การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2547
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2001 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ
ข้อ 1 อาทิตย์ครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของจันทร์มาเป็นเวลากว่าสิบปี โดยไม่ได้ไปยื่นขอเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดและยังคงครอบครองต่อไปจนในปีที่ 15 จันทร์เจ้าของเดิมได้ขายที่ดินแปลงนี้ให้พฤหัส โดยพฤหัสเพิ่งชำระค่าที่ดินเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของราคาที่ตกลงกัน และส่วนที่เหลือยังคงขอผ่อนชำระเป็นงวดๆ แต่ได้จดทะเบียนโอนเป็นของพฤหัสแล้ว โดยพฤหัสไม่มีเวลาไปดูที่ดินก่อนซื้อจึงไม่ทราบว่ามีอาทิตย์เป็นผู้ครอบครองปรปักษ์
หลังจากซื้อแล้วพฤหัสขอให้อาทิตย์ย้ายออกจากที่ดิน แต่อาทิตย์อ้างว่าตนครอบครองจะได้กรรมสิทธิ์แล้ว การที่จันทร์ขายให้พฤหัสย่อมเป็นโมฆะ อาศัยหลักกฎหมายทั่วไปที่ว่า ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน เมื่อจันทร์ไม่มีกรรมสิทธิ์ พฤหัสก็ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ ดังนั้น ให้ท่านวินิจฉัยว่าระหว่างอาทิตย์กับพฤหัส ใครเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินแปลงนี้ดีกว่ากัน
ธงคำตอบ
มาตรา 1299 วรรคสอง ถ้ามีผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม สิทธิของผู้ได้มานั้น ถ้ายังมิได้จดทะเบียนไซร้ ท่านว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และสิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนนั้น มิให้ยกเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว
วินิจฉัย
อาทิตย์เป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินมาโดยการครอบครองปรปักษ์ แต่เมื่อยังมิได้เปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียน ย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกตามมาตรา 1299 วรรคสองไม่ได้ พฤหัสเป็นบุคคลภายนอกผู้จดทะเบียนสิทธิโอนที่ดินแล้ว แม้จะยังชำระราคาไม่ครบถ้วนก็ถือว่าเป็นผู้เสียค่าตอบแทน การที่พฤหัสซื้อที่ดินโดยไม่ได้ไปดูจึงไม่รู้ว่าอาทิตย์ครอบครองปรปักษ์ ก็ยังถือว่าเป็นการซื้อโดยสุจริต (ฎ. 847/2523) ดังนั้น พฤหัสจึงเป็นบุคคลภายนอกผู้มีสิทธิดีกว่าอาทิตย์
การที่อาทิตย์อ้างหลักผู้รับโอนย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ย่อมอ้างไม่ได้ (ฎ. 472/2513)
ข้อ 2 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายแม้ว ซึ่งเป็นผู้ล้มละลายและได้ประกาศขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล โดยนายป๋องเป็นผู้ให้ราคาสูงสุดและศาลมีคำสั่งขายที่ดินให้แก่นายป๋องภายหลังจากที่นายป๋องจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อในโฉนดเป็นของตนแล้ว นายป๋องจึงรู้ว่าที่ดินนั้นนายแม้วได้จดทะเบียนจำนองไว้กับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ต่อมาธนาคารแห่งนั้นได้ฟ้องบังคับจำนอง กรณีนี้นายป๋องจะคัดค้านการบังคับจำนองได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1330 สิทธิของบุคคลผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตในการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ในคดีล้อละลายนั้น ท่านว่ามิเสียไป ถึงแม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าทรัพย์สินนั้นมิใช่ของจำเลย หรือลูกหนี้โดยคำพิพากษา หรือผู้ล้มละลาย
วินิจฉัย
แม้นายป๋องเป็นผู้ซื้อทรัพย์สินโดยสุจริตจากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาล และสิทธิของนายป๋องจะมิเสียไปแม้ภายหลังจะพิสูจน์ได้ว่าที่ดินมีโฉนดแปลงนั้นจะมิใช่ของนายแม้วลูกนี้ผู้ล้มละลายตาม ป.พ.พ. มาตรา 1330 ก็ตาม แต่มิได้หมายความว่าทรัพย์ที่ซื้อมานั้นจะปลอดจากภาระผูกพันใดๆด้วย ดังนั้น การที่ธนาคารรับจำนองไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย การจำนองย่อมตกติดไปกับที่ดินที่นายป๋องซื้อมาด้วย ธนาคารจึงมีสิทธิบังคับจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวได้ นายป๋องไม่สามารถคัดค้านการบังคับจำนอง
