การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2547
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3010 กฎหมายล้มละลาย
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน จำนวน 3 ข้อ
ธงคำตอบ
มาตรา 15 ตราบใดที่ลูกหนี้ยังมิได้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใดจะฟ้องลูกหนี้นั้นเป็นคดีล้มละลายอีกก็ได้ แต่เมื่อศาลได้สั่งให้คดีหนึ่งคดีใดให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ให้จำหน่ายคดีล้มละลายซึ่งเจ้าหนี้อื่นฟ้องลูกหนี้คนเดียวกันนั้น
วินิจฉัย
ก่อนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้แต่ละรายจะฟ้องลูกหนี้เป็นคดีล้มละลายอีกคดีก็ได้ แต่เมื่อศาลเดียวกันหรือศาลหนึ่งศาลใดมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ศาลจะต้องสั่งจำหน่ายคดีอื่นๆเสียคงเหลือไว้แต่คดีที่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแต่เพียงคดีเดียวเท่านั้น แต่ถ้าศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ดังนี้ ยังไม่ต้องจำหน่ายคดีอื่นๆแต่อย่างใด
การที่ศาลไม่รับคดีของนาย ง ไว้พิจารณา โดยอ้างว่า ศาลได้สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดคดีของนาย ก แล้ว ข้ออ้างของศาลเช่นนี้ฟังขึ้น เพราะเหตุว่า ในคดีล้มละลายศาลสามารถพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้คนเดียวกันได้เพียงคดีเดียว และหากมีการฟ้องลูกหนี้คนเดียวโดยเจ้าหนี้หลายคนฟ้อง หากศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดคดีใดแล้ว เจ้าหนี้อื่นจะฟ้องลูกหนี้คนเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ เจ้าหนี้อื่นนั้นต้องไปรอขอรับชำระหนี้ ตามมาตรา 27 ประกอบมาตรา 91
ส่วนคดีของนาย ค ที่ค้างพิจารณานั้น เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีของนาย ก แล้ว ศาลก็อยู่ในบังคับที่จะต้องสั่งจำหน่ายคดี ตามมาตรา 15 เพื่อให้นาย ค ไปรอรับชำระหนี้เช่นกัน
สรุป ข้ออ้างของศาลที่ไม่รับคดีของนาย ง ไว้พิจารณาฟังขึ้น และในส่วนคดีของนาย ค ที่ค้างพิจารณาศาลต้องสั่งจำหน่ายคดี
ข้อ 2 ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง ศาลสั่งให้ลูกหนี้ล้มละลาย และลูกหนี้ขอประนอมหนี้ ศาลอนุญาตแต่ปรากฏว่าลูกหนี้กระทำไม่สำเร็จเนื่องจากผิดนัดอย่างหนึ่งอย่างใดตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯมาตรา 60 ศาลจึงสั่งให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 61 ดังนี้ ลูกหนี้จะเริ่มต้นล้มละลายตั้งแต่เมื่อใด ให้ท่านอธิบายพร้อมยกตัวบทกฎหมายประกอบด้วย
ธงคำตอบ
มาตรา 6 ในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
“พิทักษ์ทรัพย์” หมายความว่า พิทักษ์ทรัพย์สินไม่ว่าเด็ดขาดหรือชั่วคราว
มาตรา 62 การล้มละลายของลูกหนี้เริ่มต้นมีผลตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
อธิบาย
การล้มละลายของลูกหนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อใดนั้น เป็นไปตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 62 ซึ่งกำหนดว่า “ให้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์” อย่างไรก็ตามเมื่อบทบัญญัติดังกล่าวมิได้ระบุไว้โดยชัดแจ้งให้เห็นเป็นอย่างอื่น จึงต้องนำบทนิยามตามมาตรา 6 ที่ว่า “พิทักษ์ทรัพย์” หมายความว่า พิทักษ์ทรัพย์สินไม่ว่าเด็ดขาดหรือชั่วคราว มาพิจารณาประกอบด้วย กล่าวคือ
1 ถ้าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว การล้มละลายก็จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว
2 ถ้าศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด (โดยไม่มีการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว) การล้มละลายก็จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
ตัวอย่าง ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2547 ต่อมาวันที่ 22 มกราคม 2547 จึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด และวันที่ 30 มกราคม 2547 ศาลได้พิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย เช่นนี้ถือว่าลูกหนี้ล้มละลายตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2547 อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้ตามมาตรา 62
อนึ่งจากตัวอย่างข้างต้น หากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดอย่างเดียว โดยไม่มีการพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราวแต่อย่างใด ก็ต้องถือว่าลูกหนี้ล้มละลายตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2547 อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ผลของการล้มละลาย ไม่ใช่เริ่มตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย แต่เริ่มตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งอาจจะเป็นการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวหรือเด็ดขาดก็ได้ แล้วแต่กรณี
ข้อ 3 ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีนี้ ซึ่งมีลูกหนี้เป็นบริษัทจำกัดและมีหนี้ที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายเป็นจำนวนเงิน 24 ล้านบาท ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยอ้างว่ามีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ หากท่านเป็นศาล ท่านจะสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้หรือไม่อย่างไร ให้ท่านอธิบายพร้อมทั้งยกตัวบทกฎหมายประกอบ
ธงคำตอบ
มาตรา 90/3 เมื่อลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและเป็นหนี้เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันเป็นจำนวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม ถ้ามีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ บุคคลธรรมดาตามมาตรา 90/4 อาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีการฟื้นฟูกิจการได้
มาตรา 90/4 ภายใต้บังคับมาตรา 90/5 บุคคลซึ่งมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
(2) ลูกหนี้ซึ่งมีลักษณะตามมาตรา 90/3
มาตรา 90/5 บุคคลตามมาตรา 90/4 จะยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด
วินิจฉัย
ศาลจะสั่งรับคำขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้หรือไม่ เห็นว่า ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯ มาตรา 90/5 นั้น บัญญัติห้ามมิให้บุคคลตามมาตรา 90/4 ยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในกรณีดังต่อไปนี้
1 ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว กล่าวคือ กฎหมายจำกัดเฉพาะกรณีที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้นจะยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้ ถ้าลูกหนี้เพียงแต่ถูกฟ้องขอให้ล้มละลาย ตราบใดที่ศาลยังไม่ได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ก็อาจมีการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ อีกประการหนึ่งการที่ศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราวก็ยังยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการได้
2 ศาลหรือนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้เลิกหรือเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้หรือมีการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลหรือนิติบุคคลต้องเลิกกันด้วยเหตุอื่น
กรณีนี้แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่า ลูกหนี้ซึ่งเป็นบริษัทจำกัดถูกฟ้องล้มละลายโดยมีมูลหนี้ 24 ล้านบาท จะเป็นบุคคลตามมาตรา 90/3 ประกอบมาตรา 90/4(2) ก็ตาม แต่เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว กรณีจึงต้องห้ามตามมาตรา 90/5(1) ลูกหนี้จึงมายื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการไม่ได้ แม้จะยื่นคำร้องโดยอ้างว่ามีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการได้ ศาลก็ชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
สรุป หากข้าพเจ้าเป็นศาลจะสั่งไม่รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้