การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2549
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2001 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ ข้อละ 25 คะแนน
ข้อ 1 นายพิชัยกับนายเพชรได้ทำสัญญากันเอง โดยนายพิชัยอนุญาตให้นายเพชรสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยในที่ดินของนายพิชัยได้ตลอดชีวิตของนายเพชร หลังจากนายเพชรสร้างเรือนไม้สักอยู่ในที่ดินดังกล่าวได้ 5 ปี นายพิชัยถึงแก่ความตาย นายพิชิตบุตรของนายพิชัยได้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่รับมรดกที่ดินและเรือนไม้สักดังกล่าว โดยนายพิชิตไม่รู้เรื่องสัญญาระหว่างนายพิชัยกับนายเพชรมาก่อน หลังจากนั้นนายพิชิตแจ้งให้นายเพชรออกไปจากที่ดินและเรือนไม้สักหลังนั้น นายเพชรจึงอ้างสัญญาที่นายพิชัยทำไว้กับนายเพชร
แต่นายพิชิตต่อสู้ว่าสัญญาดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงไม่ผูกพันนายพิชิตผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและเรือนไม้สักมาโดยสุจริต ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า
ก. สัญญาระหว่างนายพิชัยกับนายเพชรมีผลผูกพันนายพิชิตหรือไม่ เพราะเหตุใด
ข. ระหว่างนายพิชิตกับนายเพชร ผู้ใดมีกรรมสิทธิ์ในเรือนไม้สักดีกว่ากัน เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 146 ทรัพย์ซึ่งติดกับที่ดินหรือติดกับโรงเรือนเพียงชั่วคราวไม่ถือว่าเป็นส่วนควบกับที่ดินหรือโรงเรือนนั้น ความข้อนี้ให้ใช้บังคับแก่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ซึ่งผู้มีสิทธิในที่ดินของผู้อื่นใช้สิทธินั้นปลูกสร้างไว้ในที่ดินนั้นด้วย
มาตรา 1299 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ท่านว่า การได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่บริบูรณ์ เว้นแต่นิติกรรมจะได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่
วินิจฉัย
สัญญาที่นายพิชัยอนุญาตให้นายเพชรสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยในที่ดินของนายพิชัยได้ตลอดชีวิตของนายเพชร และนายเพชรสร้างเรือนไม้สักอยู่ในที่ดินดังกล่าว เป็นกรณีที่นายเพชรได้สิทธิเหนือพื้นดินบนที่ดินของนายพิชัย อันเป็นการได้มาซึ่งทรัพยสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางนิติกรรม ตามมาตรา 1299 วรรคหนึ่ง แต่เนื่องจากนิติกรรมฉบับนี้ไม่ได้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่ นิติกรรมจึงไม่บริบูรณ์ในฐานะทรัพยสิทธิ แต่ยังมีผลบังคับใช้ได้ระหว่างคู่สัญญาในฐานะบุคคลสิทธิ
สำหรับประเด็นที่นายเพชรสร้างเรือนไม้สักในที่ดินของนายพิชัย โดยอาศัยสิทธิเหนือพื้นดินตามสัญญานั้น นายเพชรจึงเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินของนายพิชัย และได้อาศัยสิทธินั้นสร้างโรงเรือนในที่ดินของนายพิชัย เรือนไม้สักจึงไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน ตามมาตรา 146 นายเพชรจึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเรือนไม้สักที่ตนสร้างขึ้น ส่วนนายพิชัยไม่มีกรรมสิทธิ์ในเรือนไม้สักดังกล่าว
หลังจากนายเพชรสร้างเรือนไม้สักอยู่ในที่ดินดังกล่าวได้ 5 ปี นายพิชัยถึงแก่ความตาย นายพิชิตบุตรของนายพิชัยได้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่รับมรดกที่ดินและเรือนไม้สักดังกล่าว นายพิชิตจึงเป็นผู้สืบสิทธิของนายพิชัยเจ้ามรดก ซึ่งต้องรับไปซึ่งสิทธิและหน้าที่ของเจ้ามรดก ดังนั้น
ก สัญญาระหว่างนายพิชัยกับนายเพชรย่อมมีผลผูกพันถึงนายพิชิตด้วย แม้สัญญาดังกล่าวจะไม่ได้จดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม เพราะสัญญาดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้ได้ระหว่างคู่สัญญาในฐานะบุคคลสิทธิ รวมถึงทายาทผู้สืบสิทธิของเจ้ามรดกด้วย ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
