การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2554
ข้อสอบกระบวนวิชา ANT3053 สังคมและวัฒนธรรมเกาหลี
คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว (ข้อสอบมีทั้งหมด 120 ข้อ)
1. เนื้อหาสาระในหนังสือเรียน AM 353 เรื่องใดที่มิใช่เป็นหัวข้อหลัก
(1) พัฒนาการต้านเศรษฐกิจและการเมือง
(2) วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
(3) เกาหลีเหนือ
(4) มองคนและอุปนิสัยประจำชาติ
ตอบ 3 หน้าคำนำ, หนังสือเรียนสังคมและวัฒนธรรมเกาหลี (AN 353) เน้นการศึกษาหัวข้อหสัก 3 เรื่อง ดังนี้ 1. การพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศขึ้นใน ค.ศ. 1948 – 2001 2. วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของเกาหลี 3. การมองภาพคนและอุปนิสัยประจำชาติของเกาหลี
2. ใครคือผู้ที่ได้ทำการรวบรวมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจายตั้งเป็นอาณาจักรโคโชซอน
(1) โมกุน
(2) ตันกุน
(3) ซุนด๊อก
(4) โจมอง
ตอบ 2 หน้า 2 – 3, 12 – 13 (ร), 97 (S) ตามตำนานของเกาหลีนั้น เชื่อว่าเทพเจ้าตันกุน (Tangun) เป็นกษัตริย์ผู้ให้กำเนิดชาติเกาหลี ซึ่งได้รวบรวมบ้านเรือนที่ตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจาย ขึ้นเป็นราชอาณาจักรครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี 2333 ก่อนคริสตัศักราช โดยตั้งชื่อว่า ราชอาณาจักรโคโชซอน หรืออาณาจักรโชซอนยุคเก่า ซึ่งแปลตามตัวอักษรว่า “ดินแดนสงบยามเช้า” (Land of the Morning Calm) และได้สร้างเมืองหลวงแห่งแรกขึ้นที่นครเปียงยาง
3. อาณาจักรใดที่ไม่รวมอยู่ในยุคสามอาณาจักร
(1) ซิลลา
(2) เพ็กเจ
(3) โชซอน
(4) โคกูริว
ตอบ 3 หน้า 3 – 4, 13 – 14 (ร) ยุคสามอาณาจักร (Three Kingdoms) ประกอบด้วย
1. อาณาจักรโคกูริว ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงเนินเขาทางตอนเหนือของคาบสมุทร มีอำนาจอยู่ระหว่าง ปี 37 ก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 668 (705 ปี) โดยมีกษัตริย์ปกครองจำนวน 28 พระองค์
2. อาณาจักรเพ็กเจ ตั้งอยู่ทางฝังตะวันตกของคาบสมุทร มีอำนาจอยู่ระหว่างปี 18 ก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 663 (681 ปี) โดยมีกษัตริย์ปกครองรวม 31 พระองค์
3. อาณาจักรซิลลา (สหพันธรัฐรวมซิลลา) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคาบสมุทร มีอำนาจ อยู่ระหว่างปี 58 ก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 935 (993 ปี) โดยมีผู้ปกครองเป็นกษัตริย์ รวมทั้งสิ้น 53 พระองค์ และมีราชินีขึ้นครองราชสมบัติ 3 พระองค์
4. อาณาจักรใดที่ได้รับการแต่งตั้งสถาปนาโดยราชวงศ์ยี
(1)โชซอน (2)โคโชซอน (3)โคริว (4)โคกูริว
ตอบ 1 หน้า 5 – 6, 16 – 17 (S), 91 (S) ในปี ค.ศ. 1388 นายพลยี ซองเกีย ได้ทำการรัฐประหาร โค่นล้มอำนาจของกษัตริย์ชางแห่งอาณาจักรโคริว และตั้งกษัตริย์คองยางขึ้นปกครองแทน จากนั้นเขาและพรรคพวกได้จัดการปฏิรูปที่ดินและนำเอาลัทธิขงจื๊อเข้ามาเป็นศาสนาประจำชาติของเกาหลีแทนที่พุทธศาสนา ต่อมาเขาก็ได้บีบบังคับให้กษัตริย์คองยางสละราชสมบัติ และตั้งราชวงศ์ยี ขึ้นปกครองประเทศ สถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์มีพระนามว่า กษัตริย์เตโจ ขึ้นครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 1392 – 1398 และเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นอาณาจักรโชซอนในปี ค.ศ. 1392
5. อาณาจักรใดของเกาหลีที่มีอำนาจในการปกครองคาบสมุทรเกาหลีเป็นเวลานาน 518 ปี
(1) โชซอน (2) โคโชซอน (3) โคริว (4) โคกูริว
ตอบ 1 หน้า 3, 6, 13 (ร), 17 (ร) เมื่ออาณาจักรโชซอนก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1392 เป็นต้นมาเกาหลีใต้รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นและสามารถครอบครองอำนาจในฐานะเป็นราชอาณาจักรหนึ่งเดียว ได้เป็นเวลานานถึง 518 ปี (ค.ศ. 1392 – 1910) จนกระทั่งถูกญี่ปุ่นยึดครองเป็นเมืองขึ้น และผนวกอาณาจักรแห่งนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 35 ปี (ค.ศ. 1910 – 1945)
6. ญี่ปุนได้ยึดครองเกาหลีเป็นเมืองขึ้นเป็นระยะเวลากี่ปี
(1) 5 ปี (2) 15 ปี (3) 35 ปี (4) 45 ปี
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. ประกอบ
7. เกาหลีเหนือได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเป็นประเทศเมื่อใด
(1) 3 กันยายน ค.ศ. 1885 (2) 15 กันยายน ค.ศ. 1915
(3) 9 กันยายน ค.ศ. 1948 (4) 15 กันยายน ค.ศ. 1985
ตอบ 3 หน้า 10, 81 – 82 (S), 240 (S) ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีหรือเกาหลีเหนือ (Democratic People’s Republic of Korea) ได้ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1948 โดยเลือกนายคิม อิลซุง เป็นผู้นำประเทศคนแรก ในขณะที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี หรือเกาหลีใต้ (Republic of Korea) ได้ประกาศก่อตั้งประเทศขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1948 โดยเลือก ดร.ซิงมัน รี เป็นประธานาธิบดีคนแรก
8. อาณาจักรโคโชซอนก่อตั้งขึ้นเมื่อใดก่อนคริสต์ศักราช
(1) 9 กันยายน 2542 (2) 3 ตุลาคม 2333 (3) 15 กันยายน 2233 (4) 5 ตุลาคม 1995
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ
9. ใครคือผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ
(1) คิม จองอิล (2) ดิม อิลซุง (3) คิม ยังแซม (4) คิม เดจุง
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ
10. อาณาจักรสหพันธรัฐรวมซิลลา มีอะไรเป็นอนุสาวรีย์ทางศาสนา
(1) เจดีย์ซอกกูรัม (2) วัดพุลกุกซา (3) วัดแฮอินซา (4) ข้อ 1 และ 2
ตอบ 4 หน้า 4, 15 (ร) อาณาจักรสหพันธรัฐรวมซิลลาก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 668 โดยมีเมืองหลวงชื่อ เคียงจู (Kyongju) และมีพลเมืองรวมกันราว 1 ล้านกว่าคน ซึ่งในยุคนี้พุทธศาสนาได้แพร่หลาย กว้างขวางและมีความรุ่งเรืองมาก โดยมีการสร้างอนุสาวรีย์ที่เป็นเครื่องหมายความโดดเด่น ทางศาสนาขึ้น ได้แก่ การสร้างวัดพุลกุกซา (Pulcuksa) และเจดีย์ซอกกูรัม (Sokkuram)
11. เมืองหลวงของสหพันธรัฐรวมซิลลาคือเมืองอะไร
(1) กวางจู
(2) เคียงจู
(3) ซินจู
(4) เชจู
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 10. ประกอบ
12. ชื่อประเทศเกาหลีในปัจจุบันมีที่มาจากข้อใด
(1) อาณาจักรโคกูริว
(2) อาณาจักรโคริว
(3) เมืองเคียงจู
(4) เมืองเกซอง
ตอบ 2 หน้า 4 – 5, 15 (S) 104 (S) หลังจากอาณาจักรสหพันธรัฐรวมซิลลาเสื่อมลง จักรพรรดิวังกอน (Wang Gon) ได้สถาปนาหรือก่อตั้งอาณาจักรโคริว (เป็นที่มาของชื่อ “เกาหลี” ในปัจจุบัน) ขึ้น ในปี ค.ศ. 919 และสร้างเมืองหลวงขึ้นที่เมืองเกเกียงหรือเมืองเกซองในปัจจุบัน ซึ่งอาณาจักรโคริว ได้รับความสำเร็จในการสร้างอารยธรรมที่สูงเด่นมากมาย เช่น การเคลือบสีของสังคโลกด้วย สีเชียวอมฟ้า และการประดิษฐ์ตัวพิมพ๎โลหะที่เคลื่อนไหวได้เป็นชาติแรกของโลกในปี ค.ศ. 1234
13. กระแสนํ้าอุ่นคุโรชิโอ มีต้นกำเนิดมาจากที่ใด
(1) ทางเหนือของญี่ปุ่น
(2) ทางใต้ของไซบีเรีย
(3) ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์
(4) ทางเหนือของฟิลิปปินส์
ตอบ 3 หน้า 13, 9 (ร), (คำบรรยาย) กระแสนํ้าอุ่นคุโรชิโอ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชายฝั่งตะวันออก ของประเทศฟิลิปปินส์ (ชายฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้) ได้ไหลไปทางทิศเหนือ และแยกออกเป็น 2 แนวเมื่อไหลเข้าใกล้บริเวณเกาะเชจูโด โดยแนวแรกไหลไปทางทิศตะวันตก เข้าสู่ทะเลเหลือง ส่วนอีกแนวหนึ่งไหลไปทางทิศตะวันออกเข้าสู่ทะเลตะวันออก
14. เมืองปูซานมีระยะห่างจากญี่ปุ่นน้อยที่สุด ห่างกี่กิโลเมตร
(1) 180 (2) 270 (3) 490 (4) 540
