MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาค 1 ปีภารศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การรายงานข่าว

คำสั่ง ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)

ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลต่อไปนี้ (เขียนเฉพาะเนื้อข่าว)     (20 คะแนน)

ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอนำเสนอรามคำแหงโพล (RU POLL) ครั้งที่ 15/2555 โดยทำการสำรวจความคิดเห็นด้านบุคลิกภาพของนายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งได้ทำการสำรวจในช่วงวันที่ 22 สิงหาคม 2555 ถึงวันที่ 3 กันยายน 2555 ทั้งในกรุงเทพฯ จำนวน 10,000 คน และต่างจังหวัด จำนวน 1,600 คนโดยผู้ตอบแบนลอบถามรวมทั้งสิ้น 11,600 คน เป็นเพศชายจำนวน 5,362 คน (46.22%) และเพศหญิงจำนวน 6,238 คน (53.78%) เป็นนักการเมืองร้อยละ 40.08 ธุรกิจเอกชน ร้อยละ 31.96 และอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐร้อยละ 15.98

ตาราง1 เรื่องที่เบื่อหน่ายนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด

ตาราง2 เรื่องที่ชื่นชมนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด

ตาราง3 เรื่องที่ต้องการให้นายกยิ่งลักษณ์แสดงความเป็นผู้นำมากที่สุด

แนวคำตอบ หน้า 91-118

เนื้อข่าว

ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือรามคำแหงโพล (RU POLL) สำรวจความคิดเห็น ด้านบุคลิกภาพของนายกยิ่งลักษณ์ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 11,600 คนในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 3 กันยายน 2555 พบว่า เรื่องที่เบื่อหน่ายนายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด ได้แก่ ความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาร้อยละ 30.73 รองลงมาคือ การขาดภาวะผู้นำร้อยละ 19.57 ส่วนเรื่องที่ชื่นชม นายกยิ่งลักษณ์มากที่สุด ได้แก่ การนิ่งเงียบไม่โต้ตอบร้อยละ 43.39 รองลงมาคือ ความอดทนร้อยละ 17.74 สำหรับเรื่องที่ต้องการให้นายกยิ่งลักษณ์แสดงความเป็นผู้นำมากที่สุด ได้แก่ บริหารงานเพื่อประโยชน์โดยรวม ของคนในชาติร้อยละ 37.71 รองลงมาคือ ควบคุมแกนนำเสื้อแดงให้เคารพกฎหมายร้อยละ 22.13

ข้อ 2. หากนักศึกษาจะต้องรายงานข่าวต่อไปนี้จะสัมภาษณ์แหลงข่าวใดเพิ่มเติมอีกบ้างในประเด็นใดบ้าง (เขียนเฉพาะประเด็นที่จะถาม ไม่ต้องเขียนรายละเอียดเนื้อหา)     

ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผอ.วิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า โครงสร้างตลาดแรงงานไทยในปัจจุบันยังคงใช้แรงงานระดับล่างและระดับกลางเป็นหลัก และสถานการณ์การใช้ แรงงานปัจจุบันค่อนข้างตึงตัว มีความต้องการแรงงานแต่หาไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีแรงงานบางส่วนตกงาน ว่างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานระดับสูง ป.ตรีขึ้นไป จากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเรามีผู้ว่างงานลดลงอย่างต่อเนือง เฉลี่ยปีละ 55,000 คน นับเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดประเทศหนึ่ง หมายความว่า ต่อให้ส่งเสริมอย่างไร เราก็ไม่มีคนกลับเข้าไปสู่ตลาดแรงงานได้เพียงพอ

เมื่อดูว่าในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงานขั้นวิกฤติ ก็ยังมีคนว่างงานปีละ 2.8 แสนคน พร้อมกับ มีความต้องการแรงงานปีละ 2.5 แสนคน ซึ่งน่าจะทดแทนกันได้ แต่เราไม่สามารถเอามาใช้งานได้ เพราะ 70% ของผู้ว่างงานไม่ยอมทำงานหรือหางานทำ เราจึงมีภาวะขาดแรงงานตึงตัว นอกจากนี้ยังต้องมาเสียวัยแรงงานส่วนหนึ่ง ที่ควรใช้ประโยชน์อยู่ในตลาดแรงงานไปกับคนที่มีปัญหา พฤติกรรมไม่เหมาะสม อยู่ในสถนพินิจหลายหมื่นคน และมีอายุไม่ถึง 30 ปีที่ถูกจำคุกอีกกว่า 1 แสนคน

ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร การเกิด น้อยลง วัยแรงงานมีน้อยลง และระบบการศึกษาปัจจุบันเป็นระบบที่กักเขาไว้ในโรงเรียนยาวนานในลักษณะยืดเวลา ว่างงานออกไป เพราะเมื่ออยู่ในโรงเรียนนานหมายถึง การเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่คือสายสามัญ แล้วไปต่ออุดมศึกษา ป.ตรี โท เอก ซึ่งตลาดแรงงานมีความต้องการน้อยกว่าสายอาชีวะหรือวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งเป็น แรงงนระดับกลางลงมา ซึ่งหากเทียบกับช่วงชีวิตการทำงาน (Lifetime Earning) ของผู้มีอายุ 24 ปีขึ้นไป ผู้จบ มัธยมปลายมีรายได้น้อยกว่าผู้จบอาชีวศึกษา

การนิยมใบปริญญา ผู้ปกครองอยากให้ลูกได้ปริญญาจึงส่งเสริมให้เรียนสายสามัญแล้วก็ไปรอตกงานในระดับ ปริญญาตรีและสูงกว่า ซึ่งทุกปีมีว่างงานปีละกว่า 1 แสนคน หากเข้าใจความต้องการแท้จริงของตลาดแรงงานก็ไม่ควร หลงใหลใบปริญญาที่ได้มาติดข้างฝาจนเกินเหตุแล้วก็กลายมาเป็นคนว่างงาน

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

แหล่งข่าวเสริมและประเด็นสัมภาษณ์เพิ่มเติมจากข่าวข้างต้น มีดังนี้

1.         ผู้ปกครอง หรือเด็กนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและกำลังจะศึกษาต่อ ควร

สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุผลที่นิยมเลือกเรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีวะ และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหากตัดสินใจ เลือกเรียนสายอาชีวะ

2.         กระทรวงศึกษาธิการ ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับนโยบายที่จะส่งเสริมให้เด็กเรียนสายอาชีวะ หรือวิขาชีพเฉพาะให้มากขึ้น และแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

3.         คณะกรรมการอาชีวศึกษา ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับความต้องการแรงงานสายอาชีพใน ปัจจุบัน และมาตรการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการเรียนสายอาชีวะ เช่น ปัญหาเด็กยกพวกตีกัน เป็นต้น

4.         กระทรวงแรงงาน ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับอัตราความต้องการแรงงานในสายต่าง ๆ หรือ แรงงานประเภทใดเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด

5.         สำนักงานสถิติแห่งชาติ ควรสัมภาษณ์เกี่ยวกับอัตราว่างงานของไทยในปัจจุบัน หรือ ผู้จบการศึกษาระดับใดมีอัตราว่างงานมากที่สุด

ข้อ 3. เหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง และข่าวอดีตนักแสดงหญิงจมน้ำตายปริศนา ได้รับการรายงาน เป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ไฟไหมีโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมี คุณค่าเชิงข่าว (News Values) 

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2.         ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก ทั้งที่เป็นพนักงานที่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันแห่งนั้น รวมทั้งประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งอาจได้รับควันพิษที่เกิดจากไฟไหม้ครั้งนี้

3.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

4.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

5.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

6.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยังมี เงื่อนงำเพราะยังไม่สามารถคลี่คลายหรือตีแผ่หาสาเหตุได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้อ่าน เกิดความฉงนสนเท่ห์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข่าวอดีตนักแสดงหญิงจมน้ำตายปริศนา ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจาก

มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น โคกเศร้า สงสาร หรือ เห็นอกเห็นใจครอบครัวของอดีตนักแสดงหญิง

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน

3.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย

4.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

5.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดวาจะเกิดขึ้น และยังมี เงื่อนงำว่าเป็นอุบติเหตุหรือการฆาตกรรม นอกจากนี้ยังทำให้ผู้อ่านสงสัยว่าเกิดขึ้นได้ อย่างไร

6.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งระหว่างญาติพี่น้อง และสามีผู้ตายเกี่ยวกับสาเหตุการตายและการแย่งชิงมรดก ทำให้มีการเผชิญหน้าและ ทะเลาะวิวาทกัน

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ

ข้อ 4. การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 1 ข่าว ระบุแหล่งข่าวและ ประเด็นข่าว       (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 184 – 186 

 การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหา 

1. การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงานสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมี การเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการ ปรับปรุงแผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น

2.         การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งขันใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งขันทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้างและ ขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และ คะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการ เตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไปเป็นต้น

ตัวอย่างข่าวไทยพ่ายสเปน 1 – 7 ตกรอบฟุตซอลโลก

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           มีการแข่งขันอะไร แข่งที่ไหน เมื่อวันที่เท่าไร และใครแพ้ ใครชนะ

–           บรรยากาศในการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์คึกคักหรือไม่ และผู้เล่นที่สำคัญ ของทั้ง 2 ทีม ประกอบด้วยใครบ้าง

–           ลำดับการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดเกมจนจบเกม ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง มีจุดโทษ และมีการต่อเวลาหรือไม่

–           ภายหลังจบเกมผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ทีมที่ผ่านเข้ารอบต้องไปเจอกับทีมใด

–           ความคิดเห็นของกุนซือทีมชาติทั้ง 2 ทีม ผู้จัดการทีม และนักเตะดาวเด่นภายหลัง จบเกม

–           การให้เงินอัดฉีด และแนวทางการพัฒนากีฬาฟุตซอลไทยในอนาคต

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ กุนซือทีมชาติทั้ง 2 ทีม ผู้จัดการทีม และนักเตะดาวเด่น ของทั้ง 2 ทีม รวมทั้งประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติไทย

ข้อ 5. คำว่า ข่าวอาชญากรรม” ครอบคลุมเนื้อหาประเภทใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 1 ข่าว ระบุประเด็น และแหล่งข่าว            (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 169 – 172

ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1.         ข่าวฆาตกรรม เช่น ลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ

2.         ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อน และคน ให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เช่น รถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึง ข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ

3.         ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ต้องระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุ จูงใจที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ แพทย์ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย

4.         ข่าวเบ็ดเตล็ด เช่น คนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย

5.         ข่าวสะท้อนสังคม เช่น คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ การวิวาท ระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว

6.         ข่าวเกี่ยวทับความผิดทางอาญา เช่น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ

ตัวอย่างข่าวนักเรียนเทคนิคดักยิงนักเรียนคู่อริบนรถเมล์

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–          เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร 

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถเมล์คันที่เกิดเหตุสายอะไร วิ่งจากไหนไปที่ไหน นักเรียนคู่อริขึ้นรถเมล์จากป้ายใด และกลุ่มนักเรียนที่ดักยิง อยู่บริเวณไหน

–           วิธีการก่ออาชญากรรม อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

–           สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น มีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตกี่คน เป็นใครบ้าง มีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงหรือไม่

–           การวางแผนติดตามจับกุม ความเห็น และข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ

–           ความเห็นและการแก้ปัญหาของผู้เกี่ยวช้อง เช่น ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ

2.         แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล คนขับรถเมล์ กระเปารถเมล์ ผู้โดยสารรถเมล์สายนั้น พยานแวดล้อมที่เห็น เหตุการณ์ ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ 

ข้อ 6. การรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ กับข่าวบัณฑิตตกงาน ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง ประกอบ       

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะ (Identification) ในข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วม ในปีนี้ กับข่าวบัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวแตกต่างกัน

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องมาตรการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ 

1.         คุณลักษณะองบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าวยศหรือตำแหน่ง และชื่อเล่น 

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์จะต้องระบุลงไปใน ข่าวด้วย หรือหากเป็นการสัมภาษณ์ระหว่างไปลงพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ก็ต้องระบุลงไปด้วยว่าพื้นที่นั้นตั้งอยู่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอะไร หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ควรระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนการสัมภาษณ์ ขณะสัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งจบการสัมภาษณ์ รัฐบาลมีแผนการป้องกันและมาตรการรองรับปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ อย่างไร ได้ดำเนินการแก้ไขอะไรไปแล้วบ้าง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวบัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ได้แก่

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของบัณฑิตที่ก่อเหตุ ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าวอายุของผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายอาชีพยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่อยู่ ของผู้ก่อเหตุ ผู้เสียหาย

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่บัณฑิตตกงานก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ซึ่งจะต้อง ระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือ สถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ควรระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีจำนวนผู้เสียหายกี่คน ทรัพย์สินที่ถูกจี้ชิงไปมีอะไรบ้าง มีการทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างไร

ข้อ 7. หัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมมีความสำคัญอย่างไร พร้อมทั้งอธิบายหลักการเขียนแต่ละส่วน พอเข้าใจ      

แนวคำตอบ หน้า 63 – 648391, (คำบรรยาย)

ความสำคัญและหลักการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว

–           หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว เป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้รู้ว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร บอกอารมณ์ของข่าว และช่วยกระตุ้นความสนใจให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องมีเสมอ เพื่อบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าวที่น่าสนใจอะไรบ้าง

หลักการเขียนหัวข่าวคือ การพิจารณาประเด็นที่สำคัญที่สุดของข่าวและเป็นสิ่งที่น่าสนใจ มากที่สุดสำหรับผู้อ่าน มาเขียนให้ได้ใจความโดยใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม แต่สื่อความหมายได้ครบถ้วนตาม ประเด็นข่าว ดังนั้นข้อความในหัวข่าวจึงต้องสั้นเพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่กระดาษอันจำกัด โดยมักใช้ตัวอักษร ตัวใหญ่และหนากว่าส่วนอื่น

–           ความนำหรือวรรคนำ (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกประเด็นสำคัญของข่าว หรือสรุปสาระสำคัญ ของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียงมองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าควรจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้โดยย่อ

หลักการเขียนความนำคือ ก่อนที่จะเขียนความนำ ควรทราบก่อนว่าตัวข่าวเป็นเรื่องอะไร โดยควรเน้นที่ตัวข่าว หรือเน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ แล้วจึงสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นโดยยึดหลัก ในสิ่งที่คนอยากรู้มากที่สุดตามเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ควรเขียนเป็นประโยคที่สั้น ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจมีความยาวเพียง 1 ย่อหน้าสั้น ๆ เท่านั้น

–           ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย

หลักการเขียนส่วนเชื่อมคือ การเขียนข้อความเชื่อมระหว่างความนำกับเนื้อข่าว เพื่อให้ ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เป็นข่าวได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่มักจะระบุชื่อบุคคลที่เป็นข่าว ชื่อสถานที่ แหล่งข่าว วัน เวลาที่เกิดเหตุการณ์ หรือการเท้าความโดยย่อจากเรื่องที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

ข้อ 8. สมมุติพบเด็กนักเรียนหลายสิบคนในโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพๆ มีอาการท้องเสียและอาเจียน อย่างหนักต้องนำส่งโรงพยาบาล ในจำนวนผู้ป่วยนั้นมีบุตรของรัฐมนรีคนหนึ่งอยู่ด้วย ถ้านักศึกษา เป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงานประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบ การรายงานข่าวให้สมบูรณ์   

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เวลาใด อย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น ก่อนเกิดเหตุนักเรียนรับประทานอาหารอะไรเข้าไป หลังจากนั้นนักเรียนเริ่มมีอาการป่วย ตอนไหน เด็กนักเรียนที่ป่วยและเป็นบุตรของรัฐมนตรีชื่ออะไร เป็นบุตรของรัฐมนตรีคนใด และโรงเรียนดูแลรักษาพยาบาลเด็กที่ป่วยอย่างไร

–           อาการของเด็กที่ป่วย การรักษาพยาบาลเบื้องต้น และการนำเด็กส่งโรงพยาบาลของโรงเรียน

–           การรักษาของแพทย์ การวินิจฉัยถึงสาเหตุของโรค และการเก็บตัวอย่างอาหารในโรงเรียนไปตรวจสอบ

–           การสอบถามเหตุการณ์จากครูที่นำนักเรียนส่งโรงพยาบาล และเด็กนักเรียนที่ป่วยแต่ พอที่จะให้สัมภาษณ์ได้

–           ความคิดเห็นของรัฐมนตรีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอาการของบุตรที่ป่วย รวมถึง ความคิดเห็นของผู้ปกครองคนอื่น ๆ

–           คำสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการโรงเรียนเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้ง ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

–           ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติของโรงเรียนที่เกิดเหตุ เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว หรือไม่

แหล่งข่าวที่ควรไปสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว มีดังนี้

–           ครูในโรงเรียนที่รู้เห็นเหตุการณ์

–           ผู้อำนวยการโรงเรียน

–           เด็กนักเรียนที่ป่วย

–           โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล

–           มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือนำเด็กส่งโรงพยาบาล

–           รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่ป่วย

–           ผู้ปกครองของนักเรียนที่ป่วยคนอื่น ๆ

 

MCS 2201 (MCS2260) การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 (MC 221) การรายงานข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 7 ข้อ ให้นักศึกษาทำข้อสอบทุกข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน

ข้อ 1. จงอธิบายความหมายของข่าวตามหลักการที่ศึกษามา พร้อมยกตัวอย่างข่าวที่มีลักษณะสอดคล้องกับ ความหมายดังกล่าวประกอบการอธิบายอย่างน้อย 3 ตัวอย่าง โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว 

แนวคำตอบ หน้า 1 – 2, (คำบรรยาย)

นิยามหรือความหมายของข่าวตามหลักการที่ได้ศึกษามา 

1.         ข่าว หมายถึง เรื่องคนกัดหมา หรือเรื่องที่แปลกไปจากสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวการจัดไปทัวร์ท่องเที่ยวนอกโลก

–           ข่าวการจัดพิธีสมรสหมู่กบ เขียด อึ่งอ่าง ที่ จ.มหาสารคาม

–           ข่าวหญิงคนหนึ่งคลอดทารกแฝด 6 คน

2.         ข่าว หมายถึง เรื่องที่ผู้อ่านไม่เคยรู้มาก่อน ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร

–           ข่าวการเกิดสึนามิที่ภาคใต้ของไทย

–           ข่าวประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

3.         ข่าว หมายถึง เรื่องอะไรอย่างหนึ่งที่ประชาชนต้องพูดถึง ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวเรื่องเตียงหัก รักร้าว หรือคลิปฉาวของดารานักร้อง

–           ข่าวอดีตพระเณรคำร่ำรวยอย่างผิดปกติ

–           ข่าวนักแบดมินตันไทยชกต่อยกันเองระหว่างการแข่งขันระดับโลก

4.         ข่าว หมายถึง รายงานอันสุจริตและสมบูรณ์ของเหตุการณ์ที่เป็นผลประโยชน์และ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณชน โดยมีการรายงานทางสื่อมวลชนและต้องเป็นรายงานที่สมบูรณ์ทุกแง่มุมจากทุกความคิดเห็นของคนที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวรัฐบาลปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม (LPG)

–           ข่าวรัฐบาลปรับขึ้นเงินเดือนผู้จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท

–           ข่าวรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท

5.         ข่าว หมายถึง การแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นในอันจะทำให้บุคคลได้รับความตื่นเต้น หรือเกิด อารมณ์ความรู้สึก ตัวอย่างเช่น

–           ข่าวนักมวยไทยได้รับเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก

–           ข่าวเยาวชนไทยคว้าเหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิก

–           ข่าวตะกร้อทีมชาติไทยชนะมาเลเซียในกีฬาซีเกมส์

ข้อ 2. คำว่า ข่าวอาชญากรรม” กับ ข่าวบันเทิง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างประเด็น หรือหัวข้อข่าวประกอบการอธิบาย โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 169 – 170188 – 189

ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา 

1.         ข่าวฆาตกรรม เช่น ข่าวการลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ

2.         ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อน และ คนให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ข่าวรถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ

3.         ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ตองระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุ จูงใจที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ หมอ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย เช่น ข่าวการทำอัตวินิบาตกรรม

4.         ข่าวเบ็ดเตล็ด เช่น ข่าวคนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

5.         ข่าวสะท้อนสังคม เช่น คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ การวิวาทระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว

6.         ข่าวเกี่ยวกับความผิดทางอาญา เช่น ข่าวความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ

ตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวอาชญากรรม

ปล้นร้านทองกลางห้างดัง กวาดทองหนัก 100 บาท หนีลอยนวล

ข่าวบันเทิงครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา ดังนี้

1.         ข่าวบันเทิงภายในประเทศ เป็นข่าวมาจากแหล่งข่าวภายใบประเทศ เข่น ข่าวภาพยนตร์ไทยเรื่องใหม่ ความคืบหน้าของการถ่ายทำละคร งานประกวดผลรางวัลของสมาคมต่าง ๆ ในแวดวงบันเทิง งานแต่งงานของดารานักร้อง การใช้ชีวิตคู่ การจัดงานนิทรรศการ งานศิลปะ ข่าวเกี่ยวกับบุคคลเด่นในสังคม ข่าวศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรมที่ได้รับรางวัล การแสดงคอนเสิร์ต มหกรรมดนตรี แฟชั่น ละครเวที และรายการโชว์พิเศษต่าง ๆ ฯลฯ

2.         ข่าวบันเทิงต่างประเทศ เป็นข่าวมาจากแหล่งข่าวต่างประเทศ เช่น ข่าวความเคลื่อนไหว ของดารานักร้องและนักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูดในภาพยนตร์ต่าง ๆ งานประกาศรางวัลออสการ์ งาบประกวด ผลรางวัลแกรมมี่อวอร์ด การจัดงานคอนเสิร์ต แฟชั่น นิทรรศการต่าง ๆ ละครเวที การแนะนำภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่องใหม่ ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดแต่ละสัปดาห์ ฯลฯ

ตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวบันเทิง

พ่อนักแสดงวัยรุ่นวัย 16 ยอมรับลูกสาวหนีเที่ยวตามคลิปจริง

ข้อ 3. กรณีชุดปฏิบัติการพิเศษวิสามัญนักโทษที่ฆ่าผู้คุมหลังจับผู้คุมเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนีจากคุก เรื่องนี้ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใดบ้าง (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

2.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

3.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

4.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของเรือนจำที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสถานที่ราชการที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

5.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรืองที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทำให้ ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และยังเป็นเหตุการณ์ที่มีเงื่อนงำ เพราะยังไม่สามรถ ตีแผ่หาสาเหตุถึงวิธีการที่นักโทษแหกคุกมาจับผู้คุมเป็นตัวประกันได้

6.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งทางกาย ทำให้เกิด การเผชิญหน้าต่อสู้ปะทะกัน จนถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย

7.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ 

ข้อ 4. หากนักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นักศึกษาจะรายงานเนื้อหาด้านใด ยกตัวอย่าง 1 ข่าว ระบุประเด็นข่าว แหล่งข่าว พร้อมระบุว่าจะสัมภาษณ์หรือหาข้อมูลจากแหล่งข่าวนั้น ๆ ในประเด็นใด    

แนวคำตอบ หน้า 157 – 162, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ควรรายงานเนื้อหา ด้านผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 

ตัวอย่างข่าวสุขุมพันธุ์คว้า 1.2 ล้านเสียง เป็นผู้ว่าฯ กทม. อีกสมัย

1 ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว 

–           เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เวลาใด และผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

–           ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนการนับคะแนน ระหว่างการนับคะแนน และหลังจากนับคะแนนเสร็จ เช่น บรรยากาศการนับคะแนนของเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยการเลือกตั้งเป็นอย่างไร มีบัตรเสียมากน้อยแค่ไหน การทำงานมี ความโปร่งใสหรือไม่ ฯลฯ

–           หน่วยการเลือกตั้งมีกี่หน่วย จากทั้งหมดจำนวนกี่เขตการเลือกตั้ง

–           จำนวนผู้มาใช้สิทธิมีกี่คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดเท่าไร และคิดเป็น กี่เปอร์เซ็นต์

–           ผลการเลือกตั้งของผู้ที่มีคะแนนอันดับที่ 1 จนถึงอันดับสุดท้าย

–           ความรู้สึก ความคิดเห็น และการขอบคุณประชาชนของผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่สังกัด

–           ความรู้สึก ความคิดเห็น และการแสดงความยินดีต่อผู้ชนะของผู้ที่แพ้การเลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่สังกัด

–           การรับรองผลการเลือกตั้งและการตรวจสอบการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ขององค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น กกต.

2.         แหล่งข่าวและประเด็นที่จะสัมภาษณ์ ได้แก่

–           ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร สัมภาษณ์ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. อย่างไม่เป็นทางการ จำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งหมด

–           เขตการเลือกตั้งแต่ละเขต สัมภาษณ์ผลการนับคะแนนในเขตนั้น ๆ การทุจริต การเลือกตั้ง และผู้มาใช้สิทธิที่ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง

–           ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และพรรคประชาธิปัตย์ สัมภาษณ์ความรู้สึกที่ชนะ การเลือกตั้ง การทำงานร่วมกับรัฐบาล และสิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้

–           พ.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย สัมภาษณ์ความรู้สึก ที่พ่ายแพ้ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ และสิ่งที่จะทำต่อไปหลังจากนี้

–           คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สัมภาษณ์ขั้นตอนการรับรองผลการเลือกตั้ง และการตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง

ข้อ 5. คุณลักษณะ (Identification) หมายถึงอะไร ในการรายงานข่าวประชุมคณะรัฐมนตรี กับข่าวคนร้าย ก่อคดีข่มขืน ต้องกล่าวถึงคุณลักษณะอะไรบ้าง ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว   

แนวคำตอบ หน้า 118 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะ (Identification) หมายถึง ตัวตน ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณสมบัติของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ รวมทั้งบุคคลและสถานที่ที่มาเกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการขยายความเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบว่าเป็นอะไร โดยมีความสำคัญ ความพิเศษ หรือ มีความผิดปกติอย่างไร เพื่อช่วยให้ข่าวนั้นมีสีสันและเพิ่มความน่าอ่านยิ่งขึ้น

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวประชุมคณะรัฐมนตรี

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ เข้าร่วมประชุม รวมทั้งยศหรือตำแหน่งหน้าที่การงาน

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะต้องระบุลงไปในข่าวด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าหากเป็นการประชุมนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ก็ต้องระบุลงไปด้วยว่า สถานที่นั้นตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดอะไร หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้อง ระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ความเป็นมา วัตถุประสงค์ หรือหัวข้อในการประชุม จากนั้นลำดับเหตุการณ์การประชุมตั้งแต่ก่อนประชุม บรรยากาศเป็นอย่างไร มีผู้เข้าร่วมประชุมครบหรือไม่ การประชุมดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และข้อสรุปที่เกิดขึ้นหลังจากการประชุมจบลง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวคนร้ายก่อคดีข่มขืน ได้แก่

1.         คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของคนร้ายที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าว และนามสมมติของผู้เสียหายอายุของผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายอาชีพยศหรือตำแหน่งของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่อยู่ของผู้ก่อเหตุ

2.         คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่คนร้ายก่อเหตุ ซึ่งจะต้องระบุคุณลักษณะโดย การบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียง ก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อคดีข่มขืนตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว ผู้เสียหายโดนทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างไร จับคนร้ายได้ หรือไม่

ข้อ 6. การรายงานข่าวกีฬาสามารถนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรได้บ้าง และควรใช้ลีลาการเขียน (Style) อย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง 1 ข่าว โดยกำหนดประเด็นข่าว และแหล่งข่าว พร้อมระบุว่าจะสัมภาษณ์ หรือหาข้อมูลจากแหล่งข่าวนั้น ๆ ในประเด็นใด   (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 106 – 115184 – 186, (คำบรรยาย)

ารรายงานข่าวกีฬาสามารถนำเสนอเนื้อหาได้ 

1.         การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงนสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมี การเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการปรับปรุง แผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น

2.         การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งขันใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งขันทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้าง และขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และคะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น

ลีลาการเขียน (Style) ในการรายงานข่าวกีฬา

การรายงานข่าวกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับ ข้อมูลที่ได้รับมา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้

1.         การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป (Fact Story) มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับซ้อน อาจมีตัวเลข สถิติ หรือเป็นข่าวสั้น ข่าวประกอบภาพก็ได้

2.         การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว (Action Story) เป็นการรายงานเหตุการณ์ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ ความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เขียนข่าว ต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง และได้รับ ความตื่นเต้น ดีใจ สลดใจไปกับบุคคลในข่าว ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหวและพัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว

3.         การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย (Quote Story) เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริง ที่ได้มาจากคำพูด การแสดงความคิดเห็น การแถลงข่าว การให้ส้มภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้ง ประกาศ หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน โดยจะคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น แบ่งออก เป็น 2 ลักษณะ ได้แก่

1)         การยกคำพูดมาโดยตรง (Direct Quote) โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือมี เลขในกำกับ ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อให้ผู้อ่านทราบว่า เป็นคำพูดของใคร

2)         การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง และมีเครื่องหมาย คำพูดกำกับ (Indirect Quote) แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้ โดยไม่มีการแต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น และระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างข่าวหงส์แดงชนะไทย 3-0 ฟุตบอลนัดพิเศษที่ กกท

1.         ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่

–           มีการแข่งขันอะไร แข่งที่ไหน เมื่อวันที่เท่าไร และใครแพ้ใครชนะ

–           บรรยากาศในการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์คึกคักหรือไม่ และผู้เล่น ที่สำคัญของทั้ง 2 ทีม ประกอบด้วยใครบ้าง

–           ลำดับการแข่งขันที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดเกมจนจบเกม ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง มีจุดโทษ และมีการต่อเวลาหรือไม่

–           ภายหลังจบเกมผลการแข่งขันเป็นอย่างไร และแต่ละทีมมีโปรแกรมต้องแข่งกับ ทีมใดต่อไป

–           ความคิดเห็นของผู้จัดการทีมทั้ง 2 ทีม โค้ช และนักเตะดาวเด่นภายหลังจบเกม

–           ข้อมูลเสริม เช่น สถิติที่ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาก่อน ทีมใดแพ้-ชนะรวมทั้งหมด กี่ครั้ง

2.         แหล่งข่าวและประเด็นที่จะสัมภาษณ์ ได้แก่

–           ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล สัมภาษณ์ความคิดเห็นภายหลังชนะทีมชาติไทย ชุดเตรียมซีเกมส์ ความพึงพอใจกับชัยชนะครั้งนี้ และโปรแกรมการฝึกซ้อม หรือการแข่งขันนัดต่อไป

–           ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ทำให้ทีมแพ้ ข้อผิดพลาดหรือเรื่องที่ต้องปรับปรุง และการเตรียมตัวกับการแข่งขันนัดต่อไป

–           นักเตะดาวเด่นของทั้ง 2 ทีม สัมภาษณ์ความรู้สึกภายหลังจบเกม ความพอใจ หรือไม่พอใจในภาพรวมของเกม

–           บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือดารานักแสดงที่มาร่วมชมการแข่งขัน สัมภาษณ์ความรู้สึก

–           และความประทับใจที่ได้มาชมการแข่งขันนัดนี้ ความชื่นชอบในตัวผู้เล่น และ ความคิดเห็นต่อผลการแข่งขัน

ข้อ 7. จากข้อมูลโครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ (Devcom R.u. Open House Season 2) ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต” ให้เขียนเนื้อข่าว    

และเขียนหัวข่าว      

โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ Devcom R.u. Open House Season 2 ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต 

หลักการและเหตุผล

หลักสูตรสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการเน้นศึกษาแนวคิดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ การกำหนดนโยบายใช้การสื่อสารเพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาสังคมเมืองและชนบท ศึกษาหลักการ วางแผน การดำเนินการ และการประเมินผลการสื่อสาร โดยมีรายวิชา DEV 7302 การสัมมนา ประยุกต์การสื่อสาร ซึ่งศึกษาวิเคราะห์ประเด็นปัญหาและสถานการณ์การสื่อสารในมิติต่าง ๆ ของสังคม เช่น การสื่อสารด้านการเมือง การสื่อสารด้านสิ่งแวดล้อม การสื่อสารด้านการศึกษา เป็นต้น

จากผลการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันประการหนึ่ง คือ การที่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครมีพฤติกรรมการละเมิดลิขสิทธิ์ในเรื่องเกี่ยวกับ การดาวน์โหลดเพลงบนอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ การดาวน์โหลดภาพ/ ภาพถ่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน และการคัดลอกข้อความ งานวิจัย และวิทยานิพนธ์ บนอินเทอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์โดยไม่ต้องอ้างอิงแหล่งที่มา

เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกัน/แก้ไขปัญหาสังคม และขับเคลื่อนกระบวนการป้องปราม ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต และเพื่อให้นักศึกษาของโครงการๆ มีประสบการณ์ เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาแนวทางการตัดสินใจในการบริหารจัดการ โดยนำทฤษฎีและหลักการที่ได้ จากการศึกษารายวิชาต่าง ๆ ในหลักสูตรมาประยุกต์ใช้ รวมทั้งเป็นการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร ผ่านการจัดสัมมนาในหัวข้อเรื่อง โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ Devcom R.u. Open House Season 2 ตอน วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

วัตถุประสงค์ของโครงการ

1.         เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิขาการสื่อสารพัฒนาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้เป็นที่รู้จักในสังคม

2.         เพื่อนำเสนอผลงานทางวิชาการของนักศึกษาสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการสู่สังคม อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการศึกษา

3.         เพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต แก่กลุ่มเป้าหมาย

4.         เพื่อปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และรับรู้แนวคิดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

กำหนดการ

โครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ

(DEVCOM R.U. OPEN HOUSE SEASON 2)

วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

วันที่ 9 เมษายน 2556 ณ. ห้องประชุมพวงแสด คณะมนุษยศาสตร์

เวลา 08.30 – 09.00 น.            ลงทะเบียน

เวลา 09.30 – 09.45 น.            พิธีเปิด (บริเวณลานปสาน)

เวลา 10.00 – 12.00 น.            เสวนา เรื่อง สมรภูมิลิขสิทธิ์กับความคิดที่แตกต่าง

โดย คุณสุทธิพงษ์ วัฒนจัง

ศิลปินอิสระ ผู้ประพันธ์เพลง นักแสดง

            – คุณศศกร วัฒนาสุทธิวงศ์

ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรณาธิการสำนักพิมพ์แจ่มใส

            – อาจารย์สุวรรณา สมบัติรักษาสุข นักวิชาการด้านกฎหมายสื่อมวลชน

ดำเนินรายการ โดย

คุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ ผู้ประกาศข่าว

เวลา 12.00 – 13.00 น.            พัก

เวลา 13.00 – 16.00 น.            การนำเสนอผลงานสื่อสาระบันเทิง (Edutainment)

(หนังสั้น ละคร หนังสือการ์ตูน นิทรรศการมีชีวิต)

หัวข้อ วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต

ผลงานของนักศึกษาสาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ รุ่นที่ 7 และการวิพากษ์ผลงาน โดย รศ.ถิรนันท์ อนวัชศิริวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รศ.วาริศา พลายบัว คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

แนวคำตอบ หน้า 32 – 3791 – 118

หัวข่าว

ม.ร. เปิดบ้านถกปัญหาวัยรุ่นละเมิดลิขสิทธิ์ในโลกออนไลน์

เนื้อข่าว

โครงการศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดโครงการเปิดบ้านการสื่อสารพัฒนาการ (Devcom R.u. Open House Season 2) ตอน วัยรุ่นกับการ ละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต’’ ในวันที่ 9 เมษายน 2556 ณ ห้องประชุมพวงแสด คณะมนุษยศาสตร์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ตรวมทั้งปลูกจิตสำนึกและกระตุ้น ให้เกิดการมีส่วนร่วมในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและรับรู้แนวคิดที่ถูกต้องตามกฎหมาย

กิจกรรมในงานที่น่าสนใจ ได้แก่ การเสวนาเรื่อง สมรภูมิลิขสิทธิ์กับความคิดที่แตกต่าง” โดยมีนายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง ศิลปินอิสระ ผู้ประพันธ์เพลง นักแสดง เป็นวิทยากร ร่วมด้วยบรรณาธิการ สำนักพิมพ์แจ่มใส นักวิชาการด้านกฎหมายสื่อมวลชน และดำเนินรายการโดย นางคิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ ผู้ประกาศข่าว นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอผลงานสื่อสาระบันเทิงในหัวข้อ วัยรุ่นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ผลงานบนอินเทอร์เน็ต” ของนักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาการสื่อสารพัฒนาการ รุ่นที่ 7 เช่น หนังสั้น ละคร หนังสือการ์ตูน นิทรรศการ-มีชีวิต ฯลฯ และการวิพากษ์ผลงานโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ

 

MCS 2201 (MCS2260) การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 (MCS 2260) การรายงานข่าว

คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำข้อสอบทุกข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน

ข้อ 1. ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวการชุมนุมประท้วงรัฐบาล จะรายงาน เหตุการณ์นี้ในแง่มุมหรือประเด็นใดได้บ้าง ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว  

แนวคำตอบ (คำบรรยาย)

แง่มุมหรือประเด็นที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว 

–           มีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ไหน วันที่-เวลาใด

–           การชุมนุมประท้วงรัฐบาลครั้งนี้มีสาเหตุมาจากอะไร ผู้ชุมนุมเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล

–           ใครเป็นแกนนำ และมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณกี่คน

–           มีการตั้งเวทีการชุมนุมที่ไหน และแกนนำปราศรัยว่าอย่างไรบ้าง

–           หากมีการยกระดับการชุมนุม โดยการเคลื่อนไหวไปปิดการจราจร หรือปิดสถานที่ต่าง ๆ ให้ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

–           ฝ่ายรัฐบาลมีความเคลื่อนไหว หรือมีมาตรการอย่างไรต่อการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ มีการ ส่งใครมาเป็นตัวแทนเจรจาหรือไม่

–           มีเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมหรือไม่ ตำรวจใช้อาวุธในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไร และผู้ชุมนุมตอบโต้ตำรวจด้วยวิธีการใด

–           ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมประท้วงครั้งนี้มีหรือไม่ จำนวนเท่าใด ความเสียหาย ต่อทรัพย์สินต่าง ๆ และผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป

–           เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงรัฐบาลครั้งนี้จบลงอย่างไร หรือมีบทสรุปอย่างไร

ข้อ 2. สมมุตินักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้รายงานข่าวนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.รามคำแหง ชนะเลิศการประกวดร้องเพลง เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์

2.1       มีประเด็นข่าวอะไรบ้างที่ควรรายงาน 

2.2       จะหาข้อมูลได้จากแหล่งข่าวใด แต่ละแหล่งข่าวให้ข้อมูลได้ในประเด็นใด    

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17189, (คำบรรยาย)

2.1 ประเด็นข่าวที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว มีดังนี้

–           มีการแข่งขันร้องเพลงรายการอะไร แข่งที่ไหน วันที่-เวลาที่แข่ง

–           บรรยากาศก่อนการแข่งขันเป็นอย่างไร มีผู้ชมมาเชียร์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนคึกคักเพียงใด 

–         กติกาการแข่งขันในรอบสุดท้ายเป็นอย่างไร ผู้ชนะจะได้รับรางวัลอะไร

–           ผู้เข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายประกอบด้วยใครบ้าง แต่ละคนมีใครเป็นโค้ช และต้องร้องเพลงอะไรในการแข่งขันรอบนี้

–           ลำดับการแข่งขันร้องเพลงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ใครเป็นผู้ชนะ

–           บรรยากาศหลังการแข่งขันจบลง ความรู้สึกของผู้ชนะ ความคิดเห็นของโค้ช และการแสดง ความยินดีของกองเชียร์

–           ประวัติของผู้ชนะ กำลังศึกษาอยู่ที่ไหน หรือเคยประกวดร้องเพลงได้รับรางวัลอะไร มาบ้าง

2.2       แหล่งข่าวและประเด็นที่จะให้ข้อมูลในข่าวดังกล่าว ได้แก่

–           ผู้จัดรายการเดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกติกาการแข่งขัน และรางวัล ที่ผู้ชนะจะได้รับ

–           กรรมการหรือโค้ชที่ผู้ชนะเป็นลูกทีม ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่ลูกทีมของตน ได้รับชัยชนะ รวมทั้งความคิดเห็นชองโค้ชคนอื่น ๆ

–           ตัวผู้ชนะการแข่งขัน/พ่อแม่พี่น้อง ซึ่งจะให้ข้อมูลเรื่องประวัติส่วนตัวต่าง ๆ และ ความรู้สึกที่ได้รับชัยชนะ

–           อธิการบดี/คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.รามคำแหง ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เกียรติประวัติในด้านต่าง ๆ ที่ผู้ชนะเคยทำให้แก่มหาวิทยาลัย รวมทั้งความรู้สึกที่ลูกศิษย์ ได้รับชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัย

ข้อ 3. ในการเขียนข่าวการแข่งขันกีฬากับข่าวไฟไหม้ต้องระบุถึงคุณลักษณะ (Identification) อะไรบ้าง ในข่าว ไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว     (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการเขียนข่าวการแข่งขันกีฬา 

1.         คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลของนักกีฬา โค้ช และผู้เกี่ยวข้องในข่าวอายุของนักกีฬา ในกรณีที่อายุน้อยแต่คว้าแชมป์ได้ยศหรือตำแหน่งของผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องในข่าว เช่น นายกสมาคมกีฬาชนิดต่าง ๆเกียรติภูมิหรือชื่อเสียงของนักกีฬาที่เคยเป็นอดีตแชมป์ในรายการแข่งขันนั้น ๆ มาก่อนชื่อเล่นหรือฉายาของนักกีฬาดาวเด่น เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่จัดการแข่งขันตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้องระบุลงไปด้วย ในกรณีที่สถานที่จัดการแข่งขันอยู่ในต่างประเทศก็ต้องระบุว่าอยู่ที่เมืองใด ประเทศอะไร หรือมีความสำคัญอย่างไร เช่น เป็นเมืองหลวง เมืองท่า ฯลฯ

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับการแข่งขันกีฬาตั้งแต่ก่อนแข่ง บรรยากาศ เป็นอย่างไรจากนั้นการแข่งขันกีฬาดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร ใครแพ้ ใครชนะ และภายหลังจบเกมบรรยากาศ เป็นอย่างไร มีโปรแกรมการแข่งขันต่อไปอย่างไรบ้าง

คุณลักษณะที่ต้องระบุในการเขียนข่าวไฟไหม้ 

1.         คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องอายุของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเด็กอาชีพของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าทีตำรวจที่อยู่ของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ เป็นต้น

2.         คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่เกิดไฟไหม้ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ซอย ถนน เขตอะไร ในกรุงเทพฯ หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย

3.         คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดไฟไหม้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ หลักฐานที่พบ เป็นต้น

ข้อ 4. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนเนื้อข่าว         (10 คะแนน)

สกิมเมอร์ คืออะไร

สกิมเมอร์ เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ ที่คนร้ายสร้างขึ้นด้วยการนำแถบแม่เหล็ก วงจรถอดรหัสและวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สามารถพกพาได้ และใช้พลังงานจาก แบตเตอรี่ จากนั้นนำไปติดตั้งไว้ที่ช่องรูดบัตรของตู้เอทีเอ็ม เมื่อมีคนนำบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตมารูด หรือสอดบัตรเข้าช่องเสียบบัตร แล้วกดรหัส ตัวแถบแม่เหล็กของสกิมเมอร์ก็จะบันทึกข้อมูลแล้วส่งไป เก็บไว้ในหน่วยความจำ หรืออาจส่งข้อมูลต่อไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพเลยก็ได้ จากนั้น หน้าจอเอทีเอ็มอาจแสดงข้อความว่า ขออภัย เครื่องไม่สามารถทำรายการได้” หรือ ท่านทำรายการ เรียบร้อยแล้ว กรุณารับเงิน” ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรปลอมที่ใช้

เมื่อมิจฉาชีพขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอ็มและรหัสฝานไปแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้นไปสร้าง บัตรปลอมที่มีข้อมูลในแถบแม่เหล็กเหมือนกับบัตรจริง ซึ่งสามารถนำไปกดเงินหรือรูดซื้อสินค้าได้ เหมือนบัตรจริงทุกประการ ทั้งนี้คนร้ายบางคนอาจไม่นำข้อมูลไปทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลไปขายต่อ ในอินเทอร์เน็ตอีกทอดก็มี

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตู้เอทีเอ็มตู้ไหนปลอดภัย ไร้สกิมเมอร์ ???

