การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2558
ข้อสอบกระบวนวิชา MCS1250 (MCS 2200) การหนังสือพิมพ์เบื้องต้น
คําสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคําตอบเดียว
1 ข้อใดมิใช่วารสารศาสตร์
(1) นิตยสาร “สารคดี”
(2) หนังสือพิมพ์ “ข่าวสด”
(3) แผ่นพับประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยรามคําแหง
(4) ข่าวเจ็ดโมงเช้าทางสถานีวิทยุกระจายเสียง
ตอบ 3 (คําบรรยาย) คําว่า Journalism แปลตรงตัวว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับสารที่ออกตามวาระ โดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ได้บัญญัติศัพท์ของ Journalism เป็นภาษาไทยว่า “วารสารศาสตร์” หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ออกตามวาระ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ที่ออกตามวาระชนิดแรก ต่อมาจึงเกิดนิตยสารและวารสารตามมา ตลอดจน รายการข่าวทางวิทยุและโทรทัศน์ (ยกเว้นรายการเล่าข่าว) ก็จัดเป็นวารสารศาสตร์เช่นกัน แต่จะใช้คําว่า “Broadcast Journalism”

2 ข้อใดเป็นแนวคิดหลักของงานวารสารศาสตร์
(1) รู้ความเป็นไปของสังคม
(2) ช่วยในการตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ
(3) ทําให้เป็นคนใจกว้าง
(4) ทําให้เป็นคนทันสมัย
ตอบ 2 หน้า 29 (คําบรรยาย) แนวคิดหลักของงานวารสารศาสตร์ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ที่สําคัญที่สุด คือ ทําให้สามารถใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยในการตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ข้อมูลเหล่านั้นต้องเป็นจริง เป็นกลาง และมากพอ

Advertisement

3 ข้อใดมีรูปแบบเฉพาะที่แตกต่างจากข้ออื่น
(1) หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
(2) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
(3) หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
(4) หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ตอบ 4 หน้า 4 — 5 หนังสือพิมพ์สามารถแบ่งตามเนื้อเรื่องได้ ดังนี้
1 หนังสือพิมพ์ทั่วไป (General Newspaper) จะมีความหลากหลายในการเสนอเนื้อหาที่ น่าสนใจในแต่ละวันทุก ๆ ด้าน เพื่อกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม เช่น หนังสือพิมพ์คมชัดลึก, สยามรัฐ, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ข่าวสด ฯลฯ
2 หนังสือพิมพ์เฉพาะเรื่อง (Specialized Newspaper) จะมีเนื้อหาเฉพาะด้านเพื่อ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม เช่น หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, Student Weekly, ผู้จัดการ, ฐานเศรษฐกิจ, ข่าวพาณิชย์, สยามกีฬา ฯลฯ

4 เหตุใดจึงเปรียบเทียบว่าหนังสือพิมพ์เป็นกระจก
(1) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวสารสะท้อนความจริง
(2) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวสารสะท้อนสิ่งที่ประชาชนอยากรู้
(3) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวสารสะท้อนมุมมองของผู้สื่อข่าว
(4) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวสารสะท้อนการทํางานของบรรณาธิการ
ตอบ 1 (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนสังคม กล่าวคือ หนังสือพิมพ์มีหน้าที่หลัก
ในการเสนอข่าวสารเพื่อสะท้อนความจริงในสังคม โดยข่าวสารที่นําเสนอทางหนังสือพิมพ์นั้น จะต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน เที่ยงตรง และเป็นธรรม เพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบ เหตุการณ์ทั้งหมดอย่างถูกต้องตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

5 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจ ดังนั้นต้องมีองค์ประกอบใด
(1) การลงทุน การผลิต การจําหน่าย
(2) การลงทุน การผลิต การตลาด
(3) การผลิต การจัดการ การโฆษณา
(4) การตลาด การผลิต การจัดการ
ตอบ 2 (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องดําเนินการโดยเอกชนเช่นเดียวกับองค์กรทางธุรกิจ ทั่วไป ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนทางธุรกิจชนิดหนึ่ง โดยจะประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่
1 การลงทุน
2 การผลิต
3 การตลาด

6 ข้อใดเป็นหน้าที่ของหนังสือพิมพ์
(1) เสนอการ์ตูน
(2) เสนอสารคดี
(3) เสนอโฆษณา
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 14 – 15 หน้าที่ของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้
1 หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) ได้แก่ การเสนอข่าวสารต่าง ๆ
2 หน้าที่การให้ความคิดเห็น (To Give Opinion) ได้แก่ การเสนอบทบรรณาธิการ บทความ บทวิจารณ์ และคอลัมน์ ฯลฯ
3 หน้าที่การให้ความรู้ (To Educate) ได้แก่ การเสนอสารคดี ความรู้ทางกฎหมาย ฯลฯ
4 หน้าที่การให้ความบันเทิง (To Entertain) ได้แก่ การเสนอการ์ตูน นิยาย เรื่องสั้น ฯลฯ
5 หน้าที่การเป็นสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ (To Advertise and Public Relations) ได้แก่ การเสนอโฆษณาสินค้า การรับสมัครงาน ฯลฯ

7 ข้อใดไม่ใช่ความหมายของหนังสือพิมพ์
(1) มีจ่าหน้าชื่อเดียวกัน
(2) ตีพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ
(3) มีการเย็บเล่ม
(4) พัฒนามาจากสังคมที่เจริญแล้ว
ตอบ 3หน้า 2 – 3 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 4 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าเช่นเดียวกัน (มีชื่อเดียวกัน) และออกหรือเจตนาจะออก ตามลําดับเรื่อยไป มีกําหนดระยะเวลาหรือไม่ก็ตาม มีข้อความต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม… ส่วน Encyclopedia Americana อธิบายว่า หนังสือพิมพ์ หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ไม่ได้เย็บเล่ม ตีพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ําเสมอ…, Collier’s Encyclopedia กล่าวว่า หนังสือพิมพ์พัฒนา มาจากสังคมที่เจริญแล้ว…….

8 ข้อใดเป็นลักษณะของข่าวหนัก (Hard News)
(1) ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
(2) ให้คุณค่าแก่ผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward)
(3) ให้คุณค่าแก่ผู้อ่านอย่างรวดเร็ว (Immediate Reward)
(4) ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ขนาดมาตรฐาน
ตอบ 2 หน้า 4, 41, (คําบรรยาย) ข่าวหนัก (Hard News) คือ ข่าวที่ให้น้ําหนักต่อความสําคัญของ เรื่องมากกว่าอย่างอื่น ส่วนใหญ่มักเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์คุณภาพ ซึ่งมักจะเป็นเรื่องราวที่ให้ ผลตอบแทนหรือให้คุณค่าแก่ผู้อ่านในระยะยาว (Delayed Reward) ดังนั้นผู้อ่านจึงต้องใช้ ความรู้ความเข้าใจในการอ่านพอสมควร เช่น ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวปัญหาสังคม ฯลฯ

9 สาเหตุสําคัญที่ทําให้หนังสือพิมพ์มีหลายกรอบ ได้แก่
(1) รักษายอดขายของหนังสือพิมพ์
(2) สนองการทําข่าวตลอด 24 ชั่วโมง
(3) ตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้
(4) เป็นนโยบายของหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ ๆ

ตอบ 3 หน้า 5, (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์รายวันโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ที่มียอดจําหน่ายสูง มักจะมี ข้อจํากัดในเรื่องของเวลาปิดข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวจะต้องเขียนข่าวให้เสร็จภายในเวลาที่กําหนดเพื่อจะได้ จัดพิมพ์ให้ทันจําหน่าย ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ของข่าวนั้นยังคงดําเนินต่อไป ดังนั้นหนังสือพิมพ์ จึงอาจตีพิมพ์วันละหลายกรอบเพื่อให้สะดวกต่อการจําหน่าย เพื่อให้สามารถตีพิมพ์ข่าวที่เกิดขึ้นล่าสุดได้ และเพื่อสนองความต้องการของผู้อ่านในแต่ละพื้นที่ได้อย่างหลากหลายทําให้เนื้อหาบางส่วนของหนังสือพิมพ์วันเดียวกัน แต่คนละกรอบจึงอาจแตกต่างกันได้

10 ข้อใดสอดคล้องกับหนังสือพิมพ์ดิจิทัล
(1) ได้รับความนิยมสูง
(2) เป็นหนังสือพิมพ์คุณภาพ
(3) มักจะบริการโดยไม่คิดมูลค่า
(4) เป็นหนังสือพิมพ์ที่ฉบับกระดาษมียอดจําหน่ายสูง
ตอบ 3 หน้า 9 – 10, (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสือพิมพ์ดิจิทัล จัดเป็นสื่อใหม่ ที่เผยแพร่ผ่านจอคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสื่อประเภทนี้เกิดจากการบรรจบกัน ของเทคโนโลยีสื่อ (Convergence) คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ เทคโนโลยีการกระจายเสียง-ภาพ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถนํามาใช้ในเครื่องมือเดียวกันได้ ทั้งนี้ข้อเด่นที่สําคัญที่สุด ของหนังสือพิมพ์ดิจิทัล คือ ประหยัดกระดาษ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่ทันสมัย ซึ่งให้บริการอ่านฟรี โดยไม่คิดมูลค่า ผู้อ่านสามารถอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา และเปลี่ยนข่าวได้รวดเร็ว

ข้อ 11. – 14. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) To Inform
(2) To Entertain
(3) To Advertise
(4) To Give Opinion

11 การตีพิมพ์ข่าวมหาวิทยาลัยรามคําแหงจัดงานพระราชทานปริญญาบัตร
ตอบ 1 หน้า 14, (ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ) หน้าที่การให้ข่าวสาร (To Inform) คือ การสืบเสาะ แสวงหาข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน และนําเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ฯลฯ โดยจะไม่มี การวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เช่น ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวการศึกษา ข่าวอาชญากรรม ฯลฯ

12 หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ข้อมูลคดีคนร้ายปล้นร้านปืน
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 11 ประกอบ