ตอบ 1 หน้า 11, 7 (S) คาบสมุทรเกาหลีทางทิศตะวันตกตั้งอยู่ห่างจากคาบสมุทรชานตุงของจีนแผ่นดินใหญ่ราว 190 กิโลเมตร โดยมีทะเลเหลืองกั้นกลาง ส่วนทางทิศตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลายสุดของคาบสมุทรเกาหลีที่เป็นที่ตั้งของเมืองปูซานนั้น จะมีระยะห่างจาก เกาะออนชูของญี่ปุ่นเพียง 180 กิโลเมตรเท่านั้น โดยมีทะเลตะวันออก (แต่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ทะเลญี่ปุ่น) กั้นกลาง
15. เทือกเขาใดคือเทือกเขาที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้
(1) นังนิมซาน (2) กุมกังซาน (3) โซรัคซาน (4) คิมกังซาน
ตอบ 1 หน้า 12, 8 (S) ในคาบสมุทรเกาหลีนั้นมีเทือกเขาที่มียอดเขาสูงที่สำคัญและมีชื่อเสียง หลายยอด ได้แก่ นังนิมซาน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ (สูง 2,014 เมตร)รองลงมาคือ โซรัคซาน (สูง 1,780 เมตร), กุมกังซาน (สูง 1,638 เมตร) และเตเบกซาน (สูง 1,546 เมตร) ทั้งนี้มีการกล่าวขวัญกันว่ายอดเขากุมกังซานและยอดเขาโซรัคซาน มีความสวยสดงดงามตามธรรมชาติมากที่สุด
16. เกาหลีใต้ในปัจจุบันแบ่งการปกครองประเทศออกเป็นกี่จังหวัด
(1) 7 (2) 9 (3) 11 (4) 13
ตอบ2 หน้า 17, 308, 210 (ร) ปัจจุบันเกาหลีใต้แบ่งเขตการปกครองออกเป็นระดับจังหวัด 16 แห่ง คือ นครหลัก 7 นคร (มีฐานะเทียบเท่าหนึ่งจังหวัด) และจังหวัด 9 จังหวัด โดยนครหลักทั้งหมด ได้แก่ กรุงโซล อินชอน เตจอน กวางจู เตกู อูลซาน และปูซาน ส่วนจังหวัดทั้งหมด ได้แก่ เคียงกี่ กังวอน ชุงชองเหนือ ชุงชองใต้ โชลลาเหนือ โชลลาใต้ เคียงซังเหนือ เคียงซังใต้ และเชจู
17. ในปัจจุบันสมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
(1) 2 (2) 4 (3) 5 (4) 6
ตอบ 2 หน้า 16, 311, 213 (ร) รัฐสภาของเกาหลีใต้จะเป็นสภาเดี่ยว ทำหน้าที่ในด้านอำนาจนิติบัญญัติ หรือเป็นองค์กรนิติบัญญัติ โดยรัฐสภาเกาหลีใต้ปัจจุบันจะมืจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 299 คน ซึ่งสมาชิกรัฐสภา (สมาชิกสภานิติบัญญัติ) แต่ละชุดจะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี
18. ดร.ซิงมัน รี เป็นประธานาธิบดีคนที่เท่าใดของเกาหลีใต้
(1) 1 (2) 2 (3) 3 (4) 4
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ
19. ผู้นำของเกาหลีใต้คนที่สองคือใคร
(1) ดร.แซง เหมียน (2) ดร.ซิงมัน รี (3) ชุน ดูฮวาน (4) ปัก จุงฮี
ตอบ 1 หน้า 32, 245 (ร) ในยุคสาธารณรัฐที่ 2 ภายใต้การนำของ ดร.แซง เหมียน นายกรัฐมนตรี และผู้นำของเกาหลีใต้คนที่สอง เป็นยุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน ทำให้ประชาชนเกาหลีใต้ ใช้ประชาธิปไตยกันอย่างไม่มีขอบเขต ต่างฝ่ายต่างเสนอความต้องการของตนโดยไม่รับฟัง เสียงผู้อื่น ส่งผลให้กลุ่มการเมืองที่เคยผนึกกำลังกันต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการเริ่มแตกแยก และการเมืองเต็มไปด้วยการจลาจลวุ่นวาย
20. สาธารณรัฐใดของเกาหลีใต้ที่ประชาชนใช้ประชาธิปไตยกันอย่างไม่มีขอบเขต
(1) 2 (2) 3 (3) 4 (4) 5
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ
21. นายพลปัก จุงฮี เป็นผู้นำสาธารณรัฐที่เท่าใดของเกาหลีใต้
(1) 2
(2) 3
(3) 4
(4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 37, 44 – 45, 193 (S) นายพลปัก จุงฮี ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำของเกาหลีใต้ในยุคสาธารณรัฐที่ 3 (ค.ศ. 1963 – 1971) แต่เมื่อเขาบริหารประเทศไปได้ระยะหนึ่งก็ได้ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ชื่อว่า ยูชิน (Yushin) ขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ซึ่งมีประเด็นที่นาสนใจคือ การให้ตำแหน่งที่คน ๆ เดียวสามารถครองอำนาจได้ตลอดกาล จึงส่งผลให้นายพลปัก จุงฮี เป็นประธานาธิบดีต่อไปอีกวาระหนึ่งเป็นเวลา 6 ปี อันเป็นการเริ่มต้นยุคสาธารณรัฐที่ 4 (ค.ศ. 1972 – 1979) นับตั้งแต่นั้นมา
22. ในสงครามเกาหลี เกาหลีเหนือได้เริ่มเข้าโจมตีเกาหลีใต้เมื่อใดในปี ศ.ศ. 1950
(1) 25 มิถุนายน
(2) 12 สิงหาคม
(3) 5 กันยายน
(4) 3 ตุลาคม
ตอบ1 หน้า 22-23, 86- 91 (S) สงครามเกาหลีเริ่มเกิดขึ้นในเวลา04.00 น. เช้าตรู่ของวันที่25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 เมื่อเกาหลีเหนือได้ส่งกองกำลังทหารของตนประมาณ 75,000 – 90,000 คน รุกลํ้าเส้นกั้นพรมแดน (เส้นขนานที่ 38 องศาเหนือ) ลงไป และเข้ายึดกรุงโซลเมืองหลวงของ เกาหลีใต้ จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่ทวีความรุนแรงเป็นเวลานานถึง 3 ปี คือ ช่วงระหว่าง ปี ค.ศ. 1950 – 1953 (พ.ศ. 2493 – 2496) แต่ในที่สุดสงครามเกาหลีก็ยุติลงเมื่อทั้ง 2 ฝ่าย ลงนามในสัญญาหยุดยิงที่หมู่บ้านปันมุนจอมในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1953
23. สาธารณรัฐใดของเกาหลีใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐตำรวจ
(1) 1
(2) 2
(3) 3
(4) 4
ตอบ1 หน้า21, 23- 24 ในยุคสาธารณรัฐที่ 1 (ค.ศ. 1948 – 1960) ซึ่งมี ดร.ซิงมัน รี เป็นประธานาธิบดีได้มีการรวมอำนาจไว้อย่างเด็ดขาด หากผู้ใดหรือฝ่ายตรงข้ามขัดขวางหรือมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน รัฐบาลก็จะถูกตำรวจจับกุม รวมทั้งได้สร้างความชอบธรรมในการกระทำของฝ่ายตนด้วยการ บีบบังคับให้รัฐสภาปฏิบัติตามความต้องการ จึงทำให้ทศวรรษที่ 50 แห่งคริสต์ศักราชของ สาธารณรัฐที่ 1 ได้รับสมญานามว่า “รัฐตำรวจ”
24. เกาหลีใต้ได้ก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐเกาหลีในวันที่เท่าใด
(1) 5 กรกฎาคม (2) 15 สิงหาคม (3) 7 กันยายน (4) 3 ตุลาคม
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ
25. เหตุการณ์ “เงินดอลลาร์ทังสเตน” ของเกาหลีใต้เกิดขึ้นไนปี ค.ค. ใด
(1) 1950 (2) 1952 (3) 1959 (4) 1965
ตอบ 2 หน้า 29 ในยุคสาธารณรัฐที่ 1 ได้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “เงินดอลลาร์ทังสเตน” ขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งถือว่าเป็นการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ของเกาหลีใต้ภายใต้การนำของรัฐบาล ดร.ซิงมันรี เนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรเงินที่ได้รับจากการขายแร่ทังสเตนไปให้กับนักธุรกิจจำนวนไม่กี่ราย อย่างผิดกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ในขณะนั้นสงครามเกาหลีก็ยังคงดำเนินการสู้รบกันอยู่อย่างดุเดือด
26. ในช่วงสาธารณรัฐที่หกของเกาหลีใต้ ใครคือผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
(1) ชุน ดูฮวาน (2) คิม ยังแซม (3) โรห์ เตวู (4) คิม เดจุง
ตอบ 3 หน้า 69 – 70, 267 (S) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 นายโรห์ เตวู ได้เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ต่อจากนายชุน ดูฮวาน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของยุคสาธารณรัฐที่ 6 โดยเขาได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะผลักดันให้ประเทศเกาหลีใต้ก้าวใปสู่สังคมอุตสาหกรรม- ประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าเหมือนกับประเทศในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
27. ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่เท่าใดของโลก
(1) 2 (2) 3 (3) 5 (4) 7
ตอบ1 หน้า 63, (คำบรรยาย) อุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีใต้เคยนำหน้าเป็นอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องกันมา 7 ปี แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 2010 จีนก็ได้กลายเป็นประเทศอันดับ 1 ของโลก ในด้านอุตสาหกรรมการต่อเรือแซงหน้าเกาหลีใต้ (หากวัดจากจำนวนการต่อเรือ และจำนวน รายการสั่งต่อเรือที่ได้รับ) ทำให้ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการต่อเรือของเกาหลีใต้ตกอยู่ใน อันดับที่ 2 ของโลกรองจากจีน
