนผู้จัดการตามกรณีที่มีบังคับไว้ในสัญญาหุ้นส่วนนั้นก็ดี ท่านหานับว่าเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่

วินิจฉัย

การกระทำของจันทร์และอังคารที่จ้างนายพุธมาเป็นผู้จัดการห้างฯ  เป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจเนื่องจากไม่มีข้อตกลงกันไว้ก่อนให้หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดตั้งหรือถอนผู้จัดการได้  การที่จันทร์และอังคารจ้างนายพุธมาเป็นผู้จัดการห้างฯ  จึงเป็นการตั้งผู้จัดการโดยปราศจากอำนาจ  จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  เมื่อนายพุธได้ดำเนินกิจการงานของห้างและเป็นหนี้บุคคลภายนอก  นายจันทร์และนายอังคารต้องรับผิดในหนี้นั้นด้วยโดยไม่จำกัดจำนวน  เพราะถือว่าเป็นการสอดเข้าจัดการงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดตามมาตรา  1088

สรุป  การที่นายจันทร์และนายอังคารจ้างนายพุธมาเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด  เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและบุคคลทั้งสองต้องรับผิดในการกระทำของนายพุธ

 

ข้อ  3  บริษัท  นพรัตน์  จำกัด  มีกรรมการทั้งหมดสี่คน  คือ  นายหนึ่ง  นางสอง  นายสาม   และนางสี่ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งคนละสี่ปี  เมื่อหมดวาระต้องเลือกตั้งใหม่  ข้อบังคับของบริษัทมีว่าการลงนามผูกพันบริษัทต้องมีกรรมการสองคนลงนามร่วมกัน  และประทับตราบริษัทด้วยจึงจะผูกพันบริษัท  ข้อบังคับนี้ได้จดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  บริษัทได้เปิดดำเนินการมาได้สามปีเศษ  นายหนึ่งก็ได้ถึงแก่กรรม  ส่วนนางสี่ได้ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด  นางสอง  นายสาม  และนางสี่  จึงมาปรึกษาท่านว่า  พวกเขาเหล่านั้นจะมีอำนาจตั้งนายห้าเป็นกรรมการแทนนายหนึ่งได้หรือไม่  และการที่นางสี่ถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะสามารถลงนามในสัญญาผูกพันบริษัทได้หรือไม่  ให้ท่านแนะนำบุคคลทั้งสาม   

ธงคำตอบ

มาตรา  1151  อันผู้เป็นกรรมการนั้น  เฉพาะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนได้

มาตรา  1154  ถ้ากรรมการคนใดล้มละลาย  หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถไซร้  ท่านว่ากรรมการคนนั้นเป็นอันขาดจากตำแหน่ง

มาตรา  1155  ถ้าตำแหน่งว่างลงในสภากรรมการเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามเวรไซร้  ท่านว่ากรรมการจะเลือกผู้อื่นตั้งขึ้นใหม่ให้เต็มที่ว่างก็ได้  แต่บุคคลที่ได้เป็นกรรมการใหม่เช่นนั้น  ให้มีเวลาอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาที่กรรมการผู้ออกไปนั้นชอบที่จะอยู่ได้

วินิจฉัย

เมื่อนายหนึ่งถึงแก่กรรม  จึงมีตำแหน่งว่างลงในสภากรรมการเพราะเหตุอื่นมิใช่เป็นการออกตามวาระ  กรรมการที่เหลือคือนางสอง  นายสาม  และนางสี่  ก็สามารถตั้งผู้ใดเป็นกรรมการแทนนายหนึ่งได้ตามมาตรา  1155  ซึ่งมาตรานี้เป็นข้อยกเว้นของมาตรา  1151  ที่ว่า  อันผู้เป็นกรรมการนั้นเฉพาะแต่ที่ประชุมใหญ่เท่านั้นอาจจะตั้งหรือถอนได้  ส่วนนางสี่แม้จะถูกศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด  ก็ยังสามารถจัดการงานของบริษัทได้  เพราะการที่ศาลพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไม่ทำให้นางสี่ต้องขาดจากตำแหน่งกรรมการแต่อย่างใด  เพราะศาลยังมิได้พิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย (มาตรา  1154)  ดังนั้นนางสี่ก็สามารถลงนามในสัญญาผูกพันบริษัทได้

สรุป  นางสอง  นายสาม  นางสี่  ตั้งนายห้าเป็นกรรมการได้  และนางสี่ลงนามในสัญญาผูกพันบริษัทได้

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน ซ่อม 1/2548

การสอบซ่อมภาค  1  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายเอก  นายโท  และนายตรี  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกันโดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนมีวัตถุประสงค์ค้าขายน้ำตาลทรายโดยลงหุ้นกันคนละ  1  ล้านบาท  และได้ตกลงให้นายเอกเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งได้มีการจดทะเบียนไว้อย่างถูกต้อง  ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลนี้ได้ดำเนินกิจการมาหลายปีมีกำไรดีทุกปี

นายโทมีความโลภเห็นห้างหุ้นส่วนฯ  มีกำไรดี  ก็อยากจะทำกิจการเองบ้างแต่กลัวหุ้นส่วนอื่นจะเรียกค่าเสียหาย  นายโทจึงชักชวนนายจัตวาให้มาเข้าหุ้นกับตนและจดทะเบียนตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีวัตถุประสงค์ค้าขายน้ำตาลทรายเช่นเดียวกัน  โดยตั้งอยู่ในละแวกเดียวกับห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล  แต่ในห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้นายโทขอเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด

ส่วนนายจัตวาเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างฯ  ทั้งสองเปิดกิจการแข่งขันกันเรื่อยมา  นายเอกและนายตรีเห็นว่านายโทไม่ซื่อสัตย์โดยไปเข้าหุ้นกับบุคคลอื่นเปิดกิจการแข่งขันกับห้างฯ  จึงต้องการฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือผลกำไรจากนายโท  จึงมาปรึกษาท่านว่าในกรณีดังกล่าว  ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลจะเรียกร้องค่าเสียหายหรือผลกำไรจากนายโทได้หรือไม่  ให้ท่านแนะนำนายเอกและนายตรี

ธงคำตอบ

มาตรา  1066  วรรคแรก  ห้ามมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนประกอบกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกัน  และเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนนั้น  ไม่ว่าทำเพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์ผู้อื่น  หรือไปเข้าเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนอื่นซึ่งประกอบกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกัน  และแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้น  เว้นไว้แต่จะได้รับคำยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นทั้งหมด

วินิจฉัย

ข้าพเจ้าจะขอแนะนำว่า  ห้างฯจะฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือผลกำไรจากนายโทมิได้  เนื่องจากนายโทไปเข้าเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด  ซึ่งไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา  1066   วรรคแรก  ที่วางหลักไว้ว่า  ห้ามหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนประกอบกิจการ  หรือไปเข้าเป็นหุ้นส่วนชนิดไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนอื่น  ซึ่งประกอบกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนนั้น

จากบทบัญญัติมาตรา  1066 วรรคแรก  จะเห็นได้ว่ากฎหมายมิได้ห้ามผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนไปเข้าหุ้นชนิดจำกัดความรับผิดในห้างอื่น  ถึงแม้ห้างฯนั้นจะประกอบกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนสามัญ  ดังนั้น  ข้าพเจ้าจึงแนะนำว่า  ห้างฯจะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนหรือผลกำไรจากนายโทไม่ได้

 

ข้อ  2  นายสาย  นายบ่าย  และนายเย็น  ตกลงเข้าหุ้นกันโดยจะจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  โดยนายสายเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  นายบ่ายและนายเย็นเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดทุกคนลงหุ้นกันคนละ  5  แสนบาท  ห้างฯมีวัตถุประสงค์ค้าขายเครื่องจักรอุตสาหกรรม  เช่าทรัพย์  เช่าซื้อ  รับจำนอง  จำนำ  เป็นตัวแทนนายหน้า  กู้ยืมเงิน  และรับขนสินค้าทุกชนิด  แต่ก่อนที่จะจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  นายสายได้เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกมา  2  คัน  เพื่อนำมาใช้ในกิจการของห้างฯ  และหลังจากที่ห้างฯ  ได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว  นายสายได้กู้ยืมเงินจากธนาคารเอเชียมา  2  ล้านบาท  โดยนำอาคารห้างหุ้นส่วนจำกัดไปจำนองค้ำประกันหนี้เงินกู้ดังนี้  เมื่อห้างฯผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์  งวดที่  20  และงวดที่  21  ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกค่าเช่าซื้อจากนายสาย  นายบ่าย  และนายเย็นได้หรือไม่  ส่วนนายบ่ายและนายเย็นไม่พอใจนายสายที่บังอาจนำอาคารของห้างฯ  ไปจำนองค้ำประกันหนี้เงินกู้  นายบ่ายและนายเย็นจะฟ้องคดีแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดให้เพิกถอนการจำนองได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1079  อันห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น  ถ้ายังมิได้จดทะเบียนอยู่ตราบใด  ท่านให้ถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ  ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดย่อมต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่มีจำกัดจำนวน  จนกว่าจะได้จดทะเบียน

มาตรา  1087  อันห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น  ท่านว่าต้องให้แต่เฉพาะผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดเท่านั้นเป็นผู้จัดการ

วินิจฉัย

หนี้ค่าเช่าซื้อรถยนต์บรรทุก  2  คัน  เป็นหนี้ที่นายสายก่อให้เกิดขึ้นก่อนจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจึงต้องรับผิดร่วมกันเสมือนเป็นหนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญ  คือ  ต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่มีจำกัดจำนวน  จนกว่าจะได้จดทะเบียน  เพราะมาตรา  1079  วางหลักว่า  ถ้าห้างหุ้นส่วนจำกัดยังไม่จดทะเบียนอยู่ตราบใด  ท่านให้ถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ  ดังนั้นผู้ให้เช่าซื้อจึงเรียกให้นายสาย  นายบ่าย  และนายเย็นร่วมกันชำระค่าเช่าซื้อได้

ส่วนกรณีการฟ้องให้ขอให้เพิกถอนการจำนองนั้นเนื่องจากการฟ้องคดีก็ถือว่าเป็นการจัดการงานของห้างฯ  อย่างหนึ่ง  ซึ่งหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดไม่มีอำนาจจัดการงานของห้างฯ  ตามมาตรา  1087  ดังนั้น  นายบ่ายและนายเย็นจึงไม่อาจฟ้องคดีแทนห้างฯได้

