การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2554
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2009
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1 เอกยืมรถของโทมาใช้งานตามปกติ ขณะจอดอยู่ริมถนนถูกรถอื่นชนไฟท้ายแตก ค่าเสียหายประมาณห้าพันบาท แต่คนที่ขับรถชนนั้นหลบหนีไม่อาจติดตามมารับผิดได้ ดังนี้ โทเจ้าของรถจะเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากเอกผู้ยืมได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 640 อันว่ายืมใช้คงรูปนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ให้ยืม ให้บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ยืม ใช้สอยทรัพย์สินสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เปล่าและผู้ยืมตกลงว่าจะคืนทรัพย์สินนั้นเมื่อได้ใช้สอยเสร็จแล้ว
มาตรา 643 ทรัพย์สินที่ยืมนั้น ถ้าผู้ยืมเอาไปใช้การอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกดจากการอันปรากฏในสัญญาก็ดี เอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยก็ดี เอาไปไว้นายกว่าที่ควรจะเอาไว้ก็ดี ท่านว่าผู้ยืมจะต้องรับผิดในเหตุทรัพย์สินนั้นสูญหาย หรือบุบสลายไปอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ถึงจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรๆ ทรัพย์สินนั้นก็คงจะต้องสูญหาย หรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
มาตรา 644 ผู้ยืมจำต้องสงวนทรัพย์สินซึ่งยืมไปเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่เอกยืมรถของโทมาใช้งานตามปกตินั้น สัญญายืมระหว่างเอกและโทเป็นสัญญายืมใช้คงรูปตามมาตรา 640 ดังนั้นเอกผู้ยืมจึงมีหน้าที่ตามมาตรา 643 และมาตรา 644 กล่าวคือ เอกผู้ยืมจะต้องไม่นำทรัพย์สินนั้นไปใช้เพื่อการอย่างอื่นนอกจากการอันเป็นปกติแก่ทรัพย์สินนั้น หรือนอกจากการอันปรากฏในสัญญา ไม่เอาทรัพย์สินนั้นไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเอาทรัพย์สินนั้นไว้นานกว่าที่ควรจะเอาไว้ รวมทั้งจะต้องสงวนทรัพย์สินซึ่งยืมไปนั้นเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง ซึ่งถ้าหากเอกผู้ยืมไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ยืมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าว โทผู้ให้ยืมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและเรียกร้องให้อกผู้ยืมรับผิดในเหตุที่ทรัพย์สินสูญหาย หรือบุบสลายไปอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ แม้ถึงจะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยก็ตาม
แต่จากข้อเท็จจริงตามอุทาหรณ์ เมื่อเอกได้ยืมรถของโทมาใช้นั้น เอกได้ใช้งานตามปกติมิได้กระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนหน้าที่ของผู้ยืมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวข้างต้นเลย ดังนั้นเมื่อขณะที่เอกได้จอดรถอยู่ริมถนนและถูกรถอื่นชนไฟท้ายแตก ค่าเสียหายประมาณห้าพันบาทนั้น โทเจ้าของรถจึงมิอาจใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากเอกผู้ยืมได้ ทั้งนี้เพราะเอกผู้ยืมมิได้กระทำผิดหน้าที่ของผู้ยืมตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 643 และมาตรา 644 แต่อย่างใด
สรุป โทเจ้าของรถจะเรียกร้องค่าเสียหายดังกล่าวจากเอกผู้ยืมไม่ได้
ข้อ 2 เนื่องจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย นายอินเสียหายอย่างหนักจึงได้ยืมเงินนายอ้นเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท โดยทำเป็นหนังสือ ในหนังสือระบุว่านายอินต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนร้อยละ 20 บาทต่อปี เมื่อครบกำหนดชำระเงิน 1 ปีแล้ว นายอินไม่มีเงินสดมาจ่าย จึงนำรถจักรยานยนต์ของตนตามราคาท้องตลาดมีมูลค่า 6,000 บาท มาคืนแทนเงิน ดังนี้ การคืนรถจักรยานยนต์แทนเงินสดมีผลหรือไม่ อย่างไร
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 650 อันว่ายืมใช้สิ้นเปลืองนั้น คือสัญญาซึ่งผู้ให้ยืมโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินชนิดใช้ไปสิ้นไปนั้น เป็นปริมาณมีกำหนดให้ไปแก่ผู้ยืม และผู้ยืมตกลงว่าจะคืนทรัพย์สินเป็นประเภท ชนิด และปริมาณเช่นเดียวกันให้แทนทรัพย์สินซึ่งให้ยืมนั้น
สัญญานี้ย่อมบริบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินที่ยืม
มาตรา 653 วรรคแรก การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืม เป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