28. คำว่า “แชโบล์” (Chaebol) หมายถึงอะไร
(1) เขตอุตสาหกรรมหนัก (2) มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านคอมพิวเตอร์
(3) กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (4) กลุ่มธุรกิจค้าส่ง
ตอบ 3 หน้า 92, 251 (ร), 271 (ร) คำว่า “แชโบล์” (Chaebol) หมายถึง กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเสาหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศเกาหลีใต้ โดยมีจำนวนราว 108 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ได้แก่ ฮุนได ซัมชุง ลักกี้ เดวู และซันเกียง เป็นต้น
29. การปฏิรูปทางการเมืองที่ใช้พลังเรียกร้องโดยสันติ แทนการประกาศกฎอัยการศึกหรือการทำรัฐประหาร เรียกว่าอะไร
(1) June 29 Declaration 1982 (2) June 29 Declaration 1985
(3) June 29 Declaration 1987 (4) June 29 Declaration 1989
ตอบ 3 หน้า 68 – 69, 78, 266 (ร) จุดเปลี่ยนผ่านทางการเมืองของเกาหลีใต้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 1987 เมื่อนายโรห์ เตวู ได้ยอมให้เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ โดยให้มีการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีจากประชาชนโดยตรง จึงนับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายรัฐบาลยอมตามพลังเรียกร้อง ของฝ่ายค้านอย่างสันติ แทนการประกาศกฎอัยการศึกหรือการทำรัฐประหารดังเช่นในอดีต จนก่อให้เกิดการปฏิรูปทางการเมืองที่เรียกว่า “June 29 Declaration 1987”
30. นายโรห์ เตวู ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เมื่อใด
(1) 5 กันยายน ค.ศ. 1980
(2) 3 ตุลาคม ค.ศ. 1985
(3) 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988
(4) 15 สิงหาคม ค.ศ. 1989
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ
31. เรื่องตลาดในเกาหลี อยู่ในบทเรียนที่เท่าใด
(1) บทที่ 3
(2) บทที่ 5
(3) บทที่ 7
(4) บทที่ 9
ตอบ 3 หน้าสารบาญ ในหนังสือเรียนสังคมและวัฒนธรรมเกาหลี (AN 353) ได้แบ่งเนื้อหาในภาคที่ 2 วัฒนธรรมเกาหลี ออกเป็น 4 บท คือ บทที่ 7 ตลาดในเกาหลี, บทที่ 8 อาหารเกาหลี, บทที่ 9 กิมจิ และบทที่ 10 วัฒนเธรรมและเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์
32. ดร.ปัก ซุนบก กล่าวว่าอะไรเป็นแก่นหรือสาระสำคัญของกิจกรรมชีวิตของคนเกาหลี
(1) ดูละครทีวี
(2) ตลาดพื้นเมือง
(3) การปีนเขา
(4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 155 ดร.ปัก ซุนบก (Park Sun–bok) ได้กล่าวถึงสิ่งที่เป็นแก่นหรือสาระสำคัญของชีวิตคนเมืองโสม หรือกิจกรรมที่จะสามารถมองเห็นภาพการดำเนินชีวิตของคนเกาหลีอย่างแท้จริง ไว้ว่า “คนทั่วไปจะได้รับคำแนะนำให้ไปดูตลาดพื้นเมืองและการปีนเขา เพราะปรากฏการณ์ ทางสังคมทั้งสองประเภทนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนเกาหลี’’
33. ตลาดพื้นเมืองเกาหลีชื่อนัมเดมุน ตั้งอยู่ประตูทางทิศใดของกรุงโซลโบราณ
(1) ทิศเหนือ
(2) ทิศใต้
(3) ทิศตะวันออก
(4) ทิศตะวันตก
ตอบ 2 หน้า 156 – 157 ตลาดพื้นเมืองเกาหลีชื่อนัมเดมุน ตั้งอยู่บริเวณแขวงนัมชาง เขตชุงกูใจกลางกรุงโชล โดยตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองนัมเดมุน (ทิศใต้) ของกรุงโซลโบราณ เริ่มเปิด ดำเนินกิจการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1414 ซึ่งเป็นยุคอาณาจักรโชซอน (ระหว่างปี ค.ศ. 1392 – 1910) ดังนั้นจึงอาจถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศเกาหลีในปัจจุบัน เพราะมี อายุยืนยาวถึง 598 ปี (นับจนถึงปัจจุบัน คือ ปี ค.ศ. 2012)
34. ตลาดพื้นเมืองเกาหลีชื่อดงเดมุน ตั้งอยู่ประตูทางทิศใดของกรุงโซลโบราณ
(1) ทิศเหนือ (2) ทิศใต้ (3) ทิศตะวันออก (4) ทิศตะวันตก
ตอบ 3 หน้า 156, 161 – 162 ตลาดพื้นเมืองเกาหลีชื่อดงเดมุน เป็นคู่แข่งสำคัญของตลาดนัมเดมุน ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโซล บริเวณประตูเมืองดงเดมุน (ทิศตะวันออก) ของกรุงโซลโบราณ โดยตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าเสื้อผ้าที่มีปริมาณถึงร้อยละ 30 ของการค้าเสื้อผ้ารวมของ ทั้งประเทศ และมีขนาดเนื้อที่ต่อหนึ่งร้านค้าเพียง 1 เปียง (1 เปียง เท่ากับ 3.3 ตารางเมตร) เท่านั้น
35. ตลาดนัมเดมุนเปิดกิจการครั้งแรกในยุคใด
(1) ยุคโชซอน (2) ยุคโคริว (3) ยุคซิลลา (4) ยุคเพ็กเจ
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 33. ประกอบ
36. ญี่ปุ่นควบคุมการดำเนินงานของตลาดนัมเดมุนในระหว่างปี ค.ศ. ใด
(1) 1874 – 1885 (2) 1910 – 1945 (3) 1995 – 2001 (4) 1776 – 1795
ตอบ 2 หน้า 157 ตลาดนัมเดมุนเข้าสู่ยุคมืดเมื่อถูกคนญี่ปุ่นเข้ายึดกิจการควบคุมการดำเนินงาน ของตลาดในยุคที่ตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1910 – 1945) แต่ภายหสังที่ได้รับเอกราชแล้ว ตลาดนัมเดมุนก็อยู่ในความดูแลของสมาคมพ่อค้าตลาดนัมเดมุน และต่อมาในปี ค.ศ. 1964 สมาคมพ่อค้าได้ปรับเปลี่ยนเป็นบรรษัทตลาดนัมเดมุน ซึ่งเป็นองค์กรดำเนินการควบคุมดูแล กิจการของตลาดนัมเดมุนมาตราบเท่าทุกวันนี้
37. องค์กรใดที่ดำเนินการควบคุมดูแลกิจการของตลาดนัมเดมุนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา
(1) พ่อค้าเกาหลี (2) สมาคมพ่อค้าตลาดนัมเดมุน
(3) บรรษัทตลาดนัมเดมุน (4) เทศบาลกรุงโซล
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ
38. ตลาดนัมเดมุนเป็นแหล่งรวมสินค้าใดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
(1) เครื่องประดับ (2) เสื้อผ้า (3) สินค้าหัตถกรรม (4) เครื่องไฟฟ้า
ตอบ 1 หน้า 158 ตลาดนัมเดมุนเป็นแหล่งรวมเครื่องประดับกระจุกกระจิกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเครื่องประดับเหล่านี้นอกจากพ่อค้าผู้ผลิตจะออกแบบด้วยตัวเองแล้ว ยังได้ว่าจ้างนักศึกษา คณะศิลปกรรมจากมหาวิทยาลัยฮองอิค มหาวิทยาลัยสตรีดองดุก และวิทยาลัยชางกัน ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วยลวดลายที่งามวิจิตรน่าสนใจยิ่งนัก
39. สินค้าที่วางขายในตลาดนัมเดมุนได้ว่าจ้างผู้ใดออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
(1) นักออกแบบที่มีชื่อเสียงของโลก (2) ชาวบ้าน
(3) นักศึกษาจากคณะศิลปกรรม (4) นักออกแบบชาวฮ่องกง
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 38. ประกอบ
40. สินค้าสำคัญใดที่พ่อค้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นิยมซื้อจากตลาดนัมเดมุน
(1) กำไล (2) สร้อยคอ (3) สร้อยข้อมือ (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า ใ58 สินค้าเครื่องประดับในตลาดนัมเดมุนที่มีราคาตั้งแต่ 500 วอน (ราว 15 บาท)ซึ่งเป็นสินค้าราคาต่ำ เช่น กำไล ต่างหู สร้อยคอ และสร้อยข้อมือ จะเป็นที่นิยมซื้อในกลุ่มพ่อค้า แถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง ส่วนตลาดอเมริกาจะสนใจปิ่นปักผม และผ้าคาดศีรษะราคาราวชิ้นละ 1,000 – 3,000 วอน รวมทั้งเข็มกลัดที่ประดับด้วยพลอย และทับทิมเม็ดเล็ก
41. ตลาดนัมเดมุนเปิดทำธุรกรรมประเภทขายส่งระหว่างเวลาใด
(1) ห้าทุ่ม -ตีสอง
(2)ตีสอง-หกโมงเข้า
(3)หกโมงเช้า – เที่ยง
(4)เที่ยง-หกโมงเย็น
ตอบ 2 หน้า 159 ในช่วงเวลาตีสองไปจนถึงหกโมงเช้า ตลาดนัมเดมุนจะเปิดทำธุรกรรมประเภทขายส่ง ที่ชุลมุน และมีกิจกรรมที่ยุ่งที่สุด ส่วนตอนสายตั้งแต่เวลา 7 นาฟิกาเป็นต้นไป ลูกค้ารายย่อย และชาวต่างประเทศจะเข้าไปซื้อหาจนกระทั้งถึงเที่ยงวัน จากนั้นลูกค้าจะลดลงเป็นลำดับ
42. ตลาดดงเดมุนเป็นศูนย์กลางการค้าเสื้อผ้าร้อยละเท่าใดของการค้าเสื้อผ้ารวมของทั้งประเทศ
(1) 10
(2) 20
(3) 30
(4) 40
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ
43. ขนาดของเนื้อที่ต่อหนึ่งร้านของตลาดดงเดมุนเท่ากับกี่เปียง
(1) 1
(2) 3
(3) 5
(4) 7
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 34. ประกอบ
44. ในอดีตตลาดนัดพื้นเมืองในเกาหลีไม่มีบทบาทสำคัญใด
(1) พ่อ – แม่มองหาคู่สมรสให้ลูก (2) เป็นแหล่งแข่งขันกีฬามวยปลํ้า
(3) ศูนย์กลางข่าวสารจากท้องถิ่นต่าง ๆ (4) ผิดทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 162 – 163 บทบาทของตลาดนัดพื้นเมืองในต่างจังหวัดของเกาหลีใต้ในอดีต มีดังนี้
1. เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้า 2. เป็นศูนย์กลางข่าวสารที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นต่าง ๆ
3. สร้างประชามติ 4. เป็นสถานที่ที่พ่อแม่เข้าไปมองหาคู่สมรสให้แกลูกหลานของตน
5. เป็นแหล่งประกวดและแข่งขันกีฬามวยปลํ้า ดนตรี และการเต้นรำพื้นเมือง
45. ตลาดนัดโมรานเป็ดดำเนินการเมื่อ ค.ศ. 1962 ตั้งอยู่ในจังหวัดใด
(1) กังวอน (2) เคียงกี่ (3) ชุงชองเหนือ (4) เคียงซังใต้
ตอบ 2 หน้า 163 – 165 ตลาดนัดโมราน เป็นตลาดนัดพื้นเมืองของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ที่ตำบลซองน้า อำเภอชุงวอน เมืองซองนำชิ จังหวัดเคียงกี่ เริ่มเปิดดำเนินการในปี ค.ศ. 1962 และจะเปิดดำเนินการทุก ๆ 5 วัน คือ วันที่ 4. 9, 14, 19, 24 และ 29 ของทุกเดือน โดยตามปกติ จะมีผู้ซื้อราว 250,000 คน และในจำนวนนี้เป็นพ่อค้าแม่ค้ากว่า 1,500 คน ซึ่งจะทำงาน อย่างเหน็ดเหนื่อยติดต่อกันครั้งละกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน
46. ตลาดนัดโมรานเปิดดำเนินการในทุก ๆ กี่วัน
(1) ทุกวัน (2) ทุกๆ 5วัน (3)ทุกๆ 7วัน (4)ทุก ๆ 10วัน
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ
47. ตลาดนัดโมรานจะมีผู้คนและการซื้อขายสูงสุดในเทศกาลใด
(1) เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ
(2) เทศกาลไหว้พระจันทร์ (3) เทศกาลบูชาพระเจ้า (4) เทศกาลปีใหม่
ตอบ 1 หน้า 164 ตลาดนัดโมรานจะมีผู้คนมากขึ้นและมียอดการซื้อขายพุ่งขึ้นในระดับสูงสุดในช่วงเทศกาลซูซก หรือเทศกาลวันไหว้บรรพบุรุษหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งตรงกับวันที่ 15 เดือนสิบ ทางจันทรคติ เนื่องจากคนเกาหลีทุกครัวเรือนจะออกมาจับจ่ายซื้อของเพื่อใช้ในวันกราบไหว้ บรรพบุรุษ
48. พ่อค้าในตลาดนัดโมรานจะทำงานครั้งละกี่ชั่วโมงต่อวัน
(1) 4 ชั่วโมง (2) 8 ชั่วโมง (3) 12 ชั่วโมง (4) 20 ชั่วโมง
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ
49. ตลาดคูเรตั้งอยู่ที่อำเภอคูเรของจังหวัดอะไร
(1) เคียงซังเหนือ (2) โชลลาใต้ (3) ชุงชองเหนือ (4) กังวอน
ตอบ 2 หน้า 165 ตลาดคูเร ตั้งอยู่ที่อำเภอคูเร จังหวัดโชลลาใต้ ในบริเวณเชิงเขาคีรีซัน ซึ่งเป็นสันเขา ที่แบ่งเขตแดนระหว่างจังหวัดเคียงซังใต้ทางทิศตะวันออกกับจังหวัดโชลลาใต้ทางทิศตะวันตก โดยบริเวณแถบอำเภอคูเรจะมีตลาด 3 ประเภทตั้งอยู่ คือ 1. ตลาดนัด 2. ตลาดถาวร3. ตลาดปศุลัตว์
50. ตลาดปศุสัตว์เปิดกิจการระหว่างเวลาใด
(1) ตีสอง – หกโมงเช้า
(2) ตีห้า – สิบโมงเช้า (3) แปดโมงเช้า – บ่ายโมง (4) สิบโมงเช้า – บ่ายสาม
ตอบ 2 หน้า 166 ตลาดวัวกวางชอน ตั้งอยู่ที่อำเภอฮองชอง จังหวัดชุงชองใต้ ถือเป็นตลาดปศุสัตว์ที่มีการซื้อขายวัวแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะเปิดกิจการทุก ๆ 5 วัน ครั้งละ 4-5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาราวตี 5 ไปสิ้นสุดลงประมาณ 10 โมงเช้า โดยเจ้าของวัวจะนำวัว ของตนมาขายกับผู้ซื้อโดยตรง จากนั้นวัวจะถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ ยกเว้นลูกวัวที่ชาวนา จะซื้อไปเลี้ยง ซึ่งต้องใช้เวลาเลี้ยงราว 1 ปี จึงจะนำมาขายได้อีกครั้ง
51. ตลาดวัวฮัมเปียงตั้งอยู่ที่อำเภอฮัมเปียงจังหวัดใด
(1) เคียงซังเหนือ
(2) โชลลาใต้
(3) ชุงชองเหนือ
(4) กังวอน
ตอบ 2 หน้า 167 – 168 ตลาดวัวฮัมเปียง ตั้งอยู่ที่อำเภอฮัมเปียง จังหวัดโชลลาใต้ โดยตลาดแห่งนี้ มีกระบวนการซื้อขายวัวที่น่าสนใจยิ่ง กล่าวคือ ซื้อขายวัวโดยผ่านคนกลาง (Middlemen)ซึ่งคนกลางจะต้องขึ้นทะเบียนกับสหกรณ์ปศุสัตว์ฮัมเปียงในการเป็นตัวแทนซื้อขาย และจะต้องขนวัวไปตลาดเอง จึงทำให้วิธีการชื้อขายวัวแบบนี้เป็นที่นิยมและสร้างความพอใจ ให้เจ้าของวัวอย่างยิ่ง เพราะไม่ต้องยุ่งยากในการนำวัวไปยังตลาดด้วยตัวเอง
52. เมื่อชาวนาซื้อลูกวัวจากตลาดวัวกวางชอนไปเลี้ยง จะใช้เวลาเลี้ยงนานเท่าใดจึงจะขายได้
(1) 1 ปี
(2) 18 เดือน
(3) 2 ปี
(4) 30 เดือน
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 50. ประกอบ
53. กระบวนการซื้อขายวัวของเกาหลีเป็นอย่างไร
(1) พ่อค้ามาชื้อ
(2) ชาวนานำไปขาย
(3) ซื้อขายโดยคนกลาง
(4) เจ้าของคอกวัวนำไปขาย
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 51. ประกอบ
54. “วันวัว” หมายถึงวันอะไรในเกาหลี
(1) วันที่ทำการเซ่นไหว้วิญญาณวัว (2) วันที่วัวได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี
(3) วันที่วัวไม่ต้องทำงาน (4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 169 ในอดีตคนเกาหลีจะให้วัวพักผ่อนโดยไม่ต้องทำงาน และได้รับการเลี้ยงดูด้วยอาหารชั้นดีในทุกวันพระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันวัว (Day of Cow) แต่เมื่อกาลเวลา หมุนเวียนเปลี่ยนไปได้มีการมองวัวว่าเป็นเพียงแหล่งที่ให้โปรตีนชั้นดี ทำให้ประเพณี เกี่ยวกับวัวถูกลดความสำคัญลงไปจนเกือบไม่หลงเหลือ
55. คนชำแหละวัวได้รับอะไรเป็นค่าตอนแทนจากโรงฆ่าสัตว์
(1) หัววัว (2) หนังวัว (3) ค่าจ้าง (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 169 ตลาดวัวในประเทศเกาหลีปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ซื้อขายวัวเพื่อส่งไปยัง โรงฆ่าสัตว์ และมีอาชีพต่อเนื่อง นั่นคือ คนชำแหละ ซึ่งจะได้รับหัววัวและหนังวัว รวมทั้ง ค่าจ้างเป็นค่าตอบแทน ส่วนเนื้อวัวจะถูกส่งไปยังตลาดขายส่งเนื้อ
56. พูลโกกิ (เนื้อย่างเกาหลี) มีคำใดที่หมายถึงไฟ (มีสองตัวเลือก)
(1) พูล (2) โกกิ
ตอบ 1 หน้า 171 – 172 ในภาษาเกาหลี คำว่า “พูล” (Pul) หมายถึง ไฟ ส่วนคำว่า “โกกิ” (Gogi) หมายถึง เนื้อ ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองคำนี้เข้าด้วยกันเป็น “พูล‘โกกิ” (Pulgogi) จะหมายถึง เนื้อย่าง หรือบาร์บิคิว โดยมีวิธีการทำ คือ หันหรือแล่เนื้อเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปหมักในซอสถั่วเหลือง เป็นหลัก จากนั้นใส่งา น้ำมันงา กระเทียมบด และเครื่องปรุงอื่นที่ชื่นชอบ แล้วนำมาย่างบน กระทะรูปนูนโค้ง ซึ่งคนเกาหลีเชื่อว่าย่างบนเตาถ่านจะให้รสชาติเนื้อย่างดีที่สุด
57. พูลโกกิ (เนื้อย่างเกาหลี) มีคำใดที่หมายถึงเนื้อ (มีสองตัวเลือก)
(1) พูล (2) โกกิ
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 56. ประกอบ
58. เนื้อที่นำมาทำพูลโกกิจะนำไปหมักกับอะไรเป็นหลัก
(1) นํ้ามันงา (2) ซอสถั่วเหลือง (3) เกลือ (4) พริกแดง
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 56. ประกอบ
59. คาลบิ คืออะไร
(1) ขาวัว (2) ซี่โครงวัว (3) หางวัว (4) เครื่องในวัว
ตอบ 2 หน้า 172 ซี่โครงย่างคาลบิ (Kalbi) จะมีราคาแพงกว่าอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อทุกประเภท เพราะจะ นำซี่โครงวัวส่วนที่ดีที่สุดมาปรุงทำให้มีรสเลิศยิ่งนัก หรืออาจจะใช้ซี่โครงหมูก็ได้แต่ไม่ค่อย นิยมกันมากนัก ซึ่งคาลบิจะมิอย่ 2 ชนิด คือ 1. คาลบิที่ไม่ปรุงรส 2. คาลบิปรุงรส
60. ซิลซอลโล คืออาหารประเภทใด
(1) ย่าง (2) ต้ม (3) นึ่ง (4) หมัก
ตอบ 2 หน้า 173 ซิลซอลโลเป็นอาหารประเภทต้ม โดยจะใส่ไข่ ผัก และเนื้อลงในหม้อปรุง แล้วตั้งให้ร้อนบนโต๊ะอาหาร
61. เค้กข้าว หรือขนมชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกในภาษาเกาหลีว่า
(1) เบจุง
(2) โต๊ก
(3) โคจุง
(4) ซองเบียน
ตอบ 2 หน้า 174 – 175 เค้กข้าว (Rice Cake) หรือมีชื่อเรียกในภาษาเกาหลีว่า โต๊ก (Tok)เป็นขนมชนิดหนึ่งที่คนนิยมและมีชื่อเสียงมากของเกาหลี โดยมีรูปลักษณะหลายชนิดแตกต่างกันไป ตามภูมิภาคและจังหวัด แต่ที่ได้รับความนิยมมากก็คือ ซองเบียน (Songp’ yon) ซึ่งปั้นเป็น รูปครึ่งวงพระจันทร์ และมีเพียง 2 สีเท่านั้น คือ สีขาวหรือสีนํ้าตาลอ่อน และสีเขียว
62. ขนมซองเบียนของเกาหลี มีสีอะไร
(1) ขาว – ดำ
(2) ดำ – แดง
(3) ขาว – แดง
(4) ขาว – เขียว
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 61. ประกอบ
63. ใบสนที่ใช้นึ่งขนมซองเบียนเป็นสัญลักษณ์ของอะไร
(1) ความซื่อตรง
(2) ความหยิ่งผยองในศักดิ์ศรี
(3) มีอายุยืนยาว
(4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 175 ในระหว่างการทำขนมซองเบียน คนเกาหลีใต้จะใช้ใบสนซึ่งมีลักษณะคล้ายเข็ม ปูรองซองเบียนก่อนนึ่ง เพราะเชื่อในเรื่องอำนาจนอกเหนือธรรมชาติว่า สนเป็นสัญลักษณ์ ของความซื่อตรง ความหยิ่งผยองในศักดิ์ศรี และหมายถึงการมีอายุยืนยาว
64. พริกแดงที่ใช้ปรุงอาหารเกาหลีประกอบด้วยสารใด
(1) วิตามินเอ (2) วิตามินอี (3) สารต่อต้านโรคมะเร็ง (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 175 ผลการวิเคราะห์วิจัยสารอาหารจากพริกแดงและถั่วเหลืองที่ใช้ปรุงอาหารเกาหลีสรุปได้ว่า พริกแดงอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี และสารที่ก่อให้เกิดรสเผ็ดทำหน้าที่ในการ ต่อต้านโรคมะเร็ง ส่วนถั่วเหลืองมีคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็ง แก้ท้องผูก และแก้ความดันโลหิตสูง
65. โคชูจัง คืออะไร
(1) น้ำพริก (2) ซอสถั่วเหลือง (3) ชุปไก่ใส่โสม (4) ซุปเนื้อสุนัข
ตอบ 1 หน้า 176 โคชูจัง (Koch’ ujang) ของเกาหลีเป็นเสมือนนํ้าพริกของไทย มีส่วนประกอบสำคัญคือ พริกสีแดงสด ถั่วเหลืองหมัก เกลือ ซอสถั่วเหลือง และข้าวเหนียวนึ่ง โดยโคชูจังที่มีชื่อเสียงที่สุด ของเกาหลีใติในปัจจุบันจะมาจากเมืองซุนชัง จังหวัดโชลลาเหนือ เนื่องจากบริเวณแถบนี้ เป็นแหล่งปลูกพริกแดง ทำนาเกลือ ปลูกถั่วเหลือง และปลูกข้าว
66. เทินจัง คืออะไร
(1) นํ้าพริก (2) ถั่วเหลืองหมัก (3) ซุปไก่ใส่โสม (4) ซุปเนื้อสุนัข
ตอบ 2 หน้า 177 – 178 เทินจัง (Toenjang) คือ ถั่วเหลืองหมักที่ทำมาจากกากถั่วเหลืองหลังจากที่ คั้นเอาน้ำจากการหมักถั่วไปทำซอสแล้ว ซึ่งชาวเกาหลีบางคนเรียกว่า “เต้าเจียว” เพราะทำจาก ถั่วเหลืองเหมือนกัน แต่เมื่อดูให้ดีแล้วเทินจังจะเป็นถั่วหมักบด (มีลักษณะคล้ายกะปิ) ไม่มีน้ำ หรือเมล็ดถั่วเหมือนเต้าเจี้ยว โดยมีลักษณะคล้ายกับ “ถั่วเน่าเม๊อะ” ที่เป็นอาหารพื้นเมือง ทางภาคเหนือของไทย
67. โคชูจังที่มีชื่อเสียงที่สุดในปัจจุบัน มาจากเมืองซุนชังในจังหวัดอะไร
(1) เคียงซังเหนือ (2) เคียงซังใต้ (3) โชลลาเหนือ (4) โชลลาใต้
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 65. ประกอบ
68. อาหารอะไรของไทยที่มีลักษณะคล้ายกับเทินจังของเกาหลี
(1) นํ้าพริก (2) ถั่วเน่าเม๊อะ (3) กะปิ (4) เต้าหู้
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 66. ประกอบ
69. ผู้คนในบริเวณใดเป็นชนกลุ่มแรกที่ปลูกพืชประเภทผักกาด
(1) ตอนเหนือของเวียดนาม
(2) ตอนเหนือของจีน (3) ตอนเหนือของอิหร่าน (4) ตอนเหนือของอินเดีย
ตอบ 4 หน้า 182 คนเอเชีย กล่าวกันว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของอินเดียเป็นชนกลุ่มแรกที่รู้จักปลูกพืชประเภทผักกาด จากนั้นก็มีผู้นำไปเผยแพร่ในบริเวณจีนตอนใต้เมื่อราวปี 2030 ก่อนคริสต์ศักราช จึงทำให้ผักชนิดนี้ได้รับการนำไปบลูกทั่วทั้งเอเชีย
70. ผู้ใดนำผักดองไปเผยแพร่ในทวีปยุโรปเมื่อราว 1,000 ปีที่ผ่านมา
(1) เจงกิส ข่าน (2) จิ๋นซีฮ่องเต้ (3)ซูสีไทเฮา (4) เง็กเซียนฮ่องเต้
ตอบ 1 หน้า 182 เมื่อราว 1,000 ปีมานี้ จักรพรรดิเจงกิส ข่าน ได้นำเอาผักดองจากเอเชียไปเผยแพร่ ในทวีปยุโรป ทำให้ผักดองกลายเป็นอาหารที่มีปรากฏในรายการอาหารของชาวยุโรปมาจนถึง ทุกวันนี้
71. มีผู้นำผักดองจากประเทศใดเข้ามาเผยแพร่ในเกาหลียุคอาณาจักรสหพันธรัฐซิลลา
(1) อินเดีย
(2) จีน
(3) เวียดนาม
(4) อิหร่าน
ตอบ 2 หน้า 182 ในเกาหลียุคต้นผู้คนมักนำผักหลากหลายชนิดหมักใส่เกลือและเครื่องปรุงรสเผ็ดชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้บริโภคพร้อมกับซอสถั่วเหลือง ต่อมาภายหลังได้มีผู้นำผักดองจากจีน เข้ามาเผยแพร่ในเกาหลีเมื่อครั้งยุคอาณาจักรสหพันธรัฐซิลลา ทำให้คนเกาหลีปรับปรุง กรรมวิธีการทำผักดองเพื่อให้ได้รสชาติที่ชื่นชอบยิ่งขึ้น
72. กิมจิสีแดงรสเผ็ดมีขึ้นในเกาหลีเมื่อราวคริสต์ศตวรรษใด
(1) 14
(2) 15
(3) 16
(4) 17
ตอบ 4 หน้า 176, 182 กิมจิสีแดงรสเผ็ดที่นิยมบริโภคกันในเกาหลีทุกวันนี้มีขึ้นเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยพ่อค้าชาวโปรตุเกสที่ค้าขายอยู่ที่เมืองนางาซากิของญี่ปุ่นได้นำ พันธุ์พริกสีแดงจากแถบลาตินอเมริกาหรืออเมริกากลาง (ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดพริกอย่างแท้จริง) เข้ามาเผยแพร่ในเกาหลี ทำให้คนเกาหลีนำพริกสีแดงมาเป็นส่วนผสมของกิมจิหรือผักดอง เป็นครั้งแรก ดังปรากฏในตำราอาหารที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1765
73. พ่อค้าชาวยุโรปชาติใดที่นำพันธุ์พริกสีแดงเข้ามาเผยแพร่ในเกาหลี
(1) สเปน
(2) ฮอลันดา
(3) โปรตุเกส
(4) อังกฤษ
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 72. ประกอบ
74. พันธุ์พริกสีแดงจากที่ใดที่นำเข้ามาเผยแพร่ในเกาหลี
(1) อเมริกากลาง (2) แอฟริกากลาง (3) เอเชียกลาง (4) ยุโรปกลาง
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 72. ประกอบ
75. เอกสารในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 – 19 จำแนกกิมจิของเกาหลีออกเป็นกี่ประเภท
(1) 8 (2) 11 (3) 29 (4) 35
ตอบ 2 หน้า 183 เอกสารในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 – 19 หลายเล่ม ได้จำแนกกิมจิของเกาหลีออกเป็น 11 ประเภท ซึ่งจะแตกต่างกันตามภูมิภาคและชนิดของส่วนผสมในกิมจิแต่ละประเภท
76. กิมจิประเภทใดที่ใช้ผักกาดขาวและหัวผักกาดหมักเป็นระยะเวลานาน
(1) กิมจิฤดูใบไม้ผลิ (2) กิมจิฤดูหนาว (3) กิมจิฤดูร้อน (4) กิมจิฤดูมรสุม
ตอบ 2 หน้า 183 – 184 ผู้รู้อีกกลุ่มหนึ่งแบ่งกิมจิออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. กัมจิตามฤดูกาล จะใช้ผักชนิดต่าง ๆ เท่าที่จะหาไค้ตามฤดูกาลมาหมักในช่วงสั้น ๆ เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน
2. กิมจิฤดูหนาว ส่วนใหญ่จะใช้ผักกาดขาวและหัวผักกาด ซึ่งใช้เวลาในการหมักนาน ตามสูตรของการทำทิมจิอย่างถูกต้องตามกระบวนการ เพื่อใช้บริโภคในฤดูหนาว
77. ชาวเนเธอร์แลนด์บริโภคผักดองเพื่อป้องกันโรคใดในขณะเดินทางไปในท้องทะเล
(1) หวัด (2) ภูมิแพ้ (3) ลักปิดลักเปิด (4) โรคไข้ทรพิษ
ตอบ3 หน้า 186 ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ดร.เจมส์ ลินด์ ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์กิมจิหรือ ผักดองของเกาหลีที่กะลาสีเรือชาวเนเธอร์แลนด์ใช้บริโภคในขณะเดินทางไปตามท้องทะเล และพบว่ากะลาสีเรือเหล่านี้ไม่เป็นโรคลักปิดลักเปิด (เลือดออกตามไรฟัน) จึงทำให้เชื่อกันว่า ผักดองมีประโยชน์ต่อมนุษย์มาก
78. นักชีววิทยาชาวรัสเซียพบว่าผักที่หมักในนํ้าส้มจะเกิดกรดอะไรที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
(1) กรดแล็คติก (2) กรดอะมิโน (3) กรดบาซิลลัส (4) กรดอาซานอล
ตอบ 1 หน้า 186 นักชีววิทยาชื่อ อิลี่ เมทช์นิคอฟพ์ (Elie Metchnikoff) ได้ศึกษาชนต่างชาติพันธุ์หลายกลุ่มในรัสเชียและในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และพบว่ากลุ่มชนที่มีสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนก็คือ กลุ่มชนที่บริโภคผักที่หมักในน้ำส้ม เพราะจะเกิดกรตแล็คติก (Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง
79. “ทานกิมจิทุกวันสักนิด จะไม่ต้องคิดไปหาหมอ” หมายความว่าอย่างไร
(1) กิมจิเป็นอาหารเลิศรส (2) กิมจิเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
(3) กิมจิให้เส้นใยและมีสารเคมีช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง (4) ข้อ 2 และ 3
ตอบ 4 หน้า 186 – 187 คนเกาหลีจะมีคำพูดที่กล่าวกันทั่วไปว่า “ทานกิมจิทุกวันสักนิด จะไม่ต้อง คิดไปหาหมอ” หมายความว่า กิมจิมีสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากรับประทาน เข้าไปแล้วจะทำให้มีสุขภาพดี นอกจากนี้กิมจิยังให้เส้นใยและมีสารเคมีอื่น ๆ ที่ช่วยต่อต้าน โรคมะเร็งในช่องปาก ลำคอ ลำไส้ กระเพาะอาหาร และช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยกิมจิจะมีแคลอรี่ตํ่าเพียง 33 แคลอรี ต่อกิมจิ 1 ถ้วยเท่านั้น
80. กระเทียมในกิมจิมีสารป้องกันไม่ให้เก็ดโรคอะไร
(1)โรคมะเร็ง (2)โรคโลหิคจาง (3)โรคภูมิแพ้ (4)โรคลักปิดลักเปิด
ตอบ 1 หน้า 187 ส่วนผสมของกิมจิแต่ละชนิดมีคุณค่าอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น หัวหอมจะช่วยเพิ่มพูนรสชาติและเป็นแหล่งเกลือแร่ที่สำคัญ อีกทั้งยังมีวิตามินซีอีกด้วย ส่วนกระเทียมซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของกิมจิมีสารช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งในช่องท้อง และช่วยลดระดับนํ้าตาลในเลือด เป็นต้น
81. หัวหอมในกิมจิประกอบด้วยสารทางโภชนาการอะไร
(1) แคลเซียม
(2) เหล็ก
(3) เกลือแร่
(4) วิตามินเอ
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 80. ประกอบ
82. กิมจิมีแคลอรีตํ่าเพียงกี่แคลอรีต่อกิมจิ 1 ถ้วย
(1) 14
(2) 33
(3) 58
(4) 89
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 79. ประกอบ
83. คนเกาหลีจะทำกิมจิในเดือนใดของปี
(1) เดือน 3
(2) เดือน 5
(3) เดือน 8
(4) เดือน 10
ตอบ 4 หน้า 187 คนเกาหลีจะทำกิมจิในเดือน 10 ของปี และการทำกิมจิก็ถือเป็นการสร้างความผูกพัน ระหว่างเพื่อนบ้าน โดยในระหว่างเดือน 10 ของทุกปี แม่บ้านชาวเกาหลีมักจะทักทายเมื่อเจอกัน ว่า “ทำกิมจิเสร็จหรือยัง”
84. กิมจิของเกาหลีส่งออกไปขายยังประเทศใดกว่าร้อยละ 70 ของการส่งออกทั้งหมด
(1) จีน (2) สหรัฐอเมริกา (3) ญี่ปุ่น (4) เวียดนาม
ตอบ 3 หน้า 188 ในปี ค.ศ. 1995 เกาหลีสามารถส่งออกกิมจิไปขายยังต่างประเทศคิดเป็นมูลค่าถึง 53 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยร้อยละ 70 ของการส่งออกทั้งหมด ได้ส่งไปขายยังประเทศญี่ปุ่น
85. เอกสารชื่อ “ประวัติศาสตร์สามอาณาจักร” ได้บรรยายไวน์ของอาณาจักรโคกูริวที่มีชื่อว่าอะไร
(1) กัมจู (2) มอคโค (3) ชิจู (4) โซจู
ตอบ 3 หน้า 192 – 193 เอกสารชื่อ ประวัติศาสตร์สามอาณาจักร (Samguk Sagi) ได้บรรยายถึง การค้นพบวิธีการทำไวน์ขาว (คนไทยจะเรียกว่า เหล้านำขาว) ซึ่งไวน์ชนิดนี้ได้ผูกพันกับ การดำเนินชีวิตของคนเกาหลีในยุคนั้น โดยไวน์ที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรโคกูริวชื่อว่า“ชิจู” (Chiju) นับเป็นไวน์ที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนยิ่งนัก
86. ในอาณาจักรโคริวจะท่าการผลิตไวน์และขายไวน์ ณ ที่ใด
(1) วัด (2) ตลาด (3) โรงเรียน (4) บ้านหัวหน้าหมู่บ้าน
ตอบ 1 หน้า 193 – 194, 197 ไวน์ในยุคอาณาจักรโคริวจะผลิตและขายกันในวัด เพื่อให้ผู้ที่มาวัด ได้ซื้อดื่มให้ร่างกายอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืน ทั้งนี้คนเกาหลีส่วนใหญ่ นิยมใช้ข้าวและข้าววีทหมักในการผลิตไวน์ และมีบางกลุ่มจะใช้ดอกตูมของลูกแพร์มาทำไวน์ ที่อร่อยยิ่งชื่อว่า “Inhwaju” ซึ่งหมายความว่า ไวน์แพร์กำลังตูม เพราะช่วงเวลาที่คนผลิต มอคคอลลี่หรือไวน์ข้าวเป็นหน้าดอกแพร์กำลังตูม
87. ในยุคอาณาจักรโคริวคนส่วนใหญ่นิยมใช้อะไรในการผลิตไวน์
(1) ข้าว (2) ดอกตูมของลูกแพร์ (3) ข้าววีท (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 86. ประกอบ
88. ในยุคอาณาจักรโชซอนชาวเกาหลีใช้สมุนไพร 130 ชนิดมาผลิตไวน์ได้กี่ชนิด
(1) 40 (2) 60 (3) 80 (4) 120
ตอบ 2 หน้า 194 – 195 ในยุคของกษัตริย์เซจองแห่งอาณาจักรโชซอน คนเกาหลีได้ใช้สมุนไพรในการทำไวน์ จนมีการกล่าวกันว่าสมุนไพรกว่า 130 ชนิด นำมาผลิตไวน์ได้ถึง 60 ชนิด นอกจาก ยังนำดอกไม้และผลไม้มาทำไวน์ ทำให้จำนวนไวน์ในยุคนี้มีถึง 180 ชนิดเลยทีเดียว
89. ลัทธิขงจื๊อถือว่าสำรับที่ใช้ในการเซ่นไหว้อะไรที่มีความสำคัญที่สุด
(1) กัท (2) ผี (3) บรรพบุรุษ (4) เจ้าที่
ตอบ 3 หน้า 195 ในยุคอาณาจักรโชซอนได้รับเอาลัทธิขงจื๊อเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งลัทธินี้จะถือว่า สำรับที่ใช้ในการเซ่นไหว้บรรพบุรุษมีความสำคัญยิ่ง หากของสิ่งใดที่คัดสรรนำมาเซ่นไหว้จะถือว่า เป็นของที่ดีที่สุด
90. เหล้าสาเกและเบียร์ของญี่ปุ่นได้นำเข้ามาในเกาหลีตั้งแต่มีการเซ็นสนธิสัญญาอะไรในปี ค.ศ. 1876
(1) มินามิ (2) ชีรัค (3) กังฮวา (4) โซรัค
ตอบ 3 หน้า 195 เหล้าสาเกและเบียร์ของญี่ปุ่น ได้นำเข้ามายังเกาหลีนับตั้งแต่ประเทศทั้งสอง
ได้เซ็นสนธิสัญญากังฮวาในปี ค.ศ. 1876 ซึ่งให้เกาหลีเปิดเมืองท่าติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ. 1907 เมื่อเกาหลีตกเป็นดินแดนในอารักขาของญี่ปุน รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ตรากฎหมาย เรียกเก็บภาษีสุราและสั่งห้ามชาวเกาหลีทำไวน์ในครัวเรือน อีกทั้งยังได้สร้างโรงกลั่นสุราไว้ใน แต่ละหมู่บ้านเพื่อผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ต้องเสียภาษีให้แก่รัฐอย่างครบถ้วน
91. เมื่อญี่ปุ่นยึดเกาหลี ญี่ปุ่นได้ตรากฎหมายอะไรและสั่งห้ามชาวเกาหลีทำไวน์ในครัวเรือน
(1) ห้ามผลิตสุรา
(2) เก็บภาษีสุรา
(3) ส่งเสริมการบริโภคสาเก
(4) ห้ามจำหน่ายสุรา
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 90. ประกอบ
92. ในปี ค.ศ. 1952 เกาหลีใช้อะไรผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนการใช้ข้าว
(1) หัวผักกาด
(2) กากน้ำตาล
(3) หัวบุก
(4) ผิดทั้งหมด
ตอบ2 หน้า 196 ในปี ค.ศ. 1952 เกาหลีได้ใช้กากน้ำตาลผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนการใช้ข้าวเพราะในช่วงสงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950 – 1953) เกิดขาดแคลนข้าวอย่างรุนแรง และในอีก 10 ปีต่อมาก็มีการใช้มันฝรั่งผลิตเหล้าโซจู้ หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1971 รัฐบาลจึงได้ยกเลิก คำสั่งห้ามใช้ข้าวผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
93. ในอดีตคนเกาหลีเรียกมอคคอลลี่ว่าอะไร
(1) Soju
(2) Nongju
(3) Namju
(4) Kugju
ตอบ 2 หน้า 197 ในอดีตคนเกาหลีจะเรียกมอคคอลลี่ (Makkolli) หรือไวน์ข้าวว่า Nongjuหรือไวน์ชาวนา เพราะครอบครัวชาวนาจะผลิตและใช้ดื่มกินภายหลังจากการทำงานอย่างหนัก ในไร่นามาทั้งวัน หรือใช้ดื่มเพี่อเฉลิมฉลองในวันงานพิเศษ งานประเพณี งานแต่งงาน และงานศพ นอกจากนี้ยังใช้ดื่มเพี่อปลอบประโลมกันในยามที่ความทุกข์ยากได้บังเกิดขึ้น
94. มอคคอลลี่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร
(1) มีโปรตีน 1.9% (2) มีวิตามินอี (3) มีกรดอะมิโน (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ1 หน้า 197 การทำมอคคอลลี่หรือไวน์ข้าวจะใช้ข้าวที่นึ่งแล้วหมักระยะหนึ่ง เมื่อกลายเป็นนํ้าขาวขุ่นข้น (Milky Wine) ก็จะนำมาต้มจนเดือด และนำไปบรรจุขวดโดยไม่กรอง ทำ ให้ คงสภาพสีขาวขุ่นเหมือนเดิม แต่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง กล่าวคือ มีโปรตีนจากข้าว 1.9% มีวิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินบีคอมเพลกช์ รวมทั้งมีกรดออแกนิก 0.8%จึงทำให้มีรสเปรี้ยว
95. เมืองอันดงเป็นเมืองที่มีความพิเศษในเรื่องใด
(1) เป็นเมืองประวัติศาสตร์ (2) เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของเกาหลีอันเลืองชื่อ
(3) เป็นแหล่งนํ้าที่มีคุณภาพพิเศษ (4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 198 เมืองอันดง จังหวัดเคียงซังเหนือ เป็นเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่และยังเป็น ศูนย์กลางวัฒนธรรมของเกาหลีที่ลือชื่อ นอกจากนี้เมืองอันดงยังมีแหล่งน้ำที่มีคุณภาพพิเศษ จึงเป็นผลให้การผลิตเหล้าอันดงโซจู้มีรสชาติเป็นเลิศ
96. อันดงโซจู้ต้องทำการบ่มกี่วัน
(1) 20 วัน (2) 100 วัน (3) 200 วัน (4) 365 วัน
ตอบ 2 หน้า 198 อันตงโซจู้ (Andong Soju) กำเนิดขึ้นที่เมืองอันดง จังหวัดเคียงซังเหนือโดยกุบไล ข่าน เป็นผู้สั่งให้ทำเหล้าชนิดนี้ขึ้นเมื่อครั้งมาตั้งค่ายทหารที่เมืองอันดงเพื่อเตรียมการ บุกเกาะญี่ปุ่น ซึ่งอันดงโซจู้นี้มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 45% เพราะใช้เวลาหมักนานถึง 20 วัน และเก็บบ่มต่ออีก 100 วัน ที่อุณหภูมิ 15°c ทำให้มีรสกลมกล่อมและชวนให้ดื่มยิ่งนัก
97. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีชนิดใดที่มีระดับแอลกอฮอล์ 45 เปอร์เซ็นต์
(1) มอคคอลลี่ (2) ไวน์ฮองจู (3) อันดงโซจู้ (4) อิกังโซจู้
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 96. ประกอบ
98. ตามข้อมูลในหนังสือสังคมและวัฒนธรรมเกาหลี AN 353 บริษัทจีนโรผลิตโซจู้นาทีละกี่ขวด
(1) 100 (2) 500 (3) 1,000 (4) 2,000
ตอบ 3 หน้า 198 – 199 บริษัทจีนโร (Jinro) เริ่มผลิตโซจู้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 ในขณะที่เกาหลี ยังตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงที่สุดจนถึงปัจจุบันของเกาหลี โดยบริษัทจีนโร สามารถผลิตโซจูได้ถึงเดือนละ 100 ล้านชวด หรือนาทีละ 1,000 ขวด จึงถือได้ว่าเป็นบริษัท ที่ผลิตเหล้าชนิดเดียว (โซจู้) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
99. ในช่วงอาณาจักรโคริว ใครคือผู้ที่เป็นสมาชิกกลุ่ม “ผู้รักความเพลิดเพลินสามสิ่ง”
(1) โย คิวบี (2) โฮชุน (3) อิม เช (4) ยี คิวโบ
ตอบ 4 หน้า 201 จินตกวีที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรโคริว คือ ยี คิวโบ (Yi Kyu-bo) และเพื่อน ๆ เป็นผู้พิสมัยในการดื่มไวน์ยิ่งนัก พวกเขาจึงได้ขนานนามกลุ่มสมาชิกของตนว่า “ผู้รัก ความเพลิดเพลินสามสิ่ง คือ บทกวี ดนตรี และไวน์”
100. ได้มีการกล่าวกันว่า โรงเหล้าที่อยู่ในชุมชนชุคเนียง ได้เปิดบริการมาตั้งแต่ยุคใดของเกาหลี
(1) อาณาจักรโชซอน (2) อาณาจักรโคกูริว (3) อาณาจักรซิลลา (4) อาณาจักรโคริว
ตอบ 3 หน้า 207 โรงเหล้าที่ตั้งอยู่ในชุมชนชุคเนียง (Chuknyong) บนสันเขาโชเบต ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเคียงซังเหนือและจังหวัดชุงชองเหนือ ได้เปิดบริการมานับตั้งแต่ ครั้งยุคอาณาจักรชิลลาของเกาหลีในช่วงก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว
101. ลวดลายอะไรบนภาชนะที่บรรจุไวน์ของเหล่าขุนนางชั้นสูงที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษ
(1) ลูกพรุน
(2) มังกร
(3) นกกระเรียน
(4) ดอกโบตั๋น
ตอบ 1 หน้า 209 ลวดลายบนภาชนะที่บรรจุไวน์ของเหลาขุนนางชั้นสูงจะเป็นของ 4 สิ่ง ซึ่งยอมรับกันว่าเป็นสัญลักษณ์ชองสุภาพบุรุษ (Four Noble Gentlemen) ได้แก่
1. ลูกพรุน 2. ดอกกล้วยไม้ 3. ดอกเบญจมาศ 4. ไผ่
102. ชนเผ่าพิวโบล มีลักษณะวัฒนธรรมที่เน้นในแบบใด
(1) เน้นบูรณาการ
(2) เน้นปัจเจกชนนิยม
(3) เน้นความมีอิสรเสรี
(4) ถูกทั้งหมด
ตอบ 1 หน้า 216 รูธ เบเนดิคท์ (Ruth Benedict) ได้ศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบวัฒนธรรมของ ชาวอินเดียนแดง 3 กลุ่ม คือ
1. ชนเผ่าพิวโบล จะมีวัฒนธรรมที่เน้นบูรณาการโดยมีการยอมรับ ยอมทำตาม และร่วมมือกัน
2. ชนเผ่าควาคิตอล จะมีบุคลิทที่เน้นปัจเจกชนนิยมสูง นิยมความก้าวร้าว ชอบก่อความรุนแรง
3. ชาวเกาะโดบู จะมีบุคลิกภาพที่ชอบอิสรเสรี แต่ขี้ระแวงสงสัย ไม่ไว้ใจใคร
103. มาร์กาเรต มีด ทำการศึกษาวิจัยกลุ่มใด
(1) อินเดียนแดง
(2) ชาวเกาะซามัว
(3) ชาวเกาะโดบู
(4) ชนเผ่าควาคิตอล
ตอบ 2 หน้า 216 มาร์กาเรต มีด (Margaret Mead) ได้ทำการวิจัยด้วยการไปอาศัยอยู่ร่วมกับชาวเกาะซามัวในช่วงเวลาหนึ่ง และเน้นศึกษาความสัมพันธ์ของสมาชิกในสังคมเรื่องแบบแผน การอบรมเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งจะมีผลต่อการก่อตัวเป็นรูปแบบเฉพาะของบุคลิกภาพในวัยผู้ใหญ่ ของสมาชิกสังคมซามัว
104. จากการศึกษาวิจัยของ มาร์กาเรต มีด และรูธ เบเนดีคท์ ที่พยายามอธิบายปัจจัยทางด้านจิตวิทยาว่า เป็นปัจจัยสากลที่มีผลต่อบุคลิกภาพของมนุษย์ในทุกสังคม ทำให้ข้อใดต่อไปนี้ได้รับความสนใจและ ยอมรับอย่างกว้างขวาง
(1) วิธีวิจัยเชิงปริมาณ (2) วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ
(3) วิธีวิทยาการวิจัยเชิงมานุษยวิทยา (4) วิธีวิทยาการวิจัยเชิงวัฒนธรรม
ตอบ 3 หน้า 217 จากผลการศึกษาวิจัยของ มาร์กาเรต มีด และรูธ เบเนดิคท์ ได้ทำให้เกิดข้อสงสัย ในทฤษฎีของซิกมัน ฟรอยด์ ที่พยายามอธิบายปัจจัยทางด้านจิตวิทยาว่าเป็นปัจจัยสากล ที่มีผลต่อบุคลิกภาพของมนุษย์ในทุกสังคม ทั้งนี้นักมานุษยวิทยาสตรีทั้งสองยังได้ยํ้าว่า การที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริงเป็นจังที่สามารถตรวจสอบได้นั้น ควรใช้วิธี วิทยาการวิจัยเชิงมานุษยวิทยา ทำให้วิธีนี้ได้รับความสนใจและยอมรับกันอย่างกว้างขวาง
105. ขบวนการ “แซมาอึล อุนดง” ของเกาหลีคือขบวนการอะไร
(1) พัฒนาหมู่บ้านใหม่ (2) พัฒนาชนบท (3) พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ (4) ข้อ 1 และ 2
ตอบ4 หน้า 48, 237 – 238, 250 (ร) ขบวนการแซมาอึล อุนดง (Saemaul Undong) คือ ขบวนการพัฒนาหมู่บ้านใหม่ หรือการพัฒนาชนบท ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 และได้รับความสำเร็จสูงสุด โดยเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ คือ 1. การพัฒนาด้านจิตใจ (Spiritual Development)
2. การพัฒนาดเานเศรษจกิจ (Economic Development)
3. การพัฒนาด้านสังคม (Social Development)
106. จากการศึกษาองค์กรทางสังคมในเมืองเตกูของศาสตราจารย์ลี แมนแก๊ป พบว่าสังคมเกาหลีเป็นอย่างไร
(1) มีความขยันอดทน (2) มีการศึกษาสูง
(3) มีความรักพวกพ้องสูง (4) มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกในองค์กรแทบทุกแห่ง
ตอบ 4 หน้า 240 ศาสตราจารย์ลี แมนแก๊ป นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยโซลแห่งชาติ ได้ศึกษา องค์กรทางสังคมในเมืองเตกู และพบว่ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกในองค์กรแทบทุกแห่ง ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดการแบ่งแยก ได้แก่ ความแตกต่างทางด้านระดับการศึกษา ปัญหาที่เกิดจากคนที่ทำงานอยู่เดิมกับคนที่เพิ่งย้ายมาจากที่อื่น และถิ่นบ้านเกิดของพนักงาน
107. ข้อใดที่ไม่ถือเป็นกฎ “สามกัง โอรยุน”
(1) ทั่วจักรวาลมีเพียงครอบครัวใหญ่เพียงหนึ่งครอบครัว
(2) มีการเรียงลำดับความสูงตํ่าจากมนุษย์ไปถึงสวรรค์
(3) มนุษย์จะบฎิบัติตนตามที่ฟ้าลิขิต (4) ผิดทั้งหมด
ตอบ 4 หน้า 242 กฎของลัทธิขงจื๊อที่เรียกว่า “สามกัง โอรยุน” มีความเชื่อว่า ทั่วทั้งจักรวาลมีเพียง ครอบครัวใหญ่เพียงหนึ่งครอบครัว ซึ่งทุกสิ่งจะมีความเกี่ยวข้องกัน และจะมีการเรียงลำดับ ความสูงต่ำจากมนุษย์ไปถึงสวรรค์ โดยมนุษย์จะต้องขึ้นอยู่กับสวรรค์ และต้องกระทำหรือ ประพฤติปฏิบัติตนตามที่ฟ้าลิขิต
108. ชนชั้น “ชุนจิน” ของเกาหลี คือกลุ่มคนใด
(1) ขุนนาง (2) สามัญชน (3) ข้าราชการระดับตํ่า (4) พ่อค้า
ตอบ 3 หน้า 247 สังคมเกาหลีในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้แบ่งคนออกเป็น 4 ชนชั้น คือ
1. ชนชั้นสูง เรียกว่า “ยางบัน” ได้แก่ ข้าราชการระดับสูงทั้งที่เป็นทหารและพลเรือน ขุนนาง และผู้คงแก่เรียนหรือปราชญ์ที่มีชื่อเสียง 2. ชนชั้นกลาง เรียกว่า “ชุนจิน” ได้แก่ คนที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการในระดับกลางและตํ่า มีตำแหน่งทางสังคมและการศึกษาสูงกว่าสามัญชน 3. ชนชั้นสามัญชน เรียกว่า “แซงมิน” ได้แก่ กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพทางธุรกิจและการค้า ชาวนา และช่างฝีมีอ 4. ชนชั้นตํ่า เรียกว่า “ชุนมิน” ได้แก่ คนที่ประกอบอาชีพเฉพาะอย่าง เช่น ล่าสัตว์ ทาส นักเต้นรำ นักแสดง พระ เป็นต้น
109. ระบบชนชั้นของเกาหลีได้ถูกยกเลิกไปเมื่อใด
(1) ช่วงสงครามเกาหลี – จีน
(2) ช่วงสงครามเกาหลี – ญี่ปุ่น (3) ช่วงสงครามญี่ปุ่น – จีน (4) ผิดทั้งหมด
ตอบ 3 หน้า 248 ระบบชนชั้นของเกาหลีถูกยกเลิกราวปี ค.ศ. 1894 หรือระหว่างช่วงสงครามญี่ปุ่น กับจีน เพราะเกาหลีได้ปฏิรูประบบสังคมเพื่อให้หลุดพ้นจากการครอบงำของจีน แต่การยึดถือ ติดต่อกันมานานหลายศตวรรษ ทำให้วัฒนธรรมในเรื่องชนชั้นฝังแน่นอยูในจิตใจของคนเกาหลี ต่อมาเมื่อสงครามเกาหลีเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1950 ระบบชนชั้นท็ถูกทำลายลงอีกระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้สังคมเกาหลีกลายเป็นสังคมที่มีความเสมอภาคยิ่งขึ้น
110. ชนชั้นสูงของเกาหลีมีการตั้งสมาคมเครือญาติของตน เรียกว่าอะไร
(1) แซงนอม (2) ชุนมิน (3) ยางบัน (4) ชองเฮ
ตอบ 4 หน้า 248 ชนชั้นสูงของเกาหลีที่มีฐานะดีและมีเกียรติยศสูงจะมีการตั้งสมาคมเครือญาติ หรือที่เรียกว่า “ชองเฮ” เพื่อทำหน้าที่ในการจัดงานพิธีไหว้บรรพบุรุษเป็นประจำทุกปี และยกย่องบรรพบุรุษผู้ที่มีชื่อเสียง ตลอดจนเพื่อให้คนในสกุลเดียวกันในรุ่นหลังได้รู้จัก และรวมตัวกันเป็นกลุ่มสายเลือดเดียวกัน
111. คอร์เนลิอุส ออสกูด มีข้อสังเกตต่อคนเกาหลีอย่างไร
(1) เป็นคนโง่ขลาไร้การศึกษา
(2) เป็นคนเก็บตัว อารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอน
(3) เป็นคนขยันขันแข็งในการทำงาน
(4) เป็นคนคบง่าย
ตอบ 2 หน้า 263 – 264 คอร์เนลิอุส ออสกูด (Cornelius Osgood) นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน แห่งมหาวิทยาลัยเยลล์ ซึ่งเข้าไปศึกษาคนและสังคมวัฒนธรรมของเกาหลีในปี ค.ศ. 1947 ได้กล่าวว่า คนเกาหลีที่เขาพบเห็นเป็นคนเก็บตัว มีอารมณ์ปรวนแปรไม่แน่นอน โดยมี ความสามารถที่จะอยู่ในสภาพที่สงบนิ่งคล้ายกับหมีที่นอนอยู่ แต่จะร้อนรนตุร้ายคล้ายเสือ ที่ถูกแหย่
112. คำกล่าวที่ว่า “เกาหลีใต้มีปัญหาทางด้านโครงสร้าง เพราะขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ต่ออนาคตในการวางนโยบายอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมของเกาหลีอิงอยู่กับญี่ปุ่นมากเกินไป…” เป็นคำกล่าวของใคร
(1) นาคะตะ
(2) โอมาเอะ
(3) โคมิตะ
(4) คิม คังซิก
ตอบ 2 หน้า 280 นายเคน,นิซิ โอมาเอะ (Kenichi Ohmae) นักเศรษฐศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ได้กล่าวว่า เกาหลีใต้มีปัญหาทางด้านโครงสร้าง เพราะขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ต่ออนาคตในการ วางนโยบายอุตสาหกรรม เพราะเท่าที่ผ่านมานั้น อุตสาหกรรมของเกาหลีอิงอยู่กับเศรษฐกิจ ของญี่ปุ่นมากเกิน’ไป และแชโบล์ก็ไม่มีการปฏิรูปอย่างจริงจัง
113. เกาหลีใต้เริ่มมีกฎหมายรัฐธรรมนูญเมื่อใด
(1) 3 สิงหาคม ค.ศ. 1945
(2) 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1948
(3) 15 สิงหาคม ค.ศ. 1951
(4) 3 กันยายน ค.ศ. 1952
ตอบ. 2 หน้า 293, 295, 194 (ร), 196 (ร) กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับแรกของเกาหลีใต้ประกาศใช้ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) จากนั้นก็มีการปรับปรุงแก้ไขถึง 9 ครั้ง ทั้งนี้ในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ได้มีการแก้ไขเป็นครั้งสุดท้าย (ครั้งที่ 9) ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญ ของเกาหลีใต้ฉบับปัจจุบัน โดยได้นำระบบประธานาธิบดีที่ผู้นำประเทศจะต้องได้รับการเลือกตั้ง โดยตรงจากประชาชนมาใช้ และให้ดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียวเป็นเวลา 5 ปี
114. นับถึงปัจจุบัน กฎหมายรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ได้มีการแก้ไขมาแล้วกี่ครั้ง
(1) 5 (2) 9 (3) 15 (4) 18
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 113. ประกอบ
115. ระดับขั้นของข้าราชการเกาหลีใต้ ระดับใดคือระดับขั้นที่สูงสุด
(1) 0 (2) 9 (3) 1 (4) 11
ตอบ 3 หน้า 305, 207 (ร) ระดับขั้นของข้าราชการเกาหลีใต้จะมีจำนวน 9 ขั้น โดยขั้นที่ 1เป็นขั้นสูงสุด และขั้นที่ 9 เป็นขั้นตํ่าสุด ซึ่งการกำหนดขั้นของข้าราชการจะมีความชัดเจนที่สุด ในงานทางด้านวิศวกรรมและงานด้านการปกครอง ส่วนงานประเภทอื่นนั้นจะใช้การเทียบเคียงกับ งานด้านปกครองเพื่อกำหนดสถานภาพของตำแหน่งต่าง ๆ
116. รัฐสภาของเกาหลีใต้ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้นกี่คน
(1) 253 คน (2) 299 คน (3) 399 คน (4) 499 คน
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ
117. ศาลฎีกาของเกาหลีใต้มีผู้พิพากษาจำนวนกี่ท่าน
(1) 7 ท่าน (2) 9 ท่าน (3) 11 ท่าน (4) 13 ท่าน
ตอบ 4 หน้า 318. 321, 220 (ร), 223 (ร) ศาลฎีกาเป็นศาลสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ซึ่งประกอบไปด้วยประธานศาลฎีกาและผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนรน 13 ท่าน โดยแต่ละท่าน จะต้องมีอายุไม่ตํ่ากว่า 40 ปี และมีประสบการณ์ในการทำหน้าที่ผู้พิพากษา อัยการ หรือเป็น นักกฎหมายมาแล้วไม่น้อยกว่า 15 ปี
118. ศาลชั้นต้นของเกาหลีมีทั้งหมดกี่แห่ง
(1) 12 (2) 13 (3) 15 (4) 17
ตอบ 2 หน้า 320, 222 (ร) ศาลชั้นต้นของเกาหลีใต้จะทำหน้าที่ในการพิจารณาคดีทั่วไปแทบทุกคดี ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 13 แห่ง โดยศาลชั้นต้นจะตั้งอยูทั่กรุงโซล 1 แห่ง แต่แบ่งออกเป็น 2 ศาล คือ ศาลแพ่งแห่งกรุงโซล และศาลอาญาแห่งกรุงโซล นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ ในเมืองหลักอีก 12 เมือง
119. นายคิม ยังแซม ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเกาหลีใต้เมื่อใด
(1) 12 ธันวาคม ค.ศ. 1990 (2) 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993
(3) 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1995 (4) 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997
ตอบ 2 หน้า 328, 269 (ร) นายคิม ยังแซม ได้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 โดยเขาเป็นประธานาธิบดีคนแรก ที่ไม่ได้มาจากสายทหาร จึงมักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในขณะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบ
120. เกิดวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1946 สูง 168 เซนติเมตร เลือดกรุ๊ฟโอ คือใคร
(1) นายคิม ยังแซม (2) นายโรห์ มูเฮียน (3) นายโรห์ เตวู (4)นายพลชุน ดูฮวาน
ตอบ 2 หน้า 193 (S), 392 (S) นายโรห์ มูเฮียน ไต้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ในปี ค.ศ. 2003 โดยเขาเกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1946 สูง 168 เซนติเมตร นํ้าหนัก 68 กิโลกรัม มีเลือดกรุ๊ฟโอ มีภรรยาชื่อนางกวัน ยังซุก และมีบุตร-ธิดา รวมทั้งหมด 2 คน