การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2557
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 4002 การว่าความและการจัดทําเอกสารทางกฎหมาย
คําแนะนํา ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1. ในกรณีที่มีลูกความมาปรึกษาเรื่องการฟ้องหย่า ท่านจะสอบข้อเท็จจริงในประเด็นใดบ้างให้ยกตัวอย่างมาอย่างน้อย 4 ประเด็น
ธงคําตอบ
ในกรณีที่มีลูกความมาปรึกษาเรื่องการฟ้องหย่า ข้าพเจ้าจะสอบถามข้อเท็จจริงจากลูกความ ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ คือ
1 มีการกระทําประการใดบ้างที่จะเป็นเหตุฟ้องหย่า ซึ่งการกระทําดังกล่าวนั้นจะต้อง เป็นการกระทําอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 1516 เช่น สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ หรือสามีหรือภริยาประพฤติชั่ว หรือจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกิน 1 ปี เป็นต้น
2 ฝ่ายใดจะต้องรับผิดชอบค่าเลี้ยงชีพ เพราะในคดีหย่านั้น ถ้าเหตุแห่งการหย่าเป็น ความผิดของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพียงฝ่ายเดียว และการหย่านั้นจะทําให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลงเพราะไม่มีรายได้พอจากทรัพย์สินหรือจากการงานตามที่เคยทําอยู่ระหว่างสมรส อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะขอให้ฝ่ายที่ต้องรับผิด จ่ายค่าเลี้ยงชีพให้ได้ (ป.พ.พ. มาตรา 1526) (1)
3 ฝ่ายใดมีสิทธิใช้อํานาจปกครองบุตร เพราะในคดีหย่านั้น สามีภริยาสามารถทําความตกลงกันได้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อํานาจปกครองบุตรคนใด ถ้ามิได้ตกลงกันหรือตกลงกันไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด
4 ฝ่ายใดเป็นผู้ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เพราะสามีภริยาสามารถตกลงกันได้ว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ออกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ถ้าไม่ได้ตกลงกันไว้หรือตกลงกันไม่ได้ให้ศาล เป็นผู้กําหนด และ
5 การแบ่งสินสมรสและการจัดการเรื่องทรัพย์สิน เพราะเมื่อหย่ากันแล้วจะต้องจัดการ แบ่งทรัพย์สินของสามีภริยา และให้แบ่งสินสมรสโดยให้ชายและหญิงได้ส่วนแบ่งเท่ากัน
หมายเหตุ ให้นักศึกษายกตัวอย่างการสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นอย่างน้อย 4 ประการ
ข้อ 2. ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ในหมวด 2 มรรยาทต่อศาลและในศาลกําหนดไว้อย่างไรบ้าง ให้อธิบาย
ธงคําตอบ
ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ในหมวด 2 มรรยาทต่อศาล และในศาล ได้กําหนดไว้ 4 ข้อ ดังนี้คือ
1 ไม่รับหน้าที่เมื่อผู้พิพากษาได้ขอแรงให้เป็นทนายความแก้ต่างในคดีอาญา เว้นแต่จะมี ข้อแก้ตัวโดยสมควร
2 ไม่เคารพยําเกรงอํานาจศาล หรือกระทําการใดอันเป็นการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในศาล หรือนอกศาลอันเป็นการทําให้เสื่อมเสียอํานาจศาลหรือผู้พิพากษา
3 กล่าวความหรือทําเอกสารหรือหลักฐานเท็จ หรือใช้กลอุบายให้ศาลหลง หรือกระทําการใด เพื่อทราบคําสั่ง หรือคําพิพากษาของศาลที่ยังไม่เปิดเผย
4 สมรู้เป็นใจโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือทําพยานหลักฐานเท็จ หรือเสี้ยมสอนพยาน ให้เบิกความเท็จ หรือโดยปกปิด ซ่อนงํา อําพรางพยานหลักฐานใด ๆ ซึ่งควรนํามายื่นต่อศาล หรือสัญญาจะให้สินบน แก่เจ้าพนักงาน หรือสมรู้เป็นใจในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน
ซึ่งถ้าทนายความผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับสภาทนายความฯ ดังกล่าวข้างต้นแม้แต่ ข้อใดข้อหนึ่ง ให้ถือว่าทนายความผู้นั้นเป็นประพฤติผิดมรรยาททนายความ
ข้อ 3. บริษัท จีแอลเอส จํากัด จดทะเบียน ณ สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีวัตถุประสงค์ในการจําหน่ายเครื่องมือแพทย์ทุกชนิดโดยมี นายปราบ ภานุมาส และนายปราณ ภานุมาส เป็นกรรมการบริหาร ลงลายมือชื่อและประทับตรา สําคัญแทนบริษัทตามใบรับรองการจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 บริษัทฯ ได้ทําสัญญา ขายเตียงผ่าตัด เครื่องมือห้องผ่าตัดราคา 5,000,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลบํารุงประชาราษฎร์ จดทะเบียน ณ สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวง พาณิชย์ มีวัตถุประสงค์ในการตรวจและรักษาพยาบาลผู้ป่วยรวมถึงจัดจําหน่ายยาและเวชภัณฑ์โดยมี