RAM1112 ภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษ
การสอบไล่ภาค 1 ปีการศึกษา 2567

Part I : Language Focus
Direction: Choose the best answer.

Advertisement

1. Why don’t you ________ different genres to discover new authors?
1. explore
2. to explore
3. explored
4. exploring
ตอบ 1 เป็นประโยคคำถาม? รูปแบบคำถามต้องดูว่าโจทย์ให้อะไรมา สำหรับข้อนี้มีกริยาช่วย Verb to do (do, does, did หรือตัวย่อ don’t รูปปฏิเสธ) ยกมาไว้หน้าประธานแล้ว กริยาเมื่อใช้ Verb to do มาช่วยแล้วให้ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เสมอ นั่นคือ ตัวเลือกที่ 1 explore (V1) ดูตัวอย่างรูปแบบการทำประโยคคำถามที่ใช้ Verb to be, Verb to do, Verb to have, หรือกริยาช่วยต่าง ๆ
– Is Tom busy? ถ้าใช้ Is กริยาตามด้วยคุณศัพท์ (busy) ส่วนขยายหรือคำนามได้
– Does John play bridge? ใช้ Does แล้วตามด้วยกริยาช่องที่ 1 เสมอก็คือ play ไว้หลังประธาน
– Don’t you hear the bell? ใช้ Don’t แล้วตามด้วยกริยาช่องที่ 1 คือ hear เทียบข้อนี้เช่นกัน เมื่อใช้ don’t ตามด้วย V1 คือ explore
– Haven’t we met each other before? ถ้าใช้ Haven’t ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 คือ met (V3)
– Can you swim? ถ้าใช้ Can ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 คือ swim เป็นต้น
– Why don’t you take a taxi to your job interview? (ออกทุกเทอมรูปแบบนี้ตอบ V1)

2. How about ________ together to improve your overall fitness?
1. train
2. to train
3. trained
4. training
ตอบ 4 การขึ้นต้นด้วย How about…? (เป็นอย่างไร) ใช้กับการแนะนะ ถามความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะบางอย่าง ขึ้นต้นด้วย How about + Ving..? หรือ How about + ส่วนขยาย? เทียบตัวอย่าง
– How about going out for lunch? (เราออกไปทานอาหารกลางวันกันดีไหม?)
– How about watching Frozen 2 tonight? (คืนนี้เราไปดูโฟรเซ่น 2 กันมั้ย?)
– How about a movie? (ไปดูหนังกันดีมั้ย?)
ฉะนั้น ข้อนี้ How about ตามด้วย training

3. ________ sure to choose colors that complement your skin tone for a flattering look.
1. Make
2. To make
3. Made
4. Making
ตอบ 1 ประโยคมีอนุประโยคของ that…… มาขยายคำนามของประโยคส่วนแรก และประโยคส่วนแรกข้างหน้าไม่มีประธานและกริยาหลักเลย แสดงว่าเป็นรูปประโยคคำสั่ง ฉะนั้นหากในรูปประโยคคำสั่ง (Imperative Sentence) ให้ขึ้นต้นเป็นกริยาช่องที่ 1 ได้เลย เช่น
– Come here! (มานี่) ขึ้นต้นประโยคด้วยกริยาช่องที่ 1
– Be a good boy. (จงเป็นเด็กดี) ใช้ Verb to be ขึ้นต้นประโยค ด้วย Be
– Don’t touch me. (อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ) เป็นคำสั่งขึ้นต้นด้วย Don’t (อย่า….)

4. We’d better ________ a comedy to lighten the mood for movie night.
1. choose
2. to choose
3. chose
4. choosing
ตอบ 1 กลุ่มคำที่ให้คำแนะนำ ให้ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ได้แก่
had better ตัวย่อ ‘d better
would rather ตัวย่อ ‘d rather + V1
should
ought to
จากโจทย์ ‘d better มาจาก had better ตอบด้วยกริยาช่องที่ 1 จึงตอบ choose

5. The garden was ________, filled with vibrant flowers and singing birds.
1. charm
2. charms
3. charmed
4. charming
ตอบ 4 เป็นเรื่องการใช้คุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งทำหน้าที่หลัก 2 อย่าง คือ ตามหลัง Verb to be และ หน้าคำนามที่ขยาย สำหรับข้อนี้ให้ตามหลัง was (ก็คือ verb to be) จึงตอบรูปคุณศัพท์ และรูปคุณศัพท์มี 2 รูปแบบคือลงท้ายด้วย -ed และ -ing มีหลักให้ดูง่ายดังนี้
รูปกริยา | adj. ลงท้ายด้วย -ing มักใช้กับ สิ่งไม่มีชีวิตหรือสิ่งของ “น่าจะ” | ad. ลงท้ายด้วย -ed มักใช้กับ สิ่งมีชีวิต แสดง “รู้สึก”
interest | interesting (น่าสนใจ) | interested (รู้สึกสนใจ)
bore | boring (น่าเบื่อ) | bored (รู้สึกเบื่อ)
annoy | annoying (น่ารำคาญ หงุดหงิด) | annoyed (รู้สึกหงุดหงิด รำคาญ)
charm | charming (น่าประทับใจ มีเสน่ห์) | charmed (ดูดี มีเสน่ห์)
terrify | terrifying (น่ากลัว) | terrified (รู้สึกหวาดกลัว)
worry | worrying (วิตกกังวล) | worried (รู้สึกกังวล)
excite | exciting (น่าตื่นเต้น) | excited (รู้สึกตื่นเต้น)
satisfy | satisfying (น่าพึงพอใจ) | satisfied (รู้สึกพึงพอใจ)
ข้อนี้ประธานเป็น The garden (สวน) เป็นสิ่งของจึงตอบ charming = สวนที่น่าประทับใจ

6. Joseph and Susie were ________ when the movie started late.
1. annoy
2. annoys
3. annoyed
4. annoying
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. เพิ่มเติม ประธาน Joseph and Susie เป็น 2 คน ใช้คุณศัพท์รูปลงท้าย -ed แสดงรู้สึก คือ annoyed รู้สึกหงุดหงิด รำคาญ

7. Bruce was ________ of speaking in front of large crowds.
1. terrified
2. terrifying
3. worried
4. worrying
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 5. เพิ่มเติม ประธาน Bruce (ชื่อคน) ใช้ลงท้ายรูป -ed แสดงรู้สึก คงเหลือตัวเลือกที่ 1 และ 3 เข้ากับประโยคได้คือ worried ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
– I am terrified of being alone. (ฉันกลัวการอยู่คนเดียว) terrified ตามด้วย of
– I am worried about our match on Friday. (ฉันรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันของเราในวันศุกร์)
คุณศัพท์ worried มักตามด้วย about ฉะนั้นข้อนี้ มี of จึงตอบ terrified of รู้สึกกลัว

8. I ________ with the progress I’ve made in my fitness journey.
1. am excited
2. were excited
3. am satisfied
4. were satisfied
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 5. เพิ่มเติม ประธาน I เป็นคน จึงเลือกตัวเลือกลงท้ายด้วย -ed และประธาน I ใช้กับ am และ was จึงคงเหลือตัวเลือกที่ 1 และ 3 เทียบตัวอย่าง
– I am excited to see you. (ฉันตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอคุณ) คุณศัพท์ excited ตามด้วย of /about
– I am satisfied with the progress… (ฉันรู้สึกพอใจกับความก้าวหน้าที่ฉัน…..) satisfied ตามด้วย with

9. The food is ________ by the chef before it is served.
1. prepare
2. prepared
3. prepares
4. preparing
ตอบ 2 เป็นเรื่อง passive voice (รูปถูกกระทำ) ให้สังเกตจากประธานเป็นสิ่งของที่ถูกกระทำ หรือมี by (โดย) อยู่ท้ายประโยคทำให้เราเดาได้เลยว่าถูกกระทำ ให้ใช้โครงสร้าง verb to be + V3 ถ้ารูปถูกกระทำ จำไว้เลยว่าต้องลงท้ายด้วยกริยาช่องที่ 3 เสมอ จึงตอบ is prepared by

10. The announcement are ________ over the loudspeaker every morning.
1. made
2. make
3. makes
4. making
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 9. เพิ่มเติม ประธานเป็นสิ่งของ (การประกาศ) ถูก…. หรือเดาว่ามี verb to be (are) แล้วสามารถตามด้วยกริยาช่องที่ 3 หรือ Ving เท่านั้น คงเหลือตัวเลือกที่ 1 และ 4 แต่เนื่องจากประธานเป็นสิ่งของจึงถูกกระทำ = are made …

11. Sarah ________ her favorite song on the radio yesterday.
1. hear
2. hears
3. hearing
4. heard
ตอบ 4 ใช้ Past Simple Tense (S + V2) แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต มักมีคำบอกเวลา เช่น yesterday (เมื่อวานนี้), ago (ที่ผ่านมา), in+ ปีอดีต, in the past (ในอดีต), last + ช่วงเวลา เช่น last year, last night เป็นต้น สำหรับข้อนี้มีคำบอกเวลา yesterday จึงตอบกริยาช่องที่ 2 คือ heard (มาจากกริยา hear heard heard)

12. We ________ a delicious meal at the new restaurant last night.
1. eat
2. eats
3. ate
4. eating
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคำบอกเวลา last night (เมื่อคืนนี้) เป็นอดีต จึงตอบกริยาช่องที่ 2 จากกริยา eat ate eaten = กิน จึงตอบ ate (V2)

13. The project is ________ by the students in groups.
1. complete
2. completes
3. completing
4. completed
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 9. ประกอบ เป็นลักษณะเดียวกันคือ มี by (โดย…) และประธานเป็นสิ่งของ (โครงการ) ถูกทำให้สำเร็จ ใช้ verb to be + V3 = is completed

14. The email is ________ to all the teachers.
1. send
2. sent
3. sends
4. seeing
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 9. ประกอบ ประธานเป็นสิ่งของ (อีเมล์) ถูกส่ง ใช้ verb to be + V3 = is sent มาจากกริยา send sent sent (ส่ง)

15. They ________ a beautiful painting during their trip to the art museum.
1. see
2. saw
3. sees
4. seeing
ตอบ 2 ข้อนี้ไม่มีคำบอกเวลาที่ระบุ แต่โจทย์เป็นการเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา ว่าพวกเขาเห็นภาพวาดที่สวยงามภาพหนึ่งในระหว่างเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ซึ่งการเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วถือว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตใช้ Past Simple Tense (S + V2) = saw (มาจาก see saw seen = เห็น)

16. I ________ my keys on the bus yesterday.
1. lose
2. loses
3. lost
4. losing
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 11. ประกอบ มีคำบอกเวลา yesterday จึงตอบ V2 = lost มาจาก lose lost lost = สูญหาย

