MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา2549
MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา2549
การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 6 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ข้อ 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 คำว่า “ข่าวการเมือง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง มีแหล่งข่าวสำคัญอะไรบ้าง
แนวคำตอบ
ข่าวการเมือง หมายถึง การรายงานข่าวที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน กิจกรรมความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานทางการเมืองการปกครองของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล รวมทั้งรายงานกิจกรรมความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรับอาสาเข้ามารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ
1) การจัดการเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง นโยบายของพรรค
2) การจัดตั้งรัฐบาล
3) การกำหนดนโยบาย การแถลง การปฏิบัติงานตามนโยบาย
4) กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การดำเนินงานของรัฐสภา กรรมาธิการ
5) การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ องค์กรอิสระต่างๆ การเปิดอภิปราย
6) บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา
7) ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา
8) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
9) การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ป.ป.ช. ป.ป.ง. ค.ต.ง.
แหล่งข่าวการเมืองที่สำคัญ
1) รัฐสภา
2) ทำเนียบรัฐบาล
3) พรรคการเมือง
4) กระทรวงต่างๆ
5) องค์กรอิสระ
6) องค์กรมหาชน
7) องค์กรพัฒนาเอกชน
8) แหล่งข่าวท้องถิ่น
1.2 ในการรายงานข่าวฆ่าชิงทรัพย์ข้าราชการคนหนึ่ง ควรเสนอประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง และมีแหล่งข่าวอะไรบ้าง ให้ยกตัวอย่างแหล่งข่าวและประเด็นที่ควรนำเสนอในข่าวดังกล่าวประกอบ
แนวคำตอบ
จากข่าวข้างต้นต้องอาศัยแหล่งข่าว (Source) ประเภทต่างๆ ดังนี้
1 แหล่งข่าวประจำ คือ บุคคลหรือสถานที่ซึ่งหนังสือพิมพ์ส่งผู้สื่อข่าวไปประจำตามแหล่งนั้นๆ โดยตัวอย่างแหล่งข่าวประจำของข่าวข้างต้น ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิการกุศลที่ปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจ เป็นต้น
2 แหล่งข่าวพิเศษ คือ แหล่งข่าวที่อาจอยู่ ณ สถานที่เกิดเหตุ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้เห็นเหตุการณ์ โดยตัวอย่างแหล่งข่าวพิเศษของข่าวข้างต้น ได้แก่ พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ ญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนข้าราชการในหน่วยงานของผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหา (ในกรณีที่จับตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว) ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ เป็นต้น
3 แหล่งข่าวจากสิ่งตีพิมพ์ คือ เอกสารตีพิมพ์ซึ่งเป็นแหล่งข่าวสำคัญ โดยตัวอย่างแหล่งข่าวจากสิ่งตีพิมพ์ของข่าวข้างต้น ได้แก่ บันทึกประจำวันของตำรวจ เอกสารบันทึกส่วนบุคคลเพื่อนำมาใช้เป็นภูมิหลังประกอบข่าว เอกสารจากแฟ้มข่าว เป็นต้น
จากข่าวข้างต้นมีประเด็นเนื้อหาที่ควรนำเสนอ ดังนี้
1 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ได้แก่ ชื่อและคุณลักษณะ วิธีการที่ถูกทำร้ายและลักษณะบาดแผลที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิต การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เป็นต้น
2 ความเสียหาย ได้แก่ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกขโมย ลักษณะของทรัพย์สินนั้นๆ ทรัพย์สินที่พลอยเสียหายไปด้วย เป็นต้น
3 รายละเอียดของเหตุการณ์ ได้แก่ เหตุการณ์ตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น ลักษณะรายละเอียดของบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ สาเหตุของเหตุการณ์ เป็นต้น
4 การปฏิบัติการทางกฎหมาย ได้แก่ การสืบสวนสอบสวนคดี ข้อสันนิษฐาน หลักฐานที่พบ เบาะแส วัตถุพยาน ร่องรอย การตั้งข้อหา การจับกุม เป็นต้น
5 การวางแผนติดตามของเจ้าหน้าที่
6 ปัญหาในการจับกุมหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่
7 การป้องกันหรือลดคดีอาชญากรรม
8 ความคิดเห็นของบุคคลหลายฝ่าย เช่น ตำรวจ ญาติพี่น้อง ผู้ร่วมงานของผู้ตาย เป็นต้น
ข้อ 2 สื่อมวลชนแต่ละแขนงให้น้ำหนักความสำคัญแก่ข่าวแต่ละข่าวแตกต่างกัน เช่น หนังสือพิมพ์บางฉบับให้ความสำคัญกับเรื่องส่วนตัวของคนดัง เช่น เรื่องภายในครอบครัวของดารา เป็นต้น โดยพาดหัวข่าวตัวโตในหน้าหนึ่งและรายงานเรื่องราวโดยละเอียด แต่บางฉบับเสนอเรื่องดังกล่าวเพียงสั้นๆ ปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง จงอธิบาย
แนวคำตอบ
หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกัน ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้จะขึ้นอยู่กับ “ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินคุณค่าข่าว” ดังนี้
1 ปัจจัยด้านบุคคล (ผู้สื่อข่าว หัวหน้าข่าว บรรณาธิการที่เกี่ยวข้อง)
– เชื้อชาติ ศาสนา คือ อคติเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและศาสนา เพราะบุคคลที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่ต่างกัน ก็ย่อมเกิดความลำเอียงในการเลือกแง่มุมของข่าวที่จะนำมาเสนอ
– ค่านิยม สำนึก และมุมมอง ซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางการศึกษา
– ความเป็นวิชาชีพ คือ หนังสือพิมพ์จะต้องมีอุดมการณ์และวิญญาณแห่งวิชาชีพโดยต้องรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ ควรหรือไม่ควรลงข่าว
– การรับรู้และความสนใจของผู้รับสาร คือ การประเมินเรื่องที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด
2 ปัจจัยด้านองค์กร แบ่งออกเป็น
นโยบายของสื่อ ได้แก่
– ความเป็นเจ้าของสื่อ คือ หนังสือพิมพ์มีใครเป็นเจ้าของสื่อ หรือมีใครเป็นผู้โฆษณารายใหญ่ หนังสือพิมพ์นั้นก็อาจเน้นเสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของสื่อ หรือผู้โฆษณารายนั้นๆ
– นโยบายการบริหาร คือ หนังสือพิมพ์มีนโยบายเน้นทำกำไร เอาตัวรอดหรือเน้นชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งมีผลให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามนโยบายการบริหาร
– นโยบายด้านข่าว / เนื้อหา คือ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะเน้นประเภทของข่าวที่จะนำเสนอ ความลึก ลีลาการเขียน ฯลฯ ที่แตกต่างกัน
วัฒนธรรมองค์กร คือ แบบปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ได้แก่
– จรรยาบรรณ คือ ข้อควรปฏิบัติของแต่ละองค์กร ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
– การเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ด้อยโอกาส หรือรากหญ้า
– การให้ความหมายกับข่าวบางประเภท เช่น ข่าวสังคม ข่าววัฒนธรรม ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวท้องถิ่น ฯลฯ ว่าจะเน้นนำเสนอหรือไม่
3 ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง การปกครอง และสังคม ซึ่งมีผลทำให้บางเรื่องรายงานได้ แต่บางเรื่องรายงานไม่ได้ ได้แก่
– ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาติ
– ผลประโยชน์ทางการเมืองระดับประเทศ และนานาชาติ
ข้อ 3 กรณีตำรวจเตรียมพร้อมรับมือการก่อการร้ายในเขตกรุงเทพฯ ได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าวด้านใดบ้าง
แนวคำตอบ
เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values)
1 ความมีชื่อเสียง (Prominence) คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฯลฯ รวมทั้งสถานที่ที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ซึ่งต้องรักษาความปลอดภัย เช่น สถานทูต ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง สนามบิน หน่วยราชการต่างๆเป็นต้น
2 ความใกล้ชิด (Proximity) คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดต่างๆ ซึ่งส่งผลให้ทุกคนต้องมีความตื่นตัวไม่ประมาท จึงได้รับความสนใจจากผู้อ่านเป็นอย่างมาก
3 ความทันต่อเวลา (Timeliness) คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ทำให้ได้รับความสนใจ เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นต้องการที่จะได้รับรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
4 ปุถุชนสนใจ (Human Interest) คือ เหตุการณ์ข้างต้นก่อให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์หวาดกลัวสงสัยใคร่รู้ เกลียดและโกรธคนร้าย ฯลฯ จึงทำให้มีคุณค่าข่าวสูงและเร้าให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ
5 ความขัดแย้ง (Conflict) คือ เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ในลักษณะของความขัดแย้งทั้งทางกายและทางความคิด ซึ่งเป็นความขัดแย้งระดับชาติหรือระดับประเทศ
6 ผลกระทบ (Consequence) คือ เหตุการณ์ข้างต้นมีผลกระทบต่อชีวิตความเป้นอยู่ของผู้คนจำนวนมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งมีผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวลง เช่น ประชาชนไม่สามารถออกไปจับจ่ายใช้สอยได้อย่างมีความสุข เพราะต้องมีชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ดังนั้นประชาชนจึงควรรับรู้เรื่องเหล่านี้เพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ดังกล่าว
7 ความมีเงื่อนงำ (Suspense) คือ เหตุการณ์ข้างต้นยังไม่สามารถคลี่คลายหรือตีแผ่หาสาเหตุได้ และยังไม่ทราบผลแน่ชัด เช่น ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายและผู้อยู่เบื้องหลังได้ รวมทั้งไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นฝีมือของใคร
ข้อ 4 จงอธิบายหลักการเขียนข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของบุคคล การเขียนข่าวการประชุมหรือสัมมนาว่าต้องมีประเด็นอะไรบ้าง
แนวคำตอบ
หลักการเขียนข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของบุคคล มีดังนี้
ผู้สื่อข่าวจะต้องเขียนข่าวในลักษณะที่ต้องปรับคำพูดของแหล่งข่าวให้เป็นภาษาเขียน และต้องทอนคำพูดของแหล่งข่าวที่มีความยาวมากๆ ให้เหลือเพียงแค่พอที่จะบรรจุลงในเนื้อข่าวที่ได้รับ โดยข่าวที่เขียนจะต้องคงทั้งความเที่ยงตรงและอารมณ์ดังเช่นที่แหล่งข่าวได้กล่าวและแสดงออกมา ซึ่งอาจใช้วิธีการเขียนแบบการยกอ้างคำพูดโดยตรง และการยกอ้างคำพูดโดยอ้อมสลับกันไปในข่าว โดยประเด็นที่ควรนำเสนอ ได้แก่
ความนำ ใครเป็นคนให้สัมภาษณ์ ใจความสำคัญโดยสรุป โดยอาจมีการอ้างคำพูดที่เด่นๆ และโอกาสที่ให้สัมภาษณ์
เนื้อข่าว วัน เวลา และสถานที่ที่ให้สัมภาษณ์ สรุปรายละเอียดที่สำคัญลดหลั่นกันลงไป และอาจอ้างคำพูดโดยตรงของผู้ให้สัมภาษณ์สลับ เพื่อเพิ่มน้ำหนัก ความน่าเชื่อถือ และทำให้ข่าวน่าอ่านขึ้น
การเขียนข่าวในการประชุมหรือสัมมนาควรนำเสนอในประเด็น ต่อไปนี้
ความนำ จะเป็นส่วนที่เน้นบุคคลในข่าว และสรุปย่อคำพูดของผู้พูด หรือสรุปย่อประเด็นสำคัญของการประชุมหรือสัมมนาเอาไว้ว่าใครกล่าว มีใจความโดยสรุปว่าอะไร อาจมีการอ้างคำพูดเด่น ของบุคคลที่น่าสนใจมาประกอบในความนำ และอาจระบุโอกาสที่ประชุมหรือสัมมนาเข้าไปด้วยก็ได้ หากโอกาสนั้นมีความสำคัญ
เนื้อข่าว ส่วนแรกจะต้องกล่าวถึงชื่อเรื่องการประชุมหรือสัมมนา โอกาสในการพูด วัน เวลา สถานที่ จำนวนผู้ฟังโดยประมาณ และผู้มีชื่อเสียงที่เข้าร่วมฟัง จากนั้นนำเสนอรายละเอียดของการประชุมหรือสัมมนา โดยแยกแยะประเด็นต่างๆ ที่ผู้ประชุมหรือสัมมนากล่าว และหยิบยกข้อความเด่นๆมาเขียนแบบอ้างคำพูดโดยตรง อาจมีการนำเสนอประเดนการซักถามเพิ่มเติมที่น่าสนใจ และบรรยากาศภายในงานในย่อหน้าสุดท้าย
ข้อ 5 ในการเขียนข่าว คำว่า “คุณลักษณะ” มีความสำคัญอย่างไร และคุณลักษณะใดบ้างที่จำเป็นหรือขาดไม่ได้ในการเขียนข่าว อธิบาย
แนวคำตอบ
ในการเขียนข่าวต้องมีการระบุ “คุณลักษณะ” (Identification) ของแหล่งข่าว คือ ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณสมบัติต่างๆ ของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ ทั้งนี้เพราะมีความสำคัญ คือ ทำให้ผู้อ่านได้ทราบว่าบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ในข่าวเหล่านั้นเป็นอะไร มีความสำคัญความพิเศษ หรือผิดปกติอย่างไร นอกจากนั้นยังช่วยให้ข่าวนั้นมีสีสัน เพิ่มความน่าอ่าน ความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวและความใกล้ชิดกับผู้อ่านได้มากยิ่งขึ้น
คุณลักษณะของแหล่งข่าวที่จำเป็นในการเขียนข่าว
1 คุณลักษณะด้านบุคคล
1) ชื่อ นามสกุล และอายุ เช่น “น้องตุ้ม ปริญญา เกียรติบุษบา นักมวยไทยวัย 18 ปี” เป็นต้น
2) อาชีพ เช่น “ราเชนทร์ เรืองเนตร นักแต่งเพลงได้เสียชีวิตลงแล้ว” เป็นต้น
3) ยศหรือตำแหน่ง เช่น พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี เป็นต้น
4) เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง เช่น ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาล เป็นต้น
5) บุคคลที่เคยปรากฏเป็นข่าวแล้ว เช่น กรณีมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต และผู้ตามนี้เคยตกเป็นข่าวว่าจ้างวานฆ่าบุคคลอื่นก็ต้องอธิบายถึงภูมิหลัง หรือความเดิมของเรื่องในอดีตนั้นด้วย
6) ที่อยู่ เช่น บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งเป็นที่อยู่ของบุคคลในข่าว
7) ชื่อเล่น “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย เป็นต้น
8) ฉายาหรือการตั้งชื่อใหม่ เช่น พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร มีฉายาว่า “แม้ว” เป็นต้น
9) ญาติมิตร เช่น ข่าวบุตรชายหรือภรรยาของนายกรัฐมนตรีป่วย เป็นต้น
10)งานอดิเรก เช่น ข่าวบุคคลที่ไม่มีชื่อเสียง แต่อาจมีงานอดิเรกที่ทำให้ผู้อ่านทึ่งได้ เป็นต้น
2 คุณลักษณะด้านสถานที่
สถานที่มักจะได้รับการระบุคุณลักษณะโดยการดึงให้ไปสัมพันธ์ หรืออ้างอิงกับสถานที่อื่นๆที่มีชื่อเสียง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพกว้างๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าวนั้นอยู่ที่ใด และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงไร เช่น “เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวมติชนเดินทางไปตรวจสอบและสำรวจบริเวณสถานสงเคราะห์หญิงธัญบุรี สังกัดกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ซึ่งตั้งอยู่ที่คลอง 5 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งมี น.ส.บุญส่ง แสวงผล เป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ดังกล่าวติดกับวิทยาลัยการปกครอง สังกัดกระทรวงมหาดไทย”
3 คุณลักษณะด้านเหตุการณ์
เหตุการณ์นอกจากจะได้รับการระบุว่าเป็นเหตุการณ์อะไร มีความเคลื่อนไหวอย่างไรแล้วหากเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นมักจะมีการระบุถึงวัตถุประสงค์ ความเป็นมา และเบื้องหลังของเหตุการณ์นั้นๆ รวมทั้งอาจจะอ้างว่าเหตุการณ์นั้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นภูมิหลัง หรือความเดิมของข่าว เช่น “สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) จัดสัมมนาสื่อมวลชนทุกแขนงแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายช่วยเผยแพร่และประชาสัมพันธ์งานวัฒนธรรมปีรณรงค์วัฒนธรรมไทย โดยเริ่มสัมมนาสื่อมวลชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข้อ 6 จงเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงต่อไปนี้ (เขียนเฉพาะความนำและเนื้อเรื่อง)
– โครงการ ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติในมงคลวาระเฉลิมพระชนม์พรรษา 80 พรรษา ปี 2550 นิทรรศการและการอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง ช้างในวัฒนธรรมไทย วันที่ 19 – 23 เมษายน 2550 ณ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
– “เนื่องในศุภวาระ 80 พรรษา แห่งการพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พุทธศักราช 2550 คณะมนุษยศาสตร์จึงจัดให้มีโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทยโดยการจัดนิทรรศการ และบรรยายพิเศษเรื่องช้างในวัฒนธรรมไทย ด้วยตระหนักในความสำคัญของช้างกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และวัฒนธรรมไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับช้างไทยในประเด็นต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับช้างในทางวิชาการให้มากยิ่งขึ้น ในการนี้ได้มีการเปิดเวทีวิชาการสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้เกี่ยวกับช้างในวัฒนธรรมไทยอีกด้วย” คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รศ.ณภาจรี นาควัชระ กล่าว
– วัตถุประสงค์
- เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในศุภวาระ 80 พรรษาแห่งการพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- เพื่อให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับความสำคัญของช้างในวัฒนธรรมไทย
– ผู้ดำเนินงาน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
– กำหนดการ
วันที่ 19 เมษายน เวลา 07.00 – 08.00 น. จัดพิธีบวงสรวงพระพิฆเณศวร เทพแห่งศิลปวิทยาการ ณ บริเวณหน้าอาคาร 1 คณะมนุษยศาสตร์ 08.00 – 08.30 น. การแสดง “พระฆเณศเสียงา”
วันที่ 20 เมษายน เวลา 09.30 – 12.00 น. อภิปรายเรื่อง “พระพิฆเณศวร : คติ ความเชื่อ และอิทธิพลในวัฒนธรรมไทย” โดย อ.ดร. จิรัสสา คชาชีวะ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร 13.00 – 15.00 น. อภิปรายเรื่อง “ช้างเผือกคู่พระบารมีรัชกาลที่ 9” โดย ม.ร.ว. ชนัญวัตร เทวกุล และ ม.ล. พิพัฒนฉัตร ดิศกุล 15.00 – 16.00 น. อภิปรายเรื่อง “การฝึกช้างในศูนย์ฝึกช้าง จ.ลำปาง” โดยหัวหน้าฝ่ายวิทยาลัยการศึกษาพัฒนาช้างไทยและควาญช้าง
วันที่ 21 เมษายน 2550 เวลา 09.30 – 12.00 น. อภิปรายเรื่อง “การฝึกช้างตามยุทธวิธีแบบโบราณ” โดยคุณคึกฤทธิ์ ขาวละมัย ผู้แทนมูลนิธิพระคชบาล
“ขอเชิญชวนชาวรามคำแหงเข้าร่วมพิธีบวงสรวงพระพิฆเณศวร เทพแห่งศิลปวิทยาการและการขจัดอุปสรรค เพื่อความเป็นสิริมงคล การบวงสรวงในครั้งนี้ดำเนินการโดย พราหมณ์ศีษณพันธ์ รังสิพราหมณ์กุล หัวหน้าคณะพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีแห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ส่วนเครื่องสักการะนั้น คณะกรรมการจัดงานจะจัดเตรียมธูปและดอกไม้ไว้ให้บริการผู้เข้าร่วมพิธี แต่หากต้องการเตรียมเครื่องสักการะมาเอง ควรเป็นธูปเจ็ดดอกและดอกดาวเรือง และหากมีรูปพระพิฆเณศวร สามารถอัญเชิญเข้าร่วมพิธีดังกล่าวได้” รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา อาจารย์เดมีย์ ระเบียบโลก กล่าว
แนวคำตอบ
ความนำ
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จัดโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติในมงคลวาระเฉลิมพระชนม์พรรษา 80 พรรษา ปี 2550 โดยการจัดนิทรรศการและอภิปรายทางวิชาการเรื่องช้างในวัฒนธรรมไทย ณ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระหว่างวันที่ 19 – 23 เมษายน 2550
เนื้อเรื่อง
วัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในศุภวาระ 80 พรรษา แห่งการพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับความสำคัญของช้างในวัฒนธรรมไทย
ร.ศ. ณภาจรี นาควัชระ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ กล่าวว่า “เนื่องในศุภวาระ 80 พรรษา แห่งการพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พุทธศักราช 2550 คณะมนุษยศาสตร์จึงจัดให้มีโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย โดยการจัดนิทรรศการและบรรยายพิเศษเรื่อง ช้างในวัฒนธรรมไทย ด้วยตระหนักในความสำคัญของช้างกับสถาบันพระมหากษัตริย์และวัฒนธรรมไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับช้างไทยในประเด็นต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับช้างในทางวิชาการให้มากยิ่งขึ้น ในการนี้ ได้มีการเปิดเวทีวิชาการสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้เกี่ยวกับช้างในวัฒนธรรมไทยอีกด้วย”
โอกาสนี้ อาจารย์เดมีย์ ระเบียบโลก รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา กล่าวเชิญชวนชาวรามคำแหง ให้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงพระพิฆเณศวร เทพแห่งศิลปวิทยาการและการขจัดอุปสรรค เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีพราหมณ์ศีษณพันธ์ รังสิพราหมณ์กุล หัวหน้าคณะพราหมณ์ผู้กอบพิธีแห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้คณะกรรมการการจัดงานจะจัดเตรียมธูปและดอกไม้ไว้ให้บริการแก่ผู้ข้าร่วมพิธี แต่หากผู้เข้าร่วมพิธีต้องการเตรียมเครื่องสักการะมาเองก็ควรเป็นธูปเจ็ดดอกและดอกดาวเรือง และหากมีรูปพระพิฆเณศวรก็สามารถอัญเชิญเข้าร่วมพิธีดังกล่าวได้
สำหรับกำหนดการจัดงานที่น่าสนใจมีดังนี้ วันที่ 19 เมษายน เวลา 07.00 – 08.00 น. จัดพิธี บวงสรวงพระพิฆเณศวร ณ บริเวณหน้าอาคาร 1 คณะมนุษยศาสตร์ วันที่ 20 เมษายน เวลา 13.00 – 15.00 น. อภิปรายเรื่อง “ช้างเผือกคู่พระบารมีรัชกาลที่ 9” โดย ม.ร.ว. ชนัญวัตร เทวกุล และ ม.ล. พิพัฒนฉัตร ดิศกุล วันที่ 21 เมษายน เวลา 9.30 – 12.00 น. อภิปรายเรื่อง “การฝึกช้างตามยุทธวิธีแบบโบราณ” โดยนายคึกฤทธิ์ ขาวละมัย ผู้แทนมูลนิธิพระคชบาล.
MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2549
การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ข้อ 1 ความนำและส่วนเชื่อมมีลักษณะอย่างไร และสำคัญอย่างไรต่อการรายงานข่าว จงอธิบาย
แนวคำตอบ
ความนำ (Lead)
ความนำ คือ ย่อหน้าแรกของข่าว ซึ่งจัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย ซึ่งอาจมีความยาวเพียง 1 ย่อหน้าสั้นๆ เท่านั้น โดยการเขียนความนำควรเน้นที่ตัวข่าว หรือเน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ จากนั้นผู้สื่อข่าวต้องสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยพิจารณาเฉพาะประเด็นสำคัญที่คาดว่าผู้อ่านอยากรู้มากที่สุดตามเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น และควรเขียนเป็นประโยคที่สั้น ชัดเจน เข้าใจง่าย
ความสำคัญของความนำ
1 ช่วยสรุปสาระสำคัญของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านที่อาจจะเพียงมองผ่านๆ ก็สามารถตัดสินได้ตั้งแต่แรกว่าจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่
2 ช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก เพราะแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดโดยย่อ
ลักษณะของความนำที่ดี
1 ต้องกระชับ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย
2 มีความชัดเจนเฉพาะเจาะจงจนทำให้ผู้อ่านนึกถึงภาพเหตุการณ์ หรือจินตนาการถึงสภาพที่เกิดขึ้นได้
3 ให้คำที่มีความหมายหนักแน่นเพื่อเร้าความสนใจของผู้อ่าน และอาจสร้างความน่าตื่นเต้นมีสีสันหรือภาพพจน์
4 เน้นถึงระดับความสำคัญของข่าวนั้น เช่น ระบุถึงจำนวนเงิน อาคาร วัตถุอื่นๆ หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นชีวิต การบาดเจ็บ หรือมูลค่าของความสูญเสียครั้งนั้น
5 ควรเน้นเรื่องไม่ปกติ สิ่งที่คาดไม่ถึง หรือสิ่งที่ไม่คาดฝัน ซึ่งมีความสำคัญหรือมีแนวโน้มว่าจะมีความสำคัญต่อไปในอนาคต และเป็นเรื่องที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้
6 ควรมีเรื่องใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้อ่าน โดยควรระบุบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ที่ผู้อ่านคุ้นเคย
7 ต้องกล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องก่อน
8 ไม่มีความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนในความนำ
9 การอ้างคำพูดหรือความเห็นของแหล่งข่าวจะต้องระบุว่าเป็นแหล่งข่าว ไม่ใช่ของผู้เขียน
10 เข้าใจง่ายและตรงประเด็น เพื่อให้ผู้อ่านจับใจความได้เร็ว ไม่ต้องเสียเวลาอ่านมาก
ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge)
ส่วนเชื่อม คือ การเขียนข้อความเชื่อมระหว่างความนำกับเนื้อข่าว ซึ่งเป็นย่อหน้าถัดไปจากความนำ แต่ในบางข่าวอาจจะวางส่วนเชื่อมไว้ท้ายข่าวก็ได้ โดยส่วนเชื่อมอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับเนื้อข่าว แต่เรามักจะพบส่วนเชื่อมในข่าวตาม (Follow – up Story) คือ ข่าวที่เคยเกิดขึ้นและได้รับการนำเสนอไปแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์ใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้สื่อข่าวก็มักจะเขียนข่าวโดยใช้ส่วนเชื่อมมาอธิบายความเดิมนั้น
ความสำคัญของส่วนเชื่อม มีดังนี้
1 ช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจความเดิมและเหตุการณ์ที่เป็นข่าวได้ง่ายขึ้น
2 ช่วยสร้างความต่อเนื่องให้ผู้อ่านสามารถดำเนินความคิดไปในแนวทางเดียว ไม่ให้เกิดความสับสนในลำดับเนื้อหาเหตุการณ์
ลักษณะของส่วนเชื่อมที่ดี มีดังนี้
1 ต้องเป็นส่วนขยายเพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรือเป็นข้อมูลสำคัญในส่วนที่ความนำนั้นยังขาดอยู่ ซึ่งต้องมีความกลมกลืนกับข้อความในความนำนั้นด้วย เช่น เมื่อความนำไม่อาจระบุเวลา สถานที่เกิดเหตุ ฯลฯ เนื่องจากจะมีความยาวเยิ่นเย้อก็สามารถนำเสนอไว้ในส่วนเชื่อมได้
2 ต้องให้รายละเอียดเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคลในข่าว ซึ่งไม่อาจระบุไว้ในความนำได้ เช่น การระบุชื่อ – นามสกุล อายุ ที่อยู่ และอาชีพ เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้จักบุคคลในข่าวมากขึ้น
3 ต้องให้ภูมิหลังและความเป็นมาของเหตุการณ์ที่เป็นข่าวนั้นๆ ในกรณีที่เป็นข่าวต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์ในอดีต เพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจข้อมูลข่าวได้ง่ายขึ้น
ข้อ 2 หากนักศึกษาต้องรายงานข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีเสียชีวิต ควรต้องรายงานประเด็นเนื้อหาใดบ้าง
แนวคำตอบ
การรายงานข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีเสียชีวิตควรนำเสนอประเด็นเนื้อหา ดังนี้
1 ประเด็นสำคัญในความนำ ควรเริ่มต้นด้วยการสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดของผู้เสียชีวิต คือ ชื่อ – นามสกุล อาชีพ หรือตำแหน่งสูงสุด อายุ สาเหตุการเสียชีวิต วันที่ เวลา และสถานที่ที่เสียชีวิต
2 ประเด็นในเนื้อเรื่อง แบ่งออกได้ดังนี้
– ย่อหน้าแรก สรุปลำดับเหตุการณ์ก่อนการเสียชีวิตอย่างสั้นๆ ถ้าป่วยเป็นโรคเริ่มป่วยมาตั้งแต่เมื่อไร มีอาการเป็นอย่างไร รักษาโรงพยาบาลไหน จากนั้นจึงระบุเหตุการณ์ตื่นเต้นขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต หรือเหตุผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ตายก่อนจะเสียชีวิต โดยอาจเล่าเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาทีหรืออาจอ้างคำพูดของแพทย์ หรือผู้ใกล้ชิดที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้
– ย่อหน้าต่อไป จะเป็นรายละเอียดของพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม กำหนดการบรรจุศพ และกำหนดดารฌาปนกิจ
– ย่อหน้าสุดท้าย เป็นส่วนของภูมิหลังหรือประวัติของผู้ตายว่าเป็นชาวจังหวัดใด จบการศึกษาจากที่ใดบ้าง มีชื่อเสียงในฐานะอะไร ซึ่งอาจเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพการงาน ตำแหน่งในสังคมที่ได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง มีผลงานดีเด่นอะไรที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป รวมทั้งผู้เสียชีวิตมีภรรยาและบุตรธิดากี่คน ชื่ออะไรบ้าง มีบุพการีและญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียงเป็นใครบ้าง
ข้อ 3 “ข่าวการเมือง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าวและแหล่งข่าวประกอบ
แนวคำตอบ
ข่าวการเมือง หมายถึง การรายงานข่าวที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน กิจกรรมความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานทางการเมืองการปกครองของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล รวมทั้งรายงานกิจกรรมความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรับอาสาเข้ามารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ
1) การจัดการเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง นโยบายของพรรค
2) การจัดตั้งรัฐบาล
3) การกำหนดนโยบาย การแถลง การปฏิบัติงานตามนโยบาย
4) กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การดำเนินงานของรัฐสภา กรรมาธิการ
5) การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ องค์กรอิสระต่างๆ การเปิดอภิปราย
6) บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา
7) ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา
8) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
9) การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ป.ป.ช. ป.ป.ง. ค.ต.ง.
