การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2551

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 3003 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัว

Advertisement

คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ

ข้อ 1 นายสมบุญได้ทำสัญญาหมั้น น.ส.ลำดวน ด้วยแหวนเพชรและเงิน 1 ล้านบาท ต่อมาบิดามารดาของ น.ส.ลำดวน เห็นว่านายสมบุญไม่เหมาะสมจึงแนะนำให้บุตรสาวมีครอบครัวกับนายทองคำซึ่งมีฐานะดี แต่ภริยาป่วยหนักเป็นเวลานานแล้ว นายทองคำได้ทำสัญญาหมั้น น.ส.ลำดวน ด้วยแหวนเพชรและเงิน 3 ล้านบาท น.ส.ลำดวน ได้อยู่กินฉันสามีภริยากับนายทองคำแต่ไม่สามารถทนต่อคำวิจารณ์ต่าง ๆ จากคนรอบข้างได้ น.ส.ลำดวน จึงตัดสินใจไปจดทะเบียนสมรสกับนายอำนาจซึ่งภริยาได้ละทิ้งร้างนายอำนาจไปกว่าสามปีแล้ว เช่นนี้นายสมบุญและนายทองคำจะฟ้องเรียกของหมั้นคืน และฟ้องเรียกค่าทดแทนจาก น.ส.ลำดวน ได้หรือไม่ สำหรับการสมรสระหว่างนายอำนาจ กับ น.ส.ลำดวน จะมีผลอย่างไร เพราะเหตุใด จงอธิบาย
ธงคำตอบ

นายสมบุญได้ทำสัญญาหมั้น น.ส.ลำดวน ด้วยแหวนเพชรและเงิน 1 ล้านบาท จึงเป็นสัญญาหมั้นที่สมบูรณ์ตามมาตรา 1437 วรรคแรก เมื่อ น.ส.ลำดวน ไปจดทะเบียนสมรสกับนายอำนาจจึงเป็นการผิดสัญญาหมั้นตามมาตรา 1439 นายสมบุญสามารถฟ้องเรียกของหมั้นคืนได้ตามมาตรา 1439 และฟ้องเรียกค่าทดแทนต่อชื่อเสียงได้ตามมาตรา 1440

ส่วนนายทองคำทำสัญญาหมั้น น.ส.ลำดวน ด้วยแหวนเพชรและเงิน 3 ล้านบาท สัญญาหมั้นเป็นโมฆะเพราะนายทองคำมีภริยาอยู่แล้วการทำสัญญาหมั้น น.ส.ลำดวน จึงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของบ้านเมืองตามมาตรา 150 นายทองคำจึงไม่สามารถฟ้องเรียกของหมั้นและค่าทดแทนได้

สำหรับการสมรสของนายอำนาจกับ น.ส.ลำดวน เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1452 คือทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ การสมรสจึงมีผลเป็นโมฆะตามมาตรา 1495

 

ข้อ 2 นายโชคและนางน้ำเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย นายโชคได้เหรียญทองแดงจากการแข่งขันชกมวยกีฬาโอลิมปิก นายโชคได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวนหนึ่งล้านบาท นายโชคนำเงินรางวัลดังกล่าวจำนวนหนึ่งแสนบาทไปให้นางหวานน้าสาวที่เลี้ยงดูนายโชคมาตั้งแต่เล็กกู้ยืม โดยที่นางน้ำไม่ได้รู้เห็นและให้ความยินยอมในการให้กู้ยืมเงินนั้น หลังจากนั้นนายโชคได้ทำสัญญาค้ำประกันต่อบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในการสมัครเข้าทำงานของนางสาวชิดน้องสาวของนายโชคตามลำพัง ต่อมานางน้ำซึ่งมีเรื่องโกรธเคืองกับญาติ ๆ ของนายโชคได้ทราบเรื่องดังกล่าวทั้งหมด ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่านางน้ำจะฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการให้กู้ยืมเงินและการค้ำประกันของนายโชคได้หรือไม่ เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน

(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส

มาตรา 1476 สามีและภริยาต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือได้รับความ ยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้

