การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2563
ข้อสอบกระบวนวิชา HIS 1001 อารยธรรมตะวันตก
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1.พีระมิด สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใด
(1) สถานที่เก็บรักษาพระศพของฟาโรห์
(2) สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา บูชาเทพเจ้า
(3) พระราชวังที่ประทับของฟาโรห์
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 53 – 54, 64 – 65, 19 (H), 21 (H) การสร้างพีระมิดในสมัยอาณาจักรเก่าของอียิปต์นั้น เป็นการสร้างเพื่อถวายแก่ฟาโรห์ โดยมีจุดประสงค์สําคัญ 2 ประการ คือ
1. เชื่อว่าเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว ก็จะได้ไปร่วมมือกับเทพเจ้าเพื่อนําความอุดมสมบูรณ์ มาให้แก่อียิปต์เหมือนในสมัยที่ฟาโรห์ยังมีชีวิตอยู่
2. จากความเชื่อในเรื่องวิญญาณเป็นอมตะและโลกหน้า ทําให้มีการสร้างพีระมิดไว้เก็บรักษา พระศพของฟาโรห์ เพื่อรอการฟื้นคืนพระชนม์ชีพ
2.ข้อใดไม่ใช่บทบาทของสมาคมการค้าในช่วงปลายยุคกลาง
(1) ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของคนงานให้ดียิ่งขึ้น
(2) ช่วยดูแลครอบครัวของสมาชิกผู้เสียชีวิตจากการทํางาน
(3) กําหนดราคาและคอยดูแลคุณภาพของสินค้า
(4) กําหนดชั่วโมงการทํางานและค่าแรงของคนงาน
ตอบ 1 หน้า 289 – 290, (คําบรรยาย) บทบาทสมาคมการค้าในช่วงปลายยุคกลาง ได้แก่
1. กําหนดชั่วโมงการทํางานและค่าแรงของคนงาน
2. กําหนดราคาที่แน่นอน และควบคุมดูแลคุณภาพและปริมาณของสินค้า
3. ให้ความช่วยเหลือแก่ภรรยาและบุตรของสมาชิกผู้เสียชีวิตจากการทํางาน
4. จัดให้คนงานได้รับความบันเทิงในวันหยุด เป็นต้น
3. สนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย มีความสําคัญอย่างไร
(1) ยอมรับอธิปไตยของราชวงศ์บูร์บองเหนือดินแดนเยอรมัน
(2) ประชาชนไม่ต้องนับถือศาสนาตามผู้ปกครองอีกต่อไป
(3) ยอมรับอํานาจของออสเตรียเหนือดินแดนเยอรมัน
(4) ยอมรับอํานาจอธิปไตยของแต่ละรัฐ
ตอบ 4 หน้า 391, 408, (คําบรรยาย) สนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย (Westphalia) ในปี ค.ศ. 1648 เป็น สัญญายุติสงครามสามสิบปี (ค.ศ. 1618 – 1648) ซึ่งเป็นกึ่งสงครามกลางเมืองเยอรมนีและ สงครามแข่งขันระหว่างตระกูลบูร์บองกับตระกูลแฮปสเบิร์ก ซึ่งนอกจากจะมีผลทําให้การรวม เยอรมนีช้าไปเป็นเวลา 200 ปีแล้ว สนธิสัญญาเวสต์ฟาเลียยังทําให้มีการยอมรับอํานาจอธิปไตย ของแต่ละรัฐหรือประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์และสวิตเซอร์แลนด์ได้เป็นเอกราช เจ้านครเยอรมัน มีอิสระในรัฐของตนเต็มที่ เป็นต้น
4.ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองอาณาจักรโรมันโดยพวกอนารยชน
(1) มีชีวิตแบบสังคมชนบท ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
(2) ไม่ใช้กฎหมายเป็นแบบแผน เน้นความรุนแรง การตัดสินแบบไม่ยุติธรรม
(3) มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
(4) เกิดการต่อสู้และสงครามระหว่างกลุ่มอนารยชนตลอดเวลา
ตอบ 3 หน้า 214 – 215, 61 (H), (คําบรรยาย) การปกครองอาณาจักรโรมันโดยพวกอนารยชน มีลักษณะที่สําคัญดังนี้
1. แตกแยกออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อยมากกว่าที่จะรวมกันเป็นปึกแผ่น
2. พวกอนารยชนไม่สร้างเมืองเหมือนพวกกรีก-โรมัน มีวิถีชีวิตแบบสังคมชนบทประกอบอาชีพเกษตรกรรม
3. พวกอนารยชนมักทําสงครามระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา จึงไม่มีเวลาพอที่จะทํานุบํารุง ศิลปวัฒนธรรม ทําให้อารยธรรมกรีก-โรมันเสื่อมลง
4. พวกอนารยชนไม่ใช้กฎหมายที่เป็นแบบแผน เน้นความรุนแรง การตัดสินเป็นแบบ ไม่ยุติธรรม โดยจะขึ้นอยู่กับการใช้อํานาจและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวกําหนด เป็นต้น
5. ข้อใดจัดเป็นหลักฐานดั้งเดิม Primary Record
(1) บทความ
(2) จารึก
(3) วารสาร
(4) หนังสือพิมพ์
ตอบ 2 หน้า 21, 12 (H), (คําบรรยาย) เรื่องราวที่ได้จารึกไว้เป็นหลักฐาน (Written Record) เป็น หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานที่สําคัญ ที่สุดในการศึกษาเรื่องราวของมนุษย์สมัยประวัติศาสตร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. หลักฐานดั้งเดิม (Primary Record) เช่น จารึกโบราณ หลักศิลาจารึก สนธิสัญญา จดหมายเหตุ เอกสารทางการทูต แถลงการณ์ของรัฐบาล พงศาวดาร ฯลฯ
2. หลักฐานรอง (Secondary Record) ได้แก่ หนังสือที่เรียบเรียงมาจากหลักฐานดั้งเดิม เช่น บทความ วารสาร หนังสือพิมพ์ ตําราอารยธรรมตะวันตก ฯลฯ
6. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่ทําให้เกิดการปฏิรูปศาสนา
(1) พระชั้นสูงมีความเป็นอยู่ที่ฟุ้งเฟ้อ และมักเรียกเก็บภาษีสูงขึ้น
(2) ศาสนาแบบเดิมใส่ใจเรื่องพิธีกรรมมากกว่าแก่นแท้
(3) แนวคิดมนุษยนิยมที่ส่งเสริมให้มนุษย์ใส่ใจกับโลกปัจจุบันมากกว่าโลกหน้า
(4) การค้นพบ “โลกใหม่” อย่างทวีปอเมริกา ทําให้เกิดการตั้งคําถามต่อสิ่งที่เขียนไว้ในไบเบิล
ตอบ 4 หน้า 377, 97 (H), (คําบรรยาย) ปัจจัยที่ทําให้เกิดการปฏิรูปศาสนา ได้แก่
1. สันตะปาปาหรือพระชั้นสูงมีความเป็นอยู่ที่ฟุ้งเฟ้อและฟุ่มเฟือย และมักเรียกเก็บภาษีสูงขึ้นสําหรับนําไปใช้จ่ายในสํานักวาติกัน
2. ศาสนาแบบเดิมใส่ใจเรื่องพิธีกรรมมากกว่าแก่นแท้ของศาสนา
3. มีการวิพากษ์วิจารณ์การฉ้อฉลและความประพฤติไม่ดีของพระ
4. นักมนุษยนิยมเผยแพร่แนวคิดที่ว่ามนุษย์ควรใส่ใจกับโลกปัจจุบันมากกว่าโลกหน้า (ชีวิตหลังความตาย) เพราะไม่มีประโยชน์ เป็นต้น
7. บรรพบุรุษของมนุษย์ปัจจุบัน (Primate) คือข้อใด
(1) Neanderthal
(2) East African Man
(3) Homo Faber
(4) Homo Sapiens
ตอบ 4 หน้า 11 – 12, 38, 10 (H) โฮโม เซเปียนส์ (Homo Sapiens) หรือมนุษย์ฉลาด เริ่มปรากฏขึ้น ครั้งแรกในยุคหินเก่าตอนปลาย ซึ่งถือเป็นมนุษย์ที่รู้จักคิดและรู้จักการโต้ตอบ มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ ปัจจุบันมากขึ้น และถือว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ปัจจุบัน (Primate) ซึ่งจะมีอยู่ 3 เผ่าพันธุ์ คือ
1. มนุษย์โครมันยอง (Cro-Magnon) หรือคนผิวขาว
2. มนุษย์กริมัลดี (Grimaldi) หรือคนผิวดํา
3. มนุษย์ชานเซอเลด (Chancelade) หรือคนผิวเหลืองหรือสีน้ําตาล
8. ศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลในช่วงสมัยอารยธรรมอียิปต์-เมโสโปเตเมีย คือข้อใด
(1) ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
(2) คลองสุเอซ
(3) ทะเลสาบแคสเปียน
(4) ทะเลแดง
ตอบ 1 (คําบรรยาย) ศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลในสมัยอารยธรรมอียิปต์และเมโสโปเตเมีย คือ ในน่านน้ําทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยชาวอียิปต์จะค้าขายทางเรือโดยใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า กับกลุ่มชนในดินแดนเมโสโปเตเมีย อันได้แก่ ปาเลสไตน์ ฟินิเซีย ซีเรีย และเอเชียไมเนอร์
9. ชนกลุ่มใดที่นําระบบฟิวดัลจากฝรั่งเศสเข้าสู่เกาะอังกฤษ
(1) บริตัน
(2) แซกซอน
(3) วิสิกอธ
(4) นอร์มัน
ตอบ 4 หน้า 271 – 273, 72 (H), 74 (H), (คําบรรยาย) กษัตริย์วิลเลียมที่ 1 (William I) แห่งนอร์มัน ทรงนํากองทัพเข้ารุกรานอังกฤษ สามารถรบชนะพวกแองโกลแซกซอน และเข้ายึดครองอังกฤษได้สําเร็จในปี ค.ศ. 1066 อีกทั้งได้นําเอาระบบฟิวดัลจากฝรั่งเศส เข้าสู่เกาะอังกฤษ ซึ่งทําให้มีผลตามมาคือ
1. กษัตริย์อังกฤษทรงมี 2 สถานภาพคือ มีฐานะเป็นเจ้า (Lord) สูงสุดในอังกฤษ แต่ต้อง มีฐานะเป็นข้า (Vassal) ของกษัตริย์ฝรั่งเศส ซึ่งจากสภาพดังกล่าวได้กลายเป็นชนวน ของสงครามร้อยปีระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
2. ภาษาฝรั่งเศสกลายเป็นภาษาของชนชั้นสูงและเป็นภาษาทางการในอังกฤษ
3. การนํารูปแบบแมเนอร์ (Manorial System) เข้ามาใช้ในอังกฤษ เป็นต้น
10. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
(1) สนธิสัญญาที่ร่างขึ้นหลังจบสงครามโลกครั้งที่ 1 คือสนธิสัญญาปารีส
(2) การปฏิวัติรัสเซีย มีส่วนสําคัญทําให้รัสเซียถอนตัวออกจากสงครามโลกครั้งที่
(3) การสังหารมกุฎราชกุมารแห่งออสเตรียเป็นชนวนสําคัญที่ทําให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 420, 534 – 535, 109 (H), 136 (H) ข้อความที่ถูกต้อง มีดังนี้
1. สนธิสัญญาที่ยุติสงครามเจ็ดปี (ค.ศ. 1756 – 1763) คือสนธิสัญญาปารีส
2. การปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1917 ภายใต้การนําของพรรคบอลเชวิค โดยมีเลนินเป็นผู้นํา ได้ส่งผลให้รัสเซียจําเป็นต้องถอนตัวออกจากสงครามโลกครั้งที่ 1
3. การสังหารมกุฎราชกุมารแห่งอาณาจักรออสเตรียโดยนักศึกษาชาวเซิร์ป เป็นชนวนสําคัญ ที่ทําให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างออสเตรีย-ฮังการีกับเซอร์เบีย
11. แนวคิดตลาดเสรีหรือนโยบายปล่อยโดยเสรีนั้น เป็นหลักการสําคัญของระบบเศรษฐกิจแบบใด
(1) รัฐนิยม
(2) พาณิชย์ชาตินิยม
(3) ทุนนิยม
(4) สังคมนิยม
ตอบ 3 หน้า 499 – 501, 502 อดัม สมิธ (Adam Smith) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาของ เศรษฐศาสตร์สมัยใหม่” ได้เสนอแนวคิดตลาดเสรีหรือนโยบายปล่อยเสรี (Laissez-Faire) คือ การที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดําเนินการค้าและธุรกิจของนายทุน ซึ่งถือเป็นหลักการสําคัญของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ทั้งนี้การเกิดขึ้นของลัทธิทุนนิยมที่นายทุน จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั้น ได้ก่อให้เกิดลัทธิสังคมนิยมของ คาร์ล มาร์กซ์ (Karl Marx) ซึ่งมีหลักการสําคัญเพื่อขจัดการเอารัดเอาเปรียบและกดขี่ขูดรีด ของระบบทุนนิยม
12. การต่อสู้ระหว่างทาส – สัตว์/ทาส – ทาส เพื่อให้ได้รับความเป็นอิสระ คือข้อใด
(1) Gradiator Combat
(2) Mortal Combat
(3) Circus Maximus
(4) Amphitheater
ตอบ 1 หน้า 177 – 179, 52 (H) ชาวโรมันเป็นกลุ่มชนที่นิยมการกีฬาและความบันเทิง ซึ่งที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่
