ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2011
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 อุไรวรรณ อยากออกเงินกู้เพื่อกินดอกเบี้ย แต่ไม่อยากให้ใครทราบว่าเป็นเจ้าของเงิน จึงมอบหมายให้สมชายเป็นผู้ออกเงินกู้แทน แต่การตั้งตัวแทนมิได้ทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ อุไรวรรณมาสะดุดพฤติกรรมของสมชายที่มักจะนำเงินที่ตนมอบไว้ใช้ในกิจการและเงินที่ผู้กู้ชำระไปใช้เป็นส่วนตัว ทำให้เกิดความเสียหายต่อกิจการ อุไรวรรณจึงนำเรื่องนี้มาปรึกษาท่านว่าจะต้องทำอย่างไร ให้แนะนำ
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 798 กิจการอันใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
มาตรา 806 ตัวการซึ่งมิได้เผยชื่อจะกลับแสดงตนให้ปรากฏและ เข้ารับเอาสัญญาใด ๆ ซึ่งตัวแทนได้ทำไว้แทนตนก็ได้ แต่ถ้าตัวการ ผู้ใดได้ยอมให้ตัวแทนของตนทำการออกหน้าเป็นตัวการไซร้ ท่านว่า ตัวการผู้นั้นหาอาจจะทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของบุคคลภายนอกอัน เขามีต่อตัวแทนและเขาขวนขวายได้มาแต่ก่อนที่รู้ว่าเป็นตัวแทนนั้น ได้ไม่
มาตรา 810 เงินและทรัพย์สินอย่างอื่นบรรดาที่ตัวแทนได้รับไว้ เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทนนั้น ท่านว่าตัวแทนต้องส่งให้แก่ตัวการจงสิ้น
อนึ่ง สิทธิทั้งหลายซึ่งตัวแทนขวนขวายได้มาในนามของตนเอง แต่โดยฐานที่ทำการแทนตัวการนั้น ตัวแทนก็ต้องโอนให้แก่ตัวการจงสิ้น
มาตรา 811 ถ้าตัวแทนเอาเงินซึ่งควรจะได้ส่งแก่ตัวการ หรือซึ่งควรจะใช้ในกิจกรรมของตัวการนั้นไปใช้สอยเป็นประโยชน์ตนเสีย ท่านว่าตัวแทนต้องเสียดอกเบี้ยในเงินนั้นนับแต่วันที่ได้เอาไปใช้
มาตรา 812 ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างใดๆเพราะความประมาทเลินเล่อของตัวแทนก็ดี เพราะไม่ทำการเป็นตัวแทนก็ดี หรือเพราะทำการโดยปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจก็ดี ท่านว่าตัวแทนจะต้องรับผิด
มาตรา 815 ถ้าตัวแทนมีประสงค์ไซร้ ตัวการต้องจ่ายเงินทดรอง ให้แก่ตัวแทนตามจำนวนที่จำเป็น เพื่อทำการอันมอบหมายแก่ตัวแทนนั้น
มาตรา 827 ตัวการจะถอนตัวแทน และตัวแทนจะบอกเลิกเป็น ตัวแทนเสียในเวลาใด ๆ ก็ได้ทุกเมื่อ
วินิจฉัยข้าพเจ้าจะให้คำแนะนำแก่อุไรวรรณว่า โดยหลักแล้วกิจการใด กฎหมายบังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือ หรือว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย แต่กรณีนี้อุไรวรรณตัวการเจ้าหนี้เงินกู้ไม่อยากให้ใครทราบว่าตนเป็นเจ้าของเงิน จึงมอบหมายให้สมชายเป็นผู้ออกเงินกู้แทน แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวการและตัวแทนในกรณีนี้ อยู่ในฐานะเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ตามมาตรา 806 ดังนั้นจึงไม่อยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 798 คือ ไม่ต้องทำสัญญาตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่อย่างใด (ฎ. 531/2537)
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าสมชายตัวแทนเอาเงินที่ตัวการมอบไว้ใช้ในกิจการ ตามมาตรา 815 และเงินที่ผู้กู้ชำระให้แก่สมชายไปใช้เป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการอันพึงกระทำเนื่องในการเป็นตัวแทน ซึ่งโดยหลักแล้วตัวแทนจะต้องส่งให้แก่ตัวการจงสิ้น ตามมาตรา 810 วรรคแรก สมชายจึงต้องรับผิดเสียดอกเบี้ยในเงินนั้นนับแต่วันที่ได้เอาไปใช้ ตามมาตรา 811 ทั้งนี้หากตัวการได้รับความเสียหาย ตัวการอาจเรียกให้ตัวแทนรับผิดได้ ตามมาตรา 812