ตัวอย่างข่าวการเมือง ข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องอาศัยแหล่งข่าว
1 แหล่งข่าวประจำ คือ บุคคลหรือสถานที่ซึ่งหนังสือพิมพ์ส่งผู้สื่อข่าวไปประจำตามแหล่งนั้นๆ เช่น รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล พรรคการเมืองต่างๆ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเข้ามา หรือถูกปรับเปลี่ยนออกไป ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ฯลฯ
2 แหล่งข่าวพิเศษ คือ แหล่งข่าวที่อาจอยู่ ณ สถานที่เกิดเหตุ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่สนิทสนมคุ้นเคยกับผู้สื่อข่าวเป็นการส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นแหล่งข่าวเปิด (แหล่งข่าวที่ได้รับการระบุชื่อและคุณลักษณะในข่าว) หรือเป็นแหล่งข่าวปิด (แหล่งข่าวที่ไม่ต้องการให้ชื่อและคุณลักษณะถูกระบุในข่าว) เช่น รัฐมนตรีที่เป็นคนใกล้ชิด นักการเมืองในสังกัดพรรครัฐบาลที่เป็นแหล่งข่าวระดับสูง หรืออาจไปสัมภาษณ์ความคิดเห็นของนักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองหลังปรับคณะรัฐมนตรี ฯลฯ
3 แหล่งข่าวจากสิ่งตีพิมพ์ คือ เอกสารหรือสิ่งตีพิมพ์ซึ่งเป็นแหล่งข่าวสำคัญ เช่น ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่มีการปรับเปลี่ยนเข้ามาใหม่ เอกสารเกี่ยวกับประวัติของรัฐมนตรีเพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบในการเขียนข่าว ฯลฯ
ข้อ 4 จงอธิบายว่าปัจจัยด้านบุคคล สภาพการเมืองการปกครอง และองค์กร มีผลทำให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละชิ้น แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
แนวคำตอบ
หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกัน ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้จะขึ้นอยู่กับ “ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินคุณค่าข่าว” ดังนี้
1 ปัจจัยด้านบุคคล (ผู้สื่อข่าว หัวหน้าข่าว บรรณาธิการที่เกี่ยวข้อง) ได้แก่
– เชื้อชาติ ศาสนา คือ อคติเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและศาสนา เพราะบุคคลที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่ต่างกัน ก็ย่อมเกิดความลำเอียงในการเลือกแง่มุมของข่าวที่จะนำมาเสนอ
– ค่านิยม สำนึก และมุมมอง ซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางการศึกษา
– ความเป็นวิชาชีพ คือ หนังสือพิมพ์จะต้องมีอุดมการณ์และวิญญาณแห่งวิชาชีพโดยต้องรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ ควรหรือไม่ควรลงข่าว
– การรับรู้และความสนใจของผู้รับสาร คือ การประเมินเรื่องที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด
2 ปัจจัยด้านองค์กร แบ่งออกเป็น
นโยบายของสื่อ ได้แก่
– ความเป็นเจ้าของสื่อ คือ หนังสือพิมพ์มีใครเป็นเจ้าของสื่อ หรือมีใครเป็นผู้โฆษณารายใหญ่ หนังสือพิมพ์นั้นก็อาจเน้นเสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของสื่อ หรือผู้โฆษณารายนั้นๆ
– นโยบายการบริหาร คือ หนังสือพิมพ์มีนโยบายเน้นทำกำไร เอาตัวรอดหรือเน้นชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งมีผลให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามนโยบายการบริหาร
– นโยบายด้านข่าว / เนื้อหา คือ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะเน้นประเภทของข่าวที่จะนำเสนอ ความลึก ลีลาการเขียน ฯลฯ ที่แตกต่างกัน
วัฒนธรรมองค์กร คือ แบบปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ได้แก่
– จรรยาบรรณ คือ ข้อควรปฏิบัติของแต่ละองค์กร ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
– การเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ด้อยโอกาส หรือรากหญ้า
– การให้ความหมายกับข่าวบางประเภท เช่น ข่าวสังคม ข่าววัฒนธรรม ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวท้องถิ่น ฯลฯ ว่าจะเน้นนำเสนอหรือไม่
3 ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง การปกครอง และสังคม ซึ่งมีผลทำให้บางเรื่องรายงานได้ แต่บางเรื่องรายงานไม่ได้ ได้แก่
– ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาติ
– ผลประโยชน์ทางการเมืองระดับประเทศ และนานาชาติ
ข้อ 5 การลอบสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและพลเรือนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าข่าวด้านใดบ้าง
แนวคำตอบ
เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (New Values) ดังนี้
1 ความมีชื่อเสียง (Prominenec) คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่มีชื่อเสียงได้แก่ จังหวัด 3 จังหวัดในเขตชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยและมักเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
2 ความใกล้ชิด (Proximity) คือ ความใกล้ชิดทั้งทางกายและทางใจระหว่างผู้อ่านและบุคคลหรือสิ่งต่างๆ ที่ตกเป็นข่าว รวมทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่เป็นภัยใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้ และผู้คนในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งส่งผลให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงได้รับความสนใจจากผู้อ่านเป็นอย่างมาก
3 ความทันต่อเวลา (Timeliness) คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น สดๆร้อนๆทำให้ได้รับความสนใจ เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นต้องการที่จะได้รับรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
4 ปุถุชนสนใจ (Human Interest) คือ เหตุการณ์ข้างต้นก่อให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์หวาดกลัว เกลียดและโกรธคนร้าย รวมทั้งเกิดความสงสารเห็นใจญาติมิตรและครอบครัวของผู้เสียชีวิต จึงทำให้ข่าวนี้มีคุณค่าข่าวสูงและเร้าให้ผู้อ่านเกิดความสนใจ
5 ความขัดแย้ง (Conflict) คือ เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ในลักษณะของความขัดแย้งทั้งทางกายและทางความคิด ซึ่งเป็นความขัดแย้งระดับชาติหรือระดับประเทศที่มักจะนำไปสู่ความเสียหาย
6 ผลกระทบ (Consequence) คือ เหตุการณ์ข้างต้นมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งมีผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวลง เช่น ประชาชนใน 3 จังหวัดชาแดนภาคใต้ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข เพราะเกิดความหวาดกลัว เสียขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ดังนั้นประชาชนจึงควรรับรู้เรื่องเหล่านี้เพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ดังกล่าว
7 ความมีเงื่อนงำ (Suspense) คือ เหตุการณ์ข้างต้นไม่สามารถคลี่คลายหรือตีแผ่หาสาเหตุได้ และยังไม่ทราบผลแน่ชัด เช่น ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายและผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ นอกจากนี้รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาการก่อความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวันได้เช่นกัน
ข้อ 6 จากข่าวต่อไปนี้
6.1 ข่าวนี้รายงานโดยใช้รูปแบบการเขียนประเภทใด รูปแบบดังกล่าวมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง
6.2 จงเขียนข่าวนี้เป็นข่าวสั้นรูปแบบพีระมิดหัวกลับ โดยคงใจความสำคัญไว้ทั้งหมด
หนังสือของยาย
มีค่ามากจริงๆสำหรับหนังสือของคุณยายเล่มนี้
“It’s Time to Call 911 : What to do in an Emergency?” คือหนังสือที่คุณยายของเด็กชายโทนี่ ชาร์ป เคยซื้อส่งไปให้หลานชายวัย 4 ขวบ อ่านเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
หนังสือเล่มนี้สามารถทำให้เด็กชายชาวเมืองแฟร์แบงก์ รัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา สามารถ
โทรแจ้ง 911 ให้มาช่วยแม่ที่เป็นลมหมดสติได้ทันเวลา ระหว่างอยู่กับแม่ที่บ้านแค่ 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“แม่ผมไม่สบาย แม่ต้องการรถพยาบาล”
“เธอเป็นลมและนอนหลับไปแล้ว”
“คุณช่วยเรียกรถพยาบาลให้ด้วยได้ไหม”
“เมื่อพ่อกลับมาถึง พ่อคงจะรู้ว่าแม่ไม่สบายเป็นอะไร”
ทั้งหมดนั้น ก็คือเสียงของโทนี่ที่เจ้าหน้าที่ 911 บันทึกไว้ แล้วรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วย โดยหนูน้อยยังอธิบายบอกทางไปบ้านแก่เจ้าหน้าที่ได้ถูกด้วย
หลังจากรอดมาได้ นางคอร์ตนี่ย์ มารดาของเด็กชาย เล่าว่า ลูกชายเคยอ่านหนังสือเล่มนั้นบ่อยมากจนจำได้ขึ้นใจ ซึ่งเป็นหนังสือแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยมีการให้รางวัลเป็นเสียงไซเรนของรถพยาบาลและคำชมว่า “เก่งมาก” เมื่อผู้อ่านทำได้ถูกต้อง
สำหรับความเก่งกาจหนนี้ โทนี่ได้รับรางวัลจากพ่อแม่เป็นตุ๊กตาหมีที่เขาอยากได้มาก และสุนัขเป็นๆอีก 2 ตัว แล้วยังได้เหรียญประกาศเกียรติคุณ จาก 911 ด้วย สมควรได้จริงๆ
6.1 ข่าวนี้รายงานโดยใช้รูปแบบการเขียนประเภทใด รูปแบบดังกล่าวมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง
แนวคำตอบ
ข่าวข้างต้นรายงานโดยใช้รูปแบบการเขียนข่าวแบบ “พีระมิดหัวตั้ง” (Upright Pyramid) ซึ่งมีจุดเด่น คือ มักใช้กับเหตุการณ์สั้นๆ โดยมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกขบขัน เก็บไคลแม็กซ์ (Climax) หรือประเด็นสำคัญของเรื่องไว้เสนอในตอนจบของเนื้อข่าว ซึ่งสำนักพิมพ์มักนำข่าวที่เขียนในรูปแบบนี้มาใช้ตกแต่งหน้าข่าวให้น่าอ่านยิ่งขึ้น เรียกว่า ข่าวสั้นขำขัน (Page Brightener) นอกจากนี้ยังนำมาใช้กับข่าวทั่วไป เช่น ข่าวอาชญากรรมที่ต้องการรายงานรายละเอียดของเหตุการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน แต่จะไม่เหมาะกับเรื่องหนักๆ ที่จริงจัง เช่น เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง
โครงสร้างการเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวตั้ง มีดังนี้
ความนำ / เกริ่นนำ (ย่อหน้าแรกจะเป็นส่วนเริ่มเรื่องหรือความนำ ซึ่งมักเขียนเป็นประโยคสั้นๆ ในลักษณะเกริ่นนำเรื่อง)
เนื้อข่าว (เนื้อข่าวจะเป็นข้อเท็จจริงที่ค่อยๆเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ)
เนื้อข่าวย่อหน้าสุดท้าย (จะเป็นส่วนสรุปเรื่องที่เป็นไคลแม็กซ์หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้อ่านอยากรู้มากที่สุด)
6.2 จงเขียนข่าวนี้เป็นข่าวสั้นรูปแบบพีระมิดหัวกลับ โดยคงใจความสำคัญไว้ทั้งหมด
หนังสือของยาย
มีค่ามากจริงๆสำหรับหนังสือของคุณยายเล่มนี้
“It’s Time to Call 911 : What to do in an Emergency?” คือหนังสือที่คุณยายของเด็กชายโทนี่ ชาร์ป เคยซื้อส่งไปให้หลานชายวัย 4 ขวบ อ่านเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
หนังสือเล่มนี้สามารถทำให้เด็กชายชาวเมืองแฟร์แบงก์ รัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา สามารถ
โทรแจ้ง 911 ให้มาช่วยแม่ที่เป็นลมหมดสติได้ทันเวลา ระหว่างอยู่กับแม่ที่บ้านแค่ 2 คน เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“แม่ผมไม่สบาย แม่ต้องการรถพยาบาล”
“เธอเป็นลมและนอนหลับไปแล้ว”
“คุณช่วยเรียกรถพยาบาลให้ด้วยได้ไหม”
“เมื่อพ่อกลับมาถึง พ่อคงจะรู้ว่าแม่ไม่สบายเป็นอะไร”
ทั้งหมดนั้น ก็คือเสียงของโทนี่ที่เจ้าหน้าที่ 911 บันทึกไว้ แล้วรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วย โดยหนูน้อยยังอธิบายบอกทางไปบ้านแก่เจ้าหน้าที่ได้ถูกด้วย
หลังจากรอดมาได้ นางคอร์ตนี่ย์ มารดาของเด็กชาย เล่าว่า ลูกชายเคยอ่านหนังสือเล่มนั้นบ่อยมากจนจำได้ขึ้นใจ ซึ่งเป็นหนังสือแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยมีการให้รางวัลเป็นเสียงไซเรนของรถพยาบาลและคำชมว่า “เก่งมาก” เมื่อผู้อ่านทำได้ถูกต้อง
สำหรับความเก่งกาจหนนี้ โทนี่ได้รับรางวัลจากพ่อแม่เป็นตุ๊กตาหมีที่เขาอยากได้มาก และสุนัขเป็นๆอีก 2 ตัว แล้วยังได้เหรียญประกาศเกียรติคุณ จาก 911 ด้วย สมควรได้จริงๆ
แนวคำตอบ
หัวข่าว หนูน้อยมะกัน 4 ขวบแม่รอดชีวิต
เนื้อข่าว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เด็กชายโทนี่ ชาร์ป อายุ 4 ปี ชาวเมืองแฟร์แบงก์ รัฐอลาสกาสหรัฐอเมริกา ได้โทรศัพท์แจ้ง 911 ห้าช่วยมารดาที่เป็นลมหมดสติได้ทันเวลา ระหว่างที่อาศัยอยู่กับมารดาที่บ้านแค่ 2 คน โดยหนูน้อยสามารถอธิบายทางไปบ้านแก่เจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ทำให้เขาได้รับเหรียญประกาศเกียรติคุณจาก 911 และยังได้รับรางวัลจากบิดามารดาเป็นตุ๊กตาหมี และสุนัขอีก 2 ตัว
“แม่ผมไม่สบาย แม่ต้องการรถพยาบาล เธอเป็นลมและนอนหลับไปแล้ว คุณช่วยเรียกรถพยาบาลให้ด้วยได้ไหม เมื่อพ่อกลับมาถึง พ่อคงจะรู้ว่าแม่ไม่สบายเป็นอะไร”
สำหรับสาเหตุของวีรกรรมครั้งนี้ นางคอร์ตนีย์ ชาร์ป มารดาของเด็กชาย ซึ่งรอดชีวิตมาได้กล่าวว่า อาจเป็นเพราะเมื่อหลายเดือนก่อน ลูกชายได้รับหนังสือจากคุณยาย เรื่อง “It’s Time to Call 911 : What to do in an Emergency?” และอ่านหนังสือเล่มนั้นบ่อยมากจนจำได้ขึ้นใจ ซึ่งเป็นหนังสือแบบโต้ตอบได้ (Interactive) โดยมีการให้รางวัลเป็นเสียงไซเรนของรถพยาบาล และคำชมว่า “เก่งมาก” เมื่อผู้อ่านทำได้ถูกต้อง
ข้อ 7 การระบุลักษณะบุคคล (Identification) ในการรายงานข่าวอุบัติเหตุ ข่าวกีฬา และข่าวการเมือง มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
แนวคำตอบ
คุณลักษณะ (Identification) ของแหล่งข่าวที่เป็นบุคคลในการรายงานข่าวอุบัติเหตุ ข่าวกีฬา และข่าวการเมือง มีความเหมือนและแตกต่างกัน
1 ชื่อ – นามสกุลของบุคคลที่เป็นแหล่งข่าว และบุคคลที่ตกเป็นข่าว ซึ่งจะต้องระบุอยู่เสมอในข่าวทุกประเภท
2 อายุ ข่าวทั่วไปมักไม่นิยมระบุอายุของผู้ที่เกี่ยวข้องในข่าว ยกเว้นข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ หรือข่าวมรณกรรม เช่น กรณีข่าวข่มขืนมักมีการระบุอายุของผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นเด็ก ส่วนข่าวอาชญากรรมก็มักระบุอายุของผู้ตาย ผู้ต้องสงสัย และผู้ต้องหา แต่บางครั้งข่าวกีฬาก็มีการเอ่ยถึงอายุด้วยเช่นกัน เช่น “น้องตุ้ม ปริญญา เกียรติบุษบา นักมวยไทยวัย 18 ปี”
3 อาชีพ จะไม่นิยมระบุในข่าวการเมือง เพราะข่าวการเมืองมักมีการระบุยศหรือตำแหน่ง เช่น ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือยศของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฯลฯ ซึ่งบ่งบอกถึงอาชีพอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องระบุอีก แต่ถ้าเป็นข่าวสัมภาษณ์บุคคลเพื่อให้แสดงความคิดเห็น อาจมีการระบุอาชีพของแหล่งข่าวเพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่ข่าว
นอกจากนี้ในข่าวกีฬา ข่าวอุบัติเหตุ และข่าวอาชญากรรมก็มีการระบุอาชีพ และหากอาชีพของผู้ตกเป็นข่าวขัดแย้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับข่าวได้มากขึ้น หรือการระบุอาชีพของบุคคลธรรมดาที่ไม่มีชื่อเสียงก็จะทำให้ผู้อ่านเกิดแนวคิด มีความเข้าใจ และรู้สึกใกล้ชิดกับบุคคลนั้นๆเพิ่มขึ้น
4 ยศหรือตำแหน่ง จะต้องระบุลงไปในข่าวทุกประเภท ถ้าบุคคลในข่าวมีชื่อเสียง มียศหรือตำแหน่งหน้าที่การงานสูง หรือเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เพื่อให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของบุคคลผู้นั้น เช่น พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี
5 เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง จะต้องระบุลงไปในข่าวทุกประเภท ถ้าบุคคลในข่าวเคยทำประโยชน์แก่สังคมในด้านใดด้านหนึ่ง จนได้รับยกย่องจากกลุ่มคนในสังคม เช่น เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตนางงามจักรวาล อดีตแชมป์โลกแบนตั้มเวตสภามวยโลก ฯลฯ
6 บุคคลที่เคยปรากฏเป็นข่าวมาแล้ว ในการรายงานข่าวทุกประเภท บางครั้งก็จำเป็นต้องอธิบายถึงภูมิหลังหรือความเดิมของเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ถ้าบุคคลในข่าวเคยตกเป็นข่าว หรือเคยได้รับยกย่องมาก่อน แล้วต่อมามีความคืบหน้าอย่างใดอย่างหนึ่งเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น “นายแดง สมบูรณ์ ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าดาราชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต”
7 ที่อยู่ ได้แก่ บ้านเลขที่ ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งมักนิยมระบุในข่าวอาชญากรรมและข่าวอุบัติเหตุ โดยเฉพาะที่อยู่ของผู้ก่อเหตุ ผู้เคราะห์ร้าย และผู้ที่เกี่ยวข้อง (ส่วนใหญ่จะลงที่อยู่ของคนตายมากกว่าคนเป็น)
8 ชื่อเล่น มักนิยมระบุในข่าวบันเทิงและข่าวกีฬา ซึ่งบางคนอาจใช้ชื่อจริง ชื่อที่ตั้งใหม่ เพื่อใช้ในวงการนั้นๆ หรือใช้นางแฝง นามปากกา เช่น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย ฯลฯ
9 ฉายาหรือการตั้งใหม่ บางครั้งหนังสือพิมพ์อาจตั้งฉายาให้แก่บุคคลที่ตกเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ซึ่งมีทั้งการตั้งฉายาเพื่อยกย่องหรือเสียดสีประชดประชัน มักพบในข่าวบันเทิงและข่าวกีฬา เช่น บุญศักดิ์ พลสนะ นักแบดมินตันไทย มีฉายาว่า “ซุปเปอร์แมน” คัทลียา แมคอินทอช มีฉายาว่า “เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง” ฯลฯ นอกจากนี้ในข่าวการเมืองบางครั้งก็มีการตั้งฉายาไว้ในพาดหัวข่าว เช่น นายชวน หลีกภัย มีฉายาว่า “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ มีฉายาว่า “ขงเบ้ง” ฯลฯ
10 ญาติมิตร ถ้าบุคคลในข่าวมีญาติมิตรหรือมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็ต้องระบุลงไปในข่าวด้วย เพื่อให้เรื่องราวของบุคคลนั้นเป็นที่น่าสนใจขึ้นมา เช่น ข่าวอุบัติเหตุของนายกันต์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ซึ่งขับรถชนผู้โดยสารรถประจำทางเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน ก็มีการระบุว่าเป็นลูกชายของอดีตนางสาวไทย และเป็นหลานชายของอดีต ผบ.ตร. เป็นต้น
11 งานอดิเรก ถ้าบุคคลในข่าวไม่มียศ ตำแหน่ง หรือไม่มีชื่อเสียง ก็อาจจะระบุงานอดิเรกที่ทำให้ผู้อ่านทึ่งได้ เช่น นักสะสมพระเครื่องชื่อดังในวงการเซียนพระ ประสบอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิตในห้องน้ำ เป็นต้น
ข้อ 8 จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนข่าวสั้น
ความสามารถในการรับข้อมูลข่าวสารและการใช้สารสนเทศขององค์กรอาจไม่สำคัญเท่าความสามารถในการปรับตัว การเรียนรู้ การสร้างและใช้ความรู้ที่นำไปสู่การเพิ่มคุณค่าและมูลค่าขององค์กร นี่คือคุณสมบัติพื้นฐานของการเป็นองค์กรอัจฉริยะ การจัดการความรู้หรือ KM มีส่วนเสริมสร้างความเป็นอัจฉริยะให้กับองค์กรของท่านได้อย่างไร? หาคำอบได้ในงานสัมมนา “KM เพื่อการพัฒนาองค์กรอัจฉริยะ” (KM for Building the Intelligent Organization) วันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2550 เวลา 09.00 – 16.30 น. เปิดลงทะเบียน 08.00 น. ณ โงแรมมิราเคิล แกรนด์ ห้องมิราเคิล แกรนด์ A,B จากวิทยากรระดับชาติ
ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ผอ.สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด ผอ.ฝ่ายส่งเสริมการสื่อสารพัฒนาการเรียนรู้ สคส. ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์และพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ดร.เกศรา รักชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Learning Organization Leadership Coaching Communication & Interpersonal Skills ที่จะมาชวนท่านแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำเสนอประสบการณ์การพัฒนาองค์กรด้วยหลักการบริหารสมัยใหม่ที่ไม่ทิ้งรากเหง้าของความเป็นไทย
ลงทะเบียนและชำระเงิน | ภายใน 18 พ.ค. | 1,500 บาท / คน |
ลงทะเบียนและชำระเงิน
(พร้อมกัน 3 คนขึ้นไป |
ภายใน 18 พ.ค. | 1,200 บาท / คน |
ลงทะเบียนและชำระเงิน | ตั้งแต่ 19 – 25 พ.ค. | 2,000 บาท / คน |
การชำระเงินค่าสัมมนา โอนเงินเข้าธนาคารกรุงไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชื่อบัญชีกองทุนสนับสนุนการวิจัย – สคส. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.kmi.or.th หรือโทร 0-2298-0664 ต่อ 332
สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) อาคาร sm ชั้น 25 ถ.พหลโยธิน พญาไทกรุงเทพฯ โทรสาร 0-2298-0057
จัดโดยสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
แนวคำตอบ
หัวข่าว สคส. จัดสัมมนาการจัดการความรู้ KM เพื่อสร้างองค์กรอัจฉริยะ
เนื้อข่าว สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สคส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดงานสัมมนาเรื่อง “KM เพื่อการพัฒนาองค์กรอัจฉริยะ” (KM for Building the Intelligent Organization) ในวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2550 เวลา 09.00 – 16.30 น.และเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ห้องมิราเคิลแกรนด์ A,B โดยมีวิทยากรระดับชาติมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำเสนอประสบการณ์การพัฒนาองค์กรด้วยหลักการบริหารสมัยใหม่ที่ไม่ทิ้งรากเหง้าของความเป็นไทย อาทิ ศ.นพ. วิจารณ์ พานิช ผอ.สคส., ดร. ประพนธ์ ผาสุกยืด ผอ. ฝ่ายส่งเสริมการสื่อสารพัฒนาการเรียนรู้ สคส., ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ ที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์และพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และ ดร. เกศรา รักชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Learning Organization Leadership Coaching Communication & Interpersonal Skills
ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 ค่าลงทะเบียน 1,500 บาท / คน และ 1,200 บาท / คน (กรณีลงทะเบียนพร้อมกัน 3 คนขึ้นไป) หรือลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 19 – 25 พฤษภาคม 2550 ค่าลงทะเบียน 2,000 บาท / คน โดยโอนเงินชำระค่าลงทะเบียนเข้าธนาคารกรุงไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชื่อบัญชีกองทุนสนับสนุนการวิจัย – สคส. และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) อาคาร sm ชั้น 25 ถ. พหลโยธิน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2298 – 0664 ต่อ 332 โทรสาร 0-2298-0057 หรือเว็บไซต์ www.kmi.or.th
MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค1 ปีการศึกษา 2550
การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 7 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ข้อ 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้
1.1 “ข่าวการเมือง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าวและแหล่งข่าวประกอบ
แนวคำตอบ
ข่าวการเมือง หมายถึง การรายงานข่าวที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน กิจกรรมความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานทางการเมืองการปกครองของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล รวมทั้งรายงานกิจกรรมความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรับอาสาเข้ามารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ
1) การจัดการเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง นโยบายของพรรค
2) การจัดตั้งรัฐบาล
3) การกำหนดนโยบาย การแถลง การปฏิบัติงานตามนโยบาย
4) กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การดำเนินงานของรัฐสภา กรรมาธิการ
5) การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ องค์กรอิสระต่างๆ การเปิดอภิปราย
6) บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา
7) ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา
8) การทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ปปช. ปปง. คตง.
9) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่างหัวข้อข่าวการเมือง ข่าวการตรวจสอบการถือครองหุ้นของรัฐมนตรีเกินกว่ากำหนดซึ่งในกรณีนี้นักข่าวสามารถหาข้อมูลจากแหล่งข่าวต่อไปนี้
– คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
– รัฐมนตรีที่เข้าข่ายความผิดถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5
– นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543
– สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องแจ้งเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่ง
– บริษัทเอกชนที่รัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5%
– บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี
– พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543
– พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542
– รัฐมนตรีและบุคคลสำคัญต่างๆ ซึ่งให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี
1.2 “ข่าวอาชญากรรม” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าวและแหล่งข่าวประกอบ
แนวคำตอบ
ข่าวอาชญากรรม หมายถึง ข่าวการรายงานเหตุการณ์และความคิดเห็นที่เกี่ยวกับการกระทำผิดทางอาญา ซึ่งผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการได้พิจารณาเลือกสรรแล้วด้วยความเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำผิดทางอาญาดังกล่าวจะเป็นที่สนใจของผู้อ่านส่วนใหญ่หรือบางส่วน โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ ได้แก่ ข่าวฆาตกรรม อุบัติเหตุ อุบัติภัย ภัยพิบัติ การประท้วง จลาจล ฆ่าตัวตาย ข่าวสะท้อนสังคม ความผิดทางอาญาต่างๆ เป็นต้น
เนื้อหาของข่าวอาชญากรรมจะเกี่ยวข้องกับประเด็น ต่อไปนี้
1) เหตุการณ์เกิดขึ้นและสิ้นสุดอย่างไร นำไปสู่ปัญหาใด
2) สาเหตุของเหตุการณ์ วิธีการก่ออาชญากรรม
3) การวางแผนติดตาม การปราบปรามของเจ้าหน้าที่
4) ความคืบหน้าของคดี
5) ปัญหาในการจับกุมหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่.
6) การป้องกันหรือลดคดีอาชญากรรม
7) ความคิดเห็นของบุคคลหลายฝ่าย เช่น นายกรัฐมนตรี ร.ม.ต. ผบ.ตร. นักวิชาการ ฯลฯ
เนื้อหาของข่าวอาชญากรรมที่ผู้สื่อข่าวต้องรวบรวมจะเกี่ยวข้องกับประเด็น ต่อไปนี้
1 ความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน
2 วิธีการของอาชญากรรม
3 เบาะแส วัตถุพยาน ร่อยรอย
4 สาเหตุของการก่ออาชญากรรม
5 คำให้การของผู้เคราะห์ร้าย
6 รายงานของตำรวจ
7 การจับกุม การตั้งข้อหา
ตัวอย่างข่าวอาชญากรรม ข่าวนักศึกษาเสียชีวิตหลังถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจากการเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ซึ่งในกรณีนี้นักข่าวสามารถหาข้อมูลจากแหล่งข่าวต่อไปนี้
– ตำรวจ สถานีโรงพยาบาล
– หน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาล
– ผู้ที่อยู่ ณ สถานที่เกิดเหตุ เช่น นักศึกษารุ่นพี่ที่ก่อเหตุ (กรณีที่จับกุมตัวได้แล้ว) นักศึกษาที่ไปร่วมรับน้อง ฯลฯ รวมทั้งบุคคลอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์
– คณะครู – อาจารย์ ผู้บริหารของสถาบันศึกษานั้นๆ
– บิดา – มารดา และเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต
– กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อ 2 ตามหลักการ ข่าวที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง จงอธิบาย
แนวคำตอบ
คุณสมบัติของข่าวที่ดี
1 มีความถูกถ้วน (Accuracy) หมายถึง ข้อเท็จจริงทุกอย่างที่ปรากฏในข่าว เช่น ชื่อ- นามสกุล อายุ ที่อยู่ ยศ ตำแหน่ง วันที่ และคำให้สัมภาษณ์ของแหล่งข่าวทุกคำ ฯลฯ จะต้องได้รับการตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าถูกต้องและครบถ้วน เพราะความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลข่าวถือเป็นเรื่องสำคัญมากในความรู้สึกของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ตกเป็นข่าว รวมทั้งผู้อ่านที่ใกล้ชิดและรู้เรื่องราวที่เกิดเป็นข่าวนั้นมาโดยตลอด ดังนั้นผู้อ่านจึงมักจะติดสินว่าควรเชื่อถือศรัทธาหนังสือพิมพ์ฉบับใดฉบับหนึ่งหรือไม่ จากประสบการณ์ที่ได้อ่านและได้พบเห็นข้อบกพร่องผิดพลาดของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น โดยมักจะสรุปว่าเมื่อหนังสือพิมพ์เสนอข่าวผิดเรื่องหนึ่งและครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเสนอข่าวผิดอีกต่อๆไปได้เช่นกัน
2 มีความสมดุลและเที่ยงธรรม (Balance and Fairness) หมายถึง มีความยุติธรรมในการเสนอข่าว ซึ่งข่าวที่ดีต้องรับใช้ผู้อ่านที่เป็นสาธารณชน ไม่ควรรับใช้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามคำขอร้องเป็นพิเศษของคนเหล่านั้น โดยเฉพาะถ้าข่าวนั้นเป็นปัญหาสาธารณะ ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ดีในการรายงานข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เป็นปัญหาสาธารณะนั้น ข่าวที่ดีมีคุณภาพจะต้องนำเสนอประเด็นสำคัญๆ ซึ่งคู่กรณี (ฝ่ายเสนอและฝ่ายค้าน) ได้แสดงความคิดเห็นออกมาในลักษณะที่สมดุลกัน นอกจากนี้ในกรณีที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งถูกผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมหรือความคิดเห็น ก็จะต้องให้ความเที่ยงธรรมแก่บุคคลนั้น โดยให้โอกาสโต้แย้งข้อกล่าวหาด้วย
3 มีความเป็นภววิสัย (Objective) หมายถึง ข่าวที่ปราศจากอคติส่วนตัวของผู้สื่อข่าว เช่น ความชอบหรือไม่ชอบ ฯลฯ หรือปลอดจากอิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจจะทำให้ข่าวนั้นปรากฏออกมาเป็นอะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่ข่าวนั่นเอง ดังนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวต้องรายงานข่าวเหตุการณ์ที่ขัดแย้งกับความรู้สึกส่วนตัว จึงควรต้องละทิ้งความรู้สึกดังกล่าวไปเสีย และรายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์โดยปราศจากอคติ ตรงไปตรงมาตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วให้ผู้อ่านแต่ละคนค้นหาความจริงในข่าวนั้นด้วยตัวของผู้อ่านเอง
4 มีความง่าย กะทัดรัด และชัดเจน (Simplicity Conciseness and Clearness) หมายถึง ข่าวที่มีคุณภาพต้องเขียนอย่างรัดกุมกะทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ และง่ายต่อการอ่าน ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องเขียนข่าวให้กระจ่างแจ้ง ชัดเจน ผู้อ่านอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้ทันที โดยไม่ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก
ข้อ 3 หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละชิ้น แต่ละประเภทแตกต่างกัน เช่น บางฉบับให้ความสำคัญกับเรื่องอื้อฉาวของคนดัง บางฉบับเน้นข่าวการเมือง บางฉบับเสนอข่าวสังคมที่เน้นข่าวกลุ่มคนดังไฮโซ บางฉบับเสนอข่าวของชาวบ้าน ข่าวภูมิภาค หรือบางฉบับมีข่าวสิ่งแวดล้อมปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านองค์กร และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพสังคมอย่างไร จงอธิบาย
แนวคำตอบ
หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกัน ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้จะขึ้นอยู่กับ “ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินคุณค่าข่าว” ดังนี้
1 ปัจจัยด้านบุคคล (ผู้สื่อข่าว หัวหน้าข่าว บรรณาธิการที่เกี่ยวข้อง)
– เชื้อชาติ ศาสนา คือ อคติเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและศาสนา เพราะบุคคลที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่ต่างกัน ก็ย่อมเกิดความลำเอียงในการเลือกแง่มุมของข่าวที่จะนำมาเสนอ
– ค่านิยม สำนึก และมุมมอง ซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางการศึกษา
– ความเป็นวิชาชีพ คือ หนังสือพิมพ์จะต้องมีอุดมการณ์และวิญญาณแห่งวิชาชีพโดยต้องรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ ควรหรือไม่ควรลงข่าว
– การรับรู้และความสนใจของผู้รับสาร คือ การประเมินเรื่องที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด
2 ปัจจัยด้านองค์กร แบ่งออกเป็น
นโยบายของสื่อ
– ความเป็นเจ้าของสื่อ คือ หนังสือพิมพ์มีใครเป็นเจ้าของสื่อ หรือมีใครเป็นผู้โฆษณารายใหญ่ หนังสือพิมพ์นั้นก็อาจเน้นเสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของสื่อ หรือผู้โฆษณารายนั้นๆ
– นโยบายการบริหาร คือ หนังสือพิมพ์มีนโยบายเน้นทำกำไร เอาตัวรอดหรือเน้นชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งมีผลให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามนโยบายการบริหาร
– นโยบายด้านข่าว / เนื้อหา คือ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะเน้นประเภทของข่าวที่จะนำเสนอ ความลึก ลีลาการเขียน ฯลฯ ที่แตกต่างกัน
วัฒนธรรมองค์กร คือ แบบปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ได้แก่
– จรรยาบรรณ คือ ข้อควรปฏิบัติของแต่ละองค์กร ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
– การเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ด้อยโอกาส หรือรากหญ้า
– การให้ความหมายกับข่าวบางประเภท เช่น ข่าวสังคม ข่าววัฒนธรรม ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวท้องถิ่น ฯลฯ ว่าจะเน้นนำเสนอหรือไม่
3 ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง การปกครอง และสังคม ซึ่งมีผลทำให้บางเรื่องรายงานได้ แต่บางเรื่องรายงานไม่ได้ ได้แก่
– ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาติ
– ผลประโยชน์ทางการเมืองระดับประเทศ และนานาชาติ
ข้อ 4 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การต่อรองและช่วงชิงโอกาสจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งการต่อรองให้ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีของนักการเมืองพรรคต่างๆ ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลผสมช่วงหลังเลือกตั้งได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าข่าวด้านใดบ้าง
แนวคำตอบ
เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values)
1 ความโดดเด่น / ดัง / ชื่อเสียง คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียง ความดัง ความโดดเด่นของพรรคการเมือง หัวหน้าพรรค และนักการเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป
2 ความใกล้ชิด คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน เพราะเป็นเรื่องอนาคตของประเทศชาติ ซึ่งประชาชนทุกคนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยการไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
3 ความทันต่อเวลา คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ ทำให้ได้รับความสนใจ เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นต้องการที่จะได้รับรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
4 ปุถุชนสนใจ คือ เหตุการณ์ข้างต้นเร้าความสนใจของมนุษย์ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ตื่นเต้นลุ้นว่าพรรคใดจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาล พรรคใดจะได้เป็นฝ่ายค้าน พรรคใดจะเข้าร่วมรัฐบาลบ้าง หรือผู้อ่านบางคนอาจเกิดอารมณ์โกรธเกลียดนักการเมืองที่ไร้จุดยืน พูดกลับไปกลับมา เพื่อให้พรรคของตนได้รับผลประโยชน์ในการต่อรองมากที่สุด
5 ความขัดแย้ง / การแข่งขัน / การเผชิญหน้า คือ เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ในลักษณะของความขัดแย้งทางความคิด เพราะการเลือกตั้งกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนกับฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ รวมทั้งยังมีการแข่งขันช่วงชิงโอกาสและการต่อรองของพรรคการเมืองต่างๆในการจัดตั้งรัฐบาล
6 ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร / ผลกระทบ คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวพันกับประชาชนผู้รับสาร ซึ่งเป็นผู้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลมาบริหารประเทศ นอกจากนี้การที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบายต่างๆ ยังมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคน และมีผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป
7 ความมีเงื่อนงำ คือ เหตุการณ์ข้างต้นยังไม่ทราบผลแน่ชัดว่าพรรคใดบ้างจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ และพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวหรือไม่
8 ความเปลี่ยนแปลง คือ เหตุการณ์ข้างต้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการปกครองภายในประเทศ เพราะการจัดการเลือกตั้งถือเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านจากยุคปฏิวัติรัฐประหาร เข้าสู่ยุคประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง
ข้อ 5 ในการรายงานข่าวโดยทั่วไปนิยมใช้รูปแบบการเขียนอย่างไรบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างข่าวที่เหมาะสมกับการเขียนในรูปแบบนั้นๆ
แนวคำตอบ
รูปแบบการเขียนข่าวในการรายงานข่าวโดยทั่วไป
1 แบบพีระมิดหัวกลับ เป็นการรายงานข่าวในลักษณะสรุปย่อข้อเท็จจริงที่สำคัญๆ เป็นความนำของข่าว แล้วจึงค่อยขยายรายละเอียดของข้อเท็จจริงเหล่านั้นตามลำดับ จึงเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในการเขียนมากที่สุด แบ่งเป็น 2 รูปแบบ
1) แบบถือความสำคัญเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญและจำเป็น ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด เหมาะกับข่าวเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเดียว หรือเป็นเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาง่ายๆไม่สลับซับซ้อน
2) แบบถือเวลาที่เกิดเหตุการณ์เป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปย่อเหตุการณ์และผลลัพธ์ทั้งหมด ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าตามลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ก่อนหลัง อาจมีข้อเท็จจริงเสริมในตอนท้าย จึงเหมาะกับข่าวเหตุการณ์ระทึกใจ เหตุการณ์ที่ข้อมูลข่าวมีความต่อเนื่องกันตลอด และเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงเรื่องเดียว เช่น ข่าวแข่งขันกีฬา ข่าวการประท้วง ข่าวการจลาจล เป็นต้น
2 แบบพีระมิดหัวตั้ง เป็นการรายงานข่าวที่ตรงกันข้ามกับแบบพีระมิดหัวกลับ คือ เริ่มต้นด้วยความนำในลักษณะเกริ่นนำเรื่อง ตามด้วยเนื้อข่าวซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ค่อยๆเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนย่อหน้าสุดท้ายจะสรุปเรื่องที่เป็นไคลแม็กซ์หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้อ่านอยากรู้มากที่สุดเอาไว้ จึงเหมาะสมกับข่าวเหตุการณ์สั้นๆ โดยมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น เรียกว่า ข่าวสั้นขำขัน รวมทั้งข่าวอาชญากรรมที่ต้องการรายงานรายละเอียดของเหตุการณ์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน แต่จะไม่เหมาะกับเรื่องหนักๆ ที่จริงใจ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ฯลฯ
3 แบบผสม เป็นการรายงานข่าวที่อาจมีประเด็นสำคัญหรือไคลแม็กซ์มากกว่า 1 ประเด็น จึงเหมาะกับข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสัมพันธ์กันและคลี่คลายไปเรื่อยๆ ในขณะที่รายงานข่าวเหตุการณ์นั้นอาจยังไม่สิ้นสุด แต่บ่งครั้งผู้เขียนข่าวไม่สามารถรอให้เหตุการณ์จบสิ้น เพราะต้องส่งข่าวให้ทันช่วงเวลาปิดข่าว (Deadline)
4 แบบความนำผนวกกับเนื้อข่าวที่มีข้อเท็จจริงสำคัญเท่าเทียมกัน เป็นการรายงานข่าวที่เริ่มต้นด้วยความนำที่สรุปย่อข้อเท็จจริงทั้งหมดเอาไว้เช่นเดียวกับแบบพีระมิดหัวกลับ แต่ส่วนเนื้อข่าวจะอธิบายรายละเอียดของข้อมูลข่าวแต่ละเรื่องโดยไม่เรียงตามลำดับความสำคัญ หากแต่จะเรียงลำดับความเป็นเหตุเป็นผลของแต่ละข้อมูลข่าวที่สนับสนุนซึ่งกันละกันอยู่ โดยมีจุดเด่น คือ ข่าวที่เขียนจะไม่ถูกจำกัดความสั้น – ยาว ด้วยพื้นที่ที่จะพิมพ์ เนื่องจากข้อมูลข่าวสารแต่ละข้อมูลในเหตุการณ์นั้นจะมีความสำคัญเท่าเทียมกันหมด และแต่ละข้อมูลข่าวยังมีเหตุผลสนับสนุนกันอยู่จนไม่อาจจะตัดข้อมูลข่าวใดออกไปได้ จึงเหมาะกับข่าวที่มีเนื้อหาหลายเหตุการณ์ในข่าวเดียวกัน เช่น ข่าวปฏิวัติรัฐประหาร ข่าวภัยธรรมชาติ หรืแปรากฎการณ์ธรรมชาติ ข่าวกีฬาซีเกมส์ เป็นต้น
ข้อ 6 ในการรายงานข่าวการเสียชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง จะต้องเสนอประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง
และระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อหาของข่าวดังกล่าว
แนวคำตอบ
การรายงานข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีเสียชีวิตควรนำเสนอประเด็นเนื้อหา
1 ประเด็นสำคัญในความนำ ควรเริ่มต้นด้วยการสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดของผู้เสียชีวิต คือ ชื่อ – นามสกุล อาชีพ หรือตำแหน่งสูงสุด อายุ สาเหตุการเสียชีวิต วันที่ เวลา และสถานที่ที่เสียชีวิต
2 ประเด็นในเนื้อเรื่อง
– ย่อหน้าแรก สรุปลำดับเหตุการณ์ก่อนการเสียชีวิตอย่างสั้นๆ ถ้าป่วยเป็นโรคเริ่มป่วยมาตั้งแต่เมื่อไร มีอาการเป็นอย่างไร รักษาโรงพยาบาลไหน จากนั้นจึงระบุเหตุการณ์ตื่นเต้นขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต หรือเหตุผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ตายก่อนจะเสียชีวิต โดยอาจเล่าเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาทีหรืออาจอ้างคำพูดของแพทย์ หรือผู้ใกล้ชิดที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้
– ย่อหน้าต่อไป จะเป็นรายละเอียดของพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม กำหนดการบรรจุศพ และกำหนดดารฌาปนกิจ
– ย่อหน้าสุดท้าย เป็นส่วนของภูมิหลังหรือประวัติของผู้ตายว่าเป็นชาวจังหวัดใด จบการศึกษาจากที่ใดบ้าง มีชื่อเสียงในฐานะอะไร ซึ่งอาจเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพการงาน ตำแหน่งในสังคมที่ได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง มีผลงานดีเด่นอะไรที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป รวมทั้งผู้เสียชีวิตมีภรรยาและบุตรธิดากี่คน ชื่ออะไรบ้าง มีบุพการีและญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียงเป็นใครบ้าง
คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนื้อหาข่าวดังกล่าว มีดังนี้
1 คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ- นามสกุล อายุ ยศหรือตำแหน่ง เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง (เช่น เป็นอดีตรัฐมนตรี) และยังต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย
2 คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่ที่เสียชีวิต ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หลัก กม. ที่ บนถนนสาย…(กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ) และอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด หรือเป็นที่ที่รู้จักกันดี เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้างๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าวนั้นอยู่ที่ใด และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด
3 คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว
ข้อ 7 จงอ่านข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม
ตำรวจสายตรวจ สน. สายไหม ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ ภายในซอยพหลโยธิน 58 แยก 55 บ้านเลขที่ 587 หมู่ 6 แขวงและเขตสายไหม กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เนื้อที่ 30 ตารางวา พบนางจิตรา บุณศรีธุระวานิช อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหน้าซีดเผือด ตัวสั่น
นางจิตราให้การว่า ตนประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านไปรับซื้อของเก่าบริเวณใกล้บ้านในละแวกนี้ เมื่อกลับถึงหน้าบ้านพบชายสองคนขับรถจักรยานยนต์ถือกระเช้าของขวัญ ภายในมีเครื่องดื่มประเภทไมโลและน้ำผลไม้มาจอดหน้าบ้าน อ้างว่าเป็นเพื่อนของน้องจะเอากระเช้าปีใหม่มาเป็นของขวัญปีใหม่ ตนก็ยืนงงอยู่ จึงสอบถามคนร้ายว่าน้องคนไหน ชื่ออะไร จู่ๆคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายก็กระโดดล็อกคอและลากเข้าบ้าน จากนั้นใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าจี้ด้านหลังจนรู้สึกชาไปหมด พอตั้งสติได้ก็ร้องให้เพื่อนบ้านช่วยและดิ้นรนต่อสู้ คนร้ายอีกคนจึงบอกให้เพื่อนอีกคนปิดประตู แต่ดีที่มีเพื่อนบ้านวิ่งมาดู คนร้ายทั้งสองคนตกใจรีบปล่อยตัววิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกระเช้าของขวัญ พบว่าเป็นกระเช้าของขวัญชุดเล็ก ซื้อมาจากห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะรู้ว่านางจิตราเป็นคนมีฐานะ มีทรัพย์สินและอยู่บ้านเพียงลำพังจึงได้วางแผนไปซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ อ้างเพื่อเข้ามาในบ้านเพื่อจับล็อกจี้ด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้าเพื่อกวาดทรัพย์สินในบ้าน แต่เหยื่อฮึดสู้ร้องให้คนช่วยจนต้องเผ่นหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ลักษณะรูปพรรณของคนร้าย เพื่อติดตามมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเคยถูกกลุ่มโจรขึ้นบ้านมาแล้วเมื่อ 7 – 8 ปีก่อน แล้วจับนางจิตราขังไว้ในบ้านก่อนที่โจรจะช่วยกันยกเค้าทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง คาดว่าโจรกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่หวนกลับมาก่อเหตุอีก
7.1 จากข่าวข้างต้น จงเขียนความนำของข่าว
แนวคำตอบ
โจรเมืองกรุงมารูปแบบใหม่ อ้างเป็นเพื่อนน้องจะเอากระเช้าของขวัญปีใหม่มาให้ ฉวยจังหวะที่เจ้าของบ้านงง โดดล็อกคอลากเข้าบ้าน แล้วจี้ด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้าซ้ำ แต่เจ้าของบ้านซึ่งเป็นหญิงอายุเกือบ 70 ใจเด็ดฮึดสู้ ร้องให้คนช่วย จนคนร้ายตกใจหลบหนีไปโดยไม่ได้เอาอะไรไปซักอย่าง
7.2 ข่าวข้างต้นเขียนในรูปแบบใด รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นอย่างไร และมีโครงสร้างอะไรบ้าง
แนวคำตอบ
ข่าวข้างต้นเขียนเป็นข่าวสั้นรูปแบบพีระมิดหัวกลับ โดยเขียนเนื้อข่าวแบบถือความสำคัญเป็นหลักซึ่งมีลักษณะเด่น คือ เป็นการรายงานข่าวในลักษณะบอกประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องในตอนต้นก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายรายละเอียดของข้อเท็จจริงเหล่านั้นตามความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด
โครงสร้างของข่าวสั้น ประกอบด้วย
1 หัวข่าว เป็นข้อความหรือคำที่เรียกร้องความสนใจ และมีความหมายต่อการบอกข่าว ส่วนใหญ่หัวข่าวมักบอกบุคคลและเหตุการณ์ในข่าว
2 เนื้อเรื่อง เป็นส่วนข้อมูลข่าวทั้งหมดของเหตุการณ์ในข่าว โดยหลักข่าวดังกล่าวเขียนเนื้อข่าวแบบถือความสำคัญเป็นหลัก คือ บอกประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นในย่อหน้าแรกก่อน จากนั้นจึงบอกรายละเอียดที่มีความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไป
3 ส่วนเชื่อม เป็นส่วนขยายของข้อเท็จจริง ซึ่งปกติข่าวสั้นจะมีโครงสร้างเพียงแค่หัวข่าวกับเนื้อเรื่อง แต่สำหรับข่าวดังกล่าวบอกส่วนเชื่อมที่เป็นภูมิหลังของเหตุการณ์ที่เป็นข่าวในย่อหน้าสุดท้าย
MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา2550
การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 6 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ข้อ 1 เหตุใดกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชน จงอธิบายโดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาคุณค่าเชิงข่าว
แนวคำตอบ
เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการรายงานเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (New Values)
1 ความโดดเด่น / ดัง / ชื่อเสียง คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียง ความดัง และความโดดเด่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป
2 ความใกล้ชิด คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เพราะเกิดขึ้นในสังคมไทย นอกจากนี้ยังมีความใกล้ชิดทางใจระหว่างผู้อ่านกับบุคคลที่ตกเป็นข่าวอีกด้วย
3 ความทันต่อเวลา คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ทำให้ได้รับความสนใจ เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นต้องการที่จะได้รับรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
4 ปุถุชนสนใจ คือ เหตุการณ์ข้างต้นเร้าความสนใจของมนุษย์ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่างๆ เช่น ฝ่ายที่รักอดีตนายกรัฐมนตรีอาจเกิดอารมณ์ดีใจ เห็นอกเห็นใจ เอาใจช่วยให้ท่านมีอำนาจทางการเมืองอีก ส่วนฝ่ายที่เกลียดอดีตนายกรัฐมนตรีอาจเกิดอารมณ์โกรธเกลียด ไม่อยากให้ท่านกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีก เป็นต้น
5 ความขัดแย้ง / การเผชิญหน้า คือ เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ในลักษณะของความขัดแย้งทางความคิดระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ นอกจากนี้ยังอาจมีการเผชิญหน้าหรือปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย จนกลายเป็นความขัดแย้งทางกายได้
6 ความมีเงื่อนงำ คือ เหตุการณ์ข้างต้นยังไม่สามารถคลี่คลายได้ว่ากิจกรรมและความเคลื่อนไหวของอดีตนายกรัฐมนตรีจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ และการกลับมาต่อสู้คดีของท่านจะมีบทสรุปเป็นอย่างไร
7 ความเปลี่ยนแปลง คือ เหตุการณ์ข้างต้นก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติธรรมดา และอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานาน จึงทำให้คนสนใจว่ากิจกรรมและความเคลื่อนไหวในการกลับมาต่อสู้คดีของท่าน จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างไร
ข้อ 2 จงตอบคำถามต่อไปนี้
2.1 การนำเสนอ “ข่าวการเมือง” ในหนังสือพิมพ์ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างหัวข้อข่าวและแหล่งข่าวประกอบ
แนวคำตอบ
ข่าวการเมือง หมายถึง การรายงานข่าวที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน กิจกรรมความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติงานทางการเมืองการปกครองของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล รวมทั้งรายงานกิจกรรมความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งรับอาสาเข้ามารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ โดยจะมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องต่างๆ ได้แก่
1) การจัดการเลือกตั้ง การรณรงค์หาเสียง นโยบายของพรรค
2) การจัดตั้งรัฐบาล
3) การกำหนดนโยบาย การแถลง การปฏิบัติงานตามนโยบาย
4) กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การดำเนินงานของรัฐสภา กรรมาธิการ
5) การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ องค์กรอิสระต่างๆ การเปิดอภิปราย
6) บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา
7) ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ในรัฐสภา
8) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่างหัวข้อข่าวการเมือง ข่าวการตรวจสอบการถือครองหุ้นของรัฐมนตรีเกินกว่ากำหนดซึ่งในกรณีนี้นักข่าวสามารถหาข้อมูลจากแหล่งข่าวต่อไปนี้
– คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
– รัฐมนตรีที่เข้าข่ายความผิดถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5
– นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543
– สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องแจ้งเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่ง
– บริษัทเอกชนที่รัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5%
– บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี
– พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543
– พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ.2542
– รัฐมนตรีและบุคคลสำคัญต่างๆ ซึ่งให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของรัฐมนตรี
2.2 การนำเสนอ “ข่าวอาชญากรรม” ที่สร้างสรรค์ ควรนำเสนอประเด็นเนื้อหาใด และไม่ควรนำเสนอประเด็นเนื้อหาใด
แนวคำตอบ
การเสนอข่าวอาชญากรรมที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพ ควรนำเสนอประเด็นเนื้อหาและไม่ควรนำเสนอประเด้นเนื้อหาดังต่อไปนี้
1 ผู้สื่อข่าวควรระมัดระวังในการใช้ถ้อยคำสำนวนในการนำเสนอข่าวอาชญากรรม โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมทางเพศ ควรใช้ถ้อยคำสำนวนที่บ่งบอกถึงรสนิยมที่ดี (Good Taste) มไควรใช้ถ้อยคำที่มีความหมายสองแง่สองง่าม ซึ่งอ่านแล้วมีลักษณะละเมิดศีลธรรมอันดีของประชาชน
2 ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมควรระมัดระวังการเสนอภาพประกอบข่าว และการเสนอคำอธิบายภาพ ไม่ควรเสนอภาพหรือบรรยายภาพที่มีลักษณะเร้าอารมณ์ผู้อ่าน ซึ่งอ่อนด้อยในสติปัญญาได้ หรือทำให้ผู้อ่านทั่วไปรู้สึกอนาถใจ หรือเป็นภาพที่มีลักษณะอนาจาร เช่น ภาพบุคคลถูกฆ่าเปลือยตายอย่างอเน็จอนาถ หรือภาพอุบัติเหตุสยดสยอง ฯลฯ
