แนวข้อสอบชุดพิเศษ 1 ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2554
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG2002 การอ่านตีความ
Part I : Seen Passages
ส่วนที่ 1 : เนื้อเรื่องในตำรา
A : Directions : Read the following statements. Then blacken 1 for a true statement and blacken 2 for a false statement. (1 = True / 2 = False)
A : คำสั่ง : จงอธิบายข้อความต่อไปนี้ แล้วใช้ดินสอดำระบาย 1 หากเป็นข้อความที่ถูกต้องและระบบ 2 หากเป็นข้อความที่ผิด (1 = ถูก / 2 = ผิด)
1 . To read well, you have to point at what you are reading word by word.
ถาม เพื่อการอ่านที่ดี คุณต้องชี้สิ่งที่คุณอ่านทีละคำ
ตอบ 2 : (ผิด) การอ่านที่ดีผู้อ่านต้องอาศัยความรู้เดิม (Prior Knowledge) และพื้นฐานทางภาษาที่ดี และมีวิธีการที่ถูกต้อง ซึ่งการอ่านโดยทั่วไปผู้อ่านทีละคำแต่ให้อ่านเป็นกลุ่มคำ และต้องไม่อ่านออกเสียงหรือชี้นิ้วตามไปด้วย เพราะจะทำให้การอ่านนั้นช้าและขาดความต่อเนื่อง เกิดความสับสนจนมาสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้
2 . The topic of the passage always tells you the main idea of that passage.
ถาม หัวเรื่องของเรื่องนี้จะบอกให้คุณทราบใจความสำคัญของเนื้อเรื่องเสมอ
ตอบ 2 : (ผิด) ใจความสำคัญ คือ หัวเรื่องที่ประกอบด้วยกับส่วนขยาย (ภาคแสดง) เป็นประโยชน์ที่สมบูรณ์ดังนั้นหัวเรื่องอย่างเดียวจะไม่สามารถบอกถึงใจความสำคัญได้ เพราะเราจะไม่ทราบว่าผู้เขียนถึงหัวเรื่องนั้นใดแง่ใด
3 . In skimming, you have to read every word in the passage to get as much information as possible.
ถาม เนื้อเรื่องอ่านที่ดีนั้นจำเป็นต้องมีใจความสำคัญ
ตอบ 2 : (ผิด) การอ่านแบบสกิมมิง (skimming) เป็นเทคนิคการอ่านเร็วแบบข้าม ๆ เพื่อหาใจความสำคัญโดยทั่วไป หรือรายละเอียดสำคัญบางอย่างของเนื้อเรื่องโดยจะอ่านเฉพาะคำหรือวลีที่สำคัญ ๆ อย่างรวดเร็ว แล้วอ่านข้ามส่วนที่คิดว่าไม่สำคัญในประโยคนั้น โดยไม่มีความจำเป็นต้องอ่านทุกคำในเนื้อเรื่อง
4 . A good reading passage needs to have a main idea.
ถาม เนื้อเรื่องอ่านที่ดีนั้นจำเป็นต้องมีใจความสำคัญ
ตอบ 1 : (ถูก) การเขียนเนื้อเรื่องที่ดีนั้นผู้เขียนจะต้องมีวัตถุประสงค์ในการเขียน โดยเขียนให้อยู่ในเรื่องเดียวกันและจำเป็นต้องมีประเด็นหลักหรือใจความสำคัญ เพื่อให้ผู้อ่านทราบหรือสรุปได้ว่าจากเนื้อเรื่องทั้งหมดผู้เขียนต้องการบอกอะไร
5 . In scanning, you look for only certain information you need from the reading passage.
ถาม ในการอ่านแบบสแกนนิง คุณมองหาข้อมูลเฉพาะที่คุณต้องการจากเนื้อเรื่องที่อ่านเท่านั้น
ตอบ 1 : (ถูก) การอ่านแบบสแกนนิง (scanning) เป็นเทคนิคการอ่านเร็วอีกวิธีหนึ่งเพื่อหาข้อมูลเฉพาะบางอย่างที่ต้องการทราบเท่านั้น เช่น วันที่ เลขที่ ชื่อต่าง ๆ ข้อมูลหรือความคิดบางอย่าง เป็นต้น
6 . In writing the writer uses reference to shorten what he or she is writing, to save space.
ถาม ในการเขียน ผู้เขียนใช้การอ้างอิงเพื่อทำให้สิ่งที่เขาหรือเธอเขียนสั้นลงเพื่อประหยัดเนื้อที่
ตอบ 2 : (ผิด) การอ้างอิง (Reference) คือ การที่ผู้เขียนเชื่อมโยงความคิดของเนื้อหาของเรื่องโดยการใช้คำหรือวลีแทนคำหรือข้อความที่ได้กล่าวไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวคำเดิมหรือข้อวามเดิมซ้ำ ๆ อีก เพราะการใช้คำเดิมหรือข้อความเดิมอาจทำให้เนื้อเรื่องไม่กระชับและทำให้ผู้อ่านเกิดความเบื่อหน่ายได้
7 . The main idea of each paragraph can at the beginning, in the middle or at the end of the paragraph.
ถาม ใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้าสามารถปรากฏที่ตอนต้น ตอนกลาง หรือตอนท้ายของย่อหน้า
ตอบ 1 : (ถูก) ใจความสำคัญของย่อหน้ามี 2 ชนิด คือ
1. ใจความสำคัญที่ระบุในย่อหน้าซึ่งอาจจะปรากฏในต้อนต้น ตอนกลางหรือตอนท้ายของย่อหน้าก็ได้
2. ใจความสำคัญโดยนัย เป็นใจความสำคัญที่ไม่ได้ระบุชัดเจนในย่อหน้า ผู้อ่านย่อหน้านั้นอย่างละเอียดแล้วรวบรวมและเรียบเรียงใจความสำคัญจากข้อมูล รายละเอียดและข้อความสำคัญ ๆ ที่บอกเป็นนัยไว้ เพื่อสรุปใจความสำคัญด้วยตนเอง
8 . Inference is the information that the writer does not directly tell reader, but the reader can get that information from information from other information stated in the reading.
ถาม การวิเคราะห์สรุปความ คือ ข้อมูลที่ผู้เขียนไม่ได้บอกผู้อ่านโดยตรง แต่ผู้อ่านสามารถไดรับข้อมูลนั้นจากข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุในเรื่องที่อ่าน
ตอบ 1 : (ถูก) ในการเขียนบางครั้งผู้เขียนอาจไม่ได้อธิบายหรือแจกแจงทุกสิ่งทุกอย่างอย่างละเอียดให้ผู้อ่านทราบโดยตรง แต่จะให้ลักษณะข้อมูลบางอย่างที่ผู้อ่านสามารถนำไปวิเคราะห์และสรุปความเองได้ ซึ่งผู้อ่านอาจจะต้องอาศัยภูมิความรู้เดิมและประสบการณ์ในการวิเคราะห์ด้วย
B : Directions : Read the following passages and choose the best answer for each question.
B : คำสั่ง : จงอ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดสำหรับคำถามแต่ละข้อ
Passage 1
It is difficult, therefore, to find definite proof that a chemical can cause illness or death. However the majority of scientists who conduct independent research into the effect of chemicals on the environment believe that complete certainty is not needed. According to them, if a connection id found between a chemical and serious health problems in test animals, we must stop the use of that chemical. It is better to ban a chemical which may be safe than to use a chemical which may cause serious illness or death.
ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหาข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดได้ว่า สารเคมีตัวหนึ่งจะสามารถเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยหรือการตายได้ แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ทำงานวิจัยอิสระเกี่ยวกับผลกระทบของสารเคมีที่มีต่อสิ่งแวดล้อมเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องมีความแน่ใจอย่างเต็มที่ ตามความคิดเห็นของพวกเขา ถ้าพบความเกี่ยวข้องกันระหว่างสารเคมีตัวหนึ่งกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงในสัตว์ทดลองเราก็จะต้องหยุดใช้สารเคมีตัวนั้น การประกาศห้ามใช้สารเคมีที่บางทีอาจจะปลอดภัยนั้นดีกว่าการใช้สารเคมีที่บางทีอาจจะเป็นต้นเหตุของอาการเจ็บป่วยที่ร้ายแรงหรือความตาย
9. According to the passage, most scientists ____________.
1. do not like to study the harm of any chemical.
2. cannot find any clear – cut proof that a certain chemical can cause death in human beings.
3. can prove that which chemical is harmful or not.
ถาม ตามเนื้อเรื่อง นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่_______.
1. ไม่ชอบศึกษาถึงภัยอันตรายของสารเคมีใด ๆ
2. ไม่สามารถหาหลักฐานที่แน่ชัดได้ว่าสารเคมีบางชนิดสามารถเป็นสาเหตุของการตายในมนุษย์
3. สามารถพิสูจน์ได้ว่าสารเคมีตัวไหนเป็นอันตรายหรือไม่
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 : จากเนื้อเรื่อง นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ทำงานวิจัยอิสระและรวมถึงนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่นอนว่าสารเคมีจะเป็นอันตรายทำให้ถึงตายได้จริงหรือไม่
10 . What is the thing that the scientists mentioned above do ?
1. Conduct independent research
2. Complete people’s needs
3. Produce chemicals
4. Clean the environment
ถาม อะไรคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ที่กล่าวถึงข้างต้นทำ
1. ทำงานวิจัยอิสระ
2. สนองความต้องการของประชาชน
3. ผลิตสารเคมี
4. ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม
ตอบ 1 : นักวิทยาศาสตร์ที่กล่าวถึงในย่อหน้านี้คือนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยอิสระ
11 . We can infer from passage that these scientists test _____ to see whether there is any connection between a chemical and serious health problems.
1. Human being
2. Animals in the environment
3. Lab animals
4. Both human beings and wild animals
ถาม เราสามารถสรุปได้จากเนื้อเรื่องว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ ได้ทดสอบ ____ เพื่อทราบว่ามีความเกี่ยวข้องใด ๆ ระหว่างสารเคมีตัวหนึ่งกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงหรือไม่
1. มนุษย์
2. สัตว์ในสภาพแวดล้อม
3. สัตว์ในห้องทดลอง
4. ทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า
ตอบ 3 : จากเนื้อเรื่องแสดงว่ามีการทดลองกับสัตว์ในห้องทดลองเท่านั้น จึงทำให้ไม่แน่ใจในกรณีของมนุษย์
12 . At the end of the paragraph, it is suggested that we should ______.
1. Not use chemical at all
2. Use chemicals safely
3. Stop using a certain chemical if it may cause health problems
4. Improve chemicals to make better than before
ถาม ตอนท้ายของย่อหน้า มีคำแนะนำว่าพวกเราควร ______
1. ไม่ใช้สารเคมีเลย ใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย
2. หยุดใช้สารเคมีบางชนิดที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ
3. ปรับปรุงสารเคมีเหล่านั้นให้ดีกว่าเมื่อก่อน
ตอบ 3 : ซึ่งเป็นคำแนะนำของนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจับอิสระ
13 . The word “them” refers to _____.
