การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2566
ข้อสอบกระบวนวิชา POL 3300 การบริหารการคลัง
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว

1.งบประมาณแผ่นดินมีลักษณะดังนี้
(1) เป็นบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย
(2) เป็นกฎหมาย
(3) มีกระบวนการจัดทําที่มีลักษณะกระจายอํานาจ
(4) ทั้งข้อ 2 และ 3
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 5 หน้า 15 – 20, 63 – 66, (คําบรรยาย) งบประมาณแผ่นดิน มีลักษณะดังนี้
1. เป็นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายเงินแผ่นดิน
2. เป็นกฎหมายทางการเงิน กล่าวคือ มีการตราเป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งกําหนดว่าให้ใช้จ่ายเงินได้ ไม่เกินจํานวนที่กําหนด แต่ในทางปฏิบัติรายจ่ายจริงอาจมีน้อยกว่ารายจ่ายที่กฎหมาย งบประมาณกําหนดไว้ก็ได้
3. เป็นกฎหมายที่มีผลบังคับต่อประชาชนทุกคนในชาติ
4. มีรายได้ (รายรับ) มาจากการจัดเก็บภาษีอากร การก่อหนี้สาธารณะ การขายสิ่งของและ บริการ และรัฐพาณิชย์
5. คํานึงถึงความพึงพอใจของประชาชนเป็นแรงจูงใจในการจัดทํางบประมาณ
6. มีรายจ่ายเป็นตัวกําหนดรายรับ
7. มีกระบวนการจัดทํางบประมาณที่มีลักษณะกระจายอํานาจ
8. มีประชาชนเป็นเจ้าของกิจการที่แท้จริง
9. มีการอนุมัติงบประมาณโดยรัฐสภา
10. การควบคุมหรือการบริหารงบประมาณจะถูกควบคุมร่วมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ

Advertisement

2. ในยุคที่มีความเชื่อว่า… “งบประมาณแผ่นดินเป็นเครื่องมือในการควบคุมความซื่อสัตย์ในการใช้จ่าย ของรัฐบาล…” งบประมาณแผ่นดินจะให้ความสําคัญไปที่
(1) แผนของรัฐในรูปตัวเงินที่แสดงประสิทธิผลของการใช้เงินตามแผนนั้น ๆ
(2) เอกสารที่ประกอบด้วยโครงการต่าง ๆ ซึ่งเสนอขอรายจ่ายเพื่อให้เกิดการดําเนินงานตามวัตถุประสงค์ ของโครงการนั้น
(3) บัญชีแสดงรายรับรายจ่ายเงินแผ่นดิน
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 หน้า 63, 90 – 91, (คําบรรยาย) ในยุคที่มีความเชื่อว่า งบประมาณแผ่นดินเป็นเครื่องมือ ของฝ่ายนิติบัญญัติในการติดตามควบคุมการใช้ทรัพยากร หรือควบคุมตรวจสอบความถูกต้อง และความซื่อสัตย์สุจริตในการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลนั้น งบประมาณแผ่นดินตามความเชื่อนี้ จะหมายถึง บัญชีแสดงรายรับรายจ่ายเงินแผ่นดิน หรือรายละเอียดของบัญชีที่แสดงประเภท ของการใช้จ่ายเงินของรัฐบาล หรือรายละเอียดของทรัพยากรที่หน่วยงานเสนอของบประมาณ จากรัฐบาล

3.การวิเคราะห์งบประมาณเป็นกิจกรรมที่อยู่ในขั้นตอนใดของกระบวนการงบประมาณ
(1) การควบคุม
(2) การประเมินผล
(3) การอนุมัติ
(4) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 หน้า 115 – 116 ในการจัดเตรียมงบประมาณนั้น จะมีการจัดทํารายละเอียดของงบประมาณ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนที่สําคัญ 3 ขั้นตอน คือ
1. เจ้าหน้าที่สํานักงบประมาณพิจารณาวิเคราะห์งบประมาณร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. สํานักงบประมาณเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ พร้อมด้วยเอกสารงบประมาณต่อ คณะรัฐมนตรี
3. นายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจําปี พร้อมด้วยเอกสารงบประมาณ ต่อรัฐสภา

4.ที่ว่า “งบประมาณแผ่นดินต้องทําเป็นพระราชบัญญัติ” หมายความว่า
(1) งบประมาณแผ่นดินต้องได้รับการประเมินก่อนนําไปใช้
(2) งบประมาณต้องได้รับการวิเคราะห์ก่อนนําไปใช้
(3) งบประมาณต้องผ่านการทําประชามติก่อนนําไปใช้
(4) ต้องร่างเป็นกฎหมายให้รัฐสภารับรอง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 64, 82, (คําบรรยาย) งบประมาณแผ่นดินเป็นเงินของประชาชนที่มอบให้กับรัฐบาลในรูปของภาษีอากรและการกู้ยืมเพื่อนําไปใช้ในการบริหารประเทศ ดังนั้นการใช้จ่ายงบประมาณ จึงต้องได้รับการอนุมัติหรือยินยอมจากประชาชนเสียก่อน แต่เนื่องจากการบริหารราชการในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ประชาชนได้มอบอํานาจการตัดสินใจให้กับรัฐสภา (สภานิติบัญญัติ) ไปแล้ว งบประมาณแผ่นดินซึ่งการจัดทําเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะจึงจําเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภาโดยต้องทําเป็นกฎหมายหรือพระราชบัญญัติก่อนที่จะนําไปใช้ เพราะถ้างบประมาณไม่ได้รับการรับรองจากสภา รัฐบาลก็จะบริหารประเทศต่อไป ไม่ได้ ดังนั้นจึงถือว่างบประมาณเป็นเครื่องมือ เงื่อนไข หรือกลไกรับรองการเป็นรัฐบาลหรือ การจัดตั้งรัฐบาลในประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา

5.ตัวอย่างของ “สินค้าเอกชน” ได้แก่
(1) การจัดแสงสว่างในทางเดินสาธารณะ
(2) บริการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
(3) ทางหลวง
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) น้ำมัน
ตอบ 5 หน้า 13, (คําบรรยาย) สินค้าเอกชน (Private Goods) หรือสินค้าเอกชนแท้ (Pure Private Goods) เป็นสินค้าที่เป็นปรปักษ์ในการบริโภค สามารถแบ่งแยกการบริโภคออกจากกันได้ และ มีต้นทุนส่วนเพิ่มในการจัดให้มีสินค้า ซึ่งได้แก่สินค้าหรือบริการทั่วไปที่ซื้อขายกันตามท้องตลาด เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อาหาร น้ำมัน เป็นต้น

6.หลักที่ว่างบประมาณต้องมีระยะเวลาที่แน่นอน หมายความว่าอย่างไร
(1) งบประมาณอาจกําหนดให้ 1 ปีงบประมาณมีระยะเวลา 24 เดือนก็ได้
(2) ปีงบประมาณอาจเริ่มต้นในเดือนใดของปีปฏิทินก็ได้ แต่ต้องมีระยะเวลาแน่นอน
(3) ปีงบประมาณต้องเท่ากันกับปีปฏิทินเสมอ
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 68, (คําบรรยาย) ระยะเวลาของการบริหารหรือการใช้จ่ายเงินตามงบประมาณ เรียกว่า “ปีงบประมาณ” หรือ “ปีคลัง” (Fiscal Year) ซึ่งปกติแล้วจะต้องมีระยะเวลาที่แน่นอน โดยอาจเป็น 6 เดือน 1 ปี (12 เดือน) หรือ 2 ปี (24 เดือน) ก็ได้ แต่จะต้องเป็นเช่นนั้นทุก ๆ ปี และจะเริ่มต้นในเดือนใดของปีปฏิทินก็ได้ เช่น ปีงบประมาณของไทยมีระยะเวลา 12 เดือน เริ่มต้นจากวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี และไปสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป โดยใช้ ชื่อปีถัดไปเป็นชื่อปีงบประมาณ (เช่น ปีงบประมาณ 2567 จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2566 และสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567)

7.ลักษณะในการกําหนดรายรับรายจ่ายของงบประมาณแผ่นดินโดยหลักการแล้ว
(1) ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายสินค้าและบริการ
(2) รายรับเป็นตัวกําหนดรายจ่าย
(3) สามารถใช้รายจ่ายเป็นตัวกําหนดรายรับ
(4) ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดเก็บภาษีอากร
(5) ทั้งข้อ 2 และ 4 4
ตอบ 3 หน้า 65, (คําบรรยาย) ลักษณะการกําหนดรายรับรายจ่ายของงบประมาณแผ่นดินนั้นโดยหลักการแล้วสามารถใช้รายจ่ายเป็นตัวกําหนดรายรับได้ เนื่องจากรัฐบาลมีแหล่งของรายรับที่กว้างขวาง และมีอํานาจในการออกกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีอากรจากประชาชน และก่อหนี้สาธารณะ ในขณะที่เอกชนจะมีรายรับเป็นตัวกําหนดรายจ่าย เพราะเอกชน มีแหล่งรายรับที่จํากัด และขึ้นอยู่กับความสามารถในการหารายได้จากการขายสินค้าและ บริการของตนเป็นสําคัญ

8. ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) หลักประสิทธิภาพอาจไม่ไปด้วยกันกับหลักความพึงพอใจ
(2) หลักประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความคุ้มค่าของเงิน
(3) ในสังคมที่มีความแตกต่างทางความคิดมาก ๆ หลักความพึงพอใจจะประสบปัญหามาก
(4) ศูนย์รวมเงินจะต้องให้การบริหารงบประมาณเป็นไปภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน
(5) หลักความพึงพอใจของประชาชนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากร
ตอบ 5 หน้า 69, (คําบรรยาย) การจัดทํางบประมาณแผ่นดินนั้นจะต้องคํานึงถึงผลประโยชน์และ ความพึงพอใจของประชาชน เพราะเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นเงินของประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงควรจะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากการจัดทํางบประมาณแผ่นดิน ทั้งนี้ประโยชน์ และความพึงพอใจของประชาชนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ของการจัดทํางบประมาณแผ่นดินจึงไม่เกี่ยวข้องกับหลักประสิทธิภาพหรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร

9.สภาวะ “เศรษฐกิจตกต่ำ สินค้าล้นตลาด ประชาชนว่างงาน” รัฐบาลควรใช้นโยบายงบประมาณแบบใด
(1) สมดุล
(2) เกินดุล
(3) ขาดดุล
(4) ขาดดุลควบคู่กับนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูง
(5) ขาดดุลควบคู่กับนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) สภาวะเงินฝืด หมายถึง สภาวะที่อุปสงค์ด้านสินค้าและบริการน้อยกว่าอุปทาน ด้านสินค้าและบริการ หรือเป็นสภาวะที่มีปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจน้อยเกินไป ทําให้เศรษฐกิจตกต่ํา สินค้าล้นตลาด และประชาชนว่างงาน ดังนั้นรัฐบาลควรจะแก้ปัญหา ด้วยการเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น โดยการนํานโยบายงบประมาณแบบขาดดุล และการลดอัตราภาษีอากรมาใช้ควบคู่กับนโยบายการเงินดังต่อไปนี้
1. ซื้อพันธบัตรรัฐบาลคืนจากประชาชน
2. ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์
3. ลดอัตราเงินสดสํารองของธนาคารพาณิชย์
4. ลดอัตราส่วนลดเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้มากขึ้น ฯลฯ

10. ข้อใดถูกต้องตามหลักทฤษฎีการคลัง
(1) เศรษฐกิจที่รัฐบาลจะมีรายได้มาก
(2) เศรษฐกิจ รัฐบาลจะมีภาระรายจ่ายสูงขึ้น
(3) เศรษฐกิจดีคนในสังคมจะมีชีวิตที่เป็นสุข
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 2 และ 3
ตอบ 1 (คําบรรยาย) ตามหลักทฤษฎีการคลัง หากเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะมีรายได้มากและจะมีภาระ
รายจ่ายน้อยลง ในทางตรงกันข้ามหากเศรษฐกิจตกต่ํารัฐบาลจะมีรายได้น้อยลงและมีภาระรายจ่ายมากขึ้น

11.สภาวะ “เศรษฐกิจตกต่ํา สินค้าล้นตลาด ประชาชนว่างงาน” เรียกสภาวะดังกล่าวว่าอะไร
(1) สภาวะเงินฝืด
(2) สภาวะเงินเฟ้อ
(3) สภาวะการขาดอุปทาน
(4) สภาวะอุปสงค์ล้นตลาด
(5) ทั้งข้อ 2 และ 3
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 9. ประกอบ

12. งบประมาณใดต่อไปนี้ที่ใช้หลักของ “ศูนย์รวมเงินของแผ่นดิน”
(1) งบประมาณราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
(2) เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
(3) เงินทุนหมุนเวียน
(4) งบประมาณของสํานักงบประมาณ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 67, (คําบรรยาย) งบประมาณแผ่นดินมีลักษณะเป็นศูนย์รวมเงินของแผ่นดิน หมายความว่า ในปีงบประมาณหนึ่ง ๆ จะต้องมีการบูรณาการแผนทางการเงินของส่วนราชการต่าง ๆ ให้เป็น แผนเดียวกัน มีการจัดเตรียมและอนุมัติงบประมาณเพียงครั้งเดียว มีการใช้จ่ายตามที่กําหนดไว้ใน งบประมาณรายจ่ายประจําปี หากไม่มีความจําเป็นจะไม่มีการจัดทํางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม รวมทั้งกระบวนการงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ จะต้องดําเนินไปภายใต้กฎข้อบังคับ เดียวกัน ใช้บทบัญญัติเดียวกัน และมีสถาบันหรือหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบในขั้นตอนต่าง ๆ ของการบริหารงบประมาณเดียวกัน โดยงบประมาณที่ใช้หลักศูนย์รวมเงินของแผ่นดิน ได้แก่ งบประมาณประจําปีของส่วนราชการทั่ว ๆ ไป เช่น งบประมาณของสํานักงบประมาณ กรมการปกครอง กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต เป็นต้น

13. Budget Documents หมายถึงอะไร
(1) วงเงินงบประมาณ
(2) เพดานเงินจัดสรร
(3) เงินประจํางวด
(4) เงินที่ไม่ได้รับอนุมัติ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 หน้า 81 – 82 Budget Documents หมายถึง เอกสารงบประมาณประจําปี ซึ่งเอกสาร งบประมาณประจําปีของไทยมีส่วนประกอบดังนี้
1. คําแถลงประกอบงบประมาณแสดงฐานะและนโยบายทางการคลังและการเงินของประเทศ
2. ตารางแสดงรายรับรายจ่ายเปรียบเทียบ
3. รายละเอียดของหน่วยงาน โครงการ และงาน ต่าง ๆ ของราชการและรัฐวิสาหกิจ
4. รายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของรัฐวิสาหกิจ
5. รายละเอียดเกี่ยวกับหนี้สินของรัฐบาล
6. ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี

14. ตัวอย่างของบริการที่ถ้าให้เอกชนจัดทําแล้วประชาชนอาจเสียประโยชน์
(1) กิจการไปรษณีย์
(2) บริการด้านการศึกษา
(3) โรงงานผลิตรถถัง
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 2 และ 3
ตอบ 2 หน้า 71 – 72 ตามแนวคิดในการจัดสรรทรัพยากรแบบเสรีนิยมนั้น กิจกรรมที่เอกชนจัดทําแล้ว ประชาชนอาจเสียประโยชน์ ได้แก่ บริการด้านการศึกษา (การจัดการศึกษาภาคบังคับ) บริการด้านสาธารณสุข (การรักษาพยาบาล การป้องกันโรคติดต่อ การให้ความรู้เกี่ยวกับสาธารณสุข ขั้นมูลฐาน) เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมประเภทนี้รัฐจะต้องเข้าไปควบคุมมาตรฐานเพื่อความถูกต้องเหมาะสม

15. การกระจายรายได้ที่เป็นธรรมของสังคม สามารถวัดได้โดย
(1) เปรียบเทียบรายได้ของคนแยกตามกลุ่มอาชีพ
(2) เปรียบเทียบรายได้ของคนในเมืองกับในชนบท
(3) ดูอัตราการว่างงาน
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 73 – 74, (คําบรรยาย) งบประมาณแผ่นดินจะต้องเป็นไปเพื่อ
1. สร้างความเจริญเติบโตให้กับระบบเศรษฐกิจหรือความมั่งคั่งของชาติ ซึ่งสามารถวัดได้
โดยการดูอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของผลผลิตมวลรวม
2. สร้างเสถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถวัดได้โดยการดูอัตราการว่างงานอัตราเงินฝืด และอัตราเงินเฟ้อ
3. สร้างประสิทธิภาพในการทํางาน ซึ่งสามารถวัดได้โดยการดูผลผลิตต่อหน่วย
4. สร้างความเสมอภาคหรือการกระจายทางเศรษฐกิจ หรือการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม ให้กับสังคม ซึ่งสามารถวัดได้โดยการเปรียบเทียบความแตกต่างของรายได้ อัตราการใช้จ่าย และทรัพย์สินที่มี

16.ลักษณะของระบบงบประมาณแบบ PPBS
(1) มีการวัดผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัดที่กําหนด
(2) แบ่งเงินงบประมาณออกตามประเภทการใช้จ่าย
(3) มีการจัดทําโครงสร้างแผนงาน
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1 และ 3
ตอบ 5 หน้า 93 – 94, 97, 101 – 102, (คําบรรยาย) งบประมาณแบบวางแผนวางโครงการ (Planning Programming Budgeting System : PPBS) เป็นระบบงบประมาณที่ ในด้านการวางแผนวางโครงการโดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ระยะยาว ระบบงบประมาณแบบนี้จะมีการวางแผนงานให้สอดคล้องกับนโยบายและตั้งวงเงินงบประมาณตามแต่ละแผนงาน มีการกําหนดยอดวงเงินงบประมาณโดยใช้หลักความพึงพอใจผสมกับหลักเหตุผล (Limited Rationality หรือ Mixed Scanning) มีการแบ่งเงินงบประมาณออกตามโครงสร้างแผนงาน หรือโครงการ (Program Structure) มีการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) ในการวิเคราะห์โครงการเพื่อศึกษาถึงโครงสร้างแผนงานหรือโครงการที่จัดทําว่ามีความสัมพันธ์กับ โครงการใด ๆ บ้าง มีการวิเคราะห์โครงการ (Program Analysis) เพื่อชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ระหว่างนโยบายสาธารณะ เป้าหมาย และวัตถุประสงค์ในการวางแผนวางโครงการของหน่วยงานมีการกําหนดตัวชี้วัดความสําเร็จหรือผลสัมฤทธิ์ของแผนงานหรือโครงการเพื่อการติดตามประเมินผล รวมทั้งมีการจัดทําบันทึกโครงการ แผนงานและแผนทางการเงินระยะยาว (อาจเป็น 3 ปี หรือ 5 ปี) เพื่อประกอบการจัดทําโครงการด้วย