17. Thomas loves to ________ football with his friends every weekend.
1. do
2. play
3. have
4. go
ตอบ 2 คำถามต้องการให้ตอบกริยา go, do, play กับกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีหลักการดังนี้
1. ใช้ go : จะตามหลังด้วยกิจกรรมที่ลงท้ายด้วย -ing (แต่หลัง go ต้องไม่มี to) เช่น climbing (ปีนเขา), cycling (ปั่นจักรยาน), dancing, diving (ดำน้ำ), fishing, riding, swimming, sailing (ล่องเรือ), hiking (เดินป่า), running, jogging เป็นต้น
2. ใช้ do/does: กับกิจกรรมเพื่อพักผ่อน หรือกิจกรรมส่วนตัว เช่น boxing, weightlifting (ยกน้ำหนัก), bodybuilding (เพาะกาย), aerobics, crossword, karate, yoga, judo, ballet (บัลเล่ต์), athletic (กรีฑา), taekwondo, kung-fu, exercise (ออกกำลังกาย)
3. ใช้ play : กับกีฬาที่เล่นเป็นทีม มีกติกา เกมส์หรือการแข่งขัน เช่น badminton, baseball, basketball, chess (หมากรุก) cricket, hockey, squash, football, tennis, volleyball, soccer, table-tennis, rugby เป็นต้น เทียบตัวอย่าง
– They play football. ฉะนั้นข้อนี้ก็มี football จึงตอบ play
– Jen enjoys playing basketball with her friends. (เล่นบาสเก็ตบอล)
– I do exercise. (ฉันออกกำลังกาย)
– Does Kate do yoga? (เคทเล่นโยคะมั้ย?)
– We usually go running on Sunday. (พวกเราปกติไปวิ่งวันอาทิตย์)
– I don’t go swimming. ฉะนั้นข้อนี้จึงตอบ go swimming จำนะคะ ออกทุกเทอมหลายข้อด้วย

18. I want to ________ swimming at the pool this afternoon.
1. play
2. go
3. make
4. do
ตอบ 2 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ กริยา go + Ving เช่น go swimming = ไปว่ายน้ำ

19. Anna ________ yoga to relax and stay fit.
1. does
2. goes
3. plays
4. makes
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ กีฬาโยคะ (yoga) ใช้ do/does yoga = เล่นโยคะ

20. We enjoy ________ volleyball at the beach and ________ exercises to build our teamwork.
1. going; playing
2. playing; going
3. doing; playing
4. playing; doing
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 17. ประกอบ ใช้ play กับเกมกีฬา volleyball และใช้ do/does กับ exercise (การออกกำลังกาย) จึงตอบ playing volleyball และ doing exercises

21. I have a friend ________ plays guitar in the school band.
1. when
2. where
3. who
4. whose
ตอบ 3 ให้เติมประพันธ์สรรพนาม โดยให้สังเกตจากข้างหน้าคำที่ให้เติมช่องว่างว่าเป็นคนหรือสิ่งของ หรือสถานที่ เราดูคำนามข้างหน้าก่อนว่าเป็นอะไร ถ้าเป็น
คน who + verb (คำกริยา) ในที่นี้คือ plays
คน whose + คำนาม + V
คน whom + S + Verb คำว่า S มักเป็นคำสรรพนามเช่น I saw, you met
สิ่งของ which + Verb หรือ which + S + V.
สถานที่ where + S + V. เช่น where I live
เวลา when + S + V
the reason why + S + V
จากโจทย์ a friend (เพื่อน) เป็นคน และส่วนขวามือมีกริยา (plays) ก็คือคำ who ได้เลย
คน + who + กริยา = a friend who plays

22. Jennie is the artist ________ painting won the national award last year.
1. whose
2. when
3. whom
4. who
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 21. เพิ่มเติม the artist (ศิลปิน เป็นคน) และมีคำนามอยู่ขวามือ painting (เป็นคำนาม ภาพวาด) นั่นคือ คน + whose + คำนาม + Verb = the artist whose painting won…

23. There was a time ________ I believed in fairy tales and magic.
1. where
2. who
3. whose
4. when
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 21. เพิ่มเติม คำนาม a time (เวลา) + when + ประโยค เห็นข้างหน้าเป็นวันเดือนปี ก็คือ เวลา เช่น time, day, month ก็ตอบ when ได้เลย

24. This is the restaurant ________ we had our meeting last month.
1. whose
2. who
3. where
4. what
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 21. เพิ่มเติม คำนาม the restaurant (ภัตตาคาร เป็นสถานที่) จึงตอบ where

25. Jessie ________ eats fast food because she prefers home-cooked meals.
1. always
2. often
3. rarely
4. usually
ตอบ 3 จากตัวเลือกจะรู้ว่าให้มาเป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Adv) ซึ่งสามารถแยกความถี่จากมากไปหาน้อยดังนี้
1. ความถี่บ่อยครั้ง เป็นประจำ เช่น always, usually, often, sometimes, frequently, normally
2. ความถี่ไม่ค่อยจะ นาน ๆ ที เช่น rarely (แทบจะไม่), hardly, seldom (นาน ๆ ครั้ง ไม่ค่อยจะ) never
จากโจทย์ “เจสซี่ ___ กินอาหารจานด่วนเพราะเธอชอบทานอาหารที่ทำมาจากบ้านมากกว่า”
แสดงว่าคำที่เติม จะบอกความถี่ว่าไม่ค่อยจะ นาน ๆ ครั้ง ซึ่งตรงกับคำว่า rarely (ไม่ค่อยจะ) หรือดูตัวเลือก ง่าย ๆ ว่าตัวเลือก 1, 2 และ 4 อยู่กลุ่มความถี่ประจำเหมือนกัน มี rarely อยู่กลุ่มถี่น้อย ต่างจากกลุ่มตัวอื่น

26. Jeff ________ the door before leaving his apartment.
1. never forgets to lock
2. forgets never to lock
3. to lock never forget
4. never to forget lock
ตอบ 1 คำกริยาวิเศษณ์ที่บอกความถี่ เช่น never, always, seldom, sometimes, often, usually จะวางไว้หน้ากริยาหลัก (กริยาแสดงอาการกระทำทั่วไป) และตามหลัง verb to be ดูการวาง
1. วางหน้ากริยาหลัก เช่น
– I always get up early. (always วางไว้หน้ากริยา get เสมอ)
– Pete seldom helps his mother in the kitchen. (seldom วางไว้หน้ากริยา helps)
– You never help me. (never วางไว้หน้ากริยา help)
2. วางหลัง Verb to be
– She is always happy. (always วางไว้หลัง is หรือหลัง verb to be)
– I am never late for work. (never วางไว้หลัง am)
จากตัวเลือก forgets เป็นกริยาหลัก ฉะนั้น never ต้องวางไว้หน้า forgets และกริยา forgets มี s ท้าย เพราะประธาน Jeff เป็นเอกพจน์ forgets เป็นกริยาเอกพจน์ ก็คือ Jeff never forgets

27. Which is correct?
1. Ed always play online games before going to bed.
2. James read always a book before he going to bed.
3. Laura always takes her dog for a walk after dinner.
4. The teacher explains never the homework.
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 26 ประกอบ
1. ที่ถูกต้องคือ Ed always plays online games… Ed เป็นคำนามเอกพจน์กริยาต้องเอกพจน์ plays
2. ที่ถูกต้องคือ James always reads ….. always ต้องวางหน้ากริยา reads
3. ถูกต้องแล้ว always เป็นความถี่ที่วางไว้หน้ากริยาหลักในที่นี้คือ takes ถูกต้อง
4. ที่ถูกต้องคือ The teacher never explains ….

28. Which is correct?
1. How you often go to the library?
2. Does they speaks French?
3. Do you sometimes turn in your homework late?
4. What time you usually go to bed?
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 26. ประกอบ
1. ผิด ต้องแก้เป็น How often do you go to the library? การถาม How often ถามความถี่ว่า บ่อยแค่ไหน
2. ผิด ประธาน They เป็นพหูพจน์ ต้องใช้กริยาช่วย Do ต้องแก้เป็น Do they speak French?
3. ถูกต้อง โดย sometimes วางไว้หน้ากริยาหลัก turn แล้ว
4. ผิด ต้องแก้เป็น What time do you usually go to bed? เป็นคำถามต้องใช้ verb to do ไว้หน้าประธาน you

29. The phone’s ringing. I ________ it.
1. will answer
2. would have answered
3. should have answered
4. answered
ตอบ 1 สองประโยคมีความเชื่อมโยงเวลากัน จะเห็นว่าประโยคแรกใช้ is ringing เป็น Present Continuous Tense (S+ is/am/are + Ving) แสดงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและอีกประโยคหนึ่งตามมาสามารถใช้คู่กันได้ก็คือ รูปปัจจุบันหรือไม่ก็อนาคตก็ได้ (นั่นคือ ปัจจุบันคู่ปัจจุบัน หรือปัจจุบันคู่อนาคตก็ได้) ฉะนั้นทำให้เราสามารถเดาได้จากตัวเลือกให้มาซึ่งมีตัวเลือกข้อ 1 will answer เป็น Future Simple Tense คืออนาคต ตัวเลือกเดียว จึงตอบข้อ 1 นี้ส่วนตัวเลือกอื่นเป็นอดีตทั้งสิ้น รูป would/should have V3 เป็นอดีตและ answered เป็น V2 ก็อดีต จึงไม่ถูกต้อง

30. I can’t find the article I downloaded last night. I ________ for it online again.
1. had searched
2. will search
3. had search
4. were going to search
ตอบ 2 ลักษณะคล้ายข้อ 29. ที่ผ่านมา มีระบุในปัจจุบันว่า I can’t find (หาไม่เจอบทความที่ฉันดาวน์โหลดเมื่อคืน) ฉันจะค้นหาบทความนั้นทางออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง) แสดงถึงปัจจุบัน กับการกระทำต่อในอนาคตว่า will search ในตัวเลือกข้อ 2 เป็นรูปอนาคตตัวเลือกเดียว นอกนั้นตัวเลือกข้อ 1, 3 และ 4 เป็นอดีตทั้งสิ้นจึงผิด

