การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2564
ข้อสอบกระบวนวิชา POL 3301 นโยบายสาธารณะ
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว

1. รัฐจึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 66
(2) มาตรา 67
(3) มาตรา 68
(4) มาตรา 77
(5) มาตรา 78
ตอบ 2 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 67 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐจึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น
2. รัฐจึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท
เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา
3. รัฐต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลายพระพุทธศาสนาไม่ว่ารูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดําเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย

Advertisement

2.กอกจิน เสนอตัวแปรหลักที่ส่งผลต่อศักยภาพของการนํานโยบายไปปฏิบัติ ได้แก่
(1) นโยบาย การบริหารและการจัดการ
(2) นโยบาย การบริหารและเป้าหมาย
(3) นโยบาย องค์การ และเป้าหมาย
(4) นโยบาย องค์การ และผู้ปฏิบัติงาน
(5) นโยบาย องค์การ และการบริหาร
ตอบ 4 หน้า 156 มอลคอม กอกจีน (Malcom Goggin) ได้เสนอผลจากการศึกษาเพิ่มเติม โดยพบว่า ตัวแปรหลักที่ส่งผลต่อศักยภาพของการนํานโยบายไปปฏิบัติ ได้แก่ นโยบาย องค์การ และ ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาพแวดล้อม มาเกี่ยวข้องด้วย

3.การรับรู้ถึงปัญหาสาธารณะเกี่ยวข้องกับนโยบายในด้านใด
(1) Policy Analysis
(2) Policy Implementation
(3) Policy Impacts
(4) Policy Evaluation
(5) เกี่ยวข้องกับนโยบายทุกด้าน
ตอบ 1 หน้า 73 เควด (E.S. Quade) กล่าวว่า จุดมุ่งหมายที่สําคัญของการวิเคราะห์นโยบาย (Policy Analysis) มีดังนี้
1. เพื่อให้ผู้กําหนดนโยบายได้รับรู้ถึงปัญหาสาธารณะโดยแจ้งชัด
2. เพื่อปรับปรุงคุณภาพการตัดสินใจของผู้กําหนดนโยบายที่สามารถแก้ปัญหาหรือ
ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
3. เพื่อสร้างกระบวนการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมและเป็นระบบ

4.โทมัส บี. สมิท เสนอขั้นตอนการนํานโยบายไปปฏิบัติประกอบด้วยตัวแปร 4 ตัวแปร ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) นโยบายที่เป็นอุดมคติ
(2) องค์การที่นํานโยบายไปปฏิบัติ
(3) เป้าหมายขององค์การ
(4) กลุ่มเป้าหมาย
(5) ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม
ตอบ 3หน้า 171 โทมัส บี. สมิท (Thomas B. Smith) เสนอขั้นตอนของการนํานโยบายไปปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรที่สําคัญ 4 ตัวแปร คือ
1. นโยบายที่เป็นอุดมคติ
2. องค์การที่นํานโยบายไปปฏิบัติ
3. กลุ่มเป้าหมาย
4. ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม

5. รัฐจึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวอันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สําคัญของสังคม ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 64
(2) มาตรา 65
(3) มาตรา 68
(4) มาตรา 70
(5) มาตรา 71
ตอบ 5 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 71 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐจึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวอันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สําคัญของสังคม
2. รัฐจึงส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพและความสามารถสูงขึ้น
3. รัฐจึงให้ความช่วยเหลือเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส ให้สามารถดํารงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
4. ในการจัดสรรงบประมาณ รัฐจึงคํานึงถึงความจําเป็นและความต้องการที่แตกต่างกันของ เพศ วัย และสภาพของบุคคล

6. การจัดทําร่างนโยบายอยู่ในขั้นตอนใด
(1) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
(2) การเตรียมและเสนอนโยบาย
(3) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(4) การอนุมัติและประกาศนโยบาย
(5) การก่อตัวของนโยบาย
ตอบ 2 หน้า 25 – 26, (คําบรรยาย) ขั้นตอนการเตรียมและเสนอนโยบาย (Policy Formulation) เป็นขั้นตอนที่ต้องมีการศึกษาค้นคว้าเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายเรื่องนั้น ๆ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของผู้กําหนดนโยบาย ซึ่งประกอบด้วย
1. การกําหนดวัตถุประสงค์
2. การกําหนดทางเลือก
3. การจัดทําร่างนโยบาย ซึ่งประกอบด้วย หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ แนวทางและ มาตรการ การจัดลําดับทางเลือก และการหาข้อมูลประกอบการพิจารณา

7. การศึกษาการนํานโยบายไปปฏิบัติเป็นสาขาวิชาที่เกิดขึ้นใหม่เมื่อไร
(1) ค.ศ. 1988
(2) ค.ศ. 1989
(3) ค.ศ. 1970
(4) ค.ศ. 1969
(5) ค.ศ. 1960
ตอบ 3 หน้า 151 – 152 การศึกษาการนํานโยบายไปปฏิบัติเป็นสาขาวิชาที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ราว ค.ศ. 1970 โดยการนํานโยบายไปปฏิบัตินั้นถือเป็นขั้นตอนที่สําคัญ แต่มักจะไม่ได้รับความสนใจ อย่างจริงจัง ทั้งนี้เพราะแต่เดิมนั้นนักวิเคราะห์นโยบายมักจะแยกการนํานโยบายไปปฏิบัติ ออกจากการวางนโยบาย และศึกษาเฉพาะเป้าหมาย ผลที่ได้รับหรือผลกระทบจากนโยบาย เหตุผลสนับสนุนนโยบายและเสนอทางเลือกนโยบายเท่านั้น โดยละเลยขั้นตอนการนํานโยบายไปปฏิบัติทั้งที่ความล้มเหลวของนโยบายส่วนมากมักเกิดขึ้นเนื่องจากไม่ได้คํานึงถึงความเป็นไปได้ของการนํานโยบายไปปฏิบัติ

8.วรเดช จันทรศร เสนอตัวแบบที่ยึดหลักเหตุผลประกอบด้วย
(1) การกําหนดมาตรฐานในการปฏิบัติงาน
(2) ความชัดเจนในการกําหนดวัตถุประสงค์และภารกิจ
(3) ระบบการวัดและประเมินผล
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 183 วรเดช จันทรศร ได้เสนอตัวแบบที่ยึดหลักเหตุผล ซึ่งมีตัวแปรอิสระที่สําคัญ คือ ความชัดเจนในการกําหนดวัตถุประสงค์และภารกิจ การมอบหมายงาน การกําหนดมาตรฐานในการปฏิบัติงาน ระบบการวัดและประเมินผล และระบบการให้คุณให้โทษแก่ผู้นํานโยบายไปปฏิบัติ

9.ใครกล่าวว่า การประเมินผลนโยบายเป็นขั้นตอนหนึ่งของการวิเคราะห์นโยบาย โดยเป็นขั้นตอน ที่มุ่งผลิตข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับผลของการดําเนินงานตามนโยบายว่าสามารถสนองความต้องการของสังคม สนองคุณค่าของสังคม และแก้ไขปัญหาที่เป็นเป้าหมายของนโยบายได้หรือไม่
(1) Emit J. Posavac & Raymond G. Carey
(2) James E. Anderson
(3) Charles O. Jones
(4) William N. Dunn
(5) ศุภชัย ยาวะประภาษ
ตอบ 4 หน้า 229 วิลเลียม เอ็น. ดันน์ (William N. Dunn) กล่าวว่า การประเมินผลนโยบาย เป็นขั้นตอนหนึ่งของการวิเคราะห์นโยบาย โดยเป็นขั้นตอนที่มุ่งผลิตข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับผลของการดําเนินงานตามนโยบายว่าสามารถสนองความต้องการของสังคม สนองคุณค่า ของสังคม และแก้ไขปัญหาที่เป็นเป้าหมายของนโยบายได้หรือไม่

10. ไม่สามารถจะไปประเมินกระบวนการทั้งหมดของนโยบายได้ จะนําไปใช้ได้เฉพาะในเรื่องของ Input และ Product เท่านั้น
(1) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง
(2) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง
(3) การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง
(4) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลองและกึ่งทดลอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 234 – 235 การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง หรือการประเมินผลด้วยวิธีการทดลอง (Experimental Design) มีข้อจํากัดดังนี้
1. วิธีการที่ใช้ในการแบ่งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมักมีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น การมีผลประโยชน์ในการเลือกกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือการมีลักษณะความเคร่งครัด ในการเลือกกลุ่มในทางปฏิบัติจะมีน้อย
2. วิธีการทดลองไม่สามารถจะไปประเมินกระบวนการทั้งหมดของนโยบายได้ จะนําไปใช้ได้ เฉพาะในเรื่องของ Input และ Product เท่านั้น
3. วิธีการทดลองไม่สามารถควบคุมความเที่ยงตรงภายนอกได้ จึงทําให้ผลที่ได้มาจาก การทดลองอาจจะไม่เหมือนกับผลที่ได้มาจากการดําเนินการจริง ฯลฯ

11. เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ข้อมูล เหตุผล และข้อสรุปที่ละเอียดครอบคลุมความเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในนโยบาย เป็นประโยชน์ต่อผู้กําหนดนโยบายในการตัดสินใจว่าอะไรแน่ที่เป็นผลของนโยบายนั้น ๆ
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 3 หน้า 264 ประโยชน์ของวิธีเดลฟีเชิงนโยบาย (Policy Delphi) คือ สามารถให้ข้อมูล เหตุผล และข้อสรุปที่ละเอียดครอบคลุมความเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในนโยบาย การประเมินจึงครอบคลุมกว้างขวางรวมทุกประเด็นไว้หมด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ อย่างมากต่อผู้กําหนดนโยบายในการตัดสินใจว่าอะไรแน่ที่เป็นผลของนโยบายนั้น ๆ

12. โครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Ethical Policy
(2) Re-Distributive Policy
(3) Regulative Policy
(4) Capitalization Policy
(5) Distributive Policy
ตอบ 2 หน้า 6, (คําบรรยาย) นโยบายเพื่อการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมหรือการจัดสรร ทรัพยากรเสียใหม่ (Re-Distributive Policy) เป็นนโยบายที่กําหนดขึ้นเพื่อประชาชนบางอาชีพ
ผู้ประกอบการบางสาขาการผลิต พื้นที่บางพื้นที่ตามความจําเป็น เช่น การออกบัตรประกันสังคม การออกบัตรสุขภาพ นโยบายการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ นโยบายการจํานําข้าว นโยบาย เพิ่มค่าแรง 300 บาทต่อวัน โครงการช่วยเหลือชาวสลัม โครงการสงเคราะห์คนชรา โครงการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โครงการอาหารกลางวันแก่เด็กยากจน กองทุนพัฒนาสตรี เป็นต้น หรือ เป็นนโยบายที่ดึงเอาทรัพยากรจากประชาชนกลุ่มหนึ่งมาจัดสรรใหม่ให้เกิดประโยชน์แก่ ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ด้อยโอกาส เช่น นโยบายภาษี (เช่น นโยบายเก็บภาษีทรัพย์สิน อัตราก้าวหน้า) นโยบายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร เป็นต้น