3 ผู้สื่อข่าวควรเสนอรายละเอียดการประกอบอาชญากรรมเพียงแค่พอให้ผู้อ่านเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ควรบรรยายเน้นรายละเอียดให้ผู้อ่านได้รับรู้เสียทุกขั้นตอนของการประกอบอาชญากรรม เช่น โจรใช้วิธีปล้นอย่างไร วางแผนปล้นอย่างไร ผู้หญิงถูกข่มขืนอย่างไร หรือผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมใช้วัตถุอะไรฆ่าตัวตาย
4 ผู้สื่อข่าวควรเสนอข่าวอาชญากรรมในลักษณะกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต่อการป้องกันและปราบปรามเกิดความรู้สึกซื่อสัตย์และเคารพต่อหน้าที่ตนเอง และปฏิบัติงานในความรับผิดชอบอย่างเข้มแข็ง
5 ผู้สื่อข่าวควรให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหาและผู้ต้องสงสัย ไม่ควรทำตนเป็นผู้พิพากษาคดีเสียเอง และหากในกรณีที่มีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ควรชี้แจงให้ผู้อ่านได้เข้าใจข้อเท็จจริงให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
6 ในข่าวอาชญากรรมที่นำเสนอแต่ละข่าว ผู้สื่อข่าวควรเน้นให้ผู้อ่านเข้าใจว่าผู้ประกอบอาชญากรรมจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายด้วย
7 ผู้สื่อข่าวควรระมัดระวังการเสนอรายละเอียดในข่าวที่จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าอาชญากรผู้นั้นเป็นวีรบุรุษ ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วบุคคลนั้นเป็นผู้ทำลายความสงบสุขของสังคม นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังต้องระมัดระวังการเสนอข่าวเกี่ยวกับการวางแผนปราบปรามโจรผู้ร้าย ไม่ควรเสนอรายละเอียดเสียจนเป็นการเปิดช่องทางการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แก่คนร้าย
8 ผู้สื่อข่าวควรระมัดระวังการเสนอข้อมูลข่าวเกี่ยวกับชื่อและที่อยู่ของพยาน หรือข้อมูลข่าวเกี่ยวกับหญิงที่ถูกข่มขืน เนื่องจากการระบุรายละเอียดดังกล่าวอาจนำมาซึ่งภยันตรายแก่พยาน หรือแก่หญิงเจ้าทุกข์และญาติมิตรก็ได้
ข้อ 3 การสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าวมีหลักการอะไรบ้าง และผู้สื่อข่าวควรเตรียมการอย่างไรบ้างก่อนการสัมภาษณ์
แนวคำตอบ
หลักการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าว
1 ผู้สื่อข่าวควรสัมภาษณ์บุคคลที่มีความเด่นและเป็นผู้รู้ในเรื่องนั้นจริงๆ สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับความเข้าใจในเรื่องราวที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์อาจเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ พยานรู้เห็น หรือเจ้าของกรณีก็ได้
2 ผู้สื่อข่าวต้องพยายามศึกษาหาเทคนิคสร้างความคุ้นเคย หรือรู้จักใช่จิตวิทยาการสื่อสารเพราะข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์จะถูกถ่ายทอดไปยังผู้อื่น จึงไม่ควรถูกบิดเบือนจากผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องระมัดระวังความรู้สึกที่เป็นอคติต่อเรื่องใดๆที่อาจเกิดขึ้น
3 ผู้สื่อข่าวพึงระมัดระวังเรื่องของความเป็นกลางเป็นพิเศษ ได้แก่ ข้อผิดพลาดอันเกิดจากการถูกชักจูงโดยแหล่งข่าว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังสัมภาษณ์ และสูญเสียความเป็นกลางในการตั้งคำถาม ตลอดจนการเลือกเสนอข้อเท็จจริงในข่าว ดังนั้นในบางกรณีผู้สื่อข่าวอาจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวอื่นๆรอบด้าน
4 ผู้สื่อข่าวควรเตรียมคำถามให้ตรงกับเป้าหมาย สามารถดึงคำตอบจากผู้ถูกสัมภาษณ์ได้มากที่สุด โดยคำถามต้องรัดกุม เหมาะสม สั้น ชัดเจน เปิดโอกาสให้ผู้ถูกถามตอบคำถามได้ยาวๆ มีใจความและแนวทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ แต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำถามปิดที่ส่งผลให้ผู้ตอบตอบรับหรือปฏิเสธเท่านั้น
5 ในการจบการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวควรสร้างเยื่อใยความสัมพันธ์ที่ดีไว้สำหรับการติดต่อกับแหล่งข่าวในคราวต่อๆไป ควรมีมารยาท และสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ประทับใจผู้ถูกสัมภาษณ์ไว้ด้วยคุณลักษณะการอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีระหว่างกัน
การเตรียมการก่อนการสัมภาษณ์
1 ศึกษาภูมิหลังของบุคคลที่ผู้สื่อข่าวจะไปสัมภาษณ์ล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งศึกษาภูมิหลังรายละเอียดของเรื่องราวที่ผู้สื่อข่าวตั้งใจจะไปสัมภาษณ์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน
2 เตรียมคำถามซึ่งผู้สื่อข่าวคาดว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นข้อเท็จจริงเผื่อไว้สัก 1 ชุด เพื่อให้เป็นเสมือนกรอบสำหรับการดำเนินการสัมภาษณ์
3 ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องใช้ในการสัมภาษณ์ให้อยู่ในสภาพที่จะใช้การได้ทันทีและอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ตรวจสอบดูว่าเครื่องบันทึกเสียงที่จะใช้นั้นมีแบตเตอรี่เต็ม มีตลับแถบบันทึกเสียงพร้อม สามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจน ตรวจสอบกล้องถ่ายรูปว่าได้ใส่ฟิล์มและมีแฟลชพร้อมที่จะใช้งานแล้ว เป็นต้น
4 ไปถึงที่นัดหมายกับบุคลผู้ให้สัมภาษณ์ให้ตรงเวลาหรือก่อนเวลา หากผู้สื่อข่าวไปถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนดนัด แหล่งข่าวมักจะแสดงท่าทีไม่ใคร่พอใจ แม้ว่าระหว่างที่รอคอยผู้สื่อข่าวอยู่ แหล่งข่าวจะมิได้มีกิจธุระต้องทำเลยก็ตาม
ข้อ 4 สมมติเกิดเพลิงไหม้ ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงานประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง และสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว
ในการเขียนข่าวดังกล่าว ควรมีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้าง
แนวคำตอบ
การรายงานข่าวเพลิงไหม้ควรรายงานประเด็นเนื้อหา ดังนี้
1 ประเด็นสำคัญในความนำ ควรเริ่มต้นด้วยการสรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แก่ เกิดเหตุอะไร ที่ไหน ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนเท่าไร และสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เท่าที่พอจะทราบได้ในขณะนั้น
2 ประเด็นในเนื้อเรื่อง แบ่งออกได้ดังนี้
– ย่อหน้าแรก มักเริ่มด้วยลำดับเหตุการณ์ เวลาที่เกิดเหตุ โดยเน้นการบรรยายให้ผู้อ่านนึกเห็นภาพเหตุการณ์ และสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ สภาพความเสียหายอื่นๆ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ประสบเหตุ หรือผู้บาดเจ็บ หากมีบุคคลที่มีชื่อเสียงรวมอยู่ด้วยก็ควรรายงานด้วยว่าเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไร และเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร
– ย่อหน้าต่อไป จะเป็นความเห็นหรือข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรายชื่อของผู้ประสบเหตุอื่นๆ อาการ การรักษา
– ย่อหน้าสุดท้าย อาจจะเป็นภูมิหลังหรือข้อมูลเสริมที่ทำให้ทราบว่าเคยมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าหรือไม่ก่อนเกิดเพลิงไหม้ เช่น อาจมีผู้เห็นประกายไฟ หรือผู้ลอบวางเพลิง ฯลฯ รวมทั้งข้อมูลเสริมอื่นๆ เช่น ประวัติ ความเป็นมาของสถานที่เกิดเหตุว่าเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วหรือไม่
แหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าวควรไปสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว มีดังนี้
– เจ้าหน้าที่ตำรวจ
– ศูนย์ข่าวข่ายต่างๆของตำรวจ
– มูลนิธิการกุศลต่างๆ
– สถานีดับเพลิง นักดับเพลิง
– โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล
– ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์
– พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์
– บริษัทประกันภัย (กรณีเจ้าของสถานที่เกิดเหตุได้ทำประกันอัคคีภัยเอาไว้)
– ห้องสมุดหนังสือพิมพ์ เพื่อหาข้อมูลย้อนหลังที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน
คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนื้อข่าวดังกล่าว มีดังนี้
1 คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ – นามสกุล อายุ อาชีพ ยศหรือตำแหน่ง และที่อยู่
2 คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่ที่เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด และอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด หรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดี เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้างๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าวอยู่นั้นอยู่ที่ใด และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด
3 คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดเพลิงไหม้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ต้นเพลิงเกิดจากที่ไหน ดับเพลิงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเพลิงสงบลงแล้วเป็นอย่างไร
ข้อ 5 จงอ่านข้อมูลต่อไปนี้ แล้วตอบคำถาม ข้อ 5.1 – 5.2
โจรกระเช้าปีใหม่
ตำรวจสายตรวจ สน. สายไหม ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ ภายในซอยพหลโยธิน 58 แยก 55 บ้านเลขที่ 587 หมู่ 6 แขวงและเขตสายไหม กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เนื้อที่ 30 ตารางวา พบนางจิตรา บุณศรีธุระวานิช อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการหน้าซีดเผือด ตัวสั่น
นางจิตราให้การว่า ตนประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านไปรับซื้อของเก่าบริเวณใกล้บ้านในละแวกนี้ เมื่อกลับถึงหน้าบ้านพบชายสองคนขับรถจักรยานยนต์ถือกระเช้าของขวัญ ภายในมีเครื่องดื่มประเภทไมโลและน้ำผลไม้มาจอดหน้าบ้าน อ้างว่าเป็นเพื่อนของน้องจะเอากระเช้าปีใหม่มาเป็นของขวัญปีใหม่ ตนก็ยืนงงอยู่ จึงสอบถามคนร้ายว่าน้องคนไหน ชื่ออะไร จู่ๆคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายก็กระโดดล็อกคอและลากเข้าบ้าน จากนั้นใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าจี้ด้านหลังจนรู้สึกชาไปหมด พอตั้งสติได้ก็ร้องให้เพื่อนบ้านช่วยและดิ้นรนต่อสู้ คนร้ายอีกคนจึงบอกให้เพื่อนอีกคนปิดประตู แต่ดีที่มีเพื่อนบ้านวิ่งมาดู คนร้ายทั้งสองคนตกใจรีบปล่อยตัววิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกระเช้าของขวัญ พบว่าเป็นกระเช้าของขวัญชุดเล็ก ซื้อมาจากห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะรู้ว่านางจิตราเป็นคนมีฐานะ มีทรัพย์สินและอยู่บ้านเพียงลำพังจึงได้วางแผนไปซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ อ้างเพื่อเข้ามาในบ้านเพื่อจับล็อกจี้ด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้าเพื่อกวาดทรัพย์สินในบ้าน แต่เหยื่อฮึดสู้ร้องให้คนช่วยจนต้องเผ่นหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ลักษณะรูปพรรณของคนร้าย เพื่อติดตามมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเคยถูกกลุ่มโจรขึ้นบ้านมาแล้วเมื่อ 7 – 8 ปีก่อน แล้วจับนางจิตราขังไว้ในบ้านก่อนที่โจรจะช่วยกันยกเค้าทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง คาดว่าโจรกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันที่หวนกลับมาก่อเหตุอีก
5.1 ข่าวข้างต้นเขียนในรูปแบบใด รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นอย่างไร
แนวคำตอบ
ข่าวข้างต้นเป็นข่าวสั้นรูปแบบพีระมิดหัวกลับ โดยเขียนเนื้อข่าวแบบถือความสำคัญเป็นหลักซึ่งมีลักษณะเด่น คือ เป็นการรายงานข่าวในลักษณะบอกประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องในตอนต้นก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายรายละเอียดของข้อเท็จจริงเหล่านั้นตามความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด โดยเมื่อนำมาเขียนเรียงลำดับจะเป็นดังนี้
ความนำ / ประเด็นสำคัญ (ย่อหน้าแรกบอกประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องก่อน) ข้อเท็จจริงที่ 1, ข้อเท็จจริงที่ 2 , ข้อเท็จจริงที่ 3
เนื้อข่าวแต่ละย่อหน้าจะเป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด
5.2 ข่าวดังกล่าวมีโครงสร้างอะไรบ้าง
แนวคำตอบ
ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวสั้น ซึ่งมีโครงสร้างข่าวดังนี้
1 หัวข่าว เป็นข้อความหรือคำที่เรียกร้องความสนใจ และมีความหมายต่อการบอกข่าวส่วนใหญ่หัวข่าวมักบอกบุคคลและเหตุการณ์ในข่าว ซึ่งหัวข่าวของข่าวข้างต้น คือ “โจรกระเช้าปีใหม่”
2 เนื้อเรื่อง เป็นส่วนข้อมูลข่าวทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เป็นข่าว โดยข่าวดังกล่าวเขียนเนื้อข่าวแบบถือความสำคัญเป็นหลัก คือ บอกประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นในย่อหน้าแรกก่อน จากนั้นจึงบอกรายละเอียดที่มีความสำคัญน่าสนใจลดหลั่นกันลงไป
3 ส่วนเชื่อม เป็นส่วนขยายของข้อเท็จจริง ซึ่งปกติข่าวสั้นจะมีโครงสร้างเพียงแค่หัวข่าวกับเนื้อเรื่อง แต่สำหรับข่าวดังกล่าวบอกส่วนเชื่อม ที่เป็นภูมิหลังของเหตุการณ์ที่เป็นข่าวในย่อหน้าสุดท้าย
ข้อ 6 จงเขียนเนื้อข่าวจากข้อเท็จจริงต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่โรงแรม รอยัลซิตี้ การประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน ในการประชุมมีผู้แทนผู้บริหารโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชน ผู้แทนนักเรียน 50 คน ปลัด ศธ. เป็นประธาน ภายหลังการประชุม นางจรวยพร ธรณินทร์ ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ดังนี้
1 ควรกำหนดลักษณะทรงผมที่เหมาะสมของนักเรียน เพราะปัจจุบันนิยมทำทรงพั้งก์ ทรงแฟชั่นญี่ปุ่น โกรกผมสีทอง เป็นต้น แต่ต้องยืดหยุ่น ไม่ตึงจนเกินไป ไม่ใช่ว่ากำหนดให้นักเรียนต้องตัดผมถูกระเบียบ คือ ทรงพวงมาลัย เพียงอย่างเดียว อาจอนุญาตให้มีระดับสั้น กลาง ยาว ถ้าไว้ผมยาวต้องถักเปียให้เรียบร้อย
2 เรื่องกำหนดระเบียบเกี่ยวกับทรงผมนักเรียน ต้องรับฟังความคิดเห็นให้รอบคอบ รวมทั้งพิจารณาว่า จะกระทบกับสิทธิมนุษยชนของเด็กนักเรียนหรือไม่
3 ที่ผ่านมา ศธ. เคยพยายามออกแนวปฏิบัติในเรื่องของทรงผมนักเรียน แต่มีกระแสคัดค้านจึงได้ยกเลิก แต่ถ้ากำหนดระเบียบทรงผมนักเรียน จะมีผลบังคับทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน
4 ร่างระเบียบเครื่องแบบนักเรียนเป็นร่างระเบียบที่ต้องออกตาม พ.ร.บ. เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ในส่วนหนึ่งจะมีการกำหนดให้สถานศึกษามีอำนาจพิจารณาลงโทษทางวินัยตามระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการลงโทษนักเรียน และนักศึกษาตามความเหมาะสม กรณีนักเรียนหลีกเลี่ยงไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียนตามที่สถานศึกษากำหนด อาทิ ไม่แต่งกายชุดเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ชุดกีฬา ชุดพื้นเมือง ตามวันที่สถานศึกษากำหนด
ความเห็นของนางนวลจันทร์ บุญอาจ อาจารย์โรงเรียนศึกษานารี มีดังนี้ *** ปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งอะลุ้มอล่วยให้นักเรียนซอยผมบางๆได้ แต่นักเรียนมักมีทรงผมแปลกๆ ที่โรงเรียนรับไม่ไหว มองว่าปัญหานี้กระทบต่อการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนหลายด้าน เพราะมัวเสียเวลากับการทำผมทรงใหม่ เพราะอยากให้ทันแฟชั่น จนไม่มีจิตใจเรียน ***
ความเห็นของ น.ส. ชนกานต์ วิภูสมิทธ์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นดังนี้ *** ไม่คัดค้าน ถ้า ศธ. จะกำหนดระเบียบทรงผมนักเรียน แต่ควรยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับยุคสมัย ***
แนวคำตอบ
เนื้อข่าว
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ โดยมีผู้แทนผู้บริหารโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งผู้แทนนักเรียนจำนวน 50 คน เข้าร่วมประชุม
นางจรวยพร ธรณินทร์ ซึ่งเป็นปลัด ศธ. และเป็นประธานในการประชุม ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า ควรกำหนดลักษณะทรงผมที่เหมาะสมของนักเรียน เพราะปัจจุบันนักเรียนนิยมทำทรงพั้งก์ ทรงแฟชั่นญี่ปุ่น โกรกผมสีทอง ฯลฯ แต่ต้องยืดหยุ่น ไม่ตึงจนเกินไป ไม่ใช่ว่ากำหนดให้นักเรียนต้องตัดผมถูกระเบียบ คือ ทรงพวงมาลัยเพียงอย่างเดียว อาจอนุญาตให้มีการไว้ผมระดับสั้น กลาง ยาว แต่ถ้าไว้ผมยาวต้องถักเปียให้เรียบร้อย ทั้งนี้ เรื่องกำหนดระเบียบเกี่ยวกับทรงผมนักเรียนต้องรับฟังความคิดเห็นให้รอบคอบ รวมทั้งพิจารณาว่าจะกระทบกับสิทธิมนุษยชนของเด็กนักเรียนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ศธ. เคยพยายามออกแนวปฏิบัติในเรื่องของทรงผมนักเรียน แต่มีกระแสคัดค้านจึงได้ยกเลิก แต่ถ้ากำหนดระเบียบทรงผมนักเรียนจะมีผลบังคับทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน
ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า ร่างระเบียบเครื่องแบบนักเรียนเป็นร่างระเบียบที่ต้องออกตาม พ.ร.บ. เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 ในส่วนหนึ่งจะมีการกำหนดให้สถานศึกษามีอำนาจพิจารณาลงโทษทางวินัยตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาตามความเหมาะสม กรณีที่นักเรียนหลีกเลี่ยงไม่แต่งเครื่องแบบนักเรียนตามที่สถานศึกษากำหนด อาทิ ไม่แต่งกายชุดเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ชุดกีฬา ชุดพื้นเมือง ตมวันที่สถานศึกษากำหนด
ทางด้านนางนวลจันทร์ บุญอาจ อาจารย์โรงเรียนศึกษานารี เห็นว่า ปัจจุบันโรงเรียนหลายแห่งอะลุ้มอล่วยให้นักเรียนซอยผลบางๆได้ แต่นักเรียนมักมีทรงผมแปลกๆ ที่โรงเรียนรับไม่ไหว ตนมองว่าปัญหานี้กระทบต่อการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนหลายด้าน เพราะนักเรียนมัวเสียเวลากับการทำผมทรงใหม่ อยากให้ทันแฟชั่น จนไม่มีจิตใจเรียน
ส่วน น.ส. ชนกานต์ วิภูสมิทธ์ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กล่าวว่า ตนไม่คัดค้าน ถ้า ศธ. จะกำหนดระเบียบทรงผมนักเรียน แต่ควรยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับยุคสมัย
MCS 2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2551
การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2551
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS 2201 การเขียนข่าว
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ
ข้อ 1 เหตุใดข่าวนักศึกษายกพวกตีกันจึงได้รับการนำเสนอเป็นข่าว และมีการรายงานอย่างต่อเนื่องในสื่อมวลชนนานหลายวัน จงอธิบายโดยใช้หลักการด้านคุณค่าเชิงข่าวประกอบการพิจารณา
แนวคำตอบ
เหตุการณ์ข้างต้นได้รับการนำเสนอเป็นข่าวและมีการรายงานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values)
1 ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เหตุการณ์ข้างต้นมีความเกี่ยวพันกับผู้รับสารในแง่เป็นอุทาหรณ์สอนใจ ทำให้ผู้รับสารมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นลูกหลงเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
2 ความเปลี่ยนแปลง คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพราะถึงแม้ว่าการยกพวกตีกันของนักเรียน/นักศึกษาจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ยกพวกตีกันทุกวันจนกลายเป็นเหตุการณ์ปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน
3 ความไม่คาดคิด คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในวัน – เวลาใด สถานที่ไหน
4 ความมีเงื่อนงำ คือ เหตุการณ์ข้างต้นยังไม่สามารถคลี่คลายได้ว่าจะจบลงอย่างไร ตำรวจจะจับตัวนักศึกษาที่ยกพวกตีกันได้หรือไม่ และจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร
5 เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ เหตุการณ์ข้างต้นทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่างๆ เช่น รู้สึกสลดใจที่เห็นนักศึกษาทำตัวเป็นนักเลง ยึดถือค่านิยมผิดๆ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการตีกัน หรือเกิดความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ตกเป็นลูกหลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นต้น
6 ความใกล้ชิด คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เพราะเกิดขึ้นในสังคมไทย จึงทำให้ผู้อ่านให้ความสนใจมากกว่าเหตุการณ์ที่ไกลตัวและเกิดขึ้นไกลบ้าน
7 ความโดดเด่น / ดัง / ชื่อเสียง คือ เหตุการณ์ข้างต้นเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียงของสถาบันการศึกษา ซึ่งนักศึกษาที่ยกพวกตีกันเรียนอยู่ เพราะเป็นสถานที่ที่ประชาชนรู้จักกันโดยทั่วไป
8 ความขัดแย้ง / การเผชิญหน้า คือ เหตุการณ์ข้างต้นสะท้อนถึงความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ ในลักษณะความขัดแย้งทั้งทางกายและทางความคิด รวมทั้งมีการเผชิญหน้าหรือปะทะกันระหว่างนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน
9 ความทันต่อเวลา คือ เหตุการณ์ข้างต้นเป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ เพิ่งเกิดขึ้น เพิ่งเปิดเผยหรือเพิ่งรับรู้ ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้อ่าน
ข้อ 2 ข่าวบันเทิงและข่าวอาชญากรรมมีคุณค่าเชิงข่าวด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย
แนวคำตอบ
ข่าวบันเทิงมีคุณค่าเชิงข่าว (New Values) โดยรวม ดังนี้
1 ความโดนเด่น / ดัง / มีชื่อเสียง คือ ข่าวบันเทิงเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับบุคคลที่เป็นที่รู้จักของประชาชน เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง หรือบุคคลที่เด่นๆในวงการ
2 เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่างบันเทิงเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในแวดวงบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเพศ เช่น พฤติกรรมความสัมพันธ์ส่วนตัวของดารา – นักร้องชาย/หญิง การแต่งงาน การหย่าร้าง เรื่องพวกเกย์ และเลสเบี้ยน เป็นต้น
3 ความทันต่อเวลา คือ ข่าวบันเทิงเป็นเหตุการณ์สดใหม่ ทันต่อเหตุการณ์ หรือบางเรื่องก็เกิดขึ้นมานานแล้วแต่เพิ่งเปิดเผย เพิ่งรับรู้ เช่น ข่าวเรื่องคลิปหลุดดาราที่ถ่ายไว้นานแล้ว แต่เพิ่งปล่อยออกมาเผยแพร่ เป็นต้น
4 ความใกล้ชิด คือ ข่าวบันเทิงเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวเพราะเกิดขึ้นในสังคมไทย และยังเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ซึ่งต้องการความบันเทิงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น ละคร ภาพยนตร์ ดนตรี แฟชั่น วรรณกรรม งานศิลปะ เป็นต้น
ข่าวอาชญากรรมมีคุณค่าเชิงข่าว (News Value) โดยรวม ดังนี้
1 ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน เช่น การนำเสนอข่าวชิงทรัพย์อาจทำให้ผู้อ่านระมัดระวังไม่นำของมีค่าติดตัว หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่เปลี่ยวๆ เป็นต้น
2 ความเปลี่ยนแปลง คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ข่าวภัยพิบัติ ข่าวประท้วง จลาจล ฯลฯ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆทุกวัน เป็นต้น
3 ความไม่คาดคิด คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เช่น ข่าวฆ่าตัวตายบางข่าวก็ใช้วิธีการที่ไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน เป็นต้น
4 ความมีเงื่อนงำ คือ ข่าวอาชญากรรมบางข่าวยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร เช่น ข่าวข่มขืน ข่าวฆาตกรรม ซึ่งตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ เป็นต้น
5 เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่าวอาชญากรรมทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่างๆ เช่น กลัว ตื่นเต้น โกรธ หดหู่ ฯลฯ
6 ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ข่าวปล้น – ฆ่า อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
7 ความขัดแย้ง / การเผชิญหน้า คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งทั้งทางกายและความคิด มีการเผชิญหน้าปะทะกัน เช่น ข่าวฆาตกรรม ข่าวประท้วง การจลาจล ฯลฯ
8 ความทันต่อเวลา คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวที่สดใหม่ ทันเหตุการณ์ หรือบางข่าวก็เพิ่งเปิดเผย เช่น ข่าวข่มขืนที่มีการกระทำต่อเนื่องมานาน แต่เพิ่งนำเสนอเป็นข่าว เป็นต้น
ข้อ 3 ปัจจัยด้านบุคคล ปัจจัยด้านองค์กร ได้แก่ ความเป็นเจ้าของสื่อ นโยบายด้านข่าว วัฒนธรรมองค์กร และจรรยาบรรณ ปัจจัยด้านการเมืองการปกครอง มีผลอย่างไรบ้างต่อการเสนอข่าวของสื่อมวลชน
แนวคำตอบ
สื่อมวลชนจะให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละชิ้นแต่ละประเทศแตกต่างกัน โดยมีมุมมองและประเด็นที่เน้นในการนำเสนอไม่เหมือนกัน เช่น หนังสือพิมพ์บางฉบับจะให้ความสำคัญกับข่าวอื้อฉาวของคนดัง บางฉบับเน้นข่าวการเมือง บางฉบับเน้นข่าวชาวบ้าน ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ “ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินคุณค่าข่าว”
1 ปัจจัยด้านบุคคล (ผู้สื่อข่าว หัวหน้าข่าว บรรณาธิการที่เกี่ยวข้อง) ได้แก่
– เชื้อชาติ ศาสนา คือ อคติเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและศาสนา เพราะบุคคลที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่ต่างกัน ก็ย่อมเกิดความลำเอียงในการเลือกแง่มุมของข่าวที่จะนำมาเสนอ
– ค่านิยม สำนึก และมุมมอง ซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางการศึกษา
– ความเป็นวิชาชีพ คือ หนังสือพิมพ์จะต้องมีอุดมการณ์และวิญญาณแห่งวิชาชีพโดยต้องรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะ ควรหรือไม่ควรลงข่าว
– การรับรู้และความสนใจของผู้รับสาร คือ การประเมินเรื่องที่คิดว่าผู้อ่านน่าจะให้ความสนใจมากที่สุด
2 ปัจจัยด้านองค์กร แบ่งออกเป็น
นโยบายของสื่อ ได้แก่
– ความเป็นเจ้าของสื่อ คือ หนังสือพิมพ์มีใครเป็นเจ้าของสื่อ หรือมีใครเป็นผู้โฆษณารายใหญ่ หนังสือพิมพ์นั้นก็อาจเน้นเสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าของสื่อ หรือผู้โฆษณารายนั้นๆ
– นโยบายการบริหาร คือ หนังสือพิมพ์มีนโยบายเน้นทำกำไร เอาตัวรอดหรือเน้นชิงส่วนแบ่งตลาด ซึ่งมีผลให้หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับให้ความสำคัญแก่ข่าวแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามนโยบายการบริหาร
– นโยบายด้านข่าว / เนื้อหา คือ หนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะเน้นประเภทของข่าวที่จะนำเสนอ ความลึก ลีลาการเขียน ฯลฯ ที่แตกต่างกัน
วัฒนธรรมองค์กร คือ แบบปฏิบัติขององค์กรนั้นๆ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร ได้แก่
– จรรยาบรรณ คือ ข้อควรปฏิบัติของแต่ละองค์กร ซึ่งอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้
– การเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้ด้อยโอกาส หรือรากหญ้า
– การให้ความหมายกับข่าวบางประเภท เช่น ข่าวสังคม ข่าววัฒนธรรม ข่าวสิ่งแวดล้อม ข่าวท้องถิ่น ฯลฯ ว่าจะเน้นนำเสนอหรือไม่
3 ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมทางการเมือง การปกครอง และสังคม ซึ่งมีผลทำให้บางเรื่องรายงานได้ แต่บางเรื่องรายงานไม่ได้ ได้แก่
– ความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาติ
– ผลประโยชน์ทางการเมืองระดับประเทศ และนานาชาติ
ข้อ 4 การสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าวมีหลักการอะไรบ้าง และผู้สื่อข่าวควรเตรียมการอย่างไรบ้างก่อนการสัมภาษณ์
แนวคำตอบ
หลักการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อรายงานข่าว มีดังนี้
1 ผู้สื่อข่าวควรสัมภาษณ์บุคคลที่มีความเด่นและเป็นผู้รู้ในเรื่องนั้นจริงๆ สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับความเข้าใจในเรื่องราวที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์อาจเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ พยานรู้เห็น หรือเจ้าของกรณีก็ได้
2 ผู้สื่อข่าวต้องพยายามศึกษาหาเทคนิคสร้างความคุ้นเคย หรือรู้จักใช่จิตวิทยาการสื่อสารเพราะข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์จะถูกถ่ายทอดไปยังผู้อื่น จึงไม่ควรถูกบิดเบือนจากผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องระมัดระวังความรู้สึกที่เป็นอคติต่อเรื่องใดๆที่อาจเกิดขึ้น
3 ผู้สื่อข่าวพึงระมัดระวังเรื่องของความเป็นกลางเป็นพิเศษ ได้แก่ ข้อผิดพลาดอันเกิดจากการถูกชักจูงโดยแหล่งข่าว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังสัมภาษณ์ และสูญเสียความเป็นกลางในการตั้งคำถาม ตลอดจนการเลือกเสนอข้อเท็จจริงในข่าว ดังนั้นในบางกรณีผู้สื่อข่าวอาจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวอื่นๆรอบด้าน
4 ผู้สื่อข่าวควรเตรียมคำถามให้ตรงกับเป้าหมาย สามารถดึงคำตอบจากผู้ถูกสัมภาษณ์ได้มากที่สุด โดยคำถามต้องรัดกุม เหมาะสม สั้น ชัดเจน เปิดโอกาสให้ผู้ถูกถามตอบคำถามได้ยาวๆ มีใจความและแนวทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ แต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำถามปิดที่ส่งผลให้ผู้ตอบตอบรับหรือปฏิเสธเท่านั้น
5 ในการจบการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวควรสร้างเยื่อใยความสัมพันธ์ที่ดีไว้สำหรับการติดต่อกับแหล่งข่าวในคราวต่อๆไป ควรมีมารยาท และสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ประทับใจผู้ถูกสัมภาษณ์ไว้ด้วยคุณลักษณะการอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีระหว่างกัน