1. การแข่งรถศึกเทียมม้าที่ Circus Maximus ซึ่งเป็นสนามที่จุคนดูได้ประมาณ 150,000 คน
2. การแข่งขันกีฬากลาดิเอเตอร์ (Gradiator Combat) ที่สนามโคลอสเซียม (Colosseum) ในกรุงโรม ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ระหว่างคนซึ่งอาจเป็นนักสู้ถืออาวุธ พวกฟรีดแมน หรือทาส กับทาส หรือทาสกับสัตว์ที่ดุร้ายก็ได้ ในกรณีที่เป็นการต่อสู้ของพวกทาส หากชนะก็จะแลก กับการได้รับอิสรภาพ
3. การจัดการแสดงละครที่โรงมหรสพรูปครึ่งวงกลม (Amphitheater) ซึ่งเป็นโรงละครขนาดใหญ่ในกรุงโรม
13. นักคิดคนใดเสนอแนวคิดเรื่องการแบ่งอํานาจเป็น นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ
(1) รุสโซ
(2) จอห์น ล็อค
(3) มองเตสกิเออ
(4) โวลแตร์
ตอบ 3 หน้า 447 – 448 มองเตสกิเออ (Montesquieu) เป็นนักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่มีแนวคิดใน ยุคประเทืองปัญญา โดยมองเตสกิเออยกตัวอย่างจากหลายรัฐบาลมาแยกวิเคราะห์ข้อดีและ ข้อบกพร่อง ซึ่งสรุปว่ายังไม่มีรัฐบาลที่ดีจริง ๆ ทั้งนี้รัฐบาลที่ดีต้องเหมาะแก่ภาวะภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และเผ่าพันธุ์ของปวงชนในแหล่งนั้น ๆ และที่สําคัญคือการแบ่งอํานาจออกเป็น ฝ่ายนิติบัญญัติ (Legislative) บริหาร (Executive) และตุลาการ (Judicial)
14. ความสําคัญของทฤษฎีโนแมดทางอารยธรรมเน้นในเรื่องใด
(1) การทําลายอารยธรรม
(2) สภาพภูมิอากาศ
(3) สภาพภูมิศาสตร์
(4) ผู้ชนะรับเอาอารยธรรมของผู้แพ้มาปรับใช้
ตอบ 4 หน้า 26 – 27, 13 (H) ทฤษฎีโนแมด (Nomad Theory) หมายถึง การที่ผู้ชนะยอมรับเอาอารยธรรมที่เจริญกว่าของผู้แพ้มาเผยแพร่และปรับใช้ เช่น กรณีที่พวกเซไมท์เข้ายึดครอง ดินแดนของพวกสุเมเรียน และรับเอาอารยธรรมของพวกสุเมเรียนมาปรับใช้ เป็นต้น
15. ข้อใดคือลักษณะสําคัญของระบอบการปกครองในอังกฤษช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17
(1) กษัตริย์มีอํานาจล้นพ้น ไม่มีผู้ใดขวางได้
(2) แบ่งปันทรัพย์สินให้ขุนนางและและประชาชนได้อย่างเท่าเทียม
(3) ใช้หลักคาทอลิกในการปกครอง
(4) รัฐสภาสามารถคัดค้านความต้องการของกษัตริย์ได้
ตอบ 4 หน้า 411 – 417 ลักษณะสําคัญประการหนึ่งของระบอบการปกครองในอังกฤษช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 17 คือ การที่รัฐสภาสามารถคัดค้านความต้องการของกษัตริย์ได้ เช่น ในสมัย พระเจ้าชาร์ลที่ 1 รัฐสภาได้เสนอการประกาศแห่งสิทธิ (Petition of Right) ค.ศ. 1628 ซึ่งเป็น การจํากัดพระราชอํานาจของกษัตริย์ เช่น การขึ้นภาษี การสั่งให้จําคุกบุคคลใดโดยพลการ เป็นต้น หรือการที่รัฐสภาได้ดําเนินการลดอํานาจกษัตริย์โดยการบังคับให้ทรงลงพระนามใน ประกาศแห่งสิทธิ (Bill of Rights) ค.ศ. 1689 ในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2
16. กลุ่มชนที่ได้รับฉายาว่า “พ่อค้าทางบก” คือกลุ่มใด
(1) อราเมียน
(2) อัคคาเดียน
(3) แคลเดียน
(4) ฟินิเชียน
ตอบ 1 หน้า 86 – 87, 27 (H) ความสําคัญของพวกอราเมียน คือ
1. ภาษาอาเซียนเป็นภาษากลางของกลุ่มเอเชียตะวันตก และเป็นภาษาที่พระเยซูและเหล่าสาวกใช้ในการสอนศาสนา
2. พวกอราเมียนได้รับฉายาว่าเป็น “พ่อค้าทางบก” ที่ยิ่งใหญ่ในเขตตะวันออกใกล้ (Near East) หรือบริเวณเอเชียตะวันตก
17. สันนิษฐานว่าแหล่งกําเนิดของมนุษย์อยู่ในทวีป
(1) ยุโรป
(2) อเมริกา
(3) เอเชียและแอฟริกา
(4) ออสเตรเลีย
ตอบ 3 หน้า 1 – 2, 8 (H) นักประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่าแหล่งกําเนิดของมนุษย์อยู่ในทวีปเอเชียและ แอฟริกา รวมทั้งบริเวณตอนกลางของทวีปเอเชียที่อยู่ติดกับยุโรป คือบริเวณยูเรเชีย (Eurasia) ซึ่งมีภูมิอากาศเหมาะสําหรับการพัฒนาของไพรเมท (Primate) ที่เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ ต่อมา มนุษย์เหล่านี้ก็ได้กระจัดกระจายออกไปตั้งถิ่นฐานในที่ต่าง ๆ ทั้งในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกา
18. ปรากฏการณ์ในข้อใดที่มีบทบาทสําคัญในการทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในช่วงปลายยุคกลาง
(1) การเกิดบรรษัทร่วมทุน
(2) การเติบโตของชนชั้นกลาง
(3) การลดภาษีของศาสนจักร
(4) การมีบทบาทของชาวยิว
ตอบ 2 หน้า 285 – 286, 77 (H), (คําบรรยาย) ภายหลังสงครามครูเสดได้เกิดชนชั้นใหม่ คือ ชนชั้นกลางหรือพวก Burghers หรือพวกที่อาศัยอยู่ในเมือง (Burgs) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เรียกตนเองว่า เสรีชน (Free Man) โดยคนกลุ่มนี้จะดําเนินชีวิตและประกอบอาชีพอิสระ คือ ทําการค้าและอุตสาหกรรม มีการใช้เงินตราแลกเปลี่ยน และปกครองตนเอง จึงเป็น พวกที่มีความมั่งคั่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบเงินตรา และเปลี่ยนสังคมให้นับถือ ความมั่งคั่งจนกลายเป็นชนชั้นกลางในเวลาต่อมา ซึ่งการเติบโตของชนชั้นกลางมีบทบาทสําคัญในการทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในช่วงปลายยุคกลาง
19. ผู้ที่เรียกชื่อวันในหนึ่งสัปดาห์ตามชื่อของดวงดาวในระบบสุริยะ คือกลุ่มใด
(1) ฮิทไทท์
(2) ฮิบรู
(3) แคลเดียน
(4) ฮิทไทท์
ตอบ 3 หน้า 82 – 84, 26 (H) ผลงานที่สําคัญของกลุ่มแคลเดียน คือ
1. การสร้างสวนลอยแห่งนครบาบิโลน (Hanging Garden of Babylonia)
2. การเรียกชื่อวันต่าง ๆ ทั้ง 7 วันใน 1 สัปดาห์ตามชื่อของดวงดาวในระบบสุริยะ
3. การหาระยะเวลาที่ดวงจันทร์หมุนรอบโลก เวลาที่เกิดสุริยคราสและจันทรคราส และคํานวณความยาวของปีทั้งหมดได้อย่างแม่นยํา
20. เครื่องมือสําคัญของสันตะปาปาในการจัดการความขัดแย้งกับกษัตริย์ในยุโรป คือข้อใด
(1) การยกกองทัพไปปราบปราม
(2) การใช้นโยบายทางการทูต
(3) การขับออกจากศาสนา
(4) การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ตอบ 3 หน้า 243, 250, 66 (H), (คําบรรยาย) การบัพพาชนียกรรม (Excommunication) คือ การประกาศขับไล่บุคคลใดบุคคลหนึ่งให้เป็นพวกนอกศาสนาหรือการขับออกจากศาสนา ทําให้ ไม่มีใครมาคบด้วยหรือถ้าเป็นกษัตริย์ก็จะถูกต่อต้านจากประชาชน ซึ่งการบัพพาชนียกรรมนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือสําคัญของสันตะปาปาในการจัดการความขัดแย้งกับกษัตริย์ในยุโรป ตัวอย่างเช่น กรณีพิพาทระหว่างสันตะปาปาเกรเกอรีที่ 7 กับจักรพรรดิเฮนรีที่ 4 เป็นต้น
21. ลักษณะโดดเด่นของชาวอัสสิเรียน คือข้อใด
(1) มีความเชี่ยวชาญในด้านการทําสงครามและรูปสลักนูนต่ํา, มีนิสัยดุร้าย
(2) เป็นผู้ถ่ายทอดระบบการใช้ปฏิทินให้กับกรีก-โรมัน
(3) การผลิตเหรียญกษาปณ์ครั้งแรก, มีความเชี่ยวชาญทางด้านการพาณิชย์
(4) ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ชอบสร้างสรรค์งานศิลปะ
ตอบ 1 หน้า 80 – 82, 25 – 26 (H) ลักษณะโดดเด่นของชาวอัสสิเรียน คือ
1. เป็นพวกนักรบที่มีนิสัยดุร้ายป่าเถื่อน และมีความเชี่ยวชาญในด้านการทําสงคราม
2. เป็นชนชาติแรกที่จัดระเบียบการปกครองจักรวรรดิอย่างมีระบบ
3. สร้างหอสมุดแห่งแรกของเอเชียตะวันตกคือ หอสมุดที่กรุงนิเนอเวห์ในสมัยพระเจ้า อัสซูร์บานิพัล
4. ชาวอัสสิเรียนได้รับฉายาว่าเป็น “ชาวโรมันตะวันออก” เพราะมีลักษณะเหมือนชาวโรมัน
5. ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากของอัสสิเรียนคือ การแกะสลักภาพนูนต่ําซึ่งสะท้อนถึงลักษณะ ที่ดุร้ายของชาวอัสสิเรียน เป็นต้น
22. ชนชาติชาวเอเชียที่เข้ามารุกรานในเขตพื้นที่ Chalon ในช่วงปี A.D. 451 คือชนชาติใด
(1) Visigoths
(2) Franks
(3) Vandals
(4) Huns
ตอบ 4 หน้า 212, 60 (H) ฮั่น (Huns) เป็นอนารยชนเผ่ามองโกลที่มาจากทวีปเอเชียที่รุกไล่พวกกอธ (Goths) เข้าไปในจักรวรรดิโรมันและได้เข้าคุกคามยุโรปตะวันตก โดยมีผู้นําคือ อัตติลา (Attila) แต่ในที่สุดก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่เมโรเวกในการรบที่เมืองชาลอง (Chalon) ในปี ค.ศ. 451 (A.D. 451) หลังจากนั้นพวกฮั่นก็หมดอํานาจไปในปี ค.ศ. 454
23. นครรัฐที่ปกครองระบอบเผด็จการทหารในดินแดนกรีก คือข้อใด
(1) ทรอย
(2) อิกทาก้า
(3) สปาร์ตา
(4) เอเธนส์
ตอบ 3 หน้า 118 – 121, 40 – 41 (H) ลักษณะสําคัญของนครรัฐสปาร์ตา คือ
1. เป็นดินแดนที่อยู่ในหุบเขา ไม่ติดชายฝั่งทะเล ทําให้ไม่มีกําแพงธรรมชาติป้องกัน เหมือนนครรัฐอื่น และทําให้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ
2. แสวงหาความมั่งคั่งโดยการทําสงครามปราบปรามนครรัฐอื่น ๆ ทําให้มีทาส เชลยศึกเป็นจํานวนมาก
3. ปกครองระบอบเผด็จการทหารหรือเผด็จการเบ็ดเสร็จ (Totalitarian Government)
4. ชาวสปาร์ตาเป็นผู้แบกภาระของรัฐไว้หนักที่สุด เพราะต้องเป็นทหารตั้งแต่อายุ 20 – 60 ปี เพื่อควบคุมพวกทาสซึ่งมีจํานวนมากกว่า เป็นต้น
24. ข้อใดไม่ใช่ผลงานของชาวสุเมเรียน
(1) อักษรคูนิฟอร์ม
(2) ศาสนาโซโรแอสเตอร์
(3) วิหารซิกกูแรต
(4) การนับหน่วย 60
ตอบ 2 หน้า 69 – 71, 23 – 24 (H) อารยธรรมที่สําคัญของชาวสุเมเรียน คือ
1. การประดิษฐ์ตัวอักษรคูนิฟอร์ม (Cuneiform) หรือตัวอักษรรูปลิ่ม โดยใช้ลิ่มหรือวัสดุ ที่มีความแข็ง กดทับลงบนแผ่นดินเหนียว แล้วนําไปตากแดดหรือเผาไฟให้แห้ง
2. การสร้างสถาปัตยกรรมด้วยอิฐที่เรียกว่า “ซิกกูแรต” (Ziggurats) เพื่อใช้เป็นวิหารของเทพเจ้า
3. การทําปฏิทินแบบจันทรคติขึ้นใช้ โดยหนึ่งปีจะมี 354 วัน
4. การนับหน่วย 60 เช่น 1 ชั่วโมง มี 60 นาที, 1 นาที มี 60 วินาที เป็นต้น
25. สงครามใดที่ทําให้นครรัฐกรีกอ่อนแอลง
(1) สงครามกรุงทรอย
(2) สงครามเพลอปอนนิซุส
(3) สงครามเปอร์เซียน
(4) สงครามปูนิก
ตอบ 2 หน้า 144, 46 (H), (คําบรรยาย) ในระหว่างปี 431 – 404 B.C. นครรัฐต่าง ๆ ของกรีก ได้ทําสงครามภายในระหว่างกันเอง เรียกว่า สงครามเพลอปอนนี้เซียน (The Peloponnesian War) หรือบางครั้งอาจเรียกว่า สงครามเพลอปอนนิซุส (Peloponnesus) ทั้งนี้เนื่องจากเกิดขึ้น บนคาบสมุทรเพลอปอนนิซุสเป็นส่วนใหญ่ ทําให้บรรดานครรัฐกรีกอ่อนแอลง จนเปิดโอกาสให้ พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งมาสิโดเนีย ยกกองทัพทหารฟาแลงซ์ (Phalanx) เข้ายึดครองนครรัฐกรีก ได้ทั้งหมด และสามารถรวบรวมนครรัฐกรีกซึ่งไม่เคยรวมกันเป็นรัฐเดียวเข้าไว้ด้วยกันได้เป็น ผลสําเร็จในปี 338 B.C.