13. เป็นเทคนิคที่นําเอาข้อคิดและความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงในเนื้อหาและเรื่องราว ของนโยบายที่กําลังประเมินมาประมวลและเปรียบเทียบกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับผลของนโยบาย
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 3 หน้า 259 วิธีเดลฟีเชิงนโยบาย (Policy Delphi) เป็นเทคนิคที่นําเอาข้อคิดและความเห็น ของผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงในเนื้อหาและเรื่องราวของนโยบายที่กําลังประเมิน มาประมวลและเปรียบเทียบกันเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับผลของนโยบาย

14. ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) Harold Lasswell กล่าวว่า นโยบายเกี่ยวข้องกับแผนหรือโครงการที่กําหนดขึ้น
(2) Thomas R. Dye นโยบายสาธารณะเป็นสิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจว่าจะทําหรือไม่ทํา
(3) Theodore Lowi เป็นบิดาแห่งนโยบายศาสตร์
(4) David Easton เกี่ยวข้องกับการจัดสรรและแจกแจงคุณค่าต่าง ๆ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 3, 58 – 59 ฮาโรลด์ ลาสเวลล์ (Harold Lasswell) ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่เน้นการสร้างภาพรวมและได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งนโยบายศาสตร์” ได้ให้ความหมาย นโยบายสาธารณะร่วมกับอับราแฮม แคปแพลน (Abraham Kaplan) ว่า “นโยบายสาธารณะ หมายถึง แผนหรือโครงการที่กําหนดขึ้น อันประกอบด้วยเป้าหมาย คุณค่า และแนวการ ปฏิบัติงานต่าง ๆ”

15. ใครกล่าวว่า การประเมินผลนโยบายเป็นการใช้วิธีและทักษะหลาย ๆ ด้านเพื่อที่จะตกลงใจว่านโยบาย ที่กําหนดไว้นั้นจําเป็นหรือไม่ ควรจะใช้หรือไม่ ดําเนินการไปตามที่วางไว้หรือไม่ ช่วยแก้ไขปัญหาตามที่ มุ่งหวังไว้หรือไม่
(1) Emil J. Posavac & Raymond G. Carey
(2) James E. Anderson
(3) Charles O. Jones
(4) William N. Dunn
(5) ศุภชัย ยาวะประภาษ
ตอบ 1 หน้า 228 อีมิล เจ. โพซาร์ค และเรย์มอนด์ จี. แครี (Emil J. Posavac & Raymond G. Carey) กล่าวว่า การประเมินผลนโยบายเป็นการใช้วิธีการหลายวิธีและทักษะหลาย ๆ ด้านเพื่อที่จะ ตกลงใจว่านโยบายที่กําหนดไว้นั้นจําเป็นหรือไม่ ควรจะใช้หรือไม่ ดําเนินการไปตามที่วางไว้ หรือไม่ ช่วยแก้ไขปัญหาตามที่มุ่งหวังไว้หรือไม่

16. ความสามารถในการผลิตผลผลิตหรือให้บริการโดยมีต้นทุนต่อหน่วยต่ําสุด ถือว่าเป็นเกณฑ์ประเภทใด
(1) ประสิทธิผล
(2) ประสิทธิภาพ
(3) ความเหมาะสม
(4) ความพอเพียง
(5) ความสามารถในการตอบสนอง
ตอบ 2 หน้า 99, (คําบรรยาย) ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง ความสามารถในการบรรลุ วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายโดยใช้ต้นทุนต่ำสุด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความสามารถในการผลิตผลผลิตหรือให้บริการโดยมีต้นทุนต่อหน่วยต่ำสุด

17. เป็นเทคนิคที่ช่วยในการประเมินผลแบบเทียม โดยช่วยให้ผู้ประเมินผลสามารถคํานวณและเปรียบเทียบผลโดยประมาณของนโยบายที่เกิดขึ้นในกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดไว้และกลุ่มเปรียบเทียบที่นํามาพิจารณา
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 5 หน้า 265 การวิเคราะห์เชิงถดถอยแบบไม่ต่อเนื่อง (Regression-Discontinuity Analysis) เป็นเทคนิคที่ช่วยในการประเมินผลแบบเทียม โดยช่วยให้ผู้ประเมินผลสามารถคํานวณและเปรียบเทียบผลโดยประมาณของนโยบายที่เกิดขึ้นในกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดไว้และกลุ่มเปรียบเทียบที่นํามาพิจารณา
เทคนิคนี้เหมาะสําหรับการประเมินผลตามแนวการทดลองทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดลองที่มีการกําหนดกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มควบคุมเอาไว้ เรียบร้อยแล้ว

18. เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้ประเมินผลนโยบายสามารถพิจารณาผลของนโยบายได้อย่างเป็นระบบ โดยสามารถ แยกแยะผลของนโยบายที่เกิดขึ้นจริงได้จากผลที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุอื่น
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 4 หน้า 264 – 265 การวิเคราะห์อนุกรมเวลาแบบขาดตอน (Interrupted Time Series Analysis) เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการนํานโยบายไปปฏิบัติ ในรูปของตารางและ/หรือค่าทางสถิติ และกราฟแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เหมาะสําหรับ การประเมินผลนโยบายที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเพียงกลุ่มเดียวหรือมีขอบเขตการดําเนินงาน ที่แน่นอนเพียงแห่งเดียว จุดเด่นของเทคนิคนี้ คือ ช่วยให้ผู้ประเมินผลนโยบายสามารถพิจารณา ผลของนโยบายได้อย่างเป็นระบบ โดยสามารถแยกแยะผลของนโยบายที่เกิดขึ้นจริงได้จาก ผลที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุอื่น

19. นโยบายจัดระเบียบสังคม เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Capitalization Policy
(2) Re-Distributive Policy
(3) Regulative Policy
(4) Ethical Policy
(5) Distributive Policy
ตอบ 3 หน้า 5, (คําบรรยาย) นโยบายที่เป็นกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับ (Regulative Policy) เป็นนโยบาย ที่หน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลกําหนดขึ้นเพื่อให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ถ้าใครไม่ปฏิบัติตามถือว่าผิดกฎหมายต้องถูกลงโทษ หรือเป็นกติกาในการอยู่ร่วมกันของสมาชิกในสังคมอย่างเสมอภาค และเป็นธรรม เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายจราจร (เช่น โครงการเมาไม่ขับ การขับรถยนต์ต้องมีใบขับขี่) นโยบายจัดระเบียบสังคม เป็นต้น

20. การยกเลิกนโยบายที่ไม่เหมาะสมอยู่ในขั้นตอนใด
(1) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
(2) การเตรียมและเสนอนโยบาย
(3) การประเมินนโยบาย
(4) การก่อตัวของนโยบาย
(5) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
ตอบ 1 หน้า 52 – 53 ขั้นตอนการปรับปรุง แก้ไข และยกเลิกนโยบาย (Policy Termination) ประกอบด้วย
1. การนําผลหรือข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลนโยบายมาพิจารณาเพื่อตัดสินใจ ในการปรับปรุง แก้ไข หรือยกเลิกนโยบาย
2. การนําผลสรุปของการประเมินผลนโยบายทั้งหมด ไปใช้ในการกําหนดนโยบายอื่น ๆ ต่อไป

21. เป็นเทคนิคที่เหมาะสําหรับการประเมินผลนโยบายที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเพียงกลุ่มเดียวหรือมีขอบเขต
การดําเนินงานที่แน่นอนเพียงแห่งเดียว
(1) Format Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 18. ประกอบ

22. มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ Value-Based Economy
(1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(2) Thailand 4.0
(3) คําแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
(4) ทิศทางกระแสต่างประเทศ
(5) ไม่ตรงกับข้อใดเลย
ตอบ 2 (คําบรรยาย) Thailand 4.0 มีสาระสําคัญดังนี้
1. เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยน โครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย นวัตกรรม”
2. เป็น “Reform in Action” ที่มีการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฏิรูปการวิจัยและการพัฒนา และการปฏิรูปการศึกษาไปพร้อม ๆ กัน
3. เป็นแนวคิดที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภายใต้ทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และ ทุนมนุษย์
4. เป็นการพัฒนา “เครื่องยนต์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจชุดใหม่” (New Engines of Growth) ซึ่งประเทศไทยมีอยู่ 2 ด้าน ได้แก่ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายเชิงวัฒนธรรมให้เป็นความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน โดยการเติมเต็มด้วย วิทยาการทั้ง 5 ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย และพัฒนา ฯลฯ

23. เป็นเทคนิคที่มีหลักการ 5 ประการ คือ Selective Anonymity, Informed Multiple Advocacy, Polarized Statistical Response, Structured Conflict, Computer Conferencing
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 3หน้า 260 – 261 วิธีเดลฟ์เชิงนโยบาย (Policy Delphi) มีหลักการสําคัญ 5 ประการ คือ
1. ความเป็นนิรนามเฉพาะระยะแรก (Selective Anonymity)
2. ผู้เชี่ยวชาญต่างสํานัก (Informed Multiple Advocacy)
3. การวิเคราะห์ทางสถิติแบบแยกกลุ่ม (Polarized Statistical Response)
4. การจัดโครงสร้างความขัดแย้ง (Structured Conflict)
5. การประชุมโดยคอมพิวเตอร์ (Computer Conferencing)

24. ทฤษฎีการนํานโยบายไปปฏิบัติ นักวิชาการท่านใดเสนอวิธีการที่ดีในการบริหารโปรแกรมใหม่คือการตั้งหน่วยขึ้นมารับผิดชอบโดยตรง
(1) เพรสแมนและวิลด์ฟสกี
(2) เออร์วิน ฮาร์โกรฟ
(3) โทมัส บี. สมิท
(4) มองจอยและโอทูเล
(5) แวน มิเตอร์
ตอบ 4 หน้า 167 ตามทฤษฎีการนํานโยบายไปปฏิบัติของมองจอยและโอทูเล (Montijoy and O’Toole) มองว่า เมื่อนักบริหารต้องเผชิญกับข้อจํากัดทั้งในแง่ทรัพยากรและกฎหมายย่อมนําไปสู่การใช้ ดุลพินิจในที่สุด ดังนั้นการที่หน่วยงานจะใช้ดุลพินิจมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับระดับความแข็งแกร่งและทิศทางของพลังผลักดันในองค์การ วิธีการที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาการนํานโยบายไปปฏิบัติขององค์การจะต้องกําหนดความชัดเจนของกฎหมายและจัดสรรทรัพยากรให้แก่ผู้นํานโยบายไปปฏิบัติเพียงพอ รับผิดชอบโดยตรง
วิธีการที่ดีที่สุดในการบริหารโปรแกรมใหม่คือการตั้งหน่วยขึ้นมา

