การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2566
ข้อสอบกระบวนวิชา ENG 1002 ประโยคและศัพท์ทั่วไป
Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)
Choose the correct answer.
1.We____television when the phone rang.
1. are watching
2. have watched
3. were watching
4. will watch
ตอบ 3 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense คู่กับ Past Simple Tense เพื่อแสดงความสัมพันธ์ ของ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์หนึ่งกําลังดําเนินอยู่ (Past Continuous Tense) และอีก เหตุการณ์หนึ่งเกิดซ้อนขึ้นมา (Past Simple Tense) แบบนี้ให้ตอบทุกเทอม ดูสูตร
1. S + V2 + when + S + V2
2. S + was/were + Ving + when + S + V2
3. S + had V3 + when + S + V2
ตรงแบบที่ 2 ตอบ were watching ranged
2.We____in that shop before we came home.
1. had been shopping
2. have shopped
3. shop
4. are shopping
ตอบ 1 เป็น 2 เหตุการณ์ ใช้ 2 Tense เชื่อมด้วย before วางไว้ต้นประโยค
1.S+ had V3 before S + V2
2.S+ had V3 when S + V2
3.S + V2 after S + had V3
4.Before + S +V2 S + had V3
5.After + S +had V3, S + V2
6.When + S + V2 , S + had V3
ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 1 before ตอบ had V3 (Past Perfect Tense) ไม่มีในตัวเลือกก็ให้ใช้ had been Ving (Past Perfect Continuous Tense) แทนก็ได้นั่นคือตอบ had been shopping คู่กับส่วนหลังให้ มาแล้ว V2 = came เราเห็น came เป็นอดีต อีกช่องข้างหน้าเราก็ต้องตอบเป็นอดีตด้วย ก็ดูตัวเลือกข้อ 1 had been shopping ตัวเลือกเดียวที่อยู่ในอดีต ก็ตอบได้เลย
3.If I____my work early, I will go to the movies.
1. finishes
2. finished
3. had finished
4. finish
ตอบ 4 หน้า 124- 130 ดูสูตรการใช้ If ขึ้นต้นประโยค มี 4 แบบ
1. If S + V1 , S + V1
2. If S + V1 , S + will V1
3. If S + V2 4 If , S + would/could + V1
4. S+ had V3 , S + would have V3
การเชื่อม if ตรงกลางก็สลับท่อนหน้าไปหลัง หลังไปหน้าเท่านั้น
1. S + V1 if/unless S + V1
2. S + will/can V1 if/unless S+ V1
3. S + would V1 if/unless S+ V2
4. S + would have V3 if/unless S + had V3
ตรงกับสูตร 2. โดยวาง If ขึ้นต้นประโยค ให้มาส่วนหลังคือ will go ทําให้เรารู้ว่าตรงกับสูตร 2 ตอบส่วนหน้าเป็นกริยาช่องที่ 1 (V1) ก็คือ finish ประธานเป็น 1 ตอบกริยา finish
4.My mother____when I came back from school.
1. slept
2. would sleep
3. was sleeping
4. is sleeping
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when
S + was/were + Ving + when + S + V2
ตอบ was sleeping ให้มา came
5.The house____by a professional crew.
1. is being painted
2. painted
3. had painted
4. painting
ตอบ 1 เป็นเรื่องการใช้ Passive Construction รูปประธานถูกกระทํา โดยที่เรารู้ได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องนี้ สามารถดูได้จาก by (หมายถึง โดย) และประธานเป็นสิ่งของ ไม่มีชีวิต อย่างเช่นข้อนี้ The house (บ้าน เป็น สิ่งของ) ก็จะต้องถูกทาสี ในรูปถูกกระทํา จดจําไว้ต้องลงท้ายเป็นกริยาช่องที่ 3 เสมอ เช่น was/were + V3 หรือ is being +V3 = is being painted ในรูป Passive ของ Present Continuous ส่วน painted เรียกว่าเป็น V2 และ had V3 เป็น Past Perfect ไม่ใช่รูปถูกกระทํา ถ้าถูกกระทําของ Perfect ต้องเป็น had been V3 ฉะนั้นจากตัวเลือกมีรูปถูกกระทําตัวเลือกเดียวคือข้อ 1
6.We should leave now,____?
1. should we
2. are we
3. shouldn’t we
4. aren’t we
ตอบ 3 หน้า 174 175 เป็นเรื่อง question-tags ที่ให้ตอบส่วนหาง โดยกําหนดว่าถ้าข้างหน้า
เป็นประโยคบอกเล่าข้างหลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 ส่วนที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับ เรื่องคําสรรพนาม สําหรับกริยาเช่นให้ are ก็ตอบเป็น aren’t, will ก็ตอบ won’t ถ้าเป็นกริยา แท้แสดงอาการกระทํา ให้ใช้ verb to do มาช่วย
-Jane will be here soon, won’t she?
-There was a lot of rain, wasn’t there?
-Maggi won’t be late, will she?
ยกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น
Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we
Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you สําหรับข้อนี้ We should บอกเล่าทําเป็นปฏิเสธรูปย่อคือ shouldn’t we
7.Pat____when she broke her leg.
1. was skiing
2. has skied
3. were skiing
4. will ski
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when มีดังนี้
S + was/were + Ving + when + S + V2
ตอบ was skiing ให้มา broke (มาจาก break broke broken)
8.They___here for years.
1. live
2. lives
3. have lived
4. will live
ตอบ 3 หน้า 68-69 หรือ 72 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense S + has/have been + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่เกิด ติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดําเนินต่อไปในอนาคต จําคําบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็ว ๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long, all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สําหรับข้อนี้ มีคําบอกเวลาคือ for years จึงตอบ have lived
9.I___here since June.
