การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2546
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2009
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยยืม ฝากทรัพย์ เก็บของในคลังสินค้า ประนีประนอมยอมความการพนันขันต่อ
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1 ดำตกลงให้แดงยืมรถยนต์ไปธุระเชียงใหม่เป็นเวลา 10 วัน ครบกำหนด 10 วันแล้ว แดงเกิดมีธุระที่จะต้องไปทำต่อที่เชียงรายอีก 7 วัน หลังจากนั้นจึงขับรถยนต์กลับกรุงเทพฯ ระหว่างทางเกิดมีพายุฝนตกน้ำป่าไหลหลากมาท่วมถนนอย่างรวดเร็ว สุดวิสัยที่แดงจะขับรถหนีได้ทัน รถยนต์ของดำต้องแช่น้ำอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้เครื่องยนต์เสียหายต้องซ่อมแซม เป็นเงิน 50,000 บาท อยากทราบว่าค่าซ่อมแซมรถนี้ดำจะเรียกร้องจากแดงได้หรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 643 ทรัพย์สินซึ่งยืมนั้น ถ้าผู้ยืมเอาไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญาก็ดี เอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยก็ดี เอาไปไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ก็ดี ท่านว่าผู้ยืมจะต้องรับผิดในเหตุทรัพย์สินนั้นสูญหายหรือบุบสลายไปอย่างหนึ่งอย่างใด แม้ถึงจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรๆ ทรัพย์สินนั้นก็คงจะต้องสูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
วินิจฉัย
การที่ดำตกลงให้แดงยืมรถไปใช้ธุระที่เชียงใหม่เป็นเวลา 10 วันนั้น เข้าลักษณะยืมใช้คงรูป การที่แดงเอารถยนต์ของดำไปทำธุระต่อที่เชียงราย จึงเป็นการใช้ทรัพย์ที่ยืมนอกจากการอันปรากฏในสัญญา สัญญายืมรถนี้มีกำหนด 10 วัน การที่แดงเอารถยนต์ไปธุระต่ออีก 7 วัน จึงเป็นการเอาทรัพย์ที่ยืมไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ด้วย ฉะนั้นตามบทบัญญัติของกฎหมายในลักษณะยืมใช้คงรูปมาตรา 643 แดงผู้ยืมจะต้องรับผิดในเหตุที่ทรัพย์ที่ยืมนั้นบุบสลายเสียหายไป
แม้ถึงว่าจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม แดงจะยกเอาเหตุสุดวิสัยนั้นมาเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นจากความรับผิดไม่ได้ ตามความจริงถ้าหากแดงได้ใช้รถยนต์ที่ยืมมาตามการอันปรากฏในสัญญาและมิได้เอารถยนต์ที่ยืมมาไว้ใช้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้แล้ว ความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพย์ที่ยืมอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยนั้นย่อมจะตกอยู่แก่ดำซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์ แดงหาต้องรับผิดชอบด้วยไม่ กรณีตามปัญหานี้แดงประพฤติผิดหน้าที่ผู้ยืมซึ่งผลแห่งการปฏิบัติผิดหน้าที่ดังกล่าวแล้วนี้ กฎหมายบัญญัติให้ภาระความรับผิดชอบกลับมาตกอยู่แก่ผู้ยืมคือแดง
แต่มีข้อยกเว้นอยู่ว่า ถ้าหากแดงพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรๆ ทรัพย์สินที่ยืมคือรถยนต์นั้น ก็คงต้องบุบสลายเสียหายอยู่นั่นเอง แดงก็พ้นจากความรับผิดไปได้ เช่น ถ้าแดงสามารถพิสูจน์ได้ว่า ความจริงถ้าหากแดงเอารถยนต์กลับมาคืนตามข้อตกลงที่กำหนดไว้ตามสัญญาแล้ว ในวันนั้นเองก็มีน้ำป่าไหลหลากมาท่วมพอดี และแดงขับรถกลับไป ซึ่งย่อมหมายความว่า อย่างไรๆเสีย รถยนต์ก็คงต้องถูกน้ำท่วมอยู่นั่นเอง หรือมิฉะนั้นถ้าหากแดงสามารถพิสูจน์ได้ว่า ถ้าได้เอารถยนต์ไปคืนให้ตามกำหนด ในวันนั้นเองก็ได้เกิดไฟไหม้ที่บ้านดำ รถยนต์คันอื่นๆ ของดำที่เก็บไว้ในทำนองเดียวกันก็ถูกไฟไหม้หมด รถยนต์คันที่แดงเอาส่งคืนย่อมจะต้องถูกไฟไหม้ไปด้วยเช่นกัน เช่นนี้แล้ว แดงจะพ้นจากความรับผิดเหมือนกัน
สรุป แดงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้กับดำผู้ให้ยืม
ข้อ 2 นางสาวแตงกวาเป็นคนยากจนและชอบดื่มสุราเป็นประจำได้ไปกู้เงินกับนางแตงไท ซึ่งเป็นนายทุนประจำหมู่บ้าน เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท โดยนางสาวแตงกวาบอกกับนางแตงไทว่าจะกู้เงินไปจ่ายค่าสุราซึ่งตนติดไว้กับร้น RCA ซึ่งนางแตงไททราบแล้ว แต่ก็ยอมให้กู้ยืมเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมคิดดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน 7,600 บาท ดังนี้ นางแตงกวาจะต้องคืนเงินต้นและดอกเบี้ยหรือไม่ และหากคืนเป็นเช็คเงินสดต้องมีหลักฐานตามกฎหมายอย่างใดหรือไม่
