RAM1111 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

แนวข้อสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2566

Advertisement

Directions: Choose the best answer.

Part I: Structure (ภาคโครงสร้าง)

1. Adam often __________ out with friends after work.
(1) go
(2) goes
(3) has gone
(4) is going

ตอบ 2 ใช้ Present Simple Tense (S + V1) แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ สม่ำเสมอ ทุกวัน เป็นนิสัย มักมีคำบอกเวลา เช่น always, usually, often (บ่อย), normally (โดยปกติ), regularly(อย่างสม่ำเสมอ), frequently (บ่อย), sometimes (บางครั้ง), every + ช่วงเวลา เช่น every month, every day (ทุกวัน) เป็นต้น สำหรับข้อนี้มีตัวบอกใบ้ให้เดาได้คือ often ตอบ V1 เอกพจน์ ในตัวเลือก goes

2. Alan expects __________ all A’s this semester.
(1) gets
(2) get
(3) to get
(4) getting

ตอบ 3 คำกริยาที่ตาม infinite with to คือ to + V1 ออกทุกเทอม

aim endeavor learn opt seek appear
expect long plan seem arrange fail
manage prepare tend attempt forget mean
pretend want choose happen need prove
wish decide hope neglect resolve

กริยา expect มี to ตาม = expect to get

3. Peter __________ stop eating junk food and exercise more.
(1) must
(2) could
(3) might
(4) would

ตอบ 1 เป็นเรื่องกริยาช่วย (ดูในตัวเลือกจะเป็นประเภทกริยาช่วย) เรามีหลักดังนี้
must แสดงการบังคับ จำเป็นว่า “ต้อง” เช่นข้อนี้ “ปีเตอร์ต้องเลิกกินอาหารขยะและออกกำลังให้มากขึ้น”
could เป็นรูปอดีตของ can ซึ่งมักใช้แสดง “สามารถ” เช่น can/could speak Thai = สามารถพูดภาษาไทย
might เป็นรูปมาจาก may แสดงการคาดคะเน “อาจจะ” เช่น may/might rain = อาจจะฝนตก
would มาจาก will แสดงอนาคต “จะ” เช่น will/would go = จะไป

4. I have five brothers; Andy is __________ one.
(1) young
(2) younger
(3) a young
(4) the youngest

ตอบ 4 เป็นเรื่องการเปรียบเทียบ ถ้าเปรียบเทียบเท่ากันใช้ as ……as เปรียบเทียบของ 2 อย่าง/คน/สิ่งของ ใช้ขั้นกว่า แต่ถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่ 3 อย่าง/คน หรือมีคำว่า of all (ของทั้งหมด), in + สถานที่แสดงถึงขั้นสุดในนั้น เช่น in the world, in my family เป็นต้น ใช้ขั้นสุด ซึ่งในประโยคแรก I have five brothers (ฉันมีพี่ ๆ น้อง ๆ 5 คน) ก็ต้องตอบเป็นขั้นสุด ก็คือ the youngest โดยคุณศัพท์ young ทำเป็นขั้นสุดเติม -est ต่อท้ายคำ เป็น youngest และใส่ “the” นำหน้าขั้นสุด

5. Jack won’t tell anyone about this, __________?
(1) isn’t Jack
(2) will he
(3) may him
(4) does not Jack

ตอบ 2 เป็นเรื่อง tag ส่วนหาง มีหลักดังนี้ กำหนดว่าถ้าข้างหน้าเป็นประโยคบอกเล่าข้าง หลังจะต้องเป็นรูปปฏิเสธรูปย่อ มี 2 จุด ที่ต้องดูนั่นคือ เรื่องกริยากับเรื่องคำสรรพนาม เราเห็นประโยคให้ข้อนี้มีกริยาตัวย่อ won’t tell มาจาก will not tell แสดงว่าเป็นปฏิเสธแล้ว ทำส่วนท้ายต้องเป็นบอกเล่าคือ will และ Jack เป็นคำนามเพศชาย (ชื่อแจ็ค) ทำส่วนท้ายต้องเป็นคำสรรพนามเพศชายคือ he จึงตอบ will he ตัวเลือกข้อ 2 เทียบดูตัวอย่างอื่นเพิ่มเติมนะ

  • Jane will be here soon, won’t she?

  • There was a lot of rain, wasn’t there?

  • Maggi won’t be late, will she?

  • I am late, aren’t I? กรณีถ้าเป็น am ทำเป็นปฏิเสธส่วนหลังต้องใช้ aren’t I

  • I am not late, am I?กรณียกเว้น ถ้าขึ้นต้นประโยคมี 2 กรณี ให้ตอบส่วนหลังคงที่ เช่น (ออกบ่อยเหมือนกัน)
  • Let’s go home, shall we? ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบ shall we

  • Clean the table, will you? ขึ้นต้นด้วย กริยาช่องที่ 1 ให้ตอบ will you

6. The man __________ with a BBA from Cambridge University in 2010.
(1) graduate
(2) graduates
(3) graduated
(4) will graduate

ตอบ 3 ใช้ Past Simple Tense (S + V2) แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีตมักมีคำบอกเวลาเช่น yesterday (เมื่อวานนี้), ago (ที่ผ่านมา), last (year/month/night), in + ปีอดีต เช่นข้อนี้ in 2010 (ปัจจุบันเป็นปี 2024) ฉะนั้น จึงตอบ V2 = graduated

7. I __________ like ice-cream and apple pie.
(1) have
(2) are
(3) shall
(4) do

ตอบ 4 จากตัวเลือกเป็นเรื่องของกริยาต่าง ๆ มีหลักดังนี้

  1. have ใช้กับ have like (ซึ่งเป็นกริยาช่องที่ 1) ไม่ถูกต้อง เพราะกริยา have จะตามด้วยกริยาช่องที่ 3 เสมอ

  2. are ใช้กับประธาน I ผิดไปเลย เพราะ I ใช้กับ am

  3. shall like จะไม่นิยม ที่นิยมใช้มี would like ส่วน

  4. do + V1 (like) ถูกต้อง ซึ่งใช้ do/does/did นำหน้ากริยาช่องที่ 1 ได้ เป็นการเน้นย้ำกริยาช่องที่ 1 เช่น

  • I do like John. ใช้ do like เป็นการเน้นว่าชอบจริง ๆ ฉันชอบจอห์นจริง ๆ

8. What __________ you do after the examination?
(1) could have
(2) have to
(3) ought to
(4) will

ตอบ 4 เป็นประโยคคำถาม กริยาที่สามารถยกไว้หน้าประธาน (you) ก็คือ will ซึ่งแสดง “อนาคต” ว่าจะทำอะไรหลังสอบเสร็จ? What will you do…. ?
1. ใช้ could have ยกไว้หน้าประธานไม่ถูกต้องหรือดูว่า could have +V3 แต่หลัง you มี do เป็น V1 จึงผิด
2. ใช้ have to ยกไว้หน้าประธานไม่ถูกต้อง ถ้าทำเป็นคำถามของ have to ต้องใช้ verb to do มาช่วย เช่น What do you have to do……?

3. ought to ก็เช่นกันทำเป็นคำถามยกไว้หน้าประธานทั้งดุ้นไม่ได้ ถ้ายกๆ ได้แต่ ought เช่น What ought you to do ……..? เป็นต้น

9. A bus to Omaha __________ every three hours.
(1) departs
(2) departed
(3) is departing
(4) was departing

ตอบ 1 ใช้ Present Simple Tense (S + V1) กับตารางการเดินทางที่ทำตามกำหนดเวลาประจำ เช่น รถประจำทางออกทุก 3 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน ก็ตอบกริยาช่องที่ 1 ในข้อนี้ตอบ V1 เอกพจน์คือ departs

10. When I arrived, I didn’t see __________ in the classroom.
(1) some
(2) anybody
(3) none
(4) no one

ตอบ 2 เป็นเรื่องคำสรรพนาม some (บางจำนวน) นิยมใช้ในประโยคบอกเล่า แต่โจทย์นี้มี didn’t = did not เป็นปฏิเสธ ซึ่ง anybody = “ใครก็ตาม” มักนิยมใช้ในประโยคปฏิเสธ เช่น
– I didn’t see anybody in the classroom. (ฉันไม่เห็นใครสักคนในห้องเรียน) ไม่ว่าใครก็ตาม = anybody
ส่วน none, no one = “ไม่มีใคร” มีความหมายเป็นปฏิเสธอยู่จะไม่ใช้ not ซ้อนอีก เช่นถ้าใช้จะเป็น
– I see no one in the classroom. (จะไม่ต้องมี did not มาซ้อนอีก)

11. You __________ not eat in class!
(1) would
(2) ought to
(3) have to
(4) shall

ตอบ 4 ดูตัวเลือกเป็นเรื่องของกริยาช่วยต่าง ๆ
1. would เป็นรูปอดีตของ will แสดงอนาคต แต่โจทย์นี้จะใช้ในรูปปัจจุบัน เป็นการแนะนำ ใช้ would ไม่ถูก
2. ought to not ผิด ในรูปปฏิเสธ จะวาง not ไว้ตรงกลาง เป็น ought not to
3. have to not ผิด ในรูปปฏิเสธ จะใช้ verb to do จะเป็น do not have to
4. shall ในที่นี้เป็นการเสนอ แนะนำ ว่า shall not eat = ไม่ควรกิน
หรือ ถ้าเราดูจากโครงสร้างแล้วตัวเลือก 2 – 3 ผิดก่อนแล้ว คงเหลือ would /shall + not + V1 ได้ แล้วมาดูโจทย์ว่าจะใช้ would/shall ตัวไหน