31. A: ________ to stay overnight there?
B: Yeah, I ________ to stay until Sunday evening.
1. Do you go; am going
2. Will you; will go
3. Are you going; am going to
4. Do you; do
ตอบ 3 A และ B สนทนากัน การตอบรับแบบนี้ตั้งอยู่ในรูปกาลเวลาที่สัมพันธ์กันก็คือเป็นปัจจุบันก็คู่ปัจจุบันรูปเดียวกัน จาก B ตอบว่า until Sunday evening = จนกว่าจะถึงเย็นวันอาทิตย์ แสดงว่าเหตุการณ์จะยังไม่มาถึง เป็นการบ่งบอกถึงในอนาคตเร็ว ๆ นี้ว่าจนกว่าถึงเย็นวันอาทิตย์ ในการใช้รูปอนาคตโดยทั่วไปใช้ will + V1 ไม่มี to คั่น ฉะนั้นจากตัวเลือกข้อ 2 Will you to stay ไม่ถูกต้อง เพราะ will to stay ตัว will ไม่มี to ตามแต่มีอีกตัวหนึ่งที่แทน will ได้ก็คือ be (is/am/are) going to = กำลังจะ เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ จ้า!! มีให้ตอบทุกเทอมเช่นกันโครงสร้างนี้ ฉะนั้น
เมื่อ A ถาม “คุณจะพักค้างคืนที่นั่นไหม? B: ตอบ ใช่, ฉันจะพักอยู่จนกว่าจะถึงเย็นวันอาทิตย์ นั่นคือรูป Are you going to stay และ B ตอบ I am going to stay เช่นกัน

32. I’ve been busy. I ________ to work on my project this weekend.
1. am going
2. should
3. will
4. had
ตอบ 1 ดูคำอธิบายข้อ 31. ประกอบ เราเห็น to ที่โจทย์ แสดงว่าต้องตอบโครงสร้างที่มาติดกับ to ได้นั่นคือ am going to work = will work นั่นเอง จึงตอบตัวเลือกที่ 1 ถ้าสังเกตจากกริยาช่วยตัวเลือกที่เหลือ should, will จะไม่มี to ตาม และ had to จะเป็นรูปอดีต ใช้เข้ากันไม่ได้ เพราะประโยคแรกใช้ have been แสดงเหตุการณ์ปัจจุบัน (Present Perfect) ที่ทำต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เอา had to อดีตมาไม่ได้

33. DeBua likes to study English, ________ DePaul prefers singing contest.
1. but
2. and
3. so
4. for
ตอบ 1 ให้เติมคำเชื่อมว่า เราต้องดูความหมายของประโยคว่าต้องการคำเชื่อมใช้ในกรณีไหน เช่น
แสดงความหมาย | ใช้เครื่องหมาย , ___ | ใช้เครื่องหมาย ; ___,
1. แสดงความขัดแย้ง | but, yet, or | however, instead, whereas, nevertheless, otherwise
2. แสดงการคล้อยตามกัน หรือเพิ่มเติมข้อมูลในทางเดียวกัน | and, nor | furthermore, moreover, meanwhile, besides, also, similarly
3. แสดงผลหรือสรุปความ | so | accordingly, finally, consequently, therefore, thus
4. แสดงเหตุ | for (เพราะว่า เนื่องจาก) | because (ไม่มีเครื่องหมายคั่น)
5. แสดงทางเลือก | or (หรือ มิฉะนั้น) |
จากประโยค“เดอบัวชอบเรียนภาษาอังกฤษ แต่เดอพอลชอบประกวดร้องเพลง” ชอบคนละอย่างกัน เป็นประโยคแสดงความแย้งใช้คำเชื่อม but (แต่)

34. Which of the following is a complex sentence?
1. He waits his product until it has been finished.
2. We predict the weather before its changing.
3. High performance has been proved and raised its level better.
4. They earn their life and play soccer.
ถาม ข้อไหนต้องไปนี้เป็นประโยคใจความเดียว
ตอบ 1 วิธีง่าย ๆ ในการดูโครงสร้างประโยคว่า เป็นประโยคแบบไหน ดังนี้
1. Simple Sentence คือ ประโยคใจความเดียว คือเจอประธานตัวเดียวกริยาตัวเดียว
2. Compound Sentence คือ ประโยคความรวม มีสองประโยคมาเชื่อมเข้าด้วยกันโดยใช้คำเชื่อมเช่น and, but, or, so, nor, yet
3. Complex Sentence คือ ประโยคความซ้อน ที่มีอนุประโยคตั้งแต่ 2 ประโยคหรือมากกว่านั้นมารวมกัน หรือวิธีสังเกตง่าย ๆ เราเจอคำเชื่อม เช่น because, however, therefore, before, after, until ,furthermore, in addition to, although, when, who, which, where, what, whose, how, that เป็นต้น
จากตัวเลือกข้อ 1 มี until (จนกระทั่ง) เป็นการขั้นเวลา ดูหลักการเดาที่อธิบายด้านบน ถือว่าเป็น complex sentence
ตัวเลือกข้อ 2 เป็นประโยคใจความเดียว ทั้งแม้มี before แต่ตามด้วยนามวลี its + นาม รวมกันเป็นบุพบทวลี หลัง before ไม่ได้ต่อด้วยประโยค ไม่ได้ถือว่าเป็น complex sentence
ตัวเลือกข้อ 3 มีประธานตัวเดียวคือ High performance แสดงอาการกระทำสองอย่าง จึงมี and คั่นตามด้วยกริยาตามประธานตัวหน้าตัวเดียว ถ้า and เชื่อมด้วย 2 ประโยคจึงจะเป็น compound sentence
ตัวเลือกข้อ 4. เหมือนตัวเลือกข้อ 3 มีประธานตัวเดียวคือ They กริยาสองตัวคือ earn และ play เป็น simple sentence

35. Yupa still improve her living poverty ________ jobs go so far every day.
1. and
2. although
3. unless
4. if
ตอบ 2 ให้ตอบคำเชื่อมตรงกลางประโยคตัวไหน บางข้อก็ต้องดูความหมายประโยค แล้วดูตัวเลือกคำเชื่อม
“ยุพายังคงทำให้ความเป็นอยู่ที่ยากจนดีขึ้น แม้ว่างานที่ทำจะห่างไกลออกไปทุกวัน”
เติมคำเชื่อมที่แสดงความขัดแย้งกัน ก็คือ although = แม้ว่า ถึงแม้ว่า นอกนั้น เป็น and เป็นการบอกเพิ่มเติมข้อความ unless = นอกเสียจาก ถ้า ….ไม่ และ if = ถ้าหากว่า เป็นการแสดงเงื่อนไข

36. ________ Mike smoked very hard, he couldn’t meet II on carcinoma.
1. Even though
2. Hence
3. So
4. As
ตอบ 1 ให้ตอบคำเชื่อมขึ้นต้นประโยคตัวไหน ต้องดูความหมายของประโยคก่อน
“ถึงแม้ว่าไมค์จะสูบบุหรี่อย่างหนัก แต่เขาก็ไม่พบเจอมะเร็งระยะที่ 2 ”
ส่วนหลัง couldn’t meet = ไม่เจอ แสดงความขัดแย้งกับประโยคส่วนหน้าว่าสูบบุหรี่หนัก แต่ไม่เจอ
ก็คือคำเชื่อ Even though = Although = ถึงแม้ว่า นอกนั้น Hence = So = ดังนั้น As = ขณะที่

37. This is ________ summer we’ve experienced in years.
1. a hot
2. hotter
3. the hottest
4. the most hot
ตอบ 3 เป็นการเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ (Adj.) ซึ่งมี 3 ขั้น ดังนี้
1. ขั้นธรรมดาเปรียบเทียบเท่ากัน ใช้ as ………as ไม่เท่ากันใส่ not เป็น not as/so………as
2. ขั้นกว่า เปรียบเทียบ 2 อย่าง 2 คน 2 สิ่ง หรือ เจอ than ตอบขั้นกว่าได้เลย
3. ขั้นสุด เปรียบเทียบ 3 อย่างหรือมากกว่า 3 ขึ้นไป อาจเจอคำว่า of all, in + สถานที่ ที่สุดในนั้น หรือ ข้อนี้เจอคำว่า ….we’ve experienced in years = ….ที่เราได้เคยประสบมาหลายปี ให้ตอบขั้นสุด เราดูตัวเลือกให้มาคำว่า hot พยางค์เดียวทำเป็นขั้นกว่า ขั้นสุดเติม -er -est ท้ายคำ ดังนี้ hot hotter hottest (ร้อนที่สุด) และใส่ the ข้างหน้า ก็จะเป็น the hottest summer we’ve experienced… ร้อนที่สุดเท่าที่เราเคยประสบมาหลายปี

38. David gave ________ performance in the competition.
1. good
2. better
3. best
4. the best
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ มีคำว่า in + สถานที่ ให้ตอบขั้นสุด ดูตัวคุณศัพท์ให้มาคือ good การทำเป็นขั้นกว่า ขั้นสุด ตัวนี้จะเปลี่ยนรูป ให้จำตัวเปลี่ยนรูป มีดังนี้
คำคุณศัพท์ (adj.)ขั้นธรรมดา | ขั้นกว่า | ขั้นสุด
good (ดี) | better (ดีกว่า) | best (ดีที่สุด)
bad (เลว แย่) | worse (แย่กว่า เลวกว่า) | worst (แย่ที่สุด)
much/many (มาก) | more (มากกว่า) | most (มากที่สุด)
little (น้อย) | less (น้อยกว่า) | least (น้อยที่สุด)
far (ห่างไกล) | farther/further (ไกลกว่า มากขึ้น เพิ่มเติม) | farthest /furthest (ไกลที่สุด มากที่สุด)
ฉะนั้นจาก good เป็นขั้นสุดคือ the best มี the นำหน้า

39. It was ________ day of my life.
1. happy
2. happier
3. the happiest
4. the most happy
ตอบ 3 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบ มีคำว่า of my life (ที่สุดในชีวิตของฉัน) ตอบขั้นสุด จากคุณศัพท์ happy ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม est ต่อท้าย จึงเป็น the happiest

40. The Northern Lights are ________ natural phenomenon I’ve ever witnessed.
1. breathtaking
2. more breathtaking
3. the more breathtaking
4. the most breathtaking
ตอบ 4 ดูคำอธิบายข้อ 37. ประกอบมีคำว่า I’ve ever witnessed (เท่าที่ฉันเคยเห็นมา) ก็ตอบขั้นสุดเช่นกัน จากคำคุณศัพท์ breathtaking หลายพยางค์ ทำเป็นขั้นกว่า ขั้นสุด ใส่ more most นำหน้า จึงเป็น the most breathtaking

Part II: Vocabulary (คำศัพท์)
Directions: Choose the best answer.