นอกจากนี้อุไรวรรณตัวการมีสิทธิเรียกให้สมชายโอนสิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้เป็นชื่อของตนได้ ตามมาตรา 810 วรรคสองประกอบมาตรา 806 และยังมีสิทธิถอนตัวแทน ตามมาตรา 827 ได้อีกด้วย
ข้อ 2 นายบูรพา ผู้จัดการบริษัทบรรหารสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน (เฉพาะอสังหาริมทรัพย์) มาบริหาร ผู้จัดการอยากได้ที่ดินแปลงสวยที่บริษัทซื้อมาเป็นของตนแต่เกรงข้อครหา จึงมอบให้ นางแม้นมาศผู้เป็นภรรยามาซื้อ ต่อมาเมื่อทางบริษัททราบจึงเรียกให้ผู้จัดการ โอนที่ดินคืนบริษัท นายบูรพาไม่ยอม อ้างว่าไม่เกี่ยวกับตน เป็นเรื่องของภรรยา ตนเพียงแต่ให้ความยินยอมเท่านั้น ข้ออ้างของนายบูรพาฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใดธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 800 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ท่านว่าจะทำการแทนตัวการได้แต่เพียงในสิ่งจำเป็น เพื่อให้กิจอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จลุล่วงไป
มาตรา 805 ตัวแทนนั้น เมื่อไม่ได้รับความยินยอมของตัวการ จะเข้าทำนิติกรรมอันใดในนามของตัวการทำกับตนเองในนามของตนเอง หรือในฐานเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอกหาได้ไม่ เว้นแต่นิติกรรมนั้นมีเฉพาะแต่การชำระหนี้
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
ตามปกติแล้ว ตัวแทนจะต้องเข้าทำนิติกรรมแทนตัวการตามที่ได้รับมอบหมายนั้นกับบุคคลอื่นเท่านั้น ดังนั้นกฎหมายจึงห้ามตัวแทนกระทำการดังต่อไปนี้
(1) ตัวแทนไม่อาจเข้าทำนิติกรรมใดในนามของตัวการทำกับตนเอง หรือในนามของตนเอง
(2) ตัวแทนไม่อาจเข้าทำนิติกรรมอันใดแทนตัวการกับตนเองในฐานะที่ตนเองเป็นตัวแทนของบุคคลภายนอกที่จะเข้าเป็นคู่สัญญา
แต่ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้นอยู่ 2 ประการคือ ตัวแทนนั้นได้รับความยินยอมจากตัวการแล้ว หรือนิติกรรมนั้นเพื่อการชำระหนี้
กรณีตามอุทาหรณ์ จะเห็นว่าในการซื้อที่ดินนั้น นางแม้นมาศเป็นตัวแทนรับมอบอำนาจเฉพาะกาลจากนายบูรพา ตามมาตรา 800 แต่เมื่อนายบูรพาผู้แทนบริษัท ซึ่งกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยตัวการตัวแทนมาใช้บังคับโดยอนุโลมอยู่ในฐานะตัวแทนของบริษัทบรรหารสินทรัพย์ จำกัด ย่อมต้องห้ามทำนิติกรรมกับบริษัทบรรหารสินทรัพย์ฯซึ่งเป็นตัวการโดยตรง ตามมาตรา 805 แม้นายบูรพาจะให้นางแม้นมาศภรรยาเป็นผู้ซื้อก็ตาม ก็ถือเป็นกรณีที่นายบูรพาตัวแทนบริษัทฯเข้าทำสัญญาซื้อที่ดินในนามของบริษัททำกับนายบูรพาเอง โดยอาศัยนางแม้นมาศเป็นเครื่องมือ เมื่อนายบูรพาไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทฯซึ่งเป็นตัวการ ย่อมถือว่าตัวแทนทำนอกขอบอำนาจ สัญญานั้นย่อมไม่มีผลผูกพันบริษัทฯ ตัวการ ตามมาตรา 823 บริษัทฯมีสิทธิเรียกที่ดินคืนได้ (ฎ. 1966/2526)
ดังนั้น ข้ออ้างของนายบูรพาที่ว่าไม่เกี่ยวกับตน เป็นเรื่องของภรรยา ตนเป็นเพียงแต่ให้ความยินยอมเท่านั้น จึงฟังไม่ขึ้น