สรุป 

1       ผู้ให้เช่าซื้อ  เรียกค่าเช่าซื้อจากนายสาย  นายบ่าย  และนายเย็นได้

2       นายบ่ายและนายเย็น  จะฟ้องคดีแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดให้เพิกถอนการจำนองไม่ได้

 

ข้อ  3  ข้อบังคับของบริษัท  นพคุณ  จำกัด  ระบุว่าในการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อที่ยังใช้เงินค่าหุ้นไม่ครบนั้นผู้โอนหุ้นต้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการของบริษัทก่อน  หากคณะกรรมการมีมติเป็นอย่างใดก็ให้เป็นที่สุดห้ามมิให้มีการฟ้องร้อง  นางสาวสกุนตลามีหุ้นอยู่ในบริษัทนี้อยู่  5   หมื่นหุ้นมูลค่าหุ้นละ  10  บาท  ซึ่งบริษัทเรียกเก็บค่าหุ้นไว้แล้วหุ้นละ  5  บาท  นางสาวสกุลตลาต้องการโอนหุ้นให้นางสาวณิชาพรทั้งหมด  จึงไปขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท  แต่คณะกรรมการบริษัทมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่อนุมัติ

เนื่องจากเห็นว่านางสาวณิชาพรเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเกรงว่าจะชำระเงินค่าหุ้นที่เหลือไม่ได้  แต่นางสาวสกุนตลาก็ไม่สนใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการบริษัทและได้โอนหุ้นให้นางสาวณิชาพรไปทั้งหมด  โดยทำเป็นหนังสือโอนหุ้นมีลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน

มีพยานคือนายเดช  ลงชื่อรับรองความถูกต้องและได้ระบุหมายเลขหุ้นกันไว้ด้วย  เมื่อโอนกันแล้วผู้โอนและผู้รับโอนได้มาขอให้นายแดงกรรมการบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นด้วย  โดยนายแดงก็หลงลืมมติของคณะกรรมการที่ห้ามมิให้โอนหุ้นรายนี้  นางสาวณิชาพรก็ได้ครอบครองหุ้นทั้งหมดห้าหมื่นบาทหุ้นโดยสงบเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของรวม  5  ปีเศษแล้ว  และยังได้เข้าประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นและเคยรับเงินปันผลไปห้าครั้งแล้ว  ข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้โอนผู้รับโอนบริษัทก็มิได้สนใจเรื่องการโอนหุ้นของบุคคลทั้งสอง

ดังนี้  ถ้าบริษัทได้เคยมีหนี้สินที่เกิดขึ้นก่อนการโอนหุ้นและบริษัทไม่มีเงินชำระหนี้และนางสาวณิชาพรก็ไม่มีเงินชำระค่าหุ้นให้บริษัทได้ ส่วนผู้ถือหุ้นคนอื่นๆก็ได้ชำระเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว  ดังนี้เจ้าหนี้ของบริษัทจะเรียกให้นางสาวสกุนตลาชำระหนี้ได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1129  อันว่าหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมของบริษัท  เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น  ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น  ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน  มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้นๆด้วยแล้ว  ท่านว่าเป็นโมฆะ  อนึ่งตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วย

การโอนเช่นนี้จะนำมาใช้แก่บริษัท  หรือบุคคลภายนอกไม่ได้  จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น

มาตรา  1133  หุ้นซึ่งโอนกันนั้น  ถ้าเป็นหุ้นอันยังมิได้ส่งเงินใช้เต็มจำนวนค่าหุ้น  ท่านว่าผู้โอนยังคงต้องรับผิดในจำนวนเงินที่ยังมิได้ส่งใช้ให้ครบถ้วนนั้น  แต่ว่า

 (1) ผู้โอนไม่ต้องรับผิดในหนี้อันหนึ่งอันใดของบริษัทซึ่งได้ก่อให้เกิดขึ้นภายหลังโอน

(2) ผู้โอนไม่ต้องรับผิดออกส่วนใช้หนี้  เว้นแต่ความปรากฏขึ้นแก่ศาลว่าบรรดาผู้ที่ยังถือหุ้นของบริษัทอยู่นั้นไม่สามารถออกส่วนใช้หนี้  อันเขาจะพึงต้องออกใช้นั้นได้

ในข้อความรับผิดเช่นว่ามานั้น  ท่านห้ามมิให้ฟ้องผู้โอนเมื่อพ้นสองปีนับแต่ได้จดแจ้งการโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น

วินิจฉัย

หุ้นของนางสาวสกุนตลา  เป็นหุ้นชนิดระบุชื่อซึ่งบริษัทมีข้อบังคับของบริษัทเรื่องการโอนหุ้น  กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น  คือ  ผู้โอนหุ้นต้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการของบริษัทก่อน  (มาตรา  1129 วรรคแรก)  แต่แม้ว่าการโอนหุ้นของนางสาวสกุนตลาและนางสาวณิชาพรจะไม่ชอบด้วยข้อบังคับของบริษัท  แต่กรรมการบริษัทก็ได้แก้ไขชื่อเป็นของนางสาวณิชาพรแล้ว  ประกอบกับนางสาวณิชาพรได้ครอบครองหุ้นโดยสงบเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันห้าปีเศษแล้ว  ย่อมได้กกรมสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมด  อีกทั้งบริษัทก็ไม่ได้สนใจเรื่องการที่ผู้โอนและผู้รับโอนทำผิดข้อบังคับในเรื่องการโอน  จึงถือว่าบริษัทสละสิทธิที่จะบังคับให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท  จึงถือว่านางสาวณิชาพรเป็นผู้ถือหุ้นนี้โดยชอบด้วยกฎหมาย  ตามมาตรา  1129  แต่ถ้าบริษัทมีหนี้สินก่อนการโอนหุ้นและบริษัทไม่มีเงินชำระหนี้เจ้าหนี้ของบริษัทก็อาจจะฟ้องเอาจากผู้โอนหุ้นได้ตามมาตรา  1133  ซึ่งกฎหมายบัญญัติคุ้มครองเจ้าหนี้ของบริษัทมิให้ผู้โอนหุ้นเอาเปรียบเจ้าหนี้โดยการไม่ต้องรับผิดในเงินค่าหุ้นที่ตนยังชำระไม่ครบ  แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้ของบริษัทก็ต้องฟ้องผู้โอนภายในสองปีนับแต่ได้จดแจ้งการโอนในสมุดจดทะเบียนผู้ถือหุ้น  เมื่อเจ้าหนี้มาเรียกร้องเกินสองปีแล้วนับจากวันจดแจ้งการโอน  ตามมาตรา  1133  วรรคท้าย    นางสาวสกุนตลาจึงไม่ต้องรับผิด

สรุป  เจ้าหนี้ของบริษัท  เรียกให้นางสาวสกุนตลาชำระหนี้ไม่ได้

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน 1/2548

การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  ขาว  เขียว  เหลือง  แดง  และม่วง  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกันทำฟาร์มเลี้ยงกุ้ง  โดยจะรับผิดร่วมกันในหนี้ทั้งหลายที่เกิดขึ้น  ทั้งนี้  ขาว  เขียว  เหลือง  ได้ลงหุ้นเป็นเงินคนละ  2  แสนบาท  แดงลงหุ้นด้วยแรง  โดยเป็นผู้ดูแลเลี้ยงกุ้ง  ส่วนม่วงเป็นกำนันในท้องที่ที่ทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งและเป็นผู้มีอิทธิพล  แต่ไม่มีอะไรมาลงหุ้นด้วยเลย  เพียงแต่ยินยอมให้นำชื่อม่วงมาเขียนไว้ที่หน้าฟาร์มกุ้งว่า  ฟาร์มกุ้งกำนันม่วง”  เพื่อให้คนเกรงกลัวไม่กล้ามาลักขโมยกุ้ง  ดังนี้ถามว่า

 1       แดงลงหุ้นด้วยแรงคิดเป็นเงินมีมูลค่าเท่าใด  และถ้ามีกำไรสุทธิเป็นเงิน  4  แสนบาท  จะแบ่งกำไรกันอย่างไร  จึงจะชอบด้วยกฎหมาย

2       ถ้าฟาร์มกุ้งมีหนี้สิน  เจ้าหนี้จะฟ้องนายม่วงให้รับผิดได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1028  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดได้ลงแต่แรงงานของตนเข้าเป็นหุ้นส่วน  และในสัญญาเข้าหุ้นส่วนมิได้ตีราคาค่าแรงไว้  ท่านให้คำนวณส่วนกำไรของผู้ที่เป็นหุ้นส่วนด้วยลงแรงงานเช่นนั้น  เสมอด้วยส่วนถัวเฉลี่ยของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ลงเงินหรือลงทรัพย์สินเข้าหุ้นในการนั้น

มาตรา  1054  วรรคแรก  บุคคลใดแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยวาจาก็ดี  ด้วยลายลักษณ์อักษรก็ดี  ด้วยกิริยาก็ดี  ด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี  หรือรู้แล้วไม่คัดค้านปล่อยให้เขาแสดงว่าตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี  ท่านว่าบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน

วินิจฉัย

 1       การคิดค่าแรงของแดงต้องนำส่วนลงหุ้นของขาว  เขียว  เหลือง  มาเฉลี่ยกันตามมาตรา  1028 (200,000 + 200,000 + 200,000 แล้วหารด้วย 3)  ก็จะได้ส่วนลงหุ้นที่เป็นค่าแรงของแดงคือ  200,000  บาท  เมื่อห้างมีกำไรสุทธิ  400,000  บาท  ก็ต้องแบ่งกำไรให้ผู้ที่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาลงหุ้น  ตามปัญหา  ม่วงไม่มีอะไรมาลงหุ้นด้วยเลย  ม่วงจึงไม่เป็นหุ้นส่วนจึงไม่ต้องแบ่งกำไรให้  ดังนั้นกำไรทั้งหมด  4  แสนบาท  จึงต้องแบ่งให้เฉพาะขาว  เขียว  เหลือง  แดง  ซึ่งลงหุ้นมีมูลค่าเท่ากัน  จึงควรได้รับส่วนแบ่งเท่ากันคือคนละ  100,000  บาท

 2       เมื่อม่วงไม่ใช่หุ้นส่วน  แต่ม่วงได้นำชื่อตนไปเป็นชื่อฟาร์มกุ้ง  และม่วงเป็นกำนันในท้องที่นั้นคนย่อมรู้จักดี  และเจ้าหนี้ของฟาร์มกุ้งคงเข้าใจว่า  ม่วงต้องเป็นหุ้นส่วน  เพราะฟาร์มกุ้งก็เป็นชื่อของม่วงจึงถือได้ว่าม่วงแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนร่วมกับผู้อื่นด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน  คือ  เอาชื่อตัวเองเป็นชื่อฟาร์มกุ้ง  ดังนั้น  ม่วงจึงต้องรับผิดในหนี้ของห้างฯ  เสมือนเป็นหุ้นส่วนด้วย  ตามมาตรา  1054  วรรคแรก