1. work
2. have worked
3. will work
4. would work
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา since…. ก็ตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) = have worked ได้เลย
10. Nick ___will for two days.
1. do
2. is
3. has been
4. will be
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 8 ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา for two days ก็ตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) = has been ได้เลย
11. He___in Hawaii in 1976.
1. lives
2. has lived
3. has been living
4. lived
ตอบ 4 หน้า 24 – 25 ใช้ Past Simple Tense S + V2) แสดงถึงเหตุการณ์ที่สิ้นสุดลงไปแล้วในอดีต หรือเป็นการเล่าเรื่องราวในอดีต มักจะมีคําบอกเวลา เช่น yesterday, ago, in + ปีอดีต, in the past, last + เวลา เช่น last year, last night, last summer, last Sunday เป็นต้น จากโจทย์มีคําบอก เวลาคือ in + ปีอดีต 1976 จึงตอบกริยาช่องที่ 2 คือ lived
12. The bus___a few minutes ago.
1. will stop
2. stopped
3. stops
4. has stopped
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา ago (ที่ผ่านมา) เป็นอดีต จึงตอบ V2 = stopped
13. If I___you, I would not do that.
1. am
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ เป็นเรื่อง f สูตร 3
3. If S + V2 , S + would/could + V1
ตอบ were ให้มา would not do
หมายเหตุ ในเรื่องการสมมุติ เช่นเรื่อง If, as if/as though, wish สําหรับกริยา was กับ were ต้องตอบ were เสมอ ถึงแม้ประธานจะเป็น I, he, she ก็ตามหมายถึงใช้ were, she were
14. The course___ next Sunday.
1. start
2. starts
3. has started
4. had started
ตอบ 2 หน้า 104 ใช้ Future Simple Tense S + will/shall + V1) แสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต มักมีคําบอกเวลา เช่น tomorrow, soon, next + ช่วงเวลา เช่น next year, next month, tonight, in a few minutes, in half an hour เป็นต้น นั่นคือตอบ will start
15. They____English in USA.
1. speak
2. will speak
3. would speak
4. spoken
ตอบ 1 หน้า 6 ใช้ Present Simple Tense S + V1) แสดงเหตุการณ์หรือการกระทําที่เกิดขึ้นเป็นประจํา เป็นนิสัย สม่ำเสมอ ทําทุกวัน ประโยคที่เป็นความจริงเสมอ จริงตามธรรมชาติจริงในปัจจุบัน สํานวน สุภาษิต หรือเกิดขึ้นในปัจจุบันมีคําบอกเวลาเช่น always, usually, often, sometimes, normally, frequently, nowadays, every + ช่วงเวลา เช่น every day (ทุกวัน) every week, every month, every year (ทุก ปี) at present (ในปัจจุบัน) เป็นต้น และโจทย์ที่เป็นจริงเสมอจะไม่มีคําบอกเวลา แต่ออกสอบทุกเทอมต้อง คอยสังเกตว่าเป็นโจทย์แบบไหน ตัวอย่างเช่น
-The sun rises in the east and sets in the west.
-They speak English in USA. (พวกเขาพูดภาษาอังกฤษในสหรัฐฯ) แสดงทําเป็นประจํา
16. Emma always____her purse.
1. forget
2. will forget
3. is forgetting
4. forgets
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา always
17. If you call me, I____you with your homework.
1. help
2. would help
3. will help
4. helped
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ
2. If S + V1 , S+ will V1
ให้มา call ตอบ will help
18. If she____ her car, she will arrive here on time.
1. drive
2. drives
3. will drive
4. drove
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3 หรือข้อ 17. ประกอบ
2. If S + V1 , S + will V1
ตอบ drives ให้มา will arrive
19. Liz____to the supermarket yesterday.
1. will go
2. went
3. goes
4. go
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา yesterday (เมื่อวานนี้) เป็นอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 คือ went
20. George and Nick___ the bus every morning.
1. catches
2. had caught
3. are catching
4. catch
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา every moming (ทุกเช้า) ตอบกริยาช่องที่ 1 และ ประธาน George and Nick สองคนเป็นพหูพจน์ ตอบกริยาพหูพจน์ คือ catch
21. My parents___ to Monaco every summer.
1. going
2. go
3. goes
4. had gone
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 15. ประกอบ มีคําบอกเวลา every summer ตอบ V1 = go
22. I____just____my breakfast when Tom knocked on the door.
1. have; finished
2. had; finished
3. -; finished
4. – : finish
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ เมื่อเราเห็นคําบอกเวลา just (เพิ่งจะ) เราใช้ Present Perfect Tense (has/have +V3) ซึ่งใช้กับประโยคเดียว แต่ถ้าเรามองดูข้อนี้จะเห็นว่ามีสองตอนและเราเห็นกริยาช่องที่ 2 ใน knocked เป็นรูปอดีต (V2) ฉะนั้นส่วนหน้าที่ให้เติมก็ต้องเป็นอดีตคล้อยตามไปด้วยตามหลักของสอง เหตุการณ์ที่อดีตคู่กับอดีต ฉะนั้นจะต้องเปลี่ยนจากการเป็น Present Perfect (have + V3) มาเป็นอดีตคือ
Past Perfect (had +V3) had just finished
23. His mother____German.
1. is
2. were
3. has been
4. had been
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบ ใช้ Present Simple Tense S + V1) กับประโยคที่แสดงความ เป็นจริง อย่างข้อนี้กล่าว “แม่ของเขาเป็นชาวเยอรมัน” แสดงความจริง จึงตอบ V1 = is
24. It’s a long way to the airport,___?
1. is it
2. isn’t it
3. does it
4. doesn’t it
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ ส่วนหาง จากประโยคข้างหน้าเป็นบอกเล่า It’s มาจาก It is ทําเป็น ปฏิเสธรูปย่อ เป็น isn’t it
25. George____back last Thursday.
1. come
2. came
3. comes
4. coming
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา last Thursday เป็นอดีต ตอบ Past Simple (S +V2)
คือ came
26. While you____,I was making dinner.
1. slept
2. will sleep
3. would sleep
4. were sleeping
ตอบ 4 หน้า 38 หรือ 53 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่ กับอดีต ในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต
1. S + V2 while S + was/were Ving
as
2.S + was/were Ving while S + was/were Ving
as
3.S+ is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving
4. While S + was/were Ving ,S + was/were Ving
ข้อนี้ตรงกับสูตร 4. were sleeping ให้มา was making เกิดพร้อมกัน
27. They____for the bus when the accident happened.
1. will wait
2. were waiting
3. wait
4. have waited
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 1. ประกอบ เชื่อมด้วย when มีดังนี้
S + was/were + Ving + when + S + V2
ตอบ were waiting ให้มา happened
28. God___with you.
1. be
2. is
3. was
4. will be
ตอบ 1 ขึ้นต้นด้วย God หรือ Long ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันเสมอ ถ้าเป็น verb to be กริยาไม่ผัน
คือ be ถ้าเป็นกริยาทั่วไป ก็คือ ไม่เติม s หรือ ed หรือใด ๆ เลย เช่น
-Long live the king and the queen.
