การสอบไล่ภาคฤดูร้อน  ปีการศึกษา  2551

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW 2013

Advertisement

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี  3  ข้อ

ข้อ  1

(ก)  การโอนตั๋วแลกเงินนั้น  ต้องทำอย่างไร  จึงจะถูกต้องตามกฎหมาย

(ข)  จันทร์ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายตั๋วแลกเงิน  สั่งให้บุญมีจ่ายเงินให้กับทองไทยและขีดฆ่าคำว่าหรือผู้ถือออกแล้วมอบให้แก่ทองไทย  เพื่อเป็นการมัดจำในการสั่งซื้อสินค้า  จำนวน  500,000  บาท  ทองไทย  สลักหลังขายลดตั๋วแลกเงินโดยระบุชื่อพุธเป็นผู้รับซื้อลดตั๋วแลกเงิน  ต่อมาพุธได้ส่งมอบตั๋วแลกเงินชำระหนี้เงินกู้ให้แก่พฤหัส  ต่อมาพฤหัสสลักหลังลอยตั๋วแลกเงินชำระหนี้ให้แก่อาทิตย์  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่าการโอนตั๋วแลกเงินดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  อย่างไร

ธงคำตอบ

ก  อธิบาย

ตามลักษณะของตั๋วแลกเงินมีอยู่  2  ชนิด  คือ  ตั๋วแลกเงินชนิดระบุชื่อผู้รับเงินหรือตามคำสั่งผู้รับเงิน  เรียกว่า  “ตั๋วแลกเงินระบุชื่อ”  ซึ่งในตั๋วเงินทั้ง  3  ประเภท  คือ  ตั๋วแลกเงิน  ตั๋วสัญญาใช้เงินและเช็ค  และตั๋วแลกเงินชนิดที่ระบุชื่อผู้รับและมีคำว่า  “หรือผู้ถือ”  รวมอยู่ด้วย หรือระบุให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ  เรียกว่า  “ตั๋วแลกเงินผู้ถือ”  ซึ่งมีเฉพาะตั๋วแลกเงินและเช็คเท่านั้น

ดังนั้นวิธีการโอนตั๋วแลกเงินจึงแตกต่างกันตามชนิดของตั๋วแลกเงินดังกล่าวข้างต้น  กล่าวคือ

1       กรณีโอนตั๋วแลกเงินระบุชื่อ  มาตรา  917  วรรคแรก  บัญญัติให้โอนต่อไปได้ด้วยการสลักหลังและส่งมอบ

อนึ่งการสลักหลังมี  2  วิธี  คือ  สลักหลังเฉพาะ  (เจาะจงชื่อผู้รับสลักหลัง)  ซึ่งมาตรา  919  ได้บัญญัติวิธีการสลักหลังไว้ดังนี้

(ก)  สลักหลังเฉพาะ  (Specific  Endorsement)  ให้ระบุชื่อผู้รับสลักหลัง  แล้วลงลายมือชื่อผู้สลักหลังลงไปในตั๋วเงิน  โดยจะกระทำด้านหน้าหรือด้านหลังตั๋วเงินนั้นก็ได้  (มาตรา  917  วรรคแรก  มาตรา  919  วรรคแรก)

(ข)  สลักหลังลอย  (Blank  Endorsement)  ผู้สลักหลังเพียงลงลายมือชื่อตนเองโดยลำพังด้านหลังตั๋วเงิน  โดยไม่ต้องระบุชื่อผู้รับประโยชน์  (ผู้รับสลักหลัง)  มาตรา  917  วรรคแรก  มาตรา  919  วรรคสอง

ผู้ทรงที่ได้รับสลักหลังโอนตั๋วเงินนั้นมาจากการสลักหลังดังกล่าวใน  (ก)  หรือ  (ข)  แล้วก็สามารถสลักหลังโอนตั๋วเงินระบุชื่อนั้นโดยวิธีข้างต้นต่อไปอีกก็ได้  แต่ผู้ทรงที่ได้รับโอนตั๋วเงินด้วยการสลักหลังลอย  สามารถเลือกโอนตั๋วเงินระบุชื่อนั้นต่อไปได้อีก  3  วิธี  ทั้งนี้ตามมาตรา  920  วรรคสอง  คือ

(1) เติมชื่อบุคคลที่ตนเองประสงค์จะโอนให้

(2) สลักหลังลอยหรือสลักหลังเฉพาะต่อไป  หรือ

(3) ส่งมอบต่อไปโดยไม่ต้องสลักหลัง

2       กรณีโอนตั๋วแลกเงินผู้ถือ  มาตรา  918  บัญญัติให้โอนต่อไปได้ด้วยการส่งมอบ

ข  หลักกฎหมาย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา  917  วรรคแรก  อันตั๋วแลกเงินทุกฉบับ  ถึงแม้ว่าจะมิใช่สั่งจ่ายให้แก่บุคคลเพื่อเขาสั่งก็ตาม  ท่านว่าย่อมโอนให้กันได้ด้วยสลักหลังและส่งมอบ