25. มีวิธีการที่สําคัญวิธีหนึ่งคือ การจับคู่ (Matching) การแสวงหาคู่ในระดับบุคคล พื้นที่ หรือหน่วยการทดลอง ที่เกี่ยวข้องที่มีความคล้ายคลึงกันตั้งแต่หนึ่งคุณลักษณะที่ศึกษา
(1) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง
(2) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง
(3) การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง
(4) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลองและกึ่งทดลอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 235 – 236 การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง หรือการประเมินผลด้วยวิธี กึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Design) มีลักษณะสําคัญดังนี้
1. ในกรณีที่เงื่อนไขไม่เอื้ออํานวยที่จะใช้การประเมินผลด้วยวิธีการทดลอง วิธีการนี้จะทําให้ได้เปรียบในการนําไปปฏิบัติ โดยผู้ใช้จะต้องยอมรับเบื้องต้นก่อนว่าวิธีการที่จะนําไปใช้มีความสนใจที่ปัจจัยใดบ้างและปล่อยให้ปัจจัยใดบ้างปราศจากการควบคุม
2. มีวิธีการที่สําคัญวิธีหนึ่งคือ การจับคู่ (Matching) ได้แก่ การแสวงหาคู่ในระดับบุคคล พื้นที่ หรือหน่วยการทดลองที่เกี่ยวข้องที่มีความคล้ายคลึงกันตั้งแต่หนึ่งคุณลักษณะที่ศึกษา
3.วิธีการนี้มีความมุ่งหมายที่จะทําให้การตีความต่าง ๆ ถูกต้อง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากโครงการ ซึ่งมีบ่อยครั้งที่คําอธิบายในผลลัพธ์ ที่ถูกต้องจะแสดงให้เห็นถึงการไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกเหนือไปจากการแสดงให้เห็น ความล้มเหลวของโครงการ ฯลฯ

26. รัฐจึงดําเนินการให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามระบบ
คุณธรรม ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 74
(2) มาตรา 75
(3) มาตรา 76
(4) มาตรา 77
(5) มาตรา 78
ตอบ 3 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 76 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐจึงพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และงานของรัฐอย่างอื่นให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
2. รัฐจึงพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีทัศนคติเป็นผู้ให้บริการประชาชน ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติ และปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ
3. รัฐจึงดําเนินการให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม
4. รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกําหนด ประมวลจริยธรรมสําหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ

27. งานวิจัยของธงชัย สมครุฑ ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) งานวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก
(2) กลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการในกระทรวงแรงงาน
(3) ศึกษาวิทยาลัยครู 36 แห่ง
(4) มีปัญหาสําคัญ 5 ประการ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 151 ธงชัย สมครุฑ ได้เสนอวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเมื่อปี ค.ศ. 1986 So “An Analysis of Selected Issues in Teacher Education as Perceived by the Presidents and Vice-Presidents of Teacher Colleges in Thailand” โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อจําแนก วิเคราะห์และเปรียบเทียบการรับรู้ของอธิการและรองอธิการของ วิทยาลัยครู 36 แห่งในปัญหาที่สําคัญ 5 ประการ คือ
1. ปัญหาทางการบริหาร
2. ปัญหาทางด้านวิชาการ
3. ปัญหาด้านการรับนักศึกษา
4. ปัญหาด้านการเงิน
5. ปัญหาด้านการร่วมมือ

28. นโยบายพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Re-Distributive Policy
(2) Ethical Policy
(3) Capitalization Policy
(4) Distributive Policy
(5) Regulative Policy
ตอบ 3 หน้า 6, (คําบรรยาย) นโยบายเพื่อการลงทุน (Capitalization Policy) เป็นนโยบายที่รัฐบาล กําหนดขึ้นเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ หรือเพื่อแสวงหาทรัพยากรใหม่ ๆ คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา แล้วก่อให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ หรือการสร้างสิ่งก่อสร้างบางอย่างเพื่อเป็น พื้นฐานในการพัฒนาประเทศต่อไป เช่น นโยบายพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกและภาคใต้ การสร้างสนามบิน การสร้างนิคมอุตสาหกรรม การสร้างท่าเรือน้ําลึก การวางท่อก๊าซ เป็นต้น

29. เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังการนํานโยบายไปปฏิบัติในรูปของ ตารางและ/หรือค่าทางสถิติ และกราฟแบบต่าง ๆ
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 18. ประกอบ

30. นโยบายกองทุนหมู่บ้าน เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Administrative Policy
(2) Social Policy
(3) Politic & Defence Policy
(4) Economic Policy
(5) Education Policy
ตอบ 4 หน้า 6, (คําบรรยาย) นโยบายทางด้านเศรษฐกิจ (Economic Policy) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ การสร้างรายได้และการกินดีอยู่ดีของประชาชน โดยให้ประชาชนได้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน อะไรที่ได้มาซึ่งรายได้หรือรายจ่าย และเมื่อจ่ายไปแล้วก็จะมีการแลกเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทําให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายกองทุนหมู่บ้าน นโยบายจ่ายเงินให้ชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท การส่งเสริมอาชีพให้ประชาชน โครงการธงฟ้าราคาประหยัด โครงการ ธนาคารประชาชน โครงการหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การพักชําระหนี้ให้เกษตรกร การดูแล ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่
ผู้บริโภคและผู้ผลิต เป็นต้น

31.ใครเสนอว่า นโยบายสาธารณะเป็นแนวทางที่เป็นบรรทัดฐานในการดําเนินงานของหน่วยงาน
(1) Theodore Lowi
(2) David Easton
(3) William Greenwood
(4) Carl J. Friedrich
(5) Ira Sharkansky
ตอบ 3 หน้า 3 วิลเลียม กรีนวูด (William Greenwood) กล่าวว่า “นโยบายสาธารณะ หมายถึงการตัดสินใจขั้นต้นของรัฐบาลเพื่อเป็นแนวทางที่เป็นบรรทัดฐานในการดําเนินงานของหน่วยงานไปสู่วัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้”

32. นโยบายต้องประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เงื่อนไขแรกเริ่มและผลที่มุ่งหวัง
(1) ยูยีน บาร์แดช (Eugene Bardach)
(2) เพรสแมน (Pressman) และวิลดัฟสกี (Wildavsky)
(3) พอล เอ. ซาบาเตียร์ (Paul A. Sakiatier)
(4) มองจอย (Montjoy) และโอทูเล (O’Toole)
(5) ดาเนียล เอ. แมซมาเนียน (Daniel A. Mazmanian)
ตอบ 2 หน้า 164 เพรสแมน (Pressman) และวิลดัฟสกี (Wildavsky) กล่าวว่า การนํานโยบาย ไปปฏิบัติ คือ การผลิตผลลัพธ์ออกมา และการทําให้สําเร็จ โดยการนํานโยบายไปปฏิบัติ จะต้องมีนโยบายเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการนํานโยบายไปปฏิบัติ และนโยบายโดยทั่วไปจะต้อง ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เงื่อนไขแรกเริ่มและผลที่มุ่งหวัง

33. ใครกล่าวว่า การประเมินผลนโยบายเป็นการกระทําที่มีระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงผลของนโยบาย โดยเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กําหนดไว้กับผลกระทบของการดําเนินการตามนโยบายที่มีต่อปัญหาของ
สังคมที่เป็นเป้าหมายที่นโยบายนั้นมุ่งแก้ไข
(1) Emil J. Posavac & Raymond G. Carey
(2) James E. Anderson
(3) Charles O. Jones
(4) William N. Dunn.
(5) ศุภชัย ยาวะประภาษ
ตอบ 3 หน้า 229 ชาร์ลส์ โอ. โจนส์ (Chartes O. Jones) กล่าวว่า การประเมินผลนโยบาย เป็นการกระทําที่มีระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงผลของนโยบายโดยเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กําหนดไว้กับผลกระทบของการดําเนินการตามนโยบายที่มีต่อปัญหาของสังคมที่เป็นเป้าหมายที่นโยบายนั้นมุ่งแก้ไข

34. นโยบายการมีถนนแยกเล่นไปสู่ทุกจังหวัด เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Regulative Policy
(2) Distributive Policy
(3) Re-Distributive Policy
(4) Ethical Policy
(5) Capitalization Policy
ตอบ 2 หน้า 5, (คําบรรยาย) นโยบายการกระจายบริการของรัฐ (Distributive Policy) เป็นนโยบายที่รัฐบาลต้องจัดบริการพื้นฐานให้ประชาชนทุกคนได้ใช้หรือเพื่อให้ประชาชนทั่วไป โดยส่วนรวมมีโอกาสได้รับบริการสาธารณะที่เป็นของรัฐบาลอย่างทั่วถึงและพอเพียง เช่น นโยบายการมีถนนแยกเล่นไปสู่ทุกจังหวัดนโยบายการลดราคาน้ำมันเบนซิน โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน การขยายช่องทางจราจรหรือการสร้างถนน นโยบายให้มีสถานพยาบาลให้ครบทุกอําเภอ การจัดให้มีบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค การจัดให้มีไฟฟ้าและน้ําประปา ใช้ทุกหมู่บ้าน เป็นต้น

35. ข้อใดไม่ใช่กระบวนการที่ Stuart S. Nagel เสนอ
(1) การวิเคราะห์ผลตอบแทนสูงสุด
(2) การกําหนดคน สถานที่ อุปกรณ์
(3) การกําหนดเป้าหมายเพื่อบรรลุผล
(4) การกําหนดแผนงาน
(5) การกําหนดความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายกับนโยบาย
ตอบ 4 หน้า 239 – 240 สจ๊วตท เอส. นาเกล (Stuart S. Nagel) ได้เสนอแนวคิดในการวิเคราะห์ ข้อมูลแบบง่ายสําหรับการวิเคราะห์หรือการประเมินนโยบาย ซึ่งมีหลักการหรือกระบวนการ ที่สําคัญ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. กําหนดเป้าหมายเพื่อการบรรลุผล หรือการให้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุด
2. กําหนดเป้าหมายสัมพันธ์
3. กําหนดคน สถานที่ หรือวัสดุอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับนโยบายนั้น
4. กําหนดความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายกับนโยบาย
5. ปรับความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายกับนโยบาย

36. ใครกล่าวว่า การประเมินผลเกี่ยวข้องกับกระบวนการวัดคุณค่าของผลการดําเนินการตามนโยบาย
เพื่อที่จะนํามาเปรียบเทียบกับเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้
(1) Emil J. Posavac & Raymond G. Carey
(2) James E. Anderson
(3) Chartes O. Jones
(4) William N. Dunn
(5) ศุภชัย ยาวะประภาษ
ตอบ 5 หน้า 230 ศุภชัย ยาวะประภาษ กล่าวว่า การประเมินผลเกี่ยวข้องกับกระบวนการวัดคุณค่า ของผลการดําเนินการตามนโยบายเพื่อที่จะนํามาเปรียบเทียบกับเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ ซึ่งการประเมินผลนี้ไม่ได้แยกเป็นเอกเทศจากขั้นตอนนโยบายอื่น แต่เกี่ยวข้องกันตลอดเวลา