17. ลักษณะของงบประมาณแบบโครงการ
(1) มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมประสิทธิภาพของการใช้จ่าย
(2) แบ่งเงินงบประมาณออกตามประเภทการใช้จ่าย
(3) มีการจัดทําโครงสร้างแผนงาน
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 1 หน้า 92 – 93, (คําบรรยาย) งบประมาณแบบโครงการ (Program Budget) หรืองบประมาณ แบบแสดงผลงาน (Performance Budget) เป็นระบบงบประมาณที่ในหลักประสิทธิภาพ กล่าวคือ เป็นระบบงบประมาณที่เน้นการควบคุมประสิทธิภาพของการใช้จ่าย หรือให้ความสําคัญกับ ประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร ทั้งนี้ก็เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์อย่างประหยัด นอกจากนี้ ยังให้ความสําคัญกับผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ของงานหรือโครงการในแต่ละปี มีการจัดทํางบประมาณเป็นรายโครงการและมีการแบ่งเงินงบประมาณออกตามโครงการหรือ ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล (Objectives Classification) หรือตามหน้าที่ของรัฐ (Functional Classification) มีการวิเคราะห์โครงการ (Program Analysis) หรือวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ของโครงการหรือประสิทธิภาพของการใช้เงินโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ เช่น Cost and Effectiveness Analysis, Cost and Benefit Analysis และมีการตัดสินใจจัดสรรงบประมาณ โดยอาศัยหลักของเหตุผล (Pure Rationality) เป็นสําคัญ

18. ลักษณะของระบบ PPBS
(1) มีการจัดทําบันทึกโครงการ
(2) แบ่งเงินงบประมาณออกตามหน่วยราชการ
(3) มีการจัดทําโครงสร้างแผนงาน
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1 และ 3
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 16. ประกอบ

19. ลักษณะของ Performance Budget
(1) มีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโครงการ
(2) การตัดสินใจใช้หลักของเหตุผล
(3) อาจเรียกว่าเป็นงบประมาณแบบแสดงรายการ
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 17. ประกอบ

20. ลักษณะของ Program Budget
(1) มีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโครงการ
(2) การตัดสินใจใช้หลักของเหตุผล
(3) อาจเรียกว่าเป็นงบประมาณแบบ PPBS
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 17. ประกอบ

21. ลักษณะของระบบงบประมาณแบบที่ในการควบคุม
(1) มีการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโครงการ
(2) การตัดสินใจใช้หลักของเหตุผล
(3) อาจเรียกว่าเป็นงบประมาณแบบแสดงรายการ
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 3 หน้า 87 – 88, 90 – 92, (คําบรรยาย) งบประมาณแบบแสดงรายการ (Line-Item Budget) หรืองบประมาณแบบเก่า (Conventional Budget) หรืองบประมาณแบบประเพณี (Traditional Budget) เป็นระบบงบประมาณที่ในด้านการควบคุมเพื่อมุ่งตรวจสอบความถูกต้องและความซื่อสัตย์สุจริตของการใช้จ่ายเงินของรัฐ หรือให้ความสําคัญกับความถูกต้องของ “ปัจจัย นําเข้า” (Inputs) หรือการจัดสรร “ทรัพยากร” ของงานหรือโครงการ โดยเน้นกฎ ระเบียบ และการควบคุมให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบนั้น หรือให้ความสําคัญกับมาตรฐานของทรัพยากร ที่หน่วยราชการได้ใช้ไป ดังนั้นงบประมาณจึงถูกแบ่งออกตามหน่วยราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ (Agencies Classification หรือ Organizations Classification) โดยเฉพาะในระดับกรม และมีการแบ่งตามประเภทและชนิดของการใช้จ่าย (Objects of Expenditure Classification) โดยพิจารณาจากคู่มือการจําแนกประเภทและชนิดของการใช้จ่ายซึ่งแบ่งออกเป็นหมวดต่าง ๆ เช่น หมวดเงินเดือน หมวดสาธารณูปโภค หมวดครุภัณฑ์ ฯลฯ นอกจากนี้ในการจัดเตรียม งบประมาณก็จะต้องมีการกําหนดยอดวงเงินงบประมาณโดยใช้หลักความพึงพอใจ (Muddling Through) หรือการวิเคราะห์เฉพาะส่วนที่เพิ่ม (Incrementalism) เป็นเกณฑ์ด้วย

22. ข้อใดที่จัดเป็นลักษณะของ Traditional Budget
(1) กําหนดยอดวงเงินโดยใช้หลัก Muddling Through
(2) แบ่งเงินงบประมาณออกตามหน่วยราชการ
(3) Objectives Classification
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 21. ประกอบ

23.Line-Item Budget ตรงกับข้อใด
(1) Muddling Through
(2) คู่มือจําแนกประเภทและชนิดของการใช้จ่าย
(3) แบ่งเงินงบประมาณออกตามจังหวัด
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ทั้งข้อ 1, 2 และ 3
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 21. ประกอบ

24. ลักษณะของ Zero-Base Budget
(1) Muddling Through
(2) Political Bargaining
(3) Incrementalism
(4) Pure Rationality
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 96, 99 – 100, (คําบรรยาย) งบประมาณฐานศูนย์ (Zero-Base Budget : ZBB) เป็นระบบ งบประมาณที่อาศัยหลักของเหตุผล (Pure Rationality) ในการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งกําหนดให้ โครงการหรืองานที่เสนอของบประมาณในทุก ๆ ปีงบประมาณจะต้องได้รับการตรวจสอบวิเคราะห์ ทั้งระบบ ทั้งงานหรือโครงการเดิมที่เคยทํามาแล้ว และงานหรือโครงการใหม่ ๆ ที่กําลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อต้องการให้การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างมีเหตุผล แต่วิธีการนี้มักจะก่อให้เกิดความล่าช้าหรืออาจทําไม่ได้ในทางปฏิบัติ

25. สถาบันที่ทําหน้าที่ “ตรวจสอบบัญชีการเงินของส่วนราชการต่าง ๆ”
(1) กรมบัญชีกลาง
(2) สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(3) สํานักงบประมาณ
(4) ธนาคารแห่งประเทศไทย
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 34, 129 สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นสถาบันที่ทําหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดของการใช้จ่ายเงินและตรวจสอบบัญชีทางการเงินของส่วนราชการต่าง ๆ โดยแยก การตรวจสอบออกเป็น 2 ระดับ คือ การตรวจสอบระดับหน่วยงานและการตรวจสอบระดับรัฐบาล

26. สถาบันที่ทําหน้าที่ “วิเคราะห์งบประมาณ” ได้แก่
(1) กรมบัญชีกลาง
(2) สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
(3) สํานักงบประมาณ
(4) DSI
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ

27. ระยะเวลาในการดําเนินการ “อนุมัติ” งบประมาณ มีระยะประมาณกี่เดือน
(1) 3 เดือน
(2) 5 เดือน
(3) 9 เดือน
(4) 12 เดือน
(5) ไม่แน่นอนกําหนดตายตัวไม่ได้
ตอบ 1 หน้า 79 ระยะเวลาของการดําเนินกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน เรียกว่า วงจรงบประมาณ (Budget Cycle) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด โดยวงจรงบประมาณ ของประเทศไทยนั้นจะใช้เวลาประมาณ 22 เดือน ประกอบด้วยกิจกรรมหรือการกระทํา 3 ขั้นตอน คือ การจัดเตรียมประมาณ 6 – 7 เดือน การอนุมัติประมาณ 3 – 4 เดือน และ 7 – การควบคุมหรือการบริหารเป็นเวลา 12 เดือน

28. ระยะเวลาในการดําเนินการ “บริหาร” งบประมาณ มีระยะประมาณกี่เดือน
(1) 3 เดือน
(2) 5 เดือน
(3) 9 เดือน
(4) 12 เดือน
(5) ไม่แน่นอนกําหนดตายตัวไม่ได้
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 27. ประกอบ

29. ระยะเวลาของการใช้จ่ายเงินตามงบประมาณ เรียกว่า
(1) ปีงบประมาณ
(2) วงจรงบประมาณ
(3) เงินประจํางวด
(4) ทั้งข้อ 1 และ 2
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ

30.พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2566 กําหนดวงเงินไว้ประมาณเท่าใด
(1) 3.05 ล้านล้านบาท
(2) 3.18 ล้านล้านบาท
(3) 3.35 ล้านล้านบาท
(4) 3.50 ล้านล้านบาท
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 (ความรู้ทั่วไป) พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2556 ได้กําหนดวงเงินงบประมาณ รายจ่ายไว้ประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.09 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และกําหนดวงเงินขาดดุลไว้ประมาณ 6.9 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 3.73 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

31.พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2556 กําหนดวงเงินขาดดุลไว้ประมาณเท่าใด
(1) 6.9 แสนล้านบาท
(2) 9.9 แสนล้านบาท
(3) 1.5 ล้านล้านบาท
(4) 2.2 ล้านล้านบาท
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ

32.ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะคิดเป็นร้อยละเท่าไรของ GDP (ประมาณ)
(1) 48
(2) 55
(3) 61
(4) 79
(5) 88
ตอบ 3 (ความรู้ทั่วไป) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะคงค้างจํานวน 10,797,505.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 61.23 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)