มาตรา  918  ตั๋วแลกเงินอันสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้น  ท่านว่าย่อมโอนไปเพียงด้วยส่งมอบให้กัน

มาตรา  919  คำสลักหลังนั้นต้องเขียนลงในตั๋วแลกเงินหรือใบประจำต่อ  และต้องลงลายมือชื่อผู้สลักหลัง

การสลักหลังย่อมสมบูรณ์  แม้ทั้งมิได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้ด้วยหรือแม้ผู้สลักหลังจะมิได้กระทำอะไรยิ่งไปกว่าลงลายมือชื่อของตนที่ด้านหลังตั๋วแลกเงินหรือใบประจำต่อ  ก็ย่อมฟังเป็นสมบูรณ์ดุจกัน  การสลักหลังเช่นนี้ท่านเรียกว่า  “สลักหลังลอย”

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์  การที่จันทร์ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายตั๋วแลกเงินสั่งให้บุญมีจ่ายเงินให้กับทองไทย  และขีดฆ่าคำว่าหรือผู้ถือออกแล้วมอบให้แก่ทองไทยเพื่อเป็นการวางมัดจำในการสั่งซื้อสินค้า  ตั๋วแลกเงินฉบับนี้ย่อมเป็นตั๋วแลกเงินชนิดระบุชื่อ  การโอนต่อไปจึงต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติมาตรา  917  วรรคแรกคือ  สลักหลังและส่งมอบ  จะโอนตั๋วแลกเงินโดยการส่งมอบให้แก่กันเพียงอย่างเดียวเท่านั้นตามมาตรา  918  ไม่ได้  เพราะกรณีมิใช่ตั๋วแลกเงินผู้ถือ  สำหรับการที่ทองไทยสลักหลังขายลดตั๋วแลกเงินโดยระบุชื่อพุธเป็นผู้รับซื้อลดตั๋วแลกเงิน  ถือเป็นการโอนตั๋วแลกเงินโดยการสลักหลังเฉพาะ  ตามมาตรา  919  วรรคแรก  ซึ่งการโอนต่อไปจะต้องสลักหลังและส่งมอบเช่นเดียวกัน  เมื่อปรากฏว่าต่อมาพุธเพียงแต่ส่งมอบตั๋วแลกเงินชำระหนี้ให้แก่พฤหัสเท่านั้น  หาได้มีการสลักหลังเฉพาะหรือสลักหลังลอยไม่  ทั้งกรณีไม่ใช่การโอนตั๋วแลกเงินต่อจากผู้สลักหลังลอยแต่อย่างใด  การโอนตั๋วแลกเงินจากพุธไปยังพฤหัสจึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

สรุป  การโอนตั๋วแลกเงินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

ข้อ  2

(ก)  การอาวัลตั๋วแลกเงินนั้นเกิดขึ้นได้ในกรณีใดบ้าง  ให้อธิบายโดยอ้างอิงหลักกฎหมาย  (10  คะแนน)

(ข)  เอกลงลายมือชื่อสั่งจ่ายตั๋วแลกเงิน  สั่งให้เดี่ยวจ่ายเงินจำนวน  500,000  บาท  มอบให้แก่ทองไทยระบุชื่อทองไทยเป็นผู้รับเงินแต่มิได้ขีดฆ่าคำว่า  “หรือผู้ถือ”  ออก  เพื่อเป็นการมัดจำในการสั่งซื้อสินค้า  ทองไทยสลักหลังขายลดตั๋วแลกเงินโดยระบุชื่อฟักทองเป็นผู้รับซื้อลดตั๋วแลกเงินนั้น  ต่อมาฟักทองได้ส่งมอบตั๋วแลกเงินนั้นชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ศรีทอง  เมื่อตั๋วแลกเงินนั้นถึงกำหนดวันใช้เงิน  ศรีทองได้นำตั๋วแลกเงินนั้นไปให้เดี่ยวผู้จ่ายใช้เงินให้กับตน  แต่เดี่ยวไม่ยอมใช้เงิน  ศรีทองได้ทำคำคัดค้านโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว  ดังนี้  เอก  ทองไทย  ฟักทอง  ใครต้องรับผิดหรือไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามตั๋วแลกเงินนั้นต่อศรีทอง  เพราะเหตุใด  (15  คะแนน)

ธงคำตอบ

ก  อธิบาย

กฎหมายได้บัญญัติให้มีการรับอาวัลได้  2  กรณี  ได้แก่  การรับอาวัลตามแบบ  และการรับอาวัลโดยผลของกฎหมาย

