การสอบไล่ภาค 2 ปีการศึกษา 2554

ข้อสอบกระบวนวิชา LAW4002  การว่าความ

คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ (คะแนนเต็มข้อละ 25 คะแนน)

Advertisement

ข้อ 1. นายเฉลิมได้ว่าจ้างให้นายฉลาด ทนายความยื่นฟ้องและดำเนินคดีกับนายแจ่มต่อศาลแพ่งในข้อหา ผิดสัญญาซื้อขาย ซึ่งต่อมาศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องคดีดังกล่าว นายฉลาดทนายความ จึงได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาซองศาลแพ่ง แต่ปรากฏว่าหลังจากนายฉลาดทนายความได้ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาแล้ว นายฉลาดทนายความไม่ได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ไห้แก่นายแจ่ม จำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้ เป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี

ให้วินิจฉัยว่า การกระทำของนายฉลาดทนายความในกรณีดังกล่าว มีความผิดตามข้อบังคับ สภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 หรือไม่ อย่างไร

ธงคำตอบ

ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529

ข้อ 12. กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อไปนี้ อันอาจทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของ

ลูกความ

(2)       จงใจละเว้นหน้าที่ ที่ควรกระทำอันเกี่ยวแก่การดำเนินคดีแห่งลูกความของตนหรือปิดบัง ข้อความที่ควรแจ้งให้ลูกความทราบ

วินิจฉัย

กรณีตามอุทาหรณ์ การที่นายฉลาดทนายความของนายเฉลิมได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา ของศาลแพ่งที่ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องคดีดังกล่าว แต่หลังจากได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษานั้นแล้ว นายฉลาดทนายความไม่ได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่นายแจ่มจำเลยภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้ เป็นเหตุให้ศาล มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของลูกความโดยการจงใจละเว้นหน้าที่ ที่ควรกระทำอันเกี่ยวแกการดำเนินคดีแห่งลูกความของตน จึงเป็นการประพฤติผิดมรรยาททนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 12. (2) (คำสั่งสภานายกพิเศษฯ ที่ 4/2540)

สรุป การกระทำของนายฉลาดทนายความในกรณีดังกล่าว มีความผิดตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 12. (2)

 

ข้อ 2. นายสมหมายมีบุตรชายสองคนคือ นายสมชาย และนายสมศักดิ์ ต่อมานายสมหมายถึงแก่กรรมลง โดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ และไม่ได้กำหนดให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก นายสมศักดิ์บุตรต่างมารดา ของนายสมหมายได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสมหมายเจ้ามรดก นายสมชายทราบเรื่องจึงมีความประสงค์ที่จะคัดค้านความไมเหมาะสมของการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ นายสมศักดิ์ โดยมีเหตุผลดังนี้

1)         นายสมศักดิ์ เป็นบุคคลที่ชอบเล่นการพนันและเมาสุราเป็นอาจิณ เป็นเหตุที่แสดงให้เห็นถึง ความไม่สามารถของผู้ร้องที่จะจัดการมรดกให้เป็นไปโดยสุจริต

2)         นายสมศักดิ์ เป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1718(3) เป็นการแสดงให้เห็นความขาดคุณสมบัติของผู้ร้องตามกฎหมาย

ดังนั้น ให้ท่านในฐานะทนายความของนายสมชาย ยื่นคำร้องคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกของ นายสมศักดิ์ ตามความประสงค์ของตัวความ (ให้ร่างใจความในคำร้องเทานั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึง แบบพิมพ์ศาล)

ธงคำตอบ

คำร้องคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดก

ข้อ 1. คดีนี้ ผู้ร้องได้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายสมหมายผู้ตาย โดยนายสมหมายผู้ตาย ไมได้ทำพินัยกรรมไว้ และไม่ได้ตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดก ดังความแจ้งแล้วนั้น

ข้อ 2. ผู้ร้องคัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายและเป็นทายาทโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอร้องคัดค้าน ความไมเหมาะสมของการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ร้อง ทั้งนี้ผู้ร้องคัดค้านมีเหตุผลดังต่อไปนี้

2.1       ผู้ร้องเป็นบุคคลที่ชอบเล่นการพนันและเมาสุราเป็นอาจิณ เป็นเหตุที่แสดงให้เห็นถึง ความไม่สามารถของผู้ร้องที่จะจัดการมรดกให้เป็นไปโดยสุจริตและยุติธรรม

2.2       ผู้ร้องเป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1718(3) เป็นการแสดงให้เห็นความขาดคุณสมบัติของผู้ร้องตามกฎหมาย

ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ผู้ร้องคัดค้านจึงขอคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดก ของผู้ร้อง โดยขอศาลได้โปรดยกคำร้องของผู้ร้องเสีย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

ลงชื่อ….(ลายมือชื่อนายสมชาย)….ผู้ร้องคัดค้าน

คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อนักศึกษา) ทนายผู้ร้องคัดค้านเป็นผู้เรียงและพิมพ์

ลงชื่อ…..(ลายมือชื่อนักศึกษา)….ผู้เรียงและพิมพ์

 

 