เนื่องจากมิจฉาชีพมักซ่อนเครื่องสกิมเมอร์ไว้อย่างแนบเนียนมาก ดังนั้นการตรวจสอบ อาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่อย่างน้อยก็มีแนวทางที่จะช่วยให้เราสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูว่าตู้เอทีเอ็มนั้นเสี่ยง ต่อการใช้งานหรือไม่ นั่นก็คือ

ตรวจดูสิ่งผิดปกติรอบตู้เอทีเอ็มก่อนใช้งาน เพื่อดูว่ามีกล้องตัวเล็กซุกซ่อนอยู่หรือไม่ โดย มิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวไว้บริเวณเครื่องเพื่อใช้ซ่อนกล้อง ถ้าพบเห็นกล่องใส่ใบปลิวแปลก ๆ ไม่ควรใช้เครื่องดังกล่าว และควรแจ้งให้ธนาคารทราบทันที/

ตรวจสอบบริเวณที่สอดบัตร หรือตรงแป้นกดตัวเลขว่า มีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่ หรือไม่ หากสังเกตเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ให้รีบแจ้งให้ธนาคารทราบ/

ลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ต่าง ๆ ของตู้เอทีเอ็มดู เพราะหากมีตัวสกิมเมอร์ติดอยู่ การโยก อาจจะทำให้ตัวสกิมเมอร์หลุดออกมาได้ เนื่องจากปกติแล้วคนร้ายจะไม่ติดตั้งเครื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนา เท่าใดนัก เพราะต้องถอดเครื่องสกิมเมอร์ไปใช้ติดตั้งตู้อื่น ๆ ด้วย/

หากเครื่องเอทีเอ็มเกิดขัดข้องและบัตรติดอยู่ในเครื่อง ให้รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตร ทันที เพราะการที่เครื่องขัดข้องอาจเป็นเล่ห์กลของคนร้ายที่ใช้เศษไม้ หรือไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปในช่องอ่านบัตร เพื่อให้บัตรของผู้ใช้บริการติดอยู่ที่เครื่อง แล้วจะทำทีเข้ามาช่วยเหลือกดรหัสให้/

หากใส่บัตรไปในเครื่องแล้วไม่มีไฟกะพริบรอบช่องเสียบบัตร ควรเปลี่ยนใช้ตู้อื่น เพราะตู้นั้นอาจมีการติดตัวสกิมเมอร์ไว้ดูดข้อมูล/

*** ข้อมูลจากกระปุก ดอทคอม http://highUght.kapook.com/view/93328

แนวคำตอบ หน้า 91 – 118, (คำบรรยาย)

เนื้อข่าว

จากข้อมูลในเว็บไซต์กระปุก ดอทคอม ระบุวิธีใช้เครื่องเอทีเอ็มอย่างปลอดภัยว่า เนื่องจาก มิจฉาชีพมักซ่อนเครื่องสกิมเมอร์ไว้อย่างแนบเนียนมาก ดังนั้นการตรวจสอบอาจทำได้ไม่ง่ายนัก แต่อย่างน้อยก็มี แนวทางที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูว่าเครื่องเอทีเอ็มนั้นเสี่ยงต่อการใช้งานหรือไม่ คือ ก่อนใช้บริการ ให้ดูสิ่งผิดปกติรอบเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อดูว่ามีกล้องตัวเล็กซุกซ่อนอยู่หรือไม่ โดยมิจฉาชีพอาจติดกล่องใส่ใบปลิวไว้ บริเวณเครื่องเพื่อใช้ซ่อนกล้อง ถ้าพบเห็นกล่องใส่ใบปลิวแปลก ๆ ไม่ควรใช้เครื่องดังกล่าว และควรแจ้งให้ธนาคาร ทราบทันที นอกจากนี้ควรตรวจสอบบริเวณที่สอดบัตร หรือตรงแป้นกดตัวเลขว่า มีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ หากสังเกตเห็นอุปกรณ์แปลกปลอม ควรรีบแจ้งให้ธนาคารทราบ จากนั้นลองขยับหรือโยกอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่อง เอทีเอ็มดู เพราะหากมีตัวสกิมเมอร์ติดอยู่ การโยกอาจจะทำให้ตัวสกิมเมอร์หลุดออกมาได้ เนื่องจากปกติแล้ว มิจฉาชีพจะไม่ติดตั้งเครื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนาเท่าใดนัก เพราะต้องถอดเครื่องไปใช้ติดตั้งเครื่องอื่น ๆ ด้วย

ในกรณีที่เครื่องเอทีเอ็มเกิดขัดข้องและบัตรติดอยู่ในเครื่อง ให้รีบแจ้งธนาคารเพื่ออายัดบัตร ทันที เพราะการที่เครื่องขัดข้องอาจเป็นเล่ห์กลของมิจฉาชีพที่ใช้เศษไม้ หรือไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปในช่องอ่านบัตร เพื่อให้บัตรของผู้ใช้บริการติดอยู่ที่เครื่อง แล้วจะทำทีเข้ามาช่วยเหลือกดรหัสให้ และเมื่อใส่บัตรไปในเครื่องแล้ว ไม่มีไฟกะพริบรอบช่องเสียบบัตร ควรเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่น เพราะเครื่องนั้นอาจมีการติดตั้งตัวสกิมเมอร์ไว้ดูดข้อมูล

สำหรับสกิมเมอร์นั้น เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็ก ๆ ที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นด้วยการนำ แถบแม่เหล็กวงจรถอดรหัสและวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน สามารถพกพาได้ และใช้พลังงานจาก แบตเตอรี่โดยมักนำไปติดตั้งไว้ที่ช่องรูดบัตรของเครื่องเอทีเอ็ม เมื่อมีคนนำบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตมารูด หรือสอดบัตรเข้าช่องเสียบบัตร และกดรหัส ตัวแถบแม่เหล็กของสกิมเมอร์ก็จะบันทึกข้อมูลแล้วส่งไปเก็บไว้ใน หน่วยความจำ หรืออาจส่งข้อมูลต่อไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของมิจฉาชีพเลยก็ได้ จากนั้นหน้าจอเครื่องเอทีเอ็ม อาจแสดงข้อความว่า ขออภัย เครื่องไม่สามารถทำรายการได้ หรือท่านทำรายการเรียบร้อยแล้ว กรุณารับเงิน ซึ่งก็ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องอ่านบัตรปลอมที่ใช้

อย่างไรก็ตามเมื่อมิจฉาชีพขโมยข้อมูลจากบัตรเอทีเอมและรหัสผ่านไปแล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้น ไปสร้างบัตรปลอมที่มีข้อมูลในแถบแม่เหล็กเหมือนกับบัตรจริง ซึ่งสามารถนำไปกดเงินหรือรูดซื้อสินค้าได้เหมือน บัตรจริงทุกประการ ทั้งนี้มิจฉาชีพบางคนอาจไม่นำข้อมูลไปทำบัตรปลอม แต่นำข้อมูลไปขายต่อในอินเทอร์เน็ต อีกทอดก็มี

ข้อ 5. หากนักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามรายงานข่าวเรื่องสกิมเมอร์ (จากข้อมูลในข้อ 4.)

นักศึกษาจะรายงานข่าวในประเด็นใดบ้าง และหาข้อมูลจากแหล่งข่าวใดบ้าง          (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)

ประเด็นที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว 

–           มีจำนวนผู้เสียหายในกรณีนี้กี่คน และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเป็นเงินเท่าไร

–           เครื่องเอทีเอ็มที่ติดตั้งตัวสกิมเมอร์มักพบอยู่บริเวณใด จังหวัดอะไร

–           การดำเนินคดีและวางแผนจับกุมผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

–           แก๊งมิจฉาชีพส่วนใหญ่เป็นคนชาติใด มีวิธีการก่อเหตุ และยักยอกเงินของผู้เสียหายอย่างไร

–           มาตรการป้องกันของธนาคาร และการเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว

–           มาตรการแก้ไขและวิธีป้องกันภัยในกรณีดังกล่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

–           ผู้เสียหาย

–           เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าของคดี

–           ธนาคารที่เป็นเจ้าของเครื่องเอทีเอ็ม ผู้อำนวยการสาขา หรือกรรมการผู้จัดการของ ธนาคารนั้น ๆ

–           ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี หรือนักวิชาการคอมพิวเตอร์

–           กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

–           เนคเทค (NECTEC)

–           กล้องวงจรปิด

ข้อ 6. จากเหตุการณ์ม็อบชัดดาวน์กรุงเทพฯ ที่ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนไทย เพราะมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) อะไรบ้าง  (10 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)

เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนไทย เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ดังนี้

1.         เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ตื่นเต้น ตกใจ สะใจ โกรธ เกลียด ฯลฯ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (ฝ่ายม็อบ/ฝ่ายรัฐบาล)

2.         ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร/ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมากที่อาศัย อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะมีการปิดการจราจร ปิดสถานที่ราชการ ทำให้ข้าราชการไม่สามารถไปทำงานและให้บริการแก่ ประชาชนที่มาติดต่อได้

3.         ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไป จากสภาพปกติที่เคยเป็น

4.         ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งเป็นความใกล้ชิดทางกาย ระหว่างผู้อ่านกับตัวเหตุการณ์

5.         ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ และ ความมีชื่อเสียงของแกนนำ ดารานักร้องที่เข้าร่วมชุมนุม รวมทั้งสถานที่ราชการที่ม็อบเดินทางไปปิด

6.         ความไม่คาดคิด/เงื่อนงำ/ฉงนสนเท่ห์ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยัง เป็นเหตุการณ์ที่มีเงื่อนงำว่าจะจบลงอย่างไร ม็อบจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป รัฐบาลจะยอมตามที่ม็อบ เรียกร้องหรือไม่ ทำให้ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ จึงต้องติดตามเรื่องราวต่อไป

7.         ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งทั้งทางกายและ ความคิดเห็นทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการเผชิญหน้าต่อสู้ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับม็บ มีการยิง แก๊สน้ำตา ปาระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

8.         ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ 

ข้อ 7. ตามหลักการที่ศึกษามาในการรายงานข่าวบุคคลเสียชีวิต สามารถรายงานในมิติ/ประเด็นใดได้บ้าง อธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ      (20 คะแนน)

แนวคำตอบ หน้า 131 – 139, (คำบรรยาย)

การรายงานข่าวบุคคลเสียชีวิตสามารถรายงานได้หลายแบบตามสาเหตุการเสียชีวิต เช่น ข่าวมรณกรรมของบุคคลสำคัญหรือคนดังในสังคม ข่าวอุบัติเหตุที่ส่งผลให้เสียชีวิต เช่น ข่าวฆาตกรรม (ถูกฆ่าตาย) ข่าวอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) เป็นต้น

ตัวอย่างข่าวบุคคลเสียชีวิตในกรณีข่าวมรณกรรมของบุคคลสำคัญ สามารถรายงานในมิติ หรือประเด็นต่อไปนี้

–           ผู้ตายเป็นใคร เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ ยศหรือตำแหน่งสูงสุดในปัจจุบัน ฯลฯ

–           สาเหตุการเสียชีวิต เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจวาย ฯลฯ

–           สถานที่เสียชีวิต/วันที่-เวลาที่เสียชีวิต เช่น เป็นการป่วยและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ที่บ้าน ในวันที่-เวลาใด

–           เหตุการณ์ตื่นเต้นในขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต ลางร้าย หรือลางสังหรณ์ก่อนเสียชีวิต

–           ผลงานของผู้ตาย/เคยทำอะไรมาบ้าง เช่น เป็น ส.ส. พรรคอะไร เคยดำรงตำแหน่งใด มาบ้าง หรือมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอะไรบ้าง

–           ประวัติส่วนตัว/ความเป็นมา เช่น ผู้ตายมีบิดา-มารดา สามี-ภรรยา บุตร-ธิดา หรือญาติ พี่น้องที่เป็นคนดัง นอกจากนี้ผู้ตายมีประวัติการศึกษาจบชั้นมัธยม ปริญญาตรี/โท/เอก หรือปริญญากิตติมศักดิ์อะไรมาบ้าง

–           รายละเอียดของพิธีศพ เช่น พิธีสวดพระอภิธรรมจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็นเจ้าภาพ สวดพระอภิธรรม กำหนดภารบรรจุศพ และกำหนดการฌาปนกิจ

ข้อ 8. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนความนำของข่าว       (10 คะแนน)

และเขียนหัวข่าว          (10 คะแนน)

พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของวัยรุ่น จาก http://www.gotoknow.org/posts/410843

–           พฤติกรรมด้านบวก

มือถือกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งของวัยรุ่น เพราะมือถือก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย เป็นทั้งเครื่องมือ การสื่อสารที่ย่นทั้งระยะทางและระยะเวลาระหว่างกัน เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านมือถือนั้นสร้าง ความสะดวกสบายให้กับวัยรุ่นได้อย่างมาก บางครั้งที่มีอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือด่วน มือถือ ก็จะมีประโยชน์มากในช่วงเวลานั้น หรือบางทีมือถือยังทำหน้าที่สร้างและกระชับความสัมพันธ์ของคน ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือกลุ่มเพื่อน ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากแต่ก็เชื่อมความสัมพันธ์กันได้ ด้วยมือถือ ยิ่งปัจจุบันนี้มือถือมีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าเดิมมาก ซึ่งนอกจากจะดูหนังฟังเพลงแล้วยัง สามารถใช้อินเทอร์เน็ต และยังสามารถเล่นได้เกือบทุกที่ทุกเวลา ยิ่งทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามการใช้โทรศัพท์มือถือให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นต้องคำนึงถึงความจำเป็น ใช้แต่พอเพียงเท่านั้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นทาสของมือถือ

– พฤติกรรมด้านลบ

โรคที่เกิดจากการใช้โทรศัพท์มือถือที่มีผลกระทบในเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตคนไทย ได้แก่

1)         โรคเห่อตามแฟชั่น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นนิยมเปลี่ยนมือถือตามแฟชั่นเพื่อให้อินเทรนด์ ดูทันสมัย ไม่ตกรุ่น ทัดเทียมเพื่อน ดังนั้นมือถือจึงกลายเป็นเครื่องประดับที่บ่งบอกสถานภาพทางสังคมอีกทางหนึ่ง

2)         โรคทรัพย์จาง ซึ่งหลายคนต้องหาเงินเพื่อมาซื้อมือถือรุ่นใหม่ ทั้งนี้บางคนไม่มีเงินแต่รสนิยมสูง จึงเกิด สภาวะทรัพย์จางต้องไปกู้ยืมหนี้ยืมสินมาซื้อมือถือ เป็นต้น

3) โรคขาดความอดทนและใจร้อน เนื่องจาก คุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือกดปุ๊บต้องติดปั๊บ ทำให้หลายคนกลายเป็นคนไม่มีความอดทน แม้แต่ เรื่องเล็ก ๆ เช่น นัดเพื่อนไว้ช้าแค่ 5 นาที ต้องโทรตาม จึงกลายเป็นคนเร่งรีบ ร้อนรน และไม่รอบคอบ

4) โรคขาดกาลเทศะและไร้มารยาท ซึ่งการโทรศัพท์ไปหาบุคคลที่เราอยากจะพูดทุกเวลา โดยไม่ดูเวลา หรือกาลเทศะที่ควรโทร บางคนโทรขายประกัน ขายเครื่องกรองน้ำ ชวนสมัครบัตรเครดิตทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน ทำให้ผู้รับสายเกิดความรำคาญใจ

5) โรคขาดมนุษยสัมพันธ์ คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือพูดคุยกับญาติสนิท ขาดความใส่ใจที่จะสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น หลบมุมโทรไปคุยกับเพื่อนแทนที่จะพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ความสัมพันธ์ในบ้านห่างเหิน ซึ่งจะเกิดอาการเฉาหรือเหงาหงอย กลายเป็นคน แยกตัวออกจากสังคมมีโลกของตัวเองและเป็นโรคติดโทรศัพท์ในที่สุด

6)โรคไม่จริงใจ เนื่องจากการ พูดคุยทางโทรศัพท์ไม่ต้องเห็นหน้าตา ท่าทาง สายตา และปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ทำให้หลายคน สามารถใช้คำหวานหลอกลวง หรือพูดโกหกผู้อื่น หรือนิยมส่ง SMS ไปยังอีกฝ่าย ทำเสมือนรักใคร่ ผูกพัน หรือห่วงใย

จากผลสำรวจของกรุงเทพโพล โดยเก็บข้อมูลจากวัยรุ่นในเขตกรุงเทพมหานครที่ใช้โทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 1,700 คน เป็นเพศชายร้อยละ 48.8 และเพศหญิงร้อยละ 51.2 สรุปผลว่า มีดังนี้ พูดคุยและส่ง SMS ร้อยละ 57.7 ฟังเพลง ฟังวิทยุ ร้อยละ 20.3 ถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอ ร้อยละ 11.6 เล่นเกม ร้อยละ 5.6 เล่นอินเทอริเน็ต ร้อยละ 4.8

แนวคำตอบ หน้า 29 – 3063 – 80, (คำบรรยาย)

หัวข่าว

วัยโจ๋เสี่ยง 6 โรคใหม่ ภัยของคนติดมือถือ

ความนำ

เว็บไซต์โกทูโนวระบุวัยรุ่นเสี่ยงเป็น 6 โรคใหม่ หากตกเป็นทาสของมือถือ นำโดยโรคเห่อตาม แฟชั่น โรคทรัพย์จาง โรคขาดความอดทนและใจร้อน โรคขาดกาลเทศะและไร้มารยาท โรคขาดมนุษยสัมพันธ์ ตบท้ายด้วยโรคไม่จริงใจ ด้านผลสำรวจพบวัยรุ่นนิยมพูดคุยและส่ง SMS มากที่สุด ร้อยละ 57.7 แต่เล่นเน็ตน้อยสุด แค่ร้อยละ 4.8

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         หนังสือพิมพ์บริการชุมชนในรูปแบบใด

(1)       การ์ตูน 

(2) ข่าว            

(3) โฆษณา     

(4) บทความ

ตอบ 3 หน้า 215 การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) ถือเป็น การบริการชุมชนอย่างหนึ่งของหนังสือพิมพ์ โดยการเป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวที่เป็น ประโยชน์ต่อสาธารณชน เช่น การอุทิศเนื้อที่เพื่อการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง การรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุภัยพิบัติ ตลอดจนการตีพิมพ์โฆษณาทั้งโฆษณาในท้องถิ่น โฆษณาย่อย และโฆษณาทั่วไป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ

2.         ข้อใดไม่สอดคล้องกับความเป็นหนังสือพิมพ์

(1)       มีจ่าหน้าชื่อเดียวกัน     

(2) ตีพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ

(3) มีการเย็บเล่ม         

(4) พัฒนามาจากสังคมที่เจริญแล้ว

ตอบ 3 หน้า 2-3, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ส่วน Encyclopedia Americana อธิบายว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เย็บเล่ม ตีพิมพ์เผยแพร่อย่าง สม่ำเสมอ… Collier’s Encyclopedia กล่าวว่า หนังสือพิมพ์พัฒนามาจากสังคมที่เจริญแล้ว…

3.         ข่าวหนัก (Hard News) มีคุณสมบัติอย่างไร

(1)       ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์

(2)       ให้คุณค่าแกผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward)

(3)       ให้คุณค่าแก่ผู้อ่านอย่างรวดเร็ว (Immediate Reward)

(4)       ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน

ตอบ 2 หน้า 441, (คำบรรยาย) ข่าวหนัก (Hard News) คือ ข่าวที่ให้น้ำหนักต่อความสำคัญของเรื่อง มากกว่าอย่างอื่น ซึ่งมักจะเป็นเรื่องราวที่ให้ผลตอบแทนหรือให้คุณค่าแก่ผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward) ดังนั้นผู้อ่านจึงต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการอ่านพอสมควร โดยส่วนใหญ่ มักเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์คุณภาพ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวปัญหาสังคม ฯลฯ

4.         สาเหตุสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์มีหลายกรอบ ได้แก่

(1) รักษายอดขายของหนังสือพิมพ์     (2) สนองการทำข่าวตลอด 24 ชั่วโมง

(3) ตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้           (4) เป็นนโยบายของหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ ๆ

ตอบ 3 หน้า 5, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวันโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูง มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาปิดข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องเขียนข่าวให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด เพื่อจะได้จัดพิมพ์ให้ทันจำหน่าย ทั้งๆที่เหตุการณ์ของข่าวนั้นยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นหนังสือพิมพ์จึงอาจตีพิมพ์วันละหลายกรอบเพื่อให้สะดวกต่อการจำหน่าย และสามารถตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้ ทำให้เนื้อหาบางส่วนของหนังสือพิมพ์วันเดียวกัน แต่คนละกรอบจึงอาจแตกต่างกันได้

5.         หนังสือพิมพ์ใดนิยมตีพิมพ์วันละหลายกรอบ

(1)       หนังสือพิมพ์ประชานิยม          (2) หนังสือพิมพ์คุณภาพ

(3) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก       (4) หนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

6.         ข่าวประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่(1)       ความสด ความน่าสนใจ ความก้าวหน้า           (2) ข้อเท็จจริง บรรณาธิการ นักข่าว

(3) ความน่าสนใจ ข้อเท็จจริง ผู้อ่าน    (4) บรรณาธิการ นักข่าว ผู้อ่าน

ตอบ 3 หน้า 38 ข่าวประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญ 3 ประการ คือ

1.         ความน่าสนใจ (Interest)  2. ข้อเท็จจริง (Facts)         3. ผู้อ่าน (Readers)

7.         ข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจได้นั้นควรมีลักษณะอย่างไร

(1) ต้องเป็นความจริง  (2) ต้องมีจำนวนมากพอ

(3) ต้องมีความเป็นกลาง         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 29 ข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำไปใช้เพื่อการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือดีที่สุดนั้น จะต้องเป็นความจริง มีความเป็นกลาง และมีจำนวนมากพอ แต่ในความเป็นจริงแล้วประชาชน หรือพลเมืองยังมีช่องว่างในการรับรู้และการทำความเข้าใจกับความเป็นจริง ดังนั้นการตัดสินใจ ของคนเราจึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลที่มีข้อจำกัด

8.         ข้อใดมีรูปแบบเฉพาะที่แตกต่างจากข้ออื่น

(1) หนังสือพิมพ์กำแพง           (2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid)

(3) หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) (4) หนังสือพิมพ์เนื้อหาเฉพาะเรื่อง

ตอบ 1 หน้า 7-8, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์แบ่งตามรูปแบบหรือขนาดรูปเล่มได้ 2 ขนาด ดังนี้

1.         หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) เป็นหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ หนังสือพิมพ์ทั่วไป หนังสือพิมพ์ประชานิยม หนังสือพิมพ์คุณภาพ หนังสือพิมพ์เฉพาะเรื่อง ฯลฯ

2.         หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) มีขนาดครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (ส่วนหนังสือพิมพ์กำแพงจะจัดทำเป็นแผ่นเหมือนโปสเตอร์ปะติดไว้ตามกำแพง)

9.         บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) ของหนังสือพิมพ์ มีผลต่อข้อดมากที่สุด

(1) การไหลของข่าวสารสู่สาธารณชน (2) การบริหารงานของหนังสือพิมพ์

(3) การทำงานของนักข่าว       (4) การทำงานของบรรณาธิการ

ตอบ 1 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง/ประเมินคุณค่าเนื้อหา ของข่าวสาร และตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไรหรือจะคัดเลือกข่าวนั้นๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึงพื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

10.       สิ่งใดเป็นเอกสารที่บันทึกประวัติศาสตร์รายวัน

(1) วารสาร      (2) นิตยสาร     (3) ใบปลิว       (4) หนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 1 หนังสือพิมพ์ใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ เนื่องจากหนังสือพิมพ์ได้บันทึก เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไว้ บันทึกข้อคิด/ความเห็นต่าง ๆ ในแต่ละยุคสมัย จนกระทังมีผู้กล่าวว่า หนังสือพิมพ์เป็นเอกสารที่บันทึกประวัติศาสตร์รายวัน

ข้อ 11. – 13. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       To Inform          

(2) To Entertain 

(3) To Advertise 

(4) To Give Opinion

11.       คอลัมน์ซุบซิบในหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 1546, (คำบรรยาย) หน้าที่การให้ความบันเทิง (To Entertain) คือ การนำเสนอเนื้อหา เพื่อให้ผู้อ่านผ่อนคลายความเคร่งเครียดจากเนื้อหาหนัก ๆ ซึ่งเนื้อหาเพื่อความบันเทิงอาจ ปรากฏในรูปแบบของการ์ตูน เรื่องสั้น การนำเรื่องราวของละครโทรทัศน์มาตีพิมพ์ล่วงหน้า คอลัมน์ซุบซิบต่าง ๆ และคอลัมน์พยากรณ์ชะตาชีวิต เป็นต้น

12.       การเดินทางไปอวยพรวันเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศ

ตอบ 1 หน้า 14 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทั้งทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าว สารคดี ประกาศแจ้งความ หรืออื่น ๆ

13.       การตีพิมพ์คำทำนายชะตาชีวิต

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ

14.       การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบใด

(1) รัฐบาลเป็นเจ้าของ (2) เป็นบริษัทมหาชน

(3) เป็นห้างหุ้นส่วน     (4) เอกชนเป็นเจ้าของ/กิจการของครอบครัว

ตอบ 3 หน้า 11 – 12, (คำบรรยาย) การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบเอกชนเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งอาจจะแบ่งการดำเนินงานออกได้เป็น 3 แบบ ดังนี้

1.         เจ้าของเป็นผู้ประกอบการเองหรือเป็นกิจการของครอบครัว ซึ่งรูปแบบนี้เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ

2.         ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ซึ่งหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบนี้กันมาก

3.         บริษัทมหาชน ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ได้ขยายตัวขึ้นมากในปัจจุบัน

ข้อ 15. – 18. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Watchdog    (2) Gatekeeper (3) Informer       (4) Ombudsman

15.       การติดตามข่าวคุณภาพของข้าวที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาล

ตอบ 1 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทำอันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทำงานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่ เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อทำให้สังคมโปร่งใสและสามารถป้องปรามการคอร์รัปชั่นได้

16.       นักข่าวเลือกไปทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีแทนที่จะทำข่าวการโยกย้ายตำรวจตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 9. ประกอบ

17.       การรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตอบ 3 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นผู้แจ้งข่าวสาร (Informer) คือ หนังสือพิมพ์จะเข้าไปในชุมชนต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นข่าว บทความ สารคดี ฯลฯ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ ประชาชนได้รับรู้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และมากพอ จึงถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ เพราะเนื้อหาหลักที่มีมากที่สุดในหนังสือพิมพ์ก็คือ ข่าว (News) ดังบั้นการที่ หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวสารที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และความคิดเท่าทันโลก

18.       การรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดน้ำมัน

ตอบ 4 หน้า 18161169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่

1.         การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไปสืบหาข้อมูล แล้วนำมารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

2.         การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ประชาชน ประหยัดน้ำมัน ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ บริจาคเงิน/สิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ฯลฯ

19.       กลุ่มใดมีบทบาทน้อยในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม

(1)       กลุ่มนักศึกษา (2) กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ    (3) กลุ่มนักการเมือง    (4) กลุ่มข้าราชการประจำ

ตอบ 1 หน้า 192129 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคมจำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานกลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ          2. กลุ่มนักการเมือง         3. กลุ่มข้าราชการประจำ

20.       ข้อใดเป็นอำนาจเชิงโครงสร้างของหนังสือพิมพ์        

(1) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา

(2)       หนังสือพิมพ์เข้าถึงมวลชนอันหลากหลายได้อย่างรวดเร็ว

(3)       หนังสือพิมพ์ขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่   (4) หนังสือพิมพ์มักได้รับความเกรงใจจากคนทุกกลุ่ม

ตอบ 2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีอำนาจในตัวเอง ซึ่งอำนาจนี้แน่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่

1.         อำนาจเซชิงโครงสร้าง คือ หนังสือพิมพ์มีความเป็นสถาบันสาธารณะ จึงสามารถเข้าถึง มวลชน/ประชาชนที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

2.         อำนาจเชิงจิตวิทยา คือ หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสารข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง

3.         อำนาจเชิงปทัสถาน คือ หนังสือพิมพ์ถูกมองว่าเป็นผู้สืบเสาะแสวงหาข่าวสารมานำเสนออย่างเป็นกลาง และขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่ จึงได้รับความไว้วางใจจากสังคม

ข้อ 21 – 24. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) บทบรรณาธิการ     (2) บทปริทัศน์ (3) บทวิจารณ์ (4) สารคดี

21.       บทความใดสำคัญที่สุด

ตอบ 1 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้น เพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ทีมีต่อเรื่องที่เขียน

22.       เป็นการแสดงความเห็นและประเมินคุณค่าของสิ่งที่เขียนถึง

ตอบ 3 หน้า 44, (คำบรรยาย) บทวิจารณ์ (Criticism) หมายถึง งานเขียนที่มีการใช้ความรู้อย่างมีศิลปะ เพื่อการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของชิ้นงานต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นผู้เขียนจึงต้องเป็นผู้ที่ มีความรู้ในเรื่องที่จะวิจารณ์เป็นอย่างดี โดยควรวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีจรรยาบรรณ สร้างสรรค์ และควรวิจารณ์ทั้งในแง่บวกและลบ รวมทั้งมีเหตุผลประกอบการแสดงความคิดเห็น เพื่อมุ่งให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้ง และสามารถพิจารณาข้อดีข้อเสียในชิ้นงานนั้น ๆ ได้

23.       เน้นองค์ประกอบด้าน Human Interest มากกว่าความสด

ตอบ 4 หน้า 45 มาลี บุญศิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เป็นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ความรู้ และในเวลาเดียวกันก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด

24.       เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 23. ประกอบ

ข้อ 25. – 28. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Official Gazette (2) News Letters (3) Pamphlets   (4) News Sheets

25.       เป็นต้นกำเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 55 จดหมายเหตุการค้า (News Letters) เกิดจากพ่อค้าชาวยิวในสมัยกลางมีความคิดว่า ในการทำการค้านั้นพ่อค้าจะต้องรู้ข่าวสารบ้านเมืองควบคู่กันไป จึงมีการรวบรวมข่าวสารบ้านเมือง และข่าวการค้าขายในรูปแบบจดหมายเหตุการค้าส่งให้แก่กันและกัน โดยเน้นเพื่อประโยชน์ ทางการค้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงถือเป็นต้นกำเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

26.       เป็นต้นกำเนิดของข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์ กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีน ใช้สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็น ต้นกำเนิดของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

27.       เป็นต้นกำเนิดของการโฆษณาในหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 55 ใบปลิวข่าว (News Sheets) เป็นเรื่องที่ผู้พิมพ์หรือผู้ว่าจ้างเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป จึงต้องการแจ้งข่าวสารให้คนจำนวนมากได้รับรู้ โดยมักจะแจกจ่ายฟรีมากกว่าขาย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการโฆษณาสินค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

28.       เป็นต้นกำเนิดของบทความและบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์

ตอบ 3 หน้า 55 จุลสาร (Pamphlets) เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเน้นหนักในด้านการวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองและการนับถือศาสนา โดยผู้เขียนบทความส่วนใหญ่ จะเป็นผู้มีความรู้ จึงถือเป็นต้นกำเนิดของการเซียนบทความ ได้แก่ บทบรรณาธิการ (Editorial) และบทวิจารณ์ (Criticism) ใบหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

ข้อ 29. – 31. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) John Waiter I (2) john Wilkes        (3) Rupert Murdoch (4) William Carter

29.       คนแรกในประวัติคาสตร์หนังสือพิมพ์อังกฤษที่ถูกแขวนคอเพราะใช้หนังสือพิมพ์ต่อต้านรัฐบาล

ตอบ 4 หน้า 57 ในปี ค.ศ. 1584 วิลเลี่ยม คาร์เตอร์ (William Carter) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้ออกจุลสารต่อต้านทางราชการในยุคอำนาจนิยมได้ถูกฝ่ายบ้านเมืองลงโทษด้วยการแขวนคอ ในข้อหาตีพิมพ์จุลสารสนับสนุนนิกายต้องห้าม ดังนั้นจึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่มีนักหนังสือพิมพ์ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

30.       เป็นผู้เรียกร้องให้นักหนังสือพิมพ์เข้าไปรายงานข่าวการประชุมรัฐสภาได้สำเร็จ

ตอบ 2 หน้า 59 – 60 ในปี ค.ศ. 1762 จอห์น วิลค์ส (John Wilkes) ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์นอร์ธ โบรตัน (North Briton) ได้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ โดยขอให้รัฐบาลอังกฤษยินยอมให้ นักหนังสือพิมพ์เข้าไปฟัง (รายงาน) ข่าวการประชุมรัฐสภาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งต่อมารัฐสภาอังกฤษต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องนี้ในปี ค.ศ. 1771 จึงทำให้เขาได้รับ การยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