 

ข้อ  2  ห้างหุ้นส่วนจำกัด  พรสนอง  มีนางสาวพรสวรรค์ซึ่งมีชื่อเล่นทั่วไปเรียกกันว่า  พร  และนายสนองเป็นหุ้นส่วนกัน  โดยนางสาวพรสวรรค์เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  และได้ลงหุ้นเป็นเงิน  3  แสนบาท  นายสนองเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  และลงหุ้นด้วยแรงโดยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้จดทะเบียนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว  มีวัตถุประสงค์ค้าขายเครื่องจักรอะไหล่รถจักรยานยนต์  นางสนองได้สั่งซื้ออะไหล่รถจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์มาขายในห้างหุ้นส่วนเป็นเงิน  5  แสนบาท  อีกห้าเดือนต่อมานายสนองได้ชักชวนนายเสนอมาเข้าเป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง  โดยนายเสนอได้นำเงินมาลงหุ้น  1  แสนบาท  และเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด  ต่อมาหนี้อะไหล่ถึงกำหนดชำระห้างหุ้นส่วนผิดนัดไม่ชำระหนี้  เจ้าหนี้จึงเรียกให้หุ้นส่วนทั้งหมดร่วมกันชำระหนี้ นางสาวพรสวรรค์และนายเสนอได้ต่อสู้ว่า  เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดยังไม่ได้เลิกกัน   เจ้าหนี้ของห้างฯ  จะฟ้องหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดไม่ได้  และบุคคลทั้งสองก็ได้ส่งเงินลงหุ้นครบถ้วนแล้ว  จึงไม่ต้องรับผิดใดๆทั้งสิ้น  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยข้อต่อสู้ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

มาตรา  1070  เมื่อใดห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้  เมื่อนั้นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชำระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งก็ได้

มาตรา  1080  วรรคแรก  บทบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนสามัญข้อใดๆ  หากมิได้ยกเว้นหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด  3  นี้  ท่านให้นำมาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย

มาตรา  1082  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น

มาตรา  1095  วรรคแรก  ตราบใดห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  ตราบนั้นเจ้าหนี้ของห้างย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้

แต่เมื่อห้างหุ้นส่วนนั้นได้เลิกกันแล้ว  เจ้าหนี้ของห้างมีสิทธิฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้เพียงจำนวนดังนี้  คือ 

 (1) จำนวนลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนเท่าที่ยังค้างส่งแก่ห้างหุ้นส่วน

วินิจฉัย

1       ข้อต่อสู้ของนางสาวพรสวรรค์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  เพราะแม้ว่านางสาวพรสวรรค์จะเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดยังไม่ได้เลิกกัน  เจ้าหนี้ของห้างจึงฟ้องร้องไม่ได้ตามมาตรา  1095  วรรคแรก  อีกทั้งได้ส่งเงินลงหุ้นครบถ้วนแล้ว  จึงไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ของห้าง  ตามมาตรา  1095 (1) ก็ตาม  แต่นางสาวพรสวรรค์ได้นำชื่อเล่นของตนคือ  พร  มาระคนกับชื่อ  นายสนอง  เป็นชื่อห้างฯ  ว่า  พรสนอง  จึงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  ตามมาตรา  1082  วรรคแรก  เมื่อห้างฯ  ผิดนัดชำระหนี้ค่าอะไหล่รถจักรยานยนต์  ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากธรรมดาของการค้าขายตามมาตรา  1050  เจ้าหนี้จึงเรียกให้นางสาวพรสวรรค์ชำระหนี้ได้ตามมาตรา  1070  ประกอบมาตรา  1080  วรรคแรก

 2       ข้อต่อสู้ของนายเสนอรับฟังได้  แม้นายเสนอจะต้องรับผิดในหนี้ของห้างฯ  ที่ได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่นายเสนอจะมาเข้าเป็นหุ้นส่วน  แต่นายเสนอก็เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดยังไม่ได้เลิกกัน  เจ้าหนี้ของห้างจึงจะฟ้องร้องหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดไม่ได้ตามมาตรา  1095  วรรคแรก  อีกทั้งนายเสนอก็ได้ส่งเงินลงหุ้นครบถ้วนแล้วจึงไม่ต้องรับผิดใดๆอีกเลย  ตามมาตรา  1095 (1)

 

ข้อ  3  บริษัท  นพคุณ  จำกัด  ได้ออกข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องใบหุ้นไว้ดังนี้

 (1) ผู้ถือหุ้นที่ต้องการใบหุ้นชนิดที่ออกให้กับผู้ถือ  จะต้องได้ชำระเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว

(2) การโอนหุ้นที่ยังชำระเงินค่าหุ้นไม่ครบถ้วน  ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการบริษัทก่อนจึงจะโอนได้  เว้นแต่เป็นการตกทอดโดยทางมรดก

(3) การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อต้องลงลายมือชื่อผู้โอน  ผู้รับโอน  และต้องมีพยานรับรองลายมือชื่อด้วยอย่างน้อยสองคน  และต้องแถลงหมายเลขหุ้นด้วย  ถ้าฝ่าฝืนเป็นโมฆะ

นางสาวสกุณา  มีหุ้นชนิดระบุชื่อที่ส่งเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว  1  แสนหุ้น  และมีใบหุ้นที่ออกให้แก่ผู้ถือจำนวน  2  แสนหุ้น  ต้องการโอนหุ้นทั้งหมด  3  แสนหุ้นนี้ให้นายจันทร์  แต่คณะกรรมการบริษัทไม่อนุญาตให้โอนหุ้นทั้งหมด  เพราะเห็นว่านายจันทร์เป็นคู่แข่งทางการค้าของบริษัท  นางสาวสกุณาจึงมาถามท่านว่าคำสั่งไม่อนุญาตให้โอนหุ้นทั้งหมดของคณะกรรมการฯ  ชอบด้วยหลักกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทหรือไม่  ให้ท่านแนะนำนางสาวสกุณา

ธงคำตอบ

มาตรา  1129  อันว่าหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมของบริษัท  เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น  ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา  1134  ใบหุ้นออกให้แก่ผู้ถือนั้น  จะออกได้ก็แต่เมื่อมีข้อบังคับของบริษัทอนุญาตไว้  และจะออกให้ได้เฉพาะเพื่อหุ้นซึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว  ในกรณีเช่นว่านี้  ผู้ทรงใบหุ้นชนิดระบุชื่อย่อมมีสิทธิจะได้รับใบหุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือ  เมื่อเวนคืนใบหุ้นระบุชื่อนั้นให้ขีดฆ่าเสีย

มาตรา  1135  หุ้นชนิดที่มีใบหุ้นออกให้แก่ผู้ถือนั้น  ย่อมโอนกันได้เพียงด้วยส่งมอบใบหุ้นแก่กัน

วินิจฉัย

คำสั่งของคณะกรรมการไม่ชอบด้วยกฎหมาย  และไม่ชอบด้วยข้อบังคับของบริษัท  เนื่องจากการโอนหุ้นผู้ถือซึ่งต้องเป็นหุ้นที่ได้ชำระเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว  หากจะโอนก็โอนได้โดยการส่งมอบใบหุ้นแก่กัน  และไม่ต้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการแต่อย่างใด  (มาตรา 1134  และมาตรา  1135)  ส่วนหุ้นชนิดระบุชื่อนั้นมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ก็เฉพาะหุ้นที่ยังชำระเงินค่าหุ้นไม่ครบถ้วนเท่านั้นที่ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการบริษัทก่อนจึงจะโอนได้  แต่หุ้นชนิดระบุชื่อของนางสาวสกุณาเป็นหุ้นที่ได้ชำระเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว  จึงไม่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการก่อน (ตามมาตรา  1129  วรรคแรก)  ดังนั้นคำสั่งของคณะกรรมการบริษัทที่ไม่อนุญาตให้โอนหุ้นทั้งหมด  เพราะเห็นว่านายจันทร์เป็นคู่แข่งทางการค้าของ บริษัท  จึงไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน 2/2548

การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายแสง  นายสี  และนายใส  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  โดยจัดตั้งเป็นห้างหุนส่วนสามัญนิติบุคคลใช้ชื่อห้างหุ้นส่วน  แสงบริการ  ห้างฯนี้มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการเดินรถยนต์ขนส่งสินค้าและคนโดยสารวิ่งระหว่างจังหวัดตราด  กับจังหวัดจันทบุรี  ทุกคนลงหุ้นเป็นเงินคนละ  2  ล้านบาท  จดทะเบียนให้นายสีเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ระหว่างดำเนินการ  นายสีได้กู้ยืมเงินจากนายแสดเพื่อนำไปซื้อรถยนต์ไว้ใช้ในกิจการของห้างฯ  ต่อมาเมื่อวันที่  1  มาคม  2547  นายแสงได้จดทะเบียนลาออกจากห้างฯ

โดยหุ้นส่วนคนอื่นๆไม่ขัดข้องและห้างหุ้นส่วนฯแสงบริการ  ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไป  ต่อมาเมื่อวันที่  3  มีนาคม  2549  คนขับรถยนต์ของห้างฯ  ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนนายแดงบาดเจ็บสาหัส  และหนี้เงินกู้ที่นายแสดเป็นเจ้าหนี้ก็ได้ถึงกำหนดชำระด้วย  แต่ห้างฯไม่มีเงินชำระหนี้  ดังนี้นายแสด  และนายแดง  จะเรียกให้นายแสงรับผิดชอบได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1054  วรรคแรก  บุคคลใดแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยวาจาก็ดี  ด้วยลายลักษณ์อักษรก็ดี  ด้วยกิริยาก็ดี  ด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี  หรือรู้แล้วไม่คัดค้านปล่อยให้เขาแสดงว่าตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี  ท่านว่าบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน

มาตรา  1068  ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนอันเกี่ยวแก่หนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนนั้น  ย่อมมีจำกัดเพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากหุ้นส่วน