ข้อ 3. คดีแพ่งเรื่องหนึ่งจำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้แล้ว แต่ต่อมาโจทก์จำเลยตกลงชำระหนี้กันได้ ตามที่โจทก์ต้องการเหลือดอกเบี้ยคงค้างกันเพียงเล็กน้อย โจทก์ไม่ติดใจส่วนที่เหลือจึงประสงค์ จะถอนฟ้องจำเลย ในฐานะที่ท่านเป็นทนายโจทก์ ให้เรียบเรียงคำร้องขอถอนฟ้องให้กับโจทก์ (เรียบเรียงเฉพาะส่วนเนื้อหาคำร้อง โดยให้ลงชื่อเป็นผู้ร้องและเขียนคำร้องด้วย)

ธงคำตอบ

คำร้องขอถอนฟ้อง

ข้อ 1. คดีนี้ โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยและจำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีตามกฎหมายแล้ว แต่โจทก์และจำเลยตกลงกันได้ โดยจำเลยขอประนีประนอมยอมความและได้ชำระหนี้ให้โจทก์เป็นส่วนใหญ่ คงค้างบางส่วนเล็กน้อย โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องส่วนที่เหลืออีกต่อไป จึงข้อถอนฟ้องคดีนี้เสีย ขอศาลได้โปรดกรุณาอนุญาตด้วย

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

ลงชื่อ……(ลายมือชื่อนักศึกษา)…..ทนายโจทก์

คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อนักศึกษา) ทนายโจทก์เป็นผู้เรียงและพิมพ์

ลงชื่อ…..(ลายมือชื่อนักศึกษา)….ผู้เรียงและพิมพ์

ข้อ 4. จากการเตรียมคดีในสำนวนการสอบสวนได้ความว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 เวลาประมาณ 20.00 นาฬิกา นายน้อยกับนายนิดได้ใช้ไขควงยาว 7 นิ้ว งัดหน้าต่างบ้านพักของนายมั่งมีซึ่งเป็น นายจ้างของตนที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร แล้วเข้าไปทางหน้าต่างและลักเอา โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ราคา 16,000 บาท ของนายมั่งมี ทรัพย์สมบูรณ์ ซึ่งเก็บไว้ในบ้านพัก ดังกล่าวแล้วพากันหลบหนีไป ต่อมาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12.00 นาฬิกา เจ้าพนักงานจับนายน้อยกับนายนิดได้ที่บ้านพัก พร้อมกับยึดโทรศัพท์มือถือที่ลักมาจากบ้านของนายมั่งมี เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครหัวหมากทำการสอบสวน ชั้นสอบสวนนายน้อย และนายนิดให้การรับสารภาพ โทรศัพท์มือถือของกลางพนักงานสอบสวนคืนแก่นายมั่งมี ครั้นเมื่อ ครบกำหนดควบคุมตัว พนักงานสอบสวนจึงได้นำไปฝากขังที่ศาลอาญา ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.443/2555 ต่อมาเมื่อสอบสวนเสร็จ พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา

ข้อกฎหมาย ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้น กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษ…

มาตรา 335 ผู้ใดลักทรัพย์

(1) ในเวลากลางคืน

(3) โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้น เข้าไปด้วยประการใด ๆ

 

(3)       โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไมได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือ…

(7)       โดย… โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป

(8)       ในเคหสถาน

สมมุติว่า นักศึกษาเป็นพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา ผู้รับผิดชอบดำเนินคดีนี้ ให้นักศึกษา เรียงคำฟ้องเพื่อฟ้องนายน้อยกับนายนิดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เพื่อยื่นห้องต่อศาลอาญา โดยเรียงคำฟ้องเฉพาะภาคความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) และภาคการได้ตัวจำเลยมาดำเนินคดีเท่านั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงแบบพิมพ์คำฟ้องแต่อย่างใด

ธงคำตอบ

ถ้าข้าพเจ้าเป็นพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาผู้รับผิดชอบดำเนินคดีนี้ ข้าพเจ้าจะเรียง คำฟ้องเพื่อฟ้องนายน้อยและนายนิดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เพื่อยื่นฟ้องต่อคาสอาญา ดังต่อไปนี้

คำฟ้องอาญา

ข้อ 1. เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันกระทำการ อันเป็นความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ ได้บังอาจร่วมกันเอาโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ราคา 16,000 บาท (หนึ่งหมื่นหกพันบาท) ของนายมั่งมี ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยทั้งสองไปโดยทุจริต โดยในการลักทรัพย์ดังกล่าว จำเลยทั้งสองได้ใช้ไขควงยาว 7 นิ้ว งัดหน้าต่างบ้านพักอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัย ของผู้เสียหายอันเป็นการทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และเข้าไปทางหน้าต่างบ้านดังกล่าว ซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า

เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ข้อ 2. ต่อมาวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมกับ ยึดโทรศัพท์มือถือที่จำเลยทั้งสองลักเอาไปดังกล่าวในฟ้องข้อ 1. เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนทำการ สอบสวน

ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

โทรศัพท์มือถือของกลางพนักงานสอบสวนคืนแกผู้เสียหายไปแล้ว

ระหว่างสอบสวน จำเลยทั้งสองถูกควบคุมตัวตลอดมา ขณะนี้ต้องขังอยู่ตามหมายขังของศาลนี้ ตามคดีหมายเลขดำที่ ฝ.443/2555 ขอศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองมาพิจารณาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

Advertisement