การสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2550
ข้อสอบกระบวนวิชา LAW3035 การสืบสวนและสอบสวน
คำแนะนำ ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน มี 4 ข้อ
ข้อ 1 จงอธิบายถึงวิธีการสืบสวนคดีอาญาว่ามีอะไรบ้าง
ธงคำตอบ
วิธีการสืบสวนคดีอาญามี 5 วิธีคือ
1 การซักถามบุคคล
2 การตรวจสถานที่เกิดเหตุ
3 การเฝ้าตรวจบุคคลสิ่งของและสถานที่โดยวิธีปิด
4 การใช้สายลับ
5 ข่าวกรองตำรวจ
ข้อ 2 การสอบสวนมีความสำคัญต่อการฟ้องคดีอาญาของพนักงานอัยการอย่างไร ให้อธิบายพร้อมยกหลักกฎหมายประกอบคำอธิบาย
ธงคำตอบ
มาตรา 120 ห้ามมิให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีใด โดยมิได้มีการสอบสวนในความผิดนั้นก่อน
วินิจฉัย
จากบทบัญญัติมาตรา 120 อำนาจของพนักงานอัยการในการฟ้องคดีอาญาทั้งปวงนั้นหมายถึงคดีอาญาทุกความผิด ไม่ว่าจะเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวหรือต่ออาญาแผ่นดินก็ตาม พนักงานอัยการจะฟ้องคดีได้ก็ต่อเมื่อมีการสอบสวนโดยพนักงานสอบสวนในความผิดนั้นแล้วเท่านั้น อนึ่ง การสอบสวนนั้นจะต้องชอบด้วยกฎหมายด้วย ถ้าการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเป็นไปโยไม่ชอบ พนักงานอัยการก็ไม่มีอำนาจฟ้อง (ฎ. 3831/2532)
ข้อ 3 นายสนิทเป็นทนายความของนายสนอง (ตัวความ) ต่อมาปรากฏว่านายสนิทรับชำระเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทจากฝ่ายตรงข้าม โดยที่นายสนองไม่ได้มอบหมายให้นายสนิทมีอำนาจรับเงินจากฝ่ายตรงข้าม และนายสนิทได้เบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไว้เป็นของตนโดยทุจริต ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่า ในความผิดอาญาที่นายสนิทได้กระทำไปนั้นใครคือผู้เสียหาย เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 2(4) ในประมวลกฎหมายนี้
(4) ผู้เสียหาย หมายความถึง บุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 4, 5 และ 6
วินิจฉัย
นายสนอง (ตัวความ) ไม่เป็นผู้เสียหาย ผู้เสียหายในกรณีนี้คือฝ่ายตรงข้ามที่เป็นเจ้าของเงิน ตาม ป.วิ. อ. มาตรา 2 (4) เนื่องจากเงินดังกล่าวนายสนิททนายความไม่ได้รับมอบอำนาจจากนายสนองให้มีอำนาจรังเงินจากฝ่ายตรงข้าม เมื่อฝ่ายตรงข้ามมอบเงินให้แก่นายสนิท เงินนั้นก็ยังคงเป็นของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้เป็นของนายสนิทแต่อย่างใด ดังนั้น นายสนองไม่เป็นผู้เสียหายและไม่มีอำนาจร้องทุกข์ (ฎ. 815/2535 (ที่ประชุมใหญ่))
ข้อ 4 จากข้อเท็จจริงตามข้อสอบในข้อ 3 ข้างต้นนั้น ถ้าต่อมาปรากฏว่านายสนองได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายสนิทในความผิดอาญาดังกล่าว ดังนี้ ให้วินิจฉัยว่า พนักงานสอบสวนจะมีอำนาจในการสอบสวนคดีนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ธงคำตอบ
มาตรา 2(4) ในประมวลกฎหมายนี้
(4) ผู้เสียหาย หมายความถึง บุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำความผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 4, 5 และ 6
มาตรา 2(7) ในประมวลกฎหมายนี้
(7) คำร้องทุกข์ หมายความถึง การที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้นจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดรับโทษ
มาตรา 121 วรรคสอง แต่ถ้าเป็นคดีความผิดโดยส่วนตัว ห้ามมิให้ทำการสอบสวน เว้นแต่จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ
วินิจฉัย
นายสนอง (ตัวความ) ไม่เป็นผู้เสียหาย ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2(4) นายสนองจึงร้องทุกข์ไม่ได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่านายสนองได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้สอบสวนดำเนินคดีกับนายสนิท การร้องทุกข์ดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.วิ.อ มาตรา 2(4) และ (7) และเมื่อการร้องทุกข์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวนตาม ป.วิ.อ มาตรา 121 วรรคสอง