1. Health problems
2. Test animals
3. Chemicals
4. Scientists
ถาม คำว่า “them” อ้างอิงถึง
ตอบ 4 : หมายถึง นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยอิสระ
14 . The word “ban” means ________.
1. Prohibit
2. Allow
3. Proof
4. test
ถาม คำว่า “ban” หมายความว่า ______
ตอบ 1 : “ban” เป็นคำกริยา แปลว่า ประกาศห้าม มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า Prohibit
Passage 2
Today, American colleges and universities (originally modeled on German ones) are under strong attack from many quarters. Teachers, it is charged, are not doing a good job of teaching and students are not doing a good job of learning. American businesses and industries suffer from unenterprising, uncreative executives educated not to think for themselves but to mouth outdated truisms the rest of the world has long discarded. College graduates lack both basic skills and general culture. Studies are conducted and reports are issued on the status of higher education. But any changes that result either are largely cosmetic or make a bad situation worse.
ทุกวันนี้วิทยาลัยมหาวิทยาลัยในอเมริกา (ซึ่งแต่ตั้งเดิมจำลองตามแบบวิทยาลับและมหาวิทยาลัยของเยอรมนี) กำลังถูกโจมตีอย่างหนักจากหลายฝ่าย มีการกล่าวหาว่าอาจารย์ปฏิบัติหน้าที่ในการสอนได้ไม่ดี และนักศึกษาก็ปฏิบัติหน้าที่ในการเรียนได้ไม่ดี ธุรกิจและอุตสาหกรรมของชาวอเมริกันประสบความเสียหายจากผู้บริหารที่ไม่กล้าได้กล้าเสียและขาดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ได้ถูกสอนมาให้คิดด้วยตนเอง แต่ให้ท่องหลักทฤษฎีล้าสมัยที่คนอื่นในโลกเขาโยนทิ้งกันไปนานแล้ว ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยขาดทั้งทักษะพื้นฐานและการฝึกอบรมทั่วไป มีการทำการศึกษาวิจัยและรายงานตีพิมพ์ออกมามากมายเกี่ยวกับสภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษา แต่ความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่ใช่ผักชีโรยหน้าก็ทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีก
15 . According to the passage, American colleges and universities get their models from _____.
1. Asia
2. North American
3. Europe
4. Australia
ถาม ตามเนื้อเรื่อง วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในอเมริกาได้แบบของพวกเขาจาก ______
1. เอเชีย
2. อเมริกาเหนือ
3. ยุโรป
4. ออสเตรเลีย
ตอบ 3 : จากเนื้อเรื่องมีการจำลองแบบมาจากเยอรมนี
16 . According to the passage, who are charged of not doing a good job ?
1. Teachers
2. Businessmen
3. Students
4. 1 and 3 are correct.
ถาม ตามเนื้อเรื่อง ใครถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ได้
1. อาจารย์
2. นักธุรกิจ
3. นักศึกษา
4. ข้อ 1 และ 3 ถูก
ตอบ 4 : จากประโยคที่ 2
17 . American businesses and industries suffer because of _______.
1. Higher education
2. The excessive use of cosmetics
3. The changes in their culture
4. Inefficient executives
ถาม ธุรกิจและอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกาประสบความเสียหาย เนื่องจาก ______
1. การศึกษาในระดับอุดมศึกษา
2. การใช้เครื่องสำอางมากเกินไป
3. การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของพวกเขา
4. ผู้บริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ
ตอบ 4 : การที่ผู้บริหารไม่มีประสิทธิภาพคือ ไม่มีความคิดสร้างสรรค์และไม่มีความกล้าได้กล้าเสียจึงเป็นสาเหตุทำให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมของอเมริกาเกิดความเสียหาย
18 . What do college graduates lack ?
1. Higher education
2. Changes
3. Basic skills general culture
4. Businesses
ถาม ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยขาดอะไร
1. การศึกษาในระดับอุดมศึกษา
2. การเปลี่ยนแปลง
3. ทักษะพื้นฐานและการฝึกอบรมทั่ว ๆไป
4. ธุรกิจการค้า
ตอบ 3 : จากประโยคที่ 4
19 . The word “ones” refers to ________.
1. Colleges
2. Universities
3. Businesses
4. Colleges and universities
ถาม คำว่า “ones” อ้างอิงถึง ________
1. วิทยาลัย
2. มหาวิทยาลัย
3. ธุรกิจ
4. วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย
ตอบ 4 : “German Ones” หมายถึง German colleges and Universities
20 . The word “quarter” here means _______.
1. a unit of time equal to 25 minutes
2. unspecified people
3. a period of three months
4. a U.S. coin worth 25 cents
ถาม คำว่า “quarter” ในที่นี้ หมายถึง _______
1. หน่วยของเวลาเท่ากับ 25 นาที
2. ผู้คนที่ไม่เจาะจง
3. ระยะเวลา 3 เดือน
4. เหรียญมูลค่า 25 เซนต์ของสหรัฐฯ
ตอบ 2 : จากเนื้อเรื่อง “quarter” หมายถึงส่วนหรือฝ่าย ซึ่งเป็นการกล่าวแบบไม่เจาะจงหรือระบุบุคคล
Passage 3
Beyond these programmes lie war films, the Western and the specifically violent dramatic ones about crime. Besides providing excitement and suspense, these also may be offering way in which children can express their aggression in a safe way, or see it being expressed. The evidence suggests, however, that if they offer to satisfy this need the more realistic ones at least don’t necessarily succeed in doing so. Perhaps they function as pornography often does – attracting with the outward sings of what might satisfy a need, but not actually doing so ; or perhaps they are like certain processed foods which have been found no more nourishing on examination than their cardboard packaging.
นอกเหนือจากรายการเหล่านี้ยังมีภาพยนตร์สงคราม หนังคาวบอยและภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับอาชญากรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจและรุนแรงเป็นพิเศษ นอกเหนือจาการให้ความตื่นเต้นและอาการอยากติดตามแล้วหรือจะได้เห็นมันถูกแสดงออกมา แต่อย่างไรก็ตามจากหลักฐานแสดงให้เห็นว่าถ้ามันนำเสนอเพื่อสนองความต้องการเหล่านี้ได้ อย่างน้อยที่สุดรายการที่มีลักษณะสมจริงมากกว่าก็ไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จในการทำเช่นนั้นเสมอไป บางทีพวกมันมีลักษณะเช่นเดียวกับสื่อลามกที่เป็นอยู่เสมอ นั่นคือ ดึงดูดความสนใจด้วยสัญลักษณ์ภายนอกของสิ่งที่อาจจะสนองความต้องการ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้สนองความต้องการหรือบางทีพวกมันอาจจะเหมือนกับอาหารแปรรูปบางอย่าง ซึ่งพบว่าไม่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการมากไปกว่ากล่องกระดาษที่บรรจุมันเลย
21 . According to the passage, not only do the war provide excitement and suspense, they also ______.
1. educate children
2. children a safe way to express their aggression
3. teach them about the real world
4. give them evidence of aggression
ถาม ตามเนื้อเรื่อง ภาพยนตร์สงครามไม่ใช่แค่ให้ความตื่นเต้นและความอยากติดตามเท่านั้นพวกมันยัง _______
1. ให้วามรู้แก่ตัวเด็ก ๆ
2. ให้วิธีการที่ปลอดภัยในการแสดงออกถึงความก้าวร้าวแก่เด็ก ๆ
3. สั่งสอนพวกเขาเกี่ยวกับโลกที่เป็นจริง
4. แสดงหลักฐานของความก้าวร้าวแก่เด็ก ๆ
ตอบ 2 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 2
22 . According to the passage, evidence shows that ________.
1. Violent films cannot satisfy children’s need
2. Children can release their aggression just by watching violent films
3. Violent films arouse children to express their aggression the same ways that the characters in the films do
4. Children who watch violent films like to eat processed foods
ถาม ตามเนื้อเรื่อง หลักฐานได้แสดงให้เห็นว่า _______
1. ภาพยนตร์ที่รุนแรงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเด็ก ๆ ได้
2. เด็ก ๆ สามารถปลดปล่อยความก้าวร้าวของพวกเขาๆได้เพียงแค่ดูภาพยนตร์ที่รุนแรง
3. ภาพยนตร์ที่รุนแรงกระตุ้นเด็กให้แสดงออกถึงความก้าวร้าวด้วยวิธีการเดียวกันกับตัวละครในภาพยนตร์นั้นแสดง
4. เด็ก ๆ ที่ดูภาพยนตร์ที่รุนแรงชอบรับประทานอาหารแปรรูป
ตอบ 1 : ใจความสำคัญของย่อหน้านี้สรุปได้ว่า ภาพยนตร์ที่รุนแรงแท้จริงแล้วไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการแสดงออกซึ่งความก้าวร้าวของเด็กได้
23 . The author compares violent films with _______.
1. Cardboards
2. Examinations
3. Pornography
4. Western films
ถาม ผู้เขียนเปรียบเทียบภาพยนตร์ที่รุนแรงกับ _______
1. กระดาษแข็ง
2. การตรวจสอบ
3. สื่อลามก
4. ภาพยนตร์คาวบอย
ตอบ 1 : ผู้เขียนเปรียบเทียบภาพยนตร์ที่รุนแรงกับสื่อลามกและอาหารแปรรูปบางชนิด ซึ่งพวกมันไม่สามารถสนองตอบต่อความต้องการอย่างแท้จริง
24 . It can be inferred that the author thinks that processed foods ________.
1. Are too expensive
2. Taste like cardboards
3. Can be examined
4. Lose their nutrients
ถาม สามารถสรุปได้ว่าผู้เขียนคิดว่าอาหารแปรรูป _______
1. แพงเกินไป
2. รสชาติเหมือนกระดาษแข็ง
3. สามารถตรวจสอบได้
4. สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ
ตอบ 4 : วิเคราะห์จากประโยคสุดท้าย
25 . According to the passage, pornography_________.
1. Attracts people with outwards signs that might be able be to satisfy their need
2. Helps people have to make chance to express their need directly
3. Teachers people how to make processed foods
4. Teachers people the packing design of processed foods
ถาม ตามเนื้อเรื่อง สื่อลามก ______
1. ดึงดูดความสนใจของผู้คนรูปลักษณ์ภายนอกทีอาจจะสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้
2. ช่วยให้ผู้คนมีโอกาสที่แท้จริงเพื่อแสดงออกถึงความต้องการของพวกเขาได้โดยตรง
3. สอนผู้คนเกี่ยวกับการทำการอาหารแปรรูป
4. สอนผู้คนเกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของอาหารแปรรูป
ตอบ 1 : วิเคราะห์จากเนื้อเรื่อง ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่สามารถสนองได้เลย
26 . The word “which” refers to ______.