12. The woman __________ with Mr. Benson will be our new manager.
(1) talks
(2) talk
(3) talking
(4) to talk

ตอบ 3 รูป Participle ที่เจอบ่อย ๆ ได้แก่
1. Present Participle (Ving) ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์วางไว้หน้าคำนามหรือหลังคำนามที่มันขยาย มีความหมายเป็น ผู้กระทำเอง เช่น
– The crying girl is Sue’s younger sister. (เด็กผู้หญิงที่ร้องไห้คือน้องสาวของซู)
– The man standing in the field will be our new teacher.
(ผู้ชายที่ยืนอยู่ในสนามจะเป็นครูคนใหม่ของเรา)
– The woman talking with Mr. Benson will be our new manager.
(ผู้หญิงที่คุยกับคุณเบ็นสันจะเป็นผู้จัดการคนใหม่ของเรา)
2. Past Participle (V3) ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์วางไว้หน้าคำนามหรือหลังคำนามที่มันขยาย มีความหมายเป็น ผู้ถูกกระทำหรือบอกสภาพ เช่น

– Beware of the fallen trees. (ระวังต้นไม้ล้ม)
– The meeting canceled yesterday was about next year’s budget.
(การประชุมที่ถูกยกเลิกเมื่อวานเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณปีหน้า)

13. Do you want __________ out tonight, Shawn?
(1) go
(2) to go
(3) going
(4) gone

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 2. ประกอบ กริยา want เป็นกริยาที่มี to ตาม จึงตอบ want to go

14. Joey __________ to see a doctor this afternoon.
(1) went
(2) was going
(3) has gone
(4) is going

ตอบ 4 ที่โจทย์มี to คาอยู่ ต้องหากริยาที่อยู่ข้างหน้าที่มาติดกับ to ได้นั่นคือ is going to + V1 ที่เราเรียนเป็นการแสดง “กำลังจะ” เป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้และค่อนข้างแน่นอน ก็คือใช้ is going to แทน will ได้ ในการแสดงอนาคตที่มีคำบอกเวลา เช่น tomorrow, soon (ในไม่ช้า), this afternoon (บ่ายนี้) เช่น
– Mary is going to see her mother next weekend. (แมรี่กำลังจะไปหาแม่ของเธอสัปดาห์หน้า) เหมือน = Mary will see her mother next weekend.

15. We __________ have trusted them. They’re scammers!
(1) needn’t
(2) can’t
(3) shouldn’t
(4) won’t

ตอบ 3 จะเห็นที่โจทย์มี have trusted (have V3) หาคำที่นำหน้าได้ ซึ่งถ้าข้างหลังเป็น have V3 แสดงถึง รูปอดีตที่น่าจะได้ทำ หรือไม่ได้ก็คือ should have V3 = should have trusted ซึ่ง
– should + have V3 มีความหมายว่า “ควรทำ” (แต่ความจริงไม่ได้ทำในอดีต)
– shouldn’t + have V3 มีความหมายว่า “ไม่ควรทำ” (แต่ความจริงได้ทำไปแล้วในอดีต)
= We shouldn’t have trusted them. They’re scammers!
(เราไม่ควรไว้ใจพวกเขา พวกเขาเป็นพวกหลอกลวง!
ส่วน needn’t = need not + V1 ใช้แสดง “ไม่จำเป็นต้อง” และ can’t / won’t + V1

16. Amanda is very busy with work. She doesn’t have __________ time to relax.
(1) many
(2) much
(3) several
(4) a number of

ตอบ 2 ดูตัวเลือกให้เติมคำบอกปริมาณ นำหน้าคำนาม ก่อนให้ให้ดูว่าเป็นคำนามนับได้หรือนับไม่ได้
– many / several / a number of + คำนามพหูพจน์ เช่น many/several / a number of students
– much + คำนามนับไม่ได้ เช่นข้อนี้ much time (time เวลา เป็นคำนามนับไม่ได้)

17. Elizabeth is __________ nurse at Mayo Clinic in Rochester.
(1) a
(2) an
(3) the
(4) (blank)

ตอบ 1 ใช้ “a/an” นำหน้าคำนามที่แสดงอาชีพ เช่น a singer (นักร้อง), a lawyer (ทนายความ), a doctor (หมอ), a nurse (พยาบาล), a student (นักเรียนนักศึกษา), an engineer (วิศวกรกร), a scientist (นักวิทยาศาสตร์) เป็นต้น

18. Tim __________ at Yale for two years.
(1) studies
(2) is studying
(3) has studied
(4) was studying

ตอบ 3 ใช้ Present Perfect (S + has/have + V3) หรือจะตอบ Present Perfect Continuous Tense (S + has/have been + Ving) แสดง เหตุการณ์ที่ เกิดติดต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและจะดำเนินต่อไปในอนาคต ออกสอบทุกเทอมนะคะคำบอกเวลาไว้ เช่น for (เป็นเวลา), since (ตั้งแต่), just (เพิ่งจะ), recently (เร็ว ๆนี้), lately, yet, already, ever, never, how long , all day (ตลอดวัน), all evening (ตลอดเย็น) สำหรับข้อนี้ มีคำบอกเวลาคือ for two years จึงตอบ has studied

19. The car __________ by my dad next Saturday.
(1) fixes
(2) is fixing
(3) has been fixed
(4) will be fixed

ตอบ 4 ข้อนี้มีให้วิเคราะห์ 2 ประเด็น อันดับแรกเราเห็นคำบอกเวลา next Saturday (วันเสาร์หน้า) เป็นอนาคต ซึ่งใช้โครงสร้าง will + V1 = will fix นั่นเอง แต่จะเห็นว่าตัวเลือกไม่มี เพราะให้คิดอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ดูประธานเป็นสิ่งของ (The car = รถ เป็นสิ่งของ) หรือดูคำว่า “by” (โดย) จะรู้ทันทีว่าประโยคหรือประธานเป็นสิ่งของต้องใช้รูปถูกกระทำ (เพราะรถไปซ่อมเองไม่ได้อยู่แล้ว จะต้องถูกซ่อมโดย….) นั่นคือการตอบรูป Passive Voice ถูกกระทำซึ่งต้องลงท้ายกริยาช่องที่ 3 เสมอ เราก็จะได้ตัวเลือกแคบลงคือ ตัวเลือก 3 /4 แต่เราตอล 4 เพราะมาจากรูปอนาคต will V1 ทำเป็นรูปถูกกระทำจะใช้ will be + V3 = will be fixed

20. Mom wants her bedroom __________.
(1) to be expanded
(2) be expanding
(3) expands
(4) had expanded

ตอบ 1 โครงสร้าง Passive Voice ของกริยา want ซึ่งเราเห็น want + สิ่งของ (her bedroom) ใช้โครงสร้าง want + สิ่งของ + to be V3 = want to be expanded หรือเทียบตัวอย่างอื่น เช่น
– Mom wants the room to be cleaned. = แม่อยากให้ห้องสะอาด

21. Uncooked food __________ harm your health.
(1) does
(2) can
(3) is
(4) need

ตอบ 2 harm เป็นกริยาช่องที่ 1 ต้องหากริยาช่วยที่สามารถตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ได้นั่นคือ can ซึ่งเป็นการแสดง “สามารถ” เช่น
– Mary can speak Thai. (แมรี่พูดภาษาไทยได้)
– Uncooked food can harm your health. (อาหารดิบอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้)
ส่วน does ถึงแม้จะตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เพื่อแสดงการเน้นย้ำ แต่ข้อนี้ใช้เป็นการแสดง “สามารถ” และ is ตามด้วย Ving หรือ V3 ได้ แต่ V1 ไม่ได้ และ need ตามด้วย Ving หรือ to V1 ได้

22. __________ Janet __________ very busy with school lately?
(1) Is ; being
(2) Will ; be
(3) Was ; being
(4) Has ; been

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 18. ประกอบ มีคำบอกเวลา lately (หมู่นี้ ไม่นานมานี้) ตอบ Present Perfect Tense (has/have + V3) ตรงกับตัวเลือกข้อ 4 ทำเป็นประโยคคำถาม ยก Has ไว้หน้า Janet

23. __________ I take your message, sir?
(1) Need
(2) Should
(3) May
(4) Will

ตอบ 3 กริยาช่วย May ใช้ในการขออนุญาตหรือขอร้อง ข้อนี้เป็นการขออนุญาต เช่น
– May I keep this pen? (ฉันขอเก็บปากกาด้ามนี้ไว้ได้มั้ย?)
– May I take your message, sir? (ผมขอรับข้อความของท่านได้ไหมครับ?)
ส่วนกริยาช่วย Need แสดง “จำเป็น/ต้อง” , should “ควรจะ” แสดงการแนะนำ, will แสดงอนาคต

