การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2555
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน นายหน้า
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 ก มอบ ข ให้เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไป วันหนึ่งมี ค มาขอเช่าที่ดินกับ ข ข ได้ทำสัญญาเช่ามีระยะเวลา 5 ปี อยากทราบว่า
(1) สัญญาเช่าที่ ข ทำไปนั้นผูกพัน ก ตัวการกี่ปี
(2) ข มีอำนาจให้เช่าได้กี่ปี
(3) ข มีอำนาจทำสัญญาให้ ค เช่าที่ดินมีระยะเวลา 5 ปี ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
(4) ถ้า ข ทำสัญญาเกินอำนาจไป ข จะมีความรับผิดประการใด และจะทำประการใดจึงจะทำให้สัญญาเช่านั้นผูกพัน ก ตัวการ และมีความสมบูรณ์
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 800 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ท่านว่าจะทำการแทนตัวการได้แต่เพียงในสิ่งจำเป็น เพื่อให้กิจอันเขาได้มอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จลุล่วงไป
มาตรา 801 ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจทั่วไป ท่านว่าจะทำกิจใดๆในทางจัดการแทนตัวการก็ย่อมทำได้ทุกอย่าง
แต่การเช่นอย่างจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านว่าหาอาจจะทำได้ไม่ คือ
2 ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่าสามปีขึ้นไป
มาตรา 822 ถ้าตัวแทนทำการอันใดเกินอำนาจตัวแทน แต่ทางปฏิบัติของตัวการทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่าการอันนั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทน ท่านให้ใช้บทบัญญัติมาตราก่อนนี้เป็นบทบังคับแล้วแต่กรณี
มาตรา 823 ถ้าตัวแทนกระทำการอันใดอันหนึ่งโดยปราศจากอำนาจก็ดี หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจก็ดี ท่านว่าย่อมไม่ผูกพันตัวการเว้นแต่ตัวการจะให้สัตยาบันแก่การนั้น
ถ้าตัวการไม่ให้สัตยาบัน ท่านว่าตัวแทนย่อมต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นได้รู้อยู่ว่าตนทำการโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกเหนือขอบอำนาจ
วินิจฉัย
(1) ตามบทบัญญัติมาตรา 801 การที่ ก มอบ ข ให้เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไป โดยหลักแล้ว ข จะทำการใดๆในฐานะตัวแทนก็ย่อมทำได้ทุกอย่าง แต่อาจมีข้อยกเว้นบางอย่างที่ ข ไม่สามารถทำได้ เช่น ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่า 3 ปีขึ้นไป ตามมาตรา 801 วรรคสอง(2) ดังนั้น สัญญาเช่าที่ ข ให้เช่าไป 5 ปี จึงผูกพัน ก ตัวการเพียง 3 ปีเท่านั้น ตามอำนาจที่ ข มี
(2) บทบัญญัติมาตรา 801 วรรคสอง(2) ได้กำหนดไว้ว่า ตัวแทนจะจัดการแทนตัวการในการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ได้เพียง 3 ปีเท่านั้น หากเกินกว่านั้นมิอาจทำได้ ดังนั้น ข จึงมีอำนาจให้เช่าได้เพียง 3 ปี
(3) เมื่อ ข เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไป ข จึงไม่มีอำนาจทำสัญญาให้ ค เช่าที่ดิน มีระยะเวลา 5 ปี ตามมาตรา 801 วรรคสอง(2) ซึ่งบัญญัติหลักไว้ว่า การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่า 3 ปีขึ้นไป ตัวแทนรับมอบอำนาจทั่วไปหาอาจจะทำได้ไม่
(4) การที่ ข ทำสัญญาเช่าเกินไป 2 ปี เท่ากับ ข ทำเกินอำนาจตามมาตรา 822 ซึ่งส่วนเกินนั้นให้ถือว่า ข ทำการโดยปราศจากอำนาจตามมาตรา 823 การนั้นจึงไม่ผูกพันตัวการ ข จะต้องรับผิดโดยลำพัง เว้นแต่ ก ตัวการจะให้สัตยาบัน
และหากจะให้สัญญาเช่า 5 ปี ที่ ข ทำไปนั้นผูกพันตัวการทั้ง 5 ปี ก จะต้องมอบอำนาจเฉพาะการตามมาตรา 800 เป็นการให้สัตยาบันว่า ข ทำสัญญาเช่า 5 ปีได้ สัญญาจึงจะใช้บังคับ 5 ปีได้ และผูกพัน ก ตัวการ
สรุป จากคำถาม (1) – (4) นั้น วินิจฉัยได้ตามเหตุผล และหลักกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 2 ก มอบให้ ข ออกหน้าเป็นตัวการแทนตน โดยให้เป็นผู้จัดการร้านค้า โดยเป็นตัวแทนขายส่งสินค้ายี่ห้อแบรนด์เนม ข ส่งสินค้าให้ ค ที่สั่งสินค้าไว้หลายรายการ เป็นเงินหลายแสนบาท แต่ ข ส่งให้ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ในสัญญา ทำให้ลูกค้าของ ค ยกเลิกสินค้าทั้งหมด ค ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนหลายแสนบาท ขณะนั้น ก ตัวการยังไม่ได้เปิดเผยชื่อ แค่ ค ก็ไปรู้มาว่า ข เป็นเพียงตัวแทน แต่ ก คือตัวการ ดังนี้ ให้ท่านวินิจฉัยว่า จะถือว่า ก เปิดเผยชื่อแล้วหรือยัง ค จะฟ้อง ก ตัวการได้หรือไม่ เพราะเหตุใด และ ก จะปฏิเสธว่า ค ไม่มีอำนาจฟ้อง ก เพราะ ก ตั้ง ข มิได้ทำเป็นหนังสือ จึงฟ้องไม่ได้ ข้ออ้างของ ก ฟังขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 798 กิจการอันใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องทำเป็นหนังสือด้วย