1. Ways
2. Programmes
3. Crime
4. Suspense
ถาม คำว่า “which” อ้างอิงถึง _______
1. วิธีการ
2. รายการ
3. อาชญากรรม
4. ความอยากติดตาม
ตอบ 1 : “which” เป็นคำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามหรือคำสรรพนามที่อยู่ข้างหน้าติดกับมัน นั่นคือ way
27 . The word “it” refers to _______.
1. Crime
2. Excitement
3. Evidence
4. The children’s aggression
ถาม คำว่า “it” อ้างอิงถึง ________
1. อาชญากรรม
2. ความตื่นเต้น
3. หลักฐาน
4. ความก้าวร้าวของเด็ก ๆ
ตอบ 4 : นั่นคือ เด็กจะได้เห็นความก้าวร้าวตามสัญชาตญาณของเด็กถูกแสดงออกมา
28 . The word “their” refers to _______.
1. Children’ s
2. War films
3. Processed foods’
4. Programmes’
ถาม คำว่า “their” อ้างอิงถึง ______
1. ของพวกเด็ก ๆ
2. ของภาพยนตร์สงคราม
3. ของอาหารแปรรูป
4. ของรายการต่าง ๆ
ตอบ 3 : กล่องกระดาษของอาหารแปรรูป
Passage 4
This capacity for acquiring language is remarkable for a number of reasons. It is remarkable first because of it uniformity throughout the human race. There simply are no cases of normal human children who, when they are given the chance, fail to acquire a native language. By way of comparison, it is not at all unusual for a child to fail to master arithmetic, reading, swimming, or gymnastics despite a considerable amount of instruction. Language acquisition, in other words, is species uniform.
It is also species specific. Every normal person learns a human language, but no other animals, not even the most intelligent ape, has been shown to be capable of marking the slightest progress in this direction, although some animals can learn to solve problems, use tools, and so on. Language acquisition thus appears to be different in kind from acquisition of other skill mentioned.
ความสามารถในการเรียนรู้ภาษานี้มีความน่าทึ่งด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกที่น่าทึ่งเนื่องจากการที่มันเป็นลักษณะร่วมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด เคยปรากฏเลยว่าเด็กปกติที่โอกาสสัมผัสกับภาษาจะไม่สามารถเรียนรู้ภาษาแม่ได้ หากจะเปรียบเทียบกันแล้วมันเป็นเรื่องปกติมากที่สุดเด็กคนหนึ่งจะไม่เก่งวิชาก็คือ การอ่าน การว่ายน้ำ หรือยิมนาสติก ทั้ง ๆ ที่ไดรับการสอนแล้วจำนวนมาก กล่าวคือ นัยหนึ่งก็คือ การเรียนรู้ภาษาเป็นลักษณะร่วมกันของเผ่าพันธุ์
นอกจากนั้นการเรียนรู้ภาษายังเป็นลักษณะเฉพาะสำหรับบางพันธุ์ มนุษย์ปกติทุกคนรู้ภาษามนุษย์ แต่สัตว์ประเภทอื่นแม้กระทั้งลิงซึ่งเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุดก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถพัฒนาในด้านนี้ได้เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น แม้ว่าสัตว์บางชนิดสามารถที่จะรู้จักแก้ปัญหา รู้จักใช้เครื่องมือและอะไรทำนองนั้นก็ตาม ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาจึงดูเหมือนว่ามีลักษณะที่แตกต่างจาการเรียนรู้ทางด้านทักษะอื่น ๆ ที่กล่าวมา
29 . What does it mean by saying that language acquisition is species uniform ?
1. Human beings learn their native language the same way as animals their own language
2. Any human being can learn their own native language with ease.
3. Some normal human being cannot learn their own native language
4. All are correct.
ถาม อะไรคือความหมายของคำกล่าวที่ว่า การเรียนรู้ภาษาเป็นลักษณะร่วมของผ่าพันธุ์
1. มนุษย์เรียนรู้ภาษาแม่ของพวกเขาด้วยวิธีการเดียวกันกับสัตว์ที่เรียนรู้ภาษาของพวกมันเอง
2. มนุษย์ทุกคนสามารถเรียนรู้ภาษาแม่ของพวกเขาได้โดยง่าย
3. มนุษย์ปกติบางคนไม่สามารถเรียนรู้ภาษาแม่ของพวกเขาได้
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 : จากย่อหน้าที่ 1 ลักษณะของเผ่าพันธุ์ หมายถึง มนุษย์ปกติทุกคนสามารถเรียนรู้ภาษาได้โดยง่ายเหมือนกันหมด ไม่มีใครที่ไม่รู้ภาษา
30 . Learning native language is not the same as learning how to _______.
1. Swim
2. Do math
3. Read
4. All are correct.
ถาม การเรียนรู้ภาษาแม่ไม่เหมือนกับการเรียนรู้วิธีการ _____
1. ว่ายน้ำ
2. ทำโจทย์คณิต
3. อ่าน
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 : การเรียนรู้ทักษะทางด้านอื่น ๆ เช่น การอ่าน การว่ายน้ำ ยิมนาสติก หรือวิชาเลขคณิตจะมีความแตกต่างจาการเรียนรู้ภาษา เพราะบางคนทำได้แต่บางคนทำไม่ได้
31 . That language acquisition is species specific means ______.
1. Only human being can learn a language
2. only apes can learn a language
3. Both human beings and apes can learn a language
4. Human beings can learn to use tools and solve simple problems, but not language
ถาม การเรียนรู้ภาษานั้นเป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าพันธุ์ หมายความว่า _______
1. มนุษย์เท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้
2. ลิงเท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้
3. ทั้งมนุษย์และลิงสามารถเรียนรู้ภาษาได้
4. มนุษย์สามารถเรียนรู้การใช้เครื่องไม้เครื่องมือและแก้ไขปัญหาที่ไม่สลับซับซ้อนได้ แต่สามารถเรียนรู้ภาษาได้
ตอบ 1 : หมายถึง เป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น เผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถเรียนรู้ภาษาได้ซึ่งภาษาในที่นี้หมายถึงภาษาที่เทียบเท่าภาษามนุษย์
32 . The word “it” refers to ________.
1. Human
2. The capacity of acquiring language
3. The chance
4. A native language
ถาม คำว่า “it” อ้างอิงถึง ________
1. เผ่าพันธุ์มนุษย์
2. ความสามารถในการเรียนรู้ภาษา
3. โอกาส
4. ภาษาแม่
ตอบ 2 : นั่นคือ ความสามารถในการเรียนรู้ภาษานั้นน่าทึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับประโยคก่อนกน้า
32 . The phrase “this direction” refers the direction of _______.
1. Making slight progress in learning a language
2. Learning how to do math and swim
3. Learning a native language
4. Solving problems and using tools
ถาม วลี “this direction” อ้างอิงถึงในด้านของ______
1. การเกิดความก้าวหน้าเล็กน้อยในการเรียนรู้ภาษา
2. การเรียนรู้วิธีการทำวิชาคณิตและการว่ายน้ำ
3. การเรียนรู้ภาษาแม่
4. การแก้ปัญหาและการใช้เครื่องมือ
ตอบ 3 : หมายถึง ลิงไม่สามารถพัฒนาในด้านการเรียนรู้ภาษาแม่ได้เลย
34 . The phrase “other skills mentioned” refers to the following skills, except ______.
1. Swimming
2. Gymnastics
3. Reading
4. Learning one’s native language
ถาม วลี “other skills mentioned” อ้างอิงถึงทักษะต่อไปนี้ ยกเว้น _______
1. การว่ายน้ำ
2. ยิมนาสติก
3. การอ่าน
4. การเรียนรู้ภาษาแม่ของบุคคลหนึ่ง
ตอบ 4 : ดูคำอธิบายข้อ 30. ประกอบ
Passage 5
As for muscle mass, women do indeed, according to some studies, have roughly half the muscle mass of men. And men are, on the average, a third stronger than women. Most women are in poor physical condition, sedentary, and often overweight. Were they given women the opportunities men have to keep fit, the strength gap would narrow considerably. The petite build of many top women gymnasts belies their extraordinary strength. Muriel Davis Grossfeld, the 1960 U.S Olympic gymnast, is just over five feet tall. Yet fitness tests at the University of Illinois revealed that she was as strong as the average male college athlete.
สำหรับเรื่องขนาดของกล้ามเนื้อ จากบางรายงานการศึกษาจริงอยู่ว่าผู้หญิงมีขนาดของกล้ามเนื้อประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ชาย และโดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายจะแข็งแรงกว่าผู้หญิงประมาณ 1/3 เท่า ผู้หญิงส่วนใหญ่อยู่ในสภาวการณ์ทางร่างกายที่ไม่ดี ไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกาย และมักมีน้ำหนักเกิน แต่หากพวกเธอได้รับโอกาสเหมือนอย่างผู้ชายในการแลร่างกายให้แข็งแรงนี้ก็คงจะแคบลงอีกมากอย่างแน่นอน รูปร่างอันเพรียวบางของนักยิมนาสติกหญิงในระดับแนวหน้าหลายคนขัดแย้งกับความแข็งแรงที่ไม่ธรรมดาของพวกเธอ มิวเรียล เดวิส กรอสเฟลด์ นักยิมนาสติกโอลิมปิกปี 1960 ที่สหรัฐอเมริกา เธอมีความสูงแค่ 5 ฟุตกว่า ๆ กระนั้นผลการทดสอบความสมบูรณ์ของสภาพร่างกายที่หมาวิทยาลัยอิลลินอยส์ กลับแสดงให้เห็นว่าเธอมีความแข็งแรงเท่า ๆ กับนักกีฬามหาวิทยาลัยที่เป็นผู้ชายโดยเฉลี่ย
35 . According to the passage, men have _______.
1. Less muscle mass then women
2. The same amount of muscle mass as women
3. More muscle mass than women
4. None is correct.
ถาม ตามเนื้อเรื่อง ผู้ชายมี _______
1. ขนาดของกล้ามเนื้อเล็กกว่าผู้หญิง
2. ขนาดของกล้ามเนื้อปริมาณเท่ากันกับผู้หญิง
3. ขนาดของกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง
4. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ 3 : จากเนื้อเรื่องผู้หญิงมีขนาดกล้ามเนื้อประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ชาย นั่นคือ ผู้ชายมีขนาดกล้ามเนื้อมากกว่าขนาดกล้ามเนื้อของผู้หญิง
40 . Men are ______stronger than women.
1. 1/2
2. 1/3
3. ¼
4. 1/5
ถาม ผู้ชายมีความแข็งแรงมากกว่าผู้หญิง_______เท่า
1. 1/2
2. 1/3
3. 1/4
4. 1/5
ตอบ 2 : จากประโยคที่ 2 A third = 1/3
Part II : Unseen Passages
A : Directions : Read the following passage. Then blacken 1 for a true statement, and blacken 2 for a false statement. (1 = True/ 2 = False)
คำสั่ง จงอ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้ แล้วระบาย 1 หากข้อความนั้นถูกและระบาย 2 หากข้อความนั้นผิด (1 = ถูก / 2 = ผิด)
TOKYO : The unseasonably warm weather this winter has set records in Japan’s various regions, hurting business at ski resorts but helping other industries.