วินิจฉัย

 1       กรณีนายแสดเป็นเจ้าหนี้ 

นายแสงได้ลาออกจากห้างฯ  เมื่อวันที่  1  มีนาคม  2547  แต่นายแสงซึ่งเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนยังคงต้องรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนออกจากหุ้นส่วนนั้น  แต่ความรับผิดดังกล่าวมีจำกัดเพียงสองปีนับแต่เมื่อออกจากห้างหุ้นส่วน  ตามมาตรา  1068  ดังนั้นเมื่อนายแสดได้เรียกร้องหลังจากวันที่  3  มีนาคม  2549  จึงพ้นกำหนดเวลาสองปีนับแต่ที่นายแสงได้ลาออกจากห้างไปแล้ว  แต่อย่างไรก็ตามชื่อของนายแสงยังคงเรียกขานเป็นชื่อห้างฯอยู่  จึงเป็นกรณีที่บุคคลที่ไม่ได้เป็นหุ้นส่วน  แต่กลับแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน  ดังนั้นนายแสดจึงเรียกให้นายแสงรับผิดเสมือนเป็นหุ้นส่วนตามมาตรา  1054 วรรคแรก

 2       กรณีนายแดงเรียกค่าเสียหาย

อันเกิดจากการที่คนขับรถยนต์ของห้างฯ  ได้ขับรถยนต์โดยประมาทชนนายแดงบาดเจ็บ  จะเห็นว่าแม้ว่าหนี้ดังกล่าวจะเกิดเนื่องจากการกระทำที่อยู่ภายในวัตถุประสงค์ของห้างฯ  แต่ก็เป็นหนี้ละเมิด  ซึ่งผู้ถูกละเมิดเถียงไม่ได้ว่าการที่ตนเสียหายนั้นเพราะหลงเชื่อข้อความอันใดอันหนึ่ง  หรือการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา  1054  วรรคแรก  ดังนั้น  ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงมิใช่ผลโดยตรงในการที่นายแสงได้ใช้ชื่อเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน  ดังนั้นนายแดงจึงเรียกค่าเสียหายจากนายแสงไม่ได้

สรุป  นายแสดเรียกให้นายแสงรับผิดได้  แต่นายแดงเรียกให้นายแสงรับผิดไม่ได้

 

ข้อ  2  ห้างหุ้นส่วนจำกัด  ศรีทองก่อสร้าง  มีวัตถุประสงค์ค้าขายวัสดุก่อสร้าง  มีนายศรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  นายทองและนายเงินเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้เป็นหนี้นางสาวสกุนตลาหลายแสนบาท  แต่ยังไม่ได้คิดบัญชีกัน  นายศรีจึงวานนายเงินให้ช่วยคิดบัญชีในการที่ห้างฯ  เป็นหนี้นางสาวสกุนตลา  นายเงินจึงไปคิดบัญชีกับนางสาวสกุนจลาเป็นที่เรียบร้อยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด  ศรีทองก่อสร้าง  ยังค้างชำระหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างเป็นเงิน  125,000  บาท  โดยนายเงินได้ลงนามไว้ข้างหนังสือ  ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัด  ศรีทองก่อสร้าง  ไม่ยอมชำระหนี้ให้นางสาวสกุนตลาตามหนังสือที่นายเงินได้ทำไว้  ดังนี้  นางสาวสกุนตลาจะเรียกให้หุ้นส่วนคนใดรับผิดใช้หนี้ได้บ้าง

ธงคำตอบ

มาตรา  1070  เมื่อใดห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้  เมื่อนั้นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชำระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งก็ได้

มาตรา  1080  วรรคแรก  บทบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนสามัญข้อใดๆ  หากมิได้ยกเว้นหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด  3  นี้  ท่านให้นำมาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย

มาตรา  1082  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น

มาตรา  1088  วรรคแรก  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน

วินิจฉัย

 1       กรณีนายศรี  ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  ต้องรับผิดเพราะเมื่อห้างผิดนั้นชำระหนี้  เจ้าหนี้ของห้างฯ  ก็เรียกให้หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดชำระหนี้ได้ตามมาตรา  1070  ประกอบมาตรา  1080  วรรคแรก

 2       กรณีนายทอง  ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ต้องรับผิดเพราะได้ใช้ชื่อระคนเป็นชื่อห้างฯตามมาตรา  1082  วรรคแรก

 3       กรณีนายเงิน  ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ต้องรับผิดเพราะได้ไปทำหนังสือรับสภาพหนี้ของห้างฯไว้  ตามที่นายศรีมอบหมาย  จึงเป็นการสอดเข้าจัดการงานของห้างฯ  ตามมาตรา  1088  วรรคแรก

สรุป  นางสาวสกุนตลา  เรียกให้หุ้นส่วนทั้งสามคม  คือ  นายศรี  นายทอง  และนายเงินรับผิดใช้หนี้ได้

 

ข้อ  3  นายเอก  นายโท  และเพื่อนอีกเจ็ดคน  เป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีวัตถุประสงค์ค้าขายเครื่องสำอาง  นายเอกได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตน  นำตัวอย่างเครื่องสำอางที่จะผลิตขายในบริษัทไปแนะนำให้ลูกค้าดูก่อน  ขากลับรถยนต์ของนายเอกเบรกแตก    และได้พุ่งชนรถยนต์ซีตรองของนางสาวขวัญเสียหายเป็นเงินหนึ่งแสนบาท  แต่นายเอกได้ปิดบังเรื่องนี้มิได้แจ้งให้ผู้ใดทราบเลยเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ  ต่อมาได้มีการประชุมตั้งบริษัท  และที่ประชุมได้ตั้งนายเอก  กับนายโทเป็นกรรมการผู้จัดการ  นายเอก  กับนายโทได้เรียกเก็บเงินจากผู้เขาชื่อหุ้นและได้ไปจดทะเบียนตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  นางสาวขวัญใจจึงมีหนังสือทวงถามให้บริษัทจำกัดและนายเอกร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย  แต่นายเอกก็ยังเพิกเฉยอยู่  นางสาวขวัญใจจึงมาปรึกษาท่านว่า  กรณีดังกล่าวนางสาวขวัญใจจะเรียกค่าเสียหายจากใครได้บ้าง  ให้ท่านแนะนำด้วย

ธงคำตอบ

มาตรา  1108  กิจการอันจะพึงทำในที่ประชุมตั้งบริษัทนั้น  คือ

 (2) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้ริเริ่มก่อการได้ทำไว้  และค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเขาต้องออกไปในการเริ่มก่อบริษัท

มาตรา  1113  ผู้เริ่มก่อการบริษัทต้องรับผิดร่วมกันและโดยไม่จำกัดในบรรดาหนี้และการจ่ายเงินซึ่งที่ประชุมตั้งบริษัทมิได้อนุมัติ  และแม้จะได้มีอนุมัติก็ยังคงต้องรับผิดอยู่เช่นนั้นไปจนกว่าจะได้จดทะเบียนบริษัท

วินิจฉัย

นายเอก  เป็นผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทค้าขายเครื่องสำอาง  ได้ทำละเมิดนางาสาวขวัญใจระหว่างก่อตั้งบริษัท  ซึ่งแม้ว่า  การทำละเมิดดังกล่าวจะเกิดจากการที่นายเอกได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของตน  เพื่อนำตัวอย่างเครื่องสำอางที่จะผลิตขายในบริษัทไปแนะนำให้ลูกค้าดูก่อน จึงถือว่าการกระทำของนายเอกเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทก็ตาม  แต่ไม่ปรากฏว่าเมื่อคราวประชุมตั้งบริษัทนายเอกได้ขออนุมัติให้ที่ประชุมผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นพิจารณาอนุมัติค่าเสียหายตามมาตรา  1108(2)  จึงถือได้ว่าที่ประชุมตั้งบริษัทมิได้อนุมัติในเรื่องดังกล่าว  ดังนั้นหนี้สินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นผู้เริ่มก่อการทุกคนจึงต้องรับผิดชอบร่วมกัน  และโดยไม่จำกัดตามมาตรา  1113  นางสาวขวัญใจจึงเรียกให้ผู้เริ่มก่อการทุกคนรับผิดได้  แต่จะเรียกให้บริษัทรับผิดไม่ได้

สรุป  นางสาวขวัญใจสามารถเรียกค่าเสียหายจากนายเอก  นายโท  และเพื่อนอีกเจ็ดคนซึ่งเป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัท

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน ซ่อม S/2548

การสอบซ่อมภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายเอก  นายโท  และนายตรี  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  โดยบอกว่าจะรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายที่เกิดขึ้น  โดยไม่มีจำกัดจำนวน  แต่ก็มิได้นำความไปจดทะเบียน  ทุกคนได้ลงหุ้นมาแล้วเป็นเงินคนละ  5  แสนบาท  โยมีวัตถุประสงค์รับจ้างถมดิน  มีนายเอกเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  นายเอกได้ทำสัญญารับจ้างถมที่ดินของนายแดงเนื้อที่  50  ไร่  โดยจะต้องถมดินให้เสร็จภายในกำหนดหนึ่งเดือน

นายเอกได้ดำเนินการถมที่ดินของนายแดงไปได้  20  วัน  แต่เห็นว่าคงจะถมไม่เสร็จภายในเวลาที่กำหนด  ซึ่งจะต้องถูกนายแดงปรับเป็นเงินหนึ่งแสนบาท  นายเอกจึงได้ว่าจ้างนายขาวผู้รับเหมาถมที่ดินเหมือนกันไปถมที่ดินของนายแดงจนแล้วเสร็จภายในกำหนด  เป็นหนี้นายขาวค่าจ้างถมที่ดินสองแสนบาท  แต่นายเอกไม่มีเงินชำระหนี้  นายขาวจึงเรียกให้นายโทและนายตรีรับผิดร่วมด้วย  แต่นายโทและนายตรี  ไม่ยอมรับผิดอ้างว่านายเอกได้ทำนอกวัตถุประสงค์ของห้างฯ  กล่าวคือ  ห้างฯมีวัตถุประสงค์รับจ้างถมดิน  มิได้มีวัตถุประสงค์ว่าจ้างถมดิน

ดังนี้  ข้อต่อสู้ของนายโทและนายตรีรับฟังได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

