การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2548

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 2032 ประวัติศาสตร์กฎหมายไทย

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  มี  3  ข้อ

ข้อ  1  ประมวลกฎหมายตรา  3  ดวง  คืออะไร  อะไรคือสาเหตุที่นำไปสู่การประมวลกฎหมาย  ตรา  3  ดวงอธิบาย

ธงคำตอบ

ประมวลกฎหมายตราสามดวง  คือ  กฎหมายเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงให้รวบรวมและชำระสะสางให้ถูกต้องตามความยุติธรรม  เมื่อปีจุลศักราช  1166  (พุทธศักราช  2347)  ประกอบด้วยพระธรรมศาสตร์  หลักอินทภาษ  และพระอัยการต่างๆ  รวม  29  ลักษณะ  เสร็จแล้วทรงให้อาลักษณ์เขียนเป็นฉบับหลวงจำนวน  3  ชุดๆละ  41 เล่ม  ทรงให้ประทับตราราชสีห์  พระคชสีห์  และบัวแก้ว  อันเป็นตราประจำตำแหน่งสมุหนายก  สมุหพระกลาโหม  และเจ้าพระยาพระคลังไวเป็นสำคัญ  และใช้เป็นกฎหมาย ตลอดมาจนค่อยๆมีการทยอยยกเลิกจนหมดสิ้นเมื่อปี  พ.ศ.  2481

เหตุเมื่อมีประมวลกฎหมายตราสามดวงเนื่องจากมีการร้องทุกข์ทูลเกล้าถวายฎีกาของนายบุญศรี  ช่างเหล็กหลวง  กล่าวโทษพระเกษมและนายราชาอรรถ  เนื่องด้วยอำแดงป้อมภรรยานายบุญศรีฟ้องหย่านายบุญศรี  นายบุญศรีให้การแก่พระเกษมว่าอำแดงป้อมนอกใจทำชู้ด้วยนายราชาอรรถแล้วมาฟ้องหย่านายบุญศรีนายบุญศรีไม่ยอมหย่า  พระเกษมหาพิจารณาตามคำให้การนายบุญศรีไม่  พระเกษมพูดจาแทะโลมอำแดงป้อมและพิจารณาไม่เป็นสัจเป็นธรรม  เข้าด้วยอำแดงป้อม  แล้วคัดเอาข้อความมาให้ลูกขุน  ณ  ศาลหลวงปรึกษาว่าเป็นหญิงหย่าชาย  ให้อำแดงป้อมกับนายบุญศรีหย่าขาดจากกันตามกฎหมาย  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงเห็นว่าเป็นเรื่องหญิงนอกใจชายแล้วมาฟ้องหย่า  ลูกขุนปรึกษาให้หย่ากันนั้นหายุติธรรมไม่  จึงทรงให้จัดการชำระบทกฎหมายทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้นเสียใหม่  แล้วให้อาลักษณ์เขียนลงในสมุดจำนวน  3  ชุด  ชุดละ  41  เล่ม  เสร็จแล้วทรงให้ประทับตราราชสีห์  พระคชสีห์  และบัวแก้ว  ซึ่งมีชื่อเรียกในภายหลังว่ากฎหมายตราสามดวง

 

ข้อ  2  จากการที่ได้ศึกษาพระอัยการต่างๆ  ในประมวลกฎหมายตรา  3  ดวง  ความเป็นญาติทางสายโลหิตและความเป็นญาติโดยการสมรส  เป็นเหตุให้ยกเว้นความรับผิดทางอาญาหรือยกเว้นโทษในกรณีใดบ้าง  อธิบาย

ธงคำตอบ

ตามกฎหมายตรา  3  ดวง  ความเป็นญาติและความเป็นสามีภรรยา  มีผลในทางแพ่งและทางอาญาดังนี้

1         กรณีความเป็นญาติ  กฎหมายยกเว้นโทษแก่ผู้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายมิถึงสาหัสระหว่างเครือญาติ  เช่น  พ่อตาแม่ยายด่าตีกับลูกเขย  ปู่ย่าด่าตีกับหลาน  เป็นต้น  ทั้งนี้เพราะถึงอย่างไร  เขาเสีนกันมิได้

2         ลักทรัพย์ระหว่างเครือญาติและลักทรัพย์ระหว่างสามีภรรยา

ในพระอัยการลักษณะโจร  มีการบัญญัติว่า  พ่อลักทรัพย์ลูก  ลูกลักทรัพย์พ่อแม่  พ่อแม่ลักทรัพย์ลูก  พี่น้องลักทรัพย์ซึ่งกันและกัน  หรือ ปู่  ย่า  ตา  ยาย  ลุง  ป้า  น้า  อา  ลักทรัพย์หลาน  หลานลักทรัพย์ปู่  ย่า  ตา  ยาย  ลุง  ป้า  น้า  อา  ผัวลักทรัพย์เมีย  กฎหมายให้ยกเว้นโทษให้  เขาทรัพย์เรื่องเดียวกันยากไร้เขาเสียกันมิได้  ให้คืนทรัพย์สิ่งของนั้นให้แก่กัน  จะลงโทษแลปรับไหมให้แก่กันดังฉันผู้อื่นมิได้

