การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2005
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยซื้อขาย แลกเปลี่ยนให้
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 นายจันทร์จดทะเบียนขายที่ดินมีโฉนดของตนแปลงหนึ่งให้นายอังคารในราคา 10 ล้านบาท และนายอังคารมีหนังสือให้นายจันทร์ฉบับหนึ่ง ให้นายจันทร์มีสิทธิไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนได้ในราคา 20 ล้านบาท
ต่อมาอีก 12 ปี ที่ดินแปลงนี้มีราคาสูงขึ้นมาก นายอังคารจึงจดทะเบียนโอนขายให้นายพุธในราคา 50 ล้านบาท หลังจากนั้นอีก 6 เดือน นายจันทร์นำเงิน 20 ล้านบาทมาขอซื้อที่ดินแปลงนี้คืนจากนายอังคาร แต่นายอังคารกลับปฏิเสธและอ้างว่านายจันทร์มาขอไถ่เกิน 10 ปี นายจันทร์ย่อมหมดสิทธิไถ่คืนและตนก็ขายที่ดินแปลงนี้ให้นายพุธไปแล้ว
ดังนี้ นายจันทร์มาถามนักศึกษาว่า ตนมีสิทธิเรียกร้องที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพุธได้หรือไม่ และจะให้นายอังคารรับผิดได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 454 การที่คู่กรณีฝ่ายหนึ่งให้คำมั่นไว้ก่อนว่าจะซื้อหรือขายนั้น จะมีผลเป็นการซื้อขายต่อเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้บอกกล่าวความจำนงว่าจะทำการซื้อขายนั้นให้สำเร็จตลอดไปและคำบอกกล่าวเช่นนั้นได้ไปถึงบุคคลผู้ให้คำมั่นแล้ว
ถ้าในคำมั่นมิได้กำหนดเวลาไว้เพื่อการบอกกล่าวเช่นนั้นไซร้ ท่านว่าบุคคลผู้ให้คำมั่นจะกำหนดเวลาพอควร และบอกกล่าวไปยังคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งให้ตอบมาเป็นแน่นอนภายในกำหนดนั้นก็ได้ ว่าจะทำการซื้อขายให้สำเร็จตลอดไปหรือไม่ ถ้าไม่ตอบเป็นนานอนภายในกำหนดเวลานั้นไซร้ คำมั่นซึ่งได้ให้ไว้ก่อนนั้นก็เป็นอันไร้ผล
วินิจฉัย
สัญญาระหว่างนายจันทร์กับนายอังคารหาใช่สัญญาขายฝากไม่ (เพราะสัญญาขายฝากคือ สัญญาซื้อขายบวกกับข้อตกลงพิเศษ ข้อตกลงนั้นคือ “ผู้ขายอาจไถ่ทรัพย์นั้นคืนได้” ข้อตกลงนี้จึงต้องมีขึ้นขณะทำสัญญาซื้อขาย ถ้าได้ตกลงภายหลังเมื่อมีสัญญาซื้อขายกันแล้ว ข้อตกลงนั้นย่อมเป็นคำมั่นว่าจะขายคืน) และหนังสือที่นายอังคารให้ไว้กับนายจันทร์เป็นคำมั่น (ว่าจะขายคืน) ไม่มีกำหนดเวลา เมื่อนายจันทร์ยังไม่ตอบรับคำมั่น กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้ยังเป็นของนายอังคารจนกว่าจะเกิดสัญญาซื้อขายตามมาตรา 454 วรรคแรก นายจันทร์ยังไม่มีสิทธิในที่ดินแปลงนี้ ดังนั้นนายจันทร์จะเรียกที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพุธไม่ได้
