การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3010 กฎหมายล้มละลาย
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน จำนวน 3 ข้อ
ธงคำตอบ
มาตรา 89 เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ห้างหุ้นส่วนสามัญซึ่งได้จดทะเบียนหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดแล้ว เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจมีคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ให้บุคคลซึ่งนำสืบได้ว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนนั้นล้มละลายได้ โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีขึ้นใหม่
วินิจฉัย
โดยหลักแล้ว ในกรณีที่เจ้าหนี้เป็นโจทก์หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดล้มละลายตามห้างฯ ตามมาตรา 89 นั้น บทบัญญัติแห่งมาตรานี้ให้พิจารณาแต่เพียงว่าผู้ถูกขอให้ล้มละลายตามห้างฯ เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดหรือไม่ ถ้าได้ความว่าเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ศาลก็มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลายตามห้างฯได้เลย โดยไม่ต้องคำนึงว่าหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดนั้นจะมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ ทั้งนี้เพราะหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดต้องรับผิดในหนี้สินแทนห้างหุ้นส่วนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1070 และ 1077 โดยไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว (ฎ. 7093/2545, ฎ. 1172/2521)
กรณีตามอุทาหรณ์ คำพิพากษาและคำสั่งของศาลชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามรุ่งโรจน์เด็ดขาดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งให้นายดำและนายแดงหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดล้มละลายตามห้างฯด้วย ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยจึงมีเพียงว่า นายดำและนายแดงผู้ถูกขอให้ล้มละลายตามห้างฯ เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดหรือไม่เท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติได้ว่านายดำและนายแดงเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามรุ่งโรจน์ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไปก่อนแล้ว กรณีเช่นนี้ ศาลก็มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของนายแดงและนายดำเด็ดขาดได้เลย โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ ทั้งนี้ตามมาตรา 89
ดังนั้น การที่ศาลมีคำสั่งพิพากษาให้นายดำล้มละลายทันทีย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะศาลต้องมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนจึงจะมีคำพิพากษาให้ล้มละลายได้ และคำสั่งยกคำร้องของนายแดง โดยเห็นว่าไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัวก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน เพราะประเด็นดังกล่าวไม่จำต้องวินิจฉัยแต่อย่างใด
สรุป คำพิพากษาและคำสั่งของศาลไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 2 ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง นายดำลูกหนี้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายโดยขอชำระหนี้ร้อยละ 50 แก่เจ้าหนี้ที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้ทุกๆราย ที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกมีมติพิเศษยอมรับและศาลเห็นชอบด้วย นายดำผ่อนชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ทุกๆราย เพียงร้อยละ 25 แล้วผิดนัดไม่ชำระหนี้อีก ศาลจึงมีคำสั่งยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้นายดำเป็นบุคคลล้มละลาย หลังจากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของนายดำที่ยึดไว้ออกขายจนหมดแล้วนำเงินแบ่งชำระให้แก่เจ้าหนี้ทุกๆราย ได้อีกร้อยละ 25 นายดำจึงยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายอ้างว่าเจ้าหนี้ทุกรายได้รับชำระหนี้ร้อยละ 50 เต็มจำนวนคำขอประนอมหนี้แล้ว ให้วินิจฉัยว่า ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งคำร้องของนายดำอย่างไร
ธงคำตอบ