31.       เป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ The Times

ตอบ 1 หน้า 61, (คำบรรยาย) จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) คือ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ “The Times” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับความเชื่อมันศรัทธา จากประชาชนผู้อ่านทั่วโลกไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้เพราะการประกาศนโยบายเป็นกลาง ไม่เป็นแนวร่วมกับกลุ่มการเมืองใด ทำให้ The Times ก้าวมายืนในตำแหน่งผู้นำของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ เป็นสัญลักษณ์ของความมีจริยธรรม พร้อมกับได้รับการสรรเสริญว่า “ เป็นแบบอย่างที่แท้จริง ของสิ่งที่เป็นหรือจะเป็นประชามติของชาวอังกฤษ

32.       ข้อความว่า ถ้าหากการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนแล้ว ไม่ถือว่าหมิ่นประมาท” สำคัญอย่างไร

(1)       เป็นคดีตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาล

(2)       เป็นเนื้อหาสำคัญของกฎหมายหมิ่นประมาท

(3)       เป็นก้าวแรกของการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญของกฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

33.       Join or Die คืออะไร

(1)       ภาพการ์ตูนการเมือง

(2)       บทความต่อต้านรัฐบาลอังกฤษที่ปกครองชาวอเมริกัน

(3)       หัวข้อข่าวที่มีชื่อเสียงในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองของอเมริกา     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 74 – 75168 – 169 ในปี ,ศ. 1754 หนังสือพิมพ์ Pennsylvania Gazette ของ เบนจามีน แฟรงคลิน ได้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนการเมืองภาพแรก เป็นภาพงูที่มีลำตัวแยกเป็น 8 ชิ้น แต่ละชิ้นหมายถึงอาณานิคมแต่ละรัฐของอเมริกา และมีคำบรรยายเขียนว่า Join or Die ซึ่งเป็นการรณรงค์เรียกร้องให้ชาวอาณานิคมร่วมมือกันต่อต้านอังกฤษที่ปกครองชาวอเมริกัน และต้องการให้รวมอาณานิคมทั้ง 8 เข้าด้วยกัน เพื่อการปกครองตนเองของสหรัฐอเมริกา

34.       Yellow Journalism คืออะไร

(1)       บทความการเมืองที่มีชื่อเสียงในหนังสือพิมพ์อเมริกัน (2) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ

(3) การ์ตูนล้อเลียนการเมือง   (4) การรับสินบนของหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม เกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบัน กับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

35.       หนังสือพิมพ์เครือข่ายเกิดขึ้นสมัยใด

(1)       ยุคปลายศตวรรษที่ 18            (2) ยุคปลายศตวรรษที่ 19

(3) ยุคปลายศตวรรษที่ 20      (4) ยุคปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา

ตอบ 3 หน้า 84 ในช่วงปลายของยุค Yellow Journalism (ยุคปลายศตวรรษที่ 19) หนังสือพิมพ์ ก็ได้เข้าสู่ยุคหนังสือพิมพ์ลูกโซ่หรือหนังสือพิมพ์เครือข่าย ได้แก่ การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ หลาย ๆ ฉบับในขณะเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะของหนังสือพิมพ์ในศตวรรษที่ 20 โดยบุคคลแรก ที่ริเริ่มกิจการหนังสือพิมพ์เครือข่าย คือ สองพี่น้องตระกูล Scripps

36.       The Big Three of Japan คืออะไร

(1)       ความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาของญี่ปุ่น

(2)       นโยบายการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น 3 ประการ

(3)       หนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น

(4)       นโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ 3 ประเภท ได้แก่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา

ตอบ 3 หน้า 89 The Big Three of Japan คือ หนังสือพิมพ์ขนาดยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น ซึ่งได้แก่ อาซารี (Asahi), ไมนิชิ (Mainichi) และโยมิอุริ (Yomiuri)

ข้อ 37. – 40. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 4  (2) รัชกาลที่ 5  (3) รัชกาลที่ 6  (4) รัชกาลที่ 7

37.       เทียนวรรณ และ ก.ศ.ร.กุหลาบ เป็นนักหนังสือพิมพ์ในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 104 – 105 นักหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่ามีความคิด ก้าวหน้า (หัวสมัยใหม่) ฝีปากคม กล้าพูด ตรงไปตรงมา โดยไม่เกรงกลัวผู้ใด มี 2 คน คือ

1.         ต.ว.ส.วัณณาโภ มีนามปากกาว่าเทียนวรรณ เจ้าของหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ

2.         ก.ศ.ร.กุหลาบ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามประเภทสุนทโรวาทพิเศษ

38.       สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

39.       การเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ไทยเริ่มขึ้นในสมัยใด

ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้ 1. มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)      2. มีการพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าแรก 3. มีการเขียนวรรคนำ (Lead)  4. เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อและการ์ตูน            5. มีการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

40.       กฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทยถูกตราขึ้นในสมัยใด

ตอบ 3 หน้า 109112 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯให้ตรา พ.ร.บ.ว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2465 ขึ้นเป็น พ.ร.บ. การพิมพ์หรือกฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทย ทั้งนี้เพราะสมัยนั้น มีหนังสือพิมพ์ออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ยากต่อการควบคุมดูแล โดยบางฉบับตีพิมพ์ข่าวรุนแรงเกินกว่าเหตุแต่ไม่สามารถหาตัวบรรณาธิการได้ ดังนั้นจึงนับว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้สามารถควบคุม ดูแลหนังสือพิมพ์ได้ในระดับหนึ่ง

41.       หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน

(1) ยุคมืด 2501 – 2512          

(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

(3) ยุคเริ่มต้นเสรีภาพ  

(4) ยุคสำลักเสรีภาพ

ตอบ 2 หน้า 117, (คำบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 นับได้ว่าเป็นยุคมืดของวงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคำสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน โดยให้เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปขอใบอนุญาตประกอบการจาก เจ้าพนักงานการพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อควบคุมหนังสือพิมพ์ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเอาไว้

42.       ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1) บรรณาธิการใหญ่  

(2) เจ้าของผู้ลงทุน    

(3) บรรณาธิการบริหาร 

(4) หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทาง ของหนังสือพิมพ์ และมีอำนาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

43.       ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้ 1. บรรณาธิการรับข่าวมาจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/ วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย2. ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว            3. แปลข่าว      4. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว  5. บรรณาธิการจัดหน้า            6. ฝ่ายผลิต     7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

44.       ตามสายการเดินทางของข่าวกีฬา ขั้นตอนแรกของงานได้แก่

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว

(3) การออกไปสื่อข่าว  (4) พาดหัวข่าว

ตอบ3 หน้า 132136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.         ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2.         บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ 3. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

4. บรรณาธิการจัดหน้า            5. ฝ่ายผลิต 6. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 45. – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สารคดี โฆษณา     (2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน

(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น        (4) ภาพข่าว โฆษณา

45.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็น หน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ชื่อหนังสือพิมพ์     2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)   3. ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด) 4. ภาพข่าว 5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา 7. คอลัมน์ประจำ (อาจมี หรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัวของบรรณาธิการ

46.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ 1. บทบรรณาธิการ        2. ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ 3. จดหมายถึงบรรณาธิการ     4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น(Press Digest) 5. องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่ เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

47.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

48.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน

ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าในมีดังนี้          1.โฆษณา 2.ภาพ 3.หัวเรื่อง 4. คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนำ ขำขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

49.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ตูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ

50.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า (2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม (3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง  (4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจจะ มุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้ง ข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

51.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน         

(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด   

(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยูกับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

52.       ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า           

(2)       การเรียงพิมพ์ 

(3)       การพาดหัวข่าว           

(4)       การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับเสร็จแล้ว ก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้น ฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

53.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1) โต๊ะข่าวกีฬา          

(2)       ห้องบรรณาธิการ        

(3)       ห้องภาพ         

(4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสือข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

54.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1) บรรณาธิการบริหาร          

(2)       บรรณาธิการข่าว        

(3)       บรรณาธิการโต๊ะข่าว  

(4)       ผู้สื่อข่าว

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเสือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุมกองบรรณาธิการ)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว

3.         วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว

4.         พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ 

55.       โต๊ะข่าวใดมีขนาดใหญ่ที่สุด

(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ  

(2) โต๊ะข่าวการเมือง   

(3) โต๊ะข่าวกีฬา          

(4) โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 หน้า 127134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสำคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ มีข่าวใดซึ่งกำลังได้รับความสนใจ จากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณาตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสำคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

56.       งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ

(1) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์         

(2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก

(3) การขอโฆษณา      

(4) การออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว

ตอบ 4 หน้า 123 งานที่สำคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่

1.         งานด้านบริหาร-ธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งานการเงิน-บัญขี งานพัสดุ ฯลฯ

2.         งาบด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจำหน่ายและงานโฆษณา (ถือเป็นงานหลักของฝ่ายจัดการ)

รวมทั้งงานการพิมพ์ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างจากการพิมพ์หนังสือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 52. ประกอบ)

ข้อ 57. – 61. จงใข้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม     

(1) การจัดหน้าแนวนอน       

(2) การจัดหน้าสมดุลแตกต่าง

(3) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ      

(4) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ

57.       จัดหน้าง่ายที่สุด

ตอบ 1 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

58.       นิยมใช้ในการจัดหน้ามากที่สุด

ตอบ 2 หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้าที่ นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริงซึ่งจะดูเรียบเกินไป

59.       ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นมาก ๆ เพียงข่าวเดียว

ตอบ 3 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็พิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นซึ่งมีความสำคัญ น้อยลงมา โดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

60.       ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว

ตอบ 4 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็น การจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าว และจัดคอลัมน์ไห้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจ จากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้น มีความสำคัญเท่าเทียมกัน

61.       ใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 57. ประกอบ

62.       ผู้ใดทำหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว

(1) Editor   

(2) Copy Reader 

(3) Proof Reader 

(4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

63.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาหั    (2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

(3)       หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท    (4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดสถาบันการศึกษา

ตอบ 1 หน้า 126, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรใน กองบรรณาธิการน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเล็ก รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา ทั้งนี้เพราะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์มีบุคลากรเพียงผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน) เท่านั้น

64.       หลักการใดไม่ใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา (2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ well หน้าเดี่ยว        (4) การจัดแบบ well สองหน้าคู่

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้   1. แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)

2. แบบ Well หน้าเดี่ยว 3. แบบ Well สองหน้าคู่ 4. แบบ Island (แบบเกาะ)

5.         แบบแนวบอนล่าง        6. แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

65.       หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        (2) ความสมดุล           (3) ความเด่น   (4) ความหลากหลาย

ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับ หลักการทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ

1.         การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance)

2.         การลำดับความสำคัญของเรื่อง 

66.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป็    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163, (ดูคำอธิบายข้อ 56. ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการ มากกว่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่าย บรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

67.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1) หน้าบรรณาธิการ   (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่นๆ ของหน้า

68.       โต๊ะข่าวใดมีความสำคัญมากที่สุด

(1) โต๊ะข่าวการเมือง    (2) โต๊ะข่าวสังคม        (3) โต๊ะข่าวเครษฐกิจ   (4) โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69.       Size คีออะไร

(1) แบบของพาดหัวข่าว          (2) ขนาดของพื้นที่สำหรับหัวข่าว

(3) ขนาดของตัวอักษร (4) ขนาดของคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซี่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์ จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (2.54 ซม.)

70.       ข้อใดไม่ใช่แบบของตัวอักษร

(1) ตัวหนา       (2) ตัวเอียง      (3) ตัวยก         (4) ตัวธรรมดา

ตอบ 3 หน้า 175179, (คำบรรยาย) แบบของตัวอักษรที่ใช้พิมพ์ (Font) ได้แก่ รูปร่างลักษณะของตัวอักษรที่เกิดจากการออกแบบ อาจมีรูปร่างกลม ป้อม สูงยาว กว้างแคบ หรือคล้ายตัวเขียน ซึ่งปัจจุบันหนังสือพิมพ์มักนิยมจัดหน้าโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมบรรจุแบบของตัวอักษร ที่มีอยู่มากมายหลายแบบและตั้งชื่อไว้ต่าง ๆ กัน เช่น Angsana UPC, Cordia UPC ฯลฯ

71.       ข้อใดเป็นหน่วยวัดขนาดของตัวอักษร

(1) ไพก้า (Pica)      (2) พอยท์ (Point)

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 69. ประกอบ

72.       งานหลักของ Rewriter คือข้อใด

(1) ช่วยบรรณาธิการตรวจข่าว และเรียบเรียงข่าวใหม่

(2) เขียนพาดหัวข่าว

(3) เขียนข่าวที่มีผู้ส่งมาจากภายบอกสำนักงาน         

(4) ถูกทุกข้อ 

ตอบ 3 หน้า 131 ผู้เรียบเรียงข่าว (Rewriter) คือ ผู้ที่อยู่ประจำสำนักพิมพ์เพื่อทำหน้าที่เรียบเรียงข่าว ที่ส่งเข้ามาจากภายนอกสำนักงาน โดยจะเขียนข่าวให้อยู่ในรูปแบบของข่าวก่อนส่งไปพิมพ์ ทั้งนี้ผู้เรียบเรียงข่าวมักจะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการสื่อข่าวมาก่อน จึงทำให้สามารถจับประเด็นข่าวได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

73.       โดยทั่วไปการจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์ นิยมวางภาพโฆษณาไว้ที่ตำแหน่งใด

(1) ด้านซ้ายบนของหน้าพิมพ์ (2) ด้านซ้ายล่างของหน้าพิมพ์

(3) วางไว้บริเวณกลาง ๆ ของหน้าพิมพ์           (4) ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 160, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจัดหน้าในโดยวางภาพไว้ตรงมุมซ้ายและขวา ของหน้า เพราะถือว่าบริเวณนี้มีความสำคัญที่สุด โดยภาพซึ่งวางตรงมุมซ้ายด้านบนจะเป็นสิ่งที่มาถ่วงน้ำหนักกับภาพโฆษณาที่นิยมวางอยู่ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์นั้น แต่บางครั้งอาจวางภาพ ไว้ตรงส่วนล่างของหน้าก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีโฆษณาจำนวนน้อย (เพียง 2 หรือ 3 ชิ้น)

74.       การจัดวางภาพไว้ส่วนล่างของหน้าพิมพ์ มีประโยชน์อย่างไร

(1) จัดหน้าง่าย            (2) เปิดโอกาสให้วางโฆษณาบริเวณส่วนบนของหน้าพิมพ์ได้

(3) เป็นการเฉลี่ยความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์   (4) เหมาะกับการจัดหน้าซึ่งมีภาพจำนวนน้อย

ตอบ 3 หน้า 160 การจัดวางภาพไว้ตรงส่วนล่างของหน้าพิมพ์จะทำให้เกิดความสมดุล เป็นการเฉลี่ย ความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์ และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงโฆษณาอีกด้วย เพราะภาพจะช่วย ดึงสายตาของผู้อ่านไปยังโฆษณาหรือบริเวณใกล้เคียงกับโฆษณาตรงส่วนล่างได้เป็นอย่างดี

75.       คอลัมน์แบบเปิดมีประโยชน์อย่างไร

(1) แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน   (2) จัดข้อความเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมได้ง่าย

(3) จัดง่ายกว่าคอลัมน์แบบปิด           (4) ดูโปร่ง สบายตา น่าอ่าน

ตอบ 4 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใข้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน จึงจัดหน้าได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

76.       ข้อใดสามารถสร้างเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

(1) วิธีการจัดหน้า        (2) ขนาดของหนังสือพิมพ์

(3) คำขวัญของหนังสือพิมพ์    (4) ชื่อหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 141 เอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์จะเกิดขึ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าพิมพ์ เพื่อให้ ผู้อ่านเคยชินและจำหนังสือพิมพ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องดูชื่อหนังสือพิมพ์ ได้แก่ ขนาดของหนังสือพิมพ์ (มีผลต่อเอกลักษณ์ของหนังลือพิมพ์น้อยที่สุด) จำนวนหน้ารูปแบบของตัวอักษร สี แนวของภาพ ที่เสนอ แนวของถ้อยคำที่ใข้พาดหัวข่าว และที่สำคัญคือ รูปแบบหรือวิธีการจัดหน้า ซึ่งสามารถ สร้างเอกลักษณ์ได้ดีที่สุด เพราะหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับนั้นจะมีแนวการจัดหน้าของตนเองโดยเฉพาะ

77.       หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง แบ่งหนัาพิมพ์เป็นกี่คอลัมน์

(1) 5 คอลัมน์   (2) 6 คอลัมน์   (3) 7 คอลัมน์   (4) 8 คอลัมน์

ตอบ 2 หน้า 139, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก CTabloid) จะมีจำนวนคอลัมน์น้อย (4-8 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์ฝึกหัดอาร์ยูบิวส์ (RU News) และหนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหง แบ่งหน้าพิมพ์ เป็น 6 คอลัมน์ ฯลฯ ส่วนหนังสือขนาดใหญ่ (Full Size) หรือหนังสือพิมพ์มาตรฐาน (Standard Size) จะมีจำนวนคอลัมน์มาก (8 – 12 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แบ่งหน้าพิมพ์เป็น 12 คอลัมน์ ฯลฯ

78.       ข้อใดจัดวางตำแหน่งชื่อของหนังสือพิมพ์แบบคงที่

(1) ไทยรัฐ        (2) มติชน         (3) สยามรัฐ     (4) เดลินิวส์

ตอบ 3 หน้า 146, (คำบรรยาย) ชื่อหนังสือพิมพ์ (Name Plate) เบ่รืยบเสมือนเครื่องหมายการค้า ซึ่งต้องการให้เป็นที่รู้จัก จดจำ และสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ โดยสามารถจัดได้ 2 รูปแบบ คือ           1. แบบคงที่ เป็นการวางชื่อหนังสือพิมพ์ที่เดิมทุกวัน ๆ เช่น หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ ฯลฯ 2. แบบไม่คงที่ เป็นการเปลี่ยนที่วางชื่อหนังสือพิมพ์ ไปทุกวัน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มติชน ข่าวสด เดลินิวส์ คมชัดลึก ฯลฯ

79.       การจัดแบ่งส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์มีประโยชน์อย่างไร

(1) หนังสือพิมพ์มีความหนามากขึ้น    (2) จัดเรื่องให้เป็นหมวดหมู่ได้ง่าย

(3) ราคาจำหน่ายสูงขึ้น           (4) หนังสือพิมพ์มีความน่าสนใจมากขึ้น

ตอบ 2 หน้า 31-32 การที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ขยายตัวและมีการแข่งขันสูงขึ้น ประกอบกับผู้บริโภค ต้องการข่าวสารมากขึ้น ทำให้หนังสือพิมพ์มีเนื้อหาและมีความหนามากเกินไป จึงมีการจัดแบ่ง ส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้สามารถจัดเรื่องให้เป็นหมวดหมู่ ได้ง่าย ทำให้อ่านง่ายไม่สับสน และรู้สึกว่าหนังสือพิมพ์มีจำนวนหน้ามากขึ้นจนคุ้มค่าต่อการ ซื้อหามาอ่าน

80.       ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) มีประโยชน์อย่างไร 

(1) จัดหน้าง่าย

(2)       หนังลือพิมพ์มีความสวยงามกว่าการจัดแบบช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ)

(3)       เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหาสั้น   

(4) เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว

ตอบ 4 หน้า 141, (คำบรรยาย) การแบ่งจำนวนคอลัมน์น้อยจะทำให้ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) ขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว แต่ไม่สามารถลงข่าวที่หลากหลาย และการจัดควบหรือ จัดแทรกจะทำได้ยาก ในขณะที่การแบ่งจำนวนคอลัมน์มากจะทำให้ช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ) ขึ้น ซึ่งจะทำให้บรรจุเรืองราวที่สั้น ๆ ได้หลายเรื่อง และแทรกเนื้อหาได้ง่าย แต่ก็จะอ่านยากกว่า

81.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบัน คือฉบับใด

(1) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2540        

(2) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2545

(3) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2550        

(4) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2551

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ การพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

82.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ฉบับที่ใช้ปัจจุบัน เนื้อหาใดยังยึดเป็นหลักการเดิม

(1) ด้านการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์   

(2) ด้านการอนุญาตให้ทำหนังสือพิมพ์

(3) ด้านการจัดจำหน่าย           

(4) ด้านการกำหนดราคาหนังสือพิมพ์

ตอบ 1 (คำบรรยาย) เนื้อหาที่ยังคงยึดเป็นหลักการเดิมของ พ.ร.บ. การพิมพ์ฉบับปัจจุบัน คือ

ด้านการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ โดย พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ค. 2550 มาตรา 15 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณาต้องมีคุณสมบัติและ ไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนื้         

1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ)

2.         มีสัญาติทย 

3. มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร

4.         ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

5.         ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

83.       ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ข้อใดจะเป็นนิติบุคคลไม่ได้

(1) ผู้พิมพ์        (2) ผู้โฆษณา   (3) เจ้าของหนังสือพิมพ์ (4) บรรณาธิการ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 7 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีนิติบุคคล เป็นผู้พิมพ์หรือผู้โฆษณา กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนอื่นของนิติบุคคลนั้น ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย และมาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ที่เป็นนิติบุคคลต้องมีบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมดเป็นผู้มีสัญชาติไทยด้วย (ส่วนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องเป็นบุคคลธรรมดา จะเป็นนิติบุคคลไม่ได้)

84.       พระราชบัญญัติการพิมพ์ไมใช้บังคับสิ่งพิมพ์ใด

(1) ใบเสร็จรับเงิน        (2) แผนที่         (3) แผ่นเสียง แผ่นชีดี  (4) บทเพลง

ตอบ 1 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ค. 2550 มาตรา 5 ระบุว่า พระราชบัญญัตินี้ ไม่ใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังต่อไปนื้ คือ

1.         สิ่งพิมพ์ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

2.         บัตร บัตรอวยพร ตราสาร แบบพิมพ์ และรายงานซึ่งใช้กันตามปกติในการส่วนตัว การสังคม การเมือง การค้า หรือสิ่งพิมพ์ที่มีอายุการใช้งานสั้น เช่น แผ่นพับหรือแผนโฆษณา ใบเสร็จรับเงิน

3.         สมุดบันทึก สมุดแบบฝึกหัด หรือสมุดภาพระบายสี

4.         วิทยานิพนธ์ เอกสารคำบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทำนองเดียวกัน ที่เผยแพร่ในสถานศึกษา

85.       ผู้ใดมีอำนาจสั่งระงับการนำสิ่งพิมพ์เข้ามาในราชอาณาจักร

(1) อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ        (2) อธิบดีกรมราชทัณฑ์

(3) ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ       (4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 10 ระบุว่า ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีอำนาจออกคำสั่งโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ห้ามสั่งเข้าหรือนำเข้าเพื่อเผยแพร่ ในราชอาณาจักร ซึ่งสิ่งพิมพ์ใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์…

86 บุคคลที่มิสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย หมายถึง

(1) บุคคลธรรมดา       (2) นิติบุคคล   (3) นายกรัฐมนตรี        (4) รัฐมนตรี

ตอบ1 (คำบรรยาย) บุคคลธรรมดา” หมายถึง บุคคลที่มิสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วน นิติบุคคล” หมายถึง บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย โดยกฎหมายรับรอง ให้มิสิทธิและหน้าที่ได้เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา

87 บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย หมายถึง

(1) บุคคลธรรมดา       (2) นิติบุคคล   (3) นายกรัฐมนตรี        (4) รัฐมนตรี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 86. ประกอบ

88  ข้อมูลข่าวสารใดที่รัฐต้องเป็ดเผย

(1) แผนงานและงบประมาณประจำปี            (2) สัมปทานที่มีลักษณะผูกขาดตัดตอน

(3) ผลการพิจารณาคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการประมูลโครงการ   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 188190 ข้อมูลข่าวสารที่รัฐต้องเปิดเผย ต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้

ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 มีดังนี้

1.         ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน (เช่น ผลการประมูลโครงการ)

2.         แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปี

3. คู่มือหรือคำสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

4. สัญญาสัมปทาน สัญญาที่มีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือสัญญาร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ       

5. มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน ฯลฯ

89.       ข้อใดอยู่ใน พ.ร.บ. การพิมพ์

(1) การตีพิมพ์จุลสารต้องขออนุญาต  (2) การขายแผ่นเสียงหรือซีดีต้องได้รับลิขสิทธิ์

(3) การรับโฆษณาสินค้าใดต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด           (4) ต้องส่งสงพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 9 ระบุว่า ให้ผู้พิมพ์ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา 8 จำนวน 2 ฉบับให้หอสมุดแห่งชาติภายใน 30 วันนับแต่วันเผยแพร่

90.       การพิจารณาคดีโดยใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว มีข้อดีอย่างไร

(1) พิจารณาโดยผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์ (2) พิจารณาโดยลดโทษกึ่งหนึ่งเสมอ

(3) ใช้หลักการพิทักษ์เด็กซึ่งกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสังเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

91.       ข้อใดไม่อยู่ในบทบัญญัติของกฎหมาย

(1)       ห้ามบันทึกภาพของเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามโฆษณาชื่อตัว ชื่อสกุลของเยาวชนนั้น

(3)       ให้พิจารณาคดีในห้องพิเศษที่ไม่ใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา

(4)       ให้พิจารณาคดีโดยรวดเร็ว เพื่อพิทักษ์เด็กและเยาวชน 

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 72 ระบุว่า การพิจารณา คดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจำเลย ให้กระทำในห้องที่มิใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา… และ มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของ เด็กหรือเยาวชน ซึ่งตัองหาว่ากระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุล ของเด็กหรือเยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด หรือสถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

92.       เด็ก ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คือบุคคลกลุ่มใด

(1)0-6ปี           

(2) 7-14ปี        

(3) 15-17ปี     

(4) 18-20ปี

ตอบ 2 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

93.       ท่านใดร่าง ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(1) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (2) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์

(3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 217 – 218 พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ และนักหนังสือพิมพ์ ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน เช่น นายเฉลิม วุฒิโฆสิตนายสถิตย์ เสมานิลนายมาลัย ชูพินิจนายเสลา เลขะรุจิ ฯลฯ ได้ร่วมกันยกร่าง ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2486

94.       จริยธรรมคืออะไร

(1) หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์         (2) แนวการปฏิบัติของคนในวงวิชาชีพ

(3) หลักปฏิบัติที่ตราขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร            (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217, (คำบรรยาย) สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายว่า จริยธรรม หมายถึง หลักแห่งความประพฤติหรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติอันถูกธรรมหรือ ความประพฤติที่เป็นธรรมของนักหนังสือพิมพ์ ส่วนฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึกของบุคคลในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร

ข้อ 95. – 96. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย        (2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย   (4) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

95.       จริยธรรมของนักวิชาชีพที่มีความเป็นสากลที่สุด

ตอบ 4 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่อง ว่ามีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

96.       จริยธรรมของสมาคมใดใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา

ตอบ 3 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้

1. ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)            2. ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)        4. ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏินัติ)        7. ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

97.       ข้อใดไม่ใช่จริยธรรมของหนังสือพิมพ์

(1) ไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว           (2) ไม่ลอกข่าวจากหนังสือพิมพ์อืน

(3) เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้ชี้แจงประเด็นข่าว         (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 229 – 230 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ค. 2541 ของ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ข้อ 9 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็น ลงในข่าวข้อ 10 ระบุว่า เมื่อคัดลอกข้อความใดจากหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือแหล่งข้อมูล อื่น ๆ ต้องบอกที่มาของข้อความนั้น และข้อ 11 ระบุว่า การเสนอข่าวที่มีการพาดพิงอันอาจ เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ต้องแสดงถึงความพยายามในการเปิดโอกาสให้ ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาแสดงข้อเท็จจริงด้วย

98.       เหตุใดนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรม

(1)       ควรจะต้องควบคุมกันเอง       (2) มีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยขน์ของสังคมมาก

(3) มีหลายแห่งทำให้ยากต่อการควบคุม         (4) เป็นวิชาชีพอิสระ

ตอบ 2 หน้า 232 ผู้ที่ประกอบวิขาชีพหนังสือพิมพ์ย่อมมีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยขน์ของสังคมมาก ดังนั้นนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องควบคุมความประพฤติและกำกับการทำงาน ของสมาชิก โดยเมื่อมีการประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณก็จะมีหลักเกณฑ์การลงโทษ ซึ่งเป็นโทษทางสังคมมากกว่าโทษทางกฎหมาย ทั้งนี้เพราะจริยธรรมเป็นเรื่องของจิตใจ

99.       ท่านใดเริ่มแนวคิดการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์     

(1) นายชวน หลีกภัย

(2)       ม.ร.ว.คึกฤทธิ๋ ปราโมช (3) รัขกาลที่ 6  (4) นายอานันท์ ปัญยารชุน

ตอบ 2 หน้า 116 เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2518 ก็ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่หนังสือพิมพ์จะต้องมีเสรีภาพควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ จึงได้ร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ ฉบับใหมขึ้นมา เพื่อให้เสรีภาพแก่หนังสือพิมพ์ในการควบคุมกันเองมากขึ้น ซึ่งร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ ดังกล่าวได้เริ่มเสนอแนวคิดให้มีการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์ (Press Council) ขึ้นมา

100.    ข้อใดเป็น อกุศลมูล

(1) ใช้ภาษาและภาพที่หยาบโลน        (2) รายงานข่าวด้วยความลำเอียง

(3)       รายงานข่าวโดยรับอามิสสินจัาง          (4) รายงานข่าวโดยไม่ถือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

ตอบ 3 หน้า 227, (ดูคำอธิบายข้อ 96. ประกอบ) ความเป็นไท ได้แก่ ความไม่ตกเป็นทาสของใคร ทั้งกายและจิตใจ จะโดยอามิสสินจ้างอื่นใด ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ ความไม่ตก เป็นทาสของ อกุศลมูล” (คำว่า อกุศลมูล” หมายถึง การตกเป็นทาสของสิ่งใดทั้งร่างกาย และจิตใจ เช่น การรายงานข่าวโดยรับอามิสสินจ้างอันมีค่าหรือผลประโยชน์อื่นใด)

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาค1 ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเข้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1)       การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี  

(2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           

(4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5.ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน โดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21.ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้อง สิทธิหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

2.         ประเทศใดเป็นต้นแบบซองจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์

(1)       อังกฤษ           

(2) ฝรั่งเศส      

(3) สหรัฐอเมริกา         

(4) ญี่ปุ่น

ตอบ 1 หน้า 233, (คำบรรยาย) ประเทศอังกฤษถือเป็นประเทศแม่แบบของการปกครองระบอบ ประชาธิปไตย และเป็นประเทศต้นแบบของจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์ โดยมีคณะกรรมการ รับเรื่องราวร้องทุกข์ของหนังสือพิมพ์ (The Press Complaints Commission) เป็นผู้กำหนด แนวปฏิบัติด้านจริยธรรมสำหรับนักหนังสือพิมพ์ไว้เมื่อ ค.ศ. 1993

3.         ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ           

(1) การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักข้า

4.         การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1)       เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม     (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้องกระทำโดยอาศัย อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

5.         ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุวา ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6.         ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) ถูกทุกข้อ

คอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่ามีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

ข้อ 7. – 10.       จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

7.         มีหนังสือพิมพ์ของคนไทยฉบับแรก

ตอบ 2 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ที่ตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

8.         มีนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรก

ตอบ 3 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธ์โกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

9.         พระเจ้าแผ่นดิบเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 108 รัชกาลที่ 6 ทรงเขียนความเห็นลงตีพิมพ์เป็นบทความในหนังสือพิมพ์ของพระองค์เอง และหนังสือพิมพ์อื่น ๆ โดยทรงใช้นามปากกาว่าอัศวพาหุ รามจิตตี และพันแหลม ซึ่งบทความ ที่มีผู้สนใจมาก คือ บทความเรื่อง ยิวแห่งบูรพาทิศ” เป็นเรื่องที่กล่าวถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่อยู่ใต้อิทธิพลของยิวแห่งบูรพาทิศ (ชาวจีน)

10.       มีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันมาก

ตอบ 1 หน้า 99 – 101, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์เริ่มเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 3ซึ่งกิจการการพิมพ์หนังสือในสมัยนี้ล้วนมีชาวต่างประเทศเข้ามาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์กันทั้งสิ้น โดยหนังสือพิมพ์ฉบับแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีชื่อว่า บางกอกรีคอร์เดอร์” (Bangkok Recorder) ดำเนินการโดยหมอบรัดเลย์ ซึ่งเป็นหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน

11.  หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน

(1)       ยุค 14 ตุลาคม 2516   

(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

(3) ยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ค. 2475  

(4) ยุคสำลักเสรีภาพ

ตอบ 2 หน้า 117, (คำบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 นับได้ว่าเป็นยุคมืดของ วงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคำสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน โดยให้เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไปขอใบอนุญาตประกอบการจาก เจ้าพนักงานการพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อควบคุมหนังสือพิมพ์ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองเอาไว้

12. ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวนายกรัฐมนตรีไปเยือนต่างประเทศ

(1)       ผู้สื่อข่าวทั่วไป  

(2) ผู้สื่อข่าวประจำ      

(3)       ผู้สื่ข่าวพิเศษ 

(4)ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 1 หน้า 130 ผู้สื่อข่าวทั่วไป (General Assignment Reporter) หมายถึง ผู้สื่อข่าวที่มีความรู้ ความสามารถในการทำข่าวได้ทุกประเภท มักเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อมีข่าวหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจจะได้รับมอบหมายให้ไปติดตามสื่อข่าว ดังนั้นผู้สื่อข่าวทั่วไป จึงต้องมีความรู้อย่างกว้างขวาง มีทักษะและเทคนิคการหาข่าวพอสมควร ตลอดจนต้องมีความพร้อมและความคล่องตัวในการสื่อข่าวอย่างทันทีทันใด

13.ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1)       บรรณาธิการใหญ่        (2) เจ้าของผู้ลงทุน   

(3)       บรรณาธิการบริหาร     (4)       หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in—Chief) เป็นตำแหนงบริหารสูงสุดขององค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทางของหนังสือพิมพ์และมีอำนาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

14. ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนใดสำคัญที่สุด     

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ       (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุม,กองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอน ที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

15. ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่      

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ

(2)       บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว         (3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ จะมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวมาจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย  2. ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก

รวบรวม เรียบเรียงข่าว                  3. แปลข่าว   4. ประขุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

5. บรรณาธิการจัดหน้า            6. ฝ่ายผลิต     7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 16. – 20. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       คอลัมน์            (2) สารคดี       (3) บทความ    (4) ข่าว

16.       ข้อใดไม่ควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 2. 3 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็น หน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ชื่อหนังสือพิมพ์ 2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) 3. ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)4. ภาพข่าว   5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา 7. คอลัมน์ประจำ(อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัวของบรรณาธิการ

17.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้น ข้อเขียนที่ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมาย จากผู้อ่านที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

18.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

19.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ

20.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้ 1. บทบรรณาธิการ 2. ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ๆลๆ 3. จดหมายถึงบรรณาธิการ 4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)        5. องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

21.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า         

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม

(3)       หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง       

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่นๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

22.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          

(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3)       การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด          

(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140., (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

23.       ข้อใดไมอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2)       การเรียงพิมพ์  (3)       การถ่ายภาพข่าว         (4)       การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าทีรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

24.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1) โต๊ะข่าวกีฬา           (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3) ห้องภาพ    (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

25.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1) บรรณาธิการบริหาร           (2)       บรรณาธิการข่าว        

(3) บรรณาธิการโต๊ะข่าว         (4)บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

26.       ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักของการประชุมกองบรรณาธิการ(1) ทบทวนการทำงาน      (2)เลือกข่าวหน้า 1

(3)เขียนบทบรรณาธิการ         (4)สรุปข่าวในรอบวัน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

27.       ใครเป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าว

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) หัวหน้าข่าว

(3) หัวหน้ากองบรรณาธิการ    (4) หัวหน้าแผนก

ตอบ 3 หน้า 124132 – 133, (คำบรรยาย) โต๊ะข่าว (Copydesk) เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในห้องข่าว โดยจะมีบุคลากรประกอบไปด้วย หัวหน้าข่าวหรือบรรณาธิการข่าว ผู้สื่อข่าว และผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ ซึ่งการทำงานของบุคลากรทั้งหมดนี้จะขึ้นตรงต่อหัวหน้ากองบรรณาธิการที่เป็นผู้บังคับบัญชาโต๊ะข่าวอีกทีหนึ่ง

28.       งานใดอยู่ในฝ่ายข่าว

(1) งานห้องสมุดข่าว   (2) การรับข่าวจากภายนอก

(3) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (4) การจัดแฟ้มข้อมูลแหล่งข่าว

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

29.       ผู้ใดมีความเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในข่าวมากที่สุด

(1)       Editor       (2) Copy Reader (3) Proof Reader (4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจขาว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

30.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการมากที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    (2) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           (4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 2 หน้า 4126, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ถือเป็นหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่บุคลากร ในกองบรรณาธิการมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดกลาง หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา ตัวอย่างของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือหนังสือพิมพ์ปริมาณ ซึ่งมีจำนวนพิมพ์และยอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่นไทยรัฐข่าวสด เดลินิวส์ ฯลฯ

31.       หลักการใดนิยมใช้จัดหน้ากลาง

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา 

(2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดียว       

(4) การจัดแบบ Well สองหน้คู่

ตอบ 4 หน้า 166 – 167 การจัดหน้าในแบบ Well สองหน้าคู่ เป็นการนำเอาหน้า 2 หน้ามาพิจารณา เป็นหน่วยเดียวกันโดยจัดโฆษณาเป็นรูปพีระมิดวางไว้ทางริมซ้ายมือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านซ้าย และริมขวามือด้านล่างของหน้าหนังสือพิมพ์ด้านขวา ปล่อยเนื้อที่สวนที่เหลือของ 2 หน้า ควบให้กางออกเต็มที่เป็นรูปอักษรวี จึงนิยมใช้จัดหน้ากลาง หรือหน้าพิมพ์ที่มีเนื้อหาของข่าวยาว และเหมาะสำหรับจัดหน้าหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

32.       หลักการจัดหน้าหนึ่งข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        

(2) ความสมดุล           

(3) ความเด่น   

(4) ความหลากหลาย

ตอบ 1 หน้า 145148 หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ มีความสำคัญในแงของการดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน ความสวยงาม สะดุดตา และเชิญชวนให้ซื้อหนังสือพิมพ์ ดังนั้นหลักการจัดหน้าหนึ่ง ที่ดีควรจะมีคุณลักษณะเชิงศิลปะ คือ มีความสวยงาม (ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด) ดึงดูดสายตา น่าซื้อ และมีคุณสมบัติทางวารสารศาสตร์ ได้แก่ ลำดับข่าวได้ตรงตามความสำคัญของข่าว และ สะท้อนถึงบุคลิกของหนังสือพิมพ์

33.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163 การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณาซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการ มากกว่าจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณา มักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสมสำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็น ต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