-God be with us.
29.It’s essential that you___the law.
1. does not violate
2. not violate
3. have not violate
4. violate not
ตอบ 2 หน้า 149 เป็นเรื่องกลุ่มคําที่ยกเว้น ให้ตอบส่วนหลังเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน (ไม่เติม s, es, ed, ing) ถ้าเป็น verb to be ให้ตอบ be มักออก 1 ข้อ ได้แก่
S + is/was important that S + V1
essential
necessary
imperative
urgent
It is essential that ตอบ violate (V1 ไม่ผัน)
ใส่ not ไว้ข้างหน้า เป็น not + V1 = not violate
30. In the past, I ____in many mistakes.
1. make
2. will make
3. made
4. have made
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา in the past (ในอดีต) ตอบกริยาช่องที่ 2 ก็คือ made
31. I____French when I was a child.
1. studied
2. am studying
3. have studied
4. study
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลาในอดีต คือ When I was = สมัยเมื่อฉันเป็นเด็ก แสดงถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 ก็คือ studied
32. This kitchen___every day.
1. cleans
2. be cleaned
3. had cleaned
4. is not cleaned
ตอบ 4 ประธาน kitchen (ห้องครัว) เป็นสิ่งของตามด้วยกริยารูปถูกกระทําคือ ถูกทําความสะอาด หรือไม่ได้ถูกทําความสะอาด ลงท้ายด้วย V3 นั่นคือ โครงสร้าง verb to be + V3 = is cleaned เป็น ปฏิเสธ is not cleaned มีตัวเลือกเดียวที่เป็นรูปถูกกระทํา
33.Paula had her iPhone ____.
1. steal
2. stole
3. stolen
4. stealing
ตอบ 3 หน้า 163 เป็นโครงสร้างในเรื่อง Passive Voice โดยใช้ในรูปของ Verb to have หรือ Verb to get ให้จํา จะออกข้อสอบประมาณ 1-2 ข้อ ก็คือ เมื่อเห็น have/has/ had หรือ get/got ให้ + V3 ดูสูตร
S + has/have/had + สิ่งของ + V3
หรือ S + get/got + สิ่งของ + V3 ได้เลย
ข้อนี้มี had + iPhone (สิ่งของ) + ตอบกริยาช่องที่ 3 ก็คือ stolen (มาจาก steal)
34.I___for you in front of the department store now.
1. waited
2. had waited
3. am waiting
4. would wait
ตอบ 3หน้า 38 ใช้ Present Continuous Tense S + is/am/are Ving) กับเหตุการณ์ หรือการกระทําที่กําลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เรามักคําบอกเวลา เช่น now, right now, at the this moment, at present นั่นคือที่โจทย์มีคําบอกเวลาคือ now เราจึงตอบ am waiting
35. If she knew Spanish, she ___to Spain mor often.
1. would travel
2. travels
3. had traveled
4. traveled
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบเป็นเรื่อง If สูตร 3
3. If S + V2, S + would/could + V1
ให้มา knew ตอบ would travel
36.If they had had money, they___a beach house.
1. would buy
2. will buy
3. would have bought
4. bought
ตอบ 3 การใช้ if ตรงกับสูตรที่ 4
4 If S + had V3, S + would have V3
ให้มา had had ตอบ would have bought
37. My mom___at the moment.
1. cooked
2. is cooking
3. cook
4. had cooked
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ มีคําบอกเวลา at the moment ใช้ Present Continuous Tense =
is cooking
38. As Sue____her homework, Mike arrives.
1. is doing
2. did
3. will do
4. done
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 26. ประกอบ เชื่อมด้วย As (ในขณะที่) ตามหลังจะใช้รูป ing เสมอ
3. S V1 + while S + is/am/are Ving
4. While S + is/am/are+ Ving, S+ V1
ข้อนี้ตรงกับสูตร 4. ให้ตอบ is doing ให้มา arrives
39.The final football match____yesterday.
1. cancelled
2. was cancelled
3. had cancelled
4. is being cancelled
ตอบ 2 ประธาน football match (การแข่งขันฟุตบอล) ถูกยกเลิก ใช้รูปถูกกระทําและท้ายโจทย์มีคําบอก เวลาในอดีต yesterday ใช้รูป was/were + V3 = was cancelled ไม่ใช่ is เพราะโจทย์เป็นอดีต
40. I had my hair____at Jim’s salon a week ago.
1. did
2. doing
3. does
4. done
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ had + สิ่งของ + V2 จึงตอบ done (มาจาก do did done)
41. That brand new car____to Pat.
1. belong
2. belongs
3. is belonging
4. was belonging
ตอบ 2 กริยาบางตัวไม่ใช้รูป Ving เวลาตอบให้ตอบกริยารูปธรรมดาคือ V1 และกริยาผันตามประธานด้วย
เช่น 1. กริยาแสดงความรู้สึก เช่น like, love, hate, feel, know
2. กริยาแสดงเจ้าของ เช่น belong to, own, owe (เป็นหนี้)
3. กริยารูปอื่น ๆ เช่น concern, taste, smell เป็นต้น ดูตัวอย่าง
-This book belongs to you. (หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ)
42.What____you___at 10 o’clock last night?
1. are; doing
2. have; done
3. had; done
4. were; doing
ตอบ 4 หน้า 53 ใช้ Past Continuous Tense S + was/were +Ving) แสดงเหตุการณ์ ที่กําลังดําเนินอยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต ซึ่งมักจะมีคําบอกเวลาในอดีตด้วย เช่น (at) this time last year, at 9 p.m. last night ออกทุกเทอม อย่างข้อนี้มีคําบอกเวลา at 10 o’clock last night จึงตอบ were; doing
43.If they____enough money, they will buy a new car.
