การสอบไล่ภาค  1  ปีการศึกษา  2550

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW2002 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหนี้

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี  4  ข้อ

ข้อ  1  นิพนธ์กู้เงินดวงกมลสามแสนบาท  มีกำหนดเวลาสามปี  ก่อนถึงกำหนด  นิพนธ์นัดดวงกมลขอชำระหนี้ทั้งหมดถึงสองครั้ง  แต่ดวงกมลปฏิเสธไม่รับชำระ  ต่อมาเมื่อหนี้ถึงกำหนดดวงกมลฟ้องบังคับชำระหนี้  แต่ศาลไม่ประทับฟ้องเพราะโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต  อยากทราบว่าหนี้ระงับหรือไม่  เจ้าหนี้จะบังคับชำระหนี้ได้หรือไม่  อย่างไร  ยกหลักกฎหมายประกอบคำตอบให้ชัดเจน

ธงคำตอบ

มาตรา  203  วรรคสอง  ถ้าได้กำหนดเวลาไว้  แต่หากกรณีเป็นที่สงสัย  ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ไม่  แต่ฝ่ายลูกหนี้จะชำระหนี้ก่อนกำหนดนั้นก็ได้

มาตรา  207  ถ้าลูกหนี้ขอปฏิบัติการชำระหนี้  และเจ้าหนี้ไม่รับชำระหนี้นั้นโดยปราศจากมูลเหตุอันจะอ้างกฎหมายไซร้  ท่านว่าเจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด

มาตรา  221  หนี้เงินอันต้องเสียดอกเบี้ยนั้น  ท่านว่าจะคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่เจ้าหนี้ผิดนัดหาได้ไม่

วินิจฉัย

การที่นิพนธ์นัดดวงกมลขอชำระหนี้ทั้งหมดถึง  2  ครั้ง  แต่ดวงกมลปฏิเสธไม่รับชำระหนี้  โดยปราศจากมูลเหตุที่จะอ้างกฎหมายได้จึงถือว่า  เจ้าหนี้ผิดนัดตามมาตรา  207  เพราะเป็นหนี้มีกำหนดเวลาแม้เจ้าหนี้จะเรียกให้ชำระหนี้ก่อนกำหนดไม่ได้  แต่ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ก่อนถึงกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ได้ตามมาตรา  203  วรรคสอง  อย่างไรก็ดีเพียงเจ้าหนี้ผิดนัดไม่ทำให้หนี้ระงับ  แต่มีผลทำให้เจ้าหนี้จะคิดดอกเบี้ยในระหว่างที่ตนผิดนัดไม่ได้  ตามมาตรา  221

ดังนั้นในเมื่อหนี้ยังไม่ระงับ  ลูกหนี้ยังคงต้องชำระหนี้อยู่  เจ้าหนี้สามารถเรียกให้ชำระหนี้และบังคับชำระหนี้ต่อไปได้

สรุป  หนี้ไม่ระงับและเจ้าหนี้บังคับชำระหนี้ได้

 

 

ข้อ  2  บริษัทดาว  จำกัด  ทำสัญญาเช่าเครื่องบินโดยสารจากบริษัทไมค์  จำกัด  เพื่อใช้บินรับส่งผู้โดยสารภายในประเทศไทย  โดยสัญญาเช้าที่ทำกันไว้มีข้อตกลงด้วยว่า  หากในระหว่างการเช่าเครื่องบินที่เช่าได้รับความเสียหายไม่ว่าในกรณีใดในระหว่างทำการบิน  หรือขณะอยู่ในทางวิ่งหรือทางขับ  หรือบริเวณหลุมจอดเครื่องบินภายในท่าอากาศยานแห่งใดในประเทศไทย  บริษัทดาว  จำกัด  จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายนั้น