The warmth has also led to bigger hauls of fish, especially anchovies 45 time larger than usual.
Halfbacks a spring catch also were caught in February for the first time in memory.
But at Lake Haruma in Takasaki, Gumma Perfecture, a popular ice fishing spot smelt proved impossible as the lak’s ice was too thin. Leading to the city putting up notices prohibiting the pastime for the first time since the end of World War II.
In the Noto region of Ishikawa Prefecture, fishermen had their peak haul of anchovies months earlier than usual. In Decemberr, 908 tonnes of the fish were caught 45 time the usual for the month. In January, the catch was 447 tonnes, or 16 times normal.
โตเกียว : อากาศอบอุ่นผิดฤดูกาลในฤดูหนาวนี้ได้เกิดขึ้นเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจรีสอร์ตสกี แต่ประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ
อากาศที่อบอุ่นยังได้ทำให้จับปลาได้จำนวนมากขึ้นโดยเฉพาะปลาแอนโชวี ที่มีการจับปลาชนิดนี้เมื่อเดือนธันวาคมได้จำนวนมากที่สุด
เร็วกว่าปกติ ในที่จับได้ตามปกติสำหรับเดือนนั้น ในเดือนมกราคม ปลาที่ถูกจับได้ปริมาณ 447 ตัน หรือ 16 เท่าของปริมาณปกติ
Ski resorts, meanwhile, have also been affected, Unazuki Onsen Ski Gelande the firut winter since opening in 1954 in whin it did not have a single day of sking.
– THE DAILY YOMIURI
ยังมีการจับปลาครึ่งฤดูหลัง หรือการจับปลาในฤดูใบไม้ผลิในเดือนกุมภาพันธ์เป็นครึ่งแรกเท่าที่เคยบันทึกไว้
แต่ที่ทะเลสาบฮารุมะในเมืองทากาซากิจังหวัดกุมมะสถานที่ตกปลาสเมลต์บนน้ำแข็งที่ได้รับความนิยม พบว่าไม่สามารถใช้บริการได้ เพราะว่าน้ำแงบนทะเลสาบบางเกินไปทำให้เมืองนี้ต้องติดป้ายประกาศห้ามกิจกรรมพักผ่อนหน่อยใจนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ในขระเดียวกันธุรกิจรีสอร์ตสกี ก็ไดรับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน อูนาซูกิ ออนเซ็น สกี เกอเลนเดอ ในเมืองคูโรเบะ จังหวัดโตยามา ประสบกับฤดูหนาวแรกตั้งแต่เปิดมาเมื่อปี 1954 ที่ไม่มีการเล่นสกีแม้แต่วันเดียว
– เดลิโยมิอุริ
41 . This passage discusses the causes of the unseasonably warm weather in winter in Japan.
ถาม เนื้อเรื่องพูดถึงสาเหตุของอากาศอบอุ่นผิดฤดูกาลในช่วงฤดูหนาวในประเทศญี่ปุ่น
ตอบ 2 : (ผิด) เนื้อเรื่องนี้พูดถึงอากาศที่อบอุ่นได้ส่งผลกระทบให้เกิดผลดีผลเสียในด้านใดบ้าง
42 . The unusually warm winter affected the Japanese tourist industry.
ถาม อากาศที่อบอุ่นผิดปกติในช่วงฤดูหนาวได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
ตอบ 1 : (ถูก) อากาศอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเล่นสกี แต่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการประมงของญี่ปุ่น
43 . The warm winter bring only damage to Japanese Industries.
ถาม ฤดูหนาวที่อบอุ่นได้ทำให้เกิดความเสียหายล้วน ๆ ต่ออุตสาหกรรมญี่ปุ่น
ตอบ 2 : (ผิด) ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ
44 . Paragraph I states all the points to be discusses in the passage.
ถาม ย่อหน้าที่ 1 ได้ระบุประเด็นทั้งหมดที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่องนี้
ตอบ 1 : (ถูก) ย่อหน้าแรกเป็นประโยคใจความสำคัญ (Topic Sentence) ของเนื้อเรื่องนี้
45 . In paragraph 3, “peak” probably means “the lowest.”
ถาม ย่อหน้าที่ 3 “peak” น่าจะหมายถึง “the lowest.”
ตอบ 2 : (ผิด) “peak” ในที่นี้เป็นคำคุณศัพท์ (adj.) หมายถึง สูงสุด (the highest)
46 . We can assume that in general the winter months are the time for catching anchovies in Japan.
ถาม เราสามารถสันนิษฐานได้ว่า โดยทั่วไปเดือนในฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาของการจับปลาแอนโชวีในประเทศญี่ปุ่น
ตอบ 1 : (ถูก) จากย่อหน้าที่ 2 ที่บอกว่าความอบอุ่นในฤดูหนาวทำให้จับปลาแอนโชวีได้มากกว่าปกติแสดงว่าปกติมีการจับปลาแอนโชวีในฤดูหนาว
47 . It can be concluded that people are never allowed to fish in Lake Haruma.
ถาม สามารถสรุปได้ว่าประชาชนไม่เคยได้รับอนุญาตให้ตกปลาในทะเลสาบฮารุมะ
ตอบ 2 : (ผิด) ฤดูหนาวนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการห้ามตกปลา
48 . In 1954, people could not ski at Unazuski Onsen Ski Gelande in Kurobe.
ถาม ในปี 1954 ผู้คนไม่สามารถเล่นสกีที่ อูนาซุกิ ออนเซ็น สกี เกอเลนเดอ ในเมืองคูโรเบะได้
ตอบ 2 : (ผิด) ฤดูหนาวนี้เป็นครั้งแรกที่ผู้คนไม่สามารถเล่นสกีได้นับตั้งแต่เปิดมาเมื่อปี 1945
49 . Unazuski Onsen Ski Gelande in Kurobe is an old ski resort.
ถาม อูนาซุกิ ออนเซ็น สกี เกอเลนเดอ ในเมืองคูโรเบะ เป็นธุรกิจรีสอร์ตสกีที่เก่าแก่
ตอบ 1 : (ถูก) เพราะเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1954
50 . This passage probably comes from a guidebook.
ถาม เนื้อเรื่องนี้น่าจะมาจากหนังสือคู่มือการท่องเที่ยว
ตอบ 2 : (ผิด) เนื้อเรื่องนี้มาจากหนังสือพิมพ์เดลิโยมิอุริ
B : dirctions : : Read the following passage and choose the best answer for each question.
B : คำสั่ง : จงอ่านเนื้อเรื่องต่อไปนี้แล้วเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดสำหรับคำถามแต่ละข้อ
Passage 1
Every customer is different, and must be handled according to his or her special needs.
Customers can be typed. There is the silent type ; he will listen unmoved to the assistant’s explanations, will volunteer no information except to answer direct questions and will give no indication that he is responding. There is the talkative customer ; the assistant can channel the flow of chatter in a constructive direction only by interrupting from time to time. The decistive customer knows what he assistant’s advantage to let the customer go on thinking this is true. With the indecisive customer, it is often the assistant’s job to make suggestions and recommendations. The impulsive customer will buy quickly, but he will return goods as quickly. The aggressive customer challenges the assistant to persuade him to buy, but he will usually respond to a logical and honest selling policy. The shy customer must be put at his ease.
The assistant should, first of all, make every prospective purchaser feel welcome, then adjust his technique to the circumstances. Creative salesmanship is treating people the way they like to be treated.
ลูกค้าแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และจำเป็นต้องดูแลให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะอย่างของเขาหรือเธอ
ลูกค้าสามารแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ลูกค้าประเภทนิ่งเงียบ เขาจะฟังคำอธิบายของพนักงานแบบไม่ไหวติง ไม่อาสาที่จะให้ข้อมูลเว้นแต่เป็นการตอบคำถามโดยตรง และเขาจะไม่ให่เครื่องบ่งชี้ใด ๆ ว่าเขากำลังตอบสนอง ลูกค้าประเภทช่างพูดช่างคุย พนักงานจะสามารถควบคุมคำพูดฉอด ๆ ที่ไม่หยุดหย่อนนั้นให้อยู่ในแนวทางที่สร้างสรรค์ได้ก็โดยเพียงการพูดสอดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น ลูกค้าประเภทลังเลใจ จะรู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการและเขาต้องการมันอย่างรวดเร็ว เขาชอบคิดว่าเป็นความรับผิดชอบของเขามันก็เป็นความได้เปรียบของพนักงานที่ปล่อยให้ลูกค้าคิดว่ามันเป็นความจริง ลูกค้าประเภทใจเร็วจะซื้อด้วยความรวดเร็ว แต่เขาก็จะคืนสินค้าอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ลูกค้าประเภทก้าวร้าว จะท้าท้ายพนักงานให้โน้มน้าวจูงใจเขาให้ซื้อ แต่โดยปกติแล้วเขาจะตอบรับต่อนโยบายการขายที่ซื่อสัตย์และสมเหตุสมผลลูกค้าประเภทซื้อขาย ต้องถูกปล่อยให้วางตัวตามสบาย
ก่อนอื่นพนักงานควรทำให้ว่าที่ผู้ซื้อรู้สึกอบอุ่นใจก่อน ต่อจากนั้นจึงปรับใช้เทคนิคให้เข้ากับสถานการณ์ นักขายที่สร้างสรรค์ย่อมปฏิบัติต่อผู้คนเช่นเดียวกับที่เขาต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา
51 . Paragraph 1 is ________.
1. The thesis statement of the passage
2. A major supporting sentence
3. Too short to be a paragraph
4. A fact statement
ถาม ย่อหน้าแรก คือ ______
1. ใจความสำคัญของเนื้อเรื่อง
2. ประโยคสนับสนุนหลัก
3. สั้นเกินไปสำหรับหนึ่งย่อหน้า
4. ข้อเท็จจริง
ตอบ 1 : โดยมีย่อหน้าที่ 2 และ 3 สนับสนุน
52 . How many types of customers are mentioned in the passage ?
1. 4
2. 5
3. 6
4. 7
ถาม ประเภทลูกค้าที่ได้กล่าวถึงในเนื้อเรื่องนี้มีกี่ประเภท
1. 4
2. 5
3. 6
4. 7
ตอบ 4 :
1. ประเภทนิ่งเงียบ
2. ประเภทช่างพูดช่างคุย
3 . ประเภทเด็ดขาด
4. ประเภทลังเลใจ
5 . ประเภทใจเร็ว
6. ประเภทก้าวร้าว
7 . ประเภทซื้อขาย
53 . Which is not a necessary characteristic of a goof assistant ?
1. Observant
2. Flexible
3. Aggressive
4. Supportive
ถาม ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะที่จำเป็นของพนักงานที่ดี
1. ช่างสังเกต
2. ยืดหยุ่น
3. ก้าวร้าว
4. ชอบช่วยเหลือ
ตอบ 3 : วิเคราะห์จากย่อหน้าสุดท้าย
54 . Which cannot be concluded from passage ?
