การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2560
ข้อสอบกระบวนวิชา POL 3302 การวางแผนในภาครัฐ
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1 ปัญหาโครงสร้างของปัญหาไม่ชัดเจน หมายถึง
(1) จํานวนบุคลากรที่เข้ามาบริหารนโยบาย
(2) เทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบาย
(3) ลักษณะในทางภูมิศาสตร์
(4) ค่านิยมของคนในสังคม
(5) วัสดุอุปกรณ์ที่จะนํามาใช้กับนโยบาย
ตอบ 4 หน้า 10, (คําบรรยาย) ปัญหาที่มีโครงสร้างไม่ชัดเจน (Ill-Structured Problem) หมายถึง ปัญหาที่เป็นค่านิยมของคนในสังคม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับผู้คนจํานวนมาก เป็นปัญหาที่มีทางออกได้หลายหนทาง โดยแต่ละหนทางไม่สามารถมองเห็นผลประโยชน์ได้ชัดเจนจึงเป็นที่ถกเถียงกันได้และมีผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน
2 การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเน้นหลักในด้านใดบ้าง
(1) เศรษฐกิจ การจัดการ เทคโนโลยี
(2) สังคม เศรษฐกิจ การเมือง
(3) เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การเมือง
(4) ผลตอบแทน สิ่งแวดล้อม การเมือง
(5) การเงิน การคลัง เทคโนโลยี และการจัดการ
ตอบ 1 หน้า 42 การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) มักจะประเมินเพียงตัวแปรหลัก ๆ ดังนี้
1 ด้านเศรษฐกิจ ความคุ้มทุนหรือผลตอบแทนของโครงการ (นิยมประเมินในด้านนี้เป็นประจํา)
2 ด้านการบริหารหรือการจัดการ
3 ด้านเทคนิค เช่น สถานที่ตั้ง วัตถุดิบ และเทคโนโลยีของโครงการ
4 ด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการ
3 การทํา Feasibility ของโครงการมีจุดมุ่งหมายสําคัญเพื่อสิ่งใด
(1) เพื่อดูความพร้อมของโครงการ
(2) เพื่อประเมินผลที่เกิดจากโครงการ
(3) เพื่อตระเตรียมการแก้ปัญหาแต่เนิ่น ๆ
(4) เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของโครงการ
(5) เพื่อประเมินโอกาสในการบรรลุผลสําเร็จของโครงการ
ตอบ 5 หน้า 40 – 42, (คําบรรยาย) การวิเคราะห์และประเมินโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1 การวิเคราะห์เปรียบเทียบโครงการ (Program/Project Analysis) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์และประเมินโครงการในระบบปิด ซึ่งจะให้ความสําคัญกับปัจจัยภายในองค์การ/โครงการเป็นหลัก โดยจะนําเอาโครงการที่มีอยู่ทั้งหมดมาทําการวิเคราะห์เปรียบเทียบถึงข้อดีข้อด้อยของแต่ละโครงการ เพื่อเลือกเอาโครงการที่ดีที่สุด ซึ่งเหมาะสําหรับโครงการที่ไม่เร่งด่วน
2 การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) เป็นเทคนิคการวิเคราะห์และประเมินโครงการในระบบเปิด ซึ่งจะให้ความสําคัญกับสภาพแวดล้อมภายนอกที่มากระทบ โครงการโดยจะนําเอาโครงการที่ได้เลือกสรรไว้แล้วเพียงโครงการเดียวมาทําการศึกษาถึง ความเป็นไปได้ เพื่อประเมินโอกาสในการบรรลุผลสําเร็จของโครงการว่ามีโอกาสที่จะประสบผลสําเร็จมากน้อยเพียงใด ซึ่งมักจะใช้ในกรณีที่เป็นโครงการเร่งด่วน
4 ข้อใดมิใช่ภารกิจที่สําคัญในการประเมินโครงการ
(1) การวิเคราะห์ความอยู่รอดของโครงการ
(2) การวิเคราะห์ความคุ้มทุนของโครงการ
(3) การคาดคะเนสิ่งแวดล้อมในอนาคตของโครงการ
(4) การทําความเข้าใจกับตัวโครงการให้ถ่องแท้
(5) การวิเคราะห์หาความเชื่อมั่นว่าโครงการเหมาะสมที่สุดหรือยัง
ตอบ 1 หน้า 39 – 40, (คําบรรยาย) การวิเคราะห์และประเมินโครงการ มีความหมายเป็น 2 ลักษณะ คือ
1 เป็นการศึกษาถึงโอกาสความสําเร็จในการดําเนินโครงการ โดยการวิเคราะห์และประเมินหาความเชื่อมั่นว่าตัวโครงการที่ร่างเสร็จแล้วนั้นมีความสมบูรณ์เหมาะสมที่จะนําไปปฏิบัติ ได้จริงหรือไม่ เช่น การวิเคราะห์หรือการคาดคะเนสิ่งแวดล้อมในอนาคตของโครงการ,การวิเคราะห์ความคุ้มทุนของโครงการ
2 เป็นการศึกษาทําความเข้าใจกับตัวโครงการให้ถ่องแท้ โดยการวิเคราะห์จําแนกแยกแยะ เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยและผลที่คาดว่าจะได้รับ หากมีการนําโครงการไปดําเนินการหรือ นําไปปฏิบัติจริง พร้อมกับศึกษาว่าผลที่คาดว่าจะได้รับหรือผลที่จะเกิดขึ้นนั้นเหมาะสมมีคุณค่า มีประโยชน์ สมควรแก่การลงทุนดําเนินโครงการต่อไปหรือไม่
5 การกําหนดโครงการ หมายถึงอะไร
(1) การศึกษาหาความสมบูรณ์ของโครงการที่ร่างเสร็จแล้ว
(2) การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
(3) การตรวจสอบข้อมูลของโครงการ
(4) การตรวจสอบผลของการดําเนินโครงการที่ผ่านไปแล้ว
(5) การตรวจสอบความสามารถของผู้ร่างโครงการซ้ำอีกครั้ง
ตอบ 2 (คําบรรยาย) การกําหนดโครงการ หมายถึง การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ หรือการเสาะหาลู่ทางการลงทุนที่ดีและมีความเป็นไปได้ เช่น โครงการงทุนของภาคเอกชนที่มีแววว่า จะสามารถทํากําไร หรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่คุ้มค่า และถ้าเป็นโครงการลงทุนของภาครัฐ ก็เป็นโครงการลงทุนที่มีศักยภาพและความสําคัญสูงต่อการแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการและโอกาสในการพัฒนาทางด้านต่าง ๆ ของประเทศ เป็นต้น
6 สถาบันที่มีหน้าที่ริเริ่มกําหนดนโยบายและมีอํานาจอิทธิพลต่อนโยบายมาก คือ
(1) สถาบันทหาร
(2) สถาบันศาล
(3) สถาบันทางรัฐสภา
(4) สถาบันการปกครอง
(5) สถาบันการปกครองท้องถิ่น
ตอบ 4 หน้า 6, (คําบรรยาย) ตัวแบบหรือทฤษฎีสถาบัน (Institution Mode/Theory) เชื่อว่านโยบายสาธารณะนั้นเป็นผลผลิตของโครงสร้างสถาบันการปกครอง กล่าวคือ นโยบายใด ๆ ก็ตามจะได้ชื่อว่าเป็นนโยบายสาธารณะ ก็ต่อเมื่อได้รับการรับรองโดยสถาบันแล้วเท่านั้น ซึ่งนโยบายก็มักจะเป็นไปตามที่สถาบันการปกครองกําหนดเองหรือให้ประโยชน์กับสถาบัน การปกครอง ตัวอย่างสถาบันการปกครอง ได้แก่ สถาบันนิติบัญญัติ สถาบันรัฐสภา สถาบันบริหาร (เช่น นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี) สถาบันราชการ สถาบันตุลาการ (เช่น ศาล) และสถาบันการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น
7 การส่งมอบงานตึก 12 ชั้น คณะรัฐศาสตร์
(1) Policy Formulation
(2) Policy Analysis
(3) Policy Evaluation
(4) Policy Implementation
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 17, (คําบรรยาย) การนํานโยบายไปปฏิบัติ (Policy Implementation) เป็นขั้นตอนของการแปลงวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ในนโยบาย ซึ่งอาจเป็นกฎหมาย คําสั่ง หรือมติของ คณะรัฐมนตรีให้เป็นแผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม โดยจะต้องมีการจัดหา/ การตระเตรียมวิธีการ ตลอดจนทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อดําเนินการให้สําเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้
8 คํากล่าวที่ว่า “การวางแผน คือ Set of Temporally Linked Actions” เป็นของใคร
(1) José Villamil
(2) ดร.อมร รักษาสัตย์
(3) Albert Waterston
(4) William Dunn
(5) Gulick and Urwick
ตอบ 1 หน้า 25 José Villamil กล่าวว่า “การวางแผนเป็นการกระทําที่เป็นกระบวนการ (Set of Temporalty Linked Actions) ที่นําไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ (Desired end State) โดยการตัดสินแต่ละครั้งนั้นมุ่งให้เกิดการรวมชาติหรือการเปลี่ยนแปลง โดยมีการผิดพลาดน้อยที่สุด”
9 ข้อใดเป็นคํากล่าวที่ถูกต้องในเรื่องประเภทของแผน
(1) แผนระยะยาว 5 ปีขึ้นไป
(2) แผนระยะสั้น 3 ปี
(3) แผนระยะปานกลาง 6 ปี
(4) แผนระยะสั้น 4 ปี
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 23, (คําบรรยาย การจําแนกประเภทของแผนหรือแผนงาน (Plan) โดยใช้เกณฑ์ระยะเวลา (Time Span) อาจจําแนกได้ดังนี้
1 แผนระยะสั้น เป็นแผนที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 1 – 2 ปี ซึ่งสามารถวางแผนได้ง่าย เนื่องจากข้อมูลมีลักษณะกว้าง ๆ ง่าย ๆ
2 แผนระยะปานกลาง เป็นแผนที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 2 – 5 ปี ซึ่งนิยมใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศ
3 แผนระยะยาว เป็นแผนที่มีระยะเวลาตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
10 TP. หมายถึง
(1) เวลาที่ผ่านไป
(2) Target Planning
(3) Team Planning
(4) การทํางานเป็นทีม
(5) ทฤษฎีการวางแผน
ตอบ 3 หน้า 34, (คําบรรยาย) การวางแผนแบบทีมวางแผน (Team Planning : TP.) คือ การวางแผนเป็นทีมที่เน้นหลักการมีส่วนร่วมและการระดมสมอง (Brain Storm) มากที่สุด ซึ่งมี 6 ขั้นตอน ดังนี้
1 ร่วมกันกําหนดเป้าหมาย (Targets) ของหน่วยงานให้ชัดเจนตรงกัน
2 ร่วมกันมองไปในอนาคต (Vision/Scenario)
3 ร่วมกันหาสิ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางหรือข้อจํากัด (Obstructions) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
4 ร่วมกันกําหนดทางเดินหรือแผนกลยุทธ์ (Strategies) ที่จะต้องไปสู่เป้าหมายให้ได้
5 ร่วมกันกําหนดกลวิธี (Tactics) หรือโครงการให้สอดคล้องกับแผนที่วางไว้
6 ร่วมกันจัดทําแผนปฏิบัติ (Action Plan) ของโครงการ ซึ่งเน้นให้เกิดผลภายใน 90 วัน หรือที่เรียกว่า 90 Day Implementation Plan
11 การศึกษาแนววิเคราะห์นโยบาย ได้มีจุดเริ่มต้นที่ใด
(1) เมื่อ Max Weber ได้ศึกษาระบบราชการ
(2) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
(3) เมื่อ Mayo ได้ทดลองค้นคว้าที่เรียกว่า Howthorne Study (4) เมื่อมีกลุ่มนักทฤษฎีสมัยใหม่