26. การปฏิวัติอุตสาหกรรม เริ่มต้นที่ประเทศใด
(1) ฝรั่งเศส
(2) อังกฤษ
(3) สหรัฐอเมริกา
(4) สเปน
ตอบ 2 หน้า 495 – 496, 562, 123 (H) การปฏิวัติอุตสาหกรรม เริ่มต้นขึ้นในอังกฤษ ในระหว่าง ปี ค.ศ. 1760 – 1830 โดยเริ่มจากการประดิษฐ์เครื่องจักรเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้า ซึ่งเป็น อุตสาหกรรมแรกที่มีการปฏิวัติ หลังจากนั้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมจึงได้แพร่ขยายไปใน ประเทศต่าง ๆ บนภาคพื้นยุโรปสหรัฐอเมริกา และในทวีปเอเชีย
27. การตรวจสอบความแข็งแรงสมบูรณ์ของเด็กเกิดใหม่ในรัฐสปาร์ตาเป็นหน้าที่ของใคร
(1) คณะเอเฟอร์
(2) กลุ่มพาริเซียน
(3) คณะตรีบูน
(4) สภาซีเนท
ตอบ 1 หน้า 119 – 120, 122, 41 (H) คณะเอเฟอร์ หรือกลุ่มผู้มีอํานาจสูงสุดในนครรัฐสปาร์ตา มีหน้าที่สําคัญดังนี้
1. กําหนดโชคชะตาของเด็กเกิดใหม่ทุกคน นั่นคือ เมื่อมีเด็กเกิดใหม่ต้องนําไปให้คณะเอเฟอร์ ตรวจสอบความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกาย ถ้าเด็กพิการหรืออ่อนแอก็จะถูกนําไปทิ้งหน้าผา เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อสังคม
2. สามารถถอดถอนหรือสั่งประหารกษัตริย์ได้
3. ควบคุมระบบการศึกษา
4. มีอํานาจเหนือกฎหมายและสภา
28. ศาสนาที่มีความเชื่อ คําสอน ว่าทุกสิ่งมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ถือว่าเป็นศาสนาแห่งเหตุผลในยุคโบราณคือศาสนาใด
(1) อิสลาม
(2) โซโรแอสเตอร์
(3) ยูดาย
(4) เอเดรียน
ตอบ 2 หน้า 96 – 98, 31 (H) ลักษณะสําคัญของศาสนาโซโรแอสเตอร์ (Zoroaster) คือ
1. เป็นศาสนาประจําชาติของเปอร์เซีย โดยมีโซโรแอสเตอร์เป็นศาสดา
2. สอนว่าทุกสิ่งในโลกนี้มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ซึ่งต่อสู้เอาชนะกันตลอดเวลา โดยมีพระอนุรา มาสดา (Ahura Mazda) เป็นเทพแห่งแสงสว่างและความดี และมีอหริมัน (Aharyman) เป็นเทพแห่งความมืดและความชั่ว
3. เป็นศาสนาแห่งจริยธรรมและเหตุผล โดยเชื่อว่าตายไปแล้วจะต้องได้รับผลกรรมที่เคยทําไว้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่
4. เป็นศาสนาที่ประกาศสัจธรรมเป็นศาสนาแรกของโลกตะวันตก
5. เป็นศาสนาที่มีการบูชาไฟ เป็นต้น
29. มนุษย์รู้จักใช้ไฟที่เกิดจากธรรมชาติให้ความอบอุ่น และประกอบอาหารในยุคใด
(1) หินกลาง
(2) หินเก่าตอนต้น
(3) หินเก่า
(4) หินแรก
ตอบ 2 หน้า 8 – 9, 9 – 10 (H) ยุคหินเก่าตอนต้น หรือ “ยุคล่าสัตว์” (The Age of the Hunter) เป็นสมัยที่มนุษย์รู้จักใช้หินเป็นอาวุธในการล่าสัตว์ อาศัยอยู่ในถ้ํา รู้จักใช้ไฟที่เกิดจากธรรมชาติ มาให้ความอบอุ่น และประกอบอาหารให้สุก มีร่างกายยึดตรง พูดได้ และมีมันสมองใหญ่ มนุษย์ในสมัยนี้ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในแอฟริกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ East African Man
30. ข้อใดเป็นปัจจัยสําคัญในความเสื่อมอํานาจของนโปเลียน
(1) ความไม่พอใจของประชาชนชาวฝรั่งเศสและการจลาจลในประเทศ
(2) การเอาใจออกห่างของขุนนาง
(3) ความพ่ายแพ้ในรัสเซีย และการจลาจลในหลายประเทศของยุโรป
(4) ความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
ตอบ 3 หน้า 470, 117 (H) ปัจจัยสําคัญในความเสื่อมอํานาจของนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส คือ การทํา สงครามกับรัสเซียในปี ค.ศ. 1812 เนื่องจากรัสเซียยกเลิกการเข้าร่วมการปิดล้อมอังกฤษทาง เศรษฐกิจ นโปเลียนจึงเกณฑ์ทหารทั้งหมดประมาณ 6 แสนคนบุกรัสเซีย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อ รัสเซีย จนต้องถอยทัพกลับมาเหลือทหารเพียง 2 หมื่นคน เมื่อเสด็จถึงปารีสก็ต้องเผชิญการ จลาจลในหลายประเทศของยุโรปที่เข้าร่วมกับรัสเซียเพื่อการปลดปล่อย โดยการทําสงคราม กับรัสเซียในครั้งนี้ทําให้นโปเลียนหมดอํานาจจนต้องสละบัลลังก์ไปในปี ค.ศ. 1814 และถูกเนรเทศไปอยู่ที่เกาะเอลบา
31. สงครามครูเสด เป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างศาสนาใด
(1) คริสต์ – ยูดาย
(2) ยูดาย – อิสลาม
(3) คาทอลิก – โปรเตสแตนต์
(4) คริสต์ – อิสลาม
ตอบ 4 หน้า 280, 284, 76 (H), (คําบรรยาย) สงครามครูเสดในยุคกลาง ถือเป็นสงครามมหายุทธ์ ที่มีรัฐและฝ่ายต่าง ๆ เข้าร่วมสงครามมากมาย ซึ่งกินระยะเวลาร่วม 200 ปี (รวมทั้งหมด 8 ครั้ง) โดยเป็นสงครามระหว่างศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม หรือระหว่างพวกคริสเตียน กับพวกมุสลิมหรือมอสเค็ม เพื่อแย่งกันครอบครองกรุงเยรูซาเล็ม และเมื่อสิ้นสุดสงคราม พวกคริสเตียนก็ไม่สามารถยึดกรุงเยรูซาเล็มคืนจากพวกมอสเล็มได้ จึงถือว่าเป็น “ความล้มเหลว ที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์” เพราะชาวยุโรปได้รับบทเรียนต่าง ๆ จาก พวกอาหรับและอิสลามอื่น ๆ เป็นอันมาก
32. กฎบัตร แมกนา คาร์ตา ของอังกฤษ ในปี 1215 มีสาระสําคัญตามข้อใด
(1) จํากัดอํานาจของกษัตริย์
(2) ให้เสรีภาพทางการค้า
(3) ส่งเสริมอํานาจทางศาสนา
(4) เพิ่มความแข็งแกร่งด้านการทหาร
ตอบ 1หน้า 275, 75 (H), (คําบรรยาย) พระเจ้าจอห์น หรือ “กษัตริย์ผู้ไร้แผ่นดิน” (John the Lackland) ทรงถูกพวกขุนนางอังกฤษบังคับให้ลงนามในรัฐธรรมนูญแมกนา คาร์ตา (Magna Carta) หรือ “The Great Charter” ในปี ค.ศ. 1215 ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับแรกของอังกฤษ โดยมีหลักการที่สําคัญคือ กําหนดให้ทุกชนชั้นต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย นอกจากนี้ยังจํากัดอํานาจของกษัตริย์ ให้ศาลยุติธรรมทําหน้าที่ตัดสินคดีความของเสรีชน การจัดเก็บภาษีต้องทําด้วยความยุติธรรม และมีการกล่าวถึงตัวบทกฎหมายอีกด้วย ซึ่งนับว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองในระบอบรัฐสภา หรือการปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษ
33.อนารยชนชาว Franks ที่สามารถรวบรวมอาณาจักรของอนารยชนทั่วยุโรปเป็นอาณาจักรใหญ่ มีการปกครองในระบอบกษัตริย์ สถาปนาราชวงศ์ใดเป็นราชวงศ์แรก
(1) Capetien
(2) Carolingian
(3) Merovingian
(4) Tudor
ตอบ 3 หน้า 215 – 217, 61 – 62 (H), (คําบรรยาย) พวกแฟรงค์ (Franks) เป็นอนารยชนที่ สามารถรวบรวมดินแดนยุโรปตะวันตกให้เป็นปึกแผ่นได้อีกครั้ง ภายหลังจากการล่มสลาย ของจักรวรรดิโรมันตะวันตก โดยได้ก่อตั้งอาณาจักรขึ้นภายใต้การนําของ 2 ราชวงศ์ คือ
1. อาณาจักรเมโรแวงเจียน (Merovingian Kingdom) ผู้ก่อตั้งคือ กษัตริย์โคลวิส (Cotvis) ซึ่งได้สถาปนาราชวงศ์เมโรแวงเจียนขึ้นเป็นราชวงศ์แรกในปี ค.ศ. 481
2. อาณาจักรคาโรแลงเจียน (Carolingian Kingdom) ผู้ก่อตั้งคือ เปแปงที่ 3 (Pepin III) ซึ่ง ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ใหม่คือ ราชวงศ์คาโรแลงเจียนในปี ค.ศ. 751
34. อารยธรรมเฮลเลนิสติก เกิดขึ้นในสมัยใด
(1) หลังสงครามคาบสมุทรเพลอปอนนิซุส
(2) หลังสงครามเมืองทรอย
(3) สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
(4) สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ตอบ 3 หน้า 146, 38 (H), 47 (H) อารยธรรมกรีกโบราณ แบ่งออกเป็น 2 สมัย คือ
1. สมัยเฮลเลนิก (Hellenic) เป็นอารยธรรมกรีกแท้ หรือสมัยก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช โดยเริ่มตั้งแต่สมัยการอพยพของพวกอินโด-ยุโรป ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวกรีก
2. สมัยเฮลเลนิสติก (Hellenistic) เป็นอารยธรรมผสมระหว่างอารยธรรมกรีกเฮลเลนิก (ตะวันตก) กับอารยธรรมเปอร์เซีย (ตะวันออก) ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
35. นักคิดในข้อใดมองว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิตามธรรมชาติแต่กําเนิด หากรัฐละเมิดสิ่งเหล่านี้ มนุษย์มีสิทธิล้มล้างรัฐบาลนั้นได้
(1) มองเตสกิเออ
(2) โทมัส ฮอบส์
(3) จอห์น ล็อค
(4) โวลแตร์
ตอบ 3 หน้า 441, 454, 112 (H), (คําบรรยาย) จอห์น ล็อค (John Locke) ได้เสนอ “แนวคิดสิทธิ ตามธรรมชาติ” โดยมองว่า มนุษย์ทุกคนมีสิทธิตามธรรมชาติแต่กําเนิด รัฐบาลจะต้องไม่กดขี่ สิทธิธรรมชาติของประชาชนและต้องมีสัญญาต่อกัน โดยประชาชนยอมสละสิทธิบางประการ แก่รัฐบาลเพื่อสะดวกต่อการปกครอง หากรัฐบาลปฏิบัติการใดที่ประชาชนไม่พอใจหรือละเมิด สิ่งเหล่านี้ ประชาชนก็มีสิทธิล้มล้างรัฐบาลนั้นได้
36. “A Very Wealthy Person” หมายถึงใคร
(1) K. ดาริอุสมหาราช
(2) K. อัสซูร์บานิพัล
(3) K. ครีซัส
(4) K. ซากอน
ตอบ 3 หน้า 92, 30 (H) กษัตริย์ครีซัส (Croesus) แห่งอาณาจักรลีเดีย มีผลงานที่สําคัญดังนี้
1. เป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งจากการค้า โดยคําว่า Croesus แปลว่า “A Very Wealthy Person
2. การทําเหรียญทองผสมเงินขึ้นไว้ใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนตามน้ําหนักของเหรียญซึ่งถือว่าเป็นมรดกแก่โลกปัจจุบันที่สําคัญ
37. นักคิดในข้อใดที่ถูกประณามจากศาสนจักร และถูกบังคับให้สารภาพว่าแนวคิดเรื่องดวงอาทิตย์เป็น ศูนย์กลางนั้นเป็นความคิดที่ผิด
(1) นิวตัน
(2) โคเปอร์นิคัส
(3) กาลิเลโอ
(4) เคปเลอร์
ตอบ 3 หน้า 437, 111 (H), (คําบรรยาย) กาลิเลโอ (Galileo) ชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็นทั้งนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ และนักดาราศาสตร์ ได้พิสูจน์การหมุนของดวงอาทิตย์ ทําให้ความเชื่อเรื่อง ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาลหนักแน่นยิ่งกว่าทฤษฎีโลกคือศูนย์กลางของจักรวาล แต่กลับถูกประณามจากศาสนจักร ซึ่งในปี ค.ศ. 1632 เขาถูกจับขึ้นศาลศาสนา และถูกบังคับ ให้สารภาพว่าแนวคิดเรื่องดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางนั้นเป็นความคิดที่ผิด
38. ระบบการปกครองที่ได้รับอิทธิพลผสมระหว่างอนารยชนและโรมัน คือ
(1) เทวสิทธิกษัตริย์
(2) สมบูรณาญาสิทธิราชย์
(3) ศักดินาสวามิภักดิ์
(4) ประชาธิปไตย
ตอบ 3 หน้า 17, 222 – 223, (คําบรรยาย) ในช่วงยุคกลางของยุโรป (ค.ศ. 500 – 1500) นั้น สภาพบ้านเมืองของยุโรปเสื่อมโทรม กษัตริย์ไม่มีความสามารถ มีพวกอนารยชนเยอรมันเข้า มารุกรานอยู่ตลอดเวลา และมีโจรผู้ร้ายชุกชุม ส่งผลให้ประชาชนได้รับความยากลําบากมาก จนต้องหันไปขอความคุ้มครองจากพวกขุนนางแทน ด้วยเหตุนี้จึงทําให้เกิดระบอบการเมืองใหม่ ที่เรียกว่า “ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์” หรือระบอบฟิวดัล (Feudalism) ขึ้น ซึ่งเป็นระบอบ การปกครองที่ได้รับอิทธิพลผสมระหว่างประเพณีเดิมของทั้งโรมันและอนารยชนเยอรมัน
39. พระนักรบสํานักใดเกิดขึ้นระหว่างสงครามครูเสด ภายหลังมีหน้าที่เป็นกองกําลังรักษาและถวาย
อารักขาสันตะปาปา
(1) สํานักเทมปลาร์
(2) สํานักฮอสปิแตร์เลอร์
(3) สํานักเจซูอิท
(4) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 1 หน้า 243, 68 (H) สํานักสงฆ์นิกายโรมันคาทอลิกที่ตั้งขึ้นในระหว่างสงครามครูเสด คือ
1. สํานักเทมปลาร์ (Templars) เป็นทั้งพระและนักรบในสงครามครูเสด ภายหลังมีหน้าที่เป็นกองกําลังรักษาและถวายอารักขาสันตะปาปา
2. สํานักฮอสปิแตร์เลอร์ (Hospitalers) เป็นพระที่ช่วยรักษาพยาบาลทหารและประชาชน ฝ่ายตนที่ได้รับบาดเจ็บจากการรบ
40. ข้อใดจัดเป็นอารยธรรมกรีกแท้
(1) เฮลเลนิก
(2) โทรจัน
(3) เฮลเลนิสติก
(4) ครีมัน ไมนวน
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ
41. จุดมุ่งหมายของการสร้างปฏิทินของอารยธรรมสมัยแรก คือข้อใด
(1) เพื่อการจัดระบบสังคมในเรื่องวันหยุดและการแบ่งงาน
(2) เพื่อต้องการทราบระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเพื่อทําการเกษตร
(3) เพื่อใช้สําหรับวัน เวลา ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 35 – 36, 14 (H), (คําบรรยาย) จุดมุ่งหมายของการสร้างปฏิทินของอารยธรรมในสมัยแรก คือ เพื่อต้องการทราบระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล และการกําหนดระยะเวลาในแต่ละปี ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทําเกษตรกรรม เช่น ปฏิทินสุริยคติของอียิปต์ เป็นต้น
