การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2552
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 538 เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่า จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ถ้าเช่ามีกำหนดกว่าสามปีขึ้นไป หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้ หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ท่านว่าการเช่นนั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี
มาตรา 569 อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไป เพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า
ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย
มาตรา 570 ในเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าซึ่งได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้าผู้เช่ายังคงครองทรัพย์สินอยู่และผู้ให้เช่ารู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วงไซร้ ท่านให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ สัญญาเช่าตึกแถวระหว่างแดงและขาวได้ทำเป็นหนังสือแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วยแต่อย่างใด สัญญาเช่ามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย ใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ แต่กฎหมายให้ถือว่าสัญญาเช่าที่มีกำหนดเวลาตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีตามสัญญาเช่าได้แต่เพียง 3 ปี ตามมาตรา 538 เท่านั้น
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าขาวเช่าตึกได้เพียง 1 ปี แดงได้ยกตึกแถวนั้นให้มืด ดังนี้สัญญาเช่าไม่ระงับ มืดต้องรับมาซึ่งสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า ตามมาตรา 569 กล่าวคือต้องให้ขาวเช่าจนครบ 3 ปี ตามสัญญา ส่วนการที่ขาวอยู่ครบ 3 ปีแล้วยังอยู่ต่อมาอีกจนถึงปีที่ 4 แม้ไม่ได้ทำสัญญาใหม่ก็ตาม การเช่าระหว่างมืดกับขาวก็เป็นการเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา ตามมาตรา 570 ข้อตกลงต่างๆจึงเป็นไปตามสัญญาเช่าเดิม
อนึ่ง มืดสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลาได้ตามมาตรา 566 แม้ขาวจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาเลยก็ตาม แต่การบอกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าวจะต้องบอกกล่าวให้ขาวรู้ตัวก่อนกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่ง แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่า 2 เดือน
เมื่อกำหนดชำระค่าเช่าตกลงกันทุกๆวันสิ้นเดือน การที่มืดบอกเลิกสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม 2552 (สุดระยะอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่า) ฉะนั้นมืดจะต้องให้เวลาขาวอีกชั่วระยะเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย คือครบกำหนดในวันที่ 31 มกราคม 2553 แต่เมื่อมืดให้เวลาขาวเพียง 15 วันจึงไม่ชอบ แต่อย่างไรก็ดี การบอกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าวก็หาตกเป็นโมฆะไม่ เมื่อมืดฟ้องขับไล่ขาวในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเลยวันที่ 31 มกราคม 2553 มาแล้ว กรณีจึงถือว่าการกระทำของมืดชอบด้วยมาตรา 566
สรุป การกระทำของมืดชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 2
(ก) น้ำเงินทำสัญญาเป็นหนังสือให้เหลืองเช่าบ้านหนึ่งหลังมีกำหนดเวลา 3 ปี สัญญาเช่าตกลงให้เหลืองเช่าบ้านสำหรับทำเป็นร้านเสริมสวยเท่านั้นและตกลงชำระค่าเช่าทุกๆวันที่ 15 และวันที่ 28 ของแต่ละเดือน โดยชำระค่าเช่าคราวละ 10,000 บาท ในระหว่างที่เหลืองเช่าอยู่ในปีที่ 2 ปรากฏว่าเหลืองไม่ชำระค่าเช่าในวันที่ 28 มกราคม 2553 ดังนั้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 น้ำเงินจึงบอกเลิกสัญญาเช่าทันที ให้ท่านวินิจฉัยว่าการบอกเลิกสัญญาของน้ำเงินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
(ข) ถ้าข้อเท็จจริงตามข้อ (ก) เป็นสัญญาเช่าซื้อ หากปรากฏว่าในระหว่างปีที่ 2 นั้น เหลืองเลิกทำร้านเสริมสวย แต่เหลืองได้เปลี่ยนเป็นทำบ้านเช่าเป็นสถานบริการ อาบ อบ นวด แทน น้ำเงินเห็นว่าเหลืองผิดสัญญา จึงบอกเลิกสัญญาในทันที ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 ให้ท่านวินิจฉัยว่า การบอกเลิกสัญญาของน้ำเงินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 560 ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่าจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้
แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือน หรือส่งเป็นระยะเวลายาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้องบอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชำระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งพึงกำหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน
วินิจฉัย
