การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2011
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายแอลได้รับมอบอำนาจด้วยวาจาจากนายคิระ ให้ดูแลกิจการขายหนังสือการ์ตูนแทนนายคิระ เพราะนายคิระจะต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างที่นายคิระไม่อยู่ นายไรส์ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง DEATH NOTE มาเสนอขายแผ่นภาพยนต์ DVD ให้นายแอล ซึ่งนายแอลเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีการทำเป็นหนังสือการ์ตูนมาก่อน ซึ่งหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น (OTOKO) เป็นอย่างมาก นายแอลจึงได้ทำสัญญาซื้อแผ่น DVD มูลค่า 60,000 บาท จากนายไรส์มาจำหน่ายที่ร้านของนายคิระ เมื่อนายคิระกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น นายคิระเห็นแผ่น DVD ภาพยนตร์ DEATH NOTE ก็มิได้ว่ากล่าวอะไรนายแอลเพราะตนเองก็คิดว่าน่าจะขายได้ แต่ปรากฏว่าวัยรุ่นต่างไปดูภาพยนตร์ที่โรงภาพยนต์เพราะเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ไม่สามารถจำหน่ายแผ่น DVD ได้จนขาดทุนเป็นเงิน 30,000 บาท ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า
1 นายคิระจะต้องรับผิดชำระค่าแผ่น DVD ให้นายไรส์เป็นเงิน 60,000 บาทหรือไม่ เพราะเหตุใด
2 นายคิระจะเรียกร้องให้นายแอลรับผิดที่ขาดทุนเป็นเงิน 30,000 บาทได้หรือไม่ เพราะการตั้งตัวแทนกระทำด้วยวาจามิได้ทำหนังสือมอบอำนาจไว้
ธงคำตอบ
มาตรา 797 อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลคนหนึ่งเรียกว่าตัวแทน มีอำนาจทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าตัวการและตกลงจะทำการนั้น
อันความเป็นตัวแทนนั้นจะเป็นโดยตั้งแต่แสดงออกชัดหรือโดยปริยายก็ย่อมได้
มาตรา 798 กิจการอันใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
มาตรา 812 ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นอย่างใดๆ เพราะความประมาทเลินเล่อของตัวแทนก็ดี เพราะไม่ทำการเป็นตัวแทนก็ดี หรือเพราะทำการโดยปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจก็ดี ท่านว่าตัวแทนจะต้องรับผิด
มาตรา 820 ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
การที่นายคิระมอบอำนาจให้นายแอลด้วยวาจา ให้ดูแลกิจการร้านขายหนังสือการ์ตูน ถือว่านายแอลเป็นตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไป จึงมีอำนาจทำได้ทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการร้านขายหนังสือการ์ตูน ตามมาตรา 801
1 ในระหว่างทำการแทน นายไรส์บุคคลภายนอกนำแผ่น DVD เรื่อง DEATH NOTE มาจำหน่ายให้ราคา 60,000 บาท ซึ่งนายแอลตัวแทนได้รับซื้อไว้ ถือว่าการซื้อแผ่น DVD ครั้งนี้เป็นเรื่องที่นายแอลตัวแทนกระทำการนอกขอบอำนาจของการเป็นตัวแทน นายแอลโดยหลักต้องรับผิดโดยลำพัง แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่านายคิระตัวการได้ยอมรับเอาสิ่งที่นายแอลตัวแทนกระทำลงไป ถือว่าเป็นการให้สัตยาบัน ดังนั้น นายคิระตัวการจึงต้องผูกพันต่อนายไรส์บุคคลภายนอก ตามมาตรา 823 วรรคแรก ประกอบมาตรา 801 วรรคแรก
2 ตามกฎหมายตัวแทน มาตรา 797 มิได้บัญญัติกำหนดแบบหรือหลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวการตัวแทนไว้ ดังนั้น แม้นายคิระตัวการจะได้ให้สัตยาบันสัญญาซื้อแผ่น DVD ไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อปรากฏว่านายคิระตัวการต้องเสียหาย และขาดทุนเป็นเงิน 30,000 บาท นายคิระตัวการก็มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากนายแอลตัวแทนได้ ตามมาตรา 812
ในการนี้นายแอลจะปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าการตั้งตัวแทนมิได้มีการทำเป็นลายลักษณ์อักษร มิได้มีหนังสือตั้งตัวแทน ขึ้นมาเป็นเหตุปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ เพราะไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 798 ที่ใช้บังคับเฉพาะตัวการกับบุคคลภายนอกเท่านั้น