42. ข้อใดคือจุดมุ่งหมายสําคัญของแนวคิดสังคมนิยม
(1) ปล่อยทุกอย่างให้ดําเนินไปตามกลไกตลาด
(2) ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบของนายทุนต่อกรรมกร
(3) โค่นล้มอํานาจทุกรูปแบบ
(4) ใช้ศาสนาเป็นเครื่องชี้นําประชาชน
ตอบ 2 หน้า 500, (คําบรรยาย) จุดมุ่งหมายสําคัญของลัทธิสังคมนิยม (Socialism) คือ เพื่อป้องกัน การเอารัดเอาเปรียบของนายทุนและเจ้าของที่ดิน (Landlord) ต่อกรรมกรนั่นเอง
43. ข้อใดไม่ใช่ราชอาณาจักรสําคัญในยุคกลาง
(1) Mostem Empire
(2) Roman
(3) Byzantine Empire
(4) The Holy Roman Empire
ตอบ 2 หน้า 246, 251, 255, 69 – 70 (H) ราชอาณาจักรสําคัญในยุคกลาง ได้แก่
1. จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (The Holy Roman Empire)
2. จักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire)
3. จักรวรรดิมอสเล็ม (Mostem Empire)
44. พระเจ้าปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย มีบทบาทสําคัญตามข้อใด
(1) ขยายดินแดนไปจนถึงบริเวณไซบีเรีย
(2) ปฏิรูปรัสเซียให้มีความเป็นสมัยใหม่มากขึ้น
(3) ใช้นโยบายกระตุ้นทางเศรษฐกิจ
(4) ขยายดินแดนไปจนถึงฝั่งทะเลดํา
ตอบ 2 หน้า 421, 426, 109 (H), (คําบรรยาย) พระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 หรือปีเตอร์มหาราชแห่งรัสเซีย (ค.ศ. 1682 – 1725) เป็นผู้เปิดประเทศเพื่อรับอารยธรรมจากยุโรปตะวันตก พระองค์ทรง ประสบความสําเร็จในการขยายอํานาจสู่บอลติก และทรงปฏิรูปรัสเซียให้มีความเป็นสมัยใหม่ มากขึ้น เช่น การออกกฎหมายให้ชาวรัสเซียแต่งกายแบบยุโรป ให้โกนหนวดเครา และสวมเสื้อ แขนสั้นแบบยุโรป ตั้งโรงพิมพ์ โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น
45.ข้อใดคือผลของสงครามระหว่าง Pope Alexander III + สมาคมลอมบาร์ด
(1) เกิดนครรัฐสันตะปาปา
(2) Germany สามารถรวมประเทศได้
(3) เกิดสัญญา Treaty of Verdun
(4) Italy แยกออกจาก Germany
ตอบ 4 หน้า 260 – 261, 71 – 72 (H) จักรพรรดิเฟรเดอริก บาร์บารอสซา (Frederick Barbarossa) ไม่สามารถที่จะรวมเยอรมนีได้สําเร็จ มีสาเหตุมาจากการที่จักรพรรดิทรงเน้นว่าอาณาจักรต้อง เป็นฝ่ายปกครองศาสนจักร ทําให้สันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Pope Alexander III) ไม่พอใจ จักรพรรดิ จึงร่วมกับกลุ่มพ่อค้าและชาวเมืองอิตาลีตั้งสมาคมลอมบาร์ดต่อต้านจักรพรรดิ รวมไปถึง ขุนนางเยอรมันไม่ต้องการให้จักรพรรดิมีอํานาจแข็งแกร่งเกินไปจึงไม่ช่วยรบ ซึ่งผลปรากฏว่า จักรพรรดิเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จึงมีการทําสนธิสัญญาสันติภาพของสตังซ์ (Peace of Constance) ในปี ค.ศ. 1183 โดยมีผลตามมาคือ
1. แคว้นลอมบาร์ดีเป็นอิสระและได้ปกครองตนเอง
2. สิ้นสุดการรวมกันระหว่างอิตาลี (Italy) และเยอรมนี (Germany) ลงโดยสิ้นเชิง ซึ่งทําให้ อิตาลีแยกออกจากเยอรมนี
3. ดินแดนเยอรมนีแตกแยกออกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย
46. นักเดินเรือในข้อใดเป็นคนแรกที่สามารถเดินเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปไปยังอินเดียได้
(1) แมเจลแลน
(2) วาสโก ดา กามา
(3) ไดแอซ
(4) โคลัมบัส ตอบ 2 หน้า 336, 351, 90 (H), (คําบรรยาย) ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 โปรตุเกสภายใต้การนํา ของเจ้าชายเฮนรี (Henry) กษัตริย์นักเดินเรือ เป็นผู้เริ่มการสํารวจทางเรือเป็นชาติแรก โดยมีนักเดินเรือที่สําคัญ คือ
1. ไดแอซ (Diaz) เดินทางไปถึงปลายสุดของทวีปแอฟริกา (แหลมกู๊ดโฮป) ในปี ค.ศ. 1487
2. วาสโก ดา กามา (Vasco da Gama) เป็นคนแรกที่สามารถเดินเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮป ไปถึงอินเดียได้สําเร็จในปี ค.ศ. 1498
3. คาบรัล (Cabral) เดินทางไปถึงบราซิลในปี ค.ศ. 1500
47.1000 B.C. ผู้ที่ปรับปรุงอักษรพยัญชนะ 22 ตัว และถ่ายทอดให้กับอักษรกรีก-โรมัน คือกลุ่มใด
(1) ฮิทไทท์
(2) แคลเดียน
(3) ฟินิเชียน
(4) ฮิบรู
ตอบ 3 หน้า 84 – 85, 27 (H), (คําบรรยาย) ชาวฟินิเซียน (Phoenicians) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “พ่อค้าทางทะเล” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 11 B.C. หรือประมาณปี 1000 B.C. นอกจากนี้ ชาวฟินิเซียนยังได้ชื่อว่าเป็นนักลอกเลียนและนักปรับปรุงโดยเลียนแบบการปกครองมาจากอียิปต์และบาบิโลเนียผ่านทางการค้าขาย รวมทั้งรับรูปแบบตัวอักษรเฮียโรกลิฟิกของอียิปต์ และ ตัวอักษรคูนิฟอร์มของสุเมเรียนมาดัดแปลงเป็นของตน เพื่อใช้จดบันทึกทางการค้า โดยปรับปรุง อักษรพยัญชนะ 22 ตัว ซึ่งตัวอักษรดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดให้กับอักษรกรีก-โรมัน
48. การค้นพบถ่านหินที่ใดแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและสิ่งมีชีวิต
(1) เกาะมาดากัสก้า
(2) เกาะอังกฤษ
(3) หมู่เกาะสปิตเบอร์เกน
(4) เกาะกาลาปากอส
ตอบ 3 หน้า 2, 7 (H) การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะเกิดขึ้นหมุนเวียนอยู่ ตลอดเวลาเป็นเวลาช้านาน ตัวอย่างเช่น การขุดค้นพบแหล่งถ่านหินในบริเวณหมู่เกาะสปิตเบอร์เกน (Spitbergen) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ใกล้กับบริเวณขั้วโลกเหนือ หรือบริเวณ ที่เส้นขนาน 80 องศาเหนือ ซึ่งปัจจุบันถูกปกคลุมไปด้วยธารน้ําแข็งนั้น อันเป็นประจักษ์พยานว่าบริเวณนี้เคยเป็นเขตป่าไม้และมีอากาศแบบกึ่งเมืองร้อนมาก่อน
49. พื้นที่ใดภายหลังพัฒนาเป็นนครรัฐสันตะปาปา
(1) Papal States
(2) Byzantium
(3) Constantinople
(4) Latium
ตอบ 1 หน้า 217, 62 – 63 (H) เมื่อเปแบ่งที่ 3 (Pepin III) ได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ คาโรแลงเจียนของพวกแฟรงค์ในปี ค.ศ. 752 แล้ว เปแบ่งก็ต้องการการสนับสนุนทาง การเมืองจากฝ่ายศาสนจักร ดังนั้นพระองค์จึงเอาใจสันตะปาปาด้วยการยึดครองอาณาจักร ทางภาคกลางของพวกลอมบาร์ด และนําไปถวายแก่สันตะปาปา เรียกว่า การบริจาคที่ของ เปแบ่ง (Donation of Pepin) ต่อมาดินแดนแห่งนี้ก็คือ นครรัฐสันตะปาปา (Papal States) ซึ่งมีอํานาจทางการเมืองมาจนถึงปี ค.ศ. 1870
50. ชนชาติใดที่มีส่วนสําคัญในการทําให้จักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) ล่มสลายลงในปี 1453
(1) อาหรับ
(2) มองโกล
(3) ออตโตมัน เติร์ก
(4) ฮาน
ตอบ 3 หน้า 255, 54 (H), 70 (H) จักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) ล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1453 เพราะถูกพวกออตโตมัน เติร์ก (Ottoman Turks) ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม เข้ายึดครองกรุงคอนสแตนติโนเปิลหลังจากนั้นอารยธรรมไบแซนไทน์จึงถูกถ่ายทอดให้แก่รัสเซียทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม ปฏิทิน ตัวอักษร และนิกายกรีกออร์ธอดอกซ์ได้ย้ายศูนย์กลางไปอยู่ที่ประเทศรัสเซีย เรียกว่านิกาย Russian Orthodox
51. กฎหมายลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของชาวโรมัน คือข้อใด
(1) กฎหมายสิบสองโต๊ะ
(2) กฎหมายฮัมมูราบี
(3) กฎหมายจัสติเนียน
(4) กฎหมายโซลอน
ตอบ 1 หน้า 161, 49 (H), (คําบรรยาย) ในปี 450 B.C. ได้มีการประกาศใช้ “กฎหมายสิบสองโต๊ะ ซึ่งเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของชาวโรมัน โดยจารึกลงบนแผ่นทองแดง 12 แผ่น แล้วนําไปติดที่ฟอรัมเพื่อประกาศให้ราษฎรได้ทราบโดยทั่วไป
52. ข้อใดคือผลลัพธ์ของสงครามกลางเมืองในอังกฤษช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 (1642 – 1649)
(1) สถาปนาระบอบกษัตริย์ได้รัฐธรรมนูญ
(2) กษัตริย์ถูกประหารชีวิตและอังกฤษกลายเป็นสาธารณรัฐ
(3) อังกฤษรบชนะสเปนและกลายเป็นเจ้าทะเล
(4) อังกฤษได้กษัตริย์ที่มาจากการเลือกของประชาชน
ตอบ 2 หน้า 411 – 413, 107 (H) ในช่วงปี ค.ศ. 1642 – 1649 ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในอังกฤษ ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างพระเจ้าชาร์ลที่ 1 ซึ่งปกครองในระบอบเทวสิทธิ์กับรัฐสภา อังกฤษซึ่งตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพวกเพียวริตัน (Puritans) ในกรณีที่พระองค์ต้องการเงิน เพื่อไปปราบปรามการก่อกบฏของพวกสกอต โดยสงครามจบลงด้วยชัยชนะของรัฐสภา และ พระเจ้าชาร์ลที่ 1 ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1649 ซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นสุดสมัยการปกครอง ในระบอบเทวสิทธิ์ในอังกฤษ และเปลี่ยนไปสู่การปกครองในระบอบสาธารณรัฐ (Republic)
53. ข้อใดเป็นหลักการสําคัญของลัทธิพาณิชย์นิยม
(1) ให้ระบบเศรษฐกิจเป็นไปตามกลไกตลาดโดยที่รัฐไม่แทรกแซง
(2) ซื้อสินค้าจากชาติอื่นให้น้อยที่สุด ส่งออกสินค้าให้มากที่สุด
(3) ผลิตสินค้าเพื่อยังชีพเป็นหลัก
(4) ระบบการค้าอยู่ภายใต้การควบคุมของประชาชนส่วนใหญ่
ตอบ 2 หน้า 339 – 340, 88 (H), (คําบรรยาย) ระบบเศรษฐกิจและการค้าทางทะเลตั้งแต่ปลาย ศตวรรษที่ 15 – 16 ในยุโรปตะวันตก เรียกว่า “ลัทธิพาณิชย์นิยม” (Mercantilism) ซึ่งหมายถึง การควบคุมเศรษฐกิจโดยรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งเป็นการผสมกลมกลืนระหว่างลัทธิชาตินิยมกับลัทธินายทุนใหม่ พวกนายทุนจะได้รับการส่งเสริมทางการค้าจากรัฐบาล โดยลัทธินี้มีแนวคิดพื้นฐาน ที่ว่าชาติจะมั่นคงได้ก็ต่อเมื่อมีการพึ่งพาทางเศรษฐกิจจากชาติอื่นน้อยที่สุด ดังนั้นจึงพยายามที่จะซื้อสินค้าจากชาติอื่นให้น้อยที่สุด แต่จะพยายามขายหรือส่งออกสินค้าให้ได้มากที่สุด
54. บุคคลในข้อใดเป็นผู้พัฒนาเครื่องจักรไอน้ําจนแพร่หลายในระบบอุตสาหกรรม
(1) โรเบิร์ต โอเวน
(2) จอห์น เคย์
(3) ไอแซค นิวตัน
(4) เจมส์ วัตต์
ตอบ 4 หน้า 506, (คําบรรยาย) ในปี ค.ศ. 1769 เจมส์ วัตต์ (James Watt) เป็นผู้พัฒนาเครื่องจักร ไอน้ำของอังกฤษ โดยพัฒนามาจากงานประดิษฐ์ของโทมัส นิวโคมัน (Thomas Newcomen) ในปี ค.ศ. 1708 จนสามารถนํามาใช้และแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมได้ ทั้งนี้จากการที่อังกฤษ สามารถประดิษฐ์เครื่องมือและเครื่องจักรที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้นั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที ทําให้อังกฤษเป็นผู้นําในการปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นชาติแรกในศตวรรษที่ 18
55. ข้อใดคือแนวคิดสําคัญในยุคเรืองปัญญา
(1) เชื่อในเหตุผล
(2) เชื่อในเสรีภาพ
(3) เชื่อในวิทยาศาสตร์
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 442 – 443, 110 (H), (คําบรรยาย) แนวคิดสําคัญใน “ยุคเรืองปัญญา” หรือยุค ประเทืองปัญญา (The Enlightenment) ในระหว่างปี ค.ศ. 1687 – 1789 มีดังนี้
1. เชื่อในวิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เริ่มมีความสําคัญเข้ามาแทนที่วิชาเทววิทยาในการ อธิบายเรื่องของจักรภพ
2. เชื่อในเหตุผล โดยเน้นความสําคัญของเหตุผลของมนุษย์เป็นพื้นฐานแห่งความเจริญก้าวหน้า
3. เชื่อในเสรีภาพ โดยการเทิดทูนสภาวะของปัจเจกชน เน้นความเป็นอิสระ และยึดมั่นใน ส่วนบุคคลทางการแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
56. ราชวงศ์ใดที่มีอํานาจปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่าง ค.ศ. 962 – 1024
(1) บาวาเรียน
(2) แซกซอน
(3) แฮปสเบิร์ก
(4) ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 2 หน้า 270 ราชวงศ์แซกซอน (Saxon Dynasty) เป็นสายตระกูลของอนารยชนเยอรมันที่เข้ายึด ครองแคว้นแซกโซนี และแคว้นต่าง ๆ ในเยอรมนีตอนใต้ พวกแซกซอนบางส่วนได้เข้าไปรุกราน เกาะอังกฤษ ส่วนพวกที่อยู่ในเยอรมนีได้ตั้งราชวงศ์แซกซอนขึ้น และได้ปกครองจักรวรรดิโรมัน อันศักดิ์สิทธิ์ (เยอรมนี) ระหว่างปี ค.ศ. 962 – 1024
57. ข้อใดไม่ใช่วิธีที่สหรัฐอเมริกากับรัสเซียใช้ต่อสู้กันในระยะที่เกิดสงครามเย็น
(1) วิธีทางการทูต
(2) การโฆษณาชวนเชื่อ
(3) สงครามแบบเบ็ดเสร็จ
(4) สงครามตัวแทน