ต่อมาในระหว่างการเช่า  เครื่องบินลำที่เช่าถูกเครื่องบินอีกลำหนึ่งของบริษัทตะวัน  จำกัด  เฉี่ยวชนที่บริเวณปีกของเครื่อง  ขณะที่เครื่องบินลำที่เช่าจอดส่งผู้โดยสารอยู่ที่หลุมจอดในสนามบินภูเก็ตทำให้ปีกเครื่องบินหัก  ต้องซ่อมแซมเสียค่าใช้จ่ายไป  2,500,000  บาท  ต่อมาบริษัทดาว  จำกัด

ได้ชดใช้ค่าซ่อมให้แก่บริษัท  ไมค์  จำกัด  และบริษัทดาว  จำกัด  จึงฟ้องบริษัทตะวัน  จำกัด  ต่อศาลเรียกเงินจำนวนดังกล่าวคืน  บริษัทตะวัน  จำกัด  ต่อสู้ว่าบริษัทดาว  จำกัด  ไม่ใช่เจ้าของเครื่องบินเป็นเพียงผู้เช่า  จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินจำนวนดังกล่าวได้  ให้ท่านวินิจฉัยว่าข้อต่อสู้นี้ฟังได้หรือไม่  อย่างไร

ธงคำตอบ

มาตรา  227  เมื่อเจ้าหนี้ได้รับค่าสินไหมทดแทนความเสียหายเต็มตามราคาทรัพย์หรือสิทธิซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้นั้นแล้ว  ท่านว่าลูกหนี้ย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้  อันเกี่ยวกับทรัพย์หรือสิทธินั้นๆด้วยอำนาจกฎหมาย

วินิจฉัย

ตามปัญหาเป็นเรื่องที่เมื่อเกิดความเสียหายและบริษัทดาว  จำกัด  ผู้เช่า  ซึ่งเป็นลูกหนี้ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เป็นค่าซ่อมเครื่องบินที่เช่าไปตามสัญญาให้แก่บริษัทไมค์  จำกัด  ผู้เป็นเจ้าหนี้  เต็มตามราคาทรัพย์หรือสิทธิซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้แล้ว  บริษัทดาว จำกัด  ลูกหนี้จึงย่อมเข้าสู่ฐานะเป็นผู้รับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้เกี่ยวกับทรัพย์หรือสิทธินั้นด้วยอำนาจแห่งกฎหมาย  ทั้งนี้  ตามมาตรา  227  จึงมีอำนาจฟ้องบริษัทตะวัน  จำกัด  เพื่อเรียกเงินจำนวนนั้นได้ 

สรุป  ข้อต่อสู้ของบริษัทตะวันจำกัดฟังไม่ขึ้น

 

 

ข้อ  3  จันทร์เป็นเจ้าหนี้อังคารหนึ่งแสนบาท  และอังคารเป็นเจ้าหนี้พุธห้าแสนบาท  จันทร์ได้ใช้สิทธิเรียกร้องของอังคาร  ตาม  ป.พ.พ.  มาตรา  233  เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพุธเรียกเอาเงินห้าแสนบาทที่พุธค้างชำระแก่อังคารปรากฏว่าในระหว่างพิจารณา  พุธยอมชำระเงินให้จันทร์หนึ่งแสนบาท  และหนี้ระหว่างจันทร์กับอังคารก็ถึงกำหนดชำระแล้ว  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่าเงินหนึ่งแสนบาทนี้จะตกเป็นของใคร  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  235  เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้เรียกเงินเต็มจำนวนที่ยังค้างชำระแก่ลูกหนี้โดยไม่คำนึงถึงจำนวนที่ค้างชำระแก่ตนก็ได้  ถ้าจำเลยยอมใช้เงินเพียงเท่าจำนวนที่ลูกหนี้เดิมค้างชำระแก่เจ้าหนี้นั้น  คดีก็เป็นเสร็จกันไป  แต่ถ้าลูกหนี้เดิมได้เข้าชื่อเป็นโจทก์ด้วย  ลูกหนี้เดิมจะขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาต่อไปในส่วนจำนวนเงินที่ยังเหลือติดค้างอยู่ก็ได้