41. You can take the ________ class if you’re interested, but it’s not required.
1. mild
2. demure
3. optional
4. restrictive
ถาม คุณสามารถที่จะดำเนินการ________ชั้นเรียนได้ ถ้าคุณสนใจ แต่ชั้นเรียนไม่ได้บังคับ
ตอบ 3
1. อ่อนโยน ไม่รุนแรง
2. อาย
3. เลือกได้ ทางเลือก
4. เคร่งครัด
เราคาดเดาได้จากคำว่า not required = ไม่บังคับ แสดงว่า optional class = ชั้นเรียนแบบเลือกได้

42. Her ________ on details made it hard for her to see the big picture.
1. gear
2. beanie
3. fixation
4. portrait
ถาม ________ ของเธอในรายละเอียดทำให้ยากต่อเธอที่จะมองเห็นภาพใหญ่
ตอบ 3
1. อุปกรณ์
2. หมวก
3. การยึดติด คงที่
4. ภาพเหมือน
เจอคำว่า details รายละเอียด คาดเดาว่า รายละเอียดที่ฝังแน่น คงที่ หรือยึดติด

43. ________ therapy has been shown to help people manage anxiety.
1. Separate
2. Cognitive
3. Productive
4. Restrictive
ถาม การบำบัด ________ ได้ถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าช่วยเหลือผู้คนจัดการความวิตกกังวลได้
ตอบ 2
1. แยกออก
2. การรับรู้ ทางความคิด
3. มีประสิทธิภาพ
4. เข้มงวด
cognitive therapy = การบำบัดด้วยการรู้ บำบัดทางความคิด การรับรู้ ความรู้ความเข้าใจ

44. After careful planning, Gina decided to ________ out on a new business.
1. deal
2. strike
3. resort
4. figure
ถาม หลังจากวางแผนอย่างรอบคอบ จีน่าจึงตัดสินใจ ________ ในธุรกิจใหม่
ตอบ 4
1. การตกลง
2. โจมตี
3. หันไปใช้
4. คิด
figure out = คิด คิดคำนวณ

45. Pigs are excellent ________ that eat almost anything.
1. lessons
2. portions
3. omnivores
4. metaphors
ถาม พวกหมูเป็น ________ ที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง ซึ่งกินได้เกือบหมดทุกอย่าง
ตอบ 3
1. บทเรียน
2. สัดส่วน
3. สัตว์กินพืช
4. อุปมาอุปไมย
omnivores = สัตว์กินพืช เช่น หมู ที่กล่าวในโจทย์

46. His ________ spending habits led to financial trouble.
1. difficult
2. productive
3. excessive
4. detrimental
ถาม นิสัยการใช้จ่ายที่ ________ ของเขานำไปสู่ความยากลำบากทางการเงิน
ตอบ 3
1. ยุ่งยาก ลำบาก
2. มีประสิทธิภาพ
3. มากเกินไป
4. เป็นอันตราย
excessive = too much = มากเกินไป (คาดเดาจากคำว่า financial trouble ปัญหาทางการเงิน

47. Spending time in nature has been shown to positively affect ________.
1. salute
2. incident
3. deviation
4. wellbeing
ถาม การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีผลด้านดีต่อ ________
ตอบ 4
1. ทักทาย
2. เหตุการณ์
3. การเบี่ยงเบน
4. ความเป็นอยู่ดี กินดี
ประโยคบ่งบอกถึงด้านดี positive ก็ตอบคำศัพท์ ความอยู่ดีกินดี

48. The forecast predicts a decrease in ________ over the next few weeks.
1. chant
2. moment
3. rainfall
4. temperature
ถาม การพยากรณ์ได้ทำนายถึงการลดลงของ ________ ในช่วงอีก 2 – 3 สัปดาห์หน้า
ตอบ 4
1. การท่องทำนอง
2. ช่วง ชั่วครู่
3. ปริมาณฝนตก
4. อุณหภูมิ
คำบอกใบ้พูดถึง การพยากรณ์ ทำนาย ก็คาดเดาคำ temperature = อุณหภูมิ

49. The ________ told a funny joke during the play, and everyone laughed.
1. audience
2. playwright
3. actor
4. plot
ถาม ________ เล่าเรื่องตลกบนขนะระหว่างการแสดงทำให้ทุกคนหัวเราะ
ตอบ 3
1. ผู้ชม ผู้ฟัง
2. นักเขียนบทละคร
3. นักแสดง
4. เค้าโครงเรื่อง
คาดเดาจากคำว่า during the play = ระหว่างการแสดง ทำให้ตอบคำว่า actor = นักแสดง

50. The school play ended in a ________, and many people in the audience cried.
1. comedy
2. tragedy
3. poem
4. metaphor
ถาม การแสดงของโรงเรียนได้จบลงด้วย ________ ทำให้ผู้คนจำนวนมากในที่ชมละครร้องไห้ออกมา
ตอบ 2
1. ตลกขบขัน
2. โศกนาฏกรรม
3. บทกลอน
4. อุปมาอุปไมย
คาดเดาจากคำว่า audience cried = ผู้ชมร้องไห้ แสดงว่าเป็นเรื่องเศร้า tragedy = โศกนาฏกรรม

51. The soldier was honored for his ________ after the battle.
1. loyalty
2. overthrow
3. disgrace
4. promiscuity
ถาม บรรดาทหารได้รับการเชิดชูเกียรติสำหรับ ________ ของเขาหลังจากการสู้รบ
ตอบ 1
1. ความซื่อสัตย์
2. การล้มล้างการปกครอง
3. การขัดแย้ง
4. ความสำส่อนทางเพศ
เมื่อกล่าวถึงทหาร ก็คาดเดาถึงคำว่า loyalty = ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี

52. The government feared the people would ________ the president.
1. reveal
2. overthrow
3. survive
4. glory
ถาม รัฐบาลหวาดกลัวประชาชนอาจจะ ________ ประธานาธิบดี
ตอบ 2
1. เปิดเผย
2. ล้มล้างการปกครอง
3. รอดชีวิต
4. รุ่งโรจน์
บทที่ 10 overthrow = ล้มล้างการปกครอง

53. My teacher asked me to write a short ________ describing the summer season.
1. tragedy
2. comedy
3. poem
4. stage
ถาม ครูของฉันขอร้องให้ฉันเขียน ________ สั้น ๆ 1 บทพรรณนาถึงฤดูร้อน
ตอบ 3
1. โศกนาฏกรรม
2. ตลกขบขัน
3. บทกลอน โคลง
4. เวที
คาดเดาจาก describing the summer = พรรณนาถึงฤดูร้อน ก็เดาคำศัพท์ poem = บทกลอน

54. The ________ watched in silence as the actors performed their roles.
1. playwright
2. audience
3. actor
4. metaphor
ถาม ________ ชมอย่างเงียบ ๆ เมื่อนักแสดงแสดงบทบาทของตนเอง
ตอบ 2
1. นักเขียนบทละคร
2. ผู้ชม ผู้ฟัง
3. นักแสดง
4. อุปมาอุปไมย
คาดเดาจากคำว่า นักแสดง สอดคล้องกับคำว่า audience = ผู้ชม (และคำว่า actor ก็ตอบไปแล้วในข้อที่ผ่านมาก็ไม่น่าตอบซ้ำอีก)

55. The artist drew a ________ of the famous leader.
1. fame
2. behead
3. portrait
4. disgrace
ถาม ศิลปินวาดรูป ________ ของผู้นำที่มีชื่อเสียง
ตอบ 3
1. ชื่อเสียง
2. ตัดศีรษะ
3. ภาพวาด
4. ความอับอายขายหน้า
จากคำว่า ศิลปินวาด…. ก็คาดเดาเติมคำว่า portrait = ภาพ ภาพเหมือน

56. After years of marriage, they decided to ________.
1. divorce
2. overthrow
3. loyalty
4. survive
ถาม หลังจากการสมรสมาหลายปี พวกเขาก็ตัดสินใจ ________.
ตอบ 1
1. หย่าร้าง
2. ล้มล้างอำนาจ
3. ความซื่อสัตย์
4. รอดชีวิต
คาดเดาคำศัพท์ marriage การแต่งงาน ก็คู่กับคำว่า divorce = หย่าร้าง และตัวเลือกข้อ 2 และ 3 ที่ผ่านมาก็ได้ตอบไปแล้ว ไม่ควรตอบซ้ำ

57. After a long discussion, the committee decided to ________ all discussions about the proposed changes for the time being.
1. cease
2. promote
3. initiate
4. enhance
ถาม หลังจากการอภิปรายอย่างยาวนาน คณะกรรมการตัดสินใจ ________ ข้ออภิปรายเรื่องการแลกเปลี่ยนที่ถูกเสนอเข้ามาทั้งหมดให้ทันกับเวลาที่มีอยู่
ตอบ 1
1. ยุติ หยุด
2. สนับสนุน
3. เริ่มต้น
4. สนับสนุน
จากคำว่า for the time being = ให้ทันกับเวลาที่มีอยู่ ทำให้คาดเดาคำว่า cease = หยุด ยุติ

58. To ensure the project’s success, the team needed to ________ the proposed strategies as soon as possible.
1. create
2. desert
3. implement
4. analyze
ถาม เพื่อให้มั่นใจถึงความสำเร็จของโครงการ ทีมจำเป็นต้อง ________ กลยุทธ์ที่ถูกเสนอมาโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้
ตอบ 4
1. สร้างขึ้น
2. ละทิ้ง
3. นำไปปฏิบัติ
4. วิเคราะห์
ประโยคกล่าวถึง กลยุทธ์ที่จะนำไปใช้ให้สำเร็จ จึงต้องวิเคราะห์ก่อน

59. Please be quiet in the library so you don’t ________ those who are studying or reading.
1. encourage
2. disturb
3. support
4. entertain
ถาม โปรดกรุณาเงียบในการใช้ห้องสมุด ดังนั้นคุณต้องไม่ ________ คนที่กำลังค้นหาหรืออ่านหนังสือ
ตอบ 2
1. ส่งเสริม สนับสนุน
2. รบกวน
3. สนับสนุน
4. ให้ความสนุก
คาดเดาจากคำว่า be quiet = ให้เงียบ แสดงว่า ห้ามรบกวน = don’t disturb

60. It’s never a good idea to ________ a pet, as it can lead to suffering and loneliness for the animal.
1. train
2. adopt
3. rescue
4. abandon
ถาม ________ สัตว์เลี้ยงไม่ใช่ความคิดที่ดี เพราะอาจจะนำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและความต้องการของพวกสัตว์
ตอบ 2
1. อบรม สอน
2. รับเลี้ยง
3. ช่วยเหลือจากอันตราย
4. ละทิ้ง
คาดเดาจากคำว่า pet = สัตว์เลี้ยง ทำให้เราตอบ adopt = นำมาเลี้ยง รับเลี้ยง