มาตรา 654 ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละสิบห้าต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละสิบห้าต่อปี
มาตรา 656 วรรคสอง ถ้าทำสัญญากู้ยืมเงินกันและผู้ให้กู้ยืมยอมรับเอาสิ่งของหรือทรัพย์สินอย่างอื่นเป็นการชำระหนี้แทนเงินที่กู้ยืมไซร้ หนี้อันระงับไปเพราะการชำระเช่นนั้น ท่านให้คิดเป็นจำนวนเท่ากับราคาท้องตลาดแห่งสิ่งของหรือทรัพย์สินนั้นในเวลาและ ณ สถานที่ส่งมอบ
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ สัญญากู้ยืมเงินระหว่างนายอินและนายอ้น เป็นสัญญายืมใช้สิ้นเปลืองประเภทหนึ่งตามมาตรา 650 และเมื่อสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวมีจำนวนเงินเกินกว่า 2,000 บาท และได้ทำกันเป็นหนังสือ จึงเป็นสัญญากู้ยืมเงินที่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ ตามนัยของมาตรา 653 วรรคแรก จึงสามารถใช้ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้
แต่อย่างไรก็ตาม การที่นายอินได้กู้ยืมเงินนายอ้นนั้นเป็นจำนวนเงินเพียง 5,000 บาท และแม้ในหนังสือกู้ยืมเงินจะระบุว่านายอินจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนร้อยละ 20 บาท ต่อปีก็ตาม ในส่วนของดอกเบี้ยซึ่งเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนั้น ถือว่าเป็นการเรียกอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงตกเป็นโมฆะทั้งหมด นายอ้นจะเรียกเอาส่วนที่เป็นดอกเบี้ยไม่ได้ ทั้งนี้เพราะแม้มาตรา 644 จะได้กำหนดว่าถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ 15 ต่อปีก็ตาม แต่เมื่อมีพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราใช้บังคับ ทำให้การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปีมีผลทำให้ดอกเบี้ยทั้งหมดเป็นโมฆะ จะนำมาตรา 644 มาใช้บังคับไม่ได้ ดังนั้นนายอินจึงต้องคืนเฉพาะเงินต้น 5,000 บาท ให้แก่นายอ้น
เมื่อหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวครบกำหนด และนายอินไม่มีเงินสดมาจ่ายจึงได้นำรถจักรยานยนต์ของตนตามราคาท้องตลาดซึ่งมีมูลค่า 6,000 บาท มาชำระหนี้แทนเงินและนายอ้นตกลงรับไว้นั้น สามารถที่จะกระทำได้ตามมาตรา 656 วรรคสอง ซึ่งจะมีผลทำให้หนี้ระหว่างนายอินและนายอ้นเป็นอันระงับไป แต่นายอ้นจะต้องทอนเงินคืนให้แก่นายอินเป็นเงิน 1,000 บาทด้วย
สรุป การคืนรถจักรยานยนต์แทนเงินสดมีผลทำให้หนี้ระหว่างนายอินและนายอ้นเป็นอันระงับไป แต่นายอ้นต้องทอนเงินคืนให้แก่นายอิน 1,000 บาท
ข้อ 3 นายแดงฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง จำนวน 10,000 บาท ต่อมาเกิดการจลาจลขึ้นในบริเวณใกล้ธนาคาร และมีการวางเพลิงเผาทรัพย์ทำให้ธนาคารดังกล่าวถูกไฟไหม้ทรัพย์สินและเงินสดเสียหาย ต่อมานายแดงไปขอถอนเงินจากธนาคาร ดังนี้ ธนาคารจะปฏิเสธไม่รับผิด โดยต่อสู้ว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัย และธนาคารในฐานะผู้รับฝากได้ใช้ความระมัดระวังในการสงวนรักษาทรัพย์ตามหน้าที่ของตนแล้ว ข้อต่อสู้ของธนาคารฟังขึ้นหรือไม่ อย่างไร
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 672 ถ้าฝากเงิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้รับฝากไม่พึงต้องส่งคืนเป็นเงินทองตราอันเดียวกันกับที่ฝาก แต่จะต้องคืนเงินให้ครบจำนวน
อนึ่ง ผู้รับฝากจะเอาเงินซึ่งฝากนั้นออกใช้ก็ได้ แต่หากจำต้องคืนเงินให้ครบจำนวนเท่านั้น แม้ว่าเงินซึ่งฝากนั้นจะได้สูญหายไปด้วยเหตุสุดวิสัยก็ตาม ผู้รับฝากก็จำต้องคืนเงินเป็นจำนวนดังว่านั้น
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายแดงฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งธนาคารผู้รับฝากย่อมมีสิทธิจะเอาเงินนั้นออกใช้ก็ได้ตามมาตรา 672 แต่จะต้องคืนเงินให้แก่นายแดงครบจำนวน แม้ว่าเงินซึ่งฝากนั้นจะได้สูญหายไปด้วยเหตุสุดวิสัยก็ตาม
และเมื่อข้อเท็จจริงตามอุทาหรณ์ปรากฏว่า เมื่อนายแดงได้ฝากเงินไว้กับธนาคารแล้ว ต่อมาได้เกิดการจลาจลขึ้นในบริเวณใกล้ธนาคาร และมีการวางเพลิงเผาทรัพย์ทำให้ธนาคารดังกล่าวถูกไฟไหม้ทรัพย์สินและเงินสดเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ดังนี้เมื่อนายแดงไปขอถอนเงินจากธนาคาร ธนาคารก็จะต้องยอมให้นายแดงถอนเงินคือต้องคืนเงินให้แก่นายแดง ธนาคารจะปฏิเสธไม่รับผิดชอบ โดยต่อสู้ว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากเหตุสุดวิสัยและธนาคารในฐานะผู้รับฝากได้ใช้ความระมัดระวังในการสงวนรักษาทรัพย์ตามหน้าที่ของตนแล้วไม่ได้
สรุป ข้อต่อสู้ของธนาคารดังกล่าวฟังไม่ขึ้น ธนาคารจะต้องรับผิดชดใช้เงินคืนให้แก่นายแดง