13 การตีพิมพ์ข้อเสนอแนะของนักวิชาการต่อการร่างรัฐธรรมนูญ
ตอบ 4 หน้า 14, 161 – 162, (ดูคําอธิบายข้อ 6. ประกอบ) หน้าที่การให้ความคิดเห็น หรือให้ ข้อเสนอแนะ (To Give Opinion) คือ การวิเคราะห์และแปลความออกมาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ หรือให้ความเห็นต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการให้คุณค่าของข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอาจเป็นความคิดเห็นของคนในกองบรรณาธิการหรือเป็นคนนอกก็ได้ เช่น ข่าวสัมภาษณ์ ความคิดเห็นของบุคคล องค์กร หรือประเทศต่าง ๆ บทวิจารณ์ บทความ บทบรรณาธิการ คอลัมน์จดหมายจากผู้อ่านหรือจดหมายถึงบรรณาธิการ คอลัมน์ตอบปัญหาชีวิต ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการชุมนุมหรือปราศรัยแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

14 หลายประเทศเสนอให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเตือนภัยแผ่นดินไหว
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 13 ประกอบ

15 หน่วยงานด้านวารสารศาสตร์ ควรจัดองค์กรแบบใด
(1) มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ
(2) เป็นบริษัทมหาชน
(3) เป็นห้างหุ้นส่วน
(4) เอกชนเป็นเจ้าของ
ตอบ 4 หน้า 11 – 12, (คําบรรยาย) การจัดองค์กรหนังสือพิมพ์ หรือหน่วยงานด้านวารสารศาสตร์ ในประเทศเสรีประชาธิปไตย ส่วนใหญ่จะนิยมให้อยู่ในรูปแบบเอกชนเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งเป็น รูปแบบองค์กรที่นักหนังสือพิมพ์ประสงค์ โดยแบ่งการดําเนินงานออกได้เป็น 3 แบบ ดังนี้
1 เจ้าของเป็นผู้ประกอบการเองหรือเป็นกิจการของครอบครัว ซึ่งรูปแบบนี้เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ
2 ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ซึ่งหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบนี้กันมาก
3 บริษัทมหาชน ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ได้ขยายตัวขึ้นมากในปัจจุบัน

ข้อ 16. – 18. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Watchdog
(2) Gatekeeper
(3) Informer
(4) Ombudsman

16 การเตือนภัยภาวะโรคระบาดหลังภัยแผ่นดินไหว
ตอบ 1 หน้า 17, (คําบรรยาย) บทบาทการเป็นสุนัขยาม (Watchdog) คือ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ ของประชาชน โดยเฝ้าจับตาดูแลสอดส่อง/ติดตามการปฏิบัติงานของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ และ กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลี่ยงภาษี หรือการกระทํา อันไม่ถูกต้องต่าง ๆ จึงถือเป็นบทบาทที่มีผลต่อการทํางานของนักข่าวมากที่สุด เพราะต้องทํา หน้าที่เสมือนการเป็นหมาเฝ้าบ้านที่คอยจับตาและส่งเสียงเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่ จะส่งผลกระทบต่อสังคม เช่น เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คลื่นยักษ์สึนามิ แผ่นดินไหว พายุรุนแรง น้ําท่วม โรคระบาด ฯลฯ

17 นักข่าวเลือกไปทําข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีแทนที่จะทําข่าวการโยกย้ายตํารวจ
ตอบ 2 หน้า 16 บทบาทการเป็นนายทวารข่าวสาร (Gatekeeper) คือ การควบคุมการไหลของ ข่าวสารสู่สาธารณชน โดยหนังสือพิมพ์จะมีนายทวารประจําด่านอยู่เป็นจํานวนมาก เช่น นักข่าว ช่างภาพ บรรณาธิการ ฯลฯ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง ประเมินคุณค่า และตรวจเนื้อหาของข่าวสาร ก่อนให้นําเสนอเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ยังทําหน้าที่ ตัดสินใจว่าจะเลือกทําข่าวอะไร หรือจะคัดเลือกข่าวนั้น ๆ เพื่อตีพิมพ์หรือไม่ โดยคํานึงถึงพื้นฐาน ของความถูกต้องเที่ยงตรงของข่าวสาร

18 การรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดไฟ
ตอบ 4 หน้า 18, 161, 169 บทบาทการรับเรื่องราวร้องทุกข์ (Ombudsman) ได้แก่
1 การที่หนังสือพิมพ์ปฏิบัติตนเป็นแหล่งรับแจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนที่ได้รับ การปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนรู้เห็น จากนั้นหนังสือพิมพ์ต้องไป สืบหาข้อมูล แล้วนํามารายงานเป็นข่าว บทความ สารคดี คอลัมน์ตอบจดหมายหรือ จดหมายถึงบรรณาธิการ ฯลฯ เพื่อทําให้สังคมมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น
2 การรณรงค์ให้สังคมดีขึ้นเมื่อสังคมหรือประเทศชาติประสบปัญหา เช่น การรณรงค์ให้ ประชาชนประหยัดน้ํามัน ประหยัดไฟ และประหยัดน้ํา, การรณรงค์ให้ช่วยบริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย, การตีพิมพ์ข่าวสาร บทความ เรียกร้องให้คนไทยสามัคคี ฯลฯ

19 กลุ่มใดมีบทบาทน้อยในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม
(1) กลุ่มนักศึกษา
(2) กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ
(3) กลุ่มนักการเมือง
(4) กลุ่มข้าราชการประจํา

ตอบ 1 หน้า 19, 21, 29 กลุ่มคนที่มีบทบาทในการตัดสินใจเชิงนโยบายของสังคม จําแนกออกเป็น
3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1 กลุ่มผลประโยชน์เฉพาะ เช่น กลุ่มลูกจ้างรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงาน, กลุ่มเรียกร้องสิทธิผู้บริโภค ฯลฯ 2 กลุ่มนักการเมือง
3 กลุ่มข้าราชการประจํา

20. ข้อใดเป็นอํานาจเชิงโครงสร้างของหนังสือพิมพ์
(1) หนังสือพิมพ์เสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา
(2) หนังสือพิมพ์เข้าถึงมวลชนอันหลากหลายได้อย่างรวดเร็ว
(3) หนังสือพิมพ์ขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่
(4) หนังสือพิมพ์มักได้รับความเกรงใจจากคนทุกกลุ่ม
ตอบ 2 หน้า 24 หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีอํานาจในตัวเอง ซึ่งอํานาจนี้แบ่งเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่
1 อํานาจเชิงโครงสร้าง คือ หนังสือพิมพ์มีความเป็นสถาบันสาธารณะ จึงสามารถเข้าถึง มวลชน ประชาชนที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
2 อํานาจเชิงจิตวิทยา คือ หนังสือพิมพ์มีหน้าที่เสนอข่าวสารข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝงอย่างนักการเมือง จึงมีความน่าเชื่อถือมากกว่านักการเมือง
3 อํานาจเชิงปทัสถาน คือ หนังสือพิมพ์ถูกมองว่าเป็นผู้สืบเสาะแสวงหาข่าวสารมานําเสนอ อย่างเป็นกลาง และขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ยุติธรรมมาตีแผ่ จึงได้รับความไว้วางใจจากสังคม

ข้อ 21. – 24. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) บทบรรณาธิการ
(2) บทปริทัศน์
(3) บทวิจารณ์
(4) สารคดี

21 บทความใดสําคัญที่สุด
ตอบ 1 หน้า 42 – 43, 168, คําบรรยาย) บทบรรณาธิการ (Editorial) เป็นบทความที่เขียนขึ้น เพื่อแสดงทัศนะ ความเชื่อ หรือนโยบายของหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ มิใช่ความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จําเป็นต้องลงชื่อผู้เขียนประจํา อีกทั้งยังเป็นบทความที่สําคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์ ซึ่งทําหน้าที่ให้ความรู้และความคิดเห็นในเรื่องสําคัญ ๆ ต่อสาธารณชน เพื่อสะท้อนถึงจุดยืน ของหนังสือพิมพ์ที่มีต่อเรื่องที่เขียน

22 เป็นการแสดงความเห็นและประเมินคุณค่าของสิ่งที่เขียนถึง
ตอบ 3 หน้า 44, (คําบรรยาย) บทวิจารณ์ (Criticism) หมายถึง งานเขียนที่มีการใช้ความรู้อย่างมีศิลปะ เพื่อการวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของชิ้นงานต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นผู้เขียนจึงต้องเป็นผู้ที่ มีความรู้ในเรื่องที่จะวิจารณ์เป็นอย่างดี โดยควรวิพากษ์วิจารณ์อย่างมีจรรยาบรรณ สร้างสรรค์ และควรวิจารณ์ทั้งในแง่บวกและลบ รวมทั้งมีเหตุผลประกอบการแสดงความคิดเห็น เพื่อมุ่งให้ ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้ง และสามารถพิจารณาข้อดี-ข้อเสียในชิ้นงานนั้น ๆ ได้

23 เน้นองค์ประกอบด้าน Human Interest มากกว่าความสด
ตอบ 4 หน้า 45 มาลี บุญศิริพันธ์ อธิบายว่า สารคดี (Features) คือ ข้อเขียนที่ผู้เขียนมีเจตนาเบื้องต้น เพื่อรายงานเรื่องที่เป็นความจริง มิใช่เกิดจากจินตนาการ เรียบเรียงอย่างสละสลวย โดยเน้น องค์ประกอบด้านความสนใจของมนุษย์ (Human Interest) มากกว่าองค์ประกอบของความสด ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสาร ความรู้ และในเวลาเดียวกันก็เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด

24 เน้นให้ผู้อ่านรู้สึกผ่อนคลายหายเครียด
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 23. ประกอบ

ข้อ 25 – 28. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) Official Gazette
(2) News Letters
(3) Pamphlets
(4) News Sheets