วินิจฉัย

การที่นายเอก  นายโท  และนายตรี  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  โดยบอกว่าจะรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายที่เกิดขึ้น  โดยไม่จำกัดจำนวน  แต่ก็มิได้นำความไปจดทะเบียนจึงเข้าลักษณะสัญญาห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน  โดยมีวัตถุประสงค์รับจ้างถมดิน  เมื่อนายเอก  ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้ทำสัญญารับจ้างถมที่ดินของนายแดง  จึงเป็นการจัดทำภายในวัตถุประสงค์ของห้างฯ  ดังนั้นผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจึงต้องผูกพันด้วย  ตามมาตรา  1050  แต่เมื่อนายเอกได้ดำเนินการถมที่ดินของนายแดงไปได้  20  วัน  และเห็นว่า  คงจะถมไม่เสร็จภายในเวลาที่กำหนด  ซึ่งจะต้องถูกนายแดงปรับเป็นเงินหนึ่งแสนบาท  นายเอกจึงได้ว่าจ้างนายขาวผู้รับเหมาถมที่ดินเหมือนกันไปถมที่ดินของนายแดงจนแล้วเสร็จภายในกำหนด  เป็นหนี้นายขาวค่าจ้างถมที่ดินสองแสนบาท  จะเห็นว่า  หนี้ดังกล่าวแม้จะไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากการกระทำภายในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนโดยตรง  แต่ก็เป็นหนี้ที่เกิดจากการกระทำซึ่งเกี่ยวเนื่องกับวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนหรือจำเป็นในการดำเนินกิจการของห้างหุ้นส่วน  ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันและจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนตามมาตรา  1050  ดังนั้น  เมื่อนายเอกไม่มีเงินชำระหนี้  นายขาวจึงเรียกให้นายโทและนายตรีรับผิดร่วมกันได้  นายโทและนายตรี  จะไม่ยอมรับผิดโยอ้างว่านายเอก  ได้ทำนอกวัตถุประสงค์ของห้างฯไม่ได้

สรุป  ข้อต่อสู้ของนายโทและนายตรีรับฟังไม่ได้

 

ข้อ  2  นายพรชัย  และนายสมหวัง  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกันโดยจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  นายพรชัยเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด นายสมหวังเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ทั้งสองคนได้ลงเงินไว้คนละสองแสนบาท  ห้างหุ้นส่วนได้จดทะเบียนถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ดำเนินกิจการมาได้หลายปีแล้ว  มีกำไรดีทุกปี  แต่นายพรชัยได้ส่วนแบ่งกำไรน้อยกว่านายสมหวังครึ่งหนึ่ง  เนื่องจากได้จำกัดความรับผิดไว้  นายพรชัยเกิดความโลภต้องการมีเงินมาก  จึงได้ชักชวนนายสมยศมาเข้าหุ้นกับตน  ตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน  โดยลงหุ้นกันคนละหนึ่งแสนบาท  และได้ดำเนินกิจการอันมีสภาพเป็นอย่างเดียวกัน  และเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนจำกัดที่นายพรชัยเป็นหุ้นส่วนกับนายสมหวัง  โดยในห้างหุ้นส่วนสามัญนี้  นายพรชัยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแต่เพียงผู้เดียว  ต่อมานายสมหวังทราบเรื่องเนื่องจากยอดการขายสินค้าลดต่ำลงมาก  เพราะนายพรชัยได้ขายสินค้าถูกกว่าสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด  นายสมหวังเห็นว่านายพรชัยเป็นผู้ดำเนินกิจการแข่งขันกับห้างหุ้นส่วนจำกัด  จึงประสงค์จะเรียกค่าเสียหายจากนายพรชัย  จึงได้มาปรึกษาท่านว่าในกรณีดังกล่าวนายสมหวังจะเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากนายพรชัยได้หรือไม่  ให้ท่านแนะนำนายสมหวัง

ธงคำตอบ

มาตรา  1090  ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดจะประกอบการค้าขายอย่างใดๆ  เพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกก็ได้  แม้ว่าการเช่นนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันกับการค้าขายของห้างหุ้นส่วนก็ไม่ห้าม

วินิจฉัย

นายสมหวังจะเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากนายพรชัยไม่ได้  เพราะนายพรชัยเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  จึงประกอบการค้าขายอย่างใดๆ  เพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกก็ได้  แม้ว่าการเช่นนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันกับการค้าขายของห้างหุ้นส่วน  ตามมาตรา  1090  และแม้ว่าการงานเช่นนั้นจะเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนและนายพรชัยจะเป็นผู้ดำเนินกิจการแข่งขันกับห้างหุ้นส่วนก็ตาม  (ทั้งนี้เพราะเหตุว่า  หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดไม่มีสิทธิเป็นผู้จัดการห้างตามมาตรา  1087  และหุ้นส่วนจำพวกนี้ไม่ต้องการความซื่อสัตย์สุจริตในสัญญาก่อตั้งห้างหุ้นส่วน  กับทั้งโอกาสในการที่จะเอาประโยชน์จากห้างมาเป็นประโยชน์ส่วนตัวก็ไม่มี  โดยลักษณะที่เป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดก็มิใช่เป็นตัวแทน  ไม่ใช่เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ  การที่เขาเข้าไปเป็นหุ้นส่วน  ก็เนื่องจากเรียกเขาเข้ามาเอาทุนของเขามาลงเพื่อการค้าขาย  จริงอยู่เขาเป็นส่วนหนึ่งที่ประกอบให้เกิดห้างหุ้นส่วนจำกัด  แต่ลักษณะที่เขาเข้ามา  เขาไม่มีความสำคัญในห้างหุ้นส่วนเท่าใดนัก)

สรุป  นายสมหวังจะเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากนายพรชัยไม่ได้

 

ข้อ  3  คณะกรรมการบริษัท  นพคุณ  จำกัด  ได้นัดประชุมกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องเพิ่มทุนของบริษัท  ที่ประชุมกรรมการได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิ่มทุนได้  โดยออกหุ้นใหม่อีก  1  แสนหุ้น  มูลค่าเท่าเดิม  คือหุ้นละ  10  บาท  หลังจากนั้นกรรมการบริษัทก็ได้นำมติเรื่องเพิ่มทุนไปจดทะเบียน  และมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้ทราบว่า  จะมีสิทธิซื้อหุ้นใหม่ได้คนละกี่หุ้น  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า  การเพิ่มทุนของบริษัท  นพคุณ  จำกัด  ชอบด้วยหลักกฎหมายหรือไม่    

ธงคำตอบ

มาตรา  1220  บริษัทจำกัดอาจเพิ่มทุนของบริษัทขึ้นได้ด้วยออกหุ้นใหม่โดยมติพิเศษของประชุมผู้ถือหุ้น

วินิจฉัย

การเพิ่มทุนของบริษัทจะทำได้โดยวิธีเดียว  คือ  การออกหุ้นใหม่โดยมติพิเศษของที่ประชุมผู้ถือหุ้น  ตามมาตรา  1220  จะเห็นว่า  การเพิ่มทุนของบริษัทเป็นอำนาจของที่ประชุมผู้ถือหุ้น  แต่ตามปัญหา  การลงมติให้เพิ่มทุนดังกล่าวเป็นมติที่เกิดจากการประชุมกันเองของคณะกรรมการบริษัท  ดังนั้น  การเพิ่มทุนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

สรุป  การเพิ่มทุนของบริษัท  นพคุณ  จำกัด  ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน S/2548

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายสินกับนายสอนตกลงเข้าหุ้นกันโดยจะรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้สินที่เกิดขึ้นทั้งหมด  และได้ลงหุ้นไว้เป็นเงินคนละ  1  แสนบาท  ทั้งสองร่วมกันผลิตน้ำดื่มบรรจุขวดออกจำหน่าย  นายสินได้นำน้ำดื่มไปส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อระหว่างทางที่ไปรถที่บรรทุกน้ำดื่มได้เสียหลักพุ่งชนรถของนายแสงเสียหายเป็นเงิน  5  หมื่นบาท  ต่อมานายสอนได้ชวนนายสีมาเข้าหุ้นด้วยโดยนายสินไม่ขัดข้อง  และในการเข้าหุ้นครั้งนี้นายสีได้กู้ยืมเงินจากนายรวยมา  1  แสนบาท  เพื่อนำมาลงหุ้นกับนายสินและนายสอน

ต่อมาหนี้เงินกู้ที่นายสีกู้มาจากนายรวยถึงกำหนดชำระแต่นายสีไม่มีเงินชำระหนี้  ส่วนนายสินก็ยังไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายให้นายแสง  ดังนี้ถามว่านายรวยและนายแสงจะเรียกให้นายสิน  นายสอน  และนายสีร่วมกันรับผิดชำระหนี้ได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

มาตรา  1052  บุคคลผู้เข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนย่อมต้องรับผิดในหนี้ใดๆ  ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย

วินิจฉัย

 1       กรณีนายรวย  เรียกให้นายสีชำระหนี้ได้คนเดียว  เพราะนายสีกู้เงินจากนายรวยเพื่อนำมาลงหุ้น  หนี้เงินกู้นี้จึงเป็นหนี้ส่วนตัวของนายสี  มิใช่หนี้ของผู้เป็นหุ้นส่วนที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน  เนื่องจากนายสีกู้ยืมเงินมาแล้วนำมาลงหุ้น  จึงถือว่าเป็นหนี้ส่วนตัวที่จะต้องรับผิดชอบเอง  ไม่ใช่หนี้สินที่เกิดจากธรรมดาการค้าขายของห้างฯ  ตามมาตรา  1050

 2       กรณีนายแสง  ถูกนายสินทำละเมิดเนื่องจากนำน้ำดื่มไปส่งให้ลูกค้า  การละเมิดนั้นสืบเนื่องมาจากจัดการงานของห้างฯ  เพราะการนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อ  ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการค้าขายของห้างฯ  อย่างหนึ่ง  หนี้ละเมิดที่เกิดขึ้นเนื่องจากจัดการงานเช่นนี้  นายสินและนายสอนต้องรับผิดร่วมกันตามมาตรา  1050  ส่วนนายสีได้เข้าหุ้นในภายหลังก็ต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯ  ที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วยตามมาตรา  1052  ดังนั้น  นายแสงจึงเรียกให้นายสิน  นายสอน  และนายสี  ร่วมกันรับผิดชำระหนี้ละเมิดได้

 