24. Janet __________ born in a small town in Illinois.
(1) was
(2) had
(3) did
(4) None is correct

ตอบ 1 เราเห็นกริยา born เป็นกริยาช่องที่ 3 มาจาก bear bore born (เกิด) สำหรับคำนี้ต้องใช้รูปถูกกระทำเสมอ คือ Passive Voice เพราะทุกคนต้องถูกเกิด ไม่มีใครเกิดเองและเมื่อพูดถึงถูกเกิดก็คือเป็นอดีตด้วยใช้ was born (ถูกเกิด) ส่วนตัวเลือกข้อ 2 had + V3 แต่ไม่ใช่รูปถูกกระทำ เพราะคำว่า born ต้องใช้กับ verb to be (was) เพราะถูกเกิด และ did ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ได้เท่านั้น

25. __________ you gone to Tokyo yet?
(1) Are
(2) Do
(3) Will
(4) Have

ตอบ 4 กริยาหลังประธาน (you) มี gone ซึ่งเป็นกริยาช่องที่ 3 มาจาก go went gone (ไป) กริยา Have เท่านั้นที่ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 กับประธาน you แสดงอาการกระทำเอง เช่น You have gone (คุณได้ไป คือไปเอง กระทำเอง) ส่วน are (verb to be) ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 ได้แต่ใช้กับประธานถูกกระทำ เช่นในข้อที่ผ่าน Janet was born (เจเน็ตเกิด ก็คือถูกเกิด เพราะเกิดเองไม่ได้) ใช้ถูกกระทำได้ ส่วน do, will ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เท่านั้น จึงไม่ถูกต้อง

26. Joe likes __________ games.
(1) excite
(2) excites
(3) exciting
(4) excited

ตอบ 3 เป็นเรื่องคุณศัพท์ (adj.) ถ้าลงท้ายด้วย -ed แสดง “รู้สึก” เช่น interested (รู้สึกสนใจ), surprised (รู้สึกประหลาดใจ) , excited (รู้สึกตื่นเต้น) แต่ถ้าลงท้าย -ing เช่น interesting (น่าสนใจ), exciting (น่าตื่นเต้น) เป็นต้น ให้ดูว่าใส่วางไว้ตรงไหน หลัง verb to be หรือหน้าคำนาม สำหรับข้อนี้ให้เติมไว้หน้าคำนาม เราใส่คุณศัพท์วางไว้หน้าคำนามที่ขยาย ฉะนั้นคำนามจะตัวกำหนดว่าจะใส่แบบ -ed หรือ -ing ถ้าคำนามเป็นสิ่งมีชีวิตใช้รูป -ed ถ้าสิ่งของ ใช้ -ing ดูตัวอย่าง
– I am interested in this book. This is an interesting book.
– I feel excited. It is an exciting game. (ฉันรู้สึกตื่นเต้น มันเป็นเกมที่น่าตื่นเต้น)

27. Nan lives on the __________ floor of the condo building.
(1) eleven
(2) twelfth
(3) high
(4) (blank)

ตอบ 2 การบอกจำนวนตัวเลข มีดังนี้
1. ตัวเลขทั่วไป (Cardinal Number) คือ ตัวเลขที่บอกจำนวนของสิ่งต่าง ๆ ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไร เช่นบอก ราคา จำนวนคน จำนวนสิ่งของ บอกเวลา เช่น one, two, three

2. ตัวเลขอันดับที่ (Ordinal Number) คือ ตัวเลขที่บอกอันดับ เช่น วันที่ ชั้นของอาคาร ลำดับคน ลำดับสิ่งของ เป็นต้น เช่น first, second, third, fourth, ninth, tenth, twelfth, thirteenth ฯลฯ ดูตัวอย่าง
– My friends lends me two books. (เพื่อนของฉันให้ยืมหนังสือสองเล่ม) เลขทั่วไป
– Meet me on the third floor at noon, okay? (เจอฉันที่ชั้น 3 ตอนเที่ยงนะ โอเคมั้ย) เลขอันดับที่
– Nan lives on the twelfth floor on the condo building. (แนนอาศัยอยู่บนชั้นสิบสองของคอนโด)

28. No one likes __________ at.
(1) laugh
(2) to laugh
(3) laughing
(4) to be laughed

ตอบ 3 กริยาที่ตามมาจะเป็น Gerund ก็คือ ตามด้วย Ving ได้แก่

ด้วยคำเฉลยอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ

admit dread fancy resent consider
allow dislike imagine resist like
appreciate enjoy involve postpone permit
avoid endure keep prefer keep
consider escape mind prevent advise
delay excuse miss quit advise
defer finish practice stop hate
deny forgive risk suggest require

เช่น

  • She has finished writing her thesis.

  • He enjoys watching Korean series.

29. __________ is very hot this summer!
(1) One
(2) This
(3) It
(4) Each

ตอบ 3 คำสรรพนามที่ไม่ได้เจาะจง มักขึ้นต้นด้วย It is / It was เป็นประธานตามด้วย Verb to be ใช้กับการบอกอากาศ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ บอกระยะทางและเวลา เป็นต้น เช่น
– It is hot. (อากาศร้อน)
– It is warmer today. (วันนี้อากาศอบอุ่น)
– It is cloudy. (เมฆครึ้ม)
– It is sunny. (แดดจัดดี)
– It is raining. (ฝนกำลังตก)
– It is half past six. (หกโมงครึ่งแล้ว)
– It is Monday today. (วันนี้วันจันทร์)
– It is about five miles from here to Bangapi. (ระยะทางประมาณ 5 ไมล์จากที่นี่ถึงบางกะปิ)

30. While we __________ the concert, this singer fainted.
(1) enjoy
(2) enjoyed
(3) have enjoyed
(4) were enjoying

ตอบ 4 เห็น as หรือ while เป็น 2 เหตุการณ์ ให้เดาปัจจุบันคู่กับปัจจุบัน และอดีตคู่กับอดีต ออกทุกเทอมในการเชื่อม while หรือ as มีทั้งปัจจุบันและอดีต

1. S + V2 while / as S + was/were Ving
2. S + was/were Ving while / as S + was/were Ving
3. S + is/am/are +Ving while S + is/am/are Ving
4. While S + was/were Ving , S + was/were Ving
5. While/As + S + was/were Ving, S + V2
ตอบ were enjoying ให้มา fainted
หรือนึกเมื่อเห็นคำเชื่อม While หรือ As นึกถึงกริยารูป -ing เช่นข้อนี้ตอบ were enjoying

31. We haven’t heard about Teera __________ he left the Line group.
(1) for
(2) consequently
(3) so
(4) because

ตอบ 4 ให้เติมคำเชื่อมความ ดูแต่ละคำเชื่อมว่าเข้ากับประโยคที่ให้มาตัวไหน
1. for = because = เพราะว่า แต่ต้องตามด้วยประโยคก็คือมีประธาน + กริยาหลัก และถ้าใช้คำเชื่อม for จะต้องมีเครื่องหมายคอมม่า (,) คั่นก่อนหน้า for เช่น We haven’t heard about Teera, for he left the Line group. จึงตอบ because ที่เชื่อมได้เลยไม่ต้องเครื่องหมายอะไรคั่น เข้ากับประโยคว่า “เราไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับเทียร่าเพราะเขาออกจากกลุ่มไลน์แล้ว”
2. consequently = as a result of = ผลที่ตามมา และ so = ดังนั้น ไม่เข้ากับประโยคที่ให้มา

32. __________ tradition, the cathedral offered the full range of services every day.
(1) Since
(2) In accordance with
(3) For
(4) Therefore

ตอบ 2 เรามาดูหลักโครงสร้างของคำเชื่อมก่อนนะ Since, For, Therefore ตามด้วยประโยค ก็คือตามด้วย ประธาน + กริยาหลัก ถ้าเรารู้หลักโครงสร้างเราก็ไม่ต้องแปลประโยคเลย ส่วน In accordance with + คำนามหรือวลีซึ่งเป็นกลุ่มคำนาม ฉะนั้นดูที่โจทย์มีคำนามตัวเดียวคือ tradition ไม่มีกริยา ก็คือนามวลี ก็ตอบ In accordance with ได้เลย ซึ่งมีความหมายว่า “ตาม, ตามที่” รวมประโยค “ตามประเพณี มหาวิหารจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทุกวัน”

33. Brad’s office is in that __________ building.
(1) tall
(2) taller
(3) tallest
(4) tallness

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 4. ประกอบ เมื่อเราเห็นคำว่า in + สถานที่ แสดงถึงที่สุดในนั้น ให้ตอบขั้นสุด ดังนั้นจากคำคุณศัพท์ธรรมดา tall ทำเป็นขั้นสุดคือ tallest

34. __________ you __________ me up at 5 pm, tomorrow?
(1) Do ; pick
(2) Were ; picking
(3) Will ; pick
(4) Have; picked

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 19. ประกอบ เมื่อเราเห็นคำบอกเวลา tomorrow (พรุ่งนี้) แสดงถึงอนาคต ใช้ตอบ will + V1 = will pick ทำเป็นคำถาม ยก Will ไว้หน้า you จึงตอบตัวเลือกข้อ 3

