คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วนมี 4 ข้อ
ข้อ 1. นายจอห์นทำงานกับบริษัทขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย นายจอห์นได้รับเงินเดือน ๆ ละ 200,000 บาท เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 บริษัทได้ส่งนายจอห์นมาทำงานกับบริษัทในประเทศไทยแห่งหนึ่งเพื่อสำรวจบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเป็นเวลา 3 เดือน เงินเดือนที่นายจอห์นได้รับในระหว่างที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 3 เดือนเป็นเงิน จำนวน 600,000 บาท บริษัทที่ประเทศมาเลเซียได้โอนเข้าบัญชีเงินเดือนของนายจอห์นที่ประเทศมาเลเซีย ในการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ นายจอห์นได้นำเงินเดือนที่ได้รับในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ติดตัวเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย จำนวน 200,000 บาท เมื่อทำงานเสร็จตามกำหนดนายจอห์นได้เดินทางกลับไปประเทศมาเลเซียในวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า เงินเดือนที่นายจอห์นได้รับระหว่างที่มาทำงานในประเทศไทย จำนวน 600,000 บาท และเงินที่นำติดตัวเข้ามา จำนวน 200,000 บาท จะต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ประเทศไทยหรือไม่ เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ เงินเดือนที่นายจอห์นได้รับในระหว่างที่มาทำงานกับบริษัทในประเทศไทยเพื่อสำรวจบ่อน้ำมันในอ่าวไทย จำนวน 600,000 บาท นายจอห์นต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับประเทศไทย เพราะเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่งานที่ทำในประเทศไทยตามมาตรา 41 วรรคแรกแห่งประมวลรัษฎากร
ส่วนเงินที่นำติดตัวเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 200,000 บาท แม้จะเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศ และได้นำเข้ามาในประเทศไทยในปีเดียวกับ ที่อยู่ในประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร แต่นายจอห์นก็อยู่ในประเทศไทย ในปีภาษี 2551 ไม่ครบ 180 วัน ตามมาตรา 41 วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร นายจอห์นจึงไม่ต้องนำเงินได้จำนวนดังกล่าวมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่ประเทศไทย เพราะไม่เข้าหลักการตามมาตรา 41 วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ 2. นายเอกและนางโทเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งสองมีบุตรที่อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดู 1 คน คือ นายสิน อายุ 22 ปี เป็นคนวิกลจริต นายเอกทำงานอยู่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งได้รับเงินเดือน ๆ ละ 40,000 บาท นางโทมิได้ทำงาน แต่นางโทได้ประกันชีวิตไว้กับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต กรมธรรม์มีกำหนด 20 ปี ส่งเบี้ยประกันชีวิตปีละ 20,000 บาท นายเอกและนางโทได้อยู่ร่วมกันตลอดปีภาษี ดังนี้ให้ท่านวินิจฉัยว่า
(ก) ในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี นายเอกจะนำนางโทและนายสินบุตรชายมาหักลดหย่อนได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
(ข) นายเอกจะนำเบี้ยประกันชีวิตของนางโทมาหักลดหย่อนได้หรือไม่ เพียงใด เพราะเหตุใด
(ค) เงินเดือนของนายเอกจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือไม่ จงอธิบาย
แนวคำตอบ
(ก) ในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี นายเอกจะนำนางโทมาหักลดหย่อนได้ เพราะนางโทเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีรายได้ หักลดหย่อนได้ 30,000 บาท ตามมาตรา 47(1) (8) แห่งประมวลรัษฎากร
สำหรับนายสินบุตรชาย นายเอกจะนำมาหักลดหย่อนไม่ได้ แม้นายสินจะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของนายเอก แต่นายสินมีอายุ 22 ปีแล้ว และเป็นคนวิกลจริตที่ไม่ได้ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะนำมาหักลดหย่อนได้ ตามมาตรา 47(1)(ค)
(ข) นายเอกจะนำเบี้ยประกันชีวิตของนางโทมาหักลดหย่อนได้ เพราะความเป็นสามีภริยาระหว่างนายเอกและนางโทได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ให้หักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตของนางโทภริยาได้ 10,000 บาท ตามมาตรา 47(1)(ง) วรรคสอง
(ค) เงินเดือนของนายเอกจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร หักภาษีเงินได้ไว้ทุกคราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ3. บริษัท ไทยเทเลคอม จำกัด เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ในรอบระยะเวลาบัญชี 2550 ได้เปิดสาขา (Branch) ที่ประเทศกัมพูชาและดำเนินกิจการด้านการสื่อสาร โดยมีรายได้จำนวน 800 ล้านบาท แต่ฝากไว้ที่ธนาคารในประเทศสิงคโปร์ไม่นำเข้ามาในประเทศไทย รวมทั้งมีรายได้ในประเทศไทย จำนวน 1,000 ล้านบาท จงวินิจฉัยว่า บริษัท ไทยเทเลคอม จำกัด มีภาระต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรดังกล่าวอย่างไร เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ บริษัทไทยเทเลคอม จำกัด เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ดังนั้น ในรอบระยะเวลาบัญชี 2550 ต้องนำรายได้ทั้งหมดจำนวน 1,800 ล้านบาท มาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 66 วรรคแรกแห่งประมวลรัษฎากร โดยหลักรับรู้รายได้ทั่วโลก (Worldwide Income Basis) แม้ว่ารายได้นั้นจะไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทยก็ตาม
ข้อ 4. บริษัท ไทยเดินทะเลระหว่างประเทศ จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ได้ประกอบกิจการรับขนสินค้าในรอบระยะเวลาบัญชี 2550 ดังนี้
(1) รายได้จากการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน จำนวน 200 ล้านบาท
(2) รายได้จากการขนส่งสินค้าจากประเทศอินเดียเข้ามาในประเทศไทย 100 ล้านบาท
จงวินิจฉัยว่า บริษัท ไทยเดินทะเลระหว่างประเทศ จำกัด ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ดังกล่าวตามประมวลรัษฎากรอย่างไร เพราะเหตุใด
แนวคำตอบ บริษัทไทยเดินทะเลระหว่างประเทศ จำกัด เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ดังนั้น ในรอบระยะเวลาบัญชี 2550 ต้องนำรายได้ทั้งหมดจำนวน 300 ล้านบาท มาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 66 วรรคแรกแห่งประมวลรัษฎากร