ข้อ  2  กรรณิการ์และมารศรีตกลงเข้าหุ้นส่วนกันโดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าขายเครื่องสำอาง  กรรณิการ์ได้นำเงินสดมาลงหุ้นจำนวนห้าแสนบาทและได้จดทะเบียนจำกัดความรับผิดไว้  ส่วนมารศรีไม่มีเงินจึงขอลงหุ้นด้วยแรงงานโดยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  แต่เมื่อถึงเวลาจัดการงานของห้างฯ  มารศรีจะมอบหมายให้กรรณิการ์เป็นผู้ลงนามสั่งซื้อเครื่องสำอางแทนตนอยู่เสมอ เนื่องจากผู้ขายเชื่อมั่นในหลักทรัพย์ของกรรณิการ์  ต่อมากรรณิการ์ได้มาศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง  จึงทราบว่าการที่ตนลงนามสั่งซื้อเครื่องสำอางนั้น  ตนจะต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯ  โดยไม่จำกัดจำนวน  จึงได้โอนหุ้นของตนทั้งหมดให้สุวรรณาซึ่งเป็นพี่สาว  และได้จดทะเบียนลาออกจากห้างฯไป  โดยสุวรรณาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดแทน  ซึ่งมีการจดทะเบียนถูกต้องเป็นที่เรียบร้อย  ต่อมาหนี้สินต่างๆ  ที่กรรณิการ์ได้ลงนามสั่งซื้อไว้ถึงกำหนดชำระ  แต่ห้างฯไม่มีเงินชำระหนี้ได้ทั้งหมด  เจ้าหนี้ของห้างฯ  จึงเรียกให้สุวรรณารับผิดเพราะเป็นหุ้นส่วนใหม่จึงต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯ  ที่เกิดขึ้นก่อนที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนและเป็นผู้รับโอนหุ้นของกรรณิการ์จึงต้องรับผิดแทนกรรณิการ์ด้วย  แต่สุวรรณาต่อสู้ว่า  ตนมิได้สอดเข้าจัดการงานของห้างฯ  และตนเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  และได้ลงหุ้นครบถ้วนแล้ว  และห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  ดังนั้น  จึงไม่ต้องรับผิดใดๆทั้งสิ้น  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า ข้อต่อสู้ของสุวรรณารับฟังได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

มาตรา  1052  บุคคลผู้ข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนย่อมต้องรับผิดในหนี้ใดๆ  ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย

มาตรา  1077  อันห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น  คือห้างหุ้นส่วนประเภทหนึ่ง  ซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วนสองจำพวก  ดั่งจะกล่าวต่อไปนี้  คือ

 (1) ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนซึ่งมีจำกัดความรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนรับจะลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนั้นจำพวกหนึ่ง  และ……

มาตรา  1080  วรรคแรก  บทบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนสามัญข้อใดๆ  หากมิได้ยกเว้นหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด  3  นี้  ท่านให้นำมาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย

มาตรา  1088  วรรคแรก  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน

มาตรา  1095  วรรคแรก  ตราบใดห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  ตราบนั้นเจ้าหนี้ของห้างย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องร้องผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้

วินิจฉัย

การที่สุวรรณาต่อสู้ว่าตนเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  และไม่ได้เคยยุ่งเกี่ยวจัดการงานของห้างฯเลย  ข้อต่อสู้ของสุวรรณาในเรื่องนี้รับฟังได้  เนื่องจากสุวรรณาไม่ได้สอดเข้าจัดการงานของห้างฯ  จึงไม่ต้องรับผิดในหนี้สินตามมาตรา  1088  วรรคแรก  แต่สุวรรณาเป็นหุ้นส่วนใหม่จึงต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯที่เกิดขึ้นก่อนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย  ตามมาตรา  1052  ประกอบมาตรา  1050  และมาตรา  1080  วรรคแรก  และรับผิดจำกัดจำนวนตามมาตรา  1077 (1)  คือ  ไม่เกินจำนวนเงินที่รับลงหุ้น  เมื่อสุวรรณาส่งเงินลงหุ้นครบถ้วนแล้วก็ไม่ต้องรับผิดอีกต่อไป  และเจาหนี้จะฟ้องสุวรรณาไม่ได้  เพราะห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  ตามมาตรา  1095  วรรคแรก

สรุป  ข้อต่อสู้ของสุวรรณาจึงรับฟังได้ทั้งหมด

 

ข้อ  3  ประธานกรรมการบริษัท  รามอินทรา  จำกัด  ได้นัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติในเรื่องการตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ครบวาระโดยนัดประชุมในวันที่  8  เมษายน  2549  ณ  ที่ทำการบริษัท  เวลา  09.00  น.  ในการประชุมครั้งนี้ประธานกรรมการได้สั่งให้เลขานุการส่งคำบอกกล่าวไปยังผู้ถือหุ้นทุกคนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์  ลงวันที่ในจดหมายคือวันที่  25  มีนาคม  2549  แต่ไปรษณีย์ได้รับประทับตราลงวันที่  2  เมษายน  2549  จดหมายทุกฉบับได้ไปถึงผู้ถือหุ้นทุกคนในวันที่  4  เมษายน  2549  และนอกจากนี้บริษัทยังได้ลงโฆษณาคำบอกกล่าวนัดประชุมในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อีก  1  ครั้งด้วยโดยลงโฆษณาเมื่อวันที่  29  มีนาคม  2549  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยการบอกกล่าวนัดประชุมใหญ่ของบริษัทนี้ชอบด้วยหลักกฎหมายหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1175  คำบอกกล่าวเรียกประชุมใหญ่ทุกคราวนั้นให้ลงพิมพ์โฆษณาอย่างน้อยสองคราวในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ฉบับหนึ่ง  ก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวันหรือส่งทางไปรษณีย์ไปยังผู้ถือหุ้นทุกคน  บรรดามีชื่อในทะเบียนของบริษัทก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

ในคำบอกกล่าวนั้น  ให้ระบุสถานที่  วัน  เวลา  และสภาพแห่งกิจการที่จะได้ประชุมปรึกษากันนั้นด้วย

วินิจฉัย

การบอกกล่าวนัดประชุมโดยจดหมายลงทะเบียน  แต่ส่งไปเมื่อวันที่  2  เมษายน  2549  จึงก่อนวันประชุมน้อยกว่าเจ็ดวัน  โดยต้องถือวันที่ไปรษณีย์รับประทับตราเป็นวันส่ง  มิใช่ถือวันที่ที่ลงในจดหมายเมื่อนัดประชุมในวันที่  8  เมษายน  2549  จึงน้อยกว่าเจ็ดวัน  การส่งทางไปรษณีย์ครั้งนี้จึงไม่ถูกต้องด้วยหลักของกฎหมายมาตรา  1175

ส่วนการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ได้ลงโฆษณาเมื่อวันที่  29  มีนาคม  2549  ซึ่งเป็นการลงก่อนวันประชุม  9  วัน  แต่เนื่องจากเป็นการลงโฆษณาครั้งเดียว  จึงไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย  ซึ่งต้องลงสองครั้งและก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน  ดังนั้นการลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องที่จึงไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายมาตรา  1175

สรุป  การบอกกล่าวนัดประชุมใหญ่ของบริษัทนี้ไม่ชอบด้วยหลักของกฎหมาย

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน 1/2549

การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  เอก  โท  ตรี  เข้าหุ้นส่วนกันโดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน  มีเอกเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ส่วนจัตวาซึ่งเป็นเพื่อนรักกับเอก  มักจะได้รับมอบหมายจากเอกให้มาช่วยจัดการงานของห้างหุ้นส่วนเป็นประจำจนบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าจัตวาเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  วันหนึ่งเอกได้ขับรถยนต์ของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไปส่งของให้ลูกค้าที่สั่งซื้อของ  ขากลับจากส่งสินค้าเอกได้ขับรถยนต์ชนอาทิตย์บาดเจ็บสาหัส  อาทิตย์จึงเรียกให้หุ้นส่วนทั้งสามคนชำระค่าสินไหมทดแทนร่วมกัน  แต่หุ้นส่วนทั้งสามไม่มีเงินชำระ  อาทิตย์จะเรียกให้จัตวาชำระหนี้ได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1054  วรรคแรก  บุคคลใดแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยวาจาก็ดี  ด้วยลายลักษณ์อักษรก็ดี  ด้วยกิริยาก็ดี  ด้วยยินยอมให้เขาใช้ชื่อตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วนก็ดี  หรือรู้แล้วไม่คัดค้านปล่อยให้เขาแสดงว่าตนเป็นหุ้นส่วนก็ดี  ท่านว่าบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วน

วินิจฉัย

จัตวามิได้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนดังกล่าว  แต่การที่จัตวาซึ่งเป็นเพื่อนรักกับเอกซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างฯ  มักจะได้รับมอบหมายจากเอกให้มาช่วยจัดการงานของห้างหุ้นส่วนเป็นประจำจนบุคคลทั่วไปเข้าใจว่าจัตวาเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ดังนั้นจึงเป็นการที่จัตวาแสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วนด้วยกิริยา  จัตวาต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนเสมือนเป็นหุ้นส่วนตามมาตรา  1054  วรรคแรก  ซึ่งผู้ต้องรับผิดเสมือนเป็นหุ้นส่วนนั้นก็รับผิดเฉพาะหนี้ที่เกิดจากการทำสัญญาเท่านั้น  เพราะการทำสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเนื่องจากบุคคลที่มาติดต่อค้าขายกับห้างได้หลงเชื่อว่า  ผู้นั้นเป็นหุ้นส่วน  แต่การที่เอกได้ขัยรถยนต์ของห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไปส่งของให้ลูกค้าที่สั่งซื้อของ  แล้วขากลับจากส่งสินค้าเอกได้ขับรถยนต์ชนอาทิตย์บาดเจ็บสาหัส  อาทิตย์จึงเรียกให้หุ้นส่วนทั้งสามคนชำระค่าสินไหมทดแทนร่วมกัน  แต่หุ้นส่วนทั้งสามไม่มีเงินชำระนั้น  จะเห็นได้ว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ละเมิด  ซึ่งผู้ถูกละเมิดเถียงไม่ได้ว่าการที่ตนเสียหายนั้นเพราะหลงเชื่อข้อความอันใดอันหนึ่งหรือการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งของผู้ที่แสดงตนว่าเป็นหุ้นส่วน  ดังนั้นอาทิตย์จึงเรียกให้จัตวาชำระหนี้ไม่ได้  เพราะความเสียหายที่อาทิตย์ได้รับมิใช่เป็นผลโดยตรงอันเนื่องจากจัตวาแสดงตนเป็นหุ้นส่วนร่วมกับเอก  โท  ตรี

สรุป  อาทิตย์เรียกให้จัตวาชำระหนี้ไม่ได้

 

