การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW2001 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ
ข้อ 1 ปริญญาเช่าที่ดินของดุษฎีเพื่อก่อสร้างโครงเหล็กติดป้ายโฆษณาเป็นเวลา 5 ปี โดยสัญญาเช่าระบุว่าทรัพย์สินใดๆที่ได้ปลูกสร้างและติดตั้งในสถานที่เช่านี้อันเกิดจากการเช่าเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่า และเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่ามีสิทธิ์รื้อถอนคืนไปได้ทั้งสิ้น หลังจากปริญญาติดตั้งโครงเหล็กไปได้ 4 ปี พอขึ้นปีที่ 5 ปริญญาขอบอกเลิกสัญญาเช่าและขอรื้อเฉพาะโครงเหล็กออกไปจากที่ดินเช่า ดุษฎีไม่ขัดข้องแต่แจ้งให้ปริญญาส่งมอบที่ดินคืนให้ดุษฎีในสภาพเดิม คือต้องรื้อถอนตอม่อและเสาเข็มที่ฝังไว้ใต้ดินออกไปด้วย
ปริญญาไม่ต้องการรื้อถอนตอม่อกับเสาเข็มเพราะเสียค่าใช้จ่ายมาก ปริญญาจึงมาปรึกษาท่านว่า จะรื้อเฉพาะโครงเหล็กอย่างเดียวไม่รื้อถอนตอม่อและเสาเข็มออกไปได้หรือไม่ และดุษฎีจะฟ้องบังคับให้ปริญญาต้องรื้อตอม่อและเสาเข็มออกไปด้วยได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 146 ทรัพย์ซึ่งติดกับที่ดินหรือติดกับโรงเรือนเพียงชั่วคราวไม่ถือว่าเป็นส่วนควบกับที่ดินหรือโรงเรือนนั้น ความข้อนี้ให้ใช้บังคับแก่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ซึ่งผู้มีสิทธิในที่ดินของผู้อื่นใช้สิทธินั้นปลูกสร้างไว้ในที่ดินนั้นด้วย
วินิจฉัย
ปริญญาเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินของดุษฎีตามสัญญาเช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงเหล็กติดตั้งป้ายโฆษณาเป็นเวลา 5 ปี และได้ใช้สิทธินั้นปลูกสร้างเสาเข็ม ตอม่อ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงเหล็กในที่ดินที่เช่า ดังนั้นภายในระยะเวลาตามสัญญาเช่า เสาเข็ม ตอม่อ และโครงเหล็กจึงไม่เป็นส่วนควบของที่ดินตามมาตรา 146 หลังจากปริญญาติดตั้งโครงเหล็กได้ 4 ปี พอขึ้นปีที่ 5 ปริญญาขอบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จะรื้อเฉพาะโครงเหล็กออกไปจากที่ดินที่เช่าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดุษฎีสามารถฟ้องบังคับให้ปริญญารื้อทั้งตอม่อและเสาเข็มออกไปและส่งมอบที่ดินคืนให้แก่ตนในสภาพเดิมได้ โดยปริญญาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนดังกล่าว
สรุป ปริญญาต้องรื้อทั้งโครงเหล็ก ตอม่อ และเสาเข็มออกไป หากปริญญาไม่รื้อตอม่อและเสาเข็ม ดุษฎีสามารถฟ้องบังคับให้รื้อถอนได้
ข้อ 2 นายทองมีที่ดินมีโฉนดแปลงจำนวน 10 ไร่ ได้ถูกนายเงินครอบครองปรปักษ์ที่ดินส่วนหนึ่งที่มีลำธารไหลผ่านเฉพาะฤดูฝนจำนวน 200 ตารางวา มากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์ที่ดินที่นายเงินครอบครอง จึงมีลักษณะเป็นที่ดินตาบอดที่ถูกล้อมโดยที่ดินนายทอง นายทับทิม และนายมรกต เมื่อนายเงินต้องการมีทางออกผ่านเข้าออกจากที่ดินของตนจึงไปร้องต่อศาลเพื่อขอทางจำเป็นผ่านที่ดินของนายทับทิม เพราะเห็นว่าเป็นทางใกล้ที่สุดที่จะออกสู่ถนนสาธารณะ โดยในคำขอได้แจ้งความต้องการขอทำทางผ่านเป็นทางรถยนต์กว้าง 4 เมตร
ดังนี้ ถ้าท่านเป็นศาลท่านจะมีคำพิพากษาให้นายเงินได้ทางออกตามที่ร้องขอมาหรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1350 ถ้าที่ดินที่แบ่งแยกหรือแบ่งโอนกันเป็นเหตุให้แปลงหนึ่งไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าของที่ดินแปลงนั้นมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินตามมาตราก่อนได้เฉพาะบทที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยก หรือแบ่งโอนกันและไม่ต้องเสียค่าทดแทน
