ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4008 กฎหมายที่ดิน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 นายเอกกู้ยืมเงินจางนางจันทร์โอยมอบหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้นางจันทร์ยึดถือไว้เป็นประกัน ต่อมานายเอกไม่มีเงินชำระหนี้จึงยกที่ดินแปลงซึ่งนางจันทร์ยึดถือหนังสือรับรองการทำประโยชน์อยู่นั้นตีใช้หนี้ โดยส่งมอบที่ดินให้นางจันทร์ครอบครอง ขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น ดังนี้อยากทราบว่านางจันทร์จะนำที่ดินแปลงนั้นมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 4 ทวิ นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 58 วรรคแรก วรรคสองและวรรคสาม เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในจังหวัดใดในปีใด ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์สำหรับปีนั้น เขตจังหวัดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร
เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดท้องที่และวันเริ่มต้นของการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้น โดยปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานที่ดิน ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ก่อนวันเริ่มต้นสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวัน
เมื่อได้มีประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดตามวรรคสอง ให้บุคคลตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสองหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว นำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย เพื่อทำการสำรวจรังวัดแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัดหมาย
มาตรา 58 ทวิ วรรคแรก วรรคสอง เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา 58 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ให้แก่บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้
บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้ คือ
(3) ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดิน ภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับและไม่มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ
วินิจฉัย
นางจันทร์จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เห็นว่า การที่นายเอกเจ้าของที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวตีใช้หนี้ให้แก่นายจันทร์โดยส่งมอบที่ดินให้แก่นางจันทร์ครอบครอง การยกที่ดินตีใช้หนี้ดังกล่าว ถือเป็นการโอนที่ไม่ทำตามกฎหมายที่ดิน มาตรา 4 ทวิ ที่กำหนดว่า การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การโอนดังกล่าวจึงมีผลเป็นโมฆะ ส่งผลให้นางจันทร์เป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และไม่มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (3)
และเมื่อได้ความว่า ในขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น อันถือว่าเป็นการออกโฉนดแบบทั้งตำบล ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคแรกและวรรคสอง กรณีเช่นนี้ นางจันทร์จึงสามารถนำที่ดินแปลงดังกล่าวมาขอออกโฉนดที่ดินได้ โดยมานำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมายเพื่อทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตน ตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่นัดหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคสาม และนางจันทร์จะได้รับโฉนดที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (3)
สรุป นางจันทร์ขอออกโฉนดที่ดินได้
ข้อ 2 นายชอบครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2493 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน ใน พ.ศ. 2535 ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น นายชอบได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินไว้แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดินจึงไม่ได้รับโฉนดที่ดิน ใน พ.ศ. 2543 นายชอบได้ขายที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายบุญธรรมโดยทำสัญญาซื้อขายกันเองและส่งมอบที่ดินให้นายบุญธรรมครอบครอง ขณะนี้นายบุญธรรมได้ไปยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ดังนี้ให้วินิจฉัยว่านายบุญธรรมจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 27 ตรี เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจตามมาตรา 58 วรรคสอง ผู้ครองครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา 27 ทวิ แต่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว แต่ได้นำมาหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย
มาตรา 59 ทวิ ผู้ซึ่งครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ดินและมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่ไม่รวมถึงผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี ถ้ามีความจำเป็นจะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นการเฉพาะราย เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควรให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ประมวลกฎหมายนี้กำหนด แต่ต้องไม่เกินห้าสิบไร่ ถ้าเกินห้าสิบไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย
วินิจฉัย
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิ ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่จะขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายไว้ดังนี้
1) จะต้องเป็นผู้ครอบครองก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ ฯ มาตรา 5 และรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องจากบุคคลดังกล่าวด้วย
2) ต้องไม่ใช่ผู้ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี กล่าวคือ ผู้ซึ่งมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี จะขอออกโฉนดที่ดินเป็นการเฉพาะราย ตามมาตรา 59 ทวิ ไม่ได้
3) มีความจำเป็นต้องขอออกโฉนดที่ดิน และพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นสมควร และต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ ถ้าเกิน 50 ไร่ จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด
นายบุญธรรมจะขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เห็นว่า นายชอบครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2493 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน กรณีเช่นนี้ถือว่านายชอบเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ต่อมาได้ความว่า ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายชอบได้ไปแจ้งการครอบครองที่ดิน แต่ไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการสำรวจรังวัดที่ดิน กรณีเช่นนี้ต้องถือว่า นายชอบเป็นผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรีแล้ว แม้นายชอบจะไม่ได้ไปนำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดินอันทำให้ไม่ได้รับโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 วรรคสามก็ตาม ทั้งนี้เพราะเหตุว่า ตามมาตรา 27 ตรี ใช้คำว่า “หรือ” แสดงว่าปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ ระหว่างให้ไปแจ้งการครอบครองที่ดินหรือมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจรังวัดที่ดิน ดังนั้น นายชอบจึงเป็นบุคคลผู้มีสิทธิออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายได้ ตามมาตรา 59 ทวิ วรรคแรก