37. นโยบายหน้าบ้านน่ามอง เกี่ยวข้องกับนโยบายประเภทใด
(1) Regulative Policy
(2) Re-Distributive Policy
(3) Ethical Policy
(4) Capitalization Policy
(5) Distributive Policy
ตอบ 3 หน้า 6, (คําบรรยาย) นโยบายเพื่อจริยธรรม (Ethical Policy) เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ไม่มีการบังคับให้ผู้ใดปฏิบัติตาม แต่ต้องการจูงใจและสนับสนุนหรือส่งเสริมให้ประชาชน มีความรู้สึกสํานึกที่ดี และมีจิตสํานึกในทางที่ถูกที่ควรที่จะปฏิบัติตาม เช่น โครงการพลังแผ่นดิน โครงการเมืองน่าอยู่ โครงการถนนสีขาว นโยบายหน้าบ้านน่ามอง นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ในประเทศ นโยบายส่งเสริมให้มีน้ําใจกับนักท่องเที่ยว และการรณรงค์ต่าง ๆ เป็นต้น

38. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับแนวคิดของยอร์ค
(1) บทความที่กําหนดตัวชี้วัดความสําเร็จขององค์การเมื่อปี ค.ศ. 1986
(2) 13 ตัวแปรที่แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล
(3) 4 ตัวชี้วัดความสําเร็จขององค์การ
(4) ความสําเร็จของการอุดมศึกษา คือ “ประสิทธิผล” กับ “ความสําเร็จ”
(5) ทบทวนวรรณกรรมวิชาการ 3 ท่าน ลินเซย์ แอนนิตา และแคมเมอรา
ตอบ 2 หน้า 177 – 178 ยอร์ค (Yorke) ได้เสนอบทความที่กําหนดตัวชี้วัดความสําเร็จขององค์การ ภายใต้ชื่อ “Indicators of Institutional Achievement : Some Theoretical and Empirical Considerations” เมื่อปี ค.ศ. 1986 โดยเขากล่าวว่า ประสิทธิผลขององค์การ เป็นกรอบการวิเคราะห์ถึงความสําเร็จที่สําคัญของการอุดมศึกษา และเขาใช้คําว่า “ประสิทธิผล” (Effectiveness) กับ “ความสําเร็จ” (Achievement) ในความหมายเดียวกัน นอกจากนี้ ยอร์คยังได้ทบทวนวรรณกรรมทางวิชาการที่ได้เสนอแนวการศึกษาประสิทธิผลของสถาบัน อุดมศึกษาของ 3 ท่าน คือ ลินเซย์ แอนนิตา และแคมเมอรา และนํามาสร้างเป็นตัวแปรที่ แสดงถึงความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลทั้งสิ้น 11 ตัวแปร

39. รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกําหนดประมวลจริยธรรม สําหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 74
(2) มาตรา 75
(3) มาตรา 76
(4) มาตรา 77
(5) มาตรา 78
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 26. ประกอบ

40. รัฐจึงส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครอง และสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบสหกรณ์ประเภทต่าง ๆ และวิสาหกิจ ขนาดย่อมและขนาดกลางของประชาชนและชุมชน ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 73
(2) มาตรา 74
(3) มาตรา 75
(4) มาตรา 77
(5) มาตรา 78
ตอบ 3 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 75 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐพึงจัดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนมีโอกาสได้รับประโยชน์จากความเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และยั่งยืน
2. ในการพัฒนาประเทศ รัฐจึงคํานึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านวัตถุกับการพัฒนา ด้านจิตใจ และความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนประกอบกัน
3. รัฐจึงส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครอง และสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบสหกรณ์ประเภทต่าง ๆ และวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางของประชาชนและชุมชน ฯลฯ

41. การศึกษาปัญหาของประชาชนเป็นขั้นตอนใด
(1) การก่อตัวของนโยบาย
(2) การอนุมัติและประกาศนโยบาย
(3) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(4) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
(5) การเตรียมและเสนอนโยบาย
ตอบ 1 หน้า 23 – 25 ขั้นตอนการก่อตัวของนโยบาย (Policy Formation) ประกอบด้วย
1. การพิจารณาปัญหาหรือความต้องการของประชาชน
2. การพิจารณาเวลาที่เกิดปัญหา
3. ปัญหาที่รัฐบาลสนใจ
4. การจัดลําดับความสําคัญของปัญหา

42. สรุปการนํานโยบายไปปฏิบัติ หมายถึง
(1) การดําเนินงานของภาครัฐที่มีเป้าหมายให้สําเร็จลุล่วงตามเป้าหมายของกลุ่มผู้ปฏิบัติ
(2) การดําเนินงานให้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้
(3) กระบวนการในทางปฏิบัติที่จะทําให้นโยบายใด ๆ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กําหนด
(4) กระบวนการขององค์การภาครัฐนําไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
(5) ขั้นตอนการดําเนินงานของภาครัฐให้บริการต่อประชาชน
ตอบ 3 หน้า 143 การนํานโยบายไปปฏิบัติ (Policy Implementation) หมายถึง กระบวนการ ในทางปฏิบัติที่จะทําให้นโยบายใด ๆ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กําหนดไว้

43. นโยบายปฏิรูประบบราชการ เกี่ยวข้องกับนโยบายใด
(1) Education Policy
(2) Social Policy
(3) Economic Policy
(4) Politic & Defence Policy
(5) Administrative Policy
ตอบ 5 หน้า 7, (คําบรรยาย) นโยบายทางการบริหาร (Administrative Policy) เป็นนโยบายรอง ที่กําหนดขึ้นตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานหรือองค์การนั้น ๆ เช่น นโยบายธรรมาภิบาล นโยบายการปฏิรูประบบราชการ นโยบายเร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองที่ประชาชน มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง นโยบายการบริหารงานบุคคล นโยบายการบริหารงานคลัง โครงการประเทศไทยใสสะอาด เป็นต้น

44. ข้อใดไม่ถูกต้องตามแนวคิดของกอกจีนและคณะ
(1) ได้รับอิทธิพลจากแนวการวิเคราะห์ระบบการเมืองของเดวิด อีสตัน
(2) ตัวแปรอิสระมีการชี้นําและข้อจํากัดของรัฐบาลกลาง
(3) ตัวแปรอิสระมีความสามารถของรัฐ
(4) ตัวแปรอิสระมีการตัดสินใจของรัฐ
(5) ตัวแปรอิสระมีความร่วมมือกับภาคเอกชน
ตอบ 5 หน้า 173 – 174 กอกจีนและคณะ ได้เสนอตัวแบบการนํานโยบายไปปฏิบัติซึ่งได้รับอิทธิพล
จากแนวความคิดการวิเคราะห์ระบบการเมืองของเดวิด อีสตัน โดยตัวแบบของกอกจินและคณะ
มีตัวแปรอิสระซึ่งประกอบด้วย
1. การชี้นําและข้อจํากัดของรัฐบาลกลาง
2. การชี้นําและข้อจํากัดของรัฐบาลส่วนท้องถิ่น
3. ความสามารถของรัฐ
4. การตัดสินใจของรัฐ

45.เลนเธอแมน เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นออกกฎหมาย The Lanterman Petris Short (L-P-S) Act ซึ่งมี
ความเกี่ยวข้องกับนโยบายใด
(1) การปฏิรูปนโยบายด้านการคลัง
(2) การปฏิรูปนโยบายด้านสุขภาพจิต
(3) การปฏิรูปนโยบายด้านการศึกษา
(4) การปฏิรูปนโยบายด้านแรงงาน
(5) การปฏิรูปนโยบายด้านเศรษฐกิจ
ตอบ 2 หน้า 157 เล่นเธอแมน (Lanterman) เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นออกกฎหมาย “The Lanterman Petris Short (L-P-S) Act” โดยกฎหมายนี้ได้แสดงแนวทางการปฏิรูปนโยบายด้านสุขภาพจิต ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ
1. การให้เสรีภาพแก่บุคคลที่ป่วยทางจิตให้มากขึ้น
2. การผลักดันให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขในระดับชุมชนและระดับประเทศนําหลักการบําบัดทางจิตในรัฐมาใช้

46. รัฐจึงวางแผนการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่และศักยภาพของที่ดินตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 68
(2) มาตรา 70
(3) มาตรา 72
(4) มาตรา 74
(5) มาตรา 76
ตอบ 3 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 72 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐจึงวางแผนการใช้ที่ดินของประเทศให้เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่และศักยภาพของที่ดินตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน
2. จัดให้มีการวางผังเมืองทุกระดับและบังคับการให้เป็นไปตามผังเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ
3. จัดให้มีมาตรการกระจายการถือครองที่ดินเพื่อให้ประชาชนสามารถมีที่ทํากินได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ฯลฯ

47. แบบศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการหลังจากที่ได้นําโครงการเข้ามาใช้โดยมีกลุ่มควบคุมที่ได้มาโดยมิได้มีการ สุ่มตัวอย่าง ข้อดี ทําให้ผู้ประเมินได้รับรายละเอียดและมโนภาพมากมาย ทําให้เกิดการตื่นตัวและรับรู้ เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น
(1) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง
(2) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง
(3) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลองและกึ่งทดลอง
(4) การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 236 – 237 การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง หรือการประเมินผลด้วยวิธี เตรียมทดลอง (Pre-Experimental Design) แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ แบบศึกษาก่อนและ
หลังจากที่ได้นําโครงการหนึ่ง ๆ เข้ามาใช้ แบบศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการหลังจากที่ได้นําโครงการ เข้ามาใช้แล้วเพียงอย่างเดียว และแบบศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการหลังจากที่ได้นําโครงการเข้ามาใช้ โดยมีกลุ่มควบคุมที่ได้มาโดยมิได้มีการสุ่มตัวอย่าง ซึ่งข้อดีของการประเมินผลด้วยวิธีการนี้ คือ
1. ทําให้ผู้ประเมินได้รับรายละเอียดและมโนภาพมากมาย
2. ทําให้เกิดการตื่นตัวและรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น
3. ทําให้ผู้ประเมินได้รับข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวังและเป็นระบบ

48. ความสามารถของทางเลือกที่สอดคล้องกับค่านิยมพื้นฐานของกลุ่มต่าง ๆ ถือว่าเป็นเกณฑ์ประเภทใด
(1) ความเหมาะสม
(2) ประสิทธิภาพ
(3) ประสิทธิผล
(4) ความสามารถในการตอบสนอง
(5) ความพอเพียง
ตอบ 4 หน้า 101 ความสามารถในการตอบสนอง (Responsiveness) หมายถึง ความสามารถ ของทางเลือกที่สอดคล้องกับความต้องการ ความชอบ และค่านิยมพื้นฐานของกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งทางเลือกที่มีความสามารถในการตอบสนองสูงก็คือ ทางเลือกที่สามารถทําให้กลุ่มที่มี ความจําเป็นสูงได้รับผลจากทางเลือกนั้นด้วย