34.       Journalism แปลเป็นภาษาไทยว่าอะไร

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) สารที่ออกตามสาระ

ตอบ 3 (คำบรรยาย) คำว่า journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารศาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

35.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตามกฎหมาย

(1) ออกจำหน่ายตามวาระ       (2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวและความรู้          (4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกันหรื เหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ไห้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

36.       ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น

(1)       เสนอข่าวได้รวดเร็ว (2) มีจำนวนจำหน่ายสูง (3) เห็นภาพพจน์          (4) เป็นสื่อที่คงทนถาวร

ตอบ 4(คำบรรยาย) คุณสมบัติเด่นของหนังสือพิมพ์เมื่อเทียบกับสื่อมวลชนอื่น มีดังนี้

1.         เสนอข่าวได้อย่างวิเคราะห์เจาะลึก      2. มีราคาไม่แพง          3. พกพาสะดวก อ่านได้ทุกที่  4. มีความน่าเชื่อถือ            5. ใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้     6. ใช้อ้างอิงได้ง่าย 7. เป็นสื่อที่คงทนถาวร เก็บไว้ได้นาน  8. สามารถให้บริการแก่ชุมชนได้   9. มีคุณค่าด้านวรรณกรรม

37.       Tabloid คืออะไร 

(1) ข่าวประเภทหนึ่ง

(2)       บทความที่มีผู้เขียนประจำ      (3) หนังสือพิมพ์ประเภทหนึ่ง  (4) วารสารประเภทหนึ่ง

ตอบ 3 หน้า 7-8 หนังสือพิมพ์แบ่งตามรูปแบบหรือขนาดรูปเล่มได้ 2 ประเภท คือ                    1.หนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน (Standard Size) บางครั้งอาจเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ (Broadsheet Newspapers) หรือขนาดเต็มรูป (Full Size Newspapers) มีขนาดกว้างยาวประมาณ 15 X 22 นิ้ว

2.         หนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์ (Tabloid) หรือเรียกว่า หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 11 X 15 นิ้ว หรือครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่

38.       ข้อใดไม่ใช่หนังสือพิมพ์รายคาบ        

(1) หนังสือพิมพ์ที่ออกรายวัน

(2)       หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์          (3) หนังสือพิมพ์รายปักษ์        (4) หนังสือพิมพ์รายสะดวก

ตอบ1 หน้า 6, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายคาบ หมายถึง หนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ออกรายวัน(Non-daily Newspaper) ซึ่งแต่ละคาบอาจเป็น 3 วัน7 วัน (รายสัปดาห์)10 วัน15 วัน (รายปักษ์)30 วัน (รายเดือน) หรือรายสะดวกก็ได้ โดยมักไม่เน้นความสดของข่ว แต่จะเน้น เสนอข้อมูลข่าวสาร สารคดี และบทวิเคราะห์ที่ทันสมัย เช่น ฐานเศรษฐกิจ ประชาชาติธุรกิจ ฯลฯ

39.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด   

(1) Digital Newspaper

(2)       Quality Newspaper (3) Popular Newspaper (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 30. ประกอบ

ข้อ 40. – 41. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคนมืออาชีพ     (2) หนังสือพิมพ์ต้องเสนอข่าวจากทุกหนทุกแห่ง

(3)       หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

40.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์นระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

41.       ข้อใดเป็นปณิธานของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

42.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้จากการลงโฆษณาในอัตราส่วนใด

(1) ร้อยละ 55 จากรายได้ทั้งหมด        

(2) ร้อยละ 65 จากรายได้ทั้งหมด

(3)       ร้อยละ 75 จากรายได้ทั้งหมด 

(4) ร้อยละ 85 จากรายได้ทั้งหมด

ตอบ 3 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายได้จากค่าขาย เนื้อที่ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

43.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีความน่าสนใจ     (2) มีความสำคัญ

(3)       มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ

(4)       มีองค์ประกอบของความสำคัญมากกว่าความน่าสนใจ

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่า องค์ประกอบอย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

44.       ข้อใดไมใช่ข้อเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1) ประหยัดกระดาษ (2) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว (3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา (4) ถูกข้อ 2 และ 3 ตอบ 4 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ผ่านจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสอประเภทนี้เกิดจากการ บรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีภาพ-เสียง เทคโนโลยีการพิมพ์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ดิจิทัล จะมีลักษณะเฉพาะที่สำคัญคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะ เปลี่ยนข่าวได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

ข้อ 45. – 46. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       ให้ข่าวสาร       (2) ให้ข้อเสนอแนะ      (3) ให้ความบันเทิง      (4) เป็นสื่อในการโฆษณา

45.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวการพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ตอบ 1 หน้า 14 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่วิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าว สารคดี ประกาศแจ้งความ หรืออื่น ๆ

46.       หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์การรับสมัครคนเข้าทำงาน

ตอบ 4 หน้า 1546, (คำบรรยาย) หน้าที่เป็นสื่อในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) คือ การเป็นตัวกลางระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าและบริการในด้านของการโฆษณา เช่น การตีพิมพ์ตารางการฉายภาพยนตร์ของโรงภาพยนตร์ต่าง ๆ การตีพิมพ์การรับสมัครงาน การตีพิมพ์ข้อมูลราคาน้ำมัน ราคาทองคำ ฯลฯ และเป็นสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณซน เช่น การตีพิมพ์สารคดี ส่งเสริมการท่องเที่ยว การเสนอโครงการเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

ข้อ 47. – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       นายทวารข่าวสาร        (2) ผู้แจ้งข่าวสาร         (3) สุนัขยาม    (4) รับเรื่องราวร้องทุกข์

47.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอุกกาบาตตกที่ประเทศรัสเซีย คนบาดเจ็บนับพัน

ตอบ 2 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นผู้แจ้งข่าวสาร (Informer) คือ หนังสือพิมพ์จะเข้าไป ในชุมชนต่าง ๆ แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นข่าว บทความ สารคดี ฯลฯ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ ประชาชนได้รับเอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และมากพอ จึงถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ เพราะเนื้อหาหลักที่มีมากที่สุดในหนังสือพิมพ์ก็คือ ข่าว (News) ดังนั้นการที่หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวสารที่เหมาะสมจะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และความคิดเท่าทันโลก

48.       หนังสือพิมพ์เสนอข่าวว่าประชาชนอยากให้ดอกกุหลาบนายกรัฐมนตรีในวันวาเลนไทน์

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       หนังสือพิมพ์ประชุมกองบรรณาธิการเพื่อเลือกเรื่องตีพิมพ์

ตอบ 1 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง/ประเมินคุณค่าเนื้อหา ของข่าวสาร และตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึงพื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร (ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ)

50.       กลุ่มใดเป็นกลุ่มผลประโยชน์

(1)       กลุ่มข้าราชการ            (2) กลุ่มเกษตรกร        (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 20 – 22 กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ คือ การรวมกลุ่มของคนในสังคมเพื่อวัตถุประสงค์ร่วมกัน ซึ่งในสังคมจะมีกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะเป็นจำนวนมาก และอาจเป็นใครก็ได้ที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อให้มีอำนาจต่อรอง และเรียกร้องผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้กันกลุ่มของตน เช่น กลุ่มลูกจ้าง กลุ่มผู้บริโภค กลุ่มข้าราชการ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มพ่อค้า ฯลฯ

51.       เหตุใดหนังสือพิมพ์จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง

(1) หนังสือพิมพ์มีผู้สื่อข่าวเป็นจำนวนมาก      

(2) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสาร

(3) หนังสือพิมพ์มีบรรทัดฐานเป็นกลาง           

(4) หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอความคิดเห็น

ตอบ2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่มีอำนาจในตัวเองประการหนึ่ง คือ อำนาจเชิงจิตวิทยา ได้แก่ การมีความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน เพราะในความรู้สึกของประชาชนนั้น สื่อมวลชนเป็น สถาบันที่มีหน้าที่เสนอข่าวสารและข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง ด้วยเหตุนี้หนังสือพิมพ์จึงน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากกว่านักการเมืองและหน่วยงานของรัฐ

52.       ข้อใดเป็น Passive News

(1) โจรใต้ก่อกวน ถูกวิสามัญ 16 ศพ  

(2) รัฐบาลประกาศนโยบายประชานิยม

(3)       มหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดพิธีมอบปริญญาบัตรเดือนมีนาคม 2556

(4)       พบสายแร่ทองคำในประเทศไทยมูลค่ามหาศาล

ตอน 3 หน้า 41 ประเภทของข่าวแบ่งตามลักษณะการได้มาออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.         ข่าวที่ต้องสื่อข่าวเอง (Active News) คือ ข่าวที่ผู้สื่อข่าวต้องออกไปสืบเสาะหาข้อมูล ด้วยตนเอง เช่น ข่าวการเมือง อุบัติเหตุ ภัยพิบัติ อาชญากรรม ฯลฯ

2.         ข่าวที่ได้จากเอกสาร (Passive News) คือ ข่าวที่ได้จากเอกสารที่แจกมายังสำนักงาน ใบประกาศ หรือแถลงการณ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถตีพิมพ์ได้ทันที เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์ ของหน่วยงานต่าง ๆ

53.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1)       ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ            (2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3) มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น       (4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

54.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์       

(1) ความถนัดของนักข่าว

(2)       นโยบายของหนังสือพิมพ์       (3) กระแสสังคม          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่

1. นโยบายของหนังสือพิมพ์    2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถและความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ  3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5. ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

55.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1)       หมอบรัดเลย์    (2) ร.อ.เจมส์ โลว์         (3) หมอสมิธ    (4) กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดค้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็นจำนวนมาก และรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1)       หน้าบรรณาธิการ         (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1)       ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป      (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำๆ

(3)       ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น       (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       ในการจัดหน้าใน การจัดโฆษณาในข้อใดไม่นิยม

(1)       แบบพีระมิดซีกขวา      (2) แบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) แบบพีระมิดสองซีก           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกค้านขวา (Pyramided to the Right) 2. แบบ Well (หน้าเดียว)  3.แบบ Well สองหน้าคู่            4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6. แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่า เท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางขึ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือก ข้อ 1 – 3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และ บริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)

(2)       การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3)       การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)

(4)       การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าว และใช้ความแตกต่างของขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริงซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นซึ่งมีความสำคัญ น้อยลงมา โดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       การพิมพ์แบบ Movable Type Printing มีลักษณะอย่างไร

(1) แม่พิมพ์เป็นหินหรือไม้        (2) สามารถนำตัวพิมพ์มาเรียงต่อกันได้

(3) ค้นพบครั้งแรกโดยโยอัน กูเต็นเบอร์ก        (4) เป็นต้นแบบของการพิมพ์ Offset

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1) News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ 4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครันโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1) ยุคอำนาจนิยม       (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ (3) ยุคประชานิยม    (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

ตอบ 2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่า

จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้น ในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้นไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาลแต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลของหนังสือพิมพ์ บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูร์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญของ กฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1) คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน      

(2) การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3) การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ขาว) เพื่อแยกคอลัมน์ 

(4) การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน จึงจัดหน้าได้งายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้นๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 16. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วยข่าวสั้นรายงานอากาศประกาศข้อความรณรงค์ หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับใดทันสมัยที่สุด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2551           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 2 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือพ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของเจ้าของหนังสือพิมพ์

(1) เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับได้       (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติไทย        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ 15 ระบุว่าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นบุคคลธรรมดา ผู้พิมพ์ หรือผู้โฆษณา ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้       1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์2. มีสัญชาติไทย 3. มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือ คนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 3 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นตั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       ข้อใดแสดงถึงเสรีภาพในพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1)       ผู้บรรลุนิติภาวะทุกคนยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ได้

(2)       ผู้ยื่นความจำนงที่มีคุณสมบัติครบจะได้รับพิจารณา

(3)       ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ด้

(4)       ให้ชาวต่างชาติเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้

ตอบ 2 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงเสรีภาพใน พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 คือ การให้สิทธิเสรีภาพ อย่างเต็มที่ต่อผู้ยื่นความจำนงขอทำหนังสือพิมพ์ ซึ่งหากผู้ใดมีคุณสมบัติครบและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามตามกฎหมาย จะได้รับการพิจารณาและออกหนังสือสำคัญแสดงการจดแจ้งให้โดยไม่ชักช้า (ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ)

81.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1) บรรณาธิการไม่จบปริญญาตรี       

(2) บรรณาธิการเป็นชาวต่างชาติ

(3) บรรณาธิการลูกตัดสินให้จำคุก     

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 78. ประกอบ

82.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

83.       ข้อใดไม่ใช่สิ่งพิมพ์ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์

(1) แผ่นซีดีเพลง          (2) e-book (3) วารสารวิชาการ (4) โปสเตอร์โปรโมทหนัง

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด หนังสือ แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนา (ในทีนี้ต้องเป็นสิ่งพิมพ์ที่เผยแพร่ ไปสูมวลชน เช่น บทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ โปสเตอร์ ฯลฯ) นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึง สิ่งพิมพ์ที่บันทึกด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขายหรือให้เปล่า เช่น แผ่นเสียง แผ่นซีดี e-book เป็นต้น (ส่วนมาตรา 5 ระบุว่า พ.ร.บ. นี้ไม่ใช้บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังนี้ (4) วิทยานิพนธ์ เอกสารคำบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทำนองเดียวกันที่เผยแพร ในสถานศึกษา เช่น วารสารวิชาการ)

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ด้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเป็ดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลลื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโตโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมกรศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7  ปี         (2)บุคคลที่มีอายุเกิน5ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน14 ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน10ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง15ปี       (2)บุคคลที่มีอายุเกิน12ปีแต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง18ปี       (4)บุคคลที่มีอายุเกิน15ปีแต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและ มีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่งกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนดซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธศาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธคาสนา ดังนี้

1. ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)            2. ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)        4. ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)        7. ความมีมารยาท (ใสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ

95.       การเสนอข่าวการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน มีต้นกำเนิดมาจาก

(1) News Sheets         (2) News Letters

(3) News Magazine   (4) Official Gazette

ตอบ4 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกขาว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนขั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

96.       ประเทศใดที่หนังสือพิมพ์มีบทบาทมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาส

(1) ประเทศไทย           (2) สหรัฐอเมริกา         (3) อังกฤษ      (4) ญี่ปุ่น

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออกเป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่าง รัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อสงครามจบลง ผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ดังนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาทอย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

97.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

98.       Yellow Journalism เกิดขึ้นในประเทศใด

(1) ประเทศไทย           (2) อังกฤษ      (3) สหรัฐอเมริกา         (4) พม่า

ตอบ 3 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบัน กับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

99.       ข้อใดเป็น Yellow Journalism

(1)       หนังสือพิมพ์ในพม่าเรียกร้องเสรีภาพ

(2)       หนังสือพิมพ์ในอังกฤษต่อสู้เพื่อเสรีภาพ

(3)       หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาตีพิมพ์เรื่องส่วนตัวกันมาก

(4)       หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้สื่อข่าวมีความรับผิดชอบมากขึ้น

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 98. ประกอบ

100.    หนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการเป็นพระมหากษัตริย์

(1) คอร์ทข่าวราชการ   (2) บางกอกรีคอร์เดอร์            (3) ดรุโณวาท  (4) ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

MCS2200 การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2556

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2200 (MCS 1250) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

1.         ข้อใดเป็นจุดเด่นของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล

(1)       ได้รับความนิยมสูง       

(2) ประหยัดกระดาษ

(3) อ่านได้ทุกที่ทุกเวลา           

(4) เปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว

ตอบ 2 หน้า 9 – 10, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ฝานจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสื่อประเภทนี้เกิดจากการบรรจบกันของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ เทคโนโลยีการกระจายเสียง-ภาพ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้จุดเด่นที่สำคัญของ หนังสือพิมพ์ดิจิทัลคือ ประหยัดกระดาษ ผู้อ่านอ่านฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะเปลี่ยนข่าว ได้ช้า ผู้อ่านไม่สามารถนำไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และผู้อ่านมีปฏิสัมพันธ์กันได้ยาก

2.         หนังสือพิมพ์ดิจิทัลเกิดจากการบรรจบกัน (Convergence) ของสิ่งใด

(1)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

(2)       เทคโนโลยีดาวเทียม การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(3)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ การถ่ายภาพ

(4)       เทคโนโลยีการพิมพ์ การกระจายเสียงและภาพ คอมพิวเตอร์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

3.         เจมส์ถ่ายภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหวและเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของตนเอง

(1)       เจมส์เป็นนักข่าวพลเมือง         (2) เจมส์เป็นนักข่าวสมัครเล่น

(3) เจมส์อยู่ในยุคสังคมข้อมูลข่าวสาร            (4) เจมส์อยู่ในยุคสังคมอุดมปัญญา

ตอบ 1 (คำบรรยาย) การพัฒนาของหนังสือพิมพ์ดิจิทัลไต้นำไปสู่ปรากฏการณ์ของนักข่าวภาคประชาชนหรือนักข่าวพลเมือง (Citizen Journalist) คือ บทบาทของผู้รับข่าวสารจากสื่อที่สามารถปรับเปลี่ยน ไปเป็นผู้ส่งสารเสียเอง โดยการถ่ายภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ และเขียนเล่าเรื่องราวประกอบ ส่งเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของสังคมยุคใหม่ที่เน้นการมีส่วนร่วม

4.         ผู้นำกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขึ้นเวทีปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมด้วย

(1) To Inform     (2) To Entertain (3) To Advertise (4) To Give Opinion

ตอบ 4 หน้า 14161 – 162 หน้าที่การให้ความคิดเห็น หรือให้ข้อเสนอแนะ (To Give Opinion) คือ การวิเคราะห์และแปลความออกมาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์หรือให้ความเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการให้คุณค่าของข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอาจเป็นความคิดเห็นของคน ในกองบรรณาธิการหรือคนนอกก็ได้ เช่น ข่าวสัมภาษณ์ความคิดเห็นของบุคคลต่าง ๆ บทบรรณาธิการ บทวิจารณ์ บทความ คอลัมน์จดหมายจากผู้อ่านหรือจดหมายถึงบรรณาธิการ คอลัมน์ตอบปัญหาชีวิต ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการชุมนุมหรือปราศรัยแสดงความคิดเห็น ทางการเมือง

ข้อ 5. – 7. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) Informer       (2) Gatekeeper (3) Watchdog    (4) Ombudsman

5.         ประชาชนติดตามเรื่องราวความเป็นไป คดีนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนผิดกรณีรับจำนำข้าว

ตอบ 3 หน้า 17, (คำบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทำ อันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทำงานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้อง ทำหน้าที่เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อมีเหตุการถ!ผิดปกติ เกิดขึ้น เพื่อทำให้สังคมโปร่งใสและสามารถป้องปรามการคอร์รัปชั่นได้

6.         หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี

ตอบ 4 หน้า 18161169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่

1.         การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไป สืบหาข้อมูล แล้วนำมารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทำให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น

2.         การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ประชาชน ประหยัดน้ำมันการรณรงค์ให้ช่วยบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยการตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี ฯลฯ

7.         บรรณาธิการตรวจข่าวอย่างเข้มงวด ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของข่าวสาร สู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจำด่านอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง ประเมินคุณค่า และตรวจเนื้อหาของข่าวสาร ก่อนให้นำเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ ตัดสินใจว่าจะเลือกทำข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคำนึงถึง พื้นฐานของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

8.         กลุ่มใดมีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบาย

(1) กลุ่มข้าราชการ      (2) กลุ่มประชาชน       (3) กลุ่มพ่อค้า (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 192129 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม จำแนกออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานกลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ          2. กลุ่มนักการเมือง 3. กลุ่มข้าราชการประจำ

9.         ผู้ใดใช้คำว่าหนังสือพิมพ์เป็นท่านแรก

(1) รัชกาลที่ 3  (2) รัชกาลที่ 4  (3) รัชกาลที่ 5  (4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 2 ในสมัยก่อนคนไทยมักจะเรียกหนังสือพิมพ์ว่า หนังสือข่าว” ทั้งนี้เนื่องจากเนื้อหา ในหนังสือพิมพ์มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอหรือบอกข่าวเป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมารัชกาลที่ 4 ทรงใช้ คำว่า หนังสือพิมพ์” แทนคำว่าหนังสือข่าวเป็นพระองค์แรก และหลังจากนั้นคำว่าหนังสือพิมพ์ จึงใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

10.       กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ Journalism เป็นภาษาไทยว่า

(1) การหนังสือพิมพ์    (2) สื่อสิงพิมพ์ (3) วารสารศาสตร์ (4) นิตยสาร

ตอบ 3 (คำ-บรรยาย) คำว่า Journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า วารสารคาสตร์” ซึ่งสอดคล้องตามความหมายดั้งเดิมที่หมายถึง วิชาการ หรืองานที่เกี่ยวกับการจัดทำหนังสือพิมพ์และนิตยสาร อันเป็นสื่อมวลชนที่มีกำเนิดก่อน สื่อมวลชนอื่น ๆ ทั้งหมด

11.       ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550

(1) ออกในระยะเวลาสั้น ๆ      

(2) พิมพ์บนกระดาษขนาดใหญ่

(3) เสนอข่าวสารความรู้           

(4) ใช้ชื่อเหมือนกันทุกฉบับ

ตอบ 4 (คำบรรยาย) ลักษณะสำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน หรือเหมือนกันทุกฉบับ) และออกหรือเจตนาจะออกตามลำดับเรื่อยไป มีกำหนดระยะเวลา หรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงนิตยสาร วารสาร หรือสิงพิมพ์ที่เรียกชื่ออย่างอื่นทำนองเดียวกัน

12.       โยฮัน กูเต็นเบอร์ก สำคัญอย่างไร

(1)       เสนอข่าวการเมืองเป็นท่านแรก          

(2) ค้นพบวิธีการพิมพ์แบบ Movable Type

(3) เป็นชาวฝรั่งเศสที่รณรงค์เรื่องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 154 ใบปี ค.ศ. 1450 โยฮัน กูเต็นเบอร์ก (Johann Gutenberg) ชาวเยอรมัน ได้คิดค้น วิธีพิมพ์โดยประดิษฐ์ตัวพิมพ์โลหะมาเรียงต่อกันแบบที่เรียกว่า Movable Type Printing ขึ้น เป็นคนแรกในยุโรป (แต่ได้รับแนวคิดด้านวิธีพิมพ์แบบนี้มาจากจีน) ทำให้เขาได้รับยกย่อง ว่าเป็นบิดาแห่งการพิมพ์ยุคปัจจุบัน เนื่องจากแท่นพิมพ์ของเขาสามารถพิมพ์เอกสารได้เป็น จำนวนมากและรวดเร็ว จนทำให้มีการพิมพ์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

13.       ข้อใดเป็นหนังสือพิมพ์ Tabloid   

(1) หนังสือพิมพ์อาร์ยูนิวส์

(2)       เดลินิวส์          (3) สยามรัฐรายสัปดาห์          (4) เดอะนชั่น

ตอบ 1 หน้า 8, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) จะมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของ หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ คือ ประมาณ 11 X 15 นิ้ว ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายประการ ได้แก่ ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก อ่านง่าย จัดหน้าเป็นส่วน ๆ ได้ง่าย มีจำนวนหน้าและ ความหนามากกว่าหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ จึงให้ความรู้สึกว่ามีราคาไม่แพง เช่น หนังสือพิมพ์ อาร์ยูนิวส์ (R.u. News), เอ็กไซต์ไทยโพสต์, Student Weekly และข่าวรามคำแหง ฯลฯ

14.       หนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ออกจำหน่ายรายวันเนื่องจาก

(1) เทคโนโลยีการพิมพ์ทันสมัย           (2) ถูกแรงกดดันจากสื่อดิจิทัล

(3)       หนังสือพิมพ์มีการแข่งขันสูง   (4) หนังสือพิมพ์ต้องการเสนอข่าวอย่างทันเหตุการณ์

ตอบ 4 หน้า 5. (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวัน เป็นหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายเป็นประจำทุกวันอายุของหนังสือพิมพ์จึงสั้น ดังนั้นเมื่อหมดวัน หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมจะล้าสมัยลงทันทีและ มีฉบับใหม่ออกมาแทนที่ โดยหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่มักออกจำหน่ายรายวัน เนื่องจาก หนังสือพิมพ์รายวันมีจุดเด่น คือ ความรวดเร็ว และความสดในการเสนอข่าวได้อย่างทันเหตุการณ์

15.       หนังสือพิมพ์ประเภทใดมีจำนวนพิมพ์สูงสุด

(1) General Newspaper    (2) Quality Newspaper

(3) Popular Newspaper     (4) Specialized Newspaper

ตอบ 3 หน้า 4, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ประชานิยม (Popular Newspaper) หรือเรียกว่าหนังสือพิมพ์ปริมาณ จะมีเนื้อหาเป็นข่าวเร้าอารมณ์ (Sensational News) ซึ่งมักเป็นข่าวที่ให้ผลตอบสนอง ทางอารมณ์ได้ทันที และเป็นข่าวที่คนทั่วไปสนใจตามปุถุชนวิสัย (Human Interest) ดังนั้น จึงมีจำนวนพิมพ์สูงสุดและมียอดจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าหนังสือพิมพ์ประเภทอื่น เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐข่าวสดเดลินิวส์ ฯลฯ

ข้อ 16. – 17. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) หนังสือพิมพ์เป็นที่รวบรวมของคบมืออาชีพ           (2) หนังสือพิมพ์ต้องรับใช้สังคม

(3) หนังสือพิมพ์เป็นทั้งธุรกิจและสถาบันสาธารณะ (4) หนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

16.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศเสรีนิยม

ตอบ 3 หน้า 311195 ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศตะวันตกหรือประเทศเสรีนิยม จะให้ความสำคัญแก่หนังสือพิมพ์ในระบบเศรษฐกิจเสรีว่าเป็นธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็น สถาบันสาธารณะที่รับใช้สังคมด้วย ดังนั้นจึงต้องมีอิสระ มีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และ ตรวจสอบรัฐบาลได้

17.       ข้อใดเป็นคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม

ตอบ 4 หน้า 3, (คำบรรยาย) ปณิธานหรือคำนิยามของหนังสือพิมพ์ในประเทศสังคมนิยม คือ หนังสือพิมพ์ จะต้องเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของพรรค หรือหนังสือพิมพ์ต้อง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐบาล

18.       โดยปกติหนังสือพิมพ์มีรายได้หลักจากสิ่งใด

(1) เงินอุดหนุนของรัฐบาล       (2) เงินค่าสมาชิกจากผู้อ่านประจำ

(3) เงินค่าขายหนังสือพิมพ์จากลูกค้าทั่วไป     (4) เงินรายได้จากการโฆษณา

ตอบ 4 หน้า 1546159 – 160 ในแง่ของธุรกิจ หนังสือพิมพ์ส่วนมากถือว่าโฆษณามีความสำคัญ จึงให้เนื้อที่สำหรับลงตีพิมพ์โฆษณามากกว่าเนื้อหาอย่างอื่น เพราะโฆษณาถือเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่มีผลต่อรายได้ของหนังสือพิมพ์มากที่สุดโดยเฉลี่ยแล้วหนังสือพิมพ์จะมีรายไต้จากค่าขายเนื้อที่ ลงโฆษณาประมาณ 2 ใน 3 หรือในอัตราส่วนร้อยละ 75 – 80 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ถือเป็น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ดำเนินธุรกิจอยู่ได้โดยขายหนังสือพิมพ์ในราคาไม่แพง

19.       ข่าวเบา (Soft News) มีลักษณะสำคัญคือ

(1) มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน            (2) มีความสำคัญและน่าสนใจ

(3) มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าความสำคัญ (4) ให้ข้อคิดสำหรับผู้อ่าน

ตอบ 3 หน้า 41 ข่าวเบา (Soft News) คือ ข่าวที่มีองค์ประกอบของความน่าสนใจมากกว่าองค์ประกอบ อย่างอื่น ซึ่งมักจะสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้อ่านมากกว่าที่จะมีสาระสำคัญจนมีผลกระทบ ต่อสังคม เช่น ข่าวการประกวดนางงาม ข่าวบันเทิง ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสังคมทั่วไป ฯลฯ

20.       ข้อใดไมใช่ลักษณะของสารคดี           

(1) เกิดจากจินตนาการ

(2)       ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน       (3) เน้นองค์ประกอบด้านความน่าสนใจ          (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 45 มาลี บุญคิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เน้นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ให้ความรู้ และในเวลาเดียวกับก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด

21.       บทบรรณาธิการสำคัญอย่างไร

(1) ประเด็นที่เขียนมักจะน่าสนใจ       

(2) มักเขียนโดยมีความเป็นกลาง

(3)       มักเขียนโดยผู้รอบรู้ในเรื่องนั้น 

(4) มักแสดงถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์

ตอบ4 หน้า 42 – 43168, (คำบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจำ อีกทั้งยังเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสำคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

22.       ปัจจัยใดมีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

(1) ทุน 

(2) นโยบายของหนังสือพิมพ์

(3) ความสนใจของผู้อ่าน         

(4) ลักษณะของการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์

ตอบ 2 หน้า 48 – 50 ปัจจัยที่มีผลต่อเนื้อหาของหนังสือพิมพ์ ได้แก่ 1. นโยบายของหนังสือพิมพ์ 2. ปัจจัยด้านบุคลากร คือ ความรู้ ความสามารถ และความถนัดของบุคลากรในฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ คนเขียนข่าว ฯลฯ 3. ปัจจัยด้านเวลา 4. ปัจจัยด้านธุรกิจ 5.ปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สถานการณ์ ทางการเมือง เศรษฐกิจ กระแสสังคม ฯลฯ

23.       การพิมพ์ในปัจจุบันพัฒนามาจากการประดิษฐ์ตัวพิมพ์ของ

(1) หมอบรัดเลย์          (2)       ร.อ.เจมส์โลว์    (3)       หมอสมิธ          (4)       กูเต็นเบอร์ก

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 12.       ประกอบ

24.       การเสนอข่าวทางการเมืองของหนังสือพิมพ์ปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาจาก

(1) Official Gazette   (2)       News Letter     (3)       Pamphlet (4) News Sheets

ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คำบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้ เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กำแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้สื่อ ประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกำเนิด ของข่าวราชการและข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

25.       การต่อสู้เพื่อเรียกร้องเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ในประเทศใดที่นำไปสู่สงครามกลางเมือง

(1) อังกฤษ      (2)       สหรัฐอเมริกา   (3)       ญี่ปุ่น   (4)       ประเทศไทย

ตอบ 2 หน้า 79 – 81, (คำบรรยาย) ในช่วงศตวรรษที่ 19 หนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาได้แบ่งออก เป็นฝักฝ่ายเพื่อต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ จนนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) ระหว่างรัฐฝ่ายเหนือที่เรียกร้องให้มีการเลิกทาสกับรัฐฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้มีทาส ซึ่งเมื่อ สงครามจบลงผลปรากฏว่ารัฐฝ่ายเหนือเป็นผู้ชนะ ด้งนั้นจึงนับได้ว่าหนังสือพิมพ์มีบทบาท อย่างมากในการเรียกร้องให้มีการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา

26.       ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีใด

(1) ทฤษฎีอำนาจนิยม (2) ทฤษฎีเสรีนิยม

(3) ทฤษฎีความรับผิดชอบต่อสังคม    (4) ทฤษฎีคอมมิวนิสต์โซเวียต

ตอบ 1 หน้า 56 – 57, (คำบรรยาย) ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับหนังสือพิมพ์อังกฤษยุคแรก อยู่ในแนวคิดทฤษฎีอำนาจนิยม (Authoritarian Theory) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นมาในราว ศตวรรษที่ 16 ถึงปลายศตวรรษที่ 17 พร้อม ๆ กับการก่อร่างขึ้นมาของหนังสือพิมพ์อังกฤษ โดยมีแนวคิดว่าสื่อมวลชนควรจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสนับสนุนและผลักดันนโยบายของรัฐ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ดังนั้นการควบคุมหนังสือพิมพ์จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด เช่น มีการออกใบอนุญาตการพิมพ์ ควบคุมโดยวิธีเซ็นเซอร์ เป็นต้น

27.       Yellow Journalism หมายถึงอะไร

(1) หนังสือพิมพ์ที่เรียกร้องเสรีภาพ     (2) หนังสือพิมพ์คุณภาพ

(3) หนังสือพิมพ์แนว Penny Paper      (4) หนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบ

ตอบ 4 หน้า 8183, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง การที่หนังสือพิมพ์ดำเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คำว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบันกับหนังสือพิมพ์ทีขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

28.       ประเทศใดใช้พระราชบัญญัติอากรแสตมป์กับหนังสือพิมพ์

(1) อังกฤษ      (2) ฝรั่งเศส      (3) อเมริกา      (4) ทั้ง 3 ประเทศ

ตอบ 1 หน้า 59 ในปี ค.ศ. 1721 รัฐบาลประเทศอังกฤษได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. อากรแสตมป์ (Stamp Act) เพื่อเรียกเก็บภาษีกับหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายขณะนั้นในอัตราที่สูงมาก โดยหวังที่จะจำกัดหนังสือพิมพ์ไม่ให้แพร่หลาย ดังนั้นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับภาษีนี้จึงพากัน ตั้งสมญานามเรียก พ.ร.บ. อากรแสตมป์เสียใหม่ว่า พ.ร.บ. ภาษีความรู้

ข้อ 29. – 32. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) รัชกาลที่ 4  (2) รัชกาลที่ 5  (3) รัชกาลที่ 6  (4) รัชกาลที่ 7

29.       เทียนวรรณ เขียนบทความเสนอให้เลิกทาส

ตอบ 2 หน้า 104 – 105 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต.ว.ส.วัณณาโภ หรือมีนามปากกาว่า เทียนวรรณได้ออกหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ เป็นหนังสือพิมพ์รายเดือนเมื่อ พ.ศ. 2433 โดยมีเนื้อหา ไม่เน้นความสด แต่จะเน้นบทความแสดงความคิดเห็นและการเสนอแนะ เช่น เสนอแนะให้มี กฎหมายควบคุมการพนัน เสนอกฎหมายกำหนดให้ชายมีภรรยาเพียงคบเดียว เสนอให้มีการเลิกทาส ฯลฯ

30.       สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด

ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

31.       มีการเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์

ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้

1.         มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)  2. มีการพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าแรก 3. มีการเขียนวรรคนำ (Lead)         4. เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อและการ์ตูน            5. มีการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

32.       กำเนิดหนังสือพิมพ์ชื่อ ราชกิจจานุเบกษา

ตอบ 1 หน้า 102 – 103 ในปี พ.ศ. 2401 รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้มีการออกหนังสือพิมพ์ของ คนไทยฉบับแรกชื่อว่า ราชกิจจานุเบกษา” เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ทีตีพิมพ์แจกจ่ายใน วงราชการและราษฎร โดยพระองค์ทรงเป็นบรรณาธิการเอง แต่ออกได้แค่ปีเดียวก็ต้องเลิกไป และต่อมในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำซ้ำขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2417 โดยให้ออกเป็นรายสัปดาห์

33.       สำนักข่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุใด

(1) มีข่าวต่างประเทศมากขึ้น  

(2) เป็นธุรกิจที่มีกำไรดี

(3) หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้ง         

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 62 – 63 ในศตวรรษที่ 18 ข่าวที่หามาเสนอได้ยาก แต่เป็นที่สนใจของประชาชน คือ ข่าวต่างประเทศ แต่เนื่องจากหนังสือพิมพ์ไม่กล้ารับภาระส่งผู้สื่อข่าวไปประจำในต่างประเทศ เพื่อสื่อข่าวเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้หนังสือพิมพ์หลายฉบับร่วมกันก่อตั้งธุรกิจสำนักข่าว (News Agencies) ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งข่าวต่างประเทศที่สำคัญของหนังสือพิมพ์ในสมัยนั้น

34.       ผู้ใดจะได้รับมอบหมายให้ทำข่าวการต่อสู้คดีเขาพระวิหารที่ศาลโลก

(1) ผู้สื่อข่าวทั่วไป        (2) ผู้สื่อข่าวประจำ      (3) ผู้สื่อข่าวพิเศษ        (4) ผู้เรียบเรียงข่าว

ตอบ 3 หน้า 131 ผู้สื่อข่าวพิเศษ (Special Assignment Reporter หมายถึง ผู้สื่อข่าวเฉพาะ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความชำนาญสูง และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือมีความรู้ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมักจะได้รับมอบหมายให้สื่อข่าวเฉพาะเรื่อง ซึ่งหนังสือพิมพ์เห็นว่ามีความสำคัญที่อาจจะต้องสื่อข่าวประเภทวิเคราะห์เจาะลึก หรือสื่อข่าว ที่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์มาก เช่น ข่าวการเมืองข่าวต่างประเทศข่าวเศรษฐกิจข่าวกีฬาข่าวสังคม สตรี และวัฒนธรรม ฯลา

35.       ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์

(1) บรรณาธิการใหญ่  (2) เจ้าของผู้ลงทุน    (3) บรรณาธิการบริหาร (4) หุ้นส่วนผู้ลงทุน

ตอบ 1 หน้า 120127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านนโยบาย วางแผนด้านธุรกิจ กำหนดทิศทาง ของหนังสือพิมพ์ และมีอำนาจหน้าที่สังการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กรหนังสือพิมพ์ ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ดีได้

36.       ตามสายการเดินทางของข่าวการเมือง ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) จัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์           (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

1.         ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ

2.         บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ 3. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว

4.         บรรณาธิการจัดหน้า   5. ฝ่ายผลิต     6. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์

37.       ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนแรกของงานได้แก่

(1) ประชุมกองบรรณาธิการ    (2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว

(3) แปลข่าว     (4) พาดหัวข่าว

ตอบ 2 หน้า 132135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศจะมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้

1.         บรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สำนักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/

วารสารต่างประเทศ และสำนักข่าวไทย

2.         ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว

3.         แปลข่าว         4. ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว         5. บรรณาธิการจัดหน้า

6.         ฝ่ายผลิต         7. ฝ่ายจัดจำหน่ายหนังลือพิมพ์

ข้อ 38. – 43. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) สารคดี โฆษณา     (2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน

(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น        (4) ภาพข่าว โฆษณา

38.       ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1

ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็นหน้าสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้

1.         ขอหนังสือพิมพ์           2. ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)

3.         ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด)         4. ภาพข่าว 5. สารบัญข่าว 6. โฆษณา

7.         คอลัมน์ประจำ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ส่วนตัว ของบรรณาธิการ

39.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ

ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้     1. บทบรรณาธิการ

2.         ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ

3.         จดหมายถึงบรรณาธิการ        4. เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)

5.         องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขำขัน การ์ตูนที่เป็นเรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

40.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ

ตอบ 2 หน้า 161171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ำที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ควร จัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

41.       ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน

ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าใน มีดังนี้         

1. โฆษณา 2. ภาพ 3. หัวเรื่อง 4.คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนำ ขำขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

