การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2551
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3035 การสืบสวนและสอบสวน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ
ข้อ 1 ในทางคดีอาญา การตรวจสถานที่เกิดเหตุถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพยานหลักฐานต่างๆ ในสถานที่เกิดเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้อธิบายว่าหลักการตรวจสถานที่เกิดเหตุควรมีหลักปฏิบัติขั้นตอนอย่างไร
ธงคำตอบ
1 เมื่อได้รับแจ้งเหตุต้องรีบเดินทางไปให้ถึงสถานที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุดและปลอดภัย
2 เมื่อไปถึงต้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วจึงเริ่มลงมือตรวจสถานที่เกิดเหตุด้วยความละเอียดถี่ถ้วน ป้องกันสถานที่เกิดเหตุให้อยู่ในสภาพเดิมให้มากที่สุด
3 ทำแผนที่สังเขป และถ่ายรูปสิ่งต่างๆในที่เกิดเหตุไว้
4 ค้นหาร่องรอยและพยานหลักฐาน ต้องทำการเก็บให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายและตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้
5 ในขณะทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุควรสอบถามว่ามีผู้ใดเข้าไปในที่เกิดเหตุหรือไม่ มีการเคลื่อนย้ายสิ่งของใดหรือไม่
6 ในคดีสำคัญควรเรียกผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุด้วย
7 กรณีมีผู้บาดเจ็บให้ปฐมพยาบาลแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ข้อ 2 เจ้าพนักงานผู้สอบสวนคดีอาญา นอกจากจะต้องเป็นผู้รู้ตัวบทกฎหมายแล้ว ผู้สืบสวนจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญและยึดถือหลักปฏิบัติอย่างไร
ธงคำตอบ
ผู้สืบสวนที่ดีควรจะต้องมีคุณสมบัติและยึดถือหลักปฏิบัติดังต่อไปนี้
1 ต้องตั้งตนเป็นกลาง
2 มีความอดทนและเพียรพยายาม
3 มีปฏิภาณไหวพริบดี
4 มีความกล้าหาญ
5 ต้องเพาะความนิยม
6 ต้องมีความรอบคอบ
7 มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคสมัยใหม่
8 มีความสำนึกในเกียรติและซื่อตรงต่อหน้าที่
ข้อ 3 นายเจมส์ อายุ 18 ปี บิดาและมารดาถึงแก่ความตายหมดแล้ว นายเจมส์มีพี่ชายเพียงคนเดียวคือนายโจ ต่อมานายเจมส์ถูกนายจอมฆ่าตาย นายโจจึงไปแจ้งข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายจอม ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่า คำกล่าวหาของนายโจเป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 2(4) ผู้เสียหายหมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดั่งบัญญัติไว้ในมาตรา 4 , 5 และ 6
มาตรา 2(7) คำร้องทุกข์ หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตามซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ
มาตรา 3 (1) บุคคลดั่งระบุในมาตรา 4, 5 และ 6 มีอำนาจจัดการต่อไปนี้แทนผุ้เสียหายตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ
(1) ร้องทุกข์
มาตรา 5 (2) บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้
(2) ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามีภรรยาเฉพาะแต่ในความผิดอาญา ซึ่งผู้เสียหายถูกทำร้ายถึงตายหรือบาดเจ็บจนไม่สามารถจะจัดการเองได้
วินิจฉัย
ภายใต้บทบัญญัติแห่ง ป. วิอาญา มาตรา 2 (4) ผู้เสียหายหมายความถึงบุคคล 2 จำพวก คือ ผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง กับบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทน ซึ่งได้แก่บุคคลดังบัญญัติไว้ในมาตรา 4 , 5 และ 6 ซึ่งตามมาตรา 5 (2) นั้น เป็นการจัดการแทนกันได้ระหว่างบุคคลสองคู่ด้วยกัน คือ
1 ผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน
2 สามีกับภริยา
ซึ่งจะเห็นว่าพี่ชายไม่ใช่ผู้เสียหายประเภทเป็นผู้มีอำนาจจัดการแทน ตามมาตรา 2 (4) ประกอบมาตรา 5 (2) นายโจจึงร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายจอม ตามมาตรา 2 (7) ประกอบมาตรา 3 (1) ไม่ได้ ดังนั้นคำกล่าวหาของนายโจจึงไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
ข้อ 4 จากข้อเท็จจริงตามข้อสอบในข้อ 3 ข้างต้นนั้น ให้วินิจฉัยว่า พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจในการสอบสวนคดีนี้ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 121 วรรคแรก พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาทั้งปวง
วินิจฉัย
การที่นายเจมส์ถูกนายจอมฆ่าตาย เป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน พนักงานสอบสวนจึงมีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้ เนื่องจากในคดีความผิดอาญาแผ่นดินนั้น พนักงานสอบสวนชอบที่จะทำการสอบสวนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคำร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ตาม ป. วิ . อาญา มาตรา 121 วรรคแรก ( เทียบนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1681 / 2535 , 784/2483)