ข นายเพชรมีกรรมสิทธิ์ในเรือนไม้สักดีกว่านายพิชิต เพราะเรือนไม้สักไม่เป็นส่วนควบของที่ดิน นายพิชัยบิดาของนายพิชิตจึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในเรือนไม้สัก ดังนั้นนายพิชิตจึงไม่มีสิทธิจดทะเบียนรับมรดกเรือนไม้สักดังกล่าวตามกฎหมาย “ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน”
ข้อ 2 นายรุ่งได้ยืมเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งของนายเรืองมาใช้งาน เมื่อใช้งานเสร็จ นายรุ่งไม่ยอมคืนแต่ได้นำเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวไปขายที่ร้านไอทีเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์มือสองและรับซ่อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาหลายปี ร้านไอทีเซ็นเตอร์ให้ราคา 20,000 บาท แก่นายรุ่งเป็นค่าคอมพิวเตอร์และนายรุ่งได้นำเงินไปฝากนายโรจน์เก็บไว้
ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม 2549 นายเรืองมาทวงคอมพิวเตอร์คืนจากนายรุ่ง นายรุ่งอ้างว่าได้นำไปซ่อมไว้ที่ร้านไอทีเซ็นเตอร์ ขอให้นายเรืองไปรับคืนเอง นายเรืองจึงไปที่ร้านไอทีเซ็นเตอร์ พบว่าร้านได้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ผู้ซื้อไปคือนายโรจน์ในราคา 23,000 บาท ร้านปฏิเสธไม่รับทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นคอมพิวเตอร์ของผู้ใด ขอให้นายเรืองไปติดตามทวงคืนจากนายโรจน์เอง
ดังนี้ เมื่อนายเรืองไปขอให้นายโรจน์คืนคอมพิวเตอร์แก่ตน นายโรจน์จะไม่ยอมคืนได้หรือไม่ หรือหากจะต้องคืนนายโรจน์จะขอให้นายเรืองจ่ายเงินให้ตน 23,000 บาท เพื่อแลกกับการส่งคืนคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1332 บุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินมาโดยสุจริตในการขายทอดตลาด หรือในท้องตลาด หรือจากพ่อค้าซึ่งขายของชนิดนั้น ไม่จำต้องคืนให้แก่เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา
วินิจฉัย
การที่นายโรจน์ซื้อทรัพย์สินคือเครื่องคอมพิวเตอร์มาจากร้านไอทีเซ็นเตอร์ ผู้ประกอบการจำหน่ายคอมพิวเตอร์มาหลายปี จึงเป็นการซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตจากพ่อค้าที่ขายของชนิดนั้น ตามมาตรา 1332 ดังนั้นนายโรจน์แม้จะไม่มีสิทธิในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ และต้องคืนให้แก่นายเรืองผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงไป แต่นายโรจน์ยังคงไม่ต้องคืนทรัพย์แก่นายเรืองจนกว่านายเรืองจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา คือ 23,000 บาท แก่นายโรจน์
ข้อ 3 นายดำอาศัยปลูกบ้านครอบครองอยู่บนที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายแดงบิดามาได้ 3 ปี นายแดงได้นำที่ดินแปลงนี้ไปขายฝากไว้กับนายเหลืองเป็นเวลา 7 ปี ไม่ไถ่คืนจนเลยกำหนดเวลาไถ่คืนแล้ว แต่นายดำก็ยังคงอาศัยครอบครองบนที่ดินแปลงนี้ตลอดมา เมื่อหมดกำหนดเวลาไถ่คืนมาได้ 1 ปี นายเหลืองได้นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดสอบเขต นายดำคัดค้านการรังวัดที่ดินแปลงนี้มาได้ 6 เดือน นายเหลืองจึงได้ฟ้องขับไล่นายดำออกจากที่ดินแปลงนี้ ดังนี้ท่านเห็นว่านายเหลืองมีสิทธิฟ้องขับไล่นายดำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด และข้ออ้างของนายดำรับฟังได้เพียงใด เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1381 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครอง บุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่า ไม่เจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก
มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
วินิจฉัย
