การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3010 กฎหมายล้มละลาย
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน จำนวน 3 ข้อ
ข้อ 1 ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานต่อศาลว่า ที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกลงมติไม่ยอมรับคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย ซึ่งจำเลยขอชำระหนี้เพียงร้อยละ 50 ขอศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ระหว่างนัดฟังคำพิพากษา จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลว่าประสงค์จะขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกครั้งหนึ่งโดยเสนอขอชำระหนี้ร้อยละ 75 ซึ่งเจ้าหนี้เสียงข้างมากและรวมจำนวนหนี้กันมากกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหนี้ทั้งหมดรับว่าจะตกลงยอมรับคำขอประนอมหนี้ครั้งใหม่ของจำเลย ศาลล้มละลายกลางจึงมีคำสั่งให้งดการพิพากษาไว้ก่อนและให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปเรียกประชุมเจ้าหนี้ว่าจะยอมรับคำขอประนอมหนี้ครั้งใหม่ของจำเลยหรือไม่ แล้วรายงานผลการประชุมเจ้าหนี้ต่อศาลโดยเร็วให้วินิจฉัยว่า คำสั่งศาลล้มละลายกลางดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 31 เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุด เพื่อปรึกษาว่า จะควรยอมรับคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ หรือควรขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายและปรึกษาถึงวิธีที่จะจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป การประชุมนี้ให้เรียกว่าประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก
มาตรา 45 เมื่อลูกหนี้ประสงค์จะทำความตกลงในเรื่องหนี้สินโดยวิธีขอชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหรือโดยวิธีอื่น ให้ทำคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเจ็ดวัน นับแต่วันยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินตามมาตรา 30 หรือภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดให้
คำขอประนอมหนี้ต้องแสดงข้อความแห่งการประนอมหนี้ หรือวิธีจัดกิจการหรือทรัพย์สินและรายละเอียดแห่งหลักประกันหรือผู้ค้ำประกัน ถ้ามี
ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อปรึกษาลงมติพิเศษว่าจะยอมรับคำขอนั้นหรือไม่
มาตรา 61 เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า เจ้าหนี้ได้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือในคราวที่ได้เลื่อนไป ขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายก็ดี หรือไม่ลงมติประการใดก็ดี หรือไม่มีเจ้าหนี้ไปประชุมก็ดี หรือการประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบก็ดี ให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายเพื่อแบ่งแก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
มาตรา 63 วรรคแรก เมื่อศาลพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว ลูกหนี้จะเสนอคำขอประนอมหนี้ก็ได้ ในกรณีนี้ให้นำบทบัญญัติในส่วนที่ 6 ว่าด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายมาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าลูกหนี้ได้เคยประนอมหนี้ไม่เป็นผลมาแล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้ขอประนอมหนี้ภายในกำหนดเวลาสามเดือนนับแต่วันที่ขอประนอมหนี้ครั้งสุดท้ายไม่เป็นผล
วินิจฉัย
การขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายนั้นตามมาตรา 45 กำหนดให้จำเลยหรือลูกหนี้ทำคำประนอมหนี้เป็นหนังสือยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินตามมาตรา 30 หรือภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดให้ และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อปรึกษาลงมติพิเศษว่าจะยอมรับคำขอประนอมหนี้นั้นหรือไม่ และมาตรา 31 วรรคแรก กำหนดว่าเมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุด เพื่อปรึกษาว่าควรจะยอนรับคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ หรือควรพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย และปรึกษาถึงวิธีที่จะจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป การประชุมนี้ให้เรียกว่าการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกตามมาตรา 31
ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า คำสั่งศาลล้มละลายกลางชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รายงานต่อศาลว่า เจ้าหนี้ได้ลงมติในที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกไม่ยอมรับคำขอประนอมหนี้ ซึ่งจำเลยขอประนอมหนี้เพียงร้อยละ 50 และขอศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย กรณีเช่นนี้ ศาลต้องอยู่ในบังคับที่ต้องพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายทันทีตามมาตรา 61 ซึ่งมีหลักคือ เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า เจ้าหนี้ได้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือในคราวที่ได้เลื่อนไป ขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายก็ดี หรือไม่ลงมติประการใดก็ดี หรือไม่มีเจ้าหนี้ไปประชุมก็ดี หรือการประนอมหนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบก็ดี ให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ทั้งนี้เป็นบทบังคับเด็ดขาดศาลจะงดพิพากษา หรือรอการพิพากษา หรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และกฎหมายมีเจตนารมณ์ให้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว หากจำเลยจะขอประนอมหนี้อีกก็ชอบที่จะเสนอคำขอได้ในตอนหลังเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลายแล้วตามมาตรา 63 วรรคแรก
การที่จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่าประสงค์จะขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเข้ามาอีก ซึ่งการที่จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว นอกจากจะมิใช่เป็นการแก้ไขคำขอประนอมหนี้ตามมาตรา 47 และยังเป็นการพ้นระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว การยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกครั้งจะทำให้คดีล้มละลายไม่อาจดำเนินไปได้โดยรวดเร็ว ผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมายล้มละลาย จึงเป็นการไม่ชอบ
ดังนั้น การที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้งดการพิจารณาและให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปเรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาว่าจะยอมรับคำขอประนอมหนี้ของจำเลยอีกครั้ง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ฎ. 1350/2546)
สรุป คำสั่งของศาลล้มละลายกลางไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 2 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ธนาคารไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับชำระหนี้เงินกู้จำนวน 100,000 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ และคำสั่งดังกล่าวถึงที่สุดแล้วต่อมาลูกหนี้ตรวจสอบพบใบเสร็จค่าผ่อนชำระเงินกู้จำนวน 2 งวด งวดละ 10,000 บาท ที่ธนาคารออกให้
ดังนี้ ให้ท่านให้คำแนะนำแก่ลูกหนี้ว่าควรดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งแก้ไขคำสั่งเดิมที่อนุญาตให้
ธนาคารได้รับชำระหนี้จำนวน 100,000 บาท ดังกล่าว
ธงคำตอบ
มาตรา 108 คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ซึ่งศาลได้สั่งอนุญาตแล้วนั้น ถ้าต่อมาปรากฏว่าศาลได้สั่งไปโดยผิดหลง เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ศาลมีอำนาจยกคำขอรับชำระหนี้หรือลดจำนวนหนี้ที่ได้สั่งอนุญาตไปแล้วได้
วินิจฉัย
ตามมาตรา 108 ได้ให้อำนาจศาลในการแก้ไขคำสั่งของศาลที่อนุญาตตามคำขอชำระหนี้ของเจ้าหนี้ได้ แม้คำสั่งศาลจะถึงที่สุดแล้วก็ตาม ถ้าต่อมาปรากฏว่าศาลได้สั่งไปโดยหลงผิดตามจำนวนที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ โดยความจริงลูกหนี้ไม่ได้เป็นหนี้ หรือเป็นหนี้ไม่ถึงจำนวนตามที่อนุญาตไปแล้ว แต่ทั้งนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาล
ภายหลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งถึงที่สุดให้ธนาคารไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับชำระหนี้เงินกู้จำนวน 100,000 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ลูกหนี้ได้ตรวจพบใบเสร็จค่าผ่อนชำระเงินกู้ จำนวน 2 งวด งวดละ 10,000 บาท ที่ธนาคารออกให้ จึงเป็นกรณีที่ศาลสั่งไปโดยผิดหลงตามจำนวนที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ โดยความจริงลูกหนี้เป็นหนี้ไม่ถึงจำนวนตามที่อนุญาตไปแล้ว ซึ่งกรณีเช่นนี้ศาลก็มีอำนาจลดลงจำนวนที่ได้สั่งอนุญาตไปแล้ว คือ 100,000 บาท มาเป็นจำนวนเงินที่ถูกต้อง คือ 80,000 บาท ได้ ตามมาตรา 108 แต่อย่างไรก็ตาม คำร้องตามมาตรา 108 นี้ กฎหมายให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่านั้นที่มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้แก้ไขคำสั่งศาลที่อนุญาตให้ชำระหนี้โดยผิดหลง ลูกหนี้เองไม่มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรานี้ ดังนั้นลูกหนี้จะต้องนำใบเสร็จค่าผ่อนชำระเงินกู้จำนวน 2 งวดดังกล่าว ที่ธนาคารออกให้ไปมอบให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งแก้ไขคำสั่งเดิมที่สั่งไปโดยผิดหลงที่อนุญาตให้ธนาคารไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับชำระหนี้มากเกินความจริง (ฎ.5198/2547)