42.       ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

43.       ข้อใดสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 39. ประกอบ

44.       ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด

(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า 

(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม 

(3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง  

(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน

ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆโดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

45.       คอลัมน์ คืออะไร

(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน          (2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง

(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กำหนด    (4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนด

ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คำบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสำคัญ ตรงที่ทำให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กำหนดได้ง่ายขึ้น

46.       ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ

(1) การจัดหน้า            (2) การเรียงพิมพ์         (3) การพาดหัวข่าว      (4) การพิสูจน์อักษร

ตอบ 2 หน้า 120 – 121124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมิหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสำหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับ เสร็จแล้วก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดำเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้นฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจำหน่ายต่อไป

47.       ข้อใดไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว

(1)       โต๊ะข่าวกีฬา    (2)       ห้องบรรณาธิการ         (3)       ห้องภาพ          (4)       ห้องสมุด

ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คำบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าวจาก ผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

48.       ผู้ใดไม่จำเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ

(1)       บรรณาธิการบริหาร     (2) บรรณาธิการข่าว    (3)       บรรณาธิการโต๊ะขาว   (4)       บรรณาธิการภาพ

ตอบ 1 หน้า 137, (คำบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ และผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ

1.         คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)

2.         พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของข่าว          3. วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะให้แง่คิดในการติดตามข่าว      4. พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

49.       โต๊ะข่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ

(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ   (2) โต๊ะข่าวการเมือง    (3)       โต๊ะข่าวกีฬา    (4)       โต๊ะข่าวในประเทศ

ตอบ 4 หน้า 127134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสำคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ฯลฯ มีข่าวใดที่กำลังได้รับ ความสนใจจากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณา ตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสำคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

50.       งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ

(1) การจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์          (2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก

(3) การขอโฆษณา       (4) การออกระเบียบการทำงานของผู้สื่อข่าว

ตอบ 4 หน้า 123 งานที่สำคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่

1.         งานด้านบริหาร-ธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งาบการเงิน-บัญชี งานพัสดุ ฯลฯ

2.         งานด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจำหน่ายและงานโฆษณา (ถือเป็นงานหลักของฝ่ายจัดการ)

รวมทั้งงานการพิมพ์ ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างจาก การพิมพ์หนังลือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ)

51.       ผู้ใดทำหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว

(1) Editor   

(2) Copy Reader

(3) Proof Reader

(4) Reporter

ตอบ 2 หน้า 124 – 125132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทำหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คำ การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

52.       หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด

(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์    

(2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก

(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท           

(4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา

ตอบ 1 หน้า 126, (ดำบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และ ขนาดเล็ก รวมทั้งหนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท และหนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา เพราะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์มีบุคลากรเพียงแค่ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน) เท่านั้น

53.       หลักการใดไมใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์

(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา (2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย

(3) การจัดแบบ Well หน้าเดี่ยว       (4) การจัดแบบ Well สองหน้าคู่

ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (ดำบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ 1. แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)         2. แบบ Well หน้าเดี่ยว 3.แบบ Well สองหน้าคู่   4. แบบ Island (แบบเกาะ) 5. แบบแนวนอนล่าง 6.แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

54.       หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสำคัญที่สุด

(1) ความสวยงาม        (2) ความสมดุล           (3) ความเด่น   (4) ความหลากหลาย

ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับหลักการ ทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ1. การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance) 2. การลำดับความสำคัญของเรื่อง

55.       ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชิ้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์

(1) ฝ่ายบรรณาธิการ   (2) ฝ่ายศิลป์    (3) ฝ่ายผลิต    (4) ฝ่ายจัดการ

ตอบ 4 หน้า 123163, (ดูดำอธิบายข้อ 50. ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณา ซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการมากกว่าจะเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สำหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจำเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

56.       หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา

(1) หน้าบรรณาธิการ   (2) หน้ากลาง  (3) หน้าใน       (4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจำเป็นต้องมีก็ควรจัดตำแหนงให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดำจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

57.       ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกขวา คืออะไร

(1) ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป            (2) ยอดพีระมิดทางซ้ายมือควรให้มีระดับต่ำ ๆ

(3) ไม่ควรมีโฆษณาซ้อนกันเกิน 2 ชิ้น (4) ควรให้โฆษณาชิ้นใหญ่ซ้อนบนชิ้นเล็ก

ตอบ 1 หน้า 164 – 165 ข้อควรระวังสำหรับการจัดโฆษณาแบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา คือ ยอดพีระมิดทางขวามือไม่ควรอยู่สูงเกินไป เนื่องจากจะมีเนื้อที่ของข่าวทางด้านขวาบน และดูเหมือนมีโฆษณาจำนวนมากจนเนื้อหาอื่น ๆ มีน้อย

58.       Dead Copy คืออะไร

(1)       แบบของพาดหัวข่าว    (2) ชิ้นข่าวที่เคยใช้แล้ว เก็บไว้ใช้อีก

(3) ข่าวเกี่ยวกับการตายของบุคคลสำคัญ      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ. 2 หน้า 125 Dead Copy คือ ชิ้นข่าวหรือหลักฐานที่เคยใช้แล้ว ซึ่งจะถูกเก็บรวบรวมไว้ใน ห้องสมุด เพื่อเป็นข้อมูลที่สามารถจะนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกในภายหลังเมื่อมีการอ้างอิงถึง หรือต้องนำมาประกอบการเขียนเป็นภูมิหลังให้กับข่าวหรือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

59.       Size คือ ขนาดของตัวอักษรมีหน่วยวัดเป็นอะไร

(1)       เซนติเมตร (Centimetre)         (2) นิ้ว (Inch)

(3) พอยท์ (Point)   (4) ไพก้า (Pica)

ตอบ ….3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (หรือเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร)

60.       อัตราค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชิ้นอยู่กับปัจจัยใดมากที่สุด

(1)       ขนาดของเนื้อที่ที่ใช้โฆษณา    (2) การเลือกหน้าพิมพ์โฆษณา

(3) ตำแหน่งที่วางชิ้นงานโฆษณา        (4) จำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์

ตอน 4 หน้า 160, (คำบรรยาย) อัตราค่โฆษณาในหนังสือพิมพ์นอกจากจะขึ้นอยู่กับปัจจัยในตัวเลือกข้อ 1-3 แล้ว ยังขึ้นอยู่กับจำนวนจำหน่ายของหนังสือพิมพ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ มากที่สุด เนื่องจากหนังสือพิมพ์ที่มีจำนวนจำหน่ายสูงก็มักจะมีอัตราค่าโฆษณาที่สูงตามไปด้วย และบริษัทร้านค้าก็ยินดีจะจ่ายค่าโฆษณาสูง ๆ เพื่อลงโฆษณาสินค้าของตน เพราะคาดหวังว่า เมื่อลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ แล้วจะขายสินค้าได้มากขึ้น

ข้อ 61. – 67. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       การจัดหน้าแบบแนวตั้ง (Vertical)          

(2) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ (Broken หรือ Circus)

(3) การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal)       

(4) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus)

61.       ถือว่าทุกข่าวมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

ตอบ 2 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้าที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

62.       อาจทำให้ผู้อ่านสับสน แต่ดึงดูดความสนใจได้ดี

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

63.       จัดหน้าง่าย สามารถใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด

ตอบ 3 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาวตลอดหน้า หรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้าได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กันได้หลายแบบ หลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ง่ายกว่า การจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

64.       มักใช้ช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน

ตอบ 1 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดหน้าแบบแนวตั้งหรือแนวดิ่ง (Vertical) จะเน้นลักษณะการวางข่าวในคอลัมน์เดี่ยวตามความยาวใต้หัวข่าวเป็นแนวลึกตลอดคอลัมน์ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่ข่าว 2 ข่าวจะมาชิดติดกัน (Tombstone) ได้ง่าย ดังนั้นจึงมักป้องกันความสับสนโดยใช้พื้นที่ หรือช่องว่างระหว่างคอลัมน์ในการแยกข่าวที่มาชิดติดกัน และใช้ความแตกต่างในเรื่องของ ขนาดตัวอักษรพาดหัวข่าว

65.       สามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้ชัดเจน

ตอบ ไม่มีข้อใดถูก หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสำคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทำให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการนำเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริง ซึ่งจะดูเรียบเกินไป

66.       ใช้เพื่อเน้นความเด่นให้แก่ข่าวใดข่าวหนึ่งเป็นพิเศษ

ตอบ 4 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสำคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่นๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกำหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสำคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นที่มีความสำคัญ น้อยลงมาโดยจัดวางตำแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบนขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

67.       จัดโดยวางตำแหน่งของข่าวต่าง ๆ ให้ลดหลั่นแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ

68.       จุดที่สำคัญน้อยที่สุดบนหน้าพิมพ์คู่ คืออะไร

(1)       ส่วนบนด้านขวาของหน้าขวา   (2) ส่วนบนด้านขวาของหน้าซ้าย

(3) กลางหน้ากระดาษหน้าซ้าย           (4) ส่วนล่างสุดของหน้าขวา

ตอบ 4 หน้า 143 – 145 ตำแหน่งที่น่าสนใจที่สุดของการจัดหน้าพิมพ์คู่นั้นได้แก่ มุมขอบบนด้านริมสุดของแต่ละหน้า (มุมบนขวาของหน้าพิมพ์ด้านขวา และมุมบนซ้ายของหน้าพิมพ์ด้านซ้าย) โดยความสนใจนี้จะค่อย ๆ สำคัญน้อยลงไปตามลำดับเมื่อตำแหน่งเลื่อนต่ำลงมาด้านล่างของ แต่ละหน้า และเลื่อนไปตรงรอยพับกลางเล่มของหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นจุดที่เรียกความสนใจได้ น้อยที่สุด

69.       สิ่งพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์เรียกว่า Coranto แปลว่าอะไร

(1)       News Sheets (2) News Letters (3) News and Feature (4) Current of News

ตอบ4 หน้า 55 สิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีรูปลักษณ์อย่างหนังสือพิมพ์ แต่ยังมิได้ใช้คำศัพท์ว่า หนังสือพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เรียกว่าโครับโต้ (Coranto) แปลว่า กระแสข่าว (Current of News) ซึ่งโครันโต้ 1 ฉบับจะมีเนื้อหาสาระประเภทข่าวทั้งข่าวสารราชการ ข่าวการค้า และ ข้อเขียนอื่น ๆ โดยแสดงเจตนาว่าจะออกหนังสือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

70.       หนังสือพิมพ์ The Times เกิดขึ้นในยุคใด

(1)       ยุคอำนาจนิยม (2) ยุคเรียกร้องเสรีภาพ

(3) ยุคประชานิยม       (4) ยุคปลายศตวรรษที่ 20

บ-2 หน้า 5861 ในยุคเรียกร้องเสรีภาพของสหราชอาณาจักร นักธุรกิจชาวอังกฤษชื่อว่าจอห์น วอสเตอร์ที่ 1 (John Walter I) ได้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Daily Universal Register ขึ้นในปี ค.ศ. 1785 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1788 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ The Times ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

71.       หลักการที่ว่า ถ้าการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน การรายงานข่าวนั้น ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท” เกิดจากกรณีใด

(1)       โจเซฟ พูลิตเซอร์ บริจาคเงินเพื่อการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์

(2)       จอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ เขียนบทความโจมตีรัฐบาล แต่มีทนายความช่วยแก้คดีให้

(3)       ประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปสิ่งพิมพ์ หลังจากยุคหนังสือพิมพ์ขาดจรรยาบรรณ

(4)       การลดอิทธิพลชองหนังสือพิมพ์บราฟด้า หลังการล่มสลายของอำนาจคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย

ตอบ 2 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอบดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ .และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะในที่สุด และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดี ตัวอย่างเกี่ยวกับการทำงานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสำคัญ ของกฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สำคัญในการทำงานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

72.       การจัดคอลัมน์แบบเปิด คืออะไร

(1)       คอลัมน์ที่รับฟังความคิดเห็นจากผู้อ่าน

(2)       การจัดหน้าที่ใช้สีพื้นต่างกันเพื่อแยกคอลัมน์

(3)       การจัดหน้าที่ใช้ช่องไฟ (เนื้อที่ข่าว) เพื่อแยกคอลัมน์

(4)       การจัดหน้าที่ใช้การตีเส้น เพื่อแบ่งแยกคอลัมน์

ตอบ 3 หน้า 149, (คำบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

1.         คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว)เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทำให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทำให้ผู้อ่านหลงข่าวได้

2.         คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นลัดส่วน จึงจัดหน้าได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

73.       คอลัมน์ประจำ คืออะไร

(1) ข้อเขียนที่มีผู้รับผิดชอบประจำ      (2) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน

(3) ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกสัปดาห์           (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 47147161 คอลัมน์ประจำ คือ ข้อเขียนที่ตีพิมพ์ทุกวัน หรือตีพิมพ์เป็นประจำในบางวัน ของสัปดาห์ก็ได้ เช่น ทุกวันอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อเขียนประเภทนี้มักจะมีชื่อผู้เขียนหรือผู้รับผิดชอบ ประจำ โดยอาจใช้นามจริงหรือนามแฝงก็ได้ เช่น คอลัมน์จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา ฯลฯ

74.       การกลับบล็อก คืออะไร

(1) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นดำ          (2) การทำตัวหนังสือเป็นสีเทาบนพื้นขาว

(3) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นเทา        (4) การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ

ตอบ 4 หน้า 163, (คำบรรยาย) ปกติหนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจะใช้ตัวพิมพ์สีดำบนพื้นขาว แต่บางครั้ง เมื่อมีการจัดข่าวติดกันหรือต้องการให้หัวเรื่องนั้น ๆ แตกต่างไปจากหัวเรื่องธรรมดาก็สามารถ ใช้วิธีการกลับบล็อกได้ คือ การทำตัวหนังสือเป็นสีขาวบนพื้นดำ เพื่อให้หัวข่าวมีความแตกต่างกัน

75.       Ears คืออะไร

(1) เนื้อที่ส่วนข้างของชื่อหนังสือพิมพ์  (2) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Logo ของหนังสือพิมพ์

(3) เนื้อที่สำหรับตีพิมพ์ Slogan ของหนังสือพิมพ์   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 146155, (ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ) ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears) หมายถึงส่วนประกอบหรือเนื้อที่ที่วางอยู่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างของชื่อหนังสือพิมพ์ เพื่อช่วยให้ จัดหน้าได้ง่าย โดยสาระของ Ears ประกอบด้วย ข่าวสั้น รายงานอากาศ ประกาศ ข้อความ รณรงค์หรือส่งเสริมกิจการหนังสือพิมพ์ และโฆษณา

76.       การ Screen หมายถึงอะไร

(1) การล้อมกรอบข้อความเพื่อให้เด่น (2) การรับงานโฆษณาที่ต้องออกแบบให้ลูกค้าด้วย

(3) การแบ่งเนื้อที่ให้เป็นสัดส่วนก่อนพิมพ์ข้อความ (4) การทำพื้นให้เป็นสีเทาก่อนพิมพ์ข้อความ  

ตอบ 4 หน้า 180182 – 183, (คำบรรยาย) การสกรีน (Screen) หมายถึง เทคนิคการจัดหน้าหนังสือพิมพ์ โดยการลงสีเทาบนพื้นกระดาษขาวก่อนพิมพ์ข้อความ ซึ่งจะคิดระดับความเข้ม ของการสกรีนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงมีประโยชน์ต่อการจัดหน้าพิมพ์เพื่อให้น่าสนใจ และมีความแตกต่างจากข้อความอื่น (ไม่ทำให้สับสน)

77.       พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ที่ใช้ในปัจจุบัน คือฉบับใด

(1) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484           (2) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2540

(3) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550           (4) พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2552

ตอบ 3 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับส่าสุดทีประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

78.       ตาม พ.ร.บ. การพิมพ์ ข้อใดทำให้เป็นบรรณาธิการไม่ได้

(1) เป็นหญิงแต่งงานกับชาวต่างชาติ  (2) ถูกลงโทษในคดีความฐานลหุโทษ

(3) มีสัญชาติต่างประเทศที่มีสนธิสัญญาร่วมกับ        (4) ไม่มีถิ่นที่อยู่ประจำในประเทศไทย

ตอบ 4 (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ระบุว่า บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้ 1. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

2.         มีสัญชาติไทย หรือสัญชาติแห่งประเทศที่มีสนธิสัญญากับประเทศไทย

3.         มีถิ่นที่อยู่ประจำในราชอาณาจักร 4. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ 5. ไม่เคยต้องโทษตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเป็นความผิดโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

79.       เหตุผลสำคัญที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. การพิมพ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ

(1)       ต้องส่งหนังสือพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ

(2)       เป็นการรวมสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทเข้าด้วยกัน ไม่ได้แยกส่วนของหนังสือพิมพ์ออกมาโดยเฉพาะ

(3)       เจ้าพนักงานต้องจดแจ้งการพิมพ์ให้ทุกราย

(4)       สามารถมีหุ้นส่วนเป็นชาวต่างชาติได้

ตอบ 4 (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงถึงความทันสมัยของ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ที่ใช้กันอยู่ ในปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การให้ชาวต่างชาติมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของ หนังสือพิมพ์ได้ ดังที่มาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ที่เป็นนิติบุคคล ต้องมีบุคคล ซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการผู้มีสัญชาติไทย ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด

80.       เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวของปัจเจกชนคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ใน พ.ร.บ. การพิมพ์ กำหนดให้ ปัจเจกชนทำอย่างไร

(1) แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร้องทุกข์และจับกุม        (2) ทำหนังสือขอให้บรรณาธิการแก้ข่าว

(3) ให้ทนายความดำเนินการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์      (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 หน้า 204 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 41 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ใดโฆษณาเรื่องเกี่ยวกับบุคคลใดคลาดเคลื่อนจากความจริงและอาจจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลนั้น บุคคลนั้น อาจแจ้งเป็นหนังสือขอให้บรรณาธิการหนังสือพิมพ์นั้นแก้เอง หรือลงพิมพ์หนังสือซึ่งแก้หรือ ปฏิเสธเรื่องนั้น

81.       การเรียกร้องตามข้อ 80. จะต้องกระทำภายในระยะเวลาเท่าใด

(1) 2 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(2) 4 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

(3) 6 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน   

(4) 8 เดือน นับจากวันที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน

ตอบ 3 หน้า 205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 43 วรรค 4 ระบุว่า สิทธิขอให้แก้หรือลงหนังสือที่แก้หรือปฏิเสธตามมาตรา 41 นั้น เป็นอันระงับลงภายหลัง 6 เดือน นับแต่วันที่ หนังสือพิมพ์นั้นออกโฆษณาหรือลงข่าวคลาดเคลื่อน

82.       การเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาของหนังสือพิมพ์จะสิ้นสุดลงในกรณีใด

(1)       เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 วัน

(2)       เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (1 เดือน)

(3)       เป็นหนังสือพิมพ์รายปักษ์ แต่มิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ครั้ง (2 เดือน)

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 6205 พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 45 ระบุว่า หนังสือพิมพ์รายวันถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 30 วัน หรือหนังสือพิมพ์รายคาบ (ซึ่งก็คือ หนังสือพิมพ์ที่ไมใช่รายวัน แต่ละคาบอาจเป็น 7 วัน (รายสัปดาห์)15 วัน (รายปักษ์) ฯลฯ) ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 4 คราวหรือเกินกว่า 2 ปี การเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และเจ้าของหนังสือพิมพ์นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง

83.       เหตุผลในการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 คือข้อใด

(1)       เป็นกฎหมายที่ล้าสมัยไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน

(2)       เป็นกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติ ควรยกเลิกโดยเร็ว

(3)       มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา

(4)       ขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ยากต่อการใช้งานจริง

ตอบ 3 หน้า 118, (คำบรรยาย) เหตุผลในการประกาศพระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 (ปร. 42) คือ ปร. 42 มีบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ ในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณาที่ไม่เหมาะสมกับภาวการณ์ปัจจุบัน (ในขณะนั้น)ซึ่งมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยรับรองและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดังกล่าว จึงเป็นเหตุ ให้มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเป็นอย่างมาก

84.       เหตุผลที่แยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไป คือ

(1)       ถือว่าเด็กและเยาวชนยังขาดวุฒิภาวะ มักจะกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

(2)       การพิจารณาคดีจะใช้หลักเมตตาธรรม

(3)       เพื่อป้องกันการติดตามเสนอข่าวของสื่อมวลชน

(4)       เด็กและเยาวชนมักทำความผิดที่ไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่

ตอบ 1 หน้า 213, (คำบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ค. 2534 ได้ให้เหตุผล ที่ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทำ ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทำความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจำเป็นบางประการ

85.       ข้อใดบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว

(1)       ห้ามเปิดเผยสถานที่อยู่ของเยาวชนที่กระทำความผิด

(2)       ห้ามเปิดเผยชื่อสถานศึกษาของเยาวชนที่กระทำความผิด

(3)       ห้ามตีพิมพ์รูปภาพของเยาวชนที่กระทำความผิด

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุลของเด็กหรือ เยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทำความผิด สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

86.       หลักการสำคัญของ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว คืออะไร

(1) ให้เด็กและเยาวชนได้รับโทษสถานเบา      (2) เปิดโอกาสให้เติบโดโดยไม่มีปมด้อย

(3) ไม่ให้เด็กและเยาวชนรับโทษเหมือนผู้ใหญ่            (4) ส่งเสริมการศึกษาสำหรับเยาวชนที่ทำผิดกฎหมาย

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 84. ประกอบ

87.       คำว่าเด็ก หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 3 ปี แต่ไม่ถึง 7 ปี          (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 5 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ไม่เกิน 14 ปี      (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

ตอบ 3 หน้า 213 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ระบุว่า เด็ก” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 7 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ เยาวชน” หมายถึง บุคคลอายุเกิน 14 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์

88.       คำว่าเยาวชน หมายถึงอะไร

(1) บุคคลที่มีอายุเกิน 10 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี     (2) บุคคลที่มีอายุเกิน 12 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี

(3) บุคคลที่มีอายุเกิน 14 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี     (4) บุคคลที่มีอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 19 ปี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ

89.       จริยธรรม หมายถึงอะไร

(1) ความประพฤติที่ถูกธรรม   (2) ความประพฤติตามวัฒนธรรม

(3) การทำงานด้วยความมีเมตตา        (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 หน้า 217 สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายของคำว่า จริยธรรม” ว่าหมายถึง หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์ หรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติที่ถูกธรรม หรือความประพฤติที่เป็นธรรม

90.       จริยธรรม แตกต่างจากกฎหมายในข้อใด

(1) กฎหมายเข้มงวดกว่าจริยธรรม      (2) จริยธรรมเข้มงวดกว่ากฎหมาย

(3) กฎหมายมีบทลงโทษ แต่จริยธรรมไม่มี      (4) กฎหมายเน้นระเบียบของฝ่ายปกครองบ้านเมือง

ตอบ 3 หน้า 195217232, (คำบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องกำกับและมีกฎหมายเป็นเครื่องควบคุม โดยจริยธรรมและกฎหมายมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.         จริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย เพราะความประพฤติบางอย่างไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม

2.         จริยธรรมไม่มีบทลงโทษที่ระบุไว้อย่างเด่นชัดเหมือนกฎหมาย ดังนั้นความรับผิดชอบทาง จริยธรรมจึ่งขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความสมัครใจในการที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ก็ได้

ข้อ 91. – 92.    จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       จริยธรรมมีคุณค่ามากกว่าจรรยาบรรณ

(2)       จริยธรรมมีความหมายเหมือนจรรยาบรรณ

(3)       จริยธรรมเน้นที่จิตสำนึก จรรยาบรรณเน้นที่ข้อกำหนด ซึ่งตราขึ้นไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

(4)       จริยธรรมเน้นการปฏิบัติรายบุคคล จรรยาบรรณเน้นการปฏิบัติของกลุ่ม

91.       จริยธรรมเหมือนกับจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 2 หน้า 217, (คำบรรยาย) ฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่า ความหมายของจริยธรรมและ จรรยาบรรณไม่แตกต่างกัน แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่จริยธรรมจะเน้นที่จิตสำนึกของบุคคล ในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร ส่วนจรรยาบรรณจะเน้นหลักปฏิบัติ ซึ่งกำหนดเอาไว้ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นข้อบังคับหรือข้อเตือนใจของบุคคล

92.       จริยธรรมต่างจากจรรยาบรรณในข้อใด

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93.       สมาคมวิชาชีพใดที่ใช้หลักของพุทธคาสนามากำหนดจริยธรรมของคนในวิชาชีพ

(1) สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ  

(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        

(4) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ตอบ 4 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กำหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ค. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้

1.         ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)

2.         ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)

3.         ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)

4.         ความจริงใจ (สัจจะ)

5.         ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)

6.         ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)

7.         ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

94.       ความจริงใจ ตรงกับธรรมปฏิบัติข้อใด

(1) สุปฏิบัติ     (2) สัจจะ         (3) อกุศลมูล    (4) กิจญาณ

ตอบ 2 หน้า 227, (ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ) ความจริงใจ ได้แก่ ความไม่มีเจตนาบิดเบือน เมื่อผิดพลาดต้องรีบแก้ไข ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนาคือ สัจจะ

95.       การแสดงตนว่าเป็นผู้สื่อข่าวเพื่อเข้าชมการแสดงโดยไม่ซื้อบัตรเช้าชม เป็นการผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) การประพฤติตนเสื่อมศักดิ์ศรี        (2) การเรียกร้องผลประโยชน์โดยมิชอบ

(3) การรับอามิสสินจ้าง           (4) การรับอภิสิทธิ์

ตอบ 2 หน้า 228 – 229231 จรรยาบรรณของสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 ข้อ 5. ระบุว่า ผู้สื่อข่าวจักต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยมุ่งหวังต่อสาธารณประโยชน์ ไม่ใช้ตำแหน่ง หน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือหมู่คณะใด ๆ โดยไม่ชอบธรรม ส่วนข้อบังคับว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 21. ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ต้องไม่อวดอ้างหรืออาศัยตำแหน่งหน้าที่เพื่อเรียกร้องสิทธิหรือ ผลประโยชน์ใด ๆ ที่ไม่ชอบธรรม

96.       การไม่ยอมตีพิมพ์ข้อความเพื่อแก้ข่าวที่เคยลงตีพิมพ์ผิดพลาด ผิดจรรยาบรรณข้อใด

(1) โทสาคติ     (2) โมหาคติ     (3) ภยาคติ      (4) สัจจะ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 94. ประกอบ

97.       ข้อใดไม่จัดว่าเป็นจรรยาบรรณ

(1)       การลงข่าวเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(2)       การส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์

(3)       การสัญญาว่าจะนำเรื่องที่ตีพิมพ์แล้วไปให้เพื่อเป็นอภินันทนาการ

(4)       การนำเรื่องตีพิมพ์แก้ข่าว กรณีที่เคยตีพิมพ์ผิดพลาด

ตอบ 3 หน้า 226229 – 230 จรรยาบรรณนักหนังสือพิมพ์ของสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2507 ข้อ 7. ระบุว่า ต้องรักษาส่งเสริมเกียรติคุณและชื่อเสียงแห่งความเป็นนักหนังสือพิมพ์ ไว้เป็นอย่างดี ส่วนข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ของสภาการหนังสือพิมพ์ แห่งชาติ พ.ศ. 2541 ข้อ 5. ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ และ ข้อ 12. ระบุว่า ในกรณีที่มีการเสนอข่าวผิดพลาด หนังสือพิมพ์ต้องลงพิมพ์แก้ไขข้อผิดพลาด ดังกล่าวโดยไม่ชักช้า

98.       การตรวจข่าวก่อนตีพิมพ์ (เซ็นเซอร์) ทำได้ในกรณีใด

(1) เมื่อประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม           (2) เมื่อมีการตีพิมพ์เรื่องที่อาจจะขัดต่อศีลธรรมอันดี

(3) เมื่อตีพิมพ์เรื่องที่เป็นความลับของทางราชการ (4) ห้ามเซ็นเซอร์ไม่ว่ากรณีใด ๆ

ตอบ 1 รัฐธรรมนูญฯ ฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2550 มาตรา 45 วรรคห้า ระบุว่า การให้นำข่าวหรือบทความไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนนำไปโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนอื่น (Censor) จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะกระทำในระหว่างเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม แต่ทั้งนี้จะต้อง กระทำโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งได้ตราขึ้นตามวรรคสอง

99.       ผู้ใดต้องรับผิดชอบกรณีตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์

(1) เจ้าของบทประพันธ์ (2) บรรณาธิการ        (3) ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 หน้า 127, (คำบรรยาย) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา จะทำหน้าที่รับผิดชอบในด้าน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์ ซึ่งตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามมาตรา 10 (ว่าด้วยการ ห้ามสั่งเข้า นำเข้า หรือตีพิมพ์สิ่งพิมพ์ที่ไม่พึงประสงค์) มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

100.    ปัจจุบันสถาบันใดดูแลจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด

(1) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์      (2) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

(3) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ        (4) สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวอาเซียน

ตอบ 3 หน้า 229, (คำบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่ง วิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่า มีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 5

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 5

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       เทคโนโลยี 

(2) ความสำคัญของเทคโนโลยี 

(3) สื่อดั้งเดิม 

(4) สื่อใหม่ 

(5) ภาษาระบบตัวเลข

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์และองค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) คำว่า เทคโนโลยี ครอบคลุมความหมาย 2 ประการ 

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2.         องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

2.         เป็นสื่อที่ผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1- หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver” คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร ก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น 

2. เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

3.         สื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Active Seeker” คือ เป็นฝ่ายแสวงหาข้อมูลข่วสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความสงสัยอยากรู้อยากเห็นของตัวเองโดยอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ หรืออินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) โดยคาดหวังว่าสื่อใหม่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้แสวงหาข่าวสารได้มีประสิทธิภพมากกว่าสื่อแบบดั้งเดิม เนื่องจาก สื่อใหม่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของสื่อแบบดั้งเดิม

3.         เป็นสื่อที่มีความซับช้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อ และการเข้าถึงสื่อ ดังนั้นผู้รับสารบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่าจะไมคุ้นเคยกับการเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ และไม่ยอมรับหรือเข้าไมถึงสื่อใหม่

4.         ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประหยัดในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 3), (คำบรรยาย) ความสำคัญของเทคโนโลยี คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ ในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนางานสาขาใดสาขาหนึ่ง รวมทั้งด้านการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดี 3 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ ช่วยให้การทำงาน บรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 2. ประสิทธิผล (Productivity) คือ ช่วยให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มที่หรือมากที่สุด ในเวลารวดเร็ว 3. ประหยัด (Economical) คือ ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน

5.         ผู้รับสรมีลักษณะ “Active Seeker”

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับหรือ อินเตอร์แอคทีฟ (Interactive)

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

7.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver”

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

8.         ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) ในทางเศรษฐศาสตร์ คำว่า เทคโนโลยี คือ ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ รวมถึงความรู้ที่ว่าเราสามารถผลิตอะไร ได้บ้าง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นเมื่อความรู้ทางเทคนิคของเราเพิ่มขึ้น

9.         เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองศตวรรษที่ผ่านมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 5) การพัฒนาของสื่อที่ใช้ในการสื่อสารรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอย่างมากเมื่อประมาณ 2 ศตวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติได้สัมผัสกับภาษาระบบตัวเลข (Digital Language) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารทุกรูปแบบ

10.       ข้อใดต่อไปนี้กลาวไว้ไม่ถูกต้อง

(1)       ภษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์

(2)       ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(3)       ภาษาพูด เป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน

(4)       มนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับภาษาเขียนมานานกว่า 2 ล้านปี

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) กล่าวคือ ภาษามีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change) ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ โดยภาษาพูด (Spoken Language) เป็นสัญญาณทาง การสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน (Written Language) ซึ่งมนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับ ภาษาเขียนมานานร่วม 6 ล้านปี

11.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อ การสื่อสารในข้อใดต่อไปนี้           

(1) ประหยัดเวลาและแรงงาน

(2)       สะดวก รวดเร็ว            

(3) ช่วยให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว

(4) ได้ผลผลิตมากในเวลารวดเร็ว

ตอบ2 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) สื่ออินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร แบบดิจิตอล (Digital) มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อการสื่อสาร คือ ทำให้ การติต่อสื่อสารของมนุษย์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และการรับส่งข้อมูลเป็นไปโดยสะดวกในชั่วพริบตา

12.       ข้อใดต่อไปนี้จัอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)  

(1) หนังสือพิมพ์หัวสี

(2)       หนังสือพิมพ์ออนไลน์   

(3) หนังสือพิมพ์แทบลอยด์     

(4) หนังสือพิมพ์บรอดชีท

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) ซึ่งส่งผล ให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web,

สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

13.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อทีเกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 12. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดอยู่นิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       สื่อใหม่ เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า Interactive หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร .

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รันสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 317), (ค่าบรรยาย), (ดูค่าอธิบายข้อ 3. ประกอบ) Interactive หรือ ปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) จากผู้รับสาร ไปยังผู้ส่งสารอย่างทันทวงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) โดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสารจะเป็นลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ที่แท้จริงหรือนิรนามในขณะที่ดำเนินการสื่อสาร

16.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Passive Receiver มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

(2)       ผู้รับสารที่ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

(3)       ผู้รับสารที่มีลักษณะเหงาหงอย เซื่องซึม         (4) ผู้รับสารที่ขาดทักษะทางด้านการอ่านออกเขียนได้

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

17.       …………….ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของ…………(จงเติมคำในช่องว่างทั้งสองแห่งตามลำดับ)

(1)       สื่อใหม่/สื่อดั้งเดิม        (2) สื่อดั้งเดิม/สื่อใหม่  (3) สื่อมวลชน/สื่อท้องถิ่น (4) สื่อท้องถิ่น/สื่อมวลชน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสื่อพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่าน ในสังคม แม้ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์จะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คน มากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูลข่าวสารซ้ำได้ โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลข้อใดที่ทำให้ คนรุ่นเก่าไม่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใหม่

(1)       เพราะเป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรูในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เพราะเป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data)มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบ หรือจัดระเบียบ และไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูล ที่ผ่านกระบวนการจัดการหรือมีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

21.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่จัดอยู่ในประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Property      

(2) Information Privilege

(3)       Information Accuracy      

(4) Information Privacy

ตอบ 2 (สวนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มี 4 ประเด็น 

1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 

3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)

4.         การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรม ต้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด

(1)       ความถูกต้อง   

(2) ความเป็นส่วนตัว   

(3) ความเป็นเจ้าของ   

(4) การเข้าถึงข้อมูล

ตอบ 2            (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดหรือการกระทำที่ขัดกับประด็นความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) คือ

1.         การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่ แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือข้อใด

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ (4) ข้อ ใ และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรวาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่ไปนี้ที่ไม่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Privacy

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Copyright หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้กอนที่จะตัดสินใจชื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ได้แก่ ซอฟต์แวรในลักษณะ Copyright หรือ Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้, Shareware คือ ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26. การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด

(1)       Information Accuracy      (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

ข้อ 27. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber Crime     (2) Hacker (3) Cracker

(4)       Hacktivist          (5) จริยธรรมผู้จัดทำสื่อ           (6) จริยธรรมผู้ใช้สื่อ

27.       กรณีการใช้โปรแกรมกล้อง Camfrog เพื่อนแสดงภาพลามกอนาจาร

ตอบ 6 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ/ผู้บริโภค คือ มักใช้สื่อในทางที่ไม่ถูกไม่ควร หรือผิดไปจากวัตถุประสงค์ของผู้จัดทำสื่อ เช่น ภารใช้โปรแกรม Camfrog เพื่อโชว์หรือแสดงภาพลามกอนาจาร การใช้เปรแกรมการสื่อสารสองทางผ่านสื่อออนไลน์เพื่อล่อลวงทางเพศ/อาชญากรรม

28.       การตระหนักถึงความเหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 12). (คำบรรยาย) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ คือ การตระหนักถึงความเหมาะสม/ไมเหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์ (เช่น ในเว็บไซต์ เกม หรือ สื่อบันเทิงอื่น ๆ) โดยควรระวังการเผยแพร่เนื้อหาดังนี้ 1. เนื้อหาหรือภาพลามกอนาจาร

2.         เนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท  3. เนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง ปลุกปั่น

ให้เกิดความแตกแยก  4. เนื้อหาที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรุนแรง ก้าวร้าว

29.       การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime หรือ Cyber Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ รวมถึงการก่อกวนโดย

1. กลุ่ม Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอินโดยผ่านการสื่อสาร เครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแกข้อมูล

2.         กลุ่ม Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ ในเชิงธุรกิจ 3. กลุ่ม Hacktivist หรือ Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยัง คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

30.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยผ่านการสื่อสารเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปทำความเสียหายแกข้อมูล

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ3 ดูคำอธิบายข้อ 29. ประกอบ

33.       กรณีการใช้โปรแกรมการสื่อสารสองทางผ่านสื่อออนไลน์เพื่อล่อลวงทางเพศ

ตอบ 6 อธิบายข้อ 27. ประกอบ

34.       การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือ CMC มาจากคำว่า

(1)       Computer Mediated Communication    

(2) Computer Mutual Communication

(3) Computer Manual Communication   

(4) Computer Managing Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication : CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทีใดๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัว

4.         เป็นสื่อที่กระจายอำนาจหน้าที่โดยไม่ถูกผูกขาดและควบคุมจากฝ่ายผู้ส่งสาร

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย…

(1) สัญลักษณ์ (2) เสียง          (3) ข้อความ     (4) ภาพ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วย ข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่าย ในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร ได้ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนก

ได้ 4 รูปแบบ ดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พรอมกัน เช่น การสื่อสารด้วย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail หรือ E-mail) 2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับ กลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook ทีผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านได้ทุกคน และมีการเขียนโต้ตอบข้อความนั้น

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสร ในเว็บไซต์ (Web site)

39.       การเขียนข้อความไว้ในเว็บไซต์ hi5 เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน         (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน     (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(3)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(4)       การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       เพราะเหตุใดจึงกล่าไว้ว่า CMC เป็นการสื่อสารที่เลือกที่รัก มักที่ชัง

(1) ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อ และอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความทีต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือ ภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal… หมายความว่า

(1) ความไม่มีตัวตน     

(2) ไมปรากฏตัวตนที่แท้จริง 

(3) ไมมีความเป็นบุคคล 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2  (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1) การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 8 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบในเชิงลบที่เป็นภัยต่อลังคมของการสื่อสาร แบบ CMC มีดังนี้ 1. การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าคาตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         การทุ่มเทเวลาให้กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้ขาดทักษะทางลังคม (Social Skills) และถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills) 3. เป็นช่องทางในการหลอกลวง หรืออำพรางตัวตนที่แห้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร 4. ถูกใช้เพื่อ สะท้อนตัวตน” มากกว่า เพื่อสร้าง ประสบการณ์ทางลังคม” ฯลฯ (การสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy เป็นผลกระทบในเชิงบวกที่เป็นมิตรต่อสังคม)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูดมากกว่า การประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและจังหวะการพูด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ 