ตอบ 3 หน้า 559 – 561, 139 (H) สงครามเย็น (Cold War) เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1945 หลังจากที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง และสิ้นสุดลงเมื่อเกิดการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ใน โซเวียต-รัสเซียในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งสงครามเย็นมีลักษณะสําคัญ ดังนี้
1. เป็นความขัดแย้ง ทางด้านอุดมการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ระหว่างสหรัฐอเมริกามหาอํานาจ ผู้นําฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตย กับโซเวียต-รัสเซียมหาอํานาจผู้นําฝ่ายโลกคอมมิวนิสต์
2. ทั้งสองประเทศจะไม่ทําสงครามแบบเบ็ดเสร็จ (Total War) ต่อกันโดยตรง แต่มักใช้วิธีการ ทําสงครามจิตวิทยาหรือสงครามตัวแทน (Proxy War)
3. แข่งกันหาพันธมิตรโดยใช้วิธี ทางการทูตและการโฆษณาชวนเชื่อลัทธิอุดมการณ์
4. มีการแข่งขันกันสะสมอาวุธและแข่งขันวิทยาการทางด้านอวกาศ
5. การยึดครองยุโรปตะวันออกโดยโซเวียตรัสเซีย
58. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยสําคัญในการทําให้เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส
(1) ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
(2) ความขัดแย้งกับอังกฤษ
(3) แนวคิดเสรีนิยม
(4) ความเหลื่อมล้ําของสังคมฝรั่งเศส
ตอบ 2 หน้า 455 – 461, 114 – 115 (H), (คําบรรยาย) การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1789 เกิดขึ้น ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งปัจจัยสําคัญในการทําให้เกิดการปฏิวัติ ได้แก่
1. ความเหลื่อมล้ำของสังคมฝรั่งเศส โดยพระและขุนนางเป็นชนชั้นที่มีอภิสิทธิ์ทางสังคมเพราะ ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนสามัญชนเป็นชนชั้นที่ต้องเสียภาษีและแบกรับภาระทางสังคมของประเทศ
2. ได้รับการเผยแพร่แนวคิดเรื่องสิทธิ เสรีภาพ (เสรีนิยม) ความเสมอภาค มาจากการปฏิวัติ อเมริกาในปีค.ศ. 1776
3. ได้รับอิทธิพลจากการปฏิวัติอันรุ่งเรืองของอังกฤษ
4. เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ํา และมีปัญหาทางด้านการคลัง
59. ข้อใดคือหลักการสําคัญของคําประกาศอิสรภาพของอเมริกาหลังการปฏิวัติอเมริกา ในปี 1776
(1) ความสามัคคีและอ่อนน้อม
(3) ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข
(2) ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ
(4) ให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดี
ตอบ 3 หน้า 454, 113 (H) หลังจากการปฏิวัติอเมริกาในปี ค.ศ. 1776 แล้ว ได้มีการร่างคําประกาศ อิสรภาพโดยโทมัส เจฟเฟอร์สัน โดยมีหลักการสําคัญคือ “มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ตั้งแต่เกิด” ในบรรดาสิทธิทั้งมวลก็มี “ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข” มนุษย์ทุกคน ควรมีโอกาสเท่ากันและควรได้รับความยุติธรรมโดยเท่าเทียมกันซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ พื้นฐานแห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย
60. ผู้ที่วางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย “การบริหารในมือคนส่วนใหญ่” คือใคร
(1) เพริดลิส
(2) คลิสเธนีส
(3) ดราโค
(4) โซลอน
ตอบ 2 หน้า 126 – 127, 43 (H) คลิสเธนีส (Cleisthenes) เป็นผู้ที่วางรากฐานการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยในเอเธนส์เป็นคนแรก ทําให้ประชาธิปไตยมีความหมายว่า “การบริหารอยู่ในมือของคนส่วนใหญ่” ซึ่งการปฏิรูปที่สําคัญ ได้แก่
1. กําจัดอิทธิพลของครอบครัวที่มีอํานาจทางการเมือง
2. จัดตั้งสภา 500 แทนสภา 400 ของโซลอน และแบ่งเอเธนส์ออกเป็น 10 เขต แต่ละเขตมีสมาชิก 50 คน
3. นําเอาระบบออสตราซิสม์ (Ostracism) มาใช้ ซึ่งเป็นการเนรเทศบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาออกจากนครเอเธนส์
61. ข้อใดมีความสัมพันธ์กับ Magna Carta : The Great Charter
(1) John the Lackland
(2) Charles Martet, The Hammer
(3) กษัตริย์ประเทืองปัญญา
(4) อาณาจักรแฟรงค์
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 32. ประกอบ
62. กลุ่มชนดั้งเดิมในพื้นที่บริเวณคาบสมุทรอิตาลีก่อนการบุกรุกของชาวเยอรมัน คือกลุ่มใด
(1) Etruscan
(2) Greek
(3) Plebeian
(4) Latin
ตอบ 4 หน้า 158 – 159, 48 (H) บรรพบุรุษของชาวโรมันคือ พวกอินโด-ยุโรป ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ในคาบสมุทรอิตาลีเมื่อประมาณปี 2000 – 1000 B.C. ก่อนการรุกรานของอนารยชนเยอรมัน โดยหนึ่งในบรรดาพวกที่อพยพเข้ามาคือ พวกละติน (Latin) ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มแม่น้ํา ไทเบอร์ (Tiber) และได้สร้างกรุงโรมขึ้นบนฝั่งแม่น้ํานี้เมื่อปี 753 B.C. ต่อมาบริเวณนี้จึงได้ชื่อว่า “ที่ราบละติอุม” (Plain of Latium) และทําให้ชาวละตินกลุ่มนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “โรมัน”
63. ข้อใดไม่ใช่ผลจากแม่น้ำไนล์
(1) การสร้างพีระมิดบูชาเทพเจ้า
(2) การสังเกตน้ำขึ้น-น้ำลง เพื่อทําปฏิทิน
(3) การประดิษฐ์ปฏิทินแบบจันทรคติ
(4) เกษตรกรรมปลูกข้าว
ตอบ 3 หน้า 46 – 47, 53 – 54, 17 – 18 (H) ความสําคัญของแม่น้ําไนล์ที่มีผลต่อการสร้าง อารยธรรมของอียิปต์ มีดังนี้
1. ทําให้อียิปต์เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทําเกษตรกรรม โดยเฉพาะการปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์
2. การสังเกตน้ำขึ้น-น้ำลงของแม่น้ำไนล์เพื่อทําการชลประทาน และนําไปสู่การประดิษฐ์ปฏิทิน แบบสุริยคติ
3. การสร้างพีระมิดบูชาเทพเจ้า เพราะเชื่อว่าการที่แม่น้ําไนล์อุดมสมบูรณ์นั้นเป็นการกระทําของเทพเจ้า
4. การขึ้นลงของแม่น้ําไนล์เกิดขึ้นจากอิทธิพลของฟาโรห์ นั่นคือ เมื่อฟาโรห์ยังทรงมีพระชนม์อยู่ จะมีฐานะเป็นเทพโฮรัส (Horus) โอรสของเทพโอซิริส (Osiris) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งแม่น้ําไนล์ เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วก็จะกลับไปเป็นเทพโอซิริสอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแสดงถึงความเชื่อเกี่ยวกับการ แบ่งภาคเป็นฟาโรห์มาปกครอง เป็นต้น
64. ข้อใดไม่ถูกต้อง
(1) อักษร Cuneiform มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม กดทับลงบนแผ่นดินเหนียว
(2) Book of the Death คือหนังสือตัดสินความดีหลังจากเสียชีวิตของชาวอียิปต์
(3) การประดิษฐ์ Papyrus ทําจากต้นกก ต้นอ้อ ริมแม่น้ำไนล์
(4) ชาวเมโสโปเตเมียรับวิธีการสร้างปฏิทินจากอียิปต์
ตอบ 4 หน้า 36, 69 – 70, 23 – 24 (H) ปฏิทินของชาวสุเมเรียน (Sumerians) ในดินแดน เมโสโปเตเมียเป็นปฏิทินแบบจันทรคติ ซึ่งเกิดขึ้นจากการสังเกตดวงจันทร์บนท้องฟ้า โดยกําหนดให้หนึ่งปีมี 354 วัน ในขณะที่ปฏิทินแบบสุริยคติของชาวอียิปต์เกิดขึ้นจาก การสังเกตระยะเวลาการขึ้นลงของแม่น้ําไนล์ โดยกําหนดให้หนึ่งปีมี 3654 วัน
65. กระบวนการในข้อใดที่ทําให้เกิดพัฒนาการทางการเมืองในยุโรปช่วงต้นสมัยใหม่
(1) ความพยายามรวบอํานาจเข้าสู่ศูนย์กลางของกษัตริย์ในหลายรัฐ
(2) การติดต่อสัมพันธ์กับจีน
(3) ความเสื่อมของระบอบฟิวดัล
(4) การคัดค้านอํานาจของสันตะปาปาและศาสนจักร
ตอบ 3 หน้า 332, 86 (H) พัฒนาการทางการเมืองหรือการกําเนิดชาติรัฐ (National States) ของ ยุโรปช่วงต้นสมัยใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 นั้นมีสาเหตุมาจากความเสื่อมของระบอบฟิวดัลและความสํานึกในความเป็นชาติ
66. สงครามสามสิบปี (ค.ศ. 1618 – 1648) สิ้นสุดลงด้วยสนธิสัญญาฉบับใด
(1) สนธิสัญญาแห่งเมืองนังต์
(2) สนธิสัญญาพิเรนิส
(3) สนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย
(4) สนธิสัญญาอ๊อกซเบิร์ก
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ
67. เครื่องมือของคริสตจักรต่อสังคมในข้อใด มีการกําหนดวันเวลายุติการทําสงคราม ตั้งแต่คืนวันพุธถึงเช้าวันจันทร์
(1) Truce of God
(2) Excommunication
(3) Interdict
(4) Peace of God
ตอบ 1 หน้า 231 – 232, 65 – 66 (H) ในยุคกลางมักมีสงครามแย่งชิงที่ดินระหว่างขุนนางอยู่บ่อยครั้ง สันตะปาปาจึงออกประกาศให้มีการหยุดพักรบเป็นการชั่วคราวใน 2 กรณี คือ
1. ประกาศสันติสุขแห่งพระผู้เป็นเจ้า หรือ “Peace of God” คือ ให้การพิทักษ์รักษาแก่บุคคล และสถานที่บางแห่งยามที่มีสงคราม เช่น โบสถ์ วิหาร สํานักชี และคนของวัด
2. ประกาศระยะพักรบเพื่อพระผู้เป็นเจ้า หรือ “Truce of God” คือ ห้ามทําการรบตั้งแต่ พระอาทิตย์ตกดินในวันพุธ ไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันจันทร์
68. ข้อใดเป็นลักษณะของดินแดนเมโสโปเตเมีย
(1) มีความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร
(2) มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ
(3) เป็นผู้คิดประดิษฐ์ปฏิทินแบบสุริยคติ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 65 – 69, 73, 23 – 24 (H), (คําบรรยาย) ลักษณะของดินแดนเมโสโปเตเมีย มีดังนี้
1. เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ําไทกริส-ยูเฟรตีส แต่มักเกิดน้ำท่วมรุนแรง
2. เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่เปิดเผย ไม่มีปราการทางธรรมชาติป้องกันการรุกรานจากศัตรู
3. มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่รวมกัน
4. มีชาวสุเมเรียนเป็นผู้คิดประดิษฐ์ปฏิทินแบบจันทรคติ
5. เป็นแหล่งกําเนิดกฎหมายฉบับแรกของโลก คือประมวลกฎหมายฮัมมูราบี (The Code of Hammurabi) ของพระเจ้าฮัมมูราบี เป็นต้น
69. บทบาทสําคัญของ โจน ออฟ อาร์ค ในช่วงสงคราม 100 ปี คือข้อใด
(1) เข้าร่วมสงครามและได้รับชัยชนะหลายครั้ง
(2) นําทัพฝรั่งเศสเข้ายึดครองบริเวณนอร์มังดี
(3) นําทัพฝรั่งเศสเข้ายึดครองเกาะอังกฤษ
(4) เอาชนะอังกฤษได้ที่ก็เยนและยึดดินแดนคืนได้
ตอบ 1 หน้า 298 – 299, 79 (H) ในช่วงสงคราม 100 ปี ได้เกิดวีรสตรีชาวฝรั่งเศสชื่อ โจน ออฟ อาร์ค (Joan of Arc) ขึ้น โดยเป็นสตรีที่เข้าร่วมสงครามและได้รับชัยชนะหลายครั้ง แต่ในที่สุดก็ถูก อังกฤษจับไปเผาในฐานะเป็นพวกนอกรีต (แม่มด) ซึ่งการตายของโจนได้ส่งผลให้ชาวฝรั่งเศส เกิดความรู้สึกชาตินิยมหันกลับมาปรองดองกัน จนสามารถเอาชนะฝ่ายอังกฤษได้ที่ปารีสในปี ค.ศ. 1436 และยึดดินแดนคืนได้ตามลําดับคือ รูอัง นอร์มังดี และก็เยน
70. เหตุใดชาวอียิปต์จึงเป็นคนมองโลกในแง่ดี
(1) มีความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย
(2) การดํารงชีวิตอุดมสมบูรณ์
(3) ไม่มีการสู้รบและการทําสงคราม
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 64 – 65, 68, 23 (H) ชาวอียิปต์ได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำไนล์ ทําให้มีการดํารงชีวิตที่สุขสมบูรณ์ ประกอบกับมีความเชื่อในเรื่องวิญญาณเป็นอมตะ ชีวิตหลัง ความตาย และโลกหน้า ทําให้ชาวอียิปต์เป็น “พวกที่มองโลกในแง่ดี” และหวังจะกลับมาเกิดใหม่ ในโลกหน้า จึงมีการรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อยด้วยการทํามัมมี่ และมีการสร้างสุสานไว้เก็บศพ นอกจากนี้ดินแดนอียิปต์ยังมีทะเลทรายเป็นปราการทางธรรมชาติที่จะช่วยสกัดกั้นการรุกราน จากศัตรูภายนอก ทําให้ไม่มีการสู้รบและการทําสงคราม
71. สํานักสงฆ์ของนิกายเบเนดิกไตน์ มีบทบาทสําคัญในยุคกลางตรงตามข้อใด
(1) แจกจ่ายอาหารและให้ที่พักแก่คนยากจนและคนเจ็บ
(2) ส่งเสริมการค้นคว้าวิทยาการใหม่ ๆ
(3) มุ่งวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตที่หรูหราของสันตะปาปาและพระชั้นสูง
(4) มีส่วนร่วมสําคัญในสงครามครูเสด
ตอบ 1 หน้า 242, 68 (H) สํานักเบเนดิกไตน์ (Benedictines) เป็นคณะสงฆ์ที่ตัดขาดทางโลก โดยมี ผู้นําคือ เซนต์เบเนดิก (St. Benedict) เป็นพวกพระที่เรียกว่า “monk” ซึ่งพระในสํานักสงฆ์นี้ ได้มีส่วนช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมในยุคกลางเป็นอย่างมาก เช่น
1. ส่งเสริมการศึกษาด้วยการจัดตั้งโรงเรียน และคัดลอกเอกสารโบราณ
2. แจกจ่ายอาหารและให้ที่พักแก่คนยากจน คนเจ็บ เด็กกําพร้าและแม่หม้าย
3. พระจะไถหว่านที่ดินและเป็นตัวอย่างแก่ชาวบ้านอื่น ๆ โดยนําเอาวิธีเพาะปลูกที่ได้ผลดี ที่สุดมาใช้ เป็นต้น