 

ข้อ  3  การประมวลกฎหมายของจักรพรรดิจัสติเนียนมีชื่อเรียกโดยรวมว่าอย่างไร  และประกอบด้วยอะไรบ้าง  อธิบาย

ธงคำตอบ

การประมวลกฎหมายของจักรพรรดิจัสติเนียน  มีชื่อเรียกโดยรวมว่า  Corpus  Juris  Civilis  ซึ่งประกอบด้วย

1         Code  จักรพรรดิจัสติเนียนได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งจำนวน  10  คน  ซึ่งประกอบด้วยนักกฎหมายชั้นนำ  และศาสตราจารย์ทางกฎหมายจัดการรวบรวมกฤษฎีกาของจักรพรรดิต่างๆโดยให้ตัดทอนซึ่งที่เห็นว่าล้าสมัยและเลิกใช้ไปแล้ว  ตลอดจนสิ่งที่เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องก็ให้ตัดทิ้งไป  ผลงานนี้เรียกว่า  Code  หรือประมวลพระราชบัญญัติ  ทำสำเร็จภายในเวลาเพียง  1  ปี  และประกาศใช้เป็นกฎหมายในปี  ค.ศ. 529  หลังจากประกาศใช้ไปได้เพียง  5  ปี  ก็มีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่เพราะว่าล้าสมัย  ประมวลกฎหมายฉบับที่  2  นี้มีชื่อเรียกว่า  Justinian  Code  of  the  Resumed  Reading

2         Digest  หรือ  Pandect  หรือวรรณกรรมกฎหมาย  ในปี  ค.ศ. 530  จักรพรรดิจัสติเนียนได้แต่งตั้งทริโบเนียน  (Tribonian)  เป็นหัวหน้าคณะกรรมการชุดหนึ่งจำนวน  16  คน  ซึ่งประกอบด้วยศาสตราจารย์ทางกฎหมายและทนายความ  หน้าที่ของคณะกรรมการชุดนี้คือ  การศึกษาข้อเขียนของเหล่าบรรดานักกฎหมายที่ทรงคุณวุฒิ  จากหนังสือจำนวน  2,000  เล่ม  คณะกรรมการนี้ได้ตัดทอนเอาเฉพาะสิ่งที่เห็นว่าถูกต้องที่สุดไว้  และให้ตัดสิ่งที่ซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกันทิ้งเสีย  และให้ดัดแปลงข้อความต่างๆให้เข้ากับกฎหมายของยุคจักรพรรดิจัสติเนียน  ผลงานชิ้นนี้ตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือจำนวน  50  เล่ม  จัดเรียงเป็นลักษณะต่างๆผลงานนี้ทำสำเร็จภายในเวลา  3  ปี ประกาศใช้เป็นกฎหมายเมื่อปี  ค.ศ.  533

จักรพรรดิจัสติเนียนให้ถือว่า  Digests  แทนหนังสือเก่าๆทั้งหมด  และห้ามมิให้ค้นคว้า  หรืออ้างอิง   กฎหมายตามหนังสือเก่าโดยเด็ดขาด

 3         Institutes  ในปี  ค.ศ. 533  จักรพรรดิจัสติเนียนได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งประกอบด้วย  ทริโบเนียนและศาสตราจารย์ทางกฎหมายอีก  2  คน  ให้เรียบเรียงตำรากฎหมายขึ้นมาเล่มหนึ่งไว้เพื่อที่จะแนะนำให้ผู้ศึกษากฎหมายและเนื้อหาสาระของกฎหมายชีวิล  ลอว์  โดยจะกล่าวถึงสาระสำคัญของกฎหมายทั้งหมดให้เป็นระบบเพื่อสะดวกแก่การศึกษา  ตำรากฎหมายฉบับนี้เรียบเรียงมาจากตำราของไกอุส  (Gaius)  โดยให้ตัดทอนสิ่งที่ล้าสมัยในตำราของไกอุสออก  และให้จัดทำเป็นตำราคำอธิบายกฎหมายเบื้องต้นซึ่งจัดพิมพ์ในปี  ค.ศ. 533

4         Novels  หลังจากที่มีการจัดทำประมวลกฎหมายในข้อ 1 , 2  และ  3  แล้ว  จักรพรรดิจัสติเนียนยังให้รวบรวมกฎหมายใหม่ๆ  ที่จักรพรรดิตราขึ้นมารวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย  แต่ทำไม่สำเร็จก็เสียชีวิตเสียก่อน  ต่อมามีเอกชนผู้อื่นได้จัดการรวบรวมสืบต่อมา  เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่จักรพรรดิจัสติเนียนจึงให้นับเนื่องส่วนที่  4  นี้เป็นส่วนหนึ่งของผลงานของจักรพรรดิจัสติเนียนด้วย

Advertisement