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 6 – 7 การศึกษาแนววิเคราะห์นโยบาย ถือเป็นแนวทางที่นักรัฐประศาสนศาสตร์นิยมใช้กันมาก โดยเป็นการศึกษาที่เน้นการวิเคราะห์โดยทั่วไป (ในภาพรวม) มิใช่เป็นการศึกษารายกรณี และ มีเทคนิควิธีการศึกษาที่ใช้หลักสหวิทยาการหรือหลักการของวิชาการหลายสาขามาศึกษาวิเคราะห์ ซึ่งการศึกษาตามแนวนี้ได้มีจุดเริ่มต้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่ม
12 ข้อมูลที่ต้องระมัดระวังในการอ้างอิงให้มาก คือ
(1) ข้อมูลที่ยังไม่ได้กรอง
(2) ข้อมูลที่เป็นความจริง (Facts)
(3) ข้อมูลที่เป็นความเชื่อ (Value)
(4) ข้อมูลทุกประเภท
(5) ข้อมูลที่เกี่ยวกับโครงการของดิน
ตอบ 3 หน้า 11 ข้อมูลในการวางนโยบายหรือแผน อาจจําแนกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
1 ข้อมูลที่เป็นความจริง (Facts) เป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่ ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ลักษณะของดินฟ้าอากาศ และภูมิศาสตร์
2 ข้อมูลที่เป็นความเชื่อหรือค่านิยม (Values) เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความยึดมั่นเชื่อถือของประชาชน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการอ้างอิงให้มาก
13 นักวิชาการที่กล่าวว่า การวิเคราะห์นโยบายมีจุดสําคัญอยู่ที่การวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายเป็นสําคัญ คือ
(1) Harry Harty RARE
(2) Walter
(3) Thomas R. Dye
(4) William Dunn
(5) Theodore Poister
ตอบ 5 หน้า 16 Theodore Poister กล่าวว่า “การวิเคราะห์นโยบายมีจุดสําคัญอยู่ที่การวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายเป็นสําคัญ ดังนั้นจําเป็นต้องมีการศึกษาอย่างจริงจังถึงความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาของนโยบายกับผลกระทบทั้งปวงที่จะเกิดขึ้น”
14 แบบอะไรที่ถูกต้องในการวัดประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation) ของนโยบายหรือแผน
(1) แผนการรายงาน
(2) แผนตรวจงาน
(3) แผนประเมินผลงาน
(4) แบบวิธีทดลอง
(5) แบบการวัดประสิทธิภาพ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) การประเมินผลโดยการวัดประสิทธิผล(Effectiveness Evaluation) ของนโยบาย คือ การประเมินผลโดยการพิจารณาว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการดําเนินการตามนโยบายนั้นตรงกับ เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
1 แบบธรรมดาหรือแบบที่ไม่ใช่วิธีการทดลอง
2 แบบวิธีกึ่งทดลอง
3 แบบวิธีทดลอง
15 นโยบายตามตัวแบบสถาบันจะให้ประโยชน์กับใครมากที่สุด
(1) ให้ประโยชน์กับสังคม
(2) ให้คํานึงถึงรัฐสภา
(3) ประโยชน์โดยทั่วไป
(4) ผู้นําและผู้ใกล้ชิด
(5) ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 6 ประกอบ
16 ความเป็นธรรมของนโยบายสามารถวัดได้อย่างไร
(1) วัดจากความพึงพอใจของประชาชนโดยส่วนรวม
(2) วัดจากการกระจายรายได้ของนโยบายสู่ประชาชน
(3) วัดจากประโยชน์ที่มีต่อประชาชนกลุ่มต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน
(4) วัดจากประสิทธิภาพและประสิทธิผลของนโยบาย
(5) วัดจากการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมในกระบวนการของนโยบายให้มากที่สุด
ตอบ 3 (คําบรรยาย) การพิจารณาด้านความเป็นธรรมของนโยบาย แผน หรือโครงการนั้น อาจพิจารณาหรือวัดได้จากประโยชน์ของนโยบาย แผน หรือโครงการว่าประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ได้รับประโยชน์ จากนโยบาย แผน หรือโครงการอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ เพราะนโยบาย แผน หรือโครงการที่ดีนั้นจะต้องคํานึงถึงประโยชน์ของสาธารณชนส่วนใหญ่เป็นหลัก
17 เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป นโยบายของรัฐจะเป็นอย่างไร
(1) มีขนาดเล็กลง
2) คงที่เหมือนเดิม
(3) มีขนาดใหญ่โตตามกาลเวลา
(4) มีขนาดใหญ่โตล้ำหน้าเวลา
(5) มีขนาดจะเล็กลงหรือจะโตขึ้นเป็นไปตามจํานวนประชากร
ตอบ 3 หน้า 17 – 18 Randall Ripley และ Grace Franklin กล่าวว่า ในการนํานโยบายไปปฏิบัตินั้นมีประเด็นต่าง ๆ ที่ผู้นํานโยบายไปปฏิบัติต้องทําความเข้าใจอยู่ 5 ประการ ได้แก่
1 มีผู้เกี่ยวข้องจํานวนมากมาย
2 มีความต้องการหลากหลายต่อนโยบาย
3 ธรรมชาติของนโยบายมักจะมีขนาดที่ใหญ่โตขึ้นตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป4 ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในหลายระดับ หลายสังกัด และหลายหน่วยเสมอ
5 มีปัจจัยมากมายที่นโยบายไม่สามารถควบคุมได้
18 ในเรื่องเกี่ยวกับรูปร่างและรูปแบบของนโยบาย ข้อความในข้อใดกล่าวผิด
(1) มีรูปเป็นกฎหมาย กฎ ระเบียบ
(2) มีรูปเป็นแบบแผน โครงการ
(3) มีรูปเป็นประกาศ แจ้งความ
(4) เป็นคําบอกกล่าวที่เสนอผู้บังคับบัญชาตามลําดับขั้นไป
(5) มีรูปแบบเป็นสัญญา
ตอบ 4 หน้า 2 นโยบายมีหลายรูปร่างและหลายลักษณะตามการใช้ประโยชน์ของนโยบาย ดังนี้
1 มีรูปร่างเป็นกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คําสั่ง
2 มีรูปเป็นแผนงาน โครงการ
3 มีรูปเป็นประกาศ แจ้งความ เพื่อแจ้งข่าวสารหรือเชิญชวน ซึ่งมีลักษณะบังคับน้อยที่สุด
4 มีรูปเป็นสัญญา
5 มีรูปเป็นอื่น ๆ หรืออาจไม่มีรูปร่างให้เห็นชัดเจน เช่น คําแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีหรือของรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น
19 ในแนวคิดการศึกษานโยบายศาสตร์ในแนววิเคราะห์นโยบายนิยมใช้ในนักวิชาการกลุ่มใด
(1) นักรัฐศาสตร์
(2) นักสังคมวิทยา
(3) นักรัฐประศาสนศาสตร์
(4) นักวิทยาศาสตร์
(5) นักเศรษฐศาสตร์
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ
20 ข้อใดเป็นความจริงเกี่ยวกับแผนระยะยาว
(1) มีระยะเวลามากกว่า 3 ปีขึ้นไป
(2) วางแผนได้ง่ายเนื่องจากข้อมูลมีลักษณะกว้าง ๆ ง่าย ๆ
(3) มีระยะเวลาไม่จํากัด
(4) ความเชื่อมั่นจะแปรผันกับระยะเวลาของแผน
(5) ใช้แก้ปัญหาได้เพียงผิวเผิน
ตอบ 4 หน้า 23, (คําบรรยาย) แผนระยะยาว คือ แผนที่มีระยะเวลา 5 ปีขึ้นไป เป็นแผนที่มีความเชื่อมั่นได้น้อยและจะแปรผันกับระยะเวลาของแผน กล่าวคือ ความเชื่อมั่นจะลดต่ำลง ตามระยะเวลาที่ยาวออกไป แต่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป (แผนนั้นเริ่มเห็นผล คือ สามารถ แก้ปัญหาได้ ความเชื่อมั่นที่มีต่อแผนก็จะเพิ่มมากขึ้น) และแผนระยะยาวนับว่าเป็นแผน ที่แก้ปัญหาได้ลึกซึ้งที่สุด แต่เห็นผลช้า
21 Controlled Environment หมายถึง
(1) ภาวะทางธรรมชาติ
(2) ค่านิยมของคนในภาคใต้ของประเทศไทย
(3) เทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบาย
(4) ความเชื่อของคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 12 สิ่งแวดล้อมของนโยบาย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1 สิ่งแวดล้อมที่ควบคุมได้ (Controlled Environment) เป็นสิ่งแวดล้อมที่สามารถควบคุมหรือกําหนดได้อย่างแน่นอน เช่น จํานวนคนที่จะเข้ามาบริหารนโยบาย เทคโนโลยีที่ใช้ในนโยบาย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เป็นต้น
2 สิ่งแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้ (Uncontrolled Environment) เป็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถควบคุมหรือกําหนดได้อย่างชัดเจน เช่น ความเชื่อ/ค่านิยมของคนในสังคม ภาวะทางธรรมชาติภาวะโลกร้อน แผ่นดินไหว เป็นต้น
22 แผนงบประมาณของไทยซึ่งเป็นแผนประจําทุกปีนั้น จัดเป็นแผนประเภทใด
(1) แผนรายปี
(2) แผนงบประมาณ
(3) แผนการเงิน
(4) แผนโครงการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) สําหรับแผนงบประมาณของไทยซึ่งเป็นแผนประจําทุกปีนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็นแผนประเภทแผนรายปี แผนงบประมาณ แผนการเงิน แผนระยะสั้น หรือแผนโครงการทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการจําแนก
23 ใครกล่าวว่านโยบายคือ “สิ่งใดก็ตามที่รัฐบาลเลือกที่จะกระทําหรือไม่กระทํา”
(1) Thomas R. Dye
(2) David Easton
(3) Woodrow Wilson
(4) William Dunn
(5) ดร.อมร รักษาสัตย์
ตอบ 1 หน้า 1 Thomas R. Dye กล่าวว่า “นโยบายสาธารณะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวหรือกิจกรรมหรือสิ่งใดก็ตามที่รัฐบาลเลือกที่จะกระทําหรือไม่กระทํา และเกี่ยวข้องกับเหตุผลว่าทําไมจึงเลือกเช่นนั้น”
24 ข้อใดเป็นลักษณะเด่นของนโยบายสาธารณะในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ที่แตกต่างจากแผนอื่น
(1) เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยแยกจากกันให้ชัดเจน
(2) เน้นการกระจายรายได้และการถือครองทรัพย์สิน
(3) เน้นการพัฒนาจิตใจ วัฒนธรรม และสังคม
(4) เน้นการพัฒนาการบริหารและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
(5) เป็นการพัฒนาคนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและเศรษฐกิจพอเพียง ตอบ 5 (คําบรรยาย) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) เป็นการวางแผนที่ยังคงน้อมนําและประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่าง มีส่วนร่วม การพัฒนาที่ยึดหลักสมดุล ยั่งยืน โดยให้ความสําคัญกับการกําหนดทิศทางการพัฒนา ที่มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
25 หน่วยงานใดมีหน้าที่กําหนดนโยบายสาธารณะและวางแผนพัฒนาประเทศไทยในปัจจุบัน
(1) กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท
(2) กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม
(3) สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง
(4) สํานักงาน ก.พ.