การบอกเลิกสัญญาเช่าในกรณีที่ผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า มีกำหนดไว้ในมาตรา 560 กล่าวคือ ถ้าการชำระค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือยาวกว่ารายเดือน เช่น รายสองเดือนหรือรายปี ผู้ให้เช่าต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าก่อนไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงจะบอกเลิกสัญญาได้ ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาทันทีไม่ได้ แต่ถ้ากำหนดชำระค่าเช่าน้อยกว่าเดือน เช่น รายวัน รายสัปดาห์ กรณีเช่นนี้ ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่าก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที
กรณีตามอุทาหรณ์ สัญญาระหว่างน้ำเงินและเหลืองมีการตกลงชำระค่าเช่าทุกวันที่ 15 และวันที่ 28 ของแต่ละเดือน ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารายเดือน เมื่อปรากฏว่าเหลืองไม่ชำระค่าเช่าในวันที่ 28 มกราคม 2553 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 น้ำเงินจึงบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที เพราะกรณีดังกล่าวต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 560 วรรคแรก ที่ไม่จำต้องบอกกล่าวก่อนแต่อย่างใด
(ข) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 574 วรรคแรก ในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงินสองคราวติดๆกัน หรือกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ เจ้าของทรัพย์สินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถ้าเช่นนั้นบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่อน ให้ริบเป็นของเจ้าของทรัพย์สินและเจ้าของทรัพย์สินชอบที่จะกลับเข้าครองทรัพย์สินนั้นได้ด้วย
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่เหลืองเปลี่ยนจากร้านเสริมสวยมาเป็นสถานบริการ อาบ อบ นวด การกระทำของเหลืองดังกล่าวไม่ถือว่าผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ที่น้ำเงินจะสามารถบอกเลิกสัญญาได้ ทั้งนี้แม้ในสัญญาจะกำหนดให้เช่าบ้านโดยทำเป็นร้านเสริมสวยเท่านั้น ก็จะถือว่าผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ไม่ได้เป็นแต่เพียงผิดสัญญาธรรมดา จึงบอกเลิกสัญญาดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 574 วรรคแรกไม่ได้ ดังนั้นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อของน้ำเงินจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สรุป
(ก) การบอกเลิกสัญญาเช่าชอบด้วยกฎหมาย
(ข) การบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อ 3
(ก) นายสมคิดเป็นลูกจ้างได้รับค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท โดยนายจ้างจะชำระสินจ้างทุกๆวันสิ้นเดือน สัญญาจ้างนายสมคิดเป็นสัญญาจ้างไม่มีกำหนดเวลา นายสมคิดได้ยื่นหนังสือขอลาหยุดงาน 3 วันต่อนายจ้าง แต่นายจ้างไม่อนุญาต แต่นายสมคิดก็หยุดงานไปตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสเพื่อไปจัดงานสมรสให้บุตรสาวที่ต่างจังหวัด นายจ้างได้บอกเลิกสัญญาจ้างทันทีในวันที่ 31 มีนาคม โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า แต่นายสมคิดต่อสู้ว่าไม่ถูกต้อง เช่นนี้ท่านเห็นว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด จงอธิบาย
(ข) ตามสัญญาจ้างทำของนั้น ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบการที่ทำไม่ทันกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา จะมีโทษอย่างไร และมีข้อยกเว้นที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดหรือไม่ แม้ว่าจะส่งมอบการที่ทำไม่ทันกำหนดเวลา ที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา จงอธิบาย
ธงคำตอบ
(ก) หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 583 ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี กระทำความผิดอย่างร้ายแรงก็ดี หรือทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายสมคิดยื่นหนังสือขอลาหยุดงาน 3 วันต่อนายจ้าง แต่นายจ้างไม่อนุญาต และนายสมคิดก็หยุดงานไปตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัส ดังนี้ แม้นายสมคิดจะได้ยื่นหนังสือขอลาหยุดงานแล้ว แต่เมื่อนายจ้างยังไม่อนุญาต จึงต้องถือว่าการที่นายสมคิดหยุดงานวันจันทร์ถึงวันพฤหัส เป็นการละทิ้งการงานไปเสีย ตามมาตรา 583 ซึ่งนายจ้างสามารถไล่ออกได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าแต่อย่างใด
สรุป การที่นายจ้างบอกเลิกสัญญาจ้างทันทีชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ข อธิบาย
ตามมาตรา 596 กำหนดว่า ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบการที่ทำไม่ทันกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญานั้น จะมีโทษคือ
1 ผู้ว่าจ้างชอบที่จะลดสินจ้างลงได้ หรือ
2 ถ้าสาระสำคัญอยู่ที่เวลา ผู้ว่าจ้างชอบที่จะเลิกสัญญาได้
แต่อย่างไรก็ดี ถ้าความชักช้าในการที่ทำเกิดขึ้นเพราะสัมภาระที่ผู้ว่าจ้างส่งให้ หรือเพราะคำสั่งของผู้ว่าจ้าง กรณีเช่นนี้ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิด เว้นแต่จะได้รู้อยู่แล้วว่าสัมภาระนั้นไม่เหมาะ หรือคำสั่งนั้นไม่ถูกต้อง และมิได้บอกกล่าวตักเตือน (มาตรา 591)
อนึ่ง แม้ว่าผู้รับจ้างส่งมอบงานที่ทำให้ผู้ว่าจ้างภายหลังกำหนดเวลาในสัญญา หรือภายหลังเวลาอันควรในกรณีที่มิได้กำหนดเวลาในสัญญาไว้ และผู้ว่าจ้างรับมอบงานที่ทำนั้นโดยมิได้อิดเอื้อน กรณีเช่นนี้ ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดเพื่อการส่งมอบล่าช้า (มาตรา 597)