49. การจัดวาระในการพิจารณานโยบายอยู่ในขั้นตอนใด
(1) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(2) การเตรียมและเสนอนโยบาย
(3) การอนุมัติและประกาศนโยบาย
(4) การก่อตัวของนโยบาย
(5) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
ตอบ 3หน้า 49 – 50 ขั้นตอนการอนุมัติและประกาศนโยบาย (Policy Adoption) ประกอบด้วย
1. การจัดวาระในการพิจารณานโยบาย
2. การพิจารณาร่างนโยบาย
3. การอนุมัติหรือไม่อนุมัติ
4. การประกาศนโยบาย

50. ใครเสนอให้จําแนกประเภทของนโยบายตามเนื้อหาสาระของนโยบาย
(1) William Greenwood
(2) Theodore Lowi
(3) Carl J. Friedrich
(4) David Easton
(5) Ira Sharkansky
ตอบ 2 หน้า 5 – 6 (คําบรรยาย) ธีโอดอร์ โควาย (Theodore Lowi) ได้เสนอให้จําแนกประเภท ของนโยบายตามเนื้อหาสาระและวัตถุประสงค์ของนโยบายนั้น ๆ ออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. นโยบายที่เป็นกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับ (Regulative Policy)
2. นโยบายการกระจายบริการของรัฐ (Distributive Policy)
3. นโยบายเพื่อการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมหรือการจัดสรรทรัพยากรเสียใหม่ (Re-Distributive Policy)

51.Stuart S. Nagel สนใจการศึกษานโยบายเรื่องใด
(1) Policy Analysis
(2) Policy Process
(3) Policy Implementation
(4) Policy Impacts
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 61 – 68, 72, 164 – 171 นักวิชาการที่ศึกษาเรื่องการวิเคราะห์นโยบาย (Policy Analysis)
ได้แก่
1. เควด (E.S. Quade)
2. วิลเลียม เอ็น. ดันน์ (William N. Dunn)
3. สจ๊วตท์ เอส. นาเกล (Stuart S. Naget)
4. โทมัส อาร์. ดาย (Thomas R. Dye) ฯลฯ
ส่วนนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องการนํานโยบายไปปฏิบัติ (Policy Implementation) ได้แก่
1. กรอส (Gross)
2. ไจแอคควินทา (Giacquinta)
3. เบิร์นสไตล์ (Bernstein)
4. กรีนวูด (Greenwood)
5. แมน (Mann)
6. แมคลัฟลิน (McLaughlin)
7. เบอร์แมน (Berman)
8. เดล อี. ริชาร์ด (Dale E. Richards)
9. เพรสแมน (Pressman)
10. วิลดัฟสกี (Wildavsky)
11. มองจอย (Montjoy)
12. โอทูเล (O’Toole)
13. โทมัส บี. สมิท (Thomas B. Smith)
14. พอล เอ. ซาบาเตียร์ (Paut A. Sabatier)
15. ดาเนียล เอ. แมซมาเนียน (Daniel A. Mazmanian)
16. อีมิลี ไซมี โลวี ไบรเซนไดน์ (Emily Chi-Mei Lowe Brizendine) ฯลฯ

52. ข้อใดไม่ถูกต้องตามแนวคิดของเบอร์แมน
(1) บทความ “The Dugy of Macro and Micro Implementation”
(2) ฐานคติสําคัญคือปัญหาการนํานโยบายไปปฏิบัติส่วนมากจะเกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์จากสถาบันต่าง ๆ
(3) นโยบายทางสังคมจะเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมต่อบริการของรัฐ
(4) ผู้ปฏิบัติในแต่ละระดับจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน
(5) ผลสําเร็จของนโยบายอยู่ในมือของผู้ปฏิบัติ
ตอบ 4 หน้า 174 – 175 เบอร์แมน (Berman) ได้นําเสนอบทความเรื่อง “The Dugy of Macro and Micro Implementation” เมื่อปี ค.ศ. 1978 เพื่อใช้เป็นกรอบการศึกษาการนํานโยบายไปปฏิบัติ โดยมีฐานคติที่สําคัญว่าปัญหาการนํานโยบายไปปฏิบัติส่วนมากจะเกิดขึ้นจากปฏิสัมพันธ์จาก สถาบันต่าง ๆ ที่รับผิดชอบต่อการนํานโยบายไปปฏิบัติ โดยเฉพาะนโยบายทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมต่อบริการของรัฐไปยังประชาชนนั้นสามารถจะแยกปัญหาทางการนํานโยบาย ไปปฏิบัติในระดับมหภาคที่อยู่ในส่วนรับผิดชอบของรัฐบาลกลางออกจากปัญหาการนํานโยบาย ไปปฏิบัติในระดับจุลภาคซึ่งอยู่ในส่วนรับผิดชอบของรัฐบาลส่วนท้องถิ่น กล่าวคือ ผู้ปฏิบัติ ในแต่ละระดับจะสร้างปฏิสัมพันธ์ในการจะกําหนดว่าใครได้อะไร เมื่อไร และอย่างไร และ ส่งผลต่อระดับของความสําเร็จในขั้นปฏิบัติการได้ นอกจากนี้เบอร์แมนยังได้ชี้ให้เห็นว่าอํานาจ
อันทรงอิทธิพลในอันที่จะกําหนดผลสําเร็จของนโยบายอยู่ในมือของผู้ปฏิบัติในระดับท้องถิ่นหาใช่ผู้บริหารจากส่วนกลางแต่อย่างใด

53. ตามทฤษฎีเกี่ยวกับการนํานโยบายไปปฏิบัติ เพรสแมนและวิลด์ฟสกี กล่าวถึง การนํานโยบายไปปฏิบัติ คือ
(1) การผลิตผลลัพธ์ออกมา การทําให้สําเร็จ
(2) การดําเนินงานภาครัฐให้ตรงตามเป้าหมาย
(3) กิจกรรมของภาครัฐที่แก้ไขปัญหาของประเทศ
(4) กระบวนการทํางานของภาครัฐ
(5) การทํางานตามที่ได้รับมอบหมายจากภาครัฐ
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 32. ประกอบ

54. ใครให้เหตุผลในการกําหนดนโยบายไว้ 3 ประการ คือ เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เหตุผลทางวิชาชีพและเหตุผลทางการเมือง
(1) Harold Lasswell
(2) Thomas R. Dye
(3) Stuart S. Nagel
(4) William Dunn
(5) Date E. Richards
ตอบ 2 หน้า 57, (คําบรรยาย) โทมัส อาร์. ดาย (Thomas R. Dye) ได้ชี้ให้เห็นถึงเหตุผล (ความสําคัญ)
ของการศึกษาและการกําหนดนโยบายสาธารณะไว้ 3 ประการ คือ
1. เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Reasons) คือ การทําความเข้าใจเหตุและผลของ การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบาย เพื่อให้ได้นโยบายที่มีเหตุผลมากที่สุด
2. เหตุผลทางวิชาชีพ (Professional Reasons) คือ การนําความรู้เชิงนโยบายไปใช้แก้ปัญหา ทางด้านการปฏิบัติ โดยวิชาชีพที่แตกต่างกันจะทําให้การกําหนดนโยบายและการนํานโยบายไปปฏิบัติของแต่ละวิชาชีพมีความแตกต่างกัน
3. เหตุผลทางการเมือง (Political Reasons) คือ การดัดแปลงนโยบายที่ถูกต้องเหมาะสม ทางการเมืองมาใช้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเมือง โดยการใช้เหตุผลทางการเมือง มักจะทําให้การกําหนดนโยบายเป็นไปอย่างไม่มีเหตุผลแต่เป็นที่ยอมรับของประชาชน เช่น นโยบายประชานิยมต่าง ๆ เป็นต้น

55. การมีผลประโยชน์ในการเลือกกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือการมีลักษณะความเคร่งครัดในการเลือกกลุ่ม
ในทางปฏิบัติจะมีน้อย
(1) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง
(2) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง
(3) การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง
(4) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลองและกึ่งทดลอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 10. ประกอบ

56. ทฤษฎีการนํานโยบายไปปฏิบัติของเออร์วิน ฮาร์โกรฟ ได้พัฒนาวิธีการจากแนวคิดฮิล (Hill) เพื่อสร้างเป็นทฤษฎีอะไร
(1) ทฤษฎีระดับต้น
(2) ทฤษฎีระดับกลาง
(3) ทฤษฎีระดับสูง
(4) ทฤษฎีระดับบริหาร
(5) ทฤษฎีระดับองค์การ
ตอบ 2 หน้า 169 เออร์วิน ฮาร์โกรฟ (Erwin Hargrove) ได้พัฒนาวิธีการจากแนวคิดฮิล (Hill เพื่อสร้างเป็นทฤษฎีระดับกลาง (Middle Range Theory) สําหรับการวิเคราะห์โปรแกรม ประเภทต่าง ๆ โดยมีหลักการที่สําคัญ 3 ประการ คือ
1. ปัญหาทางนโยบายที่ต่างประเภทกันจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มของผู้เข้าไปมีส่วนร่วมที่ต่างกันและระดับของการปฏิบัติการที่ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของนโยบายที่นําเสนอ
2. กระบวนการนํานโยบายไปปฏิบัติจะแปรผันไปตามลักษณะของนโยบายและนโยบายนั้น ๆ ยังสามารถจําแนกเป็นประเภทต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการทํานายกระบวนการนํานโยบายไปปฏิบัติ
3. ภาษาที่ใช้ในกฎหมายใด กฎหมายหนึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานในการจําแนกประเภทของโปรแกรม

57. การที่หน่วยงานนํานโยบายมาแปลงเป็นแผนงานและโครงการเป็นขั้นตอนใด
(1) การก่อตัวของนโยบาย
(2) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
(3) การอนุมัติและประกาศนโยบาย
(4) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(5) การเตรียมและเสนอนโยบาย
ตอบ 4 หน้า 50 – 51, (คําบรรยาย) การนํานโยบายไปปฏิบัติ (Policy Implementation) เป็นขั้นตอนที่แสดงให้เห็นถึงการนําทรัพยากรต่าง ๆ ไปจัดสรรเพื่อก่อให้เกิดผลตามนโยบายซึ่งประกอบด้วย
1. การส่งต่อนโยบาย (Policy Delivery)
2. การตีความหรือแปลงนโยบายออกมาเป็นแผนงานและโครงการ
3. การชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาย
4. การดําเนินงานของหน่วยงานระดับปฏิบัติ (Street-Level Bureaucracy)
5. การจัดระบบสนับสนุน ได้แก่ ข้อมูลข่าวสาร การมอบหมายอํานาจหน้าที่ และการติดต่อสื่อสาร
6. การติดตามและควบคุมผลการปฏิบัติงาน

