การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2005
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยซื้อขาย แลกเปลี่ยนให้
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 3 ข้อ
ข้อ 1 ในคดีแพ่งเรื่องหนึ่ง โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนบ้านพร้อมที่ดินให้โจทก์ ฐานผิดสัญญาจะซื้อจะขาย จำเลยได้รับสำเนาฟ้องแล้ว จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยกับโจทก์ทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จเด็ดขาด หาใช่สัญญาจะซื้อจะขายไม่ และสัญญาก็ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินย่อมตกเป็นโมฆะ ขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์
ต่อมาศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วได้ข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ขายบ้านพร้อมที่ดินให้โจทก์ในราคา 5 ล้านบาท โดยจำเลยยอมเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอน ทั้งจำเลยได้รับเงินราคาค่าบ้านพร้อมที่ดินจากโจทก์ไว้ก่อน 500,000 บาท หลังจากนั้น จำเลยนำเงิน 500,000 บาทมาขอคืนให้โจทก์ และไม่ขายบ้านพร้อมที่ดินให้โจทก์
แต่โจทก์ไม่ยอมรับและขอให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนให้โจทก์อ้างว่าสัญญาเป็นโมฆะ ศาลชั้นต้นจึงมีคำพิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนบ้านพร้อมที่ดินที่พิพาทให้โจทก์ฐานผิดสัญญาจะซื้อจะขาย หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ให้โจทก์ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ดังนี้ ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า คำพิพากษาของศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายซื้อขายหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 453 อันว่าซื้อขายนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่าผู้ขาย โอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่าผู้ซื้อ และผู้ซื้อตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขาย
วินิจฉัย
สัญญาซื้อขายตามมาตรา 453 เป็นสัญญาที่ผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินที่ขายให้กับผู้ซื้อ และผู้ซื้อตกลงว่าจะชำระราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขายจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้ตามข้อเท็จจริงสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยจะเป็นสัญญาจะซื้อจะขาย แต่ก็สามารถฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ เพราะได้มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้บังคับตามสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทน ศาลก็ต้องมีคำพิพากษาให้โจทก์ชำระราคาค่าบ้านพร้อมที่ดินที่ยังขาดอยู่ให้แก่จำเลยด้วย แต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแต่เพียงให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนบ้านพร้อมที่ดินที่พิพาทให้โจทก์ หาได้มีคำพิพากษาให้โจทก์ชำระราคาค่าบ้านพร้อมที่ดินให้จำเลยด้วย คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายซื้อขายซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทน
ข้อ 2 นายไก่ตกลงขายรถยนต์ซึ่งตนซื้อมาจากการขายทอดตลาดให้แก่นายไข่ในราคา 3 แสนบาท ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวนายไก่ทราบดีว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟมาโดยตลอด แต่ไม่ได้แจ้งให้นายไข่ทราบ ในการตกลงซื้อขายกันครั้งนี้นายไก่ผู้ขายได้ระบุไว้ในสัญญาว่าถ้าเกิดความชำรุดบกพร่องอย่างใดๆขึ้น ผู้ขายไม่ต้องรับผิดชอบอย่างใดๆทั้งสิ้น เมื่อส่งมอบรถยนต์แล้วนายไข่เพิ่งจะทราบว่ารถยนต์มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟจึงมาเรียกร้องให้นายไก่ผู้ขายรับผิดชอบแต่นายไก่ปฏิเสธอ้างว่าเป็นรถยนต์ที่ได้มาจากการขายทอดตลาดของศาลตนไม่ต้องรับผิดชอบ
คำปฏิเสธของนายไก่รับฟังได้หรือไม่ และนายไข่จะฟ้องนายไก่ให้รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 472 ในกรณีที่ทรัพย์สินที่ขายนั้นชำรุดบกพร่องอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมแก่ประโยชน์อันมุ่งจะใช้เป็นปกติก็ดี ประโยชน์ที่มุ่งหมายโดยสัญญาก็ดี ท่านว่า ผู้ขายต้องรับผิด
ความที่กล่าวมาในมาตรานี้ย่อมใช้ได้ ทั้งที่ผู้ขายรู้อยู่แล้วหรือไม่รู้ว่าความชำรุดบกพร่องมีอยู่
มาตรา 483 คู่สัญญาซื้อขายตกลงกันว่าผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องหรือเพื่อการรอนสิทธิก็ได้