25 เป็นต้นกําเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์
ตอบ 2 หน้า 55 จดหมายเหตุการค้า (News Letters) เกิดจากพ่อค้าชาวยิวในสมัยกลางมีความคิดว่า ในการทําการค้านั้นพ่อค้าจะต้องรู้ข่าวสารบ้านเมืองควบคู่กันไป จึงมีการรวบรวมข่าวสารบ้านเมือง และข่าวการค้าขายในรูปแบบจดหมายเหตุการค้าส่งให้แก่กันและกัน โดยเน้นเพื่อประโยชน์ทางการค้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงถือเป็นต้นกําเนิดของข่าวเศรษฐกิจและการค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

26 เป็นต้นกําเนิดของข่าวการเมืองในหนังสือพิมพ์
ตอบ 1 หน้า 53 – 55, (คําบรรยาย) หนังสือข่าวสารของทางราชการ (Official Gazette) ได้แก่ เอกสารที่รัฐบาลจากส่วนกลางเขียนหรือพิมพ์ขึ้นในลักษณะ “ใบบอกข่าว” (Acta Diurna) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวสารของชนชั้นปกครอง ซึ่งนับเป็นต้นแบบหนังสือพิมพ์กําแพง (Wall Newspaper) โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าอาณาจักรโรมันและจีนใช้ สื่อประเภทนี้ก่อนใคร ดังนั้นจึงจัดเป็นสื่อที่เกิดขึ้นก่อนสิ่งพิมพ์ชนิดอื่น ๆ และถือเป็นต้นกําเนิดของข่าวราชการและขาวการเมืองในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

27 เป็นต้นกําเนิดของการโฆษณาในหนังสือพิมพ์
ตอบ 4 หน้า 55 ใบปลิวข่าว (News Sheets) เป็นเรื่องที่ผู้พิมพ์หรือผู้ว่าจ้างเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ แก่คนทั่วไป จึงต้องการแจ้งข่าวสารให้คนจํานวนมากได้รับรู้ โดยมักจะแจกจ่ายฟรีมากกว่าขาย ซึ่งเป็นต้นกําเนิดของการโฆษณาสินค้าในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

28 เป็นต้นกําเนิดของบทความและบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์
ตอบ 3 หน้า 55 จุลสาร (Pamphlets) เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเน้นหนักในด้านการวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองและการนับถือศาสนา โดยผู้เขียนบทความส่วนใหญ่ จะเป็นผู้มีความรู้ จึงถือเป็นต้นกําเนิดของการเขียนบทความ ได้แก่ บทบรรณาธิการ (Editorial) และบทวิจารณ์ (Criticism) ในหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน

ข้อ 29 – 31. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) John Walter I
(2) John Wilkes
(3) Rupert Murdoch
(4) William Carter

29 คนแรกในประวัติศาสตร์หนังสือพิมพ์อังกฤษที่ถูกแขวนคอเพราะใช้หนังสือพิมพ์ต่อต้านรัฐบาล
ตอบ 4 หน้า 57 ในปี ค.ศ. 1584 วิลเลี่ยม คาร์เตอร์ (William Carter) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้ออก จุลสารต่อต้านทางราชการในยุคอํานาจนิยม ได้ถูกฝ่ายบ้านเมืองลงโทษด้วยการแขวนคอในข้อหา ตีพิมพ์จุลสารสนับสนุนนิกายต้องห้าม ดังนั้นจึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่มีนักหนังสือพิมพ์ถูกสังเวยชีวิตเพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

30 เป็นผู้เรียกร้องให้นักหนังสือพิมพ์เข้าไปรายงานข่าวการประชุมรัฐสภาได้สําเร็จ
ตอบ 2 หน้า 59 – 60 ในปี ค.ศ. 1762 จอห์น วิลค์ส (John Wilkes) ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์นอร์ธ ไบรตัน (North Briton) ได้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ โดยขอให้รัฐบาลอังกฤษยินยอมให้ นักหนังสือพิมพ์เข้าไปฟัง (รายงาน) ข่าวการประชุมรัฐสภาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งต่อมารัฐสภาอังกฤษต้องยินยอมทําตามข้อเรียกร้องนี้ในปี ค.ศ. 1771 จึงทําให้เขาได้รับ การยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพของหนังสือพิมพ์

31 เป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ The Times
ตอบ 1 หน้า 61, (คําบรรยาย) จอห์น วอลเตอร์ที่ 1 (John Walter I) คือ ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ “The Times” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันคุณภาพที่เก่าแก่ที่สุด และได้รับความเชื่อมั่นศรัทธา จากประชาชนผู้อ่านทั่วโลกไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้เพราะการประกาศนโยบายเป็นกลาง ไม่เป็นแนวร่วมกับกลุ่มการเมืองใด ทําให้ The Times ก้าวมายืนในตําแหน่งผู้นําของสื่อสิ่งพิมพ์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความมีจริยธรรม พร้อมกับได้รับการสรรเสริญว่า “เป็นแบบอย่างที่แท้จริง ของสิ่งที่เป็นหรือจะเป็นประชามติของชาวอังกฤษ

32 ข้อความว่า “ถ้าหากการรายงานข่าวนั้นเป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนแล้ว ไม่ถือว่า หมิ่นประมาท” สําคัญอย่างไร
(1) เป็นคดีตัวอย่างเกี่ยวกับการทํางานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาล
(2) เป็นเนื้อหาสําคัญของกฎหมายหมิ่นประมาท
(3) เป็นก้าวแรกของการทํางานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 4 หน้า 73 ข้อความข้างต้นเป็นหลักการที่แอนดรูว์ แฮมิลตัน ทนายความชื่อดังจากฟิลาเดลเฟีย ใช้ต่อสู้คดีให้กับจอห์น ปีเตอร์ แซงเออร์ นักหนังสือพิมพ์ที่เขียนบทความโจมตีรัฐบาลอังกฤษ และถูกจับกุมตัวไปดําเนินคดีในศาล จนได้รับชัยชนะ และตั้งแต่นั้นมาการต่อสู้ในคดีตัวอย่าง เกี่ยวกับการทํางานของหนังสือพิมพ์ที่ขัดแย้งกับรัฐบาลดังกล่าวก็กลายเป็นเนื้อหาสําคัญของ กฎหมายลักษณะหมิ่นประมาทที่หนังสือพิมพ์มักประสบปัญหาอยู่เสมอ และนับเป็นก้าวแรก ที่สําคัญในการทํางานอย่างมีเสรีภาพของหนังสือพิมพ์อเมริกัน

33 Join or Die คืออะไร
(1) ภาพการ์ตูนการเมือง
(2) บทความต่อต้านรัฐบาลอังกฤษที่ปกครองชาวอเมริกัน
(3) หัวข้อข่าวที่มีชื่อเสียงในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองของอเมริกา
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 74 – 75, 168 — 169 ในปี ค.ศ. 1754 หนังสือพิมพ์ Pennsylvania Gazette ของ เบนจามิน แฟรงคลิน ได้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อเลียนการเมืองภาพแรก เป็นภาพงูที่มีลําตัว แยกเป็น 8 ชิ้น แต่ละชิ้นหมายถึงอาณานิคมแต่ละรัฐของอเมริกา และมีคําบรรยายเขียนว่า Join or Die ซึ่งเป็นการรณรงค์เรียกร้องให้ชาวอาณานิคมร่วมมือกันต่อต้านอังกฤษที่ปกครอง ชาวอเมริกัน และต้องการให้รวมอาณานิคมทั้ง 8 เข้าด้วยกัน เพื่อการปกครองตนเองของ สหรัฐอเมริกา

34 Yellow Journalism คืออะไร
(1) บทความการเมืองที่มีชื่อเสียงในหนังสือพิมพ์อเมริกัน
(2) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ
(3) การ์ตูนล้อเลียนการเมือง
(4) การรับสินบนของหนังสือพิมพ์
ตอบ 2 หน้า 81, 83, (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์ยุคขาดจรรยาบรรณ (Yellow Journalism) หมายถึง
การที่หนังสือพิมพ์ดําเนินการโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของส่วนรวมซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งนี้คําว่า Yellow Journalism ยังคงใช้ต่อมาในปัจจุบันกับหนังสือพิมพ์ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

35 หนังสือพิมพ์เครือข่ายเกิดขึ้นสมัยใด
(1) ยุคปลายศตวรรษที่ 18
(2) ยุคปลายศตวรรษที่ 19
(3) ยุคปลายศตวรรษที่ 20
(4) ยุคขึ้นปี ค.ศ. 2000
ตอบ 2 หน้า 84 ในช่วงปลายของยุค Yellow Journalism (ยุคปลายศตวรรษที่ 19) หนังสือพิมพ์ ก็ได้เข้าสู่ยุคหนังสือพิมพ์ลูกโซ่หรือหนังสือพิมพ์เครือข่ายเป็นครั้งแรก ได้แก่ การเป็นเจ้าของ หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับในขณะเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะของหนังสือพิมพ์ในศตวรรษที่ 20 โดยบุคคลแรกที่ริเริ่มกิจการหนังสือพิมพ์เครือข่าย คือ สองพี่น้องตระกูล Scripps

36 The Big Three of Japan คืออะไร
(1) ความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาของญี่ปุ่น
(2) นโยบายการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น 3 ประการ
(3) หนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น
(4) นโยบายความร่วมมือกับต่างประเทศ 3 ประเภท ได้แก่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศกําลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา
ตอบ 3 หน้า 89, (คําบรรยาย) The Big Three of Japan คือ หนังสือพิมพ์ขนาดยักษ์ใหญ่ที่มี ชื่อเสียง 3 ฉบับในญี่ปุ่น ได้แก่ อาซาฮี (Asahi), ไมนิชิ (Mainichi) และโยมิอุริ (Yomiuri) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ส่งเสริมการนําเสนอข้อมูลข่าวสารที่เที่ยงตรงอย่างกว้างขวาง

ข้อ 37 – 40. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) รัชกาลที่ 4
(2) รัชกาลที่ 5
(3) รัชกาลที่ 6
(4) รัชกาลที่ 7