33.พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2556 กําหนดวงเงินไว้คิดเป็นร้อยละเท่าไรของ GDP
(1) 7
(2) 17
(3) 27
(4) 35
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 30. ประกอบ

34. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสินค้าหรือบริการสาธารณะ
(1) ไม่สามารถแยกการบริโภคออกจากกันได้
(2) ไม่มีต้นทุนส่วนเพิ่ม
(3) เป็นปรปักษ์ในการบริโภค
(4) มีลักษณะ Non-Rival Consumption
(5) ไม่สามารถใช้ราคาเป็นเครื่องกีดกันไม่ให้ผู้ใดเข้าถึงสินค้าหรือบริการนั้น
ตอบ 3 หน้า 11 – 12, 14, (คําบรรยาย) สินค้าหรือบริการสาธารณะ (Public Goods) หรือเรียกว่า
สินค้าสาธารณะแท้หรือสินค้าสาธารณะที่สมบูรณ์ (Pure Public Goods) มีคุณสมบัติดังนี้
1. ไม่เป็นปรปักษ์ในการบริโภค (Non-Rival Consumption) หรือกีดกันไม่ให้ผู้ใดเข้าถึง สินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้
2. ไม่สามารถแยกการบริโภคออกจากกันได้ (Non-Excludable) หรือไม่สามารถใช้ราคาเป็นเครื่องมือกีดกันไม่ให้ผู้ใดเข้าถึงสินค้าหรือบริการนั้นได้
3. ไม่มีต้นทุนส่วนเพิ่มในการจัดให้มีสินค้าหรือบริการ คือ ต้นทุนส่วนเพิ่มเมื่อมีผู้ซื้อสินค้า หรือบริการเพิ่มขึ้นนั้นมีค่าเท่ากับศูนย์ (Zero-Marginal Cost)
ตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าหรือไฟส่องสว่างบนถนนสาธารณะ แสงไฟจากประภาคารสาธารณะ แม่น้ำ ลําน้ำสาธารณะ การดําเนินนโยบายต่างประเทศ การดําเนินนโยบายความมั่นคง การทํา ความสะอาดถนนสาธารณะ การควบคุมดูแลด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายหลักสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการ ชิมช้อปใช้ นโยบายป้องกันประเทศจาก COVID เป็นต้น

35. ข้อใดถูกต้อง
(1) ดอกเบี้ยเป็นเงินได้ประเภทที่ 3
(2) เงินเดือนเป็นเงินได้ประเภทที่ 2
(3) ค่านายหน้าเป็นเงินได้ประเภทที่ 1
(4) ค่ารับเหมาเป็นเงินได้ประเภทที่ 6
(5) เงินค่าเช่าคอนโดมิเนียมที่จัดเก็บจากผู้เช่าเป็นเงินได้ประเภทที่ 5
ตอบ 5 หน้า 33 เงินได้ประเภทที่ 5 ได้แก่ เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจาก
1. การให้เช่าทรัพย์สิน เช่น เช่าบ้าน เช่าคอนโดมิเนียม
2. การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน
3. การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อนซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นโดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว

36. สินค้าที่เมื่อมีการบริโภคแล้วระบุไม่ได้ว่าเกิดประโยชน์กับใคร เท่าใด เรียกว่าเป็นสินค้าที่มีลักษณะอย่างไร
(1) แบ่งแยกการบริโภคจากกันได้
(2) แบ่งแยกการบริโภคจากกันไม่ได้
(3) เป็นปรปักษ์ในการบริโภค
(4) ไม่เป็นเป็นปรปักษ์ในการบริโภค
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 12, (คําบรรยาย) สินค้าที่เมื่อมีการบริโภคแล้วระบุไม่ได้ว่าเกิดประโยชน์กับใคร เท่าใดหรือไม่สามารถวัดการใช้ประโยชน์หรือการได้รับประโยชน์จากสินค้านั้นได้ เรียกว่าเป็น “สินค้า ที่แบ่งแยกการบริโภคจากกันไม่ได้” (Non-Excludable) ในทางตรงกันข้ามหากสินค้าที่เมื่อมี การบริโภคแล้วระบุได้ว่าเกิดประโยชน์กับใคร เท่าใด หรือสามารถวัดการใช้ประโยชน์หรือ การได้รับประโยชน์จากสินค้านั้นได้ เรียกว่าเป็น “สินค้าที่แบ่งแยกการบริโภคจากกันได้” (Excludable)

37. ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) ค่าปรับเป็นรายได้ของรัฐ
(2) ภาษีเป็นรายได้ของรัฐ
(3) เงินกู้เป็นรายรับของรัฐ
(4) เงินคงคลังเป็นรายได้ของรัฐ
(5) ค่าธรรมเนียมเป็นรายรับของรัฐ
ตอบ 4 หน้า 15 – 20, (คําบรรยาย) แหล่งรายรับของรัฐบาลไทย มาจาก 2 ส่วน คือ 1. รายรับที่เป็นรายได้ ได้แก่ ภาษีอากร การขายสิ่งของและบริการ (เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาต ค่าสัมปทาน ค่าบริการ ค่าเช่าทรัพย์สินของรัฐ ค่าขายของกลางที่ยึด มาจากคดี) รัฐพาณิชย์ และรายได้อื่น ๆ เช่น ค่าแสตมป์ฤชากร ค่าปรับ เป็นต้น 2. รายรับที่ไม่เป็นรายได้ ได้แก่ การกู้เงิน การใช้เงินคงคลัง การขายหุ้น เป็นต้น

38. ข้อใดเป็นลักษณะพื้นฐานของสินค้าสาธารณะแบบแท้
(1) Non-Rival Consumption a≈ Excludable
(2) Non-Rival Consumption a Non-Excludable
(3) Non-Rival Consumption a Price-Excludable
(4) Rival Consumption a Price-Excludable
(5) Rival Consumption และ Non-Excludable
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ

39. กลไกตลาดภาครัฐที่เหมาะจะใช้ในการจัดบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานคืออะไร
(1) ค่าบริการ
(2) ค่าธรรมเนียม
(3) ภาษี
(4) ค่าปรับ
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 21 “ภาษี” เป็นกลไกตลาดภาครัฐที่เหมาะสําหรับใช้จัดบริการหรือผลิตสินค้าสาธารณะ ขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นสินค้าและบริการที่มีความจําเป็นต่อประชาชนทุกคนภายในประเทศ เช่น การรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในสังคม การศึกษาขั้นพื้นฐาน การควบคุมดูแล ด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

40. ภาษีประเภทใดไม่ได้จัดเก็บโดยใช้ฐานการบริโภค
(1) ภาษีขาย
(2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม
(3) ภาษีสรรพสามิต
(4) ภาษีเงินได้นิติบุคคล
(5) ภาษีศุลกากร
ตอบ 4 หน้า 5 – 6, 23, 38 ฐานการบริโภค (Consumption Base) เป็นฐานภาษีที่เก็บจาก การใช้จ่ายเพื่อบริโภคของประชาชน รวมถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ ตัวอย่างภาษีที่จัดเก็บโดยใช้ฐานการบริโภค เช่น ภาษีการขาย ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษี สรรพสามิต (เช่น ภาษีสุรา ภาษียาสูบ ภาษีน้ํามัน ภาษีเครื่องดื่ม ภาษีไฟ ภาษีน้ําหอม) ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีศุลกากร (ภาษีสินค้าขาเข้า เช่น ภาษีรถยนต์นําเข้า) เป็นต้น

41. การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นการจัดเก็บภาษีโดยใช้ฐานภาษีแบบใด
(1) ฐานรายได้
(2) ฐานการบริโภค
(3) ฐานความมั่นคง
(4) ฐานความมั่งคั่ง
(5) ฐานความยั่งยืน
ตอบ 4 หน้า 6, 23, (คําบรรยาย) ฐานความมั่งคั่ง (Wealth Base) เป็นฐานภาษีที่พิจารณาจาก รายได้หรือผลประโยชน์ที่เกิดจากทรัพย์สินที่บุคคลได้ครอบครองอยู่ ตัวอย่างภาษีที่จัดเก็บ โดยใช้ฐานความมั่งคั่ง เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีโรงแรม ภาษีโรงงาน ภาษีป้าย ภาษีรถยนต์ ภาษีมรดก ภาษีดอกเบี้ย เป็นต้น

42. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสินค้าหรือบริการสาธารณะที่ควรจัดเก็บค่าธรรมเนียม/ค่าบริการ
(1) Price-Excludable
(2) Zero-Marginal Cost
(3) Rival Consumption
(4) Non-Zero-Marginal Cost
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 40 สินค้าหรือบริการสาธารณะที่รัฐควรจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการ มีลักษณะดังนี้
1. Price-Excludable คือ เลือกซื้อได้ตามความต้องการของแต่ละคน
2. Rival Consumption คือ ประโยชน์จากการบริโภคเกิดขึ้นเฉพาะตัวและการบริโภค ส่งผลให้ประโยชน์ของสินค้าลดลง
3. Non-Zero-Marginal Cost คือ ต้นทุนการจัดบริการเพิ่มขึ้นเมื่อมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น

