การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2561
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 4002 การว่าความและการจัดทําเอกสารทางกฎหมาย
คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 นายปฐม อัศวรุ่งเรืองพาณิชย์ คนดังแห่งชุมแสงได้นําพระเครื่องสมเด็จ ซึ่งเป็นมรดกหายากจากนางย้อยมารดาราคา 10,000,000 บาทให้กับนายอาทิตย์ ท่าพระจันทร์ เช่า (ขาย) เซียนพระ ชื่อดังที่มาพบที่บ้าน โดยทําสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด คือวันที่ 15 มกราคม 2562 และ 31 มกราคม 2562 งวดละ 5,000,000 บาท และส่งมอบพระเครื่องดังกล่าวให้กับนายอาทิตย์ในวันทําสัญญาทันที
เมื่อการซื้อขายพระรู้ถึงหูชาวบ้านเป็นข่าวดังว่านายปฐมได้รับเงินเป็นล้าน ๆ จากการให้เช่า (ขาย) – พระเครื่อง นางสาวชะม้อย ชัยศรี ทราบข่าว ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 15.00 นาฬิกา นางสาวชะม้อย ได้นําเอา น.ส. 3 ก. ของนางพิไล ใจงาม และสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของนางพิไลที่เลอะเลือนมองเห็น ไม่ชัดเจนมาแสดงต่อนายปฐมเพื่อทําสัญญากู้ยืมเงินจํานวน 500,000 บาท ทําให้นายปฐมหลงเชื่อว่าเป็น น.ส.3 ก. และสําเนาบัตรประชาชนของนางพิไลญาติห่าง ๆ ที่ตําบลคะมัง จริง จึงได้ให้เงินยืมไปโดยทําสัญญากู้ ที่บ้านเลขที่ 8 ถนนชุมแสง ตําบลชุมแสง อําเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 อันเป็น วันครบกําหนดชําระค่าพระเครื่องงวดสุดท้าย แต่นายอาทิตย์เงียบหายไปติดต่อไม่ได้ นายปฐมจึงได้มาพบท่าน เพื่อให้ดําเนินคดีแพ่งกับนายอาทิตย์ทันที ท่านจึงได้ส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังนายอาทิตย์เรียกให้ชําระราคา พระเครื่องที่เหลือ โดยให้เวลา 15 วัน แต่นายอาทิตย์ก็เพิกเฉย นายปฐมจึงให้ท่านฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าพระเครื่อง ที่เหลือทันที และวันที่ 1 มีนาคม 2562 นางพิไลได้มาเยี่ยมนายปฐมที่บ้าน นายปฐมตกใจเป็นอันมากเพราะนางพิไล คนที่มากู้ยืมเงินเป็นคนละคนกับนางพิมลญาติตนคนนี้ จึงทราบชัดเจนว่าตนถูกหลอกลวงโดยนางสาวชะม้อย ที่แสดงตนเป็นนางพิไล และไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตํารวจภูธรอําเภอชุมแสงในข้อหาฉ้อโกงทันที แต่ต้องการ ให้ท่านดําเนินการฟ้องคดีอาญาให้กับตน ท่านจึงทําการฟ้องคดีอาญาอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และมาตรา 342 ทันที
หมายเหตุ
ประมวลกฎหมายอาญา มาเดรา 341 “ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษ”
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 “ถ้าในการกระทําความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทํา (1) แสดงตน เป็นคนอื่น ผู้กระทําต้องระวางโทษ…”
ดังนี้ ให้ท่านร่างเอกสารทางกฎหมายดังต่อไปนี้
1 ในฐานะทนายความและตัวแทนผู้รับมอบอํานาจให้ท่านร่างหนังสือบอกกล่าวทวงถาม นายอาทิตย์ตามข้อมูลข้างต้น
2 ในฐานะทนายความและตัวแทนผู้รับมอบอํานาจให้ท่านร่างคําฟ้องและคําขอท้ายฟ้องคดีแพ่ง โดยไม่คํานึงถึงแบบพิมพ์ศาล
3 ในฐานะทนายความให้ท่านร่างคําฟ้องคดีอาญาให้กับนายปฐมโดยไม่คํานึงถึงแบบพิมพ์ศาล
ธงคําตอบ
1 หนังสือบอกกล่าวทวงถาม
ทําที่สํานักงานกฎหมาย……………………….