นายแพทย์สินธร พิสมัย และนางสาวชมนาส ชิณมัย เป็นกรรมการบริหาร ลงลายมือชื่อและประทับตรา สําคัญแทนโรงพยาบาลฯ ตามใบรับรองการจดทะเบียนจัดตั้ง โดยในสัญญาระบุวันชําระเงินทั้งหมด ในวันที่ 1 ธันวาคม 2557 อันเป็นวันส่งมอบสินค้าทั้งหมด เมื่อถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2557 โรงพยาบาลฯ บิดพลิ้วไม่ยอมชําระราคาแต่ได้รับมอบสินค้าทั้งหมดเอาไว้โดยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารรับมอบสินค้า ที่สั่งในใบส่งสินค้าให้กับบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ ได้ให้ท่านส่งจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์เรียกให้ โรงพยาลชําระราคาจํานวน 5,000,000 บาท อันเป็นราคาเตียงผ่าตัด เครื่องมือห้องผ่าตัดสินค้าทั้งหมด บริษัทฯ โดยนายปราบ ภานุมาส และนายปราณ ภานุมาส จึงทําหนังสือมอบอํานาจแต่งตั้งให้ท่าน เป็นตัวแทนการฟ้องคดีและเป็นทนายความให้กับบริษัทฯ ดังนั้นในฐานะทนายความของบริษัทฯ ให้ท่านเรียงคําฟ้องและคําขอท้ายฟ้องเรียกให้โรงพยาบาลฯ ชําระราคาสินค้าดังกล่าวทั้งหมดตามความประสงค์ของตัวความโดยไม่คํานึงแบบพิมพ์ศาล
ธงคําตอบ
คําฟ้องแพ่ง
ข้อ 1. โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจํากัด จดทะเบียน ณ สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วน บริษัท กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ใช้ชื่อว่า บริษัท จีแอลเอส จํากัด มีวัตถุประสงค์ ในการจําหน่ายเครื่องมือแพทย์ทุกชนิด โดยมีนายปราบ ภานุมาส และนายปราณ ภานุมาส เป็นกรรมการบริหาร มีอํานาจลงลายมือชื่อและประทับตราสําคัญแทนบริษัท รายละเอียดปรากฏตามสําเนาหนังสือรับรองเอกสาร ท้ายฟ้องหมายเลข 1
ในการฟ้องคดีนี้โจทก์ได้แต่งตั้งให้ (ชื่อนักศึกษา) เป็นตัวแทนในการฟ้องและดําเนินคดี แทนโจทก์ รายละเอียดปรากฏตามหนังสือมอบอํานาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2
จําเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจํากัด จดทะเบียน ณ สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ใช้ชื่อว่า โรงพยาบาลบํารุงประชาราษฎร์มีวัตถุประสงค์ ในการตรวจและรักษาพยาบาลผู้ป่วย รวมถึงจัดจําหน่ายยาและเวชภัณฑ์โดยมีนายแพทย์สินธร พิสมัย และนางสาวชมนาส ชิณมัยเป็นกรรมการบริหารมีอํานาจลงลายมือชื่อ และประทับตราสําคัญแทนโรงพยาบาลฯ รายละเอียดตามหนังสือรับรองเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3
ข้อ 2. เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 โจทก์ได้ทําสัญญาขายเตียงผ่าตัด เครื่องมือห้องผ่าตัด ราคา 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) ให้กับจําเลย โดยในสัญญาได้ระบุให้จําเลยชําระเงินทั้งหมดในวันที่ 1 ธันวาคม 2557 อันเป็นวันส่งมอบสินค้าทั้งหมด รายละเอียดปรากฏตามสัญญาซื้อขาย ฉบับลงวันที่ 15 ตุลาคม 2557 เอกสารท้ายฟ้อง หมายเลข 4
ข้อ 3. ครั้นถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2557 จําเลยปฏิเสธไม่ยอมชําระราคา แต่ได้รับมอบเตียงผ่าตัด และเครื่องมือห้องผ่าตัดสินค้าทั้งหมดเอาไว้โดยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารรับมอบสินค้าที่สั่งในใบส่งสินค้าให้กับโจทก์ รายละเอียดปรากฏตามใบส่งสินค้าฉบับลงวันที่ 1 ธันวาคม 2557 เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 5
โจทก์ได้ทวงถามโดยส่งจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับเรียกให้จําเลยชําระราคาเตียงผ่าตัด และเครื่องมือห้องผ่าตัด สินค้าทั้งหมดเป็นเงินจํานวน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) แต่จําเลยกลับเพิกเฉย รายละเอียดปรากฏตามสําเนาหนังสือทวงถามและไปรษณีย์ตอบรับเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 6 และ 7
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับกับจําเลยได้ จึงขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คําขอท้ายฟ้อง
ข้อ 1. ขอให้จําเลยชําระราคาเตียงผ่าตัด เครื่องมือห้องผ่าตัด สินค้าทั้งหมดเป็นเงิน 5,000,000 บาท (5 ล้านบาทถ้วน)
ข้อ 2. ขอให้จําเลยชําระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ของราคาสินค้าทั้งหมดนับจากวันฟ้องเป็นต้น ไปจนกว่าจะชําระคืนให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
ข้อ 3. ขอให้จําเลยชําระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์