58. สิ่งแวดล้อม เป็นตัวแปรที่สําคัญของทฤษฎีอะไร
(1) ทฤษฎีกลุ่ม
(2) ทฤษฎีระบบ
(3) ทฤษฎีการตัดสินใจ
(4) ทฤษฎีสถาบันนิยม
(5) ทฤษฎีผู้นํา
ตอบ 2 หน้า 108, (คําบรรยาย) ทฤษฎีระบบ (System Theory) อธิบายว่า นโยบายสาธารณะ เป็นผลผลิตของระบบ โดยเน้นการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่สําคัญ 5 ตัวแปร คือ
1. ปัจจัยนําเข้า (Inputs) (Outputs)
2. กระบวนการ (Process)
3. ปัจจัยนําออกหรือผลผลิต
4. ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback)
5. สิ่งแวดล้อม (Environment)

59. ลักษณะที่สําคัญของการนํานโยบายไปปฏิบัติ วิลเลียม เน้นการพิจารณาในฐานะนักทฤษฎีองค์การ กล่าวคือ
(1) มองโดยใช้องค์การเป็นกรอบอ้างอิง
(2) มององค์การเป็นกลไกขับเคลื่อน
(3) มององค์การเป็นปัจจัยแห่งความสําเร็จ
(4) มององค์การต้องการผู้นํา
(5) มององค์การที่เน้นการบริหาร
ตอบ 1 หน้า 144 ลักษณะสําคัญของการนํานโยบายไปปฏิบัติอาจมีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับจุดเน้นหรือความสนใจของนักวิชาการแต่ละคน เช่น แมชมาเนียนและซาบาเตียร์มองการนํานโยบาย ไปปฏิบัติจากทรรศนะทางกฎหมายและมองจากระดับมหภาค ในขณะที่วิลเลียมเน้นการพิจารณา ในฐานะของนักทฤษฎีองค์การ กล่าวคือ มองโดยใช้องค์การเป็นกรอบอ้างอิง

60. ใครสนใจในการวิเคราะห์นโยบาย
(1) E.S. Quade
(2) Stuart S. Nagel
(3) Thomas B. Smith
(4) E.S. Quade และ Stuart S. Nagel
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 51. ประกอบ

61. งานวิจัย ปิยวดี ภูศรี มีการศึกษา 3 ตัวแบบ ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) ตัวแบบระบบราชการ
(2) ตัวแบบการตัดสินใจโดยเพื่อนร่วมงาน
(3) ตัวแบบทางการเมือง
(4) ตัวแบบชนชั้นนํา
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 150 ปิยวดี ภูศรี ได้เสนอวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกเรื่อง “An Examination of Models of Decision Making in Six Thai Teachers Colleges” เมื่อปี ค.ศ. 1985 โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบตัวแบบการตัดสินใจของวิทยาลัยครูในประเทศไทย 6 แห่งใน 3 ตัวแบบ คือ 1. ตัวแบบระบบราชการ 2. ตัวแบบการตัดสินใจโดยเพื่อนร่วมงาน 3. ตัวแบบทางการเมือง

62. วิจัยของเจษฎา อุรพีพัฒนพงศ์ มีปัจจัย 6 ด้านที่ใช้เป็นกรอบการปฏิบัตินโยบาย ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) จุดกําเนิดนโยบาย
(2) ความชัดเจนของนโยบาย
(3) เป้าหมายของนโยบาย
(4) การสนับสนุนของนโยบาย
(5) ความซับซ้อนของการบริหารนโยบาย
ตอบ 3 หน้า 147 เจษฎา อุรพีพัฒนพงศ์ ได้ศึกษาเรื่อง “การปฏิบัตินโยบายสําหรับจังหวัดชายแดน ภาคใต้ : ศึกษาเฉพาะกรณีจังหวัดนราธิวาส” โดยกรอบทฤษฎีที่นํามาใช้ในการศึกษาใช้กรอบ การปฏิบัตินโยบายซึ่งประกอบด้วยปัจจัย 6 ด้าน คือ
1. จุดกําเนิดนโยบาย
2. ความชัดเจนของนโยบาย
3. การสนับสนุนของนโยบาย
4. ความซับซ้อนของการบริหารนโยบาย
5. แรงจูงใจของผู้ปฏิบัตินโยบาย
6. การจัดสรรทรัพยากร และกระบวนการทางสังคม

63.งานวิจัย Implementation (1973) ถือเป็นผลงานชิ้นสําคัญที่ทําให้เกิดวิชาใด
(1) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(2) การศึกษานโยบายสาธารณะ
(3) ปัจจัยความสําเร็จของนโยบาย
(4) การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสําเร็จขององค์การ
(5) การนํานโยบายไปปฏิบัติขึ้นในการศึกษานโยบายสาธารณะ
ตอบ 5 หน้า 145 เพรสแมนและวิลด์ฟสกี (Pressman and Wildavsky) ได้เสนอผลงานการวิจัย การนํานโยบายไปปฏิบัติภายใต้ชื่อ “Implementation” เมื่อปี ค.ศ. 1973 ซึ่งผลงานฉบับนี้ ถือว่าเป็นก้าวหน้าสําคัญชิ้นหนึ่งที่ทําให้เกิดวิชาการนํานโยบายไปปฏิบัติขึ้นในการศึกษานโยบายสาธารณะ

64. ลักษณะ 5 ประการที่แรนดาล ริปเลย์ และเกรซ แฟรงกลิน พิจารณาว่าเป็นลักษณะของการนํานโยบายไปปฏิบัติ ข้อใดผิด
(1) มีปัจจัยหลายประการที่สําคัญและอยู่นอกเหนือการควบคุม
(2) มีผู้เกี่ยวข้องสําคัญมากมาย
(3) นโยบายและโครงการของรัฐบาลมักขยายใหญ่โตขึ้นทุกวัน
(4) เกี่ยวข้องกับหน่วยงานในระดับมหภาคเท่านั้น
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 144 แรนดาล ริปเลย์ และเกรซ แฟรงกลิน (Randell Ripley and Grace Franklin) ได้พิจารณาลักษณะของการนํานโยบายไปปฏิบัติว่ามีลักษณะสําคัญ 5 ประการ คือ
1. มีผู้เกี่ยวข้องสําคัญ ๆ มากมาย
2. ผู้เกี่ยวข้องล้วนมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลายและมักแตกต่างกัน
3. นโยบายและโครงการของรัฐบาลมักขยายใหญ่โตขึ้นทุกวัน
4. หน่วยงานในหลายระดับ จากหลายกระทรวง ทบวง กรม มีส่วนร่วมในการดําเนินกิจการ
5. มีปัจจัยหลายประการที่สําคัญมากและอยู่นอกเหนือการควบคุม

65. งานวิจัย อาคม ใจแก้ว ใช้วิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ และได้ทดสอบที่ตัวแบบ
(1) 2 ตัวแบบ
(2) 3 ตัวแบบ
(3) 4 ตัวแบบ
(4) 5 ตัวแบบ
(5) 6 ตัวแบบ
ตอบ 1 หน้า 148 – 149 อาคม ใจแก้ว ได้ศึกษาเรื่อง “การนํานโยบายไปปฏิบัติในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ : ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความสําเร็จ” โดยใช้ทั้งวิธีการเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ และได้ทดสอบตัวแบบ 2 ตัวแบบ คือ ตัวแบบที่ 1 เป็นการศึกษาความสําเร็จ ของการนํานโยบายไปปฏิบัติโดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นเยาวชนไทยมุสลิม และตัวแบบที่ 2 เป็น การศึกษาการนํานโยบายไปปฏิบัติโดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการระดับล่าง

66. นักวิชาการใดมองการนํานโยบายไปปฏิบัติจากทรรศนะทางกฎหมายและมองจากระดับมหภาค
(1) ดาเนียล เอ. แมซมาเนียน
(2) แมซมาเนียนและซาบาเตียร์
(3) เออร์วิน ฮาร์โกรฟ
(4) โทมัส บี. สมิท
(5) มิลบรีย์ แมคลัฟลิน
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 59. ประกอบ

67.เพรสแมน (Pressman) และวิลดัฟสกี (Wildavsky) กล่าวถึงการนํานโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลสําเร็จนั้น ต้องกําหนดสิ่งใด
(1) มีงบประมาณที่แน่นอน
(2) บุคลากรให้ความสําคัญ
(3) เป้าหมายมีความชัดเจน สามารถนําไปปฏิบัติได้จริง
(4) รูปแบบของนโยบายไปพร้อมกับวิธีการนํานโยบายไปปฏิบัติ
(5) สภาพแวดล้อมที่เอื้ออํานวยต่อนโยบาย
ตอบ 4 หน้า 142 – 143 เพรสแมน (Pressman) และวิลดัฟสกี (Wildavsky) กล่าวว่า การนํานโยบาย ไปปฏิบัติ คือ การนําไปปฏิบัติ ทําให้สําเร็จ เติมเต็ม ผลลัพธ์ ทําให้สมบูรณ์ และการนํานโยบาย ไปปฏิบัติให้เกิดผลสําเร็จนั้นต้องกําหนดรูปแบบของนโยบายไปพร้อมกับวิธีการนํานโยบายไปปฏิบัติ

68. รัฐจึงส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศโดยถือหลักความเสมอภาคในการปฏิบัติต่อกัน และไม่แทรกแซง กิจการภายในของกันและกัน ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 64
(2) มาตรา 66
(3) มาตรา 75
(4) มาตรา 76
(5) มาตรา 77
ตอบ 2 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 66 บัญญัติให้ รัฐจึงส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับ นานาประเทศโดยถือหลักความเสมอภาคในการปฏิบัติต่อกัน และไม่แทรกแซงกิจการภายใน ของกันและกัน ให้ความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติและของคนไทยในต่างประเทศ

69. การนําศาสตร์ในหลาย ๆ สาขามาใช้ในการวิเคราะห์นโยบาย เป็นแนวโน้มในเรื่องใด
(1) แนวโน้มเกี่ยวกับแนวทางการดําเนินนโยบาย
(2) แนวโน้มเกี่ยวกับรูปแบบ
(3) แนวโน้มเกี่ยวกับวิธีการ
(4) แนวโน้มเกี่ยวกับเป้าหมายและคุณค่า
(5) แนวโน้มเกี่ยวกับการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายและผลตอบแทน
ตอบ 1 หน้า 74 แนวโน้มการวิเคราะห์นโยบายในอนาคต มี 3 แนวโน้มใหญ่ คือ
1. แนวโน้มเกี่ยวกับเป้าหมายและคุณค่า จะมุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายโดยหาทางเลือกที่ดีที่สุด ที่ทําให้ประชาชนพอใจ และสนองต่อคุณค่าต่าง ๆ ของสังคม โดยการเน้นให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็น เพื่อให้นโยบายที่เกิดขึ้นสนองตอบต่อสังคมโดยส่วนรวมอย่างแท้จริง
2. แนวโน้มเกี่ยวกับแนวทางการดําเนินนโยบาย จะมุ่งเน้นการหาวิธีการที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ โดยการพิจารณามิติทางการเมืองและการบริหาร และมีการนําศาสตร์ในหลาย ๆ สาขาวิชา มาใช้ในการวิเคราะห์นโยบายในลักษณะสหวิทยาการ
3. แนวโน้มเกี่ยวกับวิธีการ จะมุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงธุรกิจที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและผลตอบแทน(Cost-Benefit) รวมทั้งการคํานึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่จะเกิดขึ้นด้วย