61. In art class, we learned how to draw a ________ of a friend using different techniques to show their personality.
1. abstract
2. collage
3. sculpture
4. portrait
ถาม ในชั้นเรียนศิลปะ พวกเราเรียนรู้วิธีการวาดรูป ________ ของเพื่อนคนหนึ่งที่ใช้เทคนิคไม่เหมือนใครในการแสดงบุคลิกของผู้คน
ตอบ 4
1. นามธรรม
2. ศิลปการสร้างภาพ
3. การแกะสลัก
4. ภาพวาดรูปคน
portrait = ภาพวาดรูปคน ภาพเหมือน เดาจากคำว่า draw = วาดรูป

62. The gardener needed to ________ the hedges to maintain their shape and encourage new growth in the spring.
1. color
2. dye
3. trim
4. lengthen
ถาม คนทำสวนจำเป็นต้อง ________ พุ่มไม้เพื่อรักษารูปทรงของพุ่มไม้และช่วยให้แตกกอใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ
ตอบ 3
1. ทาสี
2. ย้อมสี
3. ตัดแต่ง เล็มออก
4. ทำให้ยืดยาว
trim the hedges = ตัดแต่งพุ่มไม้

63. The new laws were seen as ________ because they limited people’s freedom to choose how to spend their time.
1. restrictive
2. helpful
3. generous
4. exciting
ถาม กฎหมายใหม่ถูกพบว่ามีลักษณะ ________ เนื่องจากกฎหมายเหล่านั้นจำกัดอิสระภาพของคนในการเลือกที่จะใช้เวลาของผู้คน
ตอบ 1
1. เข้มงวด
2. ช่วยเหลือได้
3. ใจกว้าง
4. น่าตื่นเต้น
คาดเดาจากคำว่า limited people’s freedom = จำกัดเสรีภาพของผู้คน ทำให้ตอบ restrictive = เข้มงวด จำกัด เคร่งครัด

64. The company plans to ________ a branch in another city to reach more customers and grow its business.
1. establish
2. ignore
3. destroy
4. question
ถาม บริษัทวางแผนที่จะ ________ สาขาอีกสาขาหนึ่งในเมืองอื่นเพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นและเพื่อขยายธุรกิจของบริษัท
ตอบ 1
1. ริเริ่ม ก่อตั้ง
2. เพิกเฉย
3. ทำลาย
4. สงสัย ซักถาม
คาดเดาจากคำว่า a branch….. สาขา แสดงว่ามีการก่อตั้ง เริ่ม = establish

65. Tom always ________ quickly in the morning.
1. turns his phone on
2. gets dressed
3. puts sugar in his coffee
4. enjoys to get up
ถาม ทอม ________ อย่างรวดเร็วเสมอในตอนเช้า
ตอบ 2
1. เปิดโทรศัพท์
2. แต่งตัว
3. เติมน้ำตาลในกาแฟของเขา
4. ชอบตื่นขึ้น
โจทย์นี้ถ้าให้คาดเดาควรคาดเดาคำศัพท์ที่เรียนในวิชา RAM1112 มีคำเดียวคือ gets dressed = แต่งตัว ใช้กับคำว่า quickly (อย่างรวดเร็ว) ได้ แต่คำว่า enjoys to get up เรามักใช้ get up early (ตื่นเช้าตรู่) ดังนั้นข้อนี้คาดเดาจากศัพท์ที่มีเรียนคำเดียวคือ gets dressed = แต่งตัว

66. James and Jenny decided to ________ by the beach and enjoy the sunset.
1. get
2. be late
3. relax
4. describe
ถาม เจมส์และเจนนี้เลือกที่จะ ________ ที่ชายหาดและมีความสุขกับพระอาทิตย์ตกดิน
ตอบ 3
1. ได้รับ
2. ล่าช้า สาย
3. พักผ่อน
4. พรรณนา
คาดเดาจากคำว่าชายหาดและมีความสุขกับพระอาทิตย์ตก ทำให้ตอบคำว่า relax = พักผ่อน ผ่อนคลาย

67. I need to ________ my suitcase for the trip tomorrow.
1. make up
2. pack
3. rest
4. work
ถาม ฉันจำเป็นที่จะต้อง ________ กระเป๋าเดินทางของฉันเพื่อเดินทางวันพรุ่งนี้
ตอบ 2
1. สร้างขึ้น
2. เก็บของใส่กระเป๋า
3. พัก หยุดพัก
4. ทำงาน
คาดเดาจากคำว่า suitcase = กระเป๋า ทำให้ตอบคำว่า pack = เก็บของ

68. The movie I saw yesterday was ________ entertaining.
1. often
2. lately
3. recently
4. quite
ถาม ภาพยนตร์ที่ฉันดูเมื่อวาน ________ บันเทิงดี
ตอบ 4
1. บ่อย ๆ
2. เร็ว ๆ นี้ ไม่นานมานี้
3. เร็ว ๆ นี้
4. ค่อนข้าง
quite เป็น adv. ขยายคำคุณศัพท์ adj. entertaining = ค่อนข้างบันเทิงดี

69. The community gathered to ________ the opening of the new theme park.
1. feel
2. celebrate
3. believe
4. excuse
ถาม ชุมชนได้รวมตัวกัน ________ การเปิดสวนสนุกแห่งใหม่
ตอบ 2
1. รู้สึก
2. เฉลิมฉลอง
3. เชื่อ
4. ยกโทษ ให้อภัย
คาดเดาจากคำว่า open of the new…. เปิดใหม่ ก็ตอบคำ celebrate = เฉลิมฉลอง

70. Sam felt a deep ________ of pride after winning the match.
1. reality
2. religion
3. festivity
4. sense
ถาม แซมรู้สึกถึง ________ อย่างลึกซึ้งของความภาคภูมิใจหลังจากได้
ตอบ 4
1. ความจริง
2. ศาสนา
3. การฉลอง
4. ความรู้สึก อารมณ์
deep sense = อารมณ์ลึกซึ้ง บ่งบอกถึงความภูมิใจ หลังจากชนะ

71. Gwen spent hours choosing her gown for the charity ________ next week.
1. load
2. exercise
3. ball
4. belief
ถาม จีวองใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเลือกชุดคลุมยาวสำหรับ ________ การกุศลสัปดาห์หน้า
ตอบ 3
1. การบรรทุก
2. การออกกำลังกาย
3. งานเต้นลีลาศ
4. ความเชื่อ
charity ball = งานเต้นลีลาศการกุศล

72. Physical fitness is a ________ component of a healthy lifestyle.
1. core
2. commercial
3. successful
4. formal
ถาม ความแข็งแรงทางกายคือองค์ประกอบที่ ________ ของวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี
ตอบ 1
1. สำคัญ แกนกลาง
2. ทางการค้า
3. ความสำเร็จ
4. เป็นทางการ
core component = องค์ประกอบสำคัญ

73. His ________ painting captured the essence of the countryside perfectly.
1. commercial
2. authentic
3. tearful
4. ravenous
ถาม ภาพวาดที่ ________ ของเขาได้จับเอาจุดสำคัญของชานเมืองมาใส่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตอบ 2
1. ทางการค้า
2. เสมือนจริง
3. เต็มไปด้วยน้ำตา
4. ตะกละ หิวมาก
authentic painting = ภาพวาดเสมือนจริง

74. The choir’s ________ rendition of the anthem brought the audience to their feet.
1. awe-inspiring
2. commercial
3. claimed
4. tossed
ถาม การถอดความหมายที่ ________ ของคณะขับร้องประสานเสียงในเพลงสรรเสริญทำให้ผู้ชมลุกขึ้นยืน
ตอบ 1
1. เข้าถึงแรงบันดาลใจ
2. ทางการค้า
3. กล่าวอ้าง
4. โยน
awe-inspiring rendition = การถอดความหมายที่เข้าถึงแรงบันดาลใจ

75. The main ________ in making lasagna are pasta, cheese, sauce, and meat.
1. traditions
2. ingredients
3. celebrations
4. recipes
ถาม ________ สำคัญในการทำลาซานญ่าคือ เส้นพาสต้า, เนย, ซอส, และเนื้อ
ตอบ 2
1. ธรรมเนียม
2. ส่วนผสม
3. การเฉลิมฉลอง
4. สูตร
ข้อความด้านหลังกล่าวแจกแจงส่วนผสม จึงตอบ ingredients = ส่วนผสม องค์ประกอบ

76. They ________ to have discovered the ancient artifact themselves.
1. built
2. tossed
3. invented
4. claimed
ถาม พวกเขา ________ ถึงการค้นพบสิ่งประดิษฐ์โบราณว่าเป็นของพวกเขาเอง
ตอบ 4
1. สร้างขึ้น
2. โยน
3. ประดิษฐ์
4. กล่าวอ้าง
claimed = กล่าวอ้าง จากโจทย์พูดถึงตัวของผูพูดเอง (themselves) จึงเดาคำศัพท์นี้

77. His ________ speech at the memorial service left many in tears.
1. serene
2. cultural
3. tearful
4. commercial
ถาม การกล่าวสุนทรพจน์ที่ ________ ของเขาณ อนุสรณ์สถานได้ทำให้คนจำนวนมากเสียน้ำตา
ตอบ 1
1. เยือกเย็น สงบนิ่ง
2. ในทางวัฒนธรรม
3. เต็มไปด้วยน้ำตา
4. การค้า
serene = สงบนิ่ง จากโจทย์กล่าวถึงพิธีที่อนุสรณ์สถาน การกล่าวสุนทรพจน์จึงต้องสงบนิ่ง

78. Sarah made a/an ________ decision when she chose the elegant gown for the gala.
1. commercial
2. authentic
3. tasteful
4. ravenous
ถาม ซาร่าทำการเลือกอย่าง ________ เมื่อเธอเลือกชุดคลุมยาวที่หรูหราสำหรับงานกาล่า
ตอบ 3
1. ทางการค้า
2. เสมือนจริง
3. มีรสนิยม
4. ตะกละ หิวมาก
จากโจทย์ที่ว่า การเลือกชุดคลุมยาวที่หรูหรา (elegant gown) จึงตอบ tasteful = มีรสนิยม

79. The hikers reached the ________ after several hours of trekking through the mountains.
1. racism
2. sense
3. incident
4. border
ถาม พวกนักปีนเขาเข้าถึง ________ หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเดินทางผ่านภูเขาหลายลูก
ตอบ 4
1. การเหยียดสีผิว
2. อารมณ์ ความรู้สึก
3. เหตุการณ์
4. เขตแดน
คาดเดาจากคำว่า การเดินทาง (trekking) ผ่านภูเขา ทำให้ตอบคำ border = เขตแดน

