การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2545
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW1002 หลักกฎหมายเอกชน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)
ข้อ 1 ก. การตีความกฎหมายแพ่ง มีความแตกต่างกับการตีความกฎหมายอาญาอย่างไร
ข สิทธิตามกฎหมายเอกชนคืออะไร สิทธิตามกฎหมายเอกชนมีบ่อเกิดจากอะไรบ้าง จงอธิบาย
ธงคำตอบ
ก. การตีความกฎหมายแพ่งมีหลักเช่นเดียวกับการใช้กฎหมายแพ่งคือ ต้องตีความตามตัวอักษรประกอบกับเจตนารมณ์ของกฎหมายพร้อมกันไป โดยมีหลักในการตีความดังนี้
1 การตีความตามตัวอักษร ต้องพิจารณาความหมายของตัวอักษรว่ามีความหมายอย่างไร ถ้อยคำหรือคำศัพท์ของตัวอักษรนั้นเป็นศัพท์ธรรมดาหรือศัพท์ทางวิชาการ เมื่อได้ความหมายของตัวอักษรแล้วจึงพิจารณาตีความตามเจตนารมณ์ประกอบต่อไป
2 การตีความตามเจตนา พิจารณาจาก
1 ที่มา หรือประวัติความเป็นมาของกฎหมาย
2 ตำแหน่งหรือหมวดหมู่ของกฎหมาย
3 ถ้อยคำของกฎหมาย
4 สถานการณ์ในขณะที่บัญญัติกฎหมายนั้น รวมทั้งรายงานการประชุมของฝ่ายนิติบัญญัติ
ส่วนการตีความกฎหมายอาญานั้น จะต้องตีความอย่างเคร่งครัด คือจะต้องพิจารณาตามตัวอักษร โดยไม่ต้องพิจารณาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมาย ตามที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 บัญญัติว่า “บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญา ต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้น บัญญัติว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้” ดังนั้น การใช้กฎหมายอาญาจึงต้องพิจารณาจากตัวอักษรโดยไม่ต้องพิจารณาเจตนารมณ์ของกฎหมายแต่อย่างใด ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด ก็จะเอาโทษทางอาญาและลงโทษบุคคลนั้นไม่ได้
ข. สิทธิตามกฎหมายเอกชน คือ สิทธิที่เอกชนมีต่อกันเอง กล่าวคือเป็นสิทธิที่เอกชนคนหนึ่งซึ่งมีอำนาจเหนือบุคคลอื่นในฐานะผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินก็ดี หรือผู้เป็นเจ้าหนี้ก็ดี มีอำนาจที่จะบังคับให้บุคคลอื่นซึ่งมีฐานะเป็นลูกหนี้มีหน้าที่ชำระหนี้โดยการกระทำการ งดเว้นกระทำการ หรือส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ตน
สิทธิตามกฎหมายเอกชนมีบ่อเกิด 5 ทางด้วยกันคือ
1 นิติกรรมสัญญา
2 ละเมิด
3 จัดการงานนอกสั่ง
4 ลาภมิควรได้
5 บทบัญญัติแห่งกฎหมาย
ข้อ 2 จงอธิบายว่า “การตายพร้อมกัน” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยบุคคล (มาตรา 17 ) นั้น หมายความว่าอย่างไร มาโดยถูกต้องและครบถ้วน
ธงคำตอบ
มาตรา 17 บัญญัติว่า “ในกรณีที่บุคคลหลายคนตายในเหตุภยันตรายร่วมกัน ถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะกำหนดได้ว่าคนไหนตายก่อนหลัง ให้ถือว่าตายพร้อมกัน”
มาตรา 17 ต้องการแก้ไขปัญหาในกรณีไม่แน่ชัดว่าใครตายก่อนหรือหลัง ในเหตุภยันตรายเดียวกัน ซึ่งอาจก่อปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการรับมรดกได้ เพรากฎหมายเรื่องรับมรดกได้กำหนดให้คนตายทีหลังได้มรดกของคนตายก่อน ดังนั้นเมื่อกำหนดให้ตายพร้อมกัน หากเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดผลคือไม่มีใครรับมรดกใครได้เลย