43. สินค้าที่มีขีดจํากัดในการให้บริการ คือสินค้าประเภทใด
(1) Congestible Goods
(2) Private Goods
(3) Club Goods
(4) Public Goods
(5) Luxury Goods
ตอบ 1 หน้า 13, 40, (คําบรรยาย) สินค้าทั่วไป (Common Goods) หรือสินค้ากึ่งสาธารณะ ประเภท Congestible Public Goods เป็นสินค้าที่เป็นปรปักษ์ในการบริโภคแต่แบ่งแยก การบริโภคออกจากกันไม่ได้ หรือการเข้ามาของผู้บริโภครายใหม่อาจทําให้ความพึงพอใจของ ผู้บริโภครายเดิมลดน้อยลง แต่ไม่สามารถกีดกันให้บุคคลอื่นไม่สามารถเข้ามาเป็นผู้บริโภคได้ ดังนั้นสินค้าประเภทนี้จึงมีขีดจํากัดในการให้บริการ เช่น สนามหลวง สนามกีฬาแห่งชาติ สนามกีฬากลางของเทศบาล ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ถนนสาธารณะ (เช่น ถนนพระราม 9) ทางด่วน เป็นต้น

44. “กลไกตลาดภาครัฐ” เป็นกลไกที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนกันระหว่างตัวแสดงใดบ้างในสังคม
(1) ภาคธุรกิจ – ภาคประชาสังคม
(2) ภาคธุรกิจ – ประชาชน
(3) รัฐบาล – ประชาชน
(4) รัฐบาล – รัฐสภา
(5) รัฐบาล – ศาล
ตอบ 3 หน้า 21, (คําบรรยาย) กลไกตลาดภาครัฐ คือ กลไกการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ระหว่าง “ภาครัฐ” (รัฐบาล) ในฐานะผู้ประกอบการ ผู้ผลิต หรือผู้ขายกับ “ประชาชน” ในฐานะ ผู้บริโภค ผู้ซื้อ หรือผู้รับบริการ

45. ใครเป็นผู้ผลิตหรือผู้ขายในตลาดภาครัฐ
(1) ภาคธุรกิจ
(2) รัฐบาล
(3) ประชาชน
(4) รัฐสภา
(5) ศาล
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 44. ประกอบ

46. ข้อใดเป็นหลักในการหารายได้ของภาครัฐ
(1) หารายได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้
(2) หารายได้เท่าที่จําเป็นต้องใช้
(3) หารายได้อย่างจํากัดและไม่สร้างภาระกับประชาชน
(4) หารายได้จากธุรกิจในเชิงพาณิชย์เท่านั้น
(5) หารายได้ให้เกินดุล
ตอบ 2 (คําบรรยาย) หลักการหารายได้ของภาครัฐจะมีความแตกต่างกับภาคเอกชน กล่าวคือ ภาคเอกชนจะเน้นการหารายได้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ส่วนภาครัฐจะหารายได้ เท่าที่จําเป็นต้องใช้เพื่อไม่ให้เป็นภาระประชาชนมากเกินไป

47. บุคคลใดต่อไปนี้ไม่ต้องยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน
(1) นิติบุคคลมีรายได้ 1.18 ล้านบาทต่อปี
(2) นิติบุคคลมีรายได้ 18.1 ล้านบาทต่อปี
(3) นิติบุคคลมีรายได้ 11.8 ล้านบาทต่อปี
(4) บุคคลธรรมดามีรายได้ 1.81 ล้านบาทต่อปี
(5) บุคคลธรรมดามีรายได้ 8.1 ล้านบาทต่อปี
ตอบ 1 หน้า 36 ภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ที่ขายสินค้าหรือบริการเป็นอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือนิติบุคคล ซึ่งมีรายได้หรือยอดขายเกินกว่า 1,800,000 บาทต่อปี (150,000 บาทต่อเดือน) โดยต้องยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน และคํานวณภาษีที่ต้องเสียจากภาษีขายหักด้วยภาษีซื้อ และต้องชําระภาษีเป็นรายเดือน โดยยื่นแบบแสดงรายการภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

48. ปัญหา Free Rider หมายถึงอะไร
(1) ปัญหาการแย่งกันใช้สินค้าสาธารณะ
(2) ปัญหาการทําหน้าที่ผิดพลาด
(3) ปัญหาการร่วมรับประโยชน์แต่ไม่ร่วมจ่าย
(4) ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
(5) ปัญหาการใช้บริการสาธารณะ
ตอบ 3 หน้า 12 ปัญหาการร่วมรับประโยชน์แต่ไม่ร่วมจ่าย (Free Rider Problem) หมายถึง การที่คนร่วมรับประโยชน์จากสินค้าสาธารณะ แต่ไม่ยอมร่วมจ่ายค่าบริการ ซึ่งมักเป็นปัญหา ของสินค้าหรือบริการสาธารณะแท้

49. “กิจกรรมหรือสิ่งที่เป็นเหตุให้ต้องเสียภาษี” หมายถึงอะไร
(1) ฐานภาษี
(2) อัตราภาษี
(3) ภาระภาษี
(4) งานบริหารภาษี
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 22 ฐานภาษี (Tax Base) หมายถึง สิ่งที่เป็นมูลเหตุขั้นต้นที่ทําให้บุคคลต้องเสียภาษีอากร หรือสิ่งที่ใช้เป็นฐานในการประเมินภาษีอากร โดยในการจัดเก็บภาษีรัฐต้องมีการบริหารจัดเก็บ ว่าจะใช้ฐานภาษีอย่างไรเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายต่าง ๆ ของรัฐ

50. บุคคลใดต่อไปนี้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
(1) บริษัทจํากัด
(2) บริษัทต่างชาติที่มีรายได้จากประเทศไทย
(3) กิจการร่วมค้า
(4) บริษัทต่างชาติที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
(5) มูลนิธิสาธารณกุศล
ตอบ 5 หน้า 34 – 36 บุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร มีดังนี้
1. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เช่น บริษัทจํากัด ห้างหุ้นส่วนจํากัด
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศเข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย หรือมีรายได้จากประเทศไทย
3. กิจการซึ่งดําเนินการเป็นทางค้าหรือหากําไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาล ต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ
4. กิจการร่วมค้า
5. มูลนิธิหรือสมาคม ที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้ แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมที่รัฐมนตรี ประกาศกําหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล
6. นิติบุคคลที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี

51. บริการสาธารณะที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร
(1) ทําให้เกิด Over Supplies
(2) ทําให้เกิด Under Supplies
(3) ทําให้เกิด Over Consumptions
(4) ทําให้เกิด Under Consumptions
(5) ทําให้เกิด Resource Maximization

ตอบ 5 หน้า 10 คุณลักษณะของสินค้าหรือบริการสาธารณะที่ดี มีคุณภาพและประสิทธิภาพ มีดังนี้
1. มีปริมาณและคุณภาพตรงกับความต้องการของประชาชนทั่วไปในสังคมไม่มากหรือ น้อยเกินไป (No Over or Under Supplies)
2. ประชาชนทั่วไปในสังคมไม่บริโภคหรือใช้บริการสาธารณะนั้นมากเกินความจําเป็น หรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น (No Over or Under Consumptions)
3. ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า (Resource Maximization)

52. “สินค้าที่ถูกใช้โดยคนหนึ่งแล้วเป็นเหตุให้คนอื่นไม่สามารถใช้สินค้านั้นได้” เป็นสินค้าที่มีลักษณะใดต่อไปนี้
(1) เป็นปรปักษ์ในการบริโภค
(2) มีต้นทุนส่วนเพิ่ม
(3) แบ่งแยกการบริโภคออกจากกันได้
(4) ไม่เป็นปรปักษ์ในการบริโภค
(5) ไม่มีต้นทุนส่วนเพิ่ม
ตอบ 1 หน้า 11 สินค้าที่เป็นปรปักษ์ในการบริโภค (Rival Consumption) คือ สินค้าที่ถูกใช้ โดยคนหนึ่งแล้วเป็นเหตุให้คนอื่นไม่สามารถใช้สินค้านั้นได้ หรือทําให้ผู้อื่นได้รับความพึงพอใจน้อยลงจากการใช้สินค้านั้น

53. หน่วยงานใดต่อไปนี้ทําหน้าที่หลักในการจัดเก็บรายได้ให้กับรัฐบาล
(1) กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
(2) สํานักงบประมาณ
(3) กรมศุลกากร
(4) กรมบัญชีกลาง
(5) ธนาคารแห่งประเทศไทย
ตอบ 3 หน้า 15 หน่วยงานที่ทําหน้าที่หลักในการจัดเก็บรายได้ให้กับรัฐบาลมี 3 หน่วยงาน คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร

54. ภาษีเงินได้จัดเป็นภาษีประเภทใด
(1) ภาษีขั้นพื้นฐาน
(2) ภาษีทางอ้อม
(3) ภาษีทางตรง
(4) ภาษีจากฐานความมั่งคั่ง
(5) ภาษีจากฐานการบริโภค
ตอบ 3 หน้า 15, 19 ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ภาษีทางตรง คือ ภาษีที่ผู้เสียภาษีจะต้องรับภาระภาษีไว้เองไม่สามารถผลักภาระภาษี ไปให้ผู้อื่นได้ เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก เป็นต้น
2. ภาษีทางอ้อม คือ ภาษีที่ไม่มีผลต่อผู้ชําระภาษีโดยตรง ซึ่งผู้เสียภาษีสามารถผลักภาระภาษี ไปให้ผู้อื่นได้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีน้ํามัน และผลิตภัณฑ์น้ํามัน เป็นต้น