การเตรียมการก่อนการสัมภาษณ์
1 ศึกษาภูมิหลังของบุคคลที่ผู้สื่อข่าวจะไปสัมภาษณ์ล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งศึกษาภูมิหลังรายละเอียดของเรื่องราวที่ผู้สื่อข่าวตั้งใจจะไปสัมภาษณ์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน
2 เตรียมคำถามซึ่งผู้สื่อข่าวคาดว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นข้อเท็จจริงเผื่อไว้สัก 1 ชุด เพื่อให้เป็นเสมือนกรอบสำหรับการดำเนินการสัมภาษณ์
3 ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องใช้ในการสัมภาษณ์ให้อยู่ในสภาพที่จะใช้การได้ทันทีและอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ตรวจสอบดูว่าเครื่องบันทึกเสียงที่จะใช้นั้นมีแบตเตอรี่เต็ม มีตลับแถบบันทึกเสียงพร้อม สามารถบันทึกเสียงได้ชัดเจน ตรวจสอบกล้องถ่ายรูปว่าได้ใส่ฟิล์มและมีแฟลชพร้อมที่จะใช้งานแล้ว เป็นต้น
4 ไปถึงที่นัดหมายกับบุคลผู้ให้สัมภาษณ์ให้ตรงเวลาหรือก่อนเวลา หากผู้สื่อข่าวไปถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนดนัด แหล่งข่าวมักจะแสดงท่าทีไม่ใคร่พอใจ แม้ว่าระหว่างที่รอคอยผู้สื่อข่าวอยู่ แหล่งข่าวจะมิได้มีกิจธุระต้องทำเลยก็ตาม
ข้อ 5 ในการรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่ง
5.1 ควรจะต้องรายงานประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง และ/หรือสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว
แนวคำตอบ
การรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่งควรนำเสนอประเด็นเนื้อหา
1 ประเด็นสำคัญในความนำ ควรเริ่มต้นด้วยการสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดของผู้เสียชีวิต คือ ชื่อ – นามสกุล อาชีพ หรือตำแหน่งสูงสุด อายุ สาเหตุการเสียชีวิต วันที่ เวลา และสถานที่ที่เสียชีวิต
2 ประเด็นในเนื้อเรื่อง
– ย่อหน้าแรก สรุปลำดับเหตุการณ์ก่อนการเสียชีวิตอย่างสั้นๆ ถ้าป่วยเป็นโรคเริ่มป่วยมาตั้งแต่เมื่อไร มีอาการเป็นอย่างไร รักษาโรงพยาบาลไหน จากนั้นจึงระบุเหตุการณ์ตื่นเต้นขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต หรือเหตุผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ตายก่อนจะเสียชีวิต โดยอาจเล่าเหตุการณ์แบบนาทีต่อนาทีหรืออาจอ้างคำพูดของแพทย์ หรือผู้ใกล้ชิดที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้
– ย่อหน้าต่อไป จะเป็นรายละเอียดของพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม กำหนดการบรรจุศพ และกำหนดดารฌาปนกิจ
– ย่อหน้าสุดท้าย เป็นส่วนของภูมิหลังหรือประวัติของผู้ตายว่าเป็นชาวจังหวัดใด จบการศึกษาจากที่ใดบ้าง มีชื่อเสียงในฐานะอะไร ซึ่งอาจเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพการงาน ตำแหน่งในสังคมที่ได้รับการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง มีผลงานดีเด่นอะไรที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป รวมทั้งผู้เสียชีวิตมีภรรยาและบุตรธิดากี่คน ชื่ออะไรบ้าง มีบุพการีและญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียงเป็นใครบ้าง
แหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าวควรไปสัมภาษณ์เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว มีดังนี้
– บุตรธิดา สามี/ภรรยาของผู้ตาย
– ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในขณะที่ผู้ตายใกล้จะเสียชีวิต
– แพทย์ที่เป็นเจ้าของไข้ (ในกรณีที่เสียชีวิตเพราะเจ็บป่วย)
– เพื่อนร่วมงาน และผู้ใกล้ชิดคนอื่นๆ ที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง
5.2 ควรมีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อหาของข่าวดังกล่าว
แนวคำตอบ
คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนื้อหาข่าวดังกล่าว มีดังนี้
1 คุณลักษณะของบุคคล ได้แก่ ชื่อ- นามสกุล อายุ ยศหรือตำแหน่ง เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง (เช่น เป็นอดีตรัฐมนตรี) และยังต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย
2 คุณลักษณะของสถานที่ ได้แก่ สถานที่ที่เสียชีวิต ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หลัก กม. ที่ บนถนนสาย…(กรณีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ) และอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด หรือเป็นที่ที่รู้จักกันดี เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้างๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าวนั้นอยู่ที่ใด และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด
3 คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว
ข้อ 6 การรายงานข่าวการเมืองและข่าวเศรษฐกิจควรนำเสนอประเด็นข่าวใดบ้าง
แนวคำตอบ
การายงานข่าวการเมืองควรนำเสนอประเด็นข่าว ดังนี้
– กิจกรรมและความเคลื่อนไหวของรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน
– การปฏิบัติงานของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ
– การพิจารณาการเสนอและแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย นโยบายใหม่ และการยื่นกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
– ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อสภาวการณ์ทางการเมือง
– ปฏิกิริยาของประชาชนที่มีต่อนโยบายที่รัฐบาลประกาศใช้
– ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักวิชาการทางการเมือง ฯลฯ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่างๆ
– การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้อราชการประจำ องค์กรอิสระต่างๆ
การรายงานข่าวเศรษฐกิจควรนำเสนอประเด็นข่าว ดังนี้
– ความเคลื่อนไหวทางการเงินและการคลังของรัฐ
– ความเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินต่างๆ เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ฯลฯ
– มาตรการต่างๆของรัฐที่นำมาใช้ควบคุมและการแก้ปัญหาทางการเงินของประเทศ
– ราคาหุ้น ราคาน้ำมัน ราคาทอง
– การกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษี
– สภาวะตลาดพืชผลทางการเกษตร ราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า
– วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกที่ส่งผลกระทบต่อภาวการณ์ส่งออกของไทย
– อัตราการว่างงาน การเรียกร้องค่าจ้างแรงงาน และการประท้วงของแรงงาน
ข้อ 7 ในการเขียนข่าวกีฬา ควรใช้ลีลา (Style) แบบใด
แนวคำตอบ
ในการเขียนข่าวกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนข่าวได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน เพราะหากข้อมูลข่าวนั้นได้มาจากการให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าว ก็ต้องมีการอ้างอิงคำพูดของบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ หรือบุคคลที่แถลงทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าข้อมูลข่าวที่ได้มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลงและมีความคืบหน้าตลอดเวลา ก็ควรรายงานตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิด แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป ก็อาจเขียนในลักษณะเรียบง่าย
ลีลาการเขียนข่าว (Style) มีอยู่ 3 แบบ
1 การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป (Fact Story) มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน อาจมีตัวเลข สถิติ หรือเป็นข่าวสั้น ข่าวประกอบภาพก็ได้
2 การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว (Action Story) เป็นการรายงานเหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ ความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เขียนข่าวต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง ได้รับความตื่นเต้น ดีใจ สลดใจไปกับบุคคลในข่าว ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหว พัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว
3 การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย (Quote Story) เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริงที่ได้มาจากคำพูด การแสดงความคิดเห็น การแถลง การให้สัมภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้งประกาศ หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน โดยคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
การยกคำพูดมาโดยตรง (Direct Quote) โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือเลขในกำกับ ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อผู้อ่านทราบว่าเป็นคำพูดของใคร
การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง และมีเครื่องหมายคำพูดกำกับ (Indirect Quote) แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้ โดยไม่มีการแต่งเติมใดๆทั้งสิ้น และระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน
ข้อ 8 จงกล่าวถึงหลักการเขียนความนำและเนื้อข่าว
แนวคำตอบ
หลักการเขียนความนำ มีดังนี้
1 ก่อนเขียนความนำ ต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าตัวข่าวเป็นเรื่องอะไร จากนั้นก็เน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ หรือสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ต้องตอบทุกคำถามว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร ทำไม และอย่างไร
2 เมื่อลงมือเขียนความนำ ควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้
– ประเด็นหลักหรือหัวใจของเรื่องคืออะไร
– ข้อเท็จจริงใดสำคัญที่สุด
– เกิดอะไรขึ้น มีการกระทำหรือมีคำพูดใดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักของเรื่อง
– อะไรคือความคืบหน้าล่าสุดของเรื่องดังกล่าว
– ข้อเท็จจริงที่มีผลกระทบต่อผู้อ่าน หรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อ่าน
– ข้อเท็จจริงใดที่ผิดปกติธรรมดา หาทางสร้างสีสันให้ข่าว
– เขียนแบบตรงไปตรงมา กระชับ กะทัดรัด
– เขียนรวมเป็น 1 ย่อหน้า เป็นประโยคเดียว (หรือไม่เกิน 2 ประโยค)
– เขียนประโยคสั้นและเข้าใจง่าย ไม่ต้องเน้นหลักไวยากรณ์มากนัก
– ถ้าต้องเขียนเกี่ยวกับคำพูดของบุคคล ควรระบุตัวและความสำคัญของผู้พูด
หลักการเขียนเนื้อข่าว มีดังนี้
1 ควรระบุคุณลักษณะ (Indentification) ของแหล่งข่าว คือ ตัวตน รูปพรรณสัณฐานและคุณสมบัติของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์
2 ต้องมีการอ้างแหล่งข่าวหรือที่มาของข่าวเพื่อความน่าเชื่อถือของข้อมูล ได้แก่
– บุคคลที่ให้ข้อมูลเป็นใคร ชื่อ – สกุล ยศตำแหน่ง ฯลฯ
– เป็นองค์กร / นิติบุคคล / หน่วยราชการใด
– ใช้คำกริยาประกอบการอ้างอิง เช่น กล่าวว่า แถลงว่า ให้สัมภาษณ์ว่า ฯลฯ
– อ้างถึงแหล่งข่าวทุกครั้งทุกย่อหน้า อาจอ้างในตอนต้นหรือท้ายย่อหน้าก็ได้
3 ใช้คำเชื่อม คือ ถ้อยคำ สำนวน ที่เชื่อมต่อหรือโยงข้อมูลข่าวแต่ละเรื่องให้ต่อกัน โดยควรใช้ให้ถูกเพื่อให้ภาษาที่ใช้ราบรื่น สละสลวย ได้แก่
– ขณะเดียวกัน ต่อมา ในเวลาเดียวกัน
– หลังจากนั้น ก่อนหน้านี้
– แต่ และ รวมทั้ง อย่างไรก็ตาม ดังนั้น นอกจากนั้น ตรงกันข้าม
MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552
การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2552
คำแนะนำ ข้อสอบมีทังหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ข้อ 1. ตามหลักการที่ศึกษา “ข่าว” คืออะไร และรายงานเนื้อหาประเภทไดได้บ้าง ยกตัวอย่างเนื้อหา แต่ละประเภทประกอบ ประเภทละ 2 ตัวอย่าง (ไม่ต้องเขียนข่าว) (10 คะแนน)
แนวคำตอบ
ข่าว คือ รายงานข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งความเห็น ของบุคคลซึ่งมีความสำคัญเป็นที่น่าสนใจของผู้รับสารหรือมีผลกระทบต่อสาธารณชน และต้องมีการรายงานหรือ แถลงให้ผู้คนได้รับทราบ
1. ข่าวการเมือง เช่น การจัดการเลือกตั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
2. ข่าวเศรษฐกิจ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย มูลค่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
3. ข่าวอาชญากรรม เช่น ข่าวฆาตกรรม ข่าวปล้นชิงทรัพย์
4. ข่าวการศึกษา เช่น ความเปลี่ยนแปลงในการสอบแอดมิดชั่น ความเปลี่ยนแปลง ในกระบวนการเรียนการสอน
5. ข่าวกีฬา เช่น ผลการแข่งขันของกีฬาประเภทต่าง ๆ การจัดแข่งชันฟุตบอลโลก
6. ข่าวบันเทิง เช่น ความเคลื่อนไหวในวงการบันเทิง กิจกรรมของดารานักร้อง
7. ข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น ความก้าวหน้าในวงการแพทย์ การประดิษฐ์ คิดค้นอาวุธยุทโธปกรณ์
8. ข่าวสตรี เด็ก และเยาวชน เช่น การล่วงละเมิดทางเพศ ความเคลื่อนไหวของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง
9. ข่าวท้องถิ่น เช่น การเมืองท้องถิ่น เศรษฐกิจชุมชน
10. ข่าวต่างประเทศ เช่น วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ความขัดแย้ง ระหว่างประเทศเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้
ข้อ 2. ข่าวอาชญากรรมกับข่าวการเมืองมีคุณค่าเชิงข่าวด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างประเด็นข่าวประกอบ การอธิบาย (10 คะแนน)
ถ้านักศึกษาเป็นบรรณาธิการข่าวจะให้น้ำหนักความสำคัญแก่ข่าวประเภทใดมากกว่ากัน เพราะเหตุใด อธิบายโดยใช้หลักการเกี่ยวกับการพิจารณากลั่นกรองของนายทวารข่าวสารหรือ Gate Keeper (10 คะแนน)
1. ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน เช่น การนำเสนอประเด็นข่าวปล้นชิงทรัพย์ก็อาจทำไห้ผู้อ่านระมัดระวังไม่นำของมีค่าติดตัว และหลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปในที่เปลี่ยว ๆ
2. ความเปลี่ยนแปลง คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ข่าวภัยพิบัติจากคลื่นสึนามิในภาคใต้ของไทย เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน
3. ความไม่คาดคิด คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดชื้น เช่น ข่าวการจลาจลเผาบ้านเผาเมืองในกรุงเทพฯ เป็นวิธีการที่ไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน
4. ความมีเงื่อนงำ คือ ข่าวอาชญากรรมบางข่าวยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร เช่น ข่าวฆาตกรรม ซึ่งตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้
5. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่าวอาชญากรรมทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ
6. ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ข่าวปล้นบ้าน ขโมยรถยนต์ อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกตอไป
7. ความขัดแย้ง/การเผชิญหน้า คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งทั้งทางกายและความคิด มีการเผชิญหน้าปะทะกัน เช่น ข่าวประท้วงรัฐบาลที่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
8. ความทันต่อกาลเวลา คือ ข่าวอาชญากรรมเป็นข่าวที่สดใหม่ ทันเหตุการณ์ หรือ บางข่าวก็เพิ่งเปิดเผย
ข่าวการเมืองมีคุณค่าเชิงข่าว (News Value) โดยรวม ดังนี้
1. ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ ข่าวการเมืองมีความเกี่ยวข้องกับผู้รับสารทั้งทางตรงและ ทางอ้อม เช่น ข่าวจัดการเลือกตั้งก็มีผลให้ประชาชนต้องไปใช้สิทธิทางการเมืองเพื่อเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ
2. ผลกระทบ คือ ข่าวการเมืองมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนจำนวนมาก เช่น ข่าวการที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษี ข่าวรัฐบาลกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ ฯลฯ
3. ความเปลี่ยนแปลง คือ ข่าวการเมืองเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ข่าวการประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ข่าวการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ฯลฯ
4. ความไม่คาดคิด คือ ข่าวการเมืองบางข่าวก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น เช่น ข่าวการก่อจลาจล ฯลฯ
5. ความมีเงื่อนงำ คือ ข่าวการเมืองบางข่าวก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงเช่นไร ทำให้ต้องติดตาม ต่อไป เช่น ข่าวทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองที่ยังสาวไปถึงต้นตอไม่ได้
6. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ข่าวการเมืองทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการไม่ยอมเข้าประชุมสภาของ ส.ส. ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อหน่าย
7. ความใกล้ชิด คือ ข่าวการเมืองเป็นเรื่องราวใกล้ตัว เกิดขึ้นไนสังคมไทย และยังเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วไป เช่น ข่าวนโยบายเรียนฟรีที่รัฐบาลได้ประกาศออกมาใช้
8. ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเลียง คือ ข่าวการเมืองจะเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นที่รู้จักของ ประชาชน เช่น ข่าวการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับวาระโอกาสที่สำคัญและ สถานที่ที่มีชื่อเสียง
9. ความขัดแย้ง/การแข่งขัน/การเผชิญหน้า คือ ข่าวภารเมืองเป็นเรื่องที่มีความขัดแย้ง ทั้งทางกายและทางความคิด รวมทั้งยังมีการแข่งขันและการเผชิญหน้า เช่น ข่าวการชุมนุมทางการเมือง
10. ความทันต่อเวลา คือ ข่าวการเมืองเป็นข่าวที่สดใหม่ ทันเหตุการณ์ หรือบางข่าวก็เพิ่ง เปิดเผย เช่น ข่าวการทุจริตของภาครัฐที่กระทำต่อเนื่องมานาน แต่เพิ่งมีการค้นพบ
หลักการพิจารณากลั่นกรองข่าวของนายทวารข่าวสาร (Gate Keeper)
เมื่อผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องราวต่าง ๆ มายังกองบรรณาธิการแล้ว บรรณาธิการข่าวจะทำหน้าที่ กลั่นกรองอีกชั้นหนึ่งว่าจะนำเสนอเรื่องใดบ้าง ซึ่งระหว่างข่าวอาชญากรรมกับข่าวการเมือง ควรจะให้น้ำหนัก ความสำคัญกับข่าวการเมืองมากกว่า โดยพิจารณาจากหลักการของผู้รักษาประตูหรือนายทวารข่าวสาร (Gate Keeper) มาคัดเลือกข่าว ซึ่งมือยู่ 5 ประการ คือ
1. ความน่าลนใจ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วทำให้ประชาชนสนใจใคร่รู้อยากติดตาม ทำให้ความเล็ก/ใหญ่ของแต่ละข่าวไม่เท่ากัน โดยข่าวที่น่าสนใจคือข่าวที่ผู้อ่านต้องการจะอ่านมากที่สุด ซึ่งข่าว การเมืองย่อมน่าสนใจสำหรับผู้อ่านในสถานการณ์ขณะนี้
2. ความสำคัญ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีความสำคัญต่อตัวเรา ผู้อ่าน สังคม และคนทังประเทศ ซึ่งข่าวการเมืองย่อมสำคัญต่อคนทั้งประเทศมากกว่าข่าวอาชญากรรม
3. ความชอบธรรม หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีความถูกต้องทางจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ซึ่งข่าวการเมืองสามารถรายงานได้โดยไม่ผิดกฎหมายและเป็นเรื่องที่ผู้คนสมควรรับรู้ เพราะมี ผลกระทบต่อคนจำนวนมาก
4. ความมีประโยชน์ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ซึ่งข่าวการเมือง สามารถให้ความรู้ ยกระดับสติปัญญา และรสนิยมของผู้อ่านได้
5. ความสดทันสมัย หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ใหม่ ๆ หรือพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน ซึ่งข่าวการเมืองใดมีความสดมากก็ยิ่งมีคุณค่าข่าวสูงและเป็นที่สนใจของผู้อ่านมาก
ข้อ 3. รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้มากที่สุด คือรูปแบบใด มีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องอย่างไร ยกตัวอย่างประเด็นเนื้อหาประกอบคำอธิบาย โดยไม่ต้องเขียนข่าว
แนวคำตอบ
รูปแบบการเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ (Inverted Pyramid)
การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ เป็นการรายงานข่าวในลักษณะสรุปย่อข้อเท็จจริงที่สำคัญ ๆ เป็นความนำของข่าว แล้วจึงค่อยขยายรายละเอียดของข้อเท็จจริงเหล่านั้นตามลำดับ จึงเป็นรูปแบบการเขียนข่าว ที่นิยมใช้มากที่สุด โดยมีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องออกเป็น 2 รูปแบบ
1 แบบถือความสำคัญเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปข้อเท็จจริงที่สำคัญและจำเป็น ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและความน่าสนใจลดหลั่นกันลงไปจนถึง ย่อหน้าสุดท้ายซึ่งสำคัญน้อยที่สุด เหมาะกับข่าวเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเดียว หรือเป็นเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับช้อน เช่น ข่าวรับสมัครนักศึกษาใหม่ ข่าวดาราค้ายาเสพติด ฯลฯ ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมี ลำดับเนื้อเรื่อง
ความนำ / ประเด็นสำคัญ >ข้อเท็จจริงที่ 1 >ข้อเท็จจริงที่ 2 >ข้อเท็จจริงที่ 3 >ข้อเท็จจริงที่ 4
2. แบบถือเวลาที่เกิดเหตุการณ์เป็นหลัก เริ่มต้นด้วยความนำซึ่งสรุปย่อเหตุการณ์และ ผลลัพธ์ทั้งหมด ตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าตามลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ก่อนหลัง อาจมีข้อเท็จจริงเสริมในตอนท้าย จึงเหมาะกับข่าวเหตุการณ์ระทึกใจ เหตุการณ์ที่ข้อมูลข่าวมีความ ต่อเนื่องกันตลอด และเหตุการณ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น ข่าวแข่งขันกีฬา ฟุตบอล ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมีลำดับเนื้อเรื่อง
ความนำ >เล่าเรื่องตามลำดับเวลา >ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง >ต่อเวลา >สรุปผลแท้-ชนะ >ข้อเท็จจริงเสริม
ข้อ 4. ในการรายงานข่าวไฟไหม้ห้องเก็บเอกสารในที่ทำการของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ควรใช้แหล่งข่าว อะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบอย่างน้อย 3 แหล่งข่าว
และควรนำเสนอประเด็นใดบ้างในเนื้อข่าว (5 คะแนน)
แนวคำตอบ
แหล่งข่าวที่ผู้สื่อข่าวควรใช้ในการรายงานข่าวไฟไหม้
– เจ้าหน้าที่ตำรวจ
– ศูนย์ข่าวข่ายต่าง ๆ ของตำรวจ
– มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ
– สถานีดับเพลิง นักดับเพลิง
– โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล
– ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ และผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
– พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์
– บริษัทประกันภัย (กรณีที่เจ้าของสถานที่เกิดเหตุได้ทำประกันอัคคีภัยเอาไว้)
– ห้องสมุดหนังสือพิมพ์ เพื่อหาข้อมูลย้อนหลังที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน
ฯลฯ
ประเด็นที่ควรนำเสนอในเนื้อข่าวไฟไหม้ มีดังนี้
– เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ไหน ลุกลามไปอย่างไร ความยากลำบาก ในการดับเพลิง
– สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
– รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์อย่างไร
– ความเห็นของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสาเหตุซองไฟไหม้
– คำสัมภาษณ์ของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ประสบเหตุ และผู้มีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับ พรรคการเมืองที่ถูกไฟไหม้
– ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติ ความเป็นมา สิ่งบอกเหตุก่อนหน้านี้
ข้อ 5. คุณลักษณะ (Identification) หมายถึงอะไร ในการรายงานข่าวมรณกรรมต้องกล่าวถึงคุณลักษณะ อะไรบ้าง ยกตัวอย่างประกอบโดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว (10 คะแนน)
แนวคำตอบ
คุณลักษณะ (Identification) หมายถึง ตัวตน ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณสมบัติ ของแหล่งข่าวทั้งที่เป็นบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ รวมทั้งบุคคลและสถานที่ที่มาเกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการขยายความเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบ
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่ารมรณกรรม
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ซื่อ-นามสกุล, อายุ, อาชีพหรืองานอดิเรก, ยศหรือ ตำแหน่ง, เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง รวมทั้งผลงานที่เป็นที่รู้จัก และในกรณีที่ผู้ตายเป็นญาติของบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็จะต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่เสียชีวิต ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอก ที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือในกรณีที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์อาจต้องบอก หลัก กม. ที่ บนถนนสาย… อยู่ใกล้กับสถานที่ราชการใด หรือสถานที่ที่เป็นที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ยังต้องบอก สถานที่จัดพิธีศพและพิธีสวดพระอภิธรรมว่าจัดที่วัดใด เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพกว้าง ๆ ว่าสถานที่ที่เป็นข่าว อยู่ตรงไหน และอยู่ห่างจากผู้อ่านเพียงใด
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ ได้แก่ ลำดับเหตุการณ์การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว ซึ่งในบางกรณีอาจ ต้องบอกถึงเหตุการณ์ตื่นเต้น เช่น มีอาการหัวใจวาย ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ฯลฯ หรือถ้าไม่มีอาจไม่ต้องบอก ก็ได้ เช่น เป็นอาการป่วยธรรมดา เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้าน ฯลฯ
ข้อ 6. ลีลา (Style) การเขียนข่าวมีหลายรูปแบบ หากต้องการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา ควรใช้ลีลา การเขียน (Style) แบบใด (5 คะแนน)
และควรนำเสนอประเดินใดบ้าง (5 คะแนน)
แนวคำตอบ
ลีลาการเขียน (Style) ในการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา
การรายงานข่าวการแข่งขันกีฬาข่าวหนึ่งสามารถใช้ลีลาการเขียนข่าวได้หลายแบบในข่าวเดียวกัน เพราะหากข้อมูลข่าวนั้นได้มาจากการให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวก็ต้องมีการอ้างอิงคำพูดของบุคคลที่ให้สัมภาษณ์ หรือบุคคลที่แถลงทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าข้อมูลข่าวที่ได้มาเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีความเปลี่ยนแปลง และมีความคืบหน้าตลอดเวลาก็ควรรายงานตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิด แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป ก็อาจเขียนใน ลักษณะเรียบง่าย ซึ่งลีลาการเขียนข่าว (Style) แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
1. การเขียนข่าวจากข้อเท็จจริงทั่วไป (Fact Story) มักใช้กับเรื่องที่มีเนื้อหาง่าย ๆ ไม่สลับซับช้อน อาจมีตัวเลข สถิติ หรือเป็นข่าวสั้น ข่าวประกอบภาพก็ได้
2. การเขียนข่าวจากเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว (Action Story) เป็นการรายงานเหตุการณ์ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เป็นเหตุการณ์ที่มีการกระทำ ความคืบหน้า และความเคลื่อนไหว ซึ่งผู้เขียนข่าว ต้องการรายงานให้ผู้อ่านทราบโดยละเอียดทุกขั้นตอน เหมือนกับผู้อ่านได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง ได้รับความ ตื่นเต้น ดีใจ สลดใจไปกับบุคคลในข่าว ส่วนใหญ่มักเขียนเรื่องและลำดับรายละเอียดตามลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบความเคลื่อนไหว พัฒนาการของเหตุการณ์ดังกล่าว
3. การเขียนข่าวจากคำพูดหรือคำปราศรัย (Quote Story) เป็นข้อมูลข่าวหรือข้อเท็จจริง ที่ได้มาจากคำพูด การแสดงความคิดเห็น การแถลง การให้สัมภาษณ์หรือคำปราศรัยของบุคคลสำคัญ รวมทั้ง ประกาศ หรือแถลงการณ์ที่เป็นข้อเขียน โดยจะคัดเฉพาะถ้อยคำที่สำคัญและน่าสนใจมาเขียนเท่านั้น แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1) การยกคำพูดมาโดยตรง (Direct Quote) โดยมีเครื่องหมายคำพูดหรือเลขใน กำกับ ต้องระบุแหล่งที่มาของคำพูดหรือข้อความเพื่อให้ผู้อ่านทราบวาเป็นคำพูดของใคร
2) การสรุปคำพูดหรือข้อความโดยใช้ภาษาของผู้เขียนเอง และมีเครื่องหมายคำพูด กำกับ (Indirect Quote) แต่จะต้องรักษาข้อเท็จจริงเดิมของผู้พูดเอาไว้ โดยไม่มีการแต่งเติมใด ๆ ทั้งสิ้น และ ระบุแหล่งที่มาของคำพูดเช่นเดียวกัน
ประเด็นข่าวที่ควรนาเสนอในการรายงานข่าวการแข่งขันกีฬา มีดังนี้
1. ประเด็นข่าวที่ควรนาเสนอก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน, สถิติ ที่ฝานมา, ระบบการเล่นที่ผ่านมา, สภาพความพร้อมของผู้เล่น, การวิเคราะห์วิจารณ์การเล่น, แผนการเล่น, สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น, ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชม และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น
2. ประเด็นข่าวที่ควรนำเสนอหลังการแข่งขัน ได้แก่ ใครเป็นผู้ชนะ, คะแนนเท่าใด, รายละเอียดการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ, เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม, ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้าง, ขาดใครที่ ทำให้ทีมเกิดปัญหา, จำนวนผู้เข้าชม, สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน, คะแนนรวม และการทำลายสถิติ
ข้อ 7. จากข้อมูลข่าวต่อไปนี้
ขาดโรงเรียนไปปล้น
เด็ก “ขาดเรียน” เป็นเรื่องธรรมดา ใครที่ไม่เคย “ขาด (เรียน)” เลยสักครั้งสิแปลก
ก็ชีวิตคนเราไม่ว่าวัยไหนมันก็ต้องมีธุระ มี “งานเข้า” กันบ้างล่ะ? เข้าใจใช่ปะ?
