การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4002 การว่าความและการจัดทำเอกสารทางกฎหมาย
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน จำนวน 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1. ในคดีฟ้องขับไล่คดีหนึ่ง เจ้าพนักงานเดินหมายของศาลได้นำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้กับ จำเลยเป็นครั้งแรก แต่ไม่สามารถส่งได้ เพราะไม่พบจำเลยและไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและ สำเนาคำฟ้องไว้แทน
ฉะนั้น ให้ท่านในฐานะทนายโจทก์ ยื่นคำแถลงต่อศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานเดินหมาย ของศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยอีกครั้งหนึ่ง หากไม่พบจำเลยหรือไม่มีผู้ใด ยอมรับหมายเรียกไว้แทนแล้วก็ให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ ภูมิลำเนาของจำเลย ตามความประสงค์ของโจทก์ (ให้ร่างแต่คำร้องเท่านั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงแบบพิมพ์ศาล)
ธงคำตอบ
คำแถลง
ข้อ 1. คดีนี้ เจ้าพนักงานเดินหมายได้นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยในครั้ง
แรก แต่ไม่สามารถส่งได้ เนื่องจากไม่พบตัวจำเลย และไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนโดยชอบ รายละเอียดปรากฏตามรายงานการเดินหมายเอกสารท้ายคำแถลงนี้
ข้อ 2. โจทก์มีความประสงค์จะขอให้ศาลได้โปรดมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานเดินหมายนำหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องไปส่งให้แก่จำเลยอีกครั้งหนึ่ง หากไม่พบตัวจำเลยหรือไม่มีผู้ใดยอมรับไว้แทนโดยชอบแล้ว ขอศาล ได้โปรดมีคำสั่งให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ ภูมิสำเนาของจำเลยด้วย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลได้โปรดอนุญาต
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ…..(ลายมือชื่อนักศึกษา)….ทนายโจทก์
คำแถลงฉบับนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อนักศึกษา) ทนายโจทก์เป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ……(ลายมือชื่อนักศึกษา)….ผู้เรียงและพิมพ์
ข้อ 2. นายแก้วยื่นฟ้องคดีนางสาวกิ่ง ต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดของนางสาวกิ่ง
ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 15 มีนาคม 2549 เวลา 09.00 น. ในวันที่ 1 มีนาคม 2549 โจทก์ ได้ตรวจพบว่าคำฟ้องของโจทก์มีข้อผิดพลาดเล็กน้อย คือ ในคำฟ้องพิมพ์ว่าจำเลยคือ นางกิ่ง โจทก์จึงมีความประสงค์จะยื่นคำร้องต่อศาลขอแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวให้ถูกต้อง ฉะนั้น ให้ท่านในฐานะทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องต่อศาลตามความประสงค์ของโจทก์(ให้ร่างแต่ใจความในคำฟ้องเท่านั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงแบบฟอร์มศาล)
ธงคำตอบ
คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง
ข้อ 1. คดีนี้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 15 มีนาคม 2549 เวลา 09.00 น. ดังความแจ้ง
แล้วนั้น
ข้อ 2. โดยที่คำฟ้องของโจทก์ได้พิมพ์ผิดพลาดไปเล็กน้อย โจทก์จึงขอแก้ไขคำฟ้องโดยขอ
แก้ชื่อจำเลยจากนางกิ่งเป็นนางสาวกิ่ง ซึ่งการแก้ไขของโจทก์นี้ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงประเด็นในการต่อสู้แต่ประการใด นอกจากที่โจทก์ขอแก้ไขแล้ว โจทก์ขอถือตามฟ้องเดิมทุกประการ ขอศาลได้โปรดอนุญาตด้วย
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ….(ลายมือชื่อนักศึกษา)…..ทนายโจทก์
คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อนักศึกษา) ทนายโจทก์เป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ…..(ลายมือชื่อนักศึกษา)….ผู้เรียงและพิมพ์