55. สินค้าในข้อใดไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต
(1) น้ำมันเบนซิน
(2) น้ำอัดลม
(3) น้ำผลไม้ที่ไม่ได้หมัก
(4) น้ำปลา
(5) รถมอเตอร์ไซค์
ตอบ 4 หน้า 38, (คําบรรยาย) ภาษีสรรพสามิต เป็นภาษีที่จัดเก็บจากสินค้าและบริการซึ่งมีเหตุผล สมควรที่จะต้องรับภาระภาษีสูงกว่าปกติ เช่น บริโภคแล้วก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ขัดต่อ ศีลธรรมอันดีงาม มีลักษณะเป็นสินค้าและบริการที่ฟุ่มเฟือย หรือได้รับผลประโยชน์เป็นพิเศษ จากกิจการของรัฐ ดังนั้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจึงไม่เป็นกลางตามหลักการภาษีที่ดี ทั้งนี้ เพราะเป็นการจัดเก็บภาษีที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนหรือจํากัดการบริโภคของประชาชนให้น้อยลง ตัวอย่างสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต เช่น สุรา
เบียร์ ยาสูบ ไพ่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดื่ม (เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่ไม่ได้หมัก) เรือ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ (รถมอเตอร์ไซค์) น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน น้ำหอม เจลแอลกอฮอล์ สนามกอล์ฟ สนามแข่งม้า ไนต์คลับ ดิสโก้เธค ผับ บาร์ และคาราโอเกะ เป็นต้น

56. พฤติกรรมการเสียภาษีในข้อใดที่ทําให้รัฐจัดเก็บภาษีได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
(1) เสียภาษีด้วยความเต็มใจ
(2) หลบเลี่ยงภาษี
(3) เสียภาษีเพราะเกรงกลัวกฎหมาย
(4) ต่อต้านภาษี
(5) หนีภาษี
ตอบ 2 หน้า 27 พฤติกรรมการเลี่ยงภาษี (Tax Avoidance) คือ การที่พลเมืองผู้มีหน้าที่เสียภาษี ใช้วิธีการใด ๆ ตามกฎหมายที่มุ่งสร้างให้เกิดผลต่อภาระภาษีของผู้เสียภาษี เพื่อที่จะได้มี ภาระภาษีที่จะต้องเสียต่ำกว่าเดิม หรือใช้วิธีการบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่ง การเลี่ยงภาษีนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย และ ส่งผลโดยตรงให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

57. ข้อใดเป็นเหตุให้ภาษีมีความซับซ้อน
(1) มีโครงสร้างภาษีทางตรงในสัดส่วนที่สูง
(2) มีการจัดเก็บภาษีอัตราเดียวกันทั้งหมด
(3) มีข้อยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีจํานวนมาก
(4) มีการจัดเก็บภาษีน้อยประเภท
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 26 Buchanan ได้ระบุไว้ว่า การจัดเก็บภาษีที่มีความซับซ้อนนั้น อาจทําให้เกิดปรากฏการณ์ภาพลวงตาทางการคลัง (Fiscal Illusion) ขึ้นได้ ซึ่งความซับซ้อนของ ระบบภาษีและการหารายได้ของรัฐอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. รัฐบาลจัดเก็บภาษีหลายประเภท หลายอัตรา
2. การมีข้อลดหย่อนยกเว้นที่ซับซ้อนหรือมีรายการลดหย่อนภาษีจํานวนมาก
3. มีโครงสร้างภาษีทางอ้อมในสัดส่วนที่สูง
4. มีการจัดเก็บภาษีร่วมกัน (Shared Taxes)

58. เงินได้ประเภทใดที่ไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้
(1) เงินเดือน ค่าจ้าง
(2) ดอกเบี้ย
(3) ค่านายหน้า
(4) ค่าเช่าบ้าน
(5) ลิขสิทธิ์
ตอบ 2 หน้า 32 – 33, (คําบรรยาย) เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 ตามประมวลรัษฎากร ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินปันผล เงินส่วนแบ่งกําไร เงินลดทุน เงินเพิ่มทุน ผลประโยชน์ที่ได้จาก การโอนหุ้น ฯลฯ เป็นเงินได้ที่กฎหมายไม่ยอมให้หักค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ตั้งแต่ข้อ 59 – 63. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Tax Compliance
(2) Tax Evasion
(3) Tax Revolt
(4) Tax Invoice
(5) Tax Avoidance

59. พฤติกรรมในข้อใดเป็นสิ่งที่รัฐทุกรัฐต้องการให้ประชาชนมีมากที่สุด
ตอบ 1 หน้า 27 พฤติกรรมการยินยอมเสียภาษีโดยสมัครใจ (Tax Compliance) คือ การที่พลเมือง ยินยอมเสียภาษีให้รัฐเนื่องจากรับรู้ว่าเป็นหน้าที่ของพลเมือง และมีความต้องการเสียภาษีเพื่อให้ รัฐบาลนําไปจัดบริการสาธารณะที่ดีและมีคุณภาพให้กับประชาชน พฤติกรรมการเสียภาษี โดยสมัครใจเป็นพฤติกรรมที่รัฐทุกรัฐต้องการให้ประชาชนมีมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่าเป็นสภาพที่พึงประสงค์ที่สุดของรัฐทั่วโลกก็ว่าได้

60. พฤติกรรมใดเป็นพฤติกรรมที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 56. ประกอบ

61. พฤติกรรมในข้อใดส่งผลให้รัฐอาจมีค่าใช้จ่ายในการขจัดปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมนั้น
ตอบ 3 หน้า 28, (คําบรรยาย) พฤติกรรมการต่อต้านภาษี (Tax Revolt) คือ การใช้สิทธิขัดขืนของ พลเมืองโดยการไม่จ่ายภาษีให้รัฐบาล หรืออาจประท้วงรัฐบาลด้วยการต่อต้านภาษี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้รัฐอาจมีค่าใช้จ่ายในการขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมดังกล่าว

62. ข้อใดหมายถึงใบกํากับภาษี
ตอบ 4 หน้า 36 ใบกํากับภาษี (Tax Invoice) คือ เอกสารที่ใช้เพื่อแสดงมูลค่าของสินค้า/บริการ และภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อ

63. พฤติกรรมในข้อใดทําให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีได้
ตอบ 2 หน้า 28, (คําบรรยาย) พฤติกรรมการหนีภาษี (Tax Evasion) คือ การไม่ยินยอมเสียภาษี ให้กับรัฐ เป็นการกระทําที่มีเจตนาจงใจละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายและทําให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีได้

64. ข้อใดเรียงลําดับความยินยอมเสียภาษีจากน้อยที่สุดไปมากที่สุดได้ถูกต้อง
(1) Tax Evasion – Tax Avoidance – Tax Revolt – Tax Compliance
(2) Tax Revolt – Tax Evasion – Tax Avoidance – Tax Compliance
(3) Tax Compliance – Tax Avoidance -Tax Revolt -Tax Evasion
(4) Tax Avoidance – Tax Compliance – Tax Evasion – Tax Revolt
(5) Tax Evasion – Tax Revolt – Tax Compliance – Tax Avoidance
ตอบ 2 หน้า 27 – 28 พฤติกรรมการยินยอมเสียภาษีของประชาชนสามารถเรียงลําดับจากน้อยที่สุด ไปมากที่สุดได้ดังนี้
1. การต่อต้านภาษี (Tax Revolt)
2. การหนีภาษี (Tax Evasion)
3. การเลี่ยงภาษี (Tax Avoidance)
4. การยินยอมเสียภาษีโดยสมัครใจ (Tax Compliance)

65. ข้อใดไม่ใช่วิชาชีพอิสระตามประมวลรัษฎากรมาตรา 40 (6)
(1) แพทย์
(2) นักบัญชี
(3) วิศวกร
(4) เปิดท้ายขายของ
(5) ช่างปั้นรูปปั้น
ตอบ 4หน้า 33 (คําบรรยาย) วิชาชีพอิสระตามประมวลรัษฎากรมาตรา 40 (6) ได้แก่บุคคล ซึ่งมีอาชีพในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. กฎหมาย เช่น ทนายความ
2. การประกอบโรคศิลป เช่น แพทย์ พยาบาล
3. วิศวกรรม เช่น วิศวกร
4. สถาปัตยกรรม เช่น สถาปนิก
5. การบัญชี เช่น นักบัญชี
6. ประณีตศิลปกรรม เช่น ช่างปั้น ช่างเขียน ช่างแกะ

66. ภาษีมูลค่าเพิ่มคํานวณได้จากส่วนต่างมูลค่าของสิ่งใด
(1) ราคาขาย – ราคาซื้อ
(2) ต้นทุนสินค้า – กําไรจากการขายสินค้า
(3) ปริมาณสินค้าที่ขาย – ปริมาณสินค้าที่ซื้อ
(4) จํานวนสินค้าที่ขาย – จํานวนสินค้าที่ซื้อ
(5) ภาษีขาย – ภาษีซื้อ
ตอบ 5 ดูคําอธิบายข้อ 47. ประกอบ

67. นักเศรษฐศาสตร์สํานักใดไม่ยอมรับการก่อหนี้สาธารณะ
(1) เคนส์เซียน
(2) นีโอลิเบอรัล
(3) พาณิชย์นิยม
(4) เสรีนิยม
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 46 นักเศรษฐศาสตร์สํานักคลาสสิก (Classical Economist) หรือสํานักเสรีนิยม (Liberalist) มองว่า บทบาทของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจควรเป็นไปอย่างจํากัด (Minimalist State) คือ รัฐบาลควรใช้จ่ายงบประมาณอย่างจํากัด ดังนั้นการใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาลซึ่งนําไปสู่การก่อหนี้สาธารณะจึงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์สํานักนี้