37 เทียนวรรณ และ ก.ศ.ร.กุหลาบ เป็นนักหนังสือพิมพ์ในสมัยใด
ตอบ 2 หน้า 104 – 105 นักหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่ามีความคิด ก้าวหน้า (หัวสมัยใหม่) ฝีปากคม กล้าพูด ตรงไปตรงมา โดยไม่เกรงกลัวผู้ใด มีอยู่ 2 คน คือ 1. ต.ว.ส.วัณณาโภ มีนามปากกาว่าเทียนวรรณ เจ้าของหนังสือพิมพ์ตุลยวิภาคพจนกิจ 2. ก.ศ.ร.กุหลาบ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามประเภทสุนทโรวาทพิเศษ

38 สิ่งพิมพ์ด้านนิตยสารเกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด
ตอบ 2 หน้า 105 – 106 กิจการหนังสือเล่มที่เรียกว่า “นิตยสาร” (Magazine) เริ่มมีขึ้นครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้น ได้แก่ จดหมายเหตุแสงอรุณ ยุทธโกฐิ ธรรมจักษุ ธรรมศาสตร์วินิจฉัย นารีรมย์ วิทยาจารย์ และเทศาภิบาล

39 การเขียนข่าวแบบสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์ไทยเริ่มขึ้นในสมัยใด
ตอบ 4 หน้า 110 – 111 วิวัฒนาการของกิจการหนังสือพิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีดังนี้
1 มีหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แทบลอยด์ (Tabloid)
2 มีการพาดหัวข่าวสําคัญในหน้าแรก
3 มีการเขียนวรรคนํา (Lead)
4 เริ่มมีภาพประกอบทั้งภาพถ่าย ภาพล้อ และการ์ตูน
5 มีการสัมภาษณ์เพื่อนํามาเขียนข่าวเป็นครั้งแรกของหนังสือพิมพ์ไทย

40 กฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทยถูกตราขึ้นในสมัยใด
ตอบ 3 หน้า 109, 112 รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ตรา พ.ร.บ. ว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2465 ขึ้นเป็น พ.ร.บ. การพิมพ์หรือกฎหมายการพิมพ์ฉบับแรกของไทย เพื่อจะได้ทราบ จํานวนและเจ้าของหนังสือพิมพ์ ทั้งนี้เพราะสมัยนั้นมีหนังสือพิมพ์ออกมาเป็นจํานวนมากทําให้ยากต่อการควบคุมดูแลโดยบางฉบับตีพิมพ์ข่าวรุนแรงเกินกว่าเหตุแต่ไม่สามารถหาตัว บรรณาธิการได้ ดังนั้นจึงนับว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้สามารถควบคุมดูแลหนังสือพิมพ์ได้ในระดับหนึ่ง

41 หนังสือพิมพ์ไทยยุคใดที่ถูกรัฐบาลสั่งห้ามการตีพิมพ์เป็นเวลา 5 วัน
(1) ยุคมืด พ.ศ. 2501 – 2512
(2) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
(3) ยุคเริ่มต้นเสรีภาพ
(4) ยุคสําลักเสรีภาพ
ตอบ 2 หน้า 117, (คําบรรยาย) ยุคปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2519 – 2522 นับได้ว่าเป็นยุคมืด ของวงการหนังสือพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง เพราะมีคําสั่งห้ามการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ทุกฉบับ เป็นเวลา 5 วัน นอกจากนี้ยังมีการประกาศใช้ ปร.42 เพื่อควบคุมการทํางานของหนังสือพิมพ์ โดยตรง และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวสาร เพื่อตรวจข่าว (เซ็นเซอร์) หนังสือพิมพ์

42 ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์
(1) บรรณาธิการใหญ่
(2) เจ้าของ, ผู้ลงทุน
(3) บรรณาธิการบริหาร
(4) หุ้นส่วน, ผู้ลงทุน
ตอบ 1 หน้า 120, 127 บรรณาธิการใหญ่ (Editor-in-Chief) ถือเป็นตําแหน่งบริหารสูงสุดของ องค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลด้านการวางนโยบายของหนังสือพิมพ์ วางแผนธุรกิจ กําหนดทิศทางของหนังสือพิมพ์ และมีอํานาจหน้าที่สั่งการควบคุมทุกหน่วยงานในองค์กร หนังสือพิมพ์ให้สามารถอยู่รอดทางด้านธุรกิจ โดยที่ยังคงสามารถนําเสนอเนื้อหาที่ดีได้

43 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศ ขั้นตอนสุดท้ายของงานคืออะไร
(1) ประชุมกองบรรณาธิการ
(2) จัดจําหน่ายหนังสือพิมพ์
(3) จัดหน้าหนังสือพิมพ์
(4) พาดหัวข่าว
ตอบ 2 หน้า 132, 135 ตามสายการเดินทางของข่าวต่างประเทศจะมีขั้นตอนการทํางาน ดังนี้
1 บรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สํานักข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์/นิตยสาร/วารสารต่างประเทศ และสํานักข่าวไทย รวบรวม เรียบเรียงข่าว
2 ส่งให้บรรณาธิการข่าวต่างประเทศคัดเลือก
3 แปลข่าว
4 ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว
5 บรรณาธิการจัดหน้า
6 ฝ่ายผลิต
7 ฝ่ายจัดจําหน่ายหนังสือพิมพ์

44 ตามสายการเดินทางของข่าวกีฬา ขั้นตอนแรกของงานได้แก่
(1) ประชุมกองบรรณาธิการ
(2) บ.ก. รับข่าวจากผู้สื่อข่าว
(3) การออกไปสื่อข่าว
(4) พาดหัวข่าว
ตอบ 3 หน้า 132, 136 – 137 ตามสายการเดินทางของข่าวอื่น ๆ เช่น ข่าวการเมือง ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ฯลฯ จะมีขั้นตอนการทํางานที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้
1 ผู้สื่อข่าวออกไปสื่อข่าว หรือบรรณาธิการรับข่าวจากผู้สื่อข่าว สํานักข่าว หรือจากสิ่งพิมพ์อื่น ๆ
2 บรรณาธิการข่าวนั้น ๆ คัดเลือก รวบรวม เรียบเรียงข่าว ฯลฯ
3 ประชุมข่าว บรรณาธิกรณ์ข่าว
4 บรรณาธิการจัดหน้า
5 ฝ่ายผลิต
6 ฝ่ายจัดจําหน่ายหนังสือพิมพ์

ข้อ 45 – 49. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) สารคดี โฆษณา
(2) บทความ จดหมายจากผู้อ่าน
(3) การ์ตูนล้อการเมือง เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น
(4) ภาพข่าว โฆษณา

45 ข้อใดควรจัดไว้หน้า 1
ตอบ 4 หน้า 145 – 148 หน้าแรกหรือหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ (เปรียบเสมือนปก) ถือเป็นหน้า สําคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด โดยมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
1 ชื่อหนังสือพิมพ์
2 ส่วนข้างหัวหนังสือพิมพ์ (Ears)
3 ข่าว (ถือเป็นองค์ประกอบที่สําคัญที่สุด)
4 ภาพข่าว
5 สารบัญข่าว
6 โฆษณา
7 คอลัมน์ประจํา (อาจมีหรือไม่มีก็ได้) เช่น จดหมายเปิดผนึก ตอบปัญหา หรือคอลัมน์ ส่วนตัวของบรรณาธิการ

46 ข้อใดควรจัดไว้หน้าบรรณาธิการ
ตอบ 3 หน้า 167 – 170 หน้าบรรณาธิการ มักจะสะท้อนถึงนโยบายของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้
1 บทบรรณาธิการ
2 ภาพล้อ (Editorial Cartoon) เช่น ภาพการ์ตูนล้อการเมือง ฯลฯ
3 จดหมายถึงบรรณาธิการ
4 เสียงจากหนังสือพิมพ์อื่น (Press Digest)
5 องค์ประกอบเบ็ดเตล็ด ได้แก่ ข่าว โคลงกลอน ตลกขําขัน การ์ตูนที่เป็น เรื่องสั้น ๆ (Comic Strips) โฆษณา และบทความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ เป็นต้น

47 ข้อใดควรจัดไว้หน้าตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ
ตอบ 2 หน้า 161, 171 หน้าพิมพ์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าบรรณาธิการ เรียกว่า Op-ed (Opposite Editorial Page) จะเป็นหน้าซ้ําที่มีลักษณะเหมือนกับหน้าบรรณาธิการทุกประการ ดังนั้นข้อเขียนที่ ควรจัดไว้ในหน้านี้ ซึ่งเป็นหน้าที่เกี่ยวกับเวทีทัศนะ ได้แก่ บทความ และจดหมายจากผู้อ่าน ที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นต้น

48 ข้อใดควรจัดไว้หน้าใน
ตอบ 1 หน้า 159 – 162 องค์ประกอบของหน้าใน มีดังนี้
1 โฆษณา
2 ภาพ
3 หัวเรื่อง
4 คอลัมน์ต่าง ๆ เช่น คอลัมน์วิเคราะห์ข่าว บทความ สารคดี แนะนํา ขําขัน ข่าวสังคม ฯลฯ

49 ข้อใดมีผลต่อความอยู่รอดของหนังสือพิมพ์มากที่สุด
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 45 ประกอบ

50 ธุรกิจหนังสือพิมพ์แตกต่างจากธุรกิจอื่นในข้อใด
(1) หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ธุรกิจขายสินค้า
(2) หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม
(3) หนังสือพิมพ์ต้องมีความเป็นกลาง
(4) หนังสือพิมพ์มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน
ตอบ 1 หน้า 119 หนังสือพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆ โดยทั่วไป ในด้านของตัวสินค้าที่เสนอขายแก่ประชาชน คือ หนังสือพิมพ์มุ่งขายข่าวสาร ส่วนธุรกิจ จะมุ่งขายสินค้า ทั้งนี้เพราะการที่ผู้อ่านหรือลูกค้าซื้อหนังสือพิมพ์ก็เพื่อรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ทั้งข่าว บทความ สารคดี บทวิจารณ์ ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้รับสาร ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