1. saved
2. had saved
3.saves
4. save
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 3 หรือข้อ 17. ประกอบ
2. If S + V1 , S + will V1
ตอบ save ให้มา will buy
44. We____already____lunch.
1. have; had
2. have; have
3. -; had
4. have;
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา already ใช้ Present Perfect Tense (has/have + V3) จึงตอบ have ; had ส่วนหลังเป็น had คือเป็นกริยาช่องที่ 1 มาจาก has/have had had
45. Last year, I____to France.
1. travel
2. have travelled
3. travelled
4. travelling
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคําบอกเวลา last year เป็นอดีต ตอบกริยาช่องที่ 2 = travelled
46. If he___more free time, he would visit me.
1. will have
2. had
3. has
4. had had
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 3. ประกอบเป็นเรื่อง If สูตร 3
3. If S + 2 , S+ would/could + V1
ตอบ had ให้มา would visit
47. He wishes he____a professional tennis player.
1. is
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 หน้า 147 เป็นการใช้ wish
1. S+ wish/wishes S + V2 หรือ were
2. S+ wished S+ had V3
3. S+ wish/wishes S+ would/could V1
4. S+ wished S+ would/could have V3
ให้มา wishes เป็นกริยาช่องที่ 1 ตรงสูตร 1 ตอบหลังกริยาช่องที่ 2 คือ were
48. I____football for an hour.
1. play
2. plays
3. was playing
4. have been playing
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา for (เป็นเวลา) เมื่อเห็นตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) ถ้าไม่มีในตัวเลือกให้ตอบ Present Perfect Continuous Tense (has/have + been + Ving) = have been playing
49. He___around the world for a month.
1. travel
2. has been travelling
3. traveling’
4. travels
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8. หรือข้อ 48. ประกอบ มีคําบอกเวลา for ตอบ has been travelling
50. Jane told me that George___her this morning.
1. had visited
2. visit
3. visiting
4. is visiting
ตอบ 1 เราเห็นกริยา told เป็นกริยาช่องที่ 2 อดีต แสดงว่าส่วนหลังก็ต้องตอบรูปอดีต ตามด้วย ดูในตัวเลือกมีรูปอดีตตัวเลือกเดียวคือข้อ 1 had visited เป็น Past Perfect Tense
51. The train____just____when I arrived at the station.
1. has; left
2. have; left
3. had; left
4. was; left
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 22. ประกอบ ใช้หลักเดียวกันคือเห็นอดีต arrived ส่วนหน้าก็ใช้รูปอดีตตามด้วย นั่นคือ had left ในรูป Past Perfect Tense
52.I___with my sister until I find an apartment.
1. lived
2. would live
3. had been living
4. am living
ตอบ 4 ข้อนี้เดาได้โดยดูจากส่วนหลังให้กริยา find เป็นกริยาช่องที่ 1 รูปปัจจุบัน แสดงว่าส่วนหน้าที่ ตอบเป็นรูปปัจจุบันด้วย ดูตัวเลือกแล้วมีปัจจุบันตัวเลือกเดียวคือข้อ 4 am living นอกนั้นเป็นอดีต
53.I___dinner right now.
1. ate
2. am eating
3. eat
4. have eaten
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 34. ประกอบ มีคําบอกเวลา right now
54. They____football before it started to rain.
1. play
2. had been playing
3. was playing
4. have played
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 2. ประกอบ เชื่อมด้วย before
1. S + had V3 before S + V2
ตอบ hadV3 ไม่มีก็ตอบ had been Ving แทนได้ตรงกับ had been playing ส่วนหลังให้ V2 =started
55.___does the store close?
1. How far
2. What time
3. Where
4. Who
ตอบ 2 เป็นรูปประโยคคําถาม ในประโยคต้องการถามเป็นเวลาว่า ร้านปิดกี่โมง ใช้ When หรือ
What time
56. The cake___by my grandmother.
1. baked
2. was baked
3. are baked
4. baking
ตอบ 2 เดาได้เห็น by หรือประธานเป็นสิ่งของ ก็ตอบรูป passive ถูกกระทํา และเป็นเหตุการณ์ที่ กระทําผ่านไปแล้ว ประธาน The cake เป็นเอกพจน์ใช้ was เป็น was baked = was + V3
57.____they enjoy the concert?
1. Does
2. Do
3. Are
4. Have
ตอบ 2 เป็นประโยคคําถาม เราเห็นกริยาหลักช่องที่ 1 คือ enjoy แล้ว ต้องหากริยาช่วยที่ตามด้วยกริยา ช่องที่ 1 ได้นั่นคือ verb to do ประธานเป็น they พหูพจน์ จึงใช้ Do ส่วน Are และ Have จะไม่ตามด้วย
58. Bob said, “You should work hard.”
Bob said that I____work hard.
1. might
2. should
3. used to
4. must
ตอบ 2 เป็นเรื่อง indirect speech เอาคําพูดมาเล่าให้คนอื่นฟังอีกที จะมีการเปลี่ยนคําสรรพนามหรือ Tense (กริยา) ไปด้วย จากประโยค direct speech แรก ใช้กริยาช่วย should ทําเป็น indirect ก็ใช้ should ตัวเดิม
59. We____any mail since we were retired.
1. receive
2. haven’t received
3. received
4. will receive
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 8. ประกอบ มีคําบอกเวลา since + ช่วงเวลา ให้ตอบ Present Perfect (has/have + V3) ถ้าไม่มีให้ตอบ Present Perfect Continuous Tense (has/have + been + Ving) แทนกันได้ จึงตอบ haven’t received
60. She said, “I have never been to Paris.”
She said that she___to Paris.
1. had never been
2. has never been
3. having been
4. will be
ตอบ 1 เมื่อทําเป็น indirect speech มาเล่าให้ฟังใหม่อีกที การใช้ Tense จะเปลี่ยนจากรูปปัจจุบันไป เป็นอดีต อย่างข้อนี้ให้กริยา have never been เปลี่ยนเป็นอดีต คือ had never been ตรงกับตัวเลือกข้อ 1 ที่เป็นอดีต
61. The report___by the end of next week.
1. will be submitted
2. will submit
3. are submitted
4. submitted
ตอบ 1 ประธาน The report (รายงาน) ถูกส่ง ใช้รูป passive ถูกกระทํา และส่วนท้ายมีคําบอกเวลา by the end of next week เป็นรูปอนาคตใช้โครงสร้าง will + V1 ทําเป็น passive จะเป็นโครงสร้าง will
be + V3 = will be submitted
62. I got___because I forgot my homework.
1. punish
2. had punished
3. punished
4. punishing
ตอบ 3 ดูคําอธิบายข้อ 33. ประกอบ กริยา got (มาจาก get) + V3 จึงตอบ punished (จําได้เลย กับข้อ 33. รูปแบบเดียวกันคือ ตอบกริยาช่องที่ 3)
63.___he in town last weekend?