72. หลักการสําคัญของแนวคิดแบบอนาธิปไตย คือข้อใด
(1) ให้เสรีภาพในการถือครองทรัพย์สิน
(2) ต่อต้านอํานาจทุกชนิด โดยเฉพาะอํานาจรัฐ
(3) มุ่งปฏิวัติเพื่อสร้างรัฐบาลที่เป็นธรรม
(4) มุ่งปฏิรูปชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ตอบ 2 หน้า 505 – 506, (คําบรรยาย) อนาธิปไตย (Anarchism) เป็นลัทธิต่อต้านระบบนายทุนที่มี แนวความคิดรุนแรงกว่าสังคมนิยมมาก เพราะสังคมนิยมจะเน้นที่การรวมกลุ่ม แต่อนาธิปไตย จะทําลายและต่อต้านอํานาจทุกชนิด โดยเฉพาะอํานาจรัฐ ทั้งในด้านความคิดเรื่องการปกครอง ระเบียบประเพณี และระบบชนชั้นเหล่านี้จะต้องไม่มีเหลืออีกในโลก เนื่องจากลัทธินี้เชื่อว่า ทุกรัฐบาลล้วนกดขี่ โดยนักคิดคนสําคัญของลัทธินี้ ได้แก่ วิลเลียม กอดวิน, ปิแอร์ พรูดอง และไมเคิล บูกานิน
73. การฟื้นฟูศิลปวิทยาการคือการฟื้นฟูอารยธรรม
(1) ยุคกลาง
(2) อียิปต์
(3) กรีก-โรมัน
(4) เมโสโปเตเมีย
ตอบ 3 หน้า 355 – 358, 92 (H) การฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือเรอเนสซองส์ (Renaissance) ซึ่งคําว่า “Renaissance” แปลตามศัพท์ได้ว่า “การเกิดใหม่” (Rebirth) ซึ่งก็จะหมายถึงการเกิดใหม่ ของอารยธรรมคลาสสิกหรือการฟื้นฟูอารยธรรมกรีก-โรมัน (Greco-Roman) ขึ้นมาใหม่ ซึ่งในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการจะเน้นความสําคัญของมนุษย์ ปรัชญามนุษยนิยม (Humanism) รวมทั้งการแสดงออกของปัจเจกบุคคลและประสบการณ์ทางโลก ทั้งนี้การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองฟลอเรนซ์ในแหลมอิตาลี ก่อนที่จะแพร่ขยายเข้าไปในประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ
74. ข้อใดเป็นผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินชี
(1) Sistine Madonna
(2) The School of Athens
(3) Mona Lisa
(4) The Last Judgement
ตอบ 3 หน้า 363 – 364, 94 (H) ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ของสากลมนุษย์ (Universal Man) ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ โดยดาวินซีถือว่าเป็นผู้ที่มี ความสามารถรอบตัว โดยเป็นทั้งประติมากร นักดนตรี สถาปนิก วิศวกร และจิตรกร ทั้งนี้ ผลงานด้านจิตรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือ The Last Supper และ Mona Lisa ซึ่งนับเป็นตัวอย่างอันดีของศิลปะที่เชิดชูความสําคัญของสตรีในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
75.Dark Age (ยุคมืด) ทางอารยธรรมอยู่ในช่วงใด
(1) ยุคกลางอันรุ่งเรือง
(2) ยุคกลางตอนต้น
(3) ยุคกลางตอนกลาง
(4) ยุคกลางตอนปลาย
ตอบ 2 หน้า 205 – 206, 214, 318, 59 (H) ยุคกลางตอนต้น ถูกเรียกว่า “ยุคมืด” (Dark Age) เนื่องจากความเจริญก้าวหน้าของอารยธรรมคลาสสิก หรืออารยธรรมกรีก-โรมัน ได้หยุดชะงัก ลงในดินแดนยุโรปตะวันตก พร้อมกับการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ทั้งนี้เพราะถูก อนารยชนกลุ่มต่าง ๆ เข้ามารุกรานอยู่เสมอ ทําให้สภาพบ้านเมืองเกิดความสับสนวุ่นวาย การค้า ซบเซาเพราะถนนหนทางถูกตัดขาด มีโจรผู้ร้ายออกทําการปล้นสะดมทั่วไป บรรดาช่างฝีมือ กลายเป็นคนว่างงาน ชาวเมืองต้องอพยพหลบหนีออกไปอยู่ชนบท ส่งผลทําให้ศิลปวิทยาการ ต่าง ๆ ไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป
76. ศิลปวิทยาของอารยธรรมใดที่ได้รับความสนใจหรือฟื้นฟูขึ้นในอิตาลีช่วงเรอเนสซองส์
(1) ยุคกลาง
(2) กรีก-โรมัน
(3) ไบแซนไทน์
(4) อียิปต์
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 73. ประกอบ
77. การที่สันตะปาปาพยายามหาหนทางแต่งตั้งพระชั้นสูง และพยายามปรับปรุงระบบภาษีศาสนาให้มั่นคง
เป็นหนึ่งในกระบวนการตามข้อใด
(1) พยายามปรับปรุงความประพฤติของพระ
(2) พยายามขยายอาณาเขตพื้นที่ของรัฐสันตะปาปา
(3) พยายามปลดปล่อยศาสนจักรจากการควบคุมของอาณาจักร
(4) พยายามปรับปรุงศีลธรรมของประชาชน
ตอบ 3 หน้า 278, (คําบรรยาย) ในยุคกลางพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 7 เชื่อว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้าง มนุษย์ และพระคือตัวแทนของพระเจ้าในการชี้นํามนุษย์ ดังนั้นพระสันตะปาปาจึงควรเป็น ผู้นําของทุกสถาบันด้วยการดําเนินการคือ ปลดปล่อยศาสนจักร (วัด) จากการควบคุมของ ฝ่ายอาณาจักรโดยการเรียกร้องให้สันตะปาปาเป็นผู้แต่งตั้งพระชั้นสูง ให้สันตะปาปามีอํานาจสูงสุดในศาสนจักร และปรับปรุงระบบภาษีเพื่อให้สันตะปาปามีฐานะทางการเงินที่มั่น
78.Pharaoh ผู้ปกครองอียิปต์ปกครองภายใต้ระบอบใด
(1) อภิชนาธิปไตย
(2) ประชาธิปไตย
(3) อนาธิปไตย
(4) เทวาธิปไตย
ตอบ 4 หน้า 53, 60, 19 (H), (คําบรรยาย) การปกครองของอียิปต์ในสมัยอาณาจักรเก่าหรือ สมัยพีระมิดเป็นแบบเทวาธิปไตย โดยมีฟาโรห์ (Pharaoh) เป็นประมุขสูงสุด และทรงเป็นเท วกษัตริย์ที่มีฐานะเป็นโอรสของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์คือ สุริยเทพเรหรือรา (Re/Ra) โดยทรง ทําหน้าที่เป็นทั้งหัวหน้ารัฐบาลและหัวหน้าพระ เป็นผู้พิพากษาสูงสุด และเป็นผู้บังคับบัญชา การกองทัพและบัญชาการทางด้านพลเรือนด้วย
79. สงครามครูเสดครั้งใดเป็นการสู้รบระหว่างชาวคริสต์ด้วยกัน
(1) ครั้งที่ 1
(2) ครั้งที่ 3
(3) ครั้งที่ 8
(4) ครั้งที่ 4
ตอบ 4 หน้า 283, 76 (H), (คําบรรยาย) สงครามครูเสดครั้งที่ 4 (ค.ศ. 1202 – 1204) เป็นสงคราม ระหว่างชาวคริสต์ด้วยกันเอง โดยกองทัพครูเสดภายใต้การนําของสาธารณรัฐเวนิส และการ สนับสนุนของสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 ได้เข้ายึดครองกรุงคอนสแตนติโนเปิล แทนที่จะ ยกกองทัพไปยึดกรุงเยรูซาเล็ม
80. ข้อใดเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้สเปนสามารถรวบรวมดินแดนได้ในคริสต์ศตวรรษที่ 15
(1) การแต่งงานระหว่างเจ้าคาสติลกับอรากอน
(2) การคิดค้นอาวุธชนิดใหม่
(3) การได้ทองจํานวนมากจาก “โลกใหม่”
(4) การเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศส
ตอบ 1 หน้า 267, 73 (H), (คําบรรยาย) ยุคแห่งการยึดอํานาจคืนของพวกคริสเตียนจากพวกมัวร์ (Moors) ในสเปน เรียกว่ายุค Reconquest หรือ Reconguista โดยยุคนี้สิ้นสุดลงเมื่อมีการรวม อาณาจักรคริสเตียน 2 แห่งเข้าด้วยกัน ซึ่งเกิดจากการแต่งงานระหว่างเจ้าคาสติลกับอรากอน นั่นคือ การอภิเษกสมรสระหว่างพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสติล กับพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ ที่ 2 แห่งอรากอน ซึ่งได้ร่วมกันปกครองในฐานะเป็นกษัตริย์คาทอลิกทําสงครามกับพวกมัวร์ จนมีชัยชนะในปี ค.ศ. 1492 ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้สเปนสามารถรวบรวมดินแดนได้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 นั่นเอง
81. อารยธรรมใดที่ได้รับการขนานนามว่า “ของขวัญจากลุ่มแม่น้ําไนล์”
(1) อารยธรรมอียิปต์
(2) อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
(3) อารยธรรมโรมัน
(4) อารยธรรมกรีก
ตอบ 1 หน้า 46, 17 (H) เฮโรโดตัส (Herodotus) เป็นนักปราชญ์ชาวกรีกที่ได้กล่าวไว้ว่า “อียิปต์ คือของขวัญจากลุ่มแม่น้ําไนล์” (Egypt is a gift of the Niles) ทั้ง (Egypt is a gift of the Nites) ทั้งนี้เพราะสภาพภูมิประเทศของอียิปต์จะล้อมรอบไปด้วยทะเลทราย มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง และมีฝนตกเฉพาะบริเวณ
เดลต้า แม่น้ําไนล์จึงเป็นหัวใจสําคัญที่หล่อเลี้ยงและให้ความชุ่มชื้นแก่อียิปต์ จนทําให้อียิปต์ เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทําเกษตรกรรม และมีความมั่งคั่งจนสามารถ สร้างสมอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกในยุคโบราณได้
82. กษัตริย์องค์ใดที่มีบทบาทสําคัญในการทําให้ปรัสเซียเป็นมหาอํานาจในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18
(1) กษัตริย์ออตโต
(2) ซาร์ปีเตอร์มหาราช
(3) กษัตริย์เฟอร์ดินานด์
(4) พระเจ้าเฟรเดอริกมหาราช
ตอบ 4 หน้า 419 – 421, 108 – 109 (H), (คําบรรยาย) พระเจ้าเฟรเดอริกมหาราชแห่งปรัสเซีย ทรงมี บทบาทสําคัญในการทําให้ปรัสเซียเป็นมหาอํานาจในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ดังนี้
1. ทรงนําเอาความรู้มาใช้ในการปรับปรุงประเทศ พยายามหาเงินเพื่อสร้างกองทัพที่ได้รับการ ฝึกฝนเป็นอย่างดีและมีอาวุธที่ทันสมัย และสร้างรัฐบาลให้เข้มแข็ง
2. ในระหว่างปี ค.ศ. 1740 – 1748 ทําสงครามกับออสเตรียเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ทางทหาร ในยุโรปกลาง โดยแย่งชิงดินแดนไซลีเซียจากพระราชินีมาเรีย เธเรซา
3. ในปี ค.ศ. 1772 ทรงร่วมกับพระนางแคเทอรีนมหาราชินีแห่งรัสเซียและออสเตรียแบ่งแยก โปแลนด์เป็นครั้งแรก
83. เทพเจ้าสูงสุดของอียิปต์ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับการแบ่งภาคเป็นฟาโรห์มาปกครอง คือเทพองค์ใด
(1) ไอซิส – โอซิริส
(2) อานูบิส – ซุส
(3) โอซิริส – โฮรัส
(4) ซุส – โพเซดอน
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 63. ประกอบ
84. กีฬาโอลิมปิกถูกยกเลิกในสมัยใด
(1) กษัตริย์ธีโอโดซีอุส
(2) พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
(3) กษัตริย์จัสติเนียน
(4) จูเลียส ซีซาร์
ตอบ 1 หน้า 115, 39 (H), (คําบรรยาย) ชาวกรีกเชื่อว่าเทพเจ้ามักจะพอใจในการแสดงออกถึง ความกล้าหาญและความเข้มแข็งของมนุษย์ จึงได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (Olympic Games) ขึ้นทุก ๆ 4 ปี เพื่อถวายแก่เทพซีอุส (Zeus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าสูงสุดของกรีก โดย ผู้ที่ชนะจะได้รับมงกุฎที่ทําด้วยก้านมะกอกหรือช่อมะกอกศักดิ์สิทธิ์ และจะเรียกระยะเวลา 4 ปี ระหว่างการแข่งขันแต่ละครั้งว่า โอลิมเปียด (Olympiad) หรือระยะเวลา 1 โอลิมเปียด กีฬาโอลิมปิกได้มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 776 B.C. และถูกยกเลิกในสมัยกษัตริย์ธีโอโดซีอุส ในปี ค.ศ. 393
85. สมัยที่อียิปต์เริ่มมีการสั่งสมกองทัพและสร้างวิหาร อยู่ในสมัยใด
(1) สมัยอาณาจักรใหม่
(2) สมัยอาณาจักรเก่า
(3) สมัยขุนนาง
(4) สมัยก่อนราชวงศ์
ตอบ 1 หน้า 56 – 57, 20 (H) สมัยอาณาจักรใหม่หรือสมัยจักรวรรดิของอียิปต์ (1580 – 1090 B.C.) เป็นสมัยที่ฟาโรห์มีอํานาจมากที่สุด เพราะหลังจากที่ขุนนางอียิปต์สามารถขับไล่พวกฮิคโซส (Hyksos) ออกจากอียิปต์ได้สําเร็จแล้ว ฟาโรห์ได้ทรงดึงอํานาจคืนจากพวกขุนนางและพระ
จากนั้นจึงทรงปกครองด้วยอํานาจเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว มีการสั่งสมกองทัพทั้งกองทัพบกและ กองทัพเรือ เริ่มใช้นโยบายรุกรานเพื่อนบ้านเอาไว้เป็นรัฐกันชน และที่สําคัญก็คือ การเปลี่ยนจาก การสร้างพีระมิดมาเป็นการสร้างวิหารตามไหล่เขาและหน้าผาอย่างใหญ่โตมโหฬาร เพื่อแสดงอํานาจและความมั่งคั่งของฟาโรห์
86.Greco-Buddhist Arts ส่งผลให้กับศิลปะใด
(1) ศิลปะโรมัน
(2) ศิลปะลังกา
(3) ศิลปะอินเดีย
(4) ศิลปะเฮลเลนิสติก
ตอบ 3 หน้า 152, 47 (H), (คําบรรยาย) ในสมัยที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชกษัตริย์ของกรีก ได้ยกกองทัพขยายอํานาจมาถึงชายแดนอินเดียบริเวณลุ่มแม่น้ําสินธุในปี 323 BC. ส่งผลให้ ชาวอินเดียในแคว้นคันธาระได้รับอิทธิพลทางด้านการปั้นหรือประติมากรรมจากกรีก นั่นคือศิลปะการปั้นพระพุทธรูปแบบกรีก (Greco-Buddhist Arts) โดยจะเห็นว่าพระพุทธรูปของอินเดียในระยะแรกนั้นมีลักษณะเหมือนเทพอพอลโลของกรีก
87. แม้ฝ่ายคริสต์จะพ่ายแพ้ในสงครามครูเสด แต่ผลพลอยได้ที่สําคัญของยุโรปตรงกับข้อใด
(1) ได้แบ่งเมืองเยรูซาเล็มมาหนึ่งในห้าส่วน
(2) กระตุ้นให้เกิดการค้าระหว่างดินแดนมากขึ้น เพราะมีความต้องการสินค้าใหม่ ๆ
(3) ทําให้ศาสนจักรกรีกออร์ธอดอกซ์มีอํานาจมากขึ้น
(4) ทําให้เกิดการแปลงานเขียนของโรมันและกรีกมากขึ้น
ตอบ 2 หน้า 284 – 285, 77 (H), (คําบรรยาย) ฝ่ายคริสต์แม้จะพ่ายแพ้ในสงครามครูเสด แต่ผลพลอยได้ที่สําคัญของยุโรป คือ
1. เมืองและนครรัฐต่าง ๆ ที่ส่งของช่วยเหลือในสงครามมีอํานาจในการค้าขายมากขึ้น
