การสอบซ่อมภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2011
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นาย ก ตั้งตัวแทนคือ นาย ข ให้ไปกู้เงินด้วยปากเปล่าโดยมิได้ทำหนังสือแต่งตั้งเป็นหนังสือ นาย ข ไปกู้เงินนาย ค นาย ข ในฐานะเป็นคู่สัญญาลงชื่อในสัญญากู้ในฐานะผู้กู้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ให้ท่านวินิจฉัยพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบด้วยว่า นาย ข มีอำนาจลงชื่อในสัญญากู้หรือไม่ และการกู้เงินที่ว่านี้มีผลผูกพันนาย ก ตัวการหรือไม่ อย่างไร
ธงคำตอบ
มาตรา 798 กิจการอันใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
การที่นาย ก ตั้งนาย ข เป็นตัวแทนไปกู้เงินด้วยปากเปล่า มิได้ทำหนังสือแต่งตั้งเป็นหนังสือเป็นการตั้งตัวแทน โดยฝ่าฝืนข้อกฎหมายมาตรา 798 ดังนั้น การที่นาย ข ตัวแทนลงชื่อในสัญญากู้ในฐานะผู้กู้ จึงไม่มีอำนาจที่จะลงชื่อได้ ถือว่าตัวแทนลงชื่อในสัญญากู้โดยปราศจากอำนาจ ผลก็คือสัญญากู้ไม่มีผลผูกพันตัวการตามมาตรา 823 วรรคแรก นาย ค จึงฟ้องร้องบังคับตัวการคือ นาย ก ไม่ได้
สรุป นาย ข ไม่มีอำนาจลงชื่อในสัญญากู้ และการกู้เงินดังกล่าวไม่มีผลผูกพัน นาย ก ตัวการ
ข้อ 2 นายเอกแต่งตั้งนายโทเป็นผู้จัดการร้านจำหน่ายและซ่อมรุจักรยานยนต์ ปรากฏว่าในระหว่างที่นายเอกไปเที่ยวต่างจังหวัด
(1) นายหนึ่ง ได้นำรถจักรยานยนต์มาจำนำเพื่อประกันหนี้ค่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่นายหนึ่งได้ซื้อไปจากร้านของนายเอก โดยส่งมอบให้นายโท ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่าการจำนำรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ นายเอกมีสิทธิอ้างความเป็นเจ้าหนี้ ผู้รับจำนำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
(2) นายสอง นำตึกแถวอาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ข้างร้านนายเอกมาให้นายโทเช่าเป็นระยะเวลา 5 ปี ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า ถ้าหากทำสัญญาเช่ามาได้ 3 ปี นายสองผู้ให้เช่าไม่ประสงค์จะให้นายเอกเช่าต่อ นายสองจะปฏิเสธไม่ให้นายเอกเช่าต่อได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 801 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไป ท่านว่าจะทำกิจใดๆในทางจัดการแทนตัวการก็ย่อมทำได้ทุกอย่าง
แต่การเช่นอย่างจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าหาอาจจะทำได้ไม่ คือ
1 ขายหรือจำนองอสังหาริมทรัพย์
2 ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่าสามปีขึ้นไป
3 ให้
4 ประนีประนอมยอมความ
5 ยื่นฟ้องต่อศาล
6 มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
มาตรา 820 ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
การที่นายเอกแต่งตั้งนายโทเป็นผู้จัดการร้านจำหน่ายและซ่อมรถจักรยานยนต์ ถือว่านายโทเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจทั่วไป ซึ่งมีอำนาจดำเนินกิจการได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการจำหน่ายและซ่อมรถจักรยานยนต์ตามมาตรา 801 ปรากฏว่าในระหว่างที่นายเอกไปเที่ยวต่างจังหวัด