1. All customers are different.
2. All customers are different to please.
3. All customers must be suitably treated.
4. Customers can classified into different groups.
ถาม ข้อใดไม่สามารถสรุปได้จากเนื้อเรื่อง
1. ลูกค้าทั้งหมดนั้นแตกต่างกัน
2. ลูกค้าทั้งหมดนั้นยากที่จะทำให้พึงพอใจ
3. ลูกค้าทั้งหมดต้องถูกปฏิบัติอย่างเหมาะสม
4. ลูกค้าสามารถแยกประเภทเป็นกลุ่มต่าง ๆ ได้
ตอบ 2 : จากเนื้อเรื่องบอกแค่วิธีทำให้ลูกค้าพึงพอใจ แต่ไม่ได้บอกว่ายากหรือง่าย
55 . A customer who cannot make up his mind is a/ an ______ customer.
1. Silent
2. Impulsive
3. Indecisive
4. Aggressive
ถาม ลูกค้าที่ไม่สามารถตัดสินใจได้คือลูกค้าประเภท________
1. นิ่งเงียบ
2. ใจเร็ว
3. ลังเลใจ
4. ก้าวร้าว
ตอบ 3 : ลูกค้าประเภทลังเลใจต้องการคำแนะนำหรือการชี้แนะนำในการตัดสินใจ
56 . The shy customer ________.
1. Should not be pressured
2. Should be interrupted often
3. Should be given questions
4. Should not be helped
ถาม ลูกค้าประเภทขี้อาย ______
1. ไม่ควรถูกกดดัน
2. ควรถูกขัดจังหวะบ่อย ๆ
3. ควรถูกตั้งคำถาม
4. ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือ
ตอบ 1 : วิเคราะห์จากย่อหน้าที่ 2 ประโยคสุดท้าย
57 . The basic writing technique of paragraph 2 is _______.
1. Definition
2. Illustration
3. Enumeration
4. Classification
ถาม เทคนิคเขียนพื้นฐานของย่อหน้าที่ 2 คือ ______
1. การให้คำจำกัดความ
2. การใช้ภาพประกอบ
3. การแจกแจง
4. การแยกประกอบ
ตอบ 3 : ย่อหน้าที่ 2 เป็นการเขียนแบบแจกแจงว่าลูกค้าประเภทต่าง ๆ นั้นมีอะไรบ้าง
58 . The proverb, “honesty is the best policy”, may work well with a ______ customer.
1. Talkative
2. Indecisive
3. Aggressive
4. Shy
ถาม สุภาษิต “honesty is the best policy” อาจจะใช้ได้ผลดีกับลูกค้าประเภท _______
1. ช่างพูดช่างคุย
2. ลังเลใจ
3. ก้าวร้าว
4. ขี้อาย
ตอบ 3 : ลูกค้าประเภทก้าวร้าวจะชอบวิธีการขายแบบตรงไปตรงมาหรือซื่อสัตย์
59 . The last paragraph is a _______.
1. Direction
2. Narration
3. Request
4. Suggestion
ถาม ย่อหน้าสุดท้าย เป็น ______
1. แนวทาง
2. การบรรยาย
3. ข้อเรียกร้อง
4. คำแนะนำ
ตอบ 4 : สามารถสังเกตได้จากคำที่เขียนใช้ คือ should
60 . This passage is probably in the field of _______.
1. Marketing
2. Education
3. Philosophy
4. Mass media
ถาม เนื้อเรื่องนี้น่าจะอยู่ในสาขาวิชาของ ______
1. การตลาด
2. การศึกษา
3. ปรัชญา
4. สื่อสารมวลชน
ตอบ 1 : ประเภทของลูกค้าและเทคนิคการขายน่าจะเป็นหัวข้อหนึ่งในสาขาวิชาการตลาด
Passage 2
1 . 1Korea’s tea culture is one of the world’s oldest traditions in the history of this universal beverage that traces its origins to 2737 B.C. when, according to historical records dried leaves blew into a cup of boiled water Chinese emperor Shennong was drinking in his garden. 2Over 4,700 years have passed since one of the world’s oldest beverages was discovered. And Korea’s ancient culture of tea thrives across the country due to resurging interest in holistic health. 3Korea teas are diverse yet hold unlimited appeal to those seekomg health and a refined taste for what tradition has to offer. 4Popular Korean teas nokcha (green tea), insamcha (ginseng tea), and yujacha (citron tea) are just some of the most widely sought favorites.
2 . The health benefits of drinking tea are boundless. As far back as the Silla Kingdom (57 B.C – A.D. 935) Buddhist monks used the drink to ward off fatigue and to invigorate mind and body, an antidote that enhanced their spiritual training. Tea was also used as a form of medicine during the Joseon period (1392 – 1910) to treat common ailments such as indigestion and the common cold. Historical records also indicate that kings drank tea as a cure for headaches and mental anxiety. Indeed, modern science proves that tea is rich in vital nutrients, including Vitamins C and E, saponin, and tannins that help lower blood pressure, prevent cancers, and even reduce the likelihood of diabetes.
1 . 1วัฒนธรรมการดื่มชาของเกาหลีเป็นหนึ่งในประเพณีที่เก่าแก่ที่สุดของโลกในประวัติศาสตร์ของเครื่องดื่มทั่วโลก ซึ่งต้นกำเนิดของมันสืบย้อนไป 2737 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อครั้งที่ตามบันทึกในทางประวัติศาสตร์บอกว่ามีใบไม้แห้งปลิวหล่นลงไปในถ้วยน้ำร้อน ในขณะที่จักรพรรดิเสินหนงของจีนกำลังดื่มน้ำอยู่ในอุทยานของพระองค์ 2ล่วงเลยมากกว่า 4,700 ปี นับตั้งแต่หนึ่งในเครื่องดื่มที่เก่าแก่ที่สุดของโลกชนิดนี้ได้ถูกค้นพบวัฒนธรรมในการดื่มชาที่เก่าแก่ของเกาหลีได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ เนื่องจากการหันมาใส่ใจในเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม 3ชาเกาหลีมีความหลากหลายอีกทั้งยังเป็นที่ดึงดูดใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่น่าสนใจสุขภาพและรสนิยมที่ดีจากสิ่งที่ประเพณีนำมาใช้ 4เกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างนกชา (ชาเขียว) อิมซัมชา (ชาโสม) และยูจาชา (ชามะนาว) เป็นเพียงบางส่วนของชาชนิดโปรดที่ถูกถามถึงอย่างกว้างขวางมากที่สุด
2 . ประโยชน์ต่อสุขภาพของการดื่มชานั้นมีมากมาย ย้อนกลับไปในราชอาณาจักรซิลลา (57 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 935) พระสงฆ์ใช้ดื่มเพื่อขจัดความเมื่อยล้าและเพื่อทำให้จิตใจและร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เป็นเครื่องช่วยเสริมการฝึกจิตนาภาวนา ชาถูกใช้เป็นระบบประเภทหนึ่งของยาด้วยเช่นกันระหว่างในช่วงสมัยราชวงศ์โซซอน (1392 – 1910) เพื่อรักษาโรคเจ็บป่วยทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น อาหารไม่ย่อยและไข้หวัดธรรมดา บันทึกทางประวัติศาสตร์บอกให้ทราบด้วยเช่นกันว่ากษัตริย์ดื่มชาเพื่อรักษาอาการปวดหัวและโรควิตดกังวล โดยแม้จริงแล้ววิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่าชานั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อชีวิต รวมทั้งวิตามีนซีและอี ชาโปนิน และแทนนิส ซึ่งช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันมะเร็ง และแม้แต่ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
61 . Sentence 1 of the first paragraph is ________.
1. The main idea
2. The topic sentence
3. An introductory sentence
4. The major supporting detail
ถาม ประโยคที่ 1 ของย่อหน้าแรก คือ _______
1. ใจความสำคัญ
2. ประโยคใจความสำคัญ
3. ประโยคเกริ่นนำ
4. รายละเอียดสนับสนุนหลัก
ตอบ 3 : ในย่อหน้าแรกประโยคที่ 1 เป็นประโยคเกริ่นนำ ประโยคที่ 2 เป็นประโยคใจความสำคัญ ประโยคที่ 3 เป็นประโยครายละเอียดสนับสนุนหลัก และประโยคที่ 4 เป็นรายละเอียด
62 . According to the passage, tea as a beverage was discovered ______.
1. In 2737 B.C.
2. Between 57 B.C – A.D. 935
3. Between 1392 – 1910
4. Nearly 5,000 years ago
ถาม ตามเนื้อเรื่อง ชาเป็นเครื่องดื่มที่ถูกค้นพบ _______
1. ในช่วง 2737 ปีก่อนคริสตกาล
2. ระหว่างช่วง 57 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 935
3. ระหว่างปี 1392 – 1910
4. เมื่อเกือบ 5,000 ปีมาแล้ว
ตอบ 1 : วิเคราะห์จากย่อหน้าที่ 1 ประโยคที่ 1
63 . We learn from paragraph 1 that enthusiasm about health ___ the popularity of tea drinking.
1. Causes
2. Releases
3. Excites
4. Improves
ถาม เราเรียนรู้จากย่อหน้าที่ 1 ได้ว่า ความกระตือรือร้นเกี่ยวกับสุขภาพ _____ ความนิยมของการดื่มชา
1. ทำให้เกิด 2. ปลดปล่อย 3. ทำให้ตื่นเต้น 4. ปรับปรุง
ตอบ 1 : วิเคราะห์จากย่อหน้าที่ 2 ย่อหน้าแรก
64 . Paragraph 2 mainly supports sentence _____in paragraph 1.
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ถาม ย่อหน้าที่2 ส่วนใหญ่สนับสนุนประโยคที่ _____ ในย่อหน้าที่ 1
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ตอบ 2 : นั่นคือ ย่อหน้าที่ 2 สนับสนุนใจความสำคัญในย่อหน้าที่ 1
65 . The second paragraph discusses _______.
1. An antidote that enhanced the spiritual training
2. The common ailments caused by tea drinking
3. The advantages of drinking tea
4. Tae drinking in everyday life
ถาม ย่อหน้าที่ 2 กล่าวถึง ______
1. ยาที่ช่วยเสริมการฝึกจิตภาวนา
2. โรคเจ็บป่วยทั่ว ๆ ไปที่เกิดจากกานดื่มชา
3. ประโยชน์ของการดื่มชา
4. การดื่มชาในชีวิตประจำวัน
ตอบ 3 : ย่อหน้าที่ 2 กล่าวถึงประโยชน์ของชาซึ่งปรากฏเป็นใจความสำคัญอยู่ในประโยคที่ 1
66 . Tea can ______ some common ailments.