2. มีการนําเงินและทองเข้ามาในยุโรปมากขึ้น การค้าแบบแลกเปลี่ยนสินค้าก็ค่อย ๆ เลิกไป และหันมาใช้เงินในการซื้อขาย
3. กระตุ้นให้เกิดการค้าระหว่างดินแดนมากขึ้น เพราะมีความต้องการสินค้าใหม่ ๆ เช่น เครื่องเทศจากภาคตะวันออกไปเผยแพร่ในยุโรปตะวันตก เป็นต้น
88. นักคิดในข้อใดที่เห็นว่าการเมืองและศีลธรรมเป็นคนละส่วน และไม่ควรนํามาปะปนกันหรือพิจารณารวมกัน
(1) มาเคียเวลลี
(2) โบแดง
(3) โทมัส ฮอบส์
(4) ดังเต้
ตอบ 1 หน้า 334, 94 (H), (คําบรรยาย) มาเคียเวลลี (Machiavelli) เห็นว่า การเมืองและศีลธรรม เป็นคนละส่วน และไม่ควรนํามาปะปนหรือพิจารณารวมกัน โดยผลงานสําคัญของเขาคือ The Prince ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับราชาธิปไตยหรือรัฐบาลที่มีอํานาจเด็ดขาด และมีความสําคัญ ในแง่ของการเมืองที่ว่า “The end always justifies the means” หรือการทําให้บรรลุ จุดมุ่งหมายโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง โดยไม่คํานึงถึงศีลธรรม
89. ใครคือผู้นําคนสําคัญที่เริ่มต้นยุคที่เรียกว่า “สมัยแห่งความหวาดกลัว”
(1) นโปเลียน
(2) โรเบสปิแอร์
(3) มาราต
(4) รุสโซ
ตอบ 2 หน้า 464 – 465, 115 (H) โรเบสปิแอร์ (Robespiere) ได้ทําการยึดอํานาจในฝรั่งเศสและ ปกครองแบบเผด็จการในระหว่างเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1793 ถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1794 ซึ่งมีการประหารศัตรูทางการเมืองไปมากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น “สมัยแห่งความหวาดกลัว” (Reign of Terror) ทําให้สมาชิกสภาคอนเวนชั่นกลัวว่าตัวเองจะได้รับอันตรายจึงร่วมมือกัน กําจัดโรเบสปิแอร์ด้วยเครื่องกิโยตินในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1794 นั่นเอง
90. “สุเอซ” มีลักษณะสําคัญอย่างไร
(1) จุดอ่อนของอียิปต์ทางด้านการป้องกันประเทศ
(2) แม่น้ำสายหลักที่ใช้ในการทําการเกษตรของอารยธรรมอียิปต์
(3) ศูนย์กลางการค้าขายทางทะเล
(4) ต้นกําเนิดของแม่น้ําศักดิ์สิทธิ์จากเทพเจ้า
ตอบ 1 หน้า 47 – 48, 18 (H) บริเวณที่เป็นจุดอ่อนของอียิปต์ทางด้านการป้องกันประเทศ คือ บริเวณช่องแคบ “สุเอซ” (Suez) ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างทวีปแอฟริกากับทวีปเอเชียตะวันตก บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไทกริส-ยูเฟรตีส ซึ่งเป็นแหล่งกําเนิดอารยธรรมเมโสโปเตเมีย ดังนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นทางเชื่อมหรือสะพานระหว่าง 2 ทวีปและ 2 อารยธรรม เป็นเส้นทางการค้า และเป็นแหล่งเชื่อมความคิด อีกทั้งยังเป็นทางเดินของศัตรูผู้รุกรานตลอดสมัยประวัติศาสตร์อันยาวนานของอียิปต์โบราณ
91. อาคารหลังใดที่ถูกประชาชนบุกเข้าทําลายในวันที่ 14 ก.ค. 1789 และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส
(1) พระราชวังลูฟวร์
(2) คุกบาสติล
(3) วิหารนอร์เทอดาร์ม
(4) พระราชวังแวร์ซายส์
ตอบ 2 หน้า 456, 114 – 116 (H), (คําบรรยาย) การปฏิวัติฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1789 เป็นการปฏิวัติของพวกเสรีนิยม (Liberalism) ซึ่งเป็นการปฏิวัติภายใต้การนําของกลุ่มชนชั้นกลางที่ต้องการยกเลิก ระบอบอภิสิทธิ์ลงในฝรั่งเศส อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลของรัฐธรรมนูญนิยมซึ่งต้องการเลียนแบบ รัฐสภาของอังกฤษ และอิทธิพลของแนวคิดแบบชาตินิยม (Nationalism) โดยฝูงชนปารีสได้บุก เข้าไปทําลายคุกบาสติลในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส และทําให้วันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี กลายเป็นวันชาติของฝรั่งเศสเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
92. ข้อใดเป็นผู้มีบทบาทสําคัญต่อการเกิดการปฏิรูปศาสนา
(1) ฟรานซิส เบคอน
(2) มาร์ติน ลูเธอร์
(3) กาลิเลโอ
(4) อีรัสมัส
ตอบ 2 หน้า 378 – 379, 98 (H) มาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) พระชาวเยอรมัน เป็นผู้ที่มีบทบาท สําคัญในการเริ่มการปฏิรูปศาสนา ซึ่งได้เขียนคําประท้วง 95 ข้อ ไปติดที่โบสถ์ในแคว้นแซกโซนี ทําให้มีผู้เห็นด้วยว่าไม่ควรนําเงินของเยอรมันไปสร้างวัดในอิตาลี เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นนับเป็น จุดเริ่มต้นของการประท้วงทางศาสนา และเป็นที่มาของคําว่า “Protestant” ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1529
93. สาเหตุสําคัญของสงคราม 100 ปี ในช่วงปลายยุคกลาง คือข้อใด
(1) อังกฤษและฝรั่งเศสขัดแย้งทางศาสนา
(2) กษัตริย์ฝรั่งเศสอ้างสิทธิในบัลลังก์อังกฤษ
(3) กษัตริย์อังกฤษอ้างสิทธิในบัลลังก์ฝรั่งเศส
(4) อังกฤษและฝรั่งเศสขัดแย้งด้านการค้า
ตอบ 3 หน้า 296 – 297, 79 (H) สาเหตุปัจจุบันที่ทําให้เกิดสงคราม 100 ปี ระหว่างอังกฤษกับ ฝรั่งเศสในช่วงปลายยุคกลาง เนื่องจากกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 3 (Edward III) แห่งอังกฤษ ทรงเรียกร้องสิทธิในการขึ้นครองราชบัลลังก์ฝรั่งเศส เมื่อกษัตริย์ฝรั่งเศสสิ้นพระชนม์ลง โดยไม่มีรัชทายาท แต่พวกขุนนางฝรั่งเศสไม่ยินยอมโดยอ้างกฎหมายที่เรียกว่า “Salic Law” เพื่อตัดสิทธิในราชบัลลังก์ของพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงประกาศสงครามกับฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1337 และสงครามได้ดําเนินมาจนถึงปี ค.ศ. 1453
94. ในช่วงปลายยุคกลางบริเวณใดของยุโรปที่ไม่มีกษัตริย์ปกครอง และแยกเป็นนครอิสระต่าง ๆ
(1) คาบสมุทรอิตาลี
(2) โรมันอันศักดิ์สิทธิ์
(3) แถบสแกนดิเนเวีย
(4) คาบสมุทรไอบีเรีย
ตอบ 1 หน้า 293, 78 (H), (คําบรรยาย) ในช่วงปลายยุคกลางนั้น คาบสมุทรอิตาลีไม่มีแม้แต่ตําแหน่ง กษัตริย์ปกครองหรือเป็นสัญลักษณ์ของการรวมประเทศ จะมีเพียงแต่แคว้นต่าง ๆ ที่แยกเป็น นครอิสระปกครองกันไปตามลําพัง เช่น เวนิส มิลาน เจนัว ปิซ่า เป็นต้น
95. จุดประสงค์แรกในการเลี้ยงสัตว์ของมนุษย์ คือข้อใด
(1) เพื่อใช้เป็นอาหาร
(2) เพื่อเป็นเพื่อน
(3) เพื่อใช้แรงงานทางการเกษตร
(4) เพื่อประกอบพิธีกรรม
ตอบ 1 หน้า 14, 39, 10 (H), (คําบรรยาย) ยุคหินกลาง (Mesolithic) ถือว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือเป็นยุคที่เชื่อมต่อระหว่างยุคหินเก่า (ยุคเก็บผลไม้) กับยุคหินใหม่ (ยุคปลูกผลไม้) นอกจากนี้ ยังเป็นยุคที่มนุษย์อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล ทําอาชีพประมง และเริ่มรู้จัก การเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสัตว์ชนิดแรกที่มนุษย์รู้จักนํามาเลี้ยงคือ สุนัข โดยมีจุดประสงค์แรกในการเลี้ยง ก็เพื่อใช้บริโภคเป็นอาหาร
96. ผลงานสําคัญของ ไอแซค นิวตัน คือข้อใด
(1) เสนอกฎของแรงโน้มถ่วง
(2) จัดทําสารานุกรม
(3) ค้นพบว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่โลก
(4) ค้นพบดวงจันทร์ของดาวพฤหัส
ตอบ 1 หน้า 437 – 439, 111 (H) ไอแซค นิวตัน (Isaac Newton) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เป็นผู้ค้นพบ “กฎแรงโน้มถ่วงของโลก” หรือ “กฎการดึงดูดของโลก” โดยปรากฏอยู่ในผลงาน เรื่อง “Principia” ในปี ค.ศ. 1687 นอกจากนี้นิวตันยังอธิบายถึงการที่โลกและดาวเคราะห์ โคจรรอบดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์โคจรรอบโลก ซึ่งมีอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ที่ย้ําว่าหลักการของวิทยาศาสตร์คือ การสังเกต การคํานวณ และการทดลอง
97. แคว้นใดที่มีบทบาทสําคัญในการรวมชาติเยอรมัน
(1) ออสเตรีย
(2) ฮันโนเวอร์
(3) บาวาเรีย
(4) ปรัสเซีย
ตอบ 4 หน้า 517 – 520, 128 – 129 (H) ออตโต ฟอน บิสมาร์ก (Otto von Bismarck) ซึ่งเป็น อัครมหาเสนาบดีแห่งปรัสเซีย ได้ประกาศใช้นโยบาย “เลือดและเหล็ก” ในการบริหารประเทศ และใช้ในการดําเนินนโยบายเพื่อรวมเยอรมนีเข้าด้วยกัน โดยในระยะแรกนั้นบิสมาร์กจะใช้ วิธีการทําสงครามถึง 3 ครั้ง คือ
1. สงครามกับเดนมาร์กในเรื่องดินแดนชเลสวิก-โฮลสไตน์ (Schleswig-Holstein) ในปี ค.ศ. 1864
2. สงครามกับออสเตรียในปี ค.ศ. 1866
3. สงครามระหว่างฝรั่งเศสกับปรัสเซีย (The Franco-Prussian War) ในระหว่างปี ค.ศ. 1870 – 1871 ซึ่งฝรั่งเศสเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เป็นผลทําให้บิสมาร์กสามารถจัดตั้ง ประเทศเยอรมนีขึ้นได้สําเร็จในปี ค.ศ. 1871 ที่ห้องกระจกในพระราชวังแวร์ซายส์ประเทศฝรั่งเศส
98. คู่ขัดแย้งสําคัญในสังคมทุนนิยมตามแนวความคิดของ คาร์ล มาร์กซ์ คือข้อใด
(1) ทหาร – ประชาชน
(2) นายทุน – กรรมกร
(3) ชนชั้นสูง – ชนชั้นกลาง
(4) ขุนนาง – นายทุน
ตอบ 2 หน้า 504, (คําบรรยาย) คาร์ล มาร์กซ์ เป็นนักคิดที่อยู่ในกลุ่มสังคมนิยมปฏิวัติ ซึ่งได้รับการ ยกย่องว่าเป็น “ศาสดาพยากรณ์ของชนชั้นกรรมาชีพ” โดยเขาเห็นว่าระบบทุนนิยมตั้งอยู่บน พื้นฐานของการกดขี่และการเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งจะทําให้เกิดคู่ขัดแย้งสําคัญในสังคมทุนนิยม นั่นคือ การแบ่งแยกสังคมเป็น 2 ชนชั้น คือ ชนชั้นนายทุน และชนชั้นกรรมาชีพ (กรรมกร)
99.ระบบ Feudalism เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของทรัพย์สินกับผู้เช่าทรัพย์สิน คําว่า “ทรัพย์สิน”หมายถึงข้อใด
(1) แรงงาน/ทาส
(2) ทอง/โลหะมีค่า
(3) ที่ดิน
(4) ที่อยู่อาศัย
ตอบ 3 หน้า 223 – 224, 64 – 65 (H), (คําบรรยาย) ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ หรือระบอบฟิวดัล (Feudalism/Feudal) เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของที่ดินกับผู้ใช้ประโยชน์จากที่ดินหรือ ผู้เช่าที่ดินผืนนั้น เจ้าของที่ดินคือกษัตริย์หรือขุนนาง เรียกว่า เจ้า (Lord) ส่วนผู้ใช้ประโยชน์จากที่ดิน เรียกว่า ข้า (Vassal) โดยคําว่า Feudalism หรือ Feudal มาจากคําว่า Fiefs หรือ Feuda ซึ่งหมายถึง “ที่ดิน” นั่นเอง
100. ข้อแตกต่างสําคัญในความเชื่อทางศาสนาระหว่างไบแซนไทน์กับโรมันคาทอลิก คือข้อใด
(1) ไบแซนไทน์ปฏิเสธรูปบูชา และทําลายรูปเคารพในวัดทั้งหมด
(2) ไบแซนไทน์ไม่มีการแบ่งลําดับชั้นของพระ
(3) พระของไบแซนไทน์แต่งงานได้
(4) ไบแซนไทน์ไม่มีนักบวชประจําศาสนา
ตอบ 1 หน้า 252 – 253, (คําบรรยาย) ข้อแตกต่างสําคัญในความเชื่อทางศาสนาระหว่างไบแซนไทน์กับ โรมันคาทอลิก คือ การปฏิเสธรูปบูชา (Iconoclastic) โดยจักรพรรดิลีโอที่ 3 ทรงสั่งห้ามบูชารูป รูปปั้นในวัด เพราะเกรงว่าจะไปเหมือนลัทธิเดิม อีกทั้งยังได้โปรดให้ทําลายรูปปั้นและรูปภาพใน วัดทั้งหมด ทําให้ฝ่ายสันตะปาปาและพวกคริสเตียนในจักรวรรดิตะวันตกพากันคัดค้านอย่างรุนแรงจนทั้งสองฝ่ายต้องประกาศแยกออกจากกันเป็นนิกายอิสระในปี ค.ศ. 1054 ส่งผลให้ศาสนาทาง ตะวันออกของจักรวรรดิไบแซนไทน์เปลี่ยนเป็นแบบกรีกออร์ธอดอกซ์ (Greek Orthodox)ขณะที่ศาสนาทางตะวันตกเป็นแบบโรมันคาทอลิก
101. ข้อใดเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้จักรพรรดิเฟรเดอริก บาร์บารอสซา ไม่สามารถที่จะรวมเยอรมนีได้สําเร็จ
(1) สันตะปาปาไม่พอใจจักรพรรดิ
(2) ขุนนางเยอรมันไม่ต้องการให้จักรพรรดิมีอํานาจแข็งแกร่งเกินไปจึงไม่ช่วยรบ
(3) กลุ่มพ่อค้าและชาวเมืองอิตาลีตั้งสมาคมลอมบาร์ดเพื่อต่อต้านจักรพรรดิ
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 45. ประกอบ
102. บทบาทที่สําคัญของ นิโคลัส โคเปอร์นิคัส คือข้อใด
(1) ค้นพบคุณสมบัติของแสง
(2) เสนอว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่โลก
(3) ค้นพบว่าวงโคจรของดวงดาวเป็นวงรี
(4) ส่งเสริมการปฏิรูปศาสนา
ตอบ 2 หน้า 434, 110 (H) นิโคลัส โคเปอร์นิคัส (Nicolaus Copernicus) นักวิทยาศาสตร์และ นักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ เป็นผู้ที่เชื่อว่าศูนย์กลางของจักรวาลคือดวงอาทิตย์ โดยมีโลก เป็นบริวารดวงหนึ่ง
103. พวกเซไมท์เข้ายึดครองและรับอารยธรรมของพวกสุเมเรียนมาใช้ เป็นลักษณะของทฤษฎีใด
(1) ทฤษฎีภูมิศาสตร์
(2) ทฤษฎีโนแมด
(3) ทฤษฎีศาสนา
(4) ทฤษฎีดินเสื่อม
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 14. ประกอบ
104. เพราะเหตุใดศาสนจักรกับอาณาจักรในช่วงยุคกลางจึงมักขัดแย้งกันอยู่เสมอ
(1) มีความขัดแย้งในเรื่องของอํานาจ และมักจะแทรกแซงกันอยู่เสมอ
(2) มีความขัดแย้งเรื่องพิธีกรรมต่อพระเจ้า
(3) สันตะปาปามักจะมองว่ากษัตริย์บริหารบ้านเมืองไม่ดีพอ
(4) กษัตริย์มักจะมองว่าสันตะปาปามีความประพฤติไม่ถูกต้อง
ตอบ 1 หน้า 243, 68 (H), (คําบรรยาย) ความขัดแย้งในเรื่องการแต่งตั้งตําแหน่งทางศาสนานั้นเป็น เป็นความขัดแย้งระหว่างสันตะปาปาฝ่ายศาสนจักร กับกษัตริย์และพวกขุนนางฝ่ายอาณาจักร เพราะวัดมีฐานะเป็นข้า (Vassal) ของกษัตริย์และพวกขุนนางซึ่งมอบที่ดินให้แก่วัด ขณะเดียวกัน วัดก็จะอยู่ภายใต้อํานาจของสันตะปาปา ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ศาสนจักรหรืออาณาจักรใครควรมี อํานาจในการแต่งตั้งหัวหน้าพระ ด้วยเหตุนี้เองจึงทําให้ศาสนจักรกับอาณาจักรในช่วงยุคกลาง มีความขัดแย้งในเรื่องอํานาจ และมักจะแทรกแซงกันอยู่เสมอ
105. ปรัชญามนุษยนิยม “Man is the measure of all things” เป็นแนวคิดของใคร
(1) Socrates
(2) Plato
(3) Sophists
(4) Aristotle
ตอบ 3 หน้า 137, 140, 45 (H), (คําบรรยาย) ปรัชญากรีกจัดเป็นปรัชญามนุษยนิยม ดังที่โปรตากอรัส (Protagoras) นักปรัชญากลุ่มโซฟิสต์ (Sophists) ได้กล่าวไว้ว่า “มนุษย์คือเครื่องวัดทุกสิ่ง” (Man is the measure of all things) ซึ่งเท่ากับเป็นการสรุปทัศนคติทั้งหมดของชาวกรีก หรืออาจกล่าวได้ว่ากรีกเป็นนักมนุษยธรรมนิยม (Humanistic)
106. ในยุคหินใหม่ มนุษย์มีวิวัฒนาการมาถึงขั้นใด
(1) เริ่มรู้จักการเพาะปลูก
(2) เริ่มรู้จักการล่าสัตว์
(3) เริ่มรู้จักการใช้ไฟ
(4) เริ่มตั้งรกรากและสร้างอารยธรรม
ตอบ 4 หน้า 14, 39, 10 (H), (คําบรรยาย) ยุคหินใหม่ (Neolithic/New Stone Age) เป็นยุคที่มนุษย์ รู้จักเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูก รวมทั้งเป็นยุคของการสร้างสมอารยธรรมในระยะแรก ๆ ของโลก กล่าวคือ มีการเปลี่ยนจากชุมชนเร่ร่อนเป็นชุมชนรกราก หรือเป็นยุคที่เริ่มมีการตั้งถิ่นฐานเป็น ครั้งแรก มีหัวหน้าปกครอง มีการแบ่งงานกันทํา และเริ่มดํารงชีวิตแบบสังคมเมือง (Urban Life) ซึ่งถือว่าเป็นสมัยอารยธรรม (Civilization) ของมนุษย์
107. ข้อใดเป็นปัจจัยสําคัญที่สุดที่ทําให้ความรู้ต่าง ๆ แพร่หลายได้อย่างรวดเร็วในโลกตะวันตกช่วงต้นสมัยใหม่
(1) การประดิษฐ์แท่นพิมพ์สมัยใหม่
(2) การติดต่อกับโลกอาหรับ
(3) การเปิดเส้นทางการค้าใหม่ ๆ
(4) การถกเถียงในศาสนจักร
ตอบ 1 หน้า 359, 372, 3 (H), 96 (H) โจฮันน์ กูเตนเบิร์ก (Johann Gutenberg) ช่างทองชาวเยอรมัน เป็นบุคคลแรกที่ได้รับการยกย่องในการประดิษฐ์แท่นพิมพ์สมัยใหม่ได้สําเร็จในปี ค.ศ. 1445 ซึ่งการพิมพ์นี้มีผลต่อการปฏิวัติอารยธรรมยุโรปตะวันตกเป็นอย่างมาก เพราะทําให้ความรู้ต่าง ๆ แพร่หลายได้อย่างรวดเร็วในโลกตะวันตกต้นสมัยใหม่ ทําให้หนังสือหาอ่านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการศึกษาทางด้านศาสนา ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนําไปสู่การปฏิรูปศาสนาในเวลาต่อมา
108. มนุษย์ถือกําเนิดขึ้นในยุคสมัยทางธรณีวิทยาที่มีการปรับเปลี่ยนทุกระยะ 4 ครั้งต่อ 1 รอบ ยุคใด
(1) Mesozoic
(2) Pleistocene
(3) Cenozoic
(4) Archeozoic
ตอบ 2 หน้า 2, 8 (H), (คําบรรยาย) ยุคน้ําแข็ง (Pleistocene) เป็นยุคที่ธารน้ําแข็งปกคลุมส่วนต่าง ๆ ของโลก ซึ่งเริ่มประมาณ 1 ล้านปีมาแล้ว โดยพบว่ามนุษย์ถือกําเนิดขึ้นในยุคสมัยทางธรณีวิทยา ที่มีการปรับเปลี่ยนทุกระยะ 4 ครั้งต่อ 1 รอบในยุคดังกล่าวนี้ ระยะสุดท้ายคือ ระยะนานที่สุด ประมาณ 150,000 ปี หรืออย่างน้อยที่สุดประมาณ 25,000 ปีมาแล้ว
109. ข้อใดเป็นผลสําคัญของการปฏิรูปศาสนา
(1) การเปลี่ยนระบบการจัดเก็บภาษีของศาสนจักร
(2) การเกิดขึ้นของนิกายฟรานซิสกัน
(3) คริสตจักรโรมันคาทอลิกมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
(4) การสิ้นสุดของคาทอลิกในฐานะศาสนาสากลเพียงหนึ่งเดียวของยุโรป
ตอบ 4 หน้า 383, 386, 101 (H) ผลของการปฏิรูปศาสนาที่สําคัญประการหนึ่ง คือ เป็นการสิ้นสุด ของสภาพศาสนาสากล กล่าวคือ คริสต์ศาสนานิกายคาทอลิกไม่ใช่นิกายเพียงหนึ่งเดียวของ ยุโรปตะวันตกอีกต่อไป ทั้งนี้เพราะประชาชนสามารถเปลี่ยนมานับถือนิกายโปรเตสแตนต์ที่มี หลายนิกาย เช่น นิกายลูเธอรันนิสม์ (Lutheranism), นิกายศาลแวงในฝรั่งเศส (Calvinism/ Huguenots), นิกายเพรสไบทีเรียนในสกอตแลนด์ (Presbyterian), นิกายแองกลิคันหรือ นิกายอังกฤษ (Anglican Church/Church of England) เป็นต้น
110. ข้อใดคือลักษณะสําคัญของศิลปะในสมัยเรอเนสซองส์
(1) เขียนภาพในแนวนามธรรมที่เน้นรูปทรง เส้น สี มากกว่าความสมจริง
(2) มักจะเขียนเรื่องราวชีวประวัติของพระเยซู
(3) เลียนแบบลักษณะการเขียนภาพในยุคกลาง
(4) มีการเขียนงานศิลปะแบบ Perspective และสมจริงมากขึ้น
ตอบ 4 หน้า 356 – 357, 363, (คําบรรยาย)
ลักษณะสําคัญของความคิดในสมัยเรอเนสซองส์ (ค.ศ. 1300 – 1500) มีดังนี้
1. เน้นความสําคัญของมนุษย์ในฐานะศูนย์กลางแห่งจักรภพ
2. ในวรรณคดีจะย้ําความสนใจในเรื่องมนุษยนิยม เพื่อหาหนทางทําความเข้าใจในมนุษย์
3. มีการเขียนงานศิลปะแบบ Perspective ทําให้ภาพเป็นธรรมชาติและสมจริงมากขึ้น
4. เน้นถึงเหตุการณ์ที่แสดงออกถึงความคิดของแต่ละคน เป็นต้น
111. ผลของสงครามใดเป็นการเปลี่ยนมหาอํานาจทางทะเลจากสเปนเป็นอังกฤษ
(1) War of the Roses
(2) Hundred Years War
(3) Armada War
(4) World War I
ตอบ 3 หน้า 388 – 389, 87 (H), 100 – 101 (H) สงครามอาร์มาดา (Armada War) ปี ค.ศ. 1588 เป็นสงครามทางทะเลระหว่างพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน กับพระราชินีเอลิซาเบทที่ 1 แห่งอังกฤษ ซึ่งผลปรากฏว่าอังกฤษเป็นฝ่ายชนะ และส่งผลให้สเปนหมดอิทธิพลในยุโรป ในขณะ ที่อังกฤษกลายเป็นมหาอํานาจทางทะเลแทนสเปน
112. การปฏิวัติอันรุ่งเรือง ในปี ค.ศ. 1688 นําไปสู่ “ประกาศแห่งสิทธิ” ในปี ค.ศ. 1689 ซึ่งมีหลักการสําคัญ ตรงกับข้อใด
(1) กษัตริย์ต้องสนับสนุนเสรีภาพทางศาสนา
(2) การให้อํานาจสมบูรณาญาสิทธิราชย์แก่กษัตริย์เพิ่มจากเดิม
(3) การจํากัดพระราชอํานาจของกษัตริย์ ไม่ให้ใช้อํานาจได้ตามอําเภอใจ
(4) กษัตริย์ต้องให้สิทธิทางการค้าแก่ทุกชนชั้น
ตอบ 3 หน้า 417 การปฏิวัติอันรุ่งเรืองของอังกฤษในปี ค.ศ. 1688 นําไปสู่ “ประกาศแห่งสิทธิ ในปี ค.ศ. 1689 ซึ่งมีหลักการสําคัญดังนี้
1. การจํากัดพระราชอํานาจของกษัตริย์ ไม่ให้ใช้อํานาจได้ตามอําเภอใจ เช่น การออกกฎหมาย การเก็บภาษี หรือการจัดตั้งกองทัพ
2. สมาชิกรัฐสภาต้องได้รับการเลือกตั้งโดยเสรีและมีเสรีภาพที่จะโต้แย้งกันในรัฐสภาได้
3. การตัดสินคดีต่าง ๆ ต้องได้รับการพิจารณาจากลูกขุน เป็นต้น
113. การใช้ลิ่มหรือวัสดุที่มีความแข็ง กดทับลงบนแผ่นดินเหนียว เป็นลักษณะของตัวอักษรใด
(1) Hieroglyphics
(2) Book of the Dead
(3) Coffin Texts
(4) Cuneiform
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 24. ประกอบ
114. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับกีฬาโอลิมปิก
(1) ภูเขาซีนาย
(2) ช่อมะกอกศักดิ์สิทธิ์
(3) เทพเจ้ากรีก
(4) ระยะเวลา 1 โอลิมเปียด
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 84. ประกอบ
115. ชนชั้นใดที่ไม่ได้อยู่ภายใต้โครงสร้างทางสังคมแบบฟิวดัล
(1) ชาวนา
(2) ขุนนาง
(3) พ่อค้า
(4) อัศวิน
ตอบ 3 หน้า 226 – 228, (คําบรรยาย) ชนชั้นที่อยู่ภายใต้โครงสร้างทางสังคมแบบฟิวดัลหรือสังคมศักดินาสวามิภักดิ์ ได้แก่
1. กษัตริย์ (King)
2. ขุนนางชั้นสูง (Vassals)
3. ขุนนางชั้นรองลงมา (Sub vassals)
4. นักรบ (Warriors) หรืออัศวิน
5. ทาสติดที่ดิน (Serfs) หรือชาวนา
116. เทพเจ้าของชาวกรีก-โรมัน มีลักษณะอย่างไร
(1) เชื่อในเรื่องความสมดุล ความมืด-ความสว่าง/ความดี ความชั่ว
(2) ประกอบพิธีกรรมอย่างเคร่งครัด โดยมีพระเป็นสื่อกลาง
(3) เทพเจ้ามีลักษณะใกล้เคียงมนุษย์ มีอารมณ์ ความรู้สึก
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 115, 39 (H) ชาวกรีก-โรมันมีความเชื่อในเรื่องวิญญาณและอํานาจลึกลับต่าง ๆ โดยเชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งลึกลับเหล่านั้นก็คือ เทพเจ้า ซึ่งเทพเจ้าจะมีรูปร่างหน้าตา อารมณ์ และความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ ทั้งนี้ชาวโรมันจะรับเอาเทพเจ้าของกรีกมาทั้งหมด แต่มีการ แปลงชื่อใหม่ โดยเทพเจ้าที่สําคัญ เช่น เทพซีอุส (Zeus) เป็นเทพเจ้าสูงสุด พวกโรมันเรียกว่า “จูปิเตอร์” (Jupiter), เทพโพไซดอน (Poseidon) เป็นเจ้าแห่งทะเล พวกโรมันเรียกว่า “เนปจูน” (Neptune) เป็นต้น
117. ข้อใดเป็นเหตุผลหลักที่ชาวโปรตุเกสและสเปนถึงพยายามออกเรือเพื่อสํารวจทางทะเล
(1) เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
(2) ค้นหาเส้นทางการเดินทัพใหม่ ๆ
(3) เพราะต้องการเผยแพร่ศาสนา
(4) เพื่อค้นหาเส้นทางการค้าไปยังทวีปเอเชีย
ตอบ 4 หน้า 351, 87 (H) เหตุผลหลักที่ชาวโปรตุเกสและสเปนพยายามออกเรือเพื่อสํารวจทางทะเล คือ ต้องการสํารวจค้นหาเส้นทางการค้าไปยังทวีปเอเชียและแอฟริกา ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการ สถาปนาประเทศโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1139 จนนําไปสู่การปฏิวัติทางการค้าในที่สุด
118. เหตุการณ์ที่เรียกว่า “การคุมขังแห่งบาบิโลเนีย” คือเหตุการณ์ตามข้อใด
(1) การที่อาณาจักรบาบิโลนรุกรานชาวยิว
(2) การที่สันตะปาปาถูกคุมขังที่เมืองบาบิโลน
(3) การที่สันตะปาปาตกอยู่ภายใต้อํานาจกษัตริย์อังกฤษ
(4) การที่สันตะปาปาตกอยู่ภายใต้อํานาจกษัตริย์ฝรั่งเศส
ตอบ 4 หน้า 300 – 303, 80 – 81 (H) เหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมอํานาจของศาสนจักร ในศตวรรษที่ 14 – 15 มีดังนี้
1. การคุมขังแห่งบาบิโลเนีย (Babylonian Captivity : ค.ศ. 1305 – 1377) เกิดขึ้นเพราะ สันตะปาปาได้ย้ายที่ประทับจากกรุงโรมในอิตาลีมาอยู่ที่เมืองอาวิญยองในฝรั่งเศส ทําให้ สันตะปาปาชาวฝรั่งเศสองค์ต่อ ๆ มาพํานักอยู่ในฝรั่งเศสเป็นเวลา 70 ปี ส่งผลให้สันตะปาปา ๆ: ตกอยู่ภายใต้อํานาจของกษัตริย์ฝรั่งเศส และมิได้มีฐานะเป็นประมุขสากลอีกต่อไป
2. การแตกแยกครั้งใหญ่ (The Great Schism : ค.ศ. 1378 – 1417) มีสาเหตุมาจากการแย่งชิง ตําแหน่งพระสันตะปาปาระหว่างชาวอิตาลีกับชาวฝรั่งเศส จนส่งผลให้เกิดสันตะปาปาขึ้น พร้อมกัน 2 องค์ทั้งที่กรุงโรมในอิตาลี และที่เมืองอาวิญยองในฝรั่งเศส
119. จูเลียส ซีซาร์ เป็นผู้นําปฏิทินมาประยุกต์ใช้กับอาณาจักรโรมัน เป็นมรดกจากอารยธรรมใด
(1) อารยธรรมอียิปต์
(2) อารยธรรมมายา
(3) อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
(4) อารยธรรมอินคา
ตอบ 1 หน้า 52, 50 – 51 (H) ในปี 46 B.C. จูเลียส ซีซาร์ ได้นําเอาปฏิทินแบบสุริยคติของอียิปต์ มาเผยแพร่และนํามาดัดแปลงใช้ในสาธารณรัฐโรมัน ซึ่งปฏิทินดังกล่าวก็ยังคงใช้สืบเนื่องมา จนถึงปัจจุบัน โดยชื่อเดือนกรกฎาคมหรือ July ก็มาจากชื่อของ Julius Caesar นั่นเอง
120. ข้อใดเป็นสาเหตุสําคัญที่ทําให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทําการปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ
(1) ไม่พอใจการขายใบไถ่บาปของสันตะปาปา
(2) สันตะปาปาไม่ยอมรับการขึ้นสู่บัลลังก์ของพระองค์
(3) ต้องการหย่าขาดจากมเหสี แต่ศาสนจักรไม่ยอม
(4) ไม่พอใจการปฏิบัติตัวของพระในอังกฤษ
ตอบ 3 หน้า 383, 99 (H), (คําบรรยาย) การปฏิรูปศาสนาในอังกฤษเกิดขึ้นเพราะพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ ต้องการหย่าขาดจากพระนางแคทเทอรีนแห่งอรากอนเพื่ออภิเษกสมรสใหม่กับ แอน โบลีน แต่ศาสนจักร (สันตะปาปา) ไม่ยินยอม พระเจ้าเฮนรีที่ 8 จึงตัดขาดจากองค์กร คริสตจักรที่กรุงโรม และทรงให้รัฐสภาออกกฎหมายที่เรียกว่า “The Act of Supremacy ในปี ค.ศ. 1534 เพื่อแต่งตั้งให้พระองค์เป็นประมุขทางศาสนาในอังกฤษแทนสันตะปาปา หรือ “Catholic without Pope” ซึ่งส่งผลทําให้อังกฤษเปลี่ยนศาสนาเป็นโปรเตสแตนต์ที่เรียกว่า นิกายอังกฤษ (Anglican Church/Church of England)