และเมื่อใน พ.ศ. 2543 นายชอบได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายบุญธรรม โดยนาบบุญธรรมผู้ซื้อได้เข้าครอบครองและทำประโยชน์ตลอดมา กรณีจึงถือว่านายบุญธรรม เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจากนายชอบ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิ วรรคสอง และในกรณีนี้นายบุญธรรมก็สามารถนำที่ดินไปยื่นขอออกโฉนดแบบเฉพาะรายได้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 59 ทวิ วรรคแรก เพราะต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น
สรุป นายบุญธรรมขอออกโฉนดที่ดินแบบเฉพาะรายได้
ข้อ 3 (ก) สิทธิในที่ดินหมายความว่าอย่างไร ให้อธิบายโดยยกหลักกฎหมายประกอบด้วย
(ข) นายอาทิตย์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน ดังนี้อยากทราบว่านายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดินหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1 ในประมวลกฎหมายนี้
“สิทธิในที่ดิน” หมายความว่า กรรมสิทธิ์ และให้ความหมายรวมถึงสิทธิครอบครองด้วย
(ก) อธิบาย
โดยหลักแล้ว ผู้เป็นเจ้าของที่ดิน อาจมีเพียงสิทธิครอบครองในที่ดิน หรือมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ได้ สุดแล้วแต่ว่าที่ดินนั้น จะมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินประเภทใด
ผู้มีสิทธิในที่ดินแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1) กรรมสิทธิ์ กล่าวคือ เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีกรรมสิทธิ์ ซึ่งการที่บุคคลใดจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้นั้น จะต้องมีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใด ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 1 กำหนด คือ โฉนดที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง ตราจองว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว”
สำหรับผู้มีส่วนได้เสียในที่ดินโดยมีกรรมสิทธิ์นี้ โดยหลักแล้ว สามารถใช้ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ยันแก่บุคคลทั่วไป ติดตามเอาคืนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ อีกทั้ง ยังสามารถทำนิติกรรมใดๆอันเกี่ยวกับที่ดินได้ เว้นแต่จะมีกฎหมายที่ดินบางมาตรา บัญญัติห้ามโอนไว้โดยเฉพาะ เช่น ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 และมาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เป็นต้น
2) สิทธิครอบครอง กล่าวคือ เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินโดยมีสิทธิครอบครอง (ยังไม่มีกรรมสิทธิ์) ซึ่งการที่บุคคลใดจะมีสิทธิครอบครองในที่ดินได้นั้น จะต้องมีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดินอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้ เช่น หลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ใบจอง (น.ส.2) ใบไต่สวน (น.ส.5) เป็นต้น
(ข) วินิจฉัย
นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 1 บัญญัติว่า “สิทธิในที่ดิน” หมายความว่า กรรมสิทธิ์ และให้ความหมายรวมถึงสิทธิครอบครอง เมื่อได้ความว่า นายอาทิตย์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือแสดงสิทธิ คือ หลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) จึงถือว่า นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดิน ดังนั้น นายอาทิตย์จึงเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
สรุป นายอาทิตย์เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายที่ดิน
ข้อ 4 นายหนึ่งกับนายสองเป็นเจ้าของร่วมกันในที่ดินแปลงหนึ่ง ที่ดินแปลงนั้นมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ตั้งอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายหนึ่งกับนายสองต้องการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินเพื่อแต่ละคนจะได้ปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของตน นายหนึ่งและนายสองมีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครไม่สะดวกที่จะเดินทางไปสำนักงานที่ดินที่จังหวัดสงขลา บุคคลทั้งสองจึงได้ไปยื่นคำขอต่อสำนักงานที่ดินที่กรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินการให้สำนักงานที่ดินที่มีอำนาจทำการจดทะเบียนให้ ดังนี้ อยากทราบว่าสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครจะรับดำเนินการให้ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 72 ผู้ใดประสงค์จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้คู่กรณีนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินใบไต่สวนหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ คู้กรณีอาจยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 ดำเนินการจดทะเบียนให้ เว้นแต่การจดทะเบียนที่ต้องมีการประกาศหรือต้องมีการรังวัด
วินิจฉัย
ผู้ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นอกจากจะมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 แล้ว บทบัญญัติมาตรา 72 วรรคสอง ยังให้สิทธิคู่กรณีอาจจะมายื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ทั้ง 3 ประการดังต่อไปนี้ คือ
1) ที่ดินที่จะต้องจดทะเบียนนั้นจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ใบไต่สวน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ กล่าวคือ ถ้ามีเอกสารอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาจะยื่นคำขอไม่ได้
2) การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการประกาศก่อน กล่าวคือ กรณีใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทำเรื่องประกาศก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจะมาใช้มาตรา 72 วรรคสองไม่ได้
3) การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการรังวัดก่อน
ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯจะรับดำเนินการจดทะเบียนตามคำขอให้ได้หรือไม่ เห็นว่า กรณีเป็นเรื่องจดทะเบียนแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 79 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว แม้ที่ดินที่นายหนึ่งและนายสองประสงค์จะแบ่งแยกกันนั้นจะเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) และการจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องมีการประกาศก่อนก็ตาม แต่การจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินออกเป็นหลายแปลง บทบัญญัติมาตรา 79 ให้นำมาตรา 69 ทวิมาใช้บังคับด้วย กล่าวคือ จะต้องมีการรังวัดสอบเขตที่ดินก่อน กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามมาตรา 72 วรรคสอง สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ จึงรับดำเนินการให้ไม่ได้ นายหนึ่งและนายสองต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลาเท่านั้น ตามมาตรา 71
สรุป สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ ไม่สามารถรับดำเนินการตามคำขอให้ได้