การสอบซ่อมภาค  1  ปีการศึกษา  2549

ข้อสอบกระบวนวิชา  LAW3010 กฎหมายล้มละลาย 

Advertisement

คำแนะนำ  ข้อสอบเป็นอัตนัยล้วน  จำนวน  3  ข้อ

 ข้อ  1  ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง  โจทก์ฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายและศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดชาดแล้ว  ต่อมาโจทก์กับจำเลยตกลงกันได้ในข้อตกลงมีว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้กับโจทก์ทั้งหมด  โดยขอให้โจทก์ถอนฟ้องและจำเลยยังได้ชำระหนี้ให้โจทก์ไปก่อนแล้ว  30%  ส่วนที่เหลือจะชำระหนี้ให้ต่อเมื่อโจทก์ถอนฟ้องแล้ว  โจทก์ตกลงจึงมาขอถอนฟ้องต่อศาล  ดังนี้หากท่านเป็นศาล  ท่านจะพิจารณาคำขอถอนฟ้องของโจทก์อย่างไร  ให้ท่านตอบพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบในการตอบให้ครบถ้วนด้วย

ธงคำตอบ

มาตรา 11  เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนห้าพันบาทในขณะยื่นฟ้องคดีล้มละลาย  และจะถอนคำฟ้องนั้นไม่ได้  เว้นแต่ศาลจะอนุญาต

วินิจฉัย

ตามบทบัญญัติมาตรา  11  แห่ง  พ.ร.บ.  ล้มละลาย  พ.ศ. 2483  นั้น  เมื่อได้ยื่นฟ้องคดีล้มละลายต่อศาลแล้ว  ห้ามมิให้ถอนฟ้อง  เว้นแต่เข้าหลักเกณฑ์ทั้ง  3  ประการดังต่อไปนี้คือ

1       ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้อง  ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่

2       การถอนฟ้องจะกระทำได้เฉพาะแต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นเท่านั้น  ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่  1636/2532

3       จะต้องขอถอนฟ้องก่อนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้น  ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่  3286/2530

ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า  ศาลจะพิจารณาคำขอถอนฟ้องของโจทก์อย่างไร  เห็นว่า  แม้โจทก์กับจำเลยจะตกลงกันได้  โดยจำเลยจะยอมชำระหนี้ให้กับโจทก์ทั้งหมด  และได้ชำระหนี้ให้โจทก์ไปก่อนแล้ว  30%  ส่วนที่เหลือจะยอมชำระหนี้ให้ต่อเมื่อโจทก์ถอนฟ้องแล้ว  อันถือว่ามีเหตุอันสมควรและได้กระทำในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นก็ตาม  แต่เมื่อคดีนี้โจทก์มาขอถอนฟ้องต่อศาลหลังจากที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว  ถือว่าศาลได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีแล้ว  โจทก์จึงขอถอนฟ้องไม่ได้  ตามมาตรา 11  วรรคแรก  ศาลจึงต้องมีคำสั่งยกคำขอถอนฟ้องของโจทก์

สรุป  หากข้าพเจ้าเป็นศาลจะสั่งยกคำขอของโจทก์

 


ข้อ  2  ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง  ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว  จำเลยทำคำขอประนอมหนี้เข้ามาที่ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก  อยากทราบว่าการประชุมหนี้ครั้งแรกที่ว่านี้ประชุมกันเพื่ออะไร

ธงคำตอบ

มาตรา  31  เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว  ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้ทั้งหลายโดยเร็วที่สุด  เพื่อปรึกษาว่า  จะควรยอมรับคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้  หรือควรขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายและปรึกษาถึงวิธีที่จะจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไป  การประชุมนี้ให้เรียกว่าประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องโฆษณากำหนดเวลา  และสถานที่ๆจะประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์รายวันไม่น้อยกว่าหนึ่งฉบับ  ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน  และต้องแจ้งไปยังเจ้าหนี้ทั้งหลายเท่าที่ทราบด้วย

อธิบาย

การประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว  ตามมาตรา  31  มีวัตถุประสงค์เพื่อปรึกษากันว่า

1       ถ้าลูกหนี้ขอประนอมหนี้ควรจะยอมรับคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้หรือไม่  หรือ

2       ควรขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย  และ

3       หากขอศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย  จะจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้อย่างไรต่อไป

สำหรับการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกนี้ต้องมีในคดีล้มละลายทุกคดี  และมติในเรื่องขอประนอมหนี้ต้องใช้มติพิเศษเสมอ  ตามมาตรา  45  วรรคสาม  กล่าวคือ  เป็นมติของเจ้าหนี้ฝ่ายข้างมาก  และมีจำนวนหนี้เท่ากับ  3  ใน  4  แห่งจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้  ซึ่งได้เข้าประชุมด้วยตนเองหรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทนในที่ประชุมเจ้าหนี้  และได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้น

