การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2552

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4008    กฎหมายที่ดิน

คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)

Advertisement

ข้อ 1. นายเล็กครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2495 โดยไม่มีหนังสือสำคัญ แสดงสิทธิในที่ดิน เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน นายเล็กไม่ได้แจ้งการครอบครองตามที่ กฎหมายกำหนดใน พ.ศ. 2530 นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงนั้นตีใช้หนี้ให้แก่นายใหญ่ นายใหญ่เข้า ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา ขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออก โฉนดที่ดินในท้องที่นั้น ดังนี้ อยากทราบว่านายใหญ่จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

มาตรา 27 ตรี เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้นของการสำรวจ ตามมาตรา 58 วรรคสอง ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับโดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล กฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 หรือผู้ซึ่งรอคำสั่งผ่อนผันจากผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา 27 ทวิ แต่ได้ครอบครอง และทำประโยชน์ในที่ดินนั้นติดต่อมาจนถึงวันทำการสำรวจรังวัดหรือพิสูจน์สอบสวน ถ้าประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น ให้แจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายในกำหนดเวลาสามสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ ถ้ามิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว แต่ได้มานำหรือส่งตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการ สำรวจรังวัดตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด ให้ถือว่ายังประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง ให้หมาย ความรวมถึงผู้ซึ่งได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากบุคคลดังกล่าวด้วย

มาตรา 58 วรรคแรก วรรคสองและวรรคสาม เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนด ที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในจังหวัดใดในปีใด ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนด จังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์สำหรับปีนั้น เขตจังหวัดที่รัฐมนตรี ประกาศกำหนดไม่รวมท้องที่ที่ทางราชการได้จำแนกให้เป็นเขตป่าไม้ถาวร

เมื่อได้มีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดท้องที่และวันเริ่มต้น ของการเดินสำรวจรังวัดในท้องที่นั้น โดยปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานที่ดิน ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกิ่งอำเภอ ที่ทำการกำนัน และที่ทำการผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่ก่อนวันเริ่มต้นสำรวจไม่น้อยกว่าสามสิบวัน

เมื่อได้มีประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดตามวรรคสอง ให้บุคคลตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว นำพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่มอบหมาย เพื่อทำการสำรวจ รังวัดทำแผนที่หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้นัคหมาย

มาตรา 58 ทวิ  เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดิน

ตามมาตรา 58 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ให้แก่ บุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครองเป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือ หนังสือรับรองการทำประโยชนได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้ คือ

(2) ผู้ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ นายใหญ่จะนำที่ดินมาขอออกโฉนดที่ดินได้หรือไม เห็นว่า การที่นายเล็ก ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแปลงหนึ่ง ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิในที่ดิน และ นายเล็กก็ไม่ได้ แจ้งการครอบครองที่ดินตามที่กฎหมายกำหนด กรณีเช่นนี้ ถือว่านายเล็กเป็นผู้ครอบครองและ ทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2497) โดยไมมี หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และมิได้แจ้งการครอบครองตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 5

ต่อมาได้ความว่า ใน พ.ศ. 2530 นายเล็กได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวตีใช้หนี้ให้แกนายใหญ่ โดยนายใหญ่เข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินตลอดมา ในกรณีดังกล่าวนี้ถือว่านายใหญ่เป็นผู้ครอบครองและ ทำประโยชน์ในที่ดินต่อเนื่องมาจากนายเล็กตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 27 ตรี วรรคสอง

เมื่อขณะนี้ได้มีประกาศของทางราชการเพื่อเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในท้องที่นั้น (แบบทั้งตำบล) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคแรกและวรรคสอง นายใหญ่ก็สามารถนำที่ดินนั้นไปขอออกโฉนดที่ดิน ได้โดยต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 27 ตรี วรรคแรก กล่าวคือ

1.         นายใหญ่ต้องมาแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ ที่ดินนั้นตั้งอยู่ภายใน กำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันปิดประกาศ หรือ

2.         ถ้านายใหญ่มิได้แจ้งการครอบครองภายในกำหนดเวลาดังกล่าว แต่ได้มานำหรือส่ง ตัวแทนมานำพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการรังวัดตามวันเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด กรณีเช่นนี้ ให้ถือว่า นายใหญ่ประสงค์จะได้สิทธิในที่ดินนั้น

เมื่อนายใหญ่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นอย่างหนึ่งอย่างใดแล้ว นายใหญ่ก็จะได้รับ โฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (2)

สรุป นายใหญ่ขอออกโฉนดที่ดินได้เพราะเป็นบุคคลตามมาตรา 27 ตรี วรรคสอง โดยต้อง ปฏิบัติตามมาตรา 27 ตรี วรรคแรก และจะได้รับโฉนดที่ดินตามมาตรา 58 ทวิ วรรคสอง (2) 