วินิจฉัย การที่ที่ดินของนายเงินเป็นที่ดินตาบอด เกิดขึ้นหลังจากได้แย่งการครอบครองปรปักษ์มาจากที่ดินแปลงใหญ่ของนายทอง โดยจากข้อเท็จจริงแล้วขณะที่ยังเป็นที่ดินแปลงเดียวกันอยู่ ที่ดินแปลงนี้ไม่ใช่ที่ดินตาบอด แต่เมื่อถูกแบ่งไปเพราะการครอบครองปรปักษ์ทำให้เกิดสภาพที่ดินตาบอดแก่แปลงที่แบ่งแยก ดังนั้นการขอทางจำเป็นจึงต้องบังคับตามมาตรา 1350 คือ มีสิทธิขอทางจำเป็นผ่านบนที่ดินที่เคยอยู่รวมกับตน กล่าวคือ ขอทางจำเป็นผ่านที่ดินของนายทองได้เท่านั้น
เมื่อนายเงินขอผ่านทางจำเป็นบนที่ดินของนายทับทิมจึงไม่อาจทำได้ ด้วยเหตุผลข้างต้น
สรุป ถ้าข้าพเจ้าเป็นศาลจะยกคำร้องขอทางจำเป็นผ่านที่ดินของนายทับทิมที่นายเงินร้องขอมาตามมาตรา 1350
ข้อ 3 นายสีเข้าไปบุกรุกครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายสายมาได้หกปี นายสีถูกนายสายแจ้งความดำเนินคดีฟ้องศาลขับไล่ ศาลพิพากษาให้นายสีออกไปจากที่ดินแปลงนั้นและสั่งลงโทษจำคุกนายสีสิบเดือน เมื่อนายสีพ้นโทษก็ได้กลับเข้าไปครอบครองที่ดินแปลงนั้นอีก นายสีครอบครองระยะเวลาในช่วงหลังนี้มาได้สี่ปีก็ถูกจับกุมดำเนินคดีขับไล่อีก แต่คราวนี้นายสีอ้างว่าตนครอบครองปรปักษ์ครบสิบปีแล้ว โดยนับระยะเวลาครอบครองครั้งแรกและครั้งหลังครบสิบปี เพราะช่วงที่ขาดการยึดถือเป็นการขาดการยึดถือโดยไม่สมัครและกลับเข้ามาครอบครองใหม่ภายในหนึ่งปี และตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายครอบครองทรัพย์สินเดียวกันสองคราวบุคคลนั้นครอบครองติดต่อกันตลอดเวลา
ให้ท่านอธิบายว่านายสีได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของนายสายโดยการครอบครองปรปักษ์แล้วหรือยัง ข้ออ้างของนายสีรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 1371 ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลใดครอบครองทรัพย์สินเดียวกันสองคราว ท่นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นได้ครอบครองติดต่อกันตลอดเวลา
มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
มาตรา 1384 “ถ้าผู้ครอบครองขาดยึดถือทรัพย์สินโดยไม่สมัคร และได้คืนภายในเวลาหนึ่งปีนับแต่วันขาดยึดถือ หรือได้คืนโดยฟ้องคดีภายในกำหนดนั้นไซร้ ท่านมิให้ถือว่าการครอบครองสะดุดหยุดลง”
วินิจฉัย นายสีเข้าไปบุกรุกครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งของนายสายมาได้หกปี นายสีถูกแจ้งความดำเนินคดีฟ้องศาลขับไล่นายสี ศาลพิพากษาให้นายสีออกไปจากที่ดินแปลงนั้นและสั่งลงโทษจำคุกนายสีสิบเดือน ดังนั้นการครอบครองปรปักษ์ของนายสีในที่ดินของนายสายจึงเป็นการครอบครองโดยไม่สงบตามมาตรา 1382 ดังนั้นระยะเวลาที่ครอบครองหกปีจึงนับไม่ได้ แม้นายสีจะถูกจำคุกเพียงสิบเดือนและกลับเข้ามาครอบครองใหม่ นายสีครอบคอรงระยะเวลาในช่วงหลังนี้มาได้สี่ปี ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีขับไล่อีก ช่วงหลังครอบครองอีกสี่ปีก็นับไม่ได้อีก เพราะเป็นการครอบครองโดยไม่สงบ ข้ออ้างของนายสีที่อ้างว่าตนครอบครองปรปักษ์ครบสิบปีแล้ว โดยนับระยะเวลาการครอบครองครั้งแรกและครั้งหลังครบสิบปีจึงรับฟังไม่ได้ จะอ้างว่าตนขาดการยึดถือเป็นการขาดการยึดถือโดยไม่สมัครตามมาตรา 1384 ไม่ได้ เพราะเมื่อถูกฟ้องขับไล่จึงเป็นการครอบครองโดยไม่สงบ อายุความได้สิทธิไม่ครบองค์ประกอบติดต่อกันคลอดเวลา และจะใช้ตามข้อสันนิษฐานของกฎหมายตามมาตรา 1371 ก็ไม่ได้เพราะนายสายย่อมพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานได้