35. Brian gets used to __________ out at the city’s recreation center.
(1) work
(2) worked
(3) works
(4) working

ตอบ 4 สำนวนต่อไปนี้ ให้ตามด้วย Ving ได้แก่

can’t bear look forward to be accustomed to
can’t stand object to be opposed to + Ving
can’t resist adjust to be/get used to
can’t help devote to be subjected to

ฉะนั้น gest used to + Ving = gets used to working

36. Dinner is as __________ as breakfast.
(1) importance
(2) important
(3) importantly
(4) importancy

ตอบ 2 เมื่อเราเห็น as ……………….as เป็นการเปรียบเทียบเท่ากัน ตรงกลางระหว่าง as ……as ก็ต้องตอบเป็นคุณศัพท์ธรรมดา นั่นคือ important ในตัวเลือกข้อ 2 (ในกรณีถ้าหากไม่รู้ว่าตัวไหนเป็นคำคุณศัพท์ (adj.) ก็ให้ดูคำวิเศษณ์ (adv.) ที่มักลงท้ายด้วย -ly คือ importantly เมื่อตัด -ly ทิ้งก็เป็น important ก็คือคำคุณศัพท์นั่นเอง

37. The plants would die if we __________ them.
(1) don’t water
(2) haven’t watered
(3) didn’t water
(4) hadn’t watered

ตอบ 3 สูตรการใช้ If มี 4 แบบ จำให้ได้ออกสอบทุกเทอมหลายข้อ ข้อนี้ตรงกับ if อยู่กลางประโยคสูตร 3

  1. If S + V1 , S + V1

  2. If S + V1 , S + will V1

  3. If S + V2 , S + would/could + V1

  4. If S + had V3 , S + would have V3

การเชื่อม if ตรงกลางก็สลับท่อนหน้าไปหลัง หลังไปหน้าเท่านั้น

  1. S + V1 if/unless S + V1

  2. S + will/can V1 if/unless S + V1

  3. S + would V1 if/unless S + V2

  4. S + would have V3 if/unless S + had V3

↓ ↓

3. S + would V1 if/unless S + V2

↓ ↓

ให้มา would die ตอบ didn’t water

38. My parents let me __________ overnight at Cindy’s house.
(1) stay
(2) staying
(3) to stay
(4) stayed

ตอบ 1 กริยา make/made หรือ let สองตัวนี้เป็นที่นิยมออกสอบออกมาให้ตอบกริยาช่องที่ 1 ไม่ต้องมี to ตาม เช่น

  • The sad movie always makes me cry.

  • Let us go shoppingฉะนั้นข้อนี้ let + กรรม (me) + V1 จึงตอบ stay

39. __________ able to pass this course, one has to study hard.
(1) Being
(2) To be
(3) Be
(4) 1 and 2 are correct

ตอบ 4 รูป Participle ทำหน้าที่เป็นคำกริยาวิเศษณ์ สามารถขึ้นต้นประโยคได้สองอย่างคือขึ้นต้นเป็น Ving หรือ To + V1 แล้วตามด้วยประโยคหลักที่มีประธานเป็นผู้กระทำอาการของกริยาที่อยู่ต้นประโยค เช่น

  • Walking to class, I saw traffic accident.

  • To be able to pass this course, one has to study hard. (การจะผ่านวิชานี้ได้ต้องตั้งใจเรียนหนัก)= Being able to pass this course, one has to study hard.

40. Do you like the play __________ by Samuel Beckett?
(1) write
(2) writing
(3) written
(4) to write

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 12. ประกอบ เป็น past participle ที่ลดรูปโดยใช้กริยาช่องที่ 3 ถูกกระทำขยาย คำนาม the play (ละคร) ที่ถูกเขียนโดย…. (by) ใช้ V3 คือ written เทียบดูตัวอย่างอื่น ทำนองเดียวกัน เช่น

  • The meeting canceled yesterday was about next year’s budget.canceled เป็นกริยาช่องที่ 3 ในรูป past participle ที่ขยายคำนาม the meeting = การประชุมถูกยกเลิก

41. Doris and Tom have known each other for a long time. __________ were classmates in __________ college years.
(1) We ; our
(2) They ; their
(3) We ; their
(4) They ; our

ตอบ 2 บุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun)

รูปประธาน รูปกรรม Possessive adjective Possessive Pronoun สะท้อนตัวเอง
I me my mine myself
you you your yours yourself
he him his his himself
she her her (มีคำนามตามหลัง) hers (ไม่มีคำนามตามหลัง) herself
they them their theirs themselves
we us our ours ourselves
it it its its itself

ช่องแรกตอบรูปประธานเพราะว่าตามด้วยกริยา were ซึ่งมีทั้ง We และ They เป็นรูปประธาน ส่วนหลัง จะเติมสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ เพราะมีคำนาม college ก็สามารถเติม our หรือ their แต่ต้องเติมรูป ประสานกันทั้งประธานและรูปเจ้าของซึ่งควรเป็นบุคคลที่ 3 ที่กล่าวถึงว่า พวกเขา ซึ่งคำสรรพนามแทน Doris and Tom สองคน จึงตอบ They และ their ไม่ได้ใช้ we พวกเรา เพราะกล่าวถึงสองคนนั้น เป็นบุคคลที่ 3

42. Russians are perhaps __________ than Mexicans.
(1) optimistic
(2) the least optimistic
(3) the most optimistic
(4) less optimistic

ตอบ 4 จำ ออกทุกเทอม เมื่อเราเห็นคำว่า than ให้ตอบขั้นกว่า ซึ่งใช้รูปดังนี้

คุณศัพท์ขั้นกว่าที่ลงท้ายด้วย -er หรือ more นำหน้า + adj. + than

คุณศัพท์ธรรมดาให้มาคือ optimistic ทำเป็นขั้นกว่าใช้ more optimistic หรือ less optimistic (less มาจาก little less least น้อย น้อยกว่า น้อยที่สุด) ฉะนั้น less optimistic จึงถูกต้อง ดูตัวอย่างอื่น

  • My car is less expensive than Maria’s.

43. Look at the supercars over there! I really like __________ one in yellow.
(1) this
(2) these
(3) that
(4) None is correct

ตอบ 3 คำนำหน้าคำนามที่ชี้เฉพาะ เช่น this, that, these, those มีหลักดังนี้

this (นี้) แสดงถึงสิ่งที่อยู่ใกล้ that (นั่น) แสดงถึงสิ่งที่อยู่ไกล ใช้กับนามเอกพจน์
these (เหล่านี้) สิ่งที่อยู่ใกล้ those (เหล่านั้น) แสดงสิ่งที่อยู่ไกล ใช้กับนามพหูพจน์

เราเห็น one อยู่ด้านหลังเป็นเอกพจน์แสดงว่าตอบ this/that และประโยคส่วนหน้ามองให้มองไปที่……ตรงนั้น! แสดงว่าอยู่ไกล จึงตอบ that

44. Andy and Tim never liked __________.
(1) each other
(2) others
(3) another
(4) None is correct

ตอบ 1 เป็นสัมพันธ์สรรพนาม คือ คำสรรพนามที่แสดงความสัมพันธ์ต่อกันและกัน มีความหมายว่า “ซึ่งกันและกัน” มีหลักดังนี้

each other = ซึ่งกันและกัน ใช้กับ 2 คน ส่วน one another = ซึ่งกันและกัน ใช้ตั้งแต่ 3 หรือมากกว่านั้น

จากประโยคมีสองคนคือ Andy และ Tim จึงตอบ each other เทียบดูตัวอย่างอื่น

  • Peter and Mary love each other. (ปีเตอร์และแมรี่รักซึ่งกันและกัน รวมสองคน)

  • The classmates help one another. (เพื่อนๆ ร่วมห้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน)

45. Bribery __________ insecurity in the economy.
(1) conducts
(2) mentions
(3) produces
(4) strikes

ตอบ 3 คำกริยาแสดงสาเหตุ เช่น cause / produce / bring about / result in (ก่อให้เกิด) ตามด้วยคำนาม หรือกลุ่มคำนามวลี เช่น

  • Exposure to fine particles can cause short-term health effects.(การสัมผัสกับอนุภาคขนาดเล็กอาจก่อให้เกิดผลต่อสุขภาพในระยะสั้นได้)
  • The man’s speech produced an angry response from parents.(คำพูดของชายคนนั้นก่อให้เกิดปฏิกิริยาโกรธจากพ่อแม่)
  • Bribery __________ insecurity in the economy(การติดสินบนก่อให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ)

46. Cleo __________ by the experience of living alone in Thailand.
(1) is transforming
(2) was transformed
(3) has transformed
(4) will be transforming

ตอบ 2 เมื่อเห็นคำว่า by (โดย…) แสดงถึงประธานถูกกระทำในรูป passive voice (S + was/were + V3)

  • Kelly was arrested yesterday by the police. (เคลลี่ถูกจับเมื่อวานโดยตำรวจ)

  • Cleo was transformed by the experience of living alone in Thailand(คลีโอได้รับการเปลี่ยนแปลงจากประสบการณ์การใช้ชีวิตคนเดียวในประเทศไทย)

47. We __________ Warren Buffett if we __________ to the campus today.
(1) are seeing; will go
(2) would see; had gone
(3) will see; go
(4) have seen; are going