สรุป ข้ออ้างของนายบูรพาฟังไม่ขึ้น
ข้อ 3 บัญชามอบหมายให้สุภาพ นำที่ดิน น.ส.3 จำนวนห้าสิบไร่ ไปจัดแบ่งเป็นแปลงแปลงละหนึ่งไร่ เพื่อขายโดยให้ค่านายหน้าร้อยละห้า สุภาพดำเนินการจัดรูปถนนแบ่งแปลงได้สามสิบห้าแปลง เสียค่าใช้จ่ายไปสามแสนบาท เมื่อสุภาพเปิดจองมีคนนอกทำสัญญาจองกับตนครบหมดทุกแปลง บัญชาเห็นที่ดินจัดรูปแล้วดูสวย ตัดใจไม่ขาย อยากทราบว่าสุภาพจะเรียกค่าใช้จ่ายและค่านายหน้าได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 800 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ท่านว่าจะทำการแทนตัวการได้แต่เพียงในสิ่งจำเป็น เพื่อให้กิจอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จลุล่วงไป
มาตรา 816 ถ้าในการจัดทำกิจการอันเขามอบหมายแก่ตนนั้น ตัวแทนได้ออกเงินทดรองหรือออกเงินค่าใช้จ่ายไป ซึ่งพิเคราะห์ตามเหตุควรนับว่าเป็นการจำเป็นได้ไซร้ ท่านว่าตัวแทนจะเรียกเอาเงินชดใช้จากตัวการรวมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันที่ได้ออกเงินไปนั้นด้วยก็ได้
มาตรา 845 บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
นายหน้ามีสิทธิจะได้รับชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปก็ต่อเมื่อได้ตกลงกันไว้เช่นนั้น ความข้อนี้ท่านให้ใช้บังคับแม้ถึงว่าสัญญาจะมิได้ทำกันสำเร็จ
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยประการแรกมีว่า สุภาพจะเรียกค่าใช้จ่ายจากบัญชาตัวการได้หรือไม่ เห็นว่า การที่บัญชามอบหมายให้สุภาพนำที่ดิน น.ส.3 ของตนจำนวน 50 ไร่ ไปจัดแบ่งเป็นแปลงๆละ 1 ไร่ เพื่อขาย การจัดแบ่งแปลงที่ดินถือเป็นการมอบอำนาจเฉพาะการ ตามมาตรา 800 เมื่อสุภาพได้ดำเนินการและเสียค่าใช้จ่ายไปในการจัดทำกิจการอันบัญชาตัวการมอบหมาย ซึ่งเมื่อพิเคราะห์ตามเหตุควรนับว่าเป็นการจำเป็น สุภาพมีสิทธิเรียกเอาเงินชดใช้จากบัญชาตัวการรวมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันที่ได้ออกเงินไปนั้นได้ตามมาตรา 816 วรรคแรก
ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยประการต่อมามีว่า สุภาพเรียกค่าบำเหน็จจากการเป็นนายหน้าขายที่ดินของบัญชาได้หรือไม่ เห็นว่า การที่นายหน้าจะมีสิทธิเรียกค่าบำเหน็จนายหน้าตามมาตรา 845 ได้นั้น จะต้องปรากฏว่า
1 มีการตกลงว่าจะให้ค่านายหน้า
2 มีการชี้ช่องหรือจัดการให้มีการทำสัญญากัน
3 ต้องมีการเข้าทำสัญญากันสำเร็จ
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ที่ดินของบัญชานำมาแบ่งขายได้ 35 แปลง มีผู้มาจองซื้อแล้วครบทุกแปลงโดยได้ทำสัญญาจองกันไว้ แม้บัญชาจะตกลงว่าจะให้ค่านายหน้าแก่สุภาพ และสุภาพได้มีการชี้ช่องหรือจัดการให้มีการจองซื้อเพื่อจะได้ทำสัญญากันต่อไปก็ตาม แต่สัญญาจองเป็นเพียงหนังสือแจ้งความประสงค์จะจองที่ดินที่จะขายเท่านั้น ส่วนสัญญาซื้อขายจะได้ทำกันกับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสัญญาซื้อขายระหว่างบัญชากับผู้ซื้อยังไม่ได้ทำกันสำเร็จเพราะบัญชาไม่ต้องการขายอีกต่อไป ผลจากการชี้ช่องหรือจัดการของสุภาพที่ทำการเป็นนายหน้าจึงยังไม่เกิดขึ้น สุภาพจึงไม่มีสิทธิเรียกเอาค่าบำเหน็จในการเป็นนายหน้าจากบัญชา ตามมาตรา 845 (ฎ. 5335/2500)
สรุป สุภาพมีสิทธิเรียกค่าใช้จ่ายได้ แต่เรียกค่าบำเหน็จนายหน้าไม่ได้