(5) สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ปัจจุบันการกําหนดนโยบายสาธารณะและการวางแผนพัฒนาประเทศของไทยจะอยู่ในความรับผิดชอบของ “สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่ข้อ 26 – 30. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
หากสรุปว่ากระบวนการของแผนประกอบด้วยกระบวนการ ได้แก่
(1) กําหนดปัญหา
(2) ตั้งเป้าหมาย
(3) ศึกษาวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม
(4) ลงมือวางแผน
(5) ประเมินผล
26 ขั้นตอนใดที่เราจะได้รับแผนที่สมบูรณ์
ตอบ ไม่มีข้อใดถูก (คําบรรยาย) อาจสรุปได้ว่ากระบวนการของแผน ประกอบด้วย 7 กระบวนการ ดังนี้
1 กําหนดปัญหา
2 การตั้งเป้าหมาย/วัตถุประสงค์
3 การศึกษาวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม
4 ลงมือวางแผน เป็นการลงมือเขียนแผนให้ถูกต้อง โดยหน้าที่ของผู้วางแผนจะสิ้นสุดที่กระบวนการนี้
5 การประเมินแผน เป็นกระบวนการที่เราจะได้รับแผนที่สมบูรณ์ โดยการศึกษาวิเคราะห์ แผนว่ามีความสมบูรณ์ เหมาะสมที่จะนําไปปฏิบัติได้จริงหรือไม่ จากนั้นจึงนําเสนอแผนให้ ผู้มีอํานาจพิจารณาอนุมัติ เพื่อนําแผนไปปฏิบัติ
6 การนําแผนไปปฏิบัติ เป็นกระบวนการที่ทําให้เกิดผลงานที่ประชาชนใช้ประโยชน์ได้
7 การประเมินผล (Evaluation) เป็นกระบวนการที่ทําให้ทราบถึงผลสําเร็จและเก็บเป็นข้อมูลสะสม เพื่อการวางแผนในโอกาสต่อ ๆ ไป
27 หน้าที่ของผู้วางแผนจะสิ้นสุดที่กระบวนการใด
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ
28 กระบวนการใดต้องใช้ผู้ที่เชี่ยวชาญหลายสาขามากที่สุด
ตอบ 4 หน้า 27 งานวางแผนเป็นงานระดับกลุ่ม ดังนั้นการลงมือวางแผนจึงต้องประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ สาขามาร่วมกันสร้างแผน โดยมีนักวางแผนเป็นผู้ประสานให้การวางแผนไปสู่จุดหมายร่วมกันขององค์การได้
29 กระบวนการใดทําให้เกิดผลงานที่ประชาชนใช้ประโยชน์ได้
ตอบ ไม่มีข้อใดถูก ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ
30 กระบวนการใดทําให้ได้รับข้อมูลสะสมเพื่อการวางแผนในโอกาสต่อ ๆ ไป
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 26 ประกอบ
ตั้งแต่ข้อ 31 – 35 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Alternative
(2) Social Analysis
(3) Feasibility Study
(4) Financial Analysis
(5) Process
31 การวิเคราะห์ประเมินโครงการไม่ใช่ราชการ
ตอบ 4 หน้า 40 การวิเคราะห์และประเมินโครงการด้านการเงิน (Financial Analysis) เป็นแนวทางการประเมินโครงการทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายกับ ผลประโยชน์ที่ได้รับ (Cost-Benefit) เพื่อดูว่าโครงการที่จัดทําขึ้นมานั้นมีลักษณะคุ้มทุนหรือไม่
32 สอดคล้องเหมาะสมกับขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม
ตอบ 2 หน้า 41, (คําบรรยาย) การวิเคราะห์และประเมินโครงการด้านสังคม (Social Analysis)จะพิจารณาในประเด็นดังต่อไปนี้
1 ความเหมาะสมสอดคล้องต้องกันระหว่างแนวทางของโครงการกับปัจจัยทางสังคม เช่น ศาสนา การศึกษา ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม กฎหมาย การเมืองและการปกครอง เป็นต้น
2 โอกาสที่สังคมจะยอมรับ/สนับสนุน หรือต่อต้าน/คัดค้านโครงการ
33 ประเมินดู Cost – Benefit
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 31 ประกอบ
34 กระบวนการต่าง ๆ ทางวิชาการ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) กระบวนการ (Process) หมายถึง ขั้นตอนวิธีปฏิบัติ หรือกิจกรรมการดําเนินงานที่กระทําอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
35 ทางเลือกในการวางแผน โครงการ
ตอบ 1 (คําบรรยาย) ทางเลือก (Alternative) หมายถึง มาตรการหรือแนวทางการดําเนินงานที่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ ซึ่งอาจมีหลายทางเลือกในการบรรลุวัตถุประสงค์หนึ่ง ๆ
ตั้งแต่ข้อ 36 – 40 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Looking Ahead
(2) Making Choices
(3) Actions
(4) Setting Limits
(5) Desired end State
36 การนําไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ
37 Vision ตอบ 1 หน้า 25 Albert Waterston กล่าวว่า “การวางแผนทุกชนิดจะต้องมีลักษณะร่วมกันหลายประการ เช่น ต้องประกอบด้วยการมองล่วงหน้า (Looking Ahead) ต้องมีทางเลือก (Making Choices) และหากเป็นไปได้ต้องจัดเตรียมวิธีการกระทํา (Actions) ที่แน่นอน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หรืออย่างน้อยที่สุดต้องกําหนดข้อจํากัด (Setting Limits) ที่อาจจะเกิดจากการกระทําดังกล่าวไว้ด้วย”
38 จะต้องมีทางเลือก
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 37 ประกอบ
39 การจัดเตรียมวิธีการกระทํา
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 37 ประกอบ
40 การกําหนดข้อจํากัด
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 37 ประกอบ
ตั้งแต่ข้อ 41 – 45 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Targets
(2) Vision
(3) Obstructions
(4) Strategies
(5) Tactics
41 การมองไปในอนาคต
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบ
42 การที่หน่วยงานตกลงกําหนดเป้าหมาย
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบ
43 ข้อจํากัดที่เกิดขึ้นในอนาคต
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบ
44 กําหนดทางเดินที่จะต้องไปสู่เป้าหมายให้ได้
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบ
45 การร่วมกันกําหนดกลวิธีให้สอดคล้องกับแผนที่วางไว้
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 10 ประกอบ
ตั้งแต่ข้อ 46 – 50 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) การระบุปัญหา
(2) การศึกษาข้อจํากัดที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย
(3) การออกแบบทางเลือกนโยบาย
(4) การวิเคราะห์ทางเลือก
(5) การทดสอบทางเลือก
46 การตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระเบียบต่าง ๆ ที่ใช้เทคนิควิเคราะห์ และการประยุกต์ทั้งหลายเป็นระบบ
ตอบ 5 หน้า 14 การทดสอบทางเลือก คือ การทบทวนความเหมาะสมของขั้นตอนและข้อมูลที่ใช้ทั้งทางด้านหลักการ เหตุผลทางเลือกนโยบาย คุณภาพและปริมาณของข้อมูลว่ายังพอเพียง และดีอยู่ ตลอดจนตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระเบียบวิธีต่าง ๆ ที่ใช้ เทคนิควิธีวิเคราะห์และการประยุกต์ทั้งหลายว่าเป็นระบบและสอดคล้องต้องกันอย่างแท้จริง
47 กําหนดทางเลือกซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และรวบรวมทางเลือกทุก ๆ ทางเลือกให้ครบถ้วน
ตอบ 3 หน้า 13 การออกแบบทางเลือกนโยบาย คือ การใช้ความรู้ ประสบการณ์ของผู้กําหนดนโยบายร่วมกับข้อมูลที่รวบรวมและการวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เพื่อกําหนดว่าทางเลือกซึ่งเป็นแนวทาง ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้นั้นควรเป็นทางเลือกใดบ้าง โดยพิจารณาว่ามีทางเลือกใดที่สามารถ ปฏิบัติตามแล้วให้ผลสําเร็จดังวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ได้บ้าง ซึ่งในขั้นนี้ต้องรวบรวมทางเลือกทุก ๆ ทางเลือกที่เป็นไปได้ให้ครบถ้วน
48 ศึกษาถึงความเหมาะสมระหว่างทางเลือกกับสภาพแวดล้อม รวมทั้งศึกษาถึงประโยชน์ ข้อดี ข้อเสีย
ตอบ 4 หน้า 14 การวิเคราะห์ทางเลือก คือ การนําเอาทางเลือกที่มีทั้งหมดมาทําการศึกษาถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในเเต่ละทางเลือกทีละทางเลือก เช่น ศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ศึกษาถึงความเหมาะสมระหว่างทางเลือกกับสถานการณ์แวดล้อม ศึกษาถึงผลประโยชน์ ข้อดี ข้อเสียของแต่ละทางเลือก ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับทางเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุด
49 ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลจากสภาพที่แท้จริง หรือข้อมูลภาคสนาม หรือข้อมูลปฐมภูมิ ข้อมูลทุติยภูมิเพื่อจะทราบปัญหา
ตอบ 1 หน้า 12 การระบุปัญหา คือ การศึกษาว่าอะไรคือปัญหา โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากสถานที่จริงหรือข้อมูลภาคสนามหรือข้อมูลปฐมภูมิ หรือข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ หรือข้อมูล ทุติยภูมิ เพื่อที่จะทราบปัญหาและจําแนกว่าปัญหาใดเร่งด่วนกว่า มีสาเหตุจากอะไร และ ประชาชนรับรู้เพียงใด ดังนั้นโดยสรุป การระบุปัญหาก็คือ การศึกษาวิเคราะห์เพื่อกําหนด ปัญหาที่ถูกต้องและศึกษาค่านิยมที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกับปัญหาเพื่อกําหนดแนวทางของนโยบายที่เหมาะสมกับความเป็นจริงต่อไป
