ข้อ 2. นายแดงทำสัญญาเอาประกันวินาศภัยรถยนต์ของตนไว้กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง โดยประกันประเภทที่ 1 คือ คุ้มครองทุกอย่าง รวมทั้งความเสียหายที่เกิดกับตัวรถที่เอาประกันด้วย วงเงินเอาประกัน 5 แสนบาท ในระหว่างอายุสัญญานายดำขับรถโดยประมาทชนท้ายรถของนายแดงเสียหาย บริษัทประกันภัยจึงนำรถยนต์ของนายแดงไปให้นายเขียวซ่อม คิดเป็นเงิน 7 หมื่นบาท แต่บริษัทประกันยังมิได้จ่ายค่าซ่อมรถให้แก่นายเขียวเจ้าของอู่ เมื่อซ่อมรถของนายแดงเสร็จ นายแดงได้รับมอบรถไปแล้ว บริษัทประกันภัยเรียกร้องให้นายดำจ่ายค่าซ่อมรถ แต่นายดำปฏิเสธ ดังนี้ บริษัทประกันภัยมีสิทธิเรียกค่าซ่อมรถ 7 หมื่นบาท จากนายดำ ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ ป.พ.พ. มาตรา 880 บัญญัติว่า “ถ้าความวินาศภัยนั้นได้เกิดขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลภายนอกไซร้ ผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปเป็นจำนวนเพียงใด ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยและของผู้รับประโยชน์ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกเพียงนั้น”
ตามปัญหา การที่นายดำขับรถชนท้ายรถของนายแดงโดยประมาท ถือว่าความวินาศภัยได้เกิดขึ้น เพราะการกระทำของบุคคลภายนอกแล้ว และการที่บริษัทประกันได้นำรถดังกล่าวเข้าอู่ซ่อมโดยได้เคาะพ่นสีทำให้รถกลับคืนสู่สภาพเดิม จึงเป็นการทำให้ทรัพย์ที่เอาประกันกลับคืนสภาพเดิมคือ การคืนทรัพย์ตามมาตรา 438 วรรคสอง ถือได้ว่าผู้รับประกันภัยได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยแล้ว (เทียบฎีกาที่ 1006/2503) ดังนั้น บริษัทประกันภัยจึงเข้ารับช่วงสิทธิของนายแดงที่จะเรียกให้นายดำจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ ส่วนการที่บริษัทประกันติดค้างค่าซ่อมรถ ยังมิได้ชำระให้แก่นายเขียวเจ้าของอู่ เป็นหนี้ตามสัญญาจ้างทำของระหว่างบริษัทประกันกับนายเขียวซึ่งเป็นหนี้ต่างหากจากกัน ไม่เกี่ยวกับการที่บริษัทใช้ค่าสินไหมทดแทนให้นายแดงแล้วถือว่าบริษัทประกันชำระหนี้ให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว
สรุป บริษัทประกันภัยมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทน 7 หมื่นบาท จากนายดำได้ เพราะบริษัทประกันรับช่วงสิทธิ ตามมาตรา 880