ข้อ  2  นายศุกร์  นายเสาร์  และนายอาทิตย์  เข้าหุ้นส่วนกันโดยจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  นายศุกร์เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  นายเสาร์  และนายอาทิตย์เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  ทั้งหมดตกลงให้นายเสาร์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ห้างฯได้ดำเนินกิจการมาได้หลายปีมีกำไรดีทุกปี  และในการจัดการงานของห้างฯนั้น  ในบางครั้งนายเสาร์ก็ได้เคยมอบหมายให้นายศุกร์ช่วยจัดการงานเป็นประจำ  เมื่อเวลาที่นายเสาร์ไม่อยู่  ต่อมานายศุกร์รู้ตัวว่าจะต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯ  ที่ตนได้เข้าจัดการโดยไม่จำกัดจำนวนจึงโอนหุ้นของตนให้นายศักดิ์ซึ่งเป็นญาติกัน  แต่หุ้นส่วนคนอื่นๆไม่ยินยอม  ดังนี้นายศุกร์จึงมาถามท่านว่า

 1       นายศุกร์จะโอนหุ้นให้นายศักดิ์ได้หรือไม่โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่นๆ

2       นายศักดิ์ผู้รับโอนหุ้นของนายศุกร์จะต้องรับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนแทนนายศุกร์ใช่หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  1088  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน

มาตรา  1091  ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดจะโอนหุ้นของตนปราศจากความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นๆ  ก็โอนได้

วินิจฉัย

 1       นายศุกร์โอนหุ้นให้นายศักดิ์ได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากหุ้นส่วนคนอื่นๆ  เพราะนายศุกร์เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ตามมาตรา  1091

 2       การกระทำของนายศุกร์ถือได้ว่าเป็นการสอดเข้าจัดการงานของห้างฯ  ตามมาตรา  1088  วรรคแรก  แม้จะได้รับมอบหมายจากนายเสาร์ก็ตาม  แต่ก็เป็นความรับผิดเฉพาะตัวของนายศุกร์  แม้นายศุกร์จะโอนหุ้นให้นายศักดิ์  ความรับผิดโดยไม่จำกัดจำนวนก็ไม่โอนไปยังนายศักดิ์

 

ข้อ  3  ในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัท  สามสหาย  จำกัด  เพื่อลดทุนของบริษัท  ปรากฏว่ามติครั้งแรกให้ลดทุนลงครึ่งหนึ่ง  โดยลดมูลค่าหุ้นให้ต่ำลงจากหุ้นละ  10  บาท  เหลือหุ้นละ  5  บาท  แต่ปรากฏว่าในการประชุมครั้งที่สอง  เมื่อวันที่  25  สิงหาคม  2549  ที่ประชุมมีมติให้ลดทุนลงครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม  แต่ลดจำนวนหุ้นให้น้อยลง  ต่อมาได้มีการนำมตินี้ไปจดทะเบียนเมื่อวันที่  4  กันยายน  2549  นายทะเบียนก็รับจดทะเบียนให้  นายฉายผู้ถือหุ้นคนหนึ่งได้มาตรวจสอบรายงานการประชุมทั้งสองครั้งเมื่อวันที่  1  ตุลาคม  2549  ก็พบว่ามติในที่ประชุมทั้งสองครั้งไม่เหมือนกัน  จึงต้องการฟ้องเพิกถอนมติ  จึงมาปรึกษาท่านในฐานะที่ศึกษากฎหมายว่าในกรณีดังกล่าว  นายฉายจะฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนมติดังกล่าวได้หรือไม่  ให้ท่านแนะนำนายฉาย

ธงคำตอบ

มาตรา  1194  วรรคแรก  ถ้าที่ประชุมใหญ่ได้ลงมติอันใดเป็นลำดับกันสองครั้งประชุมแล้ว  มติอันนั้นท่านให้ถือว่าเป็นมติพิเศษ  เมื่อได้ทำให้เป็นไปโดยวิธีดั่งจะกล่าวต่อไปนี้  คือ

วรรคห้า  ที่ประชุมครั้งหลังได้ลงมติยืนตามมติที่ประชุมครั้งแรกโดยคะแนนเสียงข้างมากนับได้ไม่น้อยกว่าสองในสามส่วนของจำนวนเสียงทั้งหมด

มาตรา  1195  การประชุมใหญ่นั้นถ้าได้นัดเรียกหรือได้ประชุมกัน  หรือได้ลงมติฝ่าฝืนบทบัญญัติในลักษณะนี้ก็ดี  หรือฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทก็ดี  เมื่อกรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดร้องขึ้นแล้ว  ให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสีย  แต่ต้องร้องขอภายในกำหนดเดือนหนึ่งนับแต่วันลงมตินั้น

วินิจฉัย

ในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัท  สามสหาย  จำกัด  เพื่อลดทุนของบริษัทนั้นจะเห็นว่า  ได้มีการลงมติเป็นลำดับกันสองครั้งประชุม  มตินั้นจึงถือว่าเป็นมติพิเศษ  ซึ่งจะต้องทำให้เป็นไปตามกฎหมายมาตรา  1194  แต่ปรากฏว่ามติในที่ประชุมดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตรา  1194  วรรคห้า  คือ  มติให้ลดทุนครั้งที่สองต่างกับครั้งแรก  จึงมิใช่เป็นเรื่องยืนตามมติครั้งแรก  ดังนั้น  เมื่อการประชุมใหญ่นั้นได้ลงมติฝ่าฝืนบัญญัติของกฎหมาย  ถ้ากรรมการหรือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดร้องขึ้นแล้วให้ศาลเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสีย  แต่ต้องร้องขอภายในกำหนดเดือนหนึ่ง  นับแต่วันลงมตินั้น  ตามมาตรา  1195  ซึ่งตามปัญหาจะต้องร้องขอภายในวันที่  25  กันยายน  2549  แต่เมื่อนายฉายผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมารู้เมื่อวันที่  1  ตุลาคม  2549  จึงเลยกำหนดเวลาให้ฟ้องเพิกถอนแล้ว

สรุป  นายฉายจะฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนมติดังกล่าวไม่ได้

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน 2/2549

การสอบไล่ภาค  2  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  เอก  โท  และตรี  ตกลงเข้าหุ้นส่วนกันโดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน  เอกลงหุ้นด้วยเงินจำนวน  5  แสนบาท  โทลงหุ้นด้วยแรงงานตีราคาค่าแรง  3  แสนบาท  ส่วนตรีได้กู้ยืมเงินจากจัตวามา  1  ล้านบาท  และได้นำมาลงหุ้นในห้างหุ้นส่วนนี้  5  แสนบาท

ห้างหุ้นส่วนได้จดทะเบียนเรียบร้อยแล้วมีโทเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ห้างฯมีวัตถุประสงค์ตั้งโรงสีข้าว  รับจ้างสีข้าว  ขายข้าวเปลือก  ข้าวสารและรับจำนำข้าว  ระหว่างที่ดำเนินกิจการ  โทได้เช่าที่ดินของแดงเพื่อทำโกดังเก็บข้าว  ต่อมามีขาวมาขอเข้าหุ้นด้วยอีกคนหนึ่งโดยเอก  โท  และตรีไม่ขัดข้อง  ขาวได้นำเงินมาลงหุ้น  5  แสนบาท  แต่โทยังไม่ได้ไปจดทะเบียนเพิ่มชื่อขาวว่าเป็นหุ้นส่วน

หนี้เงินกู้ที่ตรียืมมาจากจัตวาก็ถึงกำหนดชำระ  แต่ตรีไม่มีเงินชำระหนี้  และแดงได้ทวงค่าเช่าที่ดินที่ห้างหุ้นส่วนค้างชำระ  แต่ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลไม่มีเงินชำระหนี้  ดังนี้จัตวาและแดง  จะเรียกให้เอก  โท  ตรี  และขาว  ร่วมกันชำระหนี้ได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1050  การใดๆอันผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งได้จัดทำไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนย่อมมีความผูกพันในการนั้นๆด้วย  และจะต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้  อันได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะจัดการไปเช่นนั้น

มาตรา  1052  บุคคลผู้ข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนย่อมต้องรับผิดในหนี้ใดๆ  ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนด้วย

วินิจฉัย

 1       กรณีจัตวาเป็นเจ้าหนี้  ที่ตรีกู้ยืมเงินมา  1  ล้านบาท  แล้วนำมาลงหุ้น  5  แสนบาท  เป็นหนี้ที่ตรีก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ของตรีโดยเฉพาะ  มิใช่หนี้ที่เกี่ยวกับการจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ตามมาตรา  1050  ห้างฯ  ไม่ต้องรับผิดจัตวาจึงจะเรียกให้  เอก  โท  และขาวรับผิดไม่ได้  จัตวาจะต้องเรียกร้องเอาจากตรีแต่เพียงผู้เดียว

 2       กรณีแดงเป็นเจ้าหนี้  การที่โทเช่าที่ดินเพื่อทำโกดังเก็บข้าว  เป็นเรื่องธรรมดาของกิจการโรงสีข้าว  ซึ่งต้องมีสถานที่เก็บข้าว  หนี้ค่าเช่าโกดัง  หุ้นส่วนทุกคนจึงต้องรับผิดร่วมกันตามมาตรา  1050  ขาวแม้จะมาเข้าหุ้นทีหลังก็ต้องรับผิดในหนี้สินของห้างฯ  ที่เกิดขึ้นก่อนตนเข้ามาเป็นหุ้นส่วน  แม้ยังไม่ได้ไปจดทะเบียนเพิ่มชื่อขาวก็ถือว่าขาวได้เป็นหุ้นส่วนแล้ว  เพราะได้มีการตกลงเข้าหุ้นส่วนกัน  และได้นำเงินมาลงหุ้นแล้วจำนวน  5  แสนบาท  การเป็นหุ้นส่วนของขาวถือว่าสมบูรณ์แล้ว  จึงต้องรับผิดในหนี้ของห้างฯ  ค่าเช่าโกดังด้วยตามมาตรา  1052

 

ข้อ  2  อาทิตย์  จันทร์  และอังคาร  ตกลงเข้าหุ้นกัน  โดยตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  มีอาทิตย์และจันทร์เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ส่วนอังคารเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  ทั้งหมดรับว่าจะลงหุ้นกันคนละ  1  ล้านบาท  แต่ขณะนี้ได้ส่งเงินลงหุ้นมาแล้วคนละ  5  แสนบาท  ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้มีวัตถุประสงค์ค้าขายวัสดุก่อสร้าง  อาทิตย์เห็นว่า  อังคารมีภาระงานหนักมาก  อาทิตย์จึงได้แนะนำให้จ้างพุธมาเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด  อังคารเห็นดีด้วยและอังคารได้ว่าจ้างพุธมาเป็นผู้จัดการห้างฯ  โดยมีหน้าที่จัดการงานของห้างฯ  และลงนามในสัญญาต่างๆ  แทนอังคารได้ทุกเรื่อง  ต่อมาพุธได้ลงนามสั่งซื้อเหล็กจากบริษัท  เหล็กเส้นไทย  จำกัด  มาขายในกิจการของห้างฯ  เป็นหนี้ค่าเหล็กอยู่  4  แสนบาท  และห้างฯ  ไม่มีเงินชำระหนี้  บริษัทเหล็กเส้นไทย  จำกัด  จึงเรียกให้อาทิตย์รับผิดร่วมกับนายอังคาร  เพราะถือว่าอาทิตย์มีส่วนร่วมในการตั้งผู้จัดการห้างฯ  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่าอาทิตย์ต้องรับผิดในหนี้ค่าเหล็กหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1088  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดผู้ใดสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วน  ท่านว่าผู้นั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างหุ้นส่วนนั้นโดยไม่จำกัดจำนวน