(4) ให้กู้ยืมเงิน

มาตรา 1480 การจัดการสินสมรสซึ่งต้องจัดการร่วมกัน หรือต้องได้รับ ความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งตาม มาตรา 1476 ถ้าคู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ ทำนิติกรรมไปแต่เพียงฝ่ายเดียว หรือโดยปราศจากความยินยอมของคู่ สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรม นั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้นแล้ว หรือ ในขณะที่ทำนิติกรรมนั้นบุคคลภายนอกได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่า ตอบแทน

การฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้น หนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนหรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่ วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น

วินิจฉัย

เงินรางวัลที่นายโชคได้รับมาจากการแข่งขันชกมวยกีฬาโอลิมปิกจำนวนหนึ่งล้านบาทเป็นทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส จึงถือว่าเป็นสินสมรสตามมาตรา 1474(1) ซึ่งการนำเงินที่เป็นสินสมรสไปให้ผู้อื่นกู้ยืมนั้นเป็นนิติกรรมตามมาตรา 1476(4) ที่สามีภริยาต้องจัดการร่วมกันหรือต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อนายโชคเอาเงินที่เป็นสินสมรสจำนวนหนึ่งแสนบาทไปให้กับนางหวานกู้ยืมโดยที่นางน้ำไม่ได้ให้ความยินยอมในการให้กู้ยืมเงินนั้น นางน้ำจึงฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการให้เงินกู้ยืมเงินดังกล่าวตามมาตรา 1480 ได้

ส่วนการที่นายโชคได้ทำสัญญาค้ำประกันต่อบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในการสมัครเข้าทำงานของนางสาวชิดน้องสาวนั้น ไม่ใช่นิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส จึงไม่เป็นการจัดการสินสมรสตามมาตรา 1476 ที่คู่สมรสต้องจัดการร่วมกันหรือต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง นางน้ำจึงฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาค้ำประกันดังกล่าวไม่ได้

สรุป นางน้ำฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการให้เงินกู้ยืมเงินได้ แต่นางน้ำฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาค้ำประกันไม่ได้

 

ข้อ 3 นายไก่และนางไข่อยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยาจนมีบุตรคือหนึ่ง นายไก่จึงไปกู้เงินนายเป็ดมา 2 ล้านบาทเพื่อซื้อบ้านและที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยร่วมกัน หลังจากนั้นนายไก่และนางไข่จึงไปจดทะเบียนสมรสกัน ต่อมานายไก่ก็ไปกู้ยืมเงินนายเป็ดมาอีก 3 ล้านบาทเพื่อใช้ในการซื้อห้องแถวเพื่อเปิดร้านเสริมสวยให้นางไข่หาเลี้ยงครอบครัวเป็นเงิน 2 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านบาทที่เหลือนายไก่นำไปซื้อรถตู้ไว้ขับรับจ้างเพื่อหารายได้อีกส่วนหนึ่ง เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระนายเป็ดมาทวงหนี้จากนางไข่ ๆ ปฏิเสธโดยอ้างว่านางมิได้เป็นผู้ก่อหนี้

1) หนี้นายเป็ดทั้งหมด 5 ล้านบาท นายไก่และนางไข่แบ่งความรับผิดชอบกันอย่างไร เพราะเหตุใด

2) ทรัพย์สินที่มีคือ บ้านและที่ดิน ร้านเสริมสวย และรถตู้ นายไก่และนางไข่มีส่วนในทรัพย์สินดังกล่าวนี้อย่างไร

ธงคำตอบ

มาตรา 1488 ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ก่อไว้ ก่อนหรือระหว่างสมรส ให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่ พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายนั้น มาตรา 1489 ถ้าสามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจาก สินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย

มาตรา 1490 หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามี หรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรสดังต่อไปนี้ (1) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือน และจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบ ครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและ การศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ

(2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส

(3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน

(4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ได้ให้สัตยาบัน

มาตรา 1535 เมื่อการสมรสสิ้นสุดลง ให้แบ่งความรับผิดในหนี้ที่จะต้อง รับผิดด้วยกันตามส่วนเท่ากัน