80. The explorers plan to ________ on their expedition at dawn tomorrow.
1. embark
2. plunge
3. visit
4. see
ถาม นักบุกเบิกวางแผน ________ ในการเดินทางช่วงรุ่งอรุณพรุ่งนี้
ตอบ 1
1. ขึ้นเครื่องบิน
2. พุ่งลง
3. เยี่ยมเยือน
4. มองเห็น
ข้อความ การเดินทาง (expedition) สื่อถึงคำศัพท์คำว่า “embark” = ขึ้นเครื่องบิน

Part III: Dialogues (การสนทนา)
Direction: Choose the best answer

81. A: What are you doing this weekend?
B: ________.
1. That’ sound nice!
2. Sounds like a fun plan!
3. I’m going to visit my dad.
4. I think I know.
ถาม A: คุณจะทำอะไรในสุดสัปดาห์นี้?
B: ________.
ตอบ 3 คำถามเป็น Wh-question ที่ขึ้นด้วย What คำตอบจะเป็นรายละเอียดเจาะจงและการถามๆ เป็น are you doing เป็น Present Continuous เพื่อแสดงกำลังกระทำ บอกอนาคตอันใกล้ ผู้ตอบคือ B ก็ตอบรับในเชิง be going to เช่น ว่าจะ…. ซึ่งตรงกับตัวเลือกข้อ 3 ว่า ฉันจะไปเยี่ยมพ่อของฉัน

82. A: Are you excited about Thanksgiving this year?
B: ________.
1. I’m fine really.
2. Absolutely!
3. I’m thinking about you.
4. Happy Thanksgiving.
ถาม A: คุณรู้สึกตื่นเต้นกับการเลี้ยงขอบคุณในปีนี้ไหม?
B: ________.
ตอบ 2 คำถามใช้ Are you… (คือกริยา Are ไว้หน้าประธาน) เป็นคำถาม Yes/No-question คำตอบจะเป็นการตอบรับ/ปฏิเสธ ดังนั้นตัวเลือกข้อ 1 และ 3 ไม่สอดคล้องกับคำถาม
การตอบรับ Absolutely! คือการตอบรับว่า “แน่นอนที่สุด” ตรงประเด็นที่สุด

83. A: Good evening! ________.
B: I think I’m ready. I’ll have the pasta Alfredo, please.
1. What do you prefer?
2. Do you want to eat here?
3. Are you ready to order?
4. Are you ready to pay?
ถาม A: สวัสดีครับ ________.
B: ฉันคิดว่าฉันพร้อมนะ ฉันจะทานพาสต้า อัลเฟรโดนะ
ตอบ 3 การตอบกลับของ B มาคาดเดาคำถามของ A พบว่าคำตอบมีชื่ออาหาร pasta และมีการตอบรับว่า พร้อม “ready” แสดงว่าคนถามคือ A ต้องถามว่า ready มั๊ย และมีคำว่า to order = สั่งอาหาร จึงตอบตัวเลือกข้อ 3

84. A: Have you ever been to Niagara Falls?
B: ________.
1. I haven’t thought about it.
2. I can tell you everything.
3. I have no idea.
4. I went there last summer.
ถาม A: คุณเคยไปน้ำตกไนแองการามาหรือยัง?
B: ________.
ตอบ 4 คำถามเป็น Yes/No question คำตอบต้องตอบกลับว่าเคยหรือไม่เคยไป
1. ฉันไม่เคยคิดถึงน้ำตกนี้ (ไม่สอดคล้อง)
2. ฉันบอกได้ทุกอย่าง (ไม่สอดคล้อง)
3. ฉันไม่มีความเห็น (แม้ว่าจะตอบปฏิเสธ แต่ไม่สอดคล้อง)
4. ฉันเคยไปที่นั่นซัมเมอร์ที่แล้ว ซึ่งกับตัวเลือกที่สอดคล้อง หรือเดาจากกริยา went (go) ว่าเคยเป็นในอดีต

85. A: How’s your day going?
B: ________.
1. Pretty good, just the usual.
2. Today, I have a new proposal.
3. See you later!
4. Bring it back tomorrow.
ถาม A: วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?
B: ________.
ตอบ 1
1. เยี่ยมเลย ปกติดีทุกอย่าง (ข้อนี้สอดคล้องกับคำถาม)
2. วันนี้ ฉันมีข้อเสนอใหม่ (ไม่สอดคล้อง)
3. เจอวันหลัง! (ไม่สอดคล้อง)
4. เดี๋ยวคงดีเหมือนเดิมพรุ่งนี้ (ไม่สอดคล้อง)

86. A: I might watch a movie. What about you?
B: ________.
1. Let me explain it to you.
2. I ate pizza last night.
3. I’m going to read a novel tonight.
4. Call me when you can.
ถาม A: ฉันจะไปดูหนัง แล้วคุณล่ะว่าอย่างไร?
B: ________.
ตอบ 3
1. ฉันขออธิบายหนังให้คุณฟังก่อนนะ
2. ฉันกินพิซซ่าไปเมื่อคืนนี้
3. ฉันจะไปอ่านบทกวีคืนนี้
4. โทรหาฉันนะถ้าคุณสะดวก
คำตอบตัวเลือกข้อ 3 สอดคล้องมากที่สุด

87. A: I’m going to order chicken wings. Do you like them spicy or mild?
B: ________.
1. Definitely spicy.
2. It’s up to you.
3. I like both.
4. All are correct
ถาม A: ฉันจะสั่งปีกไก่มาทาน คุณชอบปีกไก่แบบเผ็ดหรือไม่เผ็ด?
B: ________.
ตอบ 4
1. แน่นอนขอแบบเผ็ด
2. แล้วแต่คุณเลย
3. ฉันชอบทั้ง 2 แบบเลย
4. ถูกทุกข้อ
คำตอบเป็นไปได้ทุกข้อทั้งหมด

88. A: ________ last night?
B: Yeah, I did it was intense, especially in the second half.
1. Were you late
2. Did you watch the football match
3. Did you go out with Dan and Dave
4. Were you aware of the situation
ถาม A: ________ เมื่อคืน?
B: ใช่ ฉันได้ดูแล้วมันมันส์มากโดยเฉพาะครึ่งหลัง
ตอบ 2 ดูจากการตอบรับของ B มีคำบอกใบ้คือ “ครึ่งหลัง” ทำให้เรานึกถึงเกมส์กีฬาการแข่งขัน
ดูจากตัวเลือกน่าจะเป็น football match = การแข่งขันฟุตบอล
นั่นคือ ถามว่าคุณได้ดูการแข่งข้นฟุตบอลเมื่อคืนไหม?

89. A: Have you thought about our trip next summer?
B: ________.
1. Yes, I’m thinking about visiting Italy or Spain.
2. No, I haven’t had time to write back.
3. Yes, I’ll be finishing up my degree next summer.
4. No, I haven’t thought about the deadline.
ถาม A: คุณได้คิดถึงเรื่องการเดินทางของเราในฤดูร้อนหน้ารึยัง?
B: ________.
ตอบ 1 ข้อความในคำถาม พูดถึง trip = การเดินทาง ซึ่งเฉพาะตัวเลือกข้อ 1 เท่านั้นที่สอดคล้อง “ใช่ ฉันกำลังคิดถึงการไปเที่ยวอิตาลีหรือสเปน” ซึ่งการตอบรับสอดคล้องกับคำถามที่มีคำว่า visit = trip = เดินทาง นอกนั้นไม่สอดคล้อง

90. A: How’s your exam preparation going?
B: ________.
1. It’s something we should know.
2. It’s been pretty stressful to be honest.
3. It’s stunning. I’ve never seen it before
4. It’s so obvious. Don’t you get it!
ถาม A: การเตรียมตัวสอบของคุณไปถึงไหนละ?
B: ________.
ตอบ 1
1. มีบางอย่างนะเป็นสิ่งที่เรารู้
2. พูดตามตรงมันค่อนข้างเครียด
3. มันสวยงามมาก ฉันไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย
4. จริงแท้แน่นอน คุณอย่าไปใส่ใจเลย
คำถามใช้ How’s going? ถามถึงความเป็นไปหรือความก้าวหน้า ตัวเลือกข้อ 1 สอดคล้องมากที่สุด

Part IV: Seen Passages (เนื้อเรื่องในตำรา)
Directions: Read the following passages and choose the best answer for each question.

Passage 1
Vivienne Westwood was born in a village in Derbyshire in 1941, the daughter of a factory worker and cotton weave. She moved to London with her family as a teenager, where she trained as a primary school teacher. Having split up with her first husband, it was meeting and later working with art student Malcolm McLaren (born in London in 1946) that gave Westwood a focus for her restless idealism, as well as the opportunity to **harness** a natural flair for dressmaking.
วิเวียน เวสต์วูด เกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเดอบีเชอร์ ปี 1941 เป็นลูกสาวของคนงานโรงงานกับช่างทอผ้าฝ้าย เธอได้ย้ายไปลอนดอนกับครอบครัวของเธอตั้งแต่ายังเป็นวัยรุ่นที่ซึ่งเธอฝึกเป็นครูโรงเรียนประถม เธอได้เลิกรา (split up) กับสามีคนแรกของเธอ ต่อมาเธอได้พบและทำงานกับนักเรียนชื่อ มัลคอม แมคลาเรน (Malcolm McLaren) (เกิดในลอนดอน ปี 1946) ซึ่งทำให้เวสต์วูดมุ่งเน้นเรื่องแนวคิดอุดมคตินิยมที่กระตือรือร้นและยังได้มีโอกาสในการได้ใช้พรสวรรค์ที่มีมาแต่เกิดในการตัดเย็บเสื้อผ้า

Rejecting the hippie ethos that was fashionable towards the end of the 1960s, Westwood and McLaren created clothes that referenced youth culture’s recent past, selling rock’n’roll fashion in a shop unit at 430 King’s Road in Chelsea. In 1974, the shop took on its most notorious identity: SEX, with Westwood and McLaren designing fetish wear that they sold to prostitutes, those with “underground” sexual tastes, and young proto-punks brave enough to take a seriously edgy look out onto the street. The pair enjoyed shocking people, designing garments and shoes that referenced “deviant” sexual practices, including rubber dresses and stilettos bristling with spikes.
การปฏิเสธการร่วมกลุ่มแบบฮิปปี้ซึ่งเป็นที่นิยมมาจนถึงปลายศตวรรษ 1960 เวสต์วูดและแมคลาเลนได้สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมวัยรุ่นในอดีตที่ยังไม่นาน การขายแฟชั่นแบบร็อคแอนด์โรลในร้านค้าแห่งหนึ่งชื่อ 430 คิงส์โรด ที่เมืองเชลซี ในปี 1974 ร้านดังกล่าวดำเนินกิจการที่โชว์เนื้อหนัง (fetish) ซึ่งพวกเขาทั้ง 2 ได้ขายให้กับพวกโสเภณี (prostitutes) พวกมีรสนิยมทางเพศแบบใต้ดิน และพวกพังค์รุ่นเยาว์หัวแถวที่กล้าหาญพอที่จะนำสภาพที่กระเสอะกระเซิงอย่างหนักออกมาโชว์บนถนน ทั้งคู่ชอบที่จะช็อคผู้คน โดยการออกแบบเสื้อผ้าและรองเท้าที่อ้างอิงการมีเพศสัมพันธ์แบบผิดปกติ (deviant) รวมทั้งชุดเดรสยางพร้อมรองเท้าส้นเข็มมีหนามแหลม