51 คอลัมน์ คืออะไร
(1) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวนอน
(3) การจัดภาพลงบนพื้นที่ที่กําหนด
(2) การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง
(4) การจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กําหนด
ตอบ 2 หน้า 139 – 140, (คําบรรยาย) คอลัมน์ คือ การแบ่งพื้นที่ของหนังสือพิมพ์ตามแนวตั้ง โดยจะแบ่งข้อความออกเป็นช่วง ๆ ซึ่งแต่ละช่วงจะกว้างเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่คิดจากความสะดวกในการอ่านและการจัดหน้าเป็นหลัก ดังนั้นคอลัมน์จึงมีความสําคัญ ตรงที่ทําให้หนังสือพิมพ์สามารถจัดเรื่องลงบนพื้นที่ที่กําหนดได้ง่ายขึ้น

52 ข้อใดไม่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายบรรณาธิการ
(1) การจัดหน้า
(2) การเรียงพิมพ์
(3) การพาดหัวข่าว
(4) การพิสูจน์อักษร
ตอบ 2 หน้า 120 – 121, 124 – 125 ฝ่ายบรรณาธิการมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องราวสําหรับอ่าน ซึ่งปรากฏตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังดูแลการใช้ภาพ การถ่ายภาพข่าว การใช้ขนาดและแบบของตัวอักษร การพาดหัวข่าว การพิสูจน์อักษรหรือตรวจปรู๊ฟ การจัดหน้า และการออกระเบียบการทํางานของผู้สื่อข่าว ฯลฯ ซึ่งเมื่อฝ่ายบรรณาธิการเตรียมต้นฉบับเสร็จแล้ว ก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตเพื่อดําเนินการเรียงพิมพ์และจัดพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์ จากนั้น
ฝ่ายจัดการจะรับผิดชอบด้านธุรกิจในการจัดจําหน่ายต่อไป

53 ข้อใดไม่จําเป็นต้องอยู่ในห้องข่าว
(1) โต๊ะข่าวกีฬา
(2) ห้องบรรณาธิการ
(3) ห้องภาพ
(4) ห้องสมุด
ตอบ 4 หน้า 124 – 125, (คําบรรยาย) ห้องข่าว (News Room) หรือฝ่ายข่าว เป็นห้องที่เตรียมข่าวสาร และมีกิจกรรมการสื่อข่าวทุกประเภท มีการพิมพ์งาน ตลอดจนการติดต่อสื่อสารและรับข่าว จากผู้ที่ไปสื่อข่าวภายนอก ประกอบด้วย โต๊ะข่าวต่าง ๆ (Copydesk) ห้องบรรณาธิการ (Editorial Room) และห้องภาพ (Picture Division) ร่วมประสานงานอย่างใกล้ชิดภายในห้องเดียวกัน (ส่วนห้องสมุดจะเป็นสถานที่เก็บข่าวหรือหลักฐานที่ใช้แล้ว ซึ่งแยกออกไปอย่างเอกเทศ)

54 ผู้ใดไม่จําเป็นต้องประชุมกองบรรณาธิการ
(1) บรรณาธิการบริหาร
(2) บรรณาธิการข่าว
(3) บรรณาธิการโต๊ะข่าว
(4) ผู้สื่อข่าว
ตอบ 1 หน้า 133, 137, (คําบรรยาย) การประชุมข่าวหรือการประชุมกองบรรณาธิการ ถือเป็นขั้นตอน ที่สําคัญที่สุดตามสายการเดินทางของข่าวทุกประเภท ซึ่งจะประกอบด้วย หัวหน้ากองบรรณาธิการ เป็นประธานโดยหน้าที่ พร้อมด้วยบรรณาธิการข่าว บรรณาธิการโต๊ะข่าวต่าง ๆ บรรณาธิการภาพ หัวหน้าฝ่ายจัดหน้า รวมทั้งผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมเพื่อคัดเลือกข่าวสําคัญ โดยมี วัตถุประสงค์ คือ
1 คัดเลือกข่าวหน้าหนึ่ง (ถือเป็นวัตถุประสงค์หลักในการประชุม)
2 พิจารณาจัดลําดับความสําคัญของข่าว
3 วิเคราะห์แง่มุม ประเด็นข่าว และเสนอแนะ ให้แง่คิดในการติดตามข่าว
4 พิจารณาเรื่องการเขียนบทบรรณาธิการ

55 โต๊ะข่าวใดมีขนาดใหญ่ที่สุด
(1) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ
(2) โต๊ะข่าวการเมือง
(3) โต๊ะข่าวกีฬา
(4) โต๊ะข่าวในประเทศ
ตอบ 4 หน้า 127, 134 หนังสือพิมพ์จะให้ความสําคัญต่อโต๊ะข่าวในประเทศหรือโต๊ะข่าวหน้า 1 มากที่สุด กล่าวคือ เมื่อโต๊ะข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ มีข่าวใดซึ่งกําลังได้รับ ความสนใจจากประชาชนมากที่สุด ก็จะส่งมายังโต๊ะข่าวในประเทศเพื่อประชุมข่าวและพิจารณา ตีพิมพ์ต่อไป ดังนั้นจึงถือว่าโต๊ะข่าวในประเทศมีความสําคัญมากที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุด

56 งานใดมิได้อยู่ในฝ่ายจัดการ
(1) การจัดจําหน่ายหนังสือพิมพ์
(2) การรับงานพิมพ์จากภายนอก
(3) การขอโฆษณา
(4) การออกระเบียบการทํางานของผู้สื่อข่าว
ตอบ 4 หน้า 123, (คําบรรยาย) งานที่สําคัญของฝ่ายจัดการมี 2 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่
1 งานด้านบริหารธุรการ เช่น งานบริหารบุคลากร งานการเงิน บัญชี งานพัสดุ ฯลฯ
2 งานด้านธุรกิจ เช่น งานจัดจําหน่ายหนังสือพิมพ์ และงานโฆษณา (การขอโฆษณาถือเป็น งานที่สําคัญที่สุดของฝ่ายจัดการ เพราะเป็นแหล่งรายได้หลักที่สําคัญที่สุดของหนังสือพิมพ์) รวมทั้งงานการพิมพ์ ซึ่งเป็นการรับงานพิมพ์จากภายนอกในช่วงที่เครื่องพิมพ์ว่างเว้นจาก การพิมพ์หนังสือพิมพ์ ฯลฯ (ดูคําอธิบายข้อ 52. ประกอบ)

ข้อ 57. – 61. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) การจัดหน้าแนวนอน
(2) การจัดหน้าสมดุลแตกต่าง
(3) การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ
(4) การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบ

57 จัดหน้าง่ายที่สุด
ตอบ 1 หน้า 149 – 150 การจัดหน้าแบบแนวนอน (Horizontal) เป็นการจัดวางหัวข่าวให้ยาว ตลอดหน้าหรือหลายคอลัมน์ตามขวางของหน้า ซึ่งมีประโยชน์หลายประการ เช่น จัดหน้า ได้ง่ายที่สุด สามารถพาดหัวข่าวที่ดึงดูดใจผู้อ่าน ใช้ตัวอักษรด้วยขนาดและแบบต่าง ๆ กัน ได้หลายแบบหลายขนาด นอกจากนี้สิ่งที่สําคัญ คือ สามารถจัดระดับข่าวและองค์ประกอบ ต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าการจัดหน้าแบบแนวดิ่ง

58 นิยมใช้ในการจัดหน้ามากที่สุด
ตอบ 2 หน้า 150 การจัดหน้าแบบสมดุลแตกต่าง (Informal Balance) เป็นวิธีการจัดหน้า ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถเน้นความแตกต่างในสาระสําคัญของข่าวได้อย่างชัดเจน ทําให้หนังสือพิมพ์ดูมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้น มีความหลากหลายในการเสนอข่าว และสามารถ เร้าความสนใจได้มากกว่าการจัดหน้าแบบสมดุลแท้จริง ซึ่งจะดูเรียบเกินไป

59 ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นมาก ๆ เพียงข่าวเดียว
ตอบ 3 หน้า 150 – 151 การจัดหน้าแบบเน้นจุดสนใจ (Brace หรือ Focus) มักใช้ในกรณีมีข่าวใหญ่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ หรือข่าวใดข่าวหนึ่งมีความสําคัญและโดดเด่นมากกว่าข่าวอื่น ๆ ในหน้าเดียวกัน ซึ่งควรกําหนดวางหัวข่าวใหญ่ไว้ที่มุมบนขวามือหรือมุมบนซ้ายมือ เพื่อดึงดูด ความสนใจและเน้นความสําคัญของข่าว จากนั้นจึงเสริมด้วยภาพหรือข่าวอื่นที่มีความสําคัญน้อยลงมา โดยจัดวางตําแหน่งของข่าวให้ลดหลั่นลงมาในรูปแบบขั้นบันไดตามแนวเส้นทแยงมุม

60 ใช้จัดหน้ากรณีมีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว
ตอบ 4 หน้า 151 การจัดหน้าแบบไร้ระเบียบหรือแบบละครสัตว์ (Broken หรือ Circus) เป็นการจัดหน้า ที่ค่อนข้างตามสบาย ไม่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว ใช้ลักษณะการพาดหัวข่าวและจัดคอลัมน์ ให้มีความหลากหลายในหน้าเดียวกัน ซึ่งอาจสับสนบ้างแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้มาก ทั้งนี้มักใช้ในกรณีที่มีข่าวโดดเด่นหลาย ๆ ข่าว โดยถือว่าข่าวทุกข่าวนั้นมีความสําคัญเท่าเทียมกัน

61 ใช้ตัวอักษรได้หลายแบบหลายขนาด
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 57. ประกอบ

62 ผู้ใดทําหน้าที่ตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว
(1) Editor
(2) Copy Reader
(3) Proof Reader
(4) Reporter
ตอบ 2 หน้า 124 – 125, 132 ผู้ตรวจข่าว (Copy Reader) หรือบรรณาธิการต้นฉบับ จะทําหน้าที่ เป็นผู้ตรวจทานข่าวต่อจากบรรณาธิการข่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยตรวจทานการใช้คํา การใช้ภาษา และตัวสะกดให้ถูกต้อง นอกจากนี้ยังทําหน้าที่สืบค้นและตรวจความถูกต้องของข้อเท็จจริงในข่าว ตกแต่งต้นฉบับ และเขียนพาดหัวข่าวประกอบข่าวทุกข่าวที่จะตีพิมพ์ ฯลฯ