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ
3. S + will V1 if/unless S + V1
↓ ↓
ตอบ will go go

48. Bill got his housemaid __________ his room every other day.
(1) to make
(2) made
(3) make
(4) making

ตอบ 1 เป็นรูปกริยา get ถ้าตามด้วยสิ่งของ ตอบกริยาช่องที่ 3 ถ้าตามด้วยคน ตอบ to v1 ดูตัวอย่าง
S + get + something + V3 (ถ้าตามด้วยสิ่งของ + V3)
S + get/got + คน + to V1
– Jack gets his elder sister to wash his clothes. (คน ตอบ to V1)
– Jack gets his clothes washed by his elder sister. (สิ่งของ ตอบ V3)
ข้อนี้ got his housemaid (แม่บ้าน เป็นคน) ตามด้วย to + V1 จึงตอบ to make

49. Tipping less than 20 percent __________ not proper nowadays.
(1) is considering
(2) is considered
(3) will consider
(4) were considered

ตอบ 2 ใช้ในรูป passive voice ( S + is/am/are + V3) = is considered ประธานเป็นผู้กระทำ ใช้ is เพราะท้ายประโยคมี nowadays (ปัจจุบัน ) ตัวเลือกที่ 4 ไม่ถูก เพราะประธานเป็นเอกพจน์ใช้ were ไม่ได้อยู่แล้ว
– Switzerland is considered (to be) the most beautiful country by many visitors.
– The general was considered by many (to be) a great leader.
(นายพลผู้นี้มีผู้คนมากมายนับถือว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่)

50. I would travel around the world if I __________ a millionaire.
(1) am
(2) was
(3) were
(4) have been

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ
3. S + would V1 if/unless S + V2
↓ ↓
ให้มา would travel ตอบ were

51. Teera can recall the day __________ he went to see his advisor.
(1) that
(2) which
(3) how
(4) when

ตอบ 4 ให้เติมประพันธ์สรรพนามโดยให้สังเกตจากข้างหน้าคำที่ให้เติมช่องว่างว่าเป็นคนหรือสิ่งของหรือสถานที่เราดูคำนามข้างหน้าก่อนว่าเป็นอะไร

คน who + verb (คำกริยา) ในที่นี้คือ is
คน whose + คำนาม + V
คน whom + S + Verb คำว่า S มักเป็นคำสรรพนามเช่น I saw, you met
สิ่งของ which + Verb หรือ which + S + V.
สถานที่ where + S + V. เช่น where I live
เวลา when + S + V
the reason why + S + V
ประโยคมี the day (วัน) จึงตอบ when

52. Poor time management can __________ failure.
(1) do
(2) lead to
(3) make
(4) relate

ตอบ 2 กริยาที่เข้ากับประโยคได้คือ lead to (นำไปสู่, ก่อให้เกิด)
– Poor time management can lead to failure. (การจัดการเวลาที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ความล้มเหลวได้)

53. New York is much __________ than Boston.
(1) big
(2) more big
(3) bigger
(4) biggest

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 42. ประกอบ เมื่อเห็น than ตอบขั้นกว่าจากคุณศัพท์ big เป็น bigger จึงตอบข้อ 3

54. Jim is the person __________ won the award.
(1) whom
(2) who
(3) which
(4) whose

ตอบ 2 the person เป็นคน และส่วนหลังติดกันมี won เป็นคำกริยามาจาก win won won (ชนะ) ก็ตอบ who ได้เลย เพราะ who + กริยาเสมอ ถ้า whom + S + Verb ส่วน whose + คำนาม เสมอ

55. __________ I couldn’t attend the meeting yesterday was that I had a family emergency.
(1) The reason why
(2) In accordance with
(3) As a result of
(4) Because

ตอบ 1 The reason why = “เหตุผลว่า….., เหตุผลที่ ….” เป็นคำเชื่อมตามด้วยปรานและคำกริยา เช่น
– Bill told us the reason why he had left the house without telling anyone.
(บิลบอกเราถึงเหตุผลที่เขาออกจากบ้านโดยไม่บอกใคร)
– The reason why I couldn’t attend the meeting yesterday was that I had a family emergency.
(เหตุผลที่ฉันไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมเมื่อวานนี้ได้ก็คือฉันมีเหตุฉุกเฉินในครอบครัว)

56. If Peter __________ the facts, he would have made a better decision.
(1) knows
(2) knew
(3) has been knowing
(4) had known

ตอบ 4 ดู if ในสูตรที่ 4
4. If S + had V3 , S + would/could have V3
↓ ↓
ตอบ had known ให้มา would have made

57. Ice cream can __________ the blood vessels in the roof of your mouth to shrink.
(1) cause
(2) owe to
(3) reason
(4) show

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 45. ประกอบ
– Ice cream can cause the blood vessels in the roof of your mouth to shrink.
(ไอศกรีมอาจทำให้หลอดเลือดบนเพดานปากหดตัวได้)

58. __________ I to get a raise, I would renovate my parents’ house.
(1) Am
(2) Were
(3) Will
(4) Did

ตอบ 2 เป็นเรื่อง If แต่ตัด if ออกไปมีสูตร 3 และ 4
3. Were S + ส่วนขยาย , S + would V1
4. Had S + V3 , S + would have V3
ข้อนี้ตรงกับการตัด if ออกในสูตรที่ 3 เราสังเกตจากส่วนหลังมี would V1 ก็ได้ เทียบตัวอย่างอื่น
– If I were a bird, I would fly to New York.
= Were I a bird, I would fly to New York. (ตัด If ออก แล้วยก Were ไว้หน้าประธานหลังเหมือนเดิม)
– If I were to study science, I would study hard.
= Were I to study science, I would study hard.

59. That lady is our new manager. We enjoy working with __________.
(1) she
(2) hers
(3) her
(4) herself

ตอบ 3 ดูตารางในข้อ 41. ประกอบ เป็นเรื่องคำสรรพนามที่จะใช้รูปไหน ในข้อนี้ให้เติมท้ายประโยคและตามหลังบุพบท (with) จะตามด้วยรูปกรรมเสมอ ดังนั้นจากประธาน she รูปกรรมจะเป็น her จึงตอบตัวเลือกข้อ 3
– He seemed to recognized me. (me เป็นรูปกรรมตามหลังกริยา)

60. Nick is __________guitarist; he can play __________guitar very well.
(1) a ; an
(2) a ; the
(3) an ; a
(4) the ; a

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 7. ประกอบ ใช้ “a/an” นำหน้าคำนามแสดงอาชีพ เช่น a guitarist (นักเล่มกีตาร์) และส่วนหลังเป็นเครื่องดนตรี ใช้ “the” นำหน้า เช่น the guitar, the violin, the piano, the flute (ขลุ่ย), the trumpet, the xylophone (ระนาด), the saxophone ฯลฯ

61. The __________man is a professional basketball player.
(1) six feet
(2) six foot
(3) six-feet
(4) six-foot

ตอบ 4 คุณศัพท์ประสม (Compound Adjectives) เป็นโครงสร้างของคำจำนวน 2 คำขึ้นไปมารวมกัน โดยมีเครื่องหมาย hyphen (-) คั่นระหว่างคำ เช่น
– a ten-pound baby
– the six-foot man
– the two-hundred-dollar shoes
– an all-night party
– a well-built house
– an up-to-date analysis
– a round-the-clock schedule

ให้สังเกตเมื่อนำคำมารวมกับอยู่หน้าคำนาม คำจะอยู่ในรูปเอกพจน์และมี – คั่น ไม่ใช้รูปพหูพจน์

62. __________ coffee in this cup is too cold to drink.
(1) A
(2) An
(3) The
(4) (Blank)

ตอบ 3 ใช้ “the” นำหน้าคำนาม ที่มีส่วนขยายหลังคำนามที่บอกตำแหน่งว่าอยู่ใน หรือที่ นั่นคือ the + คำนาม + มีบุพบทตามหลัง เช่น in ……. at…… on……. เป็นต้น เป็นการชี้เฉพาะ เช่นข้อนี้ ใช้ the นำหน้า coffee เพราะมีชี้เฉพาะว่า in this cup (ในถ้วยนี้) ไม่ใช่ถ้วยอื่น จึงมี the

63. Nancy is as __________ as Mark.
(1) nice
(2) nicer
(3) nicest
(4) the nicest

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 36. ประกอบ ถ้าเราเห็น as ………as เปรียบเทียบเท่ากัน ตรงกลางใส่เป็นคุณศัพท์ธรรมดา ก็คือ nice ไม่ต้องมี -er -est เลย จึงตอบตัวเลือกข้อ 1 nice

64. The tornado in Missouri was __________ storm I’ve ever seen.
(1) bad
(2) worse
(3) the worst
(4) None is correct

ตอบ 3 ข้อนี้ออกซ้ำบ่อยนะ ถ้าเราเห็นคำว่า I’ve ever seen (เท่าที่ฉันเคยเห็นมา) แสดงว่าให้ตอบขั้นสุด ก็คือที่สุดที่ฉันเคยเห็น จากตัวเลือกคุณศัพท์ธรรมดาคือ bad เมื่อทำเป็นขั้นกว่า ขั้นสุดตัวนี้จะเปลี่ยนรูป เป็น worse worst ก็มีบางตัวไม่มากนักที่เปลี่ยนรูปจำนะคะ เช่น
– good better best (ดี ดีกว่า ดีที่สุด)
– bad worse worst (เลวหรือแย่ แย่กว่า แย่ที่สุด)
– far farther/farther farthest/furthest (ไกล ไกลกว่า ไกลที่สุด เป็นต้น