นายดำอาศัยปลูกบ้านครอบครองอยู่บนที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายแดงบิดามาได้ 3 ปี นายแดงได้นำที่ดินแปลงนี้ไปขายฝากไว้กับนายเหลืองเป็นเวลา 7 ปี ไม่ไถ่คืนจนเลยกำหนดเวลาไถ่คืนแล้ว แต่นายดำก็ยังคงอาศัยครอบครองบนที่ดินแปลงนี้ตลอดมา ถือว่านายดำครอบครองที่ดินแปลงนี้แทนนายเหลืองตลอดมา จึงนับอายุความครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ เมื่อหมดกำหนดเวลาไถ่คืนมาได้ 1 ปี นายเหลืองได้นำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัดสอบเขต นายดำได้คัดค้านการรังวัดโดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงนี้ เป็นการที่นายดำได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงการยึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของแล้ว ตามมาตรา 1381 นายดำคัดค้านการรังวัดที่ดินแปลงนั้นมาได้ 6 เดือน นายเหลืองจึงได้ฟ้องขับไล่นายดำให้ออกจากที่ดินแปลงนี้ นายเหลืองจึงฟ้องขับไล่นายดำได้ เพราะนายดำครอบครองปรปักษ์มาได้เพียง 6 เดือน และข้ออ้างของนายดำรับฟังไม่ได้เพราะการครอบครองปรปักษ์ยังไม่ครบ 10 ปี ตามมาตรา 1382
ข้อ 4 นายสำลีเป็นพ่อค้ารับซื้อของเก่า นายสำลีได้มาซื้อบ้านพร้อมที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งที่ดินแปลงนั้นด้านหลังติดที่ดินของนายส้ม นายสำลีจึงได้ใช้ที่ดินบางส่วนของนายส้มเก็บของเก่าที่นายสำลีรับซื้อมาและยังเดินผ่านที่ดินของนายส้มเข้าไปตักน้ำในคลองสาธารณะที่อยู่ติดกับที่ดินของนายส้มเพื่อมาใช้ทำความสะอาดของเก่าเตรียมไว้ขายให้โรงงาน โดยนายส้มไม่ทราบถึงการกระทำของนายสำลีเลยนายสำลีใช้ที่ดินและเดินผ่านที่ดินของนายส้มเข้าไปตักน้ำมาได้สิบสองปี นายส้มได้ห้ามนายสำลีไม่ให้เข้ามาในที่ดินของนายส้มไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น แต่นายสำลีโต้แย้งว่าตนได้ภาระจำยอมโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า ข้อโต้แย้งของนายสำลีรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ส่วนนายส้มจะฟ้องศาลห้ามไม่ไห้นายสำลีเข้ามารบกวนการครอบครองที่ดินของตนและเรียกค่าสินไหมทดแทนจากนายสำลีได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1387 อสังหาริมทรัพย์อาจต้องตกอยู่ในภาระจำยอมอันเป็นเหตุให้เจ้าของต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์นั้นเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น
มาตรา 1374 ถ้าผู้ครอบครองถูกรบกวนในการครอบครองทรัพย์สิน เพราะมีผู้สอดแทรกเข้าเกี่ยวข้องโดยมิชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้ครอบครองมีสิทธิให้ปลดเปลื้องการรบกวนนั้นได้
มาตรา 193/29 เมื่อไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นเหตุยกฟ้องไม่ได้
นายสำลีมีบ้านพร้อมที่ดินซึ่งที่ดินด้านหลังติดที่ดินของนายส้ม นายสำลีจึงได้ใช้ที่ดินของนายส้มเก็บของเก่าที่นายสำลีซื้อมา และยังเดินผ่านที่ดินของนายส้มเข้าไปตักน้ำในคลองสาธารณะที่อยู่ติดกับที่ดินของนายส้มเพื่อมาใช้ทำความสะอาดของเก่าเตรียมไว้ขายให้โรงงาน โดยนายส้มไม่ทราบถึงการกระทำของนายสำลีเลย นายสำลีใช้ที่ดินและเดินผ่านที่ดินของนายส้มเข้าไปตักน้ำมาได้สิบสองปี นายส้มได้ห้ามนายสำลีไม่ให้เข้ามาในที่ดินของนายส้มไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น แต่นายสำลีโต้แย้งว่าตนได้ภารจำยอมโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ข้อโต้แย้งของนายสำลีฟังไม่ได้เพราะการใช้ที่ดินของนายส้มเก็บของเก่า และยังเดินผ่านเข้าไปตักน้ำมาใช้ทำความสะอาดของเก่าเตรียมไว้ขายให้โรงงานไม่ใช่เพื่อประโยชน์อสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 1387 นายส้มจะฟ้องศาลห้ามไม่ให้นายสำลีเข้ามารบกวนการครอบครอง ศาลสามารถยกระยะเวลาฟ้องปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครองได้ว่าเลยระยะเวลา 1 ปีแล้วตามมาตรา 1374 เพราะเป็นระยะเวลาฟ้องร้องไม่ใช่สิทธิเรียกร้อง ส่วนค่าสินไหมทดแทนต้องฟ้องร้องภายในหนึ่งปี และเป็นอายุความสิทธิเรียกร้องเป็นไปตามมาตรา 193/29