63 หน่วยงานใดมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด
(1) หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์
(2) หนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก
(3) หนังสือพิมพ์เฉพาะประเภท
(4) หนังสือพิมพ์ฝึกหัดของสถาบันการศึกษา
ตอบ 1 หน้า 124 – 126 บุคลากรของฝ่ายบรรณาธิการ เช่น ห้องข่าว โต๊ะข่าว ฯลฯ จะมีจํานวนมาก หรือน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดของหนังสือพิมพ์ กล่าวคือ หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่จะแบ่งบุคลากรใน กองบรรณาธิการมากที่สุด ส่วนหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์จะมีบุคลากรในกองบรรณาธิการน้อยที่สุด โดยจะมีบุคลากรเพียงผู้พิมพ์ผู้โฆษณา บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว (อาจมีเพียงคนเดียวหรือสองคน)

64 หลักการใดไม่ใช่การจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์
(1) การจัดแบบพีระมิดซีกขวา
(2) การจัดแบบพีระมิดซีกซ้าย
(3) การจัดแบบ Well หน้าเดี่ยว
(4) การจัดแบบ Well สองหน้าคู่
ตอบ 2 หน้า 164 – 167, (คําบรรยาย) หลักการจัดหน้าในหรือการจัดหน้าโฆษณาของหนังสือพิมพ์ มีดังนี้
1 แบบพีระมิดครึ่งซีกด้านขวา (Pyramided to the Right)
2 แบบ Well หน้าเดี่ยว
3 แบบ Welt สองหน้าคู่
4 แบบ Island (แบบเกาะ)
5 แบบแนวนอนล่าง
6 แบบพีระมิดสองด้านหรือสองซีก (Double Pyramid)

65 หลักการจัดหน้าบรรณาธิการข้อใดสําคัญที่สุด
(1) ความสวยงาม
(2) ความสมดุล
(3) ความเด่น
(4) ความหลากหลาย
ตอบ 2 หน้า 171 – 172 รูปแบบการจัดหน้าบรรณาธิการควรใช้หลักการทางศิลปะควบคู่กับ หลักการทางวารสารศาสตร์เช่นเดียวกับการจัดหน้าอื่น ๆ คือ ๆ
1 การใช้หลักความสมดุล ซึ่งนิยมให้หน้าพิมพ์สมดุลแบบไม่เท่ากัน (Informal Balance)
2 การลําดับความสําคัญของเรื่อง

66 ฝ่ายใดเป็นผู้จัดชั้นโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์
(1) ฝ่ายบรรณาธิการ
(2) ฝ่ายศิลป์
(3) ฝ่ายผลิต
(4) ฝ่ายจัดการ
ตอบ 4 หน้า 123, 163, (ดูคําอธิบายข้อ 56 ประกอบ) การจัดวางชิ้นงานโฆษณาลงบนหน้าพิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายโฆษณา ซึ่งอยู่ในส่วนของฝ่ายจัดการมากกว่าจะเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายบรรณาธิการโดยตรง ทั้งนี้ฝ่ายโฆษณามักจะจัดหน้าในส่วนของโฆษณาให้มีเนื้อที่เหมาะสม สําหรับตีพิมพ์ข่าวอยู่แล้ว แต่หากจําเป็นต้องมีการปรับ บรรณาธิการฝ่ายจัดหน้าจะเป็น ผู้ประสานงานกับฝ่ายโฆษณาต่อไป

67 หน้าใดไม่นิยมให้มีโฆษณา
(1) หน้าบรรณาธิการ
(2) หน้ากลาง
(3) หน้าใน
(4) หน้าสุดท้าย

ตอบ 1 หน้า 171 หนังสือพิมพ์ไม่นิยมให้มีโฆษณาในหน้าบรรณาธิการ แต่ถ้าจําเป็นต้องมีก็ควรจัด
ตําแหน่งให้อยู่ครึ่งล่างของหน้าพิมพ์ โดยควรหลีกเลี่ยงโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีความเด่นมาก ๆ และควรเป็นโฆษณาที่ปราศจากภาพถ่ายหรือภาพเขียนที่มีความเข้มหรือดําจัด ทั้งนี้เพื่อมิให้ โฆษณาเด่นกว่าข้อความอื่น ๆ ของหน้า

68 โต๊ะข่าวใดมีความสําคัญมากที่สุด
(1) โต๊ะข่าวการเมือง
(2) โต๊ะข่าวสังคม
(3) โต๊ะข่าวเศรษฐกิจ
(4) โต๊ะข่าวในประเทศ
ตอบ 4 ดูคําอธิบายข้อ 55. ประกอบ

69 Size คืออะไร
(1) แบบของพาดหัวข่าว
(2) ขนาดของพื้นที่สําหรับหัวข่าว
(3) ขนาดของตัวอักษร
(4) ขนาดของคอลัมน์
ตอบ 3 หน้า 176 – 177 Size คือ ขนาดของตัวอักษร ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นพอยท์หรือปอยท์ (Point) โดยการวัดพื้นที่ของตัวพิมพ์จะวัดจากด้านบนถึงฐาน (ความสูงของตัวพิมพ์) ซึ่ง 1 พอยท์ จะมีค่าเท่ากับ 1/72 นิ้ว ดังนั้นตัวอักษรขนาด 72 พอยท์ จึงสูง 1 นิ้ว (2.54 ซม.)

70 ตัวอักษรขนาดใดนิยมใช้เขียนเนื้อข่าว
(1) 12 Point
(2) 14 Point
(3) 16 Point
(4) 18 Point
ตอบ 2 หน้า 179, 181, (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์จะใช้ขนาดของตัวอักษร (Size) ในการพาดหัวข่าว เขียนความนํา และเนื้อข่าว มีขนาดใหญ่เล็กลดหลั่นกันไป เช่น เนื้อข่าวนิยมใช้ตัวอักษรขนาด 14 Point, ความนําและบทบรรณาธิการใช้ตัวอักษรขนาด 16 Point, พาดหัวข่าวใช้ตัวอักษร ขนาดมากกว่า 16 Pcint ไปจนถึง 100 Point ขึ้นไป

71 ตัวอักษร 1 นิ้ว เท่ากับกี่ Point
(1) 60 Point
(2) 72. Point
(3) 80 Point
(4) 84 Point
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 69 ประกอบ

72 งานหลักของ Rewriter คือข้อใด
(1) ช่วยบรรณาธิการตรวจข่าว และเรียบเรียงข่าวใหม่
(2) เขียนพาดหัวข่าว
(3) เขียนข่าวที่มีผู้ส่งมาจากภายนอกสํานักงาน
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 131 ผู้เรียบเรียงข่าว (Rewriter) คือ ผู้ที่อยู่ประจําสํานักพิมพ์เพื่อทําหน้าที่เรียบเรียงข่าว ที่ส่งเข้ามาจากภายนอกสํานักงาน โดยจะเขียนข่าวให้อยู่ในรูปแบบของข่าวก่อนส่งไปพิมพ์ทั้งนี้ผู้เรียบเรียงข่าวมักจะเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการสื่อข่าวมาก่อน จึงทําให้สามารถจับประเด็นข่าวได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง

73 โดยทั่วไปการจัดหน้าในของหนังสือพิมพ์ นิยมวางภาพโฆษณาไว้ที่ตําแหน่งใด
(1) ด้านซ้ายบนของหน้าพิมพ์
(3) วางไว้บริเวณกลาง ๆ ของหน้าพิมพ์
(2) ด้านซ้ายล่างของหน้าพิมพ์
(4) ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์
ตอบ 4 หน้า 160 คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์ทั่วไปมักจัดหน้าในโดยวางภาพไว้ตรงมุมซ้ายและขวา ของหน้า เพราะถือว่าบริเวณนี้มีความสําคัญที่สุด โดยภาพซึ่งวางตรงมุมซ้ายด้านบนจะเป็น สิ่งที่มาถ่วงน้ําหนักกับภาพโฆษณาที่นิยมวางอยู่ด้านขวาล่างของหน้าพิมพ์นั้น แต่บางครั้งอาจวางภาพไว้ตรงส่วนล่างของหน้าก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีโฆษณา จํานวนน้อย (เพียง 2 หรือ 3 ชิ้น)

74 การจัดวางภาพไว้ส่วนล่างของหน้าพิมพ์มีประโยชน์อย่างไร
(1) จัดหน้าง่าย
(2) เปิดโอกาสให้วางโฆษณาบริเวณส่วนบนของหน้าพิมพ์ได้
(3) เป็นการเฉลี่ยความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์
(4) เหมาะกับการจัดหน้า ซึ่งมีภาพจํานวนน้อย
ตอบ 3 หน้า 160 การจัดวางภาพไว้ตรงส่วนล่างของหน้าพิมพ์จะทําให้เกิดความสมดุล เป็นการเฉลี่ย ความสนใจไปทั่วหน้าพิมพ์ และยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงโฆษณาอีกด้วย เพราะภาพจะช่วย ดึงสายตาของผู้อ่านไปยังโฆษณาหรือบริเวณใกล้เคียงกับโฆษณาตรงส่วนล่างได้เป็นอย่างดี

75 คอลัมน์แบบเปิดมีประโยชน์อย่างไร
(1) แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน
(2) จัดข้อความเป็นรูปแท่งสี่เหลี่ยมได้ง่าย
(3) จัดง่ายกว่าคอลัมน์แบบปิด
(4) ดูโปร่ง สบายตา น่าอ่าน
ตอบ 4หน้า 149, (คําบรรยาย) การจัดรูปแบบคอลัมน์ แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
1 คอลัมน์แบบเปิด (Open Format) คือ การใช้พื้นที่ว่างสีขาว (ช่องไฟหรือเนื้อที่ข่าว) เป็นแนวกั้นหรือแยกระหว่างคอลัมน์โดยไม่มีเส้นคั่น ซึ่งมีข้อดีคือ ทําให้ดูโปร่ง สบายตา และน่าอ่าน ส่วนข้อเสียคือ การจัดเนื้อที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ทําให้จัดหน้าได้ยาก และ อาจทําให้ผู้อ่านหลงข่าวได้
2 คอลัมน์แบบปิด (Close Format) คือ การใช้เส้นตรงบาง ๆ เป็นแนวกั้นระหว่างคอลัมน์ ซึ่งมีข้อดีคือ ทําให้แบ่งข้อความได้อย่างเป็นสัดส่วน หรือแยกเนื้อหาต่าง ๆ ได้ชัดเจน จึงจัดหน้า ได้ง่ายกว่า ส่วนข้อเสียคือ จะดูแน่นและรกตา จึงมักใช้กับเนื้อความสั้น ๆ ที่ไม่ละเอียดมากนัก