70. รัฐพึงจัดให้มีมาตรการหรือกลไกที่ช่วยให้เกษตรกรประกอบเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มี ปริมาณและคุณภาพสูง มีความปลอดภัย โดยใช้ต้นทุนต่ําและสามารถแข่งขันในตลาดได้ ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 64
(2) มาตรา 73
(3) มาตรา 74
(4) มาตรา 76
(5) มาตรา 77
ตอบ 2 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 73 บัญญัติให้ รัฐพึงจัดให้มีมาตรการหรือ กลไกที่ช่วยให้เกษตรกรประกอบเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและ คุณภาพสูง มีความปลอดภัย โดยใช้ต้นทุนต่ําและสามารถแข่งขันในตลาดได้ และพึงช่วยเหลือ เกษตรกรผู้ยากไร้ให้มีที่ทํากินโดยการปฏิรูปที่ดินหรือวิธีอื่นใด

71. แนวคิดของวรเดช จันทรศร ข้อใดถูกต้อง
(1) ค.ศ. 1984 มีบทความที่สําคัญ
(2) บทความเรื่อง “การนํานโยบายไปปฏิบัติ
(3) ตัวแบบพิเศษ
(4) 6 ตัวแบบการนํานโยบายไปปฏิบัติ
(5) ตัวแบบด้านการบริหารจัดการ
ตอบ 3 หน้า 182 – 183 วรเดช จันทรศร ได้เสนอบทความเรื่อง “การนํานโยบายไปปฏิบัติ : ตัวแบบและคุณค่า” เมื่อปี ค.ศ. 1984 ซึ่งในบทความนี้ได้นําเสนอตัวแบบการศึกษา การนํานโยบายไปปฏิบัติ 6 ตัวแบบ คือ
1. ตัวแบบที่ยึดหลักเหตุผล
2. ตัวแบบทางด้านการจัดการ
3. ตัวแบบทางด้านการพัฒนาองค์การ
4. ตัวแบบกระบวนการของระบบราชการ
5. ตัวแบบกระบวนการทางการเมือง
6. ตัวแบบทั่วไป

72. ความสามารถในการดําเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายภายใต้เงื่อนไขของทรัพยากรที่มีอยู่ ถือว่าเป็นเกณฑ์ประเภทใด
(1) ประสิทธิผล
(2) ความพอเพียง
(3) ประสิทธิภาพ
(4) ความเหมาะสม
(5) ความสามารถในการตอบสนอง
ตอบ 2 หน้า 100 ความพอเพียง (Adequacy) หมายถึง ความสามารถในการดําเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายภายใต้เงื่อนไขของทรัพยากรที่มีอยู่ โดยทั่วไปเงื่อนไข ของทรัพยากรมักจะวัดในรูปของงบประมาณที่มีอยู่

73. ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) Nagel ศึกษาการนํานโยบายไปปฏิบัติ
(2) Dunn ศึกษาการวิเคราะห์นโยบาย
(3) Quade เสนอจุดมุ่งหมายในการวิเคราะห์นโยบาย
(4) Anderson ศึกษากระบวนการนโยบาย
(5) Dimock อธิบายความคิดสร้างสรรค์
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 51. ประกอบ

74. ความหมายของกระบวนการนํานโยบายไปปฏิบัติของยูยีน บาร์แดช (Eugene Bardach) คือ
(1) กระบวนการ ขั้นตอนการดําเนินงานของภาครัฐ
(2) ขั้นตอนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนของนโยบาย
(3) กระบวนการทํางานทางปฏิสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์
(4) ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรกับองค์การ
(5) การจัดหาตระเตรียมวิธีการทั้งหลายที่จะให้ดําเนินงานสําเร็จลุล่วง
ตอบ 3 หน้า 142 ยูยีน บาร์แดช (Eugene Bardach) กล่าวว่า กระบวนการนํานโยบายไปปฏิบัติ เป็นกระบวนการทํางานทรงปฏิสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของนโยบายก็ได้

75. ประเทศไทยมี New Engines of Growth ได้แก่ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลาย
เชิงวัฒนธรรม
(1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(2) Thailand 4.0
(3) คําแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
(4) ทิศทางกระแสต่างประเทศ
(5) ไม่ตรงกับข้อใดเลย
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ

76. มุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภายใต้ทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทุนมนุษย์
(1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(2) Thailand 4.0
(3) คําแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
(4) ทิศทางกระแสต่างประเทศ
(5) ไม่ตรงกับข้อใดเลย
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ

77. เป็นเทคนิคที่เหมาะสําหรับการประเมินผลตามแนวการทดลองทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดลอง ที่มีการกําหนดกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มควบคุมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
(1) Format Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 17. ประกอบ

78.แรนดาล ริบเลย์ และเกรซ แฟรงกลิน มีแนวคิดลักษณะของการนํานโยบายไปปฏิบัติคือข้อใด
(1) ผู้เกี่ยวข้องล้วนมีวัตถุประสงค์และหลักการเหมือนกัน
(2) หน่วยงานในหลายระดับส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
(3) มีปัจจัยหลายประการที่สําคัญมากอยู่นอกเหนือการควบคุม
(4) นโยบายและโครงการมักเป็นของรัฐและเอกชนลงทุนร่วมมือกัน
(5) รัฐจะเป็นฝ่ายกําหนดให้ภาคเอกชนดําเนินการก่อนเสมอ
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 64. ประกอบ

79. ใครเสนอว่า นโยบายสาธารณะ หมายถึง กิจกรรมที่รัฐบาลกระทํา เช่น การบริการสาธารณะ
(1) Carl J. Friedrich
(2) Ira Sharkansky
(3) David Easton
(4) Theodore Lowi
(5) William Greenwood
ตอบ 2 หน้า 3 ไอรา ซาร์แคนสกี้ (Ira Sharkansky) กล่าวว่า “นโยบายสาธารณะ หมายถึง กิจกรรม ต่าง ๆ ที่รัฐบาลกระทํา เช่น การบริการสาธารณะ การควบคุมกิจกรรมของบุคคลหรือธุรกิจ ของเอกชน เป็นต้น”

80. มุ่งเน้นวิทยาการทั้ง 5 เพื่อความได้เปรียบ ได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัยและพัฒนา
(1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(2) Thailand 4.0
(3) คําแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
(4) ทิศทางกระแสต่างประเทศ
(5) ไม่ตรงกับข้อใดเลย
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ

81. รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 68
(2) มาตรา 71
(3) มาตรา 73
(4) มาตรา 75
(5) มาตรา 77
ตอบ 1 (คําบรรยาย) รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 68 บัญญัติไว้ดังนี้
1. รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร
2. รัฐจึงมีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงําใด ๆ
3. รัฐจึงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายที่จําเป็นและเหมาะสมแก่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาส ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมตลอดถึงการจัดหาทนายความให้

82. รัฐจึงพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีทัศนคติเป็นผู้ให้บริการประชาชนให้เกิด ความสะดวก รวดเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติ และปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามมาตราใด
(1) มาตรา 72
(2) มาตรา 74
(3) มาตรา 75
(4) มาตรา 76
(5) มาตรา 78
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 26. ประกอบ

83. เหตุใดการนํานโยบายการจ้างงานชนกลุ่มน้อยแห่งนครโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปปฏิบัติจึงประสบความล้มเหลว
(1) ผู้ริเริ่มและรับผิดชอบไม่ได้ดําเนินการอย่างต่อเนื่อง
(2) มีประเด็นการตัดสินใจมากจนเกินไป
(3) ตัวโครงการเองไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
(4) มีจํานวนหน่วยงานเข้าไปมีส่วนร่วมมาก
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 5 หน้า 145 เพรสแมนและวิลดัฟสกี (Pressman and Wildavsky) ได้ศึกษานโยบายการจ้างงาน ชนกลุ่มน้อยแห่งนครโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่า การนํานโยบายการจ้างงานชนกลุ่มน้อย ไปปฏิบัติประสบความล้มเหลว เพราะสาเหตุจากผู้ริเริ่มและรับผิดชอบไม่ได้ดําเนินการอย่าง ต่อเนื่อง มีประเด็นการตัดสินใจมากจนเกินไป มีจํานวนหน่วยงานเข้าไปมีส่วนร่วมมากและต่างก็ มีวัตถุประสงค์และวิธีปฏิบัติที่ต่างกัน ตัวโครงการไม่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย การควบคุม กับการอนุมัติงบประมาณขัดแย้งกัน ลักษณะการดําเนินงานกระทําด้วยความเร่งรีบมีความสลับซับซ้อนสูง และขาดการประสานงานที่ดี

84. เป็นเทคนิคที่ประกอบไปด้วย การประเมินความสามารถที่จะประเมินได้ และการวิเคราะห์อรรถประโยชน์
แบบพหุลักษณ์
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 2 หน้า 254 – 255 การประเมินผลแบบพิจารณาความเหมาะสม (Decision Theoretical Evaluation) เป็นเทคนิคการประเมินผลที่มุ่งสร้างข่าวสารที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เกี่ยวกับผลของนโยบายโดยใช้คุณค่าหรือผลประโยชน์ที่ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ได้รับเป็นเกณฑ์ประเมิน ซึ่งรูปแบบของการประเมินผลแบบนี้มี 2 รูปแบบด้วยกัน คือ การประเมินความสามารถที่จะ ประเมินได้ และการวิเคราะห์อรรถประโยชน์แบบพหุลักษณ์

85. ใครเสนอว่า นโยบายสาธารณะ หมายถึง การจัดสรรและแจกแจงคุณค่าของสังคมโดยชอบด้วยกฎหมาย
(1) Theodore Lowi
(2) Ira Sharkansky
(3) Carl J. Friedrich
(4) William Greenwood
(5) David Easton
ตอบ 5 หน้า 3 เดวิด อีสตัน (David Easton) กล่าวว่า “นโยบายสาธารณะ หมายถึง การจัดสรร และแจกแจงคุณค่า (Values) ต่าง ๆ ของสังคมโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปเพื่อประโยชน์ ของสังคมส่วนรวม”

86.แวน มิเตอร์ และแวน ฮอร์น เขียนบทความใดเมื่อปี ค.ศ. 1975
(1) The Policy Implementation Process: A Conceptual Framework
(2) Implementation
(3) The Case of Stull Act
(4) The Lanterman Petris Short Act
(5) Theory Constuction and Testing in Implementation Research: A Comparative State Diachronic Analysis
ตอบ 1 หน้า 171 – 172 แวน มิเตอร์ และแวน ฮอร์น (Van Meter and Van Horn) ร่วมกันเขียน บทความเรื่อง “The Policy Implementation Process : A Conceptual Framework” เมื่อปี ค.ศ. 1975 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสํารวจกระบวนการของการนํานโยบายไปปฏิบัติพร้อมกับนําเสนอตัวแบบในการวิเคราะห์การนํานโยบายไปปฏิบัติ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับผู้ปฏิบัติในองค์การที่รับผิดชอบต่อนโยบายโดยตรง และองค์การอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