65. Let’s study harder this semester, __________?
(1) can you
(2) will they
(3) does he
(4) shall we

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 5 ประกอบ เรื่อง tag (ส่วนหางหรือส่วนหลัง) มีบางอย่างต้องตอบคงที่เช่นข้อนี้ ขึ้นต้นด้วย Let’s ให้ตอบส่วนหลังว่า shall we เสมอ

66. __________ is your hometown like, Lisa?
(1) What
(2) Where
(3) Which
(4) Whose

ตอบ 1 เป็นประโยคคำถาม Wh-questions
1. Who/What/Which + (คำนาม) + กริยา เช่น
– Who saw him?
– What happened to you last night?
2. Whom/What/Which ใช้เป็นกรรมของประโยค + (คำนาม) + กริยาช่วย + ประธาน + กริยา
– What did he buy yesterday?
– Which job have you applied for?
3. Whose + คำนาม เสมอ ส่วน When, Why, Where ใช้ตามแบบที่ 2
– Whose book are you reading?
– When will you do?
– Why did he go home?
– Where do you come from?
– How + adj. ใช้ถามเกี่ยวกับ ระดับต่าง ๆ เช่น
– How old is she?
ข้อนี้ถามเป็น What is your hometown like, Lisa? (บ้านเกิดของคุณเป็นยังไงบ้าง ลิซ่า?)

67. Sue bought me __________ blouse from Thailand.
(1) beautiful a pink silk
(2) silk beautiful a pink
(3) pink silk a beautiful
(4) a beautiful pink silk

ตอบ 4 เป็นการเรียงคุณศัพท์ที่มีคุณศัพท์มาขยายคำนามหลายตัว โดยวางไว้หน้าคำนาม คือคำนามหลักจะอยู่ขวามือของเรา ส่วนหน้าคำนามจะเป็นคุณศัพท์เรียงลำดับ ดังนี้

คำคุณศัพท์ + คำนาม

คำนำหน้านาม จำนวน adj. บอกขนาด adj. บอกลักษณะ adj. บอกวัย/อายุ adj.รูปร่าง adj. บอกสี แหล่งที่มาหรือเชื้อชาติ นามขยาย นามหลัก
a, an, the, this, that, those these my, your, his, her, their, some, many one two three four …… small , big, large long, huge beautiful, nice, cheap, lovely strong beautiful new (ใหม่) old (เก่า) oval squar e triangl e white blue, pink, yellow, black, orange brown Italian, Japanese Chinese silk gold cotton metal woode n riding shirt ring dress frame s horse

ถ้าไม่ดูให้ละเอียดเราก็เดาได้ก่อนคำที่ขึ้นอันดับแรกก็คือบอกจำนวน คือ “a” และตามด้วยคุณศัพท์บอกคุณลักษณะ beautiful (สวย) ส่วนคำที่เป็นนามขยายหรือวัตถุนามเช่น gold (ทอง), silk (ไหม) มักจะไม่อยู่หลังสุดจะเป็นนามขยาย

68. Henry ate tons of junk food, __________ now he feels sick.
(1) consequently
(2) therefore
(3) so
(4) thus

ตอบ 3 ให้ตอบคำเชื่อม แบบนี้ต้องโจทย์ว่าให้ประโยคแบบไหนมา และดูคำเชื่อมตาราง

แสดงความหมาย ใช้เครื่องหมาย , _____ ใช้เครื่องหมาย ; _____,
1. แสดงความขัดแย้ง but, yet, or however, instead, whereas, nevertheless, otherwise
2. แสดงการคล้อยตามกัน หรือเพิ่มเติมข้อมูลในทางเดียวกัน and, nor furthermore, moreover, meanwhile, besides, also, similarly
3. แสดงผลหรือสรุปความ so accordingly, finally, consequently, therefore, thus
4. แสดงเหตุ for (เพราะ) because
5. แสดงทางเลือก or (หรือ มิฉะนั้น)

จะเห็นว่าโจทย์นี้มีเครื่องหมายคอมม่า (,) จึงใช้ so (ดังนั้น) นอกนั้นต้องใช้เครื่องหมาย ; _____,

69. If you add 3 to 5, you __________ 8.
(1) get
(2) have gotten
(3) got
(4) are getting

ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 37. เรื่อง if ประกอบ ตรงกับสูตรที่ 1
1. If S + V1 , S + V1
↓ ↓
ให้มา add ตอบ gets

70. __________ a lack of exercise, weight gain and health issues arose.
(1) As a result
(2) Through
(3) Because
(4) Due to

ตอบ 4 คำเชื่อม due to / owing to มีความหมายว่า “เนื่องจาก เพราะว่า” ตามด้วยคำนามหรือกลุ่มคำนาม ส่วน because เพราะว่า ตามด้วยประโยค จึงผิด เพราะที่โจทย์มีกลุ่มคำนามอย่างเดียวคือ a lack of exercise
– Derek didn’t go out last night due to the heavy rainfall.
– The flight to Los Angeles was delayed due to the crew’s strike.
– Due to a lack of exercise, weight gain and health issues arose.
– Susan couldn’t get a loan from a bank to buy a condo room as a result of her unemployment.

71. __________ you cleaned the house, you could have gone to the movies.
(1) Are
(2) Did
(3) Had
(4) Have

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 58. ประกอบ ตรงกับการตัด if ออกในสูตรที่ 4 สังเกตจากส่วนหลัง could have V3
4. Had S + V3 , S + would/could have V3
↓ ↓
ตอบ Had you cleaned ให้มา could have gone

72. __________ you brush your teeth, you get cavities.
(1) If
(2) Unless
(3) When
(4) Whether

ตอบ 2 คำเชื่อม If ……not = unless (ถ้า ……ไม่) ดูเปรียบเทียบ
– If you do not brush your teeth, you get cavities.
= Unless you brush your teeth, you get cavities.

73. A : __________ .
B : Not yet. She’s graduating next semester, I believe.
(1) What has Sue been doing in LA?
(2) Will Sue finish it in the future?
(3) Is Sue back to her post?
(4) Has Sue graduated yet?

ตอบ 4 การสนทนา A: B: แบบนี้จะมีออกทุกเทอมเช่นกัน ดูจากที่ B ตอบว่า ยังไม่ แต่ฉันเชื่อว่า เธอจะจบในเทอมหน้านะ? แสดงว่า A ถามว่า “ซูได้เรียนจบหรือยัง? โดยการลงท้ายเชิงคำถามใช้ yet หมายถึงว่า “ยัง หรือ ยัง” ดูตัวเลือก
(1) ซูไปทำอะไรที่แอลเอ?
(2) ซูจะทำมันเสร็จในอนาคตไหม?
(3) ซูกลับมาโพสต์เหมือนเดิมแล้วเหรอ?
(4) ซูเรียนจบยังคะ?

74. Alex __________ in a motorcycle accident last night.
(1) injured
(2) to injure
(3) was injured
(4) had injured

ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 46. ประกอบ ใช้รูป passive voice (was/were + V3) ข้อนี้ใช้อดีตเพราะมี last night จึงตอบ was injured (ได้ร้บบาดเจ็บ)ในรูปของ was + V3 หลังประธาน

75. Doug had his hair __________ by a professional barber last week.
(1) cut
(2) cuts
(3) cutting
(4) to cut

ตอบ 1 เป็นเรื่องของ has/have/had
S + have + someone + V1 + O
Has/have/had + คน + V1 (อย่าลืมถ้าตามด้วยคน ตอบ V1)
S + have + something + V3 (ก็คือ have + สิ่งของ + V3)
สำหรับโจทย์นี้ have your hair (ผม) เป็นสิ่งของตอบกริยาช่องที่ 3 คือ cut
กริยาตัวนี้ผันสามช่องใช้รูปเดิม cut cut cut เราตอบ cut ได้เลยเป็นที่รู้กันว่าคือช่องที่ 3

76. Anita is trying to get her work __________ before leaving the office.
(1) do
(2) did
(3) doing
(4) done

ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 48. ประกอบ
กริยา get /got + สิ่งของ + กริยาช่องที่ 3 อย่างข้อนี้ her work (งานของเธอ) เป็นสิ่งของจึงตอบ done

77. A : __________ .
B : I love it because there’re many things to do in the city.
(1) Don’t you like Jim?
(2) Do you like things here?
(3) How do you like living in a big city?
(4) You like the countryside, don’t you?