1       การรับอาวัลตามแบบหรือโดยการแสดงเจตนา  คือ  ทำได้โดย

การเขียนข้อความลงบนตั๋วเงินหรือใบประจำต่อว่า  “ใช้ได้เป็นอาวัล”  หรือสำนวนอื่นใดที่มีความหมายทำนองเดียวกันนั้น  เช่น  “เป็นอาวัลประกันผู้สั่งจ่าย”  และลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัล  ซึ่งการอาวัลในกรณีนี้จะทำที่ด้านหน้าหรือด้านหลังตั๋วเงินก็ได้  (มาตรา  939  วรรคแรก  วรรคสอง  และวรรคสี่)

โดยการที่ผู้รับอาวัลลงลายมือชื่อที่ด้านหน้าตั๋วโดยไม่ต้องเขียนข้อความก็ถือว่าเป็นการอาวัลแล้ว  แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่ลายมือชื่อผู้จ่ายหรือผู้สั่งจ่าย  (มาตรา  939  วรรคสาม)

อนึ่ง  เมื่อมีการรับอาวัลตามแบบใดแบบหนึ่งดังกล่าวข้างต้น  กรณีย่อมเป็นผลให้ผู้รับอาวัลต้องรับผิดเช่นเดียวกับบุคคลที่ตนประกัน  (มาตรา  900  วรรคแรกประกอบมาตรา  940  วรรคแรก)

2       อาวัลโดยผลของกฎหมาย  คือ  ถ้ามีการสลักหลังโอนตั๋วเงินผู้ถือเมื่อใด  กฎหมายได้บัญญัติให้บุคคลที่เข้ามาสลักหลังนั้นเป็นการอาวัลผู้สั่งจ่าย  จึงต้องรับผิดเช่นเดียวกันกับผู้สั่งจ่าย  (มาตรา  921  และมาตรา  940  วรรคแรก)

ข  หลักกฎหมาย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา  900  วรรคแรก  บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น

มาตรา  914  บุคคลผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังตั๋วแลกเงินย่อมเป็นอันสัญญาว่า  เมื่อตั๋วนั้นได้นำมายื่นโดยชอบแล้วจะมีผู้รับรองและใช้เงินตามเนื้อความแห่งตั๋ว  ถ้าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่เชื่อถือโดยไม่ยอมรับรองก็ดี  หรือไม่ยอมจ่ายเงินก็ดี  ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง  หรือแก่ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งต้องถูกบังคับให้ใช้เงินตามตั๋วนั้น  ถ้าหากว่าได้ทำถูกต้องตามวิธีการในข้อไม่รับรองหรือไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว

มาตรา  921  การสลักหลังตั๋วแลกเงินซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้นย่อมเป็นเพียงประกัน  (อาวัล)  สำหรับผู้สั่งจ่าย

มาตรา  940 วรรคแรก   ผู้รับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็นอย่างเดียวกันกับบุคคลซึ่งตนประกัน

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์  การที่เอกสั่งจ่ายตั๋วแลกเงินให้เดี่ยวจ่ายเงินจำนวน  500,000  บาท  มอบให้แก่ทองไทยระบุชื่อทองไทยเป็นผู้รับเงิน  แต่มิได้ขีดฆ่าคำว่า  “หรือผู้ถือ”  ในตั๋วแลกเงินนั้นออก  ตั๋วแลกเงินฉบับดังกล่าวจึงเป็นตั๋วแลกเงินที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งจะโอนให้กันด้วยการส่งมอบก็ชอบด้วยกฎหมาย  ไม่จำต้องสลักหลังแต่อย่างใด

อนึ่ง  ตั๋วแลกเงินที่ออกให้ใช้เงินกับผู้ถือนั้น  ถ้ามีการสลักหลังเช็คแล้วมอบให้กับผู้รับโอนไปผู้ที่ทำการสลักหลังนั้นจะมีฐานะเป็นผู้รับอาวัล  (ประกัน)  ผู้สั่งจ่าย  การที่ทองไทยได้สลักหลังขายลดตั๋วแลกเงิน  โดยระบุชื่อฟักทองเป็นผู้รับซื้อลดตั๋วแลกเงินนั้น  ทองไทยจึงมีฐานะเป็นผู้รับอาวัล  (ประกัน)  เอกผู้สั่งจ่ายตามมาตรา  921  ดังนั้น  เมื่อศรีทองได้นำตั๋วแลกเงินนั้นไปให้เดี่ยวผู้จ่ายใช้เงินให้กับตน  แต่เดี่ยวไม่ยอมใช้เงินศรีทองได้ทำคำคัดค้านโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว  ตามมาตรา  914  จึงมีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอากับเอกผู้สั่งจ่าย  ทองไทยผู้รับอาวัลเอกผู้สั่งจ่าย  ตามมาตรา  921  ประกอบมาตรา  940  วรรคแรก  ส่วนฟักทองผู้ที่โอนตั๋วแลกเงินด้วยการส่งมอบให้แก่ศรีทองไม่ต้องรับผิด  เพราะไม่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วแลกเงิน  ทั้งนี้ตามมาตรา  900  วรรคแรก