แต่การออกความเห็นและแนะนำก็ดี  ออกเสียงเป็นคะแนนนับในการตั้งและถอดถอนผู้จัดการ  ตามกรณีที่มีบังคับไว้ในสัญญาหุ้นส่วนนั้นก็ดี  ท่านหานับว่าเป็นการสอดเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการงานของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่

วินิจฉัย

การให้คำแนะนำของนายอาทิตย์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดที่ให้อังคารจ้างพุธมาเป็นผู้จัดการเป็นการออกความเห็นและแนะนำ  จึงไม่เป็นการสอดเข้าจัดการ  อีกทั้งไม่ใช่เป็นเรื่องออกเสียงเป็นคะแนนนับในการตั้งหรือถอนถอนผู้จัดการจึงไม่เป็นการสอดเข้าจัดการตามมาตรา  1088  วรรคสอง  นายอาทิตย์จึงไม่ต้องรับผิดในหนี้ค่าเหล็กที่นายพุธสั่งซื้อมา

สรุป  นายอาทิตย์ไม่ต้องรับผิดในหนี้ค่าเหล็ก

 

ข้อ  3  คณะกรรมการบริษัทจำกัดแห่งหนึ่งได้นัดประชุมใหญ่วิสามัญ  เพื่อเลือกกรรมการบริษัทแทนนางสาวมาลี  ซึ่งลาออกจากตำแหน่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นเสียงข้างมากได้ลงมติเลือกนายสมชาย  ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นกรรมการแทน  ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายสมชายได้มอบฉันทะให้นายสมเดชมาเข้าประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งนี้  และนายสมเดชได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกนายสมชายเป็นกรรมการด้วย นายสมหวังซึ่งแพ้มติมิได้รับเลือกให้เป็นกรรมการบริษัท  มีความเห็นว่า  นายสมชายมีส่วนได้เสียเป็นพิเศษ  จึงไม่มีสิทธิลงคะแนน  หรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นลงคะแนน  การลงคะแนนเลือกกรรมการครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่าความเห็นของนายสมหวังชอบด้วยหลักกฎหมายหรือไม่ 

ธงคำตอบ

มาตรา  1185  ผู้ถือหุ้นคนใดมีส่วนได้เสียเป็นพิเศษในข้ออันใดซึ่งที่ประชุมจะลงมติ  ท่านห้ามมิให้ผ็ถือหุ้นคนนั้นออกเสียงลงคะแนนด้วยในข้อนั้น

วินิจฉัย

การเลือกกรมการนั้นผู้ถือหุ้นมีสิทธิลงคะแนนเลือกตัวเองเป็นกรรมการบริษัทได้ไม่ถือว่าผู้ถือหุ้นคนนั้นมีส่วนได้เสียเป็นพิเศษ  เพราะการเป็นกรรมการก็เพื่อเข้าไปทำหน้าที่จัดการงานของบริษัทตามข้อบังคับของบริษัท  ถึงแม้จะมีส่วนได้เสียในการลงคะแนนให้ตัวเอง  แต่ก็เป็นเพียงส่วนได้เสียธรรมดา  มิใช่เป็นการมีส่วนได้เสียเป็นพิเศษตามบทบัญญัติมาตรา  1185

สรุป  ความเห็นของนายสมหวังไม่ชอบด้วยหลักกฎหมาย

LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน S/2549

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 3002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วน

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  นายโชค  นายทวี  และนายทรัพย์  ได้เข้าหุ้นกันตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน  ชื่อห้างหุ้นส่วนโชคทวีทรัพย์  วัตถุประสงค์ของห้างคือ  ขายรถจักรยานยนต์  โดยตกลงกันให้นายโชคเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  กิจการดำเนินมาได้ประมาณ  2  ปี  นายทรัพย์ก็ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่  11  กรกฎาคม  2548  นายโชคและนายทวีก็ยังคงดำเนินกิจการค้าต่อไปโดยใช้ชื่อเดิม  ต่อมานายโชคได้สั่งซื้อรถจักรยานยนต์จากบริษัท  สยามยานยนต์  จำกัด  มาจำหน่ายเป็นหนี้ค่ารถจักรยานยนต์  จำนวนเงิน  500,000  บาท  เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ  นายโชคและนายทวีไม่มีเงินชำระหนี้  ดังนี้  หากบริษัท  สยามยานยนต์เห็นว่า  ห้างหุ้นส่วนฯ  ยังใช้ชื่อนายทรัพย์เป็นชื่อห้างอยู่จึงฟ้องกองมรดกของนายทรัพย์ให้รับผิดชอบ  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่ากองมรดกของนายทรัพย์ต้องรับผิดชอบในหนี้ดังกล่าวหรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1054  วรรคสอง  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดตายไปแล้ว  และห้างหุ้นส่วนนั้นยังคงค้าต่อไปในชื่อเดิมของห้าง  ท่านว่าเหตุเพียงที่คงใช้ชื่อเดิมนั้นก็ดี  หรือใช้ชื่อของหุ้นส่วนผู้ตายควบอยู่ด้วยก็ดีหาทำให้ความรับผิดมีแก่กองทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อหนี้ใดๆ  อันห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นภายหลังมรณะนั้นไม่

วินิจฉัย

กองมรดกของนายทรัพย์ไม่ต้องรับผิดชอบ  แม้ว่าห้างหุ้นส่วนฯ  ยังใช้ชื่อนายทรัพย์เป็นชื่อห้างอยู่  เพราะเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากที่นายทรัพย์ได้ถึงแก่กรรมแล้ว  ตามมาตรา  1054  วรรคสอง

 

ข้อ  2  ห้างหุ้นส่วนจำกัด  เชิดชัยบริการ  มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการรับขนส่งและคนโดยสาร  มีนายเชิดเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด  และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  นายชัยเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  ห้างหุ้นส่วนจำกัดนี้ได้จดทะเบียนถูกต้องเรียบร้อยแล้วระหว่างดำเนินกิจการ  นายเชิดได้สั่งซื้อรถยนต์บรรทุกมาใช้ในกิจการงานของห้างฯ  จากบริษัท  ตรีทอง  จำกัด  และยังมิได้ชำระราคา  ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดผิดนัดชำระหนี้  ส่วนนายชัยต้องการประกอบกิจการขนส่งสินค้าและคนโดยสารเช่นเดียวกับกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด  แต่นายเชิดไม่ยอมให้ทำ  เพราะเห็นว่าเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนฯ  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่า

 1       นายชัยจะประกอบกิจการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนจำกัดได้หรือไม่

2       เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดยังมิได้เลิกกัน  เจ้าหนี้ของห้างฯ  จะฟ้องนายชัยให้รับผิดในหนี้สินของห้างฯ  ได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1082  ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดคนใดยินยอมโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างไซร้  ท่านว่าผู้เป็นหุ้นส่วนคนนั้นจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเสมือนดังว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดฉะนั้น

แต่ในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกันเองนั้น  ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนเช่นนั้น  ท่านให้คงบังคับตามสัญญาหุ้นส่วน

มาตรา  1090  ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดจะประกอบการค้าขายอย่างใดๆ  เพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกก็ได้ แม้ว่าการงานเช่นนั้นจะมีสภาพเป็นอย่างเดียวกันกับการค้าขายของห้างหุ้นส่วนก็ไม่ห้าม

วินิจฉัย

1       นายชัยเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด  จึงประกอบกิจการแข่งขันกับกิจการของห้างฯได้ตามมาตรา  1090

2       นายชัยต้องรับผิดเนื่องจากได้ใช้ชื่อของตนระคนเป็นชื่อห้างฯ  ตามมาตรา  1082  เจ้าหนี้ฟ้องนายชัยได้โดยไม่ต้องรอให้ห้างฯเลิก

 

ข้อ  3  นายเอกได้ทำหนังสือโอนหุ้นชนิดระบุชื่อของตนให้นายโทโดยมิได้แถลงหมายเลขหุ้น  และไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรอง  แต่นายโทก็ได้นำหนังสือโอนหุ้นไปที่บริษัทให้กรรมการแก้ไขชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเป็นชื่อนายโทเรียบร้อยแล้ว  ดังนี้  หากพบว่า  นายเอกยังค้างชำระเงินค่าหุ้นอยู่อีก  5  แสนบาท  บริษัทจำกัดจึงเรียกให้นายเอกรับผิด  แต่นายเอกได้ต่อสู้ว่าได้มีการจดแจ้งการโอนโดยใส่ชื่อผู้รับโอนในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นแล้ว  นายเอกจึงไม่ต้องรับผิดในเงินค่าหุ้นที่ค้างชำระ  ดังนี้  ให้ท่านวินิจฉัยว่า  ข้อต่อสู้ของนายเอกรับฟังได้หรือไม่

ธงคำตอบ

มาตรา  1129  อันว่าหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมของบริษัท  เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น  ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น  ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน  มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้นๆด้วยแล้ว  ท่านว่าเป็นโมฆะ  อนึ่งตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วย

การโอนเช่นนี้จะนำมาใช้แก่บริษัท  หรือบุคคลภายนอกไม่ได้  จนกว่าจะได้จดแจ้งการโอนทั้งชื่อและสำนักของผู้รับโอนนั้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้น

วินิจฉัย

การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อโดยไม่ได้แถลงหมายเลขหุ้น  และไม่มีพยานรับรองลายมือชื่อการโอนจึงเป็นโมฆะตามมาตรา  1129  วรรคสอง  หุ้นจึงยังเป็นของผู้โอนอยู่  จึงถือว่านายเอกยังเป็นเจ้าของหุ้นนั้น  แม้จะแก้ไขชื่อเป็นชื่อของนายโทแล้ว  นายโทก็ยังมิใช่เจ้าของหุ้น  บริษัทจึงเรียกเก็บเงินค่าหุ้นที่ค้างชำระจากนายเอกได้

WordPress Ads
error: Content is protected !!