50 ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์จากนโยบาย รวมทั้งการยอมรับต่อนโยบาย
ตอบ 2 หน้า 13 การศึกษาข้อจํากัดที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย คือการศึกษาข้อจํากัดด้านต่าง ๆ ดังนี้
1 ข้อมูล
2 ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์จากนโยบาย
3 การรับรู้และการยอมรับต่อนโยบาย
4 สิ่งแวดล้อมทั่วไป
ตั้งแต่ข้อ 51 – 55 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Integration
(2) Dynamic
(3) Subjectivity
(4) Artificiality
(5) ปัญหามีตัวตนและมีโครงสร้างชัดเจน
51 เป็นปัญหาที่ไม่มีรูปร่างหรือลักษณะใด ๆ อย่างแน่ชัดว่าคือปัญหา ทั้ง ๆ ที่ความจริงมีปัญหาแล้ว
ตอบ 4 หน้า 9 ปัญหาที่มีลักษณะไม่มีตัวตนที่แท้จริง (Artificiality) หมายถึง ปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่างหรือลักษณะใด ๆ อย่างแน่ชัดว่าคือปัญหา ทั้ง ๆ ที่ความจริงมีปัญหาแล้ว ซึ่งปัญหานั้นอาจเป็นที่ยอมรับหรือตระหนักได้ของคนบางกลุ่มบางหมู่ในขณะที่บางกลุ่มอาจไม่ยอมรับก็ได้
52 ทางราชการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 ไม่มีที่ทําการต้องเช่าอาคารเอกชนเป็นที่ทําการชั่วคราว
ตอบ 5 หน้า 10 ปัญหาที่มีตัวตนและมีโครงสร้างชัดเจนแน่นอน (Well-Structured Problem) หมายถึง ปัญหาที่มีผลลัพธ์แน่นอน มีผู้เกี่ยวข้องจํานวนน้อย มีทางออกในการแก้ไขปัญหา เพียงไม่กี่ทางเลือก (1 – 3 ทาง) ซึ่งแต่ละทางเลือกสามารถมองเห็นผลประโยชน์ของทางเลือก ได้ชัดเจน ไม่เป็นที่ถกเถียงกันได้แต่อย่างใด เช่น ปัญหาในการจัดสร้างที่ทําการของหน่วยงานหรือองค์การ เป็นต้น
53 การที่ปัญหาอาจแปรเปลี่ยนลักษณะอาการไปได้ตามแรงกระตุ้นของสิ่งแวดล้อม
ตอบ 2 หน้า 9 ปัญหาที่มีความเป็นพลวัต (Dynamic) สูง หมายถึง การที่ปัญหาได้แปรเปลี่ยนลักษณะอาการไปตามแรงกระตุ้นของสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนําไปสู่การแปรเปลี่ยนให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกได้ ดังนั้นการกําหนดปัญหาของนโยบายจึงไม่มีข้อสรุปที่ถาวร
54 จะกําหนดนโยบายเศรษฐกิจจะต้องพิจารณาผลกระทบด้านเทคนิค การเมือง สังคม
ตอบ 1 หน้า 9 ปัญหาทั้งหลายมักมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน (Integration) อยู่เสมอ ดังนั้น ในการพิจารณาปัญหาของนโยบายจึงพิจารณาเพียงด้านหนึ่งด้านใดเป็นเอกเทศไม่ได้ เช่น ในการกําหนดนโยบายทางเศรษฐกิจจะพิจารณาเพียงปัจจัยทางเศรษฐกิจเท่านั้นไม่ได้ จะต้อง พิจารณาถึงปัจจัยทางด้านการเมือง สังคม หรืออื่น ๆ อีกตามแต่สถานการณ์ที่เผชิญอยู่
55 การมีความหมายในตัวของปัญหาเอง
ตอบ 3 หน้า 9 ปัญหาที่มีลักษณะเป็นอัตนัย (Subjectivity) สูง หมายถึง ในปัญหาหนึ่ง ๆ นั้นต่างก็มีความหมายในตัวของปัญหาเอง ขึ้นอยู่กับผู้รับรู้หรือผู้กําหนดนโยบายว่าจะสามารถรับรู้ หรือตระหนักได้ถึงความเป็นปัญหาหรือไม่ ซึ่งความเป็นอัตนัยของปัญหานี้เองที่เป็นเหตุให้เกิด การรับรู้ปัญหาได้ไม่เท่าเทียมกันในหมู่ประชาชน ทั้งนี้เพราะปัญหาที่คนคนหนึ่งตระหนักได้อาจเป็นปัญหาที่คนอื่น ๆ อาจยังไม่ตระหนักถึงก็ได้
ตั้งแต่ข้อ 56 – 60 จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) การก่อรูปของนโยบาย
(2) การกำหนดนโยบาย
(3) การวิเคราะห์นโยบาย
(4) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(5) การติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบาย
56 คํานึงถึงแนวทางการปฏิบัติที่มีศักยภาพอันนําไปสู่การตอบสนองในปัญหาของนโยบายได้
ตอบ 2 หน้า 8, 16, (คําบรรยาย) การกําหนดนโยบาย (Policy Formulation) ประกอบด้วย
1 การกําหนดวัตถุประสงค์
2 การกําหนดทางเลือก ได้แก่ การวิเคราะห์ทางเลือกนโยบาย (Policy Alternative) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ถึงแนวทางปฏิบัติที่มีศักยภาพอันนําไปสู่การตอบสนองในปัญหาของนโยบายได้ โดยใช้การวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ (Cost-Benefit) เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
3 การจัดทําร่างนโยบาย เพื่อนําเสนอพิจารณาขออนุมัติ/ไม่อนุมัติและประกาศเป็นนโยบายต่อไป
57 การวิเคราะห์ข่าวสารในด้านความรู้เกี่ยวกับสภาพการณ์ หรือเงื่อนไขก่อนจะมีนโยบาย
ตอบ 1 หน้า 8, 16, (คําบรรยาย) การก่อรูปของนโยบาย (Policy Formation) เป็นขั้นตอนที่ผู้กําหนดนโยบายต้องทําความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยสําคัญในการกําหนดนโยบาย ก่อนที่จะ เริ่มกําหนดนโยบาย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนี้ ได้แก่ ปัญหาของนโยบาย สิ่งแวดล้อมของนโยบาย และขั้นตอนในการกําหนดนโยบาย โดยอาจมีการใช้เทคนิควิธี เช่น การวิเคราะห์สภาพปัญหา ของนโยบาย (Policy Problem) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข่าวสารในด้านความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์หรือเงื่อนไขก่อนจะมีนโยบาย
58 เป็นการวิเคราะห์ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามแนวทางที่เลือกแล้วของนโยบาย
ตอบ 3 หน้า 16, (คําบรรยาย) การวิเคราะห์นโยบาย (Policy Analysis) มีจุดสําคัญอยู่ที่การวิเคราะห์ผลกระทบของนโยบายเป็นสําคัญ โดยอาจมีการใช้เทคนิควิธี เช่น การวิเคราะห์ผลของนโยบาย (Policy Outcomes) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ถึงสิ่งซึ่งจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามแนวทางที่เลือกแล้วของนโยบาย
59 การวิเคราะห์ในแง่มุมที่ต้องอาศัยการประเมินและการพยากรณ์เป็นเครื่องมืออย่างมาก
ตอบ 4 หน้า 16 – 17, (คําบรรยาย) การนํานโยบายไปปฏิบัติ (Policy Implementation) เป็นขั้นตอนที่ทําให้เกิดผลลัพธ์ของนโยบายขึ้น โดยอาจมีการใช้เทคนิควิธี เช่น การวิเคราะห์แนวปฏิบัติ ของนโยบาย (Policy Action) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ถึงแนวทางหรือชุดของแนวทางที่เลือกสรร มาจากทางเลือกของนโยบายว่ามีความเหมาะสมจริงหรือไม่ ซึ่งการวิเคราะห์ในแง่มุมนี้ ต้องอาศัยการประเมินและการพยากรณ์เป็นเครื่องมืออย่างมาก
60 การวิเคราะห์ระดับความสามารถในการบรรลุถึงคุณค่าในการตอบสนองความต้องการของนโยบาย
ตอบ 5 หน้า 16, 20, (คําบรรยาย) การติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบาย (Policy Evaluation)เป็นการศึกษาผลของการปฏิบัติตามนโยบายว่าเป็นอย่างไร โดยอาจมีการใช้เทคนิควิธี เช่น การวิเคราะห์ผลสัมพัทธ์ของนโยบาย (Policy Performance) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ระดับ ความสามารถในการบรรลุถึงคุณค่าในการตอบสนองความต้องการของนโยบาย อันหมายถึง ผลลัพธ์ของนโยบายที่ทําให้กลุ่มบุคคลที่เป็นเป้าหมายได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่จึงแสดงว่านโยบายประสบความสําเร็จแล้ว
61 “การพิจารณาสภาพความต้องการสินค้าหรือบริการโดยรวม” เป็นการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของ โครงการในด้านใด
(1) ด้านสิ่งแวดล้อม
(2) ด้านการเงิน
(3) ด้านเทคนิค
(4) ด้านการตลาด
(5) ด้านเศรษฐกิจ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการในด้านการตลาด มีดังนี้
1 การพิจารณาสภาพความต้องการสินค้าหรือบริการโดยรวม
2 ศึกษาสภาพความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ
62 “การพิจารณาแหล่งที่มาของงบประมาณ” เป็นการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการในด้านใด
(1) ด้านสิ่งแวดล้อม
(2) ด้านการเงิน
(3) ด้านเทคนิค
(4) ด้านการตลาด
(5) ด้านเศรษฐกิจ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการในด้านการเงิน มีดังนี้
1 การพิจารณาแหล่งที่มาของงบประมาณ
2 การวิเคราะห์การใช้จ่ายทางการเงินล่วงหน้า ฯลฯ
63 “การเปรียบเทียบความเหมาะสมของโครงการกับโครงการอื่น ๆ ประเภทเดียวกัน” เป็นการประเมิน โครงการในด้านใด
(1) การประเมินโครงการในภาพรวม
(2) การประเมินด้านสิ่งแวดล้อม
(3) การประเมินด้านการตลาด
(4) การประเมินด้านการเงิน
(5) การประเมินด้านการจัดการ
ตอบ 1 (คําบรรยาย) การประเมินโครงการในภาพรวม (Project Appraisal) คือ
1 การเปรียบเทียบความเหมาะสมของโครงการกับโครงการอื่น ๆ ประเภทเดียวกัน โครงการนี้เหมาะสมกว่าหรือไม่
2 โครงการที่เสนอจะสามารถดําเนินการให้สําเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้หรือไม่ รวมทั้งจะบรรลุจุดมุ่งหมายของแผนงาน ตลอดจนนโยบายของหน่วยงานระดับสูงมากน้อยเพียงใด
64 EIA คืออะไร
(1) การวิเคราะห์ผลกระทบทั่วไปของโครงการ