แต่การตายตามมาตรา 17 จะถือว่าเป็นการตายพร้อมกันเมื่อครบเงื่อนไข 2 ประการคือ
1 บุคคลหลายคนตายในเหตุภยันตรายร่วมกัน ตัวอย่างเช่น การเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารลำเดียวกันแล้วเกิดเหตุเครื่องบินตก
2 ถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะกำหนดได้ว่า ใครตายก่อนตายหลัง ตัวอย่างเช่น เมื่อเครื่องบินตกและมีการเข้าไปช่วยเหลือในภายหลังมีภยันตรายแล้วปรากฏว่าผู้โดยสารตายหมดแล้ว
ข้อ 3 นายไก่เป็นคนร่างกายพิการมาแต่กำเนิด มีอาชีพขายล็อตเตอรี่เลี้ยงชีพ เมื่อมีอายุย่างเข้า 15 ปี ได้ทำพินัยกรรมยกที่ดิน 1 แปลง ให้แก่จุ๋มจิ๋มคนที่ตนหลงรัก หลังจากนั้นเมื่อมีอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ ได้จดทะเบียนสมรสกับนางไข่ และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือนางสาวเป็ด เมื่อนางสาวเป็ดเรียนจบมหาวิทยาลัย รู้สึกอับอายที่บิดาหาเลี้ยงครอบครัวโดยขายล็อตเตอรี่ บอกให้เลิกก็ไม่เลิก ต้องการจะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่บิดาของตนเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถได้หรือไม่ เพราะเหตุใด และถ้านายไก่ถึงแก่กรรม พินัยกรรมที่นายไก่ทำไว้ จะมีผลในทางกฎหมายอย่างไร จงอธิบาย
ธงคำตอบ
มาตรา 25 ผู้เยาว์อาจทำพินัยกรรมได้เมื่อมีอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์
มาตรา 1703 พินัยกรรมซึ่งบุคคลที่มีอายุยังไม่ครบสิบห้าปีบริบูรณ์ทำขึ้นนั้นเป็นโมฆะ
มาตรา 28 บุคคลวิกลจริตผู้ใด ถ้าคู่สมรสก็ดี ผู้บุพการี กล่าวคือ บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ทวดก็ดี ผู้สืบสันดาน กล่าวคือ ลูกหลานเหลนลื่อก็ดี ผู้ปกครองหรือผู้พิทักษ์ก็ดี ผู้ซึ่งปกครองดูแลบุคคลนั้นอยู่ก็ดี หรือพนักงานอัยการก็ดี ร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถ ศาลจะสั่งให้บุคคลวิกลจริตผู้นั้นเป็นคนไร้ความสามารถก็ได้
มาตรา 32 วรรคแรก บัญญัติว่า “บุคคลใดมีกายพิการหรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติดสุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้นจนไม่สามารถจะจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว เมื่อบุคคลตามที่ระบุไว้ในมาตรา 28 ร้องขอต่อศาล ศาลจะสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถก็ได้”
วินิจฉัย
นายไก่ทำพินัยกรรมเมื่อมีอายุยังไม่ครบ 15 ปีบริบูรณ์ ผลจึงเป็นโมฆะ (มาตรา 25, 1703 )
นางสาวเป็ดลูกสาวจะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่บิดาของตนเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถไม่ได้ เพราะแม้นายไก่จะเป็นคนที่ร่างกายพิการ แต่สามารถจัดทำการงานโดยตนเองได้และไม่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัวแต่อย่างใด ทำให้นางสาวเป็ดจะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถไม่ได้ (มาตรา 28 , 32)
ดังนั้นพินัยกรรมที่นายไก่ทำขึ้นเป็นโมฆะ และนางสาวเป็ดจะร้องขอต่อศาลให้สั่งให้นายไก่เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถไม่ได้