มาตรา 60 วรรคแรก ถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงไว้ในการประนอมหนี้ก็ดี หรือปรากฏแก่ศาลโดยมีพยานหลักฐานว่าการประนอมหนี้นั้นไม่อาจดำเนินไปได้โดยปราศจากอยุติธรรมหรือจะเป็นการเนิ่นช้าเกินสมควรก็ดี หรือการที่ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยนั้นเป็นเพราะถูกหลอกลวงทุจริตก็ดี เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานหรือเจ้าหนี้คนใดมีคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ศาลมีอำนาจยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย แต่ทั้งนี้ไม่กระทบถึงการใดที่ได้กระทำไปแล้วตามข้อประนอมหนี้นั้น
มาตรา 135 เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำขอ ศาลมีอำนาจสั่งยกเลิกการล้มละลายได้ ถ้าปรากฏเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(3) หนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว
วินิจฉัย
ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งคำร้องของนายดำอย่างไร เห็นว่า ภายหลังจากที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกมีมติพิเศษยอมรับการขอประนอมหนี้ของนายดำและศาลเห็นชอบด้วยในการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายโดยนายดำขอชำระหนี้ร้อยละ 50 แต่นายดำกลับผ่อนชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทุกรายเพียงร้อยละ 25 และผิดนัดไม่ชำระหนี้อีก จึงเป็นกรณีที่นายดำผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามที่ตกลงไว้ในการประนอมหนี้ ศาลจึงมีอำนาจยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ตามมาตรา 60 วรรคแรก
หลังจากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นำทรัพย์สินของนายที่ยึดไว้ออกขายทอดตลาด แล้วนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทุกรายได้อีกร้อยละ 25 นายดำจึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายโดยอ้างว่าเจ้าหนี้ทุกรายได้รับชำระหนี้ร้อยละ 50 เต็มจำนวนตามคำขอประนอมหนี้แล้ว ปัญหาจึงมีว่าเมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการประนอมหนี้แล้ว นายดำจะถือเอาประโยชน์จากข้อตกลงในการประนอมหนี้ได้หรือไม่ เห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการประนอมหนี้และพิพากษาให้นายดำเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ข้อตกลงตามข้อประนีประนอมก็เป็นอันยกเลิกไป ลูกหนี้จึงมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ตามจำนวนหนี้เดิม ซึ่งอาจจะมีจำนวนมากกว่าที่ได้ประนอมหนี้ ลูกหนี้จะย้อนกลับไปขอให้บังคับตามข้อตกลงในคำขอประนอมหนี้ไม่ได้ (ฎ. 2071/2535)
ดังนั้น เมื่อหนี้สินของนายดำบุคคลล้มละลายเพิ่งจะมีการชำระหนี้ไปเพียงรอยละ 50 ศาลจึงไม่อาจสั่งให้ยกเลิกการล้มละลายตามมาตรา 135(3) ได้ ดังนี้ ศาลล้มละลายกลางจึงต้องมีคำสั่งยกคำร้องของนายดำ
สรุป ศาลล้มละลายกลางต้องมีคำสั่งยกคำร้องของนายดำ
ข้อ 3 แผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการเรื่องหนึ่ง กำหนดให้เจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการทุกคนต้องลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ในอัตราคนละสามสิบในร้อยของหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ และกำหนดให้ลูกหนี้ผู้ค้ำประกันของลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ทั้งหมดที่ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ดังกล่าวทุกคน ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติยอมรับแผน และศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้ว นายแดงซึ่งเป็นเจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูและได้ลงมติยอมรับแผนดังกล่าวยื่นฟ้องนายดำซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ ขอให้ศาลบังคับบังคับให้นายดำชำระหนี้ในส่วนที่ลุกหนี้ได้รับการลดหนี้ตามแผนในอัตราสามสิบในร้อยของหนี้ทั้งหมด นายดำให้การยกข้อต่อสู้ว่าแผนฟื้นฟูกิจการกำหนดให้ผู้ค้ำประกันของลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ทั้งหมดที่ได้ค้ำประกันไว้ อีกทั้งนายแดงก็ได้ลงมติยอมรับแผนดังกล่าวด้วย เท่ากับนายแดงตกลงยอมรับให้ผู้ค้ำประกันของลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ดังกล่าว นายแดงจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้นายดำต้องรับผิดตามคำฟ้องแต่ประการใด
ให้ท่านวินิจฉัยว่าข้อต่อสู้ของนายดำรับฟังได้หรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 90/27 เจ้าหนี้อาจขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระหรือมีเงื่อนไขก็ตาม เว้นแต่หนี้ที่เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดีหรือหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