76 ข้อใดสามารถสร้างเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุด
(1) วิธีการจัดหน้า
(2) ขนาดของหนังสือพิมพ์
(3) คําขวัญของหนังสือพิมพ์
(4) ชื่อหนังสือพิมพ์
ตอบ 1 หน้า 141 เอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์จะเกิดขึ้นจากทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนหน้าพิมพ์
เพื่อให้ผู้อ่านเคยชินและจําหนังสือพิมพ์ได้ โดยที่ผู้อ่านไม่จําเป็นต้องดูชื่อหนังสือพิมพ์ ได้แก่ ขนาดของหนังสือพิมพ์ (มีผลต่อเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์น้อยที่สุด) จํานวนหน้า รูปแบบ ของตัวอักษร สี แนวของภาพที่เสนอ แนวของถ้อยคําที่ใช้พาดหัวข่าว และที่สําคัญคือ รูปแบบ หรือวิธีการจัดหน้า ซึ่งสามารถสร้างเอกลักษณ์ได้ดีที่สุด เพราะหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับนั้นจะมีแนวการจัดหน้าของตนเองโดยเฉพาะ

77 หนังสือพิมพ์มติชน แบ่งหน้าเป็นคอลัมน์
(1) 8 คอลัมน์
(2) 10 คอลัมน์
(3) 1.2 คอลัมน์
(4) 14 คอลัมน์
ตอบ 3 หน้า 139, (คําบรรยาย) หนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ (Full Size) หรือหนังสือพิมพ์มาตรฐาน (Standard Size) จะมีจํานวนคอลัมน์มาก (8 – 12 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์มติชนแบ่งหน้าพิมพ์ เป็น 12 คอลัมน์ ฯลฯ ส่วนหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก (Tabloid) จะมีจํานวนคอลัมน์น้อยกว่า (4 – 8 คอลัมน์) เช่น หนังสือพิมพ์ฝึกหัดอาร์ยูนิวส์ (RU News) และหนังสือพิมพ์ข่าวรามคําแหง แบ่งหน้าพิมพ์เป็น 6 คอลัมน์ ฯลฯ

78 ข้อใดจัดวางตําแหน่งชื่อของหนังสือพิมพ์แบบคงที่
(1) ไทยรัฐ
(2) มติชน
(3) สยามรัฐ
(4) คมชัดลึก

ตอบ 3 หน้า 146, (คําบรรยาย) ชื่อหนังสือพิมพ์ (Name Plate) เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้า ซึ่งต้องการให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่จดจํา และสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ โดยสามารถ จัดได้ 2 รูปแบบ คือ
1 แบบคงที่ เป็นการวางชื่อหนังสือพิมพ์ที่เดิมทุกวัน ๆ เช่น หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ ฯลฯ
2 แบบไม่คงที่ เป็นการเปลี่ยนที่วางชื่อหนังสือพิมพ์ไปทุกวัน เช่น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มติชน ข่าวสด เดลินิวส์ คมชัดลึก หนังสือพิมพ์ฝึกหัดอาร์ยูนิวส์ ฯลฯ

79 การจัดแบ่งส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์มีประโยชน์อย่างไร
(1) หนังสือพิมพ์มีความหนามากขึ้น
(2) จัดเรื่องให้เป็นหมวดหมู่ได้ง่าย
(3) ราคาจําหน่ายสูงขึ้น
(4) หนังสือพิมพ์มีความน่าสนใจมากขึ้น
ตอบ 2 หน้า 31 – 32 การที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ขยายตัวและมีการแข่งขันสูงขึ้น ประกอบกับผู้บริโภค ต้องการข่าวสารมากขึ้น ทําให้หนังสือพิมพ์มีเนื้อหาและมีความหนามากเกินไป ดังนั้นจึงมีการ จัดแบ่งส่วนเนื้อหา (Section) ของหนังสือพิมพ์ออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้สามารถจัดเรื่องให้เป็น หมวดหมู่ได้ง่าย ทําให้อ่านง่ายไม่สับสน และรู้สึกว่าหนังสือพิมพ์มีจํานวนหน้ามากขึ้นจนคุ้มค่า ต่อการซื้อหามาอ่าน

80 ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) มีประโยชน์อย่างไร
(1) จัดหน้าง่าย
(2) หนังสือพิมพ์มีความสวยงามกว่าการจัดแบบช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ)
(3) เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหาสั้น
(4) เหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว
ตอบ 4 หน้า 141, (คําบรรยาย) การแบ่งจํานวนคอลัมน์น้อยจะทําให้ช่องคอลัมน์ใหญ่ (กว้าง) ขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับเรื่องที่มีเนื้อหายาว แต่ไม่สามารถลงข่าวที่หลากหลาย และการจัดควบหรือ จัดแทรกจะทําได้ยาก ในขณะที่การแบ่งจํานวนคอลัมน์มากจะทําให้ช่องคอลัมน์เล็ก (แคบ) ขึ้น ซึ่งจะทําให้บรรจุเรื่องราวที่สั้น ๆ ได้หลายเรื่อง และแทรกเนื้อหาได้ง่าย แต่ก็จะอ่านยากกว่า

81 พระราชบัญญัติการพิมพ์ที่ถือว่าเป็นพระราชบัญญัติการพิมพ์ฉบับแรก คือ
(1) พระราชบัญญัติว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2465
(2) พระราชบัญญัติว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2470
(3) พระราชบัญญัติว่าด้วยสมุด เอกสาร และหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2475
(4) จดหมายเหตุรัชกาลที่ 4
ตอบ 1 ดูคําอธิบายข้อ 40. ประกอบ

82 พระราชบัญญัติการพิมพ์ฉบับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ
(1) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2482
(2) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2483
(3) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2550
(4) พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2551
ตอบ 3(คําบรรยาย) พ.ร.บ. เกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับที่ทันสมัยที่สุดและใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คือ พ.ร.บ. การพิมพ์ พ.ศ. 2550 หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ซึ่งถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการพิมพ์ฉบับล่าสุดที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา และ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป

83 ตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ ข้อใดจะเป็นนิติบุคคลไม่ได้
(1) ผู้พิมพ์
(2) ผู้โฆษณา
(3) เจ้าของหนังสือพิมพ์
(4) บรรณาธิการ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 7 วรรคสอง ระบุว่า ในกรณีนิติบุคคล เป็นผู้พิมพ์หรือผู้โฆษณา กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้แทนอื่นของนิติบุคคลนั้น ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย และมาตรา 16 ระบุว่า เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ที่เป็นนิติบุคคลต้องมีบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมด และต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจํานวนกรรมการทั้งหมดเป็นผู้มีสัญชาติไทยด้วย (ส่วนบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ต้องเป็นบุคคลธรรมดา จะเป็นนิติบุคคลไม่ได้)

84 พระราชบัญญัติการพิมพ์ไม่ใช้บังคับสิ่งพิมพ์ใด
(1) ใบเสร็จรับเงิน
(2) แผนที่
(3) แผ่นเสียง แผ่นซีดี
(4) บทเพลง
ตอบ 1(คําบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 5 ระบุว่า พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้ บังคับกับสิ่งพิมพ์ดังต่อไปนี้ คือ
1 สิ่งพิมพ์ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ
2 บัตร บัตรอวยพร ตราสาร แบบพิมพ์ และรายงานซึ่งใช้กันตามปกติในการส่วนตัว การสังคม การเมือง การค้า หรือสิ่งพิมพ์ที่มีอายุการใช้งานสั้น เช่น แผ่นพับหรือแผ่นโฆษณา ใบเสร็จรับเงิน ฯลฯ
3 สมุดบันทึก สมุดแบบฝึกหัด หรือสมุดภาพระบายสี
4 วิทยานิพนธ์ เอกสารคําบรรยาย หลักสูตรการเรียนการสอน หรือสิ่งพิมพ์อื่นทํานองเดียวกัน ที่เผยแพร่ในสถานศึกษา

85 ผู้ใดมีอํานาจสั่งระงับการนําสิ่งพิมพ์เข้ามาในราชอาณาจักร
(1) อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
(2) อธิบดีกรมราชทัณฑ์
(3) ผู้บัญชาการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
(4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ 3 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 10 ระบุว่า ให้ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มีอํานาจออกคําสั่งโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ห้ามสั่งเข้าหรือนําเข้าเพื่อเผยแพร่ ในราชอาณาจักรซึ่งสิ่งพิมพ์ใด ๆ ที่เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์

86 บุคคลที่มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย หมายถึง
(1) บุคคลธรรมดา
(2) นิติบุคคล
(3) นายกรัฐมนตรี
(4) รัฐมนตรี
ตอบ 1(คําบรรยาย) “บุคคลธรรมดา” หมายถึง บุคคลที่มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วน “นิติบุคคล” หมายถึง บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย โดยกฎหมายรับรองให้มีสิทธิ และหน้าที่ได้เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา

87 บุคคลที่ถูกสมมุติขึ้นตามกฎหมาย หมายถึง
(1) บุคคลธรรมดา
(2) นิติบุคคล
(3) นายกรัฐมนตรี
(4) รัฐมนตรี
ตอบ 2 ดูคําอธิบายข้อ 86 ประกอบ