แต่อย่างไรก็ดี  ท่านมิให้เจ้าหนี้ได้รับมากไปกว่าจำนวนที่ค้างชำระแก่ตนนั้นเลย

วินิจฉัย

กรณีตามปัญหา  เงินหนึ่งแสนบาทจะตกเป็นของจันทร์ (เจ้าหนี้)  ตามนัยแห่งบทบัญญัติใน ป.พ.พ.  มาตรา  235  วรรคแรก  และวรรคสอง  โดยการแปลความตามนัยที่ว่า ถ้าจำเลยยอมใช้เงินเพียงเท่าจำนวนที่ลูกหนี้เดิมค้างชำระแก่เจ้าหนี้นั้น  คดีก็เป็นเสร็จกันไป  และในวรรคสองที่ว่า  ท่านมิให้เจ้าหนี้ได้รับมากไปกว่าจำนวนที่ค้างชำระแก่ตนนั้นเลย

สรุป  เงินหนึ่งแสนบาทเป็นของจันทร์

 

 

ข้อ  4  เอกกู้เงินโทไปหนึ่งแสนบาท  และเอกกู้เงินตรีไปสองแสนบาทอีกด้วย  เอกไม่มีเงินชำระหนี้ให้แก่โทและตรี  เอกจึงเอารถยนต์ของตนหนึ่งคันตีราคาได้สามแสนบาทไปชำระหนี้เงินกู้ทั้งสองรายนั้นแทนเงินสด  โดยทั้งโทและตรียอมรับเอาการชำระหนี้ด้วยรถยนต์ดังกล่าวนั้นไว้  ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบรถยนต์  โทมารับมอบรถยนต์เพียงคนเดียว  แต่ตรีไม่มารับมอบรถยนต์  และไม่ยินยอมให้โทรับมอบรถยนต์คนเดียว  ดังนี้ให้วินิจฉัยว่าเอกจะส่งมอบรถยนต์ให้โทแต่เพียงผู้เดียวได้หรือไม่  เพราะเหตุใด

ธงคำตอบ

มาตรา  302  ถ้าการชำระหนี้เป็นการอันจะแบ่งกันชำระมิได้  และมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้ถ้าบุคคลเหล่านั้นมิได้เป็นเจ้าหนี้ร่วมกันไซร้  ท่านว่าลูกหนี้ได้แต่จะชำระหนี้ให้ได้ประโยชน์แก่บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดด้วยกัน  และเจ้าหนี้แต่ละคนจะเรียกชำระหนี้ได้ก็แต่เพื่อได้ประโยชน์ด้วยกันหมดทุกคนเท่านั้น  อนึ่งเจ้าหนี้แต่ละคนจะเรียกให้ลูกหนี้วางทรัพย์ที่เป็นหนี้นั้นไว้เพื่อประโยชน์แห่งเจ้าหนี้หมดทุกคนด้วยกันก็ได้หรือถ้าทรัพย์นั้นไม่ควรแก่การจะวางไว้  ก็ให้ส่งแก่ผู้พิทักษ์ทรัพย์ซึ่งศาลจะได้ตั้งแต่งขึ้น

นอกจากนี้  ข้อความจริงใดที่ท้าวถึงเจ้าหนี้คนหนึ่งเท่านั้น  หาเป็นไปเพื่อคุณหรือโทษแก่เจ้าหนี้คนอื่นๆด้วยไม่

วินิจฉัย

กรณีตามปัญหา  โทและตรีมิได้เป็นเจ้าหนี้ร่วม  กรณีเป็นเรื่องการชำระหนี้อันจะแบ่งกันชำระมิได้และมีโทและตรีเป็นเจ้าหนี้  เอกซึ่งเป็นลูกหนี้ได้แต่จะชำระหนี้ให้ได้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหมดด้วยกัน  เอกจึงส่งมอบรถยนต์ให้โทแต่ผู้เดียว  โดยตรีไม่ยินยอมไม่ได้  กรณีต้องด้วยบทบัญญัติในมาตรา  302

สรุป  เอกจะส่งมอบรถยนต์ให้โทแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้ 

Advertisement