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทเป็น ผู้ตามถาวร อีกทั้งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือ แนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม (New Media)          (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

(3) ให้ข้อมูลโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา (4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) สื่อออนไลน์ จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย โดยคุณลักษณะสำคัญของสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง      2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

3.         ให้ข้อมูลในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         น้าเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

6.         เนื้อหาเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1) สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข้าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย          

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยัง ผู้ส่งสารอย่างทันทวงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1) ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว  

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระสานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ…

(1) บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมูเพี่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารแสะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1) เพี่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร

(2)       เพี่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(3)       เพี่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม

(4)       เพี่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1. เพี่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 2. เพี่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพี่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพี่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1) ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ 

1.         ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive)

3.         ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น

4.         รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         เน้นความสำคัญของเนื้อหาข่าวเป็นหลัก ไม่ใช้สื่อประสมหรือลูกเล่นที่หวือหวามากนัก

52.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการน้าเสนอข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ บนสื่อออนไลน์ คือ 1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุ มาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต(Web Casting) 2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของ รายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี 3. มีการเก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดชองข่าวออนไลน์ ได้แก่

1.         การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

2.         ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

3.         ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่มุมผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร       

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอขาวออนไลน์ในแง่ของการไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสาร เพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเองก่อให้เกิดบัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก       

(4) ถูกทุกข้อ

อบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถ นำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1 ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณใน ความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม 2. ผู้นำเสนอข้อมูล ข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไมมีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร 3. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นภรองความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอ ข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1) ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์          (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3) แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประ เทศไทย ได้แก่   1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

2.         ระบบเศรษฐกิจของประเทศ    3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ

และแนวนโยบายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล   4. บุคลากรในการทำงาน

5.         ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของประชากรในประเทศ

6.         พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีลักษณะดังนี้

1. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น            5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น

6.         มีลักษณะความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น   7. สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบฉบับบน

World Wide Web มากขึ้น     8. สร้างความเป็นคลังข้อมูลของข่าวสารมากขึ้น

9. บริการข้อมูลข่าวสารแบบตามคำขอ (On Demand) 10. เป็นเครื่องมือด้านกาวตลาดมากขึ้น

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคต คาดว่า…

(1) แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น          (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3) สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน  (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28 – 29) เกรียงไกร ทวีโชติกิจเจริญ ได้ศึกษาและสรุปประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับแนวโน้มหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตของประเทศไทย ไว้ดังนี้ 1. กลุ่มผู้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีความหลากหลายมากกว่าในปัจจุบัน

2.         แนวโน้มเนื้อหาหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาที่ไม่มีในฉบับเล่ม

3.         แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อดั้งเดิม และลือออนไลน์ 4. ปัจจัยที่มีแนวโน้มเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ในประเทศไทยมากที่สุด คือ รัฐบาล

59.       นักศึกษาคิดว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1) ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการซื้อขายผ่าน E-commerce มากขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นแบบทุนนิยม ซึ่งเอื้อต่อ การเติบโตของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ดังนั้นแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

60.       หากต้องการส่งเสริม ให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1) พัฒนาความรู้เละทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2) ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       จัดหาคอมพิวเตอร์เพี่อให้บริการแก่ประชาชนในสถานที่สาธารณะอย่างครอบคลุม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ

มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึงสื่อ ประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสาร จากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดี ต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 68. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) อินเทอร์เน็ต            

(2) ARPANET      

(3) IP Video Conference

(4)       TCP  

(5) Stand-alone Computer        

(6) NECTEC

(7) World Wide Web          

(8) Cyberspace

61. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยง ถึงกันทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายทีเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่า เป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network)

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อล่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ท (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบนโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 6 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตริ เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 7 (ส่วนที่ 3 หน้า 310) อินเทอร์เน็ตได้พัฒนาเป็นสื่อหลายมิติ มีทั้งภาพ เสียง อักษร และการทำงานด้วยเครือข่ายใยแมงมุม คือ World Wide Web (WWW) ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูล จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคมของปี พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้มีการสาธิตการเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแหงชาติสิริกิติ์ เพี่อสาธิตระบบ มัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไมปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 8 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space) ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

70.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์ และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.sianrmet.or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคมของปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารกสิกรไทย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแกการบันทึก

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการ รายงานผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิด ใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Express Mail

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 1013), (ดูคำอธิบายข้อ 38. บ่ระกอบ) จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail ซึ่งมาจากคำว่า Electronic mail คือ การส่งข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายจาก คอมพิวเตอร์ของผู้ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้รับ โดยเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหรือบริการ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญและมีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ท่าให้ผู้ใช้งาน หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันไดในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11-12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถท่าให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12 – 13) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่อง นั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ

File Transfer Protocol หรือ FTP บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 แบบ คือ

1.         บริการลักษณะ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วยไมต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         บริการลักษณะ Online ที่ผู้ตัดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่าน ข้อมูลโต้ตอบกันแบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       สื่ออินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเติม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็น…

(1)       สื่อประสม        

(2) สื่อหลากบทบาท    

(3) สื่อสารมวลชน        

(4) สื่อใหม่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นสื่อใหม่และเป็นเครื่องมือใหม่ ในการสื่อสาร ซึ่งมีความสามารถในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา เพราะ

(1)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า อินทอร์เน็ต เป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน        

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

84.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงด้วยเหตุที่

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอม 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่อง พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ “ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมในพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ การรวมตัวกันของผู้คนในสังคมจาก การสร้างเครือข่ายลังคม (Social Network) ในพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       ค่ากล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทังการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

 ตอบ 3            (ส่วนที่ 3 หน้า 19-20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การ สื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่ม คนที่เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน

87.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่

(1)       เพราะป็นแหลงรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามรถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมูหัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพี่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจหลกหลายมากมาย เช่น ข้อมูล ทางวิชาการด้านการบันเทิงด้านการแพทย์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้น ข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       อาการใดต่อไปนี้ไม่เข้าข่าย อาการติดอินเทอร์เน็ต

(ใ) รู้สึกหงุดหงิดเมือวันไหนไมได้ใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ผู้ใช้จัดสรรเวลาเล่นอินเทอร์เน็ตตามแต่จะมีเวลาว่าง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไมได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงบัญหา

4.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทาให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์

5.         ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้

89.       ข้อใดคือประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(2)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(3)       เป็นช่องทางในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพี่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่งครอบครอง ทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไมทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเอง ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

91.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไมรวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า Decentralized Media กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ ทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง         

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจาก สื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของ เครือข่ายที่ตนเองเลือก เป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสารของตนไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตกอให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ

ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย ดังนั้นจึงทำให้อำนาจหรือโอกาส ในการผลิตสื่อหรือการเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป

94.       ข้อไดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่าง สะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการลื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม

(1) Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจา

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือข่าย hi5 มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงทางเพส

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) เทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น

ดาบสองคม” กล่าวคือ การออนไลน์ซึ่งเป็นการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว มีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น 1. การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์ hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ ฯลฯ

96.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแกผู้ผลิตสื่อออนไลน์หรือไม่

(1) ไม่เพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไม่เพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรสร้างเสริมการตระหนักรู้และจริยธรรมให้มากขึ้น

(4)       ไม่เพียงพอ แต่ควรต้องติดอาวุธทางปัญญาแกผู้ใช้สื่อให้มากขึ้นด้วย

ตอบ12 (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตสื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน 1การเฝ้าระวังสื่อออนไลน์นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม มากขึ้น ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์ รวมถึง ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

97.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า Usenet หมายถึง

(ใ) Useful Network (2) User Internet (3) User Network (4) Useful Internet

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว (Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

98.       Files Transferring หมายถึง

(1)       การโยกย้ายแฟ้มข้อมูล           (2) การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล

(3) การเปลี่ยนถ่ายแฟ้มข้อมูล (4) การสลับเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 11), (ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ) Files Transferring หมายถึงการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ซึ่งในการส่งข้อมูลของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) นั้น ผู้ส่งสามารถถ่ายโอนแฟ้มหรือไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้ การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์

99.       ข้อใดคือประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จากัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ4  (ส่วนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการ

2.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งจดหมายถึงดูไปรษณีย์

4.         ผู้รับสามารถเรียกอ่านจดหมายได้ทุกเวลาตามสะดวก

5.         ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ (ดูคำอธิบายข้อ 93. ประกอบ)

100.    ข่าวออนไลน์มีคุณลักษณะ ปฏิสัมพันธ์” หมายถึง

(1)       เปิดโอกาสให้ผู้รับสารสื่อสารตอบกลับไปยังผู้ส่งสารในลักษณะการสื่อสารสองทาง

(2)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       เป็นการนำเสนอข่าวที่มุ่งหวังให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับสังคม

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 15. และ 47. ประกอบ

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 4

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 4

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง   ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) เทคโนโลยี 

(2) ความสำคัญของเทคโนโลยี 

(3) สื่อดั้งเดิม 

(4) สื่อใหม่       

(5) ภาษาระบบตัวเลข

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์และองค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) คำว่า เทคโนโลยี ครอบคลุมความหมาย 2 ประการ 

1. การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2. องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

2.         เป็นสื่อที่ผู้รับสารในลังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการพัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver” คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร ก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2. เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่่

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

3.         สื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนผู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) 

1.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Active Seeker” คือ เป็นฝายแสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความสงสัยอยากผู้อยากเห็นของตัวเองโดยอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกันระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ หรืออินเตอร์แอคทีฟ (Interactive) โดยคาดหวังว่าสื่อใหม่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้แสวงหาข่าวสารได้มีประสิทธิภาพมากกว่าสื่อแบบดั้งเดิม เนื่องจาก สื่อใหม่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและเนื้อที่เหมือนอย่างเคยเป็นข้อจำกัดของสื่อแบบดั้งเดิม

3.         เป็นสื่อที่มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนผู้การใช้สื่อ และการเข้าถึงสื่อ ดังนั้นผู้รับสารบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่าจะไมคุ้นเคยกับ การเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อใหม่ และไม่ยอมรับหรือเข้าไมถึงสื่อใหม่

4.         ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประหยัดในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 3), (คำบรรยาย) ความสำคัญของเทคโนโลยี คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ ในกระบวนการผลิตหรือกระบวนการพัฒนางานสาขาใดสาขาหนึ่ง รวมทั้งด้านการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดี 3 ประการ คือ 1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) คือ ช่วยให้การทำงาน บรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 2. ประสิทธิผล (Productivity) คือ ช่วย ให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มที่หรือมากที่สุด ในเวลารวดเร็ว 3. ประหยัด (Economical) คือ ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน

5.         ผู้รับสารมีลักษณะ “Active Seeker”

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         เป็นสื่อที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับหรือ อินเตอร์แอคทีฟ (Interactive)

ตอย 4  ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

7.         ผู้รับสารมีลักษณะเป็น “Passive Receiver”

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

8.         ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบันในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตกัณฑ์ที่ต้องการ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) ในทางเศรษฐศาสตร์ คำว่า เทคโนโลยี คือ ความรู้ของมนุษย์ในปัจจุบัน ในการนำเอาทรัพยากรมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ รวมถึงความรู้ที่ว่าเราสามารถผลิตอะไร ได้บ้าง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นเมื่อความรู้ทางเทคนิคของเราเพิ่มขึ้น

9.         เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองศตวรรษที่ผ่านมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 5) การพัฒนาของสื่อที่ใช้ในการสื่อสารรูปแบบใหม่เกิดขึ้นอย่างมากเมื่อประมาณ2 ศตวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงเวลาที่มนุษยชาติได้สัมผัสกับภาษาระบบตัวเลข (Digital Language) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารทุกรูปแบบ

10.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้อง

(1) ภาษามีความสำคัญในฐานะ ตัวทำการเปลี่ยนแปลง” ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์

(2)       ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร

(3)       ภาษาพูด เป็นสัญญาณทางการสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน

(4)       มนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับภาษาเขียนมานานกว่า 2 ล้านปี

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ภาษา ถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) กล่าวคือ ภาษามีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change)อรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ โดยภาษาพูด (Spoken Language) เป็นสัญญาณทาง การสื่อสารที่เกิดขึ้นก่อนภาษาเขียน (Written Language) ซึ่งมนุษยชาติมีความผูกพันอยู่กับ ภาษาเขียนมานานร่วม 6 ล้านปี

11.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อ การสื่อสารในข้อใดต่อไปนี้

(1)       ประหยัดเวลาและแรงงาน       

(2) สะดวก รวดเร็ว

(3) ช่วยให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายอย่างเที่ยงตรงและรวดเร็ว 

(4) ได้ผลผลิตมากในเวลารวดเร็ว

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 2) สื่ออินเทอร์เน็ต (Internet) เป็นผลจากการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร แบบดิจิตอล (Digital) มาใช้พัฒนารูปแบบการสื่อสาร ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อการสื่อสาร คือ ทำให้การติดต่อสื่อสารของมนุษย์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และการรับส่งข้อมูลเป็นไป โดยสะดวกในชั่วพริบตา

12.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม

(1)       หนังสือพิมพ์ออนไลน์   

(2) คอมพิวเตอร์เกม

(3) ภาพดิจิตอล           

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มี 2 ลักษณะ ดังนี้

1. สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้

เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) ซึ่งส่งผล ให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web,สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

13.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1) สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 12. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดนิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลขาวสารด้วยตัวเอง   (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       สื่อใหม่ เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า “Interactive” หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารทีมุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 2 หน้า 317), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ) Interactive หรือปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับ (Feedback) จากผู้รับสาร ไปยังผู้ส่งสารอย่างทันท่วงที ในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) โดยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารและผู้ส่งสารจะเป็นลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน ที่แท้จริงหรือนิรนามในขณะที่ดำเนินการสื่อสาร

16.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Passive Receiver มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่เปิดรับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

(2)       ผู้รับสารที่ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน

(3)       ผู้รับสารที่มีลักษณะเหงาหงอย เซื่องซึม

(4)       ผู้รับสารที่ขาดทักษะทางด้านการอ่านออกเขียนได้

ตอบ 1 ดูคำอธิบาย.ข้อ 2. ประกอบ

17.       Document Domain คือสื่อชนิดใด

(1)       สื่อออนไลน์      (2) สื่อสิ่งพิมพ์ (3) สื่อวิทยุกระจายเสียง         (4) สื่อที่มีเอกสารอ้างอิง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 4-5) พัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์

(The Document Domain) เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของภาษาในช่วงที่ 2 (เริ่มประมาณ 6.000 ปีกอน) คือ เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์มีภาษาเขียนใช้ จึงทำให้เกิดรูปแบบการสื่อสาร ในลักษณะบันทึกเป็นเอกสาร (Document Domain) หรือสื่อสิ่งพิมพ์ขึ้น ซึ่งช่วยร่นระยะเวลา ให้กับการเผยแพร่ และการดำรงรักษาความรู้/วัฒนธรรมของมนุษยชาติได้มาก

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้วาจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์จะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจาก ผู้คนมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูล ข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลข้อใดที่ทำให้คนรุ่นเก่าไมนิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใหม่

(1)       เพราะเป็นสื่อที่มีความซับช้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เพราะเป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เพราะเป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย     (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไมมีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และ ไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดการ หรือมีการจัดระเบียบ และพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารในเว็บไซต์ต่าง ๆ

21.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Personal      

(2) Information Privilege

(3) Information Productivity     

(4) Information Privacy

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มี 4 ประเด็น

1.         ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) 

2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)

3.         ความเป็นเจ้าของ (Information Property) 

4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรม ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด

(1)       ความถูกต้อง  

(2) ความเป็นส่วนตัว   

(3) ความเป็นเจ้าของ   

(4) การเข้าถึงข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดหรือการกระทำที่ขัดกับประเด็นความเป็นส่วนตัว

(Information Privacy) คือ

1.         การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริกรของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพี่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพี่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่ แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพรทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือข้อใด

(1) ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพี่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1. ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่อไปนี้ที่ไมเข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Privacy

(1)       การเอาฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 22. ประกอบ

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1. การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Copyright หรือ Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ Shareware คือ ซอฟต์แวร์ ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26.       อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด      

(1) Information Accuracy

(2)       Information Privacy         (3) Data Accessibility         (4) Information Property

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime หรือ Cyber Crime)เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การก่อกวนโดยกลุ่ม Hacker, Cracker, Hacktivist หรือ Cyber Terrorist ฯลฯ เป็นปัญหาที่ขัดกับประเด็นจริยธรรมการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ซึ่งหมายถึง การเข้าใช้งานโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มี การกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลตามระดับของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าไปดำเนินการ ต่าง ๆ กับข้อมูลของผู้ใช้ที่ไมมีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นการรักษาความลับของข้อมูล

ข้อ 27. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Hardware         (2) System Software (3) Peopleware          (4) Information

27.       นักวิเคราะห์ระบบ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) นักวิเคราะห์ ระบบ (System Analyst) ฯลฯ

28.       ชุดคำสั่งควบคุมระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมชุดคำสั่งที่เขียนให้

เครื่องคอมพิวเตอร์ปฏิบัติตาม ซึ่งมี 2 ประเภท คือ 1. ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งควบคุม ระบบ (System Software) 2. ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Software)

29.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

30.       ข่าวสารในเว็บไซต์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

ข้อ 31. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Copyright          (2) Hacktivist     (3) Cracker

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย 

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นโดยผ่านการสื่อสารเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแกข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist หรือ Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อควมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 26. และ 31. ประกอบ

33.       Software License

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

34.       การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือ CMC มาจากคำว่า

(1) Computer Mediated Communication         (2) Computer Mutual Communication

(3) Computer Manual Communication   (4) Computer Managing Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication : CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้ 1. เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหาเหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัว

4.         เป็นสื่อที่กระจายอำนาจหน้าที่โดยไม่ถูกผูกขาดและควบคุมจากฝ่ายผู้ส่งสาร

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย…

(1)       สัญลักษณ์      (2) เสียง          (3) ข้อความ     (4) ภาพ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความโดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย       (4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC)มีดังนี้ 1. ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจาก ผู้ผูกขาดใด ๆ 2. ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะ ทั้งข้อความ ภาพ และเสียง 3. การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่าง ผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว 4. การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน         (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน          (4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนก

ได้ 4 รูปแบบ ด้งนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไมพร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วย จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail หรือ E-mail) 2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับ กลุ่มบุคคลไมพร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook ที่ผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ เข้ามาอ่านได้ทุกคน และมีการเขียนโต้ตอบข้อความนั้น

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์ (Web site)

39.       การเขียนข้อความไว้ในเว็บไซต์ Facebook เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสาวระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน   (2) การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน     (4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(3)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด

(4)       การสื่อสารแบบไมพร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า CMC เป็นการสื่อสารที่เลือกที่รัก มักที่ชัง

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อ และอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือ ภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal… หมายความว่า

(1)       ความไม่มีตัวตน           

(2) ไมปรากฏตัวตนที่แท้จริง 

(3) ไม่มีความเป็นบุคคล 

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฎตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1)       การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 8 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบในเชิงลบที่เป็นภัยต่อสังคมของการสื่อสารแบบ CMC มีดังนี้ 1. การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         การทุ่มเทเวลาให้กับคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้ขาดทักษะทางสังคม (Social Skills) และถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills) 3. เป็นช่องทางในการหลอกลวง หรืออำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร 4. ถูกใช้เพื่อ สะท้อนตัวตน” มากกว่า เพื่อสร้าง ประสบการณ์ทางสังคม” ฯลฯ (การสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy เป็นผลกระทบในเชิงบวกที่เป็นมิตรต่อสังคม)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฎผ่านสื่อขาดความสมจริง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูดมากกว่า การประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและจังหวะการพูด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไมมีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไมมีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทเป็น ผู้ตามถาวร อีกทั้งเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือ แนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

(3) ให้ข้อมูลโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา (4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) สื่อออนไลน์ จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย โดยคุณลักษณะสำคัญของสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน มีดังนี้

1.         ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง      2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

3.         ให้ข้อมูล ในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         น้าเสนอโดยใครก็ได้ ไมจำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

6.         เนื้อหาเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1)       สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ด้งนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1) ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูค่าอธิบายข้อ 47. ประกอบ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระดานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ…

(1) บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1) เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร         (2) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(3) เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม .       (4) เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 19-20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร            2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1) ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ 

1.         ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 

2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive)

3.         ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น

4.         รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         เน้นความสำคัญของเนื้อหาข่าวเป็นหลัก ไม่ใช้สื่อประสมหรือลูกเล่นที่หวือหวามากนัก

52.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 21) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุ บนสื่อออนไลน์ คือ 1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือสัญญาณวิทยุ มาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting) 2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของ รายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี 3. มีการเก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความนำเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่

1.         การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

2.         ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

3.         ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง .

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร       

(4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงของการไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสาร เพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอขาวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเองก่อให้เกิดปัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไมอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก       

(4) ถูกทุกข้อ

 ตอบ 4            (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณใน ความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบตอสังคม 2. ผู้นำเสนอข้อมูล ข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

3.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอ ข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1)       ความแพรหลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์    (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3) แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่   1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์

2.         ระบบเศรษฐกิจของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล        4. บุคลากรในการทำงาน

5.         ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของประชากรในประเทศ

6.         พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4) ไมมีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีลักษณะดังนี้ 1. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น            5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น

6.         มีลักษณะความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น   7. สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบฉบับบน

World Wide Web มากขึ้น     8. สร้างความเป็นคลังข้อมูลของข่าวสารมากขึ้น

9. บริการข้อมูลข่าวสารแบบตามคำขอ (On Demand) 10. เป็นเครื่องมือด้านการตลาดมากขึ้น

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคต คาดว่า…

(1) แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น          (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3) สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน  (4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28 – 29) เกรียงไกร ทวีโชติกิจเจริญ ได้ศึกษาและสรุปประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับแนวโน้มหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตของประเทศไทย ไว้ดังนี้ 1. กลุ่มผู้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีความหลากหลายมากกว่าในปัจจุบัน

2.         แนวโน้มเนื้อหาหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาที่ไม่มีในฉบับเล่ม

3.         แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในอนาคตจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อดั้งเดิม และสื่อออนไลน์ 4. ปัจจัยที่มีแนวโน้มเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ในประเทศไทยมากที่สุด คือ รัฐบาล

 59.       นักศึกษาคิดว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจใหความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการเอขายผ่าน E-commerce กขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยเป็นแบบทุนนิยม ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ดังนั้นแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) จะขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะองค์กรทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

60.       หากด้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้นภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1) พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       จัดหาคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการแก่ประชาชนในสถานที่สาธารณะอย่างครอบคลุม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 68. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1) อินเทอร์เน็ต            

(2) ARPANET      

(3) IP Video Conference

(4)       TCP  

(5) Stand-alone Computer

(6) NECTEC

(7) Cyberspace

61.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web หรือ WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่ายARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ท (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 6 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ3  (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคมของปี พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้มีการสาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบ มัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคูสื่อสาร

ตอบ 7 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคูสื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

ตอบ2  (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

70.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์ และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ 2 (สวนที่ 3 หน้า 5) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมาย อิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTER เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.siamnet.or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคมของปี พ.ศ. 2536 NECTEC ได้เปิดให้บริการ WWWเป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนือง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแกการบันทึก

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการ รายงานผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจร

ความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ต แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Eractive mail

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 1013), (ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ) จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ E-mail ซึ่งมาจากคำว่า Electronic mail คือ การส่งข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่ายจาก คอมพิวเตอร์ของผู้ส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้รับ โดยเป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหรือบริการ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่สำคัญและมีผู้นิยมใช้บริการกันมากที่สุด

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ช้งาน หลายคนเข้ามาคุยพร้อมกันได้ในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11 – 12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เหมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12 – 13) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่อง นั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ

File Transfer Protocol หรือ FTP บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 แบบ คือ

1.         บริการลักษณะ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วยไม่ต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         บริการลักษณะ Online ที่ผู้ติดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่าน ข้อมูลโต้ตอบกันแบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       สื่ออินเทอร์เน็ตสามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบนตั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็น

(1)       สื่อประสม        

(2) สื่อหลากบทบาท    

(3) สื่อสารมวลชน        

(4) สื่อใหม่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตถือเป็นสื่อใหม่และเป็นเครื่องมือใหม่ ในการสื่อสาร ซึ่งมีความสามารถในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ จึงกล่าวได้ว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา เพราะ

(1)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า อินเทอร์เน็ต เป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1) ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน        

(4) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

84.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงด้วยเหตุที่

(1) สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1) เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมในพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ การรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) ในพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       คำกล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทั้งการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       กรสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3            (ส่วนที่ 3 หน้า ใ9 – 20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งหมายถึง การสื่อสารบนครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การ สื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่ม คนที่เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน

87.       เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนหองสมุดขนาดใหญ่

(1)       เพราะเป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลไต้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือขายอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจหลากหลายมากมาย เช่น ข้อมูล ทางวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้น ข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       อาการใดต่อไปนี้เข้าข่าย อาการติดอินเทอร์เน็ต

(1) รู้สึกหงุดหงิดเมื่อวันไหนไม่ไดใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1. มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกเสี่ยงปัญหา

4.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์

5.         ใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตนานกว่าที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้

89.       ข้อใดคือประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1) เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(2)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(3)       เป็นช่องทางในการโฆษณา ประซาสัมพันธ์สินค้าและบริการ

(4)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ 1. เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำลายข้อมูล ในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุโดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง ครอบครองทรัพยากร และทำให้ระบบช้าลง

91.       สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไมรวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ต เป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไปยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า Decentralized Media กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ ทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง          

(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของ เครือข่ายที่ตนเองเลือก เป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสารของตนไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตกอให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารโดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย (4) ข้อ 1 และ 3 ถูก

ตอบ 4 (ส่านที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย ดังนั้นจึงทำให้อำนาจหรือโอกาส ในการผลิตสื่อหรือการเป็นผู้ส่งสารไมถูกจำกัดอีกต่อไป

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่าง สะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม

(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือข่าย hi5 มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงทางเพศ

(4)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) เทคโนโลยีการสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น

ดาบสองคม” กล่าวคือ การออนไลน์ซึ่งเป็นการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว มีทั้งประโยชน์และโทษ เช่น

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์ hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ ฯลฯ

96.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแก่ผู้ผลิตลื่อออนไลน์หรือไม่

(1)       ไมเพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไมเพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรสร้างเสริมการตระหนักรู้และจริยธรรมให้มากขึ้น

(4)       ข้อ 1 และ 2 ถูก

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตลื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังลื่อออนไลน์นั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม มากขึ้น ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์ รวมถึง ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

97.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า Usenet หมายถึง

(1)       Useful Network (2) User Internet (3) User Network (4) Useful Internet

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว(Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

98.       Files Transferring หมายถึง

(1) การโยกย้ายแฟ้มข้อมูล      (2) การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล

(3) การเปลี่ยนถ่ายแฟ้มข้อมูล (4) การสลับเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 11), (ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ) Files Transferring หมายถึงการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ซึ่งในการส่งข้อมูลของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) นั้น ผู้ส่งสามารถถ่ายโอนแฟ้มหรือไฟล์ข้อมูลแนบไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้ ทำให้ การแลกเปลี่ยนข่าวสารเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา และทันเหตุการณ์

99.       ข้อไดเป็นพระราชบัญญัติที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน

(1)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างจริยธรรมด้านเทคโนโลยี

การสื่อสาร ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ได้แก่

1.         พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

100.    ไอซีที มีชื่อเป็นทางการว่าอะไร

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร     (2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) กระทรวงสารสนเทศการสื่อสารและเทคโนโลยี     (4) กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) องค์กรที่ไห้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่      1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอชีที)

2. กระทรวงมหาดไทย 3. กระทรวงกลาโหม    4. กระทรวงยุติธรรม

5.         กรมสอบสวนคดีพิเศษ 6. กรมประชาสัมพันธ์  7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ 9. กองทัพบก      10. กองทัพอากาศ      11. กองทัพเรือ

 

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 3

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 ชุดที่ 3

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 9. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       ภาษา   

(2) สื่อใหม่       

(3) เทคโนโลยี  

(4) สื่อดั้งเดิม

1.         เกิดจากพื้นฐานหรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์รองรับ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น กล่าวคือ เทคโนโลยีเกิดจากพื้นฐานหรือความรู้ทางวิทยาศาสตร์รองรับ หรืออาจกล่าวได้ว่าเทคโนโลยี เป็นการประยุกต์หรือนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ในทาง ปฏิบัติแก่มวลมนุษยชาติ

2.         คือ องค์ประกอบ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 4), (คำบรรยาย) ภาษา (Language) คือ องค์ประกอบ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์ นอกจากนี้ภาษายังถือเป็นสัญญาณทางการสื่อสาร (Communication Code) และมีความสำคัญในฐานะตัวทำการเปลี่ยนแปลง (Agents of Change) ต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษยชาติ

3.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7ส่วนที่ 2 หน้า 317) คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker คือ ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างอิสรเสรี ซึ่งสามารถหาข้อมูลข่าวสาร จากสื่อใหม่ได้โดยไม่มีขีดจำกัด เช่น เว็บบอร์ด พันทิบดอทคอมหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ

2.         เป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ (Interactive) หรือการปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

3.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย และอาจไม่ยอมรับหรือเข้าไม่ถึงสื่อใหม่ เพราะประเมินว่าตนเอง ไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

4.         คือ สาร ในกระบวนการสื่อสาร

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

5.         หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิงพิมพ์ สื่อวิทยุกระจายเสียง สื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) จนส่งผลให้เกิด สื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web, สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์และนิตยสารออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิก คอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

6.         ตัวทำการเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการสื่อสารของมนุษยชาติ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

7.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดด้านเวลาและพื้นที่

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7) คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร และ จะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในช่วงเข้าของแต่ละวัน (มีข้อจำกัดด้านเวลา) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสาร ที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิงพิมพ์ที่จัดสรรให้ (มีข้อจำกัดด้านพื้นที่) เป็นต้น

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

8.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

9.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

10.       เพราะเหตุใด ‘‘เทคโนโลยี” จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการสื่อสารของมนุษยชาติ

(1)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษย์

(2)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์

(3)       เพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการปรับตัวของมนุษย์

(4)       เพราะการสื่อสารเป็นวิถีในการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากิจการหรืองานด้านต่าง ๆและด้วยเหตุที่การสื่อสาร (Communication) เป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการดำรงอยู่ หรือการอยู่รอด การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และการพัฒนาทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการนำเอา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาด้านการสื่อสารจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของมวลมนุษยชาติ

11.       The Document Domain หมายถึงอะไร

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคล        

(2) การสื่อสารประเภทสื่อสิงพิมพ์

(3)       การสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

(4)       การสื่อสารที่ต้องอ้างอิงเอกสาร          

(5) การสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ฟิดเลอร์ได้ลำดับพัฒนาการของเทคโนโลยีสื่อ 3 สื่อหลักที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ไว้ดังนี้

1.         เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล (The Interpersonal Domain)

2.         เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (The Broadcast Domain)

3.         เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (The Document Domain)

12.       ข้อใดต่อไปนี้คือ นิยามของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีแบบโบราณ

(2)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีท้องถิ่น

(3)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน

(4)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีจากแรงงานคน

(5)       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบดั้งเดิม

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

13.       ข้อใดต่อไปนี้จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)

(1)       นิตยสารออนไลน์         

(2) ภาพดิจิตอล           

(3) คอมพิวเตอร์เกม

(4) ภาพกราฟิก           

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

14.       ผู้รับสารที่มีลักษณะ Active Seeker มีความหมายว่าอย่างไร

(1)       ผู้รับสารที่มีความคล่องตัวสูง ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

(2)       ผู้รับสารที่ไม่หยุดอยู่นิ่ง ชอบการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

(3)       ผู้รับสารที่แสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตัวเอง ตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็น

(4)       ผู้รับสารที่ใฝ่รู้ตลอดเวลา        (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

15.       ผู้รับสารของสื่อในข้อใดต่อไปนี้มีลักษณะเป็น Active Seeker

(1)       รายการวิทยุ ก้าวทันโลก” คลื่น 105.5 MHz (2) คอลัมน์ มุมไอที” หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

(3)       รายการ โลกไอที” สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี (4) เว็บบอร์ด พันทิพ ดอทคอม

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 3. และ 5. ประกอบ

16.       สื่อใหม่เป็นสื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า “Interactive” หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ล่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

17.       สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในช่วงเช้าของแต่ละวัน (1) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสารที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิ่งพิมพ์ (2) กล่าวได้ว่า

(1) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และพื้นที่ (2)

(2)       มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ (1) และเวลา (2) (3) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และสถานที่ (2)

(4)       มีข้อจำกัดด้านสถานที่ (1) และเวลา (2)       (5) มีข้อจำกัดด้านเวลา (1) และปริมาณข่าวสาร (2)

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ

18.       เพราะเหตุใดสื่อหนังสือพิมพ์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นก็ตาม

(1)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์มีความน่าเชื่อถือ และอ้างอิงได้

(2)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์จัดทำรูปเล่ม สีสัน ได้น่าอ่านมากกว่า

(3)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้

(4)       เพราะสื่อหนังสือพิมพ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ยอดนิยมของคนในทุกสังคม

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังสือพิมพ์กระดาษยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่าน ในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจาก ผู้คนมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะสื่อหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับ ข้อมูลข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

19.       เหตุผลที่ทำให้คนรุ่นเก่าไม่นิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์ ด้วยทัศนคติที่ว่า

(1)       เป็นสื่อทีมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี

(2)       เป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ

(3)       เป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย

(4)       เป็นสื่อที่คนรุ่นเก่าประเมินว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 ดูคำอธิบายข้อ 3. และ 5. ประกอบ

20.       สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

(1)       สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       ข้อมูล คือ สารสนเทศที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของสารสนเทศ

(4)       ทั้งสารสนเทศและข้อมูลมีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมาย แตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดการ หรือมีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารหรือไฟล์ภาพในเว็บไซต์ต่าง ๆ

21.       ข้อใดต่อไปนี้คือประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Privilege       

(2) Information Property

(3)       Information Practice        

(4) Information Priority

(5)       Information Proposal

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA) มีอยู่ 4 ประเด็น คือ      

1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 

3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property)   

4.         การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

22.       การลักลอบเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น ขัดกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด         

(1) ความถูกต้อง          

(2) ความเป็นส่วนตัว

(3)       ความเป็นเจ้าของ         

(4) การเข้าถึงข้อมูล     

(5) การสงวนสิทธิแห่งพื้นที่

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) มีดังนี้

1.         การเข้าไปดูหรืออานข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการ ของพนักงาน

3.         การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4.         การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

23.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์คือข้อใด

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 11) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy)ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความจงใจหรือไม่

24.       ข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็น Information Property

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้บริษัทอื่น

(5)       การพยายามเจาะเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้อื่นผ่านโปรแกรมการสื่อสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ตอบ2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่น การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้า ในราคาถูก ซึ่งซอฟต์แวร์มีหลายลักษณะ ได้แก่ Copyright or Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้ Shareware คือ ซอฟต์แวร์ทีให้ทดลองใช้ได้ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้งานได้ฟรี คัดลอกและเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้ เป็นต้น

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

25.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware หมายถึง

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้

(4)       ซอฟต์แวร์ทีซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(5)       ซอฟต์แวร์แบ่งปันสาธารณะ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

26.       ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ขัดกับประเด็นจริยธรรมข้อใด

(1)       Information Accuracy                (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property

(5)       Data Accessory

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 12) ปัญหาด้านจริยธรรมที่ขัดกับประเด็นการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Crime or Cyber Crime) เช่น การโจรกรรมข้อมูลหรือความลับของบริษัท การบิดเบือนข้อมูล การฉ้อโกง การฟอกเงิน การถอดรหัสโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการก่อกวนโดยกลุ่ม Hacker, Cracker, Hacktivist or Cyber Terrorist ๆลๆ

ข้อ 27. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       System Software (2) Hardware (3) Peopleware         (4) Information

27.       ชุดคำสั่งที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งควบคุมระบบ (System Software) คือ ชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อกลางระหว่างโปรแกรมประยุกต์กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยในการจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ ได้แก่ โปรแกรมควบคุมเครื่อง และระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เช่น DOS, Windows, Os/2, Unix ฯลฯ

28.       นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) และนักวิเคราะห์ ระบบคอมพิวเตอร์ (System Analyst) ฯลฯ

29.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

30.       ไฟล์ภาพในเว็บไซต์

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 20. ประกอบ

ข้อ 31. – 33. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cracker    (2) Hacktivist     (3) Copyright

31.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมาย ได้แก่

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการลื่อสารบนเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแก่ข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist or Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

32.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 31. ประกอบ

33.       Software License

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

34.       CMC มาจากคำว่า 

(1) Computer Mediated Communication

(2)       Computer Mutual Communication         (3) Computer Manual Communication

(4)       Computer Managing Communication    (5) Computer Maintenance Communication

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 3 – 5), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (Computer Mediated Communication ะ CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี้

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง

4.         เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

35.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมื่อใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

(5)       เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ

36.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการลื่อสารด้วย    

(1)       สัญลักษณ์ (2) เสียง   (3) ข้อความ     (4) ภาพ           (5) แสง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการลื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

37.      ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       เป็นสื่อที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้กระทำการสื่อสาร

(5)       ทุกข้อ ยกเว้นข้อ 4

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

38.       การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด  

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน   (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้    

1. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail or E-mail)         

2. การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทั้งไว้ในเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านโปรแกรม Messenger (MSN) 4. การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสาร และผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์ต่าง ๆ

39.       การเขียนข้อความไว้ใน Facebook เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด  

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไมพร้อมกัน

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน   (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

40.       การสนทนาผ่านโปรแกรม Messenger เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   (3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ

41.       CMC เป็นการสื่อสารที่ เลือกที่รัก มักที่ชัง” เพราะ         

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อและอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกสื่อสารเฉพาะกับบุคคลที่ตนเองรักใคร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(5)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะปฏิเสธบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการสื่อสารไปยังผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำให้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

