การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2010
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยค้ำประกัน จำนอง จำนำ
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายแดดทำสัญญาค้ำประกันนายฝนซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ส่งของให้บริษัท ฤดูกาล จำกัด ซึ่งมีนายหนาวเป็นผู้จัดการ ปรากฏว่าต่อมานายฝนได้ขับรถไปส่งของด้วยอาการหลับใน เนื่องจากฝนตกทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ของที่นำไปส่งเสียหายทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท นายหนาวจึงฟ้องนายฝนลูกจ้างและนายแดดผู้ค้ำประกันให้ร่วมกันรับผิดในหนี้ 50,000 บาท อยากทราบว่า นายแดดจะต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันหรือไม่ เพราะเหตุใด ยกหลักกฎหมายประกอบให้ชัดเจน
ธงคำตอบ
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่
มาตรา 686 ลูกหนี้ผิดนัดลงเมื่อใด ท่านว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้น
วินิจฉัย
การค้ำประกัน คือ การที่บุคคลภายนอกมาทำสัญญากับเจ้าหนี้ว่าหากลูกหนี้มีทำการชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะชำระหนี้ให้ ตามบทบัญญัติมาตรา 680 วรรคแรก ซึ่งสามารถแยกลักษณะของสัญญาค้ำประกันได้ 3 ประการ คือ
1 ผู้ค้ำประกันต้องเป็นบุคคลภายนอก อาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้
2 ต้องมีหนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ เรียกว่า หนี้ประธาน หรือหนี้ชั้นต้น โดยที่ความผูกพันของผู้ค้ำประกันเป็นลูกหนี้ชั้นที่สองหรือหนี้อุปกรณ์
3 ต้องผูกพันตนต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น
นายแดดบุคคลภายนอกผูกพันตนเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้อันเกิดจากสัญญาจ้างนายฝนเป็นพนักงานขับรถยนต์ส่งของ ถือว่าเป็นการค้ำประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจ้าง นายแดดจึงต้องผูกพันตามมาตรา 680 วรรคแรก
เมื่อปรากฏว่าความเสียหายดังกล่าว เกิดขึ้นจากการทำงานตาสัญญาจ้าง ซึ่งนายฝนลูกหนี้ต้องรับผิดชอบ จึงต้องถือว่านายฝนผิดนัดไม่ชำระหนี้ ดังนั้นเมื่อลูกหนี้ผิดนัดเจ้าหนี้ก็ชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้ ตามมาตรา 686 นายแดดผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันที่ตนทำไว้ ตามมาตรา 680 วรรคแรกประกอบมาตรา 686
สรุป นายแดดต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
ข้อ 2 นายผ่องขอกู้เงินนายเมี่ยงจำนวน 1,000,000 บาท พร้อมกับนำที่ดินของตนราคา 8,000,000 บาท มาจำนองเป็นประกันหนี้ดังกล่าว นายเมี่ยงเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืนครบทุกบาท จึงขอให้นายผ่องทำสัญญาเป็นหนังสือว่าจะไม่นำที่ดินแปลงจำนองดังกล่าวไปจำนองกับใครอีก โดยนายเมี่ยงและนายผ่องได้ลงลายมือชื่อไว้ในสัญญาดังกล่าว ต่อมาปรากกว่าการค้าของนายผ่องขาดทุน จำเป็นต้องใช้เงินอีก 2,000,000 บาท นายผ่องจึงนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปขอกู้เงินจากนายนวล 2,000,000 บาท นายเมี่ยงทราบจึงคัดค้านว่าไม่สามารถจำนองที่ดินแปลงนี้ได้อีกแล้ว อยากทราบว่าข้ออ้างของนายเมี่ยงรับฟังได้หรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 702 อันว่าจำนองนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้จำนอง เอาทรัพย์สินตราไว้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนองเป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ส่งมอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้รับจำนอง
ผู้รับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิพักต้องพิเคราะห์ว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรือหาไม่
มาตรา 712 แม้ถึงว่ามีข้อสัญญาเป็นอย่างอื่นก็ตาม ทรัพย์สินซึ่งจำนองไว้แก่บุคคลคนหนึ่งนั้น ท่านว่าจะเอาไปจำนองแก่บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่างเวลาที่สัญญาก่อนยังมีอายุอยู่ก็ได้
วินิจฉัย