กิจการอันใดท่านบังคับไว้ว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย
มาตรา 806 ตัวการซึ่งมิได้เผยชื่อจะกลับแสดงตนให้ปรากฏและ เข้ารับเอาสัญญาใด ๆ ซึ่งตัวแทนได้ทำไว้แทนตนก็ได้ แต่ถ้าตัวการ ผู้ใดได้ยอมให้ตัวแทนของตนทำการออกหน้าเป็นตัวการไซร้ ท่านว่า ตัวการผู้นั้นหาอาจจะทำให้เสื่อมเสียถึงสิทธิของบุคคลภายนอกอันเขามีต่อตัวแทนและเขาขวนขวายได้มาแต่ก่อนที่รู้ว่าเป็นตัวแทนนั้น ได้ไม่
มาตรา 820 ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน
วินิจฉัย
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ ก มอบให้ ข ออกหน้าเป็นตัวการแทนตน โดยเป็นตัวแทนขายส่งสินค้ายี่ห้อแบนด์เนม และ ก ตัวการยังมิได้เปิดเผยชื่อนั้น ถือเป็นเรื่องตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ตามมาตรา 806 โดยหลักแล้ว เมื่อ ค บุคคลภายนอกได้รับความเสียหาย ข จะต้องรับผิดต่อ ค เช่นเดียวกับเป็นตัวการเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อปรากฏว่า ค ได้รู้แล้วว่า ข เป็นเพียงตัวแทน แต่ ก คือตัวการ ย่อมถือว่า ก ได้เปิดเผยชื่อแล้ว ดังนั้น เมื่อเป็นเรื่องตัวการไม่เปิดเผยชื่อตามมาตรา 806 และบุคคลภายนอกรู้แล้วว่าตัวการคือใคร ข ตัวแทนจึงหลุดพ้นจากความรับผิด ค จึงฟ้อง ก ตัวการให้รับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ และ ก จะปฏิเสธว่า ค ไม่มีอำนาจฟ้อง ก เพราะ ก ตั้ง ข เป็นตัวแทนโดยมิได้ทำเป็นหนังสือไม่ได้ เพราะบทบัญญัติมาตรา 806 เป็นข้อยกเว้นของมาตรา 798 นอกจากนี้ ก ยังต้องรับผิดตามมาตรา 820 อีกด้วย เพราะถึงอย่างไร ก ตัวการก็ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต ดังนั้น ข้ออ้างของ ก จึงฟังไม่ขึ้น
สรุป ค สามารถฟ้อง ก ตัวการได้ และ ก จะปฏิเสธว่า ค ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะ ก ตั้ง ข เป็นตัวแทนโดยมิได้ทำเป็นหนังสือไม่ได้ ข้ออ้างของ ก ฟังไม่ขึ้น
ข้อ 3 ก มอบอำนาจให้ ข ขายที่ดิน โดยตกลงว่าจะให้ค่านายหน้า ข นำเสนอขาย ค ค ตกลงซื้อ ข นำ ก และ ค เข้าทำสัญญากัน ภายหลังทำสัญญาแล้วปรากฏว่าการซื้อขายเลิกกัน เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา ให้ท่านวินิจฉัยว่า ข ยังจะได้ค่านายหน้าหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
หลักกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 845 วรรคแรก บุคคลผู้ใดตกลงจะให้ค่าบำเหน็จแก่นายหน้า เพื่อที่ชี้ช่องให้ได้เข้าทำสัญญาก็ดี จัดการให้ได้ทำสัญญากันก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จก็ต่อเมื่อสัญญานั้นได้ทำกันสำเร็จ เนื่องแต่ผลแห่งการที่นายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการนั้น ถ้าสัญญาที่ได้ทำกันไว้นั้นมีเงื่อนไขเป็นเงื่อนบังคับก่อนไซร้ ท่านว่าจะเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้ายังหาได้ไม่จนกว่าเงื่อนไขนั้นสำเร็จแล้ว
วินิจฉัย
จากบทบัญญัติมาตรา 845 วรรคแรก จะเห็นได้ว่า ลักษณะของสัญญานายหน้านั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งตกลงให้นายหน้าเป็นผู้ชี้ช่องทาง หรือจัดการจนเขาได้ทำสัญญากับบุคคลภายนอก และนายหน้ารับกระทำการตามนั้น และเมื่อนายหน้าได้ชี้ช่องหรือจัดการจนเขาได้เข้าทำสัญญากันแล้ว นายหน้าย่อมจะได้รับค่าบำเหน็จ
กรณีตามอุทาหรณ์ การที่ ก ได้ตกลงให้ ข ขายที่ดินโดยตกลงว่าจะให้ค่านายหน้านั้น เมื่อปรากฏว่า ข ได้นำที่ดินเสนอขาย ค ค ตกลงซื้อ และ ข ได้นำ ก และ ค เข้าทำสัญญาซื้อขายกัน ดังนี้ ย่อมถือว่า ข ได้ทำหน้าที่ของตนในฐานะนายหน้าครบถ้วนแล้ว แม้ต่อมาภายหลังการซื้อขายได้เลิกกัน เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาก็ตาม ข ก็ยังมีสิทธิจะได้รับค่าบำเหน็จนายหน้าอยู่ตามมาตรา 845 วรรคแรก (ฎ.517/2494)
สรุป ข ยังจะได้รับค่าบำเหน็จนายหน้าอยู่