เลขที่………………
วันที่ 13 พฤษภาคม 2562
เรื่อง ขอให้ชําระหนี้
เรียน นายอาทิตย์ ท่าพระจันทร์ ผู้ซื้อ (ผู้เช่าพระ)
ตามที่ท่านได้ทําสัญญาการเช่าพระเครื่องสมเด็จ (ซื้อขาย) จากนายปฐม อัศวรุ่งเรืองพาณิชย์ ผู้ขาย (ผู้ให้เช่าพระ) ในราคา 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) โดยมีการตกลงแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด คือวันที่ 15 มกราคม 2562 และวันที่ 31 มกราคม 2562 งวดละ 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) และได้มีการส่งมอบ พระเครื่องดังกล่าวให้กับท่านแล้วในวันทําสัญญา ตามสัญญาฉบับลงวันที่ 15 มกราคม 2562 นั้น
แต่เมื่อถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 อันเป็นวันครบกําหนดชําระค่าพระเครื่องงวดสุดท้าย ปรากฏว่า ท่านไม่ชําระเงินอีก 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) ตามที่ตกลงกันไว้
โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอํานาจจากนายปฐม อัศวรุ่งเรืองพาณิชย์ ผู้ขาย (ผู้ให้เช่าพระ) จึงขอบอกกล่าวมายังท่าน ขอให้ท่านนําเงินจํานวนดังกล่าวมาชําระแก่นายปฐม อัศวรุ่งเรืองพาณิชย์ ผู้ขาย (ผู้ให้เช่าพระ) หรือข้าพเจ้าภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากท่านไม่ดําเนินการดังกล่าว ข้างต้น ข้าพเจ้าจําเป็นต้องดําเนินการทางคดีกับท่านต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
ลงชื่อ……………………
(……..ชื่อนักศึกษา……….)
ทนายความผู้รับมอบอํานาจ
ธงคําตอบ
2 คําฟ้องคดีแพ่งและคําขอท้ายฟ้อง
ข้อ 1 โจทก์ในคดีนี้ได้มอบอํานาจให้……….(ชื่อนักศึกษา)…….. เป็นผู้ฟ้องและดําเนินคดีแทนโจทก์ รายละเอียดปรากฏตามหนังสือมอบอํานาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1
ข้อ 2 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 โจทก์ได้นําพระเครื่องสมเด็จราคา 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) ให้กับจําเลยเซียนพระชื่อดังที่มาพบที่บ้านเช่า (ขาย) โดยทําสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรแบ่งจ่าย เป็น 2 งวด คือวันที่ 15 มกราคม 2562 และวันที่ 31 มกราคม 2562 งวดละ 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) และโจทก์ได้ส่งมอบพระเครื่องดังกล่าวให้กับจําเลยในวันทําสัญญาทันที รายละเอียดปรากฏตามสัญญาเช่าพระ (ซื้อขาย) ฉบับลงวันที่ 15 มกราคม 2562 เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2
ข้อ 3 ครั้นเมื่อถึงวันที่ 21 มกราคม 2562 อันเป็นวันครบกําหนดชําระค่าพระเครื่องงวดสุดท้าย อีก 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) แต่จําเลยเงียบหายไปติดต่อไม่ได้
ข้อ 4 ทนายความได้ส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถามลงทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับไปยังจําเลย เรียกให้จําเลยชําระราคาพระเครื่องที่เหลือภายใน 15 วัน แต่จําเลยกลับเพิกเฉย รายละเอียดปรากฏตามสําเนา หนังสือบอกกล่าวทวงถามและไปรษณีย์ตอบรับเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 และ 4
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะจกลงกับจําเลยได้จึงขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง ขอให้ศาลบังคับจําเลยชําระ ค่าพระเครื่องที่เหลือทั้งหมดจํานวน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) แก่โจทก์
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คําขอท้ายฟ้อง
1 ขอให้จําเลยชําระค่าพระเครื่องที่เหลือทั้งหมดจํานวน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) แก่โจทก์
2 ขอให้จําเลยชําระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 5,000,000 บาท (ห้าล้าน บาทถ้วน) นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจําเลยจะชําระแกโจทก์เสร็จสิ้น
3 ขอให้จําเลยชําระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์
ธงคําตอบ
3 คําฟ้องคดีอาญา
ข้อ 1 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลากลางวัน จําเลยโดยทุจริตได้แสดงตนเป็นนางพิไล ใจงาม โดยนําเอา น.ส. 3 ก. และสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนที่เลอะเลือนมองเห็นไม่ชัดมาแสดงต่อโจทก์ เพื่อทํา สัญญากู้ยืมเงินโจทก์จํานวน 500,000 บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ทําให้โจทก์หลงเชื่อว่าเป็น น.ส. 3 ก. และสําเนา บัตรประชาชนของนางพิไล ใจงาม ญาติห่าง ๆ จริง ซึ่งถือเป็นความเท็จ โจทก์จึงได้ให้เงินจํานวนดังกล่าวแก่จําเลย ยืมไป รายละเอียดปรากฏตามสัญญากู้ฉบับลงวันที่ 20 มกราคม 2562 ท้ายฟ้อง
เหตุเกิดที่ ตําบลชุมแสง อําเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
ข้อ 2 การกระทําของจําเลยทําให้โจทก์ได้รับความเสียหายดังกล่าวมาแล้วตามความข้างต้น โจทก็ไม่มีทางอื่นใดจะบังคับเอากับจําเลยได้ จึงต้องนําคดีมาสู่ศาล ขอศาลโปรดออกหมายเรียกจําเลยมาไต่สวน มูลฟ้อง เพื่อพิจารณาพิพากษาลงโทษจําเลยต่อไป
อนึ่ง ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนแล้ว แต่เพื่อต้องการให้คดี เสร็จเด็ดขาดไปโดยเร็ว จึงนําคดีนี้มาฟ้องด้วยตนเอง