การที่นายผ่องกู้เงินนายเมี่ยง โดยนำที่ดินของตนมาประกันหนี้ดังกล่าวย่อมเป็นการทำสัญญาจำนอง ตามมาตรา 702 วรรคแรก ซึ่งกฎหมายมิได้กำหนดให้มีการส่งมอบทรัพย์แต่อย่างใด สัญญาจำนองสมบูรณ์ ใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
แม้ต่อมาในระหว่างสัญญาจำนองรายแรกยังมีผลใช้บังคับอยู่นั้น จะปรากฏว่านายผ่องนำที่ดินแปลงดังกล่าวไปจำนองประกันหนี้เงินกู้จากนายนวลอีก ทั้งๆที่มีสัญญาเป็นหนังสือว่าจะไม่นำที่ดินแปลงที่จำนองกับนายเมี่ยงไปจำนองกับใครอีกก็ตาม นายผ่องก็ย่อมทำได้ ข้อตกลงระหว่างนายผ่องและนายเมี่ยงที่ห้ามนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองซ้อน ไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย ตามมาตรา 712 ทั้งนี้จะเห็นได้จากข้อความที่ว่า “แม้ถึงว่ามีข้อสัญญาเป็นอ่างอื่นก็ตาม” ซึ่งหมายถึงคู่สัญญาจะตกลงยกเว้นความในบทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้ ถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ถึงแม้จะมีข้อห้าม “จำนองซ้อน” เจ้าของทรัพย์สินผู้จำนองกับเจ้าหนี้ผู้รับจำนองคนแรกก็ยังมีสิทธินำทรัพย์สินนั้นไปจำนองกับเจ้าหนี้ผู้รับจำนองรายหลังๆได้อีก เพราะหากมีการบังคับจำนอง เอาทรัพย์สินขายทอดตลาด ผู้รับจำนองคนก่อนมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนผู้รับจำนองคนหลังอยู่แล้ว โดยถือเอาวันและเวลาจดทะเบียนก่อนหลังเป็นสำคัญ เจ้าหนี้ผู้รับจำนองคนแรกจึงไม่เสียหายเพราะการจำนองซ้อนแต่อย่างใด
สรุป ข้ออ้างของนายเมี่ยงฟังไม่ขึ้น
ข้อ 3 นายเข้มนำสร้อยคอพร้อมจี้เพชรมาวางเป็นประกันหนี้ ซึ่งนายอ่อนกู้เงินจากนายกลางเป็นจำนวน 20,000 บาท ปรากฏว่าเมื่อหนี้เงินกู้ถึงกำหนดชำระจนล่วงเลยเวลา 6 เดือน นายกลางเจ้าหนี้จึงขอนำสร้อยคอพร้อมจี้เพชรออกขายทอดตลาด นายเข้มคัดค้านการขายทอดตลาดนี้ อยากทราบว่านายเข้มกระทำถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด ยกหลักกฎหมายประกอบให้ชัดเจน
ธงคำตอบ
มาตรา 747 อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้จำนำส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้
มาตรา 764 เมื่อจะบังคับจำนำ ผู้รับจำนำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้และอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น
ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนำชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกขายได้แต่ต้องขายทอดตลาด
อนึ่งผู้รับจำนำต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนำบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดด้วย
วินิจฉัย
การที่นายเข้มนำสร้อยคอพร้อมจี้เพชรมาวางเป็นประกันหนี้ของนายอ่อน ซึ่งกู้เงินจากนายกลางย่อมเป็นการจำนำ ตามมาตรา 747 แม้จะเป็นการประกันหนี้ของคนอื่นๆ ก็ย่อมทำได้ไม่มีกฎหมายห้าม
เมื่อปรากกว่าหนี้เงินกู้ถึงกำหนดชำระ แต่นายอ่อนลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ จนล่วงเลยเวลา 6 เดือนนายกลางเจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิบังคับจำนำเอากับทรัพย์สินที่จำนำออกขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องฟ้องศาล ตามมาตรา 764 ซึ่งวิธีการบังคับจำนำผู้รับจำนำจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย คือ
1 บอกกล่าวให้ชำระหนี้ (บอกกล่าวครั้งแรก) โดยบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ให้ชำระหนี้และอุปกรณ์แห่งหนี้นั้นภายในเวลาอันสมควร ซึ่งผู้รับจำนำกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น
2 บอกกล่าวก่อนขายทอดตลาด (บอกกล่าวครั้งหลัง) หลังจากที่บอกกล่าวครั้งแรกแล้วลูกหนี้ก็ยังไม่ชำระหนี้ กฎหมายไม่ให้สิทธิผู้รับจำนำขาดทอดตลาดในทันที แต่จะต้องส่งจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนำอีกครั้งหนึ่งว่าจะขายทอดตลาดเมื่อใดและที่ไหน เมื่อเปิดโอกาสให้ผู้จำนำเข้าสู่ราคาหรือไถ่ถอนการจำนำ
ตามปัญหา เมื่อปรากฏว่านายกลางมิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือให้นายอ่อนชำระหนี้ก่อน (บอกกล่าวครั้งแรก) จึงเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอนการบังคับจำนำตามมาตรา 764 นายเข้มผู้จำนำจึงสามารถคัดค้านการขาดทอดตลาดได้
สรุป การคัดค้านการขาดทอดตลาดของนายเข้มถูกต้องแล้ว