1. Rest
2. Reform
3. Refine
4. Relive
ถาม ชาสามารถ ______ โรคเจ็บป่วยทั่ว ๆ ไปบ้างโรคได้
1. พัก
2. แก้ไข
3. ขัดเกลา
4. บรรเทา
ตอบ 4 : จากประโยคที่3 ย่อหน้าที่ 2
67 . In Paragraph 2, “boundless” means ______.
1. Beautiful
2. Bad
3. Popular
4. Plenty
ถาม ในย่อหน้าที่ 2 “boundless” หมายความว่า_______
1. สวยงาม
2. ไม่ดี, เลวร้าย
3. เป็นที่นิยม
4. มากมาย
ตอบ 4 : “boundless” มีความหมายว่า มากมาย ไม่มีขอบเขต
68 . Paragraph 2 has ________.
1. A topic sentence
2. An introductory sentence
3. A concluding sentence
4. All are correct.
ถาม ย่อหน้าที่ 2 มี _______
1. ประโยคใจความสำคัญ
2. ประโยคเกริ่นนำ
3. ประโยคสรุป
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 : ดูคำอธิบายข้อ 65. ประกอบ (ส่วนประโยคอื่นทั้งหมดเป็นประโยคสนับสนุนหลัก)
69 . Which, according to the passage is not a serious ailment ?
1. Cancer
2. Diabetes
3. Blood pressure
4. Indigestion
ถาม ย่อหน้าที่ 2 มี _______
1. ประโยคใจความสำคัญ
2. ประโยคเกรินนำ
3. ประโยคสรุป
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 : จากเนื้อเรื่องชาสามารถรักษาโรคเจ็บป่วยธรรมดาได้ เช่น อาหารไม่ย่อยและไข้หวัดธรรมดา
70 . This passage is about _______.
1. Tea culture
2. Korean teas
3. Benefits of tea
4. The origin of Korean tea
ถาม เนื้อเรื่องนี้เกี่ยวกับ ______
1. วัฒนธรรมการดื่มชา
2. ชาเกาหลี
3. ประโยชน์ของชา
4. ต้นกำเนิดของชาเกาหลี
ตอบ 2 : เนื้อเรื่องนี้พูดถึงชาเกาหลีมันมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
Passage 3
1In recent years, sharks in the U.S. waters have received wide attention. 2Are such attacks a growing threat to swimmers and surfers ? 3Statistics suggest not. 4The rate of attack per number of swimmers has not increased over time. 5What has increased is the popularity of aquatic sorts, such as surfing, sail boarding, and kayaking. 6More people are in the water these days, and therefore the chances of a shark encounter increase. 7Stull, to keep the issue in perspective we should remember that there were only six fatal shark attacks in U.S. coastal waters from 1990 to 2000.
1เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปลาฉลามในน่าน้ำของสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง 2การโจมตีเหล่านั้นเป็นภัยที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับว่ายน้ำและนักเล่นกระดานโต้คลื่นหรือไม่ 3ตามสถิติบอกว่าไม่ 4อัตราของการโจมตีต่อจำนวนของนักว่ายน้ำไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา 5แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือ ความนิยมชมชอบกีฬาทางน้ำอย่างเช่น การเล่นกระดานโต้คลื่น การแล่นเรือใบและการพายเรือคายัด 6ทุกวันนี้ผู้คนจะอยู่ในน้ำเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นโอกาสการเผชิญกับปลาฉลามก็เพิ่มขึ้นด้วย 7ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อไม่ให้มองเห็นประเด็นเกินจริงพวกเราต้องไม่ลืมว่ามีการโจมตีของปลาฉลามครั้งร้ายแรงเพียงหกครั้งเท่านั้นในน่านน้ำชายฝั่งของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 1990 ถึงปี 2000
71 . The word “issue” in sentence 7 refers to ______.
1. ‘sharks in the U.S. waters’
2. ‘shark attack’
3. ‘the rate of shark attack’
4. ‘the popularity of aquatic sports’
ถาม คำว่า “issue” ในประโยคที่ 7 อ้างอิงถึง ______
1. ‘ปลาฉลามในน่านน้ำของสหรัฐฯ’
2. ‘การโจมตีของปลาฉลาม’
3. ‘อัตราการโจมตีของปลาฉลาม’
4. ‘ความนิยมในกีฬาทางน้ำ’
ตอบ 2 : นั่นคือ ผู้เขียนต้อการเน้นย้ำว่า การโจมตีของปลาฉลามตามชายฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นภัยเพิ่มขึ้นหรือเลวร้ายอย่างที่คิด เพราะจำนวนครั้งการโจมตีที่ร้ายแรงถือว่าน้อยในรอบ 11 ปีที่ผ่านมา
72 . The main idea of this paragraph is _______.
1. In sentence 1
2. In sentence 3
3. In sentence 5
4. Implied
ถาม ใจความสำคัญของย่อหน้านี้ ______
1. อยู่ในประโยคที่ 1
2. อยู่ในประโยคที่ 3
3. อยู่ในประโยคที่ 5
4. บอกเป็นนัย
ตอบ 2 : ใจความสำคัญของเนื้อเรื่องนี้เกิดจากประโยคที่ 2 รวมกับประโยคที่ 3 (ประโยคคำถาม – คำตอบ) โดยให้ยึดประโยคคำตอบเป็นสำคัญ ซึ่งใจความสำคัญของย่อหน้านี้ก็คือ “ถ้าดูจากสถิติแล้วการโจมตีของปลาฉลามไม่ได้เป็นภัยที่เพิ่มมากขึ้น”
73 . According to the author, which of the following has not increased over time ?
1. The popularity of aquatic sports
2. The number of fatal shark in U.S. coastal waters
3. The rate of shark attacks per number of people in the water
4. The estimated shark population in U.S. coastal waters
ถาม ตามความคิดของผู้เขียน ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
1. ความนิยมชมชอบของการเล่นกีฬาทางน้ำ
2. จำนวนการโจมตีของปลาฉลามครั้งร้ายแรงตามชายในน่านน้ำของสหรัฐฯ
3. อัตราของการโจมตีของปลาฉลามต่อจำนวนของประชาชนที่เล่นน้ำ
4. จำนวนของปลาฉลามโดยประมาณในชายฝั่งน่านน้ำของสหรัฐฯ
ตอบ 3 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 4
74 . The author most likely provides the statistic in the final sentence in order to ______.
1. Warm swimmers and surfers against dangers
2. Illustrate that relatively few fatal shark attacks have occurred in U.S. waters
3. Point out that U.S. coastal waters are safer than those of other countries
4. Suggest that the issue of fatal shark attacks may be misled as insignificant
ถาม ผู้เขียนอ้างสถิติมนประโยคสุดท้าย เป็นไปได้ที่สุดว่าเพื่อที่จะ ______
1. เตือนนักว่ายน้ำและนักเล่นกระดานโต้คลื่นเกี่ยวกับภัยอันตราย
2. อธิบายว่าการโจมตีของปลาฉลามที่ร้ายแรงนับว่าน้อยที่ได้เกิดขึ้นในน่านน้ำของสหรัฐฯ
3. ชี้ให้เห็นว่าชายฝั่งน่านน้ำของสหรัฐฯ มีความปลอดภัยมากกว่าชายฝั่งน่าน้ำของประเทศอื่น
4. ชี้ให้เห็นว่าปัญหาการโจมตีที่ร้ายแงของปลาฉลามอาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ
ตอบ 2 : ดูคำอธิบายข้อ 71. ประกอบ
75 . The purpose of the paragraph is to _______.
1. Instruct
2. Complain
3. Inform
4. Compare
ถาม จุดประสงค์ของย่อหน้านี้คือ ______
1. สอน
2. ร้องเรียน
3. บอก, แจ้ง
4. เปรียบเทียบ
ตอบ 3 : จากเนื้อเรื่องนี้ผู้เขียนมีจุดประสงค์เพื่อบอกกล่าวว่าสถิติชี้ว่าการโจมตีของปลาฉลามไม่ได้เป็นภัยเพิ่มขึ้น
Passage 4
1With an estimated 250 million cases and 2 million resulting deaths per year, malaria has come back as the world’s number – one public health problem, especially in tropical and subtropical regions. 2The struggle with this infection is nothing new – malaria is mentioned in some of the earliest medical records of Western civilization. 3We know, for example, that the ancient Greek physician Hippocrates identified three types of malarial fevers in the 5th century B.C. 4By the late 15th century, malaria had spread to the Americas, likely as the result of European explorers. 5In fact, epidemics in Central America were recorded in 1493, only a year after Columbus ‘s first voyage there.
1จากประมาณการผู้ป่วย 250 ล้านรายต่อปี และ2 ล้านรายต่อปีที่ถึงกับเสียชีวิต โรคมาเลเรียได้กลับมาเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับหนึ่งของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน 2การต่อสู้กับโรคติดต่อนี้ไม่ใช่เรื่อใหม่ โรคมาเลเรียถูกกล่าวถึงอยู่ในส่วนหนึ่งของบันทึกทางการแพทย์ในสมัยแรก ๆ ของอารยธรรมตะวันตก 3เป็นต้นว่าพวกเราทราบว่าฮิปโปเครติส แพทย์ชวกรีกโบราณได้จำแนกประเภทของโรคมาเลเรียออกเป็นสามประเภทในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล 4เมื่อปลายศตวรรษที่ 15 โรคมาเลเรียได้แพร่กระจายไปยังทวีปอเมริกาซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นสาเหตุมาจานัดสำรวจชาวยุโรป 5แท้จริงแล้วโรคระบาดครั้งใหญ่ในอเมริกากลางได้ถูกบันทึกในปี1493 เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นหลังจากการเดินทางสำรวจด้วยเรือครั้งแรกของโคลัมบัสไปยังที่นั่น
76 . Hippocrates was _______.
1. A Greek
2. A doctor
3. From the fifth century B.C.
4. All are correct.
ถาม ฮิปโปเครติส เป็น _____
1. ชาวกรีก
2. นายแพทย์
3. อยู่ในศตวรรษที่
4 ก่อนคริสตกาล
5. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 : จากประโยคที่ 3
77 . According to the paragraph, malaria is ________.
1. Impossible to eradicate from the tropics
2. Likely to spread from the tropics to temperate regions
3. A disease with a long history that remains a serious public health problem today
4. An infection that was probably present in the Americas before the arrival of Europeans
ถาม จากย่อหน้า โรคมาเลเรีย คือ ______
1. เป็นไม่ได้ที่จะกำจัดไปจากเขตร้อน
2. อาจจะระบาดจากเขตร้อนไปยังเขตอบอุ่น
3. โรคที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ร้ายแรงอยู่ทุกวันนี้
4. โรคระบาดที่น่าจะมีอยู่ในอเมริกาก่อนการมาถึงของชาวยุโรป
ตอบ 3 : ตีความจากประโยคที่ 1
78 . Malaria’s long history suggests that it has been ______.