(2) การประเมินผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมของโครงการ
(3) หลักการประเมินผลโครงการ
(4) หลักการบริหารงบประมาณโครงการ
(5) การจัดทําประชาพิจารณ์ก่อนการดําเนินโครงการ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) Environmental Impact Assessment : EIA คือ การประเมินผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมของโครงการในภาพรวม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของโครงการตามบรรทัดฐานที่กําหนด
65 ข้อใดเป็นวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาสังคม
(1) การจัดทําประชาพิจารณ์
(2) การประชาสัมพันธ์โครงการในชุมชน
(3) การสํารวจความต้องการของคนในชุมชน
(4) การจัดให้มีกล่องรับความคิดเห็นจากประชาชน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาสังคมอย่างกว้างขวาง อาจทําได้โดยวิธีดังนี้
1 การประชาสัมพันธ์โครงการในชุมชน
2 การสํารวจความต้องการของคนในชุมชน
3 การจัดให้มีกล่องรับความคิดเห็นจากประชาชน
4 การจัดทําประชาพิจารณ์
66 ความต้องการของผู้รับบริการจากองค์การภาครัฐในปัจจุบันเป็นอย่างไร
(1) ความต้องการเกินกว่าความสามารถในการตอบสนองของภาครัฐ
(2) ความต้องการมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
(3) ความต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
(4) บางครั้งความต้องการลดลงอย่างรวดเร็ว
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) สถานการณ์ที่ผู้บริหารองค์การภาครัฐต้องเผชิญอยู่เสมอ ได้แก่
1 ปัญหาทางการบริหารมีความสลับซับซ้อน ซึ่งหน่วยงานเดียวไม่สามารถจัดการกับปัญหาทางการบริหารได้ การละเลยการแก้ไขปัญหาจะนําความเสียหายมาสู่องค์การ และควรมีการจัดหน่วยงานโครงการเข้ามารับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา
2 ความต้องการของลูกค้าและผู้รับบริการมีความหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบางครั้งความต้องการเกินกว่าความสามารถในการตอบสนองของภาครัฐ
3 ทรัพยากรมีมูลค่าสูงขึ้น การใช้ทรัพยากรควรคํานึงถึงมูลค่าด้วย
4 การใช้เทคโนโลยีก้าวหน้ามีความจําเป็นและสําคัญมากขึ้น ควรคํานึงถึงเรื่องความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่จะใช้ และผลกระทบที่จะได้รับจากการใช้เทคโนโลยี
5 การเพิ่มความรวดเร็วและความถูกต้องในการให้บริการลูกค้า
6 การแข่งขันระหว่างกิจการต่าง ๆ มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
7 การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์
8 การเผชิญกับภาวะวิกฤติและความเสี่ยงต่าง ๆ
67 การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความรู้และวิทยาการของขั้นตอนต่าง ๆ เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ ของโครงการในด้านใด
(1) ด้านการจัดการ
(2) ด้านเทคนิค
(3) ด้านการตลาด
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 – 3
ตอบ 2 (คําบรรยาย) การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในด้านเทคนิค คือ เป็นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความรู้และวิทยาการของขั้นตอนต่าง ๆ อันจําเป็นต่อการทํางานในแต่ละกิจกรรมให้สมบูรณ์
68 กติกาใหม่ในการแข่งขันระหว่างประเทศได้แก่เรื่องใด
(1) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(2) ทรัพย์สินทางปัญญา
(3) สิทธิมนุษยชน
(4) ธรรมาภิบาล
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) กติกาใหม่ในการแข่งขันระหว่างประเทศได้แก่เรื่อง ดังนี้ 1 ทรัพย์สินทางปัญญา
2 สิทธิมนุษยชน
3 ธรรมาภิบาล
4 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
69 ทรัพยากรในการบริหารงานภาครัฐมีลักษณะอย่างไรในปัจจุบัน
(1) ทรัพยากรมีมูลค่าสูงขึ้นมาก
(2) การใช้ทรัพยากรควรคํานึงถึงมูลค่า
(3) ทรัพยากรมีลักษณะคงที่เหมือนเช่นในอดีต
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 2 และข้อ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 66 ประกอบ
70 ความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงในการบริหารโครงการ ได้แก่ข้อใด
(1) การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
(2) การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
(3) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
(4) การต่อต้านและคัดค้านโครงการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงในการบริหารโครงการ ได้แก่
1 การต่อต้านและคัดค้านโครงการ
2 การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
3 การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
4 การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
71 สิ่งที่จําเป็นที่สุดสําหรับการประเมินความไม่แน่นอนในการบริหารโครงการ คือข้อใด
(1) ข้อมูล
(2) เวลา
(3) ค่าใช้จ่าย
(4) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) สิ่งจําเป็นที่สุดสําหรับการประเมินความไม่แน่นอนในการบริหารโครงการก็คือเวลา เพราะแต่ละโครงการจะมีระยะเวลาเริ่มต้นและระยะเวลาเสร็จสิ้นโครงการที่แน่นอน
72 การแข่งขันระหว่างกิจการต่าง ๆ ในปัจจุบันมีความเข้มข้นมากในเรื่องใด
(1) องค์การระหว่างประเทศมีบทบาทมากขึ้น
(2) มีตลาดใหม่เกิดขึ้นเป็นจํานวนมาก
(3) มีการใช้เครือข่ายการสื่อสารมวลชนมากขึ้น
(4) มีกติกาหรือข้อตกลงใหม่ที่จะต้องปฏิบัติตามมากขึ้น
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การแข่งขันระหว่างกิจการต่าง ๆ ในปัจจุบันมีความเข้มข้นมากในเรื่อง ดังนี้
1 มีตลาดใหม่เกิดขึ้นเป็นจํานวนมาก
2 มีการใช้เครือข่ายการสื่อสารมวลชนมากขึ้น
3 องค์การระหว่างประเทศมีบทบาทมากขึ้น
4 มีกติกาหรือข้อตกลงใหม่ที่จะต้องปฏิบัติตามมากขึ้น
73 โครงการประเภท “ปรับปรุงและแก้ไขปัญหา” ได้แก่ข้อใด
(1) การใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น
(2) การแก้ไขปัญหาครอบครัว
(3) การจัดหน่วยบริการประชาชนนอกสถานที่ทํางาน
(4) การแก้ไขปัญหาส่วนตัว
(5) การสร้างอาคารสํานักงานใหม่
ตอบ 3 (คําบรรยาย) ประเภทของโครงการ จําแนกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1 โครงการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหา เช่น โครงการ One Stop Service เป็นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว และการจัดหน่วยบริการประชาชนนอกสถานที่ทํางาน
2 โครงการริเริ่มหรือนวัตกรรม เช่น การเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่การสร้างอาคารสํานักงานใหม่ การให้บริการทางอินเตอร์เน็ต และการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องจักรใหม่
3 โครงการวิจัยและพัฒนา มีลักษณะเป็นโครงการใหม่หรือโครงการบุกเบิก อาจใช้ชื่อเรียกว่าโครงการนําร่อง (Plot Project) หรือเป็นโครงการค้นคว้าทดลอง
74 โครงการประเภท “ริเริ่มหรือนวัตกรรม” ได้แก่ข้อใด
(1) การให้บริการทางอินเตอร์เน็ต
(2) การเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่
(3) การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่
(4) การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรใหม่
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 73 ประกอบ
75 โครงการประเภท “วิจัยและพัฒนา” มีลักษณะอย่างไร
(1) เป็นโครงการบุกเบิก
(2) เป็นโครงการนําร่อง
(3) เป็นโครงการค้นคว้าทดลอง
(4) ข้อ 1 – 3
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 73 ประกอบ
76 ขั้นตอนแรกของการวางแผนโครงการ คือ
(1) การจัดทําข้อเสนอโครงการ
(2) การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการ
(3) การกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
(4) การคิดค้นทางเลือก
(5) การรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ขั้นตอนของการวางแผนโครงการ มีดังนี้
1 การรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทําให้รับรู้ถึงปัญหาและความต้องการต่าง ๆ และสามารถประเมิน สถานการณ์ที่แท้จริงได้อย่างถูกต้อง
2 การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการ
3 การกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย คือ การระบุสภาพของผลลัพธ์ที่ต้องการจะให้เกิดขึ้น
4 การเสนอเพื่อพิจารณา จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ
5 การคิดค้นทางเลือก เป็นขั้นตอนที่ต้องทํารายละเอียด 6W 2H
6 การวิเคราะห์เปรียบเทียบทางเลือก โดยการใช้ข้อมูลจากผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการมาพิจารณา
7การเสนอเพื่อพิจารณาอีกรอบหนึ่ง จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ
8 การจัดทําข้อเสนอโครงการ
77 เหตุผลที่จําเป็นต้องศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ คือ
(1) เพื่อประเมินว่าควรลงทุนในโครงการหรือไม่
(2) เพื่อกําหนดรายละเอียดในการวางแผนดําเนินงาน
(3) เพื่อกําหนดจุดเริ่มต้นโครงการ
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 และข้อ 3
ตอบ 4 (คําบรรยาย) เหตุผลที่จําเป็นต้องศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ คือ
1 เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งต่าง ๆ ที่กําหนดไว้ในโครงการมีความเป็นไปได้ที่จะประสบผลสําเร็จ ตามวัตถุประสงค์หรือไม่
2 เพื่อประเมินว่าควรลงทุนในโครงการหรือไม่
3 เพื่อกําหนดรายละเอียดในการวางแผนดําเนินงาน
78 ประเด็นที่ควรศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ได้แก่
(1) ด้านเทคนิค การจัดการ
(2) ด้านการตลาด การเงิน
(3) ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
(4) ด้านสิ่งแวดล้อม
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ประเด็นที่ควรศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ได้แก่ 1 การศึกษาด้านเทคนิคหรือด้านวิชาการ
2 การศึกษาด้านการจัดการ
3 การศึกษาด้านการตลาด
4 การศึกษาด้านการเงิน
5 การศึกษาด้านเศรษฐกิจ
6 การศึกษาด้านสังคมและการเมือง
7 การศึกษาด้านสภาพแวดล้อมและสภาวะนิเวศ
79 ข้อใดคือเครื่องชี้วัดความสําเร็จในการจัดการโครงการในระดับจุลภาค (1) บรรทัดฐานด้านเวลา
(2) บรรทัดฐานด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
(3) บรรทัดฐานด้านความพึงพอใจของผู้รับบริการ
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 และข้อ 3
ตอบ 5 (คําบรรยาย) เครื่องชี้วัดความสําเร็จในการจัดการโครงการในระดับจุลภาค มีดังนี้
1 บรรทัดฐานด้านความพึงพอใจของผู้รับบริการ
2 บรรทัดฐานด้านเวลา
3 บรรทัดฐานด้านการเงิน
4 บรรทัดฐานด้านประสิทธิผล
80 สถานการณ์ที่ผู้บริหารองค์การภาครัฐต้องเผชิญอยู่เสมอ ได้แก่
(1) หน่วยงานเดียวไม่สามารถจัดการกับปัญหาทางการบริหารได้
(2) ปัญหาทางการบริหารมีความสลับซับซ้อน
(3) การละเลยการแก้ไขปัญหาจะนําความเสียหายมาสู่องค์การ
(4) ควรจัดหน่วยงานโครงการเข้ามารับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 66 ประกอบ
81 สภาพแวดล้อมของการบริหารงานประจํา คือ
(1) สภาพแวดล้อมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากนัก
(2) สภาพแวดล้อมไม่สลับซับซ้อนจนเกินไป
(3) สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงมาก
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 2 และข้อ 3
ตอบ 4 (คําบรรยาย) สภาพแวดล้อมของการบริหารงานประจํา คือ สภาพแวดล้อมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากนัก และไม่สลับซับซ้อนจนเกินไป ซึ่งลักษณะของผู้ปฏิบัติงานในงานประจํามักจะมีทักษะเก่งงานด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว
82 ลักษณะของผู้ปฏิบัติงานในงานประจํา คือ
(1) ไม่จําเป็นต้องมีทักษะใด ๆ
(2) มีทักษะเก่งงานด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว
(3) มีทักษะรอบด้านในการทํางานให้สําเร็จ
(4) มีทักษะในการตัดสินใจ
(5) มีทักษะในด้านการใช้ภาษาในการสื่อสาร
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 81 ประกอบ
83 การใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงานควรคํานึงถึงเรื่องอะไร
(1) ควรประเมินความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่จะใช้
(2) เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงช้า จึงควรลงทุนในด้านเทคโนโลยี
(3) ควรคํานึงถึงผลกระทบที่จะได้รับจากการใช้เทคโนโลยี
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 และข้อ 3
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 66 ประกอบ
84 ลักษณะเฉพาะที่สําคัญของโครงการ คือ
(1) ผลลัพธ์ของโครงการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
(2) ขอบข่ายของงานมีลักษณะเป็นเอกเทศ แตกต่างจากงานประจํา
(3) มีองค์การรับผิดชอบโดยเฉพาะ
(4) องค์การที่รับผิดชอบทําหน้าที่เป็นการชั่วคราว
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ลักษณะเฉพาะของโครงการ มีดังนี้
1 ขอบข่ายของงานมีลักษณะเป็นเอกเทศหรือมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากงานประจํา
2 มีองค์การรับผิดชอบในการจัดการ โดยเฉพาะ และทําหน้าที่เป็นการชั่วคราว
3 ในการจัดการโครงการ ผู้บริหาร และทีมงานโครงการต้องพร้อมที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่าง ๆ เสมอ
4 ในการจัดการโครงการ ผู้บริหารโครงการต้องคํานึงถึงข้อจํากัดด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และคุณภาพตามที่กําหนดไว้ในเงื่อนไขของโครงการ
5 ในการจัดการโครงการ จําเป็นต้องเน้นความสําคัญของการบูรณาการกับองค์การหลักหรือหน่วยงานหลักของเจ้าของโครงการ
85 เงื่อนไขของโครงการ (Terms of Reference : TOR) ประกอบด้วยอะไรบ้าง
(1) วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ทางเลือกในการดําเนินงาน ประมาณการทรัพยากร
(2) วัตถุประสงค์ ทางเลือกในการดําเนินงาน ประมาณการทรัพยากร
(3) วัตถุประสงค์ บุคลากรที่รับผิดชอบ ประมาณการทรัพยากร อายุโครงการ
(4) วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ประมาณการทรัพยากร อายุโครงการ
(5) วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ทางเลือกในการดําเนินงาน ประมาณการทรัพยากร แหล่งที่มาของทรัพยากรอายุโครงการ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) เงื่อนไขของโครงการ (Terms of Reference : TOR) ประกอบด้วย วัตถุประสงค์เป้าหมาย ทางเลือกในการดําเนินงาน ประมาณการทรัพยากร แหล่งที่มาของทรัพยากร และอายุโครงการ
86 ขั้นตอนสุดท้ายของวงจรโครงการของภาครัฐ คือ
(1) การอนุมัติโครงการ
(2) การลงทุนในโครงการ
(3) การส่งมอบงานโครงการ
(4) การประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข
(5) การจัดทําข้อเสนอโครงการ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) วงจรโครงการขององค์การภาครัฐ มี 4 ขั้นตอน ดังนี้
1 การวางแผน การประเมิน และการจัดทําข้อเสนอโครงการ ประกอบด้วย 1.1 การกําหนดแนวคิดโครงการ เช่น การกําหนดเงื่อนไขของโครงการ (Terms of Reference : TOR)
1.2 การศึกษาความเป็นไปได้และประเมินโครงการ ซึ่งมีประโยชน์เพื่ออนุมัติโครงการให้มีการดําเนินการต่อไปได้หรือไม่
1.3 การจัดทําข้อเสนออันเป็นรายละเอียด หรือการออกแบบโครงการ
2 การคัดเลือก การอนุมัติ และการเตรียมความพร้อม
3 การปฏิบัติการ การควบคุม การยุติและส่งมอบ เช่น การนําโครงการขององค์การภาครัฐไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นการทํางานของผู้จัดโครงการและผู้ร่วมงาน
4 การประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข เช่น การวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการ
87 ข้อกําหนดเงื่อนไขโครงการ (TOR) พัฒนามาจากข้อใด
(1) แนวคิดโครงการ
(2) การดําเนินโครงการ
(3) การวางแผนและวิเคราะห์โครงการ
(4) การควบคุมงาน
(5) การส่งมอบโครงการ
ตอบ 1 (คําบรรยาย) การกําหนดแนวคิดโครงการของภาคเอกชน จะถูกกําหนดโดยเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูง ซึ่งการกําหนดแนวคิดโครงการจะเป็นจุดศูนย์กลางของวงจรโครงการ ของภาคเอกชน รวมถึงข้อกําหนดเงื่อนไขโครงการ (Terms of Reference : TOR) ก็พัฒนามาจากแนวคิดโครงการ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของเจ้าของกิจการ
88 ขั้นตอนแรกของวงจรโครงการขององค์การภาครัฐ ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
(2) การเตรียมความพร้อมของโครงการ
(3) การกําหนด TOR
(4) การจัดทําข้อเสนอโครงการ
(5) การออกแบบโครงการ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 86 ประกอบ
89 สิ่งที่จําเป็นสําหรับข้อเสนอโครงการด้านการก่อสร้างที่แตกต่างจากโครงการชนิดอื่น คือ
(1) การจัดทําพิมพ์เขียวการก่อสร้าง
(2) การประมวลสถานการณ์แวดล้อม
(3) การกําหนดคุณลักษณะเฉพาะของงาน มาตรฐานของอุปกรณ์
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 และข้อ 3
ตอบ 5 (คําบรรยาย) สิ่งจําเป็นสําหรับข้อเสนอโครงการด้านการก่อสร้างที่แตกต่างจากโครงการชนิดอื่นคือ การจัดทําพิมพ์เขียวการก่อสร้าง และการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะของงาน มาตรฐานของอุปกรณ์ไว้อย่างชัดเจน
90 การเตรียมความพร้อมที่สําคัญของโครงการขององค์การภาครัฐ คือ