68. ภาระภาษีของประชาชนสามารถคํานวณได้จากสิ่งใด
(1) โครงสร้างภาษี x ฐานภาษี
(2) จํานวนภาษี x ฐานภาษี
(3) จํานวนผู้เสียภาษี x อัตราภาษี
(4) ฐานภาษี x อัตราภาษี
(5) อัตราภาษี x โครงสร้างภาษี
ตอบ 4 หน้า 23 (คําบรรยาย) รายได้ภาษีของรัฐหรือภาระภาษีของประชาชนสามารถคํานวณได้จาก ฐานภาษี × อัตราภาษี

69. ในทฤษฎีของเคนส์การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรัฐบาลเป็นการทํางานของกลไกในข้อใด
(1) การบริโภค
(2) การออม
(3) การลงทุน
(4) อุปสงค์มวลรวม
(5) การจับจ่ายใช้สอย
ตอบ 4 หน้า 46 – 47 (คําบรรยาย) ในช่วงทศวรรษ 1930 เกิดปรากฏการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก หรือที่เรียกว่า The Great Depression ซึ่งทฤษฎีของเคนส์ได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหานี้ โดยการเสนอให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ คือการให้รัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่ารายได้ที่มีอยู่เพื่อเป็นการ ยกระดับอุปสงค์มวลรวม (Aggregate Demand)

70. กรอบแนวคิดที่ทําให้ผู้กําหนดนโยบายต้องคํานึงถึงขีดจํากัดในการก่อหนี้สาธารณะ เรียกว่าอะไร
(1) วินัยทางการคลัง
(2) กฎเหล็กทางการคลัง
(3) ความยั่งยืนทางการคลัง
(4) กฎกระทรวงการคลัง
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1(คําบรรยาย) กรอบแนวคิดที่ทําให้ผู้กําหนดนโยบายต้องคํานึงถึงขีดจํากัดในการก่อหนี้ สาธารณะ เรียกว่า วินัยทางการคลัง

71. บทบัญญัติของกฎหมายมาตราใดในพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ที่กําหนดขีดจํากัด
ของการก่อหนี้สาธารณะสําหรับประเทศไทย
(1) มาตรา 8
(2) มาตรา 8 ทวิ
(3) มาตรา 9
(4) มาตรา 9 ทวี
(5) มาตรา 9 ตรี
ตอบ 4 หน้า 48 บทบัญญัติในมาตรา 9 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ได้กําหนดขีดจํากัดของการก่อหนี้สาธารณะสําหรับประเทศไทยไว้ว่า การกู้เงินในปีงบประมาณจะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของจํานวนเงินงบประมาณรายจ่ายและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมหรือของจํานวนเงินงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้วกับอีกร้อยละ 80ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สําหรับชําระคืนต้นเงินกู้

72. สํานักงานบริหารหนี้สาธารณะอยู่ภายใต้สังกัดของหน่วยงานใด
(1) สํานักงานปลัดกระทรวงการคลัง
(2) กรมบัญชีกลาง
(3) สํานักงบประมาณ
(4) กรมธนารักษ์
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 48 สํานักงานบริหารหนี้สาธารณะ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 อยู่ภายใต้สังกัดของสํานักงานปลัดกระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการดําเนินการเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ ภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การผูกพันหนี้ การบริหารหนี้ และการชําระหนี้ ในประเทศและต่างประเทศของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจทั้งที่ค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน

73. สํานักงานบริหารหนี้สาธารณะก่อตั้งขึ้นในปีใด
(1) ปี พ.ศ. 2540
(2) ปี พ.ศ. 2541
(3) ปี พ.ศ. 2542
(4) ปี พ.ศ. 2543
(5) ปี พ.ศ. 2544
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 72. ประกอบ

74. ข้อใดไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ
(1) หนี้ของรัฐบาล
(2) หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน
(4) หนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์
(3) หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 45, 50, (คําบรรยาย) หนี้สาธารณะ ได้แก่
1. หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงทั้งหนี้ในประเทศและต่างประเทศ
2. หนี้ของรัฐวิสาหกิจ (ไม่เป็นสถาบันการเงิน) ที่รัฐบาลค้ําประกันและไม่ค้ำประกัน
3. หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ําประกัน
4. หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
5. หนี้ของหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น หนี้ของกระทรวงการคลัง เป็นต้น

75. บทบาทของรัฐบาลในลักษณะที่เป็น Minimalist State ตรงกับข้อใด
(1) รัฐบาลไม่มีบทบาทในระบบเศรษฐกิจ
(2) บทบาทของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจควรเป็นไปอย่างจํากัด
(3) รัฐบาลไม่ควรมีบทบาทในระบบเศรษฐกิจ
(4) บาทบาทของรัฐบาลเป็นไปตามนโยบายของพรรคการเมือง
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 67. ประกอบ

76.ณ สิ้นเดือนเมษายน 2560 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของไทยอยู่ที่ประมาณร้อยละเท่าไร
(1) 10
(2) 15
(3) 20
(4) 40
(5) 60
ตอบ 4 หน้า 51 สํานักงานบริหารหนี้สาธารณะรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน เมษายน 2560 มีจํานวน 6,267,920.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.64 ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

77. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ภาระหนี้ต่องบประมาณของประเทศไทยอยู่ที่ระดับร้อยละเท่าไร
(1) 7.12
(2) 15.26
(3) 15.28
(4) 18.25
(5) 25.74
ตอบ 1 หน้า 52 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ภาระหนี้ต่องบประมาณของประเทศไทยอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 7.12

78. ข้อใดคือความแตกต่างที่สําคัญที่สุดระหว่างการก่อหนี้สาธารณะจากแหล่งเงินกู้ภายในประเทศกับการก่อหนี้สาธารณะจากแหล่งเงินกู้ในต่างประเทศ
(1) วงเงิน
(2) ระยะเวลาชําระคืน
(3) อัตราดอกเบี้ย
(4) ผู้ที่รับภาระหนี้
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 (คําบรรยาย) การก่อหนี้สาธารณะต้องคํานึงถึงผู้ที่รับภาระหนี้ วงเงิน ระยะเวลาชําระคืน และ อัตราดอกเบี้ย โดยที่อัตราดอกเบี้ยคือความแตกต่างที่สําคัญที่สุดระหว่างการก่อหนี้สาธารณะจากแหล่งเงินกู้ภายในประเทศกับต่างประเทศ เนื่องจากต้องใช้คืนทั้งต้นเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนตามค่าเงิน

79. กฎหมายฉบับสําคัญที่สุดที่กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารหนี้สาธารณะคือข้อใด
(1) พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2545
(2) พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2546
(3) พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2547
(4) พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548
(5) พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2550
ตอบ 4 (คําบรรยาย) กฎหมายฉบับสําคัญที่สุดที่กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหาร หนี้สาธารณะ คือ พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ซึ่งประกาศ บังคับใช้ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

80. ข้อใดไม่ใช่ตราสารหนี้ตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ
(1) ตั๋วเงินคลัง
(2) ตั๋วสัญญาใช้เงิน
(3) พันธบัตร
(4) บัตรเงินฝาก
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 (คําบรรยาย) ตราสารหนี้ตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ ได้แก่
1. ตั๋วเงินคลัง
2. ตั๋วสัญญาใช้เงิน
3. พันธบัตร

81. ข้อใดเป็นคํานิยามของพันธบัตรที่ถูกต้อง
(1) เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะสั้นที่มีอายุนับแต่วันที่ออกไม่เกินหกเดือน
(2) เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะสั้นที่มีอายุนับแต่วันที่ออกไม่เกินสิบสองเดือน
(3) เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาวที่มีอายุนับแต่วันที่ออกตั้งแต่สิบสองเดือนขึ้นไป
(4) เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาวที่มีอายุนับแต่วันที่ออกตั้งแต่สิบแปดเดือนขึ้นไป
(5) เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาวที่มีอายุนับแต่วันที่ออกตั้งแต่ยี่สิบสี่เดือนขึ้นไป
ตอบ 3 (คําบรรยาย) พันธบัตร คือ เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาวที่มีอายุนับแต่วันที่ออก ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป

82. ตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังไม่อาจกู้เงินเพื่อการใด
(1) ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
(2) พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(3) ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
(4) ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ
(5) พัฒนาตลาดทุนในประเทศ
ตอบ 5 (คําบรรยาย) ตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังกู้เงินได้ เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
1. ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
2. พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
3. ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
4. ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ
5. พัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ

83. งบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศต้องได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานใด
(1) กรมบัญชีกลาง
(2) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
(3) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
(4) สํานักงานปลัดกระทรวงการคลัง
(5) สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ตอบ 5 (คําบรรยาย) สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นหน่วยงานที่ทําหน้าที่ตรวจสอบงบการเงินของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศตามกฎหมายการบริหารหนี้สาธารณะ

84.ECB เป็นชื่อเรียกของธนาคารกลางในข้อใด
(1) ธนาคารกลางแห่งอังกฤษ
(2) ธนาคารกลางแห่งสวิตเซอร์แลนด์
(3) ธนาคารกลางแห่งยุโรป
(4) ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา
(5) ธนาคารกลางแห่งเอเชีย
ตอบ 3 หน้า 55 ในปัจจุบันธนาคารกลางที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ได้แก่ ธนาคารกลางแห่งยุโรป (European Centra, Bank : ECB) ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Reserve Bank : FED) เป็นต้น

85. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือในการดําเนินนโยบายการเงิน
(1) การควบคุมปริมาณเงิน
(2) การกําหนดอัตราดอกเบี้ย
(3) การควบคุมเงินที่ไหลเข้าออกระหว่างประเทศ
(4) การเก็บภาษีศุลกากร
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 4 หน้า 55 – 56 เครื่องมือในการดําเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ประกอบด้วย 3 เครื่องมือ คือ การควบคุมปริมาณเงิน การกําหนดอัตราดอกเบี้ย และการควบคุมเงิน ที่ไหลเข้าออกระหว่างประเทศ

86. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเงินในระบบเศรษฐกิจ
(1) การเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
(2) การเป็นเครื่องชี้วัดสถานภาพทางสังคม
(3) การเป็นเครื่องมือสะสมความมั่งคั่ง
(4) การเป็นมาตรฐานในการกําหนดมูลค่า
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 54, (คําบรรยาย) บทบาทของเงินในระบบเศรษฐกิจ มีดังนี้
1. การเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
2. การเป็นเครื่องมือสะสมความมั่งคั่ง
3. การเป็นมาตรฐานในการกําหนดมูลค่า
4. การเป็นมาตรฐานการชําระหนี้ในภายหน้า

87. ข้อใดไม่นับว่าเป็นเงิน
(1) เหรียญกษาปณ์
(2) เช็ค
(3) ตั๋วแลกเงิน
(4) บัตรเครดิต
(5) ศิลปวัตถุ
ตอบ 5 หน้า 54 เงิน เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจจะอยู่ในหลายรูปแบบ เช่น ธนบัตร เหรียญกษาปณ์ เช็ค ตั๋วแลกเงิน บัตรเครดิต เป็นต้น

88. คําในข้อใดหมายถึงนโยบายการเงิน
(1) Fiscal Policy
(2) Monetary Policy
(3) Financial Policy
(4) Public Policy
(5) Money Policy
ตอบ 2 หน้า 8, 54, 57, (คําบรรยาย) นโยบายการเงิน (Monetary Policy) หมายถึง นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทางเศรษฐกิจ เช่น การควบคุมกํากับอัตราดอกเบี้ย การควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท การควบคุม กํากับดูแลสินเชื่อ การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล การออกระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ทางการเงิน เป็นต้น โดยหน่วยงานที่ทําหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินก็คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย

89. การดําเนินนโยบายการเงินไม่มีผลกระทบสืบเนื่องไปยังเรื่องใด
(1) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(2) การจ้างงาน
(3) ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
(4) เสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 54 – 55, (คําบรรยาย) การดําเนินนโยบายการเงินมีผลกระทบสืบเนื่องไปยังเสถียรภาพ ของระบบเศรษฐกิจ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และการจ้างงาน แต่จะไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

90.FED เป็นชื่อเรียกของธนาคารกลางในข้อใด
(1) ธนาคารกลางแห่งอังกฤษ
(2) ธนาคารกลางแห่งสวิตเซอร์แลนด์
(3) ธนาคารกลางแห่งยุโรป
(4) ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา
(5) ธนาคารกลางแห่งเอเชีย
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 84. ประกอบ

91. หน่วยงานใดเป็นผู้กําหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทย
(1) กระทรวงพาณิชย์
(2) กระทรวงการคลัง
(3) ธนาคารแห่งประเทศไทย
(4) ธนาคารกรุงไทย
(5) คณะกรรมการนโยบายการเงิน
ตอบ 3 หน้า 57 – 58 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2485 เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทและหน้าที่ ดังนี้
1. ออกและจัดการธนบัตรของรัฐบาลและบัตรธนาคาร
2. กําหนดและดําเนินนโยบายการเงิน เช่น กําหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ย
3. บริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารแห่งประเทศไทย
4. เป็นนายธนาคารและนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐบาล
5. เป็นนายธนาคารของสถาบันการเงิน
6. กํากับและตรวจสอบสถาบันการเงิน
7. บริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและสินทรัพย์ในทุนสํารองเงินตรา ฯลฯ

92. ธนาคารแห่งประเทศไทยก่อตั้งขึ้นในปีใด
(1) ปี พ.ศ. 2480
(2) ปี พ.ศ. 2485
(3) ปี พ.ศ. 2490
(4) ปี พ.ศ. 2495
(5) ปี พ.ศ. 2498
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 91. ประกอบ

93. ข้อใดคือลักษณะที่สําคัญที่สุดของธนาคารกลางในการดําเนินนโยบายทางการเงิน
(1) มุ่งหากําไรสูงสุด
(2) หลีกเลี่ยงการแทรกแซงตลาดการเงิน
(3) มีอิสระจากฝ่ายการเมือง
(4) มีอํานาจเด็ดขาด
(5) รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย
ตอบ 3 หน้า 55 ลักษณะที่สําคัญที่สุดของธนาคารกลางในการดําเนินนโยบายทางการเงิน คือ มีอิสระ จากฝ่ายการเมือง เนื่องจากการดําเนินนโยบายทางการเงินนั้นมีเป้าหมายที่จะรักษาเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจเป็นสําคัญ ดังนั้นการดําเนินนโยบายโดยหน่วยงานที่มีอิสระจากฝ่ายการเมืองย่อมจะเป็นผลดีต่อการบรรลุเป้าหมายของนโยบายการเงินมากกว่าการดําเนินนโยบายโดยนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง

94. ในปัจจุบันบุคคลใดดํารงตําแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
(1) นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล
(2) นายประทิน สันติประภพ
(3) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
(4) นายวิรไท สันติประภพ
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 (ความรู้ทั่วไป) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน คือ นายเศรษฐวุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งเข้ารับตําแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

95. ความต้องการถือเงินของภาคครัวเรือนเป็นผลที่สืบเนื่องมาจากข้อใด
(1) ความต้องการจับจ่ายใช้สอย
(2) การสร้างความมั่นคง
(3) การสร้างหลักประกันในการดําเนินชีวิต
(4) ถูกทุกข้อ
(5) ผิดทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 54 เงินเป็นสิ่งสําคัญและมีบทบาทอย่างสําคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจา ลักษณะของการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนของเงินนั่นเอง ซึ่งทําให้ภาคครัวเรือน เกิดความต้องการถือเงินเมื่อมีความต้องการจับจ่ายใช้สอย

96. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย
(1) ออกธนบัตร
(2) บริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารแห่งประเทศไทย
(3) ผลิตเหรียญกษาปณ์
(4) กํากับและตรวจสอบสถาบันการเงิน
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 91. ประกอบ

97. ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับเท่าไร
(1) ร้อยละ 1.0 ต่อปี
(2) ร้อยละ 1.5 ต่อปี
(3) ร้อยละ 2.0 ต่อปี
(4) ร้อยละ 2.5 ต่อปี
(5) ร้อยละ 3.0 ต่อปี
ตอบ 4 (ความรู้ทั่วไป) ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยได้กําหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 2.5 ต่อปี

98. ข้อใดไม่ใช่เป้าหมายของการกํากับและตรวจสอบสถาบันการเงิน
(1) เสถียรภาพและความมั่นคง
(2) การบริหารงานด้วยธรรมาภิบาล
(4) ส่งเสริมการแข่งขันของระบบสถาบันการเงิน
(3) การบริหารความเสี่ยงที่ดี
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 5 หน้า 60 เป้าหมายของการกํากับและตรวจสอบสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่
1. ระบบการเงินมีเสถียรภาพและความมั่นคง
2. การบริหารงานด้วยธรรมาภิบาล
3. การบริหารความเสี่ยงที่ดี
4. ส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพและการแข่งขันของระบบ สถาบันการเงิน
5. การเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

99. ส่วนขาดดุลทางการคลังเกิดจากข้อใด
(1) รัฐบาลมีรายจ่ายมากกว่ารายได้
(2) รัฐบาลมีรายได้มากกว่ารายจ่าย
(3) รัฐบาลมีรายจ่ายเท่ากับรายได้
(4) รายจ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
(5) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 45 ส่วนขาดดุลทางการคลัง (Fiscal Deficit) เกิดจากรัฐบาลมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ ซึ่งรัฐบาลสามารถชดเชยการขาดดุลได้โดยใช้วิธีการก่อหนี้สาธารณะ

100. ภาระหนี้ต่างประเทศภาครัฐต่อรายได้เงินตราต่างประเทศจากการส่งออกสินค้าและบริการ เรียกว่าอะไร
(1) Burden
(2) Deficit
(3) Debt Service Ratio
(4) Debt to GDP
(5) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3หน้า 48 เพื่อไม่ให้การก่อหนี้สาธารณะเป็นข้อจํากัดของการพัฒนาประเทศ รัฐบาลควร คํานึงถึงความยั่งยืนทางการคลัง (Fiscal Sustainability) โดยต้องคอยติดตามและระมัดระวัง ให้การก่อหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งมีเครื่องชี้วัดที่สําคัญ เช่น สัดส่วนระหว่าง หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (Debt to GDP) หนี้ต่องบประมาณรายจ่ายประจําปี และ ภาระหนี้ต่างประเทศภาครัฐต่อรายได้เงินตราต่างประเทศจากการส่งออกสินค้าและบริการ (Debt Service Ratio) เป็นต้น

Advertisement