1 นายหนึ่ง ได้นำรถจักรยานยนต์มาจำนำเพื่อประกันหนี้ค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ที่นายหนึ่งได้ซื้อไปจากร้านของนายเอก โดยส่งมอบให้นายโท การจำนำรถจักรยานยนต์ครั้งนี้ นายเอกมีสิทธิอ้างความเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนำได้ เพราะการซื้อขายรถจักรยานยนต์อยู่ในขอบอำนาจของนายโทตัวแทน เมื่อปรากฏว่านายหนึ่งค้างชำระค่ารถจักรยานยนต์จึงได้นำรถจักรยานยนต์ของตนมาจำนำประกันหนี้ค่าซื้อรถ นายโทตัวแทนก็มีอำนาจที่จะกระทำได้ และไม่ปรากฏว่าเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 801 วรรคสอง (1)-(6) แต่อย่างใด จึงอยู่ในขอบอำนาจที่นายโทสามารถที่จะกระทำได้และเมื่อกระทำไปการจำนำผูกพันนายเอกตัวการตามมาตรา 820
2 นายสอง นำตึกแถวอาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ข้างร้านนายเอกมาให้นายโทเช่าเป็นระยะเวลา 5 ปี ถ้าหากทำสัญญาเช่ามาได้ 3 ปี นายสองผู้ให้เช่าไม่ประสงค์จะให้นายเอกเช่าต่อ นายสองจะปฏิเสธไม่ให้นายเอกเช่าต่อไม่ได้ เพราะนายโทตัวแทนมีอำนาจไปเช่าตึกแถวได้ แม้ตึกจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ และเป็นการเช่าเกินกว่า 3 ปีขึ้นไปก็ตาม เพราะกรณีต้องห้ามคือเป็นกรณีที่ตัวแทนนำอสังหาริมทรัพย์ออกให้เช่าเกินกว่า 3 ปี ขึ้นไป ตามมาตรา 801 วรรคสอง (2) ดังนั้น นายสองผู้ให้เช่าต้องผูกพันจนกว่าจะครบ 5 ปี จึงไม่อาจปฏิเสธไม่ให้นายเอกตัวการตัวเช่าต่อได้ตามมาตรา 820
สรุป
1 นายเอกตัวการ ถือว่าเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนำ ตามมาตรา 820
2 นายเอกมีสิทธิเช่าตึกแถวต่อจนกว่าจะครบ 5 ปีได้ ตามมาตรา 820
ข้อ 3 นายวิทย์เป็นจ้าของที่ดิน 1 แปลง ต้องการจะให้เช่ามีกำหนดเวลา 10 ปี การเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นายวิทย์จึงได้มอบให้นายวุฒิเป็นนายหน้าหาคนมาเช่าโดยตกลงค่าบำเหน็จเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ทั้งสองได้ทำสัญญากันโดยระบุว่า “ให้นายวุฒิไปจัดการพาผู้เช่าให้ไปจดทะเบียนการเช่า ณ สำนักงานที่ดินกับนายวิทย์ให้สำเร็จเรียบร้อยด้วย” ต่อมา นายวุฒิได้พานายเฉลิมผู้เช่ามาตกลงทำสัญญาเช่ากับนายวิทย์เรียบร้อยแล้ว แต่มิได้มีการจดทะเบียนการเช่า เพราะนายเฉลิมผู้เช่าผิดสัญญา นายวุฒิได้มาขอค่าบำเหน็จนายหน้าจากนายวิทย์โดยอ้างว่าได้ทำสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ อยากทราบว่านายวิทย์จะต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้แก่นายวุฒิหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 845 วรรคแรก บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
วินิจฉัย
นายวิทย์ได้มอบให้นายวุฒิเป็นนายหน้าหาคนมาเช่าที่ดิน ทั้งสองได้ทำสัญญากันโดยระบุให้นายวุฒิพาผู้เช่าไปจดทะเบียนการเช่า ณ สำนักงานที่ดินให้สำเร็จเรียบร้อยด้วย ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาที่มีเงื่อนไขบังคับก่อน คือถือเอาการจดทะเบียนการเช่าระหว่างผู้ให้เช่ากับผู้เช่าที่สำนักงานที่ดินเป็นเงื่อนไขตามความสำเร็จของนายหน้า แม้นายวุฒิจะพานายเฉลิมมาทำสัญญาเช่ากับนายวิทย์เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อยังมิได้มีการจดทะเบียนการเช่าเพราะผู้เช่าผิดสัญญา นายวุฒิจึงไม่มีสิทธิเรียกค่านายหน้าจากนายวิทย์ เนื่องจากเงื่อนไขไม่สำเร็จตามมาตรา 845 วรรคแรก ตอนท้าย (ฎ. 1901/2506)
สรุป นายวิทย์จึงไม่ต้องจ่ายค่าบำเหน็จนายหน้าให้แก่นายวุฒิ