(1) การจัดทําแผนการดําเนินงานล่วงหน้า
(2) การจัดทําแนวทางการประเมินผล
(3) การจัดทําแผนกําลังคน
(4) การจัดทําแผนการเงิน
(5) การจัดทําแผนดําเนินงาน แผนเงิน และแผนกําลังคน
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การเตรียมความพร้อมที่สําคัญของโครงการขององค์การภาครัฐคือ การจัดทําแผนดําเนินงาน แผนเงิน และแผนกําลังคน
91 การกลั่นกรองข้อเสนอโครงการภาครัฐ ต้องตรวจสอบประเด็นอะไรบ้าง (1) เหตุผลความจําเป็นของโครงการ
(2) วัตถุประสงค์ของโครงการ
(3) ความสอดคล้องของโครงการกับแผนพัฒนาประเทศ
(4) ความเหมาะสมของการศึกษาความเป็นไปได้
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การกลั่นกรองข้อเสนอโครงการภาครัฐ ต้องตรวจสอบประเด็น ดังนี้
1 เหตุผลความจําเป็นของโครงการ
2 วัตถุประสงค์ของโครงการ
3 ความสอดคล้องของโครงการกับแผนพัฒนาประเทศ
4 ความเหมาะสมของการศึกษาความเป็นไปได้
92 การนําโครงการขององค์การภาครัฐไปปฏิบัติเป็นการทํางานของผู้ใด
(1) ปลัดกระทรวง
(2) อธิบดี
(3) ผู้จัดการโครงการ
(4) ข้าราชการระดับล่าง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 86 ประกอบ
93 การวัดความสําเร็จหรือความล้มเหลวของโครงการอยู่ในขั้นตอนใด
(1) การวางแผนและวิเคราะห์โครงการ
(2) การประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข
(3) การบริหารโครงการ
(4) การปรับปรุงนโยบายและแผนงาน
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 86 ประกอบ
94 ปัญหา “การจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน” เป็นปัญหาประเภทใด
(1) ปัญหาทั่วไป
(2) ปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข
(3) ปัญหาในเชิงป้องกัน
(4) ปัญหาที่ต้องการสร้างโอกาสในการพัฒนา
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) ปัญหาแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
1 ปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เช่น ปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน ปัญหาน้ำท่วม
2 ปัญหาในเชิงป้องกัน
3 ปัญหาที่ต้องการสร้างโอกาสในการพัฒนา
95 การกําหนดปัญหาและสาเหตุของปัญหา จะทําได้โดยวิธีใด
(1) วิเคราะห์ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้
(2) คาดการณ์ถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น
(3) ใช้วิธีการหยั่งรู้
(4) สอบถามผู้บริหารระดับสูง
(5) สอบถามผู้ปฏิบัติงาน
ตอบ 1 (คําบรรยาย) การกําหนดปัญหาและสาเหตุของปัญหา จะทําได้โดยการวิเคราะห์ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้ เพื่อยืนยันความชัดเจนของปัญหาในอดีตจนถึงปัจจุบัน และศึกษาดูว่า เป็นปัญหาอะไร เป็นปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือเป็นปัญหาในเชิงป้องกัน หรือเป็นปัญหาที่ต้องการสร้างโอกาสในการพัฒนา
96 6W 2H คืออะไร
(1) เทคนิคการวางแผนโครงการ
(2) เทคนิคการประเมินผลโครงการ
(3) เทคนิคการริเริ่มโครงการ
(4) การจัดวางรายละเอียดของวิธีการวางแผนโครงการ
(5) เทคนิคการตรวจรับโครงการ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) 6W 2H คือ การจัดวางรายละเอียดของวิธีการวางแผนโครงการ ซึ่งเป็นการตอบคําถามต่าง ๆ ดังนี้
1 Why (จะทําทําไม) คือ การอธิบายถึงหลักการและเหตุผล ของโครงการ การกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ (ได้แก่ SMART Principle) การระบุตัวชี้วัดด้านเวลา ด้านปริมาณงานและคุณภาพของงาน
2 What (จะทําอะไร) คือ การระบุกิจกรรมหลักที่ต้องทํา
3 When (จะทําเมื่อไหร่) คือ การกําหนดกรอบเวลาในการดําเนินโครงการ 4 Where (จะทําที่ไหน) คือ การพิจารณาสถานที่ดําเนินโครงการ
5 Who (จะทําโดยใคร) คือ การคาดการณ์กําลังคนที่ต้องการ
6 Whom (จะทําเพื่อใคร) คือ กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผล
7 How (จะทําอย่างไร) คือ กฎระเบียบ เทคโนโลยีและมาตรการปฏิบัติงาน
8 How Much (จะจ่ายเท่าไหร่) คือ งบประมาณ ค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม
97 การตอบคําถาม “ทําไม” ในกระบวนการวางแผนโครงการรวมถึงขั้นตอนใด
(1) การอธิบายถึงหลักการและเหตุผลของโครงการ
(2) การกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
(3) การระบุตัวชี้วัดด้านเวลา
(4) การระบุตัวชี้วัดด้านปริมาณงานและคุณภาพของงาน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 96 ประกอบ
98 SMART Principle เป็นหลักการในเรื่องใด
(1) การกําหนดคุณสมบัติผู้รับผิดชอบโครงการ
(2) การกําหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
(3) การกําหนดรายละเอียดของโครงการ
(4) การกําหนดหลักการการประเมินผลโครงการ
(5) การกําหนดคุณภาพของโครงการ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 96 ประกอบ
99 การตอบคําถาม “อะไร” ในกระบวนการวางแผนโครงการรวมถึงขั้นตอนใด
(1) การพิจารณาสถานที่ดําเนินโครงการ
(2) การอธิบายหลักการและเหตุผลของโครงการ
(3) การกําหนดกรอบเวลาในการดําเนินโครงการ
(4) การคาดการณ์กําลังคนที่ต้องการ
(5) การระบุกิจกรรมตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสุดท้าย
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 96 ประกอบ
100 การตอบคําถาม “ใคร” ในกระบวนการวางแผนโครงการรวมถึงขั้นตอนใด
(1) การพิจารณาสถานที่ดําเนินโครงการ
(2) การอธิบายหลักการและเหตุผลของโครงการ
(3) การกําหนดกรอบเวลาในการดําเนินโครงการ
(4) การคาดการณ์กําลังคนที่ต้องการ
(5) การระบุกิจกรรมตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสุดท้าย
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 96 ประกอบ
101 ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงในการวางแผนโครงการจะให้ผลลัพธ์อะไร
(1) รับรู้ถึงปัญหาและความต้องการต่าง ๆ
(2) สามารถประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงได้อย่างถูกต้อง
(3) สามารถทราบถึงความสําเร็จของการดําเนินงาน
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 – 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 76 ประกอบ
102 การกําหนดวัตถุประสงค์ในการวางแผนโครงการ คือข้อใด
(1) การกําหนดบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน
(2) การระบุสภาพของผลลัพธ์ที่ต้องการจะให้เกิดขึ้น
(3) การกําหนดตัวชี้วัดของผลการปฏิบัติงาน
(4) การกําหนดระยะเวลาการดําเนินงานโครงการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 76 ประกอบ
103 การวิเคราะห์เปรียบเทียบทางเลือกในการแก้ไขปัญหา จะใช้ข้อมูลอะไรมาพิจารณา
(1) ข้อมูลภายในองค์การที่รับผิดชอบดําเนินงานโครงการ
(2) ข้อมูลจากผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
(3) ข้อมูลจากการสํารวจความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(4) ข้อมูลจากความคิดเห็นของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานโครงการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 76 ประกอบ
104 “ความคิดสร้างสรรค์” จําเป็นสําหรับขั้นตอนใด
(1) การวิเคราะห์โครงการ
(2) การคิดทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
(3) การริเริ่มโครงการ
(4) การดําเนินโครงการ
(5) การประเมินผลโครงการ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) การใช้ความคิดสร้างสรรค์ จําเป็นสําหรับขั้นตอนการคิดทางเลือกในการแก้ไขปัญหา ดังนี้
1 ความรู้ที่ประมวลจากประสบการณ์ หรือเป็นความรู้ตามสัญชาตญาณของเรา ซึ่งเรียกกันสั้น ๆ ว่าเป็น “ชั่วโมงบิน”
2 ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ในองค์การ เช่น การเรียนรู้จากการสอนงาน การให้คําแนะนําการสาธิต การฝึกอบรม การวิจัยและการพัฒนาในองค์การ
3 การเรียนรู้จากผู้อื่น เช่น เรียนรู้ความสําเร็จของกิจการชั้นนํา การศึกษาดูงาน
4 การเรียนรู้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ เช่น การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมทั้งภายในภายนอกองค์การ
105 ความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ในองค์การ ได้แก่อะไร
(1) การฝึกอบรม
(2) การสอนงาน
(3) การให้คําแนะนํา
(4) การสาธิต
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 104 ประกอบ
106 การเรียนรู้จากผู้อื่น จะเรียนรู้ในเรื่องใด
(1) เรียนรู้ความล้มเหลมขององค์การประเภทเดียวกัน
(2) เรียนรู้ความสําเร็จของกิจการชั้นนํา
(3) การศึกษาดูงาน
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 2 และ ข้อ 3
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 104 ประกอบ