1. Does
2. Did
3. Is
4. Was
ตอบ 4 เป็นประโยคคําถาม และเราเห็นคําบอกเวลา last weekend เป็นอดีต แสดงว่ากริยานั้นต้องเป็นอดีต ไปด้วยนั่นคือในตัวเลือกมี Did กับ Was แล้วดูโจทย์จะเห็นว่าหลังประธาน he ไม่มีกริยาหลักใด ๆ อยู่ตาม ด้วย in town ซึ่งเป็นบุพบทวลีเท่านั้น แสดงว่าต้องตอบกริยาหลัก นั่นคือ verb to be ที่ถูกต้องคือ was (ใน ความหมาย เป็น อยู่ คือ) (เขาอยู่ในเมืองเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใช่มั้ย?) ถ้าทําเป็นบอกเล่า ก็จะเป็นว่า Yes, he was in town last weekend, ส่วน verb to do (do, does, did) ถ้าเอามาช่วยในประโยคคําถาม จะต้อง
– Did in stay in town last weekend? นั่นคือ ถ้าใช้ verb to do มาช่วยในประโยคคําถามต้องมี กริยาหลักช่องที่ 1 หลังประธานด้วยตามตัวอย่าง
64. He said, “She can speak Spanish.”
He said that she___Spanish.
1. spoke
2. speaks
3. is speaking
4. could speak
ตอบ 4 ทําเป็น indirect speech กริยาจะเปลี่ยนจากรูปปัจจุบันเป็นรูปอดีต ฉะนั้นกริยาเดิม can speak ทํา เป็น indirect speech จะเป็น could speak ตรงกับตัวเลือกข้อ 4
65.____is coming to the party tonight?
1. When
2. Who
3. What
4. Where
ตอบ 2 หน้า 166 เป็นประโยคคําถาม Wh-questions แบบนี้ออกสอบทุกเทอม 2 – 3 ข้อ
1. Who/What Which + (คํานาม) + กริยา เช่น
-Who saw him?
-Which bus goes to town?
-What happened to you last night?
2. Whom/What Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คํานาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
-What did he buy yesterday?
-Which job have you applied for?
3. Whose + คํานาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
-Whose book are you reading?
-Why did he go home?
-When will you do?
– Where do you come from?
-How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับระดับต่าง ๆ เช่น
-How old is she?
จากโจทย์ มีกริยา is มาให้ ใส่ Who + กริยา เช่น
-Who is the prime minister of Thailand now?
66.____did you go on vacation last year?
1. Who
2. What
3. Where
4. How old
ตอบ 3 ตอบ Where (ที่ไหน) เพราะถามว่า ปีที่แล้วคุณไปเที่ยวที่ไหน? โดย Where + กริยาช่วย +
ประธาน + กริยาหลัก + ส่วนขยาย
67. How___the problem?
1. did you solve
2. solve you did
3. you did solve
4. did solve you
ตอบ 1 ดูคําอธิบาย 63. ประกอบ เมื่อทําเป็นประโยคคําถาม เราต้องใช้ verb to do (ก็คือ did) ไว้หน้า ประธาน you และตามด้วยกริยาหลัก solve ก็จะเป็น did you solve หรือเทียบกับตัวอย่างอื่น
– Did you come home last night? (คุณกลับบ้านไหมเมื่อวาน?)
ในประโยคคําถามยก Did ไว้หน้า you และหลัง you ตามด้วยกริยาหลักคือ come
68.____at the party tonight?
1. Won’t she be
2. Won’t she is
3. Won’t is she
4. Will she be not
ตอบ 1 เป็นประโยคคําถามเช่นกัน เราต้องยกกริยาช่วยไว้หน้าประธานก็คือ Won’t ซึ่งย่อมาจาก Will not ตามด้วยกริยาหลักช่องที่ 1 ไว้หลังประธานเหมือนข้อ 67 เทียบตัวอย่าง
-Will she not be at the party tonight? ถ้ารูปเต็มต้องยก not ไว้หลัง she
-Won’t she be at the party tonight? ถ้าเป็นรูปย่อไว้หน้าประธาน she แล้วตามด้วย V1
69.I suggest she____the meeting.
1. attends
2. attended
3. attending
4. attend
ตอบ 4 เป็นกลุ่มกริยายกเว้น ให้ตอบหลังประธานเป็นกริยาช่องที่ 1 ไม่ผันก็คือ ไม่เติมท้ายอะไรเลย
S + suggest, insist, demand, desire,
require, request, recommend, prefer + that S + V1 ไม่ผัน
suggest that ตอบ attend (V1 ไม่ผัน)
70.I demand that you____.
1. will leave
2. leave
3. left
4. leaving
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 69. ประกอบ กริยายกเว้น demand that ตอบหลังกริยาช่องที่ 1 คือ leave
71. He said, “I will call you later.”
He said that he____.
1. calls you later
2. will call you later
3. calls me later
4. would call me later
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 64. ประกอบ การทําเป็น indirect speech เปลี่ยนกริยาให้เป็นรูปอดีต ให้มา will ก็เปลี่ยนเป็น would ก็ตอบตัวเลือกข้อ 4 ได้เลย เพราะมีตัวเลือก would ข้อเดียว ส่วนสรรพนาม you ก็
เปลี่ยนเป็น me
72. The students said that____were studying for the test.
1. we
2. you
3. they
4. he
ตอบ 3 เป็นเรื่อง indirect speech ที่มาเล่าให้ฟังอีกที จะเป็นประธานคือ The students (นักเรียน นักศึกษาเป็นพหูพจน์) สรรพนามที่ใช้แทนได้คือ they (พวกเขา)
73. I’d rather you____to Susan.
1. apologize
2. be apologized
3. had apologized
4. apologized
ตอบ 4 หน้า 148 ข้อนี้เป็นเรื่องกลุ่มสมมติที่ขึ้นประโยคด้วยคําต่อไปนี้ให้ตอบกริยาช่องที่ 2
If only
It’s time
It’s about time S + V2 ก็คือ apologized
It’s high time that
He’d rather
I think it would be a good idea if
74. We should laugh as if we____happy.
1. is
2. was
3. were
4. be
ตอบ 3 หน้า 138 – 139 เป็นเรื่อง as if as though
1. S + V1 as if/as though S + V2
2. S + V2 as if/as though S + hadV3
ตรงสูตร 1 laugh ตอบ were
75. When we arrived, he____a bath.
1. is having
2. having
3. was having
4. has
ตอบ 3 เราเห็นกริยาช่องที่ 2 คือ arrived เป็นอดีต แสดงว่า กริยาที่จะเติมอีกช่องก็ต้องเป็นอดีตตามไปด้วย ดูตัวเลือกแล้วจะมีรูปอดีตข้อ 3 คือ was having จึงตอบได้เลย
Part II: Vocabulary (คําศัพท์)
Directions: Choose the best answer.