นายอังคารหาได้ใช้สิทธิตามมาตรา 454 วรรคสอง คือ กำหนดเวลาพอสมควร และบอกกล่าวไปยังนายจันทร์ให้ตอบมาเป็นแน่นอนภายในกำหนดเวลานั้น ว่าจะทำการซื้อขายให้สำเร็จตลอดไปหรือไม่ ดังนั้นคำมั่นไม่มีกำหนดเวลาย่อมมีผลผูกพันกับนายอังคารอยู่ แม้จะล่วงเลยมา 12 ปีก็ตาม เมื่อนายจันทร์ตอบรับคำมั่น แต่นายอังคารได้ขายที่ดินแปลงนี้ให้นายพุธไปแล้วย่อมเป็นการผิดคำมั่น นายจันทร์ชอบที่จะเรียกร้องให้นายอังคารรับผิดฐานผิดคำมั่นได้
สรุป นายจันทร์ไม่มีสิทธิเรียกร้องที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพุธ แต่นายจันทร์เรียกร้องให้นายอังคารรับผิดฐานผิดคำมั่นได้
ข้อ 2 นายฟ้าได้นำรถยนต์ออกประมูลขายทอดตลาด นายตะวันประมูลซื้อรถยนต์คันนั้นมาได้ในราคา 200,000 บาท แล้วได้ขายต่อให้นายเมฆไปในราคา 300,000 บาท โดยนายตะวันทราบว่ารถยนต์คันนั้นของนายฟ้าเป็นรถยนต์ที่ถูกขโมยมาแล้วมาปลอมทะเบียนขาย แต่นายเมฆไม่รู้
ในหนังสือสัญญาซื้อขายนายตะวันจึงได้ตกลงยกเว้นความรับผิดในการรอนสิทธิของผู้ขายเอาไว้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้มายึดรถยนต์คันนั้นจากนายเมฆไป นายเมฆจะฟ้องให้นายตะวันให้รับผิดในการรอนสิทธิได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 475 หากว่ามีบุคคลผู้ใดมาก่อการรบกวนขัดสิทธิของผู้ซื้อในอันจะครองทรัพย์สินโดยปกติสุข เพราะบุคคลผู้นั้นมีสิทธิเหนือทรัพย์สินที่ได้ซื้อขายกันนั้นอยู่ในเวลาซื้อขายก็ดี เพราะความผิดของผู้ขายก็ดี ท่านว่าผู้ขายจะต้องรับผิดในผลอันนั้น
มาตรา 479 ถ้าทรัพย์สินซึ่งซื้อขายกันหลุดไปจากผู้ซื้อทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเพราะเหตุการณ์รอนสิทธิก็ดี หรือว่าทรัพย์สินนั้นตกอยู่ในบังคับแห่งสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเป็นเหตุให้เสื่อมราคา หรือเสื่อมความเหมาะสมแก่การที่จะใช้ หรือเสื่อมความสะดวกในการใช้สอย หรือเสื่อมประโยชน์อันจะพึงได้แต่ทรัพย์สินนั้นและซึ่งผู้ซื้อหาได้รู้ในเวลาซื้อขายไม่ก็ดี ท่านว่า ผู้ขายต้องรับผิด
มาตรา 485 ข้อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิดนั้น ไม่อาจคุ้มครองรับผิดผู้ขายในผลของการอันผู้ขายได้กระทำไปเอง หรือผลแห่งข้อความจริงอันผู้ขายได้รู้อยู่แล้วและปกปิดเสีย
วินิจฉัย
นายฟ้าได้นำรถยนต์ออกประมูลขายทอดตลาด และนายตะวันประมูลซื้อรถยนต์คันนั้นมาได้ในราคา 200,000 บาท แล้วได้ขายต่อให้นายเมฆไปในราคา 300,000 บาท โดยนายตะวันทราบว่ารถยนต์คันนั้นของนายฟ้าเป็นรถยนต์ที่ถูกขโมยมาแล้วมาปลอมทะเบียนขาย แต่นายเมฆไม่รู้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้มายึดรถยนต์คันนั้นจากนายเมฆไปจึงเป็นกรณีที่นายเมฆถูกรอนสิทธิตามมาตรา 475 และ 479 นายเมฆจะฟ้องให้นายตะวันให้รับผิดในการรอนสิทธิได้แม้จะมีการตกลงยกเว้นความรับผิดในการรอนสิทธิของผู้ขายไว้ก็ตามเพราะเป็นผลแห่งข้อความจริงอันผู้ขายรู้อยู่แล้วปกปิดเสีย ข้อยกเว้นความรับผิดนั้นจึงใช้บังคับไม่ได้ตามมาตรา 485