In 1976, 430 King’s Road was refitted and renamed Seditionaries: Clothes for Heroes. The collection remained in the same risqué territory as the clothes sold in SEX, featuring the likes of bondage trousers. A punk archetype, these trousers mix references to army combat gear, motorcyclists’ leathers and fetish wear, and **feature** a zippered seam under the crotch, a removable ‘bum flap’ and ‘hobble’ straps that restrict movement. Other key looks that expressed a new ‘distressed’ from of fashion included loose-woven, ‘unravelling’ mohair jumpers and torn-looking dresses and tops decorated with metal chains and safety pins.
ในปี 1976 ร้าน 430 คิงส์โรดได้ถูกปรับปรุงใหม่และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นเซ็ดดิชั่นนารี่ เสื้อผ้าสำหรับฮีโร่ คอเลคชั่นยังคงเป็นแนวลามกอนาจาร (risqué) แบบเดิม คือเสื้อผ้าถูกขายในร้านเดิม SEX และยังมีพวกเสื้อผ้าแบบ SEX มีลักษณะคล้ายกางเกงพันธนาการ กางเกงเหล่านี้เป็นต้นแบบสไตล์พังค์ โดยผสมผสานการอ้างอิงถึงอุปกรณ์เสื้อผ้าทหาร ชุดเสื้อหนังของพวกขี่มอเตอร์ไซค์ และชุดโชว์เนื้อหนังและกางเกงแบบรุดซิปที่มีรูร้อยของสายหนัง และแบบติดแถบไว้ดึงสำหรับขยับออกได้ นอกจากนี้ยังมีรูปลักษณ์อื่น ๆ ที่แสดงถึงรูปแบบแนวกรีดลาย เป็นผ้าทอด้วยเส้นใยถักทอ เป็นกางเกงผ้าฝ้ายที่มีลายฉลุ และชุดเดรสและเสื้อที่ดูขาดวิ่นตกแต่งด้วยโซ่โลหะและหมุดนิรภัย

91. When was Vivienne Westwood born?
1. 1942
2. 1943
3. 1940
4. 1941
ถาม วิเวียน เวสต์วูด เกิดเมื่อไร?
ตอบ 4 จากเนื้อเรื่อง ย่อหน้าแรก บรรทัดแรกคือ ปี ค.ศ. 1941

92. Where did Westwood grow up?
1. London
2. Derbyshire
3. Chelsea
4. Manchester
ถาม เวสต์วูดเติบโตที่ไหน
ตอบ 1 จากย่อหน้าแรกประโยคที่ 2 เวสต์วูดย้ายไปลอนดอนในช่วงวัยรุ่น จึงเติบโตในลอนดอน

93. What profession did Westwood train for as a teenager?
1. Primary school teacher
2. Fashion designer
3. Factory worker
4. Artist
ถาม อาชีพใดที่เวสต์วูดได้อบรมในช่วงวัยรุ่น
ตอบ 1 จากย่อหน้าแรก บรรทัดที่ 3 เวสต์วูดเคยอบรมเป็นครูชั้นประถม (Primary School teacher)

94. The word “harness” (in bold type) is closest in meaning to ________.
1. ignore
2. waste
3. utilize
4. equamder
ถาม คำว่า “harness” (อักษรตัวหนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ ________.
ตอบ 3 จากข้อความข้างเคียงบรรทัดสุดท้าย “harness” น่าจะหมายถึง การใช้ ได้ใช้
1. เพิกเฉย
2. เสียไป
3. ใช้จ่ายไป
4. อีควอเดอร์
harness = utilize = ใช้

95. What fashion movement did Westwood reject?
1. Punk
2. Gothic
3. Preppy
4. Hippie
ถาม การเคลื่อนไหวแฟชั่นอะไรที่เวสต์วูดปฏิเสธ
ตอบ 4 จากประโยคแรก ย่อหน้าที่ 2 เวสต์วูดและแมคลาเรน ปฏิเสธความนิยมของฮิปปี้ (Hippie)

96. What was the original name of Westwood’s shop in Chelsea?
1. Seditionaries
2. SEX
3. Clothes for Heroes
4. Underground Fetish
ถาม ชื่อดั้งเดิมของร้านเวสต์วูดในเชลซี ชื่ออะไร
ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 4 ร้านที่เป็นตัวตนของเวสต์วูดคือ SEX

97. In what year did Westwood open her first shop in London?
1. 1974
2. 1972
3. 1976
4. 1978
ถาม ปีใดที่เวสต์วูดเปิดร้านค้าร้านแรกที่ลอนดอน?
ตอบ 1 จากย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 3 ร้าน SEX ดำเนินกิจการในปี 1974

98. What type of clothing did Westwood and McLaren design at their shop?
1. School uniforms
2. Army uniforms
3. Fetish wear
4. Casual wear
ถาม เสื้อผ้าชนิดใดที่เวสต์วูดและแมคลาเรนออกแบบที่ร้านตัวเอง
ตอบ 3 จากย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 5 เสื้อผ้าที่ออกแบบคือ ชุดสวมใส่ที่โชว์เนื้อหนัง (fetish wear)

99. Who were some of Westwood’s customer at her shop?
1. Celebrities
2. School teachers
3. Business executives
4. Prostitute and young proto-punks
ถาม ใครคือลูกค้าของเวสต์วูดที่ร้านของเธอ?
ตอบ 4 จากย่อหน้าที่ 2 ช่วงกลางย่อหน้า เวสต์วูดและแมคลาเรนขายเสื้อผ้าให้พวกโสเภณี (Prostitute) และพวกพังค์แนวหน้า (young proto-punks)

100. What did the clothing from Westwood’ shop reference?
1. Traditional British fashion
2. Deviant sexual practices
3. Victorian styles
4. Minimalism
ถาม เสื้อผ้าจากร้านของเวสต์วูดจะบ่งบอกถึงอะไร
ตอบ 2 จากย่อหน้าที่ 2 บรรทัดท้าย อธิบายเสื้อผ้าของเวสต์วูดบอกถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดปกติ (Deviant sexual practices)

101. What type of clothing became a punk archetype?
1. Cargo trousers
2. Jeans
3. Bondage trousers
4. Dresses with floral prints
ถาม เสื้อผ้าชนิดใดที่กลายมาเป็นต้นแบบของพวกพังค์?
ตอบ 3 จากย่อหน้าที่ 3 บรรทัดที่ 3 เสื้อผ้าแบบที่มีซิปตามขากางเกง
กางเกงแบบ Bondage คือ ทรงทหาร แต่ทำจากหนังและติดซิปรอบตัว

102. How did Westwood and McLaren feel about shocking people?
1. They avoided it.
2. They were indifferent
3. They were embarrassed.
4. They enjoyed it.
ถาม เวสต์วูดและแมคลาเรนรู้สึกอย่างไรในการสร้างความตกใจให้ผู้คน?
ตอบ 4 จากช่วงท้ายย่อหน้าที่ 2 เขาทั้งคู่ (The pair) ชื่นชอบ (enjoy) ที่จะทำให้คนตกใจ

103. The word “feature” (in bold type) is closest in meaning to ________.
1. omit
2. include
3. conceal
4. mask
ถาม คำว่า “feature” (อักษรตัวหนา) มีความหมายใกล้เคียงกับ________.
ตอบ 2 จากบริบทแวดล้อมของคำศัพท์ feature = เกี่ยวกับ เกี่ยวพัน = include

104. What was the purpose of the hobble straps on the trousers?
1. To restrict movement
2. To add style
3. To provide comfort
4. To hold pockets
ถาม จุดประสงค์ของสายรัดที่มีแถบรัดบนกางเกงมีไว้เพื่ออะไร
ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 6 ย่อหน้าที่ 3 อธิบายว่า hobble strap ใช้เพื่อยึดการเคลื่อนไหว
restrict movement = ยึดการขยับ เคลื่อนไหว

105. In which decade did Westwood’s influential work primarily occur?
1. 1950s
2. 1960s
3. 1970s
4. 1980s
ถาม ผลงานที่มีอิทธิพลของเวสต์วูดที่เห็นอย่างสำคัญคือทศวรรษใด?
ตอบ 3 จากย่อหน้าที่ 3 ปี ค.ศ. 1976 เป็นเวลาที่มีการตกแต่งร้านใหม่และเปลี่ยนชื่อใหม่ จนเกิดปรากฏการณ์เสื้อผ้าของฮีโร่ ในปี 1976 คือทศวรรษของปี 1970

