การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW1001 หลักกฎหมายมหาชน
ดังนั้น จึงขอให้นักศึกษาอธิบายความหมายของรัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง และขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ว่ามีหลักการ ขั้นตอนการแก้ไขอย่างไร
ธงคำตอบ
ความหมายของรัฐธรรมนูญคือ ตัวบทกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่ว่าด้วยระเบียบอำนาจแห่งรัฐ มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เป็นการบัญญัติกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการปกครองประเทศ หรือเป็นกฎหมายที่รวบรวมกฎเกณฑ์การปกครองประเทศ เป็นกฎหมายที่กำหนดองค์กรทางการเมืองของรัฐ หรือ กลไกของรัฐและให้ประกันสิทธิเสรีภาพพื้นฐานแก่ประชาชน ซึ่งได้จัดทำด้วยวิธีการที่แตกต่างจากการจัดทำกฎหมายธรรมดา
ความหมายของกฎหมายปกครองของไทย ได้แก่กฎหมายที่กำหนดรายละเอียดในการปกครองลดหลั่นลงมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายว่าด้วยการปกครองประเทศ แต่กฎหมายปกครองเป็นกฎหมายว่าด้วยการดำเนินการปกครอง
กฎหมายนี้จะกล่าวถึงการจัดระเบียบขององค์กรการปกครอง เช่น จัดแบ่งออกเป็น กระทรวง ทบวง กรม หรือเทศบาล ความเกี่ยวพันระหว่างองค์กรนี้กับรัฐ
ในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 กำหนดหลักการในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้ไขแบบง่ายโดยมีหลักเกณฑ์ขั้นตอนการแก้ไขกำหนดไว้ในมาตรา 291 ดังนี้
มาตรา 291 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้กระทำได้ตามกลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
1 ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย
ญัตติ ขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ จะเสนอมิได้
2 ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและให้รัฐสภาพิจารณาเป็นสามวาระ3 การออกเสียงลงคะแนน ในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนษมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
4 การพิจารณาในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมด้วย
การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตราให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ
5 เมื่อการพิจารณาวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้รัฐสภาพิจารณาในวาระที่สามต่อไป6 การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบ ด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้ง หมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
7 เมื่อการลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวแล้ว ให้นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และให้นำบทบัญญัติมาตรา 150 และมาตรา 151 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 2 ถ้าจะกล่าวว่าการปกครองของไทยทุกระดับ เกิดจากกฎหมายมหาชนทั้งสิ้น ท่านเห็นด้วยหรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างให้ชัดเจน
ธงคำตอบ
กฎหมายมหาชนปัจจุบันได้แก่กฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกครอง
กฎหมายรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้อำนาจในการปกครองประเทศ ได้แก่
1 อำนาจนิติบัญญัติโดยมีรัฐสภาเป็นผู้ใช้อำนาจ
2 อำนาจบริหาร โดยมีคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้อำนาจ
3 อำนาจตุลาการ โดยมีศาลเป็นองค์การใช้อำนาจ
กฎหมาย ปกครองเป็นกฎหมายที่บัญญัติให้อำนาจหน้าที่ในทางปกครองแก่หน่วยงานทางปกครอง และแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการในทางปกครองได้จะต้อง มีกฎหมายบัญญัติให้อำนาจและหน้าที่ไว้มิฉะนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ กฎหมายดังกล่าวได้แก่กฎหมายปกครองหรือกฎหมายมหาชน เช่น พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ฯ หรือ พ.ร.บ.อื่นๆ
ข้อ 3 ให้นักศึกษาอธิบายความสัมพันธ์ของหลักการกฎหมายปกครองที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมาพอให้เข้าใจ ถึงความสัมพันธ์ของหลักการดังกล่าว
ธงคำตอบ
นักศึกษาอธิบายความหมายของกฎหมายปกครอง การจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินได้
นักศึกษาหยิบยกเอาหลักกฎหมายปกครอง อาทิเช่น
หลักการกำกับดูแล
หลักการควบคุมบังคับบัญชา
หลักการแบ่งอำนาจ
หลักการรวมอำนาจ
หลักการกระจายอำนาจ
มาอธิบายให้เห็นความสัมพันธ์กันของการแบ่งส่วนราชการที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1 ราชการส่วนกลาง ยึดหลัก การรวมอำนาจ
2 ราชการส่วนภูมิภาค ยึดหลัก การแบ่งอำนาจ
3 ราชการส่วนท้องถิ่น ยึดหลัก การกระจายอำนาจ
นักศึกษา ตอบได้ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และในระหว่างความสัมพันธ์กันของราชการส่วนกลางกับราชการส่วนภูมิภาค เป็นแบบควบคุมบังคับบัญชา ส่วนราชการกลางและราชการส่วนภูมิภาคกับราชการส่วนท้องถิ่น เป็นแบบกำกับดูแล