ข้อ 2. นายสิงห์เป็นเจ้าของที่ดินโดยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ใน พ.ศ. 2542 นายสิงห์ได้ยกที่ดิน แปลงนั้นให้แก่นายช้าง ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันโดยมอบที่ดินและเอกสารหนังสือรับรอง การทำประโยชน์ให้นายช้างครอบครอง ใน พ.ศ. 2550 นายช้างได้รับโฉนดที่ดินจากทางราชการ ขณะนี้นายช้างต้องการจะโอนที่ดินแปลงนั้นให้แก่นายเสือบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและบรรลุนิติ ภาวะแล้ว ดังนี้อยากทราบว่านายช้างจะจดทะเบียนโอนที่ดินให้นายเสือได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

มาตรา 4 ทวิ นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ การโอนกรรมสิทธิ์หรือ สิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา 58 ทวิ วรรคแรก วรรคสองและวรรคห้า เมื่อได้สำรวจรังวัดทำแผนที่ หรือพิสูจน์ สอบสวนการทำประโยชน์ในที่ดินตามมาตรา 58 แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง การทำประโยชน์ แล้วแต่กรณี ให้แกบุคคลตามที่ระบุไว้ในวรรคสอง เมื่อปรากฏว่าที่ดินที่บุคคลนั้นครอบครอง เป็นที่ดินที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้ตามประมวลกฎหมายนี้

บุคคลซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่งให้ได้ คือ

(3) ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดิน ภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใช้บังคับ และไม่มีใบจอง ใบเหยียบย่ำ หรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ

ภายในสิบปีนับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้บุคคลตามวรรคสอง (3) ผู้ได้มาซึ่งสิทธิในที่ดินดังกล่าวโอนที่ดินนั้นให้แกผู้อื่น เว้นแต่เป็นการตกทอด ทางมรดก หรือโอนให้แกทบวงการเมือง องค์การของรัฐบาลตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือโอนให้แกสหกรณ์เพื่อชำระหนี้โดยได้รับอนุมัติจากนายทะเบียนสหกรณ์

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายสิงห์ได้ยกที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แกนายช้าง โดยมอบที่ดินและเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้นายช้างครอบครอง ถือเป็นการโอนที่ไม่ทำตาม กฎหมายที่ดิน มาตรา 4 ทวิ ที่กำหนดว่า การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่” การยกให้ดังกล่าวจึงมี ผลเป็นโมฆะ ส่งผลให้นายช้างเป็นเพียงผู้ครอบครองโดยพลการภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ

ซึ่งการที่นายช้างครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาจนได้รับโฉนดจากทางราชการ ใน พ.ศ. 2550 กรณีเช่นนี้ ถือว่านายช้างเป็นผู้ได้รับโฉนดที่ดินเนื่องจากเป็นผู้ครอบครองที่ดินและทำประโยชน์ใน ที่ดินภายหลังวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับและไมมีใบจอง ใบเหยียบย่ำหรือไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้มีสิทธิ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อการครองชีพตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 วรรคสอง (3) นายช้าง จึงอยู่ในบังคับที่ห้ามโอนที่ดินภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ได้รับโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 58 ทวิ วรรคห้าตอนท้าย

ดังนั้น การที่นายช้างประสงค์จะโอนที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่นายเสือจึงไมสามารถโอนได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เพราะเป็นการโอนภายในกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่ ได้รับโฉนด ทั้งไม่เข้าข้อยกเว้นของกฎหมาย เพราะไม่ใช่การโอนโดยตกทอดทางมรดกแต่อย่างใด

สรุป นายช้างจึงโอนที่ดินให้แกนายเสือไม่ได้


ข้อ 3. นายไก
จะไปจดทะเบียนรับมรดกที่ดิน   ซึ่งมีโฉนดที่ดินโดยที่ดินแปลงนั้นตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แต่นายไก่มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และไม่สะดวกจะไปทำการจดทะเบียน ที่จังหวัดชอนแก่น นายไก่จึงนำเอกสารไปยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน กรุงเทพมหานคร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินที่มีอำนาจทำการจดทะเบียนให้ อยากทราบว่า นายไก่จะยื่นคำขอในกรณีดังกล่าวได้หรือไม่

ธงคำตอบ

หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

มาตรา 72 ผู้ใดประสงค์จะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้คู่กรณีนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินมาขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 71

การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ใบไต่สวน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ คู่กรณีอาจยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดิน แห่งใดแห่งหนึ่งเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 ดำเนินการจดทะเบียนให้ เว้นแต่การจดทะเบียนที่ต้อง มีการประกาศหรือต้องมีการรังวัด

มาตรา 81 วรรคแรกและวรรคสอง การขอจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้มา โดยทางมรดก ให้ผู้ได้รับมรดกนำหลักฐานสำหรับที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมด้วยหลักฐานในการ ได้รับมรดกมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 ถ้าหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินอยู่กับบุคคลอื่น ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่มิอำนาจเรียกหนังสือแสดงสิทธิในทีดินดังกล่าวนั้นได้

เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนพยานหลักฐาน และเชื่อได้ว่าผู้ขอเป็นทายาทแล้ว ให้ประกาศ โดยทำเป็นหนังสือปิดไว้ในที่เปิดเผยมีกำหนดสามสิบวัน ณ สำนักงานที่ดิน เขตหรือที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล ที่ทำการแขวงหรือที่ทำการกำนันท้องที่ ซึ่งที่ดินตั้งอยู่ และ บริเวณที่ดินนั้นแห่งละหนึ่งฉบับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือส่งประกาศดังกล่าวให้บุคคลที่ผู้ขอแจ้งว่า เป็นทายาททุกคนทราบเทาที่สามารถจะทำได้ หากไมมีทายาทซึ่งมีสิทธิได้รับมรดกโต้แย้งภายในกำหนดเวลา ที่ประกาศและมีหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ขอมีสิทธิได้รับมรดกแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการจดทะเบียน ให้ตามที่ผู้ขอแสดงหลักฐานการมีสิทธิตามกฎหมาย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎกระทรวง

วินิจฉัย

ผู้ที่ประสงค์จะขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นอกจากจะมายื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 71 แล้ว บทบัญญัติมาตรา 72 วรรคสอง ยังให้สิทธิคู่กรณีอาจจะมายื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินแห่งใดแห่งหนึ่ง ก็ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ทั้ง 3 ประการดังต่อไปนี้ คือ

1.         ที่ดินที่จะต้องจดทะเบียนนั้นจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน ใบไต่สวน หรือหนังสือ รับรองการทำประโยชน์ กล่าวคือ ถ้ามีเอกสารอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาจะยื่นคำขอ ไมได้

2.         การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีประกาศก่อน กล่าวคือ กรณีใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะ ต้องทำเรื่องประกาศก่อนที่จะมีการจดทะเบียนจะมาใช้มาตรา 72 วรรคสอง ไม่ได้

3.         การจดทะเบียนนั้นจะต้องไม่มีการรังวัดก่อน

กรณีตามอุทาหรณ์ กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการจดทะเบียนรับมรดกที่ดินที่มีโฉนด ตามประมวล กฎหมายที่ดิน มาตรา 81 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว แม้ที่ดินที่จะจดทะเบียนนั้นจะเป็นที่ดิน ที่มีโฉนดทีดิน และการจดทะเบียนดังกล่าวไม่ต้องมีการรังวัดก่อนก็ตาม แต่การขอจดทะเบียนรับมรดกที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 81 วรรคสอง กำหนดให้ต้องมีการประกาศก่อน 30 วัน ดังนั้น กรณีจึงไมต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามมาตรา 72 วรรคสอง สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ จึงรับดำเนินการให้ไมได้ นายไก่ต้องยื่น คำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่นเท่านั้น

สรุป นายไก่จะยื่นคำขอในกรณีดังกล่าวไม่ได้


ข้อ 4. ที่ดินซึ่งยังไม่มีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก
กันได้หรือไมตามกฎหมายที่ดิน ให้อธิบายโดยยกหลักกฎหมายประกอบ

ธงคำตอบ

อธิบาย

ที่ดินที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์” โดยหลักแล้วก็สามารถโอนให้แก่กันไต้ ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีหนังสือแสดงสิทธิที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ที่ว่า ที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วให้โอนกันได้

ดังนั้น ที่ดินซึ่งยังไมมีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก่กันได้หรือไม่ สามารถแยกพิจารณาดังนี้

1. ที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ คือ หนังสือคำรับรองจาก พนักงานเจ้าหน้าที่วาได้ทำประโยชน์แล้วตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 1 ดังนั้น เมื่อที่ดินที่มีหนังสือรับรอง การทำประโยชน์เป็นที่ดินที่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว จึงสามารถโอนให้แก่กันได้ตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 9 เว้นแต่ในบางกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติห้ามโอนไว้ เช่น ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 และมาตรา 58 ทวิ วรรคห้า เป็นต้น

2.         ที่ดินที่มีใบจอง (น.ส.2)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีใบจอง เป็นเพียงหนังสือที่แสดงว่า บุคคลผู้เป็นเจ้าของ ที่ดินได้รับอนุญาตให้เข้าครอบครองที่ดินของรัฐชั่วคราว แต่ที่ดินดังกล่าวยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอ ว่าได้ทำประโยชน์แล้วจนกว่าจะได้รับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ดังนั้น สำหรับที่ดินที่มีใบจอง หรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้จับจองนั้น ถ้ายังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว ผู้ได้รับอนุญาต จะโอนไม่ได้ เว้นแต่ จะตกทอดทางมรดกตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มาตรา 8 วรรคสอง

3.         ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1)

ถ้าที่ดินมีสิทธิครอบครองโดยมีที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองนั้น จะทำการ โอนทางทะเบียนไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้วตาม พ.ร.บ. ให้ใช้ฯ มตรา 9 แต่อย่างไรก็ดี ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง แม้จะโอนกันไม่ได้ตามกฎหมายที่ดิน แต่ก็สามารถโอนกันได้ตามกฎหมายแพ่งโดยการส่งมอบการครอบครองให้แก่กันตาม ป.พ.พ. มาตรา 1378

ดังนั้น ที่ดินซึ่งยังไม่มีกรรมสิทธิ์จะโอนให้แก่กันได้เฉพาะที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำ ประโยชน์ ส่วนที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครอง หรือใบจอง เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่า ได้ทำประโยชน์แล้ว จึงไม่สามารถโอนให้แกกันได้

Advertisement