42.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal หมายความว่า

(1)       ไม่มีตัวตน        

(2) ไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง    

(3) ไม่มีความเป็นบุคคล

(4) ไม่มีความเป็นมนุษย์          

(5) เสมือนไม่มีตัวตน

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นลือกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

43.       ข้อใดที่ไม่ใช่ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบของการสื่อสาร CMC

(1)       การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

(2)       ทักษะทางสังคมถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี

(3)       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในลักษณะ Computer Network Democracy

(4)       เป็นช่องทางในการอำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ลดความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ลง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 9 – 10), (คำบรรยาย) ผลกระทบทางสังคมในเชิงลบที่เป็นภัยต่อสังคมของ การสื่อสารแบบ CMC มีดังนี้

1.         การติดต่อสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตาระหว่างบุคคลลดน้อยลง

2.         ทักษะทางสังคม (Social Skills) ถูกแทนที่ด้วยทักษะทางเทคโนโลยี (Technical Skills)

3.         เป็นช่องทางในการหลอกลวงหรืออำพรางตัวตนที่แท้จริงของผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

4.         ลดทอนความรู้สึกอยากมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ลง

(ส่วนตัวเลือกข้อ 3 เป็นผลกระทบทางสังคมในเชิงบวกหรือเชิงสร้างสรรค์)

44.       เพราะเหตุใดการประชุมทางไกล (Teleconference) ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่านสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

(5)       เพราะเป็นการสื่อสารผ่านหน้าจอขนาดเล็ก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูด มากกว่าการประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและ จังหวะในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 45.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 2 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารในลักษณะ CMC ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง เพราะทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวรและไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือแนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางต้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะตรงกาล (Real Time) หมายถึง

(1)       สามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       สามารถนำเสนอข่าวสารเสมือนจริง

(5)       สามารถสร้างความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

47.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะประสานสื่อ (Multimedia) หมายถึง

(1)       ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       อาศัยช่องทางในการผสมผสานสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว            

(5) ไม่มีข้อใดถูก ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ

48.       ข้อใดกล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media) (2) ไม่มีอุปสรรคด้านระยะท

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา         

(4) มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด

(5)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่และเวลา

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) ลักษณะเฉพาะของสื่อออนไลน์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่

(New Media) ของวงการสื่อสารมวลชนไทย มีดังนี้       1. ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด            3. นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา     4. นำเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม ฯลฯ

49.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะกระดานข่าวของกลุ่มข่าว (Bulletin Board Newsgroup) มีลักษณะ         

(1)       บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(2)       บริกรกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       บริการข่าวสารที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวได้ด้วยตนเอง      (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว’’(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่มีผู้ดูแลควบคุมกระดานข่าว และแบบที่ไม่มีผู้ดูแล

50.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร

(2)       เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

(3)       เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร

(4)       เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางการสื่อสารของประชาชนในสังคม

(5)       เพื่อช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการมีปฏิสัมพันธ์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

51.       การนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีลักษณะอย่างไร

(1)       ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร  

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์ มีดังนี้     

1. ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 

2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลัง (Archive) 

3. ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น 

4. รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

52.       ข้อใดไมใช่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

 ตอบ 3            (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์และวิทยุบนสื่อออนไลน์ มีดังนี้  1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting)  2. ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี     3. เก็บบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วไว้ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4.         ใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

53.       ข้อใดต่อไปนี้ไมใช่ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       นำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       ลดบทบาทในการแปลความ ตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

(4)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

(5)       ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่ 1. การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร       2. ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ         3. ลดบทบาทใบการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

4.         ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสารอย่างสิ้นเชิง

54.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแงไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร

(4)       มีบรรณาธิการข่าว แต่ไม่อาจทราบตัวตนที่แท้จริง      (5) ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ของการไม่มีผู้เผ่าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรร ข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่ง ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

55.       การที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง ก่อให้เกิดปัญหาใดบ้าง

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก

(4)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร         

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ปัญหาของสื่อออนไลน์ที่เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ        1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณในความสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม         

2. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

3.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองหรือไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูล ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

56.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1)       ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์    (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3)       แนวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) โครงสร้างของผู้บริหารประเทศ

(5)       พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 2. ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล 4. บุคลากรในการทำงาน 5. ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ของประชากรในประเทศ 6. พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

57.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4)       นำเสนอข่าวตามประเด็นข่าวของสื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ  

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น 2. เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่าย ต่อการสืบค้นมากขึ้น 3. ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อประสมในการนำเสนอ ข้อมูลข่าวสารมากขึ้น 4. ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น 5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น ฯลฯ

58.       แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทยในอนาคต คาดว่า

(1)       แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น    (2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3)       สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน        (4) สภาวะการแข่งขันเหมือนปัจจุบัน

(5)       คาดการณ์ไม่ได้แน่ชัด

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28) แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย ในอนาคต คาดว่าจะต้องแข่งขันกับทั้งสื่อที่มีอยู่ดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ ออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวโดยการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร มัลติมีเดีย ฐานข้อมูล รวมทั้งความน่าเชื่อถือของข่าวสาร

59.       คาดกันว่าแนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) จะเป็นอย่างไร เพราะเหตุใด

(1)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

(2)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะผู้บริโภคหันมาใช้บริการซื้อขายผ่าน e-Commerce มากขึ้น

(3)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันระหว่างคู่แข่งขององค์กรธุรกิจมากขึ้น

(4)       ถดถอยลง เพราะคนในสังคมจะหันมาใช้สื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ

(5)       ขยายตัวมากขึ้น เพราะความต้องการของผู้จัดทำสารและผู้ใช้สื่อเพิ่มสูงขึ้น

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25) แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าว มากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจาก เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างความจงรักภักดีและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หากผู้บริโภค สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์นั้นได้โดยง่าย

60.       หากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้นภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1)       พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(2)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ต้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       กำหนดมาตรการลดราคาสื่อคอมพิวเตอร์ให้ถูกลง     (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและ

มีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 61. – 64. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Stand-alone Computer (2) NECTEC (3) Internet (4) ARPANET

61.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก

ตอบ. 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิด จากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web : WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

62.       เครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1990 เมื่อมีการคิดค้น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบระบบปฏิบัติการเดี่ยว (Stand-alone Computer)เข้าเป็นระบบเครือข่าย (Network) ซึ่งทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกสามารถ ทำการติดต่อสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันได้

63.       เครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่าย ทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ต (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

64.       ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 4) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center : NECTEC หรือเนคเทค) ก่อตั้งขึ้น โดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2529 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการใช้ อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

ข้อ 65 – 68 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber space     (2) IP Video Conference (3) TCP         (4) World Wide Web

65.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ

66.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

67.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้สาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบมัลติมีเดียและ การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

68.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public space.)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตน างร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 69. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

69.       ประเทศไทยใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศนิวซีแลนด์และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

ตอบ2  ส่วนที่ 3 หน้า 51013) ในปี พ.ศ. 2530 ประเทศไทยใช้จดหมายหรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์(Electronic mail or E-mail) เป็นครั้งแรก โดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลีย และเริ่มใช้งานที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (เดือนมิถุนายน) และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย

70.       NECTEC ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สูประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 เป็นตันมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษก เพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ

71.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

72.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกใบประเทศไทย คือ www.siamnet.or.th

อบ2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 เนคเทค (NECTEC) ได้เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

73.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณ์ที่ควรแก่การบันทึกดังนี้

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต/วินาที เป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

74.       ประเทศไทยเปิดใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 73. ประกอบ

75.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเซิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ต ประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูง เพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

76.       การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เพื่อติดต่อสื่อสาร เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และเพื่อความบันเทิง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Elective mail

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 38. และ 69. ประกอบ

78.       โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat) เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ใช้งานหลายคน เข้ามาคุยพร้อมกันได้ในลักษณะ Real Time

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 11-12) โปรโตคอล IRC (Internet Relay Chat)เป็นโปรโตคอลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน (User) หลายคนเข้ามาคุย พร้อมกันได้โดยผ่านตัวหนังสือในลักษณะ Real Time

79.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าว เสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

80.       บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้มในลักษณะ File Transfer Protocol หรือ FTP สามารถใช้บริการในลักษณะ Online เท่านั้น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 13) บริการค้นหาและถ่ายโอนแฟ้ม (File Transfer Protocol: FTP) บนอินเทอร์เน็ตนั้น สามารถใช้บริการได้ 2 ลักษณะ คือ 1. แบบ Offline ที่ผู้ติดต่อด้วย ไม่ต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เช่น การส่งข้อมูลถึงกันโดยใช้ E-mail

2.         แบบ Online ทีผู้ติดต่อด้วยต้องเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพื่อส่งผ่านข้อมูลโต้ตอบกัน แบบ Real Time เช่น บริการ ICQ, Pirch, Chat, MSN, NetMeeting

81.       ข้อใดคือเหตุผลที่ทำให้สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน

(1)       สามารถตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์

(2)       สามารถเข้าถึงผู้รับสารได้จำนวนมากในสังคม

(3)       เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้รับสารจำนวนมากในสังคม

(4)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารจำนวนมากในสังคมเข้าถึงอย่างเสมอภาค

(5)       เป็นสื่อสาธารณะ

ตอบ 1 (สวนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีความสามารถ ในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอ ข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษอื่นๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตาเพราะ

(1)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล

(4)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมวลชนที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวก ในการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน หรือการสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       อินเทอร์เน็ตทำให้แนวคิดเรื่อง Public Sphere ของ Habermas เป็นจริง ด้วยเหตุที่

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลรวมกลุ่มกับเป็นชุมชนออนไลน์    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

84.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที่

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน

(4)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน

(5)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนต่างเครือข่ายกัน

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมบนพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ไข้อินเทอร์เน็ต

(4)       เป็นการสร้างสังคมบนพื้นที่เสมือน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) บนพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

86.       คำกล่าวที่ว่า โลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การลื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       ทั้งการสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็บหน้าค่าตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การลื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันใช้การลื่อสารแบบออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกัน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 20) โลก Online ดับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การลื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่มคนที่ เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

87.       เหตุที่กล่าวว่า ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะ

(1)       เป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       เป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่เพราะเป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่ที่รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลด้านวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ผู้ใช้บริการ สามารถเลือกสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือตามหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       ข้อใดไม่นับเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์        (2) เป็นช่องทางในการฟอกเงิน

(3)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(4)       เป็นช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการ (5) เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์องค์กร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

89.       ข้อใดไม่ใช่ อาการติดอินเทอร์เน็ต

(1)       รู้สึกหงุดหงิดเมื่อวันไหนไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

(2)       มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

(3)       ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

(4)       ใช้เป็นช่องทางในการสืบค้นข้อมูลข่าวสารเพิ่มจากเดิม

(5)       หาเหตุผลหลอกลวงผู้อื่นในการใช้อินเทอร์เน็ต

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 21 – 22) อาการติดอินเทอร์เน็ต มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดใช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

4.         หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง

5.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต คือข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครอง ทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

(5)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลอง ตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ทั้งนี้หนอนอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก

91.       สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีลักษณะ Decentralized Media กล่าวคือ

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไมใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ลดบทบาทและอำนาจของผู้ส่งสารให้น้อยลง

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า “Decentralized Media” กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้ง ผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะ      

(1)       ผู้รับสารสามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง

(4)       ผู้รับสารมีความกล้าในการแสดงความคิดเห็นของตนเองมากขึ้น      

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้ 1. ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถ เลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก หรือเป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง     3. ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูล

ข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น 4. ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสาร หรือกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเองไปยังบุคคลอื่นมากขึ้น ฯลฯ

93.       สื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคมอย่างไร

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสารคือคนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร หากแต่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการดำเนินการ

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เราเป็น ผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย จึงทำให้อำนาจในการผลิตสื่อหรือ การเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ดังนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึงเทคโนโลยี

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สาร” มีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกับมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ สาร” เพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สาร” ที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

(5)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       เว็บไซต์เครือขาย Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้ เป็นช่องทางล่อลวงทางเพศ

(4)       โปรแกรมสนทนาออนไลน์ มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากันแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทาง ล่อลวงกรรโชกทรัพย์

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมาข้างต้น

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 12ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี การสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น ดาบสองคม” มีดังนี้

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์เครือข่าย hi5 และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ

4.         โปรแกรมสนทนาออนไลน์ (Chat) มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากับแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางล่อลวงกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ

96.       กลุ่มข่าวต่าง ๆ ใน Usenet คำว่า “Usenet” หมายถึง

(1) Useful Network   (2) User Internet        (3) User Network

(4)       Useful Internet         (5) User Intranet

ตอบ3 (ส่วนที่ 3 หน้า 12), (คำบรรยาย) Usenet มาจากคำว่า User Network คือ ระบบกลุ่มข่าว (Newsgroup) ซึ่งเปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ให้ผู้อื่นได้อ่าน โดยมีกลุ่มสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกลุ่มข่าวต่าง ๆ

97.       การที่หน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์ เพียงพอต่อการควบคุม ด้านจริยธรรมแก่ผู้ผลิตสื่อออนไลน์หรือไม่

(1)       ไม่เพียงพอ ต้องระดมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

(2)       ไม่เพียงพอ ควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจัง

(3)       เพียงพอแล้ว แต่ควรดำเนินการอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น

(4)       เพียงพอแล้ว แต่ควรใช้อำนาจรัฐในการกำกับมากขึ้น

(5)       ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 5  (ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) การดำเนินการเพื่อควบคุมด้านจริยธรรมในการใช้

เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้ผลิตสื่อออนไลน์ โดยหน่วยงานภาครัฐร่วมมือกับภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังสื่อออนไลน์นั้นยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีการระดมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยการรณรงค์ไห้ผู้ผลิตสื่อและผู้ใช้เกิดสำนึกที่ดีในการใช้สื่อออนไลน์รวมถึงควรมีการออกกฎหมายที่บังคับใช้อย่างจริงจังด้วย

98.       ข้อใดคือประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จำกัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

(4)       ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็ว       (5) ไม่มีข้อใดผิด

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการโดยไม่จำกัด

2.         ผู้ส่งสามารถส่งจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับจดหมายถึงผู้รับได้

4.         ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันที ลฯ

99.       กฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์และสื่อสารสนเทศที่ประกาศบังคับใช้แล้ว คือ

(1)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

(5)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2554

ตอบ. 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อสารสนเทศ ซึ่งประกาศบังคับใช้แล้วใบปัจจุบัน ได้แก่

1.         พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

100.    กระทรวงไอซีที มีชื่อเป็นทางการว่า                

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ (3) กระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร

(4)       กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเศ (5) กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศการสื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) องค์กรที่ให้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่ 1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 2. กระทรวงมหาดไทย

3.         กระทรวงกลาโหม        4.         กระทรวงยุติธรรม        5. กรมสอบสวนคดีพิเศษ

6.         กรมประชาสัพันธ์      7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ

9. กองทัพบก   10.       กองทัพอากาศ 11. กองทัพเรือ

 

MCS2108(MCS2390)เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน แนวข้อสอบชุดที่ 2

ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2108 (MCS 2390) ชุดที่ 2

เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารมวลชน

คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ)

ข้อ 1. – 10.       จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Technology 

(2) wvwv.google.co.th 

(3) Language      

(4) Newspaper

1.         สื่อดั้งเดิม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 6) รูปแบบของสื่อ (Media) มีอยู่ 2 ลักษณะ ดังนี้

1.         สื่อดั้งเดิม (Traditional Media) คือ สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการ สื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ (เช่น หนังสือพิมพ์ (Newspaper) นิตยสาร (Magazine) ฯลฯ)สื่อวิทยุกระจายเสียงสื่อภาพยนตร์ และสื่อวิทยุโทรทัศน์

2.         สื่อใหม่ (New Media) คือ การนำเอาภาษาระบบตัวเลข หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเรียกว่า การทำให้เป็นระบบตัวเลข (Digitization) จนส่งผลให้เกิดสื่อรูปแบบใหม่หรือสื่อใหม่ขึ้น ได้แก่ การสื่อสารระบบ World Wide Web (เช่น Youtube www.google.co.th ฯลฯ)สื่อออนไลน์ (เช่น วิทยุออนไลน์ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร ออนไลน์ ฯลฯ)ภาพถ่ายดิจิตอลกราฟิกคอมพิวเตอร์เกม เป็นต้น

2.         ผู้รับสารเป็นผู้กระตือรือร้นเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสารด้วยตนเอง

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 6-7ส่วนที่ 2 หน้า 317), (ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ)

คุณลักษณะสำคัญของสื่อใหม่ (New Media) ได้แก่

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Active Seeker คือ ผู้รับสารกระตือรือร้นเสาะแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ด้วยตัวเองตามความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองอย่างอิสรเสรี

2.         เป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับระบบตัวเลข เครื่องคอมพิวเตอร์ และระบบการสะท้อนกลับ (Interactive) หรือการปฏิสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารที่มุงเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร ในลักษณะการสื่อสารสองทาง (Two-way Communication)

3.         เป็นสื่อที่ไม่มีข้อจำกัดในด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที

4.         มีความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยี และต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้การใช้สื่อและการเข้าถึงสื่อ จึงทำให้คนรุ่นเก่าไม่คุ้นเคย และอาจไม่ยอมเปิดรับหรือเข้าไม่ถึงสื่อใหม่ เพราะประเมินว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีเท่ากับคนรุ่นใหม่

3.         ผู้รับสารได้รับข้อมูลข่าวสารต่อเมื่อผู้ส่งสารนำเสนอสารผ่านช่องทางการสื่อสาร

ตอบ 3 (คำบรรยาย) ภาษา (Language) หมายถึง สิ่งที่ผู้ส่งสารสร้างขึ้นโดยกำหนดความหมายเพื่อให้ ผู้รับสารรับรู้ความหมายรวมกัน ดังนั้นภาษาจึงเป็นองค์ประกอบของ สาร” (Message)ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งผู้รับสารจะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อผู้ส่งสารนำเสนอสาร (ภาษาหรือถ้อยคำ) ผ่านช่องทางการสื่อสาร

4.        สื่อสารมวลชนสื่อแรกของโลก

ตอบ4 (ส่วนที่ 1 หน้า 616), (คำบรรยาย) สื่อหนังลือพิมพ์กระดาษ (Newspaper) จัดเป็นสื่อสารมวลชน สื่อแรกของโลกที่ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อผู้อ่านในสังคม แม้ว่าจะมีสื่อหนังลือพิมพ์ออนไลน์ เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมมากขึ้นก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะสื่อหนังสือพิมพ์กระดาษมีความคงทนสูง (ผู้รับสารเปิดรับข้อมูลข่าวสารซ้ำได้โดยไม่จำกัดเวลา) มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้อ้างอิงได้

5.         คือ องค์ประกอบ สาร” (Message) ในกระบวนการสื่อสารของมนุษย์

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

6.         ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและพื้นที่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 2. ประกอบ

7.         สิ่งที่ผู้ส่งสารสร้างขึ้นโดยกำหนดความหมายเพื่อให้ผู้รับสารรับรู้ความหมายร่วมกัน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 3. ประกอบ

8.         การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ด้านอุตสาหกรรม หรือพาณิชยกรรม

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 2) บราวน์ (Brown)ให้ความหมายซอง เทคโนโลยี” (Technology) ไว้ว่าเป็นการนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้บังเกิดผลประโยชน์ ส่วนพจนานุกรมเว็บสเตอร์ (Webster) กล่าวถึงเทคโนโลยีว่าครอบคลุมความหมาย 2 ประการ ดังนี้

1.         การใช้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม

2.         องค์รวมทั้งหมดของวิธีการและวัสดุที่ใช้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

9.         สื่อใหม่

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

10.       มีความคงทนสูง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ

11.       ข้อใดคือเหตุผลที่กล่าวว่า เทคโนโลยี” มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านการสื่อสารของมนุษยชาติ

(1)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำรงอยู่ของมนุษย์

(2)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์

(3)       การสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการปรับตัวของมนุษย์

(4)       การสื่อสารเป็นวิถีในการอยู่รอดของมนุษย์ในสังคม   

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที 1 หน้า 4) เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนากิจการหรืองานด้านต่าง ๆ และด้วยเหตุที่การสื่อสาร (Communication) เป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการดำรงอยู่หรือ การอยู่รอด การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว และการพัฒนาทุก ๆ ด้าน ดังนั้นการนำเอาความรู้ทาง วิทยาศาสตร์มาใช้ในการพัฒนาด้านการสื่อสารจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของมวลมนุษยชาติ

12.       The Broadcast Domain หมายถึงรูปแบบการสื่อสารในข้อใด

(1)       การสื่อสารที่ต้องอ้างอิงเอกสาร           

(2) การสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์

(3)       การสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์

(4)       การสื่อสารระหว่างบุคคล       

(5) การสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม

ตอบ 3            (ส่วนที่ 1 หน้า 4) ฟิดเลอร์ ได้ลำดับพัฒนาการของเทคโนโลยีสื่อ 3 สื่อหลักที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสื่อสารของมนุษย์ไว้ดังนี้ 1. เทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างบุคคล (The Interpersonal Domain) 2. เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (The Broadcast Domain) 3. เทคโนโลยีการสื่อสารประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (The Document Domain)

13.       ข้อใดต่อไปนี้ที่จัดเป็น New Media     

(1) รายการวิทยุ ไอทีทูเดย์

(2)       คอลัมน์ ก้าวทันยุค 4G” ในนิตยสารแพรว     (3) ละคร ดอกรักริมรั้ว บน Youtube

(4) ภาพซีเปีย  (5) ภาพยนตร์ระบบ Technic Color

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

14.       สื่อใดต่อไปนี้เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะ One-way Communication

(1)       วิทยุอินเทอร์เน็ต          (2) เว็บบอร์ดพันทิพ     (3) ภาพยนตร์ เดอะ ชัตเตอร์” ฉายในโรงภาพยนตร์

(4) ภาพยนตร์ ฮักนะ…สารคาม” บน Youtube (5) โปรแกรม Line บนโทรศัพท์เคลื่อนที่

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 6 – 7), (คำบรรยาย), (ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ)

คุณลักษณะสำคัญของสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ได้แกj

1.         ผู้รับสารมีลักษณะ Passive Receiver คือ ผู้รับสารมีหน้าที่เปิดรับข้อมูลข่าวสาร และ จะได้รับข้อมูลข่าวสารก็ต่อเมื่อมีการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น

2.         เป็นสื่อที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาและเนื้อที่หรือพื้นที่ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารในช่วงเช้าของแต่ละวัน (มีข้อจำกัดด้านเวลา) ด้วยปริมาณข้อมูลข่าวสาร ที่จำกัดอยู่ในจำนวนหน้าของสิ่งพิมพ์ที่จัดสรรให้ (มีข้อจำกัดด้านพื้นที่) เป็นต้น

3.         เป็นสื่อที่ประชาชนหรือผู้รับสารในสังคมมีความคุ้นเคย เนื่องจากมีระยะเวลาในการ พัฒนาการมาเป็นเวลายาวนาน

4.         เป็นสื่อที่ไม่เน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสาร ซึ่งเป็นลักษณะการสื่อสารทางเดียว (One-way Communication)

15.       สื่อที่เกิดขึ้นอันเป็นผลจากการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารในช่วง 6,000 – 30,000 ปีก่อน ตรงกับข้อใด

(1)       สื่อท้องถิ่น       (2) สื่อโบราณ  (3) สื่อดั้งเดิม   (4) สื่อดึกดำบรรพ์       (5) สื่อใหม่

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

16.       ผู้อ่านหนังลือพิมพ์คมชัดลึก มีลักษณะตรงกับข้อใด 

(1) Active Seeker

(2)       Active Receiver (3) Passive Seeker (4) Passive Receiver (5) Negative Receiver

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 14. ประกอบ

17.       สื่อที่เปิดช่องทางให้เกิดการสื่อสารในลักษณะ Interactive ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร คำว่า Interactive หมายถึง

(1)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นปฏิกิริยาตอบกลับจากผู้รับสารไปยังผู้ส่งสาร

(2)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(3)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนทางความคิดระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(4)       การสื่อสารที่มุ่งเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

18.       มีข้อจำกัดด้นเวลาและเนื้อที่ เป็นข้อจำกัดของ         

(1)       สื่อดั้งเดิม         (2) สื่อประเพณี           (3)       สื่อใหม่

(4)       สื่อดึกดำบรรพ์ (5)       สื่อท้องถิ่น

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 14. ประกอบ

19.       มีความน่าเชื่อถือ และเป็นสื่ออ้างอิงได้” คือ เหตุผลที่ทำให้สื่อแบบดั้งเดิมข้อใดต่อไปนี้ยังคงได้รับ ความสนใจจากผู้รับสารในปัจจุบัน          

(1) สื่อวิทยุกระจายเสียง

(2)       สื่อวิทยุโทรทัศน์          (3) สื่อสิ่งพิมพ์ (4) สื่ออินเทอร์เน็ต       (5) สื่อประเพณี

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 1. และ 4. ประกอบ

20.       เป็นสื่อที่ต้องอาศัยทักษะในการเรียนรู้ในการใช้และการเข้าถึงสื่อ” คือ เหตุผลที่ทำให้คบรุ่นเก่าไม่นิยม เปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อใดต่อไปนี้

(1)       สื่อดั้งเดิม         (2) สื่อท้องถิ่น  (3)       สื่อเฉพาะกิจ    (4)       สื่อใหม่ (5)       สื่อประเพณี

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ

21.       ข้อใดที่ให้คำนิยามเกี่ยวกับคำว่า “Information” และ “Data” ถูกต้อง

(1)       Information คือ Data ที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(2)       Data คือ Information ที่มีการจัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน

(3)       Information เป็นส่วนหนึ่งของ Data

(4)       ทั้ง Information และ Data มีความหมายเหมือนกัน เพียงแต่เขียนไม่เหมือนกัน

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ1  (ส่วนที่ 1 หน้า 10), (คำบรรยาย) สารสนเทศ (Information) กับข้อมูล (Data) มีความหมายแตกต่างกัน กล่าวคือ ข้อมูล (Data) คือ กลุ่มข้อความที่ไม่มีการจัดรูปแบบหรือจัดระเบียบ และ ไม่พร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ต้นฉบับภาพข่าวเพื่อนำลงฐานข้อมูลมติชนออนไลน์ เป็นต้น ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูล (Data) ที่ผ่านกระบวบการจัดการ หรือมีการ จัดระเบียบและพร้อมถูกนำมาใช้งาน เช่น ข่าวสารหรือไฟล์ภาพในเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นต้น

22.       ข้อใดต่อไปนี้คือประเด็นจริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

(1)       Information Proposal     

(2) Information Property 

(3) Information Promotion

(4) Information Priority    

(5) Information Privilege

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) จริยธรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (PAPA)

มีอยู่ 4 ประเด็น คือ      1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)

2.         ความถูกต้อง (Information Accuracy) 3. ความเป็นเจ้าของ (Information Property) 4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)

23.       การรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้สื่อและจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลเพื่อเผยแพร่แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อออนไลน์ขัดกับจริยธรรมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารข้อใด       

(1) ความถูกต้อง

(2)       ความเป็นส่วนตัว        (3) ความเป็นเจ้าของ   (4) การเข้าถึงข้อมูล (5) การสงวนสิทธิแห่งพื้นที่

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 10) ตัวอย่างการละเมิดความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) มีดังนี้

1.         การเข้าไปดูหรืออ่านข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของผู้อื่น

2.         การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏิบัติงาน/การใช้บริการ

ของพนักงาน 3. การใช้ข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายตลาด

4. การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ทื่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อนำไปสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าขึ้นใหม่แล้วนำไปขายให้บริษัทอื่น

24.       ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ คือ

(1)       ข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นด้วยความจงใจหรือไม่

(2)       ควรมีมาตรการลงโทษต่อผู้เกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

(3)       ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง   (5) ข้อ 1 และ 2 ถูกต้อง

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 1123) ประเด็นที่พิจารเนาเกี่ยวกับความถูกต้อง (Information Accuracy) ในปัญหาความผิดพลาดของข้อมูลและสารสนเทศที่จัดเก็บและเผยแพร่ทางสื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการทีสื่อออนไลน์ไม่มีผู้ทำหน้าที่ ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” คือ บุคคลที่ทำหน้าที่ ตรวจสอบ คัดเลือก และตีความสารก่อนที่จะส่งผ่านไปยังผู้รับสาร มีดังนี้

1.         ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อข้อมูลที่จัดเก็บและเผยแพร่

2.         จะทราบได้อย่างไรว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความจงใจหรือไม่

25.       ข้อใดต่อไปนี้ที่เข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับประเด็นจริยธรรม Information Property

(1)       การซื้อฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ในการขยายธุรกิจ

(2)       การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้าในราคาถูก

(3)       การใช้กล้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตรวจจับดูการปฏิบัติงานของพนักงานในบริษัท

(4)       การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อสร้างฐานข้อมูลประวัติลูกค้าใหม่แล้วขายให้ผู้อื่น

(5)       การพยายามเจาะเข้าถึงฐานข้อมูลของผู้อื่นผ่านโปรแกรมการสื่อสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 11), (คำบรรยาย) ประเด็นที่พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำที่ขัดกับ

ความเป็นเจ้าของ (Information Property) คือ

1.         การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เช่น การทำสำเนาซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เพื่อนำไปขายให้ลูกค้า ในราคาถูก ซึ่งซอฟต์แวร์มีหลายลักษณะ ได้แก่ Copyright or Software License คือ ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้, Shareware คือ ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น และ Freeware คือ ซอฟต์แวร์ที่ ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้ เป็นต้น

2.         การละเมิดลิขสิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์

26.       ซอฟต์แวร์ในลักษณะ Shareware ตรงกับข้อใด

(1)       ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ฟรี คัดลอก และเผยแพรให้ผู้อื่นได้

(2)       ซอฟต์แวร์ที่ให้ทดลองใช้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

(3)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิ์ใช้เท่านั้น ห้ามทำซ้ำหรือเผยแพร่ทุกกรณี

(4)       ซอฟต์แวร์ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้วมีสิทธิใช้ในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น

(5) ซอฟต์แวร์แบ่งปันสาธารณะ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

27.       ผลจากการที่สื่อออนไลน์ไม่มีผู้ทำหน้าที่ ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” คือ ประเด็นปัญหาจริยธรรมการสื่อสารผ่านสื่อสารสนเทศในข้อใด     

(1) Information Accuracy (2) Information Privacy

(3)       Data Accessibility    (4) Information Property (5) Data Accessory

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 24. ประกอบ

ข้อ 28. – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyber Terrorist         (2) Cracker         (3) Copyright

28.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) กลุ่มบุคคลที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ด้านการเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ได้แก่

1.         Hacker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่านการสื่อสารบนเครือข่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเข้าไปอ่าน คัดลอก ลบ หรือทำความเสียหายแก่ข้อมูล

2.         Cracker คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

3.         Hacktivist or Cyber Terrorist คือ บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เพื่อส่งข้อความเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่น

29.       Software License

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 25. ประกอบ

30.       บุคคลที่ลักลอบเข้าไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงธุรกิจ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 28. ประกอบ

ข้อ 31. – 35. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Data          

(2) Application Software  

(3) Hardware

(4)       Information     

(5) Peopleware

31.       โปรแกรม AUTOCAD

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ซอฟต์แวร์หรือชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Software) คือ ชุดคำสั่ง หรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ ได้แก่ โปรแกรมสำเร็จรูปต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Word, Excel, PowerPoint, AUTOCAD ฯลฯ

32.       นักวิเคราะห์ระบบ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ ในการใช้และดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น นักเขียนโปรแกรม (Programmer) และ นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ (System Analyst) ฯลฯ

33.       หน่วยรับข้อมูล

ตอบ 3 (ส่วนที่ 1 หน้า 9) ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนประกอบสำคัญ คือ หน่วยรับข้อมูล หน่วยประมวลผล และหน่วยแสดงผล

34.       ต้นฉบับภาพข่าวเพื่อนำลงฐานข้อมูลมติชนออนไลน์

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

35.       ไฟล์ภาพในเว็บไซต์ www.pantip.com

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 21. ประกอบ

36.       การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีชื่อย่อว่า CMC ตรงกับข้อใด

(1)       Compute! Medium Communication

(2)       Computer Maintained Communication (3) Computer Mediated Communication

(4) Computer Manual Communication   (5) Computer Mutual Communication

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 3 – 5), (คำบรรยาย) การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง หรือการสื่อสารผ่านส่อคอมพิวเตอร์ (Computer 

Mediated Communication ะ CMC) มีลักษณะสำคัญ ดังนี

1.         เป็นสื่อที่ใช้เมื่อไหร่หรือที่ใดก็ได้ไม่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลาและสถานที่ในการนำเสนอเนื้อหา เหมือนการใช้สื่ออื่น ๆ

2.         เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ กับเนื้อหาสารก็ได้

3.         เป็นสื่อที่มีส่วนผสมทางเทคโนโลยีหลายอย่างอยู่ในตัวเอง

4.         เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.         เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล (Universal Medium) ในตัวเอง

37.       ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไว้ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ CMC

(1)       เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะสากล

(2)       เป็นสื่อที่ใช้เมือใดก็ได้ แต่ติดเงื่อนไขเรื่องเวลา

(3)       เป็นสื่อที่เปิดโอกาสกับผู้รับสารในการกระทำการใด ๆ ก็ได้กับเนื้อหาสาร

(4)       เป็นสื่อที่มีส่วนผสมซองเทคโนโลยีหลายอย่างในตัวเอง

(5)       เป็นสื่อที่นำเสนอเนื้อหาสารในลักษณะ Real Time ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ

38.       ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ เป็นการสื่อสารด้วย   

(1) เสียง

(2)       สัญลักษณ์      (3) ข้อความ     (4) ภาพ           (5) แสง

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 4) ในยุคแรกเริ่มของการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์นั้น เป็นการสื่อสารด้วยข้อความ โดยปราศจากภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อ World Wide Web (WWW) ได้ถูกคิดค้นขึ้นก็ทำให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครือข่ายในการสื่อสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และพัฒนาไปสู่ความเป็นปฏิสัมพันธ์

39.       ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อได้เปรียบของการสื่อสาร CMC

(1)       ส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ เสียง

(2)       มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ตลอดเวลา ภายในเวลารวดเร็ว

(3)       มีการติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

(4)       เป็นสื่อที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้กระทำการสื่อสาร

(5)       ทุกข้อ ยกเว้นข้อ 4

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 4-5) ข้อได้เปรียบของการสื่อสารในลักษณะ CMC มีดังนี้

1.         ความเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์และข้อจำกัด คือ ไม่สามารถจำกัดสิ่งใดได้ ปราศจากผู้ผูกขาดใด ๆ

2.         ขอบเขตของการสื่อสาร คือ สามารถส่งผ่านเนื้อหาได้หลายลักษณะทั้งข้อความ ภาพ และเสียง

3.         การสนองตอบและการปฏิสัมพันธ์ คือ มีการสนองตอบระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารได้ ตลอดเวลา ภายในเวลาอันรวดเร็ว

4.         การติดต่ออย่างเป็นเครือข่าย คือ มีภารติดต่อสื่อสารกันในลักษณะเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย

40.       ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง มีลักษณะ Impersonal ตรงกับคำว่า   

(1)       ไร้ตัวตน           (2) ไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง    (3) ไม่ใช่บุคคล

(4) ไม่ใช่มนุษย์            (5) เสมือนไม่มีตัวตน

ตอน 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 8) ผู้ใช้การสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง (CMC) จะมีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมหลากหลาย แต่ลักษณะที่โดดเด่นคือ ความไม่ปรากฏตัวตนที่แท้จริง (Impersonal) หรือการแสดงตนให้ปรากฏท่ามกลางสังคม (Social Presence) มีน้อยหรือ เป็นไปในลักษณะถดถอย

41.       การสื่อสารผ่านโปรแกรม Chat เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 57) รูปแบบของการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถจำแนกได้ 4 รูปแบบ ดังนี้

1.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การสื่อสารด้วยจดหมายหรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E-mail)

2.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน เช่น การเขียนข้อความทิ้งไว้ใน Blog ของเว็บไซต์ hi5 หรือ Facebook

3.         การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด เช่น การสนทนาออนไลน์แบบห้องสนทนา (Chat Room) หรือผ่านโปรแกรม Messenger (MSN)

4.         การสื่อสารแบบไม่พร้อมกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร เช่น การให้บริการข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์ต่าง ๆ

42.       การเขียนข้อความไว้ใน Blog เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   

(3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

43.       การส่ง E-mail ไปยังบุคคลอื่น เป็นการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรูปแบบใด

(1)       การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มบุคคลไม่พร้อมกัน

(2)       การสื่อสารแบบพร้อมกันทันทีทันใด   (3) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคลไม่พร้อมกัน

(4) ภารสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         (5) การสื่อสารระหว่างบุคคลกับกลุ่มคน

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

44.       CMC เป็นการสื่อสารที่ เลือกที่รัก มักทีชัง” เพราะ           

(1)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรเฉพาะข้อความที่ต้องการสื่อ โดยผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้

(2)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรทั้งข้อความที่ต้องการสื่อและอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(3)       ผู้สื่อสารสามารถคัดสรรข้อความที่ต้องการสื่อ โดยไม่ต้องแสดงอวัจนภาษาไปยังผู้รับสาร

(4)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกสื่อสารเฉพาะกับบุคคลที่ตนเองรักใคร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(5)       ผู้สื่อสารสามารถเลือกที่จะปฏิเสธบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 8), (คำบรรยาย) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ เป็นสื่อที่ถูกใช้ในการสื่อสารแบบเลือกที่รัก มักที่ชัง (Selective) ค่อนข้างมาก กล่าวคือ ผู้สื่อสารสามารถเลือกหรือคัดสรรเฉพาะคำ ข้อความ หรือภาพที่ต้องการสื่อสารไปยัง ผู้รับสาร โดยทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่อาจรับรู้อวัจนภาษาอื่นใดได้ ซึ่งทำห้กระบวนการลำเลียงข้อมูลข่าวสารไม่สมบูรณ์พร้อมด้วยความหมาย

45.       ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน” เป็นผลกระทบของการสื่อสาร ผ่านสื่อในข้อใด          

(1) สื่อหนังสือพิมพ์

(2)       สื่อวิทยุกระจายเสียง (3) สื่อภาพยนตร์           (4) สื่อคอมพิวเตอร์      (5) สื่อวิทยุโทรทัศน์

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 12) การสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ (CMC) มีผลกระทบต่อสังคมประการหนึ่ง คือ ช่วยลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง จนก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ทุกคน มีความเท่าเทียมกัน เพราะการสื่อสารในลักษณะ CMC ทำให้ไม่มีผู้นำที่มีบทบาทเป็นผู้นำถาวร และไม่มีผู้ตามที่มีบทบาทตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิด การเชื่อมต่อกันในแนวราบหรือแนวระนาบ (Horizontal Link) ที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล คือ ทุกคนเป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสารได้อย่างเสมอภาคกัน