Passage 2
Aside from nature, there is also plenty of family entertainment to be had under neon lights. Take the kids to visit the Niagara Sky Wheel and nearby themed attractions and arcades. Cross the Rainbow Bridge to the American side to see the Aquarium of Niagara in a serene environment or stay on the Canadian side and enjoy the Niagara Parks Botanical Gardens. Niagara-on-the-Lake is only a short drive away. Visit this pretty 19th-century village to browse boutique shops, play golf or have lunch before you set out to explore Ontario’s wine country. A shuttle bus or taxi can drop you back at the Falls in no time. Scale the Skylon Tower to admire this glorious landscape once more. Less than a two-hour drive from Toronto and only a taxi ride away from Buffalo airport, getting to Niagara is easy. Their accessibility and **splendor** make the Niagara Falls one of the most-photographed natural spectacle in the world. But, of course, no picture can capture the thrill you feel and the roar you hear when you witness Niagara’s astonishing power. It’s an impression that will last a lifetime.
นอกจากธรรมชาติแล้ว ยังมีความเพลิดเพลินสำหรับครอบครัวมากมายภายใต้แสงนีออนอีกด้วย คุณสามารถพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวชมสกายวีลของไนแองการ่า รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าในละแวกนั้นมีจุดดึงดูดและซุ้มร้านค้า (arcades) ที่แสนสนุก ข้ามสะพานสายรุ้งไปยังฝั่งอเมริกาเพื่อชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไนแองการาในสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบ (serene) หรือจะพักอยู่ฝั่งแคนาดาแล้วเพลิดเพลินไปกับสวนพฤกษศาสตร์อุทยานไนแองการา ในไนแองการาทีล้อมด้วยทะเลสาปนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ขับรถเพียงไม่นาน เยี่ยมชมหมู่บ้านสมัยศตวรรษที่ 19 ที่สวยงามแห่งนี้ เพื่อเลือกซื้อร้านบูติก เล่นกอล์ฟ หรือรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนที่คุณจะออกเดินทางเพื่อแสวงหาไวน์ชนบทของออนแทรีโอ มีรถบัสรับส่งหรือแท็กซี่ที่พาคุณมาปล่อยแล้วรับกลับจากน้ำตกได้ในเวลาอันโดยไม่มีกำหนด ปีนขึ้นไปบนหอคอย สกายลอน ทาวน์เวอร์ เพื่อชื่นชมภูมิทัศน์อันงดงามที่ยากจะหาชมได้สักครั้ง ใช้เวลาขับรถไม่ถึง 2 ชั่วโมง จากโตรอนโตและเพียงนั่งแท็กซี่จากสนามบินบัฟฟาโล เพื่อจะเข้าสู่ไนแองการาก็เป็นเรื่องง่ายสะดวก การเข้าถึง (accessibility) และความงดงาม (splendor) ของ 2 ประเทศ (Their) ทำให้น้ำตกไนแองการาเป็นหนึ่งในสภาพน่าตื่นตาตื่นใจ (spectacle) ทางธรรมชาติที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก แต่แน่นอนว่าไม่มีภาพใดสามารถจับภาพความตื่นเต้น (thrill) ที่คุณรู้สึกและเสียงคำราม (roar) ที่คุณได้ยินเมื่อคุณได้ประจักษ์ถึงพลังอันน่าอัศจรรย์ (astonishing) ของไนแองการา ซึ่งเป็นความประทับใจที่จะคงอยู่ตลอดไป

106. What is one of the attractions mentioned for family entertainment in Niagara?
1. The Great Wall
2. Niagara SkyWheel
3. Niagara-on-the-Lake
4. Disney World
ถาม หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดใจที่ได้กล่าวถึงความเพลิดเพลินแบบครอบครัวในไนแองการาคืออะไร?
ตอบ 2 จากประโยคที่ 1 และ 2 ของเรื่องสิ่งเพลิดเพลินสำหรับครอบครัวคือ neon lights (แสงนีออน) , Niagara Skywheel (สกายวีลของไนแองการา)

107. What can you find on the American side of Niagara?
1. The Niagara SkyWheel
2. Niagara Parks Botanical Gardens
3. Niagara-on-the-Lake
4. The Aquarium of Niagara
ถาม คุณสามารถเจออะไรที่อยู่ทางฝั่งอเมริกาของน้ำตกไนแองการา?
ตอบ 4 จากเนื้อเรื่องบรรทัดที่ 4 ที่ฝั่งอเมริกาจะมี Aquarium of Niagara = พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในแองการา

108. What is the name of the bridge that connects the Canadian and American sides near Niagara Falls?
1. Rainbow Bridge
2. Golden Gate Bridge
3. Brooklyn Bridge
4. Peace Bridge
ถาม สะพานที่เชื่อมฝั่งแคนาดาและอเมริกาใกล้น้ำตกไนแองการามีชื่อว่าอะไร
ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 3 ของเรื่อง Cross the Rainbow Bridge = ข้ามสะพานสายรุ้ง

109. How long does it take to drive from Toronto to Niagara Falls?
1. Less than 1 hour
2. Less than 2 hours
3. More than 2 hours
4. About 4 hours
ถาม ใช้เวลาขับรถจากโตรอนโตไปยังน้ำตกไนแองการานานเท่าไร
ตอบ 2 จากบรรทัดที่ 10 ของเรื่อง Less than two-hour drive = น้อยกว่า 2 ชั่วโมง

110. Which airport is only a taxi ride away from Niagara Falls?
1. Toronto Pearson Airport
2. John F. Kennedy Airport
3. Buffalo Airport
4. Chicago O’Hare Airport
ถาม สนามบินใดที่ใช้เพียงแท็กซี่ขับพาออกมาในแองการาได้
ตอบ 3 มีแท็กซี่ขับบริการจากสนามบิน Buffalo airport (ช่วงท้ายเรื่อง)

111. What type of environment does the Aquarium of Niagara provide?
1. A bustling atmosphere
2. A theme park experience
3. A serene environment
4. A shopping mall vibe
ถาม สิ่งแวดล้อมใดดังต่อไปนี้ตั้งอยู่บนฝั่งของแคนาดาของน้ำตาในแองการา?
ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 4 สิ่งแวดล้อมเป็นแบบ a serene environment = สิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ

112. Which of the following attractions is located on the Canadian side of Niagara Falls?
1. Aquarium of Niagara
2. Niagara Parks Botanical Gardens
3. Statue of Liberty
4. Mount Rushmore
ถาม สิ่งน่าดึงดูดใจดังต่อไปนี้ตั้งอยู่บนฝั่งของแคนาดาของน้ำตกในแองการา?
ตอบ 2 จากบรรทัดที่ 5 ฝั่งของแคนาดามี Niagara Park Botanical Gardens = สวนพฤกษศาสตร์

113. What activity is NOT mentioned in Niagara-on-the-Lake?
1. Visiting a museum
2. Playing golf
3. Browsing boutique shops
4. Having lunch
ถาม กิจกรรมใดที่ไม่ได้อธิบายไว้ในทะเลสาปที่อยู่ในไนแองการา?
ตอบ 1 จากบรรทัดที่ 7 เดินเที่ยวชมร้านบูติค (browse boutique shops) เล่นกอล์ฟ (play golf) ทานมื้อเที่ยง (have lunch) ตัวเลือกที่ 1 เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไม่มีในกิจกรรม

114. What is Niagara-on-the-Lake?
1. A botanical garden
2. A wine country
3. A boutique shop
4. A 19th-century village
ถาม ในแองการาทีล้อมด้วยทะเลสาปคืออะไร
ตอบ 4 จากบรรทัดที่ 6 – 7 Visit this pretty 19th-century village; this คือ Niagara-on-the-lake = ที่ที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาป นั่นคือ หมู่บ้านศตวรรษที่ 19 ที่สวยงาม

115. What is a recommended way to return to the Falls after visiting Niagara-on-the-Lake?
1. Taking a flight
2. Riding a bike
3. Using a shuttle bus or taxi
4. Taking a boat
ถาม เส้นทางแนะนำในการเดินทางกลับมายังน้ำตกหลังจากกลับจากทะเลสาปในแองการาแล้วคืออะไร?
ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 8 ของเรื่อง หลังจากเที่ยวชมหมู่บ้านทะเลสาปในแองการาแล้วมี A shuttle bus or taxi = รถบัสรับส่งหรือแท็กซี่ จะมารับส่งคุณกลับยังน้ำตก

116. What can visitors admire from the Skylon Tower?
1. The aquarium
2. The golf course
3. The landscape
4. The village shops
ถาม นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมอะไรจากหอคอย Skylon?
ตอบ 3 จากบรรทัดที่ 9 Scale the Skylon Tower to admire glorious landscape…. ชื่นชมวิวทิวทัศน์ (landscape)

117. According to the passage, what is one of the most-photographed natural spectacles in the world?
1. Niagara-on-the-Lake
2. The Rainbow Bridge
3. The Skylon Tower
4. Niagara Falls
ถาม ตามเนื้อเรื่องของเรื่องหนึ่งในสิ่งอัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกถ่ายรูปไว้มากที่สุดในโลกคืออะไร?
ตอบ 4 ช่วงท้ายเรื่องอธิบายด้วยการอำนวยความสะดวกและความงดงาม ทำให้ the Niagara Falls…. น้ำตกในแองการา เป็นหนึ่งในสภาพน่าตื่นตาตื่นใจทางธรรมชาติที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก

118. Which of the following statements is TRUE based on the passage?
1. Niagara Falls is difficult to access.
2. The roar of Niagara is described as thrilling.
3. The passage emphasizes the importance of capturing pictures at Niagara.
4. Visitors are discouraged from exploring Ontario’s wine country.
ถาม ข้อความไหนต่อไปนี้ถูกต้องตามเนื้อหาของเนื้อเรื่อง?
ตอบ 3 ตัวเลือกข้อ 1. น้ำตกในแองการายากต่อการเข้าถึง ไม่ถูกเพราะเข้าถึงง่ายตามเนื้อเรื่อง
ตัวเลือกข้อ 2. เสียงคำรามของไนแองการากถูกพรรณนาว่าเหมือนกับความตื่นเต้น ไม่จริงตามเรื่อง
ตัวเลือกข้อ 3. เนื้อหาของเรื่องมุ่งเน้นความสำคัญของการจับรูปภาพที่น้ำตกในแองการา ถูกต้องเพราะเนื้อหาอธิบายว่าน้ำตกในแองการาเป็นหนึ่งในธรรมชาติที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก
ตัวเลือกข้อ 4. นักท่องเที่ยวรู้สึกท้อแท้ (discouraged) จากการแสวงหาไวน์ชนบทของโตรอนโต ไม่ถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

119. According to the passage, what is an impression that will last a lifetime?
1. The thrill of Niagara SkyWheel
2. The serenity of the Botanical Gardens
3. Witnessing Niagara’s astonishing power
4. Shopping in Niagara-on-the-Lake
ถาม ตามเนื้อหาของเรื่องอะไรคือความประทับใจที่อยู่ยาวนานไปชั่วชีวิตหนึ่ง?
ตอบ 3 จากบรรทัดท้าย อธิบายถึง you witness Niagara’s astonishing power = คุณได้ประจักษ์ด้วยตาถึงพลังอันน่าทึ่งของไนแองการา

120. In the context of the passage, what does the word “splendor” (in bold type) most nearly mean?
1. Simplicity
2. Dullness
3. Smallness
4. Magnificence or grandeur
ถาม ตามเนื้อหาของเรื่อง คำว่า “splendor” (อักษรตัวหนา) มีความหมายใกล้เคียง
ตอบ 3 ตามเนื้อเรื่องได้กล่าวชื่นชมและพรรณนาในด้านบวกถึงในแองการา ดังนั้นคำนี้จึงมีความหมายในทางบวก ตัวเลือกข้อ 4. magnificence or grandeur = ความงดงามหรือทรงคุณค่าแห่งความงาม ในขณะที่ตัวเลือกอื่นมีความหมายทางลบ เช่น ข้อ 1. = เรียบง่าย ข้อ 2 = ขุ่นมัว ข้อ 3 = ความเล็ก

 

Advertisement