ตอบ 3 เมื่อถามตอบเป็นประโยค I love it because …….. มีคำว่า because (เพราะ…) แสดงถึง A ถามเหตุผล คนตอบจะตอบเป็นรายละเอียด เมื่อดูตัวเลือกจะสังเกตดูว่าตัวเลือก 1, 2 และ 3 เป็นรูปแบบการถาม Yes/No question หมด คือถ้าถาม Don’t you, Do you like หรือลงท้าย don’t you การตอบจะตอบรับเป็น Yes หรือ No ก่อน ฉะนั้นทั้ง 3 ตัวเลือกจึงไม่ถูกต้อง ตัวเลือกที่ถูกคือ 3 ที่ถาม How do you like (คุณชอบ ….อย่างไร? หรือแค่ไหน?) คนตอบ ๆ เป็นรายละเอียด

78. The Indian bride wore __________ on her wedding day.
(1) red elegant her sari
(2) her elegant red sari
(3) sari her red elegant
(4) elegant sari her red

ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 67. ประกอบ การเรียงคุณศัพท์ดูตัวเลือกจะคาดเดาได้เลยว่าคำนำหน้าคำนามคือ her ขึ้นมาก่อน และคำที่อยู่หลังสุดจะต้องเป็นคำนามหลัก เพราะ คำนำหน้านาม + คุณศัพท์ + คำนาม เสมอ จับหาคำนามมาอยู่ขวามือก็คือ sari (ผ้าสาหรี) ก็ทำให้เราตอบตัวเลือกข้อ 4 ได้เลย
(หมายเหตุ: คำเฉลยในต้นฉบับระบุข้อ 4 แต่คำอธิบายและตัวอย่างชี้ไปที่ข้อ 2 her elegant red sari)

79. A: __________ .
B : No, there are only three of us: my parents and I.
(1) Do you have a big family?
(2) What qualities do you value?
(3) How many are there in your family?
(4) Have you been living with your parents?

ตอบ 1 จากที่อธิบายข้อ 78. ที่ผ่านมา มาดูข้อนี้จะเห็นว่า B ตอบ No, ก็คือการตอบ Yes/No แสดงว่าต้องมีการถามแบบ Yes/No Question ที่ขึ้นเช่น Do you like…? Can you swim? Is this book yours?

เป็นต้น นั่นคือ ยกกริยาไว้หน้าประธานเป็นการถามให้ตอบ Yes/No ถ้าถามแบบ How many? What….When…Where….. Why… เป็นการตอบรายละเอียด ฉะนั้นตัวเลือกข้อ 1 Do you have….? (คุณมี….มั้ย?) คนตอบเป็น Yes/No

80. A: __________.
B: Twice a week.
(1) Have you eaten out lately?
(2) How often do you play sports?
(3) When did you do your laundry?
(4) What skill would you like to master?

ตอบ 2 B ตอบเป็นรายละเอียดว่า Twice a week (สัปดาห์ละสองครั้ง) แสดงผู้ถาม (A) ถามเป็นความถี่ว่า บ่อยแค่ไหน นั่นคือการถาม How often…? (บ่อยแค่ไหน) ถ้าถาม When จะตอบเป็นเวลา

Part II: Vocabulary (ภาคคำศัพท์)

81. Michael prefers to __________ by train because it’s faster than driving.
(1) bother
(2) promote
(3) negotiate
(4) commute
ถาม ไมเคิลชอบเดินทางโดยรถไฟ เพราะมันเร็วกว่าการขับรถ
ตอบ 4 1. รบกวน 2. ส่งเสริม 3. เจรจา ต่อรอง 4. เดินทาง

82. Siripha is __________ in English and Spanish.
(1) fluent
(2) brave
(3) diligent
(4) compassionate
ถาม สิริภาพูดภาษาอังกฤษและสเปนได้คล่อง
ตอบ 1 1. คล่องแคล่ว 2. กล้าหาญ 3. ขยัน 4. ความเห็นอกเห็นใจ

83. The __________ plan was to have the event outdoors, but it rained.
(1) foreign
(2) original
(3) ambitious
(4) experienced
ถาม แผนเดิมคือจัดงานกลางแจ้ง แต่ฝนตก
ตอบ 2 1. ต่างประเทศ 2. เดิม ดั้งเดิม 3. ทะเยอทะยาน 4. ประสบการณ์

84. She gave me a(n) __________ answer when I asked her about her plans for the weekend.
(1) small
(2) unaware
(3) vague
(4) jam-packed
ถาม เธอให้คำตอบที่คลุมเครือแกฉันเมื่อฉันถามเธอเกี่ยวกับแผนการของเธอในช่วงสุดสัปดาห์
ตอบ 3 1. เล็ก 2. ไม่รู้ตัว 3. คลุมเครือ 4. อัดแน่น

85. __________, the sun came out after days of rain.
(1) Surprisingly
(2) Carefully
(3) Confidently
(4) Gently
ถาม น่าแปลกที่ดวงอาทิตย์ออกมาหลังจากฝนตกมาหลายวัน
ตอบ 1 1. อย่างน่าประหลาดใจ 2. อย่างระมัดระวัง 3. อย่างมั่นใจ 4. อย่างอ่อนโยน

86. Bangkok is still the most __________ holiday destination.
(1) fatal
(2) respiratory
(3) chronic
(4) Popular
ถาม กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางในวันหยุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
ตอบ 4 1. เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต 2. เกี่ยวกับการหายใจ 3. เรื้อรัง 4. เป็นที่นิยม แพร่หลาย

87. I’ll __________ her child when she’s on her business trip.
(1) stand out
(2) look after
(3) conduct
(4) accept
ถาม ฉันจะดูแลลูกของเธอ เมื่อเธอเดินทางไปทำธุรกิจ
ตอบ 2 1. โดดเด่น 2. ดูแล 3. ประพฤติ 4. ยอมรับ

88. I have a duty to __________.
(1) establish
(2) predict
(3) perform
(4) associate with
ถาม ฉันมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ
ตอบ 3 1. จัดตั้ง ก่อตั้ง 2. ทำนาย พยากรณ์ 3. กระทำ ปฏิบัติ 4. เกี่ยวข้อง สัมพันธ์

89. Young people usually have more __________.
(1) condition
(2) energy
(3) passengers
(4) highlight
ถาม คนหนุ่มสาวมักจะมีพลังมากกว่า
ตอบ 2 1. เงื่อนไข สภาวะ 2. พลัง พลังงาน 3. ผู้โดยสาร 4. เด่น

90. She __________ not taking the opportunity to travel when she was younger.
(1) regretted
(2) adapted
(3) evaluated
(4) analyzed
ถาม เธอเสียใจที่ไม่ได้รับโอกาสเดินทางเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก
ตอบ 1 1. เสียใจ 2. ปรับตัว 3. ประเมิน 4. วิเคราะห์

91. He was treated as a hero on his __________ from prison.
(1) blink
(2) release
(3) drawback
(4) tract
ถาม เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นฮีโร่เมื่อได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก
ตอบ 2 1. ขยิบตา 2. ปล่อยตัว 3. ข้อเสีย 4. ทางเดิน

92. It’s true that fine __________ are linked to respiratory problems.
(1) creatures
(2) routes
(3) particles
(4) inconveniences
ถาม เป็นความจริงที่ว่าสิ่งมีชีวิตดี ๆ มักเกี่ยวข้องกับปัญหาระบบทางเดินหายใจ
ตอบ 1 1. สิ่งมีชีวิต สัตว์โลก 2. เส้นทาง 3. ชิ้นส่วนเล็ก ๆ 4. ความไม่สะดวก
(หมายเหตุ: โจทย์เฉลยข้อ 1 แต่คำว่า fine particles หมายถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งตรงกับข้อ 3 particles)

93. I’m strong! I’m powerful! I’m __________!
(1) foreign
(2) exact
(3) obsessed
(4) healthy
ถาม ฉันแข็งแรง! ฉันทรงพลัง! ฉันมีสุขภาพดี!
ตอบ 4 1. ต่างประเทศ 2. ถูกต้อง แน่นอน 3. ครอบงำ 4. สุขภาพดี แข็งแรง

94. They have to __________ expenses this year.
(1) reduce
(2) regret
(3) mention
(4) appear
ถาม ปีนี้พวกเขาจะต้องลดรายจ่ายลง
ตอบ 1 1. ลด 2. เสียใจ 3. กล่าวถึง 4. ปรากฏตัว

95. Her illness was caused mainly by __________.
(1) goal
(2) creature
(3) stress
(4) surprise

ถาม อาการป่วยของเธอเกิดจากความเครียดเป็นหลัก
ตอบ 3 1. เป้าหมาย 2. สิ่งมีชีวิต 3. ความเครียด 4. ประหลาดใจ

96. She purchased a set of __________ tools to handle minor fixes around the house.
(1) real
(2) certain
(3) conditional
(4) home-repair
ถาม เธอซื้อชุดเครื่องมือซ่อมแซมบ้านเพื่อรับมือกับการแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบบ้าน
ตอบ 4 1. จริง แท้ 2. แน่นอน 3. เงื่อนไข 4. ซ่อมแซมบ้าน

97. I have to admit that there’s still a lot in Rome to __________ and do.
(1) explore
(2) obsess
(3) stand out
(4) depend on
ถาม ฉันต้องยอมรับว่ายังมีสิ่งให้สำรวจและทำอีกมากมายในโรม
ตอบ 1 1. สำรวจ ค้นคว้า 2. หมกมุ่น 3. โดดเด่น 4. ขึ้นอยู่กับ

98. The delivery truck took a different __________ to avoid the traffic jam.
(1) route
(2) aggression
(3) adventure
(4) investment
ถาม รถบรรทุกขนส่งเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด
ตอบ 1 1. เส้นทาง 2. ความก้าวร้าว 3. การผจญภัย 4. การลงทุน