แต่ที่เราไม่เข้าใจเลยก็คือ… มีด้วยหรือ เด็กที่โดดเรียนไปปล้น
แต่เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว ที่เมืองวอร์วิค รัฐโรดไอส์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ที่ตำรวจเล่าว่า เมื่อ 2 วันก่อนตำรวจสามารถตามจับตัวเด็กนักเรียนชายวัย 17 ที่บุกเดี่ยวเข้าปล้นธนาคารโคสด์เวย์ คอมมิวนิตี้ แบงก์ได้แล้ว
ทั้งนี้ตำรวจเล่าว่า นักเรียนชายซึ่งตำรวจต้องปิดชื่อด้วยยังเป็นผู้เยาว์เดินเข้าไปที่ธนาคาร แล้วก็ยื่นกระดาษส่งให้พนักงานแบงก์มีใจความว่า ให้ส่งเงินมา หากขัดขืนเค้าจะยิงทุกคนเล้ย
แคชเชียร์ก็หยิบเงินส่งให้ไป
แต่หลังจากนั้นประมาณ 6 ชั่วโมง ไม่รู้ว่า…ทันได้ “ใช้เงิน” หรือเปล่า ตำรวจก็อาศัยภาพ ในกล้องทีวีวงจรปิดที่ธนาคารติดไว้ รวมทั้ง “ลายนิ้วมือ” บนกระดาษโน้ตตามจับตัวเด็กชายจนได้
และส่งตัวไปอยู่ที่โรงเรียนดัดสันดานเรียบร้อย
คราวนี้เจ้าหนูก็จะได้มีเวลาเรียนรู้ที่จะทำตัวใหม่ และเรียนหนังสืออย่างจริงจังสักที
เพราะขนาดแค่ในกระดาษโน้ตใบนั้นเจ้าหนูยังเขียนสะกดคำผิดอยู่หลายที่
7.1 ข่าวนี้เขียนด้วยรูปแบบใด รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะเด่นอย่างไร (5 คะแนน)
แนวคำตอบ
รูปแบบการเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวตั้ง (Upright Pyramid)
ข่าวข้างต้นเขียนด้วยรูปแบบพีระมิดหัวตั้ง ซึ่งเป็นการรายงานข่าวที่ตรงข้ามกับแบบพีระมิด หัวกลับ คือ เริ่มต้นด้วยความนำในลักษณะเกริ่นนำเรื่อง ตามด้วยเนื้อข่าวซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ค่อย ๆ เพิ่มความ สำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนย่อหน้าสุดท้ายจะสรุปเรื่องที่เป็นไคลแม็กซ์หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่อง ที่ผู้อ่านอยากรู้มากที่สุดเอาไว้ จึงมีลักษณะเด่นคือ เหมาะกับข่าวเหตุการณ์สั้น ๆ และใช้กับเรื่องแปลก ๆ ที่คาด ไม่ถึง เรื่องที่ไม่สามารถเดาตอนจบได้ โดยจะมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น เรียกว่า ข่าวสั้นขำขัน รวมทั้งยังใช้กับข่าวอาชญากรรมที่ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่าน แต่จะไม่เหมาะกับเรื่องหนัก ๆ ที่จริงจัง เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ฯลฯ ซึ่งเมื่อนำมาเขียนเป็นแผนผังจะมีลำดับเนื้อเรื่องดังนี้
เกริ่นนำ >ข้อเท็จจริงที่ทวี >ความสำคัญหรือบอก >ข่าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ >ประเด็นสำคัญที่สุด
7.2 ให้เขียนข่าวจากข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบลำดับความสำคัญ (5 คะแนน)
แนวคำตอบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองวอร์วิค รัฐโรดไอล์แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานความคืบหน้า กรณีที่มีคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าปล้นธนาคารโคสต์เวย์ คอมมิวนิตี้ว่า สามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุได้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่าเป็นเด็กนักเรียนชายอายุเพียง 17 ปี ซึ่งหยุดโรงเรียนไปก่อเหตุปล้นธนาคารเพียงคนเดียว จึงได้ควบคุมตัว ส่งสถานพินิจ เนื่องจากผู้กระทำผิดยังเป็นเด็กและเยาวชนอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า วันเกิดเหตุเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปที่ธนาคาร พร้อมกับส่งกระดาษให้พนักงานธนาคารมีข้อความว่า ให้ส่งเงินมา หากขัดขืนจะยิงทุกคน พนักงานธนาคารจึง หยิบเงินส่งให้ แต่หลังจากที่ก่อเหตุได้เพียง 6 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมตัวผู้กระหำ ผิดได้ โดยอาศัยภาพภายในกล้องทีวีวงจรปิดของธนาคาร และหลักฐานจากลายนิ้วมือบนกระดาษที่ส่งให้พนักงานธนาคาร
ข้อ 8. จากข้อมูลข่าวต่อไปนี้ จงเขียนความนำ (10 คะแนน)
และหัวข่าว (10 คะแนน)
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคาร ไทยพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 เมษายนนี้ว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้วิเคราะห์ เชิงลึกถึงปัจจัยทางโครงสร้างประชากรที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการบริโภคของคนไทย เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาส และความท้าทายสำหรับภาคธุรกิจในการตอบสนองแนวโน้มความต้องการในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะจากกลุ่ม ผู้บริโภคใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะโครงสร้างประชากรทั้งทางด้านอายุ สถานภาพสมรส ระดับรายได้ และพฤติกรรมการดำเนินชีวิต
ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า “การบริโภคของเราขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นใคร เช่น คนหนุ่มสาวในเมือง รายได้น้อยจะมีพฤติกรรมการบริโภคต่างออกไปจากครอบครัวฐานะปานกลางในชนบทที่มีบุตรอยู่ด้วย ซึ่งสถานะ ของเรานั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากความสูงวัย รายได้ที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป ความสูงวัยของประชากรเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยภายในปี 2020 ประเทศไทยจะมีประชากรสูงวัยมากกว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 17% ของประชากร นอกจากนี้ระดับรายได้ ยังเพิ่มสูงขึ้นโดยสัดส่วนของครัวเรือนที่มีรายได้ปานกลางจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของประชากรทั้งหมด พฤติกรรม ของประชากรก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน จะมีการแต่งงานช้าลง การหย่าร้างมากขึ้น และบุตรจะย้ายออกจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่และพึ่งพิงตนเองมากขึ้น”
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจฯ นำเอาแนวโน้มต่าง ๆ มาประมาณการโครงสร้างของประชากร ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยได้พิจารณาในทั้ง 5 มิติที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อายุ เพศ รายได้ พื้นที่ที่อยู่อาศัย (กรุงเทพฯ และปริมณฑล หัวเมืองในเขตภูมิภาค และชนบท) และโครงสร้างครัวเรือน (เช่น อยู่คนเดียว สมรสแต่ไมมีบุตร เป็นต้น) ซึ่งพบว่า มีครัวเรือนจำนวนมากขึ้นที่อยู่ในกลุ่มรายได้ปานกลางแต่ไม่ใช่ครัวเรือนในลักษณะดั้งเดิม อีกทั้งยังพบว่ามีผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ความต้องการอาจยังไม่ได้ถูกตอบสนองได้เต็มที่เกิดขึ้นมา เช่น สตรีที่เป็นโสด คู่สมรสที่ไม่มีบุตร และคู่สมรสที่อยู่กับบุตรหลาน จากรูปแบบการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างประชากร สามารถจัดประเภทของผู้บริโภคได้มากกว่า 4,000 แบบ
ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาดครัวเรือนแบบใหม่ ๆ ที่แม้ จะไม่ใช่กลุ่มตลาดที่ใหญ่มาก แตกเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยคาดว่าครัวเรือนแบบ “คลาสสิก” หรือครอบครัว พ่อแม่ลูก มีสัดส่วนที่ลดลงเรื่อย ๆ โดยลดลงจากประมาณ 44% ของประชากรในปี 1994 เหลือเพียง 32% ในปี 2007 และจะตกลงมาอยู่ที่ราว 21% ในปี 2020
ในทางตรงกันข้ามคนที่อยู่คนเดียวและคู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรจะเพิ่มขึ้นมาก คาดว่าในปี 2020 จะมีลัดส่วน 6% และ 14% ของประชากรตามสำดับ นอกจากนั้นครอบครัวที่ไม่ใช่ครัวเรือนเดี่ยวจะเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง แต่จะเป็นการเพิ่มขึ้นจากคู่สามีภรรยาที่อยู่แต่กับหลาน (เช่น หลานอยู่กับคุณปู่คุณย่า) และคนโสด ที่อยู่กับญาติ มากกว่าครอบครัวขยายแบบดั้งเดิม
“ยกตัวอย่าง คู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรเป็นลักษณะครัวเรือนที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมากที่สุด โดยในปี 2007 มีลัดส่วนกว่า 35% แซงหน้าครัวเรือนประเภทที่อยู่คนเดียวที่เคยมีสัดส่วนสูงสุด อีกทั้งยังเป็น ลักษณะครัวเรือนที่ย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นสูงที่สุดด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมราว 15% ต่อปี ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การตัดสินใจระหว่างเลือกสร้างบ้านเดี่ยวขายหรือคอนโดมิเนียมอาจไม่พออีกต่อไป แต่ต้องตัดสินใจต่อด้วยว่าจะสร้างประเภทไหน ถึงจะถูกใจผู้เอและขายได้ดี เช่น แทนที่จะมุ่งเน้นห้องพักประเภท Studio มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ตั้งอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า มาเป็นจัดให้มีห้องพักประเภท 1 – 2 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร อาจมีครัวย่อม ๆ มีที่จอดรถเพียงพอ” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว
แนวคำตอบ หน้า 28, 55 – 70,
หัวข่าว
ไทยพาณิชย์แนะธุรกิจเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ
ความนำ
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยปัจจัยทางโครงสร้างประชากร ทำให้ การบริโภคของคนไทยเปลี่ยนไป ชี้อนาคตกลุ่มสตรีที่เป็นโสด คู่สมรสที่ไม่มีบุตร และคู่สมรสที่อยู่กับบุตรหลาน จะมีอัตราเพิ่มมากขึ้นและกลายเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ผู้ประกอบการภาคธุรกิจควรให้ความสำคัญ
MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553
การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2553
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ข้อ 1. จงกล่าวถึงนิยามหรือความหมายของคำว่า”ข่าว”ตามหลักการที่ได้ศึกษามาอย่างน้อย 4. นิยาม พร้อมยกตัวอย่างประเด็นหรือหัวข้อข่าวที่มีลักษณะตรงกับนิยามดังกล่าว
แนวคำตอบ หน้า 1 – 2, (คำบรรยาย)
นิยามหรือความหมายของคำว่าข่าว
1. ข่าว หมายถึง เรื่องคนกัดหมา หรือเรื่องที่แปลกไปจากสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน เช่น ข่าวการจัดไปทัวร์ท่องเที่ยวนอกโลก เป็นต้น
2. ข่าว หมายถึง เรื่องที่ผู้อ่านไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
3. ข่าว หมายถึง เรื่องอะไรอย่างหนึ่งที่ประชาชนต้องพูดถึง เช่น ข่าวเรื่องเตียงหัก รักร้าว หรือคลิปฉาวของดารานักร้อง เป็นต้น
4. ข่าว หมายถึง รายงานอันสุจริตและสมบูรณ์ของเหตุการณ์ที่เป็นผลประโยชน์ และ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาธารณชน โดยมีการรายงานทางสื่อมวลชน และต้องเป็นรายงานที่สมบูรณ์ทุกแง่ทุกมุมจาก ทุกความคิดเห็นของคนที่เกี่ยวข้อง เช่น ข่าวรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท, ข่าวกระทรวง พาณิชย์อนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม เป็นต้น
5. ข่าว หมายถึง การแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้นในอันจะทำให้บุคคลได้รับความตื่นเต้น หรือเกิด อารมณ์ความรู้สึก เช่น ข่าวนักมวยไทยได้รับเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก เป็นต้น
ข้อ 2. เมื่อจัดแบ่งประเภทของข่าวตามเนื้อหาที่นำเสนอ เช่น ข่าวการเมือง อาชญากรรม บันเทิง สิ่งแวดล้อม กีฬา ฯลฯ ข่าวแต่ละประเภทมีคุณค่าเชิงข่าวแตกต่างกัน ถ้านักศึกษาเป็นบรรณาธิการข่าวของ สื่อมวลชนแขนงหนึ่ง ระหว่างข่าวทหารสหรัฐฯ สังหารนายบิน ลาเด็น ผู้นำอัลไคด้า กับข่าวเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาบริเวณชายแดน นักศึกษาจะให้น้ำหนักความสำคัญ แก่ข่าวใดมากกว่ากัน เพราะเหตุใด จงวิเคราะห์และอธิบายโดยใช้หลักการด้านคุณค่าเชิงข่าว (News Value)
แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)
ข่าวทหารสหรัฐฯ สังหารนายบิน ลาเด็น ผู้นำอัลไคด้า มีน้ำหนักความสำคัญมากกว่า เนื่องจาก เป็นเหตุการณ์ที่มีความเด่นเหนือกว่าเหตุการณ์อื่น ๆ โดยพิจารณาจากหลักการด้านคุณค่าเชิงข่าว (News Value) ดังนี้
1. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ดีใจ เป็นต้น
2. ผลกระทบ คือ มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน อาจทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้คนดีขึ้นหรือเลวลง
3. ความเปลี่ยนแปลง/ความก้าวหน้า คือ มีความเปลี่ยนแปลงไม่เป็นปกติอย่างที่เคยเป็น และยังเป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีทางการทหาร
4. ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ มีความเกี่ยวข้องกับความมีชื่อเสียงของตัวบุคคล ได้แก่ นายบิน ลาเด็น ผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นใน ตัวเหตุการณ์
5. ความไม่คาดคิด/มีเงื่อนงำ คือ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น และยังเป็นเหตุการณ์ ที่มีเงื่อนงำว่านายบิน ลาเด็น ตายจริงหรือไม่ และก่อให้ผู้อ่านเกิดความฉงนสนเท่ห์ ทำให้ต้องติดตามข่าวเพื่อยืนยันความจริงต่อไป
6. ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ ทันต่อเหตุการณ์ หรือเพิ่งได้รับการเปิดเผย
ข้อ 3. ตามหลักการที่ศึกษามา (10 คะแนน)
3.1 รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้ในหนังสือพิมพ์มีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างมา 2 รูปแบบ พร้อมทั้งอธิบายว่าแต่ละรูปแบบมีวิธีการพิจารณาจัดลำดับเนื้อเรื่องอย่างไร
แนวคำตอบ หน้า 38, 48, (คำบรรยาย)
รูปแบบการเขียนข่าวที่นิยมใช้ในหนังสือพิมพ์
1. การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวกลับ (Inverted Pyramid) ชนิดถือความสำคัญเป็นหลัก คือ การรายงานข่าวในลักษณะสรุปย่อข้อเท็จจริงสำคัญ ๆ เป็นความนำของข่าวไปก่อน แล้วจึงตามด้วยเนื้อข่าว ที่เป็นรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่มีความสำคัญและน่าสนใจลดหลั่นกันลงไป เริ่มจากรายละเอียดที่สำคัญมากที่สุด ในย่อหน้าแรก ไปจนถึงย่อหน้าสุดท้ายที่เป็นรายละเอียดสำคัญน้อยที่สุด
ความนำ / ประเด็นสำคัญ >ข้อเท็จจริงที่ 1 >ข้อเท็จจริงที่ 2 >ข้อเท็จจริงที่ 3 >ข้อเท็จจริงที่ 4
2. การเขียนข่าวแบบพีระมิดหัวดัง (Upright Pyramid) คือ การรายงานข่าว ที่มักใช้ กับเหตุการณ์สั้น ๆ และมีลีลาการเขียนให้อ่านสนุกคล้ายเรื่องสั้น ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกขบขัน โดยย่อหน้าแรก จะเป็นความน้าหรือเกริ่นนำซึ่งเป็นส่วนเริ่มเรื่อง แล้วจึงตามด้วยเนื้อข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงที่ค่อยๆ เพิ่มความสำคัญ มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนย่อหน้าสุดท้ายจะเป็นส่วนสรุปเรื่องที่เป็นไคลแมกซ์ (Climax) หรือประเด็นสำคัญที่สุดของเรือง ซึ่งมักเสนอไวในตอนจบของเนื้อข่าว
ความนำหรือเกริ่นนำ >ข้อเท็จจริงที่ทวี >ความสำคัญหรือบอกข่าว >เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ>ประเด็นสำคัญที่สุด
3.2 ยกตัวอย่างหัวข้อข่าวที่เหมาะสมกับการรายงานข่าวแบบตามลำดับเวลา 1 ข่าว และยกตัวอย่าง ประเด็นข่าวที่ควรรายงานในข่าวดังกล่าว โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว
แนวคำตอบ หน้า 40 – 47
หัวข้อข่าวที่เหมาะสมกับการรายงานข่าวแบบตามลำดับเวลา คือ ข่าวการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ซึ่งมีประเด็นข่าวที่ควรรายงานดังนี้
1. ใครเป็นผู้ชนะ คะแนนเท่าใด ผลการแข่งขันทำให้สามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่
2. รายละเอียดการแข่งขันตั้งแต่ครึ่งแรก ครึ่งหลัง จนกระทั่งต่อเวลา
3. เปรียบเทียบการเลนของแต่ละทีม
4. ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้าง ขาดใครที่ทำให้ทีมเกิดปัญหา
5. จำนวนผู้ชมมีมากน้อยเพียงใด
6. สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน
7. คะแนนรวม และการทำลายสถิติ
8. ความคิดเห็นของผู้จัดการทีม และความรู้สึกของผู้เล่น ผู้ชมการแข่งขัน เช่น สาเหตุที่ ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น หรือการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น ฯลฯ
ข้อ 4. ในการรายงานข่าวการรณรงค์เลือกตั้งของพรรคการเมือง ควรใช้แหล่งข่าวอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง ประกอบอย่างน้อย 5 ตัวอย่าง แต่ละแหล่งข่าวควรสัมภาษณ์ในประเด็นใด (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 15-17, (คำบรรยาย)
แหล่งข่าวที่ใช้ในการรายงานข่าวการรณรงค์เลือกตั้งของพรรคการเมือง มีดังนี้
1. หัวหน้าพรรคการเมืองแค่ละพรรค ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องนโยบายในการหาเสียงของแค่ละพรรค การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ การลงพื้นที่หาเสียง การปราศรัยครั้งใหญ่ ฯลฯ
2. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องความพร้อมในการ จัดการเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด การเตรียมการป้องกันการโกงการเลือกตั้ง กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง การจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ฯลฯ
3. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆ คดีที่เกิดขึ้นจากการหาเสียงเลือกตั้ง การวางตัวเป็นกลาง ของข้าราชการ ฯลฯ
4. หน่วยงานที่จัดทำโพลต่าง ๆ ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องการหยั่งเสียงการเลือกตั้ง ความนิยมของประชาชนในพรรคการเมืองต่าง ๆ พรรคใดจะชนะการเลือกตั้ง นโยบายใดเป็นที่พึงพอใจของ ประชาชน ฯลฯ
5. ประชาชนทั่วไป ควรสัมภาษณ์ในประเด็นเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับการปราศรัยหาเสียง ของพรรคการเมืองค่าง ๆ นโยบายที่ชื่นชอบ การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ฯลฯ
ข้อ 5. ในการรายงานข่าวการเมือง – การปราศรัยหาเสียงครั้งใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย กับข่าวบันเทิง – ผู้จัดละครและผู้แสดงนำในละครโทรทัศน์ “ดอกส้มสีทอง” ระบุว่า ละครดังกล่าว มีข้อคิดสอนใจ ไม่ตั้งใจท้าทายสังคม
ต้องระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในข่าว (Identification) ยกตัวอย่างคุณลักษณะที่ต้องใช้ในแต่ละข่าว โดยไม่ต้องเขียนเนื้อข่าว (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวการเมืองข้างต้น
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้สมัครแค่ละพรรค, ชื่อเล่น/ฉายา/ การตั้งชื่อให้ใหม่, อาชีพ, ยศหรือตำแหน่ง, เกียรติภูมิหรือชื่อเสียง และในกรณีที่ผู้สมัครเป็นญาติของบุคคลที่มีชื่อเสียง ก็จะต้องอ้างถึงญาติหรือคนใกล้ชิดที่เป็นคนดังอีกด้วย
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่จัดการปราศรัยหาเสียงครั้งใหญ่ของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง ซอย ถนน จังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนการปราศรัยหาเสียงของทั้ง 2 พรรคการเมือง บรรยากาศเป็นอย่างไร จากนั้นการปราศรัยดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้น หลังการปราศรัยจบลงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวบันเทิงข้างต้น มีดังนี้
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้จัดละครและผู้แสดงนำ, ชื่อเล่น/ฉายา/ การตั้งชื่อให้ใหม่ ที่อยู่ (สังกัดช่องใด). อาชีพ และตำแหน่งหน้าที่การงานของบุคคลที่ตกเป็นข่าว
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าว ซึ่งต้องระบุ คุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง ซอย ถนน จังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็น ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ความเป็นมา วัตถุประสงค์ และเบื้องหลังที่ทำให้ ผู้จัดละครและผู้แสดงนำในละครเรื่องนี้ต้องออกมาชี้แจงกับสังคม จากนั้นลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นชี้แจง เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นจบลงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง
ข้อ 6. จงเขียนประเด็นสำคัญที่ควรรายงานในการเขียนข่าวประเภทที่ระบุต่อไปนี้
6.1 ข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 147 – 149, (คำบรรยาย)
การรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกันควรนำเสนอประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ความนำ
– เกิดอะไรขึ้น ที่ไหน
– ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
– สาเหตุของอุบัติเหตุเท่าที่จะทราบได้
2. เนื้อข่าว
– ลำดับเหตุการณ์ เวลาที่เกิดเหตุ
– บรรยายเหตุการณ์ให้ผู้อ่านมองเห็นภาพ
– สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และอื่น ๆ
– ความเห็นของเจ้าหน้าที่หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
– คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ
– ข้อมูลเสริม เช่น ประวัติ ความเป็นมาของบุคคล พาหนะ สถานที่เกิดเหตุ
6.2 ข่าวมรณกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 131, (คำบรรยาย)
การรายงานข่าวมรณกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีควรนำเสนอประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ความนำ
– ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ หรือตำแหน่งสูงสุดของผู้ตาย ความโดดเด่นของผู้ตาย
– สาเหตุการเสียชีวิต วันที่ เวลา สถานที่ที่เสียชีวิต
2. เนื้อข่าว
– เหตุการณ์ก่อนที่จะเสียชีวิต เหตุการณ์ตื่นเต้น การรักษาอาการป่วย
– อ้างคำพูดของผู้ใกล้ชิด ผู้เห็นเหตุการณ์
– รายละเอียดเกี่ยวกับการงาน ตำแหน่งทางสังคม
– บุตรธิดา หรือญาติพี่น้องที่มีชื่อเสียง
– รายละเอียดเกี่ยวกับพิธีศพ และพิธีสวดอภิธรรมจัดที่ใด ใช้เวลากี่วัน ผู้ใดเป็น เจ้าภาพสวดอภิธรรม กำหนดการบรรจุศพ กำหนดการฌาปนกิจ
ข้อ 7. จากข้อมูลต่อไปนี้ จงเขียนหัวข่าวและความนำ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผกก.1 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมก๊วนไฮโซ ประกอบด้วย นายโชติวรรธน์ กลิ่นเกลี้ยง หลานของนายดามพ์ ดัสกร อดีตดาราชื่อดัง นายบดินทร์ภัทร์ กลิ่นเกลี้ยง และ จ.ส.อ.สมพงษ์ กลิ่นเกลี้ยง ทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตราย สิ่งกีดกั้น เพื่อคุ้มครองทรัพย์สินนั้นด้วยประการใด หรือรับของโจร พร้อมของกลาง เงินสด 560,000 บาท พระเลี่ยมทอง กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กช์ กระเป๋าใส่นามบัตร และทรัพย์สินอื่น ๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท พร้อมยึด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 174 ถนนลาดพร้าว ซอย 81 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตลาดพร้าว กทม.