107 ปัญหา “การบริการประชาชนด้านการจดทะเบียนและการขออนุญาตล่าช้ากว่ากําหนดและมีความผิดพลาด”อาจมีสาเหตุมาจากข้อใด
(1) พนักงานใหม่ขาดการอบรมให้มีทักษะในการปฏิบัติงาน
(2) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ชํารุด ซอฟต์แวร์ไม่ทันสมัย
(3) ขั้นตอนการทํางานเยิ่นเย้อ ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่
(4) ขาดคู่มือและคําแนะนําประชาชนในการมาขอรับบริการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ปัญหาการบริการประชาชนด้านการจดทะเบียนและการขออนุญาตล่าช้ากว่ากําหนดและมีความผิดพลาด มีสาเหตุดังนี้
1 พนักงานใหม่ขาดการอบรมให้มีทักษะ ในการปฏิบัติงาน
2 อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ชํารุด ซอฟต์แวร์ไม่ทันสมัย
3 ขั้นตอนการทํางานเยิ่นเย้อ ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่
4 ขาดคู่มือและคําแนะนําประชาชนในการมาขอรับบริการ
108 การพิจารณาความเหมาะสมในการประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการ ควรครอบคลุมเรื่องใด
(1) อัตราเงินเฟ้อ
(2) ค่าดอกเบี้ยระหว่างการดําเนินโครงการ
(3) ค่าภาษีนําเข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ
(4) เงินทุนหมุนเวียนในการดําเนินโครงการ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) การพิจารณาความเหมาะสมในการประมาณการค่าใช้จ่ายโครงการ ควรครอบคลุมถึงเรื่องค่าดอกเบี้ยระหว่างการดําเนินโครงการ ค่าภาษีนําเข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ อัตราเงินเฟ้อ และเงินทุนหมุนเวียนในการดําเนินโครงการ เพราะงบประมาณโครงการมีจํากัดตามวงเงินที่กําหนดไว้
109 ผู้มีบทบาทใหม่ในการแข่งขันระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ข้อใด
(1) องค์การการค้าโลก
(2) บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดําเนินธุรกิจข้ามชาติ
(3) องค์การพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ
(4) ข้อ 1 – 3
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ผู้มีบทบาทใหม่ในการแข่งขันระหว่างประเทศในศตวรรษที่ 21 ได้แก่
1 องค์การการค้าโลก
2 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ดําเนินธุรกิจข้ามชาติ
3 องค์การพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ
110 ผลประโยชน์ของโครงการจะพิจารณาอย่างไร
(1) พิจารณาว่าผลประโยชน์เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายใด
(2) พิจารณาเฉพาะสิ่งที่เป็นตัวเงิน
(3) พิจารณาเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ข้อ 1 และข้อ 3
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ผลประโยชน์ของโครงการ จะพิจารณาในเรื่องดังนี้
1 พิจารณาว่าผลประโยชน์เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายใด
2 พิจารณาเฉพาะสิ่งที่จับต้องได้
111 ขั้นตอนสําคัญในการดําเนินโครงการของภาคเอกชน คือ
(1) การจัดการโครงการของสํานักงานโครงการ
(2) การจัดทําแผนดําเนินงาน
(3) การจัดตั้งองค์กรโครงการ
(4) การควบคุมงาน
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ขั้นตอนสําคัญในการดําเนินโครงการของภาคเอกชน คือ การจัดทําแผนดําเนินงาน (Operation Plan) มีการจัดตั้งองค์กรโครงการ มีการจัดการโครงการของ สํานักงานโครงการ และมีผู้จัดการโครงการ (Project Manager) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก รวมถึงการควบคุมงาน เป็นต้น
112 ข้อใดเป็นขั้นตอนการยุติและส่งมอบโครงการที่เรียงลําดับถูกต้อง
(1) การส่งผลงาน การตรวจการจ้าง การตรวจรับงาน การปิดโครงการ
(2) การตรวจการจ้าง การส่งผลงาน การตรวจรับงาน การปิดโครงการ
(3) การปิดโครงการ การตรวจการจ้าง การตรวจรับงาน การส่งผลงาน
(4) การตรวจรับงาน การปิดโครงการ การตรวจการจ้าง การส่งผลงาน
(5) การปิดโครงการ การส่งผลงาน การตรวจรับงาน การตรวจการจ้าง
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ขั้นตอนการยุติและส่งมอบโครงการ เรียงลําดับได้ดังนี้
1 การตรวจรับงาน
2 การปิดโครงการ
3 การตรวจการจ้าง
4 การส่งผลงาน
113 บันไดขั้นแรกที่มีผลต่อความสําเร็จของโครงการของภาคเอกชน คือข้อใด
(1) การกําหนด TOR
(2) การวางแผนโครงการ
(3) การวิเคราะห์โครงการ
(4) การตัดสินใจลงทุนในโครงการ
(5) การดําเนินงานโครงการ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) วงจรโครงการของภาคเอกชน มี 4 ขั้นตอน คือ
1 การกําหนดแนวคิดโครงการ
2 การวางแผนโครงการ ซึ่งเป็นบันไดขั้นแรกที่มีผลต่อความสําเร็จของโครงการ
3 การดําเนินงานโครงการ
4 การยุติและส่งมอบโครงการ
114 ข้อความในข้อใดที่ไม่ถูกต้อง
(1) โครงการขององค์การภาครัฐมีขั้นตอนเหมือนกับภาคเอกชน
(2) วงจรโครงการขององค์การภาครัฐสลับซับซ้อนกว่าของภาคเอกชน
(3) แนวคิดของโครงการขององค์การภาครัฐมีที่มาที่หลากหลายกว่าของภาคเอกชน
(4) โครงการขององค์การภาครัฐทําขึ้นเพื่อสนองความต้องการของสาธารณชน
(5) นโยบายของภาครัฐเป็นจุดศูนย์กลางของวงจรโครงการขององค์การภาครัฐ
ตอบ 1 (คําบรรยาย) ความแตกต่างระหว่างโครงการขององค์การภาครัฐกับภาคเอกชน มีดังนี้
1 วงจรโครงการขององค์การภาครัฐสลับซับซ้อนกว่าของภาคเอกชน
2 แนวคิดของโครงการขององค์การภาครัฐมีที่มาที่หลากหลายกว่าของภาคเอกชน
3 โครงการขององค์การภาครัฐทําขึ้นเพื่อสนองความต้องการของสาธารณชน 4 นโยบายของภาครัฐเป็นจุดศูนย์กลางของวงจรโครงการขององค์การภาครัฐ
5 โครงการขององค์การภาครัฐมีขั้นตอนไม่เหมือนกับภาคเอกชน
115 ในการบริหารโครงการ ผู้บริหารควรคํานึงถึงเรื่องอะไร
(1) ข้อจํากัดด้านเวลา
(2) ค่าใช้จ่าย
(3) คุณภาพของงาน
(4) ข้อ 1 – 3
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 84 ประกอบ
116 ข้อความใดที่ไม่ถูกต้อง
(1) ผลผลิตของโครงการแตกต่างจากผลผลิตที่มีอยู่เดิมขององค์การ
(2) การบริหารโครงการต้องบูรณาการกับองค์การหลักที่เป็นเจ้าของโครงการ (3) ผู้บริหารโครงการต้องบริหารงานภายใต้วงเงินงบประมาณที่ได้รับ
(4) การบริหารโครงการต้องมีความยืดหยุ่นด้านเวลา
(5) การบริหารโครงการต้องกําหนดตัวบุคคล องค์การ หรือระบบงานล่วงหน้าอย่างชัดเจน
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ในการบริหารหรือการจัดการโครงการต้องมีการกําหนดตัวบุคคล องค์การ หรือระบบงานล่วงหน้าอย่างชัดเจน และผลผลิตของโครงการต้องแตกต่างจากผลผลิตที่มีอยู่เดิมขององค์การ (ดูคําอธิบายข้อ 84 ประกอบ)
117 ข้อความใดที่ถูกต้อง
(1) งานโครงการมีบริบทคงที่ งานประจํามีบริบทยืดหยุ่น
(2) งานโครงการมีลักษณะทําซ้ำแล้วซ้ำอีก งานประจํามีลักษณะเฉพาะ
(3) งานโครงการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว งานประจําค่อยเป็นค่อยไป
(4) งานโครงการเน้นประสิทธิภาพ งานประจําเน้นประสิทธิผล
(5) งานโครงการต่อเนื่องไม่สิ้นสุด งานประจํามีจุดเริ่มต้นและแล้วเสร็จ
ตอบ 3 (คําบรรยาย) ความเตกต่างระหว่างงานโครงการกับงานประจํา มีดังนี้
1 ขอบข่ายงาน งานโครงการจะมีลักษณะเฉพาะ ส่วนงานประจํามีลักษณะทําซ้ำแล้วซ้ำอีก
2 เวลา งานโครงการมีจุดเริ่มต้นและจุดเสร็จสิ้นโครงการแน่นอน ส่วนงานประจําต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
3 การเปลี่ยนแปลง งานโครงการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ส่วนงานประจําค่อยเป็นค่อยไป
4 แนวโน้ม งานโครงการไม่คํานึงถึงความสมดุล ส่วนงานประจําคํานึงถึงความสมดุล
5 วัตถุประสงค์ งานโครงการเน้นที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยตรง ส่วนงานประจําเน้นที่ความเท่าเทียมกัน
6 ทรัพยากร งานโครงการจํากัดตามวงเงินที่กําหนด ส่วนงานประจําเพิ่มเติมได้ถ้าจําเป็น
7 บริบท งานโครงการมีบริบทยืดหยุ่น ส่วนงานประจํามีบริบทคงที่
8 ผลลัพธ์ งานโครงการเน้นที่ประสิทธิผล ส่วนงานประจําเน้นประสิทธิภาพ
9 ทีมงาน งานโครงการประสานกันด้วยจุดมุ่งหมาย ส่วนงานประจําประสานกันด้วยบทบาท
118 วงจรโครงการของภาคเอกชน แบ่งออกเป็นงานสําคัญกขั้นตอน
(1) 3 ขั้นตอน
(2) 4 ขั้นตอน
(3) 5 ขั้นตอน
(4) 6 ขั้นตอน
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 113 ประกอบ
119 การกําหนดแนวคิดโครงการของภาคเอกชน กําหนดโดยผู้ใด
(1) เจ้าของกิจการ
(2) ผู้บริหารสูงสุด
(3) ผู้บริหารระดับกลาง
(4) ข้อ 1 และข้อ 2
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 87 ประกอบ
120 จุดศูนย์กลางของวงจรโครงการของภาคเอกชน คือข้อใด
(1) การกําหนดแนวคิดโครงการ
(2) การดําเนินโครงการ
(3) การวางแผนและวิเคราะห์โครงการ
(4) การควบคุมงาน
(5) การส่งมอบโครงการ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 87 ประกอบ