สรุป
1 นายคิระตัวการต้องรับผิดต่อนายไรส์ เพราะให้สัตยาบันแก่การซื้อแผ่น DVD ของนายแอลตัวแทน ตามมาตรา 823 วรรคแรก
2 นายคิระมีสิทธิเรียกร้องให้นายแอลตัวแทนรับผิดค่าเสียหาย ตามมาตรา 812
ข้อ 2 ให้ท่านยกข้อเปรียบเทียบระหว่างตัวแทนธรรมดากับตัวแทนค้าต่างมาอย่างละ 5 ข้อ พร้อมทั้งยกหลักกฎหมายขึ้นมาเปรียบเทียบแต่ละข้อด้วย
ธงคำตอบ
ข้อเปรียบเทียบระหว่างตัวแทนธรรมดากับตัวแทนค้าต่าง มีดังนี้
ตัวแทนธรรมดา |
ตัวแทนค้าต่าง |
1 จะมีอาชีพอะไรก็ได้ ตามมาตรา 797 2 จะต้องทำเป็นหนังสือในการตั้งตัวแทน ตามมาตรา 798 3 บำเหน็จตัวแทนจะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้ แล้วแต่จะตกลงกัน ตามมาตรา 803 4 ตัวแทนธรรมดาไม่มีหน้าที่ที่จะต้องแถลง ความเป็นไปของเนื้องาน และแถลงบัญชี เว้นแต่ต้องการจะร้องขอตามมาตรา 809 5 ผู้ไร้ความสามารถเป็นตัวแทนธรรมดาได้ ตามมาตรา 799 |
1 จะมีอาชีพในทางค้าขายเท่านั้น ตามมาตรา 833 2 ไม่ต้องทำเป็นหนังสือในการตั้งตัวแทนค้าต่างเช่นกับตัวแทนธรรมดา ตามมาตรา 798 3 จะต้องได้บำเหน็จ ตามมาตรา 834 4 เป็นหน้าที่ของตัวแทนค้าต่างว่าจะต้องแถลงความเป็นไปและแถลงบัญชีเมื่องานเสร็จ ตามมาตรา 841 5 ห้ามบุคคลไร้ความสามารถเป็นตัวแทนค้าต่าง เพราะอาจจะต้องเป็นโจทก์หรือเป็นจำเลยเองได้ ตามมาตรา 836 |
* (หากไม่มีเลขมาตราในแต่ละข้อไม่ได้คะแนน)
ข้อ 3 บำเหน็จนายหน้าเกิดขึ้นได้กี่ประการอะไรบ้าง ให้ท่านอธิบายหลักกฎหมายพอสังเขปประกอบมาด้วยกรณีหนึ่ง
กรณีที่สอง นาย ก มอบนาย ข ให้เป็นนายหน้าขายที่ดินโดยตกลงว่าจะให้ค่านายหน้า แต่ไม่ได้ตกลงว่าจะให้กี่เปอร์เซ็นต์ นาย ข นำที่ดินเสนอขายให้แก่นาย ค นาย ค ตกลงซื้อ และนาย ก กับนาย ค เข้าทำสัญญากัน เมื่อนาย ก โอนที่ดินให้นาย ค แล้ว นาย ก ได้จ่ายบำเหน็จนายหน้า 2 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย แต่นาย ข ไม่ยอม โดยจะขอค่านายหน้า 5 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย นาย ก ไม่ยอมจ่ายให้โดยจะให้แค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นาย ข ไม่ยอมจึงฟ้องนาย ก เรียกค่านายหน้า 5 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้ หากท่านเป็นศาลท่านจะสั่งว่านาย ข ควรจะได้ค่านายหน้าเท่าใด ให้ท่านตอบพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบด้วย
ธงคำตอบ
มาตรา 845 วรรคแรก บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
มาตรา 846 วรรคแรก ถ้ากิจการอันได้มอบหมายแก่นายหน้านั้น โดยพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่าย่อมทำให้แต่เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จไซร้ ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันโดยปริยายว่ามีค่าบำเหน็จนายหน้า
ค่าบำเหน็จนั้นถ้ามิได้กำหนดจำนวนกันไว้ ท่านให้ถือว่าได้ตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม
วินิจฉัย
กรณีที่ 1 บำเหน็จนายหน้าเกิดขึ้นได้ 2 ประการ
1 เกิดจากการมอบหมายโดยตรงตามมาตรา 845 วรรคแรก ซึ่งมีหลักดังนี้
ก ตกลงระหว่างผู้ขายกับนายหน้า
ข จะต้องเป็นผู้ชี้ช่อง
ข ให้ 2 ฝ่ายเข้าทำสัญญากัน
2 เกิดจากการมอบหมายโดยปริยายตามมาตรา 846 ซึ่งมีหลักดังนี้
ก ต้องมีการมอบหมายเช่นกัน แต่ไม่ใช่มอบหมายโดยตรง เช่น มาตรา 845
ข จากพฤติการณ์เป็นที่คาดหมายได้ว่ายอมทำให้เพื่อจะเอาค่าบำเหน็จ
ค ให้ถือว่าจากพฤติการณ์ได้ตกลงกันโดยปริยายว่าจะมีค่าบำเหน็จ
กรณีที่ 2 บำเหน็จนายหน้า คู่สัญญาจะต้องตกลงกันให้ชัดแจ้ง มิเช่นนั้นต้องถือว่าตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม ตามมาตรา 846 วรรคสอง ตามปัญหาเมื่อทั้งคู่ตกลงกันไม่ได้ว่าให้ค่านายหน้าเท่าใดแน่นอน ก็ต้องถือเอาตามธรรมเนียมร้อยละ 5 ของราคาที่ซื้อขายกันจริง ดังนั้น ถ้าข้าพเจ้าเป็นศาล จะสั่งว่า ข ควรจะได้ค่านายหน้าตามธรรมเนียมคือ 5 เปอร์เซ็นต์ ตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 3581/2526