สรุป นายเมฆฟ้องนายตะวันให้รับผิดในการรอนสิทธิได้
ข้อ 3 นายพรทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงหนึ่งของนายพรกับนายพัด แต่ที่ดินแปลงนี้ของนายพรติดสัญญาขายฝากไว้กับนายพิศอยู่ ต่อมานายพรไม่ยอมไปไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศทั้งๆที่กำหนดเวลาไถ่คืนยังไม่สิ้นสุดและไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินแปลงนี้ให้กับนายพัด
นายพัดจึงได้มาขอไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศ โดยนำเงินค่าสินไถ่ทั้งหมดไปขอไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศภายในกำหนดเวลาไถ่คืนแต่นายพิศไม่ยอมให้ไถ่ โดยอ้างว่านายพัดไม่มีสิทธิที่จะไถ่ที่ดินแปลงนี้คืน
ข้ออ้างของนายพิศรับฟังได้หรือไม่ ถ้านายพัดมาขอคำแนะนำจากท่าน ถ้ายังอยู่ในกำหนดเวลาไถ่คืน ท่านจะให้คำแนะนำกับนายพัดอย่างไร นายพัดจะต้องทำอย่างไรถ้านายพิศไม่ยอมรับการไถ่
ธงคำตอบ
มาตรา 492 วรรคแรก ในกรณีที่มีการไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือผู้ไถ่ได้วางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ต่อสำนักงานวางทรัพย์ภายในกำหนดเวลาไถ่โดยสละสิทธิถอนทรัพย์สินที่ได้วางไว้ ให้ทรัพย์สินซึ่งขายฝากตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ไถ่ตั้งแต่เวลาที่ผู้ไถ่ได้ชำระสินไถ่หรือวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ แล้วแต่กรณี
มาตรา 497 สิทธิในการไถ่ทรัพย์สินนั้น จะพึงใช้ได้แต่บุคคลเหล่านี้ คือ
(2) ผู้รับโอนสิทธินั้น
วินิจฉัย
นายพรทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงหนึ่งของนายพรกับนายพัด แต่ที่ดินแปลงนี้ของนายพรติดสัญญาขายฝากกับนายพิศอยู่ ต่อมานายพรไม่ยอมไปไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศทั้งๆที่กำหนดเวลาไถ่คืนยังไม่สิ้นสุดและไม่ยอมโอนที่ดินแปลงนี้ให้กับนายพัด นายพัดจึงได้มาขอไถ่ที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศ โดยได้นำเงินค่าสินไถ่ทั้งหมดไปขอที่ดินแปลงนี้คืนจากนายพิศภายในกำหนดเวลาไถ่คืน นายพิศจะไม่ยอมให้ไถ่ไม่ได้เพราะนายพัดเป็นผู้รับโอนสิทธิไถ่ตามสัญญาจะซื้อจะขาย ตามมาตรา 497(2) ข้ออ้างของนายพิศรับฟังไม่ได้ ถ้ายังอยู่ในกำหนดเวลาไถ่คืน นายพัดจะต้องนำเงินค่าสินไถ่ไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์โดยสละสิทธิถอนทรัพย์ที่วางตามมาตรา 492 วรรคแรก
สรุป ข้าพเจ้าจะให้คำแนะนำกับนายพัด ดังกล่าวข้างต้น