มาตรา 90/60 แผนซึ่งศาลมีคำสั่งเห็นชอบแล้ว ผูกมัดเจ้าหนี้ซึ่งอาจขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้และเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ตามมาตรา 90/27
คำสั่งของศาลซึ่งเห็นชอบด้วยแผนไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความรับผิดของบุคคลซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับลูกหนี้ หรือผู้รับผิดร่วมกับลูกหนี้ หรือผู้ค้ำประกัน หรืออยู่ในลักษณะอย่างผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ในหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน และไม่มีผลให้บุคคลเช่นว่านั้นต้องรับผิดในหนี้ที่ก่อขึ้นตามแผนตั้งแต่วันดังกล่าว เว้นแต่บุคคลเช่นว่านั้นจะยินยอมโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 การใดมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัยหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ
วินิจฉัย
คำสั่งเห็นชอบด้วยแผนมีผลเฉพาะตัวลูกหนี้เท่านั้นที่จะหลุดพ้นจากหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน แล้วมาผูกพันตามหนี้ที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนบุคคลภายนอกซึ่งต้องร่วมรับผิดกับลูกหนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/60 วรรคสอง อันได้แก่ บุคคลซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับลูกหนี้หรือผู้รับผิดร่วมกับลูกหนี้ หรือผู้ค้ำประกันหรือผู้อยู่ในลักษณะอย่างผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ คำสั่งของศาลที่เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการย่อมไม่มีผลเปลี่ยนแปลงความรับผิดของบุคคลเหล่านั้นที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน ความรับผิดของบุคคลดังกล่าวจะต้องรับผิดอีกเช่นไรต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่ง กล่าวโดยเฉพาะในส่วนของผู้ค้ำประกันเมื่อหนี้ที่ค้ำประกันมิได้ระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 698 ผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิดต่อเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ยังมีสิทธิฟ้องผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ได้เช่นเดิม
ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า ข้อต่อสู้ของนายดำรับฟังได้หรือไม่ เห็นว่า การที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนดให้เจ้าหนี้ทุกคนต้องลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ในอัตราคนละสามสิบในร้อย และให้ผู้ค้ำประกันของลูกหนี้หลุดพ้นจากความรับผิดจากหนี้ทั้งหมดนั้น กรณีเช่นนี้เมื่อศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนแล้ว แผนฟื้นฟูกิจการนั้นคงผูกมัดเจ้าหนี้ตามมาตรา 90/60 วรรคแรก แต่ทั้งนี้เฉพาะในเรื่องหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เท่านั้น
แต่ในส่วนของผู้ค้ำประกัน คำสั่งเห็นชอบด้วยแผนไม่มีผลให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดเพียงเท่าจำนวนหนี้ตามที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการด้วยแต่อย่างใด เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดในหนี้ที่มีอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนอยู่เช่นเดิม การที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนดว่าให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากหนี้ทั้งหมดที่ได้ค้ำประกันไว้ โดยมิได้คำนึงว่าเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ย่อมขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 90/60 วรรคสอง อันเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ข้อกำหนดดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 ดังนั้น นายดำซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังคงต้องรับผิดในหนี้ที่ลูกหนี้ได้รับการปรับลดในอัตราสามสิบในร้อยตามแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว และในส่วนที่ขาดต่อนายแดงซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต่อไปจนกว่าจะครบตามจำนวนที่ตนได้เข้าทำสัญญาค้ำประกัน แม้นายแดงจะได้ลงมติยอมรับแผนนั้นด้วยก็ตาม ข้อต่อสู้ที่นายดำยกขึ้นในคำให้การจึงไม่อาจรับฟังได้ (ฎ. 3704/2546)
สรุป นายดำซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังคงต้องรับผิดในหนี้ที่ลูกหนี้ได้รับการปรับลดในอัตราสามสิบในร้อยตามแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าว ข้อต่อสู้ที่นายดำยกขึ้นในคำให้การจึงไม่อาจรับฟังได้