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า สืบเนื่องจากหน่วยป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน (หน่วยโรบินฮู้ด) บก.ป. ได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่ออกตระเวนทุบรถยนต์ของ ผู้เสียหายที่จอดไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อโจรกรรมทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถ ซึ่งก่อเหตุในหลายพื้นที่ และหลายครั้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต่อมาสืบทราบว่านายโชติวรรธน์ เป็นหัวหน้าทีม จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับ และสามารถติดตาม จับกุมตัวไว้ได้ที่บ้านพัก และพบทรัพย์สินของกลางอีกจำนวนมาก จากการสอบสวนนายโชติวรรธน์ และนายบดินทร์ภัทร์ ให้การภาคเสธโดยอ้างว่า รับซื้อทรัพย์สิน ของกลางมาอีกทอดหนึ่ง สำหรับ จ.ส.อ.สมพงษ์ พี่ชายแท้ ๆ ของนายดามพ์ ดัสกร ดาราชื่อดัง ซึ่งเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะนำรายการทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดไว้ได้โพสต์ ในเว็บไซต์ www.csd.go.th เพื่อให้ผู้เสียหายได้ตรวจสอบ หากพบว่าเป็นของตนเองและ มีหลักฐานยืนยันก็สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้ที่ บก.ป. ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่ง สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป
แนวคำตอบ หน้า 63 – 80, (คำบรรยาย)
หัวข่าว
รวบหลานดามพ์ ดัสกร แก๊งไฮโซทุบรถ ยึดของกลางนับ 10 ล้าน ความนำ
ตำรวจหน่วยโรบินฮู้ด กองปราบปรามเจ๋ง จับกุมหลานชาย “ดามพ์ ดัสกร’’ ดาราดาวร้ายชื่อดัง พร้อมพวกก๊วนไฮโซรวม 3 คน ก่อเหตุใช้รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ BMW ซีรีย์ 3 ตระเวนทุบรถชิงทรัพย์เหยื่อ ยึดของกลางนับ 10 ล้าน แต่ผู้ต้องหายังปากแข็งให้การปฏิเสธ อ้างรับซื้อของกลางมาอีกทอดหนึ่ง
ข้อ 8. จากข้อมูลต่อไปนี้
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวผูกคอตายโชว์ผ่านโปรแกรม “แคมฟร็อก” ภายในเอสเอ็น แมนชั่น ถนนพหลโยธิน ซอย 69 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน แพทย์เวร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนชั้น 2 จากการตรวจสอบภายไนห้องเลขที่ 203 พบศพนางสาวนิชากร ศรีสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 3 ต.แม่เป็น อ.แม่เป็น จ.นครสวรรค์ สภาพศพเสียชีวิตในท่ายืน ใช้ผ้าปูที่นอนสีฟ้าผูกคอตัวเองกับพัดลมเพดาน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล หน้าเขียว ลิ้นจุกปาก ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย นอกจากนี้บริเวณด้านข้างศพยังพบคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่องเปิดทิ้งไว้ โดยหน้าจอเป็นโปรแกรมแคมฟร็อก ห้องโกสเรดิโอ และมีการพูดคุย สนทนากันกับผู้ชาย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตาย เนื่องจากข้อความมีเนื้อหาตัดพ้อ เรื่องความรัก ส่วนกล้องเว็บแคมที่ติดอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ถูกหันไปที่กระจก เพื่อให้เห็น การฆ่าตัวตาย ทำให้มีคนเข้ามาดูเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์ยังพบว่ามีจานข้าว ที่ยังไม่ได้รับประทานอีก 1 จาน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ อย่างละเอียด
จากการสอบถามแม่บ้านของแมนชั่นดังกส่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้ชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล โทรศัพท์มาบอกว่ามีผู้หญิงที่พักอยู่ห้อง 203 กำลังจะผูกคอตาย จึงรีบขึ้นไปเคาะประตูเรียก แต่ ปรากฏว่าประตูห้องล็อก จึงไปตามคนที่รู้จักกับผู้ตายมาช่วยเกลี้ยกล่อม และรีบงัดห้องเข้าไป ตรวจสอบ แต่เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ต่อมานายธีรวัฒน์ จีรภาพเจริญ อายุ 25 ปี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับเปิดเผยว่า ตนเป็นแฟน ของผู้ตาย โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับผู้ตายผ่านทางโปรแกรมแคมฟร็อก และคบหากันได้ 1 เดือน ระหว่างที่คบกันตนสังเกตเห็นว่าผู้ตายเป็นคนที่ค่อนข้างมีความเครียดและใจร้อน อีกทั้งยังพูด ให้ฟังว่าแฟนเก่ากลับมาขอคืนดี ทำให้ตนกับผู้ตายทะเลาะกัน จนกระทั่งวันนี้ขณะที่ตนอยู่ที่บ้าน ได้พูดคุยกับแฟนสาวทางแคมฟร็อกและมีปากเสียงกันอีก จึงเอ่ยปากบอกเลิกกับผู้ตาย ซึ่งผู้ตาย ได้ตอบกลับมาว่าทุกวันนี้ที่มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะมีตน แต่ถ้าไม่มีแล้วก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม จากนั้น แฟนสาวก็พยายามจะผูกคอตายให้เห็นผ่านทางห้องสนทนาดังกล่าว ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกที่ อพาร์ทเม้นท์ให้รีบขึ้นไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
8.1 หากต้องการอธิบายขยายความเพิ่มเติมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อ่านในลักษณะของภูมิหลัง หรือส่วนเชื่อม ควรเสนอประเด็นอะไร
แนวคำตอบ หน้า 83 – 91
ลักษณะของภูมิหลังหรือส่วนเชื่อมในข่าวข้างต้นควรเสนอประเด็นต่อไปนี้
1. วัน เวลา ที่เกิดเหตุการณ์
2. ชื่อสถานที่เกิดเหตุ ที่อยู่ ลักษณะสภาพห้องพัก
3. ชื่อ-นามสกุลผู้เสียชีวิต อายุ อาชีพ ที่อยู่
4. ชื่อ-นามสกุลแหล่งข่าวหรือเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเหตุ อาชีพ ยศหรือตำแหน่ง
5. รายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมแคมฟร็อก วิธีใช้งาน
ฯลฯ
8.2 ควรมีแหล่งข่าวใดเสริมอีกบ้างหรือไม่ ถ้ามีจะเสริมในประเด็นใด
แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, (คำบรรยาย)
แหล่งข่าวเสริมเพิ่มเติมจากข้อมูลข่าวข้างต้น มีดังนี้
1. ครอบครัว ญาติพี่น้อง แฟนเก่าของผู้เสียชีวิต ควรเสริมในประเด็นนิสัยส่วนตัวของ เสียชีวิตเป็นอย่างไร มีประวัติการบำบัดโรคทางจิตหรือไม่
2. เพื่อนผู้ใกล้ชิด ควรเสริมในประเด็นพฤติกรรมในช่วงก่อนเกิดเหตุของผู้เสียชีวิตเป็น อย่างไร มีความเครียด หรือเคยมีแนวโน้มว่าจะก่อเหตุหรือไม่
3. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดี ควรเสริมในประเด็นความคิดเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของ
การฆ่าตัวตาย
4. สถาบันนิติเวช ควรเสริมในประเด็นเรื่องผลการชันสูตรศพ สาเหตุการตายที่แน่นอน
MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554
การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลสมมติต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว ความนำ และเนอข่าว) (20 คะแนน)
สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ในการดำเนินการสำรวจความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต และการสำรวจ ความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของนิสิตนักศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้กำหนดให้มีการสำรวจความพึงพอใจ 2 ส่วน
1. การสำรวจความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต โดยสัมภาษณ์ผู้ใช้บัณฑิต ได้แก่ นายจ้าง/หัวหน้า/ผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต
2. การสำรวจความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของนักศึกษาโดยการสัมภาษณ์นิสิตนักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ทั้งนี้การเก็บรวบรวมข้อมูลดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 20 กันยายน 2554
สรุปประเด็นสำคัญในส่วนของมหาวิทยาลัยนานา
1. ความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต คะแนนที่ได้จากการสำรวจอยู่ที่ 4.3491 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละของคะแนน 86.98 โดยผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจในประเด็นคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ความรู้ความสามารถ ทางวิชาการ และความรู้ความสามารถพื้นฐานตามลำดับ
2. ความพึงพอใจต่อมหาวิทยาลัยนานาของนักศึกษา คะแนนที่ได้จากการสำรวจอยู่ที่ 4.1877 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละของคะแนน 83.95 โดยนักศึกษามีความพึงพอใจ ในประเด็นด้านการจัดการเรียนการสอนสูงกว่าประเด็นด้านการให้บริการของสถาบัน โดยมีรายละเอียดในแต่ละประเด็นหลัก
2.1 ด้านการจัดการเรียนการสอน นักศึกษามีความพึงพอใจในสถานที่สำหรับการจัด การเรียนการสอนสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ อาจารย์ผู้สอน การจัดหลักสูตร การเรียนการสอน และสื่อ/เอกสาร และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนตามสำดับ
2.2 ด้านการให้บริการของมหาวิทยาลัย นักศึกษามีความพึงพอใจในการให้บริการทั่วไป สูงกว่าการให้บริการด้านวิชาการ
แนวคำตอบ หน้า 29-31
หัวข่าว
ม. นานา ได้ใจนายจ้าง ชี้ผลิตบัณฑิตมีคุณธรรม
ความนำ
ผลการสำรวจพบ มหาวิทยาลัยนานาได้รับความนิยมจากนายจ้างด้านการผลิตบัณฑิตมีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด ส่วนนักศึกษาโดนใจด้านการจัดการเรียนการสอนมากกว่าการให้บริการของสถาบัน
เนื้อข่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ร่วมกัน ดำเนินการสำรวจเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต และความพึงพอใจต่อสถาบันอุดมศึกษาของ นิสิตนักศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้บัณฑิต ได้แก่ นายจ้าง หัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต และนิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 20 กันยายน พ.ศ. 2554
ผลการสำรวจในส่วนของมหาวิทยาลัยนานาพบว่า ด้านความพึงพอใจต่อบัณฑิตของผู้ใช้บัณฑิต ผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจ 4.35 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 86.98 ในประเด็นคุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณในวิชาชีพสูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ ความรู้ความสามารถทางวิชาการ และความรู้ความสามารถพื้นฐาน ตามลำดับ
ในด้านความพึงพอใจต่อมหาวิทยาลัยนานาของนักศึกษาพบว่า นักศึกษามีความพึงพอใจ 4.19 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 83.95 ในประเด็นด้านการจัดการเรียนการสอนสูงกว่าประเด็นด้านการให้บริการ ของสถาบัน กล่าวคือ ด้านการจัดการเรียนการสอน นักศึกษามีความพึงพอใจในสถานที่สำหรับการจัดการเรียนการสอน สูงที่สุด รองลงมา ได้แก่ อาจารย์ผู้สอน การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน และสื่อ เอกสาร รวมทั้งอุปกรณ์ ประกอบการเรียนการสอนตามลำดับ ส่วนด้านการให้บริการของมหาวิทยาลัย นักศึกษามีความพึงพอใจในการ ให้บริการทั่วไปสูงกว่าการให้บริการด้านวิชาการ
ข้อ 2. จากข่าวต่อไปนี้ จงเขียนหัวข่าว (10 คะแนน)
ศูนย์ประชามติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดำเนินการสำรวจ “รามคำแหงโพล” เกี่ยวกับผลงาน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และการแต่งตั้ง ครม. ยิ่งลักษณ์ 2 เก็บข้อมูลจากประชาชน จำนวน 11,595 คน ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และกรุงเทพมหานครฯ ระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2555
ผลการสำรวจพบว่า ด้านความพอใจในการบริหารงานของนายกยิ่งลักษณ์ 1 ในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา ประชาชนพอใจร้อยละ 45.00 ไม่พอใจร้อยละ 15.63 ประเด็นที่ไม่พอใจคือ มีความเห็นว่า สร้างความแตกแยกด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญร้อยละ 26.55 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่มีภาวะผู้นำ ร้อยละ 25.91 มีการก่อหนี้สินให้ประเทศชาติโดยไม่จำเป็นร้อยละ 15.32 ก้าวก่ายงานข้าราชการประจำ ร้อยละ 11.77 อย่างไรก็ตามมีประชาชนที่เห็นว่านายกยิ่งลักษณ์มีความเป็นเลิศในการบริหารงาน แผ่นดินร้อยละ 20.45
ในด้านความพอใจต่อการแต่งตั้ง ครม. ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ 2 พบว่า ประชาชนพอใจ ร้อยละ 42.00 ไม่พอใจร้อยละ 20.23 ทั้งนี้ประชาชนเห็นว่าการแต่งตั้ง ครม. มีความเหมาะสม ร้อยละ 35.92 ไม่มีความเหมาะสมร้อยละ 25.06 นอกจากนั้นยังมีความเห็นว่าการแต่งตั้ง ครม. ครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 22.32 แต่งตั้งเพื่อตอบแทนบุญคุณให้ สมาชิกพรรคร้อยละ 16.70
แนวคำตอบ หน้า 29, 32 – 33 หัวข่าว
โพลชี้ผลงานปู 1 และ ครม. ปู 2 คนพอใจให้สอบผ่าน
ข้อ3. เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ฝนตกหนัก จะได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)
เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News
Values) ดังนี้
1. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ จนกระทั่งบ้านเรือนเสียหาย หรืออาจบาดเจ็บล้มตาย
2. ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้รับสารทั้งทางตรง และทางอ้อม ส่งผลให้ผู้รับสารที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้รับความเดือดร้อนจากการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือทรัพย์สินเสียหายจากลมพายุ นอกจากนี้ยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่านให้สร้างบ้านเรือนที่มั่นคงแข็งแรง
3. ผลกระทบ คือ เป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของ ผู้คนจำนวนมาก และยังเป็นผลกระทบในเชิงลบโดยตรงต่อผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
4. ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเป็นสิ่งไม่ปกติธรรมดา ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน
5. ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย และยังอาจเกี่ยวข้องกับ ตัวผู้รับสารเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
6. ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติภัยในเขตเมืองหลวง จึงมี ความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์
7. ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
ข้อ 4. “ข่าวการเมือง” ครอบคลุมเนื้อหาด้านใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าวและแหล่งข่าวประกอบ(10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 159 – 162
ข่าวการเมืองครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา
1. การจัดการเลือกตั้ง การจัดตั้งพรรคการเมือง นโยบายของแต่ละพรรค และการรณรงค์ หาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ
2. การเจรจาต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล การเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี โครงสร้างของคณะรัฐมนตรี และการวางตัวบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง
3. การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา การปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล
4. กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การบังคับใช้กฎหมาย
5. การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ และองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรี การปรับคณะรัฐมนตรี ฯลฯ
6. บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา
7. ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐสภา
8. การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.บ. ที่มีปัญหา
9. การฟ้องร้องของประชาชนต่อศาลปกครอง รวมทั้งการวินิจฉัยต่าง ๆ
10. การปฏิบัติงานขององค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ
11. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่างข่าวการเมืองและแหล่งข่าวประกอบ
ข่าวการตรวจสอบการถือครองหุ้นของรัฐมนตรีเกินกว่ากำหนด ซึ่งใช้แหล่งข่าวประกอบ ดังนี้
– คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบแห่งชาติ (ปปช.)
– รัฐมนตรีที่เข้าข่ายความผิดถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5
– นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543
– สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต้องแจ้งเรื่องคุณสมบัติของ รัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่ง
– บริษัทเอกชนที่รัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5%
– บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี
– รัฐมนตรีและบุคคลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งให้ความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องจริยธรรม ของรัฐมนตรี
ข้อ5 การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง และใช้แหลงข่าวใดบ้าง (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 184 – 186
การรายงานข่าวกีฬาควรรายงานเนื้อหา
1. การเสนอข่าวก่อนการแข่งขัน ได้แก่ ความสำคัญของการแข่งขัน ผลงานสถิติการแข่งขัน ที่ผ่านมา ระบบการเล่นที่ผ่านมาของแต่ละทีม สภาพความพร้อมของผู้เล่น วิเคราะห์วิจารณ์การเล่นที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แผนการเล่นของแต่ละทีม สภาพอากาศที่จะมีผลกระทบต่อการเล่น สภาพแวดล้อมด้านอื่น ๆ (เช่น ผู้ชม กองเชียร์) ความคิดเห็นของผู้ชมและผู้เชี่ยวชาญ และผลการแข่งขันที่คาดว่าจะเป็น
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังอาจเพิ่มเติมประเด็นสำคัญในด้านอื่น ๆ เช่น แต่ละทีมมีการปรับปรุง แผนการเล่นอย่างไร ถ้าทีมแพ้จะเกิดผลอย่างไร มีการเตรียมทีมอย่างไร และประสบปัญหาด้านใดหรือไม่ เป็นต้น
2. การเสนอข่าวหลังการแข่งขัน ได้แก่ ผลการแข่งข้นใครเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนเท่าไหร่ ผลการแข่งข้นทำให้ทีมนั้นสามารถครองแชมป์ต่อไปได้หรือไม่ หรือทีมใดจะเป็นผู้ก้าวเข้ามารับตำแหน่งแชมป์แทน รายงานรายละเอียดของการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ เปรียบเทียบการเล่นของแต่ละทีม ผู้เล่นดีเด่นมีใครบ้างและ ขาดใครที่จะทำให้ทีมเกิดปัญหา ผู้เข้าชมการแข่งขันมีมากน้อยเพียงใด สภาพอากาศระหว่างการแข่งขัน และ คะแนนรวมสถิติต่าง ๆ หรือการทำลายสถิติ
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสามารถใช้การสัมภาษณ์ผู้เล่น ผู้จัดการทีมทั้งทีมแพ้และทีมชนะ เช่น สาเหตุที่ผลการแข่งขันเป็นเช่นนั้น และการเตรียมตัวกับการแข่งขันในรอบต่อไป เป็นต้น
แหล่งข่าวของข่าวกีฬา
– การกีฬาแห่งประเทศไทย
– กระทรวงศึกษาธิการ
– คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
– สมาคมกีฬาสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ซึ่งมี 25 สมาคม
– กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีสำนักกีฬาทหารของกองทัพทั้ง 4 เหล่าทัพ
– กรุงเทพมหานครและเทศบาลของจังหวัดต่าง ๆ
– หน่วยงานภาคเอกชน เช่น บริษัท ฟุตบอลไทย จำกัด, บริษัท แกรนด์สปอร์ต จำกัด
เป็นต้น
– สโมสรกีฬาต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน
– สมาคมวิชาชีพทางพลศึกษาและวิทยาศาสตร์การกีฬา
– นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีม
ข้อ 6. การรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน กับข่าวดารานักร้องชื่อดังเสพยา จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าว เหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวอุบัติเหตุรถชนกัน มีดังนี้
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์, อายุของผู้ตายและผู้บาดเจ็บ, อาชีพหรืองานอดิเรก ยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ และ ที่อยู่หรือที่ทำงานของผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะ โดยการบอกจุดเกิดเหตุ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือหากอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ต่างจังหวัดก็ควรบอก หลัก กม. ที่เท่าไหร่ บนถนนสายอะไร และหากจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดี ก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ของการเกิดอุบัติเหตุรถชนกันตั้งแต่ ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้ตายและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์หรือ ผู้บาดเจ็บ และข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวดารานักร้องชื่อดังเสพยา มีดังนี้
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของดารานักร้องที่เสพยา และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์, ชื่อเล่น หรือชื่อที่ใช้ในวงการบันเทิง, อายุของดารานักร้อง, อาชีพ, ที่อยู่, เกียรติภูมิหรือผลงานที่ สร้างชื่อเสียง. ยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เป็นต้น
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่ดารานักร้องชื่อดังเสพยา หรือสถานที่ที่ถูกตำรวจ จับกุมตัวได้ ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ของข่าวตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่ เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีจำนวน ผู้เสพยาที่ตำรวจจับกุมตัวได้กี่คน คำพูดของดารานักร้องที่เสพยาหรือผู้เห็นเหตุการณ์ ความรับผิดชอบต่อสังคม ของต้นสังกัดของดารานักร้องผู้นั้น และความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับหลักฐาน การให้ประกันตัว เป็นต้น
ข้อ 7. โครงสร้างการเขียนข่าวประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ละส่วนมีความสำคัญอย่างไร อธิบายพอเข้าใจ (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 29, 63, 83, 91, (คำบรรยาย)
โครงสร้างของการเขียนข่าวทั่วไปประกอบด้วยส่วนสำคัญ
1. หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้ทราบถึงสาระสำคัญของข่าว และช่วยดึงดูดสายตาหรือสร้างความสนใจ ให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่จะบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าว ที่น่าสนใจอะไรบ้าง โดยมักใช้ตัวอักษรตัวใหญ่และหนากว่าส่วนประกอบอื่น
2. ความนำหรือวรรคนำ (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย โดยความนำจะทำหน้าที่สรุปสาระของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียง มองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงเป็นการช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้โดยย่อ
3. ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ โดยส่วนเชื่อมจะทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย
4. เนื้อข่าว (Body or Details) คือ ส่วนที่เป็นข้อมูลทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เป็นข่าว ทำหน้าที่เป็นส่วนขยายหรือให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่ข้อมูลข่าวที่กล่าวถึงไปแล้วในความนำ รวมทั้งเพิ่มข้อมูลข่าว ที่ไม่ได้กล่าวถึงเลยในความนำ ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากมีความสำคัญไม่มากนักเมื่อเทียบกับข้อมูลข่าวอื่น ๆ ที่เสนอไว้ ในความนำ
ข้อ 8. สมมติเกิดเหตุระเบิดท่ามกลางงานคอนเสิร์ตซึ่งจัดขึ้นในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยมี ดารานักร้องชื่อดัง และบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในงานด้วย ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงาน ประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว และควร มีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อข่าวดังกล่าว (20 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 15- 17, 118 – 122, 148 – 149
ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว มีดังนี้
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ บรรยากาศในงานคอนเสิร์ตเป็นอย่างไร มีดารานักร้องชื่อดังและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมงานกี่คน เป็นใครบ้าง ผู้จัดงานเป็นใครและมีผู้มาชมงานประมาณกี่คน
– เหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นในช่วงไหนของคอนเสิร์ต ความโกลาหลและการหนีเอาตัวรอด ของผู้คน และการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่
– สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และการช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บของเจ้าหน้าที่
– รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีดารานักร้อง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อย่างไร
– ความเห็นหรือข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดระเบิด การพบ พยานวัตถุและหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ
– คำสัมภาษณ์ของผู้เห็นเหตุการณ์ ดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งรอดชีวิต จากเหตุการณ์
– ข้อมูลเสริม เช่น ภูมิหลังที่ทำให้ทราบว่าเคยมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าหรือไม่ก่อนเกิด เหตุการณ์ระเบิดขึ้น
แหล่งข่าวที่ใช้ประกอบการรายงานข่าวดังกล่าว มีดังนี้
– เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด
– เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ
– โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล
– ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์
– พยานที่รู้เห็นเบาะแสของเหตุการณ์
– ผู้จัดงาน หรือผู้รับผิดชอบในการจัดงานคอนเสิร์ต
– ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ครูอาจารย์
– ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต
– บริษัทประกันวินาศภัย
คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนอข่าวดังกล่าว มีดังนี้
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ ดารานักร้อง บุคคลที่ มีชื่อเสียง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์, ชื่อเล่น หรือชื่อที่ใช้ในวงการของดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง, อายุของผู้ตายและผู้บาดเจ็บ, อาชีพหรืองานอดิเรก, ยศหรือตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ครูอาจารย์, ที่อยู่ ที่เรียน หรือที่ทำงานของผู้ตายและผู้บาดเจ็บ, เกียรติภูมิหรือ ผลงานที่สร้างชื่อเสียงของดารานักร้อง และบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นต้น
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น มหาวิทยาลัยที่จัดงานคอนเสิร์ตและเกิดเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งต้องระบุคุณลักษณะโดยการบอกที่ตั้ง เลขที่ ซอย ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด และหากสถานที่นั้นอยู่ใกล้ กับสถานที่ราชการหรือที่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดระเบิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้ตายและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดระเบิด ผู้ก่อเหตุ หลักฐานที่พบ เป็นต้น
MCS2201 การเขียนข่าว การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
คำแนะนำ ข้อสอบมีทั้งหมด 8 ข้อ ให้นักศึกษาทำทุกข้อ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
ข้อ 1. จงเขียนข่าวจากข้อมูลต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว และเนื้อข่าว) (20 คะแนน)
หัวข้อบรรยาย “ทักษะของพนักงาน…ที่นายจ้างยุคใหม่ต้องการ”
1. ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า งานหลาย ๆ อย่างที่เราต้องทำกันอยู่ทุกวัน แม้บางงาน จะเรียกว่าเป็นงานรูทีน แต่ในรายละเอียดนั้นเรามักจะต้องเจอกับปัญหานานาชนิดไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะปัญหากับเพื่อนรวมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นเราควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ใช่ว่าเจอเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ฟ้องผู้จัดการ หรือ โบ้ยปัญหาไปให้คนอื่นเสียหมด
2. ทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่เราใช้อยู่เป็นประจำ คงปฏิเสธไม่ได้ใน ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศแบบนี้ อุปกรณ์ไฮเทคเข้ามาอยู่ในสำนักงานกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเราควรจะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาง่ายที่อาจเกิดขึ้นบ่อย ๆ ระหว่างที่เราใช้อุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือ แม้กระทั่งเครื่องถ่ายเอกสารที่ใช้เป็นประจำ กระดาษหมด กระดาษติด สามารถจัดการได้ โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ เกิดปัญหาเครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้
3. ทักษะทางด้านทรัพยากรมนุษย์ สำนักงานใหญ่ ๆ หลายแห่งมีปัญหาในเรื่องของพนักงาน ไม่ถูกกัน ทำงานร่วมกันไม่ได้ ติดต่อกันไม่เข้าใจ เป็นต้น ดังนั้นหากเราเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ รู้จักการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในเบื้องต้น จะมีประโยชน์ต่อการทำงานมาก รู้วิธีการติดต่อ หรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ
4. ทักษะทางด้านคอมพิวเตอร์ นอกจากว่าคุณต้องมีความสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด โปรแกรมเอ็กเซล โปรแกรมโฟโต้ช็อบ และโปรแกรมพื้นฐานอื่นแล้ว ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การส่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะ ให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML
5. ทักษะที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ ทักษะดังกล่าวนี้จะขึ้นอยู่กับว่าเราเรียนมาทางไหน และจะประกอบอาชีพอะไร เช่น ต้องการเป็นพนักงานขายก็ควรจะได้รับการฝึกอบรมในเรื่อง การขาย การดูแลลูกค้า นักประชาสัมพันธ์อาจจะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมในเรื่องของภาษา เป็นต้น
6. ทักษะทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ะ จะเป็นการดียิ่งถ้าหากเราเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ และวิทยาสาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่จะประกอบอาชีพเกี่ยวกับวิศวกรรม การแพทย์ หรือ ในสาขาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ
7. ทักษะการจัดการด้านการเงิน ผู้ที่มีการวางแผนทางต้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้ คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพี่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่า เราไม่รู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินและกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้
8. ทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล เนื่องจากว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร การจัดการ ข้อมูลของตนเองที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ในยุคนี้ข้อมูลที่รวดเร็วสามารถช่วยให้การตัดสินใจ เป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้นเราควรจะมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้ สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมู่ และค้นหาได้ง่าย
9. ทักษะด้านกาษาต่างประเทศ ถ้าเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะได้รับการพิจารณา เป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากเราสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ ปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยเยอะ ภาษาอังกฤษแน่นอนว่ามีความสำคัญ แต่ถ้า ยิ่งสามารถพูดภาษาของเจ้าของบริษัทได้อีกด้วยแล้วยิ่งดีใหญ่ อย่างเช่น ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น
10. ทักษะในการบริหารธุรกิจ เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแค่ว่าเข้าอบรม ระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อยก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่า ธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรา มีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัท ได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะ แสดงความสามารถในโอกาสที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะใน การบริหารจัดการนี่แหละ***
(สมมติว่าข้อมูลข้างต้นเก็บความจากการบรรยายของ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง เนื่องในงานปัจฉิมนิเทศนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา)
แนวคำตอบ หน้า 32-37 หัวข่าว
คณบดี ม.ษ. แนะว่าที่บัณฑิตเพิ่มทักษะด้านไอที-ภาษาต่างประเทศ
เนื้อข่าว
รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ กล่าวในงานปัจฉิมนิเทศ นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ ปีการศึกษา 2554 ณ ห้องประชุมคณะมนุษยศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ว่า นอกเหนือจากวิชาความรู้เฉพาะที่บัณฑิตได้รับการฝึกฝนมาโดยตรงแล้ว ปัจจุบันนายจ้างยังต้องการบัณฑิต ที่มีทักษะสำคัญ ได้แก่ ทักษะทางต้านคอมพิวเตอร์อย่างง่าย ๆ เช่น โปรแกรมเวิร์ด เอ็กเซล โฟโต้ช็อบ และ โปรแกรมพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ควรจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา ข้อมูลข่าวสารจาก WWW. การล่งอีเมล หรือการดาวน์โหลดโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะให้ดีกว่านั้นควรจะ เรียนรู้การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ บางอย่าง เช่น HTML รวมทั้งมีทักษะในเรื่องของการจัดการข้อมูล ควรมีการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานให้สามารถเข้าถึง เป็นหมวดหมู่และค้นหาได้ง่าย นอกจากนี้ควรมีทักษะการดูแลแก้ไขอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แฮงค์ การลงโปรแกรม หรือแม้กระทั่ง เครื่องถ่ายเอกสารกระดาษหมด กระดาษติด ต้องสามารถจัดการได้ และหากโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่เกิดปัญหา เครือข่าย หรือฟังก์ชั่นการทำงานบางอย่างรวนไป ควรจะดูแลในเบื้องต้นได้
ทักษะด้านภาษาต่างประเทศก็มีความสำคัญเช่นกัน ถ้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มักจะ ได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าหากสามารถพูดภาษาอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ยิ่งจะเป็นที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันนี้ มีบริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยมาก ซึ่งภาษาที่สำคัญ คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ทวีศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในการแก้ไขปัญหา เฉพาะหน้า แม้งานที่ทำจะเป็นงานประจำ แต่ในรายละเอียดนั้นมักจะต้องพบกับปัญหานานาชนิด เช่น ปัญหากับ เพื่อนร่วมงาน ปัญหากับลูกค้า ดังนั้นควรจะฝึกฝนทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ตาง ๆ กรณีที่เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ควรนำภาระปัญหาให้ผู้บังคับบัญชาตัดสินใจ หรือผลักปัญหาให้คนอื่นแก้เสียทุกเรื่อง ตลอดจนควรมีมนุษยสัมพันธ์ รู้วิธีการติดต่อหรือจัดการเมื่อต้องทำงานร่วมกับบุคคลในประเภทต่าง ๆ
คณบดีคณะมนุษยศาสตร์กล่าวในตอนท้ายว่า ในการทำงานบัณฑิตควรมีทักษะในด้านการ จัดการการเงิน และทักษะในการบริหารธุรกิจ
“ผู้ที่มีการวางแผนทางด้านการเงินที่ดีจะได้เปรียบ ปัจจุบันนี้คนในวัยทำงานจำนวนมากคำนึงถึงเรื่องของการเก็บออมเพื่อใช้ในช่วงเกษียณกันแล้ว ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักบริหารการเงินให้ดี จนถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน และกลายเป็นบุคคลที่มีหนี้สินมากมาย จะกลายเป็นจุดด่างในการงานไปเลยก็ว่าได้ ส่วนการบริหารธุรกิจนั้น เราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดไปเรียน MBA เอาแค่ว่าเข้าอบรมระยะสั้น หรือหาตำหรับตำราในการบริหารมาอ่านสักหน่อย ก็น่าจะไหว เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เขาจะมีระบบการจัดการและการบริหารที่ดีด้วย ถ้าหากเรามีความรู้ในเรื่องการบริหาร เราก็จะสามารถเข้าใจในนโยบายการจัดการต่าง ๆ ของทางบริษัทได้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น แต่ระดับปฏิบัติการก็สามารถจะมีความรู้ด้านนี้เพื่อที่จะแสดงความสามารถในโอกาส ที่เปิดให้ ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รับการโปรโมทก็เพราะทักษะในการบริหารจัดการนี่แหละ”
ข้อ 2. จงเขียนข่าวจากข้อมูลสมมติต่อไปนี้ (เขียนหัวข่าว และเนื้อข่าว) (10 คะแนน)
รางวัลมีดังนี้ เทคนิคสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม ได้แก่ อาทยา บุญสูง จากอุโมงค์ผาเมือง เทคนิคพิเศษแต่งหน้าเยี่ยม พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม จากลัดดาแลนด์ ออกแบบเครื่องแต่งกายเยี่ยม นพดล เตโช จากลัดดาแลนด์ กำกับศิลป์เยี่ยม ดุสิต ญาปกวงศ์ และถิรนันท์ จันทคัต จากเรื่อง พุ่มพวง ดนตรีประกอบเยี่ยม เจษฎา สุขทรามร ชัยยุทธ โตสง่า และราชศักดิ์ เรืองใจ จากคนโขน เพลงประกอบเยี่ยม มันคงเป็นความรัก ประพันธ์โดยแสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข บันทึกเสียง และผสมเสียงเยี่ยม อัครินเฉลิม กัลยาณมิตร ริชาร์ด ฮอคส์ บริษัท เทคนิค คัลเลอร์ จำกัด จากฝนตกขึ้นฟ้า ลำดับภาพเยี่ยม ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค จากลัดดาแลนด์ ถ่ายภาพเยี่ยม ชาญกิจ ชำนิวิภัยพงศ์ จากฝนตกขึ้นฟ้า บทภาพยนตร์เยี่ยม โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ จากลัดดาแลนด์
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม จากภาพยนตร์เรื่องฝนตกขึ้นฟ้า นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ป็อก-ปิยธิดา วรมุสิก จากภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ต้อม-เป็นเอก รัตนเรือง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลัดดาแลนด์ นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปันปัน- สุทัตตา อุดมศิลป์ จากภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กั๊ก-วรรณศักดิ์ ศิริหล้า จากเรื่องศพไม่เงียบ
งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่21 ประจำปี 2555 ที่โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่…
แนวคำตอบ หน้า 32 – 37
หัวข่าว
ลัดดาแลนด์คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลสุพรรณหงส์
เนื้อข่าว
งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2555 ที่โรงภาพยนตร์ สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผลปรากฏว่า ภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ได้รับ รางวัลมากที่สุด คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ลัดดาแลนด์ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ต้อม-เป็นเอก รัตนเรือง บทภาพยนตร์เยี่ยม โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล และโสภณ ศักดาพิศิษฏ์ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ป็อก-ปิยธิดา วรมุสิก นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ เทคนิคพิเศษแต่งหน้าเยี่ยม พิเชษฐ วงศ์จันทร์สม ออกแบบเครื่องแต่งกายเยี่ยม นพดล เตโช ลำดับภาพเยี่ยม ธรรมรัตน์ สุเมธศุภโชค
ส่วนรางวัลอื่น ๆ ได้แก่ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม จากภาพยนตร์ เรื่องฝนตกขึ้นฟ้า นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม กั๊ก-วรรณศักดิ้ ศิริหล้า จากเรื่องศพไม่เงียบ เทคนิคสร้างภาพ พิเศษยอดเยี่ยม อาทยา บุญสูง จากอุโมงค์ผาเมือง กำกับศิลป์เยี่ยม ดุสิต ญาปกวงศ์ และถิรนันท์ จันทคัต จากเรื่องพุ่มพวง ดนตรีประกอบเยี่ยม เจษฎา สุขทรามร ชัยยุทธ โตสง่า และราชศักดิ์ เรืองใจ จากคนโขน เพลงประกอบเยี่ยม มันคงเป็นความรัก ประพันธ์โดยแสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข บันทึกเสียงและผสมเสียงเยี่ยม อัครินเฉลิม กัลยาณมิตร และริชาร์ด ฮอคส์ บริษัท เทคนิค คัลเลอร์ จำกัด จากฝนตกขึ้นฟ้า ถ่ายภาพเยี่ยม ชาญกิจ ชำนิวิภัยพงศ์ จากฝนตกขึ้นฟ้า
ข้อ 3. เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ และข่าวดาราแต่งงาน จะได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชนเนื่องจากเบนเหตุการณ์ที่มีคุณค่าเชิงข่าว (News Values) ด้านใด (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 2-6, (คำบรรยาย)
เหตุการณ์พายุฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ ได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมี คุณค่าเชิงข่าว (News Values)
1เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ตกใจ หรือเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบ จนกระทั่งบ้านเรือนเสียหาย หรืออาจบาดเจ็บล้มตาย
2. ความเกี่ยวพันกับผู้รับสาร คือ เป็นเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวพันกับผู้รับสารทั้งทางตรง และทางอ้อม นอกจากนี้ยังเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้อ่านในจังหวัดอื่น ๆ ให้สร้างบ้านเรือนที่มั่นคงแข็งแรง
4. ความเปลี่ยนแปลง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นความเปลี่ยนแปลง ของสภาพภูมิอากาศ และเป็นสิ่งไม่ปกติธรรมดาซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทุกวัน
5. ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย และยังอาจเกี่ยวข้องกับ ตัวผู้รับสารเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
6. ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุบัติภัยในเขตเมืองหลวง จึงมี ความโดดเด่นในตัวเหตุการณ์ หรือมีชื่อเสียงในตัวสถานที่ที่เกิดเหตุ
7. ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
ข่าวดาราแต่งงานได้รับการรายงานเป็นข่าวในสื่อมวลชน เนื่องจากมีคุณค่าเชิงข่าว (News
Values) ดังนี้
1. เร้าความสนใจของมนุษย์ คือ ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดอารมณ์ตื่นเต้น ชื่นชมยินดีที่ดาราที่ตนชื่นชอบจะแต่งงานมีครอบครัว เป็นเรื่องของความรัก การแต่งงาน ซึ่งยิ่งเร้าความสนใจ ของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
2. ความใกล้ชิด คือ เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว เกิดขึ้นในสังคมไทย นอกจากนี้บุคคลในข่าว ยังเป็นดาราซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของสาธารณชน จึงยิ่งมีความใกล้ชิดระหว่างผู้อ่านกับ บุคคลที่ตกเป็นข่าว
3. ความโดดเด่น/ดัง/ชื่อเสียง คือ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีความ โดดเด่นในสังคม จึงมักได้รับการรายงานเป็นข่าว ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด
4. ความทันต่อกาลเวลา คือ เป็นเหตุการณ์ที่สดใหม่ หรือเพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
ข้อ 4. การรายงานข่าวการเมืองควรรายงานเนื้อหาอะไรบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 2 ข่าว ระบุแหล่งข่าวและ ประเด็นในแต่ละข่าว (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 159 – 162
การรายงานข่าวการเมืองควรรายงานเนื้อหา
1. การจัดการเลือกตั้ง การจัดตั้งพรรคการเมือง นโยบายของแต่ละพรรค และการรณรงค์ หาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ
2. การเจรจาต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาล การเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี โครงสร้างของคณะรัฐมนตรี และการวางตัวบุคคลดำรงตำแหน่งทาง การเมือง
3. การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา การปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล
4. กระบวนการออกกฎหมายของรัฐสภา การบังคับใช้กฎหมาย
5. การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ และองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น การประชุมคณะรัฐมนตรี การปรับคณะรัฐมนตรี ฯลฯ
6. บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา
7. ความคิดเห็นของ ส.ส. ต่อประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐสภา
8. การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.บ. ที่มีบัญหา
9. การฟ้องร้องของประชาชนต่อศาลปกครอง รวมทั้งการวินิจฉัยต่าง ๆ
10. การปฏิบัติงานขององค์กรอิสระภายใต้รัฐธรรมนูญ
11. ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ตัวอย่างข่าวเสื้อแดงปทุมธานีฮือไล่อภิสิทธิ์ ไม่พอใจสลายการชุมนุม
1. ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นปราศรัยในงานอะไร บรรยากาศก่อนเริ่ม ปราศรัยเป็นอย่างไร ระหว่างที่ปราศรัยเป็นอย่างไร คนเสื้อแดงมารวมตัวขับไล่ ที่บริเวณไหน อย่างไร และเหตุการณ์จบลงอย่างไร มีความรุนแรงบานปลาย หรือไม่
– การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุน นายอภิสิทธิ์กับคนเสื้อแดงหรือไม่ และตำรวจป้องกันเหตุวุ่นวายอย่างไร
– หลังเกิดเหตุ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร และแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวว่า อย่างไร
2. แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำ ฝ่ายค้าน แกนนำคนเสื้อแดงที่มาขับไล่ นายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล (กรณีมี ผู้บาดเจ็บจากการปะทะกัน)
ตัวอย่างข่าวสภาฯ ป่วน ฝ่ายค้านยกเก้าอี้ประธาน ค้านมติปรองดอง
1. ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์อภิปรายในสภาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลัง เกิดเหตุ เช่น บรรยากาศก่อนการประชุมสภาฯ เป็นอย่างไร มี ส.ส. มาครบ องค์ประชุมหรือไม่ จากนั้นการประชุมสภาฯ ดำเนินไปอย่างไร มีเหตุความขัดแย้ง ระหว่างประธานสภาฯ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้าน ช่วงไหน อย่างไร เป็นต้น
– ประธานสภาฯ ควบคุมสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างไร ส.ส. ฝ่ายค้านปฏิบัติตาม หรือไม่ และแสดงพฤติกรรมตอบโต้ประธานสภาฯ แบบไหน
– การประชุมสภาฯ ต้องยกเลิกหรือไม่ หรือต้องเลื่อนการประชุมไปวันไหน
– หลังเกิดเหตุบรรยากาศเป็นอย่างไร ความคิดเห็นของประธานสภาฯ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
– ความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรี และประชาชนทั่วไปต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
2. แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ ประธานสภาฯ ผู้นำฝ่ายค้าน ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายค้านที่เข้าร่วมประชุม นายกรัฐมนตรี และประชาชนทั่วไป
ข้อ 5. คำว่า “ข่าวอาชญากรรม” ครอบคลุมเนื้อหาประเภทใดบ้าง ยกตัวอย่างข่าว 2 ข่าว ระบุประเด็น และแหล่งข่าวในแต่ละข่าว (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 169 – 172
ข่าวอาชญากรรมครอบคลุมขอบเขตเนื้อหา
1 ข่าวฆาตกรรม เช่น ลักขโมย ปล้น ชิงทรัพย์ คดีต่าง ๆ
2. ข่าวอุบัติเหตุ อุบัติภัย และภัยพิบัติ เป็นข่าวที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดมาก่อน และ คนให้ความสนใจในเรื่องความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน เช่น รถชน รถคว่ำ เครื่องบินตก ไฟไหม้ น้ำท่วม รวมถึงข่าวเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ข่าวการประท้วง การจลาจล ฯลฯ
3. ข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะคล้ายข่าวอุบัติเหตุที่ต้องระบุตัวผู้เคราะห์ร้าย มูลเหตุจูงใจ ที่ทำให้ฆ่าตัวตาย สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ หมอ ครอบครัว ญาติมิตรผู้ตาย
4. ข่าวเบ็ดเตร็ด เช่น คนหาย สัตว์ร้ายหลุดมาอาละวาด งานบรรเทาสาธารณภัย
5. ข่าวสะท้อนสังคม เช่น เด็กนักเรียนขายตัว คนว่างงานจี้ปล้นทรัพย์ ข่าวชู้สาว การวิวาท ระหว่างนายทุนกับกรรมกร คู่อริทางการเมือง เจ้านายกับลูกน้อง และความขัดแย้งในครอบครัว
6. ข่าวเกี่ยวกับความผิดทางอาญา เช่น ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ การเปิดเผยความลับของราชการ ฯลฯ
ตัวอย่างข่าว นักเรียนเทคนิคดักยิงนักเรียนคู่อริบนรถเมล์
1. ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถเมล์คันที่เกิดเหตุสายอะไร วิ่งจากไหนไปที่ไหน นักเรียนคู่อริขึ้นรถเมล์จากป้ายใด และกลุ่มนักเรียนที่ดักยิง อยู่บริเวณไหน
– วิธีการก่ออาชญากรรม อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
– สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น มีผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตกี่คน เป็นใครบ้าง มีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงหรือไม่
– การวางแผนติดตามจับกุม ความเห็น และข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
– คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ
– ความเห็นและการแก้ปัญหาของผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ
2. แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล คนขับรถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ ผู้โดยสารรถเมล์สายนั้น พยานแวดล้อมที่เห็น เหตุการณ์ ผู้บริหารโรงเรียนเทคนิค ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต คณะกรรมการอาชีวศึกษา ฯลฯ
ตัวอย่างข่าวอุบัติเหตุรถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำ
1. ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าว ได้แก่
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร รถบรรทุกแก๊สเป็นของบริษัทอะไร วิ่งมาจากไหนไปที่ไหน พลิกคว่ำบริเวณใด หลังเกิดเหตุคนขับหลบหนีไปหรือไม่ ต้องปิดการจราจรบริเวณใดบ้าง
– สภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน จำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และอื่น ๆ
– การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และผู้เกี่ยวข้อง อื่น ๆ
– คำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ พยาน และวัตถุหลักฐานอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุ
– ความเห็นและข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
– ความรับผิดชอบของบริษัทที่ขนส่งแก๊ส
2. แหล่งข่าวประกอบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศล ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ พยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ คนขับรถบรรทุกแก๊ส (กรณีที่ไม่ได้หลบหนี) ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิต ผู้บริหารของบริษัทที่ขนส่งแก๊ส ฯลฯ
ข้อ 6. การรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง กับข่าวตรวจพบยาเสพติดและ อุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในเรือนจำแห่งหนึ่ง จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวเหมือนกันหรือแตกต่างกัน อย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 119 – 122, (คำบรรยาย)
คุณลักษณะ (Identification) ในข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง กับข่าวตรวจพบยาเสพติดและอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในเรือนจำแห่งหนึ่ง จะต้องระบุคุณลักษณะในข่าวแตกต่างกัน
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เรื่องราคาสินค้าแพง
1 คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง, ยศหรือตำแหน่ง และชื่อเล่น
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น สถานที่ที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ซึ่งอาจเป็นที่รัฐสภา ก็ต้องระบุลงไปในข่าวด้วย หรือหากเป็นการสัมภาษณ์ระหว่างไปลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าก็ต้องระบุว่าเป็น ตลาดอะไร ตั้งอยู่ที่ซอยอะไร ถนน ตำบล อำเภอ และจังหวัด หากอยู่ใกล้กับสถานที่ที่มีชื่อเสียงก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์การสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนการสัมภาษณ์ ขณะสัมภาษณ์ ไปจนกระทั่งจบการสัมภาษณ์ หากไปลงพื้นที่ที่ตลาดก็ต้องระบุถึงบรรยากาศในตลาดเป็นอย่างไร มีประชาชนมาต้อนรับมากน้อยแค่ไหน จากนั้นนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์อย่างไร รวมไปถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่น ๆ เช่น รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ แม่ค้าพ่อค้า ตลอดจนความคิดเห็นของประชาชน
คุณลักษณะที่ต้องระบุในการรายงานข่าวตรวจพบยาเสพติดและอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมาก ในเรือนจำแห่งหนึ่ง
1. คุณลักษณะของบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุลอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้ว่าราชการจังหวัด (กรณีเรือนจำในต่างจังหวัด) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เรือนจำที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระบุ ยศหรือตำแหน่งของบุคคลเหล่านี้ด้วย
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น เรือนจำที่เข้าไปตรวจค้น เป็นเรือนจำที่ตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอ และจังหวัดใด ตรวจค้นที่แดนเรือนนอนชาย-หญิง บริเวณไหนบ้าง ควรระบุลงไปให้ละเอียด
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงอย่างไร มีใครบ้าง ที่บุกเข้าตรวจค้น ขณะตรวจค้นมีจำนวนผู้ต้องขังเท่าใด เป็นชายและหญิงกี่คน ตรวจพบอะไรบ้าง วิธีดำเนินการ กับเจ้าหน้าที่เรือนจำที่มีส่วนรู้เห็น และมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ข้อ 7. จงอธิบายความสำคัญและแนวทางการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว (10 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 63 – 64, 83, 91, (คำบรรยาย)
ความสำคัญและแนวทางการเขียนหัวข่าว ความนำ และส่วนเชื่อมในข่าว
– หัวข่าวหรือพาดหัวข่าว (Headline) คือ ส่วนบนสุดของข่าว เป็นส่วนที่อยู่เหนือจาก ความนำและเนื้อข่าว มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกผู้อ่านให้รู้ว่าข่าวนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร บอกอารมณ์ของข่าว และช่วยกระตุ้นความสนใจให้คนอยากอ่านเนื้อหามากที่สุด ดังนั้นหัวข่าวจึงถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องมีเสมอ เพื่อบอกผู้อ่านว่าในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ๆ มีข่าวที่น่าสนใจอะไรบ้าง
แนวทางการเขียนหัวข่าวคือ การพิจารณาประเด็นที่สำคัญที่สุดของข่าวและเป็นสิ่งที่ น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้อ่าน มาเขียนให้ได้ใจความโดยใช้ภาษาที่กระชับรัดกุม แต่สื่อความหมายได้ครบถ้วน ตามประเด็นข่าว ดังนั้นข้อความในหัวข่าวจึงต้องสั้นเพื่อให้เพียงพอต่อพื้นที่กระดาษอันจำกัด โดยมักใช้ตัวอักษร ตัวใหญ่และหนากว่าส่วนอื่น
– ความนำหรือวรรคนา (Lead) คือ ย่อหน้าแรกของข่าว จัดเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของข่าว และยังเป็นส่วนที่เขียนยากที่สุดด้วย มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่บอกประเด็นสำคัญของข่าว หรือสรุปสาระสำคัญ ของข่าวเพื่อให้ผู้อ่านซึ่งอาจจะเพียงมองผ่าน ๆ ก็สามารถตัดสินใจได้ตั้งแต่แรกว่าจะอ่านข่าวนั้นต่อไปหรือไม่ จึงเป็นการช่วยให้ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลามาก และแม้ว่าจะอ่านเฉพาะแต่ความนำ ผู้อ่านก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้ โดยย่อ
แนวทางการเขียนความนำคือ ก่อนที่จะเขียนความนำ ควรทราบก่อนว่าตัวข่าวเป็น เรื่องอะไร โดยควรเน้นที่ตัวข่าว หรือเน้นรายละเอียดที่สำคัญและน่าสนใจ แล้วจึงสรุปข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยยึดหลักในสิ่งที่คนอยากรู้มากที่สุดตามเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ควรเขียนเป็นประโยคที่สั้น ชัดเจน เข้าใจง่าย อาจมีความยาวเพียง ย่อหน้าสั้น ๆ เท่านั้น
– ส่วนเชื่อม (Neck or Bridge) คือ ย่อหน้าถัดไปจากความนำ หรืออาจจะวางส่วนเชื่อม ไว้ท้ายข่าวเลยก็ได้ ซึ่งในข่าวบางข่าวอาจจะมีส่วนเชื่อมหรือไม่มีก็ได้ มีความสำคัญคือ ทำหน้าที่เป็นส่วนขยาย เพื่อให้ความนำสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรืออาจทำหน้าที่อธิบายความเดิมของข่าวในกรณีที่ข่าวนั้นเคยเกิดขึ้นและได้รับ การนำเสนอไปแล้ว ต่อมามีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผู้เขียนข่าว ก็มักจะเขียนส่วนเชื่อมไว้เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจความเดิมของข่าวนั้นได้ นอกจากนี้ส่วนเชื่อมยังใช้อธิบาย รายละเอียดหรือคุณลักษณะของบุคคลผู้ที่ตกเป็นข่าวด้วย
แนวทางการเขียนส่วนเชื่อมคือ การเขียนข้อความเชื่อมระหว่างความนำกับเนื้อข่าว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เป็นข่าวได้ง่ายขึ้น ส่วนใหญ่มักจะระบุชื่อบุคคลที่เป็นข่าว ชื่อสถานที่ แหล่งข่าว วัน เวลาที่เกิดเหตุการณ์ หรือการท้าวความโดยย่อจากเรื่องที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว
ข้อ8. สมมติเกิดเหตุไฟไหม้ตลาดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะที่กลุ่มนักการเมืองกำลังหาเสียงเพื่อ เลือกตั้งซ่อม ส.ส. โดยมีดาราชื่อดังอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ถ้านักศึกษาเป็นผู้สื่อข่าวจะต้องรายงาน ประเด็นเนื้อหาอะไรบ้าง ควรสัมภาษณ์ใครบ้างเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการรายงานข่าว และควรมีการระบุคุณลักษณะอะไรบ้างในเนื้อข่าวดังกล่าว (20 คะแนน)
แนวคำตอบ หน้า 15 – 17, 118 – 122, (คำบรรยาย)
ประเด็นเนื้อหาที่ต้องรายงานในข่าวดังกล่าว
– เกิดเหตุการณ์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
– ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เช่น กลุ่มนักการเมืองที่มาหาเสียงเป็นใครบ้าง สังกัดพรรคใด บรรยากาศในการหาเสียง เป็นอย่างไร ดาราที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเป็นใคร และระหว่างการหาเสียงต้นเพลิงเกิดขึ้น ที่ไหน ลุกลามไปอย่างไร เป็นต้น
– ความโกลาหลและการหนีเอาตัวรอดของผู้คน
– การควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อุปสรรคในการเข้าไปช่วยเหลือผู้คน ในตลาด ความยากลำบากในการดับเพลิง
– สภาพความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
– รายชื่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ อาการ การรักษา และมีนักการเมือง ดาราชื่อดัง เกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์อย่างไร ได้รับบาดเจ็บหรือไม่
– ความเห็นหรือข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุของไฟไหม้ หรือการพบ วัตถุหลักฐานในที่เกิดเหตุ
– คำสัมภาษณ์ของนักการเมืองที่มาหาเสียง ดาราชื่อดังที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือแม่ค้าพ่อค้า ประชาชนในตลาดที่รู้เห็นการลุกลามของต้นเพลิง
– แนวทางการป้องกันแก้ไขการเกิดไฟไหม้จากเจ้าของตลาด
– ข้อมูลเสริม ประวัติสถานที่เกิดเหตุ เช่น เคยเป็นพื้นที่ที่มีการฟ้องร้องไล่ที่หรือไม่ เคยมีเหตุไฟไหม้มาแล้วกี่ครั้ง มีความขัดแย้งระหว่างพ่อค้าแม่ค้ากับเจ้าของตลาด หรือไม่ ฯลฯ
– เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง
– มูลนิธิการกุศลต่าง ๆ
– โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล
– กลุ่มนักการเมืองที่มาหาเสียง ดาราชื่อดังที่อยู่ในเหตุการณ์
– แม่ค้าพ่อค้า ประชาชนที่มาเดินตลาด ซึ่งรู้เห็นการลุกลามของต้นเพลิง
– เจ้าของตลาด
– บริษัทประกันอัคคีภัย (หากทำประกันอัคคีภัยไว้)
คุณลักษณะที่ต้องระบุในเนอข่าวดังกล่าว มีดังนี้
1. คุณลักษณะของบุคคล แบ่งออกเป็น
– นักการเมืองที่มาหาเสียง เช่น ชื่อ-นามสกุล มีความใกล้ชิดกับใคร สังกัดพรรคใด เลือกตั้งซ่อมเขตใด แทนใคร และ ส.ส. เดิมในเขตนั้นเป็นใคร พรรคอะไร
– ดาราชื่อดัง เช่น ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น ผลงานล่าสุด
– เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล ยศหรือตำแหน่ง
– ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ ที่อยู่
2. คุณลักษณะของสถานที่ เช่น ตลาดที่เกิดไฟไหม้ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ซอย ถนน เขตอะไร ในกรุงเทพฯ หากอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการหรือที่ที่รู้จักกันดีก็ต้องระบุลงไปด้วย
3. คุณลักษณะของเหตุการณ์ เช่น ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดไฟไหม้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ เวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร จบลงอย่างไร และผลที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จบลงแล้ว มีสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ คำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้บาดเจ็บ และผู้รอดชีวิต รวมทั้งข้อสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ หลักฐานที่พบ เป็นต้น