1. An infection for which there is no known treatment
2. Especially well documented in the annuals of medicines
3. Spread primarily from locations in Europe to other parts of the world
4. Particularly resistant to efforts to eradicate or control the infection
ถาม ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของโรคมาลาเรียบ่งบอกว่ามันเป็น ______
1. โรคระบาดที่ไม่มีใครรู้วิธีการรักษา
2. ถูกบันทึกไว้อย่างดีเป็นพิเศษในรายงานประจำปีทางการแพทย์
3. โดยส่วนใหญ่แพร่ระบาดมาจากพื้นที่ต่าง ๆ ในยุโรปไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก
4. ต้านทานเป็นพิเศษต่อความพยายามที่จะกำลังหรือควบคุมโรคนี้
ตอบ 4 : จากเนื้อเรื่องโรคมาลาเรียมีประวัติศาสตร์ยาวนานและยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันแสดงว่าเป็นโรคที่ไม่สามารถควบคุมหรือกำจัดให้หมดไปจากโลกนี้ได้
79 . Sentence _____ is an opinion statement.
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ถาม ประโยคที่ ______ เป็นข้อความแสดงความคิดเห็น
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ตอบ 4 : ข้อความแสดงความคิดเห็น คือ ข้อความที่ไม่แน่ชัดเป็นความจริง มักจะมีคำที่แสดงถึงความคิดเห็นส่วนตัว เช่นในที่นี้สังเกตจากคำว่า Likely (น่าจะ, ดูเหมือน)
80 . Sentence 5 is a _______ of sentence 4.
1. Proof
2. Hypothesis
3. Lesson
4. Suggestion
ถาม ประโยคที่ 5 เป็น ______ ของประโยคที่ 4
ตอบ 1 : ประโยคที่ 5 เป็นหลักฐานยืนยันข้อสมมุติฐานของผู้เขียนในประโยคที่ 4
Passage 5
1Raising houseplants involves nearly as much care and knowledge as raising children. 2First, both plants and children are sensitive to their environments. 3For example, plant will grow faster and be much healthier if it is raised in an environment of tender, loving care. 4The same is true for a child, who will be happier and healthier if his parents love and nurture him. 5Similarly, proper care of houseplants requires a basic a basic knowledge of plants on the part of the owner. 6He must know, for example, which of his plants need direct sunlight and which need be kept in shady places, and how much water each plant requires for the best growth and appearance. 7Parents, too, must have a basic knowledge of their children’s needs in order to provide what is necessary for the best physical and mental development. 8Finally, the owner of houseplants must be willing to provide the best possible care for his plants. 9A child needs time and energy from his parents, too, to play with him, to talk to care for him. 10Generally speaking, happy, healthy plants and children are the result of extra time, knowledge, and energy.
1การเลี้ยงไม้ประดับต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่และความรู้ความเข้าใจอย่างมากเกือบพอ ๆ กับการเลี้ยงเด็ก 2ประการแรกทั้งต้นไม้และเด็กจะไวต่อสภาพแวดล้อม 3ตัวอย่างเช่น ต้นไม้จะเจริญเติบโตเร็วมากและจะแข็งแรงกว่ามาก ถ้ามันถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมของการดูแลที่อ่อนโยนด้วยความรัก 4สิ่งเดียวกันแตกต่างไปจากเด็กซึ่งเขาจะมีความสุขและมีสุขภาพดีถ้าดีถ้าพ่อแม่และเอาใจใส่เขา 5ในทำนองเดียวกัน การดูแลที่เหมาะสมต่อไม้ประดับต้องอาศัยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับต้นไม้จากฝ่ายที่เป็นเจ้าของ 6ตัวอย่างเช่น เขาจะต้องรู้ว่าต้นไม้ชนิดไหนของเขาที่ต้องการรับแสงแดดโดยตรง และชนิดไหนที่ต้องการการดูแลในสถานที่ร่วม และต้นไม้แต่ละต้นต้องการน้ำมากเท่าไหร่สำหรับการเจริญเติบโตและลักษณะรูปร่างที่ดีที่สุด 7พ่อแม่ด้วยเช่นเดียวกันจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความต้องการของลูก ๆ ของพวกเขาเพื่อที่จะจัดเรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาทางด้านร่างกายและสติปัญญาที่ดีที่สุด 8ประการสุดท้ายผู้เป็นเจ้าของไม้ประดับจะต้องพร้อมที่จะจัดการดูแลต้นไม้ของเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 9เด็กต้องการเวลาแลพลังกายจากพ่อแม่ของเขาด้วยเช่นกันเพื่อที่จะเล่นกับเขา พูดคุยกับเขาและเอาใจใส่เขา 10กล่าวโดยทั่วไป ต้นไม้และเด็ก ๆ ที่สุขภาพดีมีความสุขคือผลลัทธ์ของการมีเวลา ความเข้าใจ และกำลังกายที่มากกว่าปกติ
81 . In the first sentence there is/ are _______.
1. No main idea
2. Two main ideas
3. A controlling idea
4. A minor detail
ถาม ในประโยคแรก มี ______
1. ไม่มีใจความสำคัญ
2. สองใจความสำคัญ
3. ใจความควบคุม
4. รายละเอียดสนับสนุน
ตอบ 3 : ประโยคแรกคือ ใจความสำคัญหรือใจความควบคุมเนื้อเรื่อง
82 . According to the paragraph, if the environment is _____, children and plants will grow faster and healthier.
1. Favorable
2. Peaceful and quiet
3. Sensitive
4. The same
ถาม ตามเนื้อเรื่อง ถ้าสภาพแวดล้อม _____ เด็ก ๆ และต้นไม้จะเจริญเติบโตเร็วและแข็งแรงสมบูรณ์
1. ดี
2. สงบสุข และเงียบ
3. รับรู้ไว
4. เหมือนกัน
ตอบ 1 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 3 – 4
83 . Both parents and houseplant owners should be _____persons.
1. Fast
2. Simple
3. Knowledgeable
4. Talkative
ถาม ทั้งพ่อแม่และเจ้าของต้นไม้ประดับ ควรเป็นบุคคลที่ ______
1. รวดเร็ว
2. เรียบง่าย
3. รอบรู้
4. ช่างพูดช่างคุย
ตอบ 3 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 1 และ 5 – 7
84 . “The same” in sentence 4 refers to sentence ______.
1. 1
2. 2
3. 3
4. 5
ถาม “The same” ในประโยคที่ 4 อ้างอิงถึงประโยคที่ ______
1. 1
2. 2
3. 3
4. 5
ตอบ 3 : สิ่งเดียวกันนี้ (The same) หมายถึง การโตเร็วและแข็งแรงเมื่อได้รับการดูแลที่เหมาะสม
85 . In sentence 7, “provide” can be replaced by all the following words except “______”
1. Give
2. Protect
3. Arrange
4. Prepare
ถาม ในประโยคที่ 7 “provide” สามารถแทนด้วยคำทั้งหมดต่อไปนี้ ยกเว้น “______”
1. ให้, จัดขึ้น
2. ปกป้อง
3. จัดการ, เตรียมการ
4. เตรียม
ตอบ 2 : “provide” เป็นคำกริยา แปลว่า ให้, จัดหา, จัดเตรียม
86 . The paragraph puts emphasis on the _____of the topic of discussion.
1. Difficulties
2. Differences
3. Similarities
4. Possibilities
ถาม ย่อหน้านี้เน้นย้ำถึง _____ของหัวข้อของการอภิปราย
1. ความยุ่งยาก, อุปสรรค
2. ความแตกต่าง
3. ความคล้ายคลึง
4. ความเป็นไปได้
ตอบ 3 : ย่อหน้านี้เน้นย้ำถึงความคล้ายคลึงกันของการเลี้ยงต้นไม้และการเลี้ยงเด็กโดยเปรียบเทียบ (compare) และการยกตัวอย่าง
87 . This paragraph has ______.
1. An introductory sentence
2. An implied main idea
3. Only major supporting details
4. A topic sentence and a concluding sentence
ถาม ย่อหน้านี้มี _____
1. ประโยคเกริ่นนำ
2. ใจความสำคัญโดยนัย
3. รายละเอียดสนับสนุนเท่านั้น
4. ประโยคใจความสำคัญและประโยคสรุป
ตอบ 4 : ประโยคที่ 1 เป็นประโยคใจความสำคัญ ประโยคที่ 2, 5, 7, 8, 9 เป็นประโยคสนับสนุนหลัก ประโยคที่ 3, 4 และ 6 เป็นประโยคสนับสนุนรองของประโยคที่ 2 และ5 ตามลำดับ ส่วนประโยคที่ 10 เป็นประโยคสรุป
88 . How many major supporting details in this paragraph ?
1. 3
2. 4
3. 5
4. 6
ถาม รายละเอียดสนับสนุนหลักในย่อหน้านี้มีกี่ประโยค
1. 3
2. 4
3. 5
4. 6
ตอบ 3 : ดูคำอธิบายข้อ 87. ประกอบ
89 . The author supports his argument by giving ______.
1. Causes
2. Contrasts
3. Examples
4. Orders
ถาม ผู้เขียนสนับสนุนข้อพิสูจน์ของเขาโดยการยก _______
1. สาเหตุ
2. ข้อเปรียบต่าง
3. ตัวอย่าง
4. ลำดับเหตุการณ์
ตอบ 3 : ดูคำอธิบายข้อ 86. ประกอบ
90 . Both plants and children need _______.
1. Attention
2. To be supported
3. Wealth
4. 1 and 2 are correct.
ถาม ทั้งต้นไม้และเด็ก ๆ ต้องการ _______
1. ความเอาใส่ใจ
2. ให้ได้รับการช่วยเหลือ
3.ความมั่นคง
4. 1 และ 2 ถูก
ตอบ 4 : จากเนื้อเรื่องทั้งต้นไม้และเด็กต้องการการดูแลเอาใจใส่ซึ่งแน่นอนว่าหมายถึงการต้องการความช่วยเหลือด้วย
Passage 6
1 . 1Miceooorganisms may have appeared on Mars about 308 billion years ago, the same time as they appeared on Earth. 2Then several million years later, as single celled animals on Earth began their long struggle to evolve, something went wrong on Mars. 3Some scientists theorize that because Mars is only half the size of Earth, it did not have enough gravity to hold onto its atmosphere, which steadily escaped into space. 4Others believe that carbon dioxide atmosphere grew thinner because it slowly combined with surface minerals to form carbonate rocks. 5In either case, as Mars lost its gaseous cloak, the planer’s ability to retain the sun’ s heat lessened. 6Then, because the thinner atmosphere was unable to prevent the sun’s deadly ultraviolet rays from reaching the surface, Mars changed from a warm, wet nursery to a dry, freezing desert.
2 . Under such conditions, no life as we know it could survive, but many scientists believe that fossil evidence of early life can still be found on Mars. Some even suspect that tenacious microbes may be living deep inside warm volcanoes or in aquifers below the permafrost. Simple organisms, they note, have been found thousands of feet below the surface of the Earth and on the bottom of Antarctica’s perpetually frozen lakes.
3 . 1Whether or not life has ever existed on Mars is a subject that raises questions. 2If living things never existed there, perhaps life’s magic moment happened only on Earth. Sense of uniqueness could encourage us be more caring about our own planet.