88 ข้อมูลข่าวสารใดที่รัฐต้องเปิดเผย
(1) แผนงานและงบประมาณประจําปี
(2) สัมปทานที่มีลักษณะผูกขาดตัดตอน
(3) ผลการพิจารณาคําวินิจฉัยเกี่ยวกับการประมูลโครงการ
(4) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4 หน้า 188, 190 ข้อมูลข่าวสารที่รัฐต้องเปิดเผย (ต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้) ตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 9 มีดังนี้
1 ผลการพิจารณาหรือคําวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน (เช่น ผลการประมูลโครงการ)
2 แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจําปี
3 คู่มือหรือคําสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
4 สัญญาสัมปทาน สัญญาที่มีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือสัญญาร่วมทุนกับเอกชน ในการจัดทําบริการสาธารณะ
5 มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน ฯลฯ

89 ข้อใดอยู่ใน พ.ร.บ. การพิมพ์
(1) การตีพิมพ์จุลสารต้องขออนุญาต
(2) การขายแผ่นเสียงหรือซีดีต้องได้รับลิขสิทธิ์
(3) การรับโฆษณาสินค้าใดต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด
(4) ต้องส่งสิ่งพิมพ์ให้หอสมุดแห่งชาติ
ตอบ 4 (คําบรรยาย) พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาตรา 9 ระบุว่า ให้ผู้พิมพ์ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา 8 จํานวน 2 ฉบับ ให้หอสมุดแห่งชาติภายใน 30 วัน นับแต่วันเผยแพร่

90 การพิจารณาคดีโดยใช้ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว มีข้อดีอย่างไร
(1) พิจารณาโดยผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์
(2) พิจารณาโดยลดโทษกึ่งหนึ่งเสมอ
(3) ใช้หลักการพิทักษ์เด็ก ซึ่งกระทําผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 3 หน้า 213, (คําบรรยาย) พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 ได้ให้เหตุผลที่ ต้องแยกการพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนออกจากการพิจารณาคดีทั่ว ๆ ไปว่า เพื่อเป็น การพิทักษ์คุ้มครองเด็กและเยาวชนมิให้ถูกรังเกียจ มีปมด้อย หรือถูกตราหน้าว่าได้กระทํา ความผิดทางอาญา และเพื่อให้การช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่อาจกระทําความผิด เนื่องจากยังไม่เจริญด้วยวุฒิภาวะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกบังคับ หรือด้วยความจําเป็นบางประการ

91 ข้อใดไม่อยู่ในบทบัญญัติของกฎหมาย
(1) ห้ามบันทึกภาพของเด็กและเยาวชนที่กระทําความผิด
(2) ห้ามโฆษณาชื่อตัว ชื่อสกุลของเยาวชนนั้น
(3) ให้พิจารณาคดีในห้องพิเศษที่ไม่ใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา
(4) ให้พิจารณาคดีโดยรวดเร็ว เพื่อพิทักษ์เด็กและเยาวชน
ตอบ 4 หน้า 214 พ.ร.บ. จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 72 ระบุว่า การพิจารณา คดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจําเลย ให้กระทําในห้องที่มิใช่ห้องพิจารณาคดีธรรมดา…. และ มาตรา 93 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดบันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของ เด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิด หรือโฆษณาข้อความที่อาจทําให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว ชื่อสกุล ของเด็กหรือเยาวชนนั้น หรือโฆษณาข้อความเปิดเผยประวัติการกระทําความผิด หรือสถานที่อยู่ สถานที่ทํางาน หรือสถานที่ศึกษาของเด็กหรือเยาวชนนั้น

92 ท่านใดร่าง “ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย”
(1) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์
(2) พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
(3) รัชกาลที่ 5
(4) รัชกาลที่ 6

ตอบ 2 หน้า 217 – 218 พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ และนักหนังสือพิมพ์ที่มี ชื่อเสียงอีกหลายท่าน เช่น นายเฉลิม วุฒิโฆสิต, นายสถิตย์ เสมานิล, นายมาลัย ชูพินิจ, นายเสลา เลขะรุจิ ฯลฯ ได้ร่วมกันยกร่าง “ประมวลจรรยามรรยาทของนักหนังสือพิมพ์แห่ง ประเทศไทย” ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2486

93 จริยธรรม คืออะไร
(1) หลักแห่งความประพฤติของนักหนังสือพิมพ์
(2) แนวการปฏิบัติของคนในวงวิชาชีพ
(3) หลักปฏิบัติที่ตราขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 1 หน้า 217, (คําบรรยาย) สุภา ศิริมานนท์ ได้ให้ความหมายว่า จริยธรรม หมายถึง หลักแห่งความประพฤติหรือพฤติกรรมอันตั้งไว้ชอบ หรือความประพฤติอันถูกธรรมหรือ ความประพฤติที่เป็นธรรมของนักหนังสือพิมพ์ ส่วนฉอ้าน วุฑฒิกรรมรักษา อธิบายไว้ว่าจริยธรรมเน้นที่จิตสํานึกของบุคคลในการประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร

ข้อ 94 – 95. จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคําถาม
(1) สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
(2) สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย
(3) สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
(4) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ

94 จริยธรรมของนักวิชาชีพที่มีความเป็นสากลที่สุด
ตอบ 4 หน้า 229, (คําบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ถือเป็นสถาบันที่ดูแลเรื่องจริยธรรมและ จรรยาบรรณของนักหนังสือพิมพ์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่ง วิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้ตราขึ้นนั้น ได้รับยกย่องว่า มีความครอบคลุมและเป็นสากลมากที่สุด

95 จริยธรรมของสมาคมใดใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา
ตอบ 3 หน้า 227 สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้กําหนดจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2510 โดยใช้หลักการเดียวกับพุทธศาสนา ดังนี้
1 ความรับผิดชอบ (กิจญาณ)
2 ความมีเสรีภาพ (ปวารณา หรือธรรมาธิปไตย)
3 ความเป็นไท (ความไม่ตกเป็นทาสของอกุศลมูล)
4 ความจริงใจ (สัจจะ)
5 ความเที่ยงธรรม (ความไม่มีอคติ 4 ประการ ได้แก่ ฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติ)
6 ความมีใจเป็นนักกีฬา (สุปฏิบัติ)
7 ความมีมารยาท (โสเจยยะ หรืออาจารสมบัติ)

96 ข้อใดไม่ใช่จริยธรรมของหนังสือพิมพ์
(1) ไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว
(2) ไม่ลอกข่าวจากหนังสือพิมพ์อื่น
(3) เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้ชี้แจงประเด็นข่าว
(4) ถูกทุกข้อ
ตอบ 2 หน้า 229 – 230 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ พ.ศ. 2541 ของ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ข้อ 9 ระบุว่า หนังสือพิมพ์ต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว, ข้อ 10 ระบุว่า เมื่อคัดลอกข้อความใดจากหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ต้องบอก ที่มาของข้อความนั้น และข้อ 11 ระบุว่า การเสนอข่าวที่มีการพาดพิง อันอาจเกิดความเสียหาย แก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ต้องแสดงถึงความพยายามในการเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่ถูกกล่าวหา แสดงข้อเท็จจริงด้วย

97 เหตุใดนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรม
(1) ควรจะต้องควบคุมกันเอง
(2) มีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยชน์ของสังคมมาก
(3) มีหลายแห่งทําให้ยากต่อการควบคุม
(4) เป็นวิชาชีพอิสระ
ตอบ 2 หน้า 232 ผู้ที่ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ย่อมมีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลประโยชน์ของสังคมมาก ดังนั้นนักหนังสือพิมพ์จึงต้องมีจริยธรรมเป็นเครื่องควบคุมความประพฤติและกํากับการทํางาน ของสมาชิก โดยเมื่อมีการประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณก็จะมีหลักเกณฑ์การลงโทษซึ่งเป็นโทษทางสังคมมากกว่าโทษทางกฎหมาย ทั้งนี้เพราะจริยธรรมเป็นเรื่องของจิตใจ

98 ท่านใดเริ่มแนวคิดการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์
(1) นายชวน หลีกภัย
(2) ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
(3) รัชกาลที่ 6
(4) นายอานันท์ ปันยารชุน
ตอบ 2 หน้า 116 เมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2518 ก็ได้เล็งเห็นถึง ความจําเป็นที่หนังสือพิมพ์จะต้องมีเสรีภาพควบคู่ไปกับความรับผิดชอบ จึงได้ร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ฉบับใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เสรีภาพแก่หนังสือพิมพ์ในการควบคุมกันเองมากขึ้น ซึ่งร่าง พ.ร.บ. การพิมพ์ดังกล่าวได้เริ่มเสนอแนวคิดให้มีการจัดตั้งสภาการหนังสือพิมพ์ (Press Council) ขึ้นมา

99 ใครเป็นประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติคนแรก
(1) นายชวน หลีกภัย
(2) นายอานันท์ ปันยารชุน
(3) นายมานิจ สุขสมจิตร
(4) นายบุญเลิศ ช้างใหญ่
ตอบ 3 หน้า 229, 232, (คําบรรยาย) สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เป็นองค์กรอิสระที่ทําหน้าที่ ควบคุมกันเอง เพื่อส่งเสริมเสรีภาพ ความรับผิดชอบ สถานภาพของผู้ประกอบวิชาชีพและ กิจการหนังสือพิมพ์ ฯลฯ โดยมีนายมานิจ สุขสมจิตร เป็นประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ คนแรก (พ.ศ. 2541)

100 ข้อใดเป็น “อกุศลมูล
(1) ใช้ภาษาและภาพที่หยาบโลน
(2) รายงานข่าวด้วยความลําเอียง
(3) รายงานข่าวโดยรับอามิสสินจ้าง
(4) รายงานข่าวโดยไม่ถือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่
ตอบ 3 หน้า 227, (ดูคําอธิบายข้อ 95. ประกอบ) ความเป็นไท ได้แก่ ความไม่ตกเป็นทาสของใคร ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะโดยอามิสสินจ้างอื่นใด ซึ่งตรงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา คือ ความไม่ตกเป็นทาสของ “อกุศลมูล” (คําว่า “อกุศลมูล” หมายถึง การตกเป็นทาสของสิ่งใด ทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การรายงานข่าวโดยรับอามิสสินจ้างอันมีค่าหรือผลประโยชน์อื่นใด)

 

Advertisement