ข้อ 3. เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลาประมาณ 07.00 น. พล.ต.อ.เสรีภาพ กับพวกได้นำ เจ้าพนักงานเข้าทำการจับกุมบ่อนการพนันที่ประตูน้ำพระโขนง จับผู้เล่นการพนันได้จำนวนมาก และต่อมาได้ตามไปยึดรถจำนวนหลายคันจากนายป้อมซึ่งเป็นเจ้าของตึกที่มีการเล่นการพนัน โดยสงสัยว่าจะเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เป็นเหตุให้นายป้อมไม่พอใจจึง ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่าการดำเนินการของเจ้าพนักงานน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ครั้นต่อมา วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.เสรีภาพ ได้เปิดแถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าว ที่สำนักงานของตนที่แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ความตอนหนึ่งว่า “คนอย่าง นายป้อมไม่ได้ทำมาหากินอะไร อาชีพก็ไม่มี เปิดบ่อนมาหลายสิบปี จ่ายส่วยให้ท้องที่มาตลอด เดี๋ยวจะยึดทรัพย์ให้หมด จะเอาอีกกี่คดีคนชั่ว ๆ พวกนี้อย่ามายุ่งกับผม” ซึ่งนายป้อมเห็นว่าการที่ พล.ต.อ. เสรีภาพ พูดดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทตน ประสงค์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ. เสรีภาพ ที่ศาล แขวงพระนครใต้เอง โดยไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
สมมติว่านักศึกษาเป็นทนายความที่นายป้อมแต่งตั้ง ให้นักศึกษาเรียงคำฟ้องเฉพาะเนื้อหาคำฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ยื่นต่อศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อที่จะให้ศาลพิจารณานัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไป
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษ ”
ธงคำตอบ
คำฟ้องอาญา
ข้อ 1. เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 เวลากลางวัน จำเลยได้แถลงข่าวใส่ความโจทก์ต่อ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ความตอนหนึ่งว่า “คนอย่างนายป้อมไม่ได้ทำมาหากินอะไร อาชีพก็ไม่มี เปิดบ่อนมาหลายสิบปี จ่ายส่วยให้ท้องที่มาตลอด เดี๋ยวจะยึดทรัพย์ให้หมด จะเอาอีกกี่คดี คนชั่ว ๆ พวกนี้อย่ามายุ่งกับผม” ซึ่งมีความหมายว่าโจทก์เป็นคนชั่วไม่ประกอบอาชีพการงาน หาเลี้ยงชีพโดยการกระทำความผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง
เหตุเกิดที่แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ข้อ 2. การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหายดังกล่าวมาแล้ว ข้างต้น โจทก์ไม่มีทางอื่นใดจะบังคับจำเลย จึงต้องนำคดีมาสู่ศาลเพื่อขอศาลได้โปรดออกหมายเรียกจำเลยมาศาล แล้วไต่สวนมูลฟ้องและพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายต่อไป
โจทก์มิได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพราะประสงค์จะฟ้องคดีเอง
ข้อ4. นายจอมโจร ถูกเจ้าพนักงานจับกุมในข้อหาวางระเบิดรถตู้โดยสารที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นคดี สำคัญที่ประชาชนสนใจ นางจุ้นจ้านภรรยานายจอมโจรจึงไปพบนายจาบจ้วงทนายความที่สำนักงาน เพื่อจะติดต่อว่าจ้างเข้าแก้ต่างให้สามี ระหว่างที่ปรึกษาหารือกันนั้น นายจาบจ้วงก็บอกกับนางจุ้นจ้าน ว่าคดีแบบนี้ไม่มีปัญหา ไม่น่ากลัว เคยสู้คดีมาหลายเรื่องแล้ว ถ้าไม่มีพยาน ศาลก็ยกฟ้อง ถ้าใคร จะมาเป็นพยานเดี๋ยวเสธต้อยซึ่งหมายถึงนายทหารผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในท้องที่เกิดเหตุไปคุย กับพยานให้เพราะสนิทกัน ส่วนเรื่องประกันตัวก็ไม่เป็นไรเพราะตนกับหัวหน้าศาลจังหวัด ปทุมธานีเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน โดยหยิบเอารูปที่ตนถ่ายร่วมกับผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี ในงานวันรพีปีที่ผ่านมาให้นางจุ้นจ้านดู พร้อมกับบอกว่าจะลองขอความกรุณาให้ ซึ่งในที่สุดนางจุ้นจ้าน ก็ตกลงว่าจ้างให้นายจาบจ้วงเป็นทนายความนายจอมโจร
ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวของนายจาบจ้วงเหมาะสมหรือผิดมรรยาททนายความ หรือไม่ อย่างไร หากผิดมรรยาทจะผิดในเรื่องใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529
ข้อ 10 ใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ใดมอบคดีให้ว่าต่าง หรือแก้ต่าง
(2) อวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความอื่น
(3) อวดอ้างว่าเกี่ยวเป็นสมัครพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใด อันกระทำให้เขาหลงว่าตนสามารถ จะทำให้เขาได้รับผลเป็นพิเศษนอกจากทางว่าความ หรือหลอกลวงว่าจะชักนำจูงใจให้ ผู้นั้นช่วยเหลือคดีในทาง ใด ๆ ได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนว่าคดีนั้น แล้วจะหาหนทางให้ผู้นั้นกระทำให้คดีของเขาเป็นแพ้
ข้อ 18 ประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือ เป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ
วินิจฉัย
การที่ทนายความอวดอ้างว่าตนมีความรู้ยิ่งกว่าทนายความคนอื่นหรืออวดอ้างว่าเป็นพรรคพวก รู้จักหรือคุ้นเคยกับผู้ใด อันทำให้มีผู้หลงเชื่อว่า ตนสามารถจะทำให้เขาได้รับผลในทางคดีเป็นพิเศษนอกจาก การว่าความตามปกติหรือหลอกลวงว่าจะชักนำหรือจูงใจให้ผู้ที่ตนรู้จักหรือคุ้นเคยนั้นช่วยเหลือในทางคดีใด ๆ ได้ อันเป็นการใช้อุบายเพื่อจูงใจให้เขามอบคดีให้ตนว่าต่างหรือแก้ต่าง หรือประกอบอาชีพ ดำเนินธุรกิจ หรือ ประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและผิดมรรยาททนายความ
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายจาบจ้วงทนายความบอกกับนางจุ้นจ้านว่า ถ้าใครจะมาเป็น พยานเดี๋ยวเสธต้อยไปคุยกับพยานให้เพราะสนิทกัน ส่วนเรื่องประกันตัวก็ไม่เป็นไรเพราะรู้จักกับผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน จะลองขอความกรุณาให้เป็นการเหมาะสมหรือผิดมรรยาท ทนายความหรือไม่ เห็นว่า การที่นายจาบจ้วงกล่าวถึงเสธต้อยซึ่งหมายถึงนายทหารผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในท้องที่ เกิดเหตุก็ดี
หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานีก็ดี ล้วนเป็นการอวดอ้างว่าตนเป็นพรรคพวกรู้จักคุ้นเคย กับเสธต้อยและผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี อันทำให้นางจุ้นจ้านหลงเชื่อว่านายจาบจ้วงสามารถทำให้ตน ได้รับผลในทางคดีเป็นพิเศษนอกจากการว่าความตามปกติ เพราะอ้างว่าสามารถทำให้พยานไม่มาศาลซึ่งทำให้คดี มีทางชนะได้ และสามารถจัดการเกี่ยวกับการขอปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาได้อันเป็นการไม่เหมาะสม และผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความฯ ข้อ 10(3)
และถึงแม้นายจาบจ้วงจะทำได้จริงตามที่ อวดอ้าง ซึ่งมิใช่เป็นการหลอกลวงนางจุ้นจ้านว่า จะชักจูงใจเสธต้อยหรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี ให้ช่วยเหลือในทางคดีใด ๆ ได้ก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าเป็นการประกอบอาชีพหรือประพฤติตนอันเป็นการเสื่อมเสีย ต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับ สภาทนายความฯ ข้อ 18
ส่วนที่นายจาบจ้วงกล่าวว่า คดีแบบนี้ไม่มีปัญหา ไม่น่ากลัว เพราะเคยสู้คดีมาหลายเรื่องแล้ว ถ้าไม่มีพยานศาลก็ยกฟ้อง เป็นการกล่าวตามหลักทั่วไปในการพิจารณาพิพากษาคดีตามกฎหมาย ไม่ถือเป็น การอวดอ้างว่าตนมีความรู้ความสามารถยิ่งกว่าทนายความคนอื่น เป็นการกล่าวตามสมควร จึงไม่ผิดมรรยาท ทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ ฯ ข้อ 10(2)
สรุป การกระทำซองนายจาบจ้วงทนายความผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 10(3) และข้อ 18 แต่ไม่ผิดข้อ 10(2)