4 . If living thing or ever fossils are discovered on Mars, life may be relatively common, found whenever water, carbon and a few other element mix. In that case, what was once a planet that may have help the hot breath of is a planet that could hold it again.
1 . 1สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาจก่อกำเนิดขึ้นบนดาวอังคารเมื่อประมาณ 308 พันล้านปีมาแล้ว ใช่วงเวลาเดียวกันกับสิ่งเหล่านั้นก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นบนโลก 2หลังจากนั้นหลายล้านปีต่อมาในขณะที่สัตว์เซลล์เดียวบนโลกได้เริ่มการต่อสู้ที่ยาวนานเพื่อการพัฒนา แต่มีบางอย่างเกิดความผิดพลาดบนดาวอังคาร 3นักวิทยาศาสตร์บางท่านได้สร้างทฤษฎีที่ว่าเป็นเพราะดาวอังคารมีขนาดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของโลกเท่านั้น มันจึงไม่มีแรงโน้มถ่วงเพียงพอที่จะยึดเหนียวชั้นบรรยากาศของมันไว้ได้ ซึ่งมันได้หลุดลอยสู่ห้วงอวกาศอยู่เสมอ 4ส่วนคนอื่น ๆ เชื่อว่าบรรยากาศที่เป็นก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์นั้นเริ่มเบาบางลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมันรวมตัวกับแร่ธาตุที่อยู่บนพื้นผิวอย่างช้า ๆ จนกลายเป็นหินคาร์บอเนต 5จะด้วยกรณีไหนก็ตาม ขณะที่ดาวอังคารสูญเสียก๊าชที่ห่อหุ้มตัวมันไว้ ความสามารถของดาวเคราะห์ดวงนี้ในการเก็บกักความร้อนของดวงอาทิตย์ก็ลดน้อยลง 6และเนื่องจากชั้นบรรยากาศที่เบาบางไม่สามารถที่จะป้องกันไม่ให้รังสีอัลตร้าไวโอเลตที่รุนแรงของดวงอาทิตย์ส่องถึงพื้นผิวได้ ดาวอังคารจึงแปรสภาพจากสถานเพาะชำที่เปียกชื้นและอบอุ่นกลายเป็นทะเลทรายที่แห้งผากและเย็นยะเยือก
2 . ภายใต้สภาพการณ์เช่นนั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตเฉกเช่นที่เรารู้จักจะสามารถอยู่รอดได้ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายท่านเชื่อว่าหลักฐานจากซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตยุคแรก ๆ อาจจะยังคงถูกค้นพบได้บนดาวอังคาร บางท่านถึงขนาดสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ทนทาน อาจจะอาศัยอยู่ลึกลงไปภายในภูเขาไฟที่อุ่น ๆ อยู่ หรือในแหล่งน้ำใต้ดินภายใต้พื้นผิวที่เป็นน้ำแข็ง พวกเขาสังเกตว่า สิ่งมีชีวิตเชิงเดี่ยวเคยยถูกค้นพบลึกลงไปหนึ่งพันฟุตภายใต้พื้นผิวโลกและที่ก้นทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็งตลอดกาลของทวีปแอนตาร์กติก
3 . 1ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจะเคยมีหรือไม่เคยอยู่บนดาวอังคารหรือไม่นั่นคือประเด็นที่ก่อให้เกิดคำถามตามมา 2ถ้าสิ่งมีชีวิตไม่เคยปรากฏอยู่ที่มี บางทีช่วงเวลาอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้เฉพาะบนโลกเท่านั้น 3ความรู้สึกของความคิดพิเศษนั้นก็อาจกระตุ้นพวกเราให้ใส่ใจเกี่ยวกับดาวเคราะห์ของพวกเราเองมากขึ้น
4 . ถ้าสิ่งมีชีวิตหรือแม้แต่ซากฟอสซิลถูกค้นพบบนดาวอังคาร สิ่งมีชีวิตอาจจะนับว่ามีอยู่ทั่วไป ซึ่งพบได้เมื่อใดก็ตามที่มีน้ำ ธาตุคาร์บอนและธาตุอื่น ๆ สองสามธาตุผสมกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดาวเคราะห์ที่อาจจะเคยมีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตก็จะเป็นดาวเคราะห์ที่สามารถมีมันได้อีกครั้ง
91 . The word “it” in paragraph 1 refers to _______.
1. The carbon dioxide
2. The carbon dioxide atmosphere
3. Mars
4. Earth
ถาม คำว่า “it” ในย่อหน้าที่ 1 อ้างอิงถึง _______
1. ก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์
2. ชั้นบรรยากาศที่เป็นก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์
3. ดาวอังคาร
4. โลก
ตอบ 2 : นั่นคือ ชั้นบรรยากาศจะค่อย ๆ หายไปเนื่องจากมันกลายไปเป็นหิน
92 . Without atmosphere, ________.
1. Mars could not keep warm
2. Mars became lifeless
3. Mars has no protect from ultraviolet rays
4. All are correct.
ถาม ปราศจากชั้นบรรยากาศ ______
1. ดาวอังคารไม่สามารถคงความอบอุ่นไว้ได้
2. ดาวอังคารจึงไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
3. ดาวอังคารไม่มีเครื่องป้องกันจากรรังสีอัลตร้าไวโอเลต
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 5 และ6 ของย่อหน้าแรก
93 . Sentence ______ is the topic sentence of the first paragraph.
1. 1
2. 2
3. 5
4. 6
ถาม ประโยคที่ ______ คือประโยคใจความสำคัญของย่อหน้าแรก
1. 1
2. 2. 2
3. 3. 5
4. 4. 6
ตอบ 2 : ใจความสำคัญของย่อหน้าแรกคือ ต้องการบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาวอังคารที่ทำให้มันปราศจากสิ่งมีชีวิต
94 . There are ______ causes of the loss of the Martian atmosphere.
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ถาม มีสาเหตุ ______ ประการในการสูญเสียชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
ตอบ 2 : สาเหตุหลักที่ทำให้ดาวอังคารสูญเสียชั้นบรรยากาศ คือ 1. ดาวอังคารมีแรงโน้มถ่วงน้อยทำให้ชั้นบรรยากาศหลุดขึ้นสู่ห้วงอวกาศ 2. ชั้นบรรยากาศรวมตัวกับแร่ต่าง ๆ กลายเป็นหิน
95 . The reasons given in Paragraph I are basically _______.
1. Conclusive
2. Decisive
3. Hypothetical
4. Common
ถาม เหตุผลที่ให้ไว้ในย่อหน้าที่ 1 นั้น โดยเบื้องต้น ______
1. เป็นการสรุป
2. เป็นการชี้ขาด
3. เป็นข้อสมมุติฐาน
4. เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป
ตอบ 3 : จากประโยคที่ 3 – 5 เพราะมันเป็นแค่ทฤษฎีหรือความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มซึ่งยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
96 . Which is not correct according to the passage ?
1. Mars is smaller than Earth.
2. Mars does not have gravity.
3. There used to be climate change on Mars.
4. Microorganisms may have appeared on Earth about 308 billion years ago.
ถาม จากเนื้อเรื่อง ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
1. ดาวอังคารขนาดเล็กกว่าโลก
2. ดาวอังคารไม่มีแรงโน้มถ่วง
3. เคยมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบนดาวอังคาร
4. สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอาจจะปรากฏขึ้นบนโลกประมาณ 308 พันล้านปีมาแล้ว
ตอบ 2 : วิเคราะห์จากประโยคที่ 3 ของย่อหน้าแรก ดาวอังคารมีแรงโน้มถ่วงแต่มีไม่พอที่ยึดเหนี่ยวชั้นบรรยากาศเอาไว้
97 . In paragraph 2, scientists _____ evidence that there were living things on Mars.
1. Have already proved
2. Have not yet studied
3. Have already discovered
4. Have not yet found
ถาม ในย่อหน้าที่ 2 นักวิทยาศาสตร์ _____ หลักฐานที่ว่าเคยมีสิ่งชีวิตอยู่บนดาวอังคาร
1. มีการพิสูจน์แล้วสำหรับ
2. ยังไม่มีการศึกษา
3. ได้ค้นพบแล้วสำหรับ
4. ยังไม่มีการค้นพบ
ตอบ 4 : จากประโยคที่ 1 เป็นแค่ความเชื่อหรือความสงสัยว่ามันน่าจะถูกค้นพบได้บนดาวอังคาร
98 . In paragraph 2, “such conditions” refers to ______ conditions.
1. Warm and wet
2. Warm, wet, and dry
3. Dry and extremely cold
4. Wet and freezing
ถาม ในย่อหน้าที่ 2 “such conditions” อ้างอิงถึงสภาพการณ์ ______
1. อบอุ่นและเปียก
2. อบอุ่น เปียก แห้ง
3. แห้ง และหนาวจัด
4. เปียก และเย็นจัด
ตอบ 3 : นั่นคือ สภาพการณ์เช่นท้ายประโยคที่ 6 ของย่อหน้าที่ 1
99 . Which sentence is closet in meaning to sentence 2 in paragraph 3 ?
1. If life never existed on Mars, then Earth may be the only place where life developed.
2. If life did, or still does, exist on Mars, then life may develop easily on Earth.
3. If living things used to exist on Mars, then life might be able to exist again on it.
4. If life is magic, then living things never existed on Mars.
ถาม ประโยคใดต่อไปนี้มีความหมายใกล้เคียงที่สุดกับประโยคที่ 2 ในย่อหน้าที่ 3
1. ถ้าสิ่งมีชีวิตไม่เคยอาศัยอยู่บนดาวอังคาร ดังนั้นโลกอาจจะเป็นสถานที่เดียวที่สิ่งมีชีวิตมีการพัฒนา
2. ถ้าสิ่งมีชีวิเคยมีหรือยังคงมีอยู่บนดาวอังคาร ดังนั้นสิ่งมีชีวิตอาจจะพัฒนาได้อย่างง่ายดายบนโลก
3. ถ้าสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวอังคาร ดังนั้นสิ่งมีชีวิตอาจจะสามารถอาศัยบนดาวอังคารได้อีกครั้ง
4. ถ้าสิ่งมีชีวิตเกิดจากเวทมนตร์ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตไม่เคยอาศัยอยู่บนดาวอังคาร
ตอบ 1 : จากประโยคที่ 2 there = ดาวอังคาร
100 . According to the passage, whether life has ever existed on Mars is ______
1. Unimaginable
2. Exciting
3. Still questionable
4. Absolutely impossible
ถาม ตามเนื้อเรื่อง การที่สิ่งมีชีวิตเคยอาศัยอยู่บนดาวอังคารหรือไม่นั้น ______
1. เหนือจินตนาการ
2. น่าตื่นเต้น
3. ยังคงเป็นที่น่าสงสัย
4. เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ตอบ 3 : จากเนื้อเรื่องยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีหรือเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารหรือไม่