การสอบไล่ภาคซ่อม 1 ปีการศึกษา 2551
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW 2006 กฎหมายอาญา 1
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ
ข้อ 1. คมศรขับรถยนต์แซงรถยนต์บรรทุกซึ่งจอดอยู่ที่ขอบถนนด้านซ้ายในเส้นทางเดินรถของคมศร และรถยนต์ของคมศรล้ำเข้าไปในเส้นทางของรถยนต์ที่แสงชัยกำลังสวนมา ทำให้รถยนต์ของคมศรชนกับรถยนต์ของแสงชัย คนที่นั่งกะบะท้ายรถยนต์แสงชัยกระเด็นไปตกลงบนพื้นถนน เอกขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์แสงชัย เห็นแล้วว่ามีคนนอนบนพื้นถนน ซึ่งสามารถหักหลบได้ แต่เอกกลัวรถจะเสียหลักเป็นอันตรายแก่ตน จึงขับตรงไป รถของเอกชนคนที่นอนอยู่นั้นตาย ดังนี้ คมศร และเอก ต้องรับผิดทางอาญาอย่างไร หรือไม่
แนวคำตอบ
หลักกฎหมาย ปอ.มาตรา 59
วินิจฉัย ตามปัญหา คมศรขับรถยนต์แซงรถยนต์บรรทุกซึ่งจอดอยู่ที่ขอบถนนด้ายซ้ายในเส้นทางเดินรถของคมศร และรถยนต์ของคมศรล้ำเข้าไปในเส้นทางของรถยนต์ที่แสงชัยกำลังสวนมา คมศรกระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นว่านั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
คมศรกระทำโดยประมาทตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสี่ ส่วนเอกขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์แสงชัย เอกเห็นแล้วว่ามีคนนอนอยู่บนพื้นถนซึ่งถ้าเอกหักหลบย่อมทำได้แต่เอกกลัวรถจะเสียหลักเป็นอันตรายแก่เอก เอกขับตรงไป เอกย่อมเล็งเห็นได้ว่ารถยนต์ของเอกย่อมชนคนนอนอยู่บนพื้นถนนได้เอกกระทำโดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสอง
สรุป คมศรต้องรับผิดทางอาญาเพราะกระทำโดยประมาท ส่วนเอกต้องรับผิดทางอาญาเพราะกระทำโดยเจตนาที่เชิดชัยขับ คมสันเห็นผู้โดยสารตกจากรถ แต่ไม่สามารถหลบได้ทันเพราะเด็กชายป๋องจับคม
ข้อ 2. นายแดงต้องการฆ่านายดำ แต่เห็นนายขาวเดินมาคิดว่าเป็นนายดำ จึงใช้ปืนยิงนายขาว จนทำให้นายขาวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้กระสุนยังเลยไปถูกนายเขียวถึงแก่ความตาย และได้เลยไปถูกลูกแมวของนางสาวส้มตายอีกด้วย จงวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาของนายแดง
แนวคำตอบ
หลักกฎหมาย มาตรา 59, 60, 61, 80
นายแดงรับผิดต่อนายขาวฐานพยายามฆ่านายขาวโดยสำคัญผิดในตัวบุคคลตามมาตรา 59, 61, 80
นายแดงรับผิดต่อนายเขียวฐานฆ่านายเขียวโดยพลาดตามมาตรา 60
แต่ไม่ต้องรับผิดต่อนางสาวส้มเจ้าของลูกแมว เพราะไม่ใช่พลาดและประมาททำให้เสียทรัพย์ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด
ข้อ 3. สรเดชได้รับการบอกเล่าจากแจ่มศรีภริยาว่า ทรนงได้เข้ามาข่มขืนกระทำชำเราแจ่มศรีตอนที่ สรเดชไม่อยู่บ้าน สรเดชทราบความจากแจ่มศรีแล้วได้ออกตามหาทรนงเพื่อฆ่าทันที สรเดชพบทรนงยืนอยู่ สรเดชชักอาวุธปืนยิงไปที่ทรนง ทรนงวิ่งหนี สรเดชวิ่งไล่ตาม ทรนงเห็นประตูบ้านพงษ์ศักดิ์เปิดอยู่จึงวิ่งเข้าไปข้างใน พงษ์ศักดิ์ขัดขวาง ทรนงชักมีดแทงไปที่พงษ์ศักดิ์ พงษ์ศักดิ์หลบและใช้ไม้ตีสวนไปที่ทรนงได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ สรเดช ทรนง และพงษ์ศักดิ์ ต้องรับผิดทางอาญาอย่างไรหรือไม่ และจะอ้างเหตุอะไรเพื่อยกเว้นความผิดหรือยกเว้นโทษได้บ้าง
แนวคำตอบ
หลักกฎหมาย ปอ.มาตรา 59, 67, 68, 72 และ 80