สรุป  เอกและทองไทยต้องรับผิดต่อศรีทอง  ส่วนฟักทองไม่ได้รับผิด

 

ข้อ  3

(ก)  เช็คที่ไม่มีการขีดคร่อมนั้นธนาคารต้องปฏิบัติอย่างไรในการจ่ายเงินจึงจะได้รับการคุ้มครอง  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  ถ้าลายมือชื่อผู้สลักหลังเป็นลายมือชื่อปลอม  (10 คะแนน)

(ข)  ข้อเท็จจริงได้ความว่าเช็คพิพาทเป็นเช็คธนาคารลายไทยที่แดงปลอมลายมือชื่อทองพูนผู้เป็นเจ้าของบัญชีออกเช็คชำระหนี้เหลือง  ซึ่งเหลืองรับไว้โดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ  และเหลืองได้สลักหลังลอยชำระหนี้ให้กับทับทิม  ต่อมาทับทิมได้นำเช็คไปยื่นให้ธนาคารลายไทยจ่ายเงินและรับเงินไปแล้ว  ดังนี้ธนาคารลายไทยจะหักเงินจากบัญชีของทองพูนได้หรือไม่  เพราะเหตุใด  (15  คะแนน)

ธงคำตอบ

ก  อธิบาย

มาตรา  1009  ถ้ามีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตามเขาสั่งเมื่อทวงถามมาเบิกต่อธนาคารใด  และธนาคารนั้นได้ใช้เงินให้ไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อไซร้  ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงิน  หรือการสลักหลังในภายหลังรายใดๆได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของคำสลักหลังนั้น  และถึงแม้ว่ารายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอมหรือปราศจากอำนาจก็ตาม  ท่านให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ

ตามมาตรา  1009  ดังกล่าวข้างต้น  ธนาคารจะได้ความคุ้มครองและหลุดพ้นจากความรับผิดเพราะการใช้เงินไปตามเช็ค  แม้ลายมือชื่อผู้สลักหลังเป็นลายมือชื่อปลอม  ก็ต่อเมื่อต้องด้วยหลักเกณฑ์ดังนี้  คือ

1       ธนาคารได้ใช้เงินไปตามทางค้าปกติ

2       ธนาคารได้ใช้เงินไปโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ  และ

3       ธนาคารไม่มีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ว่าตั๋วเงินนั้นจะมีการสลักหลังปลอมหรือสลักหลังโดยปราศจากอำนาจหรือไม่  เพียงแต่ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่ปลอมก็เพียงพอแล้ว  และให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ

ข  หลักกฎหมาย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา  1009  ถ้ามีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตามเขาสั่งเมื่อทวงถามมาเบิกต่อธนาคารใด  และธนาคารนั้นได้ใช้เงินให้ไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อไซร้  ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงิน  หรือการสลักหลังในภายหลังรายใดๆได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของคำสลักหลังนั้น  และถึงแม้ว่ารายการสลักหลังนั้นจะเป็นสลักหลังปลอมหรือปราศจากอำนาจก็ตาม  ท่านให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์  การที่ทับทิมนำเช็คซึ่งเป็นตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้เงินตามเขาสั่งเมื่อทวงถามมาเบิกต่อธนาคารลายไทย  แม้ว่าธนาคารลายไทยนั้นได้ใช้เงินให้ไปตามทางค้าปกติโดยสุจริตและปราศจากความประมาทเลินเล่อ  และธนาคารลายไทยได้ตรวจสอบแล้วว่ามีการสลักหลังเรียบร้อยไม่ขาดสาย  แม้ว่าธนาคารลายไทยไม่มีหน้าที่จะต้องนำสืบว่าการสลักหลังของผู้รับเงิน  หรือการสลักหลังในภายหลังรายใดๆจะเป็นสลักหลังปลอมหรือปราศจากอำนาจก็ตาม  แต่ธนาคารลายไทยผู้จ่ายต้องตรวจสอบลายมือชื่อของทองพูนผู้สั่งจ่ายเป็นสำคัญว่าต้องเป็นลายมือชื่อที่ถูกต้อง  ไม่เป็นลายมือชื่อปลอม  เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าธนาคารลายไทยได้จ่ายเงินให้กับทับทิมไปทั้งๆที่ลายมือของทองพูนผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อปลอม   จึงถือไม่ได้ว่าธนาคารลายไทยได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ  ธนาคารลายไทยจะหักเงินจากบัญชีของทองพูนไม่ได้

สรุป  ธนาคารลายไทยจะหักเงินจากบัญชีของทองพูนไม่ได้

Advertisement