87. เป็นเทคนิคที่เน้นประเมินผลนโยบายจากวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายที่กําหนดไว้อย่างเป็นทางการ โดยเชื่อว่าวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กําหนดไว้อย่างเป็นทางการโดยผู้กําหนดนโยบายเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว
(1) Formal Evaluation
(2) Decision Theoretical Evaluation
(3) Policy Delphi
(4) Interrupted Time Series Analysis
(5) Regression-Discontinuity Analysis
ตอบ 1หน้า 251 – 252 การประเมินผลแบบเป็นทางการ (Formal Evaluation) เป็นเทคนิค ที่ใช้วิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์ในการสร้างข่าวสารที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เกี่ยวกับผลของ นโยบาย โดยประเมินผลของนโยบายจากวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของนโยบายที่กําหนดไว้ อย่างเป็นทางการ เพราะเชื่อว่าวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่กําหนดไว้อย่างเป็นทางการโดยผู้กําหนดนโยบายเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

88. นโยบายสาธารณะที่ได้มาจากการเจรจาต่อรอง เกี่ยวข้องกับทฤษฎีอะไร
(1) ทฤษฎีการตัดสินใจ
(2) ทฤษฎีกลุ่ม
(3) ทฤษฎีผู้นํา
(4) ทฤษฎีระบบ
(5) ทฤษฎีสถาบันนิยม
ตอบ 2 หน้า 107, (คําบรรยาย) ทฤษฎีกลุ่ม (Group Theory) อธิบายว่า นโยบายสาธารณะเป็น ผลผลิตของการต่อสู้ระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง กลุ่มผลประโยชน์กับนโยบายสาธารณะ โดยชี้ให้เห็นว่านโยบายสาธารณะเป็นผลผลิตที่ได้มาจาก การเจรจาต่อรอง การประนีประนอม และการถ่วงดุลผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ

89.Reform in Action ที่มีการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การปฏิรูปการวิจัยและการพัฒนา และการปฏิรูปการศึกษา
(1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
(2) Thailand 4.0
(3) คําแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
(4) ทิศทางกระแสต่างประเทศ
(5) ไม่ตรงกับข้อใดเลย
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ

90. นักวิชาการท่านใดศึกษาความเป็นมาของการนํานโยบายไปปฏิบัติ
(1) มิลบรีย์ แมคลัฟลิน (Milbrey Mclaughlin)
(2) เพรสแมน (Pressman) และวิลดัฟสกี (Wildavsky)
(3) พอล เอ. ซาบาเตียร์ (Paul A. Sabatier)
(4) ดาเนียล เอ. แมซมาเนียน (Daniel A. Mazmanian)
(5) ยูยีน บาร์แดช (Eugene Bardach)
ตอบ 3, 4 หน้า 61 พอล เอ. ซาบาเดียร์ และดาเนียล เอ. แมซมาเนียน (Paul A. Sabatier and Daniel A. Mazmanian) ได้เขียนบทความเรื่อง “Policy Implementation” เมื่อปี 1982 ซึ่งเป็นการศึกษาถึงความเป็นมาของการนํานโยบายไปปฏิบัติ โดยแสดงทัศนะว่าการศึกษา สาขาการนํานโยบายไปปฏิบัติปรากฏเป็นรูปร่างที่ชัดเจนในต้นศตวรรษ 1970 โดยเฉพาะ นับจากผลงานเรื่อง “Implementation (1973)” ของเพรสแมนและวิลดัฟสกีเป็นต้นมา

91. การจัดทําเกณฑ์ชี้วัดในการศึกษานโยบายอยู่ในขั้นตอนใด
(1) การเตรียมและเสนอนโยบาย
(2) การก่อตัวของนโยบาย
(3) การประเมินผลนโยบาย
(4) การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย
(5) การนํานโยบายไปปฏิบัติ
ตอบ 3หน้า 51 – 52 ขั้นตอนการประเมินผลนโยบาย (Policy Evaluation) ประกอบด้วย
1. การกําหนดวัตถุประสงค์ของการประเมิน
2. การกําหนดเกณฑ์วัดและวิธีการตรวจสอบสิ่งที่ต้องการประเมิน
3. การกําหนดวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิธีการรายงาน
4. การนําผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบาย

92. ข้อใดไม่ใช่การวิเคราะห์โปรแกรมประเภทต่าง ๆ ของเออร์วิน ฮาร์โกรฟ
(1) ปัญหาทางนโยบายที่ต่างประเภทกัน
(2) กระบวนการนํานโยบายไปปฏิบัติ
(3) ภาษาที่ใช้ในกฎหมายใดกฎหมายหนึ่ง
(4) ผู้ปฏิบัติงานมีจํานวนมาก
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 56. ประกอบ

93. ใครกล่าวว่า การวิเคราะห์นโยบายเป็นการใช้วิธีการที่หลากหลายในการนําเสนอข้อเท็จจริงและเหตุผล
มาแปรรูปในการกําหนดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองที่มีสภาวการณ์ที่แตกต่างกัน
(1) Thomas R. Dye
(2) Harold Lasswell
(3) William Dunn
(4) Stuart S. Nagel
(5) James Anderson
ตอบ 3 หน้า 72 วิลเลียม เอ็น. ดันน์ (William N. Dunn) กล่าวว่า “การวิเคราะห์นโยบายเป็นสาขาหนึ่งของสังคมศาสตร์ประยุกต์ที่ใช้วิธีการหลากหลายในการนําเสนอข้อเท็จจริง และเหตุผลมาแปรรูปในการกําหนดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาในทางการเมืองที่มีสภาวการณ์แตกต่างกัน”

94. มีความมุ่งหมายที่จะทําให้การตีความต่าง ๆ ถูกต้อง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากโครงการ มีบ่อยครั้งที่คําอธิบายในผลลัพธ์ที่ถูกต้องจะแสดงให้เห็นถึงการไม่มีการเปลี่ยนแปลงนอกเหนือไปจากการแสดงให้เห็นความล้มเหลวของโครงการ
(1) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลอง
(2) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบกึ่งทดลอง
(3) การวิจัยเชิงประเมินในรูปแบบทดลองและกึ่งทดลอง
(4) การวิจัยเชิงประเมินแบบเตรียมทดลอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 25. ประกอบ

95. ใครให้ความหมายของการวิเคราะห์นโยบายไว้ว่า เป็นการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดในชุดของ
เป้าหมายที่กําหนดไว้
(1) William Dunn
(2) Harold Lasswell
(3) Thomas R. Dye
(4) Stuart S. Nagel
(5) James Anderson
ตอบ 4 หน้า 72 สจ๊วตท์ เอส. นาเกล (Stuart S. Nagel) กล่าวว่า “การวิเคราะห์นโยบาย เป็นการกําหนดและตัดสินทางเลือกของนโยบาย โดยการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่คิดว่าดีที่สุด ในชุดของเป้าหมายที่กําหนดไว้ โดยเปรียบเทียบทางเลือกเหล่านั้นกับการบรรลุเป้าหมาย”

96. มองจอยและโอทูเล เสนอลักษณะของนโยบายไว้ที่ประเภท
(1) 3 ประเภท
(2) 4 ประเภท
(3) 5 ประเภท
(4) 6 ประเภท
(5) 7 ประเภท
ตอบ 2

97. ใครเสนอว่า อุปสรรคจะเป็นแรงผลักดันให้มีการเสนอนโยบายเพื่อไปใช้ประโยชน์
(1) David Easton
(2) Ira Sharkansky
(3) Carl J. Friedrich
(4) Theodore Lowi
(5) William Greenwood
ตอบ 3 หน้า 3 คาร์ล เจ. ฟรีดริช (Carl J. Friedrich) กล่าวว่า “นโยบายสาธารณะ หมายถึง ข้อเสนอ สําหรับแนวทางการดําเนินงานของบุคคล กลุ่มบุคคล หรือรัฐบาล ภายในสภาพแวดล้อมแบบหนึ่ง ซึ่งอาจมีทั้งอุปสรรคและโอกาสบางประการ โดยอุปสรรคและโอกาสนี้จะเป็นแรงผลักดันให้มี การเสนอนโยบายขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ และเอาชนะสภาพการณ์ต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อนําไปสู่ เป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง”

98. ปัญหาในการจัดซื้อเรือดําน้ําของกองทัพเรือ เป็นปัญหาประเภทใด
(1) ปัญหาที่มีโครงสร้างแน่นอน
(2) ปัญหาที่มีโครงสร้างปานกลาง
(3) ปัญหาที่มีโครงสร้างไม่ชัดเจน
(4) ปัญหาที่ไม่มีตัวตนแท้จริง
(5) ปัญหาที่สร้างความแตกแยก
ตอบ 1 หน้า 91, (คําบรรยาย) ปัญหาที่มีโครงสร้างแน่นอน (Well-Structured Problem) เป็นปัญหาที่มีผู้เกี่ยวข้องในการกําหนดประเด็นปัญหาจํานวนน้อย ทางออกในการแก้ปัญหา ค่อนข้างชัดเจนและมีเพียง 1 – 3 ทางเท่านั้น นอกจากนี้อรรถประโยชน์ก็เป็นที่ยอมรับกันของสาธารณชน และผลที่จะได้รับก็ค่อนข้างแน่นอนด้วย เช่น ปัญหาการจัดซื้อยานพาหนะ ปัญหาการจัดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ ปัญหาการจัดซื้อเรือดําน้ำของกองทัพเรือ ปัญหาการสร้างตึกทําการใหม่ เป็นต้น

99. การนํานโยบายไปปฏิบัติเป็นขั้นตอนที่สําคัญ แต่มักจะไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจัง เพราะเหตุใด
(1) แต่เดิมนักวิเคราะห์นโยบายมักจะแยกการนํานโยบายไปปฏิบัติออกจากการวางนโยบาย
(2) นักวิเคราะห์จะศึกษาเฉพาะเป้าหมาย
(3) นักวิเคราะห์ไม่เข้าใจนโยบาย
(4) นักวิเคราะห์นโยบายมักจะแยกการนํานโยบายไปปฏิบัติออกจากการวางนโยบายและศึกษา
เฉพาะเป้าหมาย
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 7. ประกอบ

100. ใครกล่าวว่า การประเมินผลนโยบายเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมาณการ การเปรียบเทียบผลของการนํานโยบายไปปฏิบัติกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่กระทําอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาในทุกขั้นตอนนโยบาย
(1) Emil J. Posavac & Raymond G. Carey
(2) James E. Anderson
(3) Charles O. Jones
(4) William N. Dunn.
(5) ศุภชัย ยาวะประภาษ
ตอบ 2หน้า 229 เจมส์ อี. แอนเดอร์สัน (James E. Anderson) กล่าวว่า การประเมินผลนโยบาย เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมาณการ การเปรียบเทียบผลของการนํานโยบายไปปฏิบัติ กับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่กระทําอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาในทุกขั้นตอนของนโยบาย

Advertisement