76. There is no____between them.
1. reconciliation
2. reflection
3. foundation
4. connection
ถาม ไม่มีการปรองดองระหว่างพวกเขา
ตอบ 1 1. การปรองดอง 2. การสะท้อน 3. การก่อตัว 4. ความเกี่ยวข้อง
บทที่ 9 ถ้าหากจะเดาก็เดาได้โดยดูจากตัวเลือกว่าเรามีเรียนภาคคําศัพท์ในวิชา ENG 1002 ตัวไหนเราก็จะเห็น ศัพท์ที่เราเรียนมาตัวเดียวคือ reconciliation = การปรองดอง สมานฉันท์ มักตามด้วย between (ระหว่าง) ส่วน connection เป็นเพียงศัพท์เหมือนของ relationship
77. Murder is the most____crime.
1. abominable
2. limited
3. general
4. convinced
ถาม การฆาตกรรมเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจมากที่สุด
ตอบ 1 1. น่ารังเกียจ 2. จํากัด 3. ทั่วไป 4. ทําให้เชื่อ
บทที่ 5 มีเรียนคําศัพท์ในวิชานี้ในตัวเลือกข้อ 1 และ 4 คําที่เข้ากับประโยคได้คือ abominable =
น่ารังเกียจ น่าชัง ในเชิงลบ
78. I’ve got a job____tomorrow.
1. bystander
2. company
3. figure
4. interview
ถาม พรุ่งนี้ฉันมีสัมภาษณ์งาน
ตอบ 4 1. คนเดินสัญจรไปมา 2. บริษัท 3. บุคคลสําคัญ 4. สัมภาษณ์
บทที่ 6 ถ้าเห็นคําว่า job (งาน) ก็คาดเดา เกี่ยวกับคําศัพท์ interview = สัมภาษณ์
79. Can you____a torch so I can see?
1. level
2. raise
3. lower
4. return
ถาม คุณช่วยยกคบไฟให้ฉันดูได้ไหม?
ตอบ 2 1. ระดับ 2. ยกให้สูงขึ้น 3. ลดต่ำลง 4. กลับคืน
บทที่ 1 คํากริยา raise = ยกขึ้น เป็นกริยามีกรรมมารับ
80. Should promotion be based on merit or___?
1. figure
2. honor
3. center
4. seniority
ถาม การเลื่อนตําแหน่งควรขึ้นอยู่กับคุณวุฒิหรือความอาวุโส?
ตอบ 4 1. บุคคลสําคัญ 2. ให้เกียรติ 3. ศูนย์กลาง 4. ความเป็นอาวุโส
บทที่ 1 คําศัพท์ seniority = ระบบอาวุโส
81. In law, beer is ___as a food product.
1. identified
2. arranged
3. classified
4. maintained
ถาม ตามกฎหมาย เบียร์จัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร
ตอบ 3 1. ชี้ ระบุ 2. จัดเตรียม 3. จัดหมวดหมู่ 4. คงไว้รักษาไว้
บทที่ 11 classify = จัด แบ่งประเภท มักใช้กับการจัดกลุ่ม จัดหมวดหมู่
82. He didn’t____home until 5 p.m.
1. claim
2. capture
3. appear
4. return
ถาม เขาไม่กลับบ้านจนถึง 5 โมงเย็น
ตอบ 4 1. กล่าวอ้าง 2. จับ จับกุม 3. ปรากฏให้เห็น 4. กลับ กลับคืน
บทที่ 1 คํา return = กลับคืน ส่งคืน มักใช้คืนหนังสือ (books) หรือ return home =กลับบ้าน
83. George was a highly____salesman.
1. plentiful
2. successful
3. enlarged
4. continued
ถาม จอร์จเป็นพนักงานขายที่ประสบความสําเร็จอย่างสูง
ตอบ 2 1. มากมาย อุดมสมบูรณ์ 2. ประสบความสําเร็จ 3. ทําให้ใหญ่ขึ้น 4. ดําเนินต่อไป
บทที่ 2 คํา successful = ประสบความสําเร็จ มักใช้ในเชิงบวก นําหน้าคํานาม
84. The___operation began on Friday afternoon.
1. garnish
2. trigger
3. rescue
4. control
ถาม ปฏิบัติการช่วยเหลือเริ่มขึ้นเมื่อบ่ายวันศุกร์
ตอบ 3 1. ตกแต่ง ประดับ 2. ก่อให้เกิด 3. ช่วยเหลือ 4. ควบคุม
บทที่ 2 rescue = ช่วยเหลือจากอันตราย มักวางไว้หน้าคํานาม เช่น rescue team = ทีมกู้ภัย
85. He___out the window at the snow.
1. gazed
2. interviewed
3. fetched
4. improved
ถาม เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นหิมะ
ตอบ 1 1. จ้องเพ่งมอง 2. สัมภาษณ์ 3. ไปเอามา 4. ปรับปรุงให้ดีขึ้น
บทที่ 8 gazed = จ้อง เพ่งมอง
86. Is reservation____at that restaurant?
1. necessary
2. delicious
3. healthy
4. active
ถาม จําเป็นต้องจองที่ร้านอาหารนั้นหรือไม่?