สรุป ข้าพเจ้าจะแนะนำให้ลูกหนี้นำใบเสร็จค่าผ่อนชำระเงินกู้จำนวน 2 งวดดังกล่าวไปมอบให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลมีคำสั่งแก้ไขคำสั่งเดิม
ข้อ 3 ในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อเลือกบุคคลเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ลูกหนี้เสนอนายดำซึ่งเป็นผู้บริหารของลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน นายแดงซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้เสนอตัวเองเป็นผู้ทำแผนที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณาแล้วลงมติเลือกนายแดงเป็นผู้ทำแผนด้วยคะแนนเสียงหกสิบในร้อยของจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนในมติดังกล่าว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานให้ศาลพิจารณาว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งนายดำเป็นผู้ทำแผนหรือไม่ นายแดงไม่เห็นด้วยกับรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และมาปรึกษาท่าน ท่านจะให้คำปรึกษาแก่นายแดงประการใด
ธงคำตอบ
มาตรา 90/17 วรรคแรก วรรคสองและวรรคหก ในการพิจารณาตั้งผู้ทำแผน ถ้าลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ผู้คัดค้านไม่ได้เสนอบุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผนด้วย เมื่อศาลสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ ศาลจะมีคำสั่งตั้งบุคคลที่ผู้ร้องขอเสนอเป็นผู้ทำแผนก็ได้ ถ้าศาลเห็นว่าบุคคลที่ผู้ร้องขอเสนอไม่สมควรเป็นผู้ทำแผนก็ดี หรือลูกหนี้ เจ้าหนี้ผู้คัดค้านเสนอบุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผนด้วยก็ดี ให้ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุดเพื่อพิจารณาเลือกว่าบุคคลใดสมควรเป็นผู้ทำแผน
ในกรณีที่ลูกหนี้มิได้เสนอผู้ทำแผน มติเลือกผู้ทำแผนต้องเป็นมติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้น แต่ในกรณีที่ลูกหนี้เสนอผู้ทำแผนด้วย ให้ผู้ทำแผนที่ลูกหนี้เสนอเป็นผู้ทำแผน เว้นแต่จะมีมติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้ซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้นกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผนในการลงมติตามมาตรานี้ ให้เจ้าหนี้มีประกันออกเสียงได้เต็มตามจำนวนหนี้
ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานผลของการประชุมเจ้าหนี้ที่พิจารณาเลือกผู้ทำแผนทุกครั้งต่อศาลภายในสามวันนับแต่วันประชุม เพื่อให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป
วินิจฉัย
ตามมาตรา 90/17 วรรคสอง ได้กำหนดกลักเกณฑ์เกี่ยวกับมติในการประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาเลือกผู้ทำแผนในกรณีที่ลูกหนี้เสนอผู้ทำแผน โดยให้ผู้ทำแผนที่ลูกหนี้เสนอเป็นผู้ทำแผน เว้นแต่จะมีมติของเจ้าหนี้ที่มีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้ ซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนด้วยในมตินั้น กำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผน
กรณีตามอุทาหรณ์ ลูกหนี้ได้เสนอชื่อนายดำซึ่งเป็นผู้บริหารของลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน และนายแดงซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้เสนอชื่อตัวเองเป็นผู้ทำแผน ที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณาแล้วลงมติเลือกนายแดงเป็นผู้ทำแผนด้วยคะแนนเสียงหกสิบในร้อย ซึ่งไม่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้ ซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้น กรณีเช่นนี้จึงต้องถือว่านายดำซึ่งลูกหนี้เป็นผู้เสนอชื่อ เป็นบุคคลที่ได้รับมติเลือกเป็นผู้ทำแทน ตามมาตรา 90/17 วรรคสอง
การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานให้ศาลพิจารณาว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งนายดำเป็นผู้ทำแผนหรือไม่จึงชอบแล้ว เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหน้าที่ต้องรายงานผลของการประชุมเจ้าหนี้ที่พิจารณาเลือกผู้ทำแผนทุกครั้งต่อศาลภายใน 3 วัน นับแต่วันประชุม เพื่อให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งต่อไปตามมาตรา 90/17 วรรคหก
สรุป ข้าพเจ้าจะให้คำปรึกษาแก่นายแดงว่า ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานให้ศาลพิจารณาว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งนายดำเป็นผู้ทำแผนหรือไม่นั้น ชอบแล้ว