ธงคำตอบ
มาตรา 653 วรรคแรก การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืม เป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
ในการกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ท่านว่าจะนำสืบการใช้เงินได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่ง ลงลายมือชื่อให้ผู้ยืมมาแสดง หรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้วหรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว
มาตรา 654 ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละสิบห้าต่อปี
วินิจฉัย
นางสาวแตงกวายืมเงินนางแตงไทต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเป็นเงิน 7,600 บาท จากเงินต้น 50,000 บาท ซึ่งเป็นการขัดต่อมาตรา 654 ซึ่งมาตรานี้บัญญัติให้ดอกเบี้ยที่เกิน 15% ให้ลดลงเหลือ 15% แต่มาตรา 654 ใช้ไม่ได้ตามที่บทบัญญัติได้กล่าวไว้ สาเหตุเพราะมี พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ กำหนดว่า การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราถือเป็นการผิดกฎหมายโดยชัดแจ้ง ส่วนของดอกเบี้ยที่เกิน 15% จึงเป็นโมฆะทั้งหมดเหลือเพียงเงินต้นเท่านั้น
ดังนั้น การคืนเงินตามกฎหมายครั้งนี้จึงคืนเฉพาะเงินต้นเท่านั้นดอกเบี้ยไม่ต้องคืน บทบัญญัติมาตรา 653 วรรคสอง จึงใช้ในกรณีที่เป็นการนำเงินสดมาคืนเงินต้นเท่านั้นที่จะต้องมีหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด คือ 1 ทำเป็นหนังสือ 2 เวนคืนเอกสาร 3 แทงเพิกถอน แต่ในกรณีนี้เป็นการคืนเงินด้วยเช็ค ไม่ใช่การคืนเงินสด จึงไม่ต้องมีหลักฐานการคืนเงินใดๆ
สรุป ต้องคืนเงินต้นเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยไม่ต้องคืน และไม่ต้องมีหลักฐานคืนเงินด้วย
ข้อ 3 นายดำเปิดบัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งแสนบาทไว้กับธนาคารไทย อยู่มาวันหนึ่งนายแดงได้ปลอมลายมือชื่อนายดำเซ็นลงในใบถอนเงินของธนาคารไทย เพื่อขอถอนเงินจากบัญชีนายดำจำนวน 5 หมื่นบาท ธนาคารไทยจ่ายเงินแก่นายแดงไปโดยมิได้ตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อที่เซ็นมาในใบถอนเงินว่าตรงกับลายมือชื่อของนายดำที่เซ็นไว้เป็นตัวอย่างหรือไม่ ทำให้ไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นลายมือชื่อปลอม ต่อมานายดำพบว่าเงินถูกถอนไปจากบัญชีโดยที่ตนไม่เคยมาขอถอน จึงฟ้องให้ธนาคารไทยรับผิดชดใช้เงินที่หายไปในฐานะผู้รับฝากทรัพย์ ดังนี้ ถ้าท่านเป็นศาล ท่านเห็นว่าธนาคารไทยจะต้องรับผิดต่อนายดำหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 659 ถ้าการรับฝากทรัพย์เป็นการทำให้เปล่าไม่มีบำเหน็จไซร้ ท่านว่าผู้รับฝากจำต้องใช้ความระมัดระวังสงวนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นเหมือนเช่นเคยประพฤติในกิจการของตนเอง
ถ้าการรับฝากทรัพย์นั้นมีบำเหน็จค่าฝาก ท่านว่าผู้รับฝากจำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินนั้นเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติการณ์ดังนั้น ทั้งนี้ย่อมรวมทั้งการใช้ฝีมืออันพิเศษเฉพาะการในที่จะพึงใช้ฝีมือเช่นนั้นด้วย
ถ้าและผู้รับฝากเป็นผู้วิชาชีพเฉพาะกิจการค้าหรืออาชีวะอย่างหนึ่งอย่างใดก็จำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการค้าขายหรืออาชีวะอย่างนั้น
วินิจฉัย
นายดำเป็นลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารไทย การที่ธนาคารยอมให้ผู้อื่นถอนเงินไปจากบัญชีเงินฝากของนายดำ โดยในใบถอนเงินไม่ใช่ลายมือชื่อแท้จริงของนายดำ และไม่ได้ความชัดว่าได้มีการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อที่เซ็นมาในใบถอนเงินเปรียบเทียบกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายดำหรือไม่ ถือได้ว่าธนาคารไทยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อโดยไม่ใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจการธนาคาร อันเป็นอาชีวะของตน ดังนี้ ธนาคารไทยจึงต้องรับผิดต่อนายดำตามมาตรา 659 วรรคท้าย
สรุป ธนาคารไทยจะต้องรับผิดต่อนายดำ