ตอบ 1 1. จําเป็น 2. อร่อย 3. แข็งแรง 4. กระฉับกระเฉง
บทที่ 11 necessary = essential = จําเป็น
87. We suddenly saw her in the_____.
1. power
2. ancestor
3. distance
4. offspring
ถาม ทันใดนั้นเราก็เห็นเธออยู่ไกลๆ
ตอบ 3 บทที่ 8 1. พลังอํานาจ 2. บรรพบุรุษ 3. ระยะทาง ระยะห่าง 4. ทายาท ลูกหลาน
88. The fact that she was an old friend was such an amazing____.
1. gift
2. evidence
3. direction
4. coincidence
ถาม การที่เธอเป็นเพื่อนเก่าถือเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าทึ่งมาก
ตอบ 4 1. พรสวรรค์ 2. หลักฐาน 3. ทิศทาง 4. เหตุบังเอิญ
บทที่ 8 coincidence = เหตุบังเอิญ
89. Peter has____ to motivate people.
1. facility
2. behavior
3. collection
4. ability
ถาม ปีเตอร์มีความสามารถในการจูงใจผู้คน
ตอบ 4 1. สิ่งอํานวยความสะดวก 2. พฤติกรรม 3. สิ่งสะสม 4. ความสามารถ
บทที่ 10 ability = ความสามารถ
90. He____the rest of his life to scientific investigation.
1. devoted
2. sent
3. refused
4. healed
ถาม เขาอุทิศชีวิตที่เหลือให้กับการสืบสวนทางวิทยาศาสตร์
ตอบ 1 1. อุทิศตน 2. ส่ง 3. ปฏิเสธ 4. รักษา
บทที่ 9 devoted = อุทิศตน
91. If you went to the art____you would study the school of art.
1. system
2. fragment
3. academy
4. teaching
ถาม ถ้าคุณไปสถาบันศิลปะ คุณจะเรียนโรงเรียนศิลปะ
ตอบ 3 1. ระบบ 2. ส่วน ชิ้น 3. สถาบัน 4. การสอน
บทที่ 9 academy = สถาบัน (ที่ให้ความรู้เฉพาะทาง)
92. What is the official____for this position?
1. story
2. title
3. tag
4. foundation
ถาม ชื่อทางการสําหรับตําแหน่งนี้คืออะไร
ตอบ 2 1. เรื่องราว 2. ชื่อ ตําแหน่ง 3. ติดป้าย 4.การก่อตั้ง
บทที่ 9 title = ชื่อเรื่อง ชื่อ ตําแหน่ง
93. Each poster is signed by the____.
1. ancestor
2. artist
3. crowd
4. bystander
ถาม โปสเตอร์แต่ละใบมีลายเซ็นต์ของศิลปิน
ตอบ 3 บทที่ 2 1. บรรพบุรุษ 2. ศิลปิน 3. ฝูงชน 4. คนสัญจรไปมา
บทที่ 2 artist = ศิลปิน, จิตรกร
94. Do not___fresh water supplies.
1. pollinate
2. relate
3. pollute
4. control
ถาม อย่าสร้างมลพิษให้กับแหล่งน้ำจืด
ตอบ 3 1. ผสมเกสรดอกไม้ 2. เกี่ยวข้องกัน 3. ทําให้เกิดมลพิษ 4. ควบคุม
บทที่ 3 pollute = ทําให้เกิดมลพิษ ทําให้สกปรก
95. They____a refund on unsatisfactory goods.
1. demand
2. result
3. experiment
4. connection
ถาม พวกเขาต้องการเงินคืนสําหรับสินค้าที่ไม่น่าพอใจ
ตอบ 1 1. เรียกร้อง ต้องการ 2. ผลลัพธ์ 3. การทดลอง 4 ความเกี่ยวข้อง
บทที่ 3 demand = ask, request = เรียกร้อง ต้องการ
96. I must____ for a new secretary.
1. refine
2. advertise
3. relate
4. connect
ถาม ฉันต้องโฆษณาหาเลขาคนใหม่
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. โฆษณา 3. เกี่ยวข้อง 4. เชื่อมโยง
บทที่ 3 advertise = โฆษณา ประกาศ
97. The museum is open to the____.
1. activity
2. company
3. public
4. behavior
ถาม พิพิธภัณฑ์เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
ตอบ 3 1. กิจกรรม 2. บริษัท 3. สาธารณะ ทั่วไป 4. พฤติกรรม
บทที่ 3 public = สาธารณะ ทั่วไป ทําเป็นคํานาม the public = ประชาชนทั่วไป, บุคคลทั่วไป
98. The knife cut the____of his arm.
1. trait
2. factor
3. complex
4. flesh.
ถาม มีดเฉือนเนื้อแขนของเขา
ตอบ 4 1. ลักษณะ 2. ปัจจัย 3. ซับซ้อน 4. เนื้อ (คน หรือสัตว์)
บทที่ 4 flesh = เนื้อ (ของคนหรือสัตว์)
99.Is there any charge for____?
1. intimacy
2. conclusion
3. admission
4. relationship
ถาม มีค่าธรรมเนียมในการเข้าศึกษาหรือไม่?
ตอบ 3 1. ความใกล้ชิด 2. การสรุป 3. การอนุญาตให้เข้า 4. ความสัมพันธ์
คําศัพท์ charge คู่กับ admission = คิดการเข้า…..