มาตรา 485 ข้อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิดนั้น ไม่อาจคุ้มครองรับผิดผู้ขายในผลของการอันผู้ขายได้กระทำไปเอง หรือผลแห่งข้อความจริงอันผู้ขายได้รู้อยู่แล้วและปกปิดเสีย
วินิจฉัย
นายไก่ขายรถยนต์ที่ตนซื้อมาจากการขายทอดตลาดแก่นายไข่ในราคา 3 แสนบาท เมื่อส่งมอบรถยนต์แล้ว นายไข่จึงทราบว่ารถยนต์มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟ และได้เรียกร้องให้นายไก่รับผิดชอบ แต่นายไก่อ้างว่าเป็นรถยนต์ที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาด ตนจึงไม่ต้องรับผิด เช่นนี้คำปฏิเสธของนายไก่รับฟังไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่านายไก่ จะซื้อรถยนต์มาจากการขายทอดตลาด แต่การซื้อรถยนต์ระหว่างนายไก่และนายไข่นั้นไม่ใช่การขายทอดตลาด นายไข่จึงฟ้องนายไก่ให้รับผิดในความชำรุดบกพร่องที่เกิดขึ้นได้ ตามมาตรา 472 แม้จะมีการตกลงยกเว้นไว้ในสัญญาว่าถ้าเกิดความชำรุดบกพร่องอย่างใดๆ ขึ้น ผู้ขายไม่ต้องรับผิดก็ตาม เพราะข้อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิดนั้นไม่อาจคุ้มความรับผิดของผู้ขายในผลของการอันผู้ขายได้กระทำไปเอง หรือผลแห่งข้อความจริงอันผู้ขายได้รู้อยู่แล้วปกปิดเสีย ดังนั้น เมื่อนายไก่ไม่สุจริตทราบถึงเหตุความชำรุดบกพร่องอยู่แล้วไม่แจ้งให้ผู้ซื้อทราบ แต่ยังมายกเว้นความรับผิดชอบของตนอีก จึงไม่พ้นความรับผิด ยังต้องรับผิดต่อผู้ซื้อตามมาตรา 483, 485
สรุป คำปฏิเสธของนายไก่รับฟังไม่ได้ และนายไข่ฟ้องนายไก่ให้รับผิดชอบในความชำรุดปกพร่องในทรัพย์สินที่ตกลงซื้อขายกันได้
ข้อ 3 นายพานได้จำนองที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่ง 200 ตารางวาไว้กับนายพัดในราคาสี่แสนบาท ที่ดินแปลงนั้นราคาตารางวาละ 10,000 บาท และนายพานยังได้ให้ทำเอกสารเป็นหนังสือยกที่ดินแปลงนั้นให้นายพุธ โดยให้นายพุธไปไถ่จำนองจากนายพัดเอง
แต่ที่ดินแปลงนั้นมีนายผันครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์อยู่ห้าสิบตารางวา และกำลังยื่นฟ้องต่อศาลขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ แต่นายพุธไม่ทราบ นายพุธมาทราบภายหลังจากไถ่จำนองและจดทะเบียนรับโอนที่ดินแปลงนี้มาเรียบร้อยแล้ว และถูกนายผันขับไล่ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวที่ดินในส่วนที่นายผันครอบครองปรปักษ์
นายพุธจึงต้องการให้นายพานชดใช้เงินที่ตนไปไถ่จำนองที่ดินแปลงนั้น แต่นายพานไม่ยอม ถ้านายพุธมาปรึกษาท่าน ท่านจะให้คำแนะนำกับนายพุธอย่างไร นายพุธจะเรียกร้องให้นายพานรับผิดได้หรือไม่ในกรณีใด
ธงคำตอบ
มาตรา 530 ถ้าการให้นั้นมีค่าภาระติดพัน ท่านว่าผู้ให้ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องหรือเพื่อการรอนสิทธิเช่นเดียวกันกับผู้ขาย แต่ท่านจำกัดไว้ว่าไม่เกินจำนวนค่าภาระติดพัน
วินิจฉัย
นายพานได้จำนองที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่ง 200 ตารางวา ไว้กับนายพัดในราคาสี่แสนบาท ที่ดินแปลงนั้นราคาตารางวาละ 10,000 บาท และนายพานยังได้ให้ทำเอกสารเป็นหนังสือยกที่ดินแปลงนั้นให้นายพุธโดยให้นายพุธไปไถ่จำนองจากนายพัดเอง เอกสารเป็นหนังสือนี้เป็นสัญญาให้ที่มีค่าภาระติดพันในทรัพย์สินที่ให้ แต่ที่ดินแปลงนั้นมีนายผันครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์อยู่ห้าสิบตารางวา และกำลังยื่นฟ้องต่อศาลขอจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ แต่นายพุธไม่ทราบ นายพุธมาทราบภายหลังจากไถ่จำนองและจดทะเบียนรับโอนที่ดินแปลงนี้มาเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นกรณีที่นายพุธถูกรบกวนขัดสิทธิโดยบุคคลภายนอก (นายผัน) ไม่ให้เข้าครอบครองทรัพย์สินโดยปกติสุข เพราะบุคคลนั้นมีสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้นโดยชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการรอนสิทธิที่เกิดก่อนสัญญาให้ นายพุธจึงสามารถเรียกร้องให้นายพานชดใช้เงินจำนวนสี่แสนบาทค่าไถ่ถอนจำนองได้ เพราะในสัญญาให้ที่มีค่าภาระติดพันผู้ให้ต้องรับผิดเพื่อการรอนสิทธิเช่นเดียวกับผู้ขายแต่จำกัดไว้ว่าไม่เกินจำนวนค่าภาระติดพันตามมาตรา 530
สรุป ถ้านายพุธมาปรึกษาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้คำแนะนำกับนายพุธโดยบอกให้นายพุธฟ้องร้องให้นายพานรับผิด ในกรณีที่มีการรอนสิทธิในทรัพย์สินที่ให้และมีค่าภาระติดพัน (ที่ดินแปลงดังกล่าว) ดังนั้นนายพุธเรียกให้นายพานรับผิดชดใช้เงินจำนวนสี่แสนบาทได้ แต่ไม่เกินจำนวนค่าภาระติดพัน