ข้อ 3 นางส่งเป็นบิดาของนายสีซึ่งมีที่ดินอยู่ใกล้กับที่ดินของนายสี นายสีได้วางสายไฟฟ้าพาดผ่านที่ดินของนายส่งเข้ามาในที่ดินของตนโดยไม่ได้บอกกล่าวกับนายส่ง ซึ่งนายส่งเองก็รู้แต่ก็ไม่ได้ห้าม ต่อมานายส่งได้ขายที่ดินของนายส่งแปลงนั้นให้นายสุด นายสุดได้เรียกให้นายสีรื้อถอนสายไฟฟ้าออกไปแต่นายสีไม่ยอม เมื่อนายสุดซื้อที่ดินแปลงนี้มาได้สามปี นายสีก็ได้วางสายโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้าและวางท่อประปาผ่านที่ดินของนายสุดอีก โดยนายสุดไม่ทราบเพราะไม่เคยเข้าไปดูแลที่ดินเลย นายสีวางสายโทรศัพท์ ท่อประปามาได้แปดปี นายสุดจึงได้ฟ้องร้องต่อศาลให้นายสีรื้อถอนเสาไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ท่อประปาออกไปจากที่ดินของตน นายสีจะต่อสู้ว่าตนได้ภารจำยอมในการวางสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ท่อประปาบาที่ดินของนายสุดแปลงนั้นแล้ว ข้อต่อสู้ของนายสีรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
มาตรา 1401 ภาระจำยอมอาจได้มาโดยอายุความ ท่านให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ 3 แห่งบรรพนี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
วินิจฉัย
นางส่งเป็นบิดาของนายสีซึ่งมีที่ดินอยู่ใกล้กับที่ดินของนายสี นายสีได้วางสายไฟฟ้าพาดผ่านที่ดินของนายส่งเข้ามาในที่ดินของตน โดยไม่ได้บอกกล่าวกับนายส่ง ซึ่งนายส่งเองก็รู้แต่ก็ไม่ได้ห้ามเป็นการใช้ภารจำยอมโดยฉันญาติมิตรไม่ก่อให้เกิดการนับอายุความปรปักษ์ เป็นการได้ภารจำยอมโดยนิติกรรมสัญญา แต่เมื่อนายส่งได้ขายที่ดินของนายส่งแปลงนั้นให้นายสุด นายสุดได้เรียกให้นายสีรื้อถอนเสาไฟฟ้าออกไปแต่นายสีไม่ยอม จึงเป็นการเริ่มนับอายุความครอบครองปรปักษ์เพื่อให้ได้ภารจำยอมแล้ว เมื่อนายสุดซื้อที่ดินแปลงนี้มาได้สามปี นายสีก็ได้วางสายโทรศัพท์บนเสาไฟฟ้าและวางท่อประปาผ่านที่ดินของนายสุดอีก โดยนายสุดไม่ทราบเพราะไม่เคยเข้าไปดูแลที่ดินเลย นายสีวางสายโทรศัพท์ ท่อประปามาได้แปดปี นายสุดจึงได้ฟ้องร้องต่อศาลให้นายสีรื้อถอนเสาไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ท่อประปาออกไปจากที่ดินของตน นายสีได้ภารจำยอมในการวางสายไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนสายโทรศัพท์ ท่อประปา ยังไม่ได้ภารจำยอมเพราะยังครอบครองปรปักษ์ไม่ครบสิบปี
ข้อ 4 นายดำครอบครองปรปักษ์ทำเกษตรกรรมในที่ดินมีโฉนดของนายแดงมาได้สามปี นายขาวบุตรชายของนายดำซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บไม่มีใครดูแล นายดำจึงได้เข้ามากรุงเทพฯเพื่อมาดูแลบุตรชายที่บาดเจ็บอยู่หนึ่งปีโดยนายดำไม่ได้เข้าไปครอบครองประกอบการเกษตรชั่วคราวบนที่ดินแปลงนั้น เมื่อนายขาวหายป่วย นายดำจึงได้กลับเข้าไปเพาะปลูกครอบครองที่ดินของนายแดงต่อมาได้เจ็ดปี นายแดงได้ขับไล่ให้นายดำออกไปจากที่ดินแลงนั้น ให้ท่านวินิจฉัยว่านายดำได้กรรมสิทธิ์บนที่ดินแปลงนั้นแล้วหรือยัง นายดำจะต้องออกไปจากที่ดินแปลงนั้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1377 วรรคหนึ่ง ถ้าผู้ครอบครองสละเจตนาครอบครอง หรือไม่ยึดถือทรัพย์สินต่อไปไซร้ การครอบครองย่อมสิ้นสุดลง
มาตรา 1384 “ถ้าผู้ครอบครองขาดยึดถือทรัพย์สินโดยไม่สมัคร และได้คืนภายในเวลาหนึ่งปีนับแต่วันขาดยึดถือ หรือได้คืนโดยฟ้องคดีภายในกำหนดนั้นไซร้ ท่านมิให้ถือว่าการครอบครองสะดุดหยุดลง”
วินิจฉัย
นายดำครอบครองปรปักษ์ทำเกษตรกรรมในที่ดินมีโฉนดของนายแดงมาได้สามปี นายขาวบุตรชายของนายดำซึ่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บไม่มีใครดูแล นายดำจึงได้เข้ามากรุงเทพฯเพื่อมาดูแลบุตรชายที่บาดเจ็บอยู่หนึ่งปี นายดำไม่ได้ทำการเกษตรชั่วคราวบนที่ดินแปลงนั้นเป็นการขาดการยึดถือทรัพย์สินทำให้การครอบครองของนายดำสิ้นสุดลงตามมาตรา 1377 วรรคหนึ่ง การเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อมาดูแลบุตรชายที่บาดเจ็บถือเป็นนายดำขาดการยึดถือโดยสมัครใจไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 1384 เมื่อนายขาวหายป่วยนายดำจึงได้กลับเข้ามาอยู่บนที่ดินแปลงนี้เหมือนเดิมและได้ทำการเกษตรบนที่ดินของนายแดงต่อมาได้เจ็ดปี นายแดงได้ขับไล่ให้นายดำออกไปจากที่ดินแปลงนั้น การครอบครองในช่วงหลังของนายแดงครอบครองปรปักษ์ได้เพียงเจ็ดปี ยังไม่ครบสิบปีจึงยังไม่ได้กรรมสิทธิ์บนที่ดินของนายแดงโดยการครอบครองปรปักษ์ นายดำจึงต้องออกไปจากที่ดินแปลงนั้นเมื่อนายแดงขับไล่