99. Whey buying things on sale, no __________ or exchanges are allowed.
(1) crusts
(2) goals
(3) refunds
(4) strategies
ถาม เมื่อซื้อของตอนลดราคา ไม่สามารถรับคืนหรือเปลี่ยนสินค้าได้
ตอบ 3 1. เปลือกโลก 2. เป้าหมาย 3. การคืนเงิน 4. กลยุทธ์

100. Just by __________ , Amy unexpectedly met her old schoolmate 40 years later.
(1) bunch
(2) coincidence
(3) refund
(4) shelter
ถาม ด้วยความบังเอิญ 40 ปีต่อมา เอมี่ได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่าของเธอโดยไม่คาดคิด
ตอบ 2 1. ช่อ (ดอกไม้) 2. ความบังเอิญ 3. การคืนเงิน 4. ที่พักพิง

101. Lily went around the island by riding a(n) __________ she had rented.
(1) blink
(2) experience
(3) moped
(4) passenger
ถาม ลิลลี่เดินทางไปรอบเก่าโดยขี่มอเตอร์ไซค์ที่เธอเช่ามา
ตอบ 3 1. กะพริบตา 2. ประสบการณ์ 3. รถมอเตอร์ไซค์ 4. ผู้โดยสาร

102. This body lotion can cause __________ to sensitive skin.
(1) condition
(2) irritation
(3) mortality
(4) tract
ถาม โลชั่นทางตัวนี้อาจทำให้ผิวบอบบางแพ้ง่ายเกิดการระคายเคืองได้
ตอบ 2 1. สภาพ 2. การระคายเคือง 3. การตาย 4. ทางเดิน

103. A lot of __________ to sunlight may lead to heatstroke and skin cancer.
(1) exposure
(2) regret
(3) depression
(4) energy
ถาม การได้รับแสงแดดมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการโรคลมแดดและมะเร็งผิวหนังได้

ตอบ 1 1. การรับ 2. เสียใจ 3. ความซึมเศร้า 4. พลัง, พลังงาน

104. We’ve selected two possible __________ for our next vacation.
(1) bunches
(2) drawbacks
(3) goals
(4) locations
ถาม เราได้เลือกสถานที่ที่เป็นไปได้สองแห่งสำหรับวันหยุดพักผ่อนครั้งต่อไปของเรา
ตอบ 4 1. ช่อดอกไม้ 2. ข้อเสีย 3. เป้าหมาย 4. ทำเล สถานที่

105. The brown cat was __________ up on the sofa, sleeping happily.
(1) curled
(2) dropped
(3) grown
(4) looked
ถาม เจ้าแมวสีน้ำตาลขดตัวอยู่บนโซฟาอย่างมีความสุข
ตอบ 1 1. ขด, งอ 2. ตก หล่น ร่วง 3. เติบโต 4. มอง

106. It’s __________ to take a shower or bath during a lightning storm.
(1) charming
(2) inadvisable
(3) popular
(4) disappearing
ถาม ไม่สมควรที่จะอาบน้ำขณะที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง
ตอบ 2 1. มีเสน่ห์ 2. ไม่สมควร 3. มีชื่อเสียง แพร่หลาย 4. หายไป

107. Allowing Derek to move out of town was a(n) __________ error!
(1) essential
(2) sudden
(3) fatal
(4) limited
ถาม การอนุญาตให้ดิเรกย้ายออกจากเมืองถือเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง
ตอบ 3 1. สำคัญ จำเป็น 2. ฉับพลัน ทันที 3. ร้ายแรง 4. ถูกจำกัด

108. Mark’s grandfather is a true __________ . He keeps complaining a lot.
(1) clown
(2) grumbler
(3) passenger
(4) shelter
ถาม ปู่ของมาร์คเป็นคนขี้บ่นมาก เขาชอบบ่นอยู่เรื่อย
ตอบ 2 1. ตัวตลก 2. คนขี้บ่น 3. ผู้โดยสาร 4. ที่พักพิง

109. The result of the votes is still in __________ . We need to re-check it.
(1) audience
(2) circus
(3) doubt
(4) vessel
ถาม ผลการโหวตยังคงไม่ชัดเจน ต้องตรวจสอบใหม่อีกครั้ง
ตอบ 3 1. ผู้ชม ผู้ฟัง 2. ละครสัตว์ 4. ความสงสัย ไม่ชัดเจน 4. เรือ

110. Though I was in Minnesota, the coldest state in the US. I didn’t have a(n) __________ with skiing.
(1) doubt
(2) experience
(3) bunch
(4) grumbler
ถาม แม้ว่าฉันจะอยู่ที่มินนิโซตา ซึ่งเป็นรัฐที่หนาวที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่ฉันก็ไม่มีประสบการณ์เล่นสกีเลย
ตอบ 2 1. ความสงสัย 2. ประสบการณ์ 3. ช่อดอกไม้ 4. คนขี้บ่น

111. You certainly are not supposed to be envious of others who have a bigger house.
(1) athletic
(2) caring
(3) essential
(4) jealous

ถาม แน่นอน คุณไม่ควรอิจฉาคนอื่นที่มีบ้านหลังใหญ่

ตอบ 4 1. แข็งแรง 2. เอาใจใส่ ดูแล 3. สำคัญ จำเป็น 4. อิจฉา

112. The man claimed that he could predict future events.
(1) anticipate
(2) handle
(3) obsess
(4) release

ถาม ชายคนนี้อ้างว่าเขาสามารถทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ตอบ 1 1. การคาดการณ์ 2. จัดการ ยึดถือ 3. ครอบงำ 4. ปล่อย

113. People with limited incomes are hit very hard by inflation, so they’re looking forward to the digital money project.
(1) charming
(2) fatal
(3) Jam-packed
(4) restricted

ถาม ผู้มีรายได้จำกัด ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งตารอโครงการเงินดิจิทัล

ตอบ 4 1. มีเสน่ห์ 2. ร้ายแรง 3. อัดแน่น 4. เข้มงวด จำกัด

114. There’s depression in the sand where Tony’s been lying.
(1) crust
(2) route
(3) ditch
(4) nerve

ถาม มีหลุมบ่อ อยู่ในทรายที่โทนี่นอนอยู่

ตอบ 3 1. เปลือกโลก 2. เส้นทาง 3. หลุมบ่อ 4. เส้นประสาท

115. With this, one can determine whether Iceland is worth visiting or not.
(1) achieve
(2) decide
(3) perform
(4) reduce

ถาม ด้วยวิธีนี้เราสามารถประเมิน ได้ว่าไอซ์แลนด์คุ้มค่าแก่การไปเยือนหรือไม่

ตอบ 2 1. บรรลุ 2. ประเมิน ตัดสิน 3. กระทำ ปฏิบัติ 4. ลด

116. The winner is likely to come from outside the company.
(1) dependably
(2) exactly
(3) probably
(4) essentially

ถาม ผู้ชนะมีแนวโน้ม ที่จะมาจากภายนอกบริษัท

ตอบ 3 1. เชื่อถือได้ 2. อย่างแน่นอน 3. แนวโน้ม เป็นไปได้ 4. โดยพื้นฐาน

117. Could chronic back pain be cured with a simple course of antibiotics?
(1) dependable
(2) fatal
(3) charming
(4) persisting

ถาม อาการปวดหลังเรื้อรัง สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะธรรมดา ๆ ได้หรือไม่?

ตอบ 4 1. พึ่งพาได้ 2. ถึงแก่ชีวิต ตาย 3. มีเสน่ห์ 4. เรื้อรัง เป็นประจำ

118. The two rooms are exactly the same size.
(1) precisely
(2) temporarily
(3) daringly
(4) normally

ถาม ห้องทั้งสองมีขนาดเท่ากันพอดี

ตอบ 1 1. อย่างพอดี อย่างแน่นอน 2. อย่างชั่วคราว 3. อย่างกล้าหาญ 4. โดยปกติ

119. I imagine it’ll rain again this evening.
(1) expand
(2) hurt
(3) mention
(4) Think

ถาม ฉันคิดว่าเย็นนี้ฝนคงจะตกอีก

ตอบ 4 1. ขยาย ยืด 2. ทำให้เจ็บ 3. กล่าวถึง 4. คิด จินตนาการ

infinite = limitless = ไม่มีสิ้นสุด

120. They think it’s an easy job, when in fact, it’s a lot of hard work.
(1) actually
(2) logically
(3) fatally
(4) essentially
ถาม พวกเขาคิดว่ามันเป็นงานที่ง่าย แต่ในความจริงแล้ว มันเป็นงานหนักมาก
ตอบ 1 1. จริง ๆ แล้ว 2. ตามเหตุผล 3. อย่างร้ายแรง 4. โดยพื้นฐานแล้ว

ถาม พวกเขาคิดว่ามันเป็นงานที่ง่าย แต่ในความจริงแล้ว มันเป็นงานหนักมาก

ตอบ 1 1. จริง ๆ แล้ว 2. ตามเหตุผล 3. อย่างร้ายแรง 4. โดยพื้นฐานแล้ว

 

Advertisement