สรุป นายสียังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินของนายสายโดยการครอบครองปรปักษ์ และข้ออ้างของนายสีรับฟังไม่ได้
ข้อ 4 ที่ดินของนายแดงได้สิทธิภาระจำยอมสูบน้ำในบ่อน้ำบนที่ดินของนายดำไปใช้ในครัวเรือนรดน้ำต้นไม้ในที่ดินของนายแดงโดยการครอบครองปรปักษ์ ต่อมานายแดงได้ปรับปรุงที่ดินแปรงนั้นของนายแดงเพื่อใช้ทำสวนดอกไม้เพื่อตัดดอกไม้ไปขายที่ตลาด นายแดงจึงได้ขุดขยายบ่อน้ำบนที่ดินของนายดำให้กว้างขึ้นอีกห้าเมตร และลึกขึ้นอีกสามเมตร เพื่อจะได้มีปริมาณน้ำมาใช้ได้เพียงพอที่จะทำสวนไม้ตัดดอก เมื่อนายแดงขุดขยายบ่อน้ำและใช้น้ำมาได้หนึ่งปี นายดำได้มาเรียกร้องให้นายแดงจ่ายค่าใช้น้ำที่ในบ่อนั้นให้ตน มิฉะนั้นตนจะปิดบ่อน้ำบ่อนั้นไม่ให้นายแดงใช้อีกต่อไป ให้นักศึกษาอธิบายถึงสิทธิระหว่างนายแดงและนายดำในภาระจำยอมการใช้นำในบ่อน้ำนั้นตามกฎหมายลักษณะทรัพย์ให้ละเอียด
ธงคำตอบ
มาตรา 1388 เจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิทำการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์ หรือในสามยทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์
มาตรา 1389 ถ้าความต้องการแห่งเจ้าของสามยทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป ท่านว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ให้สิทธิแก่เจ้าของสามยทรัพย์ที่จะทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ได้
มาตรา 1391 เจ้าของสามยทรัพย์มีสิทธิทำการทุกอย่างอันจำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภาระจำยอมแต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง ในการนี้เจ้าของสามยทรัพย์จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภารยทรัพย์ได้ก็แต่น้อยที่สุดตามพฤติการณ์
เจ้าของสามยทรัพย์ต้องเสียค่าใช้จ่ายของตนเองรักษาซ่อมแซมการที่ได้ทำไปแล้วให้เป็นไปด้วยดี แต่ถ้าเจ้าของภารยทรัพย์ได้รับประโยชน์ด้วยไซร้ ท่านว่าต้องออกค่าใช้จ่ายตามส่วนแห่งประโยชน์ที่ได้รับ
วินิจฉัย ที่ดินของนายแดงได้สิทธิภาระจำยอมสูบน้ำในบ่อน้ำบนที่ดินของนายดำไปใช้ในครัวเรือนรดน้ำต้นไม้ในที่ดินของนายแดงโดยการครอบครองปรปักษ์ ต่อมานายแดงได้ปรับปรุงที่ดินแปลงนั้นของนายแดงใช้ทำสวนดอกไม้เพื่อตัดดอกไม้ไปขายที่ตลาด นายแดงจึงได้ขุดขยายบ่อน้ำบนที่ดินของนายดำให้กว้างขึ้นอีกห้าเมตร และลึกขึ้นอีกสามเมตรเพื่อจะได้มีปริมาณน้ำมาใช้ได้เพียงพอที่จะทำสวนไม้ตัดดอก นายแดงไม่สามารถทำได้ตามมาตรา 1388 และมาตรา 1389 เพราะนายแดงมีสิทธิเพียงใช้ภาระจำยอมตามมาตรา 1391 แต่เมื่อนายแดงขุดขยายบ่อน้ำและใช้น้ำมาได้หนึ่งปี นายดำได้มาเรียกร้องให้นายแดงจ่ายค่าใช้น้ำในบ่อน้ำให้ตนมิฉะนั้นตนจะปิดบ่อน้ำนั้นไม่ให้นายแดงใช้อีกต่อไป นายดำจะปิดบ่อน้ำไม่ได้ แต่ให้นายแดงทำบ่อน้ำให้เหมือนเดิมได้ โดยใช้ค่าใช่จ่ายของนายแดงเอง และนายดำมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ถ้าการขยายบ่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภารยทรัพย์ แต่นายดำจะเรียกร้องค่าใช้น้ำในบ่อได้เฉพาะในส่วนที่นายแดงใช้น้ำเพิ่มขึ้นจากการขยายบ่อเท่านั้น เพราะการได้ภาระจำยอมโดยการครอบครองปรปักษ์ไม่ต้องจ่ายค่าทดแทน และถ้าจะเรียกค่าใช้น้ำนายแดงก็ไม่ต้องทำบ่อน้ำให้เหมือนเดิม เพราะในส่วนที่ได้ใช้เพิ่มเป็นการได้โดยนิติกรรมสัญญา