อนึ่งการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกนี้  มีเฉพาะเพื่อปรึกษากันในเรื่องดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น  ดังนั้นหากลูกหนี้มิได้ขอประนอมหนี้ก็เป็นอันว่าจะต้องถูกพิพากษาให้ล้มละลายต่อไป  เจ้าหนี้จะลงมติให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายไม่ได้  การที่เจ้าหนี้ฝ่ายข้างมากลงมติเช่นนั้นย่อมเป็นการนอกเหนือไปจากบทบัญญัติมาตรา  31  จึงเป็นการฝ่าฝืนและขัดต่อกฎหมายล้มละลาย  ฉะนั้นเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอ  ศาลจึงสั่งให้ทำลายมติดังกล่าวตามมาตรา  36 ได้  และเมื่อได้สั่งให้ทำลายมติที่ประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าวแล้ว  จึงมีผลเท่ากับเจ้าหนี้ไม่ได้ลงมติประการใด  ศาลย่อมพิพากษาให้ลูกหนี้เป็นบุคคลล้มละลายได้  ตามมาตรา  61  (ฎ. 955/2505 (ประชุมใหญ่)) 

 


ข้อ  3  ในคดีล้มละลายเรื่องหนึ่ง  ลูกหนี้ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนโดนฟ้องล้มละลายโดยมีมูลหนี้กว่า  15  ล้านบาท  ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว  ลูกหนี้มาขอฟื้นฟูกิจการ  ดังนี้หากท่านเป็นศาล  ท่านจะอนุญาตให้ลูกหนี้ฟื้นฟูกิจการหรือไม่  อย่างไร  ให้ท่านวินิจฉัยพร้อมทั้งยกหลักกฎหมายประกอบด้วย

ธงคำตอบ

มาตรา  90/3  เมื่อลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและเป็นหนี้เจ้าหนี้คนเดียวหรือหลายคนรวมกันเป็นจำนวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท  ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม  ถ้ามีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้  บุคคลธรรมดาตามมาตรา  90/4  อาจยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีการฟื้นฟูกิจการได้

มาตรา  90/4  ภายใต้บังคับมาตรา  90/5  บุคคลซึ่งมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการได้แก่บุคคลดังต่อไปนี้

(2) ลูกหนี้ซึ่งมีลักษณะตามมาตรา  90/3

มาตรา  90/5  บุคคลตามมาตรา  90/4  จะยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด

(2) ศาลหรือนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้เลิกหรือเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้หรือมีการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลนั้น  หรือนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้ต้องเลิกกันด้วยเหตุอื่น  ทั้งนี้ไม่ว่าการชำระบัญชีของนิติบุคคลดังกล่าวจะเสร็จแล้วหรือไม่

วินิจฉัย

ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยมีว่า  ศาลจะสั่งอนุญาตให้ลูกหนี้ฟื้นฟูกิจการหรือไม่  เห็นว่า  ตาม  พ.ร.บ.  ล้มละลายฯ  มาตรา  90/5  นั้น  บัญญัติห้ามมิให้บุคคลตามมาตรา  90/4  ยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในกรณีต่อไปนี้

1       ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด  กล่าวคือ  กฎหมายจำกัดเฉพาะกรณีที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเท่านั้นจะยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้  ถ้าลูกหนี้เพียงแต่ถูกฟ้องขอให้ล้มละลาย  ตราบใดที่ศาลยังไม่ได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด  ก็อาจมีการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้  อีกประการหนึ่งการที่ศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ชั่วคราวก็ยังยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการได้

2       ศาลหรือนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้เลิกหรือเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลที่เป็นลูกหนี้หรือมีการจดทะเบียนเลิกนิติบุคคลหรือนิติบุคคลต้องเลิกกันด้วยเหตุอื่น

กรณีแม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่า  ลูกหนี้ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนถูกฟ้องล้มละลายโดยมีมูลหนี้กว่า  15  ล้านบาท  จะเป็นบุคคลตามมาตรา  90/3  ประกอบมาตรา  90/4(2)  ก็ตาม  แต่เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว  กรณีจึงต้องห้ามตามมาตรา  90/5(1) ลูกหนี้จึงยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการไม่ได้  ศาลชอบที่จะมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้

สรุป  หากข้าพเจ้าเป็นศาลจะสั่งไม่อนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการตามคำขอของลูกหนี้ 

Advertisement