วินิจฉัย ตามปัญหา สรเดชได้รับการบอกเล่าจากแจ่มศรีภริยาว่าถูกทรนงข่มขืนกระทำชำระเรา สรเดชถูกทรนงข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมแล้ว สรเดชได้ยิงไปที่ทรนงโดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสอง แต่กระทำไปโดยบันดาลโทสะตาม ปอ.มาตรา 72 ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ สรเดชต้องรับผิดทางอาญา เพราะได้กระทำโดยเจตนาและกระทำขณะบันดาลโทสะ แต่กระทำไปไม่บรรลุผล ต้องรับผิดฐานพยายามและรับโทษน้อยเพียงใดก็ได้ตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสอง, 72 และ 80
ทรนงได้ข่มขืนกระทำชำเราแจ่มศรีภริยาสรเดช ทรนงได้ก่อภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย ทรนงวิ่งหนีเข้าไปในบ้านพงษ์ศักดิ์และชักมีดแทงพงษ์ศักดิ์ ทรนงได้กระทำต่อพงษ์ศักดิ์โดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสอง และต้องรับผิดทางอาญาตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคหนึ่ง พงษ์ศักดิ์อ้างว่ากระทำความผิดด้วยความจำเป็นเพื่อให้ตนเองพ้นจากภยันตรายอันใกล้จะถึงไม่ได้ เพราะทรนงได้ก่อให้เกิดภยันตรายด้วยการกระทำผิดของตนเอง พงษ์ศักดิ์จะอ้างเป็นเหตุยกเว้นโทษตาม ปอ.มาตรา 67 (2) ไม่ได้
พงษ์ศักดิ์ได้ใช้ไม้ตีไปที่ทรนงโดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา 39 วรรคสอง ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของพงษ์ศักดิ์ชอบด้วยกฎหมาย พงษ์ศักดิ์ไม่ต้องรับผิดตาม ปอ.มาตรา 68
สรุป สรเดชต้องรับผิดทางอาญา แต่กระทำไปขณะบันดาลโทสะ สรเดชรับโทษน้อยเพียงใดก็ได้
ทรนงต้องรับผิดทางอาญา เพราะกระทำต่อพงษ์ศักดิ์โดยเจตนาและจะอ้างว่ากระทำความผิดด้วยความจำเป็นเมื่อยกเว้นโทษไม่ได้
พงษ์ศักดิ์กระทำต่อทรนงโดยเจตนาและมีเจตนาพิเศษเพื่อป้องกัน พงษ์ศักดิ์ไม่ต้องรับผิดที่เชิดชัยขับ คมสันเห็นผู้โดยสารตกจากรถ แต่ไม่สามารถหลบได้ทันเพราะเด็กชายป๋องจับคม
ข้อ 4. เนวินได้บอกกับบรรจงลูกน้องว่า สุเทพกำแหงมากสมควรตายได้แล้ว บรรจงได้ยินเช่นนั้น ได้ร่วมกับยอดเพื่อนกันวางแผนฆ่าสุเทพ โดยบรรจงไปขอยืมอาวุธปืนจากสุขสม โดยบอกกับสุขสมว่าจะนำอาวุธปืนไว้ป้องกันตัว สุขสมทราบดีว่าบรรจงจะนำอาวุธปืนไปยิงสุเทพ สุขสมอยากให้สุเทพตายอยู่แล้ว จึงให้บรรจงยืมอาวุธปืน บรรจงได้อาวุธปืนจากสุขสมแล้ว ได้นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ที่ยอดเป็นผู้ขับขี่ บรรจงใช้อาวุธปืนยิงสุเทพตาย และยอดขับรถจักรยานยนต์พาบรรจงหนีไป ดังนี้ เนวิน ยอด และสุขสม ต้องรับผิดในการกระทำของบรรจงอย่างไร หรือไม่
แนวคำตอบ
หลักกฎหมาย ปอ.มาตรา 59, 83, 84 และ 86
วินิจฉัย ตามปัญหา บรรจงได้กระทำต่อสุเทพโดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา 59 วรรคสอง เนวินได้เจตนาก่อให้บรรจงกระทำความผิด เนวินต้องรับผิดฐานเป็นผู้ใช้และต้องรับโทษเสมือนตัวการตาม ปอ.มาตรา 84 สุขสมเจตนาช่วยเหลือบรรจงในการกระทำความผิด สุขสมต้องรับผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตาม ปอ.มาตรา 86 ส่วนยอดได้กระทำร่วมกันกับบรรจงขณะกระทำความผิดและเจตนาร่วมกันกับบรรจงขณะกระทำความผิด ยอดต้องรับผิดฐานเป็นตัวการตาม ปอ.มาตรา 83
สรุป เนวินรับผิดฐานเป็นผู้ใช้
สุขสมรับผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
ยอดรับผิดฐานเป็นตัวการที่เชิดชัยขับ คมสันเห็นผู้โดยสารตกจากรถ แต่ไม่สามารถหลบได้ทันเพราะเด็กชายป๋องจับคม