มาตรา 1471 สินส่วนตัวได้แก่ทรัพย์สิน

(1) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส

(2) ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับ กายตามควรแก่ฐานะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

(3) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดก หรือโดย การให้โดยเสน่หา

(4) ที่เป็นของหมั้น

มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน

(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส

(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส

(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว

ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

มาตรา 1533 เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน

1) หนี้ 2 ล้านบาทเป็นหนี้ส่วนตัวนายไก่เพราะก่อขึ้นก่อนจดทะเบียนสมรส นายไก่รับผิดชอบเพียงผู้เดียว (มาตรา 1488)

หนี้ 3 ล้านบาท นายไก่และนางไข่รับผิดชอบร่วมกันเพราะเป็นหนี้ร่วมเกิดระหว่างสมรสเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว นายไก่รับผิดชอบ 1.5 ล้านบาท และนางไข่ก็ต้องรับผิดชอบ 1.5 ล้านบาทเช่นกัน (มาตรา 1489, 1490, 1535)

2) บ้านและที่ดินเป็นสินส่วนตัว เพราะนายไก่มีมาก่อนจดทะเบียนสมรส ส่วนร้านเสริมสวย และรถตู้ ซื้อหามาจากเงินสินสมรสเป็นเงินได้มาระหว่างสมรส จึงเป็นสินสมรส นายไก่และนางไข่มีส่วนกันคนละครึ่ง (มาตรา 1471, 1474, 1533)

 

ข้อ 4 นายดำและนางแดงเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย นางแดงป่วยกระเสาะกระแสะจึงอนุญาตให้นายดำสามีไปใช้บริการทางเพศจากหญิงค้าบริการได้ตามสะดวก ต่อมานายดำไปพบรักกับนางสีแสดในสถานบริการและเลี้ยงดูยกย่องให้เป็นภริยาอีกคนหนึ่งและมีบุตรกับนางสีแสดคือเด็กหญิงส้ม นางแดงจึงมาปรึกษาท่านว่านางจะฟ้องหย่านายดำสามีเพราะเหตุ

1) นายดำไปมีเพศสัมพันธ์กับหญิงค้าบริการเป็นประจำ

2) ยกย่องเลี้ยงดูนางสีแสดเป็นภริยาอีกคนหนึ่ง และ

3) เด็กหญิงส้มเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของใคร ตั้งแต่เมื่อใด

ธงคำตอบ

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้

(1) สามีอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยาหรือภริยามีชู้อีกฝ่าย หนึ่งฟ้องหย่าได้

มาตรา 1517 เหตุฟ้องหย่าตาม มาตรา 1516 (1) และ (2) ถ้าสามี หรือภริยา แล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุ หย่านั้น ฝ่ายที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้

เหตุฟ้องหย่าตาม มาตรา 1516 (10) ถ้าเกิดเพราะการกระทำของอีก ฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้

ในกรณีฟ้องหย่าโดยอาศัยเหตุแห่งการผิดทัณฑ์บนตาม มาตรา 1516 (8) นั้น ถ้าศาลเห็นว่าความประพฤติของสามีหรือภริยาอันเป็นเหตุให้ทำทัณฑ์บน เป็นเหตุเล็กน้อยหรือไม่สำคัญเกี่ยวแก่การอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาโดยปกติสุข ศาลจะไม่พิพากษาให้หย่าก็ได้

มาตรา 1546 เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็น บุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น

วินิจฉัย

1) แม้นายดำจะไปมีเพศสัมพันธ์กับหญิงบริการเป็นประจำ นางแดงจะอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าไม่ได้ เพราะนางยินยอม (มาตรา 1516(1), 1517)

2) การที่นายดำไปยกย่องหญิงอื่นฐานภริยาอีกคนหนึ่ง นางแดงฟ้องหย่าได้ (มาตรา 1516(1))

3) เด็กหญิงส้มเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนางสีแสดแต่เพียงผู้เดียวนับแต่คลอดและอยู่รอดเป็นทารก (มาตรา 1546)

Advertisement