46.       เพราะเหตุใดการประชุมผ่านสื่อ Teleconference ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง

(1)       เพราะผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(2)       เพราะความด้อยประสิทธิภาพด้านความชัดเจนของภาพและเสียงผ่นสื่อ

(3)       เพราะระยะทางระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารที่ห่างไกลกัน

(4)       เพราะภาพที่ปรากฏผ่านสื่อขาดความสมจริง

(5)       เพราะเป็นการสื่อสารผ่านหน้าจอขนาดเล็ก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 10) การประชุมทางไกล (Teleconference) ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขความขัดแย้ง เพราะผู้เข้าร่วมประชุมต้องใช้เวลาและคำพูด มากกว่าการประชุมแบบดั้งเดิม รวมทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารไม่สามารถใช้อวัจนภาษาและ จังหวะในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

47.       เพราะเหตุใดการสื่อสารในลักษณะ CMC ลดบทบาทการสื่อสารที่มีผู้นำเป็นศูนย์กลาง

(1)       เพราะความเท่าเทียมกันทางด้านการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เพราะโครงสร้างของการสื่อสาร CMC ไม่มีผู้นำหรือผู้ตาม

(3)       เพราะเป็นรูปแบบการสื่อสารที่ก่อให้เกิดการชื่อมต่อกันในแนวราบ

(4)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง    (5) ข้อ 2 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ

48.       การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะ Real Time ตรงกับข้อใด

(1)       สามารถนำเสนอข่าวและจัดเก็บข้อมูลข่าวเพื่อให้สืบค้นย้อนหลังได้

(2)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

(3)       สามารถนำเสนอข่าวสารแบบร่วมสมัย

(4)       สามารถนำเสนอข่าวสารเสมือนจริง

(5)       สามารถสร้างความรู้สึกเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

 ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 17) การรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะเฉพาะ ดังนี้

1.         ตรงกาล (Real Time) คือ สามารถนำเสนอข่าวสารแบบทันเหตุการณ์ ตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง

2.         ไร้กาล (Shifted Time) คือ ความสามารถในการเอาชนะข้อจำกัดด้านเวลา

3.         ประสานสื่อ (Multimedia) คือ ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

4.         ปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านหรือผู้รับสารสื่อสารไปยังผู้ส่งสาร อย่างทันท่วงทีในลักษณะการสื่อสารสองทาง

49.       รูปแบบการรายงานข่าวออนไลน์มีลักษณะ Multimedia หมายถึง

(1)       ใช้องค์ประกอบด้านสื่อประสมในการรายงานข่าว

(2)       อาศัยความร่วมมือจากสื่อต่าง ๆ อย่างหลากหลายในการรายงานข่าว

(3)       อาศัยการประสานการทำงานระหว่างสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว

(4)       อาศัยช่องทางในการผสมผสานสื่อต่าง ๆ ในการรายงานข่าว            (5) ไม่มีข้อใดถูก ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 48. ประกอบ

50.       ข้อใดกล่าวไว้ถูกต้องเกี่ยวกับ สื่อออนไลน์” ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชน

(1)       จัดอยู่ในประเภทสื่อดั้งเดิม      (2) มีข้อจำกัดด้านระยะทางในการสื่อสาร

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านพื้นที่ แต่จำกัดด้านเวลา

(4)       มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด   (5) นำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำกัดด้านเวลา แต่จำกัดด้านพื้นที่

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 16) ลักษณะเฉพาะของสื่อออนไลน์ ซึ่งจัดอยู่ในประเภทสื่อใหม่ (New Media)ของวงการสื่อสารมวลชนไทย มีดังนี้       

1. ไม่มีอุปสรรคด้านระยะทาง

2. มีผลสะท้อนกลับทันทีทันใด           

3. น่าเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่และเวลา

4.         นำเสนอโดยใครก็ได้ ไม่จำเน้นต้องเป็นนักสื่อสารมวลชน

5.         ใช้ต้นทุนในการดำเนินการน้อยกว่าการสื่อสารมวลชนแบบดั้งเดิม ฯลฯ

51.       รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ Bulletin Board Newsgroup มีลักษณะ          

(1)       บริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวที่ให้ข้อมูลข่าวสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิกในกลุ่ม

(2)       บริการข่าวสารที่จัดแบ่งหมวดหมู่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกใช้บริการตามความต้องการ

(3)       บริการกระดานข่าวที่มีระบบการจัดการที่ดีและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ลงทุนทางธุรกิจที่ต้องการ ข่าวสารและติดตามข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์

(4)       บริการข่าวสารที่เปิดโอกาสให้ทุกคนทำหน้าที่เน้นผู้สื่อข่าวได้ด้วยตนเอง

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 18) รูปแบบการนำเสนอข่าวสารในลักษณะ กระดานข่าวของกลุ่มข่าว(Bulletin Board Newsgroup) เป็นบริการกระดานข่าวในกลุ่มข่าวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสารและเป็นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่มีผู้ดูแลควบคุมกระดานข่าว และแบบที่ไม่มีผู้ดูแล

52.       ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร     

(2) เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด

(3)       เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายข้อมูลข่าวสาร   

(4) เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้นำประเทศ

(5)       เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการมีปฏิสัมพันธ์

ตอบ 4 

(ส่วนที่ 2 หน้า 19 – 20) นโยบายด้านการสื่อสารบนสื่อออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 

2. เพื่อเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสาร

3.         เพื่อเสริมช่องทางด้านการตลาด 

4. เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติด้านการสื่อสารปฏิสัมพันธ์

53.       ข้อไดไม่ใช่รูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์บนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด

(2)       มีฐานข้อมูลให้เรียกดูฉบับย้อนหลังได้

(3)       ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาลมากขึ้น

(4)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีรูปแบบการสื่อสารในลักษณะ One-way Communication

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของหนังสือพิมพ์ บนสื่อออนไลน์ มีดังนี้ 1. ให้ความสำคัญกับข่าวหน้าหนึ่งมากที่สุด 2. มีฐานข้อมูลให้เรียกดู ฉบับย้อนหลัง (Archive) 3. ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข่าวในลักษณะตรงกาล (Real Time) มากยิ่งขึ้น 4. รูปแบบการนำเสนอเน้นความเรียบง่าย สะอาด และสะดวกต่อการค้นหาข้อมูล

5.         มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

54.       ข้อใดไม่ไข่ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์-วิทยุบนสื่อออนไลน์

(1)       ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสดทางอินเทอร์เน็ต

(2)       ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

(3)       ไม่มีการบันทึกรายการที่ออกอากาศไปแล้วในรูปของไฟล์ที่ผู้ใช้เรียกกลับมาซชมได้อีก

(4)       มีการใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร

(5)       มีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 2129), (คำบรรยาย) ลักษณะการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสถานีโทรทัศน์ และวิทยุบนสื่อออนไลน์ มีดังนี้           

1. ให้ความสำคัญกับการนำสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุมาออกอากาศสตฝานทางอินเทอร์เน็ต (Web Casting)

2.         ให้ข้อมูลและรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ที่จะออกอากาศทางสถานี

3.         เก็บบันทึกรายการทีออกอากาศไปแล้วไว้ในรูปของ VDO File และ Real Audio เพื่อให้ ผู้ใช้เรียกกลับมาชมหรือฟังในภายหลังได้

4. ใช้เทคโนโลยีสื่อประสมในการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารมากกว่าสื่อหนังสือพิมพ์ออนไลน์

5. มีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้รับสารกับผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารที่สามารถโต้ตอบได้ทันที ฯลฯ

55.       ข้อใดต่อไปนี้คือข้อจำกัดของข่าวออนไลน์

(1)       ผู้ส่งสารและผู้รับสารมีช่องทางในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน

(2)       ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารจากกลุ่มข่าวต่าง ๆ

(3)       นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Real Time

(4) นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Shifted Time

(5) นำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ Multimedia

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 22 – 23) ข้อจำกัดของข่าวออนไลน์ ได้แก่ 1. การนำเสนอผ่านจอภาพขนาดเล็ก ย่อมส่งผลตอประสิทธิภาพในการเปิดรับข้อมูลข่าวสาร 2. ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสาร จากกลุ่มข่าวต่าง ๆ 3. ลดบทบาทในการแปลความและตีความของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิม

4.         ไม่มีผู้ทำหน้าที่เป็นนายทวารเฝ้าประตูข้อมูลข่าวสารอย่างสิ้นเซิง

56.       ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ไม่มี Gatekeeper หมายความว่าอย่างไร

(1)       ทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่งข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อไปสู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

(2)       บรรณาธิการข่าวออนไลน์ถูกลดบทบาทให้น้อยลง

(3)       ขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรรข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร

(4)       มีบรรณาธิการข่าว แต่ไม่อาจทราบตัวตนที่แท้จริง

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ5 (ส่วนที่ 2 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบของการนำเสนอข่าวออนไลน์ในแง่ของ การไม่มีผู้เฝ้าประตูข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การขาดบรรณาธิการข่าวที่ทำหน้าที่คัดสรร ข่าวสารเพื่อนำเสนอต่อผู้รับสาร เพราะการนำเสนอข่าวออนไลน์นั้นทุกคนมีบทบาทเป็นผู้ส่ง ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ไปลู่กลุ่มผู้รับสารของตนเอง

57.       ผลกระทบจากการที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ

(1)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดสำนึกรับผิดชอบต่อการนำเสนอข่าวสาร

(2)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร

(3)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะ ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก

(4)       ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารไม่ตระหนักต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร

(5)       ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 2 หน้า 24), (คำบรรยาย) ผลกระทบจากการที่สื่อออนไลน์เปิดช่องทางให้ผู้รับสารสามารถนำเสนอข้อมูลข่าวสารได้ด้วยตนเอง คือ 1. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดจรรยาบรรณ ในเรื่องในความสำนึกรับผิตชอบต่อการนำเสนอข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อสังคม

2.         ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารละเมิดลิขสิทธิ์ในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา ของข้อมูลข่าวสาร 3. ผู้นำเสนอข้อมูลข่าวสารขาดทักษะในการกลั่นกรองหรือไม่ตระหนัก ต่อความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ทำให้นำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดมาก หรือข้อมูลที่เป็นข่าวลือ

58.       ข้อใดที่ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ในประเทศไทย

(1) ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์          (2) ระบบเศรษฐกิจของประเทศ

(3)       แบวนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล (4) แนวนโยบายด้านการเมืองของรัฐบาล

(5)       พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 2 หน้า 25 – 26) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ ในประเทศไทย ได้แก่ 1. ความแพร่หลายของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 2. ระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ 3. โครงสร้างพื้นฐานทางการสื่อสารของประเทศ และแนวนโยบายทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล 4. บุคลากรในการทำงาน 5. ความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ ของประชากรในประเทศ 6. พฤติกรรมการใช้ประโยชน์จากสื่ออินเทอร์เน็ตของคนในสังคม

59.       ข้อใดคือแนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย

(1)       นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับนโยบายของผู้มีอำนาจรัฐมากขึ้น

(2)       ผู้รายงานข่าวมีบทบาทเป็นผู้กำหนดรูปแบบของเนื้อหามากขึ้น

(3)       ใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

(4)       นำเสนอข่าวตามประเด็นข่าวของสื่อแบบดั้งเดิมเป็นสำคัญ

(5)       ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 27 – 28) แนวโน้มการรายงานข่าวออนไลน์ของสื่อมวลชนไทย มีดังนี้

1.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่เป็น Interactive มากขึ้น

2.         เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะที่ง่ายต่อการสืบค้นมากขึ้น

3.         ใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตและใช้สื่อประสมในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารมากขึ้น

4.         ใช้ภาพกราฟิกมากขึ้น 5. คำนึงถึงความเร็วในด้านผู้ใช้งานมากขึ้น ฯลฯ

60.       การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตรงกับคำว่า       

(1) Elective Commerce

(2)       Endless Commerce (3) Electronic Commerce

(4)       Evaluated Commerce      (5) Elected Commerce

ตอบ 3 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (ส่วนที่ 3 หน้า 5) แนวโน้มรูปแบบของธุรกิจการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตรงกับคำว่า Electronic Commerce (e-Commerce) ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้น เพราะองค์กรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าว มากขึ้น บอกจากนี้ยังเกิดการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจาก เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างความจงรักภักดีและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับองค์กร หากผู้บริโภค สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์นั้นได้โดยง่าย

61.       แนวโน้มสภพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทยในอนาคต คาดว่า

(1)       แข่งขันเฉพาะกับสื่อออนไลน์ด้วยกันเท่านั้น       

(2) แข่งขันทั้งสื่อดั้งเดิมและสื่อออนไลน์

(3)       สภาวะการแข่งขันถดถอยกว่าในปัจจุบัน       

(4) สภาวะการแข่งขันเหมือนปัจจุบัน

(5)       คาดการณไม่ได้

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 28) แนวโน้มสภาพการแข่งขันของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ในประเทศไทย ในอนาคต คาดว่าจะต้องแข่งขันกันทั้งสื่อที่มีอยู่ดั้งเดิมและสื่อออนไลน์ ดังนั้นหนังสือพิมพ์ ออนไลน์จึงต้องมีการปรับตัวโดยการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสาร มัลติมีเดีย ฐานข้อมูล รวมทั้งความน่าเชื่อถือของข่าวสาร

62.       หากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูลขาวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ภาครัฐควรดำเนินการข้อใดเป็นอันดับแรก

(1)       ส่งเสริมให้ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

(2)       พัฒนาความรู้และทักษะของประชาชนเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์

(3)       ส่งเสริมให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสเป็นเจ้าของสื่อคอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง

(4)       กำหนดมาตรการลดราคาสื่อคอมพิวเตอร์ไห้ถูกลง    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 25), (คำบรรยาย) ประชากรสวนใหญ่ในประเทศไทยเป็นเกษตรกรและมีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีทัศนคติว่า สื่อคอมพิวเตอร์มีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี จึงมีการเข้าถึง สื่อประเภทนี้น้อย ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมหันมาสนใจเปิดรับข้อมูล ข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สิ่งแรกที่ภาครัฐควรดำเนินการคือ ส่งเสริมให้ประชาชน มีทัศนคติที่ดีต่อการเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์

ข้อ 63. – 66. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Online Community (2) Online Newswires and Broadcaster

(3)       Internet   (4) ARPANET

63.       เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายขนาดย่อยเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกัน ทั่วโลก

ตอบ3 (ส่วนที่ 3 หน้า 210) อินเทอร์เน็ต (Internet) คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดย่อยมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก จึงถือได้ว่าเป็นเครือข่ายของเครือข่าย (Network of Network) โดยมีลักษณะเป็นเสมือน เครือข่ายใยแมงมุม (World Wide Web : WWW) ที่ครอบคลุมทั่วโลก

64.       ชุมชนออนไลน์

ตอบ1 (ส่วนที่ 3 หน้า 18 – 19) การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” (Online Community) กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของผู้คนในสังคม จากการสร้างเครือข่ายสังคม (Social Network) บนพื้นที่เสมือน (Virtual Space) หรือ การไม่ยึดติดกับพื้นที่จริง (Reality Space)

65.       องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนารูแบบการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ในลักษณะเครือข่าย

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 3) อินเทอร์เน็ตเริ่มใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาเป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนารูปแบบการสื่อสารผ่าน สื่อคอมพิวเตอร์ในลักษณะเครือข่าย ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่ายทางการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น จึงแยกตัวเป็นเครือข่ายย่อยชื่อว่า มิลเน็ต (Milnet : Military Network) โดยการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบ โปรโตคอล ที่เรียกว่า TCP/IP (Transmission Control Protocol /Internet Protocol)

66.       กลุ่มองค์กรข่าวออนไลน์

ตอบ 2 (ส่วนที่ 2 หน้า 19) กลุ่มองค์กรข่าวออนไลน์ (Online Newswires and Broadcaster)เป็นบริการของหน่วยงานที่ทำธุรกิจทางด้านข่าวสารตาง ๆ เช่น CNN, Reuters และ อ.ส.ม.ท. เป็นต้น

ข้อ 67. – 70. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถาม

(1)       Cyberspace      (2) IP Video Conference

(3)       TCP  (4) World Wide Web

67.       เครือข่ายใยแมงมุม

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 63. ประกอบ

68.       การเชื่อมเข้ากับเครือข่ายอาร์ปาเน็ตด้วยเทคนิคการโต้ตอบแบบโปรโตคอล

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ

69.       การประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 ประเทศไทยได้สาธิตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2 ล้านบิต/วินาที ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสาธิตระบบมัลติมีเดียและการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IP Video Conference)

70.       พื้นที่สาธารณะที่เกิดจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หนา 16) Bell et al. อธิบายว่า Cyberspace คือ พื้นที่สาธารณะ (Public Space)ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารโดยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ปรากฏ ตัวตนทางร่างกายของบุคคลคู่สื่อสาร

ข้อ 71. – 80. ข้อใดที่กล่าวถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 1 ถ้าข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องระบายตัวเลือกข้อ 2

71.       บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่ายกาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชนและเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 5) ตั้งแต่ พ.ค. 2539 เป็นต้นมา เนคเทค (NECTEC) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำเนินการโครงการเครือข่าย กาญจนาภิเษกเพื่อกระจายความรู้สู่ประชาชน และเป็นสำนักงานเลขานุการโครงการ เทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ

72.       วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดตั้งเครือข่ายไทยสาร คือ เพื่อให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชน สามารถแลกเปลี่ยนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลก

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายไทยสารขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์สำคัญคือ การทำให้นักวิชาการไทยทั้งจากภาครัฐและเอกชนสามารถแลกเปลี่ยน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันได้ทั่วโลภ

73.       NECTEC เปิดให้บริการ WWW เป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.siamnet-or.th

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 6) ในเดือนตุลาคม พ.ค. 2536 เนคเทค (NECTEC) ได้เปิดให้บริการ WWWเป็บครั้งแรกในประเทศไทย คือ www.nectec.or.th ซึ่งทำหน้าที่แนะนำประเทศไทยกับทั่วโลก เป็นภาษาอังกฤษ ภายใต้ชื่อ Thailand the Big Picture โดยเปิดบริการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

74.       องค์กรเอกชนที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) การใช้อินเทอร์เน็ตในปี พ.ศ. 2538 มีเหตุการณที่ควรแก่การบันทึกดังนี้

1.         เดือนมีนาคม องค์กรเอกชนทีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างถาวรด้วยความเร็ว 64 kbps รายแรกคือ ธนาคารไทยพาณิชย์

2.         เดือนมิถุนายน มีการขยายวงจรต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด คือ 512 kbps และมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งทางอินเทอร์เน็ต โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ร่วมกับ NECTEC

3.         เดือนกันยายน ประเทศไทยเปิดใช้วงจรอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิต ต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

75.       ประเทศไทยเปิดใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ 2 ล้านบิตต่อวินาทีเป็นวงจรแรก โดยเชื่อม NECTEC กับ NACSIS ในประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 1 ดู.คำอธิบายข้อ 74. ประกอบ

76.       สื่อออนไลน์เป็นสื่อดั้งเดิมและเป็นสื่อที่มีความคงทนสูง ส่วนสื่อวิทยุกระจายเสียงเป็นสื่อใหม่และเป็นสื่อทีมีความคงทนต่ำ

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 1. ประกอบ

77.       ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail มาจากคำว่า Electronic Mail

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 41. ประกอบ

78.       Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าใช้งานเครื่องดังกล่าวเสมือนกับไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง

ตอบ 1 (ส่วนที่ 2 หน้า 5ส่วนที่ 3 หน้า 12) Telnet คือ การขอใช้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งตั้งอยู่ไกลออกไป เพื่อเข้าไข้งานเครื่องดังกล่าวได้เสมือนกับเราไปนั่งที่หน้าเครื่องนั้นเอง โดยจำลองคอมพิวเตอร์ของเราให้เป็นเสมือนจอภาพบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นได้

79.       ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูงเพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุนเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 7) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ประเทศไทยเริ่มเปิดใช้วงจรความเร็วสูง เพื่ออินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก โดยศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา ผ่านทางเคเบิลใยแก้วนำแสง

80.       การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1. เพื่อติดต่อสื่อสาร 2. เพื่อสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และ 3. เพื่อดัดแปลงข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 10) การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.         เพื่อติดต่อสื่อสาร         2. เพื่อค้นหาหรือสืบค้นข้อมูลข่าวสาร 3. เพื่อความบันเทิง

81.       เหตุที่กล่าวว่าอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อสารมวลชนเพราะ   

(1)       เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมจากผู้รับสารจำนวนมากในสังคม

(2)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารจำนวนมากในสังคมเข้าถึงอย่างเสมอภาค

(3)       เป็นสื่อสาธารณะ

(4)       สามารถตอบสนองการทำงานของทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์

(5)       สามารถเข้าถึงผู้รับสารได้จำนวนมากในสังคม

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 15), (คำบรรยาย) สื่ออินเทอร์เน็ตจัดเป็นสื่อสารมวลชน เพราะมีความสามารถ ในการตอบสนองการทำงานของสื่อมวลชนแบบดั้งเดิมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมสื่อแบบดั้งเดิมทุกสื่อ โดยสามารถนำเสนอข่าวสารได้ทั้งตัวอักษร เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษ อื่น ๆ ไว้ในสื่อเดียว

82.       เหตุที่กล่าวว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีหลากหลายรูปร่างหน้าตาเพราะ      

(1)       เป็นสื่อทีมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคล

(2)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน

(3)       เป็นสื่อทีมีรูปแบบการสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคลกับกลุ่มบุคคล

(4)       เป็นสื่อที่มีรูปแบบการสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน         

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) Morris and Ogan กล่าวว่า สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมวลชนที่มีหลกหลาย รูปร่างหน้าตา (Multifaceted Mass Medium) เพราะเป็นสื่อที่อำนวยความสะดวกในการ สื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้ 1. การสื่อสารระหว่างบุคคล (One to One Communication)

2.         การสื่อสารระหว่างคนกับกลุ่มคน (One to Many Communication)

3.         การสื่อสารระหว่างกลุ่มบุคคล (Interpersonal Communication)

4.         การสื่อสารระหว่างบุคคลกับมวลชน หรือการสื่อสารมวลชน (Mass Communication)

83.       แนวคิด Public Sphere ของ Habermas กล่าวไว้ว่า         

(1)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

(2)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ในการถ่ายทอดความคิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลสู่สังคมได้

(3)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลใดก็ได้ที่สนใจสื่อสารความคิดของตนเองไปสู่สังคม

(4)       สื่ออินเทอร์เน็ตสร้างพื้นที่ให้บุคคลรวมกลุ่มกันเป็นชุมชนออนไลน์    

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16 – 17) การเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เน็ต ทำให้แนวความคิดเรื่อง พื้นที่สาธารณะ (Public Sphere) ของ Habermas เป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะสื่ออินเทอร์เน็ต ได้สร้างพื้นที่ที่สามารถทำให้บุคคลมารวมตัวกับบุคคลอื่นจนเป็นมวลชนได้

84.       เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะด้วยเหตุที

(1)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลและระดับสื่อสารมวลชน

(2) ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่ระดับสื่อสารมวลชน

(3)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลไปสู่กลุ่มบุคคลที่เป็นสาธารณชน

(4)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน

(5)       ผู้ใช้สามารถส่งผ่านข้อมูลจากระดับบุคคลไปสู่กลุ่มคนต่างเครือข่ายกัน

ตอบ 1 (ส่วนที่ 3 หน้า 16) เทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สาธารณะ (Private and Public Areas) เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถส่งผ่าน ข้อมูลได้ทั้งในระดับการสื่อสารระหว่างบุคคลที่มีลักษณะเป็นส่วนตัว (Private) และในระดับ การสื่อสารมวลชนที่มีลักษณะเป็นการสื่อสารสู่สาธารณชน (Public)

85.       การสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตก่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันในลักษณะ ชุมชนออนไลน์” กล่าวคือ

(1)       เป็นการสร้างเครือข่ายสังคมบนพื้นที่เสมือน (Virtual Space)

(2)       เป็นการสร้างฐานข้อมูลของเครือข่ายสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(3)       เป็นการสร้างสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

(4)       เป็นการสร้างสังคมบนพื้นที่เสมือน    

(5) ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ 1  ดูคำอธิบายข้อ 64. ประกอบ

86.       คำกล่าวที่ว่าโลก Online กับ Offline ไม่ได้แยกจากกันอย่างชัดเจน หมายความว่าอย่างไร

(1)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์อาจนำสู่การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(2)       การสื่อสารแบบออนไลน์กับการสื่อสารแบบเห็นหน้าคาตาต่างก็เป็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกัน

(3)       การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสารแบบ เห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง

(4)       การสื่อสารแบบเห็นหน้าค่าตากันใช้การสื่อสารแบบออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกัน

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 3 (ส่วนที่ 3 หน้า 20) โลก Online กับ Offline ไม่ได้ถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หมายถึง การสื่อสารบนเครือข่ายออนไลน์เป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่นำสู่การสื่อสาร แบบเห็นหน้าค่าตากันในชีวิตจริง เช่น การสื่อสารกับเพื่อนออนไลน์จนพัฒนาเป็นกลุ่มคนที่ เราสามารถพบปะในชีวิตประจำวัน เป็นต้น

87.       เหตุที่กล่าวว่า ระบบ(ครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะ 

(1)       เป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารมากมายตามความสนใจของผู้ใช้บริการ

(2)       ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หัวข้อที่ตนสนใจ

(3)       เป็นแหล่งให้บริการข้อมูลข่าวสารหลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกตามความสนใจ

(4)       เป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่

(5)       ถูกทุกข้อ

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 20), (คำบรรยาย) ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเปรียบเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ เพราะเป็นคลังแห่งข้อมูลข่าวสารขนาดใหญ่ที่รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลด้านวิชาการ ด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และด้านอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกสืบค้นข้อมูลได้ตามหมวดหมู่หรือตามหัวข้อที่ตนสนใจ

88.       ข้อใดไม่นับเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของสื่ออินเทอร์เน็ต

(1)       เป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าออนไลน์

(2)       เป็นช่องทางในการเจาะข้อมูลลับทางการเงินขององค์กรอื่น

(3)       เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร

(4)       เป็นช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการ

(5)       เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์องค์กร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 20 – 21), (คำบรรยาย) ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตด้านเศรษฐกิจ คือ

1.         เป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการให้กับองค์กร ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม หรือบุคคลทั่วไป

2.         ผู้ซื้อมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

3.         เป็นช่องทางซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สร้างโอกาสในการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้กับผู้สนใจทั่วโลก

4.         เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ระหว่างองค์กร ฯลฯ

89.       คำว่า “Web Aholic” ตรงกับข้อใดต่อไปนี้      

(1) รังเกียจสื่ออินเทอร์เน็ต

(2)       เสพติดสื่ออินเทอร์เน็ต (3) ปฏิเสธสื่ออินเทอร์เน็ต

(4)       คุ้นเคยสื่ออินเทอร์เน็ต (5) หวาดกลัวสื่ออินเทอร์เน็ต

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 21-22) อาการของโรคเสพติดอินเทอร์เน็ต (Web Aholic) มีลักษณะดังนี้

1.         มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเวลานานขึ้น

2.         รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง และไม่ได้ใช้หรือหยุดไช้

3.         ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีปัญหาในชีวิตจริง

4.         หลอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเอง

5.         ใช้อินเทอร์เน็ตจนทำให้เสี่ยงต่อการสูญเสียงาน การเรียน และความสัมพันธ์ ฯลฯ

90.       หนอนอินเทอร์เน็ต ตรงกับข้อใด

(1)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายข้อมูลในเครื่อง คอมพิวเตอร์

(2)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครอง ทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง

(3)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ และโจมตีระบบ

(4)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ทำลายระบบ

(5)       โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลองตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำลายระบบ

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 22) หนอนอินเทอร์เน็ต คือ โปรแกรมอิสระ ซึ่งจะสืบพันธุ์โดยการจำลอง ตัวเองให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบบหนึ่ง เพื่อครอบครองทรัพยากรและทำให้ระบบช้าลง ทั้งนี้หนอนอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นโดย Robert Morris, Jr. จนดังกระฉ่อนไปทั่วโลก

91.       Decentralized Media เป็นลักษณะเฉพาะตัวของการสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ตรงกับข้อใด

(1)       เป็นสื่อที่กระจายข้อมูลสู่ผู้รับสารทุกทิศทางในลักษณะการสื่อสารแบบทางเดียว

(2)       เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป ผู้ใช้เป็นทั้งผู้ส่งและผู้รับสาร

(3)       เป็นสื่อที่ผู้ส่งสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป

(4)       เป็นสื่อที่ลดบทบาทและอำนาจของผู้ส่งสารให้น้อยลง

(5)       เป็นสื่อที่ผู้รับสารไม่ใช่จุดศูนย์กลางในการรับข้อมูลข่าวสาร

ตอบ 2 (ส่วนที่ 3 หน้า 25) สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถทำการสื่อสารออกไป ยังกลุ่มผู้รับสารในวงกว้างได้อย่างง่ายดาย จึงถือเป็นสื่อที่เรียกว่า “Decentralized Media” กล่าวคือ เป็นสื่อที่ไม่รวมจุดศูนย์กลางในการส่งสารออกไป แต่ให้โอกาสผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้ง ผู้ส่งและผู้รับสาร

92.       ข้อใดคือบทบาทของ ผู้ส่งสาร” บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

(1)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยผู้รับสาร คือ คนทั่วโลก

(2)       โอกาสในการผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารยังถูกจำกัดเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

(3)       ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย

(4)       ทุกคบมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสาร หากแต่ต้องใช้ต้นทุนสูงในการดำเนินการ

(5)       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หน้า 26) สื่ออินเทอร์เน็ตมีผลกระทบต่อบทบาทของผู้ผลิตสารหรือผู้ส่งสารในสังคม คือ ทุกคนมีโอกาสผลิตสื่อหรือเป็นผู้ส่งสารได้ โดยให้คนทั่วโลกเป็นผู้รับสารจากสื่อที่เรา เป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มากมาย จึงทำให้อำนาจในการผลิตสื่อหรือ การเป็นผู้ส่งสารไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป ดังนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่เข้าถึง เทคโนโลยี

93.       ด้วยคุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจากสื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะอย่างไร

(1)       ผู้รับสารสามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่ายที่ตนเองเลือก

(2)       ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

(3)       ผู้รับสารเลือกเปิดรับข้อมูลข่าวสารตามความสนใจของตนเอง

(4)       ผู้รับสารมีความกล้าในการแสดงความคิดเห็นของตนเองมากขึ้น      

(5) ทุกข้อที่กล่าวมา

ตอบ 5 (ส่วนที่ 3 หนา 26) คุณลักษณะของการเป็นสื่อแบบ Interactive ส่งผลให้ผู้รับสารจาก สื่ออินเทอร์เน็ตมีลักษณะดังนี้

1.         ผู้รับสารไม่ได้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมวลชน แต่สามารถเลือกที่จะเป็นสมาชิกของเครือข่าย ที่ตนเองเลือก หรือเป็นสาธารณชนพิเศษ หรือเป็นปัจเจกชน

2.         ผู้รับสารมีความเป็นอิสระและพึ่งพาตนเอง

3.         ผู้รับสารเลือกเปิดรับหรือบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของตนเองได้มากขึ้น

4.         ผู้รับสารมีโอกาสส่งผ่านข้อมูลข่าวสาร หรือกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเองไปยังบุคคลอื่น มากขึ้น ฯลฯ

94.       ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร

(1)       สาร” มีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน

(2)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

(3)       ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ สาร” เพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา

(4)       สาร” ที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารยังคงมีอยู่อย่างจำกัด

(5)       ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้าย สาร” ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ตอบ 4 (ส่วนที่ 3 หน้า 27) ลักษณะของสาร (Message) อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร คือ

1.         สารที่ถูกส่งมาจากผู้ส่งสารมีจำนวนมากไม่จำกัด

2.         สารมีลักษณะที่หลอมรวมรูปแบบแตกต่างกันมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง ฯลฯ

3.         ผู้ใช้สามารถ Download สารมาเก็บไว้กับตน และสามารถเคลื่อนย้ายสารได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น

4.         ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสารเพิ่มขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนา ฯลฯ

95.       ข้อต่อไปนี้กล่าวถึงเทคโนโลยีการสื่อสารว่าเป็น ดาบสองคม” ยกเว้นข้อใด

(1)       Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตา แต่กลับนำไปใช้ในการโชว์อนาจาร

(2)       เกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นลับสมอง แต่กลับเสพติดจนเสียการเรียน

(3)       โปรแกรมสนทนาออนไลน์ มุ่งให้สนทนาแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางกรรโชกทรัพย์

(4)       เว็บไซต์ Twitter มุ่งเป็นเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม แต่กลับใช้ส่งข้อความสนทนาออนไลน์ระหว่างกัน

(5)       เว็บไซต์เครือข่าย Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับใช้เป็น ช่องทางล่อลวงทางเพศ

ตอบ 4 (ส่วนที่ 1 หน้า 12ส่วนที่ 3 หน้า 23 – 24), (คำบรรยาย) สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี การสื่อสารบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็น ดาบสองคม” คือ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ได้แก่

1.         การเล่นเกมออนไลน์ มุ่งให้ผู้เล่นฝึกลับสมอง แต่กลับเสพติดจนทำให้เสียการเรียน

2.         การพูดคุยผ่าน Camfrog มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารเห็นหน้าค่าตากัน แต่กลับนำไปใช้ ในการโชว์อนาจาร

3.         เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม เช่น hi5 Twitter และ Facebook มุ่งให้สร้างเครือข่ายเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่กลับนำไปใช้เป็นช่องทางการล่อลวงทางเพศ

4.         โปรแกรมสนทนาออนไลน์ (Chat) มุ่งให้ผู้ส่งและผู้รับสารสนทนากันแบบ Real Time แต่กลับใช้เป็นช่องทางล่อลวงกรรโชกทรัพย์ ฯลฯ

96.       การจัดทำภาพหรือเนื้อหาที่มีลักษณะหมิ่นประมาทผ่านเครือขายออนไลน์ ขัดกับจริยธรรมข้อใด

(1) จริยธรรมของผู้ใช้สื่อ          (2) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ     (3) ความเป็นเจ้าของ

(4)       การเข้าถึงข้อมูล          (5) ความถูกต้องของข้อมูล

ตอบ 2 (ส่วนที่ 1 หน้า 12), (คำบรรยาย) จริยธรรมของผู้จัดทำสื่อ คือ การตระหนักถึงความเหมาะสม และไม่เหมาะสมของการเผยแพร่เนื้อหาและภาพในสื่อออนไลน์ (เช่น ในเว็บไซต์ เกม หรือ สื่อบันเทิงอื่น ๆ) โดยควรระวังการเผยแพร่เนื้อหาดังนี้ 1. เนื้อหาหรือภาพลามกอนาจาร 2. เนื้อหาที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท 3. เนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก 4. เนื้อหาที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกรุนแรง ก้าวร้าว

97.       ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

(1)       ผู้ส่งสามารถส่งสารถึงผู้รับได้ตลอดเวลาโดยไม่จำกัด

(2)       ผู้ส่งสามารถส่งสารถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

(3)       ผู้ส่งสามารถอำพรางตัวตนที่แท้จริงของตนเอง

(4)       ผู้ส่งสามารถแนบไฟล์ไปพร้อมกับสารถึงผู้รับ

(5)       ผู้ส่งสามารถส่งสารจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็ว

ตอบ 3 (สวนที่ 3 หน้า 10 – 11) ประโยชน์ของบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ได้แก่

1.         ผู้ส่งสามารถส่งสารหรือจดหมายถึงผู้รับได้ตลอดเวลาที่ต้องการโดยไม่จำกัด

2.         ผู้ส่งสามารถส่งสารหรือจดหมายถึงผู้รับหลาย ๆ คนได้ในเวลาเดียวกัน

3.         ผู้สงสามารถแนบไฟล์ข้อมูลไปพร้อมกับสารหรือจดหมายถึงผู้รับได้

4.         ผู้ส่งลามารถส่งข้อมูลข่าวสารจำนวนมากถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันที ฯลฯ

98.       กฎหมายเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์และสื่อสารสนเทศที่ประกาศบังคับใช้แล้ว คือ

(1)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

(2)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2551

(3)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2552

(4)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2553

(5)       พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2554

ตอบ 1 (ส่วนที่ 1 หน้า 13) มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารผ่านสื่อคอมพิวเตอร์ และสื่อสารสนเทศ ซึ่งประกาศบังคับใช้แล้วในปัจจุบัน ได้แก่

1.         พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

2.         พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551

99.       ชื่อเต็มของกระทรวงไอซีที คือข้อใด   

(1) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(2) กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

(3) กระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร

(4)       กระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ

(5) กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศการสื่อสาร

ตอบ 1 (สวนที 1 หน้า 13) องค์กรที่ให้ความร่วมมือในการควบคุมดูแลการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารได้แก่

1. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)       2. กระทรวงมหาดไทย

3.         กระทรวงกลาโหม       4. กระทรวงยุติธรรม    5. กรมสอบสวนคดีพิเศษ

6.         กรมประชาสัมพันธ์      7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ    8. สภาความมั่นคงแห่งชาติ

9 กองทัพบก   10.กองทัพอากาศ       11.กองทัพเรือ

100.    นักศึกษาคิดว่าในการกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ข้อใดต่อไปนี้ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ต่อประชาชนในสังคมอย่างยั่งยืนที่สุด

(1)       การตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับใช้

(2)       การร่วมมือกันระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง

(3)       การรณรงค์ให้ประชาชนในสังคมเกิดจิตสำนึกที่ดีในการสื่อสารผ่านสื่อดังกล่าว

(4)       ผู้นำประเทศกำหนดนโยบายในการกำกับและควบคุมที่เข้มงวด โดยรณรงค์ผ่านสื่อสารมวลชนต่อเนื่อง

(5)       ใช้ผู้มีชื่อเสียงในสังคมเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักในการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์

ตอบ(ส่วนที่ 1 หน้า 13), (คำบรรยาย) มาตรการในการกำกับและควบคุมการสื่อสารผ่าน

สื่ออินเทอร์เน็ตที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อประชาชนในสังคมอย่างยั่งยืนที่สุด คือ การสร้าง จริยธรรมที่ดีในการใช้อินเทอร์เน็ตต่อผู้ใช้ในสังคม โดยการรณรงค์ให้ประชาชนในสังคมเกิด จิตสำนึกทีดีในการสื่อสารผ่านสื่อดังกล่าว และต้องระดมทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น

WordPress Ads
error: Content is protected !!