100. I can’t____on 40 Baht a week.
1. endure
2. escape
3. attend
4. survive
ถาม เงิน 40 บาทต่อสัปดาห์ฉันอยู่ไม่ได้
ตอบ 4 1. ทนทาน 2. หลบหนี 3. เข้า 4. อยู่รอด
บทที่ 11 survive = รอดชีวิต อยู่ได้
101. I found the____of his book very interesting.
1. intention
2. intimacy
3. conclusion
4. relationship
ถาม ฉันพบว่าบทสรุปของหนังสือของเขาน่าสนใจมาก
ตอบ 3 1. ความตั้งใจ 2. ความใกล้ชิด 3. บทสรุป 4. ความสัมพันธ์
บทที่ 11 conclusion = บทสรุป
102. Nutritionists said that only 33% of our____intake should be from fat.
1. calorie
2. balance
3. existence
4. complexity
ถาม นักโภชนาการกล่าวว่าเพียง 33% ของแคลอรี่ที่เราได้รับควรมาจากไขมัน
ตอบ 1 1. หน่วยที่ใช้คํานวณพลังงาน 2. ความสมดุล 3. การมีชีวิต 4. ความซับซ้อน
บทที่ 11 calorie = หน่วยที่ใช้คํานวณพลังงานจากอาหาร
103. The city has developed into a____ of industry.
1. level
2. center
3. record
4. return
ถาม เมืองได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม
ตอบ 2 1. ระดับ 2. ศูนย์กลาง 3. บันทึก 4. กลับคืน
บทที่ 12 center = ศูนย์กลาง
104. Judy donated money to____a hospital.
1. inter
2. establish
3. display
4. make
ถาม จูดี้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาล
ตอบ 2 1. สรุป 2.ก่อตั้ง เริ่ม 3. แสดงให้เห็น 4. ทํา
บทที่ 10 establish = ก่อตั้ง ตั้งเริ่ม
105. Language games are usually intended to encourage student____.
1.assumption
2. interaction
3. collection
4. expansion
ถาม เกมภาษามักจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของนักเรียน
ตอบ 2 1. สมมติฐาน 2. ปฏิสัมพันธ์ 3. สิ่งสะสม 4. การขยาย
บทที่ 10 interaction = ปฏิสัมพันธ์
106. The____is designed to test the new drug.
1. existence
2. exhibition
3. excellence
4. experiment
ถาม การทดลองนี้ออกแบบมาเพื่อทดสอบยาตัวใหม่
ตอบ 4 1. การมีชีวิตอยู่ 2. การแสดงนิทรรศการ 3. ความยอดเยี่ยม 4. การทดลอง
บทที่ 4 experiment = การทดลอง
107. The good___makes work go smoothly.
1. system
2. way
3. part
4. rank
ถาม ระบบที่ดีทําให้การทํางานเป็นไปอย่างราบรื่น
ตอบ 1 1. ระบบ 2. วิธี ทาง 3. ส่วน 4. ตําแหน่ง
บทที่ 9 system = ระบบ
108. He laughed to____his nervousness.
1. return
2. raise
3. fetch
4. cover
ถาม เขาหัวเราะเพื่อปกปิดความกังวลใจของเขา
ตอบ 4 1. กลับคืน 2. ยกขึ้น 3. ไปรับมา 4. ปกปิด ปกคลุม
บทที่ 5 cover = ปกปิด ปกคลุม
109. They are still in fear of___.
1. analysis
2. reconciliation
3. academy
4. retribution
ถาม พวกเขายังคงกลัวการลงโทษ
ตอบ 4 1. การวิเคราะห์ 2. การปรองดอง 3. สถาบัน 4. การลงโทษ การเอาคืน
บทที่ 9 retribution = punishment = การลงโทษ การเอาคืน
110. The information led to the___of the murderer.
1. convention
2. capture
3. return
4. distance
ถาม ข้อมูลนําไปสู่การจับกุมฆาตกร
ตอบ 2 1. ธรรมเนียม 2. การจับกุม 3. การกลับคืน 4. ระยะทาง
บทที่ 5 capture = การจับ การจับกุม
111. The crash_____is now on a life support machine.
1. title
2. center
3. flesh
4. victim
ถาม ขณะนี้ผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่บนเครื่องช่วยชีวิตแล้ว
ตอบ 4 1.ชื่อ ตําแหน่ง 2. ศูนย์กลาง 3. เนื้อ 4. ผู้เคราะห์ร้าย
บทที่ 6 victim = sufferer = เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
112. Can you show me any___for your statement?
1. vehicle
2. fragment
3. evidence
4. legend
ถาม คุณช่วยแสดงหลักฐานคําแถลงของคุณให้ฉันดูได้ไหม?
ตอบ 3 1. ยานพาหนะ 2. ชิ้นส่วน 3. หลักฐาน 4. ตํานาน
บทที่ 5 evidence = หลักฐาน
113. He speaks English, but his native tongue is German.
1. indigenous
2. effective
3. power
4. equal
ถาม เขาพูดภาษาอังกฤษ แต่ภาษาแม่ของเขาคือภาษาเยอรมัน
ตอบ 1 1. เกี่ยวกับพื้นเมือง 2. ประสิทธิภาพ 3. พลัง อํานาจ 4. เท่ากัน
บทที่ 5 native = indigenous เกี่ยวกับพื้นเมือง บ้านเกิด ใช้กับ native tongue = ภาษาแม่
114. These problems are closely related.
1. associated
2. controlled
3. improved
4. overlooked
ถาม ปัญหาเหล่านี้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ตอบ 1 1. สัมพันธ์ เกี่ยวข้อง 2. ควบคุม 3. ปรับปรุงให้ดีขึ้น 4. มองข้าม
บทที่ 6 related = associated = ซึ่งเกี่ยวข้อง
115. The girl who won the scholarship was quite outstanding.
1. shakable
2. pleased
3. nodding
4. remarkable
ถาม หญิงสาวที่ได้รับทุนค่อนข้างโดดเด่น
ตอบ 4 1. สามารถสั่น 2. ยินดี พอใจ 3. พยักหน้า 4. ดี เยี่ยม
บทที่ 12 outstanding = great, notable, remarkable = เด่น สําคัญ
116. Arrogance is a very unattractive personality trait.
1. function
2. belief
3. characteristic
4. intention
ถาม ความเย่อหยิ่งเป็นลักษณะบุคลิกภาพที่ไม่น่าดึงดูดใจ
ตอบ 3
1. หน้าที่ 2. ความเชื่อ 3. ลักษณะเฉพาะ 4. ความตั้งใจ
บทที่ 10 trait = particularity, characteristic = ลักษณะเฉพาะ คุณสมบัติเฉพาะ
117. The crowds cheered as the parade went by.
1. helped
2. honored
3. applauded
4. placed
ถาม ฝูงชนโห่ร้องขณะที่ขบวนพาเหรดผ่านไป
ตอบ 3 1. ช่วยเหลือ 2. ให้เกียรติ 3. โห่ร้อง 4. วาง
บทที่ 12 cheered = applaud = โห่ร้อง ส่งเสียงไชโย
118. We cannot say for sure what will happen.
1. refine
2. occur
3. greet
4. return
ถาม เราไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ 2 1. ทําให้สละสลวย 2. เกิดขึ้น 2. ทักทาย 4. คืน กลับคืน
119. I think I’m a reasonably quick learner.
1. severed
2. fast
3. various
4. clever
ถาม ฉันคิดว่าฉันเป็นคนเรียนรู้เร็วพอสมควร
ตอบ 2 1. รุนแรง 2. เร็ว 3. หลากหลาย 4. เฉลียวฉลาด
quick = fast = รวดเร็ว
120. Temperature can be measured precisely?
1. necessarily
2. exactly
3. automatically
4. relatively
ถาม อุณหภูมิสามารถวัดได้อย่างแม่นยํา?
ตอบ 2 บทที่ 1 precisely = accurately, exactly = อย่างถูกต้อง แม่นยํา พอดี